Fanboi Channel

รวมพลนักเขียน แชร์เทคนิคประสบการณ์และข่าวสาร [กระทู้ที่ 9]

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:lbhkalPiCb

กระทู้เพื่อพูดคุยเทคนิคการเขียน และเรื่องการประกวดต่าง ๆ เกี่ยวกับนิยาย

กระทู้ 1 >>>/literature/2342/
กระทู้ 2 >>>/literature/3442/
กระทู้ 3 >>>/literature/4775/
กระทู้ 4 >>>/literature/5724/
กระทู้ 5 >>>/literature/7084/
กระทู้ 6 >>>/literature/10634/
กระทู้ 7 >>>/literature/12326/
กระทู้ 8 >>>/literature/12952/

กระทู้ ระบาย 1 >>>/literature/3325/

2 Nameless Fanboi Posted ID:fjlIU.z/PN

เจิม

3 Nameless Fanboi Posted ID:gGE7hqw/k8

>>994 ไม่ได้เขียนแนวนี้นะ แต่ก็ว่าฉากเย็บมันเป็นเรื่องสากล 55555+ กูเสนอว่าลองเขียนในเชิงสื่ออารมณ์ไหม บางทีท่าซ้ำแต่ขณะทำท่านั้นอารมณ์ระหว่างกันมันเกิดขึ้นหลากหลายได้นะนอกจากความเสียว เช่น เขาแตะตรงนี้แล้วทำแบบนี้รู้สึกว่าเขารักเขาทะนุถนอมเราจังเลย

4 Nameless Fanboi Posted ID:lxYVxYOf0Z

ทำยังไงให้งานตัวเองดังวะโม่ง กุอยากให้คนอ่านงานกูเยอะ ๆ อยากให้คนชอบงานกู ไม่ได้ต้องการเงินตอบแทน (เพราะไม่ใช่งานประจำ) กูควรเปิดให้อ่านฟรีจนจบแล้วค่อยส่งสนพ.เลยมั้ย หรือว่ายังไงดี

5 Nameless Fanboi Posted ID:FXGSF+mPSU

>>4 ไม่รู้เหมือนกันว่ะ แต่อยากจะบอกว่า ก่อนดังมึงเขียนควรให้ดีก่อน เพราะถ้ามึงดังแล้วไม่ดี ชื่อนิยายมึงได้มาโผล่ในโม่งแน่ๆ

6 Nameless Fanboi Posted ID:S+7iqNz+HW

>>4 จะส่ง สนพ.อย่าลงจบ เคยมี สนพ.มาติดต่อ เขาไม่อยากให้ลงจบนะ แล้วก็อาจจะไม่ค่อยอยากพินิยายที่ลงจบแล้ว

7 Nameless Fanboi Posted ID:lxYVxYOf0Z

>>6 อ้าว แล้วเวลามาติดต่อนี่เขาก็ยังอ่านงานเราไม่จบอะดิ แล้วจะรู้ได้ไงวะว่างานดี ควรค่าแก่การเอามาพิมพ์จริง

8 Nameless Fanboi Posted ID:S+7iqNz+HW

>>7 เขาบอกตามอ่านนิยายกูมานานแล้ว แต่ชอบพล็อตเรื่องนี้ สนใจอยากให้ลองส่งไปพิ ก็คือสนก่อน พิอาจจะไม่ผ่าน แต่ขอกูไว้ว่าอย่าเพิ่งลงจบ

9 Nameless Fanboi Posted ID:S+7iqNz+HW

>>7 เคยมีเรื่องหนึ่งกูลงไปสามตอนก็ติดต่อมาแล้ว สนพ.ใหญ่ด้วย แล้วเรื่องนั้นก็ไม่ดัง กูก็งงนะ แต่สรุปคือไม่ได้ส่งมันทั้งสองที่เลย เพราะว่าไม่ว่างมานั่งทำโน่นนี่ให้สนพ.เพราะติดงาน แล้วก็นานมากกว่ากุจะเขียนจบอะ เลยปฏิเสธไป ซึ่งกูคิดว่ากูคิดถูกอะ ขายเองได้เยอะกว่าเปอร์เซ็นที่เขาจะให้นะ แต่ดีตรงเขาจะทำเล่มให้

10 Nameless Fanboi Posted ID:.2Rm3jGln+

บก.มาติดต่อเพราะเรื่องน่าสนใจ เขาอาจจะดูโปรย ดูพล็อต ดูภาษา ลองอ่านตอนแรกๆ ที่ลงไว้ แต่ส่งไปยังไงก็เข้าสุ่กระบวนการพิจารณาอีกที บางทีอาจจะให้ออกได้ บางทีก็อาจจะไม่ผ่าน ต้องแก้ไขหรือปัดตกเหมือนเรื่องอื่นๆ เขามาติดต่อก็เข้าตาในระดับหนึ่งแหละ แต่ไม่ได้หมายความว่าส่งไปแล้วจะถูกตีพิมพ์เลย

11 Nameless Fanboi Posted ID:sKucimCNm.

คนรู้จักกูบกค่ายดังมาทาบทาม ส่งไปพิจารณารอบแรกก็ไม่ผ่าน แก้เสร็จแล้วส่งรอบสองก็ไม่ผ่าน ตอนนี้ทำอีบุ๊กเองไปแล้ว มันก็เสี่ยงอยู่เหมือนกันนะเวลาสนพมาจอง กระบวนการพิจารณาก็ระยะหนึ่ง อาจจะเร็วกว่าพวกที่ส่งเข้ามาเองโดยที่บกไม่ได้ไปทาบทาม แต่ยังไงก็อาจเสียจังหวะดีๆ อยู่

12 Nameless Fanboi Posted ID:6NaZ1V46EE

ไม่ได้ต้องการเงินตอบแทนก็อย่าส่ง สนพ เลย ถ้าเอาแค่ความ popular เป็นนิยายเว็บป๊อปกว่าเยอะ สบายใจกว่าด้วย เป็นนักเขียนออกเล่มโดยเฉพาะออกกับ สนพ. มีเรื่องเครียดเยอะจะตาย ไม่ชิลนะกูบอกเลย คนด่าก็ด่าแรงกว่าด้วย บางทีเอามาด่าในโม่ง ด่าลงกลุ่มรีวิวในเฟส อยากให้คนรู้จักเยอะๆ ก็อัพฟรีในเว็บนั่นแหละ หรือถ้าอยากมีค่าขนมนิดหน่อยก็ติดเหรียญเบาๆ ไปเถอะ

13 Nameless Fanboi Posted ID:NEpM2Ocmr2

ฮือ ขอบคุณทุกคนมากนะ เปิดโลกกุมากเลย โม่งนี่มีประโยชน์จริง ๆ

>>12 กูนึกว่าออกกับสนพ.อาจจะมีคนเข้าถึงมากกว่า มีรีวิวเป็นรูปเป็นร่างให้เยอะกว่าน่ะ แต่ก็คงต้องแลกกับผลตอบรับเดือด ๆ สินะ (เพราะเขาเสียตังอ่าน) เอาเป็นว่ากูจะลองคิดดูอีกทีแล้วกัน ขอบคุณมากนะ

14 Nameless Fanboi Posted ID:cXwhRIQU0m

>>13 มึงอยากป๊อป มึงเสี่ยงลงแบบกุดิ กุลงรีดทีเดียวจบไปเลย555555 แล้วบอกว่าอ่านฟรี 14 วัน ตามเวลาที่จะอยู่ในหน้าใหม่มาแรง ติดอันดับสูงๆ ด้วย จากนั้นพอครบกำหนด ก็ติดเหรียญแล้วก็ขายอีบุ๊ค ทำโปรอีบุ๊คถูกมากสามวัน แต่ทำก่อนจะติดเหรียญอะ ลงไปได้สักเจ็ดวันก็ลงอีบุ๊ค อันนี้กุทำเอามันนะ แต่เผื่อมึงอย่างลองบ้าง

15 Nameless Fanboi Posted ID:cXwhRIQU0m

>>14 อยากลอง

16 Nameless Fanboi Posted ID:KRKZtyvXdf

>>13 กูขอยาดเห็นต่าง ถ้ามึงเขียนแบบไม่หวังเงินตอบแทนมากนักเพราะมีงานประจำอยู่แล้ว ต้องการเน้นชื่อเสียง
กูกลับคิดว่าอยู่กับสนพ.จะตอบโจทย์มึงได้มากกว่า โดยเฉพาะในช่วงแรกๆ ที่มึงยังโนเนม
ยิ่งมึงมีงานประจำ ถ้าไม่มีเวลาให้กับการทำมาร์เก็ตติ้ง จัดหน้า ตรวจทาน ติดต่อนักวาด จัดอาร์ต ดีลโรงพิมพ์ (กรณีทำเล่ม)
กูแนะนำว่ามึงหาสนพ.สังกัดจะดีกว่า (หาค่ายใหญ่หรือกลางๆ เช็กข่าวยี้ข่าวฉาวก่อนส่งพิ)
ขอให้โชคดี

17 Nameless Fanboi Posted ID:cO+M7dJgtt

>>16 กูเห็นด้วย ว่าออกกับสนพ.มีโอกาสเห็นงานมากกว่า แล้วถ้าเรื่องของมึงดี มันจะปัง แต่อันนี้แล้วแต่แนวนิยายของมึงด้วย บางแนวนักอ่านเขาก็อยากอ่านเฉพาะในเว็บ เช่น พอนบางประเภท

แล้วกูก็เห็นด้วยกับที่บอกว่าออกกับสนพ.รีวิวจะแรงกว่า กับชอบเจอพวกโรคจิต จากปสกนะ บางทีซื้อของกุเล่มเดียว ตามไปเมนท์คนที่ชอบทุกโพสว่าอ่านไม่รอด เหมือนอยากให้ขายไม่ได้แต่นิยายกูก็เสือกขายได้อ่ะ ขอบคุณ 555555 ตอแยชห กูประสาทจะเสีย

18 Nameless Fanboi Posted ID:DidL55y4fE

Ky คับ ไร้สาระข้ามได้
กูแปลกใจตัวเอง กูลงนิยายไปหลักยี่สิบตอนละ คนตามมีแค่หลักสามสิบ แต่กูกลับไม่รู้สึกนอยด์ หรือคิดว่านิยายตัวเองไม่สนุก แต่ดั๊นไปคิดว่าคนจำนวนน้อยที่ติดตามนี่เพราะเขาชอบจริงๆ ไม่ได้เข้ามาอ่านฆ่าเวลา ผีหลอกไม่น่ากลัวเท่ากูหลอกตัวเอง 55555555

19 Nameless Fanboi Posted ID:CCfJppSVcF

>>18 มึงลงไหน หน้าใหม่เปล่า ถ้าหน้าใหม่ได้เท่านี้คือนิิิยายมึงสนุก กูแอบไปใช้นามปากกา อวตาร กริบกว่ามึงอีก 55555

20 Nameless Fanboi Posted ID:miRnsSqec4

ทำไมอวตารกูดังกว่าเดิม สงสารนามปากกาเก่าตัวเองฉิบหาย เขียนเล่นเสือกได้ดีกว่าเวลาตั้งใจ

21 Nameless Fanboi Posted ID:qVEBp+VCdv

อัปนิยายทุกวัน ควรจะเป็นเวลาเดิมด้วยมั้ยวะ มีผลต่อใหม่มาแรงมั้ย อยากขึ้นบ้าง

22 Nameless Fanboi Posted ID:H2jsEQiN+v

>>21 ไม่ค่อยมีอะ แค่อัปทุกวันก็คือที่สุดแล้ว ไงมันก็เด้งแจ้งเตือน คนอ่านไม่ใช่ทุกคนที่ว่างมารออ่านใหม่ทันที ดองไว้อ่านเวลาพักกันทั้งนั้นละ

23 Nameless Fanboi Posted ID:gv09/0jtoY

มีใครเอาไปลงกับ Arn บ้างยัง

24 Nameless Fanboi Posted ID:UZA0vPiUsC

มีใครรู้สึกว่า Rating ใน MEB มันขึ้นไม่ตรงกับที่นักอ่านกดให้มั้ย
ของกู นักอ่านกดดาวให้สองคน ใน MEB จำนวน Rating ขึ้นมาเพิ่มแค่ 1 ทั้งๆที่กูดูแล้วนะว่าทั้งสองคนไม่เคยกดให้กูมาก่อน

อย่าด่ากูย้ำคิดย้ำทำเลย กูซีเรียสเรื่องนี้มาก จะมีใครนั่งนับเหมือนกูมั้ยวะ

25 Nameless Fanboi Posted ID:UZA0vPiUsC

>>23 กูเห็น เจ้าใหญ่นิยายวัยรุ่น ที่กำลังเปิดพรีอยู่ตอนนี้ เอาไปเปิดพรีเล่มกับเว็บนี้นะ อาจจะดีก็ได้

26 Nameless Fanboi Posted ID:gv09/0jtoY

>>24 ถ้าเพิ่งกด เข้าไปดูจะเห็นสอง แต่พอดูหน้ารวมมันเหมือนจะยังไม่อัปเดทน่ะ เด๊๋ยวก็เท่ากัน

27 Nameless Fanboi Posted ID:CC.3GqT2D2

>>26 ขอบคุณมึงมากนะ กูคงหวงดาวมากไป 555

28 Nameless Fanboi Posted ID:HeucLbKHw2

Ky กูต้องปรับภาพสีปกยังไงถึงจะใช้ ที่ เมพ กับ รอร ได้อะ ระบบมันชอบดักปกกู ภาพกูแค่ผู้เปลือยอกโชว์ซิกแพค ส่งเมลไปถามทีมงานบอกให้กูปรับสีปรับน๊อยส์ไรไม่รู้ แล้วทำไมปกบางคนภาพ adult rate กว่ากูตั้งเยอะ ทั้งคร่อม แลกลิ้น เห้นนมชัดๆ ยังผ่าน

29 Nameless Fanboi Posted ID:gv09/0jtoY

>>28 จริงๆ อัปไปเถอะ เดี๋ยวมันตรวจด้วยคนมั้ง ภาพก็มาเอง กูเคยใส่เสื้อผา แต่กอดกันแนบชิดไปหน่อย ตอนแรกภาพก็ไม่ขึ้น แต่เหมือนเขาตรวจแล้วมันก็ขึ้นเอง แต่ถ้ารีบ ก้ลองเอาชื่อนิยายวางๆ ลงไป

30 Nameless Fanboi Posted ID:qSrQpN6JMV

โอ้ย ยย ย รีไรท์นิยายทำไมมันเหนื่อยจังวะ เรี่ยวแรงสมองกูหมดจนไม่เหลือไปแต่งต่อเลย ; ;

31 Nameless Fanboi Posted ID:1+AOKxmb5h

ถามเพื่อนๆ นักเขียนที่มีรายได้จากงานเขียน
ตอนนี้นิยายแนวไหนที่ตลาดกำลังนิยมบ้าง
แบบว่าเขียนออกมาแล้วยังไงก็มีคนอ่านคนซื้อเรื่อยๆ อะ
คือกูตกงานมาหลายเดือนแล้ว สมัครที่ไหนก็ไม่ได้
ทักษะที่พอมีติดตัวก็เห็นจะเป็นเรื่องการเขียน
ถ้าอยากหารายได้จากงานเขียนกูควรเริ่มจากแนวไหนดี
อยากได้คำแนะนำมากๆ ตอนนี้กูใกล้จะแบกค่าใช้จ่ายไม่ไหวแล้ว
T ___ T

32 Nameless Fanboi Posted ID:gv09/0jtoY

>>31 แนวฟีลกูด โนดราม่า พระเอกคลั่งรัก หื่นหน่อยๆ ไม่ต้องเยอะมากก็ได้ แแต่ขอให้มีสักหน่อย ไม่อย่างนั้นก็พอร์นเลย พอร์นสั้นๆ เอาแซ่บๆ สักสองสามหมื่นก็ขายได้แล้วนะ ถ้ามึงรีบ ไม่คิดอะไรให้ปวดหัวเน้นเย แซ่บๆ

33 Nameless Fanboi Posted ID:gv09/0jtoY

ลองกดไปหมวดรวม อันดับขายดีของ meb สามเล่มนั้น มีฉากหื่นทุกเรื่อง โดนรีวิวก็จะ อะหื่นค่ะ หื่นค่ะ ไม่ใช่ว่าเขาไม่มีดีนอกจากหื่นนะ เขียนดีด้วย แต่กระแสหื่นทำขายดีขึ้น สังเกตมาจากห้องรีวิวนิยายอะ555555555

34 Nameless Fanboi Posted ID:bNDXRTTkas

>>31 นิยายรัก, โรมานซ์ (เน้นเลิฟซีน), น้ำเน่า, ตบจูบ คิดอะไรไม่ออกก็แนวจำเลยรักอะ ขายได้ทุกยุคทุกสมัยจริงๆ บางคนจั่วไว้หัวเรื่องเลยว่า ตบจูบ หอบลูกหนี คนอ่านเยอะเฉย 55

35 Nameless Fanboi Posted ID:qSrQpN6JMV

>>31 มีเด็ก แต่มีเหตุให้ต้องแยกกันแล้วก็ตะลอนๆ กว่าจะได้รักกัน

36 Nameless Fanboi Posted ID:qSrQpN6JMV

กูรู้สึกผิด ที่แบบเวลาอ่านเม้นของนข.คนอื่นที่แฟนนิยายเขามาเม้นให้แบบดีๆ อะ (หมายถึงตามเพจ ตามทวิต) แล้วกูเผลอเบะปากเพราะรู้ธาตุแท้ของตัวนข. โดยที่มาฉุกคิดได้ทีหลังว่าก็แฟนนิยายเขาตามเขทชมเพราะผลงานไง ไม่ได้สืบสาวราวนิสัย ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว //กูตีตัวเองสามที 555+

37 Nameless Fanboi Posted ID:yaha+enZos

ติดเขียนใช้คำฟุ่มเฟือย ควรปรับให้กระชับขึ้นจะดีกว่าใช่ไหม มีมั้ยนักอ่านบางคนไม่ชอบ คำฟุ่มเฟือยเยอะๆ

38 Nameless Fanboi Posted ID:CC.3GqT2D2

>>36 ใคร กูอยากเสือก

39 Nameless Fanboi Posted ID:CC.3GqT2D2

>>37 ลางเนื้อชอบลางยาอ่ะมึง ภาษาที่ดีควรกระชับ เข้าใจง่าย แต่กูก็ชอบเวิ่นเว้อนะ 55

40 Nameless Fanboi Posted ID:8dmnW8NRkw

Ky กูเห็นเพจนึงสปอยนิยายจีนแนวผี+เทพเซียนปจบ. แล้วมีคนมาเม้นว่ามีนิยายไทยเรื่องนึงลอกมาเว้ย คนสปอยเลยไปเทียบมาให้ เขาว่ามันเป๊ะในระดับแค่แปลมาแล้วเปลี่ยนคำนิด ๆ หน่อย ๆ เชี่ย มนกกบ.โมเดลเหรอวะ555

41 Nameless Fanboi Posted ID:/uMXDQXG+c

>>40 ชี้เป้าได้มั้ย อยากตามไปเผือก

42 Nameless Fanboi Posted ID:kSR16zfxIi

>>40 เพจไหน อยากตาม

43 Nameless Fanboi Posted ID:8dmnW8NRkw

>>41 >>42 นี่เลย มีทักอยู่ในเม้นนะ
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2845401972439936&id=1577300212583458
เห็นว่าอีกเรื่องของคนแต่งก็ลอกปกนิยายเรื่องอื่นมาอีก สุดยอด

44 Nameless Fanboi Posted ID:w.l4MHmb9q

>>43 เข้าไม่ได้แล้วอะ

45 Nameless Fanboi Posted ID:/uMXDQXG+c

>>44 เข้าได้นะ กูเพิ่งกดเลยเนี่ย อ่านอยู่ๆๆ

46 Nameless Fanboi Posted ID:/uMXDQXG+c

>>44 ถ้าไม่ได้ เข้าเพจ tatiane

47 Nameless Fanboi Posted ID:/uMXDQXG+c

ตามไปส่องนิยายเรื่องนั้น ติดเหรียญด้วยจ้า

48 Nameless Fanboi Posted ID:GZ.eQwCfV1

>>47 มีคนทักตอนแต่งแรกๆเลยด้วยแต่ทำเมิน ว้าวซ่า

49 Nameless Fanboi Posted ID:B5DJYNqwz8

มันไม่กลัวเพราะ พอคนจับได้มันสามารถอวตารร่างใหม่ต่อไปเรื่อยๆ ได้รึป่าว

50 Nameless Fanboi Posted ID:WdLPr.SwrB

Ky นักเขียนคนนึงโดนทักว่านิยายเป็นแฟนฟิคมาก่อนรึเปล่า ติดเหรียญได้ด้วยเหรอ นักเขียนต้องออกมาชี้แจงว่าไม่ใช่แฟนฟิคและยอมรับว่าตัวเองผิดลิขสิทธิ์ที่ใช้ภาพดาราที่ชอบมาประกอบนิยาย แต่กูเห็นนิยาย ชญ แปะอิมเมจดาราไอดอลกันเกลื่อน นักเขียนนึกว่าทำได้ไม่ผิดมั้ง

51 Nameless Fanboi Posted ID:rYvutVo.Lc

>>43 กูเห็นคนด่าผ่านตา แต่เขาเซ็นเซอร์ชื่อเรื่องบนปกไว้ พึ่งรู้ว่าคือปกของคนนี้สันดานจริงวะ รีพอร์ตทางไหนได้วะ

52 Nameless Fanboi Posted ID:/YbsoZknky

>>50 เรื่องภาพปกไม่รู้จะพูดยังไงดีเลย อย่าว่าแต่ใช้ภาพศิลปินเลย ใช้ภาพปกนิยายคนอื่นยังมีมาแล้ว คงคิดว่าไม่ใช่ปกนิยายในไทยแล้วจะไม่โดนอะไร ภาพวาดที่ว่าขออนุญาตนะคะ ก็ขอทิพย์ ไม่เคยขอนักวาดจริง

53 Nameless Fanboi Posted ID:7KObJd5UC3

>>52 กูเห็นพวกนี้ กูจะทักบอก ส่วนใหญ่จะได้คำตอบ ปกชั่วคราวค่ะ รอวาดอยู่ เฮลโหลๆๆ แต่มึงติดเหรียญแล้วนะ

54 Nameless Fanboi Posted ID:/YbsoZknky

>>53 รอปกถาวร จะใช้ภาพฟรีก็ได้นี่ ไม่เห็นต้องไปใช้ภาพผิดลิขสิทธิ์เลย แถมติดเหรียญด้วย ภาพปกยังไงก็คือใช้มีส่วนเชิงพาณิชย์

55 Nameless Fanboi Posted ID:7KObJd5UC3

>>54 กูเคยเตือน บอกอีภาพที่ใช้มันเป็นการ์ตูนดังนะคะ เอามาใช้ไม่ได้ โดนบอกว่ากุคุกคาม จุกสัสอะ ดีนะไม่ได้ล็อกอินไอดี ไม่งั้นโดนแคบไปประจานแน่ๆ เลยกุ

56 Nameless Fanboi Posted ID:/YbsoZknky

>>55 เตือนไปก็ไม่ช่วยไรเลย ถ้าคนไม่มีจิตสำนึกก็ไม่เปลี่ยน รีพอตภาพไปก็ยังไม่เปลี่ยน ต้องระวังแคปไปด่าเพราะคนด่าบางคนก็ชอบเห็นผิดเป็นถูก หลับหูหลับตาไปหมด

57 Nameless Fanboi Posted ID:/YbsoZknky

>>56 *คนอ่านสิ ไม่ใช่คนด่า พิมพ์ผิด

58 Nameless Fanboi Posted ID:Wf+oznummx

เพื่อนโม่งเคยเป็นไหมที่เวลาเขียนช่วงรอยต่อระหว่างเหตุการณ์หรือสถานที่จะรุ้สึกว่าต้องเพิ่มอีกสามประโยคน่า/หนึ่งย่อหน้าน่า/หนึ่งฉากน่า เพื่อความสมูท ทั้งที่เวลาอ่านนิยายคนอื่นบางทีเขาเขียนเกริ่นแค่ “ใกล้เวลาเลิกงาน หญิงสาวเก็บข้าวของเตรียมกลับบ้าน” แล้วก็ต่อด้วยบทสนทนาให้เรื่องเดินได้เลย กูอ่านของเขาที่เขียนสั้นๆ แบบนี้ก็ไม่รู้สึกห้วนอะไรนะ แต่ทำไมเวลาเขียนของตัวเองสั้นๆ แบบนี้มันรู้สึกห้วนจังวะ

59 Nameless Fanboi Posted ID:7KObJd5UC3

Naiin App มาใหม่? แล้วของเก่า เขาเทแอพนั้นหรือยังไงอะ เพิ่งเห็นจากกรุ๊ปเมื่อกี้ เขาส่งข้อความเชิญนักอ่านมาลงงานในแอพใหม่ว่ะ

60 Nameless Fanboi Posted ID:TESx9gfFqy

>>59 ทำมาแข่งกับ RAW เหรอ

61 Nameless Fanboi Posted ID:sK+VKZvGHz

>>58 เพราะเวลามึงอยู่ในฐานะคนเขียน มึงมีภาพในหัวมากมาย มึงจะเกิดอาการที่เรียกว่าเขียนใส่ลงไปเท่าไรก็รู้สึกว่ายังอธิบายไม่ครบ ใส่ไป 1 2 3 มึงก็ยังรู้สึกว่ายังไม่ได้อธิบาย 5 6 7 8
กลับกัน เวลามึงอยู่ในฐานะคนอ่าน ตัวหนังสือมีแค่ไหนมึงก็สร้างภาพในหัวแค่นั้น บรรยาย 1 2 3 มึงก็ไม่รู้สึกว่ายังขาด 5 6 7 8

เป็นกับหลายกรณี ไม่ใช่เฉพาะรอยต่อเหตุการณ์

62 Nameless Fanboi Posted ID:fl9odLYCOf

Ky นามปากกากูเป็นภาษาอังกฤษว่ะ เป็นคำเฉพาะด้วยเพราะผสมคำเองจำเป็นต้องเขียนบอกคำอ่านด้วยปะ สมมุตินะ เช่น nekored เขียนแค่นี้ก็พอหรือต้องใส่ เนโกะเรด ต่อท้ายด้วย เป็น nekored(เนโกะเรด)
คือเพิ่งมานึกได้ตอนคอมมิชชั่นปก จะเขียนนามปากกาบนปกด้วยภาษาไรดี เพราะเขียนบนเว็บไว้ก็กำกับสองภาษาไงกลัวคนอ่านผิด แต่ถ้าทำปกมันต้องใช้นามปากกาเดียวอะ

63 Nameless Fanboi Posted ID:RmNyTkCJa6

มึง ปรึกษา กูใส่สถานการณ์ปัจจุบันลงไปในนิยายด้วยนิดหน่อยเพราะมันก็เป็นเหตุการณ์ในเรื่องอ่ะ ทีนี้มีนักอ่านขนมไทยดูท่าจะเกลียดเรื่องกูมาก ไม่อยากให้กูและลูกกูได้ดี กูควรทำไง?

64 Nameless Fanboi Posted ID:fl9odLYCOf

>>63 ช่างหัวมันสิ เชื่อเถอะว่ามันแค่อ่านมาแล้วก็ผ่านไป ไงจำนวนนักอ่านมึงคงไม่สาบกะทิซะ 100% หรอก
ว่าแต่มึงใส่ไรลงไปวะดักนักอ่านกลิ่นกะทิได้ขนาดนั้น อวยลุงหรือผู้ใหญ่บ้าน

65 Nameless Fanboi Posted ID:RmNyTkCJa6

>>64 ต้องเรียกว่ากูทำในสิ่งตรงกันข้ามกับที่มึงบอกอะ 555

แล้วถ้าเกิดเค้าเป็นคนดังด้วยล่ะมึง แบบว่ามีฟอลโล่วเวอร์เยอะ แต่กูไม่แน่ใจว่าฟอลของเค้าเป็นกะทิด้วยรึเปล่า

66 Nameless Fanboi Posted ID:M56zo/Aswg

>>62 ใส่แต่ภาษาอังกฤษไปเลย เดี๋ยวนักอ่านจะพยายามอ่านเอง แต่อาจจะอ่านผิด แต่จะแค่ทำไม เพราะนักอ่านถ้าพูดถึงขึ้นมา เขาก็พิมพ์นามปากกา ภาษาอังกฤษ ใส่แบบวงเล็บกูว่าไม่สวย มึงไปเขียนไว้ในคำนำดีกว่าถ้าอยากใหัคนอ่าน ออกเสียงถูก แบบหวีดดีค่ะ sohgffk(าวยวงด) วันนี้มีนิยายเรื่องใหม่มาฝาก

67 Nameless Fanboi Posted ID:fu8GnJiFUB

มือใหม่ท้อแล้วพักได้ แต่ต้องกลับมาฮึดสู้ใหม่นะ สู้ๆทุกคน

68 Nameless Fanboi Posted ID:M56zo/Aswg

มีใครรู้บ้างว่าปกติ mebมันตัดรอบเงินยังไง ตั้งแต่วันไหนถึงไหนในแต่ละรอบอะ อยากลองคำนวณรายได้แบบคร่าวๆ อะ

69 Nameless Fanboi Posted ID:k91HyZ5T8T

>>68 แบ่งเป็นสองยอด ซื้อผ่านหน้าเว็บ คิดยอดของเดือนที่ผ่านมา ซื้อผ่าน app เป็นยอดของเดือนก่อน
เช่น วันที่ 5 ส.ค แจ้งยอดรายรับ เป็นยอดขายผ่านหน้าเว็บของ 1-31 ก.ค +ยอดขายผ่าน app ของ 1-30 มิ.ย
แต่เราไม่รู้ว่าแต่ละยอดมีกี่โหลด จนกว่าเขาจะแจ้ง ในวันที่ 5 ส.ค

70 Nameless Fanboi Posted ID:M56zo/Aswg

>>69 สรุปก็คิดคร่าวๆ ไม่ได้อยู่ดี ขอบคุณค่ะ ไหว้ย่อ

71 Nameless Fanboi Posted ID:FNN3VKLFCq

กูเป็นนักเขียนใหม่นะ เหมือนกูจะเป็นแพนิค หน้านิยายตามเวบที่กูลง กูไม่กล้าเข้าไปดู พอเห็นยอดกดเข้าชั้นยอดเฟบน้อย ยอดวิวไม่กระเตื้อง ใจกูสั่น หายใจไม่ออก พอเมพอัพนิยายขายให้ กูไม่กล้าดูยอดตัวเอง กูเลี่ยงจนใกล้ต้นเดือนถึงตัดใจดู เห็นไรท์ดังอวดยอดหลักพันหลักหมื่นโหลด ตีเป็นเงินเยอะกว่ากูพันเท่า เปรียบเทียบยอดตัวเองได้ไม่กี่สิบโหลด ใจมันหล่น กูดาวน์จนไม่มีแรงแต่งนิยายอีกเลย ต้องจัดการอารมณ์ยังไงดี

72 Nameless Fanboi Posted ID:Y7a5ylmAq9

>>71 หยุดเขียนสักพักแล้วหาแรงบันดาลใจ ดูหนังฟังเพลงหรืออ่านนิยายแนวอื่นบ้าง กลับมากับความคาดหวังที่น้อยลง แล้วก็เลิกเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น คิดว่าเขียนให้ตัวเองอ่านอ่ะ

73 Nameless Fanboi Posted ID:ZZr6Ow7UVD

>>71 เป็นกำลังใจให้มึงนะ มนุษย์เป็นสัตว์ทะเยอทะยาน เอาจริงๆถ้ามึงไปถึงในจุดนั้นที่ยอดหลักพันหลักหมื่น นิยายแมส มึงก็ยังไม่พอใจหรอก มึงก็ยังจะเปรียบเทียบตัวเองกับนิยายที่ฟี้ดแบกดีกว่ามึงขึ้นๆไปอีกเรื่อยไป นี่เรื่องจริง มึงต้องพยายามพอใจในจุดที่มึงอยู่ให้ได้ ไม่งั้นมึงก็ทรมานเรื่อยไปอ่ะ เชื่อกูนะ กูผ่านจุดที่มึงอ้างอิงถึงมาแล้ว 555

74 Nameless Fanboi Posted ID:fu8GnJiFUB

ขอถามนิดนึง อีบุ๊ก ซอยขายเล่มนึงแบ่งเป็น 30000 หมื่นคำ น้อยไปรึเปล่า

>>71 ไม่ใช่คนเดียวที่เป็น ใจเย็นๆนะพักได้พักไปทำอย่างอื่นก่อน พร้อมค่อยกลับมาลุยกันใหม่ ไม่มีคำว่าสายเกินไป กอดคอ

75 Nameless Fanboi Posted ID:JW9BnuLnQ/

>>71 ลองหันไปมองคนที่เขายอดน้อยกว่าเรา ไม่ได้บอกให้ไปดูถูกเขา แต่มองในแง่ชื่นชมที่ยังสู้เขียนต่อสนุกกับมันเพราะใจรัก เรามองว่าใจเขาสู้มาก นับถือในความพยายามมากๆ คิดแบบนั้นได้ก็สบายใจไปเปราะนึงต่อตัวเองนะ และแต่ละคนไม่เหมือนกัน ถ้าไม่ไหวจะเขียนทุกวันก็พักก่อน เขียนได้เท่าที่ไหว ทำตามใจเราที่อยาก

76 Nameless Fanboi Posted ID:4CYLwvlg1I

>>71 ใจเย็นๆ มันต้องใช้เวลาอ่ะ ค่อยๆ ฝึกแต่ง ฝึกเขียน ภาษาที่ดีขึ้น พล็อตสนุกขึ้น ยังไงก็จะมีแฟนคลับโผล่มา

77 Nameless Fanboi Posted ID:3my+jy5ch4

>>65 เอาน่ามึง ยังมีนักอ่านคนอื่นอีกปะที่อ่านงานมึง คนเดียวต่อให้ดังแต่สังคมตอนนี้ไม่นิยมขนมหวานแล้ว เผลอๆกระแสตีกลับริยายมึงอาจปังปุริเย่แบบงงๆก็ได้
>>66 โอเค ขอบใจมากเพื่อนโม่ง

78 Nameless Fanboi Posted ID:m32gf5B24M

>>71 ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่านักเขียนใหม่ 555 ยังต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าจะมีฐานคนอ่านแน่น ของพวกนี้ไม่ได้มาตูมเดียว มันค่อยๆ สะสมเรื่อยๆ จนถึงวันหนึ่งมึงย้อนกลับมาดูมึงอาจจะกลายเป็นนักเขียนดัง มียอดโหลดติดเบสต์เซลเลอร์ตั้งแต่วางขายวันแรกก็ได้ อะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้นตราบใดที่มึงยังคงเขียนอยู่

79 Nameless Fanboi Posted ID:8cgAbljqBA

>>77 ขอบคุณนะมึง เขาออริจินัลขนมไทยแบบแนบเนียนด้วยไง ก็เลยหาเรื่องตินู่นนี่เล็กน้อยของกูให้เป็นเรื่องใหญ่​ แต่กูไปส่องเฟสแล้วจริงๆก็ Slim อ่ะแหละ รู้เลยว่าทำไมเกลียดงานกูจัง

80 Nameless Fanboi Posted ID:RhiIbRmQDc

>>74 น้อยไป น้อยมากด้วย สักแสนคำ หรือ หกหมื่นอะ

81 Nameless Fanboi Posted ID:wel243Urm2

>>80 ขอบคุณนะ พอดีเป็นนิยายสั้นที่จบแค่ เฉียดๆแสนคำเอง เลยลังเลว่าจะลงอีบุ๊กก่อนเล่มแรกที่กี่คำดี เป็นประมาณหกหมื่นแล้วกัน แล้วค่อยปล่อยเล่มสองตาม

82 Nameless Fanboi Posted ID:bWLpdTnHle

ถูกมู้มั้ยวะ บังเออญเจอมา เออ ยังไม่ทันอ่านก็ด่าคนแปลได้เลย แล้วไม่ยอมลบด้วย บอกมีสิทธิ์วิจารณ์นี่
https://twitter.com/kimbloody/status/1419589312547414017?s=19

83 Nameless Fanboi Posted ID:FNN3VKLFCq

กู >>71 เองนะ กูคงคาดหวังมากเกินเพราะกูไม่มีรายได้ทางอื่นแล้ว บ่นที่อื่นก็โดนฉอดว่าลูสเซอร์ กูดันได้กำลังใจจากเพื่อนโม่งซะงั้น แต่ก็ขอบใจพวกมึงมากนะ ได้ระบายแล้ว กูพอมีแรงไปต่อ ให้กำลังใจพวกมึงทุกคนด้วย

84 Nameless Fanboi Posted ID:3my+jy5ch4

>>83 ไม่ผิดหรอกที่มึงจะคาดหวังเกินไป แต่อยู่ที่มึงจะรับมือยังไงเท่านั้นเอง ตอนกูเข้าวงการใหม่ๆก็เป็น แม่งหวังสูงไว้มากอยากมีนักอ่านสักพันคนในหนึ่งเดือนงี้ แต่เอาเข้าจริงได้สักร้อยคนก็บุญแล้วสู พอผ่านไปสักเดือนสองเดือนคือเริ่มชิวละ ลงตอนใหม่ไปสามวันแล้วไม่มีคนเม้นเรอะ เออช่างเหอะเดี๋ยวพวกสายดองก็ตามมาอ่านเอง ไปปั่นตอนใหม่ดีกว่า พอลงไปสักครึ่งเรื่องคนอ่านก็เริ่มแห่มาเม้นกันตอนละคนสองคนอย่างงงๆ
>>82 เดี๋ยวเจอกระแสตีกลับหนักๆเข้าคงลบเองแหละ แต่มั่นหน้าจังวะ มาทำรู้ดีว่าศิษย์พี่ไม่เรียกพี่ชายกัน สนิทกันมากๆก็เรียกกันว้อย ฟีลพี่น้องร่วมสาบานไง ครูคนเดียวกันก็เหมือนมีพ่อแม่ร่วมกันอะแหละ
ปล.ผิดมู้แหละ ต้องไปมู้นิยายจีนแปลนะ แต่กูก็อยากแจมด้วยเฉยๆ

85 Nameless Fanboi Posted ID:OzpxfXQ63t

>>84 กูขอนอกเรื่องอีกหน่อย สายวายนี่แรงเนอะ อ่านหน่อยฉอดแร้ว แต่สาย ชญ ก็เงียบไป แปลห่วยจริง แต่ไม่มีใครฉอด สนพ. อันนี้ยืนยันว่าห่วยเจงๆๆๆ สนพ.ใหญ่ด้วย แปลจนนิยายสนุกๆ หมดสนุกได้ บร้าไปแล้วพี่เอ๋ย

86 Nameless Fanboi Posted ID:w5u23+KyY7

>>61 โห มึงอธิบายได้มีหลักการมาก ขอถามได้ไหมอันนี้คิดเองหรือมีใครวิเคราะห์ไว้ กูอยากลองหาอ่านอะไรแบบนี้ทำความเข้าใจเผื่อจะได้รู้ว่าตัวเองติดขัดเพราะอะไร กูเขียนช้ามาก หลังเลิกงานได้ครึ่งหน้า เสาอาทิดขลุกอยู่ทั้งวันได้ 3-10 หน้า (ส่วนใหญ่3-4หน้าแหละ 10 นี่ฟลุค)

87 Nameless Fanboi Posted ID:rEodoOrxnx

>>86 กู 61 กูอาศัยอ่านจากคลีนิกนักเขียนของเด็กดี บางบทความโม้บ้างเวอร์บ้าง แต่ไอ้ที่มีประโยชน์ก็มี มึงมีเวลาลองแวะไปส่องดู

ยินดีที่ได้ช่วย

88 Nameless Fanboi Posted ID:BEUBAewPBT

ขอถามเกี่ยวกับปกนิยายหน่อยดิ คือกุคอมมิชชั่นปกนิยายเชิงพาณิชย์มา แบบบรีฟให้นักวาดวาดเองไม่ใช่ปกสำเร็จรูปนะ ทีนี้มีสนพ.ติดต่อมาแหละ ตกลงไรเรียบร้อยรอเซ็นสัญญา แล้วเกิดนึกได้ว่าปกนิยายที่คอมมิชชั่นมากูจะเอาไปใช้ตีพิมพ์ต่อได้มะ หรือจะใช้ได้แค่บนเว็บ คือกูเสียไปเป็นพันกว่าเลย เปิดรับแค่โดเนตมาได้ไม่กี่ร้อยเอง ยังไม่เคยคิดเหรียญ นิยายไม่จบก็ช่างแต่ปกต้องปังไว้ก่อน555 มีสนพ.มาคิดต่อนี่ก็เหนือคาดหน่อยๆ

89 Nameless Fanboi Posted ID:vrIu2vaaJY

>>88 มึงเก็บไว้เป็นปกตอนหมดสัญญาสิ

90 Nameless Fanboi Posted ID:vrIu2vaaJY

>>88 คอมมิชชั่นมาแล้ว เชิงพา สิทธิ์เป็นของมึงจะทำไรก็ได้ เอาไปขายต่อยังได้เลย

91 Nameless Fanboi Posted ID:90MRJgGBJ4

ถ้าคนอ่านมาเม้น สปอย นิยาย พวกมึงทำไงกันวะ
กูร้องไห้แล้ว คือเขาถามแหละ ว่าเขาเข้าใจถูกเปล่า แต่ก็คือเข้าใจถูก และเป็นการเฉลยปมที่กูซ่อนไว้ทั้งหมดเลย
กูไม่ตอบจะเหี้ยไหม แต่กูกดไลก์แล้วนะ

92 Nameless Fanboi Posted ID:vrIu2vaaJY

>>88 ลืมถาม นว บางทีมีเรต ราคา ถ้าใช้แค่เป็นปกอีบุ๊ก ราคานี้ ปกพิมพ์ ราคานี้ เขามีแยกราคามั้ย มีแค่อันนี้แหละที่ต้องระวัง ถ้าจะพิมพ์เล่มในอนาคต แต่จะเอาไปพิมพ์การ์ด หรืออะไรบลาๆๆๆ ทำได้หมดไอเดียกุุนะ แบบสนพ.จะขาย มึงก็เปิดสั่งผ่านตัวมึงด้วย สั่งกับมึง ได้ของแถมเพิ่ม ก็เอาภาพนั้นแหละมาทำของ มึงจะขาย หนังสือราคาเต็มก็ได้ แต่มึงจะดีลมา แบบลดราคาได้เท่าไหร่แล้วแต่มึง อันนี้กูเคยเห็น นข คนหนึ่งทำอะ นานละ เขาก็ขายราคาเต็มเลย แต่พรีผ่านเขา มีของแถม

93 Nameless Fanboi Posted ID:vrIu2vaaJY

>>91 ส่ง สตก แบบ อิอิ หรือ ท่าทางเลิ่กลั่ก หรือ คอมเม้น จะใช่หรือเปล่าน๊าาาา เขาแค่เดาเอาสนุก ไม่ได้จริงจัง ไม่ได้จะถามกะเอาคำตอบขนาดนั้นมั้งมึง

94 Nameless Fanboi Posted ID:90MRJgGBJ4

มึงอย่ายอมแพ้ ใครๆ ก็เขียนนิยายได้ แต่ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นนักเขียนได้ กูก็เป็นแบบมึงเลยตอนแต่งเรื่องแรก ไหนจะนักอ่านที่เม้นตำหนิจุกจิกอีก กูรับมือไม่ได้เลยตอนนั้น กูเก็บทุกอย่างมาคิดหมด ไม่เป็นอันทำอะไร แต่เวลาจะช่วยมึงได้ แล้วก็เรียนรู้จากคนอื่นก้วย เรียกสั่นๆ ง่ายๆ ว่าเสือกนั่นเอง มึงก็ดันไปเสือกคนดัง ที่จริงๆ มีอีกเยอะมากที่เป็นกลุ่มเดียวกับมึง คนดัง ยอดปังมากๆ ไม่ต้องไปสนใจมัน เดี๋ยวกันการเปรียบเทียบ มันเอามาเทียบกันไม่ได้ เขาเป็นภูเขาพันปี มึงเพิ่งจะงัดออกมาจากใต้แผ่นเปลือกโลก

95 Nameless Fanboi Posted ID:9seRp9NkN3

>>89 สัญญาณนานเป็นปีเลย กูไม่อยากดองปกนานขนาดนั้น
>>90 เพิ่งรู้ว่าขายต่อได้แฮะ ขอบใจที่บอก
>>92 ไม่นะ นักวาดกูเขาไม่ได้กำหนดขนาดนั้น บอกใช้เชิงพาณิชย์ทำปกนิยาย เขาก็คิดคูณสองแค่นั้นเอง

96 Nameless Fanboi Posted ID:D9pH7VtNOi

ถ้าคนเขียนโง่นี่จะเขียนให้นางเอกตัวเองฉลาดได้ไหมนะ ปกติชอบเขียนนางเอกโง่น่ารักๆ ฮาๆ พออยากลองเขียนแนวนางเอกฉลาด ไม่มั่นใจเลยว่าคนอ่านจะมองว่าโง่อยู่มั้ย

97 Nameless Fanboi Posted ID:CfVqDzQONy

>>94 ถ้าหมายถึงกู >>71 กูเองนะ กูตามเสือกคนดังเพราะโลกสวยนึกว่าจะได้ไอเดียการเขียนจากเค้า กูเข้าใจผิดเองมึง คนดังมีเฟซเอาไว้ขายของ แชร์ไลฟ์สไตล์ ฉอดเรื่องอื่น คุยกับแฟนคลับมากกว่า แต่กูอันฟอลแล้ว หาเวย์ของกูเอง แค่บางทีนอยด์นักอ่าน โฟกัสแต่นักเขียนดัง ไม่ค่อยให้โอกาสนักเขียนใหม่ อ่อ ยกเว้นนักเขียนใหม่ที่มีคอนเนคชั่นกับเพจรีวิวนะ กูที่สู้ด้วยตัวเองเหมือนโดนมองผ่าน เห็นรีวิวนิยายดังบางเรื่องไม่ดีงั้นงี้แต่ก็มีคนโหลดอ่านเยอะแยะ กูเลยทำใจ เอาเวลามาคิดพล็อต ปรับปรุงฝีมือ ปล่อยงานให้คนเห็นเยอะๆ ดีกว่า อาจจะมีวันของกูบ้าง

98 Nameless Fanboi Posted ID:L0sUcx30oT

>>96 ได้สิ เวลาเราเขียนนิยาย ในนิยายมันคือเรื่องแต่งตามจินตนาการของเราไง ส่วนชีวิตจริงคือเราใช้ชีวิตของเรา เราอาจจะแตกต่างจากตัวละครในนิยายโดยสิ้นเชิงเพราะว่าเราใช้ชีวิตได้ละเอียดกว่าคาแรกเตอร์ที่ถูกสร้างขึ้นมาใช้ในนิยายอะ อย่างนางเอกกูร้ายกาจมาก ร้ายจนกูไม่กล้าทำแบบนั้นในชีวิตจริงแน่ๆ เพราะงั้นถ้าอยากเขียนนางเอกฉลาดก็เอาเลยเพื่อน อย่างน้อยๆ ให้คนเขียนรู้สึกว่าเออ ลูกเรานี่มันฉลาดจริงๆ เขียนตามความรู้สึกมึงเลยว่าแบบไหนที่เราอยากเรียกว่าฉลาด ต้องมีพฤติกรรมยังไง คิดอะไรแบบไหน แล้วคนอื่นในเรื่องมองตัวละครนี้ว่าเป็นคนยังไง

99 Nameless Fanboi Posted ID:90MRJgGBJ4

ใครมีเทคนิครีไรท์ดีๆ บ้างไหม กูรู้สึกว่าประมาณสี่หมื่นคำแรกกูยังตั้งใจเพ่งทีละคำๆ อยู่นะ หลังๆ เริ่มออกแนวสแกนๆ เพราะล้าเกินอะ หรือเราควรแบ่งสี่หมื่นคำรีไรท์สักครั้ง แล้วเว้นช่วงค่อยมาต่ออีกสี่หมื่น เป็นรีรอบแรก เพราะรอบสองก็จะไม่ต้องละเอียดละค่อยมารีรวดเดียวทั้งหมดจนจบ วะ? - _ -“

100 Nameless Fanboi Posted ID:+wmPnpDqeQ

>>97 มึง อย่างว่ากูอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะ มึงมีหน้าที่เขียนให้สนุกอย่างเดียวพอ นักอ่านแดกข้าวไม่ใช่หญ้า ส่วนใหญ่มีต่อมรับรู้ได้ว่าเรื่องไหนควรบอกต่อไม่ควรบอกต่อ มึงเขียนให้ดี มีวินัย แล้วเดี๋ยวมีคนอ่านแน่ ใจเย็นๆ

101 Nameless Fanboi Posted ID:D9pH7VtNOi

>>98 ขอบคุณสำหรับคำตอบนะ เพราะปกติยังไม่เคยเขียนแนวที่นางเอกฉลาดเน้นไหวพริบเลยหวั่นๆอยู่ กลัวจะเขียนออกมาแล้วแบบ ฉลาดเปลือกแต่จริงๆอ่านแล้วดูโง่งี้ TT เห็นเคยมีแนวๆที่คนอ่านบ่นๆกันประมาณเหมือนนางเอกจะฉลาดนะแต่จริงๆโง่ แต่คนฉลาดก็มีมุมด้านที่โง่ได้เนอะ เขียนตามใจที่คิดว่าใช่ อ่านแล้วสบายใจเลย

102 Nameless Fanboi Posted ID:i8X4/GRd33

>>101 ถ้าไม่แน่ใจว่าจะเขียนให้ฉลาดได้ถึงบาร์ มึงเขียนให้เป็นคนปกติก็ได้นะ ไม่ทำเรื่องโง่ ไม่น่ารำคาญ ไม่หาเรื่องเดือดร้อนให้ตัวเองและคนรอบข้าง บางทีนักอ่านก็ไม่ได้คาดหวังความแมรี่ซู เอาแค่อ่านแล้วไม่หงุดหงิดก็ได้แล้ว

103 Nameless Fanboi Posted ID:2k/6coemN3

>>101 กูขอแนะนำเพิ่ม มันมีอีกสองวืธีที่จะทำให้นางเอกฉลาดแบบกลวง ๆ อย่าหาทำเด็ดขาด
1.ฉลาดแบบยัดเยียด อาศัยปากตลค.อื่นอวยเอาว่าอู้ว พันปีจะมีสักคน ว้าว คนแรกเลยนะที่แก้ปัญหานี่ได้ โอ้ว Aคุงที่ว่าแน่ยังต้องแพ้คนอย่างเธอ คือไรแบบนี้อะมันดูปลอมสัส ๆ ให้ตลค.อื่นอวยเอาอย่างเดียวโดยที่ตัวนางเอกไม่ได้ทำให้เห็นชัด ๆ กูเจอบ่อยมากอ่านไปก็อิหยังวะไป
2.เนิฟสมองตลค.อื่นให้โง่ คืออะไรที่ปกติสัส ๆ คนทั่วไปก็คิดได้ แต่ตลค.จำพวกนี้มันเสือกคิดไม่ได้ว่ะ แล้วจู่ ๆ นางเอกก็ดันคิดได้แล้วทำเป็นคนแรกซะงั้น ปลอมพอกันอย่าหาทำ นางเอกอะดูฉลาดขึ้นแหละ แต่กลับกันตลค.อื่นจะดูโง่เกินไปไหมเฮ้ย
การเขียนให้นางเอกฉลาดก็เหมือนเขียนให้นางเอกสวยนั่นละ ตัวจริงมึงอาจจะขี้เหร่หรือหน้าจืด ๆ แต่มึงก็สร้างได้ปะตลค.ที่สวยหยาดฟ้ามาดิน มันคือการเขียนโดยยัดอุดมคติที่คิดว่าสวยเข้าไปไง การให้นางเอกฉลาดก็คือการยัดส่งที่คิดว่าทำแบบนี้แล้วฉลาดให้ตลค.นั่นละ แต่มันก็ต้องมีขอบเขตหน่อยเท่านั้นละ

104 Nameless Fanboi Posted ID:EY.F.sTs7V

>>103 กูลุกขึ้นปรบมือ กูเห็นด้วยทุกประการ
มีซีรี่ย์เรื่องนึงเหมาะแก่การศึกษาตัวละครฉลาดแต่ตกหลุมอากาศแบบ >>103 บอกมาก กูอยากแนะนำ เว้ยเว้ย ยิ้มมากๆมันเหนื่อยใจ

แต่ถึงจะเป็นแบบน้ัน ก็ดังมาก และดูแล้วเพ้อโล่งหัวดี 555 เหมาะกับวันเครียดๆ

105 Nameless Fanboi Posted ID:t6lrdf+xQD

กูเพิ่งอัพอีบุ๊กเข้าแมพไป กูทวนแล้วทวน อีก แบบละเอียดมากงานนี้ กูจะมีอะไรผิดพลาด แต่กูก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองกังวลอะไร นอนไม่หลับเฉย แล้วเสือกมีอีข้างห้องมากรี๊ดๆ เป็นผีเข้าอีก ไอหยา~ กูอยากตุย T T

106 Nameless Fanboi Posted ID:4Ymp3gVAOE

>>105 ไม่แปลกมึง จับมือ วันแรกที่ลงขายกูไม่กล้าเข้าไปดูรีวิวเลย กูกลัวโดนด่า กลัวไปหมด กลัวบ้ง กลัวแป้ก อีกทางนึงก็กลัวปังในทางลบ ทั้งๆที่มันไม่มีอะไรเล้ยยย เอาให้คนเห็นงานเราก่อน 5555 นอนนะ

107 Nameless Fanboi Posted ID:ovfsSjJXng

>>104 โค้งตัวรับคำชม
แบบแรกกูเจอบ่อยมากในนิยายแนวรักที่เซตติ้งให้นางเอกเป็นคนมีของใช้โชว์พาวเรื่อย ๆ ส่วนแบบหลังกูเจอบ่อยมากในแนวจีนเสิ่นเจิ้น ที่เซตติ้งให้นางเอกเป็นตัวกากเดนแล้วมาเทพทีหลัง กูละเวท ไม่ใช่แค่นางเอกนะ เรื่องไหนที่เอาพระเอกเป็นตัวเดินเรื่องก็ทำแบบนี้เหมือนกัน พวกมึงไปสืบทอดค่านิยมผิดผีแบบนี้มาจากไหน

108 Nameless Fanboi Posted ID:eA9L2FK/wI

>>106 เอ้อ จริง 5555+

109 Nameless Fanboi Posted ID:eA9L2FK/wI

พกมึง กูได้ความรู้ใหม่มาว่าเม้นในแมพแจ้งทีมงานลบได้ถ้านักเขียนไม่สบายใจ ซึ่งไม่เคยลองนะว่าได้จริงป่าว แต่พวกมึงมีความเห็นยังไงกัน เม้นบางเม้น (รวมถึงให้ใจหนึ่งดวงแต่ไม่เม้นด้วยนะ) ก็น่าตี ไม่น่ารักจริงๆ แถมทำยอดขายตก แต่เขาก็คือคนที่สนับสนุนเรา ถ้าแจ้งลบไปดูเหมือนจะแรงไปป่าว อาจสร้างความไม่พอใจได้
ส่วนตัวกูเคยได้น้อยสุดสองดาว แต่ก็ยังด้านหน้าเปิดรีวิวทุกคนมี/ไม่มีหนังสือก็รีวิวได้หมด ไม่ใช่ไม่รู้สึกแย่ รู้สึกหน้าตาอีบุ๊กมีจำหนิทันที ใจแหว่งๆ แต่กูยังเชื่อในการตัดสินใจของนักอ่านอยู่มั้งว่าเขาคงมีความคิดเป็นของตน กดอ่านทดลองอ่านซะหน่อย ไม่ใช่ตัดสินใจเลย

110 Nameless Fanboi Posted ID:jO6P0e+nU8

>>109 กูกลัวตอนกลับมาเม้นโวยวายอีกนี่ล่ะ เพราะกูจะเลิ่กลั่กด้วยความรู้สึกผิด เลยคิดว่าลบไปไม่น่าใช่ทางแก้ที่ดี เว้นแต่เม้นนั้นจะมะเร็งจริงๆ อันนี้คงไม่มีใครแอบเอาไปว่ากูลับหลังหรอก

111 Nameless Fanboi Posted ID:Qb+tTZyzxh

>>109 กูเข้าใจว่าถ้าซื้อแล้วลบไม่ได้นะ ซื้อแล้วก็ลบได้เหรอ

112 Nameless Fanboi Posted ID:Qb+tTZyzxh

กูอยากลบอันที่เม้นบอกอ่านไม่ได้ค่ะ ไรพวกนี้ มากับดาวเดียว ซึ่งมันอ่านไม่ได้นี่ความผิดกูมั้ย ก็ไม่ใช่ป่าววะ ระบบมันรวนอะเพ่ ใจเย็นนิด พอแอดมินมาช่วยแก้ปัญหา อ่านได้แล้วก็หายปาย ทิ้งหนึ่งดาวไว้ให้กูปวดใจเล่น

113 Nameless Fanboi Posted ID:UVpne3Snfl

>>112 กูโคตรเห็นใจนักเขียนที๋โดนโหวตดาวต่ำด้วยเหตุผลทางเทคนิคเลย Meb ควรปรับให้แก้ไขดาวได้แล้ว โหวดตผิดก็ลบโหวตใหม่ได้ หรือถ้าดาวต่ำมากโดยไม่ใช่รีวิวหนังสือจริงๆ แอดมินก็ลบออกไปได้ นักเขียนจะได้ไม่ต้องบวกกับนักอ่านเอง ดูมีขื่อมีแปขึ้นด้วย

114 Nameless Fanboi Posted ID:/Kwk6hvAFK

กูเคยโดนลดดาว หักดาวเพราะฉากอย่างว่าเยอะไปค่ะ
กูก็อ่าว กูเขียนนิยายเย pwp ไม่มีห่าอะไรนอกจากเย กูอยู่หมวดผู้ใหญ่ค่าาาาาาา ต้องการอะไรจากนิยายหมวดนี้ค้าาา

115 Nameless Fanboi Posted ID:yiX17qKPSC

มีแบบ รอออกครบก่อนค่อยมาให้ดาวเพิ่ม ด้วย
- ., - บางทีถ้าไม่ช่างแม่งก็อยู่ยากนะ

116 Nameless Fanboi Posted ID:31igp/zWwS

>>114 หวังพล็อตใน pwp ??

ทำใจนิยายทุกเรื่องมีคนชอบอ่านก็มีคนไม่ชอบได้เหมือนกัน บางคนรีวิวให้ 4-5 ดาว อ่านสนุกมาก แต่บางคนให้ 1 ดาวบอกอ่านแล้วง่วง อ่านได้แค่ฆ่าเวลาเท่านั้นแหละ บอกงานขยะ ผิดหวังต้นเรื่องถึงกลางเรื่องสนุกมาก แต่ท้ายเรื่องไม่ไหวเลย ก็มีถมไป

117 Nameless Fanboi Posted ID:31igp/zWwS

>>115 สิทธิ์ของเขาเหมือนกัน เพิ่งอ่านไปครึ่งเล่มขอให้ 3 ดาวก่อนแล้วกันนะ ไว้อ่านจบมาพิจารณาเพิ่มว่าจะให้กี่ดาวดี ควรช่างแม่งไปนั่นแหละ สนมากก็เครียดมาก อย่าใส่ใจ

118 Nameless Fanboi Posted ID:V2k99YHvNp

>>113 ดาวถ้ามาให้ซ้ำคือมันจะนับอันล่าสุดนะ แต่กูงงว่าจะถามหรืออะไรแบบนี้ จะต้องกดดาวทำไม ไม่กดก็พิมพ์ถามได้หรือเขาไม่รู้ คิดว่าจะต้องกดดาวด้วย? อยากเม้นแบบถามไปว่า อ่านได้หรือยังคะ มากดเพิ่มดาวให้หน่อย55555

119 Nameless Fanboi Posted ID:k63/PG1C9m

เพื่อน มีวิธีช่วยคิดพล็อตคร่าวๆแบบเริ่มเรื่องจนจบเรื่องไหม คือนี่เป็นคนที่แบบนึกออกแต่ช่วงแรกๆ(สมมติมี10ตอนแต่นึกออกแค่5ตอน)แล้วพอแต่งแล้วมันจะตันอยู่ตรงนั้น ละมันจะแต่งไม่จบอะ T___T

120 Nameless Fanboi Posted ID:8ep6SCEzyX

>>119 กูมีแค่พล็อตคร่าวๆ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างอะ ไม่ได้วางละเอียด พอจะเขียนก็ด้นสดเอา เคยวางพล็อตละเอียดจากต้นจนจบเป็นทรีตเมนต์แต่ละตอน สรุปไม่รอด กูหมดแพชชั่น หมดความตื่นเต้นแล้วเพราะรู้บรีฟแต่ละตอนหมดแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น กูเป็นนักเขียนสายคาร์ด้วย เลยใช้ตัวละครดำเนินเรื่อง ไม่เน้นพล็อตมาก

121 Nameless Fanboi Posted ID:wMsNy9ScZr

Ky พล็อตกู inspired จากเพลงไทยเพลงนึง กูจะเอาชื่อเพลงหรือเนื้อเพลงสักท่อนนึงมาตั้งชื่อนิยายได้มั้ย แต่ไม่ได้เอาเนื้อเพลงไปใส่ในนิยายเลยนะ กูต้องขอค่ายเพลงก่อนมั้ย ?

122 Nameless Fanboi Posted ID:qLOIyjtap3

>>119 มึงต้องคิดตอนจบให้ออกไหมอะงั้น ระหว่างทางช่างแม่งก่อน สมมติเริ่มเรื่องมามีคนในบ้านได้ยินแสกสาก ก้องแก้งในบ้าน แล้วยังไงก็จะอยู่อย่างนั้นไม่ได้ใช่ปะ ต้องหาวิธีจบมันไปตามหมอผีมาทำพิธีแก้แล้วสุดท้ายคนในบ้านก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรอีก นอนได้
ส่วนรายละเอียดระหว่างทางก้ค่อยคิด เติมๆ ไปเรื่อยๆ
มึงบอกแต่งไม่จบซะที เพราะมึงไม่ได้คิดตอนจบไว้ไง
ให้ตอนจบเป็นเป้า แล้วหาเรื่องราว หาวิธีการนำไปสู่ตอนจบไง

123 Nameless Fanboi Posted ID:31igp/zWwS

>>120 นักเขียนสายคาร์คือ เน้นความรู้สึกตัวละครเหรอ บรรยายความคิดในหัวตัวละครเยอะๆงี้

124 Nameless Fanboi Posted ID:Y4s7gmhJNv

>>123 สายคาร์คือเอาให้เรื่องโฟกัสอยู่ที่ตลค. ความรัก การเติบโตตลค. บลา ๆ ว่าไป ไม่ได้โฟกัสที่พล็อต แก้ปมปริศนา ตกลงใครฆ่าใคร อะไรแบบนั้นน่ะ อาจจะมีพล็อตมาเสริมปมตลค. หรือมีพล็อตแทรกพอกรุบให้เรื่องดูมีอะไร ๆ บ้าง แต่ก็ไม่ได้เป็นจุดสำคัญขนาดนั้น
ง่าย ๆ ก็คือเด่นที่คาร์พระนาง ไม่ได้เด่นที่พล็อต เรื่องแนวรัก ๆ เบาสมองส่วนมากก็เน้นตลค.แบบนี่แหละ เวลาคิดเรื่องก็อาจจะมีตลค.ก่อน ร่างไว้ว่าพระเอกนิสัยงี้นะ หานางเอกนิสัยงี้มาคู่ให้ แล้วค่อยคิดว่าจะให้มันมารักกันได้ยังไง มีโมเม้นมีอุปสรรคอะไร แต่ถ้าสายพล็อตก็อาจจะมีแนวเรื่องไว้ก่อน เช่น จะเกิดอะไรขึ้นถ้าโลกนี้ไม่มีกฎหมาย คิดตีมได้แล้วค่อยไปหาตัวเอกมาดำเนินเรื่อง
ไม่รู้เข้าใจง่ายขึ้นมั้ยนะ แต่ก็ประมาณนี้
ส่วนตัวกูก็เป็นสายคาร์ แต่งง่ายดี แต่ถ้าคาร์ไม่มีเสน่ห์ก็แป้ก แค่นั้นแล

125 Nameless Fanboi Posted ID:qLOIyjtap3

กุอิจฉานข.แมสๆ จัง บางทีคำโปรยโล่งๆ หน้าแนะนำข้อมูลนิยายโล่งๆ คนก็ไว้ใจกดเข้าชั้นเพียบละ ในขณะที่กูต้องใส่ข้อมูลเชิญชวนมากมาย ก็ยังได้เท่าหมอยเขาเส้นนึง

126 Nameless Fanboi Posted ID:FVCkeXO0hX

>>124 พอเข้าใจ งั้นของเราคงสายคาร์เหมือนกัน
>>125 ส่วนใหญ่จะเขียนหลายเรื่องแล้วคนติดตามเยอะ เป็นเหมือนกันนิสัยแบบนี้ไม่ดีต่อตัวเองต้องหยุด

127 Nameless Fanboi Posted ID:8ep6SCEzyX

>>125 จริงๆ หน้าโปรยนิยายพยายามทำให้สั้นกระชับ เร้าใจเฉยๆ ก็พอ จะได้กระตุ้นให้คนอยากลองคลิ๊กอ่านตอนแรกแล้วเขาก็จะจำได้ว่าเรื่องนี้มันเกี่ยวกับอะไร อย่าใส่ข้อมูลมาก บางทีคนอ่านเลื่อนๆ ลงมาเจอแต่โปรยแนะนำเรื่องเยอะแยะเขาก็พาลไม่อยากอ่านต่อ ตีหัวคนอ่านเข้าบ้านให้ได้ก่อนเลย แต่อีกอย่างคือนักเขียนแมสๆ เขาเขียนมาหลายเรื่องแล้ว เปิดเรื่องใหม่คนเลยไว้ใจฝีมือก็เลยตามกดเข้าชั้นก่อน เดี๋ยวมึงเขียนไปเรื่อยๆ ลงอย่างสม่ำเสมอ เขาก็ค่อยๆ ติดตามมึงเองแหละ

128 Nameless Fanboi Posted ID:Y4s7gmhJNv

ขอ KY หน่อย เขียนนิยายถ้ามันไม่สมจริงจะโอเคมั้ยวะ หรือว่าเมคขึ้นเองยังไงก็ได้ กูว่าจะเขียนแนวองค์กรลับ หรือไม่ก็สืบสวนสอบสวน แต่มันหาข้อมูลลำบาก + ของจริงเขาอาจจะไม่ทำกันแบบนี้ นักอ่านเขาจะหาว่ากุเขียนอะไรไม่สมจริงมั้ย คือใจนึงกูก็คิดว่าเขียนไปเหอะแม่ง ยังไงก็ไม่ใช่ข้อมูลทางการแพทย์ที่สร้างความเข้าใจผิดในชีวิตจริงได้ แต่อีกใจก็กลัวคนอ่านจะต้องการความสมจริงจ๋าแล้วกุโดนฉอดน่ะ พอดีใจบาง แง

129 Nameless Fanboi Posted ID:qLOIyjtap3

>>128 มีละครที่เพิ่งจบไปเรื่องหนึ่ง สร้างปมเกี่ยวกับเทคนิคทางการแพทย์ที่ผิดจรรยาแพทย์สุดโต่ง เขาขึ้นจั่วหัวประมาณว่าไม่มีเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงในทางการแพทย์ หรือไม่ใช่ข้อมูลทางการแพทย์ที่แท้จริง อะไรทำนองนี้แหละ
ส่วนเรื่ององค์กรลับ แก๊งยากูซ่า มาเฟียต่างๆ นิยายของณร. มีคนเอามาวิจารณ์อยู่นะว่ายากูซ่าปลอม แต่เขาก็ขายได้ขายดี
อันนี้ก็เป็นสิ่งที่กูเห็นๆ มา

130 Nameless Fanboi Posted ID:UVpne3Snfl

>>128 ควรให้สมจริง ถ้าไม่ใช่เรื่องจริงมึงก็ทำเป็นโลกคู่ขนานแฟนตาซีไปเลย เอาเท่าที่ไหว จุดนี้แหละที่แยกนิยายแนวการแพทย์ที่เจ๋งกับเฉยๆออกจากกันอ่ะ

131 Nameless Fanboi Posted ID:5DgoWpxXSA

>>121 คิดว่าน่าจะต้องขออนุญาต ไม่รู้ผิดกฎหมายมั้ย แต่เอามาแบบนี้น่าจะขอเพื่อมารยาท

132 Nameless Fanboi Posted ID:5DgoWpxXSA

>>128 เมืองสมมุติ ประเทศสมมุติไปเลย ไม่ใช้ปี พ.ศ. แต่กำหนด ปีการนับเวลา เดือนปีใหม่ เท่านี้มึงก็ไม่ต้องมาห่วงเรื่องจริงของพวกองค์กรอะไรแล้ว

133 Nameless Fanboi Posted ID:rXbDLMBg3N

>>101 ความจริง "ฉลาด" เนี่ยมันมีหลายรูปแบบนะ ฉลาดมีไหวพริบเป็นรูปแบบหนึ่งที่น่าจะเขียนยากที่สุดแล้วมั้ง ถ้ามือไม่ถึงส่วนมากจะเนิร์ฟสมองคนอื่นกันซะมากกว่า
ฉลาดที่เขียนง่ายกว่าคือฉลาดความรู้ เช่นเก่งเทพความรู้วิทยาศาสตร์ เลข ความรู้รอบตัวไรงี้ เพราะมึงคนเขียนหาข้อมูลได้! แต่ถ้าให้ตัวละครรู้แล้วพูดออกมาได้เลยมันก็จะดูเป็นคนฉลาดได้เลย เช่นว่าเลขเนี่ย ถ้ามีคนที่กวาดตาดูบิลก็รู้ว่ายอดรวมมันผิด หรือว่าบอกค่าหารต่อหัวได้เลย คนอื่นก็จะว้าวมาก (ประสบการณ์ตรง ไปกินกับที่ทำงานแล้วนายถามผ่าน ๆ ว่าต่อหัวสักเท่าไหร่กูก็ถามจำนวนคนแล้วบอกได้เลยว่า ประมาณสองร้อยปลาย ๆ มั้งคะ สัก 285-290 ในขณะที่เพื่อแม่งยังควักมือถือมาเปิดแอปไม่เสร็จเลย แล้วทายแม่นด้วย ทุกคนดูทึ่งมาก 555 ก็แค่ตอนนั้นเลขมันหารง่ายแหละ หาร 19 มั้ง มันมีทริคอยู่ ^^) หรือเป็นตัวละครฉลาดความรู้รอบตัว ถามไรตอบได้หมดงี้ก็ได้นะ

134 Nameless Fanboi Posted ID:RcSyoLBs1v

วันนี้ทั้งวัน โม่งเพิ่งเข้าได้ชะ ?

135 Nameless Fanboi Posted ID:+mS.uMpxNB

>>134 ไม่นิ แค่ช่วงนี้โม่งเงียบๆ นะ ไม่มีเรื่องคุยเลย 55+

136 Nameless Fanboi Posted ID:4VzJiXD.sV

มันล่มตั้งแต่เมื่อคืน เพิ่งเข้าได้หัวค่ำ กูคิดว่าจะปลิวถาวรซะแล้ว

137 Nameless Fanboi Posted ID:9QlVOlKsam

ล่มเกิน19 ชั่วโมง ค้นเห็นอยุ่แต่เว็บเข้ามะได้

138 Nameless Fanboi Posted ID:TaKhKg8EW2

ในกรุ๊ปนข.ปากดีจังวะ​ คนเตือนแล้ว อยากได้ภาพเทรซโง่ๆมึงก็ไปจ้างเถอะ​ หลักฐานมาให้ขนาดนี้แล้วยังโง่ไม่เชื่อ​ไปเชื่อหลักฐานโง่ๆสร้างภาพ​ มันก็ไม่ลดราคาให้มึงหรอกนะ

139 Nameless Fanboi Posted ID:.GFIxPF4.E

Ratings ใน Meb เท่าไหร่ถึงจัดว่าเยอะ หรือนิยายเรื่องนั้นเป็นที่รู้จักในความเห็นพวกมึงอ่ะ

140 Nameless Fanboi Posted ID:x7X64wN+mE

>>139 สำหรับกุสองร้อยขึ้นไป

141 Nameless Fanboi Posted ID:7DPnCpoVIy

>>138 เห็นแก่ของถูกอะในกรุ๊ป

142 Nameless Fanboi Posted ID:x5+NW.trpR

>>138 มึงดูแอดมินกลุ่มด้วย อวยขนาดนั้นคนเขาเลยไม่อยากยุ่งกัน ปล่อยให้โดนฟ้องเองกับตัวเถอะจะได้รู้สึก

143 Nameless Fanboi Posted ID:TaKhKg8EW2

>>141 >>142 สงสารนักเขียนที่โง่ไปจ้างฉิบหาย​ มีคนสงสารเหมือนกู​แล้วมีคนถามสงสารนักเขียนจริงเหรอ555 เขาไม่สงสารจะมาเตือนเหรอ​ นักวาดเคยมีคดี​ มีคนบอกทำครั้งแรกให้อภัยได้555555​
นักเขียนคนไหนเขามาอ่านก็เตือนๆเพื่อนนักเขียนด้วยกันละมึง​ แอดแม่งขยันลบโพสโง่ๆ​ ทีงานเขียนโดนก็อปทำเป็นเรื่องใหญ่​ พอไปก็อปงานวาดคนอื่นไม่เป็นไรครั้งแรกไม่รู้มีผิดพลาดกันได้ เฮอะๆ

144 Nameless Fanboi Posted ID:q7KeAPAqeb

Ky ขอถามโง่ๆเลย แต่งนิยายฟีลกู๊ด น่ารักๆ อ่านแล้วอมยิ้ม ต้องแต่งยังไง กูแต่งเป็นแต่แนวเทาๆ ดาร์กๆ หม่นๆ พอจะเปลี่ยนโทนแล้วยากสัส กูอ่านนิยายของ กว. ที่พวกห้องนิยายแนะนำ กูชอบมากๆ เค้าใช้คำไม่เยิ่นเย้อแต่เห็นรอยยิ้มในตัวหนังสือเด้งออกมา กูอยากแต่งทำอย่างเค้าไม่ได้

145 Nameless Fanboi Posted ID:x5+NW.trpR

>>143 ต่างวงการกผ้งี้ ถ้าเื่องอีนี่ไปแดงในวงนักวาด บอกเลยล่มจมกว่านี้อีก แต่มาวงนักเขียนไว พวกโง่เยอะตบตาได้
แต่ไมพวกนักวาดไม่ค่อยสนกันวะ ทีตอนนักเขียนต้มนักวาดเรื่องราคานั่นลามไปยันทวิต นี่แทบไม่แตะกันเลย หรือแม่งก็มีปัญหาเรื่องเทรซกันจนเป็นปกติ(?)เลยไม่ค่อยสนเท่าไหร่ เพราะดราม่านักวาดหลักๆแม่งก็เทรซกันเองนี่ละ

146 Nameless Fanboi Posted ID:x5+NW.trpR

>>144 ก็ตรงข้ามกับแนวที่มึงเคยแต่งไงเพื่อน ใ่ฟีลกู้ดเยอะ ๆ ดราม่าไม่มี มีแต่ฉากกุ๊กกิ๊กที่อ่านแล้วเขินแทนงี้

147 Nameless Fanboi Posted ID:TaKhKg8EW2

>>145 มันก็บอกอยู่ว่าไม่คบใคร หรือไม่มีคนคบกันแน่5555 เขาเหม็นจะตาย ที่ตามมีแต่ติ่งเกา นักวาดหลายคนในเฟสที่ไปเม้นท์ในกลุ่มกูก็เห็นแชร์มา แหม่กัน กูว่าคนคงเหม็นแหละ ขายไปเถอะกับนักเขียน นักเขียนหลายคนก็ไม่เอาด้วย นักวาดในทวิตที่กูตามๆกฟ้ไม่มีใครสนนางนะ ส่วนใหญ่เขาไม่คบพวกเทรซภาพดารากันอยู่แล้ว ถ้าจะแฟนอาร์ตศิลปินก็เป็นลายเส้นตัวเอง ถึงภาพเหมือนยังไงก็ต้องมีแนวทางไม่ใช่ปาดโง่ๆทับไป

148 Nameless Fanboi Posted ID:x5+NW.trpR

>>147 แล้วนักเขียนที่มาอวยนี่ใช่พวกที่ชอบใช้ภาพปกนิยายรักสมัยเก่าปะวะ ที่เอาหน้าดรามาดราฟขึ้นปกจนเจ้าตัวมาเจอเองยังงงอะ555

149 Nameless Fanboi Posted ID:rQcqcAM8dQ

กูขอนอกเรื่องนิดนึง มึงเคยได้ยอดขาย meb เยอะสุดกันเท่าไหร่บ้างวะ พวกท้อป 5 หมดรักกับโรมานซ์นี่ถึง 3,000 โหลดมั้ย

150 Nameless Fanboi Posted ID:+lvruS5UB2

>>149 กูแน่ใจว่ามีคนถึงแน่นอนอะ กูไม่ดัง แต่เคยมีเรื่องหนึ่งติดอันดับหนึ่งขายดีอยู่วันหนึ่ง ยอดศิริรวมสูงสุดตอนนี้ประมาณ 2200 ฟินไม่ลืม 55555 หนูอยากขึ้นที่หนึ่งอีก แต่ยากส์มากกกกก

151 Nameless Fanboi Posted ID:3KKJnObrFf

>>150 พวกท็อปประจำปีน่สจะเยอะกว่าสามพันแล้วกุว่า บางคนขายไม่ถึงครึ่งเดือดยอดห้าพันแล้ว

152 Nameless Fanboi Posted ID:Iq+pu.Sxuu

อยากรู้ในมุมนักอ่านน่ะ คือกูจะทำอีบุ๊คไง แล้วจะแถมตอนพิเศษสองตอน ราคาแพงกว่าบนเว็บประมาณยี่สิบกว่าๆ คือบนเว็บลงแต่เนื้อหาหลักไปเลยว่างั้น แต่ก็มีเซอร์วิสคนซื้อด้วยการใส่ตอนพิเศษไปแพ็กเกจละตอนงี้ แต่อีบุ๊คคือแค่มีตอนพิเศษสองตอน(คนละอันกับแพ็กเกจ)กับปก โดยเนื้อหาคือเอาสองแพ็กเกจที่มีตอนพิเศษมารวมขายด้วยอะ มันคุ้มปะวะ

153 Nameless Fanboi Posted ID:NO8ufZ7D4p

>>152 คือกูอ่านแล้วงงหน่อยๆ แต่ว่าแต่ละแบบซื้อแล้วก็จะได้อ่านครบทั้งหมดใช่มั้ย แบบไม่ว่าซื้อแบบไหนก็ได้ตอนพิเศษ? ในฐานะคนอ่านนี่เกลียดแบบซื้อแล้วได้ไม่ครบ แบบเผลอซื้อเหรียญไปละ อ้าว ตอนหลังมาบอกใครซื้ออีบุ๊คมีตอนพิเศษเพิ่ม กูแดรก.... เราเลิกกันไปเลยค่ะคุณนักเขียน

154 Nameless Fanboi Posted ID:2ByiBpq31F

สอบถามหน่อยจ้า ถ้านักเขียนโนเนม ระหว่างขยันออกเรื่องสั้นหลายๆเรื่องราคาไม่ถึงร้อย กับแต่งเรื่องยาวราคาสูงหน่อยแต่แต่งให้ดีไปเลย อันไหนเงินดีกว่ากันอะ
คือตอนนี้ทำแบบหลังอยู่ แต่จะสามเดือนละมัวเก็บรายละเอียดไม่ได้ลงสักที ทีนี้ไปเห็นเหล่านักเขียนแชร์กันในกรุ๊ป แต่ละคนมีหลายเรื่อง ราคาไม่แพง ออกเดือนละเรื่องงี้ บางคนก็เดือนละสองเรื่องงี้ คือ omg มาก ยอดหลายหมื่นเลย เห็นแล้วหูตามันลุกวาวว เลยอยากรู้ว่าแบบไหนดีกว่ากันทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เรื่องหน้าจะได้ลองดูบ้างน่ะ

155 Nameless Fanboi Posted ID:kLWZ6C9qZB

>>154 ถ้าระยะยาวต้องเป็นเรื่องยาวพอดีๆ ราคาสูงหน่อย เพราะลูกค้าจะมั่นใจที่คุณภาพเรื่อง ส่วนที่ขายถูกๆ สั้นๆ คนส่วนใหญ่จะยึดติดกับเรื่องราคายิ่งกว่า เกิดถ้าอยากเปลี่ยนสไตล์มาขายเรื่องยาวราคาสูง เค้าอาจจะลังเลว่าจะซื้อไม่ซื้อดี

156 Nameless Fanboi Posted ID:ohcTjrFi.Q

ถามคนส่งพิจารณาสนพ.หน่อยดิ ของกูอยากให้เรื่องมีตอนพิเศษด้วยเวลาส่งไปคือเอามาทั้งตอนพิเศษด้วยเลยหรือเอาแค่เรื่องถึงตอนจบ พอผ่านแล้วค่อยส่งตอนพิเศษให้วะ ขอบคุณล่วงหน้าเคร้บ

157 Nameless Fanboi Posted ID:FR2xNCBZ03

>>156 เอาหมด

158 Nameless Fanboi Posted ID:V8+201u24E

>>155 ขอสอบถามต่ออีกหน่อยน้า เรื่องยาวพอดีๆนี่ประมาณสักกี่คำดี แล้วราคาสูงขึ้นมาหน่อยประมาณไหน อยากรู้ราคากลางๆน่ะ เผื่อไว้เรื่องถัดไป ตอนนี้ของเราประมาณแสนคำ กะจะขายสักเรทร้อยปลาย ไม่ก็สองร้อยกลางๆ คือแพงไปไหมง่ะ โนเนมด้วยกลัวขายไม่ออก แต่ก็ตั้งใจเขียนมานานมากอะเนอะ ขอบคุณล่วงหน้าจ้า

159 Nameless Fanboi Posted ID:FR2xNCBZ03

>>158 การตั้งราคา ebook เรทก็ราวๆ จำนวนคำ x 0.002 - 0.0025 ถ้าหนังสือก็บวกเข้าไปได้อีก ราคาหนังสือมันสูงกว่า ebook อยู่แล้ว สำหรับกุเล่มแรกๆ อาจจะไม่ต้องตั้งราคาสูงมาก แต่ก็ไม่ควรต่ำกว่ามาตรฐาน มึงต้องให้ค่างานมึงก่อนอ่ะว่าคู่ควรที่จะได้ อย่ากดราคางานตัวเอง เพราะถ้าวันหนึ่งงานแมสขึ้นมาแล้วอัปราคาโดดจากเล่มแรกเกินไปก็ดูแปลกๆ นะ 555

160 Nameless Fanboi Posted ID:FR2xNCBZ03

>>158 อย่าดูถูกว่าตัวเองโนเนมถ้างานเราดีพอ นักเขียนดังๆ ก่อนที่เขาจะดัง เขาก็เป็นโนเนมเหมือนกันมึง สู้ๆ

161 Nameless Fanboi Posted ID:V8+201u24E

>>159 ขอบคุณมากนะ ฮีลใจมากมากเลย ขอบคุณจ้ะ

162 Nameless Fanboi Posted ID:tG47dkdpje

>>160 อันนี้กูเห็นด้วย ทุกคนเคยโนเนมมาก่อนทั้งน้ันโกโก้

163 Nameless Fanboi Posted ID:6YX/xN0i8Q

>>153 แพ็กเกจจะได้ตอนพิเศษคั่นกลางเสริม พอทำอีบุ๊คคือเอาทั้งหมดมารวมกัน+ตอนพิเศษหลังจบอีกสองตอน

164 Nameless Fanboi Posted ID:wUkSVAqYAV

คิดเห็นยังไงกับดราม่านักเขียนกับร้านหนังสือเคสล่าสุดบ้างวะ กุงงที่คนเข้าข้างร้านแล้วถล่มนักเขียนแค่เขาทักเข้าประเด็นเกินไป แต่ทางร้านตอบกลับกวนตีนกว่าเยอะ แถมยังไม่ตอบคำถามที่เขาถามอีก

165 Nameless Fanboi Posted ID:NO8ufZ7D4p

>>164 ใครอะชี้เป้าด้วย จะได้ตามไปถูก

166 Nameless Fanboi Posted ID:vwCVOOnVUW

>>154 แชร์ ปสก ของกูแล้วกัน กูก็โนเนม เคยแต่งยาว เป็นแสนคำ แล้วปีนึงแต่งได้ 1-2 เรื่องเต็มที่ แล้วขายไม่ค่อยดีอีก พอนิยายยาวและตั้งราคาสูง โนเนมอีก นักอ่านจะลังเลเวลากดซื้อ (เพราะกูก็เป็นนักอ่าน ถ้าจะเปย์แพงๆ ก็ต้องเลือกพวกบิ๊กเนมไว้ก่อน) อีกอย่างต้องใช้เวลาเพราะกูเป็นเพอเฟคชั่น กูรู้สึกช้าไม่ทันกิน นักอ่านไม่รู้จักกูซะที กูก็เลยเปลี่ยนแผน แต่งยาวกลางๆ 4-5 หมื่นคำ สลับกับสั้น 1-2 หมื่นคำ ยาวแสนคำกูพักไว้ก่อน แต่กูไม่ตีนเขี่ยนะ ตั้งใจทุกเรื่อง เน้นขายเร็วหน่อย แต่งเดือนละ 2-3 เรื่อง ขายมา 5-6 เรื่องแล้ว ยอดกูก็ค่อยๆ ดีขึ้นเพราะนักอ่านเริ่มคุ้น แต่ยังไม่ได้เป็นหมื่นแสนหรอก กูแค่หาทริคของกูไปเรื่อย เปลี่ยนแนวนิยายไปเรื่อยๆ ลองผิดลองถูกอยู่เหมือนกัน

ถ้ามึงไหว ลองแต่งสั้น-ยาวพร้อมกัน มึงต้องชิงพื้นที่โปรโมท ให้นักอ่านเห็นหน้าบ่อยๆ ส่วนเรื่องตั้งราคา กูจะแยกนามปากกา แอคเค้าเดียวกันนั่นล่ะ ยาวราคานึง สั้นอีกราคานึง นักอ่านจะได้ไม่ยึดติดว่ากูขายแต่ของถูก แต่จะขายดีไม่ดีอยู่ที่ฝีมือมึงกับเคมีมึงจะตรงกับนักอ่านมั้ยด้วยอ่านะ เล่าเฉยๆ สุดท้ายก็แล้วแต่มึงเลย

167 Nameless Fanboi Posted ID:k7slufroSw

>>164 ลบโพสละยังอะ ทำไมกูไม่เห็น

168 Nameless Fanboi Posted ID:k7slufroSw

>>154 กูเห็นมีนิยายจีนขายหลายๆ เล่มจบอะ เล่มละสองหมื่นคำ แล้วเข็นออกทุกเดือน ได้ป้ายเบสเซลเลอร์ด้วย กูไม่รู้ว่าแบบนี้มันจะดีได้ตลอดไหม ในระยะยาวบางทีคนจะเบื่อรึป่าว มาทีละนิด ละนิด กว่าจะจบ อะไรแบบนี้ แต่ก็แปลว่ามันส่งผลให้คนจดจำนามปากกาได้ดี เพราะกูเห็นเขาได้ป้ายแกงมาสองเรื่องละ ที่ทำแบบนี้ เขาอาจจะเขียนดีด้วย

169 Nameless Fanboi Posted ID:ZhKMMO1o..

>>162 >>166 >>168 ขอบคุณนะ คงต้องลองดูทุกทางเผื่อจะบิ๊กเนมกับเขาบ้างนะ ขอบคุณอีกรอบจ้า

170 Nameless Fanboi Posted ID:AN5YO.Cu.I

มึง ลงนิยายเรทรุนแรงในเด็กดีแค่เปิดเรื่องไว้ไม่กี่ตอนแล้วชี้ทางให้ไปอ่านต่อเว็บอื่นนี่ถือว่าเสียมารยาทมั้ยวะ โม่งคิดว่าไงบ้าง

171 Nameless Fanboi Posted ID:mcjizr1iFe

>>170 ไม่เสียมารยาท แต่ทางดดไม่ให้ชี้ทางอะมึง

172 Nameless Fanboi Posted ID:U/LH9vWvUs

>>170 อย่าแปะลิงค์ แค่บอกว่าจะไปต่อที่ไหน

173 Nameless Fanboi Posted ID:u+6bcR8zuz

>>171 สงสัยเหมือนกัน แต่นิยายบางเรื่อง ตอนมี nc ยังตัดออกแล้วแปะลิ้งก์ชี้ทางไปที่อื่นได้เลย หรือตอนนี้ไม่ได้แล้ว?

174 Nameless Fanboi Posted ID:ygoBF5N1kb

>>173 จำได้ว่าห้ามแปะลิงค์ มีคนแจ้งก็โดนแบนนะ ถ้าแปะลิงค์อะ ตอนนี้ไม่แบนละเหรอ

175 Nameless Fanboi Posted ID:ygoBF5N1kb

>>173 ห้ามแปะเนี่ยนานแล้ว คือตอนนี้แปะได้เหรอ ที่กูจะสื่ออะ555

176 Nameless Fanboi Posted ID:Wt0gXUbUZR

แต่ก่อนอ่านมีนะบางเรื่อง ลิ้งก์ต่อให้ไปหาในกรุ๊ปบ้างงี้ แต่ลงในดด. เหมือนเดิม แค่พอถึงฉากไม่สมควรก็ตัดออกไปลงที่อื่น

177 Nameless Fanboi Posted ID:8x8B8gpQK1

>>176 เมื่อก่อนลิงก์ก็ห้ามนะ ใช้แค่บอกเอาวาาไปหาที่ไหน ว่าแต่เมื่อเขาห้าม ยังจะดื้อไปลงทำไมอะ

178 Nameless Fanboi Posted ID:7Y7wZbP/bX

>>177 กระจายฐานคนอ่านมั้ง

179 Nameless Fanboi Posted ID:/rhvQs+3mh

ในเว็บนักเขียนก็ยังเคยเห็นคนแชร์วิธีแอบลง nc เอาให้ไต่อันดับได้พอสมแล้วรีบลบฉากออก
ทำแบบนี้ทุกตอน คนอ่านก็จะรีบมาอ่าน คนเขียนได้ยอดแล้วค่อยรีบลบก่อนทีมงานมาเห็น ก็เห็นขึ้นท็อป 10 กันไปหลายรายนะ

180 Nameless Fanboi Posted ID:srkpGGy2do

>>179 แล้วปากดีบอกเว็บศีลธรรมสูงด้วยนะ เว็บไม่สูง แต่พวกที่ไปแหกเขาน่ะศีลธรรมต่ำเกินไปละ กฎง่ายๆ ยังปฏิบัติกันไม่ได้เลย ทำอย่างกับที่อื่นไม่มีให้ลง ไม่ได้ลงเด็กดี โดนแบนทีดิ้นเป็นหมาโดนน้ำร้อนลวก

181 Nameless Fanboi Posted ID:YRtWrYfL5W

>>180 ยอดวิวมันหอมหวานเว้ย รี้ดที่ว่าแน่ยังแพ้ดด. พวกกระหายยอดวิวเลยจ้องจะด่าอยู่ร่ำไป คงกะด่าจนกว่าเว็บจะเปลี่ยนใจมั่ง แต่โทษนะสำหรับดด.แม่งก็เสือนอนกินแล้วอะ เขาไม่แคร์มึงหรอก อีกอย่างเขามีเป้าหมายชัดเจนละว่าสร้างมาเป็นเว็บสำหรับเด็ก เห่าไปเถอะไม่สนหรอก

182 Nameless Fanboi Posted ID:.EDmjf2OIH

>>179 พวกที่ทำแบบนี้ทำให้เว็บโดยว่าอยู่นะแบบว่า ทีเรื่องนั้นเรื่องนี้ยังมีแต่ไม่แบน คือน่าจะตามมาดูไม่ทัน

183 Nameless Fanboi Posted ID:EGU8fXQWEV

ขอแชร์ประสบการณ์นิยายแมสแบบงงๆหน่อย เห็นว่ากันว่าผันตัวสายแนวธรรมดาไปเขียนncแล้วยอดพุ่งลิบลับจากเดิม กูมีคล้ายๆกัน คือกูสายแฟนตาซีเว้ย เรื่องแรกแนวโรงเรียนเวทมนตร์แต่งๆหยุดๆมารวมๆห้าปีกว่าได้ร้อยกว่าตอน ยอดวิวรวมสามหมื่นกว่ายอดแฟนพันนิดๆ พอมาเรื่องสองแนวต่างโลกในเกม แต่งๆหยุดๆมาสองปีกว่าได้ห้าสิบกว่าตอน ยอดวิวรวมหมื่นกว่า ยอดแฟนหกร้อยกว่า กูละสับสนชีวิติ ตอนนี้กูควรโฟกัสไปทางไหนดีวะ ตอนนี้เริ่มว่างอะว่าจะปั่นให้จบภายในปีนี้ แล้วแม่งสองเรื่องนี้ก็คนละแนวอีก เรื่องแรก pov3 ภาษาย้อนยุคหน่อย ๆ เรื่องสอง pov1 ภาษาสมััยนี้แหละกูลองปั่นสลับกันอาทิตย์ละตอนแล้วสมองไม่ไหว555 แต่ถ้าเอายอดขายเรื่องแรกแม่งขายดีแบบงงๆ ทั้งที่คนอ่านต่อตอนไม่มากอัปข้ามวันกว่าจะเม้น บางตอนไม่มีเม้นไรเลย ส่วนเรื่องสองขายไม่ดีเท่าแต่ยอดคนอ่านต่อตอนดีกว่ามาก อัปปุ๊บเม้นปั๊บยอดแฟนเพิ่มครั้งละเฉลี่ย30+
ปล.ทั้งหมดไม่มีnc ลงแค่ดด.ที่เดียวด้วย

184 Nameless Fanboi Posted ID:iabpDHREet

พวกมึงเชื่อเรื่องแอร์ไม่เย็นในทวีตป่าววะ กูว่าแม่งออกแนวนิยายๆว่ะ นี่คือกุพูดในฐานะที่อ่านนิยายมาเยอะนะ

185 Nameless Fanboi Posted ID:vuonbNZi/r

>>184 เรื่องจริงยิ่งกว่านิยายนี่ไม่เคยได้ยินเหรอ

186 Nameless Fanboi Posted ID:PMlxBgdL/w

>>184 แต่นิยายพวกการลงโทษทาสกะบริวารก็เอามาจากเรื่องจริงนะ เรื่องที่เล่ากันอะ มีเรื่องนึงกุเชื่อคือลงบ่อขี้ อันนี้ไม่ใช่แค่ในคุก ฝึกทหาร ฝึกตำรวจยังมี 55

187 Nameless Fanboi Posted ID:fneJ6jX7Pf

>>184 เรื่องแอร์ไม่เย็น นี่เชื่อนะ ถ้าอ่านที่โควทและมีคนพูดถึงมีหลายเสียงเลยที่บอกว่าจริง คนรอบตัวเจอ อ่านแล้วโคตรทริกเกอร์เลย แต่เรื่องฝังบาตรแตก อันนี้ต้องหาร อาจจะมีส่วนที่จริงและส่วนที่เข้าใจผิด

188 Nameless Fanboi Posted ID:lYxy5DxQ2e

นิยายเรื่องนี้แมสมาก มันส์มาก 55555+ กูชอบเรื่องมูๆ อยู่แล้วด้วย แต่กูไม่ศรัทธาอะไร นอกจากพระพุทธเจ้านะ

189 Nameless Fanboi Posted ID:dV9Nc5s.BM

>>188 บวกหนึ่ง กูบูชานักวิทย์ แต่ชอบมาก มันส์มาก แฟนตาซีสัสๆ เอาอีกค่ะ เอาอีกกก

190 Nameless Fanboi Posted ID:lYxy5DxQ2e

มีดราม่านักอ่านเม้นตินักเขียนอีกละ แล้วเหล่าลูกหาบนักเขียนไปรุมด่านักอ่านที่มาติ กูไม่รู้นะว่านักเขียนออกมาดราม่าแล้วทำให้เหล่าลูกหาบเกิดความเห็นใจจนต้องออกมาทำตัวเป็นผู้พิทักษ์ หรือลูกหาบประสาทแดกเอง
แต่คำติของนักอ่านนี่ มันก็ปกตินะ แค่ตรงไป
- * - มีลูกหาบเยอะกูอย่าทำตัวเป็นอภิสิทธิ์ชนเลย
พวกลูกหาบก็มีสติหน่อย ใครจะดิสเครดิต มีหลักฐานชัดแค่ไหน หรือถึงจะดิสมันส่งผลมากขนาดนั้นเลยเหรอ ถ้านิยายมึงแมส นิยายมึงดีจริงๆ อะ

191 Nameless Fanboi Posted ID:Udds.qZ1HE

>>190 ชี้เป้าด้วย

192 Nameless Fanboi Posted ID:lYxy5DxQ2e

>>190 กูไม่อยากให้นักอ่านมองว่านักเขียนแตะต้องแม่งไม่ได้เลย จนไม่กล้าวิจารณ์ ไม่กล้าแสดงความเห็นอะ งานเขียนมึง มึงไม่คิดจะพัฒนา หรือหาแนวทางใหม่ๆ จากความคิดเห็นคนอ่านเลยเหรอ กะเอาขึ้นหิ้งรึ
ฝึกทำตัวจิตแข็งกันหน่อย ยอมรับทุกห่าเหวให้ได้บ้าง มึงจะได้เติบโต //กูพูดงี้ กูเคยจิตตกกับรีวิวแย่ๆ ของนิยายตัวเองในแมพมาแล้ว แต่กูนิ่ง ไม่โวยไปทั่วแค่นั้น แล้วก็เอามาปรับปรุงเรื่องต่อๆ ไป
บางทีเราเขียนเอง เราก็เอ็นดูงานตัวเอง
เหมือนมีลูก ลูกมึงผิดก็จะให้ถูกให้ได้งี้

193 Nameless Fanboi Posted ID:lYxy5DxQ2e

>>191 ในกลุ่มนักเขียน ในเฟซ น่าจะตามไม่ยากนะ

194 Nameless Fanboi Posted ID:vuonbNZi/r

ที่ติว่า NC ซ้ำๆ น่าเบื่อ พร้อมหนึ่งดาว ใช่มั้ย
ทัวร์ที่ลงหยาบคายมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก แบบฟ้องได้เลยอะ

195 Nameless Fanboi Posted ID:hyE68VGHWc

>>194 เจ้าของเรื่องออกมาแถแล้วนะ เหี้ยกว่าเดิมอีกเพราะลงncในจอย ซึ่งผิดกฎอะ แล้วดูไม่สำนึกผิดอีก บอกว่าตัวเองเป็นมือใหม่เพิ่งแต่งเรื่องแรกงี้

196 Nameless Fanboi Posted ID:vuonbNZi/r

>>195 y นั่นเหรอ ไม่น่าใช่มั้ง แค่คนไปแคปมาอีกที

197 Nameless Fanboi Posted ID:lYxy5DxQ2e

พวกมึงเคยแต่งไปอัปไปแล้วเจอพล็อตโฮลกันบ้างไหม ถ้าเกิดเจอขึ้นมากรณีที่อัปเนื้อหานั้นไปแล้วทำไงกันอะ
หรือว่าก็แก้ในต้นฉบับไป ตอนรวมเล่มก็จัดการอุดให้เรียบร้อยเนื้อหาที่อัปลงเว็บไปแล้วก็ไม่เป็นไรปล่อยไว้ ค่อยมาอัปเนื้อหาที่แก้ลงไปใหม่
?

198 Nameless Fanboi Posted ID:AHbkF8Mg5I

>>197 กูมาแถทีหลังเอา555 หาทางอุดให้มีเหตุผลมายอมรับย้อนหลังแทน

199 Nameless Fanboi Posted ID:yToDM5NGXK

>>197 แถเอาเหมือนกัน แต่ตอนรวมเล่มจะพยายามเกลี่ยให้รูโหว่เล็กลง แถ+อุด ตีรวบสองทาง 555

200 Nameless Fanboi Posted ID:vMvCZCk82L

>>197 แถ อุด ลบ กูคงแก้ในต้นฉบับก่อนแล้วค่อยมาหาฤกษ์งามยามดีแก้ในเว็บต่อ ยิ่งแต่งจบแล้วแก้ทีหลังไม่เป็นไรหรอก เอาเนื้อหาในเล่มให้เนี้ยบไว้ก่อน บนเว็บทีหลังก็ได้

201 Nameless Fanboi Posted ID:GcdJHq30SU

เห็นพูดเรื่องเรตทิพย์ละคิดถึงตัวเอง กูเคยซื่อปล่อยฟรีช่วงนึงอะ ทันจะมีฟรีแบบเขาได้ไปแล้วไปเลย มันก็จะขึ้นว่า มีแล้ว กับฟรีแบบกำหนดเวลา แต่พอให้เรตมันจะไม่ขึ้นว่ามีแล้วใช่มั้ย ละกุชอบทำแบบหลัง 5555 กว่าจะรู้ตัวคือได้มาหลายเรตแล้ว เข็ดเลย เหมือนเรตทิพย์ แต่มันหลายปีมาแล้ว ถ้าปล่อยเล่มใหม่ขายละคนไปส่องเรตเล่มเก่ากุก็คงเหมือนปั่นเรต จะเอาออกได้มั้ยยังไง

202 Nameless Fanboi Posted ID:WxBXcCKtYo

มาชวนคุยเรื่องการใช้คำในนิยาย บางคำมันผิดหลักการ ผิดความหมาย แต่คนคุ้นเคยกัน โม่งว่าเราควรใช้ ๆ ไปแบบผิด ๆ หรือใช้อันที่ถูกแล้วแต่อาจจะรู้สึกแปลก ๆ แทนดีวะ ตย. ทาน ≠ กิน หาก ≠ แต่ งี้ อันหลังตัดออกไปหรือใช้คำอื่นแทนได้ไม่มีปัญหา แต่อันแรกนี่ถ้าเอาเป็น รับประทาน เต็มยศเลยมันจะดูฟุ้งเฟ้อไปปะวะ จะใช้กินก็อาจจะติดภาพไม่สุภาพอีก (ทั้ง ๆ ที่มันก็สุภาพพอแล้ว)

203 Nameless Fanboi Posted ID:0tpILGdWVf

>>202 นี่ใช้นะ ถ้าเป็นรูปแบบประโยคสนทนา มันจะอ่านแล้วได้อารมณ์กว่า เช่น 'ทานข้าวมารึยังคะ' กับ 'กินข้าวมารึยังคะ' จะรู้สึกว่าทานจะดูสุภาพและนุ่มนวลกว่า เราใช้ทั้งๆที่รู้ว่ามันผิด เหมือนเมื่อก่อนคำว่าแซว ต้องเขียนว่าแซ็ว นี่แบบไม่อยากใช้แซ็วเลยสักนิด แต่โชคดีที่ตอนนี้แบบแรกถูกแล้ว55555

204 Nameless Fanboi Posted ID:xhthdsydV4

กูมาห้องถูกใช่มั้ย จะมาขอคำปรึกษาเกี่ยวกับเรตเรื่องในรอร.หน่อย ถ้ามีตัวละครตายนี่ผลักไป 18+ เลยเหรอ เพราะคุยกับเพื่อนว่าถ้ามีเกี่ยวกับความตาย 18+ เลย ซึ่งกูสับสนชั่งใจมากๆ เพราะเข้าใจว่าบางคนอาจจะรับไม่ได้ก็ได้ แต่กูก็รู้สึกว่ามันไม่ได้อะไรขนาดนั้นมันน่าจะอยู่เรตทั่วไปได้ เพราะฉากตายที่ตั้งใจเขียนก็ไม่ได้บรรยายลึกซึ้งเล่าละเอียด บอกแค่ว่าโดนแทงตายจบ (สมมุตเหตุการณ์) แล้วไม่เกี่ยวกับการฆ่าตัวตาย แถมตอนจบมีชุบชีวิตอีก

205 Nameless Fanboi Posted ID:Vm/E0kMYNh

>>202 ทานข้าวใช้ได้ ถ้าเป็นในประโยคพูด มันเป็นภาษาปากอะมึง แต่ในบรรยายไม่ควรใช้

206 Nameless Fanboi Posted ID:/6LW2JD3ic

>>204 ไม่อะ 18+ คือการบรรยายแบบละเอียดยิบๆจนเห็ยภาพๆง ถ้ามึงบอกแค่ถูกมีดแทงตายก็ไม่ถึงหรอก แต่ถ้าบรรยายเพิ่มว่าถูกแทงจนมีแผลลึก ผิวหนังฉีกขาดเลือดซ่านกระเซ็น ช่องท้องแหวกออกถูกคว้าสจนเห็นเครื่องใน ไรประมาณนี้อะ ใันเห็นภาพชัดจัดเป็น 18+

207 Nameless Fanboi Posted ID:xhthdsydV4

>>206 ขอบใจมากจ้า คลายกังวลไปเลย

208 Nameless Fanboi Posted ID:ubCscvQ3x2

เวลาหานักวาดปกนิยายคนไทย เขาหากันยังไงวะ มันมีกลุ่มหรือมีศูนย์รวมอะไรเทือกๆๆนั้นไหม แบบกูอยากเข้าไปหาดูแบบที่มีตัวอย่างผลงาน เรทราคา ตารางงานที่ว่าง ให้กูเลือกอะไรแบบนั้น

209 Nameless Fanboi Posted ID:5iBRvQ0tol

>>208 #commissionTH กูส่องจากในนี้ บางทีนักวาดแบบฝีมือดีๆ ก็มา แต่ส่วนใหญ่อาจจะยังไม่ใช่ แต่ถ้าไถทวิตบ่อยๆ จะเจอเอง
#โฮมุ้เพื่อนเอ๋ย < ไม่รู้อะไร แต่จะเจองานดีๆ เยอะเหมือนกัน
แล้วก็ลองตามนักวาด เดี๋ยวเขาจะรีกันไปมา คือก็เยอะแหละ ก็ไปส่องไบโอเอาว่ารับมั้ย บางทีงานเยอะเขาก็ปิดรับ แต่บางคนก้น่ารัก ปิดอยู่ก็ไปถามไว้ได้ บางคนก็แปะเรตงานเลย มึงก็ส่องๆ นิสัยก่อนจากทวิตนั่นแหละ ซึ่งตรงนี้ใครดูเฟียซมากไป กูไม่ค่อยอยากจ้างอะ พวกชอบดราม่า ฉอด บอกเลยกลัวมัวแต่ฉอดแล้วไม่ทำงานให้กู กูชอบเลือกคนที่ค่อนข้างจะไม่ค่อยเล่นคอมมู ไม่เล่นแฟนอาร์ต แต่แบบดูมีงานที่ทำอยู่อัปเดตบ่อยๆ มีตัวอย่างเยอะๆ แต่พวกนี้ก็คิวจะยาวหน่อย แต่ความรับผิดชอบดี ส่องไปคนไทนวาดแต่งานออริเพียบ เล่นโรล ไม่อยากได้จริงๆ มึงก็ถอยได้เลย พวกนี้ขี้ดอง

อันนี้นกรุ๊ปเฟส Commission MARKET [TH]​°
มือสมัครเล่นเยอะ มือดีก็เยอะ
ข้อดีคือแบบมึงโพสต์หาได้เลย แบบงบห้าพันค่ะ อยากได้แบบวาดหวานๆ หรือแบบ ขออนาโตมี่สวยๆ ไรมึงก็ว่าไป เดี๋ยวนักวาดจะมาเสนอตัวเอง แต่ก็มีแบบที่มึงไม่ต้องการมาเสนอเยอะด้วย ยิ่งงบเยอะ มึงก็ยิ่งฮอต

นอกจากนี้ก็ไปเริมไลค์เพจนักวาด เดี๋ยเพจอื่นมันจะขึ้นๆ มาให้เห็นอีก ก็ไล่ดูไป

210 Nameless Fanboi Posted ID:ubCscvQ3x2

>>209 ขอบคุณนะเพื่อน ซาบซึ้ง กราบแทบตัก คือกูพยายามหามาหลายวันแล้วไม่รุ้จะหาที่ไหน ใจๆนะ

211 Nameless Fanboi Posted ID:5iBRvQ0tol

>>210 ช่วงนี้กูว่าคนหันมาใช้ปกวาดเยอะนะ คนที่วาดสวยๆ คิวยาวมาก ต้องจองข้ามปีก็มี แต่ใจเย็นๆ นะ อย่างกูบางทีกูก็ใจร้อน จองไปละ ไปเจอที่ถูกใจกว่า เดือดร้อนต้องคิดพล็อตเพิ่ม5555

212 Nameless Fanboi Posted ID:sb.UgbLTTK

>>211 เป็นโรคเดียวกะกูเลย ทำเหมือนมีตังเยอะ ป่าวความใคร่ได้ใคร่มีล้วนๆ เป็นหนี้ก็ยอม T^T

213 Nameless Fanboi Posted ID:ZF2yZBgUQU

แนะนำให้หาจาก meb ส่องปกชาวบ้านดู โดยเฉพาะหมวดวายนี่คลังกูเลย งานจ้างวาดงามๆ ทั้งนั้น ชอบอันไหนก็ไปสืบหา ส่องเพจนักเขียน ไม่ก็โหลดตัวอย่างหนังสือมาดูหน้าเครดิต นักวาดหลายคนดูแต่งานที่โพสต์ลงไม่ได้ บางคนวาดออริตัวเองสวย วาดแฟนอาร์ตสวย จ้างคอมมิชปกแล้วดูไม่จืด แต่ถ้าจะเอาคนที่วาดปกเป็นประจำก็ต้องทำใจเรื่องราคาและคิว ยิ่งวาดให้ สนพ คือรอข้ามปี

214 Nameless Fanboi Posted ID:ubCscvQ3x2

>>213 เออ บางทีเจอถูกใจก็ติดเรื่องคิวอีก รอแบบข้ามปี กูก็เป็นท้ออะ จนบางทีกูอยากไปเรียนวาดเองให้รู้แล้วรู้รอด ก็ไม่รู้จะไปเรียนที่ไหนอีก เคยลองละวาดในไอแพดนี้ยากจัด ไม่เหมือนวาดพู่กันจริงเลย หรือกูแก่ไปสำหรับอะไรแบบนี้ ปรับอะไรไม่รู้เยอะแยะ กูงงไปหมด นับถือพวกนักวาดจริงๆ

215 Nameless Fanboi Posted ID:nRfdESe+eb

>>214 เดี๋ยวนี้ตัวช่วยเยอะมากกว่าแต่ก่อนแล้ว ลองฝึกดูไหม ตามเน็ตมีเยอะแยะ โปรแกรมก็สะดวกสบายอุปกรณ์ตัวช่วยครบถ้วนมาก ลูกเล่นโกงๆก็มีเพียบ แต่ก่อนซื้อหนังสือมาเปิดดูเอา ทางนี้ก็วาดปกเองแต่เสียดายเวลา ถ้าเอาเวลาไปวาดเวลาเขียนก็หายไปด้วย

216 Nameless Fanboi Posted ID:uw9qnSyv2D

กูสงสัยว่า ทำไมนิยายบางเรื่องติดท้อป ขายดี แต่รีวิวไม่เยอะเท่าที่ควรวะ เช่นติดท้อป 10 อยู่นานมาก รีวิวประมาณ 100-150 หรือน้อยกว่านั้น คือนักอานเขาซื้อไปก่อนแต่ยังไม่รีวิวเหรอ หรือถ้าเรื่องนั้นไม่ได้ลดราคา เขาก็อ่านเสร็จแล้วไม่กลับมารีวิวงี้ป้ะ มีใครเคยสังเกตมั้ยว่ายอดขายกับรีวิวมันเป็นอัตราส่วนเท่าไหร่ต่อกัน จู่ๆ กูก็สงสัยตอนตีสอง อะไรของกูวะ 5555

217 Nameless Fanboi Posted ID:9ey+koRbvZ

>>216 ยากมากเรื่องนี้ นข บางคนแฟนคลับชอบรีวิวให้อยู่แล้ว วางขายปุ๊บรีวิวเลยเดี๋ยวนั้น มากดหัวใจก่อนแล้วค่อยมาพิมพ์รีวิวทีหลังก็มี บางทีขอตอนพิเศษ ฯลฯ เอาแน่เอานอนไม่ได้ นักอ่านบางคนอ่านจบไม่เคยรีวิวเลยยังมี

218 Nameless Fanboi Posted ID:JO2+0PwYjl

เพื่อนโม่ง พวกมึงส่วนใหญ่ออกนิยายกันทุกเดือนปะ ถ้ามีงานประจำแล้วออกทุกเดือนมีใครเคยทำได้มะ? หมายถึง ต้นฉบับสมบูรณ์จริงๆ นะ ไม่นับปล่อยแบบตอดๆ 55555+
ถ้ามีใครเคยทำได้ มีเทคนิคไหม แต่กูมั่นใจมากว่าต้องพลีชีพ พลีร่างสุดๆ อะ

219 Nameless Fanboi Posted ID:A6czAQB8vC

>>218 กู ผู้ซึ่งไม่ออกงานมา 4 เดือนแล้ว ถถถถถ รอคนมาตอบด้วยคน

220 Nameless Fanboi Posted ID:TavrdyvePv

>>218 กุเห็นติยากรมั้งที่ออกทุกเดือน ไม่รู้เขาทำงานประจำมั้ย แต่ถึงไม่มีงานประจำก็ยังถือว่าโคตรเก่ง เพราะแต่ละเรื่องค่อนข้างหนาด้วย ขายดีทุกเรื่องอีกต่างหาก คารวะ 55

221 Nameless Fanboi Posted ID:JO2+0PwYjl

>>220 เชรด ไปดูมาละ ก็คือความหนาส่วนมากของนิยายเล่มนึงเลย แสนกว่าคำ ออกต่อเนื่องทุกเดือน บ้าบอมาก แล้วรู้สึกไม่ได้มีการซุ่มเขียนสะสมแต้มบุญไว้ด้วยนะ เหมือนจะไม่มีช่วงที่หายไปเลยอะ กูว่าเขาเป็นนข.อาชีพแหละ

222 Nameless Fanboi Posted ID:CUY8nLPgs2

ติยากรเก่งมากอ่ะ กูเขียนๆแล้วมีเรื่องนึงฟลุ๊ค ปังขึ้นมา ปังแบบกูไม่คิดว่าจะทำได้อีกแล้วในชาตินี้ แล้วก็เลยไม่กล้าออกงานใหม่เลย กลัวดรอป กลัวมันไม่ดีเท่าเดิม เขียนไม่ออก มึงมีวิธีข้ามผ่านจุดนี้ไปได้ยังไงกันบ้างวะ

223 Nameless Fanboi Posted ID:BDqE3JPSEW

มึงกูถามหน่อย วานปีศาจเขียนคืออะไรวะ

224 Nameless Fanboi Posted ID:GU6fCmAOpj

ไม่อยากเดินเข้าไปหมวดจีนโบราณเลย ขยะแขยงมีแต่นิยายใช้ภาพละเมิดลิขสิทธิ์ จิตสำนึกไม่เคยจะมี

225 Nameless Fanboi Posted ID:0dxuhJ3ST/

ขอปรึกษาหน่อยค่ะ ถ้าเราเขียนนิยายแล้วจะเอาคำคมของบุคคลที่มีอยู่จริงมาลง สมมติเช่น "ประวัติศาสตร์นี้เขียนขึ้นโดยผู้ชนะ" แล้วเราระบุชัดเจนว่าเป็นคำพูดของนโปเลียน หรือเราเอาวรรคหนึ่งจากเพลงมาลง โดยระบุ (ผ่านปากตัวละครไม่ก็เชิงอรรถ) ว่าแต่งโดยใคร
แบบนี้จะผิดกฎหมายลิขสิทธิ์ไหมคะ
ช่วยแนะนำหน่อยนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

226 Nameless Fanboi Posted ID:GvpomKvA7W

>>225 คำคมไม่แน่ใจ ส่วนเรื่องเนื้อเพลงตอบตามความจริงก็ผิด แต่เหมือนเป็นสีเทา ๆ ที่พอปิดตาข้างนึงให้ได้ (เพราะเจ้าของลิขสิทธิ์ไม่มานั่งตรวจทุกเรื่อง ถึงเจอก็อาจจะไม่เอาความ /แต่ถ้าเป็นเพลงไทยก็อาจมีความเสี่ยงมากกว่าหน่อย) ถ้าให้แนะนำอย่าใช้เลยดีกว่า ตัดปัญหายุ่งยาก

227 Nameless Fanboi Posted ID:DEB56DuN+C

>>225 ส่วนใหญ่เพลงจะไม่ลงเกิน 4 วรรคไม่งั้นเจอฟ้องได้ แต่คนที่เซฟๆ ลงแค่ 2 วรรคที่สำคัญ

228 Nameless Fanboi Posted ID:v8ga7vJ38C

>>225 คำคมไม่เป็นไร หลายๆเรื่องก็อ้างอิง

229 Nameless Fanboi Posted ID:aOorv9bgYt

ขอถามหน่อยเกี่ยวกับพระเอกหน่อย ถ้าคาแรคเตอร์เปลื่ยนเพราะหลอกคนอ่าน จากคนซึนใสๆกลายเป็นคนคลั่งรักและตีสองหน้า นักอ่านเขาจะโอเคกันไหม พระเอกประเภททำดีต่อหน้านางเอกแต่ร้ายกับคนอื่น

230 Nameless Fanboi Posted ID:JwyIy9uHwT

>>229 เป็นไปตามเหตุและผลในเรื่อง เขาก็โอเคแหละ แต่มาหลอกนางเอกก็อาจจะเกลียด ซึ่งถ้านั่นมึงหมายความว่าไม่โอเคก็คงไม่โอเคมั้ั้ง แต่ก็ใช่ว่ามันจะหลอกไปตลอด เดี๋ยวนักอ่านก็กลับมาชอบเอง หวังว่าตอนคนอ่านด่าพระเอก มึงจะไม่แคปไปแขวนในกรุ๊ปละ

231 Nameless Fanboi Posted ID:mSV68/3nJ0

>>226-228 ขอบคุณ​สำหรับคำแนะนำค่ะ

232 Nameless Fanboi Posted ID:9ZN3ZhUVIs

กูเพิ่งรู้ว่ามีวิธีปั่นยอดวิวด้วยการแปะลิงค์หลอกด้วยว่ะ เช่นแจ้งอัพบทที่ 5 แต่เอาลิงค์บทที่ 2 มาแปะงี้ คนหลงเข้าไปแล้วก็ต้องกดออกไปหาบทใหม่ที่จะอ่าน แต่วิวนับไปแล้วนะ ตอนแรกกูก็สงสัยว่าทำไม นข เขาแปะลิงค์ผิดบทบ่อยจังวะ พอไปไล่ดูโพสต์ถึง อ้อ จงใจแปะผิดทุกบทเลยนี่หว่า 555

233 Nameless Fanboi Posted ID:VEe.W3rykp

>>232 แต่วิวมันนับตามไอพีไม่ได้นับตามยอดคลิ๊กทีนึง = 1 วิวนะ ต่อให้จะกดเข้าตอน 1 แล้วกดออกเพื่อไปอ่านตอนใหม่ วิวก็เท่ากับ 1

234 Nameless Fanboi Posted ID:sLcwBpwwJI

พวกของพรีเมี่ยมมีผลกับการซื้อการขายมั้ยวะ ช่วงนี้กุเห็นนักเขียนแข่งกันทำพรีเมี่ยมอลังการมาก บางคนแถม 4-5 อย่าง กุงบน้อย ทำไมไหว แต่ถ้ามันมีผลก็อาจจะกัดฟันทำเผื่อว่ายอดขายจะขยับบ้าง

235 Nameless Fanboi Posted ID:9ZN3ZhUVIs

>>233 ใน RAW นับ 1 ตอน = 1 วิวเลย อ่าน 5 ตอนก็ 5 วิว ลองไล่หาดูในทวิต แอดมินเคยมาตอบไว้อะ ในนั้นถึงมีนิยายยอดวิวหลักล้านเยอะมาก เพราะเอายอดวิวรายตอนทั้งหมด+ยอดวิวหน้าหลัก = ยอดวิวรวม

236 Nameless Fanboi Posted ID:fqIRgdzE0E

>>235 แล้วเด็กดีอะ ตอนนี้รู้สึกคนย้ายไปใช้rawกันเยอะมากจนเป็นแอพหลักไปละ เทียบกันแล้วตอนนี้rawทั้งนักอ่านนักเขียนคนใช้เยอะกว่าแอพส้มช่ะมะ

237 Nameless Fanboi Posted ID:sLcwBpwwJI

>>235 กุว่านั่งกดเองง่ายกว่าเยอะนะ

238 Nameless Fanboi Posted ID:AELtb3pzvs

กุว่าแอพส้มมันน่าเบื่อ รวนบ่อย เว็บหน่วง กติกาไรไม่รู้เยอะแยะ โปรโมตแต่นักเขียนกลุ่มเดิมที่สนิทกับคนดูแล คนอ่านก็ไม่ค่อยเม้น ตั้งแต่มีอิปุ่มกดให้กำลังใจนี่มาเม้นหายหมด กุเลยเทไป raw ละ คนอ่านเม้นคึกคักกว่า

239 Nameless Fanboi Posted ID:AELtb3pzvs

>>234 อยากรู้เรื่องนี้เหมือนกันแฮะ ใครเคยทำบอกบุญหน่อย

240 Nameless Fanboi Posted ID:Dj6UefFMQB

>>234 กูเคยถามอยู่เรื่องนี้ รู้สึกว่าเขาสนภาพปกกับเนื้อหามากกว่า พรีเมี่ยมรองลงมา สำหรับตัวกูเองในฐานะนักอ่าน(ที่เป็นนข.ด้วย)กูโคตรขี้เกียจเก็บพรีเมี่ยมจุกจิก ได้มาแล้วรกใช้งานไม่ได้มาก แต่ถ้าเป็นพรีเมี่ยมที่ใช้งานได้ เช่น สเปรย์การ์ด ปกผ้า สมุด เทือกๆ นี้ กูโอเคกว่า ถ้าไม่มีงบ กูว่าเน้นทำเล่มให้ดีๆ ไปก็ไม่น่าจะอะไรกับพรีเมี่ยมขนาดนั้น

241 Nameless Fanboi Posted ID:X2c26iXr6O

>>240 ตัวกุที่เป็นทั้งนักอ่านนักเขียนก็ขี้เกียจเก็บพรีเมี่ยมแต่เห็นนักอ่านชอบกันจัง มือสองถ้าพรีเมี่ยมไม่ครบราคาก้อตกเลย เศร้าเหี้ยๆ

242 Nameless Fanboi Posted ID:fqIRgdzE0E

ในฐานะนักอ่าน พรีเมี่ยมอย่างเดียวที่เก็บคือพวกตอนพิเศษอะ ไม่ก็รูปการ์ตูนตัวละครที่มีเนื้อหา แบบนี้รู้สึกว่าต้องมี แต่พวกอย่างอื่นไม่สนใจอะ เห็นในmebก็ทำได้นะ เคยเห็นเรื่องนึงแบบถ้าซื้อก่อนวันที่xxจะมีการ์ตูนเล่มพิเศษแถมมาให้ด้วย

243 Nameless Fanboi Posted ID:sIm/nHmH0p

ชอบภาพประกอบเนื้อหาตอนสำคัญอะ แบบนิยายสมัยก่อน หรือนิยายญี่ปุ่น ไม่รู้สมัยนี้ยังมีไหมแต่กูไม่เคยเจอ แต่ทำแบบแยกออกมาจากเล่มเป็นโปสเตอร์ไม่ก็มังงะตอนพิเศษกูชอบนะ พวกแสตนดี้กูไม่ชอบ รก

244 Nameless Fanboi Posted ID:OySL7p+5s0

>>238 จริง ปุ่มกำลังใจมาเม้นหายหมด มุแงกูอยากได้เม้น กำลังใจเป็นร้อยแต่ไม่มีสักเม้นก็ไม่เอาเว้ย ติหรือขอบคุณเฉยๆก็ยังดี
>>238 เรื่องโปรโมทนี่จริงเลย เอาต่กลุ่มเดิมๆขนกุนึกว่าซื้อเว็บไปแล้วสัส นักเขียนไทยดังๆไม่ได้มีแค่นี้นะ

245 Nameless Fanboi Posted ID:JwyIy9uHwT

>>244 read คือดี แบนเนอร์ใครส่งก็ได้ เด็กดียังไงวะ ถึงขึ้นแบนได้อะ

246 Nameless Fanboi Posted ID:2rS0QPJbHO

ถ้าเป็นพรีเมี่ยมกูไม่ชอบที่คั่นจิบิเลย แล้วบางคนไปจ้างวาดมาลายเส้นก็ไม่ได้ดีมากมายสมเป็นพรีเมี่ยม ลงสีแบบไม่มีเงาไม่มีมิติ แขนลีบตาเบี้ยว ความอยากได้ลดลงหนักมาก ถ้าจะทำก็ช่วยเลือกนักวาดของแถมดีๆ หน่อย โปสการ์ดกูก็เฉยๆ โปสเตอร์กูก็เก็บในซอง ไม่กล้าแปะฝาบ้าน (มีโม่งคนนึงตัดโปสเตอร์เป็นที่คั่นใช่มั้ย5555) สมัยนี้ยังไม่มีกาวมีเทปที่ติดแล้วไม่ทิ้งคราบบนโปสเตอร์กับผนังเลย กูลองมาหมดละ สำหรับกูพวกที่คั่นที่ไม่ใช่ลายปกกับโปสการ์ดก็โคตรสิ้นเปลือง เป็นพรีเมี่ยมที่กูมองว่ามันไม่เมี่ยมอะ แต่ถ้าเป็นปกสวมเงี้ยกูชอบแย่งชิงอยู่

247 Nameless Fanboi Posted ID:cpt0VY1rmN

เพื่อนโม่ง ขนาดกล่องไดคัทใส่หนังสือ 1 เล่มนี่ขนาดเท่าไหร่หรอ อยากถามให้แน่ใจก่อนกดซื้อ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

248 Nameless Fanboi Posted ID:9ZN3ZhUVIs

>>247 ขนาด 0.5B

249 Nameless Fanboi Posted ID:RdBghH2wA3

มึง เวลาแต่งเรื่องในส่วนที่ตัวเองไม่รู้เนี่ย ต้องทำยังไงกันวะ?
กูเป็นพวกตั้งผลลัพท์ก่อน แล้วค่อยใส่เหตุผล
สมมติ ตอนนี้กูอยากให้นางเอกโดนตามฆ่า เพราะโดนใช้เป็นเครื่องมือข่มขู่คนที่บ้าน แล้วกูก็นึกแบบ... แล้วที่บ้านมันต้องทำอาชีพอะไรถึงจะโดนคนมาตามฆ่าได้วะ? ทนาย? บ้านรวยจัด?
กูคิดว่า เรื่องอะไรที่ไม่ใช่เรื่องใกล้ตัวจริงๆกุก็คิดไม่ออก กลัวแต่งไปแล้วมันไม่สมเหตุสมผล อะไรแบบนั้น

250 Nameless Fanboi Posted ID:s7j0H6Vwzr

>>249 พ่อเป็นตำรวจสุจริต จับพ่อค้ายา ลูกพ่อค้ายา เลยมาตามขู่ฆ่า ได้มะ5555

251 Nameless Fanboi Posted ID:TCq8.hq04T

>>249 แต่ง ๆ ไปเหอะ การเขียนงานมันก็เริ่มมาจากมโนอยู่แล้ว ค่อยหาเหตุผลใส่เพิ่มให้มันน่าเชื่อถือเอา มึงคิดว่าคนแต่งนิยายมาเฟียเป็นคนในสังกัดแก๊งมั้ยล่ะ เขาก็เซ็ตติ้งคิดขึ้นมาเองกันทั้งนั้น ตัวอย่างที่มึงให้มากูว่ามันเป็นส่วนที่ไม่รู้แต่สามารถเติมแต่งเองได้ไม่ยาก แต่ถ้าเป็นเรื่องเซ้นสิทีฟหน่อย (พวกข้อมูลทางการแพทย์) ก็ว่ากันอีกเรื่อง อย่าคิดมากเลยเพื่อนโม่ง

252 Nameless Fanboi Posted ID:tMAKtlQD58

>>251 +1 แต่งๆ ไปเหอะ กูอ่านนิยายแปลจีนออกทะเล จากนางเอกเป็น OL ธรรมดา กลายเป็นมีแม่(เลี้ยง)ดึงไปพัวพันกับศึกชิงมรดกอิหยังวะ มีขู่ฆ่า มีวางระเบิด เดี๋ยวมีลูก เดี๋ยวถูกจับผ่าตัดสมองจนความจำเสื่อม เดี๋ยวย้ายไปเริ่มชีวิตใหม่ตปท. เก้าล้อเก้า

253 Nameless Fanboi Posted ID:tzsmW9wQcL

เห็นในทวิตมีประเด็นลิขสิทธิ์ของพวกงานวาด เราพูดชื่อแบรนด์ลงในนิยายได้มั้ยอะ เคยเห็นทั้งคนเขียนชื่อลงไปตรงๆ เลยกับคนเขียนแบบใกล้เคียง เธอใช้น้ำหอมดิออร์เงี้ย โน้ตบุ๊คเอซุส ทีวีแอลจี ต้องบิดชื่อมั้ย

254 Nameless Fanboi Posted ID:g+Yy7Eu46p

>>253 ถ้าไม่ได้เขียนในเชิงเสียหายไม่เป็นไรนะ ถ้าเอามาเขียนแบบโน้ตบุ๊กยี่ห้อนี้หวยจริงๆ ห่วยมาก ใช้ไปไม่นานก็พัง อันนี้อาจจะโดน แต่ถ้าเขียนแบบเธอใช้มานาน แค่นี้ไม่เป็นไร

255 Nameless Fanboi Posted ID:wUIDcmoJGz

เดี๋ยวเกิดดราม่าง่ายมาก จนระแวงกันไปหมดละ 5555+ //กูไม่ได้หมายความว่าหลับหูหลับตาทำผิดไปเหอะนะ แต่หมายความตามประโยคต้นที่พิมพ์จริงๆ เฮ้อ~

256 Nameless Fanboi Posted ID:xCf/Q9ovPO

เหมือนเคยเห็นคนถามแล้วแต่จำไม่ได้ เปิดเรื่องไว้เพื่อจองชื่อนานแค่ไหนไม่น่าเกลียดวะ กุพึ่งแต่งได้ครึ่งเรื่องเองแต่กลัวซ้ำเลยไปจองไว้แล้วง่ะ

257 Nameless Fanboi Posted ID:pN9UDC+TFb

>>256 จะไปซ้ำได้ไง เดี๋ยวนี้เว็บมันมีระบบ ซ้ำแล้วตั้งไม่ได้นะ

258 Nameless Fanboi Posted ID:xCf/Q9ovPO

>>257 ไม่ๆ หมายถึงกลัวมีคนมาใช้ชื่อนี้ก่อนกุน่ะ กุเลยชิงเปิดเรื่องไว้ทั้งที่ยังเขียนไม่จบและยังไม่ลง

259 Nameless Fanboi Posted ID:pN9UDC+TFb

>>258 จองไปเถอะ ไม่เป็นไรหรอก สักหลายๆ เดือนกูก็ว่าไม่น่าเกลียด แต่ถ้าสองสามปีแล้วไม่อัพสักที มีคนใช้ก็ให้เขาเหอะ เขาอาจคิดว่ามึงไม่เอาชื่อนี้แล้ว

260 Nameless Fanboi Posted ID:Se5a0eGxs0

เขียนนิยายที่ลงรายละเอียดเยอะๆแต่ดันเป็น pov1 ถ้าลงแบบมุมมองตัวละครอื่น 40% เนื้อเรื่องตัวละครหลัก 60% นักอ่านเขาจะเนือยกันปะ

261 Nameless Fanboi Posted ID:UBePaVHF/y

>>260 มึงอ่านแล้วคิดว่าเนือยปะล่ะ ถ้าคิดว่าดีแล้วก็เขียนไปเหอะ จะสนุกมั้ยมันก็มีหลายปัจจัยอะนะ คาแรกเตอร์ สำนวน พล็อต ถามลอยๆ ตอบไม่ได้หรอก

262 Nameless Fanboi Posted ID:oIxUhMELqD

ใครอยากศึกษาเลิฟซีน อ่านแล้วเขิน hotๆ แต่ไม่ใช้คำหยาบโลน แนะนำนิยายแก้วกานต์นะ ตอนนี้ลดราคาอยู่

263 Nameless Fanboi Posted ID:p0l.PKYT+d

Ky บ่นๆ กูเบื่อตัวเองชอบบรรยายเยอะจัด อย่างพระเอกคว้าไหล่นางเอก กูก็ต้องบรรยายตั้งแต่ส่งสายตา เอื้อมมือไปคว้าไหล่เธอให้หันมาสบตา จ้องตา ส่งกระแสจิตบอกรัก เขาเอื้อนเอ่ยวาจา อะไรแบบเนี้ย กูแต่งเองยังลำไย จะเยิ่นเย้อไปไหน กูพยายามแก้แต่มันติดมือ กูไปอ่านของคนอื่น เค้าไม่ต้องบรรยายเยอะอะไรแบบนี้เลยว่ะ แค่คว้าไหล่ ใส่คำพูดพระเอกนางเอก แค่นั้นก็จบ แล้วเรื่องมันก็ไปไวดี อย่างที่เค้าบอกว่านักเขียนอย่าเล่าหมด ให้นักอ่านคิดเองมั่ง กูโคตรสปอยล์นักอ่าน เล่าแม่มทุกการเคลื่อนไหว ทำยังไงดีว้อย

264 Nameless Fanboi Posted ID:H2DKEzcXlu

>>263 แล้วแต่คนชอบด้วยมั้ง ถ้าซีนเน้นอารมณ์ก็บรรยายไปเถอะ เข้าถึงอารมณ์ของตัวละครได้ดีกว่า แต่ข้อเสียคือเรื่องดำเนินช้าขึ้นมากจริงอย่างที่บอก จบทั้งตอนหลายพันคำอาจหยุดอยู่แค่ที่คุยกันทั้งตอน 5555 แต่ถ้าซีนเย้ๆยิ่งละเอียดยิ่งชอบนะ

265 Nameless Fanboi Posted ID:CHcP6vlSUE

>>263 +1 มีปัญหานี้เหมือนกัน โดยเฉพาะเวลาที่ต้องให้ตัวละครคุยกันหลายๆประโยคอะ จะใส่คำพูดแล้วต่อคำพูดอีกคนเลยก็รู้สึกลอยๆชอบกล ต้องหาเรื่องยัดคำบรรยายเข้าไปทุกที แต่พอไปอ่านของคนอื่นบางทีคนนั้นคนนี้พูดแทรก ไม่มีคำบรรยายเลยยังมี อ่านแล้วกระชับฉับไว ไม่ติดเลย

266 Nameless Fanboi Posted ID:Cc6kzuU55l

อ่านนิยายแปลจีน/ไต้หวันบางเรื่องงี้ บรรยายห้วนมาก แต่ก็เข้าใจง่ายดี พอจะเอามาใช้ในงานตัวเองบ้างก็อดรู้สึกแปลก ๆ ไม่ได้ว่ะ กลัวนักอ่านไม่ชอบ

267 Nameless Fanboi Posted ID:fs1z/iOjn.

นักเขียนในกลุ่มนักเขียนแม่งมีแต่พวกประสาทแดกเหรอวะ รับคำติไม่ได้ก็เรื่องนึง แต่ไอ้พวกที่โดนคนด่าเรื่องไม่สมเหตุสมผล แล้วแปะหน้านิยายตอบโต้ว่า “แต่งตามใจ เขียนเพราะอยากเขียน” เหี้ยไรพวกนี้คืออะไร แล้วทำเหมือนเป็นสิ่งที่ถูกที่ควรด้วยนะ ตกต่ำสัสๆ

268 Nameless Fanboi Posted ID:bU+c8E0bPT

ขอถามหน่อย ในฐานะนักเขียนคิดยังไง กับebookที่หมดสัญญากับสนพ. แล้วนักเขียนนำมาเปลี่ยนปกใหม่ +ทำขายเอง และไม่เพิ่มอัตโนมัติเข้าไปในชั้นหนังสือของคนมีเวอร์ชั่นเก่าของสนพ. หรือบางคนพอหมดสัญญาก็มีปรับเพิ่มเนื้อหาเล็กน้อยด้วย และประกาศแจ้งเตือนนักอ่านในmebว่าคุณได้สิทธิ์ซื้อxxxในราคาพิเศษ เพราะคุณมีxxxอยู่แล้ว
เราเป็นนักอ่าน เรารู้สึกเหมือนโดนนักเขียนเท ถึงจะชอบเรื่องนั้นมากแต่เราก็ไม่แฮ้ปปี้กับการต้องซื้อebookซ้ำ ถึงจะลดราคาก็เหอะ อยากรู้ว่าในมุมนักเขียนคิดยังไงกับเรื่องนี้

269 Nameless Fanboi Posted ID:YPfT9idA6F

>>267 โพสต์ชั่วโมงโฮมรูมเหรอ คือมอกูก็มีโฮมรูมกับที่ปรึกษาอะ แต่เป็นอาทิตย์ละวันตอนเลิกเรียนแล้วอะ ก็ไปหาแกราวๆ ชั่วโมงหนึ่งอะ ไปเล่นในห้องแกกันบ้าง เขียนคำปรึกษาลงกระดาษใส่กล่องไว้ให้แกบ้าง แกมีเวลาก็มานั่งฝังปัญหา หรือ อาจารย์อื่นติงมา ก็เอามาเตือนพวกกู มันก็มีจริงๆ นะ

270 Nameless Fanboi Posted ID:YPfT9idA6F

>>268 กูรู้สึกไม่แฟร์ในฐานะนักอ่าน ทำใหม่ด็ช่วยอัพเดต เข้าชั้นกูด้วยจิ เพราะตอนทำกับสนพ นขก็ได้เปอร์ไม่ใช่เหรอ แล้วกูซื้อกับ สนพ มีแต่ pdf ด้วยนะ กูแบบเฮ้อ จำนามปากกาไว้

271 Nameless Fanboi Posted ID:CimB1CLzNs

>>268 มุมนักอ่านกูเฉยๆ กูมองว่ามันไปตามยุคสมัย แฮรี่พ็อตเตอร์แม่งมีเป็นร้อยเวอร์ชั่นร้อยปก ร้อยสำนวนแปล หลายสนพ.ที่ซื้อลิขสิทธิ์มาทำ กูยังไม่เห็นใครเขาดิ้นกันเลย วรรณกรรมไทยหลายเรื่องแม่งมีเป็นสิบๆปก ทั้งฉบับปรับปรุงหลายเวอร์ชั่น งี้คงต้องส่งให้นักอ่านเก่าๆหมดแล้วละ

272 Nameless Fanboi Posted ID:I/Zgb2UU+H

>>268 เข้าใจแหละที่นักอ่านจะรู้สึกไม่แฟร์ แต่ตอนออกกับ สนพ อะ นักเขียนก็ได้แค่ 10% ของราคาขายนะ เล่มละ 400 ก็ได้ 40 บาทเอง ยังซื้อข้าวสักมื้อไม่ได้เลย สัญญากับ สนพ ส่วนใหญ่ก็ 5 ปี มันก็เป็นเวลานานพอสมควรละนะ คือ 40 บาทใช้ 5 ปีอะ ตกปีละ 8 บาทเอง นักอ่านก็ต้องเข้าใจนิดว่าตอนซื้อคือตกลงความพอใจในต้นฉบับหรือคุณภาพงาน ณ เวลานั้นแล้ว คนซื้อเล่มถ้ามีเวอร์ชั่นรีไรท์ก็ต้องซื้อใหม่เหมือนกัน หรือถ้านักเขียนเสนอส่วนลดให้แค่ 40 บาท คือเท่ากับคืนเงินที่ได้จาก สนพ ไปหมดเลย นักอ่านจะพอใจกันมั้ยอะ

273 Nameless Fanboi Posted ID:CimB1CLzNs

>>271 ให้เห็นภาพเจ้าชายน้อย ซีไรต์หหลายๆเรื่อง เปลี่ยนปกบ่อยอยู่ กูตามอุดหนุนแล้วแต่ชอบปกไหน บางเรื่องกูมีแล้ว ไม่ชอบปกใหม่กูก็ไม่ซื้อ อีบุ๊กหลายเรื่องก็จบในตัวมันตอนที่ซื้อตอนนั้นแล้ว กูไม่เห็นจำเป็นว่าต้องซื้อใหม่ก็ไม่ซื้อ แต่รู้สึกมันเริ่มมีปัญหานี้เพราะสมัยก่อนปกไม่ค่อยสวย คนไม่ค่อยสะสมหนังสือหรืออีบุ๊ก ถ้าจะสะสมหนังสือก็ต้องเป็นหนังสือปกสวยๆ เก็งกำไรขายต่อได้ จากนั้นมากูก็เห็นดราม่าห้ามนักเขียนรีไรต์ เปลี่ยนปกจากพวกวงการนิยายรักนิยายวาย ซึ่งส่วนใหญ่ไม่เกิดขี้นในวงการหนังสือทั่วๆไปหรือวรรณกรรมที่เปลี่ยนปกกันเป็นว่าเล่น

274 Nameless Fanboi Posted ID:fs1z/iOjn.

>>269 ไม่ใช่แค่อันนั้น มีหลายอันมากๆ ช่วงนี้

และเรื่องชั่วโมงโฮมรูมนั่นคือการออกมายืนแนะนำตัวหน้าชั้นเรียนนะ มหาลัยมึงมีไหม

275 Nameless Fanboi Posted ID:CUVLtkZXX2

>>271 มึงว่าเจ๊เจเคจะโดนฉอดเรื่องนี้บ้างมั้ยวะ 5555555555555555555

276 Nameless Fanboi Posted ID:YPfT9idA6F

>>272 อันที่กูเจอมันเหมือนเดิมเป๊ะ ไม่ได้หมายถึงเพิ่มเนื้อหานะ

277 Nameless Fanboi Posted ID:YPfT9idA6F

>>274 กูเพิ่งเห็นอันที่ยืนหน้าชั้น เข้าไปตอนแรกเห็นอันที่ยาวๆๆๆๆๆๆ มากๆ น่ะ

278 Nameless Fanboi Posted ID:c+TCpHB18R

>>276 เหมือนเดิมเป๊ะแล้วจะซื้อซ้ำทำไมอ่า งง ปกติถ้าเนื้อหาเหมือนเดิมมันก็คือการอัพไฟล์เดิมน่ะสิ ถ้าไฟล์เหมือนเดิม meb จะไม่ให้อัพด้วยมั้ง อยากให้นักเขียนอัพรูปปกใหม่ลองทักไปบอกเขาก็ได้นะ เห็นบ่นว่าไม่อยากซื้อซ้ำเลยนึกว่าเขารีไรท์ซะอีก แต่ปกติหนังสือหมดสัญญากับ สนพ เขาบังคับรีไรท์ เอาเวอร์ชั่นเดิมมาขายต่อไม่ได้อยู่แล้ว ยังไงด้านในก็ต้องเปลี่ยนจ้า

279 Nameless Fanboi Posted ID:UULC1O3wzm

>>268 เฉยๆ เราจ่ายเงินซื้อฉบับแรกก็ได้อ่านฉบับแรกตามที่พอใจแล้ว ถ้าเขาจะแก้ไขปรับปรุงวางขายฉบับใหม่ ใครอยากซื้อก็ซื้อ ไม่อยากซื้อก็ไม่ต้องซื้อ ทำไมถึงคิดว่าการจ่ายเงินซื้อหนังสือเล่มหนึ่งแล้วจะมีสิทธิ์ครอบครองทุกเอดิชั่น ทุกการแก้ไขปรับปรุงเพิ่มเติมล่ะ กูงงกับตรรกะนี้มาก

280 Nameless Fanboi Posted ID:yXZbKqAx3R

>>268 กูในฐานะนข. ไม่เคยทำแบบนั้น แต่ในฐานะนอ. กูชอบเพชรพระอุมามาก แต่กูซื้อเฉพาะเวอร์ชั่นปกภาพสีของสนพ.หนึ่ง ไม่ได้ตามเก็บของเจ้าอื่นที่ซื้อลิขสิทธิ์มา แล้วก็ไม่รู้สึกว่าไม่แฟร์อะไรด้วย ไม่รู้สึกว่าอาจารย์พนม ทำไมขายลิขสิทธิ์ให้หลายที่จังเลย แบบนี้ไม่แฟร์กับนอ.นะคะ /นิยายนข.อายุน้อยกว่าขึ้นมาหน่อยหนึ่ง แนวโรมานซ์ กูซื้อเวอร์ชั่นสนพ.มา ตั้งหลายปีก่อน ปัจจุบันนข.เอามารีไรท์ 90% เปลี่ยนปก แบบมึงว่าเลย กูก็เฉยๆอีก ตอนนั้นยังไม่เป็นนข. เลยด้วยซ้ำ ดังนั้น ตัดความไบแอสตรงนี้ไปได้เลย

281 Nameless Fanboi Posted ID:yXZbKqAx3R

>>268 เฮ้อ อย่าหาว่ากูพูดแรงเลย แต่ความคิดแนวลูกค้าคือพระเจ้านี่ มันเป็นความคิดผู้บริโภคเป็นใหญ่เกินไปนะ อัตตาของความเป็นคนซื้อเยอะมากจนมองแค่มุมเดียว

282 Nameless Fanboi Posted ID:p0l.PKYT+d

เออนะ กูก็งง ถ้าเนื้อหาเหมือนเดิมหมด ไม่รีไรท์ ไม่เพิ่มตอนพิเศษ แล้วจะอยากซื้อซ้ำทำไม มึงอ่านรอบ สนพ ไปแล้วก็ถือว่าจบบริบูรณ์ไปแล้ว นอกซะจากมึงคลั่งรักนักเขียนคนนี้มาก ก็ซื้อซ้ำไปเถอะ ถือว่าชอบปกใหม่ จ่ายค่าปกใหม่ ค่ารีพรูฟให้นักเขียน แต่ถ้ามึงไม่โอเคจัด รู้สึกโดนเท ไม่ไหวก็ไม่ต้องไปต่อ นักเขียนเยอะแยะ เลือกซัพพอร์ตคนอื่นเอา

283 Nameless Fanboi Posted ID:yXZbKqAx3R

>>282 อันนี้ 268 มันถามกรณีรีไรท์ด้วย เพราะติดเงื่อนไขของสนพ. หมดสัญญาแล้วก็ตาม ไม่สามารถเอาต้นฉบับเดิมมาขายเองได้ นข.เลยต้องรีไรท์ใหม่ กูเคยเจอหลายนามปากกาเลย รีไรท์มากบ้างน้อยบ้าง แต่กูยังงง มันมีบางนามปากกาหมดสัญญาแล้วเอามาขายเองโดยใช้ต้นฉบับเดิม ซึ่งก็หมดสัญญามาจากสนพ.เดียวกันนี่แหละ แปลว่าเงื่อนไขสนพ. อาจไม่ตายตัว แล้วแต่จะตกลงกับนข.มากกว่า

284 Nameless Fanboi Posted ID:yXrie/OoyK

จริงๆ นักเขียนรีไรท์ไม่ได้แปลว่าหิวเงินอย่างเดียวนะ เหตุผลง่ายๆ บางทีก็คืออายน่ะ มึงไล่ดูสเตตัสเฟสบุ๊กตัวเองเมื่อหลายปีก่อนยังอายเลยว่าตั้งไปได้ไง อันนี้หนังสือทั้งเล่ม พอปรับปรุงได้ก็อยากจะปรับแหละ บางคนโดนด่ามาเยอะในฉบับเก่า โตขึ้นแล้วอยากแก้ไขเพราะตอนนี้ทำได้ดีกว่าเก่าก็เท่านั้น นักอ่านคนใหม่มาตามจะได้ไม่ผิดหวัง พองานบ้งคนไม่ค่อยมองหรอกว่านี่เป็นเล่มแรกหรืองานเก่ามากแล้ว เขาจะจำแค่ว่านามปากกานี้ก็มีงานไม่ดีเหมือนกัน

285 Nameless Fanboi Posted ID:CF/8hram+l

>>279 กุเห็นด้วย นักเขียนแทบไม่มีสิทธิ์ในงานตัวเองล่ะมั้ง ขยับทางไหนมีแต่คนจะดราม่า

286 Nameless Fanboi Posted ID:yXZbKqAx3R

>>284 กูมีงานเรื่องแรกอยากแก้ฉิบหาย แต่ยังไม่มีเวลาเลย ตอนแรกกะจะปล่อยผ่านละ คิดว่าเสียเวลา เอาเวลาไปแต่งเรื่องใหม่ๆ ดีกว่า มึงพูดงี้กูอยากแก้เลย

287 Nameless Fanboi Posted ID:yXrie/OoyK

>>286 อยากแก้ก็แก้เลย ลองคิดดูว่าถ้าวันนึงตายไปอยากทิ้งงานแบบไหนเอาไว้ นักอ่านด่าเราเขาก็ไปซบนักเขียนคนอื่นได้ ปีนึงอ่านกันเป็นร้อยๆ เรื่อง แต่นักเขียนคนเดียวบางทีทั้งชีวิตเขียนงานได้แค่ 10-20 เรื่องเอง จะแก้จนกว่าจะพอใจแล้วมันจะทำไมวะ

288 Nameless Fanboi Posted ID:EVvHKVTR00

>>265 กูรู้สึกว่าฉากธรรมดาบทพูดใส่ติดกันสองประโยคจะไม่สบายใจละ ต้องบรรยายคั่นสักสองสามประโยคให้ตัวเองสบายใจ เหตุการณ์นึงเลยเขียนค่อนข้างยาว แต่เดี๋ยวนี้มีปห.กะฉากเย้มากกว่า กุเขียนยังไงก็ไม่เกินหนึ่งหน้า เพราะตลค. กุไม่เดอตี้ทอล์คหรือมีบทพูดเซ็กซี่ๆ ให้แต่ละฝ่ายหน้าแดงน่ะ เป็นพวกมาถึงก็จัดเลย แต่บรรยายการกระทำเยอะนะ มีครางบ้างไม่กี่ที พอไปอ่านของคนอื่นงี้แม่งเย้กันฉากเดียวล่อไปแปดหน้าเอสี่เพราะเย้ไปพูดไป กุอยากให้ฉากอย่างว่ากุยาวแบบนี้มั่งเพราะตั้งใจมาหมวดโรมานซ์

289 Nameless Fanboi Posted ID:YPfT9idA6F

นักเขียนบางคนก็น่ารักดี พอทำเองมันก็เข้าชั้นอัตโนมัตินะ

290 Nameless Fanboi Posted ID:m60dZDn37H

>>263 ไม่เป็นไรเลยจริงๆ กับบรรยายเยอะ เคยมีโม่งคุยกันเมื่อกระทู้ก่อนมั้งว่าถ้าทั้งเรื่องสมดุลดีแล้ว ต่อให้บทสนทนาจะเยอะบทบรรยายน้อย บทสนทนาน้อยหรือบทบรรยายเยอะ คนอ่านก็ชอบเหมือนกันนั่นแหละ นักเขียนบางคนบรรยายเก่งมากนะ มีพรสวรรค์ในการร้อยเรียงประโยค นักอ่านอ่านเพลินๆ เขาก็ชอบ อยากอ่านบรรยายต่อไปเรื่อยๆ ตัวกูเองก็ชอบบรรยายเหมือนกัน นักอ่านเคยคอมเมนต์ว่าชอบคำบรรยายเพราะว่าอ่านแล้วคล้อยตาม จินตนาการภาพง่าย ลองเขียนไปเรื่อยๆ แล้วจะเจอจุดสมดุลของตัวเองเอง ตอนนี้กูก็กลับไปแก้งานเก่าของตัวเองอยู่ บรรยายเยอะมาก พอกลับไปแก้จาก 5 บรรทัดเหลือประโยคเดียวก็มีนะ 55555 ค่อยๆ เรียนรู้งานตัวเองไปค่ะเพื่อนโม่ง ให้พระเอกนางเอกของเราโตไปพร้อมๆ กับคนเขียนค่ะ

291 Nameless Fanboi Posted ID:yXZbKqAx3R

>>290 ไม่น่าจะเรียกว่าโตไปพร้อมกัน น่าจะเรียกว่าค่อยๆ เลี้ยงหลานไปมากกว่า 5555+ กูมีไฟแก้งานเก่าขึ้นมาเลย เพราะ >>287 ด้วย นอนไม่หลับไปอีก โปรเจกต์รีไรท์ขนานใหญ่รื้อยกแผงมาเต็มหัว

292 Nameless Fanboi Posted ID:zUdasr/rlI

ตามหาผู้รู้ค่ะ ในที่นี้มีใครมีความรู้ในเรื่อง
1. ศาสนาพุทธมหายาน,วัชรยาน (ต่างกันยังไง)
หรือ 2.ปรัชญา เซน, เต๋า (ต่างกันยังไง)
หรือ 3. ภาษา วัฒนธรรมทิเบต หรือความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับทิเบต
หรือ4. ปรัชญากรีก
บ้างมั้ยคะ

เอาไปเป็นข้อมูลแต่งนิยายค่ะ ส่วนตัวเคยศึกษามาเองบ้าง แต่ไม่แตกฉานพอ

ปล. วิชาการแน่นๆก็ได้ แต่ขอคนที่คุยภาษาคนรู้เรื่องนะคะ😅🙏

293 Nameless Fanboi Posted ID:U34V.jdlce

ถ้ากูแบ่งต้นเรื่องบรรยายมุมพอ ท้ายเรื่องบรรยายมุมนอ มันแปลกไหมจะงงๆไหมอะ กูก็ไม่เคยเจอคนบรรยายแบบนี้ หรือจะแบ่งเป็น2ภาคแล้วลงคนละเรื่องดีวะ

294 Nameless Fanboi Posted ID:hCB9UghNwV

>>268 เฉพาะebookนะ ในฐานะนักอ่านก็รู้สึกถูกทิ้งเหมือนกันว่ะ เป็นเล่มจะเปลี่ยนปกจะเพิ่มยังไงก็ได้แต่ebookคนซื้อมันขายต่อไม่ได้ ซึ่งอันนี้มันก็สิทธิ์ของนักเขียนเขาจริงนักเขียนต้องกินต้องใช้กูก็รู้ แต่มันมีให้เปรียบเทียบ ว่าทำไมนักเขียนคนนี้หมดสัญญากับสนพ.แล้วเพิ่มเข้ามาให้อัตโนมัติในชั้นได้ แต่ทำไมอีกคนถึงให้ไม่ได้ล่ะ กูมองว่ามันต้องใช้ใจ และมันเหมือนนักเขียนพากูไปอยู่ในการเปลี่ยนแปลงของเขาด้วย
ใครไม่ให้กูก็ได้แต่ทำใจกับจดชื่อไว้ กับนักเขียนคนนี้ คือคนขายกับลูกค้า โฟกัสเฉพาะผลงาน แล้วถ้าเขาออกebookกับสนพ.อีก ถ้ากูชอบกูอยากอ่านก็ไปซื้อเล่มอ่าน อ่านแล้วไม่ชอบก็ขายเล่ม ถ้ากูชอบกูอยากเก็บebookกูก็จะรอจนเขาหมดสัญญากับสนพ.มาทำebookขายเองกูค่อยซื้อ harry เจ้าชายน้อย เพชรพระฯจะออกกี่เวอร์จะเปลี่ยนปกเปลี่ยนสนพ.ก็ได้ดิ ถ้าขายเป็นเล่ม ตามสบายเลย กูก็มีเจ้าชายน้อย2ปก แต่ ebook มันขายต่อไม่ได้ไง ยิ่งebookเพิ่มเนื้อหาเปลี่ยนปกใหม่แล้วกูต้องรักเรื่องนั้นมากจริงๆกูถึงยอมซื้อ ล่าสุดก็มีเรื่องนึง ตวมมวตด. เพิ่งหมดสัญญากับสนพ.นักเขียนก็มาทำขายเองเฉพาะebook กูก็ยอมซื้อแต่กูก็จดชื่อนักเขียนไว้

295 Nameless Fanboi Posted ID:PtnZNLxH8m

>>294 กุสงสัยอย่างนึงว่าทำไมนักอ่านสายอีบุคมีมายเซ็ตว่าตัวเองเสียเปรียบกว่าสายเล่ม ไปไหนก็เจอตลอด อีบุคต้องถูกกว่าเพราะเราไม่มีหนังสือที่จับต้องได้ บลาๆ แล้วทำไมไม่ซื้อเล่มที่มันจับต้องได้แทนล่ะ จะบอกว่าไม่มีที่เก็บและสะดวกแบบอีบุคมากกว่า อ้าว แต่นี่มันก็เป็นสิ่งที่คนซื้อหนังสือไม่ได้เหมือนกันนะ กูมองว่ามันมีข้อดีข้อเสียไปคนละแบบ คนซื้อเล่มเขาก็ไม่ได้ไฟล์ที่พกติดตัวไปอ่านได้ทุกที แล้วก็ต้องซื้อราคาสูงกว่าด้วย จะบอกว่าอีบุกอัพเดทไฟล์ให้ใหม่ได้ ไม่อยากซื้อซ้ำ งี้นักอ่านสายเล่มหัวหมอขอซื้อเล่มแบบราคาทุนบ้าง นักเขียนก็ไม่ต้องเอาอะไรกินแล้วป่ะ

296 Nameless Fanboi Posted ID:YhWjlZkdFp

>>294 ค่านิยม ebook เสียเปรียบรูปเล่มเพราะขายต่อไม่ได้นี่มาจากไหนวะ การที่มึงเอาหนังสือไปขายต่อเนี่ยนักเขียนไม่ได้อะไรเลยนะ ส่วนมึงคือได้อ่านแล้วยังได้เงินคืนอีก บางคนก็อัพราคาหนักกว่านักเขียนด้วย ต้นทุนค่าทำเล่มสมมติ 30% มึงเอาไปขายต่อมือสองแบบลด 30% ก็คือได้กำไรเท่านักเขียนที่สร้างสรรค์งานเลย ดังนั้น ebook ขายต่อไม่ได้ไม่ใช่การเสียเปรียบ มันเป็นระบบที่ช่วยสนับสนุนนักเขียนด้วยซ้ำ ใครอยากอ่านก็มาซื้อจากนักเขียน เงินจะได้เข้าตามจำนวน copy ที่ปล่อยออกไป หนังสือหนึ่งเล่มเวียนขายกัน 10 รอบนักเขียนได้เงินครั้งเดียว สรุปแล้วใครเอาเปรียบใครกันแน่ นักเขียนที่อัพอีบุ๊กฉบับใหม่ให้ฟรีๆ คือคนใจบุญ แต่คนไม่ให้ก็ไม่ผิด ทุกคนควรคิดให้ได้ว่าจ่ายเงินซื้ออะไรได้อันนั้นก็คือจบ ไม่งั้นก็ไม่ต้องทำมาหากินกันแล้วถ้าต้องมาคอยโอ๋ทุกคนที่เคยซื้อไป ไม่ต้องมาสัญญาใจอะไร นักเขียนเขาเห็นมึงเอาหนังสือไปขายต่อเขาก็จำไว้เหมือนกันนั่นแหละว่าคนนี้มันขาจร

297 Nameless Fanboi Posted ID:YhWjlZkdFp

นักอ่านเดี๋ยวนี้สำคัญตัวผิดมาก หนังสือจะรูปแบบไหนมันก็คือ product ตามกฎหมายการซื้อขายจบเมื่อเงินมาของไป เงินที่จ่ายคือค่าแรง ค่าความคิด ไม่ต้อง input อารมณ์ลงมา ทีมึงซื้อไปแล้วไม่ถูกใจมึงเอาไปด่านี่มึงไม่ใช้ใจกันแล้วเหรอ

298 Nameless Fanboi Posted ID:014tmj4lnF

เท่าที่กูเห็นๆ มา นข.สายบุญนี่ คือ ยอดขายปังเปรี้ยงจนเหลือแดกไปถึงปีหน้าแล้วทั้งนั้น ส่วนคนที่ไม่เจียมขายไม่ออกแล้วอยากลองป๋า ก็ยังไม่ได้มีใครมาแคร์นะ อดตายไร้คนเหลียวแลอยู่แบบนั้น

299 Nameless Fanboi Posted ID:014tmj4lnF

>>292 ลองหาอีบุ๊ก หรือหนังสือของอ.คมกฤช หรือ อ.ศิริพจน์ ดู หมวดศาสนาอะ

300 Nameless Fanboi Posted ID:bBHMhf9jm8

>>295 ถ้ามึงอยากสวนกระแสสร้างค่านิยมที่มึงคิดว่าถูกคืออีบุ๊คสมควรราคาเท่ากับเล่ม ทีหลังมึงก็ขายอีบุ๊คราคาเท่ากับเล่มดูดิ มึงพอใจราคานี้ คนอ่านก็มีสิทธิเลือกได้ว่าจะซื้อไม่ซื้อ มึงจะได้ไม่ต้องมาบ่นไรแบบนี้อีก เป็นคนตั้งราคาขายแท้ๆ ยอมขายเองทำไมในราคาที่ตัวเองไม่พอใจ

301 Nameless Fanboi Posted ID:B7veVjnhfS

>>300 กูไม่ได้หมายความว่ามันต้องราคาเท่ากัน เพราะนักอ่านบางคนจะเอาอีบุคลดเยอะๆ ลดกว่าเล่มมากๆ กูแค่ยกตัวอย่างมาประกอบ ประเด็นที่กูเขียนมีตั้งเยอะ มึงจับใจความได้แค่นี้เหรอ แล้วก็ไม่ต้องห่วงกูเรื่องขายหนังสือ เรื่องตั้งราคาหรอก กูรู้ว่าควรทำยังไง และกูขายดีค่ะ

302 Nameless Fanboi Posted ID:bBHMhf9jm8

>>301 เรื่องขายดีไม่ดีของมึงนี่ไม่มีใครถามเบยนะ55555555 ก็เห็นดูไม่พอใจว่าทำไมนักอ่านมันคิดงั้น มึงเปลี่ยนมายเซตคนอ่านไม่ได้อยู่แล้วก็เลยเสนอให้ตั้งราคาแบบที่เท่ากันไปเลยไง นักอ่านจะได้ไม่รู้สึกว่าเสียเปรียบด้านราคาระหว่างเล่มกับอีบุ๊ค แตะโดนนิดเดียวอีโก้ในตัวเองมันเป็นยอมไม่ได้เลยดิ ต้องเสนอหน้ามาบอกว่าขายดีทั้งที่ไม่มีใครถาม

303 Nameless Fanboi Posted ID:EcegxoVJRV

>>295 เห็นด้วย นีกอ่านบางคนอยากได้พรีเมียมเหมือนเล่มอีก นักเขียนต้องเป็นผู้ให้ แล้วแดกแกรบเอา 555

304 Nameless Fanboi Posted ID:rRbsd/36bL

>>302 คนที่แตะไม่ได้น่าจะมึงมากกว่านะ สงสัยเป็นนักเขียนประเภทในกลุ่มนี้ที่เขาพูดถึงกัน พอใครแตะนิดแตะหน้อยถึงออกมาดิ้น 555

305 Nameless Fanboi Posted ID:rRbsd/36bL

>>304 เป็นนักอ่านสิ พิมพ์ผิด

306 Nameless Fanboi Posted ID:bBHMhf9jm8

>>304 ก็เป็นทั้งนักอ่านและนักเขียนนะ เพราะไม่งั้นคงเขียนไม่ได้ถ้าไม่เคยอ่าน มึงว่ามั้ยอะ555555555 เรื่องที่แตะไม่ได้มึงน่าจะรู้ตัวมากกว่ากุนะ ก็มึงไม่ใช่นขคนแรกที่บ่นงี้ นขหลายคนก็เป็น นักอ่านกุก็ชอบให้อีบุ๊คถูกกว่าเล่ม กุเข้าใจว่าเค้าคิดแบบที่มึงว่าไง แล้วก็เข้าใจด้วยว่าตัวเองเปลี่ยนมายเซตคนอ่านไม่ได้ บ่นไปก็ทำไรไม่ได้ ถ้านิยายตั้งราคาเล่มเท่ากับอีบุ๊คยอดขายกุก็ลดลงไง กูเข้าใจและยอมรับได้ แต่เห็นมึงยังมาบ่นๆในนี้ว่าทำไมนักอ่านชอบเป็นงั้นงี้ บานไปแล้วทำไรได้มั้ยวะ

307 Nameless Fanboi Posted ID:DCe0crn5Oa

>>306 แล้วมันบ่นไม่ได้เหรอวะ กุสงสัย

308 Nameless Fanboi Posted ID:Iw8zkPtMFJ

>>306 แต่กุว่ามายเซ็ตคนอ่านเปลี่ยนได้นะ ถ้าเขาได้อ่านความเห็นอีกแง่มึงหนึ่งและทำความเข้าใจ บ่นในนี้อย่างน้อยนักอ่านที่เขาไม่เอาแต่ใจปิดหูปิดตาได้ผ่านมาเห็น เขาอาจจะเข้าใจอีกมุมหนึ่งก็ได้ เมื่อก่อนสังคมไม่ได้ raise awareness ในประเด็นต่างๆ กันอย่างทุกวันนี้ แต่พอคนเริ่มเข้าใจก็เริ่มมีกันมากขึ้น หรืออย่าอาชีพนักเขียนเมื่อก่อนคนก็เรียกร้องให้ใช้แต่ใจเขียน จะหาเงินแบบอาชีพอื่นก็ถูกมองไม่ได้เขียนด้วยใจรัก แต่ทุกวันนี้คนอ่านส่วนใหญ่ก็เข้าใจว่านักเขียนต้องกินต้องใช้ คิดกำไรจากอาชีพนี้ได้

309 Nameless Fanboi Posted ID:bBHMhf9jm8

>>308 ประเด็นสังคมมันได้แหละ เรื่องนักเขียนต้องกินต้องใช้ไรงี้ในทวิตก็เข้าใจเยอะ นิยายถ้าติดเหรียญหรือไม่ลงจนจบไม่มีใครด่ายกเว้นนักอ่านที่มันปสดจริงๆ แต่เรื่องอีบุ๊คกับเล่มเนี่ยยาก มีช่วงนึงที่สนพการ์ตูนใหญ่อย่างสยามตั้งราคาวันพีซอีบุ๊คเท่าเล่ม/แพงกว่าเล่ม สุดท้ายโดนกดเรตติ้งหนึ่งดาวรัวๆคนอ่านด่าเละเทะจนต้องดัมป์ราคาลงมาให้ถูกกว่าเล่ม ขนาดกุว่าคนเก็บการ์ตูนนี่เก็บเป็นของสะสมนะ ไม่ค่อยขายต่อยกเว้นจะขายแบบยกเซตไปเลย ขายยากกว่านิยาย สนพมันยังทำไรไม่ได้เลยจนต้องลดราคาลงมา

310 Nameless Fanboi Posted ID:bBHMhf9jm8

เรื่องนิยายที่รีไรท์แล้วคนอ่านไม่พอใจจะขอฉบับรีไรท์ด้วยนี่ล่าสุดเห็นตยเคสของสนพส้ม ที่เอามากกว่ารักฉบับรีไรท์มาเปลี่ยนปก+ปรับเนื้อหา ยิ่งส้มแม่งยิ่งโคตรโอ๋นักอ่านเลย สุดท้ายก็ต้องตามใจ ทั้งคนที่ซื้อฉบับเล่มปกขาวไปแล้วทั้งคนซื้ออีบุ๊คแบบเก่า

311 Nameless Fanboi Posted ID:QNevBG.M01

>>293 หมายถึงใช้มุมมองพระเจ้าบรรยายช้ะ ไม่แปลกหรอก แต่ถ้าใช้มุมมองบุรุษที่ 1 ก็ไม่แปลกเหมือนกัน สลับไปสลับมาได้อย่าให้คนอ่านงงก็พอ

312 Nameless Fanboi Posted ID:hqXsQJKnUK

>>310 ก็ดันเพิ่มตอนพิเศษไปอีกไม่ใช่เหรอ อันนี้กูก็ไม่ชอบอะ ปกเปลี่ยนไปล้านแปดกูไม่ว่า แต่มึงจะเพิ่มเนื้อหามาเนี่ย แล้วที่เคยซื้อทำไงล่ะ ต้องซื้ออีกรอบเหรอ ก็แยกมาขายพิเศษในอีบุ๊คก็ยังดี อันนี้กูก็เคือง

313 Nameless Fanboi Posted ID:v00GZbjjVK

>>293 ไม่แปลก แบ่งพาร์ทเอาก็ได้นะ หรือไม่ก็แบ่งครึ่งเล่มแรกเป็น 1 ภาค (พาร์ทพระเอกบรรยาย) ครึ่งหลังเป็น 1 ภาค (พาร์ทนางเอกบรรยาย) เคยเห็นเล่มหนึ่งของแจ่มใสก็ทำแบบนี้เหมือนกัน

314 Nameless Fanboi Posted ID:hCB9UghNwV

>>296 ถ้าเป็นเรื่องเงิน ไม่เกี่ยวกับป๋าไม่ป๋า สายบุญอะไร กูถามจริง นข.คิดว่าจะได้เงินจากคนอ่านที่มีebookเวอร์เก่าอยู่แล้ว แล้วมาซื้อซ้ำเหรอวะ ?? คนอ่านจะซื้อใหม่ทำไม แค่กดmebก็ขึ้นเตือนแล้วเตือนอีกว่ามีเล่มนี้อยู่ นอกจากจะมีหลงมาสักคน2คนแบบที่มันคลั่งมันชอบจริงๆอะ แล้วก็จะมีนักอ่านมาเม้นถามว่า มีเวอร์ชั่นเก่าต่างกับเวอร์ชั่นใหม่ยังไง บลาๆๆ
ถ้าหมดสัญญาสนพ.แล้วมาขายebookใหม่ จะให้ หรือ ไม่ให้ เวอร์ใหม่กับนักอ่านที่มีebookเวอร์เก่า มันก็สิทธิ์ของนข.อยู่แล้วไม่ผิด แต่กูมองว่าถ้าให้ มันก็วิน-วินทั้ง2ฝ่าย ไหม 1.เพราะยังไงกลุ่มคนที่ให้ก็ไม่ซื้อซ้ำอยู่แล้ว กูคนนึงละ ยังไงนข.ก็ได้เงินจากพวกนี้ยาก แต่จะได้ใจได้ความซึ้ง ได้ภาพลักษณ์ ว่าใจกว้างใจป๋า ไม่ต้องมาตอบคำถามจุกจิก 2.ทำให้เรื่องนั้นมันอัพเดทเลื่อนขึ้นมาอยู่เล่มแรกๆในshelf คนอ่านบางคนถ้าชอบก็เกิดคิดถึงอ่านอีกรอบได้กระแสไปอีก แต่ก็นะ ถ้านข.จะไม่ให้ก็ไม่ผิด ไม่ให้ก็ไม่เอา จบ

315 Nameless Fanboi Posted ID:9E+Xo8wzJj

ถ้าซื้ออีบุ๊คกับ สนพ. พอหมดสัญญาแล้ว เอามาอัปเดทเข้าชั้นให้คนที่ซื้อไปแล้ว กูเอ็นดูนะ พอมีงานใหม่กูก็ซื้อง่าย เพราะใจๆ มา กูก็ใจๆ ไป แต่จะไม่ค่อยอยากซื้อประเภทเพิ่มตอนพิเศษ แล้วกูต้องไปซื้อใหม่ถึงได้อ่าน กับรีไรท์ซะอย่างกับเรื่องใหม่ กูจะมองบน พอพูดไปก็เข้าทำนองเดิม สิทธิ์ขายของมึง สิทธิ์ซื้อของกู ถ้ามึงไม่แคร์ กูก็ไม่แคร์ นิยายแปลดีๆ ก็เยอะ นิยายไทยก็แยะ ใครจะรู้ว่ากูซื้อของมึงทุกเล่ม แต่มึงไปโอ๋แต่นักอ่านใหม่ กูก็เท

316 Nameless Fanboi Posted ID:hBlUIol1Wo

เอ็นดูความอยากให้นักเขียนใจใจ แต่กูไม่เคยเห็นคนพูดถึงนักอ่านใจใจบ้างเลย เห็นแต่เทขาย หารอีบุ๊ก แชร์อีบุ๊ก บ่นขายแพง บ่นไม่ลดราคา 555

317 Nameless Fanboi Posted ID:R67D+yOIu3

เวลาซื้อครีมทาหน้า แล้วสักพักบริษัทปรับสูตรใหม่ ก็ไม่เห็นใครงอแงว่าบริษัทต้องส่งสูตรปรับปรุงมาให้นะ ทำไมพอเป็นงานเขียนแล้วมันเป็นตราบาปนักเขียนจัง สมมติฉบับเก่าขายได้ 1000 โหลด ตีว่ามีคนยอมซื้อฉบับรีไรท์ 20% ถ้าอัปโหลดให้ทุกคน ก็คือต้องทิ้งเงิน 20% นั้นไป? รีไรท์รอบใหม่ก็มีต้นทุนใหม่เพิ่มขึ้น แล้วจะหากำไรจากตรงนี้ไม่ได้รึไง ใจแลกใจของมึง สุดท้ายก็คือต้นทุนที่นักเขียนต้องแบกรับ ทั้งต้นทุนจริงๆ และต้นทุนค่าเสียโอกาส ไม่เคยจะสนใจในมุมนักเขียนกันหรอก จะเอาให้ได้ดั่งใจตัวเอง พอไม่ได้ก็บอกไม่เป็นไร แต่ฉันจะจำชื่อเธอไว้ แล้วอย่างที่บอกว่ารอบแรกที่ซื้อกันไปจาก สนพ นักเขียนได้แค่ 10% คือเงินหลักสิบบาทนี่กะจะให้ดูแลกันทั้งชีวิตเลยว่างั้น

318 Nameless Fanboi Posted ID:9E+Xo8wzJj

>>317 ครีมกับหนังสือ โห กล้าเอาไปเทียบ 5555555

319 Nameless Fanboi Posted ID:R67D+yOIu3

>>318 แล้วทำไมเทียบไม่ได้ ต่างกันตรงไหน? กุเขียนหลายบรรทัด เถียงไม่ถูกก็เอามาแค่บรรทัดแรกเนี่ยนะ 55555555

320 Nameless Fanboi Posted ID:qOciHe67tN

>>317 เห็นด้วยกับมึง

321 Nameless Fanboi Posted ID:R67D+yOIu3

>>316 อันนี้คือกรณีที่ชอบนักเขียนด้วยนะ ยังไม่ใจใจเลย ลองคิดดูว่าเกิดเป็นนักเขียนที่ไม่ชอบ หนังสือขายทิ้งไปแล้ว ได้เงินคืนแล้ว ยังคอยตามรีวิวในแง่ลบตามเพจอีก ขัดขายอดขายไปเรื่อยๆ ไม่รู้นักอ่านหรือเจ้ากรรมนายเวร 5555

322 Nameless Fanboi Posted ID:014tmj4lnF

กูไม่รู้นะว่าคนที่เห็นต่าง เทไปทางทรีตนอ.มีฐานะเป็นนข.ด้วยไหม แต่ถ้ามึงเป็นนข.ด้วยกูจะงงมาก เพราะกูรู้สึกว่าถ้าไม่มาอยู่ในจุดเดียวกันก็จะไม่เข้าใจกัน เหมือนก่อนกูจะมาเป็นนข.กูยอมรับเลยว่ากูไม่ได้ให้ค่างานเขียนขนาดนั้น หลังจากกูได้มาอยู่ในจุดนี้เอง กูไม่กล้าไม่ให้ค่าอีกเลย //คือ มึงอาจจะรู้ว่ามันใช้ความมานะ ใช้ความคิดขนาดไหน แต่มึงไม่ได้สัมผัสด้วยตัวเองไง ความตระหนักในค่าของมันเลยยังอยู่แค่ที่ผิวเผิน

323 Nameless Fanboi Posted ID:ChpBx3P1L.

>>321 เห็นเยอะมาก ไม่ชอบนักเขียนคนไหน ซื้อมาอ่านไม่ถูกใจ เจอใครอวยเป็นต้องเสนอหน้าเข้าไปด่าว่าไม่ชอบ ไม่ดี งู้นงั้นงี้ ใจใจ ค่ะ 555

324 Nameless Fanboi Posted ID:gvifv6dI3F

>>323 หมายถึงห้ามแสดงความเห็นต่างให้นักอ่านคนอื่นเค้าได้พิจารณาก่อนตัดสินใจเสียเงินเหรอ

325 Nameless Fanboi Posted ID:i2/abi2mmg

>>323 ตลกว่ะ นักเขียนไทยเป็นไรวะ พูดว่าไม่ชอบงั้นงี้ก็ไม่ได้ มึงก็ย่ำอยู่กับที่ต่อไปละกัน มิน่านิยายไทยถึงไม่เคยได้แปล

326 Nameless Fanboi Posted ID:i2/abi2mmg

นอกจากไม่ได้แปลแล้วยังขี้ coppy อีก

327 Nameless Fanboi Posted ID:R67D+yOIu3

พอนักอ่านไม่พอใจผลงานก็ทรีตนักเขียนเป็นแค่สินค้า จะด่าจะว่ายังไงก็ได้เพราะถือว่าฉันเสียเงินแล้ว ไม่มีรักษาน้ำใจ แต่พอในมุมตัวเอง นักเขียนจะต้องรักษาน้ำใจนักอ่านนะ ไม่แคร์ไม่ได้ อย่างสมมติมึงซื้อ ebook ละให้ 2 ดาว ตามด่าไปเรื่อย คนเขาคงอยากจะอัปฉบับใหม่ให้มึงอ่านกันแหละมั้ง ทีงี้มาบ่น นักเขียนไม่ใจใจ อยากเติบโตไปพร้อมกัน ตอแหลจริงๆ

328 Nameless Fanboi Posted ID:vpvWDWzewS

>>327 เห็นด้วยทุกประโยค 555 จะด่านักเขียน โดนนักเขียนตอกกลับก็อ้างว่าไม่รับคำวิจารณ์ ผลงานจะไม่มีการพัฒนาพูดเหมือนว่าความคิดเห็นตัวเองประเสริฐเลิศเลอมาก นักเขียนต้องฟัง แต่บางคนอะความคิดสุดจะบ้ง รสนิยมก็เอิ่ม ไปฟังมากๆ บางทีงานแย่กว่าเดิม

329 Nameless Fanboi Posted ID:gvifv6dI3F

>>327 สรุปคือห้ามแสดงความเห็นต่างใช่มั้ย?

330 Nameless Fanboi Posted ID:OkyRlZ2dA3

>>329 แสดงความคิดเห็นกับไม่มีมารยาท บางทีก็แต่เส้นบางๆ กั้น

331 Nameless Fanboi Posted ID:gvifv6dI3F

ทีหลังแปะป้ายไว้ด้วยว่า ห้ามวิจารณ์
เสียเงินอ่านโง่ๆ ได้อย่างเดียว

332 Nameless Fanboi Posted ID:gvifv6dI3F

>>330 ขอตัวอย่างที่บอกว่าไม่มีมารยาทหน่อย คือยังไง ไม่เข้าใจ

333 Nameless Fanboi Posted ID:OkyRlZ2dA3

>>331 คนอ่านอย่างมีมารยาท วิจารณ์อย่างมีสติ ไม่ใช่คนโง่ แต่คนที่แสดงความคิดเห็นแบบนี้แหละคือตัวอย่างของคนโง่ และไม่มีมารยาท

334 Nameless Fanboi Posted ID:gvifv6dI3F

>>333 ไม่มีมารยาทยังไง

335 Nameless Fanboi Posted ID:gvifv6dI3F

>>334 ก็ห้ามวิจารณ์​ไม่ใช่เหรอ = เผด็จการ ปิกปาหคนอ่านมั้ย

336 Nameless Fanboi Posted ID:gvifv6dI3F

>>333 ถ้าบอกว่าวิจารณ์​ได้ก็จบแล้วมะ เพราะวิจารณ์​ แสดงความคิดเห็น กับด่า มันคนละความหมายกัน

337 Nameless Fanboi Posted ID:qsh6YoRkr8

>>327 >>328 เห็นด้วย 555

338 Nameless Fanboi Posted ID:gvifv6dI3F

>>330 สรุปว่าแสดงความคิดเห็นได้หรือไม่ได้กันแน่ ตอบแค่นี้พอ
ถ้านักเขียนแยกแยะระหว่างแสดงความคิดเห็นกับด่าอย่างมีอคติไม่ออกก็... นะ

339 Nameless Fanboi Posted ID:gvifv6dI3F

สงสารนักเขียนที่โดนนักอ่านด่าแบบไร้เหตุผลนะ คงโดนกันมาเยอะจริงๆ จนคิดว่านักอ่านทุกคนจ้องแต่จะด่าจะติไปหมด

340 Nameless Fanboi Posted ID:OvxbLV1Ebu

>>338 ถ้าไม่มีสติปัญญาตีความจากบริบทหรือตีความไม่เป็นก็...

341 Nameless Fanboi Posted ID:gvifv6dI3F

>>340 ใช่ จะตีความว่าด่าไว้ก่อนมันก็...

342 Nameless Fanboi Posted ID:vFqGnBqOuL

กูว่าอันนี้มัน common sense นะ มันคือมารยาททางสังคมที่ไม่ต้องเถียงกันก็รู้อยู่แล้วรึเปล่าวะว่าการวิจารณ์ ติเพื่อก่อ กับการระบายอารมณ์เอามันส์เพราะแค่นิยายไม่ถูกจริต มันเป็นยังไง ไม่น่าต้องมาอธิบายอีก มันแบบ ไอ้เวร ให้อธิบายยังไง มันก็ชัดๆอยู่แล้ว

แล้วไอ้การพูดว่า ‘ห้ามด่าเลยใช่ไหม ว่าไม่ได้เลยใช่ไหม ไม่ฟังกูมึงก็ไม่พัฒนา’ จากนักอ่าน หรือ ‘ก็แค่นิยาย อย่าคิดมาก ไม่ชอบก็หุบปาก ถอยไป’ จากนักเขียน เป็นอะไรที่สุดโต่งทั้งคู่ เปิดมาแบบนี้แน่นอนวอนขอตีน อยากจัดกันอยู่แล้ว ก็ควรโดน ไปเล่นกันให้หนำใจไปไอ้ส้นตีน โตพอเมื่อไหร่ค่อยกลับมาคุยกันดีๆให้คนอื่นดูจ้ะ

ส่วนกรณีไม่ชอบนิยายเขา แล้วก็ตามราวีไปทุกโพสที่เขาอวย ต้องเต้นเหมือนผีโดนข้าวสารเสกเวลามีใครมาชมเรื่องที่ตัวเองชัง ว่ากระทบ กระแนะกระแหน อันนี้โดยส่วนตัวเปรียบเสมือนจุดต่ำสุดของสังคมงานเขียน เห็นแล้วอยากแผ่เมตตาให้ อยากให้ไปผุดไปเกิดเสียที เห็นแล้วรกลูกตามาก บางคนอายุก็ไม่ใช่น้อยๆ ไม่ทราบว่าเกิดมาถึงจุดนี้โดยไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองน่าสมเพชได้อย่างไร มหัศจรรย์มาก แต่ก็ขอให้ตายไปทั้งแบบนี้ ชาติหน้าจะได้เกิดมาดูนักเขียนที่เกลียดเจริญรุ่งเรืองอีก กูขออวยพอร์น

ในฐานะที่เขียนงานกับเขาบ้างนิดหน่อย กูมีความเห็นแบบนี้ ด่ากูได้ ด่าแล้วก็ช่วยกันด่าอีห่าที่ตามรังควานเหล่านักเขียนให้กูด้วย จะขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง ไหว้ย่อ

343 Nameless Fanboi Posted ID:gvifv6dI3F

เอาจริงๆ บางทีก็สงสัยนะว่าทำไมนักเขียนบางคนโดนเม้นท์ Toxic ใส่ตลอดๆ
หรือมีเงาแค้นอะไรแปลงกายมาตามรังควานรึเปล่านะ
น่าสงสาร

344 Nameless Fanboi Posted ID:AeryunKDw1

>>342 กุเห็นด้วยกับมึงทุกบรรทัด 555

345 Nameless Fanboi Posted ID:gvifv6dI3F

>>342 เออ น่าเห็นใจมึงว่ะ วุฒิภาวะคนอ่านต่ำเตี้ยเรี่ยดินจริงๆ
ถ้าเจอแบบนี้นักเขียนด่ากลับก็ไม่แปลกนะ
แล้วที่ไม่ชอบแต่เห็นใครพูดถึงเรื่องนั้นไม่ได้ต้องตามไปตอบทุกเม้นท์นี่อันนี้จิตไม่ปกติแน่นอน
นักเขียนซวยมาเจอคนบ้าละ

346 Nameless Fanboi Posted ID:d0wtKE9x3s

>>345 บางทีมากันเป็นแก๊งด้วยมึง 555

347 Nameless Fanboi Posted ID:hCB9UghNwV

>>327 เอาจริงถ้าอย่างที่มึงสมมติถ้าเรื่องไหนกูให้2ดาวอย่างที่มึงว่ากูก็ไม่อยากได้หรอกนะ จะรีไรท์ห่าเหวเปลี่ยนปกยังไงก็ช่างมึงเลย ถ้าอ่านแล้วเกลียดมากอีบุ๊คเผาได้กูเผาด้วย แต่กูไม่เคยอ่านเรื่องไหนที่โคตรเกลียดจนถึงกับต้องให้2ดาว1ดาว ไม่ชอบกูก็ทำได้แค่เก็บในคลาวด์ให้พ้นหูพ้นตา ส่วนที่บ่นไม่ใจใจ อยากเติบโตไปกับนักเขียนเพราะเรื่องนั้นกูชอบไง กูถ้ากูอยากได้มาก แต่เค้าไม่ให้กูก็ซื้อแบบบ่นไปซื้อไปเนี่ยแหละ

348 Nameless Fanboi Posted ID:0oi.tGQ.GA

กูเคยเจอเงาแค้นที่กูลงนิยายไม่จบซึ่งกูก็บอกไว้แต่ต้นแล้ว เด็มมาหาตอนกูหยุดลงตัวอย่างถึงตรงเกือบจบขาดอีกสามตอนสุดท้ายว่าเสียค.รู้สึกที่เข้ามาอ่าน กูบอกไปว่าลงจบไม่ได้จริง แล้วคืนนั้นเขาซื้ออีบุ๊​ค​กูเพื่อกดให้กูหนึ่งดาวและด่าต่อในช่องรีวิว กูควรดีใจสินะที่ตั้งค่าให้เฉพาะคนซื้อถึงเมนต์​ได้ เล่มละไม่ถึงสองร้อยใส่กูซะคุ้มเลย

349 Nameless Fanboi Posted ID:v00GZbjjVK

กูเคยเห็นนักอ่านบางคนตั้งโพสต์เม้ากันในกลุ่มว่าทุกวันนี้ซื้อนิยายของนักเขียน A เพราะเขียนแนวเดียวกัน สนุกเหมือนกัน แต่ราคาถูกกว่านักเขียน B มาก แล้วก็อวยนักเขียน A เม้าคิกคักนักเขียน B กันทั้งโพสต์ กูเห็นแล้วคันมือมาก แค่นักเขียน B เขาพอใจจะตั้งราคางานให้สมเหตุสมผลกับที่เขาพยายามมาก็ต้องกดเขา เอาเขามาคิกคักเลยหรอ ไม่คิดบ้างอะว่านักเขียน A ขายงานราคาถูกมันเกิดจากอะไร เกิดจากการที่เขาจงใจกดราคาตัวเองให้ต่ำกว่าท้องตลาดเพื่อที่จะได้เป็นแม่พระในสายตานักอ่านอย่างพวกมึงหรือเปล่า มึงจะชอบนักเขียน A แค่ไหนก็ชอบไปเหอะ แต่อย่าเอานักเขียนคนอื่นมาด่าเพื่อยกย่องนักเขียนของมึงให้สูงเลย

350 Nameless Fanboi Posted ID:85gmScm7Mm

>>349 เยอะมากในกรุ๊ป ลากนักเขียนบางคนมาด่า แล้วอวยนักเขียนที่ตัวเองชาบู สำนวนจิกกัดร้ายมาก คิกคักสนุกปากแล้วบอกเม้ามาขำๆไม่คิดจริงจัง นักเขียนมาเห็นอย่างใส่ใจ แต่นักเขียนขำกับพวกมึงกันมั้ยคะ กุเห็นคาตาบางคนจิกหัวเรียกนักเขียนอี บางคนใส่อารมณ์ว่าอิดกทง กุงงมากว่าไปแค้นอะไรกันนักหนา กุเกลียดใครยังไม่ด่าขนาดนี้เลย อายุไม่ใช่น้อยๆ กันแล้วด้วย กุไม่ใช่นักเขียนที่เขานินทาหรือคิกคักกัน กุยังหน้าชาแทน ถ้าใครทำนิสัยแบบนี้ผ่านมาแถวนี้ เลิกได้เลิกเถอะนะนิสัยแบบนี้น่ะ

351 Nameless Fanboi Posted ID:J8IE0zaNqO

>>349 >>349 ทำให้กุนึกถึงหนังเรื่องนึงที่ว่า เขาใจดีเพราะเขารวย ทำนองนี้อะ อย่างนักเขียนบางคนยอดเขาดี กำไรเยอะ เสียส่วนลดบางส่วนไปเขาก็ไม่เดือดร้อน แต่นักเขียนบางคนยอดน้อย เสียส่วนนั้นไปก็เท่ากับไม่ได้เลยก็มี บางคนขาดทุนไปอีก 555 นักเขียนบางคนก็ฐานะดี เขียนเป็นงานอดิเรก ตั้งราคาแค่พอเป็นพิธี พอได้ค่าขนม กำไรนิดหน่อยพอแล้ว แต่บางคนปากกัดตีนถีบต้องเขียนเป็นอาชีพเลี้ยงคนเบื้องหลัง เขาก็มาเซอร์วิสทุกอย่างไม่ได้อะ บางทีต้องดูด้วย อย่ายกคนที่ตัวเองโปนดจนเหยียบหัวคนอื่นเลย

352 Nameless Fanboi Posted ID:WUQPX4YIcG

>>351 Parasite หนังเกาหลีไง ว่าแต่พวกเมิงสิงที่ไหนกัน ทำไมเจอแต่นักอ่านปากแจ๋ววะ

353 Nameless Fanboi Posted ID:FalBYIoUYB

กู 342 ผู้อยากพูดสั้นๆ ว่า คว ใส่ทุกความส้นตีนมึงเป็นเหี้ยอะไรของมึงในโลกหล้า แต่โอเคเดี๋ยวเขาหาว่ากูจู่ๆ ก็หยาบคาย เลยจำเป็นต้องอธิบายความในใจเอาหลายบรรทัด ขอบคุณทุกการสนับสนุนค่ะ

>>350 กลุ่มนักอ่านรีวิวหนังสือที่กูอยู่ กูแว้บเข้าแว้บออก เจอบ้างเป็นครั้งคราว อาจจะเพราะไม่ค่อยเล่นเลยไม่เจอจังๆ แบบที่พวกมึงเจอ แต่อยากขอบอกอีกเสียงเผื่อคุณผู้หญิงที่อ่านหนังสือมาไม่ใช่น้อยๆ ในนั้นจะแวะผ่านมาว่า เลิกเถอะ ไอ้การคิ๊กค๊ากกกใส่นิยายเรื่องนั้นเรื่องนี้ ระริกระรี้อยู่ท่ามกลางเดอะแก๊งค์ที่สันดานร้องรับกันนั่นน่ะ กูจะบอกเลยว่านักเขียนเขาเห็น เขารู้ และเขาแผ่เมตตาให้มึงอยู่ นักอ่านที่รักงานของเขาเหม็นคาวพวกมึง คนที่ไม่เกี่ยวเหี้ยอะไรเลยอย่างกูก็เวทนาพวกมึง เลิกนะ ถึงจะคิดได้ตอนสี่สิบกว่าห้าสิบมันก็ไม่สายเกินไปหรอก

ถ้าคุณไม่ใช่แบบที่พูด ก็อย่าร้อนตัว ขอให้มีความสุขกับการอ่านหนังสือเยอะๆ หลายๆ แนว และอย่าลืมพัฒนาสู่เล่มที่ประเทืองปัญญายิ่งๆ ขึ้นไปด้วยนะคุณนะ

>>352 กูอยากกระซิบนักอ่านจำพวกนี้มากว่า อย่าให้นักเขียนปากแจ๋วนะอีสัส มันเขียนนิยายได้เป็นเล่ม อย่าคิดว่ามันจะด่ามึงด้วยคำบ้านๆ แค่สองบรรทัด 5555

ปล. ที่ร้ายก็คือ บางคนไม่รู้ว้อยว่าตัวเองทำนิสัยแบบนี้ กูเขียม 5555

354 Nameless Fanboi Posted ID:/71/pcCoRH

>>353 กุเขียมตรงปล. เขาอาจจะคิดว่าตัวเองอินเนอร์นางเอกฟาดๆ เฟี๊ยสๆ ก็ได้มึง แต่ความจริงเป็นตัวร้ายสองบาทสามบาท บทแม่ค้าหนึ่ง แม่ค้าสอง

355 Nameless Fanboi Posted ID:qbC8LimtHI

>>353 แต่งด่าเสียดสีเลยสิ กุเคยเห็นนักเขียนคนนึงแต่งด่าเงาแค้นว่าเป็นป้าโรคจิต (พิมพ์เล่มด้วย 55555)​

356 Nameless Fanboi Posted ID:wplF2qNz/S

>>350 มีคนเรียกนักเขียนว่าอี ไหนมึงเอาหลักฐานมาสิ อย่าพูดลอยๆ

357 Nameless Fanboi Posted ID:BRfVx2qaMt

>>355 ใครวะ เซตสงครามนักเขียนที่เพิ่งออกเหรอ

358 Nameless Fanboi Posted ID:BRfVx2qaMt

>>356 อันนี้กูเองไม่เคยเจอกับตัวเหมือนกัน แต่ประเภทแซะเช้าแซะเย็น เกี่ยวก็แซะ ไม่เกี่ยวก็เสือกไปแซะ เค้าชมอยู่ดีๆก็แจ๋นไปบอกทุกที่ว่าอ่านไม่รอด ไม่หนุกเลย! อันนี้มีแน่ กูยืนยันให้

359 Nameless Fanboi Posted ID:iW3Rm99Zlq

ไม่เปิดตัวใส่กันตรงๆ ไปตรงนั้นเลยอ่ะ มาแอบในโม่งทำไมละ พวกนั้นเขาก็วิจารณ์กันในที่สว่าง ใช้เฟสตัวเองด้วย ในกลุ่ม มึงก็อยู่กันในนั้นนี่ แอบเอาเขามาด่าตรงนี้ ดีกว่าเขาตรงไหนเหรอ

360 Nameless Fanboi Posted ID:BRfVx2qaMt

>>354 นางเอกเฟียซที่เฟียซลับหลังเขาอ่ะเนอะ 5555 เฟียซสกีด้วยอักษรย่อ คุณพี่คะเรื่องนั้นน่ะๆๆ เรื่องนี้น่ะๆๆๆ ถอนหายใจ บ่นๆ ไม่ติดใจเอาความนักเขียนหรอกค่า แต่ก็ดิ้นเหมือนโดนเหยียบหางทุกโพส <<< กูลอกอินเนอร์มาให้ เชื่อว่าทุกคนเคยเจอ

361 Nameless Fanboi Posted ID:ILEr3Gb36t

>>359 มึงเองก็อยู่ในโม่งนี่ มานินทานักเขียนเหมือนกัน ดีกว่าพวกกูตรงไหนเหรอ

362 Nameless Fanboi Posted ID:EmmPi04M5u

>>356 ถ้ามึงอยู่กรุ๊ปนั้นขุดไปเรื่อยๆ เดี๋ยวมึงก็เจอเอง สมัยยังพากันเฟี๊ยสกีอะตั้งโพสต์ลากนักเขียนมาคิกคักกันประจำ กุไม่โง่แคปออกมาหรอกค่ะ แต่ถ้าคิดว่ากูเมคขึ้นมาลอยๆ พูดขึ้นมาลอยๆ ก็ตามใจ กุพูดลอยๆ ขึ้นมาก็ได้ แต่ก็คิดหน่อยว่ากุจะเมคเรื่องขึ้นมาทำไม ไม่ได้ประโยชน์ไรเลย

363 Nameless Fanboi Posted ID:5RwGvsz1S3

ลับหลังเห่าเก่ง ต่อหน้าเลียตีน ขอบคุณค่ะที่รีวิว 55555555555555

364 Nameless Fanboi Posted ID:wDbVhACL.U

>>363 เมิงอะ อย่าขยี้สิ ใครๆ เค้าก็ทำกันปะวะ

365 Nameless Fanboi Posted ID:JygnBHyDJS

>>363 เป็นบุญกุจริงๆ ที่งานไม่เคยถูกเอาไปรีวิวในนั้น ไม่ต้องขอบคุณให้เสียปาก และด่าได้เต็มปาก 5555555555

366 Nameless Fanboi Posted ID:2YvqIFOM6l

>>365 ยังไม่เคยเหมือนกัน แต่กูเห็นนะ แทบทุกโพสต์เลอ ต้องไปขอบคุณนะคะ5555555555555555555555555555555555

367 Nameless Fanboi Posted ID:E3GKIMXvOJ

ตอนรุมเห่าลับหลังนักเขียนในกรุ๊ป คิกค้ากงานเขาสนุกปาก ลากคนนั้นคนนี้มารุมยำ มีพวกคอยเฮคอยเลียกันเองมันก็สนุกแหละ พอโดนลากมายำในนี้บ้างก็ดิ้นเป็นหมาโดนน้ำร้อนลวกกันเลย สมเพช 55555555555

368 Nameless Fanboi Posted ID:2YvqIFOM6l

>>367 แหมแต่ส่วนใหญ่มึงก็อยู่กันในกรุ๊ปนี่ ก็เห็นเลียตีนนักอ่านกันแผล่บๆ

369 Nameless Fanboi Posted ID:2YvqIFOM6l

>>367 มั่นหน้าคนดีจริงมึงก็ออกมาปกป้องโพสต์ที่ถูกเหยีบเลย กูก็ไม่เคยเห็นมึงเสนอหน้ากันไปปกป้องเขา ส่วนมากก็ไปยำตีนด้วยอีก

370 Nameless Fanboi Posted ID:ILEr3Gb36t

ขอบคุณที่รีวิวค่ะ ชอบไม่ชอบยังไงคุณนักอ่านก็จ่ายเงินมาให้นักเขียนแล้ว จะเอาหนังสือไปเผาทิ้งหรืออะไรยังไงต่อก็ได้ ขอบคุณสำหรับค่าหนังสือที่เสียมาแล้วกันค่ะ สวัสดี

371 Nameless Fanboi Posted ID:80U3oF1IT1

ไม่ใช่แค่นักเขียนหรอกที่เขาเหม็นนักอ่านสันดานแบบนั้น นักอ่านด้วยกันก็เหม็น กุละคนนึง แต่กุไม่เตือนให้เสียปากหรอก แก่กระโหลกกะลา ดักดาน ขนาดตามมาในโม่งแม่งยังส่อสันดานว่าชาตินี้ก็เปลี่ยนสันดานเหี้ยๆ ไม่ได้ ขออวยพอร์นเหมือนความเห็นบนๆ ว่าให้ตายไปพร้อมสันดานแบบนั้นแหละ ดักดานดี 5555555

372 Nameless Fanboi Posted ID:hQw/hiYh2T

มีนักเขียนคนนึง เมื่อก่อนโคตรเป็นที่รัก นิยายได้ทำละครด้วย กูจำได้เลยว่าคนอวยเยอะมากจนต้องไปตามหานิยายเขามาอ่าน ตอนนี้เหมือนเข้าสู่ขาลง งานแย่ลงเรื่อยๆ นักอ่านที่เคยอวยก็หายไปหมด พวกรีวิวเหลือแต่คนด่า กุสงสารเขาเลย มองเห็นอนาคตตัวเองด้วย นักเขียนก็งี้แหละ อย่าไปหวังว่าจะได้กำลังใจในช่วงขาลง ผลงานไม่ดีเมื่อไหร่นักอ่านทั้งหลายก็ด่าๆๆ แล้วสะบัดตูดไปหานักเขียนคนอื่น นักอ่านพร้อมจะทิ้งนักเขียนทุกเมื่ออยู่แล้ว ดังนั้นเวลานักเขียนอยากกอบโกยผลประโยชน์ในจุดสูงสุดของตัวเอง นักอ่านผู้สูงส่งทั้งหลายก็ช่วยเข้าใจหน่อยละกัน

373 Nameless Fanboi Posted ID:SPhM3JMIvj

>>372 อันนี้กูว่ามึงแปลก ก็งานไม่ดีคือต้องโอ๋หรอวะ เหมือนสินค้ายี่ห้อนี้ด้อยคุณภาพมึงก็เปลี่ยนไปใช้ยี่ห้ออื่นอะ นักเขียนมีสิทธิกอบโกยตอนพีค พอผลงานแย่มันก็ไม่แปลกปะที่เค้าเลิกอ่านเลิกเสพงานนั้นๆ

374 Nameless Fanboi Posted ID:kHb1ZqXajs

>>359 มันก็ด้วยเหตุผลเดียวกันกับที่นักอ่านมีอะไรก็ไม่ไปพูดกับนักเขียนตรงๆนั่นแหละมึง แต่อันนี้โม่งมันก็ด่าตรงๆเพราะมันไม่พอใจพฤติกรรมนักอ่านบางคนที่มาระรานมันก่อน ไม่ได้เอามาขำขันสนุกสนานโดยไม่มีจุดประสงค์อะไรนอกจากความบันเทิงส่วนตัวอ่ะ

ก็ถ้าคนที่เคยทำบ้าง ถ้าได้มาเห็นก็คงจะได้รู้ว่าเวลามีคนพูดลับหลังมันเป็นยังไงอ่ะนะ ไม่แปลกที่จะไม่พอใจ กูว่าก็หนามยอกเอาหนามบ่งดี

375 Nameless Fanboi Posted ID:5vGPBnugIo

กูถึงกับต้องเลื่อนไปดูชื่อห้อง นึกว่าห้องนักอ่านเทวดา คือถ้ามึงจะระบายใส่เต็มกันไปห้อง https://fanboi.ch/literature/3325/recent/ มั้ย

376 Nameless Fanboi Posted ID:JzJmfaefwO

มึงกูลำไยดด. อะ เวลากูลงนิยายตั้งเวลาไว้ติดๆ กันเป็นพรวน พออยากจะแก้สักอันก็ต้องยกเลิกการตั้งเวลาทั้งหมด กูก็เสียเวลามาตั้งใหม่อีก เขาคิดจะแก้ไขเรื่องนี้ไหม หรือมีใครเคยพูดยัง

377 Nameless Fanboi Posted ID:mVUIStPqua

รี้ดมีตั้งเป็นไพรเวตให้อ่านเองคนเดียวก่อนมั้ยวะ หรือว่ามีแต่เป็นพับลิคอย่างเดียว แล้วตั้งเวลาโพสต์ตอนใหม่ได้มั้ย กูอยากลองเปิดเรื่องเอาไว้ดูคนเดียว + ลองใช้ลูกเล่นนั่นนี่ แต่ไม่เห็นปุ่มไพรเวตเลย กลัวเปิดปุ๊บทุกคนเห็นหมด

378 Nameless Fanboi Posted ID:/n/xuGK1Yq

>>375 โม่งใหม่หลงมามึงต้องเข้าใจ คงอัดอั้นแหละระบายในกลุ่มเดี๋ยวเจอกระแสสวนกลับ ตัวอย่างมีให้เก็นเยอะแล้ว นับว่าฉลาดที่ถนอมอู่ข้าวอู่น้ำตัวเอง สงสัยอยู่ว่ารีไอดีปะวะ สิงในมู้นี้มานานมีแต่ปรึกษากันตามชื่อ อ้ายอีที่ไหนไม่รู้มาพ่นด่านักอ่านเสียยาวเหยียด สงสัยไปห้องเน็ตแล้วเจอแต่มู้ด่านักเขียนเลยไม่กล้าลงกลางดง มาลงห้องนี้ที่ดูนุ่มนิ่มกว่าละกัน

379 Nameless Fanboi Posted ID:5vGPBnugIo

>>377 มึงก็เปิดเรื่องแล้ว ไม่กดเผยแพร่ไง กูทำบ่อย บางทีแค่เข้าไปอ่านไปเช็กคำผิด เวลากดเซฟก็กดเอาไว้ก่อนแล้วกดดูตัวอย่างเอา แต่มึงจะไม่เห็นมุมมองนักอ่านเฉยๆ ตั้งเวลาโพสต์ล่วงหน้าตอนใหม่ได้

380 Nameless Fanboi Posted ID:ILEr3Gb36t

>>372 ถ้าเป็นคนเดียวกับที่กูคิดไว้ อันนี้ไม่ใช่ความผิดนักอ่านนะ เพราะคนนี้ก็มีชื่อเสียเยอะเมหือนกัน นักอ่านบอกปากต่อปากว่าตอนขึ้นก็ขึ้นอย่างหงส์ หยิ่ง ไม่ถนอมนักอ่าน พอรู้ตัวอีกทีเลยดับแล้วดับเลย เขียนอะไรออกมาก็ไม่รุ่งถึงจะเบนไปวายบ้างอีโรติกบ้าง อันนี้มันคือนิสัยคนเขียนล้วนๆ เลยอะที่ไม่คีปนักอ่านไว้เอง แล้วเรื่องที่ได้ทำละครก็โดนคอมเมนต์ว่าคล้ายหนังเกาหลีอยู่เรื่องหนึ่งด้วย เขาก็โดนนักอ่านคอมเพลนมานานแล้วนะว่าเขียนอะไรวนซ้ำที่เดิม ไม่มีอะไรแปลกใหม่ ตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิมอะ เขียนออกมาเป็นร้อยเรื่องแต่ว่าซ้ำๆ ตลอด

381 Nameless Fanboi Posted ID:m7C7ZKIk6J

>>380 เรื่องไหนวะที่คล้ายหนังเกาหลี

382 Nameless Fanboi Posted ID:kHb1ZqXajs

>>381 กูหนักกว่า พูดถึงใครก่อน ทำไมกูคิดไม่ออก 5555

383 Nameless Fanboi Posted ID:7w8yssZxKA

>>380 นักอ่านแบบนี้เป็นนักอ่านที่กูกลัวที่สุด รู้ทุกซอกทุกมุมยิ่งกว่าแฟนคลับ ตามเพราะชอบหรือเพราะอะไรไม่รู้ แต่พอมีโอกาสต้องผลักนักเขียนลงมา ซุบซิบแบบที่เจ้าตัวไม่มีสิทธิ์มาแก้ต่าง แต่ละอันที่มึงพูดมันร้ายแรงมากสำหรับการเป็นนักเขียนนะ

384 Nameless Fanboi Posted ID:1ASZBEX.KZ

>>380 ใครวะ

385 Nameless Fanboi Posted ID:ILEr3Gb36t

>>383 ร้ายแรงยังไงอะกับการบอกว่างานเขียนย่ำที่เดิม ไม่พัฒนา ถ้างานเขียนไม่ดีนี่คือต้องโอ๋หรอ

386 Nameless Fanboi Posted ID:1ASZBEX.KZ

>>380 พอจะเดาออกว่าเป็นนักเขียนผี

แต่ >>372 นี่คนเดียวกันใช่มั้ย

387 Nameless Fanboi Posted ID:ILEr3Gb36t

>>383 ถ้าใครส่องเฟซนขคนนี้จะรู้อะว่าปากก็ไม่เบา ไม่แคร์นักอ่าน ตั้งโพสต์ด่านักเขียนคนอื่นที่ตัวเองไม่ชอบด้วยซ้ำ บางทีก็ตั้งโพสต์แซะลอยๆ 555555 ปลาหมอตายเพราะปาก ปกติกูก็เข้าข้างนขนะถ้าโดนนอเท แต่คนนี้ต้องลองไปดูพฤติกรรมอะว่าเป็นยังไง

388 Nameless Fanboi Posted ID:EdJ0t6HEuK

ky มึง คำว่าท่านรองนี่ต้องเขียนยังไง แค่ท่านรองเฉยๆหรือท่านรองฯ เป็นพวกรองประธานในบริษัท ไม่ได้มียศทหารตำรวจอะไร

389 Nameless Fanboi Posted ID:egC6cE9w4J

>>388 ตามหลักการก็ต้องท่านรองฯ ปะ เพราะมันย่อจากรองประธานหรือรองอะไรซักอย่าง

390 Nameless Fanboi Posted ID:g+VlDownVV

>>359 เคยนะ แต่นักเขียนแม่งชอบลบเม้นต์อะ เวลาไปพูดอะไรแทงใจดำเข้า กลัวคนอื่นเห็นด้วยมั้ง

391 Nameless Fanboi Posted ID:tBWdn+k/gg

>>390 เผลอ ๆ แคปไปแขวนในกลุ่มอีก ดูสิมีนักอ่านมาป่วน บั่นทอนกำลังใจสร้างความเสื่อมเสียแก่นิยาย ฟ้องแน่นอนรอหมายศาลได้เลย รับคำขอโทษเป็นเงินสดเท่านั้น
เขียนเก็บไว้อ่านเองเถอะถ้าจะขนาดนั้น ตามขุดเฟซทวิตนักอ่านก็มี แหม

392 Nameless Fanboi Posted ID:Xhx0EXTh8L

พวกมึงง ง ง ถ้าเราส่งต้นฉบับปรูฟ บวก จัดอาร์ตแล้ว พอเขาส่งกลับมาให้เราเช็กว่าจะแก้ไรอีกไหม เราสามารถตรวจทานกึ่งๆ รีไรท์เบาๆ อีกรอบได้ไหมวะ อาจใช้เวลาหลายวัน แบบนี้จะไม่เหมาะไม่ควรไหม กูรู้สึกเกรงใจคนที่จ้าง แต่ก็อยากให้งานเนี้ยบกริบอะ อุตส่าห์เสียเงินจ้างแล้ว

393 Nameless Fanboi Posted ID:P56u7MHIby

>>392 จัดอาร์ตแล้วไม่ควรแก้เยอะนะ มันอาจจะหน้าเลื่อนแล้วทำให้เขาต้องไปแก้งานจัดใหม่ ถ้าไม่กระทบก็อาจจะไม่เป็นไร แต่กูว่าไม่ควร ถ้าอยากแก้ควรแก้ก่อนไฟนอลออกมามากกว่า อันนี้ปกติมันควรเป็นการตรวจทานว่าไม่มีผิดพลาดตรงไหนแล้ว

394 Nameless Fanboi Posted ID:bToAwmPk1E

กูมือใหม่อยากส่งสนพ.ด้วยเพิ่มฐานแฟนด้วย สมมติเขียนเรื่องนึงเสร็จแล้วควรส่งสนพ.พิจารณาก่อนหรือว่าลงเว็บก่อนดี ถ้าส่งสนพ.แล้วได้ผ่านขึ้นมาเขาจะยังยอมให้เราลงเว็บแบบไม่จบเรื่องได้มั้ยวะ ใจนึงกุก็อยากลงเว็บก่อนแต่เห็นโม่งบน ๆ บอกว่าถ้าจะส่งสนพ.ไม่ควรลงจบ แล้วกุควรบอกนักอ่านว่าไงวะ (เรื่องนี้ลงไม่จบนะคะ รอพิจารณาสนพ.ค่ะ) งี้เหรอ แล้วกว่าสนพ.จะพิจารณาเสร็จ ไม่รู้ด้วยว่าผ่านไม่ผ่านงี้ นักอ่านกุจะรอนานขาดตอนมั้ย (กุค่อนข้างแคร์นักอ่านกุอ่า แง) โม่งไหนช่วยแบ่งปันประสบการณ์ที

395 Nameless Fanboi Posted ID:.AdY5y+UXd

>>394 แจ้งตั้งแต่แรกเลยว่า เรื่องนี้รอผ่านการ พิจารณาจาก สนพ. อยู่ ถ้าผ่านคงไม่ได้ลงจนจบนะคะ คงลงได้เท่าที่ สนพ. ยินยอม ยังไงถ้าอ่านแล้วชอบค่อยตามไปเจอในแบบรูปเล่มนะคะ ขอบคุณค่ะ

396 Nameless Fanboi Posted ID:orSKZ+GRIM

>>394 บางสนพ.ไม่ห้ามลงจนจบนะ ลงได้ แต่ตามสถิติแล้วลงจบจะทำให้คนซื้อนินายกับอีบุ๊คส์ลดลงมาก ทำให้สุดท้ายนิยายมึงเหมือนไม่ปังตามไปด้วยตอนเปิดตัว แนะนำว่าให้กะเวลาลงดีๆ แล้วลงในเว็บให้ถึงแค่จุดไคลแมกซ์ตอนนิยายเล่มวางตลาด ถ้าเขียนครึ่งหลังคลายปมได้ปัง นักอ่านจะชอบแล้วบอกต่อเอง รีวิวให้เอง อันนี้ในกรณีที่มึงอยากขยายฐานนักอ่านนะ

397 Nameless Fanboi Posted ID:Qyz6mlP8GA

>>392 ส่วนใหญ่เช็คว่า หน้าไม่หาย ไม่มีตัวอักษรตกบรรทัด แต่เป็นสแกนเร็วๆ

398 Nameless Fanboi Posted ID:Qt5MWpbSOD

Ky มึงคิดว่าการเป็นนักเขียน ควรเปิดหน้า เปิดเรียลให้นักอ่านรู้จักมั้ย สำหรับกู...กูคิดว่าไม่ แต่ทำไมพวกสำนักพิมพ์ใหญ่ ถึงชอบลงสัมนักเขียน เปิดหน้า เปิดอาชีพให้คนรู้จักจังเลยวะ มันช่วยเรื่องยอดขาย ความน่าเชื่อถือเหรอ แล้วสมมุติถ้าเรียลมึงเคยบ้ง เคยเบียวในอดีต จะโดนเอามาโจมตีทีหลังมั้ย

399 Nameless Fanboi Posted ID:9JFAOE8VSS

>>398 ถ้าดังแล้วก็เปิดได้แหละ555 เขาขายโปรไฟล์ควบด้วยไง ไม่งั้นจะมีกรณีนักเขียนUN เรอะ ขายโปรไฟล์จนได้ดีออกทัวร์สัมนารร.ไปทั่วอะ พอโดนแหกสนพ.ถึงมาดริปว่าเรื่องส่วนตัวนักเขียนเราจะไม่ยุ่ง ทั้งที่เป็นคนริเริ่มพาไปเองเนี่ยแหละ
เป็นการตลาดแบบหวังผลหน่อย ๆ หวังว่าโปรไฟล์นักเขียนจะช่วยกระตุ้นยอดขาย แบบว่านักเขียนคนนี้โปรไฟล์ไม่ธรรมดา งานเขียนต้องพิเศษมากแน่ ๆ งี้

400 Nameless Fanboi Posted ID:JMDaroDmC9

>>399 แต่สุดท้ายนักอ่านก็ตามเพราะงานเขียนอยู่ดี กูรู้สึกว่าการเปิดโปรไฟล์ มีแต่ผลเสียอ่า ถ้ามึงดี งานเขียนมึงก็ดีกว่านั้นอีกมากๆถึงจะไม่เป็นที่ครหา ถ้ามึงบ้ง งานมึงที่ดีก็อาจจะถูกเมินเอาได้ กูว่ามีแต่เสียกับเสียนะ 555 ใครคิดได้แบบอื่นวานบอกจ่ะ

401 Nameless Fanboi Posted ID:2Xh/ZVTGRk

>>400 กูก็คิดเหมือนมึง นข บางคนแทบจะขายแต่ตัวเอง บ่นเพ้อในเฟซยืดยาวแต่แทบไม่เห็นผลงาน

402 Nameless Fanboi Posted ID:MceYXfnxsX

อาจจะทำตามฝรั่งก็ได้มั้ง กุเห็นนข.ดัง ๆ ต่างชาติก็เปิดประวัติตัวเองทั้งนั้น คิดว่าเปิดตัวแล้วอาจจะดูมีภาษีดีกว่า แต่สต.กูว่าปิด ๆ ไปเหอะ ถ้าโดนแหกว่าบ้งขึ้นมาแม่งไม่ค่อยคุ้ม ดูเคส JK ป้าทม ฯลฯ ก็ได้ ถึงนักอ่านบางคนจะแยกแยะเรื่องส่วนตัวกับผลงาน แต่บางคนเขาก็ซีเรื่องนี้อะนะ

403 Nameless Fanboi Posted ID:jOjJtkMCBH

พวกมึงเคยเป็นไหม แบบ
มีบางวันมันมึนๆ ง่วงๆ สมองตื้อไปเลยอะ พยายามจะมีวินัยพิมพ์นิยายออกมาให้ได้นะ แต่กูพิมพ์ๆ ไป กูคิดประโยคออกมาไม่ได้อะ งงๆ วนๆ ไม่รู้พิมพ์ส้นตีนอะไรออกมา กูได้แต่ปลอบตัวเองมาไม่เป็นไรเนอะ วันนี้พักก่อน พรุ่งนี้อาจจะผลิตได้ปริมาณคูณสองก็ได้ //คือมันรู้สึกผิด แต่งก็ฝืนแต่งไม่ได้อะ แม่จ๋าา~ ; ;

404 Nameless Fanboi Posted ID:9oOcJqEjXJ

สำหรับพวกมึงถ้าบรรยายสีตาคนใช้คำว่าดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลหรือนัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเล (อันหลังถูก แต่กุเห็นคนใช้อันแรกบ้าง ก้ไม่รุ้สึกขัดอะไร)
แต่พอกุเขียนเองละตลค.ตาสีดำ กุใช้คำว่า “ดวงตาสีดำสนิท” จะรู้สึกว่าเห็นภาพตาดำทั้งลูกไม่มีตาขาวอ่ะ กุคิดมากไปป่ะ

405 Nameless Fanboi Posted ID:ZVGpWkAKvd

>>404 กูใช้นัยน์ตานะเวลาบรรยาสี รู้สึกว่าเป็นสีของลูกตา ดวงตาก็ใช้แหละแต่อย่างที่มึงว่า ส่วนใหญ่จะนึกแบบทั้งลูกเลย555 แต่ใช้บรรยายความรู้สึกเอา อย่าง
นัยน์ตาสีฟ้าใสกระจ่าง
ดวงตากลมโตฉายแววเลิกลั่น

406 Nameless Fanboi Posted ID:LgSIhT0Jcj

>>404 ถ้าตาดำนี่กูเคยเห็นคนบรรยายว่าตาสีถ่านรึตาสีนิลนะ เป็นกูไม่คิดมาก ตาดำก็ตาดำ ไม่นึกภาพผี กูก็เคยคิดหาคำสวยๆ มาบรรยายตาดำไม่ออก เคยไปหาข้อมูลว่าคนเราตาไม่ดำขนาดนั้น มันน้ำตาลเข้ม หลังจากนั้นกูก็บรรยายดวงตาแบบสีน้ำตาลเข้มมาตลอด เพิ่งนึกได้เมื่อไม่กี่เดือนว่าใช้คำว่าสีช็อกโกแลตรึสีเปลือกไม้ก็ได้นี่หว่า....

407 Nameless Fanboi Posted ID:70xw0Tsdn.

นัยน์ตาสีดำขลับ สีดำสนิท นัยน์ตาสีทมิฬ สีมืด สีเข้ม สีหมอง หรือดวงตาก็ได้หมด

408 Nameless Fanboi Posted ID:VV08TY2V/i

>>403 กูเป็นบ่อย บางวันเปิดคอม 9 โมงยันห้าทุ่ม ไม่ได้เหี้ยไรเลย พิมพ์สองสามย่อหน้าวนอยู่นั่น บางวันกูก็ตัดใจ ปิดคอมแล้วนอนดูหนังแม่ง ฝืนแต่งไปก็ไม่สนุก ก็รู้สึกผิดนะแต่กูทำอะไรไม่ได้วะ เค้นออกมาก็ไม่ดี ปล่อยตามยถากรรม ปลงมั่งไรมั่ง แต่อย่าปล่อยวางบ่อยนะ ดองยาวเมื่อไรไม่กลับมาอีกเลยนะมึง 555

409 Nameless Fanboi Posted ID:wHaVbKkOtP

เซ็งความเขียนเป็นแต่ผู้ชายดีๆ คนอ่านจะคิดว่าดีเกินไปจนน่าเบื่อมั้ยวะ กูพยายามฝืนมายด์เซ็ทเขียนเหี้ยๆ ดูก็ไม่เคยรอด ตัวร้ายแม่งก็ไปมี คลายปมใจกันทุกเรื่อง

410 Nameless Fanboi Posted ID:9w5Lk.rqoa

ขอถามหน่อยดิ ปิ่นปักผมมันมอบให้ตามมารยาทได้ปะ แบบเพื่อนผู้ชายให้เพื่อนผู้หญิงงี้ แบบไม่ได้มีใจให้

411 Nameless Fanboi Posted ID:ebk3by9fWJ

>>410 ถามเอาไปเขียนนิยายชะ ลองถามมู้จีนได้นะ แต่เรื่องล่าสุดที่กูอ่านเจอ คุณชายมันซื้อแจกคนรับใช้ แต่ไม่ได้เป็นปิ่นแพงอะไร

412 Nameless Fanboi Posted ID:sJLpODOd5C

>>409 กูในฐานะนักอ่านไม่มีปัญหากับตัวละครนิสัยดีนะ กูรู้สึกว่าคนเราควรยอมรับคนที่ดีงามแบบสุดกู่ได้ให้เท่าเทียมกับที่ยอมรับว่ามันมีคนชั่วฉิบหายอยู่จริงอ่ะ ทำไมเราจะต้องคิดว่าไม่มีอะไรดีร้อยเปอร์เซนต์หรอก ก็ในเมื่อตัวละครของเรามันดีได้เท่าที่มันอยากจะดีอ่ะ ถ้าคุณมองว่าดีเกินไป มันก็เป็นมาตรวัดของคุณ เพราะยังไงพระเอกมึงก็ไม่ใช่คนดีที่สุดในโลกหรอก 555

แต่การเขียนตัวละครให้หลากหลาย วิธีที่กูว่าดีคือต้องออกไปใช้ชีวิต เจอคนหลายๆ แบบ ลองเป็นเพื่อน เป็นศัตรู เป็นคนรัก ลองเจ็บ ลองโดนหักหลัง ลองเชื่อใจใครอย่างถึงที่สุดซักครั้ง ลองดีใจ ฯลฯ แล้วมึงจะเขียนตัวละครที่มีมิติได้ลึกขึ้นแน่นอน

ถ้าช่วงนี้ไม่สะดวกก็อ่านหนังสือเอา พวกชีวประวัติก็ดีนะ เราจะเห็น conflict ในชีวิตคนคนนึงตั้งแต่เกิดจนตายได้เลย ใช้เป็นแรงบันดาลใจได้ โชคดีเพื่อน

413 Nameless Fanboi Posted ID:nEV7KwwAMM

ปรึกษาหน่อยดิ นามปากกาเขียนคนละแบบแต่ออกเสียงเหมือนกันกูควรเปลี่ยนมะ สมมุตินะชื่อนักเขียนคนแรก Noneme ชื่อกูเอง โนเนม มันจะเป็นปัญหาไรปะ คือเพื่อนกูแนะนำนิยายเรื่องนึงมาชื่อเดียวกับกู ตอนแรกกูสะดุ้งเลยเคยเขียนงานลงเว็บนั้นเมื่อไหร่วะ สรุปไม่ใช่ ชื่อเขาเขียนคนละภาษา แต่เพื่อนตอนแชทบอกดันเขียนเป็นชื่อกูซะงั้น

414 Nameless Fanboi Posted ID:jiOexwKhly

>>409 แฟนคลับเก่ามึงอาจจะเบื่อ เพราะตามอ่านก็มีแต่พระเอกคาร์เดิมๆ แต่ไรท์แมสๆ บางคน พระเอกคาร์เดียวกันเหมือนก๊อปวาง คนอ่านยังตามเปย์ทุกเรื่อง แต่ก็อ่านไปบ่นไป ถ้ามึงฝืนความรู้สึกตัวเองก็อย่าเขียน บั่นทอนตัวเองเปล่าๆ ก็เขียนพระเอกดีอย่างที่มึงถนัดนั่นแหละ เผื่อตกรีดส์ใหม่ได้

>>413 ถ้ามึงยังสะดุ้งก็เปลี่ยนเถอะ ถึงคนละภาษาแต่อ่านออกเสียงเหมือนกันเลย รีดส์จะเข้าใจผิดว่าแปลนามปากกามึงเป็นภาษาไทยอะดิ

415 Nameless Fanboi Posted ID:/Qqx10KXhX

>>410 ต้องดูที่เซ็ทติ้งของมึงด้วยว่าเช็ทไว้ยังไง แต่ส่วนมากผช.จะไม่มอบให้ผญ.ที่อายุใกล้เคียงกันและยังเป็นโสด ไม่มีพันธะสัญญาหมั้นหมายเพราะมันจะกลายเป็นของแทนใจ โดยเฉพาะผญหญิงที่ยังไม่ถึงวัยปักปิ่น แต่ซื้อให้แม่ ให้ป้า ให้แม่บ้านหรือสาวใช้รุ่นใหญ่น่ะได้ สมัยก่อนมันระวังเรื่องเครื่องประดับจากชายหนุ่มกันเยอะ ไม่ใช่แค่ปิ่นหรอก แหวน หยก กำไล อะไรพวกนี้ผช.ก็จะไม่ให้ส่งเดช

416 Nameless Fanboi Posted ID:JsW.Gm7dvc

พระเอกคาร์คล้าย ๆ กันกูว่าปัญหาปกติ แบบบางคนมันจะมีไทป์ลูกรักว่าชอบเขียนพระเอกนิสัยแบบนี้อะ แค่เซ็ตภูมิหลังให้ต่างกันหน่อยก็โอเคแล้วมั้ง

417 Nameless Fanboi Posted ID:aqIfC8c5a+

เคยอ่านแล้วคิดนะว่า ไม่ได้รู้สึกไปเองใช่ไหม ที่พระเอกนิยายเรื่องนี้เหมือนพระเอกนิยายในเรื่องก่อนๆทุกเรื่อง อย่างกับจับเปลี่ยนชื่อ บทพูดแนวเดียวกันเป๊ะ

แต่ถ้าถามว่าอ่านได้ไหม สนุกเหมือนเดิมก็อ่านได้ แต่จะมีเอะใจนิดๆ หืมมม

418 Nameless Fanboi Posted ID:QrOXejrUot

>>413 ปัญหาจริงจังคงไม่มี แต่คนอาจจะสับสนได้ว่า เอ๊ะ คนเดียวกันรึเปล่า หรือเวลาเสิร์ชหานิยายมันจะขึ้นมาทั้งคู่ ไรงั้น ถ้าไม่ติดอะไรเปลี่ยนไปก็ได้นะ

419 Nameless Fanboi Posted ID:Nf4TH7Xiw6

ขอสอบถามค่ะ
-ตาบอด
-หูหนวก
-เป็นใบ้
#นอกจากนี้ยังมีพิการอะไรอีกมั้ยคะ เราจะทำนิยายสนับสนุนคนพิการค่ะ

420 Nameless Fanboi Posted ID:WdSlQ7QbuQ

>>419 เดินไม่ได้

421 Nameless Fanboi Posted ID:WdSlQ7QbuQ

>>419 ขาขาด

422 Nameless Fanboi Posted ID:em+RoOWCV1

>>419 พิการทางสมองจากอุบัติเหตุ/หลอดเลือดสมองตีบหรือแตก นอนติดเตียง อัลไซเมอร์ ดาวน์ซินโดรม

423 Nameless Fanboi Posted ID:N40A76Rqtx

>>414 >>418 ขอบใจมากโม่ง กูใช้มา4-5ปีแล้วอะดิ เขียนจบไปสองเรื่องทำอีบุ๊คเรียบร้อย คงยากจะเปลี่ยนละใช้มานาน แต่ก็รู้ตัวไว้ว่ามีแฝดคนละฝากับกูแล้วกัน5555 คนนั้นยังแอคทีฟอยู่ด้วย งานแนวเดียวกันอีก
>>419 มึงจะเอาคำถามในกลุ่มนักเขียนมาปั่นโม่งไปทั่วไม่ได้ดิ555 กูเพิ่งเจอมึงอีกห่องเลย

424 Nameless Fanboi Posted ID:0J19CRo9Ws

>>419 แขนลีบขาลีบตัวลีบ หรือไร้เรี่ยวแรงจากโรค แบบในซีรีย์นํ้าตาหนึ่งลิตรที่ค่อยๆเดินไม่ได้จนพิการ

ตาบอดสีก็นับพิการนิดๆ พิการผิดปกติส่วนนั้นมรปัญหาใช้งานไม่ได้

425 Nameless Fanboi Posted ID:JPuezv6+Ru

กูรู้สึกการติด warning มันเป็นการสปอยคนอ่านว่ะ กูว่าจะซ่อนไว้ในปุ่มสปอยให้คนเลือกกดเอา แต่ warning กูมันอ่านปุ๊บรู้ปั๊บเลยว่าอะไรเป็นอะไร (เช่นติดว่าตัวละครหลักตาย แล้วหลัง ๆ มีฉากนางเอกโดนยิง คนก็ต้องรู้ว่านางเอกตายชัวร์ / หรือติดว่าแท้งลูก พอมีฉากนางเอกท้องคนก็ต้องรู้ว่าแท้งแน่นอน) สำหรับกูเลยคิดว่ามันทำให้เสียอรรถรสการอ่านว่ะ แต่ว่าเห็นนักอ่านบางคนก็จริงจังเรื่องเตือน เอาไงดี TT

426 Nameless Fanboi Posted ID:Rvr+y3rEax

>>425 ตัวละครตาย ? นางเอกแท้ง ? มันต้องเตือนด้วยเหรอ ไอ้ที่เตือนนี่มันต้องแบบ มีฉากบังคับขืนใจ มีฉากเลือดสาด มีฉากรุนแรงกับเด็กและสตรี ไม่ใช่เหรอ

427 Nameless Fanboi Posted ID:Rvr+y3rEax

>>426 แบบว่า ไม่ต้องถึงขั้นบอกว่า คนนั้นนี้ตาย แต่เวลาเตือน จะประมาณว่า มีฉากรุนแรงตัวละครเสียชีวิต

428 Nameless Fanboi Posted ID:JPuezv6+Ru

>>427 กูก็ไม่ได้บอกไงว่าใครเป็นคนโดน แต่ถ้าเรื่องมันดำเนินมาแนวนั้นคนอ่านก็เดาได้โดยอัตโนมัติอะ มึงเก้ทมั้ยนิ

429 Nameless Fanboi Posted ID:Rvr+y3rEax

>>428 ก็มึงบอกตัวละครหลักตายไง กูถึงได้ถามไง ว่าจำเป็นต้องลงลึกขนาดนั้นนนนนเหรอ ปกติมีฉากยิ่ง ก็คือคิดว่า มีฉากใล้ความรุนแรงเลือดสาดไรงี้อะ

430 Nameless Fanboi Posted ID:Rvr+y3rEax

แก้ไขคำผิด

ก็มึงบอกตัวละครหลักตายไง กูถึงได้ถามไง ว่าจำเป็นต้องลงลึกขนาดนั้นนนนนเหรอ ปกติมีฉากยิง ก็คือติดแค่ว่า มีฉากใช้ความรุนแรงเลือดสาดไรงี้อะก็พอ

431 Nameless Fanboi Posted ID:uQGtIIw2/6

>>425 พวกนี้มาจากทวิตดินแดนแห่งความอ่อนไหวอะดิ ถ้ามึงแคร์เขามากก็ติดๆไปพอเป็นพิธีเถอะ ถ้าด้นแคร์ก็ติดแค่ทุกอย่างเป็นจินตนาการ ใครรับไม่ได้ก็ออกไป(เสียงลุงต.)
เมื่อก่อนก็ไม่มีใครเตือนถี่ขนาดนั้น มากสุดแค่มีเรื่องราวกี่ยวกับการทำร้ายจิตใจร่างกาย เลือดสาด เนื้อหาพาดิ่งไรงี้ แต่พอทวิตมาแรงก็พวกอ่อนไหวเต็มไปหมดอะ ต้องติดครบทุกอย่างไม่งั้นดราม่านะจ้ะ
ถ้านักอ่านส่วนใหญ่เป็นชาวทวิต มึงจะติดกันตายไว้ก็ได้ วันดีคืนดีถูุกแขวนไปทัวร์ลงก็ซวยไป ถ้าเป็นแค่ส่วนน้อยก็ช่างเถอะ ถึงทัวร์มาแต่นักอ่านส่วนใหญ่จะช่วยมึงเอง

432 Nameless Fanboi Posted ID:JPuezv6+Ru

>>431 มึงพูดตรงประเด็นมาก กูก็เห็นมาจากในทวิตนี่แหละที่เรียกร้องให้ติดแบบละเอียด ส่วนตัวกูถ้ามีทริคเกอร์ก็ไปหารีวิวหาสปอยเอาเอง ถ้าบังเอิญเจอก็จัดการตัวเองแค่นั้นแหละ

433 Nameless Fanboi Posted ID:yufpD+rs08

>>425 ไม่ต้องบอกละเอียดมึง สปอยล์ขนาดนั้นไม่ต้องอ่านแล้ว บอกรวมๆ ว่า Violence, Tragedy, Death ก็พอ อย่าไปแคร์นักฉอดทวิตเตี้ยนมาก บางคนแค่ฉอดป่วงเฉยๆ ไม่ได้แคร์สังคมจริงจัง นิยายเนื้อหาแรงทำเป็นรับไม่ได้ แต่นอนดูเนตฟลิกซ์สบายใจเฉย บางเรื่องติด trigger ยังไม่สน แต่เวลาเป็นนิยายละดิ้นกันจังเล้ยยย

434 Nameless Fanboi Posted ID:KqEjdonEwR

เวลาพวกมึงเปิดพรีนิยาย แล้วคนโอนเงินมาโดยไม่แจ้งโอน ไม่ทัก ไม่บอกกล่าว แบบนี้นานเท่าไหร่ที่เขาไม่แจ้งพวกมึงถึงออกตามหาเจ้าของยอดโอนวะ
กูงงมากเงินไม่ใช่น้อยๆ เขาโอนมาดื้อๆ กูรู้จากแอปธนาคารเด้ง แล้วก็ไม่มาแสดงตัวตนใดๆ อีก
นี่รอมาสองชม.ละ ถ้าเขาแจ้งโอนไม่เป็นก็ควรอินบ็อกมาสะกิดกูสักนิดไหม

435 Nameless Fanboi Posted ID:Juw/Ku38Ex

>>432 ใช่มะ กูนี่งงมาก นิยายเอาจริงซอฟดว่าด้วยซ้ำมาแค่ตัวหนังสือ ทำไมขวัญอ่อนหันจังวะ หนังนี่มาครบทั้งภาพทั้งเสียง
>>433 อย่างน้อยใส่เป็นภาษาไทยด้วยก็ดีนะมึง เข้าใจง่ายกว่าเยอะ คนส่วนใหญ่อ่านอิ้งไม่ออกแถมบางคำแปลไทยได้หลายความหมาย ยุ่งยากไปอีก

436 Nameless Fanboi Posted ID:fXs+h+jek4

>>435 บางเรื่องกับคนบางคนฝังใจนะ จะหาว่าขวัญอ่อนก็ได้ ถ้ากลัวอะไรเป็นไปได้ก็อยากเลี่ยงมากที่สุด

437 Nameless Fanboi Posted ID:ku2nkYQLla

>>436 เอาจริงๆ นะ ถ้าจะขนาดนั้น เตือนๆๆๆๆๆๆๆ เตือนละเอียดยิบ ให้นักเขียนแปะสปอยล์ไปเลยมั้ยอะ เพราะหลายคนแม่งก็กลัวไปล้านแปดแสน

438 Nameless Fanboi Posted ID:Q4MUoT66+D

>>434 เคยเจอหายไปเลยจนส่งหนังสือหมดแล้ว แล้วเขาเคาะมาบอกว่าเป็นเขาเอง เขาโอนตอนอยู่นอกบ้านกะว่าจะกลับบ้านแล้วจะใช้คอมฯ พิมพ์แจ้งรายละเอียดแต่ลืมไปเลย มาเห็นประกาศส่งหนังสือแล้วถึงนึกได้

439 Nameless Fanboi Posted ID:KqEjdonEwR

>>438 ok ขอบคุณมากมึง กุกลัวจะเป็นแบบนี้แหละ ยังไงกูเก็บข้อมูลเขาไว้ละ เวลาเขานึกได้กูจะได้ย้อนดูหลักฐานอะไรได้

440 Nameless Fanboi Posted ID:Q7vLkiFNgL

>>436 แต่ถ้าขนาดที่ >>437 มันว่าก็ไม่ได้ปะมึง ถ้าติดว่ามีเลือด มีการทำร้าย คนตายคือใคร แล้วมีนักอ่านอีกคนมาโวยว่าไม่เห็นติดเตือนว่ามีผี มีสัตว์ อ่านเจอแล้วขวัญผวาไปหมด มึงก็ต้องติดเพิ่มไปเรื่อย ๆ อะนะ คือการแคร์คนอ่านมันก็ดีแหละ แต่อย่าไปฟังมาก นิยายมึงเป็นคนกำหนด ไม่ใช่นักอ่านกำหนด ถ้ามึงเลือกจะติดคำเตือนที่ไม่ต่างไรกับการสปอย มันก็จะมีนักอ่านที่ไม่ชอบสปอยอีก เผลอๆผ่านมาเห็นคำเตือนละเคร กูเดาออกหมดละไม่รออ่านจนจบหรอก จะเอาแบบนี้เหรอวะ
เพราะงั้นใช้คำเตือนกว้างๆไปพอ ถ้าติดละเอียดยิบเชื่อเถอะว่าเขียนเป็นบทหนึ่งยังไม่ใส่ไม่หมด ต้องคอยอัปเดตเรื่อยๆอีกงี้ ปล่อยให้นักอ่านเขาเตือนกันเองก็ได้

441 Nameless Fanboi Posted ID:7nQTcA0UXJ

เรื่องติด warning กูกำลังลังเลกับนิยายตัวเองอยู่ ของกูมันมีฉากทำร้ายร่างกายในครอบครัวนิดหน่อย ซึ่งส่งผลให้ตัวเอกกูฆ่าตัวตายอ่ะ แล้วกูเขียนแบบอารมณ์คนมันดิ่งกะทันหันอะ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ตาย แล้วฉากนั้นมันจบแบบนุ่มฟู ออกฮานิดๆ ดูเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์อะ คือกูต้องติด warning มั้ยวะ แล้วต้องติดยังไง

442 Nameless Fanboi Posted ID:/styM5+Bh.

>>441 ระวังฉากที่พูดถึงเรื่องอาการซึมเศร้า

443 Nameless Fanboi Posted ID:ZdXSTrII8v

>>441 ควรนะ ประมาณว่ามีฉากใช้ความรุนแรง ความพยายาม/ความคิดจะฆ่าตัวตาย

444 Nameless Fanboi Posted ID:2YU/nJl3nZ

กูเจอเรื่องแปลกมา คนตามนิยายกูน้อยมากจนถ้ามันมียอดอะไรแปลกๆ มันก็จะสังเกตได้ คือ กูติดเหรียญไปบางตอน ตอนที่ติดเหรียญยอดวิว เป็น 0 ถ้วน แต่พอตอนถัดไปที่ฟรี มียอดวิวขึ้นมาเลย คือ นักอ่านเขาสามารถอ่านข้ามได้เบอร์นี้เลยเหรอวะ
กูเข้าใจนะว่าบางตอนนิยายตัวเองอาจจะน่าเบื่อ แต่มันปมเยอะมาก ทิ้งปมไว้แต่ละตอน ถ้าอ่านข้ามมีงง แต่นักอ่านกูทำได้ หรือเขามองหาเฉพาะฉากวิดพื้นกันอยู่วะ
งงไปหมด

445 Nameless Fanboi Posted ID:5p/GaXYjM0

>>444 555+ ถูกต้อง คนอ่านเดี๋ยวนี้กดข้ามตอนเสียเงินและสแกนลุ้นฉากวิดพื้นสะพานโค้งเป็นหลัก

446 Nameless Fanboi Posted ID:EYrsbinXYv

Ky ถ้ากูอยู่แต่ในหลุม แต่งนิยายรัวๆ อัพตามเวบบ้าง พอแต่งจบก็ปล่อยขายอย่างเดียว ไม่เจ๊าะแจ๊ะ ไม่มีก๊กมีเหล่า ไม่มีเพื่อนเป็นนักเขียน ไม่มีเพื่อนเป็นนักรีวิว ไม่คบใครเลย ขายกินเงียบๆ ทำยังไงให้นิยายกูมีคนรู้จัก ทำยังไงให้นักอ่านรู้จักนามปากกาวะ? กูเบื่อสังคมนักเขียนเฟคๆ อยากปลีกวิเวกทำของกูคนเดียว จะเป็นไปไดมั้ย แล้วมีมั้ยวะนักเขียนที่สันโดษแบบนี้

447 Nameless Fanboi Posted ID:HJeOfQo.R8

>>446 กูไงไม่มีเพื่อนเป็นนักอ่านและนักรีวิว มีแต่นักอ่านมาคอมเม้นท์ให้กันเหงา มันก็ขายได้นะ เรื่องไหนโดนใจ+จังหวะดีก็ไต่อันดับขึ้นไปได้สูงด้วย กูยังไม่รู้เลยว่าเขาไปทำความรู้จักกันยังไงอะ มันมีบางอารมณ์ก็อยากคุยกับเพื่อนที่เป็นนักเขียน เหมือนกัน แต่กูทำความรู้จักคนอื่นเขาไม่เป็นอะ

448 Nameless Fanboi Posted ID:V4RUUD4wSv

>>444 ส่วนตัวเป็นคนนึงนะ บางทียังไม่ได้กะจะอ่านหรอกแต่กดเข้ามาดูเลื่อนผ่านไปก่อนว่าคร่าวๆตอนนี้มีอะไรบ้าง แล้วค่อยมาอ่านทีเดียว

ข้ามได้ถ้าไม่ใช่ฉากวิดพื้น555

449 Nameless Fanboi Posted ID:XpX43R5tsH

อยากหากลุ่มคุยแบบ สวมโม่งเหมือนกันนะ อารมณ์ว่า เอบี ซีดี ไม่รู้ว่ามึงคือใครแต่คุยได้ปรึกษาได้ไรเง้ แต่มันก็แทบไม่ต่างจากโม่งป่าววะ

450 Nameless Fanboi Posted ID:WgQWjGlR.b

อพช นักเขียนมีสมาชิกเยอะมากแต่โคตรไร้สาระ วันๆ ข้อความใหม่เด้งเป็นร้อยแต่เป็นเรื่องหยุมหยิม บางคนก็เอาปหชีวิตส่วนตัวมาเล่าให้ฟัง งงเหมือนกันว่าอันนี้เรื่องจริงหรือนิยาย สรุปกูกลับไปเขียนงานตัวเองต่อละกัน

451 Nameless Fanboi Posted ID:HJeOfQo.R8

>>449 มีโอเพ่นแชท แต่กูกลังตอนที่เถึยงกันแรงๆ แบบในนี้มันน่ากลัว เพราะยิ่งในนั้นยิ่งตอบโต้กันเดือดแน่ๆ แล้วก็จะจำกันได้ มันจะกลายเป็นแก๊งคืในนั้นแน่ๆ โม่งดีสุดแล้ว

452 Nameless Fanboi Posted ID:2YU/nJl3nZ

>>446 ดีออก กูไม่ค่อยอยากจะคบใครเลย แต่มีเฟซนข.แอดมารัวๆ กูไม่ได้รับนะ ก็ถือว่าแต่งเงียบๆ ขายเงียบๆ ยอดก็เงียบๆ คนเดียวนะ กูไม่เห็นจะอยากได้สมาคมช่วยกันอวย ช่วยกันแชร์เลย ถ้ามึงอยากให้นิยายเป็นที่รู้จัก ยิงแอดเฟซบุ๊กข่ะ 5555
อีกอย่างสมาคม เม้ามอย ปสด.มากๆ กูมักจะหาอารมณ์แต่งนิยายไม่ได้

453 Nameless Fanboi Posted ID:1Ey7pY4vj6

>>446 เป็นไปได้นะ กูเองไม่มีเพื่อนเป็นนักเขียนมาก่อนเลย ไม่มีคนที่รีวิวให้เพราะเป็นเพื่อนหรือรู้จักกัน ไม่มีเหี้ยอะไรเลย มาแต่ตัว ลงนิยายในเว็บแล้วก็ออกเล่ม แต่เรื่องกูก็มีคนรีวิวให้เยอะนะ เหมือนจู่ๆเขาสนุกก็เลยรีวิวให้เอง แล้วมันก็เหมือนบอกปากต่อปากกันไปเรื่อยๆ ถ้าเรื่องมึงสนุก นักอ่านก็จะไปหวีดใส่นักรีวิวอีกที แล้วนักเขียนหลายคนจริงๆก็น่ารักดี ที่มาทักก็ดูไม่ได้ต้องการอะไรจากกูอ่ะ ถ้าจะมีอะไรที่กูทำเป็นพิเศษก็คือรักคนที่หลงมาอ่านให้มากๆ ตามไปหวีดทุกรีวิวที่เจอ ประมาณนั้นมั้ง

454 Nameless Fanboi Posted ID:b7sCA24d9r

ไม่จำเป็นต้องจับกลุ่มหรอก ทำงานให้ดีเดี๋ยวคนก็เห็นเอง อย่างคนเขียนคิวบิก รถหนมปัง เด็กเลี้ยงแกะ มิริน กูไม่เห็นเขาจะสุงสิงกะใคร สายวายสายฟิคก็อยู่คนเดียวเยอะแยะ ถ้าไม่ได้กะจะทำนิยายโคโปรเจ็คต์กะใครก็อย่าไปยุ่งเลย รู้สึกว่าเป็นสังคมที่แอบ toxic นะ ขี้นินทาก็เยอะ หน้าไหว้หลังหลอก แถมยังชอบแซะกันออกอากาศให้คนแบบกูไปตามเสือกอีก 5555

455 Nameless Fanboi Posted ID:Akm9DZKm9B

>>446 ปกติ กูก็เป็น ขายได้ด้วยมีคนอ่านด้วย อาจไม่ปังปุริเย่แบบได้ยอดหมื่นยอดแสนภายในเดือนสองเดือน แต่มีคนอ่านเรื่อย ๆ เปย์ไม่ขาด ถึงยอดจะต่ำไม่พอแดกแต่ในระยะคือโอเคอยู่นะ ไอ้พวกจับกลุ่มดันงานกันเองอะ คืออยากให้งานตัวเองเปนที่รุ้จักเยอะๆไวๆ จะได้ขายง่าย ซึ่งลุยเดี่ยวคงทำไม่ได้นอกจากจะแมสขึ้นมาเองซึ่งยากกว่า เลยลงเอยด้วยการเกาะกลุ่มนี่แหละ ถึงไม่แมสแต่หาคนอ่านได้เยอะขึ้นจริง และแน่ละว่าต้องใส่หน้ากากหากันจะได้ช่วยทำมาหากินกันยาวๆ+รวมพลังไปตบคนอื่น

456 Nameless Fanboi Posted ID:s+bgPZh9Ke

อยากได้ข้อมูลเกี่ยวกับขนมในยุคจีนโบราณอะ เขาใช้อะไรทำแป้งขนม

457 Nameless Fanboi Posted ID:zWvpx5/BHO

สามพันดินแดนในพวกนิยายเทพเซียนนี่เอาจากไหนวะ เห็นหลายเรื่องละกูงง เป็นหลักคำสอนคล้ายๆ สวรรค์เจ็ดชั้นปะ เห็นส่วนใหญ่ใช้แบบ ผู้ยิ่งใหญ่สุดในสามพันดินแดน ทั่วสามพันดินแดนไม่มีใครเทียม

458 Nameless Fanboi Posted ID:mXeXL.5D3P

เฟซบุ๊กมันส่งเมลมาให้เพิ่มเลขประจำตัวเสียภาษีจะได้ไม่เสียภาษีมูลเพิ่ม บลาๆ อะไรนี่แหละ ตกลงกูควรเพิ่มชะมะ มันเล่นตุกติกหลอกแดกตังกูปะเนี่ยกูยิ่งโง่ๆ อยู่
พอดีกูชอบซื้อโฆษณาเวลาเปิดพรีนิยาย

459 Nameless Fanboi Posted ID:MmBgqGIvMv

เพิ่งสังเกตว่าจำนวนคำในเมบกับเวิร์ดไม่เท่ากัน กลายเป็นกูคำนวนราคาได้ถูกกว่าที่ตั้งใจซะงั้น

460 Nameless Fanboi Posted ID:mXeXL.5D3P

>>454 เออ 555 กูก็แอบส่องพวกเขาเหล่านี้อยู่ หลงรักในความสันโดษ จริงๆ กูแอบคิดนักเขียนสมัยนี้มันต้องเป็นทั้งนักธุรกิจ นักการตลาด แถมนักฉอดด้วย บางคน ซึ่งกูรู้สึกเหนื่อย ก็เลยชอบแต่งอย่างเดียว ไม่ค่อยสื่อสารกับนักอ่านด้วย อัปนิยายเฉยๆ มีเรื่องจำเป็นต้องแจ้งถึงค่อยแจ้ง

461 Nameless Fanboi Posted ID:mXeXL.5D3P

>>455 กูเคยแอบอิจฉาพวกเขาเฟล่านั้น แต่ตามดูไปเรื่อยๆ กูเริ่ม toxic จริงอย่างมึงว่า ขี้เม้าจุบจิบตัยโหง

462 Nameless Fanboi Posted ID:mXeXL.5D3P

>>456 กูเคยหาแต่ว่ามีขนมอะไรบ้างอะ ไม่เคยอ่านสูตรละเอียด มึงลองดูในเพจ ฉันได้กลิ่นอาหารจากนิยายจีน บางอันเขาก็จะมีบอกสูตรอยู่ แต่ไม่แน่ใจว่ามีบอกละเอียดถึงชนิดแป้งรึเปล่า ซึ่งความจริงในนิยายที่เน้นแนวทำอาหาร อย่างพวกที่ชื่อ สูตรลับตำรับ อะไรเทือกๆ นี้น่าจะมีการบรรยายบอก แต่กูก็เดาเอานะ ไม่เคยอ่าน

463 Nameless Fanboi Posted ID:KTX7M5ljDY

>>461 สังคมนักเขียนดำมืดจะตายมึง

464 Nameless Fanboi Posted ID:D7LxBYjkEs

>>463 เค้าเม้าท์กันในไหนวะ ทำไมกูไม่เคยเห็นเลย หรือว่าจริงๆ แล้วกูก็สันโดษตัวแม่? อันนี้ถามเพราะอยากเสือกด้วย ไม่ได้ตั้งข้อสงสัยว่ามันไม่จริง 555+

465 Nameless Fanboi Posted ID:.s3cDNd6jE

เคยอยู่ในกลุ่มนักเขียนหลายกลุ่มแล้วก็กดออกหมด ใครอยากแอดเพจก็แอด แต่เฟซส่วนตัวไม่รับพวกนักเขียนเลย

ทุกวันนี้ไม่มีเพื่อนนักเขียน มีเพื่อนเป็นบก. แต่ไม่เคยใช้สถานะเพื่อนเกี่ยวกับงานเลยนะ นัดเจอคือกิน เมาท์เรื่องนู้นนี่ แต่ไม่เอาเรื่องงานเขียนมาบ่นกัน แล้วไม่เคยให้เขาเป็นบก.งานตัวเองด้วย คบกันเพราะเป็นเพื่อนจริงๆ

สายวรรณกรรม ปสด. ไม่ต่างจากสายหนัง ดนตรี ดีกว่าตรงแยกตัวเองออกมาได้ไม่ต้องพึ่งผู้ใหญ่มากแบบสายอื่นๆ

466 Nameless Fanboi Posted ID:/uLX9Xzh0J

>>423 กูเคยเห็นนักเขียนใส่สองชื่อในหน้าปกไปเลย คนเดียวกันแต่ใส่ทั้งสองภาษานั่นละ555 ใส่ทั้งแบบ 1/2 1&2 1(2) พิมพ์เล่มกับสนพ.ก็มี ทำมือก็มี
>>464 ก็ในกลุ่มนักเขียนนั่นแหละมีกี่กลุ่มก็เม้าทุกกลุ่ม แต่ละกลุ่มจะขาประจำคนละกลุ่มแล้วแต่พื้นที่นี้ใครครอง

467 Nameless Fanboi Posted ID:/nQ/SVZYpC

raw เรื่องไหนถ้านักเขียนติดเหรียญแล้วแต่งไม่จบนี่ลบไม่ได้ใช่หรือเปล่า

468 Nameless Fanboi Posted ID:m9twbrEz0D

>>467 ลบได้ แต่คนซื้อไปแล้ว ตอนนั้นๆ จะอยู่กับเขา เขาก็จะเข้าอ่านได้แค่ตอนที่ติดเหรียญ ส่วนอันที่มึงลบไป ที่เป็นตอนฟรีก็น่าจะหาย และมึงจะถูกนักอ่านด่าแน่นอน

469 Nameless Fanboi Posted ID:g517ZRFFH8

>>467 ลบได้ และกุเคยลบแล้ว โดนสาปส่งเป็นที่เรียบร้อย

470 Nameless Fanboi Posted ID:VAUVhcblai

>>469 ทำไมถึงโดนสาป กูไม่เข้าใจอะ คือ มึงลบในขณะยังแต่งไม่จบแล้วติดเหรียญ หรือ ลบแบบไหนวะ /คือกูเคยปิดเรื่องแต่เป็นนิยายที่แต่งจบขายไปนานแล้ว ไม่มีใครแวะเข้ามาซื้ออีก ก็เลยไม่ได้โดนสาปอะไร เพราะคนที่ซื้ออ่านก็คืออ่านจบไปนานละ กูเลยสงสัยว่ากรณีไหนถึงโดนสาปได้
เพราะกูชอบปิดเรื่องบ่อย

471 Nameless Fanboi Posted ID:/nQ/SVZYpC

>>470 ติดเหรียญแล้วมีคนซื้อแล้วแต่แต่งไม่จบ เงียบหายไปไม่มาลงตอนต่อไป ลอยแพนักอ่าน แล้วกดลบเรื่องนั้น ถ้าเปิดเรื่องใหม่นักอ่านหน้าเดิมจะเห็นประวัติแต่งไม่จบ แต่ถ้าหายตัวไปเปิดเรื่องใหม่ไอดีอื่น นักอ่านก็คงจำไม่ได้ถ้าสำนวนไม่ได้ชัดมาก

472 Nameless Fanboi Posted ID:/nQ/SVZYpC

>>468 >>469 โค้งตัว เตรียมใจไว้แล้ว TT ้
เรื่องเดิมต่อไม่ไหวจริงๆ รู้สึกผิด สองจิตสองใจว่าจะลบหรือไปเริ่มต้นใหม่ แต่เคยเห็นเรื่องอื่นติดเหรียญแล้วหายไปแต่งไม่จบก็มีเหมือนกัน

473 Nameless Fanboi Posted ID:VAUVhcblai

แล้วถ้าติดแต่ตอนที่มี NC แล้วแต่งไม่จบล่ะ แบบนี้มีสิทธิ์โดนปะวะ /เรื่องนี้สอนให้กูรู้ว่ากูควรแต่งให้จบ หรือใกล้จบจริงๆ แล้วค่อยลง หรือไม่ค่อยติดเหรียญดีกว่า ไม่งั้นเสียผู้เสียคนหมด บางเรื่องมันตั้งใจว่าอยากจะจบนะ เลยติดเหรียญแต่มันหมดอารมณ์กับเรื่องไปกลางทางซะก่อน

474 Nameless Fanboi Posted ID:AAzRySIxRF

>>473 ถ้าติดเหรียญ ไม่ว่าจะติดแค่บางส่วนหรือติดทั้งเรื่อง คนอ่านก็น่าจะไม่โอเคทั้งนั้นแหละมึง

475 Nameless Fanboi Posted ID:g517ZRFFH8

นักอ่านก็เคยบอกกุว่าเขาเปย์ไปแล้ว ถึงจะเข้ามาอ่านตอนเปย์ที่ลบรึปิดไปได้แต่เนื้อหาต่อจากนั้นล่ะ มาลบแบบนี้เสียความรู้สึก มันก็สิทธิของนักเขียนที่จะลบเพราะเรามีเหตุผลของเรา และสิทธิของนักอ่านที่จะไม่พอใจเพราะเขาก็มีเหตุผลเหมือนกัน ตอนนั้นกุอ่านแล้วซึมมากเลย

476 Nameless Fanboi Posted ID:vOsLrl8tHW

กุเหม็นคำว่า 'เพราะเมิงเปนแบบนี้ไงวงการมันถึงไม่พัฒนา' แล้วกุก็รวบฉอดเลย ตรรกะกุตามนั้นทุกอย่าง แล้วกุก็เข้าใจว่านักเขียนเหี้ยที่ตัดแปะยำอย่างที่มึงว่าอะเหี้ยจริง แต่มันคนละเรื่องที่ว่าแต่งแนวแครอทแปะแทนมันไม่มูฟวงการ เพราะสาววายยุคแรกมันก็มาจากแนวแครอทแปะแทนนี่แหละ งานวายยุคบุกเบิกเปนงี้หมด แล้วถ้าคนยังชอบแนวยุคบุกเบิกมาจนทุกวันนี้มันก็การันตีว่าขายได้ ถ้าไม่ชอบก็แค่ไม่ซื้อไม่ต้องไปเสือก กลไกตลาดมันจัดการกันเองหรอก

ที่มึงพูดว่าเนื้อเรื่องซ้ำคือหมายถึงคนเขียนคนเดียวแต่ซ้ำชชกับชญใช่ไหม จังหวะเหี้ยแหละกุขอโทษ เพราะโม่งบนมันฉอดว่าคนเขียนเมนสตรีมทำให้วงการไม่มูฟ มันมาตรงกับคีย์แครอทแปะของมึงพอดี ซอรี่นะ ซอรี่อีกหน

477 Nameless Fanboi Posted ID:AAzRySIxRF

>>476 มึงก๊อปมู้นู้นมาโทรลหรือผิดจริง?

478 Nameless Fanboi Posted ID:7K8UYZQwRz

เขียนนิยายตอนทำอาหาร ธีมยุคเป็นยุทธภพแฟนตาซีกำลังภายในไม่มีฮ่องเต้ สรุปเชื้อเพลิงที่ใช้ ถ่านหรือฟืนดีวะเนี่ย??????
สรรรหาเขียนเรื่องปวดหูจริงกู 5555

479 Nameless Fanboi Posted ID:u4aTXzJcI9

>>478 ฟืน

480 Nameless Fanboi Posted ID:XBY+OL71rn

>>478 ถ่านคือการเอาไม้ไปผ่านขบวนการ carbonization เดินดุ่มๆ หาไม่ได้ ถ้าไม่มีคนเตรียมไว้หรือพกไปก็ต้องตัดไม้หาฟืนมาใช้แทน แต่ฟืนมีเขม่าและควันเยอะ ปกติไม่ควรนำมาทำอาหาร นึกภาพจะหยดเครื่องปรุงแล้วต้องยืนเหนือควันโขมงน่ะ ก็เลือกเอาละกันว่าสถานการณ์เป็นแบบไหน หาถ่านได้ก็ใช้ถ่าน จะได้มีซีนยืนปรุงอาหารเหนือหม้อต้มสวยๆ ถ้าหาไม่ได้ก็ใช้ฟืน แต่อย่าหาทำให้ตัวละครไปยืนเฝ้าหม้อเฝ้าเตา

481 Nameless Fanboi Posted ID:ECViDN1JLR

>>480 **กระบวนการสิ รีบพิมพ์ไปหน่อย

482 Nameless Fanboi Posted ID:.m1dIb/+gV

>>477 ไม่มีใครก้อปใครทั้งนั้น โม่งทุกตัวคือคนเดียวกัน all for one

483 Nameless Fanboi Posted ID:ub+4ufsfHZ

https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_2898470

484 Nameless Fanboi Posted ID:425/RXTCYl

ถ้าเรื่องหวานๆ เรื่อยๆ 80% ของเรื่องละมามีเหตุการณ์พีคเอา 20% หลัง กุควรเรอ่มขายอีบุคตอนไหนดีวะ ตอนแรกกุกะลงขายตอนครึ่งเรื่อง แต่ตอนนั้นยังละมุนๆ กันอยุ่เลยอ่ะ กลัวไม่จูงใจ

485 Nameless Fanboi Posted ID:d1pPss7hBR

>>484 ใดๆ ก็ตามอย่าอัปเกินครึ่งเรื่องเพราะนักอ่านจะรู้สึกว่าเหลือให้อ่านน้อย ไม่คุ้ม หลายคนไม่สนหรอกว่าเรื่องจะยาวแค่ไหน เขาสนแค่ว่าที่ซื้อมันคุ้มมั้ย โดยไม่นับรวมที่อัปไปแล้วเพราะนั่นถือว่าเป็นของฟรี

486 Nameless Fanboi Posted ID:u4aTXzJcI9

อยากให้รีดเลิกการกดหัวใจเป็นคอมเม้นท์อะ บางทีดีใจเก้อ

487 Nameless Fanboi Posted ID:fOekxzE4./

>>485 กูน่าจะมาอ่านคำแนะนำของมึงก่อน เรื่องก่อนหน้านี้กูลงเกือบจบ เหลือแค่จุดพีคตอนจบกับตอนพิเศษสามตอน เจอหนึ่งดาวในเม็บแล้วบอกว่าเสียดายเงินที่จ่ายแค่เพื่อตอนจบ 555555ในเลข5มีน้ำตาซ่อนอยู่

488 Nameless Fanboi Posted ID:h7VU5caPwE

>>486 ++ กูก็ไม่ชอบ เห็นคอมเม้นเพิ่มก็ดีใจ รีบเลื่อนไปอ่าน โว่ะ แค่กดหัวใจ โคตรเซ็ง

>>487 โอ๋ๆ ทีนี้คิดเรื่องตัดดีๆนะ ถึงเนื้อเรื่องจะหวานแค่ไหนก็พยายามหาทางตัดฉับให้นักอ่านไปอ่านที่เหลือในเล่มให้ได้ แกล้งๆใส่ปมในเนื้อหาที่จะเป็นตัวอย่าง ใส่อะไรให้คนดูสงสัยว่ามันจะพีคตอนจบป่าววะ สู้ๆ

489 Nameless Fanboi Posted ID:d1pPss7hBR

>>487 กอดนะมึง เรื่องมันเศร้า เรารึก็คิดว่าอยากใจดีกับนักอ่าน โชว์ป๋าซะหน่อย อัปซะเยอะเลย สุดท้ายยอดขายขี้ปะติ๋ว 555 กูก็เจ็บมาก่อน อีกอย่างที่อยากบอกคือนักอ่านสายเปย์บางส่วนก็ชอบเงียบเงียบๆ กลุ่มนี้ไม่ค่อยเม้นท์ ไม่ค่อยหวีด กดซื้ออย่างเดียว การเหลือให้อ่านเยอะคือ 1 ในการพิจารณาจ้า

490 Nameless Fanboi Posted ID:u68H5AsneS

>>485 เหยด กุนี่กะอัพครึ่งเรื่อง ลงอีบุค จากนั้นลงต่อจนจบนะเนี่ย งั้นกุลงแม่งแค่นั้นแหละวุ้ย ไหนๆ กุก้มาเพื่อเงินแล้ว

491 Nameless Fanboi Posted ID:nK1RDETWVl

Ky กูถัมจิง นิยายบางเรื่องแค่พระนางจีบกัน อ้อยกันทั้งเรื่อง คนอ่านก็ติดแล้วใช่มั้ย กูเห็นนามแมสบางคนแต่งแค่นี้จริง ๆ ไม่ต้องใส่ปมเป็นสายไฟพันรุุงรัง คนอ่านเป็นพันเป็นหมื่น กูนึกว่าคนอ่านอยากจะอ่านอะไรนอกกรอบ กูจะได้เลิกใส่ปมยาก คิดหัวจะแตก ไม่เหนื่อยกูด้วย

492 Nameless Fanboi Posted ID:dcLewWntzL

พวกมึง ถ้าเราเปิดเรื่องทิ้งไว้เป็นปีๆ แล้วถึงมาอัพ มีผลต่อการที่คนจะเห็นไหม ถึงจะอัพทุกวันก็เหมือนไม่ช่วยเลย ต่างจากเรื่องก่อนๆ มาก ที่เปิดปุ๊บอัพปั๊บอะ กูเลยพยายามจะหาสาเหตุโดยตัดความกากของนิยายออกไป เพราะเทียบกับเรื่องก่อนๆ ในความรู้สึกกูอะเรื่องนี้ดีกว่าแต่สู้ไม่ได้ ไม่ติดฝุ่นเลย งง //หรืออีกสาเหตุคือกูแปะบอกแต่ต้นว่าจะติดเหรียญ ทั้งที่เรื่องก่อนๆ ฟรีจนจบ มันเหมือนกันไล่สายฟรีกลายๆ ชะ

493 Nameless Fanboi Posted ID:dcLewWntzL

>>491 มู้นู้นพูดเรื่องนี้อยู่ 555555 กูก็คิดหนักเหมือนกัน เพราะกูไม่ชอบอ่านอะไรง่ายๆ แบบนั้น ก็เลยไม่ถนัดแต่งแบบนั้นไปด้วย รู้สึกไม่ได้พัฒนาฝีมือตัวเอง แล้วมันซับซ้อนไปถึงวิธีเล่าเรื่อง คนอ่านน้อยจริงๆ

494 Nameless Fanboi Posted ID:vQ+FU3Hkis

>>492 ก็มีส่วนนะ สายฟรีมันคงคิดว่าเสียเวลาเพราะไงๆ มันก็ไม่มีเงินปาเหรียญ สู้ไปหาเรื่องอื่นที่ฟรีจนจบอ่านดีกว่าแหง

495 Nameless Fanboi Posted ID:tNoeM21ySz

>>488 >>489 ขอบคุณมากๆ ;_; ตอนนี้ทำใจได้ละ เรื่องปัจจุบันลงครึ่งเรื่องพอ 55555

496 Nameless Fanboi Posted ID:IcPQErqXw3

>>491 นักอ่านหลายคนชอบนิยายสายคาแรกเตอร์นะ ไม่ต้องมีปมรุงรัง แต่เน้นที่ตัวพระนางว่าจะพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างกันยังไง อุปสรรคปัญหามายังไง จะแก้ไขยังไง ไม่เล่าเรื่องคนอื่นเลยนอกจากพระเอกนางเอก นักอ่านส่วนใหญ่จะชอบแบบนี้ บางคนก็คือถ้าพระเอกออกช้าเกินไปเพราะนักเขียนเกริ่นเรื่องยาวเกินก็เทแล้ว จะว่านิยายแบบนี้แต่งง่ายมันก็ไม่ใช่นะ เพราะว่าจะทำยังไงให้คนอ่านติดตามความสัมพันธ์ของตัวละครสองคนไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ต้นจนจบโดยไม่เทซะก่อน เพราะยังไงนักอ่านก็อ่านเพราะตัวละคร เอาใจช่วยตัวละครนี่

497 Nameless Fanboi Posted ID:wbH8nFTk7C

มีใครติดทั้งเหรียญ ทั้งทำอีบุ๊กไหม เป็นไงบ้าง ปกติกูลงครึ่งเรื่องแล้วขายอีบุ๊กเลย หลังๆ นี่คิดว่าอยากหารตอนขายดูว่ะ

498 Nameless Fanboi Posted ID:ITSAPsgq30

การเล่าเรื่องง่ายๆ ปมไม่เยอะ เหมือนจะเป็นเรื่องง่าย แต่ความจริงมันยากมากที่จะทำให้แมสเพราะพล็อตหรือเรื่องแนวนี้มีเป็นแสนเป็นล้าน การทำให้คนมาสนใจแล้วแมสขึ้นมากก็ต้องใช้ความสามารถในการเล่าเรื่อง ดำเนินเรื่องน่าติดตาม ตัวละครมีเสน่ห์ กลับกัน การสร้างปมรุงรังไม่ได้หมายความว่างานยากขึ้น พัฒนาขึ้น เก่งขึ้น เพราะสุดท้ายแล้วกูว่าคนอ่านนั่นแหละจะตัดสิน

เรื่องที่ปมยาก ปมรุงรัง ซับซ้อนแล้วแมสก็มีเยอะแยะนะ ไม่ใช่ว่าคนอ่านเขาไม่ชอบ เขาขอบทุกเรื่องที่มันสนุกนั่นแหละ

499 Nameless Fanboi Posted ID:dcLewWntzL

สรุปคือ ก็ต้องสนุกตรงจริตคนอ่านแหละ อยู่ที่จะทำให้คนอ่านตรงกลุ่มเห็นได้ยังไง แล้วต้องทำให้เขาไปพูดต่อกันด้วย ยิ่งติดเฮชแท็กในทวิตตี้ได้ก็ยิ่งดี //กูแต่งมาแล้วทั้งฟินๆ ไม่มีปมเยอะ กับปมรุงรัง(แค่ชอบแต่งแบบนี้มากกว่า) แต่ยังหาวิธีเจาะกลุ่มคนไม่ได้ ยังหาวิธีเล่าที่มันสนุกน่าติดตามไม่ได้ด้วย ได้แต่ค้นหา ทดลองไปเรื่อยๆ แหละ

500 Nameless Fanboi Posted ID:H7x8aENvSj

>>499 ไอ้เรื่องสนุกไม่สนุกเนี่ยกูเห็นด้วยว่าศาสตร์มืดมาก ใครจะบอกวิธียังไงก็เถอะ กูทำได้เรื่องนึง เสือกปัง แล้วก็งงว่าจะทำแบบนั้นอีกได้ยังไง เขียนได้มาแล้วครั้งนึงยังไม่เข้าใจเลย เหมือนเป็นส่วนผสมของปมกับคาแรคเตอร์ที่มาพร้อมกันพอดีๆ แต่จะให้ทำอีกมันก็ทำไม่ได้ละ เหมือนจู่ๆ มันก็ได้เอง

501 Nameless Fanboi Posted ID:OPIT22y8iz

พวกมึงเปิดเพจเฟซ / แอคทวิต สำหรับงานเขียนกันมั้ยวะ กูมือใหม่กิ๊งเลย เพิ่งจะลงเป็นเรื่องแรก ต้องรอสะสมฐานแฟนสักพักก่อนหรือเปิด ๆ ไปเลย (ถึงจะยังไม่มีคนมาเล่นด้วยก็เหอะ) ดี

502 Nameless Fanboi Posted ID:/UanNh+1A+

>>501 เปิดๆ ไปเลย

503 Nameless Fanboi Posted ID:4vz9kPr1Ww

เวลาลงนิยายต้องไปจ้างนักวาดมาวาดภาพปกกับแบนเนอร์ประกอบป่ะวะ กูไม่มีเงินขนาดนั้นอะ แล้วกูก็เขียนๆหยุดๆเลยไม่อยากลงทุนมาก แต่เรื่องอื่นๆกูก็เห็นเขาทำแบนเนอร์กับภาพประกอบกันทั้งนั้นเลย หรือกูควรลงทุนไปจ้างเขาดีเพื่อดึงดูดนักอ่าน

504 Nameless Fanboi Posted ID:KNrhOjzF/g

>>503 หาภาพสวยๆ ในเว็บแจกภาพฟรีมาทำโปสเตอร์เองก็ได้ เลือกภาพเก่ง ใช้ฟ้อนสวยๆ จัดอาร์ตเข้าท่าหน่อยบางทีสวยกว่าไปจ้างเขาวาด

505 Nameless Fanboi Posted ID:/UanNh+1A+

>>503 https://pixabay.com/th/
แนะนำ ทำเอง ฟ้อนต์ฟรีกูเกิล ฟ้อนอย่าใช้มั่วนะ ต้องดูด้วยว่า ขายหรือฟรี

506 Nameless Fanboi Posted ID:4vz9kPr1Ww

>>504 >>505 ขอบคุณพวกมึงมาก กูนี่ก็มีหัวทางศิลป์เป็น 0 ซะด้วยสิ แต่จะลองพยายามดูนะ

507 Nameless Fanboi Posted ID:J.nuqr/2HL

>>506 แนะนำ canvaครบทุกอย่างที่มึงต้องการ ฟรีแบบถูกลิขสิทธิ์ทั้งภาพทั้งฟ้อน ถ้ามึงกราฟฟิกแม่น ๆ สกิลตัดแปะสูงพอตัว เสกปกอลังได้ด้วยมือมึงเลย ถ้าสกิลกาก ๆ มันก็มีแม่แบบให้มึงดูเป็นตัวอย่าง กูใช้ดีอยู่ เอาภาพเดียวมาทำเปลี่ยนฟิลเตอร์แล้วใส่ของตกแต่งอีกหน่อยก็ได้ละ ฟ้อนฟรีก็มี ใช้กับงานได้หลายแบบด้วย

508 Nameless Fanboi Posted ID:fcJZPEcLwV

คิดพล็อตดีๆ ได้ แต่กูรู้สึกว่าตัวเองมือไม่ถึงที่จะเล่ามันออกมาให้ดีว่ะ อ่านสำนวนคนอื่นแล้วรู้สึกว่าถ้ายกพล็อตนี้ให้เขาต้องเป็นนิยายที่ดีได้แน่ แต่ดันกลายเป็นของเสียราคาในมือกู เฮ้ออ T-T

509 Nameless Fanboi Posted ID:hGPWejBTBS

>>508 ลองแต่งดูมึง เขียนออกมาก่อนแล้วมาเกลาสำนวนอีกที

510 Nameless Fanboi Posted ID:8+YA9EQPYF

>>508 เขียนเถอะมึง คนที่เขาภาษาดีกว่ามึงเขาก็อาจจะคิดพล๊อตแบบนี้ไม่ได้ไง ต่างคนต่างมีจุดแข็งของตัวเอง เขาเองก็อยากไอเดียดีเหมือนมึงเหมือนกันแหละ

511 Nameless Fanboi Posted ID:mVHwsrBZsr

ใช่แล้ว กูเห็นด้วยมาก ทุกคนมีจุดเด่นจุดด้อย แต่ใช่ว่าจะพัฒนาจุดด้อยนั้นให้กลายมาเป็นจุดเด่นไม่ได้ เมื่อก่อนกูก็โดนติเรื่องภาษามาเยอะเหมือนกัน เขียนมาหลายอย่างกว่าจะจับทางตัวเองได้ว่าถนัดกับภาษาแบบไหน ทุกวันนี้กูยังสะสมคลังคำเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือคอมเมนต์จากนักอ่านที่ไปในแนวเดียวกันว่าภาษาดี กูว่าถ้ากูท้อตั้งแต่ตอนนั้น กูคงไม่ได้ยินอะไรชื่นใจแบบนี้หรอกว่ะ งานเขียนมันพัฒนากันได้เรื่อยๆ เหมือนฝีมือด้านศิลปะนั่นแหละ ลองไปขอดูภาพวาดสมัยเด็กน้อยของนักวาดแต่ละคนก็ได้ เคยผ่านจุดที่ง่อยเปลี้ยกันมาทั้งนั้น

512 Nameless Fanboi Posted ID:GcaiT2.FKQ

>>508 เขียนเถอะ มีพล็อตต้องยิ่งต้องเขียนให้จบจองไอเดียก่อนว่ากูคิดก่อนโว้ย ใครมาพล็อตซ้ำถึงสำนวนดีแต่ก็เขียนหลังมึง เขียนจบอีก 3-12 เดือนมาอ่านรีไรต์ ต้องเขียนตลอด หยุดเมื่อไรคลังคำจะสนิมขึ้น

513 Nameless Fanboi Posted ID:5.nvH1i7eJ

พวกมึง กูกะจะรีไรท์นิยายเรื่องเก่าแบบเหมือนเขียนใหม่เลยอะ แค่เอาโครงมันมา (การแก้แขอดีตที่ลงมือทำได้ 55) ทีนี้กูวางขายไปละแบ่งเป็นหลายเล่มจบ แต่ที่กูจะเขียนใหม่นี้กะจะขายรวบเป็นเล่มเดียว
คนที่ซื้อของกูเวอร์ชั่นเก่าครบชุดกูจะอัปเวอร์ชั่นใหม่ให้อัตโนมัติ แต่คนที่ซื้อไม่ครบกูคงไม่ได้อัปให้ว่ะ แบบนี้กูจะโดนหยิกหีปะ (; ;)

514 Nameless Fanboi Posted ID:hIRH84Nphb

>>513 ถ้ามีคนโวย มึงก็เสนอให้เขาซื้อเล่มที่เหลือให้ครบ และก็จะได้ ver. ใหม่อัตโนมัติ​ ดีมะ?

515 Nameless Fanboi Posted ID:F7fPaGiaoZ

>>513 ทำไมถึงอยากรีอะ ปรับสำนวนหรือยังไง

516 Nameless Fanboi Posted ID:uPc+octlEH

>>513 ขายแยกคือคำตอบ ถ้ามึงแยกขายเป็นหลายเล่มไปก่อนแล้ว ถึงรีใหม่แต่เนื้อหาไม่เท่าเดิมก็ทะแม่งๆนะ บอกไปเลยดิว่าฉบับพิเศษแบบ if au หรือไรก็ว่าไป คนจะซื้อก็ซื้อเองแหละ เป็นกูงงนะวันดีคืนดีย้อนมาอ่านนิยายเก่า ๆ ทำไมเปลี่ยนไปวะ กลายเป็นเรื่องใหม่เฉย

517 Nameless Fanboi Posted ID:Mrgmkfyoaw

KY รอร หมวดแฟนตาซีติดท็อปยากมั้ย เห็นมีแต่นิยายแปลที่อยู่ท็อปแง T_T

518 Nameless Fanboi Posted ID:mVHwsrBZsr

>>517 รอร ให้โอกาสนขหน้าใหม่สุดแล้วเพื่อน อะไรๆ ก็เป็นไปได้ ขอแค่อัปบ่อยๆ อย่าหายไปไหน อัปสม่ำเสมอ เรื่องนี้อาจไม่ปัง เรื่องหน้าจะค่อยๆ มีคนอ่านเยอะเอง ลองลงไปก่อน

519 Nameless Fanboi Posted ID:aV/Ul8UAnE

>>517 สำหรับกูว่าเดี๋ยวนี้แฟนตาซียากทุกเว็บ เมื่อก่อนคนแข่งกันปั้นพล็อต ดีไซน์โลก ออกแบบระบบกันสุดฤทธิ์ อันดับหน้าแรกแทบไม่มีพล็อตซ้ำ เดี๋ยวนี้ถ้าค้นหาแบบ mute คำว่านางร้าย/ตัวร้าย กูว่าเหลือไม่ถึงครึ่งเว็บ

520 Nameless Fanboi Posted ID:F7fPaGiaoZ

>>519 ถ้า+ เกิดใหม่ ย้อนเวลาไปด้วย กูว่าคงเหลือไม่ถึง 20%

521 Nameless Fanboi Posted ID:LTDpw9Vbqf

การเปลี่ยนหน้าปก ebook ของนิยายที่ขายใน meb นานแล้ว จะทำให้ขายดีขึ้นไหม ตอนนี้มันจมไปแล้วอะ มีคนเข้าชมวันละไม่กี่สิบวิวเอง

แล้วขั้นตอนการเปลี่ยนปกยุ่งยากมากไหม

522 Nameless Fanboi Posted ID:iqRO3I3St6

>>521 การเปลี่ยนไม่ยุ่งยากเลยก็แค่เข้าไปจิ้ม Edit แล้วอัปไฟล์ภาพใหม่ แต่กูว่าไม่ช่วย จริงๆ มีคนเคยตอบไปแล้ว ที่จะช่วยได้คือแต่งเรื่องใหม่ให้โผล่หน้ามาเยี่ยมประชาชน แล้วเรื่องเก่าๆ ของมึงจะตามไปหลอกหลอนคนที่ซื้อเอง

523 Nameless Fanboi Posted ID:2yominTKOl

เวลาฆ่าตัวละครรู้สึกไงกันวะ ตัวละครฝ่ายดีนะ ไม่ใช่ตัวร้าย เห็นบางคนสะใจได้หักมุมตลบหลังนักอ่าน กุเศร้าว่ะ ทำใจฆ่าไม่ลง แต่มันจำเป็นกับเนื้อเรื่อง

524 Nameless Fanboi Posted ID:DubofIqg/F

>>492 สมมติเปิดเรื่องจองชื่อไว้ แล้วค่อยมาลงทีหลังต่อให้ลงติดๆ สิบวันกันก้ไม่นับเป็นหน้าใหม่มาแรงเหรอ อมก

525 Nameless Fanboi Posted ID:hiN9ydVpwh

>>523 กูมองว่ามันเป็นการสร้างจุดหักของเรื่องว่ะ ดิ่งสุดแล้วขึ้นสุด เปรียบกับนิยายรักก็ สร้างดราม่าพระนางอะไรแบบนั้นอะ แต่ก็อยู่ที่มึงแต่งแนวไหน ถ้าแนวแฟนตาซีซอมบี้วันสิ้นโลก จะไม่ให้มีคนตายเลยก็ยังไงอยู่ แต่ถ้าแนวโนแมนซ์พังพาบบนเตียงทั้งวันมึงจะไม่ให้ใครตายเลยก็ยังได้ มันก็มีแหละการฆ่าตัวละครนักเขียนบางคนทำเพื่อสะใจ แต่สำหรับกูนะเป็นการสร้างอิมแพคอย่างนึง ทำให้นิยายมึงไม่แบนราบน่าเบื่อจนเกินไป ขึ้นอยู่กับมึงด้วยว่าจะเขียนยังไงให้สมเหตุสมผลจนคนอ่านอิน

526 Nameless Fanboi Posted ID:gB1c2OQLUe

>>524 ไม่นับ เผยแพร่ปุบคือนับเลย ไม่ว่ามึงจะอัพหรือไม่อัพ

527 Nameless Fanboi Posted ID:bXdDYQXW/d

>>526 แล้วถ้าเปิดไว้แบบไม่เผยแพร่ (ล็อกไว้อ่านคนเดียว) สักพักแล้วค่อยเผยแพร่รวดเดียวนี่ยังนับเป็นเรื่องใหม่ไหมวะ

528 Nameless Fanboi Posted ID:LsWqnAeUqY

>>527 ถ้ายังไม่เผยแพร่ คือยังไม่กด ก็จะไม่นับ มึงกดไปแล้ว วิเดียวมันก็เข้าใหม่มาแรง นับวันเลย

529 Nameless Fanboi Posted ID:LsWqnAeUqY

อธิบายเพิ่มหน่อย
คือถ้ามึงแบบ กดเปยแพร่แล้ว ไปสัก 5 นาที กลับไปกดล็อก มันก็นับเวลาเลยน่ะ

530 Nameless Fanboi Posted ID:bXdDYQXW/d

>>528 ขอบใจมาก กุยังไม่เคยลงเว็บแต่สงสัยคงต้องระวังเรื่องนี้แล้ว เหมือนจะมีผลมากเลยนะเนี่ย

531 Nameless Fanboi Posted ID:bXdDYQXW/d

อยากรู้ความเห็น ถ้าเป็นนิยายรักผู้ใหญ่ธรรมดา (ไม่เรท) นักอ่านส่วนมากเขา prefer ปกวาดวิว / วาดคน / ฉากตัดแปะ มากกว่ากันวะ กุสงสัยจังว่าแบบไหนจะดึงดูดใจคนมากกว่า

532 Nameless Fanboi Posted ID:MQEu+i7y42

>>531 แนวนี้ไม่จำเป็นต้องปกวาดก็ได้ ส่วนตัวกุคิดว่าปกวาดต้นทุนสูง รอนาน เหมาะกะแนววัยรุ่นมากกว่า ถ้าแนววัยทำงานปกเป็นภาพวิว ภาพคน ภาพถ่าย ไรพวกนี้เหมาะกว่า

533 Nameless Fanboi Posted ID:bXdDYQXW/d

>>532 ไปเจอปกนิยายเกาหลีแบบวาดคือสวยตาแตกกันทั้งนั้นเลย น่าจะทุนหนากันด้วย แนวรักวัยทำงานของไทยนี่ที่เห็นว่าวาดเอา (ถ้าไม่นับภาพดารามาแปลงหน้า) ก็น่าจะมีแค่สนพ.ปกสีขาวมั้งที่ใช้

534 Nameless Fanboi Posted ID:TSH2bV1p+O

ปกเกาสวยมากจริง ราคาน่าจะเอาเรื่องอยู่
ถ้าแนววัยรุ่นปกวาดดีกว่า แต่ถ้าแนวรักผู้ใหญ่ไม่เรท ภาพวาด ภาพวิว หรือจะปกกราฟิกก็ดีนะ

535 Nameless Fanboi Posted ID:oH8O7JKAJC

มึงจะเขียนนิยายอะไรขายมึงต้องวางแผนว่าจ้างนู้นนี่ใช้เวลาเท่าไหร่ ไม่ใช่จะวางขายแล้วมาบอกจ้างกลางเดือนเอาสิ้นเดือนนี้ แล้วคนไทยแม่งเร่งงานแต่ก็ไม่ให้ค่าเร่ง กูใจดีอัพเดต2-3วันครั้ง ก็ทวงกูละ นิดหน่อยๆก็ไปนินทา นักวาดคนนี้ดองงานบลาๆ เอาเวลาไปวาดเล่น นอกจากมึงจะต้องลงทุนแล้วมึงก็ต้องให้เวลานักวาดกันด้วยนะ เกือบเดือนไม่เรียกนานค่ะ ไม่ต้องกลัวหายเพราะเห็นคนอื่นโดนโกงแล้วระแวงไปเอง ยิ่งกูสายเพ้นท์แนวคล้ายเกาด้วยโคตรนานแล้วต้องให้เวลา อย่าทวงยิกๆ มึงจะได้งานที่มีความเครียดกูอยู่ในภาพ นักเขียนคนไหนน่ารักกูเลิฟมาก จุฟๆ

536 Nameless Fanboi Posted ID:zz4EN0PhDT

พวกมึงๆ กูเห็นนข.ส่วนใหญ่ ดีใจ ตื่นเต้นกับยอดวิวกัน กูไม่เคยเป็นเลยตั้งแต่ตอนใหม่ๆ ก็ไม่เป็น คือ กูคิดว่าคนเข้ามาแวะเยี่ยวเยอะมากเลยนะ ถ้าเทียบกับคนที่ติดตามอ่านตลอดจริงๆ //แล้วเขาตื่นเต้นไรกัน งงจริงๆ ไม่ได้แซะ

537 Nameless Fanboi Posted ID:3ctn1IQTrp

>>517 อยากให้แยกหมวดนิยายแปลไปเลยเถอะ TT

538 Nameless Fanboi Posted ID:hiN9ydVpwh

>>537 มีคนเสนอไปแล้ว เยอะมากด้วย แต่ก็นั่นแหละ ถ้าจะแยกมันคงแยกให้นานแล้ว

539 Nameless Fanboi Posted ID:oH8O7JKAJC

แปลถูกลิขสิทธิ์ก็ไม่ใช่ด้วยนะ แปลเถื่อน เฮ่อ ดันนักเขียนดีๆหมด

540 Nameless Fanboi Posted ID:lrAoy+s4+G

>>535 อยากจ้างมึงจัง กูจ้างงานทีล่วงหน้าครึ่งปีก็มี เพราะกูรู้ว่าไม่ได้ปสดกันสองทีเสร็จ โอ๋น้าๆๆๆ
>>536 ก็ดีใจสิ มีคนเข้ามาอ่านเลยอะ มีคนสนุกไปกับเราเพียบ

541 Nameless Fanboi Posted ID:lrAoy+s4+G

>>540 *ปาดกันสองทีเสร็จ

542 Nameless Fanboi Posted ID:1rk49iur3V

>>540 หือ~ ยอดวิวหน้าแรกนี่ เท่ากับ จำนวนคนที่เข้ามาอ่านจริงๆ เหรอ ยอดวิวกูเป็นหมื่น แต่กดเข้าชั้นสามสิบ ตกลงกูควรรู้สึกดีใจไหมนี่ //งงไปหมดแล้ว

543 Nameless Fanboi Posted ID:ku9.ePL5je

>>535 แงงง มึงเป็นคัยยย กุอยากจ้างด้วยยย
นักวาดกุเงียบมาก ไม่อัปเดตเลย ไม่ทำคิวด้วย จะทักไปถามว่าถึงไหนแล้วก๊ะ ส่งภาพร่างมาให้ดูหน่อยได้มุ้ย เอาเส้นรกๆ ก็ได้ก็เกรงใจ กลัวเขากดดัน แต่กุอยากเห็นงานนนน ดิ้นนนน

>>536 เลขสวยดีเฉยๆ กุชอบมากโดยเฉพาะตอนเผลอไปติดหน้าแรกหรือติดหมวดอะไรแบบงงๆ แล้วยอดวิวไหลมาเทมา ยอดวิวเยอะๆ จะมาพร้อมกับคอมเม้นนักอ่านหน้าใหม่ แต่อยู่ไปก็ชินแหละ มันก็แค่ตัวเลขไว้ล่อคนว่าทำไมเรื่องนี้คนอ่านเยอะจัง สนุกแน่เลย ให้เลือกระหว่างวิวกับคอมเม้นกุก็ชอบเม้นมากกว่า

544 Nameless Fanboi Posted ID:aHVOhpcYwz

กูกำลังเล็งๆนะจ้างวาดอยู่ ขอถามหน่อยได้มั้ยวะ ปกติเวลาตกลงจ้างนี่ เราต้องจ่ายเงินนักวาดเต็มเลยหรือครึ่งนึงก่อนอะ เอาตรงๆงบกูก็ไม่ได้มาก ถ้าต้องจ่ายเต็มไปเลยกับนักวาดที่ไม่รู้ว่าจะวาดงานอัพเดทงานวให้กูมั้ยกูก็กลัวนะ เหมือนพรีออเดอร์ของเป็นเดือนแบบไม่รู้จะโดนเทมั้ยน่ะ

545 Nameless Fanboi Posted ID:Z3DaAIOsw8

>>544 แล้วแต่นักวาด
บางคนก็ต้องมัดจำจองก่อนเริ่ม 500 ไรแบบนี้
บางคนก็จ่าย 50% ก่อนเริ่มงาน พอได้ภาพร่างแล้วถึงจะจ่ายเต็ม
บางคนก็จ่าย 50% หลังได้รับภาพร่าง โดยไม่ต้องจ่ายมัดจำ จ่ายเต็มอีกทีตอนงานเสร็จแล้ว

ความสวยขึ้นกับเรตราคา ยิ่งแพงยิ่งสวย แต่สวยราคากลางๆ ก็มี แต่ถ้าสวยมากก็คิวยาว ตอนนี้คนฮิตปกวาดนะเท่าที่สังเกต จองยากมาก แนะนำแท็กนี้ในทวิต #commissionTH คือถ้ามาทวีตหางานคือคิวไม่ยาว ผรือลองหาเข้ากลุ่มวาด commission market หรือ commission th พวกนี้คือนักวาดจะมาหางาน แต่ก็นะวังด้วยพวกนี้บางทีเด็กใหม่ บางคนไม่รับผิดชอบงาน แต่พวกในกลุ่ม มีข้อดี คือมึงสามารถโพสต์บอกงบ แล้วเดี๋ยวนักวาดจะสไลด์ตัวมาหาเอง แบบนี้ก็ได้นะ

546 Nameless Fanboi Posted ID:6ZkBawn5Gw

>>544 ที่กูจ้าง ส่งร่างจ่าย 50% ส่งเต็ม จ่ายที่เหลือ แต่ความบูดที่กูได้รับคือ ภาพผลงานตัวอย่างเขาอลังการงานสร้างมาก แต่ภาพที่วาดให้กู … เติมคำในช่องว่างเอาเอง แล้วแพงมากด้วยเกือบหมื่น กูโคตรเฟลจนทุกวันนี้ แต่ทำไรไม่ได้แล้วจริงๆ ก็ได้แต่ฝืนใช้ปกนั้นไป

547 Nameless Fanboi Posted ID:dkexEkXU1b

พูดถึงเรื่องปก กูขอบ่นหน่อย เพจปกสำเร็จบางเพจก็เอารูปมาจากเวบปล่อยฟรี บางรูปแค่กราฟฟิคง่อยๆ ไม่ได้โมดิฟายห่าอะไรเลย กูเคยพลาดไปซื้อมาเพราะตอนนั้นไม่รู้ เสียดายตังสัสๆ ถึงจะบอกว่าจ่ายรายปี ซื้อเชิงพาณิชย์มาแล้วก็เหอะ แต่บางรูปเป็นของฟรี ฟ้อนท์ฟรีด้วยนะบางที จัดอาร์ทใส่ชื่อเรื่องก็คิดเพิ่มอีก ขายตั้ง 300-500 แบบนี้กูทำเองก็ได้ว่ะ แต่กูอยากได้ปกวาดสวย ๆ ไม่มีงบ

548 Nameless Fanboi Posted ID:aHVOhpcYwz

>>545 >>546 โอเคมึง ขอบคุณมาก

549 Nameless Fanboi Posted ID:IK2Lh2.dQv

>>546 กูยังไม่เจอปกบูด มีบ้างที่ไม่ถูกใจแต่พอจะแก้เองได้ ที่เคยเจอเลยคือออกแบบชื่อเรื่อง งานในเพจอลังการ ทำให้กูเหมือนหมาเขี่ย ใช้ฟ้อนต์ฟรีที่กูก็มี ไม่มีลูกเล่นอะไร วางตรงๆ ทื่อๆ บอกอยากได้แนวเรียบหรู เอาฟ้อนต์วัยรุ่นมาใช้ สุดท้ายแยกทาง ยอมทิ้งมัดจำ 500 เพราะไปต่อไม่ไหว ใช่ค่ะ งานกากเสือกคิดแพงอีก

550 Nameless Fanboi Posted ID:saI5b1DjyC

>>549 เออ กูอยากรู้ว่าสมมติเราจ่ายมัดจำแล้ว แต่พอเขาส่งสำเร็จ ไฟนอลมาให้ แต่หมายังเยี่ยวใส่นี่ เราบอกว่าไม่เอาแล้วได้ใช่ไหม แล้วก็ไม่ต้องจ่ายครึ่งหลัง จากนั้นก็แยกทาง

551 Nameless Fanboi Posted ID:X8QAOQL5FN

>>550 แล้วแต่ตกลงว่ะ คืออย่างกูจ้างออกแบบฟ้อนต์ วางอาร์ตปก กูเห็นแววล่มตั้งแต่ฟ้อนต์ ไม่เข้าใจกู คุยกันไม่รู้เรื่องแน่เลยชิงเท อันนี้คือเขายังทำงานไม่จบ แต่ถ้าวาดปกแบบไปสุดทางแล้วแต่มึงไม่อยากได้ไฟล์ก็ต้องมาดูรายละเอียดกันว่าบ้งตรงไหน ถ้าเขาพอแก้ได้ก็พยายามให้แก้ไป แต่ถ้าไม่ได้เรื่องเลยอาจจะต้องชดเชยค่าเสียเวลาเพิ่มจากมัดจำหน่อย เพราะจริงๆ ก็เป็นความผิดนักเขียนส่วนนึงที่เลือกคนผิด

552 Nameless Fanboi Posted ID:SQuve6B1VL

วงการนิยายรักชญ.ไทยนี่มันมีสิทธิ์แมสไปถึงตปท.บ้างมั้ยวะ เห็นนิยายวายบางเรื่องดังไปถึงเมืองนอกแล้วอิจฉานิดนึง มีปกสวย ๆ นักวาดเกาเทพ ๆ มาวาดให้ เอาไปทำมังงะ ทำเว็บตูนงี้ ชญเราจะมีสิทธิ์ไปถึงขั้นนั้นมั้ย แง

553 Nameless Fanboi Posted ID:aHVOhpcYwz

>>552 มีชญเรื่องไหนน่าลุ้นบ้างล่ะ ที่เห็นมีแต่เน้นเย

554 Nameless Fanboi Posted ID:ISXlCK8Fm5

>>552 บุบเพไง คาเคาเอานักวาดเกาหลีไปวาดแล้ว มีแปลภาษาอื่น

555 Nameless Fanboi Posted ID:+9vQStMPvR

>>554 กูว่า overrated นะเรื่องนี้ พล็อตทะลุมิติธรรมดา ละครก็ขายขำ ไม่ได้จะว่าหรอก แต่โกอินเตอร์ไปแล้วก็ไม่น่าจะทำให้ชาวต่างชาติถึงกับโอ้โหงานประเทศไทย

556 Nameless Fanboi Posted ID:CtPrH8MOKi

>>555 มันแมสไปแล้วนะ ซีรีส์ได้กระแสจากจีน เวียดนาม อย่างแรง ได้ลงแอพจีน ลงเน็ตฟิกซ์ นิยายได้เขียนต่อภาคสอง ทำซีรีส์ภาคสอง ได้ทำการ์ตูน ความนิยมไม่แพ้ซีรีส์วายหรอก

ถ้าสมัยเก่าก็คู่กรรมป้าทมได้นำหนังญี่ปุ่น นิยายแปลญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นเห่อแป๊บนึงแต่ไม่มีต่อยอดอย่างอื่น

557 Nameless Fanboi Posted ID:3VTdfR6fP4

>>556 ซีรีย์ภาคสองรอดูยังไม่มาเลย อยากดูต่อ

558 Nameless Fanboi Posted ID:f14+l5jqYk

พวกมึงจะซีเรียสกันไหม
ถ้ายอดขายเล่มมันจมแต่พอคิดยอดอีบุ๊กมันก็หักกลบลบหนี้กันได้ ได้กำไรนิดหน่อย

559 Nameless Fanboi Posted ID:P+w+HwjZHg

>>558 ส่วนตัวมองว่าเทรนด์มันเป็นอย่างงั้นอยู่แล้ว ยอดเล่มลดเอาๆ ไปโผล่ยอดอีบุ๊คแทน กูว่าถ้าไม่ใช่เรื่องต่อจากนิยายก่อนหน้าก็ว่าจะเลิกทำเล่มแล้ว ขี้เกียจ​สต๊อก

560 Nameless Fanboi Posted ID:f14+l5jqYk

>>559 เออกูกลุ้มเรื่องสต็อกนี่ละ เรื่องก่อนๆ ไม่ได้ระบายออกสักเล่ม เลยลังเลว่าจะสั่งพิมพ์ตามยอดที่ไม่มีทางเกินสิบ หรือจะยกเลิกแล้วคืนเงินคนพรีไปทั้งหมดดี กูยืนเหน็บหนาวอยู่ตรงทางแยกตอนนี้ 5555+ //ยังดีที่กูเข้มงวดกับเงินพรี กักไว้อีกบช. ไม่เอามาใช้ก่อนเด็ดขาด

561 Nameless Fanboi Posted ID:P+w+HwjZHg

>>560 ปีนี้กูเห็นนข.คืนเงินพรีอยู่ประปรายนะ บอกว่ารอปีหน้าสถานการณ์​ดีขึ้นค่อยว่ากัน กูว่านักอ่านเข้าใจแหละ อย่างมากปีหน้าถ้ามึงเขียนเรื่องใหม่จบค่อยเปิดพรีของเรื่องเก่าด้วย แล้ว bundle ให้มันมีส่วนลดดึงดูดคนซื้อ ขอให้โชคดีนะเพื่อนโม่ง

562 Nameless Fanboi Posted ID:f14+l5jqYk

>>561 เออ ไอเดียดีว่ะ จองๆๆ //ขอบคุณมากเลยมึง

563 Nameless Fanboi Posted ID:.CFuLKmfRK

พวกมึงไม่ลองใช้ระบบพรีออเดอร์ของ arn ล่ะ ไม่ต้องสต๊อกเอง ไม่ต้องแพ็คเอง มีใครเคยลองแล้วบ้าง บอกบุญหน่อย

564 Nameless Fanboi Posted ID:J.f.A9dgtr

มีใครเข้าใจคำว่า 'ไหง' บ้างไหมวะ กูคิดมานาน ถามใครก็บอกไม่รู้ว่าแปลว่าอะไร ใช้เวลาพูดแบบ ไหงเป็นงั้น ไหงงั้น หาในกูเกิลก็ไม่มีในพจนานุกรม ล่าสุดไปเจอในหนังสือแปลแสดงว่าใช่ได้ กูนึกว่ากูคิดไปเอง

565 Nameless Fanboi Posted ID:FF.jN838m9

>>564 ไหง = ทำไม

566 Nameless Fanboi Posted ID:J.f.A9dgtr

>>565 ใช่ตามนั้น ยังมีคนเข้าใจกูขอบคุณT_T

567 Nameless Fanboi Posted ID:f14+l5jqYk

>>564 มึงไปถามคนกลุ่มไหนมาเนี่ย ที่บอกว่าไม่เข้าใจ 5555 คำง่ายๆ ความหมายก็ไม่ลึกล้ำ ใช้กันเกลื่อนและใช้มานานแล้วด้วย

568 Nameless Fanboi Posted ID:orb9PyWK05

>>563 เรื่องพรีกูไม่รู้ แต่คนบ่นว่าแอพใช้ยาก ต้องทำเองหมด ล่าสุดเจ้าของแอพโพสลอยๆ ว่ามีคนเม้าว่าเค้าจะเจ๊ง จะเอาแมวข่วนหน้าคนปล่อยข่าว นักเขียนอีกคนสไลด์มาฉอดเลยนะว่าถ้าไม่ปังจริง เค้าดีลนักเขียนแมสๆ มาไม่ได้เยอะขนาดนี้หรอก มั่นดีว่ะ กูอย่างชอบ

569 Nameless Fanboi Posted ID:Ka/USDLqdf

>>568 ฟังแล้วกูรักพี่ meb มากขึ้นกว่าเดิมอีก

570 Nameless Fanboi Posted ID:T9FI2j.lMf

>>568 มึง เรื่องจริงป้ะเนี่ย ถ้าใช่กูได้กลิ่นภัยพิบัติเลย ทำการใหญ่กูว่าใจต้องนิ่งกว่านี้อ่ะ 555

571 Nameless Fanboi Posted ID:CtPrH8MOKi

>>568 meb ดับสะเทือนวงการเยอะนะ แต่บ.ถือหุ้นใหญ่ตอนนี้มันหนักจริงๆ หุ้นลงวูบรอดูเดือนหน้าเปิดห้างได้จะฟื้นทันปีใหม่ได้มั้ยทที่เคาท์ดาวน์ก็จะห้างริมน้ำแย่งสป็อตไปแล้ว

572 Nameless Fanboi Posted ID:H/q+scNAJ8

>>568 นักเขียนแมสๆใครก็ดีลได้ถ้ามึงมีตัง ช่างกล้า รู้จักโปรเปิดตัวป่าว เอาให้ปังไว้ก่อน จะพังตอนไหนค่อยว่ากัน เริ่มต้นดีใช่ว่าจะอยู่รอดกันหมดนะ
>>570 นั่นดิ หัวร้อนง่ายแท้ เพิ่งเปิดตัวก็ออกลายละ

573 Nameless Fanboi Posted ID:H/QlHVRvM.

กูเล่นเฟซเห็นฝนแอดแอปทุกวัน แต่ไม่เคยมีความคิดว่าจะไปลงงานด้วยเลย ไม่มีความน่าสนใจ ดูเงียบๆ ส่วนเรื่องนขดัง เอาจริงมีคนนึงที่กูไม่เรียกว่าดังนะ ส่วนอีกคนก็ดับไปนานแล้วเพราะปากดี

574 Nameless Fanboi Posted ID:E.44v7diwK

>>573 เอาจริงๆ กูคิดๆ ว่าจะลองไปลงกับเขานะ ชอบไอเดียพิมพ์เล่มแบบไม่ต้องสต๊อกเองอ่ะ แต่พอได้ยินแบบนี้รู้สึกลังเล 555

575 Nameless Fanboi Posted ID:65Yi89/jwN

>>570 มึงลองส่องโควทนักเขียนแนววัยรุ่นชื่อคล้ายๆ ผลไม้ในทวิต กูไม่แน่ใจนะว่าอีกคนเจ้าของแอพรึปะ แต่ hint มันบอกน่าจะมีส่วนกับแอพ

576 Nameless Fanboi Posted ID:qyMMF7F+Rt

>>575 จะแอบอวยว่าตัวเองฮอตเหรอ55555

577 Nameless Fanboi Posted ID:E.44v7diwK

>>576 กู 570 กูไม่เกี่ยวไร แต่กูของงได้ไหม 5555 ช่วยอธิบายการแซะนี้หน่อย ทำไมกูตามมุกไม่ทันล่ะ งอง

578 Nameless Fanboi Posted ID:E.44v7diwK

>>575 ติดแสตมป์ให้ผลเบอร์รี่เหรอ กูนึกออกอยู่คนเดียว

579 Nameless Fanboi Posted ID:qyMMF7F+Rt

>>577 ก็นักเขียนชื่อคล้ายผลไม้ เขาโควททวิตคนที่น่าจะเป็นเจ้าของแอพ แล้วบอกว่าถ้าไม่ปังคงโกยนักเขียนฮอตๆ มาร่วมงาน ไม่ได้หรอก มันก็มีเขาด้วยนี่ เลยบอกว่า อ๋อแอบอวยตัวเองฮอต ?

580 Nameless Fanboi Posted ID:ykRNmtFlje

>>579 แต่นางก็ฮอตจริงมั๊ยอะ แนววัยรุ่นนางก็ดังสุดทุกยุคทุกสมัยนะ กุไม่ได้เป็นแฟนคลับแต่ก็เออ ต้องยอมรับอะ 5555

581 Nameless Fanboi Posted ID:qyMMF7F+Rt

>>580 นางมีเรื่องใหม่ๆ บ้างมะ ที่แบบว้าว พัฒนาแล้วงี้อะ

582 Nameless Fanboi Posted ID:Kg4hpdI.Ys

ถ้าวัดความดัง ขายดี ก็ต้องคนนี้แหละ พูดชื่อไม่มีใครไม่รู้จัก ตั้งแต่แจ่มใสเฟื่องฟู จนมายุคนี้

583 Nameless Fanboi Posted ID:65Yi89/jwN

>>580 ฮ็อตก็ฮ็อตไปดิ่ กูก็ไม่ไรเลย แต่เอาความแมสนักเขียนมาอวยแอพซะแบบ นักเขียนปลาเล็กปลาน้อยล่ะ เพิ่งเปิดไม่ใช่เหรอ อะไรๆ ก็ยังไม่เข้าที่ แอพก็ใช้ยากใช้เย็น อีผับต้องทำเอง คนอยากใช้มันก็มีแหละ อยากให้โอกาสแอพเติบโต อยากหาที่ลงงานเพิ่ม ที่คนเค้าเม้าเพราะว่ามันเงียบก็ต้องยอมรับ เอาไปปปรับปรุง

584 Nameless Fanboi Posted ID:2DVgT62ReQ

>>583 กุไม่ได้ไรกะใครนะ แต่สงสัยอะ คือมึงแซะนางเรื่องอวยตัวเองว่าฮ็อต ข้างบนมันเลยบอกว่านางฮ็อตจริงๆ แล้วมันเกี่ยวกับนักเขียนตัวเล็กตัวน้อยยังไง นางก็ไม่ได้แซะนักเขียนคนอื่นนะเท่าที่กุไปส่องมา แล้วคนที่มึงบอกว่าเขาเป็นเจ้าของแอป เขาก็บ่นเรื่องคนไปเม้าว่าแอปจะเจ๊ง เขาไม่ได้บ่นเรื่องที่คนติว่าแอปมันไม่ดีหรือเปล่า 555

585 Nameless Fanboi Posted ID:N1pWluaQX/

กูพึ่งรื้อสต๊อกนิยายแจ่มขายไป เจอเรื่องของนางที่นอ.เคี้ยวถุงยางอนามัยแล้วกูทำใจไม่ได้ สมัยนั้นกูคิดไรอยู่วะถึงสนุกกันนิยายแบบนี้

586 Nameless Fanboi Posted ID:sfK+CSTAmc

>>585 สมัยนั้นก็แบบนี้ ฮิตนิยายอีโมติค่อนและนางเอกบ๊องๆ ตอนอ่านยังเด็กอยู่ด้วยมั้ง ว่าจะรื้อไปขายบ้างเหมือนกัน มีนิยายของแจ่มแปลเกาหลีเก่าๆอยู่หลายเรื่องเลย ตอนนี้ไม่อยากอ่านซํ้าแล้ว

587 Nameless Fanboi Posted ID:N1pWluaQX/

สมัยนั้นยังเด็ก อะไรก็แปลกใหม่สนุกหมดแหละ พอโตขึ้น กลับมาอ่านไม่ได้ละ

588 Nameless Fanboi Posted ID:5km7NuM/qw

กูไม่เคยอ่านผลไม้เลย ในเครือนั้นอ่านแต่ may112 กับแฟนตาซีสถาพร เบียวเหมือนกัน แต่มีเลือดมีเนื้อ ขมวดคิ้วน้อยกว่า

589 Nameless Fanboi Posted ID:N1pWluaQX/

กูยอมรับความเบียวได้นะ ถ้าเป็นแฟนตาซี

590 Nameless Fanboi Posted ID:E0havX59LP

ถ้าแนววัยรุ่นตอนนี้นางเทียบกับนักเขียนนามปากกาดังๆอยู่สองสามนามปากกาไม่ได้แล้ว ยุคของนางมันหมดไปแล้ว แต่เมื่อก่อนก็ดังจริง พูดชื่อไปใครก็ต้องรู้จัก ออกเซ็ตไหนมาคนก็ตามซื้อจนล้นงานหนังสือ

591 Nameless Fanboi Posted ID:zwnW6cpj9/

>>590 สองสามนามปากกาไหน

592 Nameless Fanboi Posted ID:qyMMF7F+Rt

>>591 แนววัยรุ่นก็พวก Theแกะ หรือ บบลล ที่ฮอตกว่าในตอนนี้

593 Nameless Fanboi Posted ID:5km7NuM/qw

>>590 อันนี้กูเคยเห็นเขาโพสต์ทำนองว่ามันไม่มีใครเขียนนิยายให้เด็กๆ อ่านแล้ว แนววัยรุ่นส่วนใหญ่คือขึ้นมหาลัยไปเลย เอากันกระจาย มันควรจะมีแนวบ้าๆ บ๊องๆ ให้เด็กมันอ่านก่อนไปถึงจุดนั้นบ้าง ซึ่งตรงนี้เห็นแล้วแอบนับถือเขานะ แต่หลังๆ เขาก็เปลี่ยนไปเขียนแนวมหาลัยเอากันกระจายเหมือนกัน กูเลยไม่รู้ละ 5555 อีกอย่างผลไม้อีกนิดก็จะขึ้นเลข 4 แล้ว แฟนคลับที่ตามๆ นี่อายุน้อยกว่าเขา 2-3 รอบ age gap อลังการเว่อร์

594 Nameless Fanboi Posted ID:DjU3puRepN

>>593 เอาจริงโคตรเก่งนะกุว่า กุเคยเขียนแนววัยรุ่นแต่ตอนนี้ถ้าเขียนแนวแบบเขากุเขียนไม่ได้แล้ว

595 Nameless Fanboi Posted ID:OeTFN9JYFu

>>592 วัดจากอะไร

596 Nameless Fanboi Posted ID:E.44v7diwK

>>593 มันก็เป็นเสน่ห์ในเวลานั้นเหมือนพวก msn หรือหนังสือแฮร์รี่ พอตเตอร์, สนพ.ผีเสื้อ มั้ง 55+ เดี๋ยวนี้เอาจริงๆ กูไม่แน่ใจว่าคนอายุ 10-18 ที่กูขอนับเป็นวัยรุ่นเขาอ่านหนังสืออะไรกัน กูในวัย 25+ จินตนาการกิจกรรมยามว่างของเด็กๆ ไม่ออกแล้วว่ะ lol

597 Nameless Fanboi Posted ID:E.44v7diwK

>>595 กูเข้าใจนะว่ามึงอาจจะมีมาตรวัดความดังที่ต่างออกไป แต่พอพูดถึงสองชื่อนี้แล้วกูเองเก็ตอ่ะ กูก็รู้จัก แล้วก็คิดว่าเขาดังประมาณนึงแหละ (กูไม่ใช่ 592)

598 Nameless Fanboi Posted ID:iBnCeYY7tL

>>592 ถ้าสองคนนี้กุว่ายังดังไม่ได้ครึ่งนางนะ ดังในโซเชียลบางทีไม่ได้หมายถึงดังวงกว้าง อารมณ์พวกซีรี่ส์วายที่ทั้งแท็กทั้งเทรนด์มีกระแสุดๆ แต่ก็เทียบกับพวกหลักไม่ได้ ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าสองคนนี้ไม่ดัง แต่ถ้าบอกว่าดังกว่าคนนั้นกุว่ายังสู้ไม่ได้

599 Nameless Fanboi Posted ID:E0havX59LP

แนววัยรุ่นผลไม้ก็ต้องดังสุดอยู่แล้ว แต่มันหมดยุคเขาไปแล้วไง ยุคนี้บบลล ลต ดชพ ก็มาแรงสุดมั้ย ถ้าเทียบความดัง สามคนนี้คงไม่ถึงแบบผลไม้ที่ดังมากๆ ในช่วงเวลานั้น แต่เวลานี้มันหมดยุคของผลไม้ไปแล้วอะ เข้าใจยัง

600 Nameless Fanboi Posted ID:BfZwCeNC0U

>>599 หมดยุคคือยังไงละ งานขายไม่ได้ ไม่มีคนอ่านงานแล้ว ไม่มีคนซื้องานแล้ว อย่างนี้ป่ะ แต่งานนางมันยังขายได้ และขายได้ไม่น้อยด้วย ทุกวันนี้สื่อยังสัมภาษณ์นาง ค่ายซื้องานนางไปทำซีรี่ส์ ซึ่งสองสามคนที่มึงพูดถึงยังไม่เคยมาถึงจุดนี้ (ซึ่งคือจุดปัจจุบันของนาง) นะ

601 Nameless Fanboi Posted ID:E0havX59LP

>>600 เรื่องของมึงละกัน มาตรวัดของมึงกับกูก็ไม่เหมือนกันอยู่แล้ว กูดูแต่ท็อปออฟเยียร์ของเมบว่าใครติดท็อปทุกปี อันนี้วัดความมาแรงแบบของกู ส่วนมึงจะวัดยังไงก็เรื่องของมึง

602 Nameless Fanboi Posted ID:JI6Do3siE3

>>601 กุวัดมวลรวม ถ้าจะวัดว่าใครดังกว่า ใครหมดยุค มึงวัดแค่ที่เมบไม่ได้ไง 555

603 Nameless Fanboi Posted ID:VDnxBghXik

>>600 มึงอย่าลืมดิว่าคนละยุค ยุคผลไม้ตอนแรกๆนี่วงการนิยายยังไม่กว้างเท่านี้ คู่แข่งไม่เยอะ ยุคนี้มันกว้างขึ้นและคู่แข่งเพียบ สองสามคนที่ว่าเพิ่งเกิดในยุคนี้อะ จะไปมีฐานเท่าผลไม้ได้ไง มึงจะให้เด็กจบมหาลัยมีทุกอย่างครบเทียบเท่าคนจบปริญญาเหรอวะ แต่ถ้าวัดความปังในช่วงเวลานี้ๆผลไม้ดรอปลงจริง งานขายได้เรื่อยๆ แล้วไงแต่ไม่ปังเท่าเพื่อน ๆ แล้ว ออกงานใหม่คนพูดถึงอยู่แต่ถ้าเทียบเพื่อนๆแจ่มใสด้วยกันยังถูกพูดถึงน้อยกว่าอีก

604 Nameless Fanboi Posted ID:E0havX59LP

>>602 ก็เรื่องของมึงไง 5555 มวลรวมแล้วไง ขายได้ดีมั้ย ในเมบคือมันวัดว่ายอดโหลด ใครติดขายดีมากก็ติดท็อปออฟเยียร์ ส่วนเรื่องมีสื่อไปสัมหรืออะไรก็ตามมันก็แค่นั้น จะบอกว่าวันจากเมบไม่ได้มันก็ไม่ใช่มั้ย ในเมื่อเมบมันก็เป็นอันหนึ่งที่บอกว่าขายดีหรือเปล่า ยอดขายคือมาตรวัดของกู ส่วนของมึงจะเป็นการที่ได้ให้สัมแต่ไม่ติดท็อปออฟเยียร์ในเมบมันก็เรื่องของมึง

605 Nameless Fanboi Posted ID:CJ0w82bL+E

เมบเป็นอย่างหนึ่งที่บอกได้ว่าขายดี แต่ไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง นักเขียนบางคนเขาเน้นขายเล่มมากกว่าอีบุค นักเขียนหลายคนยอดอีบุคไม่ดี แต่ยอดเล่มเป็นหมื่นเป็นแสน กุถึงบอกไงว่ามันต้องวัดมวลรวม กระแสโดยรวม ภาพรวม แต่ถ้ามึงจะวัดจากเมบอย่างเดียวก็ตามนั้นจ้า 555

606 Nameless Fanboi Posted ID:CJ0w82bL+E

>>603 ขณะเดียวกันดาวดวงใหม่เหล่านั้นก็รักษาความดังให้นานเท่านางก่อนนะ นางอยุ่มาทุกยุค นักเขียนรุ่นเดียวกันหายไปตั้งเท่าไหร่ แต่นางก็ยังอยู่ การรักษาความดังไว้มันไม่ง่ายนะ นางได้ขนาดนี้กุว่านางเก่งแล้ว นี่ก็ไม่ได้ชอบนางนะ แต่กุเห็นนางมาตั้งแต่กุเริ่มเขียนนิยาย นักเขียนหลายคนก็มีนางเป็นไอดอล ถึงนิยายนางจะบ้งจะอะไรก็เหอะ

607 Nameless Fanboi Posted ID:.yCD7WPXh4

นักเขียนมาตอบเองหรอคะเนี่ย ปากบอกไม่ชอบนางนะ แต่รู้ทุกสิ่งอย่าง รู้ลึกมาก ต้องเป็นแฟนคลับระดับพรีบั้มครั้งละพันบั้มหรือเปล่าเนี่ยยยยย ถ้าใช่ช่วยไปสะกิดเพื่อนของนักเขียนคนนี้อีกคนหน่อยนะว่ายอมรับความจริงให้ได้ว่ามันหมดยุคของเขาแล้วววววว

608 Nameless Fanboi Posted ID:vV2KYzjps9

>>607 ก็นี่มันมู้นักเขียนมั๊ยมึง กุมาผิดมู้เหรอ 5555

609 Nameless Fanboi Posted ID:91KmQ40pBN

>>608 เอ๋าาา นักเขียนจริงด้วย แต่ไหนบอกว่าไม่ชอบงานนาง ตกลงยังไงแน่ เป็นนักอ่านหรืออะไร งง

610 Nameless Fanboi Posted ID:6d/GTiO9KJ

>>609 เป็นนักเขียนก็เป็นนักอ่านได้นะ 555

611 Nameless Fanboi Posted ID:jHCd4pn6Vj

>>610 จ้ะ สวัสดีค่ะ

612 Nameless Fanboi Posted ID:5km7NuM/qw

กูขอตอบในฐานะผู้สังเกตการณ์ตลาด และไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียใดๆ ละกันนะ แต่ชอบเสือกเรื่องยอดขายชาวบ้านเลยรู้เยอะหน่อย

คือผลไม้เนี่ย การที่นางไม่มีเรื่องป๊อปๆ หรือไม่มีใครหยิบมารีวิวในกลุ่มไม่ได้แปลว่ายอดขายไม่ดีนะ นางมี passive income เยอะมาก นิยายนาง 50 กว่าเรื่องได้รีปริ้นท์ตลอด ซึ่งไอดอลสายทำมือ 2-3 นามปากกาที่ดังๆ เนี่ย ยังมีผลงานไม่ถึง 20% ของนางเลย แล้ว สนพ ส้มสังกัดนางคือยอดพิมพ์แรกให้ 5,000 บางเรื่อง reprint เกิน 10 รอบจาก 50 กว่าปก ไปคูณเอาเองละกัน ผลไม้เสียภาษีปีละเป็นล้าน ซื้อรถซื้อบ้าน คือกุอิจฉาความรวยนางมาก ช่วงฮอตๆ ปีนึงคงไม่ต่ำกว่า 10 ล้าน ไม่เขียนอะไรเลย 5 ปียังได้เงินเยอะกว่ากูอีกมั้ง 5555

นอกนั้นก็มีละครอะไรตั่งต่าง ซึ่งถ้าไม่มีโควิดเนี่ย ปกติผลไม้นางออกทัวร์เมืองนอกทุกปีนะ นางมีแฟนคลับลาวเยอะมาก ช่วงที่ผ่านมาก็มีคนกัมพูชาขโมยหนังสือนางไปแปลจนเป็นข่าวดัง คือกุก็เห็นแหละว่า 2-3 นามปากกาสายทำมืออะฮอตจริง รีวิวเพียบ ถูกพูดถึงเยอะ แต่กูว่าฮอตเฉพาะกลุ่ม เอาจริงแล้วพอไปเทียบกับสายวายก็คือไม่ใช่ตัวท็อปของรุ่นด้วยซ้ำ นึกถึงรุ่นเดียวกันแบบ จตร ที่เขียนคั่นกูอะ อันนั้นคือฮอตจริง เปรียบเทียบกับผลไม้แล้ว rank เดียวกัน ซึ่งทุกคนถูกปั้นโดย js สายทำมืออย่างดีเปิดพรีครั้งนึงก็ได้มากสุด 3,000 ชุดเองมั้ง ต่อให้มีอีบุ๊กอะไรอีกก็ยังสู้ไม่ได้ พวกแมสๆ เขาพิมพ์กันเป็นหมื่นเป็นแสน

btw ไม่พูดถึงคุณภาพงานอะไรนะ เอาความดังและยอดขายล้วนๆ

613 Nameless Fanboi Posted ID:ww7RYSyhyP

กุงงว่าจะจริงจังกับการกดว่านักเขียนคนนี้ตกยุคไปทำไม เหมือนเหม็นนางมากอะ ตลกดี 55

614 Nameless Fanboi Posted ID:UJQxwL6h6g

>>612 ถ้าตกยุคได้ขนาดนี้ กุขอตกยุคด้วยคนได้มั๊ย

615 Nameless Fanboi Posted ID:mgxaBSlR5e

กูเห็นคนโพสต์ภาพทวิตเด็กๆ เชื่อว่าผู้ชายท้องได้แล้วบั่บไปต่อไม่ถูกเลย มุแง้

616 Nameless Fanboi Posted ID:yyRM9IWQjp

>>615 หลายเดือนก่อนในติ๊กต๊อกยังมีเด็กเชื่อเลยว่ากินน้ำของผู้ชายแล้วจะท้อง 555 น้ำของผู้ชายคือกินแล้วมันลงกระเพาะย่อยไปหมดไม่ใช่หรอวะ หรือในรรไม่สอนเพศศึกษาแล้ว

617 Nameless Fanboi Posted ID:yyRM9IWQjp

ตอนโตมันจะรู้ความจริงไปเองป่าววะ ตอนกูเด็กๆ กูก็เคยเชื่อไอ้เรื่องที่มันเหนือจริงนะ แบบเพื่อนว่าอะไรมากูก็โง่เชื่อตามงี้ แต่พอโตก็เบิกเนตรว่ามันไม่ใช่เลยว้อย

618 Nameless Fanboi Posted ID:0h.I0CWe1n

น่าเศร้านะ มันควรเป็นเรื่องที่สอนกันในโรงเรียนเพื่อให้เข้าใจได้ถูกตั้งแต่ตอนอายุยังน้อยแท้ๆ ควรตั้งคำถามกับการศึกษาได้แล้วว่ามันดีกว่านี้ได้ไหม และได้อย่างไร

แต่ก็นั่นแหละ ประเทศไทยคงต้องเคลียร์อีกพันล้านเรื่องกว่าจะถึงการศึกษา

619 Nameless Fanboi Posted ID:0h.I0CWe1n

>>612 ฝีมือส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งกูว่าจังหวะเวลา โอกาส การตัดสินใจเลือกทางชีวิต มีผลชิบหาย

620 Nameless Fanboi Posted ID:0h.I0CWe1n

>>605 กูเห็นด้วยกับมึงนะ ถ้าออกกับสนพ ตีพิมพ์สองครั้งก็ 3,000 เล่มแล้ว ขายอีบุ๊คส์ได้อีกราวๆ 1,000-2,000 เล่ม รวมแล้วก็ 5,000+ เล่ม ถ้าเป็นสายทำมือจำนวนเล่มเท่านี้ยอดเมบจะปังปุมาก ติดชาร์ต รีวิวเพียบ แต่พอแชร์ไปเป็นเล่มซะเยอะมันก็จะกร่อยๆ หน่อย เท่าที่กูเคยรู้มายอดขายในช่วงหนึ่งปีแรก 5,000 เล่มก็จัดเข้าระดับท๊อปออฟเยียร์แน่นอนแล้ว พวกในตำนานทั้งหลายก็น่าจะได้ประมาณนี้ แต่เพราะมันแบ่งเค้กไปทางเล่มอย่างที่บอก ดังนั้นจะวัดจากเมบอย่างเดียวกูว่าอันนี้ทางใจอ่ะได้ 555

621 Nameless Fanboi Posted ID:fxCZnGjtDp

>>612 ผลไม้คือใครอ่ะ ใครก็ได้สงเคราะห์กูหน่อย55555

622 Nameless Fanboi Posted ID:mgxaBSlR5e

>>621 นักเขียนดังแจ่ม สตบร

623 Nameless Fanboi Posted ID:Iv4Qn8VIYr

>>620 ใช่มึง เมบมันก็เป็นช่องทางนึงแต่ไม่ใช่ว่าปังที่นี่จะดังที่สุด ไม่ปังที่นี่คือตกยุคไปแล้ว ไม่งั้นนักเขียนสายเสียวยอดโหลดเป็นหมื่นนี่ไม่เรียกว่าดังคับฟ้าระดับชั้นครูไปแล้วเหรอ 555

624 Nameless Fanboi Posted ID:fxCZnGjtDp

>>622 ขอบคุณมาก นึกออกแล้ว 5555

625 Nameless Fanboi Posted ID:wxz2L/eoGJ

สมัยนี้พิมพ์ครั้งแรกยังได้ห้าพันเล่มอยู่เหรอวะ เห็นหลายๆสนพ.เขาปรับกันเหลือ2-3พันเล่มเองนะ วิกฤตซบเซาเรื่อบๆอะแบบเล่ม

626 Nameless Fanboi Posted ID:vkH+lkJQA+

แจ่มแม่งทิ้งแนวนนี้แล้ว อยากไปสายวายเต็มตัวจัด ทีแต่ก่อนออกมาห้าม ฮดก.เขียนวาย กลืนน้ำลอยตัวเองอร่อยมั้ย

627 Nameless Fanboi Posted ID:mw60XanEbc

>>625 ค่ายนี้เขาพิมพ์เยอะกว่าค่ายอื่นมาแต่ไหนแต่ไร

628 Nameless Fanboi Posted ID:pHb2wEh+eW

เมื่อก่อนมีนขมชื่อ สมองตีบตันไรสักอย่างที่นำเทรนนิยสยบนเตียง เค้าเปลี่ยนนามปากกาหรือเลิกเขียนแล้ววะ ใครรู้มั่ง

629 Nameless Fanboi Posted ID:nhMAOj2tSw

>>625 ไม่ๆ พิมพ์ครั้งแรก 2,000 เล่ม พิมพ์ครั้งที่สองเพิ่มอีก 1,000 เล่ม แล้วก็ขายอีบุ๊คส์ได้อีก 1,000-2,000 เล่ม รวมเป็นยอดขายในปีแรกที่นิยายออก เทียบเท่ากับยอดเมบอย่างเดียวของนิยายสายทำมือไง

630 Nameless Fanboi Posted ID:0ZFpKTiGxw

Ky กูขอเสือกหน่อย เวลาออริเอาอิมเมจศิลปินมาใช้โดนหนัก แต่นิยายชญที่ใช้เมจศิลปินไม่โดน นักเขียนชญบอกใช้เพื่อประกอบเฉยๆ พวกคนดังบางคนใช้เกลื่อนจนทำตามกันเหมือนเรื่องปรกติ บางคู่เป็นคู่จิ้นไอดอลชญ คู่จิ้นนักแสดงชญ ดังๆ ไม่คิดว่าคนที่มาอ่านคือชิปชญ อ่านแล้วจิ้นเป็นคู่นั้นเหรอ ? นักเขียน (บางคน) กล้าพูดเต็มปากมั้ยว่าไม่ได้หวังผลจากอิมเมจ ทำไมไม่ให้นิยายขายตัวเอง นิยายออนไลน์ประเทศอื่นมีมั้ยที่ใช้อิมเมจดารา? แล้วบางเรื่องบทพระเอกก็ต่ำตม แต่กูต้องมาจิ้นหน้านักแสดง (แบบ ซจ. อป.)

คือถ้าจะโดน ทำไมโดนแค่ฝั่งวาย คนอ่านชญ ไม่สนใจ? ยังไงก็ละเมิดรูปหมดเพราะรูปที่ใช้ก็กูเกิล พินเทอเรส เออ แต่กูเห็นเรื่องนึงนักเขียนเทคแอคชั่น ออกมาขอโทษที่เอาเมจพระเอกจีนแปะในนิยายชญตัวเอง มีแฟนคลับทักถึงออกมา ก็ยังดี มีนักเขียนเข้าใจอยู่คนนึง

แล้วรูปในพิน เมื่อไรนักเขียน (not all) จะรู้ซะทีว่ามันเป็นเวบดูดภาพ ไม่ใช่ให้มึงเอามาใช้ฟรีๆ ว้อยยย

631 Nameless Fanboi Posted ID:vkH+lkJQA+

>>630 เอาจริงๆ นะ นิยายชญ ไม่ค่อยมีตามไปอ่านเพราะชิปหรอกนะ ถึงอา ณด กับ ยย มาใช้ ก็ไม่มีใครไปหวีดเลย แต่ในขณะที่วายเยอะมากที่มันเอามาใช้ไง

แต่ใช่มันผิดหมดแหละ แต่ๆๆๆๆ ยืนยันว่าฝั่ง ชญ มันไม่มีใครเห็นภาพ ยย กับ ณด แล้วเข้าไปหวีดคู่จิ้น

632 Nameless Fanboi Posted ID:1H+mbLelKa

>>631 บวกให้อีกเสียง ไม่มีใครเขาจิ้นกันหรอก ส่วนเหตุผลก็คงเป็นเห็นคนใช้ ๆ กันแล้วคิดว่าใช้ได้ ก็เลยใช้ตามกันมานั่นแหละ
(เอาจริง ๆ สมัยก่อนนี่กูเห็นเกลื่อนมาก เกือบทุกเรื่องในเว็บต้องมีอิมเมจตลค. ตอนนั้นกุยังเด็ก ๆ ก็คิดว่าเป็นเรื่องปกติมั้ง โตมาค่อยรู้ว่ามันไม่ควร) ถ้าเห็นก็เตือน ๆ กันก็แล้วกัน ใครปิดหูปิดตาไม่รับฟังก็อีกเรื่องนึง

633 Nameless Fanboi Posted ID:uNrVHN7iIv

>>629 อ้อ นับงี้นี่เอง
>>631 +1 เหมือนแค่แปะรูปให้รู้ว่าสวยหล่อประมาณนี้ แต่ตอนอ่านคือไม่ได้นึกถึงหน้าเลยเพราะบรรรยายอะไรมันไม่บ่งชี้ชัดอะว่ายืมเมจ เป็นคนละคนไปเลย แต่พวกวายนี่คือเอาคู้จิ้นมาส่วนใหญ่ อ่านไปก็นึกหน้าคู่จิ้นนั้นออกมากกว่าตลค.ในนิยายซะอีก ต่อให้ไม่จั่วว่าฟิคแต่พอเปิดมาเจอรูปคู่จิ้นมันก็เหมือนตีตราไว้ละว่ากึ่งฟิค

634 Nameless Fanboi Posted ID:5bw4W4Tp3X

ถ้าพูดถึงเนื่องใช้เมจ ยืมรูป แปะรูป กุว่ามันเลี่ยงไม่ได้ที่จะพูดถึงแฟนฟิค เพราะเอาจริงๆ ถอดคำว่าแฟนฟิคออกก็เป็นเรื่องแต่งที่ใช้เมจจากศิลปินเหมือนกัน แฟคฟิคจะหนักกว่าด้วยเพราะใช้ข้อมูล+ชื่อมาจากตัวศิลปินเลยด้วยซ้ำ แต่ส่วนใหญ่มองว่าทำเพราะรัก ค่ายปิดตาข้างนึง มันเป็นวัฒนธรรม และได้เงินไม่เยอะ บลาๆ แต่ถ้าว่าถูกว่าผิด ได้เงินมากเงินน้อยก็ไม่ใช่สิ่งที่จะมองข้าม บางทีแฟนฟิคบางเรื่องขายได้หลักแสนหลักล้าน เยอะกว่าพวกออริไปอีก 555

635 Nameless Fanboi Posted ID:paazchhhn/

>>630 เคยเห็นเรื่องสั้นนิยายสั้นเล่มบางๆ ปกดาราไทยมั้ย ที่เล่มขนาดศาลาคนเศร้าขายแถวท่ารถต่างจังหวัด พวกนั้นไม่ต่างกันเอารูปดารามาเป็นปกเรื่องข้างในไม่เกี่ยวกันเลยมีสมัยรุ่นแม่กูยังสาวๆ แล้ว ไม่เคยมีใครเอาเรื่อง พวกนักเขียนที่มาจากภูมิภาคเห็นแบบนั้นก็คิดว่าทำได้ ทำตาม คนอื่นๆ รุ่นใหม่ๆ เห็นก็ทำตาม มันผิดที่เจ้าของพื้นที่ไม่จริงจัง ต้องสาปแช่งให้มีฟ้องเจ้าของเว็บสักสองสามคดีเดี๋ยวพวกนี้ก็หายหมดได้เองแบบเว็บพันทิพที่เจ้าของเจอหลายคดีจากนั้นแบนไอดีที่ทำผิดหมดเพราะเจ้าของเว็บขี้เกียจเดินทางไปโรงพักทั่วไทยแล้ว

636 Nameless Fanboi Posted ID:+EA+pg86Pq

Ky กูแต่งนิยายมาสามสี่เรื่องละ ภายในสองปีได้ แรกๆ ก็ลงฟรีจนจบ มีคนมาอ่านพอใช้ได้ ทีนี้กูอยากวัดผล ลองติดเหรียญดู งืดดด~ ยอดสัสหมามาก กูเลยนอยสัสหมาไปเลย สรุป ฝีมือกูไม่ได้ดีอะไร ที่เขาเข้ามาอ่านๆ กันแรกๆ เพราะว่ามันฟรี อีดอก เฮ้อ~

637 Nameless Fanboi Posted ID:wypj8Qqo+9

>>636 สู้ต่อไปมึง บางคนฟรีเขาก็ไม่อ่านก็มี อย่าคิดมาก นักอ่านต้องแดกข้าวเหมือนกัน แล้วมึงดูทุกวันนี้ 5555 กูจะขูดผนังห้องมาชงน้ำแดกแล้วจ้า

638 Nameless Fanboi Posted ID:pHb2wEh+eW

>>636 มึงลองติดแบบอ่านล่วงหน้าดู มีคนบอกว่าเวริ์คกว่าแบบติดเหรียญรวดเดียว

639 Nameless Fanboi Posted ID:PCjdiwAnCk

กูขอ ky ถามเรื่องโรงพิมพ์หน่อย ฟาสบุครับพิมพ์งานเรทไหมวะ กูจำได้ว่าเคยคุยกับเพื่อนไม่ก็โม่งเมื่อนานมาแล้วว่าฟาสไม่รับงานติดเรท แต่ตอนนี้พอลองเสิร์ชดูก็ไม่เจอใครพูดถึงเลยเริ่มไม่ชัวร์ว่าจำถูกมั้ย

640 Nameless Fanboi Posted ID:Q3Q222hD4c

มึง สนพ.ถ้าผ่านพิแล้วกว่าเล่มเราจะได้วางขายนี่ประมาณกี่เดือนวะ นานมากมั้ย

641 Nameless Fanboi Posted ID:Sz7qJg7Ac1

>>640 มึงน่าจะต้องถามสนพโดยตรงนะโม่ง แต่ละที่ไม่เหมือนกัน หลายปัจจัย แต่เค้าอาจจะอยากให้เรื่องของมึงออกงานหนังสือก็ได้นะ

642 Nameless Fanboi Posted ID:wJPjl3u2m8

>>641 กูยังเขียนเรื่องไม่จบเลย แค่อยากจะมาถามปสก.เพื่อนโม่งฟังไว้เฉย ๆ 55555

643 Nameless Fanboi Posted ID:aSJpSlk+eN

>>636 พอกันเลย อดคิดดูถูกตัวเองไม่ได้จริงๆ พอติดเหรียญยอดนี่ดิ่งลงเหว >>638 ติดอ่านล่วงหน้าไม่กี่วันก็เจอสายฟรี สรุปทำใจ T^T

644 Nameless Fanboi Posted ID:3ZzREwqDHC

>>643 เขียนล่วงหน้าไว้เยอะๆเลยมึง ลงชิมลางสักสิบตอนที่เหลือติดอ่านล่วงหน้าไล่ไปเรื่อยๆ เรื่องสายฟรีกูคงช่วยอะไรไม่ได้ แต่ถ้าของมึงดีจริงมันต้องมีคนเปย์บ้างแหละ

645 Nameless Fanboi Posted ID:XAVaaYwXqa

>>639 f ไม่ i รับ

646 Nameless Fanboi Posted ID:1kcKQ8Yl./

Ky โม่ง กูข้องใจอย่างนึง สมมุติมึงใช้การดำเนินเรื่องมุมมองบุรุษที่ 3 ทั้งเรื่อง เช่น นายเอ นางบี ควรใช้ ของเขา ไม่ใช่ ของเรา ปล่าววะ
กูอ่านงานนักเขียนเก่าก็ใช้ของเขา ของทั้งคู่ เพราะคนเขียนมองด้วยแว่นของคนภายนอก
แต่กูเห็นนักเขียนใหม่ๆ บางคนทำไมใช้ของเรา คือบรรยายมาดี ๆ ยกตัวอย่างนะ...
'ความรักระหว่างบีและเอค่อย ๆ พังลงเพราะความไม่ลงรอยกัน เหมือนความรักของเขากำลังจะถึงทางตันในอีกไม่ช้า'
แต่มือใหม่ใช้ 'ความรักระหว่างบีและเอค่อย ๆ พังลงเพราะความไม่ลงรอยกัน เหมือนความรักของเรากำลังจะถึงทางตันในอีกไม่ช้า'
แบบนี้อะ อันไหนถูกต้องวะมึง

647 Nameless Fanboi Posted ID:8JV0/CE.zR

>>646 ของเขาสิ กูเคยติงนักเขียนไปเหมือนกัน ใช้ของเราในบริบทที่มันไม่ใช่ ไม่รู้งานใหม่ๆ เป็นมั้ย ไม่ได้ตามอ่านอีก แต่คือตอนอ่านมันสะดุด เปลี่ยนเป็นมุมที่ 1 แล้วคนก็ไลค์คอมเม้นท์กูกัน หวังว่าจะปรับปรุงนะ เวลาใช้คำว่าของเรา ถ้าบรรยายมุม 3 ยังไงคำว่าของเราก็ไม่น่าจะมีในคำบรรยายเลย อย่างมากก็มีในบทพูดอะ นักเขียนใหม่ๆ มันหาทำจังวะ กูว่าเพราะอ่านน้อยด้วย แต่เวลามันอ่านทวนไม่สะดุดใจบ้างสักหน่อยหรา

648 Nameless Fanboi Posted ID:987OtHDs6D

>>646 กุงงเหมือนกัน เพราะถ้าเป็นกุจะใช้ ‘ความรักของพวกเขา’ 55555

649 Nameless Fanboi Posted ID:wj1wtHvSwV

>>648 กูเห็นด้วย

650 Nameless Fanboi Posted ID:1kcKQ8Yl./

>>647 เออ กูอ่านแล้วก็สะดุดตาทุกที กูเจอหลายเรื่อง ส่วนใหญ่จะนักเขียนมือใหม่ แต่งนิยายดี สนุกนะ แต่เจอคำว่าของเราปุ๊บกูเงิบเลย นึกว่าปัจจุบันเปลี่ยนการใช้คำใหม่ (กูชอบศึกษางานจากนักเขียนเก่าๆ ไง) ใช่มะ กูก็ว่าบริบทแบบมุมมองที่ 3 ควรเป็น ของเขา ของพวกเขา มากกว่า สงสัยนักเขียนจะติดมาเวลาเขียนนิยายหวานแหววมุมที่ 1 ละมั้งวะ

651 Nameless Fanboi Posted ID:U+H+6/sFes

>>646 อ้าว แนวชญมีแบบนี้ด้วยเหรอ กูเจอแต่ของวายบ่อยๆ แทบจะปิดหน้านิยายไม่ทัน ใครใช้แค่นี้ไม่ถูกกูถือว่าพลาดอย่างแรง คืออยู่ๆจะมาเปลี่ยนมุมมองแบบนี้สะดุดมากๆอะ

652 Nameless Fanboi Posted ID:yLCyQ9Cik/

>>650 กุก็นักเขียนไม่เก่านะ แต่ไม่คิดจะใช้ ของเรา เลย เคยเจอเหมือนกันแล้วกุเหวอมาก ในเล่มนักเขียนรุ่นไม่ใหม่ด้วย 555

653 Nameless Fanboi Posted ID:qeBIa9Tln4

ทำไมในกลุ่มนักเขียนมีแต่พวกเพี้ยนๆ ถามคำถามโง่ๆ น่ารำคาญวะ

1. ถามอะไรควายๆ แบบควายเกินไป พระเอกนางเอกทำอาชีพอะไรดี เจอกันยังไง ทะเลาะกันแล้วยังไงต่อ จะกลับมารักกันได้ไหม ทำแบบนั้นแบบนี้ได้ไหม

2. ขอชื่อพระเอกนางเอก ขอให้ช่วยตั้งชื่อเรื่อง/นามปากกา

3. เอายอดวิว ยอดเหรียญ​น้อยๆ มาโชว์ แล้วก็พล่ามๆในแนวให้กำลังใจตัวเอง / เอายอดสูงๆ มาอวด แนวให้กำลังใจคนอื่น

4. ถามแบบไร้การศึกษา โลกแคบ​ เหมือนชีวิตนี้เคยอ่านหนังสือมา 3-4 เล่ม แล้วก็อยากเป็นนักเขียนเลย

654 Nameless Fanboi Posted ID:1kcKQ8Yl./

>>651 ชญมี 2-3 เรื่องที่กูอ่านแล้วกูก็เลยเอ๊ะ ต้องมาถามโม่งก่อน เผื่อเป็นเทรนด์ 555

>>653 เชิญมู้นี้ดีกว่ามั้งมึง https://fanboi.ch/netwatch/11892/recent/

655 Nameless Fanboi Posted ID:tPa2LK5thA

>>653 ไปมู้ว่าด้วยสารพัดกรุ๊ปนักเขียนกันมึง กูก็อยากเม้า

656 Nameless Fanboi Posted ID:Pzkeh4q.Cf

กุอยากรู้ว่าตอนนี้สังคมนักอ่านชญ.เขาเปิดรับ Lgbtq กันมากแค่ไหนวะ ถ้ากุเขียนเรื่องชญ.แล้วดันมีคู่รองเป็นชช/ญญ นี่จะมีโอกาสที่นักอ่าน (ที่ไม่ชอบรักร่วมเพศ) เขาจะอยากเทขึ้นมาทันทีบ้างมั้ย หรือว่ากูควรเลี่ยงไม่เขียนคู่รองไปเลยให้มันจบ ๆ

657 Nameless Fanboi Posted ID:9S1MQelLum

>>656 เขียนได้แต่อย่าเด่นเกินคู่หลัก (จริงๆ ไม่ว่าคู่รองจะเป็นชช ญญ หรือชญ ก็อย่าเด่นเกินคู่หลัก) กุว่านักอ่านเปิดรับ LGBT ยิ่งกว่านางเอกไม่ซิงอีก 555

658 Nameless Fanboi Posted ID:8JV0/CE.zR

>>656 ส่วนใหญ่จะไม่โอที่คุ๋หลักมันเด่นเกิน คู่รองถ้าไม่เด่นมากจะเป็นไงก็ได้นะ ชช ญญ ไม่สนด้วยว่าคู่รองฝั่งหญิงซิงไม่ซิง

659 Nameless Fanboi Posted ID:YhZI4gxGW/

>>656 กูว่าเขียนได้ แต่ไม่ควรลงรายละเอียดถึงขั้นมี NC ให้คู่รอง กลับกันนิยายวายก็ไม่ลงฉาก NC ให้คู่ ชญ เหมือนกัน

660 Nameless Fanboi Posted ID:Mkd6+qCC/t

>>657 กูลั่น จริงมาก ความซิงของนางเอกนี่เรียกได้ว่าพรีเมี่ยมเลี่ยมทอง ใครแตะตรงนี้เกิดลำบากเลยล่ะ

661 Nameless Fanboi Posted ID:n7.e79bEQD

>>660 มีนะเว้ย เกิดได้ แต่ก็ต้องเลี้ยวอ้อม เช่น มีเรื่องนึงร่างนางเอกเป็นเจ้าของฮาเร็มเลย แต่ตายวิญญาณนางเอกมาเข้าร่าง ก็คือถ้าวิญญาณข้างในยังซิง แม้ร่างกายจะโบ๋ๆๆ ขนาดไหนก็เห็นรับกันได้

662 Nameless Fanboi Posted ID:RRznOssxb4

>>660 โอ้ย อาจจะผิดห้องนิดนึงนะ
แต่อยากเสริม กุเขียนทั้งนอมอลทั้งวาย กุยังเคยโดนด่าเรื่องความซิงของนายเอกเลย หลังจากนั้นกูไม่เคยเขียนนางเอก/นายเอกซิงอีกเลยยย แน่จริงก็ตามมาด่านะเคอะ

663 Nameless Fanboi Posted ID:hTB/M2.WnR

>>662 กูก็เคยโดน ดีทุกอย่าง นักอ่านติข้อเดียว เสียดายนางเอกไม่ซิง พระเอกเหี้ยไม่ว่า มีอะไรกับคนอื่นไม่ผิด แต่นางเอกรึนายเอกไม่ซิงคือบาปพอๆ กับทำพส.ห้อเลือด รับไม่ได้

เข้าใจว่ามีคนชอบซิง บางอารมณ์กูก็อยากอ่านแนวเป็นคนแรกของเธอเหมือนกัน แต่พวกชอบซิงแล้วมาเม้นติตัวละครคนอื่นว่าทำไมไม่ซิงง่ะ ถ้าซิงตามอ่านไปแล้ว เสียดายๆ อันนี้หงุดหงิด คิดในใจได้ เม้าท์ได้ ไม่อ่านได้ แค่อย่าเม้นแบบนี้ในนิยายกูก็พอ หงิดดด555555

664 Nameless Fanboi Posted ID:d3Xzok1MNK

>>663 เขาไม่ชอบ และมึงต้องรับรู้ด้วยแน่นอน ทำใจนะ 5555

665 Nameless Fanboi Posted ID:cWwS8BDE7L

>>656 งานกูที่เจอกับตัวเอง ถ้าเป็นคู่ ชช รับได้กันอวยจิ้นอยากได้แบบนี้แบบนั้น พอเป็นคู่ ญญ จะเจอสาววายมายี๋ใส่ทันที คำเหยียดพ่นมาเต็ม อย่าง ญญเอากันยังไง ญญ เอากันฟินสู้ ช ช ไม่ได้ ญญ เอากันไม่ลง ญ จะทำอะไรได้เก่งเกินไปแล้ว กูสารภาพกูเพลียสาววายว่ะโคตรบูชาxวยจนกูเปลี่ยนเป็นสายเฟมินิสเพราะเจอพวกนี้บูลลี่ พอเห็นพวกคอลัมน์บอกยาโอยหนุน lgbt กูจะอ้วก หนุนแต่เพศมีxวยอะใช่ พอเป็นตัวละครหญิงหรือผู้หญิงสาปแช่งส่งจนกูสงสัยมันไม่มีxีเหรอวะถึงเกลียดเพศตัวเองได้ขนาดนั้น

666 Nameless Fanboi Posted ID:eIFxb9/psQ

>>665 มึงงงง กูขนลุกท่อน ญญ ไม่ฟินเท่าชช พวกมึงคิดอะไรกันไปได้ ยิ่งพวกเรื่องแนวข่มขืน ฝ่ายรับมันจะเอาอะไรไปฟินวะ ตูดฉีกตายห่าน ที่ฟินมีแต่พวกแม่ยกนั่นแหละ อ่านไปจิ้นไป แม่งไม่ได้ต่างอะไรจากโดจิน

667 Nameless Fanboi Posted ID:s1ulHkqP7k

สาววายเป็นสิ่งมีชีวิตที่โคตรย้อนแย้ง ไม่ซิงก็ไม่โอ ล่ำไปก็ไม่โอ หุ่นไม่อุดมคติก็ไม่โอ เก็บคำว่าสนับสนุน lgbt และความหลากหลายกลับเข้ารูที่พ่นออกมาเถอะนะ

668 Nameless Fanboi Posted ID:MyU39/G1XX

มึง กูถามนิด ปกติแล้วถ้ามึงลงงานเขียน แล้วไม่ได้อยากได้คำวิจารณ์ คือเขียนไปเพื่อความสนุก แล้วมีคนมาวิจารณ์จุดบ้งๆ ของตัวเอง หัวเราะกันสนุกสนาน .... พวกเอ็งรับมือกันยังไง

669 Nameless Fanboi Posted ID:qPUPtg7lv7

>>668 เรื่องไหนข้าไม่อยากได้ ข้าปิด comment เลย เอ็งจะเอาแบบข้าเปล่าล่ะ 55555

670 Nameless Fanboi Posted ID:aTiwynsFF8

>>668 กอดนะมึง กูเข้าใจสัสๆ คือกูคิดว่าถ้าเราอยากได้คอมเมนท์ดี เราก็คงต้องทนคอมเมนท์ด่าด้วย แต่วิธีแก้ของกูอาจจะไม่ดีเท่าไหร่นะ คือกูไม่แคร์ 555 ไม่แคร์ที่แปลว่าแก้เท่าที่กูพอใจ กูอยากเขียนสำนวนแบบนี้ ใช้คำแบบนี้ พล๊อตแบบนี้ มันก็เรื่องของกู เพราะกูแค่ลงเอาสนุกไม่ได้อยากขาย ถ้าจะเหลือแค่คนที่ชอบแบบเดียวกันจริงๆก็โอเค ประมาณนี้ 555

671 Nameless Fanboi Posted ID:aTiwynsFF8

แต่ทางที่ดีมึงก็อย่าไปตอบโต้เขาเลย ไปแสดงตัวว่ารับทราบก็พอ ทราบแล้วไม่เปลี่ยนก็ได้ คนที่เขาสติดีๆเขาจะเก็ตเองว่าอิพวกหัวเราะมึงมันก็บ้ง แล้วเขาจะนับถือมึงที่ใจเย็น

672 Nameless Fanboi Posted ID:MyU39/G1XX

คือกูไม่ได้เอาลงออนไลน์อะดิ เขียนในกลุ่มปิดเหมือนเป็นร่างแรกไรงี้ แล้วมาเห็นคอมเม้นในแชทกลุ่มที่พูดถึงงานเขียนกูอะ มันเลยแบบเข้าไปอ่านแล้วมันเฟลมากเลย

673 Nameless Fanboi Posted ID:eIFxb9/psQ

>>672 กลุ่มปิดนี่เค้าไว้แชร์นิยายแล้ววิจารณ์ได้ด้วยใช่ป่าว หรือให้แชร์กันไว้อ่านขำๆอย่างเดียวอะ ถ้ามึงอยากลงนิยายแบบไม่ต้องการคอมเม้น มึงลงออนไลน์แบบปิดเม้นไปเลยก็ได้ ไม่ต้องลงในกลุ่มเพราะยังไงมึงก็ห้ามคนเม้นไม่ได้

674 Nameless Fanboi Posted ID:6E3A.nF9VZ

>>672 อย่างที่บอกเองว่าเขียนเพื่อความสนุกไม่ได้ต้องการคำวิจารณ์งั้นลงกลุ่มปิดก็ผิดวัตถุประสงค์แล้วเอ็ง ทำอย่างที่ >>669 บอกเลย ลงแต่ปิดรับคอมเมนต์ หรือถ้าเป้าหมายคือเขียนไปเพื่อความสนุก แค่เอ็งเขียนก็บรรลุเป้าแล้วไม่ต้องลงก็ได้ เดือดร้อนตัวเองเปล่าๆ

675 Nameless Fanboi Posted ID:9nENdfi94N

ยอดพรีนิยายกูเหี้ยมาก 1 เล่มถ้วน เปิดมาได้เกือบเดือนละ แล้วเห็นแต่คนอื่นมาโพสต์ว่ายอดถึงเป้า บลาๆๆ เห็นหลายนามปากกาเลย กูเลยน้อยเนื้อต่ำใจซึ่งไม่ควรเลย หรือกูตามแต่นามปากกาดังก็ไม่รู้สินะ ; ; แย่จังๆ ท้อจนอยากจะล้มเลิกแม่งเป็นแบบนี้เอง

676 Nameless Fanboi Posted ID:EBTwYwt2lI

>>675 โห ยอด fav มึงเท่าไหร่วะ ก่อนเปิดไม่ได้เซอร์เวย์เหรอ ปกติถึงน้อยกูก็เห็น 20-30 เล่ม เป็นกำลังใจให้ละกัน อาจจะขายแพงไปรึป่าว ลองปรับๆ ราคาดูนะ

677 Nameless Fanboi Posted ID:Ix9blVdwj9

>>675 //กระโดดกอดแบบขาเกี่ยวเอวมึงเลย
อ่ะมา ยอดพรีเล่มกูครั้งแรก 2 เล่มถ้วน กูเขียนนิยายรักน้ำดี(คิดเอง)​จบที่บอกรักไม่มีกอดจูบ​ลูบคลำ 2 เล่มก็ 2 เล่มวะกูก็พิมพ์ เรื่องล่าสุดกูชิมลางเขียนแนวตบหน้าแก้ปัญหา​บนเตียงแบบตอนเว้นตอนยอดอีบุ๊​คแตะพันเป็นครั้งแรก ทำเงินให้กูกลับไปเขียนแนวใสๆได้อีกพักใหญ่
ทั้งหมดทั้งมวล​ที่อยากบอกคือมึงอย่าเพิ่งท้อ 1 เล่มที่คนจองคือมีคนอยากได้นิยายมึงถึงยอมควักจ่ายท่ามกลางศธก.แบบนี้และนิยายล้นตลาด ถ้ามึงยังมีความสุข​กับงานเขียน​มึงก็เขียนต่อ เหนื่อยหรือเบื่อก็พัก

678 Nameless Fanboi Posted ID:9nENdfi94N

>>676 กูว่าเซอเวมันไม่ช่วย เจอมานักต่อนักที่เซอเวลม แล้วพอพรีจริงแล้ว อ่าวเฮ้ยไม่เหมือนที่คุยกันไว้อะ กูเลยตายเอาดาบหน้า (เออตายจริงๆ)
>>677 น้ำตาแทบไหล นึกว่ากูเป็นอีเรียมไม่เจียมตัวอยู่คนเดียวบนโลก แล้วยอด 1 เล่มคนนั้น โอนผ่านหน้าเคาน์เตอร์ธนาคารด้วยนะมึง กูอยากกราบตีนเขาจริงๆ 555 เออ พอคิดว่าเขาอุส่าดั้นด้นฝ่าดงซอมบี้ไปโอนเงินให้กูแบบนี้ แล้วกูยกเลิกไป ขอคืนเงินเขาคงดสียเหงื่อกับการรอคิวธนาคารฟรี อีดอก ธนาคารช่วงล็อกดาวน์ไม่ใช่ได้คิวง่ายๆ ด้วย

679 Nameless Fanboi Posted ID:a9R.4eZlZ0

>>678 ลองทำอีบุ๊คเพิ่มด้วยมั้ย หลังๆกูในฐานะนักอ่านเก็บเล่มแค่นิยายแปลอะ(เพราะไม่ค่อยมีอีบุ๊ค) นิยายไทยซื้ออีบุ๊คเอาหมดยกเว้นนขไม่ทำอีบุ๊คจริงๆ เป็นกำลังใจให้นะ

680 Nameless Fanboi Posted ID:MmMFIMN/Uo

>>675 แอบๆใบ้หน่อย กูจะไปอ่าน

681 Nameless Fanboi Posted ID:uuVp9odKhu

เอาจิง เซอร์เวย์แม่งไม่ช่วยนะ คนกดงั้นๆก็เยอะ เวลามีเซอร์เวย์ให้หารยอดเยอะๆเลย
ไม่ก็พิมพ์ไปเถอะ เดี๋ยวนี้ยอดพิมพ์ขั้นต่ำน่าจะมีที่ที่รับพิมพ์ 4 เล่มอยู่นะ (หารสี่ให้ลงเพลท)
ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดีด้วยแหละ ตบบ่าเพื่อนโม่งว่ะ

682 Nameless Fanboi Posted ID:U7mvSsmM8f

>>681 จริงขนาดนี่ยังพยายามใช้เงินให้น้อยสุดเลย ซื้อเฉพาะที่อยากอ่านจริงๆเท่านั้น ไม่เหมือนแต่ก่อนว่างๆก็หาอ่านปกสวยหน่อยก็ซื้อแล้ว

683 Nameless Fanboi Posted ID:INe.Aso6Ev

>>681 เซอร์เวย์นี่ทำคนเจ็บมานักต่อนัก ตอนถามว่าใครจะซื้อ (เน้นด้วยว่าให้คิดดีๆ ก่อนตอบ ตอบแล้วห้ามเปลี่ยนใจ) ตอนถามคนตอบเป็นร้อย เลยพิมพ์มาก่อน ถึงเวลาขาย ซื้อจริงยี่สิบเล่ม 555 อย่าหาทำมาก

684 Nameless Fanboi Posted ID:kBK.ZtXFOM

พวกมึงเคยก๊อปตัวละครตัวเองปะ แบบกูชอบคาแรกเขามากจนอยากหยิบไปวางในพล็อตอื่นสถานการณ์อื่น นักอ่านจะจับได้มั้ยวะ มันผิดมั้ย หรือเขียนเรื่องใหม่ต้องคิดคาใหม่ตลอด

685 Nameless Fanboi Posted ID:2RADHtB3Jt

>>684 ปกติมึง กุเห็นนข.แมส ๆ หลายคนก็เป็น แบบนิสัยพระเอกคล้าย ๆ กัน คนเรามันจะมีไทป์ที่ไบแอสมาก ๆ อยู่แล้ว ไม่แปลก

686 Nameless Fanboi Posted ID:q/82MW9quF

>>684 พระเอกกูแทบจะเป็นคนเดียวกันเลยอะสองสามเรื่อง 555555

687 Nameless Fanboi Posted ID:hVOOH.0V7R

>>684 เชี้ยนี่มึงเป็นกูรึเปล่าเนี่ย กูกำลังคิดๆเรื่องนี้อยู่เลย เหมือนมันมูฟออนจากพระเอกเรื่องเดิมของตัวเองไม่ได้อ่ะ ยังอยากได้คาแรกเตอร์แบบนี้อีก

688 Nameless Fanboi Posted ID:8+Qr0N2.mx

พวกมึงเคยเป็นปะ วางพล็อตแรงๆ เชรี่ยยยๆ พอแต่งไปจริงๆ เสือกใจไม่แข็งพอจะให้ตัวละครเลว พระเอกชั่ว นางเอกร้าย ทีนี้พอแต่งไปอัพออนไลน์ไปธีมนิยายก็เสือกเปลี่ยน พระเอกคนดี นางเอกแม่พระ ธีมเสือกซอฟท์ลง ที่เคยโปรยไว้ว่าเรทแรงก็หมาเลยทีนี้ มึงว่านักอ่านจะเทนิยายปะวะ ถ้าพล็อตนิยายเปลี่ยนจากที่มึงแพลนไว้ก่อนนั้นอะ

689 Nameless Fanboi Posted ID:FLtmzz5.1U

>>688 มึงมาสลับกับกูมั้ย กูวางพระนางแสนดีแต่พอแต่งจริงเป็นคนแรงๆ ร้ายๆ ตลอดทุกเรื่อง 5555

690 Nameless Fanboi Posted ID:Gv8Nu.OL8H

ถ้าโดนวิจารณ์จากหลายๆ คนว่านางเอกโง่กับคุมคาร์ไม่อยู่ มึงเสียใจหรือโมโหมั้ย

691 Nameless Fanboi Posted ID:Gv8Nu.OL8H

เพิ่มเติม คือเจอนักเขียนแคปแนวๆ นี้ไปบ่นในทวิต แล้วคือเขาไม่ใช่คนที่กูอ่านอยู่ แต่คนที่กูอ่าน อ่านไปก็มีความรู้สึกแบบนี้ว่าเขาคุมคาร์นางเอกไม่อยู่ บอกมาต้นๆ มาฉลาด แต่การกระทำคือ คิดน้อย ควรบอกหรือปล่อยไปเลย กลัวโดนแคป

692 Nameless Fanboi Posted ID:Gv8Nu.OL8H

,กลัวเขาเสียใจด้วย เพราะกูเม้นประจำ ไม่เคยติ

693 Nameless Fanboi Posted ID:9UpSK8UG5G

กุชอบตัวละครที่มีหลายอารมณ์ในคนเดียว สังเกตคนจริงๆ มันก็ไม่ใช่ว่าคนเก่ง คนฉลาด คนเฟี๊ยซจะไม่มีจังหวะที่อ่อนแอ งี่เง่า หรือโง่อะมึง คนจริงๆ มันเป็นแบบนั้น แต่ในแง่นิยายอาจไม่ถูกใจคนอ่าน กุก็เคยเจอ แต่ก็เข้าใจคนอ่านนะ บางทีมันไม่ได้ดั่งใจก็อยากด่า พูดง่ายๆ ว่าอินนั่นแหละ เหมือนเราฟังเรื่องความรักของเพื่อน เรายังด่าเพื่อนจนเสียหมาเลย 5555

694 Nameless Fanboi Posted ID:kBK.ZtXFOM

>>691 ถ้าอยากแนะนำจริงๆ ให้ทัก dm ไปบอกนะ บางทีเขาอาจจะวางพล็อตหักมุมอะไรก็ได้ ปกติถ้าคุยดีๆ นักเขียนก็ไม่แคปไปแขวนหรอก ถึงแขวนก็โดนทัวร์ลงเอง //สรุปมึง dm มาหากู อีเหี้ย ล้อง 55555

695 Nameless Fanboi Posted ID:TX9geT5CDK

>>694 กูขำก่อนหนึ่ง 5555

>>690 บอกได้นะ กูชอบให้บอกมากกว่าปล่อยกูงมโข่งงมหอยไปเรื่อยอ่ะ เชียร์ dm เหมือนกัน ใช้คำสุภาพ มันโอเคเลยนะกูว่า

696 Nameless Fanboi Posted ID:TX9geT5CDK

มึง นขที่กูตามตั้งแต่สมัยละอ่อนขึ้นทวิตที่ความเห็นทางการเมืองไม่ตรงกับกูอย่างแรง ตอนนี้กูเป็นนขเหมือนกันแล้วรู้สึกเสียฟามรู้สึก ถ้าเป็นมึงมึงแบนงานเขาไหม หรือสามารถแยกเรื่องงานกับทัศนคติส่วนตัวออกจากกันได้เลย?

697 Nameless Fanboi Posted ID:9qp8Md6scp

>>696 หมายถึงเขาเป็นขนมหวานใช่มั้ย เชียร์ตูบเหรอ ถ้าเป็นขนมหวานกูจะเลิกตามเลย เพราะตอนนี้ไม่ใช่แค่ความเห็นต่างทางการเมืองแบบธรรมดาๆ แล้ว มันเป็นอะไรที่สามารถมองลึกเข้าไปถึงสันดานได้เลยอะตอนนี้

698 Nameless Fanboi Posted ID:Y171stlVuj

>>697 เหมือนกัน เลิกตาม เลิกอ่าน ไม่อินอีกต่อไป

699 Nameless Fanboi Posted ID:5Jqn+8zYOA

KY โม่งว่านามปากกาแบบไหนคนจำ ง่ายจำดีกว่ากันวะ ชื่อคนไทย ๆ / คำทั่วไปผสมกัน / ภาษาอังกฤษไปเลย กุคิดนามปากกาออกหลาบชื่อแต่รู้สึกไม่ว้าวเท่าไหร่ ไม่รุจะเลือกอันไหนดี

700 Nameless Fanboi Posted ID:TX9geT5CDK

>>697 >>698 ใช่มึง กูว่าเขาเข้าใจปชธปต.แค่ครึ่งๆกลางๆอ่ะ ไม่เชียร์ลุง แต่นีโอขนมหวาน คิดเหมือนกันเลยว่ามันสื่อถึงอะไรหลายๆอย่างได้มากกว่าแค่การเมือง เพราะบ้านเราแม่งไม่เหมือนประเทศอื่นที่พรรคการเมืองไม่ตรงกันก็อาจจะแค่เรื่องนโยบาย ขอบคุณนะที่ทำให้กูรู้สึกว่ากูก็สามารถคิดแบบนี้ได้ไม่ใจแคบ

701 Nameless Fanboi Posted ID:VVbrhMjmPN

>>699 กูว่าตอนนี้ชื่อจำง่ายยากไม่สำคัญ เท่านิยายมึงปังหรือเปล่า เพราะสมัยนี้มันมีให้กดตาม พอออกใหม่ก็แจ้งเตือน ไม่จำเป็นต้องจำง่ายหรือติดปากแบบแต่ก่อนที่จะจำเป็นเพราะตอนไปเลือกหนังสือ ตอนนี้คือมึงชอบอันไหน เลือกเลยเพื่อน!

702 Nameless Fanboi Posted ID:UhluivNvGQ

>>699 พูดยาก อันที่ใช้คำง่าย ๆ แล้วก็ไม่มีตัวสะกดยาก ๆ งั้นมั้ง

703 Nameless Fanboi Posted ID:y1AaWNba+1

>>700 คนไหนวะ ใบ้หน่อย

704 Nameless Fanboi Posted ID:6GlIUJ1uIU

>>703 สาย Y อ่ะ

705 Nameless Fanboi Posted ID:k2rtF.kq.V

>>696 กูว่าถ้าเขาไม่บ้งในงานก็พอรับได้นะ นักอ่านกูขึ้นภาพโปรขนมหวานสุดๆ กูก็ไม่ได้บล็อกเขาออกจากเพจ อย่างสมมติถ้ามึงไปหาหมอแล้วหมอเป็นขนมหวานไปถือป้ายไล่ใครมามึงก็คงไม่ แหวะ ไม่เอาคนนี้ เปลี่ยนๆๆ ใช่ปะล่ะ แต่ก็แล้วแต่มึงนะ ถ้าอ่านก็ได้ไม่อ่านก็ได้ก็เลิกไป

706 Nameless Fanboi Posted ID:yWyoQZkcfW

ปกติกูอัพครึ่งเรื่องเป็นตัวอย่าง 50-60% แล้วหยุดอัพ ชี้ช่องทางสั่งซื้อบลาๆ อะไรก็ว่าไป
วันนี้กูเพิ่งเจอเม้นใน ดด
บอกว่าไม่ซื้อนิยายกูหรอก ไปยืนอ่านฟรีส่วนท้ายในซีเอด มีไรมั้ย

กูนี่น้ำตาตก บับ เออ ชอบนิยายกุ กุก็ดีใจ ถ้าไม่สนุกมากพอควักเงินซื้อ หรือไม่มีกำลังซื้อไหว จะอ่านฟรีในร้านก็ยืนอ่านไปเหอะ ไม่ต้องมาเม้นภูมิใจให้กูรู้ก็ได้

บับ อยากจะทะลุเข้าไปเขย่าไหล่ มึงเป็นเหี้ยอะไรของมึงงงง

707 Nameless Fanboi Posted ID:VVbrhMjmPN

>>706 น่าจะซีลแล้วมีคิวอาร์โค้ดให้สแกนอ่านตัวอย่างเอานะ ไม่ให้แกะ บางทีคือกูไม่อยากได้เล่มที่เปื้อนขี้มือคนอื่นแล้ว

708 Nameless Fanboi Posted ID:yWyoQZkcfW

มึง ตอนมีเคสรถเมียหลวงฝ่ากลางม็อบอ่ะ กูคนพื้นที่รู้เส้นทางว่าจงใจมา กูก็โพสดิว่าอิคนจัดเส้นทางอ่ะจงใจ

โอ้โห พวกนักอ่านขนมหวานฟูมฟาย ตีปี๊บ ผิดหวังอย่างงั้นอย่างงี้ อันเฟรนกูเป็นแถบๆ
กูก็ยักไหล่ ใครโพสอะไรรกลูกตากู กูก็แค่อันฟีดไปเหมือนกัน แค่ไม่ได้ฟูมฟายใส่เขา

เพราะงั้นด้อนท์แคร์ค่ะ เอาภาษีกูไปใช้ กูจะบ่น มีไรมั้ย

709 Nameless Fanboi Posted ID:yWyoQZkcfW

>>707 สนพ กูไม่ซีล อ่ะ เปิดอ่านตามสบาย แต่จะช้ำ

710 Nameless Fanboi Posted ID:jmUd+OXvp8

>>706 พวกนี้โรคจิตน่ะมึง อารมณ์เด็กน้อยไม่ได้ดั่งใจ คงคิดว่ามึงงกไงไม่อัพจบ เอาจริงไม่เม้นแล้วไปทำเลยยังง่ายกว่าอีก

711 Nameless Fanboi Posted ID:kCw/qfPg8I

>>708 กูนับถือเอนเนอจี้มึงอ่ะ เอาจริงๆนักอ่านนิยายไทย นิยายรัก เป็นขนมหวานกันเยอะมาก มากจนกูตกใจ

712 Nameless Fanboi Posted ID:6GlIUJ1uIU

>>704 กูเอง พิมพ์ตก ไม่ใช่สาย Y อ่ะ
พิมพ์ตกได้เหี้ยมาก ไปคนละทางเลย 55

713 Nameless Fanboi Posted ID:0m9CbtMXAG

โม่ง ช่วยกูหน่อย ไม่รู้จะถามใคร ถามพวกมึงเผื่อมีคนทำเป็น เสิร์ชหาแล้วยังไม่ได้ กูจะจัดอาร์ทหน้านิยายตัวเอง (ไม่มีงบจ้างว่ะ) จะใช้รูปสวยๆ ตกแต่ง แต่จะวางรูปยังไงในหน้าเวิร์ดให้ขึ้นแค่เริ่มต้นบทหน้าแรกกับตอนจบบทแค่นั้น ไม่ให้ขึ้นหมดทุกหน้า กูแทรกรูปแล้วแต่มันขึ้นหมดทุกหน้าเลย พวกมึงเข้าใจปะวะ

714 Nameless Fanboi Posted ID:qK+sMX4qJM

ก่อนที่มึงจะจ้างใครให้ดูลายเส้นเขาให้ดีก่อนนะ แก้อะไรก็แก้ที่ไม่ใช่ลายเส้นนักวาดเขา กูสงสารเพื่อนนักวาดฉิบหายนางบ่น ทับเส้นมาทุกรูปนักเขียนบอกขอเส้นคมๆตัดเส้นสวยๆแล้วไปเอาอีกปกที่จ้างคนอื่นมาให้ดูเป็นตัวอย่าง แก้แล้วแก้สิก็ไม่พอใจ แล้วทำไมมึงไม่ไปจ้างคนนั้นนนนน

715 Nameless Fanboi Posted ID:/hQo4n.wIa

>>713 มึงหัดใช้อินดีไซน์ดีกว่า เวิร์ดมันข้อจำกัดหลายอย่าง

716 Nameless Fanboi Posted ID:2XzNOrtptl

>>713 มึงใส่รูปลงใน header รึป่าว ถ้าวางปกติมันจะขึ้นหน้าเดียวนะ

717 Nameless Fanboi Posted ID:0m9CbtMXAG

>>716 ใช่กูจะวางเฮดเดอร์ กูไม่รู้ไปใส่ตรงไหนมันถึงขึ้นหมดเลย งง
>>715 Indesign ทำได้ใช่ปะ กูจะได้ลองศึกษา ใช้เวิร์ดแล้วมันป่วงๆ

718 Nameless Fanboi Posted ID:2XzNOrtptl

>>714 แต่บางทีนักวาดก็รับงานที่ไม่ถนัดเองนะ กูเคยแปะถามงาน บอกอย่างได้แบบนี้ลงสีฟุ้งๆ แบบนี้เขาทำได้มั้ย เขาบอกได้ ถึงเวลาดันทำตามใจตัวเอง โคดจะผิดจากที่ถาม กูก็ไม่รู้จะพูดไง ไม่ถนัดหรือไม่ใช่สไตล์ก็น่าจะบอกกันก่อนเด้อ นักเขียนบางทีก็ไม่รู้หรอก

719 Nameless Fanboi Posted ID:jkf8FqNGLH

ทำไงถึงจะเลิกเข้าไปดูยอดวิวในนิยายตัวเองได้วะ นี่เล่นเข้าไปส่องทุกชั่วโมงเลย ย้ำคิดย้ำทำสัด ๆ

720 Nameless Fanboi Posted ID:2XzNOrtptl

>>717 จะเอาแค่หน้าแรกกับหน้าสุดท้ายใช่มะ ทำตามนี้นะ
insert > header มองช่อง options มันจะมีให้ติ๊กว่า Different Even & Odd pages ถ้าติ๊กแล้วหน้านั้นจะแยกเป็นเอกเทศ มึงก็ทำหน้านี้กับหน้าสุดท้ายนะ

และสนับสนุนให้ใช้ indesign เช่นกัน ลูกเล่นเยอะกว่า จัดหน้าสวยกว่าเยอะ

721 Nameless Fanboi Posted ID:bD5t8ThXpy

>>720 แท้งกิ้วมากเลยนะมึง กูจะลองไปทำดู

722 Nameless Fanboi Posted ID:qpxRVDpj.m

ปกติจ้างวาดปกนิยายเราจะได้แค่ไฟล์ภาพpng.เหรอ กูนึกว่าจะได้มาทั้งไฟล์ที่สร้างอะ เพิ่งจ้างครั้งแรกงงอยู่

723 Nameless Fanboi Posted ID:x+Pxt/eR91

>>722 ถ้าไม่ตกลงแต่แรกก็อาจจะได้แค่นั้นแหละ เพราะถ้าได้ทั้งหมดบางคนอาจบวกเพิ่ม เพราะมันเอาไปแก้ไขได้ แต่ส่วนใหญ่ที่ไ้ดก็มักจะได้ PNG JPG

724 Nameless Fanboi Posted ID:8P90TcClGG

>>722 แล้วแต่ตกลง คุยกันดีๆ เวลาคุย กูเอาทั้ง png, jpeg, psd (แต่อย่างหลังไม่ค่อยให้หรอก แต่บางคนก็ให้ บางคนก็รวมเลเยอร์แบบให้มาขยับเองนิดหน่อยได้ บางคนก็ไม่รวมเลย อยากแก้ตรงไหนก็แก้เองไรงี้)

725 Nameless Fanboi Posted ID:K+6AIGOn1H

>>723 กูจะทำแบรนเนอร์กับปกรองแบบภาพล้วนด้วยไง งงเลยได้มาไฟล์เดียว เพิ่งรู้ว่ามีงี้ด้วย แล้วบวกเพิ่มทำไมอะ
>>724 ทำไมถึงไม่ให้พอรู้ปะ ถ้าไปทวงทีหลังจะได้ไหม

726 Nameless Fanboi Posted ID:.0ah0oHKkJ

ของกูบอกแต่แรกเลยว่าจะเอา psd นักวาดแยกไฟล์ให้ละเอียดยิบ ส่วนมากก็โดนบวกเพิ่มประมาณ 500

727 Nameless Fanboi Posted ID:9x0v.IjXBG

มีโม่งคนไหนรู้เรื่องการแพทย์หรือเป็นคุณหมอเลยไหม กูถามเพื่อความถูกต้งหน่อยดีกว่าว่า ถ้าเกิดอุบัติเหตุกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราอะไรงี้ ร่างกายเติบโตปกติ หรือหยุดโต หรือช้ากว่าคนทั่วไปเหรอ เพราะกูจะเขียนให้ตัวละครหลับไปตั้งแต่ 14-15 น่ะ หลายปีผ่านไปก็ตื่นรูปลักษณ์ยังเหมือนเดิมอะไรงี้น่ะ

728 Nameless Fanboi Posted ID:8P90TcClGG

>>725 เค้าไม่อยากให้เอาไปแก้ไง คือถ้าจะแก้ก็บอกให้เค้าแก้จ่ายตังเพิ่มได้ไรงี้ บางคนถ้าขอไฟล์พีเอสดีก้จะคิดเงินเพิ่ม แล้วแต่คนอะนะ
แต่คือปกติกูจะคุยก่อนแต่แรก ว่ากุจะเอาไปทำไร กุจะเอาแบบนี้ๆ จะเอาไปทำแบบนี้ๆนะ ปกติกุจัดเลเอ้าเองไง

729 Nameless Fanboi Posted ID:P2.CbaWoIL

>>727 มันแล้วแต่ว่ามึงเป็นเจ้าหญิงนิทราเพราะอะไรด้วยนะ ภาวะทางการแพทย์มีเยอะมาก ถ้าเอากรณีสมองตายอย่างเดียวเลยเหมือนบิ๊กดีทูบี ร่างกายสามารถเติบโตได้ มีลักษณะทางเพศ เช่น หน้าอก หนวดเครา ได้ (เรื่อง libido นี่ไม่แน่ใจว่ะ) แต่เอาจริงๆไม่สวยงามเลย การนอนติดเตียงทำให้กล้ามเนื้อลีบ ถ้าพลิกตัวไม่ดีจะมีแผลกดทับที่ก้นกบ/สะโพก/แขนขา ต้องใส่สายให้อาหารทางจมูก ใส่แพมเพิสทำให้มีปัญหาอับชื้นบริเวณร่มผ้า และผู้ป่วยส่วนใหญ่มีปัญหาปอดติดเชื้อจากการสำลักตามมา บอกเลยว่าชีวิตอย่างเห้

ถ้าจะเขียนอิงตามหลักการแพทย์จริงๆ นอนติดเตียงแค่เดือนเดียวก็พังแล้ว ตื่นมาสวยๆ เลยยากมาก แทบเป็นไปไม่ได้ ในนิยายพล๊อตแบบนี้ส่วนใหญ่เลยข้ามจุดนี้ไปเลย ไม่งั้นมันก็ไปต่อไม่ได้อ่ะ

ปล. กูเป็นหมอ

730 Nameless Fanboi Posted ID:9x0v.IjXBG

>>729 ขอบคุณมาก พล็อตกูกะให้ตัวละครไม่โต พอตื่นก็ยังกินอะไรไม่ค่อยได้กับใช้เวลากายภาพบำบัดด้วย แต่ขอดูอีกทีล่ะกัน ดีไม่ดีรื้อใหม่ กูไม่ค่อยอยากบ้งเรื่องการแพย์เท่าไหร่น่ะ

731 Nameless Fanboi Posted ID:.x1Qz.xCCq

>>725 ก็บอกอยู่ว่ามันแก้ได้ เขาถึงบวกเพิ่มไง

732 Nameless Fanboi Posted ID:/XSVxce1qR

>>730 อะไรก็เกิดขึ้นได้ถ้าทำมันให้เป็น....แฟนตาซีแหวกฉีกกฎทุกอย่าง

733 Nameless Fanboi Posted ID:H0ikpWKS0Q

อยู่ๆ กูก็มีความคิดประหลาดๆ ขึ้นมาว่ะ สมมติเราเป็นนข.อาชีพ ไม่มีงานประจำอื่น รายได้มาจากงานเขียนทางเดียว ทีนี้นิยายเล่มนึงในจำนวนคำมาตรฐานที่เห็นส่วนใหญ่คือเกือบแสน หรือแสนคำเศษใช้เวลาน้อยสุด 1 เดือนในการเขียนถึงออกเล่มขายได้ แต่ถ้าเรื่องนั้นมันยาวกว่าแสนคำแล้วถ้ารอจนเขียนจบ คือ เดือนนั้นไม่มีแดก เราเลยจำต้องออกงานมาขายหาเงินแดกข้าวก่อนทั้งๆ ที่ยังแต่งไม่จบ แต่เดือนต่อมาเสือกออกงานไม่ได้ด้วยเหตุอะไรก็แล้วแต่ (ไม่นับความไม่มีความรับผิดชอบนะ) แบบนี้จะดูเห็นแก่ตัว ไม่จริงใจกับคนซื้อปะวะ
//ง่ายๆ คือ ไม่สามารถรอเขียนจนจบได้ถึงค่อยออกทีเดียวอะ เพราะไม่มีจะแดกแล้วอะ //กูคิดเล่นๆ นะ เพื่อถามมุมมองแต่ละคนเฉยๆ กูไม่ได้มีเงื่อนไขใดๆ ตรงกับที่สมมติมา เอาตรงๆ กูเห็นนข. ที่มีดราม่าอยู่ตอนนี้ทำไมเขาไม่รอให้ตัวเองเขียนจบก่อนแล้วค่อยเปิดพรี หรือค่อยออกอีบุ๊กมา งี้

734 Nameless Fanboi Posted ID:Yo4qnqt+bo

>>733 สามารถทำได้ถ้าเปิดขายแล้วกำหนดได้ว่าเล่ม 2 จะมาเมื่อไหร่ และทำได้ตามเงื่อนไข แจ้งนักอ่านล่วงหน้าเพื่อให้เขาตัดสินใจเองว่าจะเสี่ยงมั้ย ในกรณีที่ทำไม่ได้ตามที่พูดนักเขียนก็เป็นฝ่ายผิดสัญญา นักอ่านโวยแน่ๆ

หรือถ้าคุมตัวเองไม่ได้ว่าเล่มสองจะออกเมื่อไหร่ ก็บอกไปเลยว่าขายเล่มแรกก่อน แต่เล่มสองมาเมื่อไหร่ไม่รู้นะคะ จะโหลดหรือไม่ ให้นักอ่านได้สิทธิ์ตัดสินใจเต็มที่บนเงื่อนไขที่เขารู้ แบบนี้มาโวยวายกันได้ยาก เพราะบอกแล้ว แต่ยอดขายจะเป็นไงไม่รู้นะ 555

จะทำอะไรก็ทำได้แหละอยู่ที่ความจริงใจกับนักอ่าน กุว่าจะอยู่ได้นานกว่า นิยายสนุกแค่ไหนแต่ถ้าขายแบบไม่จริงใจก็จบนะสำหรับกู บนโลกนี้มีนักเขียนที่เขียนสนุกอีกมากมาย นักเขียนที่เขียนสนุก บริการดีก็มีเยอะ นักอ่านเขามีตัวเลือกอักโข

735 Nameless Fanboi Posted ID:eHVHXBkLD0

สมมติว่าเหตุการณ์ในชีวิตจริงมึงตื่นขึ้นมาแล้วมี ผช นั่งอยู่บนเตียงโดยยังไม่มีท่าทีคุกคาม เป็นมึงจะทำไงกันวะ กุลองคิดดูกุคงจะอึ้ง อาจจะเถิบหนีหน่อยแล้วถามว่าเป็นใครทำไมมานั่งนี่ หรือต่อให้มันมาร้าย (ไม่ถึงขนาดข่มขืน แต่อาจจะแบบพาตัวไปที่อื่น)จริงๆ กุก้คงไม่ต่อสู้ดิ้นรนว่ะ อาจจะดูเชิงเงียบๆ เดินตาม แล้วหาโอกาสฟาดหัว
ทีนี้กูมีฉากนี้ในนิยาย กูรุ้สึกว่าเขียนแล้วดูนอ.กูขาดความเป็นมนุษย์มากเลยถ้าทำแบบที่กุทำ แม่งดูอึนไปอ่ะ ทำไงเราถึงจะเอาความไม่สมเหตุสมผลใส่นิยายโดยไม่ฝืน ทั้งที่ชีวิตจริงเราเต็มไปด้วยเรื่องไม่สมเหตุสมผลวะ

736 Nameless Fanboi Posted ID:ks0BNrb.ej

>>735 กูลองคิดว่าตัวกูอยู่ในสถานการณ์นั้นนะ สิ่งแรกที่คิดคือ ทำไมต้องตาม หนึ่งละมึงต้องมีเหตุผลรองรับเพียงพอให้นักอ่านรู้สุดว่ามันไม่บ้งอะ สมเหตุสมผล อย่างสองคือ ความรู้สึกตอนตามเป็นไง สงสัยเคลือบแคลง/ กังวล/ ไม่ไว้ใจแล้วมองหาทางหนีตลอดเวลา อะไรแบบนี้น่ะ ความรู้สึกแรกก่อนอื่นเลยต้องตกใจปะวะ แบบมึงเป็นใคร มานั่งไรบนเตียงกู

737 Nameless Fanboi Posted ID:UHcw27Dd.0

>>735 กูก็อาจทำแบบมึง ไม่แปลกหรอก ถึงไม่ทำแบบนี้ตลค.แต่ละตัวก็มีแนวทางพฤติกรรมของมันอยู่แล้ว มึงอย่าคิดมากเลย ว่าตลค.มึงจะขาดความเป็นมนุษย์ที่สมเหตุสมผล อย่างนิยายแจ่มใสอะ นางเอกแต่ละคนทำตัวปกติกันซะที่ไหน มีอีกคำแนะนำคือถ้ากลัวคนอ่านคิดว่ามันบ้ง ให้ตลค.ในเรื่องชิงด่ากันเองก่อนเลย อันนี้กูว่าใช้ได้ จะได้เน้นเลยว่าที่แปลกคือนิสัยตลค. (และคนในเรื่องก็มองว่ามันแปลก) ไม่ได้แปลกที่มายเซ็ทคนเขียน

738 Nameless Fanboi Posted ID:MQwT9uDf9g

>>735 กูไม่โลกสวยนะในนิยายเรื่องหนึ่งแต่ถ้าเกิดกับกูจริง 1.กูจะหาทรัพย์สินกูก่อน ถ้าเจอมือถือถ่ายรูปถ่ายคลิปหน้ามันไว้ ถ่ายสภาพรอบด้านไว้ 2.ค้นหาหลักฐานว่าอีกฝ่ายเป็นใครถ่ายรูปเป็นหลักฐานไว้ 3.รีบหาเสื้อผ้าแต่งตัวไม่อาบน้ำวิ่งหาคนช่วยเหลือสถานีตำรวจก่อน แจ้งความก่อนลงบันทึกก็ยังดี 4.ตรวจร่างกายเป็นหลักฐาน ตรวจหาสารเสพติด ขอยาคุมยาต้านไวรัสกินกับหมอมาก่อน ที่เหลือค่อยว่าทีหลัง

739 Nameless Fanboi Posted ID:pi6YxG/gRQ

>>738 ทุกอย่างจะไร้ค่าถ้าผู้นั้นถูกแปะป้ายว่สเป็นพระเอกเว้ย คิดว่านิยายรักทั่วไปจะได้เกิดอ้อวะถ้ามันสมจริงอะ555 ให้สมจริงกว่านี้คือแปะป้ายตัวร้ายแทน แต่มึงจะถูกนักอ่านด่าอีกก็ได้ว่าซีนนี้ต้องพระเอกสิวะ ให้ตัวร้ายมานอนกับนางเอกมันไม่ฟิน หรือปัดขึ้นเป็นพระรองก็เหี้ยกว่าเดิมอีกมาก่อนพระเอกทำไมหมาละ

740 Nameless Fanboi Posted ID:eC95Z3jv3z

เราสามารถรีอัปยิยายที่เคยลงจบไปแล้วได้ใช่ไหมวะ รีอัปก็คือเหมือนเปิดเรื่องขึ้นมาใหม่แต่จริงๆ ก็เป็นนิยายเรื่องเดิมแหละ สรุปในหน้านิยายจะมีนิยายเรื่องเดียวกันสองอันงี้ คือ ทำได้ชะ กูเห็นมีคนทำ จะลองดูบ้าง

741 Nameless Fanboi Posted ID:MAyU0z/1Hx

>>740 ถ้าจะทำก็คงได้ แต่ประโยชน์คืออะไรอะ คนเคย fav ก็คงไม่มาตามซ้ำมั้งถ้าอ่านจบแล้ว หรือถ้าจะบอกว่าเอาไว้ตกหน้าใหม่ กูว่าลบตอนในเรื่องเก่าทิ้งแล้วทยอยอัพยังดีกว่า อย่างน้อยยอดเมนต์ยอด fav ที่ปั้นมาก็น่าจะช่วยดึงคน

742 Nameless Fanboi Posted ID:RS.9GqQ34o

ก่อนหน้าเคยกลัวว่าถ้าไม่เขียนนิยายทุกวัน ทิ้งช่วงนานแล้วจะกลับไปเขียนไม่ได้หัวจะตัน กลัวนู่นกลัวนี่ ขนาดเขียนนิยายก็ยังกลัวตัวเองจดจ่อเครียดเกินไปเพราะเคยคิดเยอะแล้วตีรวนในหัวนอนไม่หลับเลยยิ่งกลัว กลัวจะกลับไปนอนไม่หลับอีก เพราะแต่ก่อนเคยกินยาแต่หายแล้ว เลยมีความกลัวฝังอยู่ในหัวกลัวสักวันจะกลับมาเป็นแบบเดิม คนอื่นอาจไม่เข้าใจว่ากลัวอะไรตลกจัง ผ่านมาร่วมปีที่เกิดความคิดเดิมๆวนไปมาตอนเขียน มาวันนี้รู้สึกไม่เครียดอีกต่อไปแล้วมองงานเขียนให้เป็นเป้าหมายให้ชีวิตไม่ว่างเปล่า มีจุดหมายเขียนสบายๆตามใจชอบ เป็นกำลังใจให้ทุกคนถึงจะยังไม่ประสบความสำเร็จในสายงานเขียนแต่ตอนนี้สามารถผ่านเรื่องที่เคยกลัวมาตลอดตอนเขียนได้แล้ว เวลาจะเป็นทุกสิ่งทุกอย่างจริงๆ

743 Nameless Fanboi Posted ID:eC95Z3jv3z

>>742 อ้าวกูนึกว่ากูเป็นคนเดียว อาการคิดเรื่องนิยายวนในหัวจนนอนไม่ได้เนี่ย แต่จะเป็นตอนคลายปม คลายจุดไม่สมเหตุผล หาทางอุดพล็อตโฮลไม่ได้ กับคิดไม่ออกว่าไปไงต่อดี ถ้ากูคิดออกก็จะหลับปกติ แต่เรื่องกลับมาเขียนนิยายไม่ได้อีกกูยังไม่เคย กูพยายามเขียนทุกวัน อย่างน้อยครึ่งชั่วโมง ขณะเขียนก็ค่อยๆ คิดเดาใจตลค. ไม่ได้เร่งตัวเองมากว่าจะให้ได้กี่คำ ไม่บังคับว่าต้องออกมาปังในดราฟแรกด้วย (เดี๋ยวกูกลับมานีไรท์อีกทีอยู่แล้ว ) แค่เขียนครบเวลาที่กำหนดงานมันเดินหน้าของมันไปเองขอให้ทำทุกวัน //แต่ก็มีบางวันก็ดิ่งๆ ดาวน์ๆ กูปล่อยให้ตัวเองฟุ้งซ่านเต็มทีเลย พอวันต่อมากูกลับมาสดใสมีพลังได้ปกติเองเฉย

744 Nameless Fanboi Posted ID:qSQh1y+8.Z

พวกโหลดวันแรกเป็นพันๆ เขาโม้กันปะวะ

745 Nameless Fanboi Posted ID:eC95Z3jv3z

>>744 กูว่าบางคนก็ได้เท่านั้นจริงๆ นะ นปก. เป็นที่รู้จักมากๆ แล้วอะ กับแมสมากๆ ในเว็บ

746 Nameless Fanboi Posted ID:0soWTWKaa.

>>744 กูเหมือนจะรู้เลยว่ามึงหมายถึงใคร 555 ถ้าเป็นคนนี้ไม่โม้หรอก เพจเขาตั้งสองแสนไลค์

747 Nameless Fanboi Posted ID:5nPWc5Toed

>>746 อ้าวไม่ต้องนอนละกู ใคร? 5555

748 Nameless Fanboi Posted ID:0soWTWKaa.

>>747 ของกูหมายถึงปกแดงๆ ในหน้าขายดี ของ >>746 ไม่รู้คนเดียวกันมั้ย เห็นเขาอวดในนกฟ้าแวบๆ

749 Nameless Fanboi Posted ID:0soWTWKaa.

>>748 เอ้ย >>744 ชี้ผิด 555

750 Nameless Fanboi Posted ID:lDxOz.OOuE

>>746 กุคนที่ถามข้างบนนะ กุถามรวมๆ เห้นคนได้กันเยอะ ทำไมมันดูง่ายจัง สำหรับกุมันเยอะมากเลย บางเรื่องกุขายเป็นปียังไม่ถึงเลย 555

751 Nameless Fanboi Posted ID:mfSIbd+5zu

>>750 ตอนนี้สามร้อยยังลุ้นแล้วลุ้นอีกเลย โถชีวิตกุ5555

752 Nameless Fanboi Posted ID:A6HZLAfAXf

>>750 สิบเล่มยังลุ้นแทบตาย ถึง 20 นี่ดีใจมาก 555 เดี๋ยวนี้ใครถามในเฟสเรื่องยอดโหลดเป็นข้ามหมด มันหดหู่

753 Nameless Fanboi Posted ID:tRVJmfPc+.

โม่งกูมีเรื่องสงสัย
1 กูสมัคร ID นักเขียนของ Raw ไป ยื่นบุ๊คแบงค์แล้ว raw ก็อนุมัติเรียบร้อย แต่กูสมัครไว้เป็นปีละ ยังไม่เคยลงนิยายเลย มันใช้ได้ใช่ป่ะ
2 ID นักเขียนของ raw ที่กูสมัครไว้ มันขึ้นว่าเชื่อมต่อกับ meb แล้ว หมายความว่าถ้ากูจะลงขาย ebook ใน meb กูไม่ต้องยื่นบุ๊คแบงค์หรือสมัครอะไรเพิ่มใช่ป่ะ
3 ID raw ที่มันเชื่อมกับ meb มันเป็นไอดีเดียวกันกับที่กูเอาไว้ซื้อหนังสืออ่าน อย่างงี้ถ้าเกิดกูลงขาย ebook กับ meb ในไอดีนี้ จะมีคนเห็นชั้นหนังสือของกูป่าวฟระ

754 Nameless Fanboi Posted ID:oyufxVU+nn

เคยเห็นนักเขียนแก๊งนึงโพสต์เฟซว่าได้พันโหลดในวันเดียว แต่พอไปดูเข้าจริง อาทิตย์นึงแล้วยังไม่ได้ป้ายแดงเลยด้วยซ้ำ 5555 เรื่องแบบนี้ฟังหูไว้หู

755 Nameless Fanboi Posted ID:3mljg6hASL

>>753
1 ได้
2 น่าจะไม่ต้องทำไรเพิ่มนะ กูสมัครกับ meb ไม่เคยกับ raw มันเชื่อมเรียบร้อย
3ไม่มี ชั้นหนังสือ ให้ตายก็ไม่มีใครเห็น 🤣

756 Nameless Fanboi Posted ID:J/+N4PBuY2

ขอถามพวกมึงหน่อยสิ สำหรับพวกมึงถ้าเป็นโรแมนซ์แบบพี่น้องไม่แท้ แต่โตมาด้วยกัน พวกมึงนับว่าเป็น incest มั้ยวะ กูเห็นฝรั่งบางส่วนก็ฉอดเรื่องนี้ แต่อีกด้านมังฮวาเกาหลีหลายเรื่องก็เป็นโทนๆนี้อ่ะ เลยอยากถามความเห็นเพื่อนโม่ง กลัวแต่งไปแล้วมีปัญหา ขอบคุณล่วงหน้าจ้า

757 Nameless Fanboi Posted ID:PaM/i3g3cP

>>756 สำหรับกุถ้าโตมาด้วยกันถูกเลี้ยงมาแบบพี่น้องแท้ๆ กุแอบตะหงิดอยู่ แต่ถ้าโตมาด้วยกันแต่มีความห่างเหิน ไม่สนิท ต่างคนต่างรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ใช่พี่แท้ๆ มีช่องว่างระหว่างกัน คนละนามสกุล กุพอจะรับได้นะ 555

758 Nameless Fanboi Posted ID:x+d9q8ie2I

>>756 เอาตามหลักก็ไม่ติดหรอก ยังไงก็ไม่ได้สายเลือดเดียวกัน แต่ในแง่ค.รู้สึกกูก็คิดแบบ >>757 ถ้าต่างฝ่ายต่างรู้แต่แรกว่าไม่ใช่พี่น้องแท้ ๆ ไม่ค่อยสนิทกันด้วยก็พอโอเค แต่ถ้าพ่อแม่เลี้ยงรวมกัน เห็นกันเป็นพี่น้องตั้งแต่เด็กกูคงไม่อินว่ะ เหมือนโดนพี่น้องโซนกั้นไว้แล้ว นึกถึงชีวิตจริงจะให้ไปรักพี่ชายตัวเอง ทั้ง ๆ ที่ยังเข้าใจว่ามันเป็นพี่แท้ ๆ งี้ หมดฟีลพอดี

759 Nameless Fanboi Posted ID:C+9vo/nECu

>>756 psuedo incest จริงๆกูอ่านได้ไม่ติด คือมันมีหลายกรณีที่นับ แบบพ่อแม่แต่งงานใหม่กันบ้าง หรือแบบลูกเพื่อนบ้างไรบ้าง เกบมาเลี้ยงบ้าง แต่คือถ้ากลัวมีปัญหาก็เขียนอย่างอื่นเหอะ 5555 ไม่งั้นก็จะอยู่แบบเสียวสันหลัง คนอ่านไทยที่เคร่งเรื่องนี้ก็มี

760 Nameless Fanboi Posted ID:5PoaaXmyc7

>>756 ถ้าแง่วิทยาศาสตร์ไม่ผิดนะ คนละสายเลือดกันเด็กเกิดมาไม่ผิดปกติ แต่แง่ความรู้สึกคน (จริยธรรม) มันจะตะหงิดๆ เพราะในความความคิดกู มันถูกเลี้ยงดูแบบครอบครัวมาแล้วนี่พี่ นี่น้อง เราคือพี่น้องกัน ต่อให้รู้ทีหลังว่าไม่ใช่พี่น้องแท้ๆ แต่ความผูกพันมันจะคนละอย่างแล้ว แต่ถ้าเป็นเจอกันตอนโตมันก็ขัดนิดๆ ต่อให้หล่อสวยแค่ไหนมันจะมีคำว่าเนี่ย คนนี้จะเป็นพี่น้องกูนะ แต่รักกันได้มั้ย มันได้แหละถ้าสร้างเหตุการณ์ขึ้นมา หรือเหมือนการ์ตูนเรื่องนึง พระเอกกับ 2 สาวพี่น้อง จู่ๆมาเป็นพี่น้องบุญธรรมกันตอนโต คนพี่พระเอกมันแอบชอบอยู่ ยิ่งคนน้องเพิ่งวันไนท์กันมาก่อน 1 วัน จะให้มองพี่น้องคงยาก 5555555 คนนึงก็แอบชอบเขาอยู่ คนนึงก็เคยแซ่บกันมาก่อน

761 Nameless Fanboi Posted ID:C+9vo/nECu

ชญติดเรทลงหมวดไรเวิกสุด รักวัยรุ่น โรแมนซ์ หรือสำหรับผู้ใหญ่ไปเลย

762 Nameless Fanboi Posted ID:fAlyFybb3v

>>761 ติดเรทแค่ไหนอะ กูไม่ได้เรทมากนะแต่มันส่อทางเพศมั้งก็โดนเมบปัดไปโรแมนซ์เขาบอกจะได้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายมากกว่า กูงงทั้งที่รักวัยรุ่นปกใส่ชั้นในยังไม่โดนเปลี่ยนหมวดเลย ใส่ๆไปก่อนรักวัยรุ่นไปก่อนไหมมึงแต่เขาบอกว่าคนซื้อน้อยหมวดนี้ไม่รู้เหมือนกันนะ

763 Nameless Fanboi Posted ID:ypV3XDC5Ui

ผ่านไปห้องนินทานักวาดมา มีนักวาดไม่พอใจ เอางานปกที่จ้างมาไปขายต่อวะ พวกมึงว่าไงอะ ก็จ้างแล้วเปล่าวะ กุไม่ได้ใช้ มันต้องเผาไปกับกูตอนตายหรือไง

764 Nameless Fanboi Posted ID:EV1UmS1EXX

นักเขียนนี่แคปเก่งจัง กูเข้าไปเจอแคปที่นักอ่านด่านางเอกมาขอกำลัวใจอีกแล้ว ทีด่านางร้ายละไม่เห็นว่า?

765 Nameless Fanboi Posted ID:fAlyFybb3v

>>763 ถ้าไม่ได้ตกลงกันก่อนไม่พอใจอะไรก็ไม่แปลก เขาอาจตั้งใจวาดปกให้เรื่องนี้เป็นพิเศษเอาไปขายโดยไม่บอกกล่าวก็ผิดข้อตกลงนะ ถ้านักวาดบอกขายได้แล้วยังมาโวยวายนั้นสิแปลก

766 Nameless Fanboi Posted ID:Qg.pUJ4ra3

>>765 ปกติเวลาจ้างวาดปกก็ไม่จำเป็นต้องบอกนะว่าเอาไปทำปกเรื่องไหน คนจ้างไม่ได้ใช้เอาไปขายต่อได้อยู่แล้วเพราะลิขสิทธิ์เป็นของคนจ้าง ไม่งั้นถ้าจ้างแล้วไม่ได้ใช้ แถมขายต่อไม่ได้ นักวาดก็ควรคืนค่าเชิงพาณิชย์ 50% ที่บวกไป

767 Nameless Fanboi Posted ID:x+d9q8ie2I

สงสัยอย่าง เวลาเจอคอมเม้น/หลังไมค์ประหลาด ๆ ด่านข.อะไรงี้ (เอาที่แน่ใจว่าเราไม่ผิดแน่นอน) วิธีรับมือไหนควรทำที่สุดวะ 1.เอามันมาแขวนให้คนอื่นช่วยรุมทึ้งแทน 2.ไม่โต้ตอบ 3.กวนตีนกลับ คิดว่าน่าจะมีผลต่อภาพลักษณ์นข. พอสมควร โม่งว่าควรทำไงให้วินวินสุด

768 Nameless Fanboi Posted ID:fAlyFybb3v

>>766 จำเป็นต้องเขียนในข้อตกลงทุกครั้งให้ชัดเจนอยู่แล้วข้อนี้

769 Nameless Fanboi Posted ID:+I+nIhDnfE

>>768 ไม่อะ บางคนตอนจ้างยังไม่คิดชื่อนิยายด้วยซ้ำ เห็นคิวนักวาดว่างก็จองไว้ก่อน กูจ้างมาเป็นสิบปกไม่เคยบอกชื่อเรื่อง นักวาดก็ไม่เคยถาม บางปกจนถึงบัดนี้ก็ดองไว้ไม่ได้ใช้

770 Nameless Fanboi Posted ID:fAlyFybb3v

>>769 อะๆแล้วแต่มึง ในมู้นั้นก็บอกให้เขียนข้อตกลงชัดเจน กูก็คุยละเอียดไว้ตลอดอะไรได้อะไรไม่ได้จะได้ไม่ต้องมานั่งดราม่าทำร้ายจิตใจแต่ละฝ่าย

771 Nameless Fanboi Posted ID:0vsXq+RMoo

>>767 กูอาจจะลาเวนเด้อ แต่กูไม่ค่อยแนะนำให้แขวนหรือตอบโต้เท่าไรว่ะ ต่อให้อีนักอ่านคนนั้นมันจะ ปสด ด่าเอามัน ด่าระบาย ด่าตัวละคร แต่ถ้ามึงเต้นเย้วๆ ตบกะมัน ต่อให้มึงไม่ผิด ลุกส์มึงพังแน่ นักอ่านเลือกนักเขียนได้ แต่นักเขียนเลือกนักอ่านไม่ได้ เป็นกูกูจะอิกนอร์ ปล่อยแม่ง กูยังอยากคีปลุกส์บอกตรง

772 Nameless Fanboi Posted ID:Ibpc1qtG3W

>>767 กูขอบคุณทุกคอมเมนท์เลย ถ้าด่ามากปสด.ก็บอกว่ากูไม่พอใจ เสียใจ ตอบเมนท์นั้น แล้วก็ให้มันจบไป กูอยากทำงานต่อ มีนักอ่านน่ารักๆ อีกเยอะรอให้กูไปเต๊าะ ทำไมกูจะต้องมาเสียเวลาเสียสุขภาพจิตกับคนที่ไม่ได้ให้อะไรกับชีวิตกูด้วยล่ะ ไม่โลกสวยแต่กูรีบ งานกูเยอะ 555

773 Nameless Fanboi Posted ID:Xtgl0RDRgT

เอาไปขายได้ ไม่ผิดกฎหมาย แต่ผิดมารยาทไปหน่อย คือคนร่วมงานกันอะกุว่าจะทำอะไรก็อย่าถึงขั้นข้ามหน้าข้ามตากัน ทักไปคอมมิชขั่นปกได้ก็ทักไปบอกนักวาดซะหน่อยก็ได้เราจะเอาปกไปขายนะคฝ เพราะไม่ได้ใช้แล้ว อะไรก็ว่าไป คือใจเขาใจเราอะกุว่า ถ้าเราเป็นนักวาด ตั้งใจวาดให้คนนี้ แต่เห็นเขาเอาไปขายก็คงจึ้กในใจนิดนึง 555

774 Nameless Fanboi Posted ID:0uk82x41mH

>>766 +1 ซื้อมาเชิงพาณิชย์ก็ควรขายได้ดิ นักวาดเองก็ทำงานตามเงินปะวะ บรีฟให้เป๊ะจ่ายเงินกูให้ครบเถอะ กูสนแค่นี้แหละ ส่วนมึงจะเขียนนิยายเรื่องอะไรหรือเป็นนข.เซเลปมาจากไหนเรื่องของมึง
>>772 ถ้าไม่ถึงขั้นล่วงเกินละเมิดส่วนตัวมึงก็เมินไปเถอะ ใส่หน้ากากนางฟ้าตอบกลับอย่างนางเอกไปให้จบสวย ๆ อย่าสวมมาดนางร้ายไปไล่ตบบอกเลยว่าเรื่องยิ่งยาว

775 Nameless Fanboi Posted ID:C+9vo/nECu

>>767 แล้วแต่ อาจจะแล้วแต่ลุคมึงด้วย
กูว่าอาจจะมี choice คืออันแรกอยู่เฉยๆ กับอันที่สองทำตัวเปนนางเอกถูกรังแก อย่างหลังถ้าทำได้ดี ได้เอนเกจเมนต์ด้วยนะ 555555555

776 Nameless Fanboi Posted ID:4YrL+Tpun+

>>763 ถ้าขายขาดก็มีสิทธิ์ทำได้

แต่สำหรับนักวาดมึงจะเจอบัญชีหนังหมา นักวาดจะเอาไปบอกต่อในกลุ่มนักวาดว่าคนจ้างคนนี้ทำอะไรมาบ้าง ต่อไปมึงจะหานักวาดจ้างยาก จ้างแพง เจอบังคับข้อตกลงหรือต้องทำสัญญา และอื่นๆ

ใจเขาใจเราบ้างวะ บางเรื่องมันเอาแค่กฎหมาย ข้อตกลง ตัดสินไม่ได้ ก่อนจะทำบอกคนวาดก่อน

777 Nameless Fanboi Posted ID:s2bLHgJ032

ว่าบาป ถ้างั้นกูมีเงินเย็น กูไปล็อคคิวจ้างนักวาดดังๆ มาวาดให้กู เอาเป็นโพสท่ากลางๆคาร์กลางๆ ไม่เจาะจงมาก แล้วกูมาปล่อยขายบวกกำไรได้มั้ยวะ กูไม่ใช่นักเขียนนะ ไม่แน่ใจว่าเวลาบรีฟปกต้องเจาะลึกมากหรือลงดีเทลยิบยับหรือเปล่า แต่เห็นบางทีจะมีคนบ่นหานักวาดปกไม่ทัน
เวลาขายกูบอกนักวาดก่อนโดยไม่ต้องบอกราคาขายหรือจะให้บอกก็ได้ ถ้านักวาดโอเคกูทำได้ใช่มั้ยวะ
ที่ยกมานี่คือกูนึกถึงพวกชิงจดโดเมนชื่อเว็บน่ะ

778 Nameless Fanboi Posted ID:1/SFGVUQcy

พวกมึงๆ มันมีทางเป็นไปได้ไหมว่าเวลาเราถูกบล็อกจากเฟซบุ๊กไม่ให้โปรโมทโพสต์อะ เป็นเพราะมีคนเหลียดแล้วกดรายงานเพจ กูคิดมากไปป่าววะ กูตัวเล็กตัวน้อยมากเลยนะ ไม่น่าทำให้ใครเกลียดได้ หรือเป็นเพราะสาเห็ดอื่นก็เป็นได้เหมือนกัน

779 Nameless Fanboi Posted ID:XIOwZjk3te

>>777 จะทำก็ได้ แต่มันไม่ได้ขายกันง่ายขนาดนั้นหรอก นักวาดดังค่าตัวแพง นักเขียนที่เงินถึงแล้วจ้างปกบ่อยๆ เขามีคอนเนคชั่นกะนักวาดเขาอยู่แล้ว นักวาดบางคนบอกปิดคอมมิชแต่ทักไปก็หาคิวให้ได้นะถ้าเคยร่วมงานกันมาก่อน พวกตามกลุ่มพอราคาเกิน 5,000 ก็เม้นต์อย่างเดียว ไม่มีใครซื้อหรอก ยิ่งตัวท็อปๆ ปก 8,000-10,000+ ถ้าไม่ได้ส่งบรีฟเองใครจะอยากซื้อ

780 Nameless Fanboi Posted ID:XIOwZjk3te

>>778 มึงอ่านดีๆ กูว่าน่าจะติดปัญหาทางเทคนิคมากกว่า ช่วงหลังเฟสบุ๊กมีกฎกติกาเพิ่มเยอะ ต้องทำ two-factor authentication กลุ่มเป้าหมายอายุต่ำกว่า 20 ก็ไม่ได้แล้ว ต้อง edit target group ก่อนยิง ad

781 Nameless Fanboi Posted ID:Pi2/idx96D

>>777 ขายยาก คนที่ซื้อต่อส่วนมาก คือแบบถูกๆ คือซื้อไว้ก่อน อาจทิ้งด้วยซ้้ำ มันไม่ได้ง่ายๆ แบบนั้น อีกอย่างไม่ผิดกฎหมาย แต่ดูเสียมารยาทมาก เคยเห็นนักวาดคนหนึ่งบอก ห้ามจองเพื่อนำไปขายต่อ

782 Nameless Fanboi Posted ID:s2bLHgJ032

>>779 >>781 กูคิดง่ายไปเองแหละ เห็นบนๆบอกว่ามีขายต้อได้ นึกว่าตลาดจะมีสภาพคล่อง ถ้าว่าขายยากราคาไม่ดีงั้นคงไม่ลอง

783 Nameless Fanboi Posted ID:Wy8oh0HO/U

>>777 อย่าทำแบบนั้นเลยมึง มันดูตั้งใจหากินบนความสามารถคนอื่นเกินไปว่ะ ถ้าพวกคอมมิชมาแล้วไม่ได้ใช้อยากปล่อยกูยังพอเข้าใจนะ แต่ที่มึงคิดนี่มันออกแนวค้าขายแล้ว

784 Nameless Fanboi Posted ID:YH9HGA0A3h

KY โม่งมีวิธีฝึกจิตใจให้สตรอง ๆ มั้ยวะ กูเป็นว่าที่นข.สายใจบางอ่อนยวบ คิดว่าตัวเองน่าจะรับเม้นแรง ๆ ไม่ไหวว่ะ แค่อ่านรีวิวงานคนอื่นแล้วเขาโดนติแรง ๆ กูก็จะร้องไห้แทนแล้วอะ นี่ขนาดกูยังไม่เคยลงงานของตัวเองนะ
กลัวไปนู่นนี่ ถ้าแมสขึ้นมาก็กลัวโดนหาว่า overrated กลัวงานตัวเองไม่ดีพอ (ถึงอาจจะดีแล้วคนไม่ถูกจริตด้วยก็คงมี ลางเนื้อชอบลางยาอะนะ) รู้ว่าต้องเปิดใจรับทั้งกระแสบวกลบ แต่ใจกูอ่อนแอเหลือหลาย อาจจะดิ่งได้ง่าย ๆ ควรฝึกทำใจยังไงดีวะ ขอคำแนะนำโม่งรุ่นพี่

785 Nameless Fanboi Posted ID:m+mcL3E2ux

>>784 สายใจบางจิตใจอ่อนไหวง่าย ถ้าหักห้ามใจตัวเองให้ไม่อ่านคอมเม้นหรือรีวิวนิยายไม่ได้ ก็ต้องใช้ระยะเวลาเท่านั้นเป็นเครื่องพิสูจน์เพื่อน
จากคนใจบางเหมือนกัน หรือไม่ก็เขียนงานตัวเองไปแต่อย่าจดจ่อกับผลตอบรับมาก หันไปทำอย่างอื่นผ่อนคลายจิตใจควบคู่ดูหนังฟังเพลงอ่านนิยายการ์ตูนอะไรก็ว่าไป

786 Nameless Fanboi Posted ID:HbYB0t2iPy

กูคือคนที่ถามเรื่อง incest เองนะ ขอบคุณเพื่อนโม่งทุกคนมากเลยจ้าที่ช่วยมาตอบมุมมองชองแต่ละคน สงสัยคงต้องคิดใหม่จริงๆแล้วแหละ <3

787 Nameless Fanboi Posted ID:Pi2/idx96D

>>782 ขายไม่คล่อง ขายต่ำกว่าทุนทั้งนั้นแท่าที่เห็น บางคนขายครึ่งราคาเลย แบบงาน Lady ที่เห็นขายอยู่แวบๆ ขายครึ่งหนึ่ง แอบอยากซื้อไว้เหมือนกัน แต่กูช็อตช่วงนี้พอดี

788 Nameless Fanboi Posted ID:93mSxLNl4B

โม่ง นิยายโรมานซ์ที่ลงทั้ง ดด และ รอร แต่ใน ดด ใส่ว่า cut เวลาวิดพื้นกันนี่ผิดมั้ยนะ ไม่ได้ชี้ทางไปต่อที่ไหนไว้ด้วย แต่ถ้าเสิร์ชกุเกิ้ลคนก้รุ้ว่าใร รอร มีฉากเต็ม

789 Nameless Fanboi Posted ID:Pi2/idx96D

>>788 ไม่ผิด เคยเห็นนักเขียนหลายคนทำ กูก็ทำอะ แต่กูบอกเขาว่าฉบับเต็มใน raw แต่ว่าไม่ใส่ลิงค์นะ ให้เขาไปเสิร์ชในแอพ raw เอาเอง

790 Nameless Fanboi Posted ID:xMpCSI9TzU

>>789 เออ แล้วพวกตัวปังๆ ที่ลงฉากเรทใน ดด ไม่ได้ กูเห็น ฟค เค้าก็ยังเยอะอยู่ เค้าแค่แอดตรงนี้ แต่ไปตามอ่านฉากเรทที่เวบอื่นกันใช่มะ แล้วพวกติดเหรียญขายใน ดด ห้ามมีฉากล่อเป้าเลย แสดงคนที่ได้ตังจากเวบนี้เยอะๆ ก็ไม่ใช่แค่นิยายเรทอย่างเดียว ?

791 Nameless Fanboi Posted ID:Pi2/idx96D

>>790 พวกที่ได้จาก ดด คือพวกนิยายยาวๆ ที่ขยันอัปน่ะ เท่าที่สังเกต พวกสายแฟนตาซี จีนโบ

792 Nameless Fanboi Posted ID:INmvGuMW.s

ขอ ky หน่อย มีโม่งที่ปกติแจ้งตารางวันอัปนิยายไว้มั้ย เวลามึงเขียนไม่ทันอัปตามวันที่บอกนี่มึงมาแจ้งคนอ่านป่าวอ่ะ ส่วนตัวกูอยากแจ้งเพราะไม่อยากหายไปเฉยๆ แต่กูก็อัปช้าบ่อยกลัวจะเหมือนกูจงใจดันนิยายตัวเองขึ้นหน้าอัปเดต ไม่รู้คนที่ตามอยู่จะรำคาญโนติมั้ยด้วย

793 Nameless Fanboi Posted ID:YH9HGA0A3h

>>792 แจ้งในเพจ/ทวิตสิ แล้วบอกให้ไปตามเพจกันเอง

794 Nameless Fanboi Posted ID:INmvGuMW.s

>>793 กูเคยแจ้งไปแล้วนะแต่ไม่มีคนมาตามเลย ครั้นจะให้ประกาศกับเพจร้างๆ คนไลค์เกือบ 0 นี่กูก็แอบเขินๆยังไงไม่รู้

795 Nameless Fanboi Posted ID:1/SFGVUQcy

>>794 5555555 เหมือนกูเลย แต่กูก็ยังแจ้งนะ เขินแหละแต่ถือว่าสบายใจกว่าที่แจ้งแล้ว ไม่รู้สึกผิด เวลาเข้าฟน้าแรกนิยายเขาก็เห็นโพสต์ตามเพจ ตามทวิตมึงเองแหละ

796 Nameless Fanboi Posted ID:1/SFGVUQcy

>>794 บางทีเขาอาจจะดองมึงอยู่ก็ได้ นอมึงอัปเยอะๆ ไม่ได้ตามติดเป็นเจ้ากรรมนายเวรขนาดนั้น อันนี้กูสังเกตจากของตัวเองนะ แจ้งอะไรเหมือนคุยกับผี (คือ ไม่ได้ว่านักอ่านนะ เปนียบเทียบให้เห็นภาพ) บางทีเขาไม่ได้สนใจจริงๆ รออัปจบแล้วค่อยโผล่มา ก็เจอบ่อยเลยแหละ ระหว่างทางคือเงียบงัน วังเวง

797 Nameless Fanboi Posted ID:INmvGuMW.s

>>795 >>796 ฮือ ถ้างั้นกูก็ประกาศแบบเหงาๆของกูไปละกัน ขอบใจมึงมากที่ช่วยปลอบใจ 555

798 Nameless Fanboi Posted ID:Xa2eH4NiZ2

ไปส่องอันดับนิยายขายดีมา สรุปแล้วนิยายโรมานซ์เน้น NC ก็คือหมวดที่ขายดีที่สุดใช่ปะ หรือกูควรจะไปทางนั้นวะ ที่เขียนอยู่คนอ่านก็น้อย ขายก็ไม่ดี นักอ่านชมก็จริง แต่คุณภาพก็อาจจะไม่ได้สำคัญอะไรมากมายรึป่าวนะ

799 Nameless Fanboi Posted ID:3.FXsPpQSC

>>798 มึงก็ลองเลยสิ เปิดอีกนามปากกาหนึ่ง เพราะอาจจะมีนักอ่านที่เขาชอบความใสและตามนามปากกาเดิม กูเขียนทั้งใสๆ และไสยๆ 555 ฝั่งใสๆ ของกูยังขายดีสุดนะ ยอดรวมน่ะ แต่ไม่รู้ว่าไสยๆ จะแซงวันไหน แต่นักอ่านก็ชอบแนวไสยๆ ที่เขียน แบบขอให้เขียนอีก แต่ใจกูมันบริสุทธิ์ผุดผ่องไง กูชอบใสๆ มากกว่า ไสยๆ นานๆ มาที ไม่มาถี่ๆ 5555

800 Nameless Fanboi Posted ID:vPQNI3LTJ8

มึงกูรู้สึกว่า บางทีพวกที่หน้าใหม่ แล้วนิยายไม่แมส ยอดตามน้อย ไม่มีเม้นไรเงี้ย คือ ปกติที่จะท้อชะ แต่นักเขียนที่นิยายแมสแล้ว ยอดทะลุล้าน ดัง ปังไม่ไหว แต่พอเวลาผ่านไปอะ ก็ไม่ใช่จะทำได้ทุกเรื่องให้แมสนะ อันนี้กูว่าท้อกว่า มึงคิดดูว่าจากที่ไม่ต้องเรียกร้องให้ใครมาอ่าน แต่งสบายๆ ไม่ต้องทำมาร์เก็ตติ้งมากมาย วันนึงกลับต้องมาพยายามพอๆ กับหน้าใหม่อะ //ไม่ได้มีประสบการณ์ส่วนตัวนะ ไม่เคยแมส แต่เห็นโพสต์นข.บางคนกูรู้สึกสะท้อนใจ
บางทีแม่งก็เป็นแบบนี้แหละชีวิต แต่การแต่งนิยายให้ตัวเองสนุก ผ่อนคลาย เพราะใจรักจริงๆ อันนี้ก็คือนิพพานแล้วพวกมึง ยอดหียอดแตดอะไรก็ไม่ได้อยู่ยงคงกะพัน อาจทำให้สบายไปชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น เจริญพร //กูไม่ใช่พส. ไพรวัลย์นะบอกก่อน เอาอะไรมาใช่ สภาพ

801 Nameless Fanboi Posted ID:9Ln4bJe.Za

>>800 กูก็เคยเห็นเหมือนกันนะ คนนั้นแต่งมาหลายเล่ม ออกกับสนพเล็กๆ มาก่อนแล้วพอมากลางๆ คือได้ยอดวิวหลักล้าน ได้ออกกับสนพใหญ่ แต่สุดท้ายได้ออกแค่เรื่องเดียวก็ออกมาทำมือเองแล้วก็ไม่เคยปังอีกเลย เขียนมาเป็นสิบเรื่องปังแค่เรื่องนั้น ตอนนี้น่ะเหรอขนาดแค่ลงตอนใหม่ในเว็บยังต้องยิงแอดให้คนไปอ่านเลย (แล้วก็ไม่ได้ผลด้วย) นี่ยิ่งกว่าพวกหน้าใหม่แล้ว ชีวิตก็เป็นยังงี้แหละ มีขึ้นมีลง คนที่ยังไม่เคยปังก็มีความหวังได้ว่าวันหนึ่งจะได้ยอดล้านวิว ส่วนคนที่เคยดังเคยปังมากแล้วดับแล้วดับเลย เขียนอะไรก็ไม่ปังอีกแล้วนี่แหละน่าเศร้าใจ

802 Nameless Fanboi Posted ID:Mz7uJcXQco

>>801 คนไหนอะ ใบ้หน่อย 555

803 Nameless Fanboi Posted ID:lhrPjSrqDS

>>801 ใบ้หน่อย กูอยากตามเพื่อให้กำลังใจตัวเองว่ามันมีขึ้นมีลง ไม่ขึ้นเลยอาจจะดีกว่าด้วยซ้ำ 55

804 Nameless Fanboi Posted ID:7xrd56Ape1

ฟังแล้วกูไม่กล้าลาออกจากงานประจำเลย อาจอดตาย แต่งานประจำก็ทำให้เหมือนประสาทจะกินอะ รู้สึกว่าถ้าทำต่อไปอาจจะไปโดดน้ำตาย😂

805 Nameless Fanboi Posted ID:VH3To8Gtcd

>>804 อย่าคิดลาออกจากงานมาแต่งนิยายเลยมึง ถ้ามึงไม่แมสจริงระดับขาย 24 ชม. ได้ 1000-5000 โหลดน่ะนะ รายได้นักเขียนไม่มั่นคง บางเรื่องได้ บางเรื่องไม่ได้ กูเห็นนักเขียนคนนึงบอกพ่อแม่ที่ชอบว่านักเขียนไส้แห้ง กีดกันลูก ปิดกั้นลูกเป็นพ่อแม่ที่แย่ กูอยากสะกิดไหล่จังว่าตัวเองติดลมบนแล้วถึงพูดได้ แต่คนที่มันไม่แมสจะขายฝันให้เค้าน่ะสิ กว่าจะปังไม่ใช่ง่าย นักเขียนบางคนอยู่เป็นสิบปี บางคนชื่อแค่เสมอตัว ยังไม่ปังเลย พอสำนักพิมพ์เจ๊งก็ต้องเริ่มใหม่ ถ้ามีแฟนคลับก็ไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าไม่มีรอยัลตี้แฟนทำไงอะ

806 Nameless Fanboi Posted ID:.bY6lLdowt

>>805 เหนด้วยมาก แบบมันขึ้นๆลงๆอะ ไม่มีอะไรมาประกันได้ว่าเรื่องต่อไปจะดังเหมือนเดิม
กุเคยได้รายได้จากการเขียนเท่าเงินเดือนเลย ตอนนี้เดือนละสองพันก็มี ยิ่งช่วงนี้หรออ ยอดลดลงเยอะมากกกก

807 Nameless Fanboi Posted ID:SXop/VdbKE

>>804 ถ้ามึงเกลียดงานประจำจริงๆก็ลาออกเถอะ เปลี่ยนบริษัทไม่ก็เปลี่ยนสายงานเอา กูเคยเครียดกับงานประจำมากๆจนเป็นซึมเศร้า อยากตาย รู้สึกไร้ค่ามาก ไปหาหมอกินยาก็เหมือนจะดีขึ้นเป็นพักๆ จนลาออกอะ อห โลกสดใสขึ้นทันตา ชีวิตกุก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นนี่หว่า 55555555555

808 Nameless Fanboi Posted ID:VH3To8Gtcd

เรื่องงานประจำใครๆ ก็เบื่อแต่อย่าตัดช่องน้อยลาออกมาแต่งนิยายอย่างเดียว กูเตือนไว้ก่อน กูเคยมาแล้ว แต่งไปก็ไม่ปังก็ต้องกลับไปทำงานประจำ ถ้าขายนิยายไม่ได้ยังมีเงินเดือน ไม่ชอบงานเก่าก็หางานใหม่ แบบ >>807 มันบอก แต่ช่วงนี้กูรู้งานแม่งหายาก ทนๆ ก่อน ความไม่มีแดกน่ากลัว อย่าหลงเชื่อคำสวยหรูนักเขียนดังที่แต่งอะไรก็ขายได้ พวกนั้นมองจากข้างบนลงมาข้างล่าง ตัวเองผ่านจุดนั้นแล้ว บอกอยากให้กำลังใจเพื่อนนักเขียน ทั้งที่ตัวเองนั่งๆ นอนๆ มี passive income แต่งนิยายแก้เซ็งก็มี กูเชื่อว่าสักวันเราก็ต้องทำได้แหล่ะแต่ไม่ง่าย ต้องอาศัยหลายอย่าง ใครจะด่ากูขี้แพ้ก็แล้วแต่ ยกตัวอย่างนักเขียนดังบ่นท้อยังมีคนโอ๋ แต่นักเขียนโนเนมแบบกูบ่นบ้างโดนด่าสำออย เอาแค่นี้ก็ต่างกันแล้ว อย่าพูดเรื่องขายนิยายเลย

809 Nameless Fanboi Posted ID:lLIQv7u9SN

อย่าหาทำเด้อ เรื่องออกจากงานประจำน่ะ นักเขียนมีเป็นพันเป็นหมื่นที่แข่งกันอยู่ในสนามนี้ ถ้าไม่ใช่ตัวท๊อปที่ออกงานไหนมาก็มีฐานแฟนคลับพร้อมเปย์ กอดงานประจำไว้แน่นๆ ก่อน เดือนไหนขายนิยายไม่ได้ก็ยังมีเงินเดือนไว้กินอยู่

810 Nameless Fanboi Posted ID:lhrPjSrqDS

เอาจริงๆ พวก passive income ของนักเขียนดังมันมากขนาดนั้นเลยเหรอ ของกูเงินเดือนที่คาดหวังคือเดือนละแสน++ เลยคิดว่าอาชีพนักเขียนไม่มีวันไปถึงจุดนั้นได้ ยังไงก็ไม่ลาออกมาเขียนนิยายแน่ๆอ่ะ

811 Nameless Fanboi Posted ID:oE0fm4pYpz

>>810 พวกท็อปๆ ได้กันหลายแสนนะต่อเดือน

812 Nameless Fanboi Posted ID:U3qsBZz9Wz

>>810 ยอดในรอรมันอาจจะดูยาก ลองไปดูยอดเหรียญรวมของพวกตัวท้อปในธัญแล้วคำนวณกลับเปนเงินดู มันอาจจะไม่ได้อัพเดทมากอะนะ แต่น่าจะพอเหนภาพรวมว่าจำนวนเงินกี่หลักได้
แต่ก็มีคนไปถึงจุดนั้นไม่กี่คนหรอก เทียบกับจำนวนคนทั้งหมดอะนะ

813 Nameless Fanboi Posted ID:UIPbAfC9KR

กูว่าไม่เห็นต้องถึงเดือนละแสนเลย แค่ได้เงินเท่ากับเงินเดือนที่ได้ประจำก็ทำเป็นอาชีพได้ละนะ เหมือนย้ายงานไง เวลาว่างจากการเขียนก็พักผ่อน ศึกษาการลงทุน สำหรับกูคิดว่าการเสียเวลาเดินทางไปนั่งแกร่วในออฟฟิศวันละ 8-10 ชม. มันเสียเวลาชีวิตและสุขภาพจิตมากกว่าอยู่บ้านเขียนนิยายน่ะ

814 Nameless Fanboi Posted ID:hO2wegicKH

>>813 ปัญหาคือความไม่แน่นอนเว้ย เดือนนี้ได้หลักหมื่นเดือนหน้าได้หลักพันงี้ งานประจำมันมีรายได้แน่นอนอะว่ากูได้เท่านี้ทุกเดือนแน่ แล้วมีสวัสดิการรองรับด้วย แต่นักเขียนไม่ มีแค่พวกแมสๆหรือมีสนพ.อุ้มนั่นแหละถึงจะอยู่ได้ ซึ่งก็แค่ยอดภูเขาน้ำแข็ง การจะออกมาเป็นนักเขียนเต็มตัวคือมึงต้องทำรายได้ให้ได้ตกเดือนละแสนต่ำ ๆ นั่นแหละ เพราะแค่หลักหมื่นมันไม่พอจริง ๆ เขียนนิยายก็ต้องใช้ทุนมะ ตอนอยู่งานประจำมึงเป็นแค่แรงงาน แต่พอออกมาเป็นนักเขียนมึงคือเจ้าของกิจการอะ ถ้ากิจการล้มมึงเป็นแรงงานก็แค่เปลี่ยนงานใหม่ แต่ถ้าเป็นเจ้าของกิจการมีแค่กัดฟันพยุงหรือหมดตัวนั่นแหละ

815 Nameless Fanboi Posted ID:9Ln4bJe.Za

กูเคยเขียนนิยายทั้งวันแล้วยังไม่ชอบเลย รู้สึกว่าขาดแรงบันดาลใจ หาทรัพยากรมาเขียนยากกว่าออกไปไหนมาไหนแล้วมีสังคมอะ อยู่บ้านเขียนอย่างเดียวแล้วมันจะพายเรือวนในอ่าง ยกเว้นว่าจะเขียนนิยายเน้นฉากเอนซีที่คนอ่านพร้อมเปย์อยู่แล้ว แบบนี้อะอยู่บ้านได้ ปั่นๆ ฉากเอนซีมาเรื่อยๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าสักวันหนึ่งคนอ่านจะไม่เบื่อกับความซ้ำซากจำเจไปก่อน นักเขียนบางคนที่อยู่แต่บ้านเขียนอย่างเดียวนี่เสี่ยงมีสภาวะซึมเศร้าด้วยนะ ส่วนเรื่องคนที่ได้เดือนละหลักแสนมันก็มี ดูง่ายๆ ในธัญวลัยนั่นแหละ แต่พวกนั้นคือขยันออกงาน สม่ำเสมอ สร้างฐานตัวเองมาเรื่อยๆ เหมือนกัน สรุปคือทุกคนก็เคยนูกูมาก่อน ทุกคนเคยเริ่มจาก 0 พวกมึงทำอะไรไม่ได้หรอกนอกจากเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้แล้วสะสมฐานแฟนตัวเอง ส่วนพวกที่ประสบความสำเร็จจนลืมไปหมดแล้วว่าเคยผ่านความยากลำบากอะไรมาคือปล่อยเขาไป เขาอยู่ในลู่ของตัวเองแล้ว เราก็อยู่ในลู่ของเราเหมือนกัน นักอ่านอะเค้าก็หานิยายสนุกๆ อ่านไปเรื่อยๆ ทั้งนั้น ถ้านักเขียนหน้าใหม่เขียนได้สนุก มันก็ต้องมีโอกาสบ้างที่นักอ่านจะมาเจอแล้วพูดกันปากต่อปาก ไม่งั้นป่านนี้ก็คงมีแค่นักเขียนรุ่นเก่าสิที่ขายได้

816 Nameless Fanboi Posted ID:pctEsDZpNi

จริงๆ คิดว่าออกมาเขียนอย่างเดียวได้นะ แต่ไม่ใช่ในยุคเศรษฐกิจเหี้ยแบบนี้อะ

817 Nameless Fanboi Posted ID:UIPbAfC9KR

>>814 กูหมายถึงเฉลี่ยมั้ยล่ะ ปกติเวลาขายนิยายมันก็ได้ไม่เท่ากันทุกเดือนอยู่แล้ว เดือนไหนปล่อยเล่มใหม่ยอดก็พุ่งกว่า คือถ้าเฉลี่ยทั้งปีได้สัก 4-5 แสนหลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดกูว่าจะพิจารณาออกมาทำงานประจำก็ไม่ผิดอะ ไม่ได้บอกให้เดินดุ่มๆ ออกมาเลย แล้วเขียนนิยายมันก็ไม่เหมือนเป็นเจ้าของกิจการซะทีเดียวที่ล้มแล้วล้มเลยแบบมึงว่า กูว่าลงทุนน้อยสุดแล้วด้วยซ้ำ พรีออเดอร์ก็รับทุนมาก่อน ขายผ่านช่องทางอื่นก็ไม่จ่ายอะไร รอเขาหัก ส่วนต้นทุนในชีวิตประจำวันกูว่าทำงานอะไรก็มีอยู่แล้วนะ

เรื่องเก็บตัวอยู่ในห้องนานๆ แล้วหัวตัน อันนี้ฟรีแลนซ์ได้เปรียบกว่างานประจำด้วยซ้ำ คือพอตันปุ๊บมึงก็จองตั๋วเครื่องบินไปหาข้อมูลได้เลย ไม่ต้องเช็กวันลา จะอ่านหนังสือดูซีรีส์ก็มีเวลาเยอะกว่าคนอื่น เรื่องเข้าสังคมก็เข้าได้ เวลาเลิกงานก็ออกไปเจอเพื่อนฝูงสิ ไม่ต่างอะไรกับ wfh หรอก ส่วนเรื่องสวัสดิการอันนี้อาจจะเสียเปรียบพนักงานบริษัทก็จริง แต่ถ้ามีเงินซื้อประกันดีๆ ก็ไม่ต่างมากอะ พนักงานบริษัทหลายคนก็พึ่งประกันเอกชนเหมือนกัน

ที่ต่างชัดคือคนเขียนงานฟูลไทม์มันออกงานได้ถี่กว่าคนควบหลายงาน รายได้ก็เพิ่มขึ้นได้ ถ้ามึงเขียนนิยายถึง 20 ปก passive income ต่อเดือนก็เท่าเข้างานปกติละ

ก็แล้วแต่มุมมองนะ แต่พวกตัวท็อปของห่วงโซ่เขาก็ฟูลไทม์กันทั้งนั้น มันแสดงถึงความทุ่มเทอะ คนทำเป็นอาชีพกับทำเป็นงานอดิเรกมัน generate ผลผลิตออกมาไม่เท่ากันอยู่แล้ว

818 Nameless Fanboi Posted ID:9Ln4bJe.Za

พูดงี้แสดงว่าไม่เคยเห็นคนบ่นว่าเบื่อ wfh อะดิ 5555555 ส่วนตัวท็อปของห่วงโซ่บางคนก็มีงานประจำทำ มันไม่เกี่ยวว่าทุ่มเทไม่ทุ่มเท คนลาออกมาเขียนอยู่บ้านหลายคนก็ไม่ประสบความสำเร็จ ทำเป็นอาชีพไม่ได้แปลว่าจะปัง ฟูลไทม์ออกงานได้ถี่ก็จริงแต่บางเรื่องก็ขายไม่ค่อยได้ ส่วนพรีออเดอร์ บางคนยอดจองสักร้อยสองร้อยเล่มก็ขาดทุนเข้าเนื้อตัวเองก็มี การเขียนนิยายอย่างเดียวมันต้องคิดอะไรให้ลึกมาก พอยต์ที่พูดกันคือถ้าวันหนึ่งเกิดไม่ปังขึ้นมาจะทำยังไง เขาก็เลยอยากให้เกาะงานประจำไว้ก่อนแล้วเขียนนิยายเป็นอีกงานหนึ่ง นักเขียนอะมันไม่รู้หรอกว่าวันหนึ่งจะมีคนอ่านเยอะเท่าเดิมมั้ย นี่คือความเสี่ยงของนักเขียน แต่ถ้าใครจะพอใจกับการขึ้นๆ ลงๆ เป็นนักเขียนฟูลไทม์แต่เข้าใจว่ารายได้มันไม่ได้เท่าเดิมทุกเดือน พอใจกับการเฉลี่ยบริหารเงินให้ไปรอดนั่นก็เรื่องของเขา เขาทำได้ เขาพอใจ แล้วเรื่องฟรีแลนซ์อะ ฟรีแลนซ์บางคนก็ไม่ได้มีเพื่อนฝูงแบบที่มึงว่าหรอก บางคนก็อยู่คนเดียวกับบ้านจนกลายเป็นโรคซึมเศร้าต้องกลับออกไปทำงานที่มีเพื่อนมีทีมคอยคิดด้วยกัน กูไม่รู้นะว่ามึงได้ตัวอย่างนักเขียนที่อยู่กับบ้านแล้วชีวิตดีมาจากไหน นักเขียนที่เขียนนิยายแบบฟูลไทม์แล้วชีวิตดีก็มี แต่ก็ยังมีนักเขียนที่ลาออกมาจากงานประจำแล้วโพสต์อยู่บ่อยๆ ว่าเดือนนี้ต้องกินมาม่าหรือปลาดิบดี เพราะงั้นมึงเอาการเป็นนักเขียนพาร์มไทม์กับฟูลไทม์มาแบ่งแยกความทุ่มเทไม่ได้หรอก งี้นักเขียนที่ทุ่มเท = นักเขียนที่ลาออกจากงานประจำมาเขียนนิยายหรอ

819 Nameless Fanboi Posted ID:jhiLYcbLWF

เอางี้นะ แนะนำในฐานะคนที่ออกจากงานประจำมาเขียนหนังสืออย่างเดียวและอยู่ได้โดยที่ไม่ต้องขึ้นไปถึงตัวท้อป ยอดพีระมิด คือก่อนออกจากงาน มึงเขียนงานก่อนให้ได้ฐานประมาณนึงก่อน เอาแค่กลางๆ ก่อนก็ได้ ไม่ใช่ออกทั้งที่ยังไม่เคยเขียนงานเลย ช่วงเขียนก็ทำการตลาดด้วย เปิดเพจไว้คุยกับนักอ่าน อัปเดตงานลงเว็บ อัปสม่ำเสมอ ถ้าลงขายนิยายได้เรื่อยๆ เฉลี่ย 2-3 เดือนต่อเรื่องได้สักระยะนึงค่อยออกจากงาน เขียนให้มันเขียนรายได้ก่อน ถ้าทุนมึงไม่มี มึงไม่ต้องทำเล่มก็ได้ ลงแค่ ebook ถ้ามึงอยากทำจริงๆ มันก็ทำได้ อาชีพไหนก็ต้องพยายามทั้งนั้นแหละ จะรอแค่ให้โอกาสมาถึงมันไม่ได้หรอก พวกนักเขียนตัวท้อปตัวอะไร เขาก็เริ่มจากศูนย์กันทั้งนั้นแหละมึง มัวแต่ตัดพ้อโชคชะตา กุไม่แมส กุไม่ปัง มันก็ไม่แมสไม่ปังอยู่นั่นแหละ

820 Nameless Fanboi Posted ID:jhiLYcbLWF

>>818 นักเขียนที่เขียนงานอยู่กับบ้านชีวิตดีเยอะมาก ถ้ามึงได้ลองแอดเฟรนด์เฟสพวกนี้ซักหน่อย มึงจะเปลี่ยนความคิด กุบอกเลย สิ่งที่มึงพูดสำหรับคนที่คลุกคลีในวงการเขียนคือมองจากมุมข้างนอกหมด เหมือนไม่ได้เข้ามาสัมผัสข้างในจริงๆ แตะแบบผิวๆ เอาจริงๆ มึงไม่ต้องถึงขั้นเป็นตัวท็อปติดป้ายแดงทุกเรื่องหรือได้ยอดออฟเดอะเยียร์ แค่เขียนงานแบบชิลๆ ยอดเฉลี่ยต่อเดือนก็สองสามหมื่นแล้ว แต่ต้องออกงานต่อเนื่องซักระยะ พวกนี้แค่ passive income นะ ไม่รวมที่ออกเล่มใหม่แล้วยอดจะพุ่ง อยู่บ้านเขียนงานอย่างเดียวจนเป็นซึมเศร้านี่คือเว่อร์แล้ว คนจะเป็นซึมเศร้าทำงานนอกบ้านมันก็เป็นมึง นักเขียนฟูลไทม์ชีวิตไม่ได้เหงาขนาดนั้น กุก็เห็นเขาดูซีรี่ส์ อ่านหนังสือ ไปเที่ยว เลี้ยงหมา เลี้ยงแมว เดินตลาด หาไอเดียมาเขียนหนังสือ กุนี่ออกจากงานมาเขียนฟูลไทม์แล้วสบายมาก สุขภาพจิตดีขึ้นเยอะ ชีวิตเป็นของตัวเอง ไม่ต้องไปประสาทแดกกับคนที่ทำงาน ตอนทำงานนะอิห่า กว่าจะกลับถึงบ้านหมดอารมณ์เขียนนิยายแล้ว เหนื่อย เครียด เอาอารมณ์ไหนมาฟิน 5555

821 Nameless Fanboi Posted ID:9Ln4bJe.Za

คือคนอื่นเขารู้อยู่แล้วในมุมมองว่าถ้าลาออกจากงานประจำมาเขียนนิยายก็ต้องบริหารนั่นนี่ให้ดีๆ เขาเลยมาพูดในมุมว่าถ้าไม่มั่นใจก็ต้องเอางานประจำไว้ด้วย เขาไม่ได้แอนตี้การออกมาเป็นนักเขียนฟูลไทม์ ส่วนที่มึงแนะนำมาคนอื่นก็น่าจะรู้กันหมดแล้ว กูแค่อยากจะบอกว่าในเงื่อนไขของคนแต่ละคน สิ่งที่มึงว่ามามันไม่ใช่ทั้งหมดที่เขาจะทำได้ ทุกคนมีทางเดินของตัวเอง นักเขียนบางคนเขียนกี่เรื่องก็ได้ออกกับสำนักพิมพ์ทุกเรื่องเขายังไม่ลาออกจากงานประจำเลย เพราะงั้นเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องของใครของมัน ขอบใจมากที่มาแชร์

822 Nameless Fanboi Posted ID:9Ln4bJe.Za

>>820 มึงไม่เห็นไม่ได้แปลว่าไม่มี 555 กูก็เป็นเพื่อนกับนักเขียนหลายคนเหมือนกันในเฟซอะ เพราะงั้นอย่าคิดในมุมตัวเองคนเดียว

823 Nameless Fanboi Posted ID:jhiLYcbLWF

เอาเถอะแล้วแต่มึงละกัน กอดงานประจำไว้ให้มั่นละกันนะ กุเป็นกำลังใจให้ 5555555

824 Nameless Fanboi Posted ID:A+MhPJMTKy

>>817 ถ้ามันง่ายขนาดนั้นคงมีนักเขียนเศรษฐีใหม่ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดอะ มึงเอามาจากไหนว่าเป็นนักเขียนลงทุนง่ายไม่เสียเยอะ ทุนที่ว่ามันไม่ได้หมายถึงแค่เงินนะ หมายถึงแรงงาน เวลา การรตลาด ฐานลูกค้า สารพัดสิ่งที่จะช่วยขายนิยายมึงออกอะ ไม่ใช่มีเงินก้อนนึงก็ปริ้นเล่มออกมาได้ ไม่ใช่แค่ทำอีบุ๊คขายอย่างเดียวก็อยู่ได้ ถ้ามึงเป็นนักเขียนนูกูยังไงก็ไม่รอด แล้วค่าเฉลี่ยมันเชื่อได้ขนาดนั้นเชียว ปีนึงมี 12 เดือน สมมุติสามเดือนแรกมึงปังมากขายได้เดือนละล้าน แล้วเดือนต่อมายอดลดลงเรื่อย ๆ จนเหลือแค่หลักหมื่น พอรวมยอดทั้งปีเฉลี่ยเดือนละแสน มองภายนอกคือน่าจะรอดนะ แต่ถ้าผ่านเองจริง ๆ คือกูรอดแค่สามเดือนแรกไง เก้าเดือนที่เหลือแทบจะกัดเกลือกิน เงินสามล้านแม่งหมุนใช้จนไม่เหลือแล้ว
อย่าไปเชื่อพวกไลฟ์โค้ชมากที่เอาคนเขียนเล่นๆเขียนเรื่องแรกแล้วปังมาชวนเชื่อว่าเนี่ย ๆ นิยายใคร ๆ ก็เขียนได้ขายง่ายด้วย ไม่ต้องมีความรู้มากก็เขียนได้ขายดี งานสบายแค่นั่งเฉย ๆ พิมพ์คอมงก ๆ จนจบเล่มก็หาเงินได้สบาย ไม่ต้องเหนื่อยเหมือนงานประจำ เป็นนายตัวเองไม่ต้องฟังคำสั่งใคร งานสบายรายได้ดีแบบนี้ใครก็ทำได้นะจ้ะ มาทำกันเถอะ ๆ
กูว่ามึงไปติดกับดักชวนเชื่อแบบงี้ี้แหง ก่อนจะไปถึงขั้นนักเขียนมืออาชีพทำฟูลไทม์ มึงลองเป็นนักเขียนมือสมัครเล่นที่แต่งจนจบได้ภายในหนึ่งเดือนหรือปีโดยไม่ดอง ไม่ตัน ไม่อู้ ไม่หมดไฟ ขยันเขียนเรื่อย ๆ ออกงานทุกวัน มีคุณภาพด้วย ไม่เอาแบบภาษากูเกิ้ลแปล ไม่เอาแบบคำผิดบานเบอะ ไม่เอาแบบเรียบเรียงเนื้อหาแย่กว่าเด็กเขียนเรียงความ ถ้ามึงทำทั่งหมดได้ เส้นทางเศรษฐีหน้าใหม่อยู่ไม่ไกลแล้ว สู้ๆนะโม่ง

825 Nameless Fanboi Posted ID:+ndD4sawAi

เหมือนกุนั่งดูนักเขียนที่ประสบความสำเร็จเถียงกะอีกกลุ่มนึงอ่ะ ขอบใจหลายคนที่แนะนำเรื่องออกจากงานมาเขียนฟูลไทม์นะ กูพอจะมองเห็นความหวังแล้ว ช่วงนี้ก็คงต้องเขียนงานตุนไว้ก่อน

826 Nameless Fanboi Posted ID:HBO/o9Gd3l

>>824 ถ้ามึงเป็นงี้ก็อย่าออกมาเขียนนิยายขายเลยเหอะ ไม่รอดจริงๆ นั่นแหละ ทำงานประจำไปนั่นแหละดีแล้ว 5555

827 Nameless Fanboi Posted ID:lo4yAo.jkk

>>824 อะไรของมึงเนี่ย ก็กูนี่แหละนักเขียนฟูลไทม์ 55555 มาแนะนำอะไรกูคะโม่ง กูเนี่ยประสบการณ์จริง ส่วนมึงอะนั่งเทียนมโนล้วนๆ คือกูก็พูดจากมุมของกูไงว่ามันอยู่ได้จริง ไม่ได้ลำบากอะไร แฮปปี้ดี กูเป็น introvert ก็ไม่โหยหาการเข้าสังคมอะไรมากมายอยู่แล้ว แต่ถ้ามึงเขียนหนังสือได้ปีละสามล้านแล้วบอกไม่พอกินกูก็ไม่เถียงละดีกว่า ได้ปีละสามล้านบอกกัดแกลบกินคืองง มึงเป็น 10% ของประเทศนี้แล้วนะรายได้ขนาดนั้นอะ 555 ปีเดียวสามล้านหมุนไม่ได้ไม่ใช่ความผิดงานละ มึงต้องทบทวนการใช้ชีวิตของมึงแล้ว

828 Nameless Fanboi Posted ID:lo4yAo.jkk

>>824 อีกอย่างปีละสามล้านแปลว่าเฉลี่ยเดือนละ 250,000 นะโม่ง ไม่ใช่เดือนละแสน ไม่ว่างานประจำของมึงคืออะไร ขออย่าให้เกี่ยวข้องกับตัวเลขละกัน

829 Nameless Fanboi Posted ID:ru/HXqbiJ.

>>822 กุว่ามึงนั่นแหละคิดแต่ในมุมตัวเองคนเดียว แคบๆ ด้วย ไอ้พวกที่เข้ามาตอบเขาก็มาบอกอีกมุมนึงว่าออกมาเขียนฟูลไทม์มันอยู่ได้ ไม่ได้เดือดร้อน ชีวิตแฮปปี้ดีก็มีเยอะแยะ

830 Nameless Fanboi Posted ID:f1xC8iY1tb

>>827 กูก็ฟูลไทม์ว่ะ ไม่ได้นั่งเทียนเขียนแบบที่มึงเพ้อ กูพูดจากประสบการณ์เองแบบกว่าจะโตมาได้ขนาดนี้ กูเจียดเวลาเขียนตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมจนมาทำงานประจำได้สามปี พอสะสมฐานแฟนคลับได้มีสนพ.ประจำถึงออกมาทำเต็มที่ บางทีมึงอาจจะเริ่มต้นไม่เหมือนกูเลยชิวซะเหลือเกิน ไม่ฟลุคขายงานแรกก็แมสมากทำมือเองสวย ๆ ก็คงได้สนพ.คู่บุญมาแต่เริ่ม ซึ่งกูก็ยินดีด้วยที่มาถึงขนาดนี้ได้
กูแค่แชร์ประสบการณ์ว่าไม่ใช่พอมาเป็นนักเขียนฟูลไทม์ทุกคนจะมีชีวิตดี้ดีอย่างที่โม่งมันเห็นแล้วยกมาเป็นตัวอย่างว่าใช้ได้จริง นักเขียนร้อยคนมาทำฟูลไทม์จนรุ่งมีีรอดจริงๆ ไม่กี่สิบคนเอง แล้วก่อนจะทำฟูลไทม์มันก็ต้องผ่านความลำบากมาก่อนมะ
อ้อ แล้วที่กูว่าได้ปีสามล้านไม่พอแดก คิดจากการที่มึงมีภาระรอบตัวด้วยสิ ถ้ามึงอโลนไม่มีครอบครัวให้ต้องเลี้ยงดู หนี้สินไม่มี มึงก็อยู่ได้ แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้อโลนไง พ่อแม่พี่น้องลูกหลานรอบตัว ช่วยส่งเงินเลี้ยงดูส่งเงินค่าเรียน ผ่อนบ้านผ่อนรถอีกบานตะไท สามล้านต่อปีอยู่คนเดียวอะรอด แต่ถ้ามึงมีภาระก็ร่อแร่

831 Nameless Fanboi Posted ID:LiKydd9J.H

เดือนละ250,000ยังร่อแร่อีกหรอวะถ้าส่งเงินให้พ่อแม่ด้วย นี่โม่งหรือพันทิป

832 Nameless Fanboi Posted ID:f1xC8iY1tb

>>828 ถ้ามึงไม่มีค.ว.ย มึงคงจะไม่รู้จริงๆว่ากูยกตัวอย่างคร่าว ๆ ถ้าให้ตีเป็นตัวเลขเป๊ะ ๆ ยอดรวมคงมากกว่าสามล้านอะ แต่มันมีการหมุนใช้ด้วยในกรณีที่กูมีภาระไม่ได้อโลน

833 Nameless Fanboi Posted ID:eDOdpJ1dE.

>>832 กุว่ามึงอะแปลก

834 Nameless Fanboi Posted ID:/RIY7KYViV

>>831 ไหน ๆ ก็ว่ากูนั่งเทียนงั้นจะเพ้อเจ้ออีกหน่อยละกัน
พ่อแม่-ค่ากินอยู่ ค่าเจ็บป่วย ยิ่งมีโรคประจำตัวนี่ต้องไปหาหมอทุกเดือนเลย
พี่น้อง-ค่าเรียน+ค่ากินอยู่ ถึงจะหางานพาร์ทไทม์ทำกันบ้างแต่หลักๆค่าหอค่าเรียนก็ต้องช่วยมะ
บ้าน&รถ-ผ่อนเริ่มต้นที่ x,xxx-xx,xxxบาทต่อหนึ่งงวด บ้านก็บิลนึง รถก็บิลนึง
หนี้สิน-เช่นเดียวกับอันบน เป็นหนี้ในระบบดอกเลยไม่โหด
ประกัน-สำคัญทำเถอะ เจ็บป่วยอุบัติเหตุ มีโอกาสที่จะเป็นได้หมด จัดไปประกันคนละชุด เริ่มต้นที่ xxx-x,xxx
มาเล่นพันทิปกับกูได้ด้วยการใส่ตัวเลขเพิ่มเองนะ ยาสลายมโนออกฤทธิ์แล้วกูกาวต่อไม่ได้เลย

835 Nameless Fanboi Posted ID:WYPUBXb7qz

>>834 เออ พันทิปจริงๆ แล้วเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาลด้วย มึงภาระขนาดนี้ออกมาเขียนฟูลไทม์ยังรอด ทำไมคิดว่าคนอื่นจะไม่รอดวะ คนที่เขามาให้กำลังใจคนอื่นว่ามันมีทางไปได้เขาก็แนะนำทางที่มันจะไปรอด มีแต่มึงนี่แหละบรรยายความทุกข์ยาก คนอื่นเขาก็รู้หรอกว่าออกมามันมีภาระอะไร ข้างบนมันก็มีคนแนะนำว่าให้ลองเขียนก่อน เหมือนบางทีมึงก็ยกตัวว่ากุเก่งกุถึงรอด พวกมึงถ้าไม่แกร่งก็อย่าหวังว่าจะรอด เหมือนกลัวคนอื่นจะออกมาเขียนเยอะอะ เหมือนกันซีน 555

836 Nameless Fanboi Posted ID:LiKydd9J.H

>>834 ถ้ามึงทำงานประจำก็เงินเดือนระดับซีเนียร์/ผจก/ผู้บริหารแล้วนะเท่านี้ 55555555 ถ้ายังไม่พอลาออกไม่ลาออกก็ไม่ต่างกัน/ไม่matterแล้วเรื่องความมั่นคงถ้าโดยเฉลี่ยต่อเดือนได้เท่านี้เหมือนกัน

837 Nameless Fanboi Posted ID:d2uxnEu32l

>>834 ปัญหาไม่ได้อยู่ที่อาชีพแล้วละ อยู่ที่ภาระและการบริหารเงินของมึงล้วนๆ เลยโม่ง 555

838 Nameless Fanboi Posted ID:lo4yAo.jkk

>>832 คือกูจะบอกว่ามึงหารเลขผิดอะค่ะ เอาสามล้านหารสิบสองมันเฉลี่ยเดือนละ 250,000 ไม่ใช่เดือนละแสนแบบที่มึงว่า มึงไปนอนก่อนมั้ยเนี่ย กูเริ่มเป็นห่วงมึงละ สกิลการจับใจความมึงเริ่มไม่ไหวละนะ เอาสามล้านไปหารสามสิบแน่ทรงนี้ถึงออกมาเดือนละแสน

839 Nameless Fanboi Posted ID:H+yKboi/dZ

กูขอยาดสรุป จะออก/ไม่ออกงานประจะ ควรดูตามนี้ก่อนเบื้องต้น
1.ภาระหนี้สิน ค่าใช้จ่ายในชีวิต ต้องมีเงินเดือนละเท่าไหร่ถึงจะพอ แล้วรายได้ที่ผ่านมาเป็นไงพอมีหวังไหม
2.สามารถอยู่กับงานเขียนได้นานๆ ไม่วอกแวก ขี้เกียจ นั่งจ้องหน้าเวิร์ดทั้งวันทั้งที่ว่างไหม
3.เคยลองนั่งในห้องคนเดียว ดูซีรีส์ อ่านนิยาย ทั้งวันทั้งคืน ไม่ได้สังคมกับใครนิกโซเชียลซักสองสามวันไหม เป็นไง รอดไหม เหงาๆ เทาๆ เบื่อๆ รึป่าว
4.เคยมรช่วงเดือนที่ยอดโหลด ยอดอะไรก็ตามน้อยๆ แล้วทัอไหม ผ่านมันไปได้ชิวๆ ไหม หวังต่อไปในเดือนหน้า

กูคิดออกประมาณนี้แหละ ถ้าผ่านก็ลองดู กล้าไหม 55555

840 Nameless Fanboi Posted ID:d2uxnEu32l

>>839 สำหรับดุไม่ใช่เรื่องยากเลยในทุกข้อ งานประจำทรมานกว่าเยอะ 5555

841 Nameless Fanboi Posted ID:B4iWXwQ.To

>>840 กุด้วย กุอาจมักน้อยไม่กินไม่เที่ยว เดือนๆ มีแต่ค่ากินกะช้อปออนไลน์ ใช้ตังค์ไม่ถึงห้าพันเพราะไม่ต้องเสียค่าบ้าน พ่อแม่มีบำนาญไม่ต้องหาเลี้ยง กุรุ้สึกว่าตกเฉลี่ยถ้าได้เดือนสามหมื่นกุก็อยุ่สบายละนะ กุเห็นโม่งบนๆ ยอดดีมากขนาดนั้นยังว่าอยุ่ลำบากก็เกาหัวนิดนึง ไม่ได้ว่านะ แค่รู้สึกว่าชีวิตคนเรามีเงื่อนไขต่างกันจริงๆ

842 Nameless Fanboi Posted ID:cgxQDdK4Jg

>>841 ของกุค่อนข้างภาระหนักแหละ รายจ่ายเยอะ ต้องช่วยที่บ้านด้วย แต่กุได้จากการออกมาเป็นนักเขียนฟูลไทม์พอสมควรจากที่ตอนแรกเตาะแตะแต่ขยันออกงานเรื่อยๆ 3-4 เดือนเรื่องนึง ช่วงแรกก็กดดันหน่อย แต่หลักจากนั้นสองปีก็สบาย เขียนงานชิลๆ มันเหมือนเก็บยอดมาเรื่อยๆ อะ กุไม่ใช่นักเขียนตัวท้อปอะไรด้วย แค่มีความสม่ำเสมอ

843 Nameless Fanboi Posted ID:YANL466zBb

>>829 มึงน่ะก่อนเลยจ้า ว้อเป็นบ้าอะไรกับการที่คนอื่นเขามาแนะนำว่าถ้าการเงินไม่โฟลวก็ควรกอดงานประจำไว้ 555555 คนที่จุดประเด็นไม่ฟังคนอื่นคนแรกคือมึงค่ะ เป็นบ้าอะไรฟังความเห็นต่างไม่ได้

844 Nameless Fanboi Posted ID:buSiVBCmp+

>>815 เห็นด้วยมากๆ เซ็งจะตายอยู่แล้วอยู่บ้านเพราะโควิด หลายรอบที่กลับมามีปัญหาทางอารมณ์ ฟุ้งซ่านคิดเยอะเครียดมากกว่าเดิมเพราะไม่ได้ออกไปไหนตั้งแต่มีโควิทระบาด มีคนเป็นหลายคน นิยายมีเวลานั่งอยู่บ้านเขียนทุกคนก็ใช่ว่าสักวันจะไม่รู้สึกอะไรเลย

นักเขียนอยู่บ้านอุดอู้แต่กับโลกจินตนาการงานเขียนของตัวเองงานใช้สมองใช้ความคิด เสี่ยงให้คิดเยอะ ก่อนหน้าเคยป่วยแต่ตอนนั้นยังไม่ได้มาเขียนงาน
แต่สังเกตได้เลยว่าตั้งแต่กลับมาว่าคงไร้จุดหมายไมาได้ทำอะไรยุ่งๆแล้วมันเสี่ยงจะกลับมาคิดแบบเดิมมาก ทั้งนี้แล้วแต่ทัศนคติด้วย บางคนลาออกจากงานประจำมาเขียนแล้วชีวิตก็ดีขึ้น มีทั้งดีและไม่ดีต่างกันไป TT

แต่ความไม่แน่นอนมีหมด ต้องรับความเสี่ยงเผชิญกันเอาเองอีกที เหรียญก็มีแค่สองด้าน ใช่ว่าทุกคนจะทำออกมาประสบความสำเร็จได้เหมือนกันหมด แต่ไม่ลองก็ไม่รู้ต้องท้าทายเสี่ยงดูกับความพยายามสักตั้ง

845 Nameless Fanboi Posted ID:8YfcEsG7pv

>>824 อห รายได้ปีละสามล้านแล้วยังไม่พอ ขณะที่คนไทยรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 26,018 = 312,216 ต่อปี (กูคูณให้เผื่อมึงคิดเลขไม่ออก) น้อยกว่าที่มึงคิดว่าควรจะเป็นถึงสิบเท่า กูแค่ยกตัวเลขมาเฉยๆ ไม่คิดจะเถียงมึงหรอกนะ เพราะมึงก็จะยกความจำเป็นของมึงเองขึ้นมาพูดอีก กูขอเชื่อไว้ก่อนนะว่ามึงต้องการเงินขนาดนี้จริง ไม่ได้มโนเหมือนมาจากพันทิป

846 Nameless Fanboi Posted ID:UJ2uVU+M0f

>>845 สามล้านเลยเหรอวะ กูนี่รายได้ทั้งปีรวมกันก็ได้แค่สามแสนเท่าค่าเฉลี่ยที่มึงบอกเลย สามล้านเป็นเงินที่กูเกินเอื้อมมากเลยนะ กูคิดไม่ออกว่าทำไมถึงใช้เงินสามล้านต่อปีไม่พอ ซื้อรถใหม่ทุกเดือนเหรอ หรืออยู่คฤหาสน์จ่ายค่าไฟเดือนละ 5 หมื่น

847 Nameless Fanboi Posted ID:mfcefbC4M8

>>843 ว้อแตกเหี้ยอะไร กุเห็นมึงตีกะคนหนึ่งอยู่ตั้งนานกุเลยมาโพสต์บ้าง อีที่ว้อแตกไม่ฟังใครมีแต่มึงนั่นแหละ ตัวเองก็ออกมาเขียนงานฟูลไทม์แล้วรอดแต่เสือกพร่ำเพ้อบอกคนอื่นไม่รอดๆ เหมือนกลัวคนอื่นได้ดีกว่า ความเห็นไหนมาบอกว่าเขียนรอด มึงก็ไปแย้งเขาหมด ถ้าเขียนงานฟูลไทม์ไม่รอดมึงออกมาหาส้นตีนอะไร

848 Nameless Fanboi Posted ID:q.nN9ZR+gT

>>843 เหมือนหขนมหวานราดกะทิที่อยู่เมืองนอกแล้วบอกชีวิตลำบาก อย่าออกมาเลย อยู่ไทยสบายสุด แต่ตัวเองก็ไม่กลับไทยนะ 55555

849 Nameless Fanboi Posted ID:UnoOprx.N8

เป็นนักเขียนออกนอกห้องได้นะเพื่อนโม่ง ไม่มีใครล่ามไว้กับโต๊ะคอม ลูกบิดประตูก็เหมือนบ้านคนทั่วไป เบื่อห้องก็เปิดประตูออกไปใช้ชีวิตได้จ้า สามารถไปกินข้าวเที่ยวผับบาร์ได้เหมือนคนทำงานประจำนั่นแหละ (ถ้าร้านมันเปิด) กูงงบางเม้นต์พูดยังกะเป็นนักเขียนแล้วต้องโดนขังไว้ให้ปั่นงานอย่างเดียว 5555

850 Nameless Fanboi Posted ID:aAjNCz/vOo

>>849 เห็นด้วย อ่านแล้วงงนาง 5555

851 Nameless Fanboi Posted ID:aI5NWrUp4H

โม่งรักกัน อย่าทะเลาะกันเลย

852 Nameless Fanboi Posted ID:t6mO+X4K9u

กู >>804 ฟังที่คุยกันก็ได้คิดอะไรหลายๆ อย่าง กูตั้งใจว่าคงออกแน่แหละ แต่ว่ายังไม่ใช่ในช่วงที่อะไรๆ มันดูใช้ชีวิตยากขนาดนี้ กูไม่ใหม่แล้ว พอมีงานให้เก็บรายได้เดือนละสองหมื่นอัพ แต่มันยังมีหนี้ของครอบครัวที่ต้องปลดออกก่อน ไว้หนี้หมดจะออหมาฟูลไทม์ ไม่รู้ว่าคนอื่นเป็นไง แต่กูอยู่แต่ในห้องรู้สึกสบายใจกว่าออกไปเจอคน😂

853 Nameless Fanboi Posted ID:t6mO+X4K9u

>>851 กูกลับมาเห็นตาเหลือก เป็นเพราะกูเปล่าที่มาเปิดประเด็นเรื่องออกจากงาน 😭 แต่ที่เถียงกันไปมา ก็มีประโยชน์อยู่

854 Nameless Fanboi Posted ID:buSiVBCmp+

เน้นเขียนเรื่องนึงแต่ยอดปังรึเปล่ากว่าจะจบเขียนเป็นปีแบบนั้นถึงชิล (ส่วนใหญ่บ้านรวยอยู่แล้วไม่กระทบอะไรเลยเขียนเรื่อยๆได้จะต่างกับคนที่บ้านไม่รวยแล้วมีรายจ่ายภาระเยอะนะ) บางคนขยันเขียนเดือนนึงเข็นออกมา 1 เรื่องจะเอาเวลาที่ไหนไปไหนเยอะแยะนอกจากต้องเร่งมือตัวเองให้เขียนให้จบ เพราะยิ่งเขียนช้ารายได้ก็ยิ่งน้อยสำหรับนักเขียนที่ไม่ใช่นักเขียนชื่อดังก็ต้องเน้นจำนวนผลงาน ออกไปไหนออกได้จะออกไปนั่งเขียนตามคาเฟ่ยังได้ แต่สถานการณ์ตอนนี้มันไม่เอื้อก็เท่านั้น ขนาดมองสองด้านจะทะเลาะเถียงทำไมยังมีมาประชดอีกเห้อ ทัศนคติแต่ละคนใช่ว่าจะเหมือนกันมีหมดทุกแบบที่ว่ามานั่นแหละ ออกมาเขียนฟูลไทม์ชีวิตดีๆก็มี ชีวิตไม่ดีก็มี แต่โม่งข้างบนแค่เตือนเจ้าตัวเขาจะตัดสินใจออกมาเขียนยังไงก็เรื่องของเขา ตัดสินใจชีวิตตัวเองไม่มีใครรับผิดชอบ อ่านอะไรก็ฟังหูไว้หูเอาเถอะ

855 Nameless Fanboi Posted ID:buSiVBCmp+

>>852 ถ้ามันกระทบสุขภาพจิตขนาดนั้นออกที่เดิมแล้วไปทำที่ใหม่ยังดีกว่า แต่บอกว่าติดหนี้ต้องพึ่งรายได้จากงานประจำอยู่เลยออกมาเขียนฟูลไทม์ไม่ได้เพราะกลัวรายได้แต่ละเดือนไม่สมํ่าเสมอ แนะนำเขียนตุนเป็นงานอดิเรกก่อน ถ้าลงแล้วผลตอบรับดีเงินตรงนี้ก็ช่วยได้ มันจะมีแรงคาดหวังอยู่นะ ว่าออกมาแล้วเดือนนี้ฉันต้องทำยอดให้ได้เท่านี้ แต่ถ้าวันใดยอดมันตกหรือไม่ได้ดังใจนึกก็ต้องทำใจไว้ด้วยอย่าเครียดเกินไป แต่ใครจะไปรู้ออกมาอาจรุ่งก็ได้ รุ่งจริงยอดขายดีมีเงินใช้

856 Nameless Fanboi Posted ID:Na8X87HeoC

อ่านๆ ดูแล้วทัศนคติบางคนก็เหมือนคนหัวโบราณที่มองว่าอาชีพนักเขียนมันไส้แห้ง ปากกัดตีนถีบ ไม่มั่นคงอยู่อะ แต่ก็แล้วแต่คนนะ สำหรับกุถ้าไม่เริ่ม ไม่เอาจริงเอาจัง ก็ไม่รู้หรอกว่าจะรอดหรือไม่รอด กุเป็นคนนึงที่ไม่ได้รวย ภาระเยอะ เลี้ยงตัวเอง ช่วยที่บ้าน แต่กุก็รอดในสายอาชีพนี้แบบไม่ลำบาก ไม่ต้องมาแซะว่ากุไปฟังไลฟ์โค้ชด้วย กุโค้ชตัวเอง 555

857 Nameless Fanboi Posted ID:txAcFnhLca

ใครใคร่ทำอะไรก็ทำไปเหอะ 555 นักเขียนบางคนต้องขึ้นวอร์ดราวด์คนไข้ยังขายได้เรื่องละเป็นแสนๆ ไม่ต้องลาออกมาฟูลไทม์ก็มี

858 Nameless Fanboi Posted ID:7VY5biGWrM

>>857 ก็ถ้าขึ้นวอร์ดทำเอกชนรายได้ต่อเดือนก็หลายแสนเหมือนกัน เป็นกูกูก็ไม่ออก 55555

859 Nameless Fanboi Posted ID:3/ed1G8oKv

>>855 กูเคยไปหาหมอเพราะทำงานมาแล้วรอบหนึ่ง นี่คืองานใหม่แล้วนะ ปีแรกๆ สนุกดี ตอนนี้คือเริ่มดาวน์อีก แต่งานนี้มันได้อยู่ใกล้บ้านด้วยคือดีตรงนี้ กำลังฝึกให้ใช้แต่เงินจากงานเขียน แล้วเอาเงินเดือนไปใช้หนี้ให้หมดไวๆ แต่มันก็ไม่ได้เยอะมากมายหรอกหนี้ อีกอย่างกูอยู่ต่างจังหวัดด้วย ตอนนี้ได้ต่ำๆ สองหมื่น คือก็สบายๆ นะ ไม่มีลูกผัว พ่อแม่ก็ไม่พึ่งกู หนี้กูอยากช่วยเอง รีบๆ ใช้ไปให้หมด แต่ฟังโม่งก็ดี คือได้เห็นอีกมุมที่กูลืมคือพวกสวัสดิการ ใช้หนี้เสร็จก็คงยังไม่ออก เก็บต่ออีกสักหน่อยไว้สำรอง เพราะกูเขียนไม่ปังตลอด แต่ถ้าได้ออกมาเขียนจริงๆ กูคิดว่าน่าจะออกสม่ำเสมอได้ ตอนนี้ปีหนึ่งราวๆ 4-5 เรื่อง ทำงานไปด้วย กูก็ว่ากูเก่งแล้ว 55555 มานั่งเขียนนิยายทีเหมือนกูได้ปลดทุกข์ปลดโศกจากงานประจำ

860 Nameless Fanboi Posted ID:G6sAPms15t

กูขำตรงที่บอกว่าต้องลาออกจากงานประจำถึงจะแสดงความทุ่มเท ก็เอาเป็นว่าขอให้ขายได้เยอะๆแล้วกัน คนไม่ต้องลาออกมาฟูลไทม์ยังขายได้เป็นแสนไม่ใช่สองสามหมื่นอะ 5555555

861 Nameless Fanboi Posted ID:Na8X87HeoC

>>860 ประเด็นคือมันมีกี่คนในประเทศนี้ที่เป็นนักเขียนแล้วมีเงินเดือนเป็นแสน คนมีเงินเดือนเป็นแสนคงไม่มาเครียดแล้วมั้งว่าออกจากงานประจำมาเขียนหนังสือแล้วจะรอดมั้ย พื้นฐานชีวิตต้องดีประมาณนึงแล้ว และคนข้างบนที่เขาบอกว่าได้จากการเขียนเดือนละสิงสามหมื่น เขาอาจจะเงินเดือนงานประจำไม่ถึงสองหมื่น (ซึ่งก็เป็นมาตรฐานพนักงานประจำทั่วไป) คือมึงมาขำเขาแบบนี้คือแย่อะในความรู้สึกกู จะเถียงแค่ชนะจริงๆ

862 Nameless Fanboi Posted ID:aI5NWrUp4H

อยากรวยเงินเหลือใช้แล้วแต่งนิยายด้วยแพชชั่นไปวัน ๆ ไม่ต้องหวังยอดว่ะ *นอนฝัน* ขอให้โม่งนักเขียนถูกหวยสักวัน

863 Nameless Fanboi Posted ID:s/Js+McIj+

ถ้ากูรวยกูคงไม่มานั่งแต่งนิยายหลังขดหลังแข็งแบบนี้หรอกวะ

864 Nameless Fanboi Posted ID:Xmd4mYcVIF

>>862 กูเคยคิดอย่างนั้นนะ แต่วันที่นิยายกูปัง ได้เงินหลายแสน กูกลับหยุดทำงานประจำไม่ได้ เหมือนจำรสชาติตอนแป้กได้แล้วเข็ดฉิบหาย กูอาจจะสวนโพกับโม่ง ขออภัย 555

865 Nameless Fanboi Posted ID:I4JRInxdrP

กูเป็นนักเขียนฟูลไทม์คนนึง จะมาแนะนำคนที่ลังเลว่าจะออกจากงานดีไหมว่ามึงยังไม่ต้องออก ในวันที่งานเขียนหาเลี้ยงมึงได้จริงๆ ยอดในแต่ละเดือนมันจะตะโกนบอกมึงเอง ไม่จำเป็นต้องถามใครเลยสัส ก็กูรวยแล้ว รอดแล้ว จะเหนื่อยงานประจำไม

866 Nameless Fanboi Posted ID:YANL466zBb

>>861 555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555

867 Nameless Fanboi Posted ID:1PYAbR7yL5

>>866 สาหริ่ม

868 Nameless Fanboi Posted ID:yIKEkkPzgh

ก็ว่าอยู่ช่วงต้นเดือนงี้ทำไมกรุ๊ปนักเขียนเงียบจังวะไม่ค่อยอวดเงินกันเลย หนีมาปั่นกันเองในโม่งสินะมึง5555

869 Nameless Fanboi Posted ID:ygB74ulumT

>>867 ซาหริ่ม

870 Nameless Fanboi Posted ID:pqm4DFPGKw

>>861 อย่าเสียเวลาไปคุยกะคนนั้นเลยมึง เหนื่อยเปล่า ทัศนคติดักดานมาก 55555

871 Nameless Fanboi Posted ID:h+cPSJsb7m

หมวดโรมานซ์ยอดประมาณเท่าไหร่ถึงได้ป้าย Best seller เหรอ กำลังจะลองลงหมวดนี้บ้างเลยอยากรู้เป้าหมาย

872 Nameless Fanboi Posted ID:pY.nOTNmte

>>871 200 มั้ย

873 Nameless Fanboi Posted ID:5xuxfQySdG

ปกติmebเขาจะได้ป้ายแดงอัตโนมัติเลยมั้ยอะถ้ายอดขายถึง หรือต้องรอให้เฉพาะวันๆนี้เท่านั้น (เช่นทุกจันทร์/อังคารไรแบบนี้) เคยเห็นบางเรื่องยอดเรทติ้งเป็นร้อยหรือเกือบพัน แต่ยังไม่ได้ป้ายแดง (แต่ต่อมาเขาก็ได้น่ะนะ)

874 Nameless Fanboi Posted ID:5xuxfQySdG

>>873 ลืมๆ ถามในฐานะนักอ่านน่ะ ไม่รู้เลยจริงๆ เพราะไม่ได้ป้ายแดงตอนเรทติ้งเป็นร้อยเลยเนี่ยแหละเลยสงสัยว่ายอดเรทติ้งมันเชื่อถือได้ใช่มั้ย

875 Nameless Fanboi Posted ID:/du1/gZK9u

>>820 กูว่าจะมุงเฉยๆ อ่านพวกมึงอย่างเดียว แต่มึงช่วยแชร์แบบละเอียดหน่อยว่าทำยังไง
-ทำการตลาดที่มึงว่ามีอะไรยังไง เปิดเพจต้องจ่ายค่าบู้ทส์เพจมั้ย ต้องตีสนิทเพื่อนนักเขียนช่วยกันขาย จ่ายนักรีวิวให้ช่วยโปรโมทแบบนี้มั้ย?
-ที่ว่าแต่งเฉลี่ย 2-3 เดือนต่อเรื่อง ความยาวแค่ไหน กี่คำ ต้องนิยายแนวไหนถึงจะขายได้ 2-3 หมื่น? ขายกี่บาทต่อเรื่อง?
-ทำยังไงให้อารมณ์ดี ไม่เครียด แต่งนิยายต่อเนื่องเดือนละ 2-3 เรื่อง?
-เขียนชิลด์ๆ แบบยอดเฉลี่ยต่อเดือนสองสามหมื่น คือชิลด์ๆ แบบแต่งได้ทุกวันโดยไม่ไรเตอร์บล็อกมีทริกยังไง?
-รายได้ 2-3 หมื่น ขายแค่อีบุ๊ก หรือติดเหรียญ ต้องขายเล่มด้วยมั้ย?
-หาฐานนักอ่านจากไหน ยอดวิว ยอดกดเข้าชั้น มีแฟนคลับประมาณไหน?

876 Nameless Fanboi Posted ID:h+cPSJsb7m

>>872 งั้นก็เท่ากับนิยายรัก เค้าน้องใหม่หมวดโรมานซ์น่ะ 5555
>>873 ไม่อัตโนมัติจ้ะ จากประสบการณ์ มันจะมีวันอัปเดตนะ

877 Nameless Fanboi Posted ID:OsbiWxyUXJ

>>820 ถามหน่อยได้มั้ยว้าที่พูดถึงเขียนแนวไหน แนวจีนโบราณ รักปัจจุบัน หรือวาย

878 Nameless Fanboi Posted ID:Fu0wjVUskY

>>875 ขอไม่ตอบเดี๋ยวโม่งแหก

879 Nameless Fanboi Posted ID:Fu0wjVUskY

>>877 แนวรักทั่วไป บางทีก็มีโรมานซ์บ้าง

880 Nameless Fanboi Posted ID:8YfcEsG7pv

KY เพื่อนโม่ง กูเปิดนิยายแนวยั่วเย แต่พอแต่งฉาก nc ไปฉากเดียวแล้วฝืนตัวเอง รู้ตัวว่ามันไม่ใช่แนว ถ้าแต่งต่อแบบไม่มีฉาก nc นักอ่านจะด่าไหม กูไม่อยากเลิกแต่ง มีคนเก็บเข้าชั้นหลายคนแน้ว

881 Nameless Fanboi Posted ID:qZaZDYdwPS

>>880 พูดยากถ้าเปิดมายั่วเยแล้วไม่มีเย 555 ไม่งั้นต้องบอกนักอ่านตรงๆ ไปอะว่าเขารับได้มั้ย เรามีฉากฟินแต่ไม่มีเยนะ เขาอาจจะโอเคกว่าให้เราฝืนใจเขียนก็ได้ เอาตรงๆ นักอ่านบางส่วนก็ไม่ชอบฉากเยนะ

882 Nameless Fanboi Posted ID:l4ibK8bMv8

กันซีนไม่ให้มีนข.มาทำฟูลไทม์แข่งกัน
เล่าความลำบาก X
แชร์เทคนิค O

883 Nameless Fanboi Posted ID:4o4I6EZD9D

แต่งนิยายฉากเยแล้วต้องชักจนแตก หมดแรงแต่งต่อสัส

884 Nameless Fanboi Posted ID:7dZ5P4N33.

>>880 มันต้องสนุกและเข้ากับพล๊อตเรื่องเดิมมึงอะ คนอ่านอยากอ่านเรื่องที่สนุก ฉากยั่วเยขายได้ แต่เรื่องที่ไม่มี nc เลยก็ขายได้เหมือนกัน นิยายที่เคยขึ้นท้อปเมบหลายเรื่องก็ไม่มี nc เป็นหมวดรักธรรมดา ถ้ามึงไม่ได้มาแนวหืดหอบก็มปรหรอก

885 Nameless Fanboi Posted ID:jdLTK7yldd

ท็อปออฟเดอะเยียร์ของ MEB เขาจัดจากยอดขายหรือยอดโหลดวะ ยอดโหลดน้อยกว่าเพราะราคาสูงกว่าแต่ได้เป็นเงินเยอะกว่า หรือวัดยอดโหลดเพียวๆ เลย

886 Nameless Fanboi Posted ID:hY25E0zd73

>>878 อ้าว กูก็รอ กูอยากรู้เคล็ดลับที่คนปังๆ รายได้ 2-3 หมื่นต่อเดือนเค้าทำกัน เผื่อได้อานิสงค์ จะได้ปังแบบมึงมั่ง กูไม่ได้ถามเชิงลึก มึงไม่ต้องบอกหมดก็ได้ แต่กูไม่ได้บังคับอะไรนะ ของแบบนี้ก็ของใครของมันล่ะเนาะ 5555

887 Nameless Fanboi Posted ID:11U6AwMoWg

>>886 กูก็ได้ 2- 3 หมื่นต่อเดือน ปีนี้พีคสุดคือ 6 หมื่น แต่เห็นบอกควรจะเดือนเป็นแสนงี้ เลยคิดว่ากูธัมด๊าม๊าก55555

เอาเคล็ดลับกูมั้ย555
ขยันอัปล่ะหนึ่ง มีงานเรื่อยๆ จัดโปรอาจจะลดมากหน่อย แต่ไม่ค่อยเอาของเก่ามาลด กูคิดว่าพอไม่ค่อยเอามาลด เดี๋ยวลด ช่วงเปิดขายใหม่ๆ เขาจะรีบซื้อไว้นะ ได้อานิสงส์ป้ายแดงไปอี๊ก

อีกอย่างคือกูทำตัวน่ารักเข้าไว้ให้มาก เจอเม้นท์ผีๆ ก็ยังตอบกลับอย่างน่ารัก สักพักนักอ่านคนอื่นเห็นจะมาโอ๋เอง กูว่าบางคนก็เอ็นดูกู บางเรื่องเขาไม่ค่อยชอบพล็อต เขาก็ซื้อว่ะบอกสนับสนุน กรี๊ดน่ารักจัง5555

ยิ่งออกงานได้เรื่อยๆ คือรายได้ก็มีเข้าทุกวัน เป้าหมายกูคือค่าแรงขั้นต่ำสามน้อย วันไหนได้คือทัชเป้าหมายในแต่ละวัน กูเอาแค่นี้แหละพอใจ5555

888 Nameless Fanboi Posted ID:hY25E0zd73

>>887 ขอบจัยมากเลยมึง แล้วมึงแต่งแนวไหนวะ ขอใส่ใจมากขึ้นหน่อย

889 Nameless Fanboi Posted ID:11U6AwMoWg

>>888 นิยายรักใสๆ บางเรื่อง แอบหื่นนิดๆ บางเรื่องน่ารักเกิ๊น ตัดเข้าโคมแม่ง

890 Nameless Fanboi Posted ID:11U6AwMoWg

>>888 เป็นแนวๆ slice of life ด้วยอะ นิยายกุไม่ค่อยมีอะไรพีคๆ เท่าไหร่ รักกัน คบกัน แฮปปี้ มีอุปสรรคนิดหน่อยจบ เวลาเขียนฮีลทั้งตัวกุและนักอ่าน นักอ่านว่ามาว่าฮีลเขาเหมือนกัน หลบมาจากแนวหลัวชั่ว 55555

891 Nameless Fanboi Posted ID:vU925kcXMg

เรื่องรายได้มันอยู่ที่บุญพาวาสนาส่งด้วยแหละนะ คนดังๆ ที่ออกแค่ปีละเรื่องแล้วรับเงินรัวๆ ก็มี ของแบบนี้ไม่ตายตัว ในพอร์ตกูมีหลายเรื่อง เรื่องที่ปังก็ขายออกเรื่อยๆ อันไหนแป้กก็แป้กเลย 5555 แต่ถัวๆ กันพออยู่ได้ ออกเรื่องใหม่ก็สบายตัวขึ้น ในวงการนี้นิยายดีที่คนไม่รู้จักก็มี นิยายกลางๆ ถึงห่วยแต่ขายดีอลังการก็มี สู้สู้นะเพื่อนโม่ง

892 Nameless Fanboi Posted ID:11U6AwMoWg

>>891 ต้องมูเตลูยังไงดีวะเนี่ย ขยันไม่ปัง สายมูต้องมาแล้วว่ะ 55555

893 Nameless Fanboi Posted ID:Ej0S0NXlON

ถ้าบอกแบบกำปั้นทุบดินจะโดนด่ามั้ย 55 เขียนให้ดี ให้สนุก จับทางคนอ่านให้ได้ พลังของการบอกปากต่อปากมันแรงมากมึง จับทางคนอ่านให้ได้คือมาเป็นเบอร์หนึ่งเลย กูเคยเขียนแนวน้ำเน่าๆพระเอกขึ้นอย่างหงส์ลงอย่างหมา ตั้งใจเขียนให้สำนวนดีๆ กูลงไปแค่คำโปรยยังมีคนถามหาเล่มแล้ว ลงไม่กี่ตอนก็จะจองเล่ม บอกว่าเอาอีบุ๊กมาเลย หลังจากนั้นยอดวิวก็เพิ่มขึ้นตลอดจนกูคิดว่าน่าจะมีคนเอาไปบอกต่อ มันจะมีอีกอย่างหนึ่งที่นักเขียนต้องโฟกัสก็คือรู้ว่านิยายแบบไหนขายได้และนิยายแบบไหนขายไม่ได้ บางเรื่องก็เหมาะกับการแค่อ่านเอาฟรี บางเรื่องกลางๆ เนื้อหาไม่ซับซ้อนแต่เหมาะกับการเปย์ขายดีถล่มทลาย ทำนิยายให้เข้ามาอยู่ในโซนขายได้แน่นอนให้ได้อะ อย่างแนวจีนคือไม่ต้องปังระดับท็อปเวป ยอดวิวแค่หลักหมื่นแต่พอเอาไปขายก็ได้ยอดหลายหมื่นก็มี

894 Nameless Fanboi Posted ID:jEUWTydu1L

>>885 กุเดาว่ายอดโหลดล้วนๆ

895 Nameless Fanboi Posted ID:8rd/kj1ppD

>>893 ซึ่งกลับกับบางเรื่องท๊อปเว็บแค่ไม่มีคนถามหาเล่มเลยก็มี

896 Nameless Fanboi Posted ID:5Kdr3wt8we

กูทำงานประจำ เขียนนิยายเป็นรายได้เสริม กูก็ขายได้เดือนละหมื่นอัพทุกเดือนนะ คงเพราะกูไม่ค่อยเครียด เขียนนิยายแบบกูรู้สึกสนุกไปกับมัน เลยน่าจะสื่อถึงนักอ่านมั้ง เขาคงอ่านนิยายกูแล้วก็รู้สึกสนุกแบบกูอะ ยอดวิวในเว็บไม่เยอะนะ ได้แค่หลักพัน แต่กูขายอีบุ๊กได้เรื่องละไม่ต่ำกว่า 100 โหลดทุกเดือน

897 Nameless Fanboi Posted ID:11U6AwMoWg

>>896 เซมมี ถ้าออกจากงานมาเขียน มันจะยังสนุกอยู่มั้ย กูละสงสัยตรงนี้แหละ งานอดิเรกกลายเป็นงานกลัวว่ามันจะเครียดจนเขียนไม่ออก

898 Nameless Fanboi Posted ID:Ej0S0NXlON

ส่วนตัวกูออกจากงานประจำไม่ได้เหมือนกัน นิยายรายได้ก็มั่นคงสม่ำเสมอทุกเดือนนะ แต่กูรู้สึกว่าถ้าออกไปทำงานแล้วมันทำให้กลับมาเขียนนิยายได้มากขึ้นอะ 555 กูชอบเขียนนิยายเพื่อปลดปล่อยความเครียดงี้ พอเช้าออกไปทำงานแล้วคิดว่าตอนเย็นจะได้กลับไปเขียนนิยายก็มีแรงทำงานละ อันนี้ตัวกูคนเดียวเด้อ

899 Nameless Fanboi Posted ID:vU925kcXMg

เรตติ้งในเมบถ้าเป็นล็อกอินเดิมให้คะแนนซ้ำได้ด้วยเหรอ กูเพิ่งเห็นว่ามีนักอ่านคนนึง ทุกๆ 6 เดือนจะล็อกอินเข้ามากดเรตติ้งนิยายเรื่องเดิมให้กู บางครั้งก็ 3 ดาว บางครั้งก็ 4 ดาว ภายในหนึ่งปีกดเรตติ้งมา 3 รอบ คืออะไร เงาแค้นกูรึป่าวเนี่ย

900 Nameless Fanboi Posted ID:11U6AwMoWg

>>899 ไม่ได้ ไอดีเดียวนับครั้งเดียว แต่มันจะนับรอบล่าสุด เคยให้ 5 มาให้ 4 เรตติ้งรวมก็ลด เคยให้ 4 มาให้ 5 เรตติ้งรวมก็เพิ่ม

901 Nameless Fanboi Posted ID:vU925kcXMg

>>900 กดเพิ่มได้เพิ่มกดลดโดนลดมันก็คือการหารเฉลี่ยปกติป่าว คืออย่างสมมติไม่มีใครกดเรตติ้งกูเลย มีคนนี้กดมา 3 4 5 เรียงตามลำดับ เรตติ้งกูจะเป็น 5 หรือ (3+4+5)/3 เพราะมันขึ้นโชว์ทุกครั้งเลยอะ

902 Nameless Fanboi Posted ID:11U6AwMoWg

>>901 เป็น 5 นับครั้งเดียว จาก 1 ไอดี แต่จะนับครึ่งล่าสุด

903 Nameless Fanboi Posted ID:g.ovX4ClwN

อยากได้วิธีทำตัวให้นักอ่านเอ็นดูเลยว่ะ กูยังไม่ได้ลงแต่ก็กำลังคิดอยู่ว่าจะสร้างภาพลักษณ์ยังไงดี ส่วนตัวกูเป็นคนดีด ๆ หน่อย แบบถ้ามีคนชมก็คง >> กี๊ดด ขอบคุณมากนะคะ ฮือ >< 🙏🏻😭💞 (อยากคุยเล่นกับนักอ่านบ่อย ๆ ด้วย) /แต่คิดไปคิดมาก็กลัวนักอ่านรำคาญอะ 55555 ถ้าเป็นนข.สายนุ่มนิ่ม ไม่ค่อยพูดอะไรน่าจะดีกว่ามั้ยนะ

904 Nameless Fanboi Posted ID:8rd/kj1ppD

>>903 ทำตัวปกติ อยากด่าอะไรนอ.ให้เก็บไว้

905 Nameless Fanboi Posted ID:e0ncB60X8B

>>903 เป็นตัวของตัวเองแบบมีมารยาท จะทำอะไรคิดเยอะๆ เวลาเสียใจ โมโห เหนื่อย ให้ไปนอน อย่าตอบเมนท์

906 Nameless Fanboi Posted ID:iKVbJHL2Md

มึงปกนิยายในmebเรทได้แค่ไหนอะ

907 Nameless Fanboi Posted ID:AScWBSYSOW

>>906 แนวไหนอะ แค่ไม่เป็นปกร่วมเพศโจ่งแจ้งก็พอม้าง เห็นปกชุดชั้นใน ซิกส์แพ็ค นัวเนียแนบชิดยังผ่านฉลุยโชว์หราได้

908 Nameless Fanboi Posted ID:Et5FX+foKU

>>903 กูกลับชอบนักเขียนหยิ่งๆ ไม่ต้องคุยอะไรเลย แค่ทำงานให้ดีก็พอ ตามปกตินักเขียนทั่วไปที่ไม่ใช่คนไทยเขาก็ไม่เจ๊าะแจ๊ะนักอ่านนะ พวกนักเขียนญี่ปุ่นบางคนจะรู้ว่ายังมีชีวิตอยู่ก็ตอนออกงานเท่านั้น กูว่าการที่นักเขียนไม่มีคาแรกเตอร์มันทำให้สร้างตัวละครง่ายด้วยอะ อย่างถ้าจะเขียนตัวละครสุขุมฉลาดเป็นกรดแต่นักเขียนวี้ดว้ายตลอดกูก็จะเอ๊ะนิดนึง (อาจเป็นแค่กูก็ได้) 555 แล้วที่ไม่ชอบมากๆ คือนักเขียนมาอวยตัวละครตัวเองท้ายบท รู้ว่าพระเอกฮอตแต่ปล่อยนักอ่านหวีดกันเองเถอะ ไม่ต้องมาหวีดนำร่องหรอก อย่างน้อยก็ไม่ใช่ท้ายบท ขีดเส้นจบบทปุ๊บแล้วเจอนักเขียนตู้วู้วจากที่อินๆ อยู่กูหลุดเลย

909 Nameless Fanboi Posted ID:Ubgr89/Ftk

>>908 เจอเยอะเลยหวีดเองท้ายบทเนี่ย ชอบนักเขียนแบบเงียบๆเหมือนกันไม่ต้องชวนคุยตอบกลับ

910 Nameless Fanboi Posted ID:O7.hMqmPbz

>>903 เป็นตัวของตัวเองดีที่สุด จะคุย จะเงียบ จะวี้ดว้ายชวนเม้าท์อยู่หรือคุยน้อยๆ แต่พองาม ก็แล้วแต่เลย โลกต้องการความหลากหลาย เสน่ห์ของความเป็นตัวเองน่าจะดีที่สุด อย่าวีนอย่าเหวี่ยงเป็นพอ มีดราม่าก็ชี้แจงตามสมควรไป

911 Nameless Fanboi Posted ID:bQX87+uIaR

กูมีเรื่องมาถกว่ะมึง เห็นห้องตู้มันคุยกัน สมมุติมีเคสว่านิยายมึงไม่ได้ลอกใครเลย มึงมั่นหน้ามากว่าแต่งเอง แต่เป็นพล็อตตลาดดาดๆ แบบซะหวันเบี้ยว จำลุยเละ พล็อตนายเยเลขา ขึ้นอย่างหงส์ลงอย่างเห็บ อะไรแบบนี้ แต่มึงโดนพวกนักเขียนดัง อิพวกมีแสง มีหาบมารุม มาฉอดว่าลอกเพื่อนมัน ลอกนักเขียนตีนหอมของพวกมัน มึงโนเนมโดดเดี่ยวเดียวดาย มึงจะเอาตัวรอดเคสนี้ยังไง กูไปเห็นนิยายเรื่องนึงพล็อตนายเยเลขาแล้วมีอิแฟนเดนตายนักเขียนอีกคนไปเม้นในนิยายเค้าว่าพล็อตคล้ายนิยายอีกเรื่องที่มันเคยอ่าน กูอ่านยังสยอง ถ้าคนอื่นผ่านมาแล้วเข้าใจผิดกันหมดเพราะอีเม้นนั้น มันแย่มากเลยนะ นักเขียนจะโดนตราหน้าว่าลอกเค้ามาหงิ ถึงแก้ตัวไปก็คงไม่มีใครเห็น

912 Nameless Fanboi Posted ID:Cx2O5Kdh9Z

>>911 เป็นกูจะโพสต์บอกไว้ในเม้นท์ ไม่ใช่ใต้เม้นท์นั้นนะ แบบไม่ได้ลอกใคร นี่มันพล็อตตลาดค่ะ

913 Nameless Fanboi Posted ID:I+KX7UmEEW

>>911 เป็นกูก็ตอบใต้เม้นนั้นไป ถ้าคนอ่านแล้วเข้าใจผิดหรือมาฉอดในเม้้นเยอะกูก็ชี้แจงตรงย่อความไปเลย ไม่ก็เปิดตอนชี้แจง

914 Nameless Fanboi Posted ID:knLwCt8VDC

>>911 ใช้กฎหมายจัดการพวกมัน

915 Nameless Fanboi Posted ID:SNQxjxbOId

>>911 กุอยากรู้มากว่าอิแก๊งนั้นมันไปฉอดคนอื่น 555

916 Nameless Fanboi Posted ID:G4.67i2b2F

>>911 กุเจอเม้นท์ทำนองนี้ในนิยายเรื่องนึง เพิ่งขายไม่นานนี้ด้วย ปกแดงๆ หมวดโรมานซ์ ขึ้นท้อปอยู่ตอนนี้ แนวพระเอกเลี้ยงนางเอกเป็นเมียเก็บ แก๊งเดียวกันปะวะ 555

917 Nameless Fanboi Posted ID:PYzLaDJD+4

>>911 เคยเห็นนักเขียนดังคนนึงแซะลอยๆ ว่ามีคนลอกพล็อตเขาเพราะมีหาบมาฟ้อง แต่พอตัวเองโดนคนเปรยบ้างว่าพล็อตคล้ายเรื่องนั้นเรื่องนี้ เจ้าตัวก็ตอบแบบมั่นๆ ว่าไม่รู้จักไม่เคยอ่านเรื่องนั้นนะ ถ้าเกิดกับมึงก็บอกไปละกันว่าไม่รู้จักไม่เคยอ่าน ถ้าเขายังคิดว่าคล้ายมากก็ท้าให้เจ้าของอีกเรื่องแคปมาคุยเองเลย บอกไปว่าเดี๋ยวให้ทนายช่วยดูให้

918 Nameless Fanboi Posted ID:Cy7axW.1yt

>>911 เหมือนมาเฟียเลยแฮะ รวมตัวเป็นแก๊งใหญ่ๆ แบบนี้ถ้าเหม็นใคร มีจุดพลาดหน่อยก็เปิดวอร์เลยดิ

919 Nameless Fanboi Posted ID:wgbSEPg+tc

กุไม่แน่ใจว่าในมู้นี้คุยกันยัง แต่เคยเห็นผ่านๆ ในมู้นักอ่านที่เขาไม่ค่อยชอบให้นักเขียนกดหัวใจให้กัน ในมุมนักเขียนคิดยังไงบ้างวะ คือมันไม่ใช่คนสองคนอะ แต่เป็นสิบยี่สิบคน แล้วที่กดให้เรตติ้งก็ไม่ได้ซื้อด้วย

920 Nameless Fanboi Posted ID:Cx2O5Kdh9Z

>>903 เป็นยังไงก็ได้ แต่อย่าเป็นอย่างนักเขียน เมียเลิฟนับสิบคูณร้อยในตู้นิยายไทยก็พอ

921 Nameless Fanboi Posted ID:DT.OQo1r/0

>>919 กูไม่ชอบนะ นิยายตัวเองกูก็ไม่กดเรตติ้งให้ แต่นักอ่านเดี๋ยวนี้ฉลาด เขาอ่านรีวิวประกอบการตัดสินใจ เรตติ้งเยอะแต่ถ้ารีวิวไม่ค่อยมี ป้ายแดงก็ไม่ขึ้น กูว่าไม่มีผลอะไร ยอดไม่ขยับหรอก

922 Nameless Fanboi Posted ID:gCirmT+MN+

>>916 กูก็เห็นเหมือนกัน อีเมนต์ว่าเหมือนเรื่องangelxxxxxx กูก็อยากบอกเหมือนกันจ้าว่าอีเรื่องangelxxxxxxx ก็เหมือนอีกเรื่องหนึ่งที่ปกชมพูๆอะ หาบหน้าโง่หรือตัวนักเขียนเองที่มาเมนต์กูก็ไม่รู้นะ แต่มั่นหน้าขนาดนี้ระวังโดนแหกรอบสองอีกนะจ๊ะ แหกเหมือนที่โดนแหกในกรุ๊ปรีวิวจนต้องระเห็จออกมาอะค่ะ

923 Nameless Fanboi Posted ID:oxDm6FkmTx

>>922 ทำกุอยากเสือกอีกแล้ว โดนแหกในกรุ๊ปรีวิวอะไรวะ กุไม่ทัน 5555

924 Nameless Fanboi Posted ID:51Q6fpGkbY

>>908 โห ไอ้ที่มึงพูดมาคือขัดกับกูหมดเลย น้ำตาจะไหล ไอ้หวีดท้ายตอนก็อยากหวีด (ว่าจะลงในเม้น) เพราะกูแต่งเองอ่านเองอุบอยู่คนเดียวมานานเลยเหงามั้ง อยากหาคนคุยด้วย ไม่นึกจะมีคนไม่ชอบ เดี๋ยวกูจะพยายามปรับตัวคีพลุคหน่อยแล้วกัน TT

925 Nameless Fanboi Posted ID:Cx2O5Kdh9Z

>>924 กูคิดว่าเป็นตัวของตัวเองดีที่สุดนะ แต่อย่าเป็นคนร้ายๆ 5555

926 Nameless Fanboi Posted ID:51Q6fpGkbY

>>911 กุเคยอ่านรีวิวเรื่องนึงแล้วเจอคล้าย ๆ แบบนี้เหมือนกัน (แฟนเรื่องนั้นมาติว่าลอก) แต่อันนั้นกูก็ไม่มั่นใจว่าเขาได้แรงบันดาลใจมาจริงหรือแค่บังเอิญเหมือน เพราะเรื่องแมสที่โดนเอาไปเทียบมันแมสมาก ออกมานานแล้วด้วย เคสแบบนี้แม่งพูดยากว่ะ ถ้าเขาไม่ได้รับรู้เรื่องอะไรด้วยจริง ๆ ก็บอกตรง ๆ ว่าสงสาร แต่ก็นั่นแหละ ความจริงเป็นไงเจ้าตัวคงรู้ดีสุด

927 Nameless Fanboi Posted ID:cfaP6tGm0i

>>924 ไม่ต้องเครียดไปนะมึง เป็นตัวของตัวเองเรียลๆแบบไม่ร้ายอย่างที่โม่งว่าแหละ อยากบอกว่ามีนักอ่านตตามอ่านเรื่องของกูเพราะอยากอ่านคุยท้ายบทกูด้วยนะ กูร้องไห้หนึ่งกรุบ สรุปกูควรเอาดีทางไหน

928 Nameless Fanboi Posted ID:U78Peb1iUA

กูเป็นพวกเขียนงานไปเรื่อย ๆ เขียนจบก็ติดเหรียญ + ขายอีบุ๊ก ไม่เคยกดหัวใจให้ตัวเอง ไม่เคยขอให้ใครมากดให้ ไม่คุยเจ๊าะแจ๊ะท้ายเรื่อง (เอาจริงๆ คือกูขี้เกียจแหละ) ใครชอบก็ซื้อไป แต่นักอ่านที่มากดหัวใจและเม้นให้ เขาก็บอกว่าชอบงานเขียนของกู ยอดเปย์เดือนหนึ่งก็ได้หมื่นอัพ ไม่เคยจับกลุ่มไม่เคยสุงสิงกับใครมาก สบายใจดี แต่กูโชคดีอย่าง ไม่มีคนมาเม้นด่านิยายกู ทั้งที่กูอินดี้สุดๆ

929 Nameless Fanboi Posted ID:bQX87+uIaR

กู >>911 เอง มีเคสอื่นแบบพวกมึงข้างบนบอกด้วยหรอ กูเจอหลายเรื่อง อย่างบางเรื่องกลุ่มรีวิวเคยเม้ามอยว่านิยายเรื่องนี้คล้ายอีกเรื่องแต่คนโพสไม่พูดตรงมีแอบใบ้ แต่กูก็ตามเจอ กูไม่ได้อ่านทั้ง 2 เรื่องนะ แค่ลองคิดว่าตอนนี้นิยายโคตรเยอะ ถ้าพล็อตคล้ายแล้วไม่มีใครลอกใคร คนที่โดนกล่าวหาจะเอาตัวรอดยังไง ยิ่งอีกฝ่ายมีพวกเยอะ มีกฎหมายในมือ กูก็แต่งโรมานซ์ เผื่อกูจะโดน 555 พล็อตนายเลขาก็กูเคยคิดจะแต่ง พล็อตแม่งฮิตมากๆ ถ้ากูเขียนทีหลังทั้งที่กูก็มีไอเดียก่อนแล้ว แล้วพล็อตแบบนี้มันเดินเรื่องได้กี่แบบกันล่ะ เส้นเรื่องก็คงคล้ายๆ กันอีก กูจะโดนข้อหาลอกมั้ย

>>919 กูไม่กดใจใส่เรทติ้งนิยายตัวเอง กูถือว่าจุดนั้นเป็นหน้าที่ของนักอ่านเค้า ไม่เกี่ยวกับกูละ กูทำงานกูสมบูรณ์แล้ว กูอยากให้เป็นยอดกดใจแบบเรียล ถ้าว่ากูชอบนิยายตัวเองก็ต้องกดใจดิ่ แต่กูแต่งมันออกมาจนจบแล้วแสดงว่ากูก็ชอบนิยายกูแล้วไง

930 Nameless Fanboi Posted ID:DtjdK3ctWd

บางทีนะ นข.ดังๆ เนี่ยมึงคิดว่าคนอื่นไม่มีสมอง คิดแบบมึงไม่ได้หรือไง อย่างเคสสร้างคำขึ้นมาเองใครใช้ = ลอก (ซึ่งจริงๆ มึงไม่ได้เป็นคนสร้าง) เคสเอาสายพันธุ์สัตว์ที่ตัวเองใช้มาแต่งเป็นตัวเอกเหมือนกันอะไรเงี้ย คือ มึงเขียนเก่งเขียนดีจริง แต่ใช่ว่าจะไม่มีคนเก่งเทียบเท่าหรือมากกว่า กูยอมรับว่ากูโนเนมและหมั่นไส้พวกอีโก้จัดเพราะอิจฉาแหละ แต่กูว่ากูพูดไม่ผิดนะ พวกอีโก้จัดนี่ชอบด้อยค่าสมองคนอื่น

931 Nameless Fanboi Posted ID:cfaP6tGm0i

>>930 ในฐานะของนักเขียนที่ไม่ได้ดังมาก เคยโดนลอกงานจริงๆ ลอกไปตัดแปะเป็นท่อนๆ เลย กูว่ามันต้องดูเป็นกรณีๆ ไปว่ะ เข้าใจทั้งฟีลลิ่งคนโดนลอกและคนมาทีหลัง แต่กูเชื่ออย่างนึงว่าถ้าเขียนเองเลยยังไงแม่งก็ไม่เหมือนคนอื่นขนาดนั้นหรอก

932 Nameless Fanboi Posted ID:g345YNZ4ck

>>931 เห็นด้วยกับมึง

933 Nameless Fanboi Posted ID:NFIeKt+.07

กูขอ ky ปกติตอนเปิดพรีเล่มนี่พวกมึงขาย ebook เลยมั้ยอะ อยากรู้ว่าถ้าทำพร้อมกันมันจะมีผลต่อยอดพรีเล่มมั้ย แล้วถ้ามีงั้นควรทิ้งระยะเท่าไหร่ดี

934 Nameless Fanboi Posted ID:oI8upStfD7

>>933 มีนะ เพราะอีบุ๊คถูกกว่า+ไม่ต้องรอนาน เขาถึงปล่อยหลังพิมพ์เล่มไง เพราะคนซื้อเล่มมีจุดประสงค์หลักคืออยากอ่านต่อจนจบหรือตอนพิเศษที่มีเฉพาะเล่ม(หากมึงลงอ่านฟรีไม่ครบ) กับอยากสะสมรูปเล่มไว้จับต้อง ถ้าปล่อยอีบุ๊คก่อน พวกแรกจะไม่พรีเล่มละ หายไปแทบจะครึ่งนึงเลยอะ

935 Nameless Fanboi Posted ID:QGtjffaSyl

พูดในห้องนี้ละกัน น่าจะอยู่กันเยอะ อาจจะกระทบเป้าหมายกู วงการนี้มีนักเขียนหลายคนชอบเปิดการ์ดซึมเศร้า ซึ่งกูก็เข้าใจทุกคน อาการป่วยเลือกไม่ได้ แต่ที่งงคือนักเขียนซึมเศร้าหลายคนชอบไล่กัดคนอื่นเหมือนหมา ตัวเองจิตใจเปราะบ้างอยากได้การถนอม แต่พอลงมือกับคนอื่นนี่มึงไม่ยั้งมือเลยนะ เป็นไรมากป่าว มึงเป็น คฝ. เหรอ สวมเกราะเต็มยศแล้วเอากระบองไล่ตีชาวบ้านอะ กูจะด่ามึงกลับก็ไม่ได้ กลายเป็นผู้ร้ายทันที ใครทำอยู่ก็เลิกพฤติกรรมเถอะนะ ความอิจฉาริษยาขี้นินทามันไม่ดีต่อโรคที่มึงเป็นอยู่หรอก สุขภาพดีเริ่มที่ตัวเรานะเพื่อนโม่ง บิบิ

936 Nameless Fanboi Posted ID:cidPn4k8XU

>>935 ถ้าซึมเศร้าแล้วรังควาญคนอื่นไปทั่วเขาเรียกสันดานเหี้ยแล้วเอาโรคมาบังหน้า ไม่ต้องไปให้ค่ามันหรอกเพื่อนโม่ง

937 Nameless Fanboi Posted ID:LyjuFzqW+F

>>936 กูเป็นคนที่ไม่อินกับความอ่อนแอทางจิตใจของใครเลย รู้ว่าเศร้า แต่แล้วยังไง เป็นหวัดแล้วไอใส่ใครก็ได้เหรอ อิห่า 5555 กูเข้าใจมากๆ ว่าเวลามีคนหงายการ์ดซึมเศร้าใส่แล้วเราดูเป็นตัวร้ายมันเซ็งสัด เอาเป็นว่าคนที่เข้าใจมึงมีแน่นอน แต่ต้องแน่ใจว่ามึงเองก็วางตัวดีด้วยนะ

938 Nameless Fanboi Posted ID:rm1lzfxfM8

Ky ใกล้ถึงวันลงขายในเมพละ แฟนคลับก็ไม่มี เพื่อนนักเขียนก้ไม่เหลือ กลัวเป็นนิยายโดดๆไร้รีวิวไร้หัวใจสักดวงตั้งแต่วันแรกๆแล้วก็ไร้เงินมากเลยเพื่อนโม่ง แพนิคๆลงขายเสร็จคงต้องปิดเน็ตไปสามวัน ไม่กล้ารับความจริง กุกลัว

939 Nameless Fanboi Posted ID:MQK/dxJ05.

>>938 กูก็แบบมึงเลย ตอนเขียนขี้เกียจสะสมฐานแฟน อัพก็ตั้งเวลาเอา ไม่ดู ไม่หือ 5555555 แต่ยอดโหลดมีนะมึง อย่างน้อยมันจะหลุดมาซักห้าหกอยู่ เอาใจช่วยนะ เขียนคลายเครียด แต่ดันเครียดตอนขาย

940 Nameless Fanboi Posted ID:p9BlV3F.lw

>>938 คิดอย่างนั้นไม่ได้ มึงต้องเปิดเนตและโปรโมตอย่างเต็มพิกัดต่างหาก อย่าปล่อยตามชะตากรรม

941 Nameless Fanboi Posted ID:lt59Od/xNc

>>938 กุแนะนำให้พยายามขายเท่าที่พยายามได้นะ ขนาดพวกแมสๆ แม่งยังขายกันสุดประตู เรายังไม่แมสจะนิ่งนอนใจรอคนอ่านมาค้นพบไม่ได้ 555

942 Nameless Fanboi Posted ID:fmTKjAv7kF

กูเห็นคนแมสหลายคนยิงแอดบ่อยมาก พอโปรโมตก็กำไรเยอะขึ้น แค่ต้องบวกลบคูณหารให้มั่นใจก่อนลงทุนอะ บางคนพลิกชีวิตจากที่นูกูมากๆกลายมาเป็นขายดีเพราะยิงแอดสม่ำเสมอก็มี เพราะงั้นอย่าอยู่นิ่งเลยมึง ลองหลายๆวิธี มันอาจล้มลุกคลุกคลานไปบ้างแต่ว่าถ้ามึงปิดเน็ตไม่รับรู้อะไรเลยมันก็เหมือนมึงอยู่ที่เดิม ไม่ได้บทเรียนใหม่ๆนะ นิยายหลายเรื่องดีจริงแต่คนอ่านไม่มาเห็น กูเชื่อว่าถ้านิยายดีมากแล้วโปรโมตควบคู่ไปด้วยยังไงก็มีความสำเร็จมากกว่า

943 Nameless Fanboi Posted ID:U3dXJtDAG4

>>939-942 ขอบคุณพวกมึงมากๆน้ะ TT โอเค กุจะไม่ปิดเน็ตแล้ว55555 จะดิ้นๆหาทางโปรโมทกับยิงแอดเท่าที่ทำได้!

944 Nameless Fanboi Posted ID:ltkn8ubO0w

หมวดไหนคนอ่านเยอะสุดอะ

945 Nameless Fanboi Posted ID:p8uT+E1wix

ทำไมการเขียนฉากเยกันมันถึงดูผิดบาปไม่มีคุณค่าวะเพื่อนโม่ง แล้วทำไมนักเขียน(บางคน)ที่ตั้งปนิธานว่าจะไม่เขียนฉากเยกันถึงมั่นหน้ามั่นกีว่านิยายตัวเองสูงส่ง พิทักษ์ ธำรงค์ ซึ่งคุณธรรมห่าเหวอะไรสักอย่างของสังคมอยู่วะ กูละงง นิยายมันคือศิลปะแห่งการเล่าเรื่อง ศิลปะแห่งการเล่าเรื่องที่ไม่สามารถเล่าเรื่องธรรมดาสามัญที่สุดของมนุษย์ได้ สำหรับกูแม่งไม่ได้มีคุณค่าอะไรอย่างที่ตัวเขียนมโนเลย

บางคนคือหนักอ่ะ บอกคนอ่านชอบเสพอะไรง่ายๆ ชอบเรื่องเยๆ เลยไม่อ่านแนวเสียดสีสังคม ดราม่า ดิสโทเปีย ยูโทเปีย หรือบลาๆๆที่ต้องใช้สมองคิดเยอะๆ กูล่ะมองบน ถามหน่อยกูจะได้อะไรจากนิยายสะท้อน/เสียดสีสังคมที่นักเขียนมีทัศนคติแบบนี้วะ กูมีคาฟคา มีมานน์ มีเฮสเส มีโฟลแบร์ มีบาเบล มีฟิลลิป ร็อธ มีออสการ์ ไวลด์ มีไฮน์ริช กูจะอ่านงานเสีนดสีสังคมที่นักเขียนมองเรื่องเยเป็นเรื่องผิดบาป ผิดศีลธรรมอันดีงามของมึงไปทำไม

กูเห็นทัศนคติยังงี้ในนักเขียนเจน Y เจน Z แล้วกูตกใจมาก ทัศนคติที่มองว่าจีนแบนงาน NC เป็นเรื่องถูกต้องดีงาม กูแบบ...อนาคตวงการวรรณกรรมไทยน่าสงสารชิหัยเลยวะ

946 Nameless Fanboi Posted ID:tJ1cnzp6Ss

>>945 พวกล้าหลัง กุไม่ให้ราคาเลย ปล่อยให้มันจมหายไปกับงาน (ที่คิดเอาเองว่า) ทรงคุณค่า และตายไป

947 Nameless Fanboi Posted ID:89MpPCWrTv

>>945 มันต้องแยกก่อนว่าฉากเยที่ว่ามันเยแบบ พั่บๆ ปึกๆ หรือเยแบบ บรรยายสวยงามเห็นภาพ ถ้าแบบพั่บๆปึกๆ กูว่ามันไม่ศิลปะละนะ อันนี้มึงหมายถึงเยทุกเยหรือเยแบบไหนอ่ะ

948 Nameless Fanboi Posted ID:p8uT+E1wix

>>947 รวมถึงทุกเยนั่นละ ใครจะมีศิลปะแต่งแต้มวิจิตรบรรจงขนาดไหนนั่นอีกเรื่องนึง ประเด็นของกูคือฉากเย มันถูกด้อยค่าให้เป็นเรื่องผิดศีลธรรม พอผิดศีลธรรมมันเลยไม่มีคุณค่า ทำให้สังคมเสื่อม ทำไมนักเขียนบางคนถถึงปาวรนาตัวเป็นศาสดาที่จะมาปฏิรูปจิตสำนึกของสังคมฟระ เห็นบางคนใช้คำว่า ไม่กระดากที่จะเขียนฉากเย ทั้งๆ ที่ฉากเยแม่งสะท้อนอะไรได้หลายเรื่องมาก เช่นความสัมพันธ์เชิงอำนาจละหนึ่ง

949 Nameless Fanboi Posted ID:89MpPCWrTv

>>948 ถ้านักเขียนเหมารวมขนาดนั้น มึงเจอนักเขียนบ้าแล้ว ฉากเยที่เขียนออกมาอย่างสวยงาม = งานศิลปะรูปแบบหนึ่ง ขนาดภาพเขียนยังมีภาพเปลือยเลย เปลือยแบบไม่ได้ทำให้เงี่ยนด้วยนะ ของงี้อยู่ที่การสื่อออกมาล้วนๆ

ส่วนพวกอยากเป็นศาสดา กูว่าแค่ต้องการจุดยืนเท่ๆที่ทำให้ตัวเองดูเด่นกว่าชาวบ้านว่ะ พวกว้อนสปอทไลท์ส่องตัวเองแบบนี้ไม่ค่อยอยากให้ค่าเท่าไหร่

950 Nameless Fanboi Posted ID:QGtjffaSyl

กูไม่ได้คิดว่าฉากเยผิดศีลธรรมนะ แต่ก็มองปึกๆ พั่บๆ ซี้ดซ้าด อู้วอ้า แจ๊ะๆ เป็นศิลปะไม่ไหวอะ

951 Nameless Fanboi Posted ID:g+sTJP5.l+

>>945 จริงดิ มีนักเขียนออกมาบอกว่า แบบจีนแบน nc คือดีด้วยเหรอ เห็นมีแต่คนบ่น

952 Nameless Fanboi Posted ID:ZkoMjyftvQ

เรื่องเสียวจงเจริญ

953 Nameless Fanboi Posted ID:p8uT+E1wix

>>951 กูเห็นในกรุ๊ป ตกใจคือกัน

954 Nameless Fanboi Posted ID:4WOt+pFQfe

พกมึงกูปรึกษาหน่อย ตอนนี้กูเปิดพรีไปแล้วลงอีบุ๊กไปแล้วด้วยส่วนหนึ่ง (คือมันหลายเล่มจบ) แต่พอกูแต่งใกล้มาถึงตอนจบจริงๆ อะ กูรู้สึกอยากเรียงลำดับเรื่องใหม่ เพราะตอนเปิดมาบทแรกมันไม่น่าสนใจเลย ทุบหัวคนเข้าบ้านไม่ได้อะ คือ ที่กูตัดสินใจไม่ได้เพราะมันงานช้างแน่ๆ
กูอยากรื้อเรียงใหม่จริงๆ ถ้ากูอาจจะต้องเลื่อนเวลา ผิดสัญญากับนักอ่าน กูจะโดนสาปแช่งไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดไหม
กูไม่แมส และไม่มีความมั่นหน้าพอจะไปฟาดนักอ่านแบบนักเขียนบางคน มีแต่สองมือที่พร้อมก้มลงกราบขออภัยที่สาระแนเปิดพรีก่อนจะแต่งจบเนี่ย T^T

955 Nameless Fanboi Posted ID:OHKETPP/HQ

>>945 เยแบบไหน เยแบบสวบๆ สาบๆ แน่นคะ อวัยวะมาครบกูแบนนะ แต่เยแบบอีโรติกกูยอม

เห็นความเห็นนักเขียนแบนเยทำให้นึกถึงนักวาดการ์ตูนดังคนนึงประกาศงานตัวเองไม่เยให้คนอื่นๆ สวนว่าไม่เยตรงไหน เพราะมีงานของนักวาดคนนั้นที่พระเอกข่มขืนนางเอกเลยหนักกว่าเยปกติอีก

956 Nameless Fanboi Posted ID:qrhfOMzyXY

นิยายกูไม่เยเลยเพราะพล๊อตเน้นเรื่องอื่น แต่กูมองว่าฉากเยถ้าใส่มาถูกที่ถูกเวลามันก็คือฉากหนึ่งที่ทำให้นิยายสมบูรณ์ขึ้นป่ะวะ ตัวละครถ้ามันจะต้องเยมันก็ต้องเยอ่ะ ก็กินขี้ปี้นอน ตัวนขเองก็เป็นงี้ มีอารมณ์เป็นธรรมดา ส่วนการมองเป็นศิลปะนี่กูว่าคุณค่ามันขึ้นอยู่กับสายตาคนอ่าน ตัวกูเองประเภทตับๆปักๆถ้าเขาจูนติดแล้วยกย่องกูก็ไม่สไลด์หน้าไปสงสัยนะว่าทำไม ผลงานกับคนเสพมันมีคู่ของมันอยู่แล้ว ถ้าแค่ไม่ชอบ ยี้ กูว่าได้แหละเพราะเป็นเรื่องของรสนิยม แต่การชี้ว่าอันไหนสูงอันไหนต่ำคิดว่าถือตัวเองเป็นศูนย์กลางไปหน่อย อย่าให้กูพูดนะว่าอ้าวแล้วมึงไม่ได้เกิดมาจากเพศสัมพันธ์เหรอ 5555

957 Nameless Fanboi Posted ID:U/9Z7IpU08

>>956 ซี๊ด อ๊าๆๆๆ ปึกๆๆ ปักๆๆๆๆ พึ่บพับๆ แจ๊ะๆๆๆ จ๊วบๆๆๆ ไม่ต่ำ แต่ทุเรศ ขนลุก

958 Nameless Fanboi Posted ID:U/9Z7IpU08

ขนลุกนี่ไม่ได้เสียวนะ ปวดขี้

959 Nameless Fanboi Posted ID:ixnRLegSd4

>>956 เออ ที่มึงพูดนั่นตรงประเด็นเลยเพื่อนโม่ง กูไม่ได้พูดเรื่องฉากเย ซี๊ดดด ปั่ก! ห่านจิก กูพูดเรื่องทัศยคตินักเขียนบางคนที่มองว่าฉากเยไม่ว่า ซี๊ด ปั่ก หรือบรรยายเลิศหรูว่ามันต่ำตม นักเขียนไม่กระดากกันแล้ว อะไรประมาณนี้

>>955 เยสวบสาบอย่างนั้นกูก็ไม่อ่าน แต่ว่าบาปถ้าบรรยาย hee kuay แล้วมันดี กูก็อ่านนะ กูเจอนิยายแปลงานโมเดิร์นคลาสสิคใช้คำว่า 'เย็-ฉันสิ เพราะการเย็-คือเสรีภาพอย่างเดียวที่ฉันเหลืออยู่' แล้วใช้คำว่าเย็-ทั้งเรื่อง มีแหกหอย กระเจี๊ยว แต่ต้นฉบับภาษาอังกฤษใช้คำว่า cock คนแปลคงเกรงใจแหละกูว่า 🤣 แต่กูตราตรึงมาก บางทีการใช้ภาษาอย่างตรงไปตรงไปมาแบบถูกที่ถูกเวลาตรงบริบทมันก็เจ๋งและเป็นศิลปะที่ต้องใช้ความพยายามและเทคนิคไม่แพ้คำจิตรสวยๆ อ่ะ ในความรู้สึกกูนะ

>>954 มึงมีปัญหากับบทนำอย่างเดียว หรือทั้งโครงเรื่องอ่ะ ถ้าแค่บทนำ มึงเขียนบทนำใหม่ก็ได้นะ เพิ่มมาสักเหตุการณ์ที่น่าสนใจ กระตุ้นให้คนอยากรู้ แต่อาจจะไม่มีผลกับโครงเรื่องเดิม ถ้าเป็นทั้งโครงเรื่อง แล้วมึงต้องการจะรื้อใหม่จริงๆ กูว่ามึงควรไปอธิบายกับคนจองซะแต่เนิ่นๆ กราบขอโทษงามๆ ขีดเส้นตายให้ตัวเองเลย และฮึบสู้เพื่อน

960 Nameless Fanboi Posted ID:VQLaAfbWNl

>>959 กู 956 เห็นด้วยกับมึงสัสๆ ปั่บปั่กกูเสพแล้วไม่อินกูก็แค่ไปหาเลิฟซีนแบบอื่นอ่าน ซึ่งก็ไม่ใช่แนวที่โดนสำหรับทุกคนแน่นอน ใครมันจะชอบเหมือนกันทั้งโลกวะ กูเองคิดว่าอะไรที่ถูกที่ถูกเวลาและสื่ออย่างมีชั้นเชิงนี่กระตุกใจมาก ส่วนเรื่องคำหยาบเนี่ย ถ้าตัวละครกูพูดไม่ใช่คนสุภาพ จู่ๆ ให้พูดเพราะตอนเอากันมันก็ฝืนป่าววะ 555

961 Nameless Fanboi Posted ID:vueSO.1YLm

มึงๆ กุมาตามโม่ง ทู้เรื่องปกที่ไปเทรสงานนักวาดญี่ปุ่นมาคืออันไหนอะ

962 Nameless Fanboi Posted ID:VD6Y7TLLFk

>>961 ใส่ลิ้งไม่เป็นว่ะ ลองดูว่าได้มั้ย >>>netwatch/13734/

963 Nameless Fanboi Posted ID:Z3IVwq3HS4

>>961 มู้แม่บ้านนินทาของนักวาดอะ กำลังมันเลย

964 Nameless Fanboi Posted ID:AzIk7y+HoR

>>962 ดูไม่ได้นะ ใครก็ได้แปะที

965 Nameless Fanboi Posted ID:4sOeTwD7MD

https://fanboi.ch/netwatch/13734/recent/ นี่ปะวะพวกมึง ที่นินทาฟนกันปะ เทรซปกนวญี่ปุ่นมาทำปกนิยายตัวเอง

966 Nameless Fanboi Posted ID:ZZP0morAGt

>>965 มันมาก แหกรัวๆ 555
ไม่รู้จะลงมู้ไหน แต่เพิ่งรู้ว่าทมยันตีเสียแล้ว

967 Nameless Fanboi Posted ID:Z3IVwq3HS4

เห็นมู้นักวาดพูดถึงร้ายเดียงสา กูไม่เคยอ่าน มันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอวะ เห็นว่ามีคนแหกจนนขซึมเศร้าเลย

968 Nameless Fanboi Posted ID:U/9Z7IpU08

>>967 แย่มึง เอาโรคdidมาเขียนมั่ว แต่ปากบอกศึกษามาอย่างดี คนเขาเคยเตือนแล้วแต่ทำเป็นไม่สนใจเว้ย จนมาโดนแหกเป็นกระแสถึงได้ออกมายอมรับ สำนึกผิด

969 Nameless Fanboi Posted ID:Z3IVwq3HS4

>>968 โอเค เข้าใจละ

970 Nameless Fanboi Posted ID:U/9Z7IpU08

>>969 #ร้ายเดียงสา ในทวิตกระจ่างเลย

971 Nameless Fanboi Posted ID:N5iPdEdtfg

เพื่อน เราอยากลองเขียนนิยายที่มันเล่นประเด็นพวกแย่ๆเช่นแบบค้ามนุษย์ หรือการทำร้ายร่างกาย ข่มขืนยังไงให้ดูไม่โรแมนติไซ๊สิ่งพวกนี้อะ คือเราเขียนได้ว่ามันแย่ยังไง แต่เราไม่ค่อยมีไอเดียในเรื่องว่าคนที่ทำเรื่องแย่ๆแบบนี้สมควรโดนอะไรอะ ;-; เช่นเข้าคุก โดนโทษร้ายแรงเลยอะไรแบบนี้ เราอยากลองนึกอะไรแปลกใหม่อะ หรือเพื่อนจะมีอะไรแนะนำให้อ่านหรือดูเป็นแนวทางเราก็ได้นะ เรานึกออกแต่ต้นทางอะ

972 Nameless Fanboi Posted ID:6F48fJgI/G

>>971 ถ้าไม่อยากให้ดูโรแมนกับขอพวกนี้แค่อย่าไปบอกว่ามันดียังไง ชักชวนให้คนเห็นดีด้วย พอเข้าใจไหมอะ งานเขียนไม่จำเป็นต้องชี้ให้เห็นทำเรื่องแย่ๆสมควรโดนอะไร มันไม่มีข้อกำหนดตายตัว เหมือนแบบทำบาปแล้วตกนรกไปโดนอะไร ในความเชื่อกูติดคุกอะไรมันไม่ใช่ทางลงที่แย่สำหรับพวกนั้นเลย กูคงบอกได้แค่นี้ ขอโทษพอดีกูไม่มีศรัทธาในความยุติธรรม

973 Nameless Fanboi Posted ID:jCIcNGPlrD

KY ในนิยายจีนที่หน้าคำนำบอกเป็นระดับ เช่น 1 พื้นฐาน 2 ก่อเกิด 3 หลอมรวม ... พวกนี้มันคืออะไร เห็นมาหลายเรื่องละ

974 Nameless Fanboi Posted ID:N5iPdEdtfg

>>972 เราก็ไม่มีความศรัทธา555555555 เลยไม่รู้ว่าถ้าเขียนแนวนี้จะพาตอนจบไปยังไงดีอะ เพราะปกติก็เจอแต่แบบอย่างข่าวทุกๆวันมันก็ไม่ได้โดนอะไรเลยอะ เราเลยตันมากๆ แต่อยากเขียนมากๆ ;-;

975 Nameless Fanboi Posted ID:lSIv6.NH3d

>>971 ถ้าอยากเล่นประเด็นอะไรพวกนี้กุคิดว่ามึงต้องมีแรงบันดาลใจกับมันแรงๆ มีจุดที่มึงคิดว่าอยากจะพูดจริงๆ แล้วค่อยกลั่นออกมาอ่ะ งานมันถึงจะลึกและคม ไม่ใช่ใส่มาแต่ผิวเผินเพราะคิดว่าใส่แล้วมันน่าจะดี ถ้าใส่มาแบบว่างเปล่าหรือกลวงๆ เพราะยังตกผลึกได้ไม่ดีพอ กุว่าอย่าใส่จะดีกว่า พูดในฐานะนักอ่านนะ

976 Nameless Fanboi Posted ID:zR/vnzu6fD

>>971 เขียนแบบค่อยๆสืบสาวไปจนได้รับบทเรียนสาสม

977 Nameless Fanboi Posted ID:Z3IVwq3HS4

>>971 ลองแบบมาถึงคนทำโดนลงโทษไปละมะ ไม่ก็กำลังขึ้นศาลไรงี้ แล้วค่อยเล่าเรื่องย้อนว่าเกิดอะไรขึ้น ฉากตู้หู้วก็ใส่อารมณ์ดิบให้ดูน่ากลัวแทนการฟิน ยังไงก็ได้ให้คนอ่านรู้สึกร่วมว่าเออมันน่ากลัวนะ ไม่ได้ฟินแบบที่มึงจิ้นๆกันนะ แต่มันจะดาร์คและน่าหดหู่มากเลยนะ กูกลัวมึงดิ่งตอนเขียนอะดิ ละนิยายพวกนี้คนอาจไม่อ่สนด้วยมันเล่นประเด็นเชิงลึกอะ

978 Nameless Fanboi Posted ID:6F48fJgI/G

>>974 ถ้าเห็นบ่อยสุดน่าจะเป็นการที่ตั้งศาลเตี้ยขึ้นมาเอง พิพากษาเอง คนอ่านก็ชอบใจนะเห็นมังงะหลายเรื่องก็ทำแนวนี้เห็นว่าเกิดจากการที่คนไม่เชื่อในความยุติธรรม แต่กูก็ไม่ชอบใจกับศาลเตี้ยเหมือนกันอะ

979 Nameless Fanboi Posted ID:Z3IVwq3HS4

>>978 นึกถึงล่าเลย

980 Nameless Fanboi Posted ID:U/9Z7IpU08

>>973 พวกนิยายแนวฝึกตนอะ เป็นระดับพลัง ส่วนใหญ่จะฝึกไปเป็นเซียน

981 Nameless Fanboi Posted ID:FAIDrJX9Bf

แง ขอบคุณคำแนะนำของทุกคนคับบบบบ รักกกก

>>975 ตอนนี้คิดๆอยู่เพราะถ้าเขียนคงต้องไปหาข้อมูลเรื่องอื่นอีกยาวๆ กะจะให้มันเป็นเมนหลักของเรื่องเลย ไม่อยากใส่มาแค่ใส่อะ
>>977 นั่นสิ คืออยากเขียนมากแต่จะดิ่งตอนเขียนมั้ยนะ ฮื่ออออ

982 Nameless Fanboi Posted ID:G7iETNWCph

มึง ขอคำแนะนำหน่อย T_T
กุเป็นนักเขียนนามปากกาใหม่เอี่ยม ลงงานทุกวันมาได้อาทิตย์นึงละ ยอดอ่าน+เก็บเข้าชั้น+กดหัวใจ แค่หลักสิบ **แต่** คอมเม้นแต่ละตอนก็หลักสิบเหมือนกัน เพราะอัตราคนเม้นต่อจำนวนคนอ่านสูงมาก 20-25% ได้
ประเด็นของกุคือ ยอดรวมๆมันก็ยังน้อยอยู่ดี T____T กุอยากให้ยอดมันพัฒนาไปได้มากกว่านี้อ่ะ ควรไปโปรโมทที่ไหนเพิ่มดี ปกติกุเคยเจอแต่ยอดอ่าน+เก็บเข้าชั้นเยอะแต่เม้นน้อย เจอแบบนี้ไปไม่เป็นเลย แถมอัพแต่ละครั้ง growth ก็ไม่สูงด้วย อัพทียอดเก็บเข้าชั้นเพิ่มมา 2-3 คนงี้ เยอะแค่ตอนเปิดตัวในแท็กโปรโมทนิยายครั้งแรกครั้งเดียว แต่นักอ่านหน้าเดิมก็ยังเม้นอยู่แบบเหนียวแน่นมาก

983 Nameless Fanboi Posted ID:lSIv6.NH3d

>>982 ค่อยๆ เก็บสะสมฐานแฟนคลับไปอะ กดสปอนเซอร์โพสต์ก็ช่วยได้นิดหน่อย ถ้าเงินถึงนะ ไปโปรโมทตามกรุ๊ปอ่านนิยายที่นักอ่านอยู่เยอะๆ ก็พอช่วยได้บ้าง กุเห็นนักเขียนหลายคนก็ทำ แต่ขยันอัปนั้นมึงทำถูกแล้ว ขยันไปเรื่อยๆ สำคัญที่มึงต้องขายงานในเฟสให้น่าสนใจด้วย พวกคำโปรย ประโยคดึงดูดคนอ่าน ไรพวกนี้

984 Nameless Fanboi Posted ID:ctANfQgCwz

>>983 กูขอถามด้วยคนได้มั้ย ปกติเขาไปโปรโมทนิยายกันในกรุ๊ปไหนกันหรอ คือกูไม่เล่นเฟซเลยไม่ค่อยรู้จักอะไรเท่าไหร่อะ

985 Nameless Fanboi Posted ID:G7iETNWCph

>>983 อยากรู้อะ ปกติต้องอัพถึงประมาณตอนที่เท่าไหร่หรอถึงจะมีคนอ่านเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดให้พอชื่นใจ ซัก 200-300 งี้ก็พอ ฮือ ตอนนี้กุอัพถึงตอนที่ 8-9 ละ แต่สำรองไว้ประมาณ 15 ตอน(ประมาณครึ่งเรื่อง) เลยลังเลใจนิดนึงว่าควรแต่งต่อไปมั้ย หรือรอดูยอดก่อน ถ้าไม่เวิร์คก็แพ็กกระเป๋ากลับบ้านไปแต่งเรื่องใหม่ 55555555

986 Nameless Fanboi Posted ID:KzGwabaHKb

กุขอแวบมาถาม มีนักเขียนอิสระเขียนดีแหวกแนว อีโก้ไม่สูงไม่ช่างฉอดที่ใครอยากแนะนำมะ แนวไหนก็ได้ กุอยากรู้ เผื่อเจอแอคนักเขียนใหม่ๆไปหางานอ่าน

987 Nameless Fanboi Posted ID:jvtCl9EF5K

>>984 พวกกรุ๊ปรีวิวนิยาย กรุ๊ปขายนิยาย ต่างๆ อะ แต่เข้าไปจอยก็ดูด้วยว่าเขาให้ฝากงานมั้ย ถ้าเขาไม่ให้ฝากก็อย่าหาทำนะ เดี๋ยวโดนดีด 555

988 Nameless Fanboi Posted ID:jvtCl9EF5K

>>985 แล้วแต่เรื่องด้วยนะกุว่า ถ้าเปิดเรื่องพีคๆ ตอนสองตอนแรกก็ตีหัวเข้าบ้านได้แล้ว ถ้าเปิดเรื่องช้ายอดอ่านก็จะนิ่งๆ ไปก่อน ไปพีคช่วงใกล้กลางเรื่องก็มี

989 Nameless Fanboi Posted ID:h+LOtqxsq0

KY กุสงสัยอย่าง ถ้าเขียนให้ตัวละครมีอาการทางจิต แต่ไม่มีการ stated บอกชัด ๆ ในเรื่องว่ามันเป็นโรคอะไร แบบ มีแค่การกระทำอย่างเดียว (ที่ดูแล้วน่าจะเข้าข่ายโรคนี้ ถ้ามีค.รู้เรื่องโรค) แต่มันดันมีอาการอื่นด้วยที่คนเป็นโรคนี้จริง ๆ เขาจะไม่ทำกันเพิ่มมา นี่จะถือว่าโอเค ปล่อยผ่านได้มั้ยวะ หรือยังไงก็ไม่ได้เลย

พอดีดูจากเคส รดส.(นิยายวาย) ที่โดนคนแหกแล้วกลัวขึ้นมาเลย แบบถ้ากุเผลอเอาเรื่องที่มันขัดความจริง (แต่คิดมาดีแล้วว่าไม่น่าส่งผลลบ) ใส่ลงไปบ้างจะโดนแหกแรง ๆ บ้างมั้ย งั้นเลี่ยงไปไม่ต้องพูดถึงชื่อโรคมันเลยจะพอเลี่ยงได้อยู่มั้ย หรือโดนสับอยู่ดี แง

990 Nameless Fanboi Posted ID:sot4piG512

>>989 กูว่าอาการป่วยในนิยายมันเป็นแฟนตาซีได้หน่อยๆ อะ เหมือนที่เคยถกกันเรื่องผู้ป่วยเจ้าหญิงนิทรา ในนิยาย มีเยอะที่ตื่นมาแล้วยังฟรุ้งฟริ้งใช้ชีวิตต่อได้เลย ทั้งที่ความจริงคือสภาพต้องยับเยินทำกายภาพบำบัดหลังเปื่อยเป็นผัก ถ้าไม่ mislead เช่นให้คำแนะนำด้านการรักษาแบบผิดๆ หรือมีทัศนคติแนวโรคซึมเศร้าชนะด้วยธรรมะ หรือเคส รดส ที่ให้ภาพจำผู้ป่วยแย่ กูว่าเขียนผิดหลักความจริงสักหน่อยได้นะ

991 Nameless Fanboi Posted ID:yF5XKbHWIY

>>989 ได้ เรื่องนั้นคือดันเขียนชื่อโรคจริงๆ ลงไป แล้วกันไปเพิ่มแฟนตาซี แถมรักษาแบบผิดหลัก จินตนาการไปเอง ก็โดนสิ

992 Nameless Fanboi Posted ID:xz0UVvZqVf

>>989 กูเคยเจอเรื่องหนึ่งเขายกอาการป่วยทางจิตแต่ละประเภทมาให้อ่านอย่างยาว สุดท้ายจบด้วยแต่ตัวละครนี้ของเขาไม่ได้เข้าข่ายประเภทไหนอย่างชัดเจน เป็นเพียงอาการทางจิตที่ผู้แต่งจินตนการมาเอง อาการมันก็คล้ายๆกันหมดแหละอย่าเผลอเอ่ยชื่อโรคก็พอ

993 Nameless Fanboi Posted ID:74NAY0buBb

ky หมวดนิยายโรแมนซ์กับนิยายรักใน meb มันต่างกันยังไงอะ ไม่รู่จะเอานิยายตัวเองไปลงหมวดไหน นางเอกกูวัยมหาลัยบรรยายบุคคลที่ 1 ก็ว่าจะลงรักวัยรุ่น แต่พระเอกดันวัยทำงานแถมมี nc เน้นเรื่องรักก็เลยจะลงโรมานซ์ แต่ถ้าเน้นรักจะลงนิยายรักก็ได้นิ?? ชื่อก็บอกอยู่ แล้วคำถามก็วนมาที่สองหมวดนี้ต่างกันยังไงวะ ช่วยที orz

994 Nameless Fanboi Posted ID:Fo7amxQ97v

กุว่าเคสรดส.ก็ทำกันเกินไปหน่อย ในฐานะคนที่เรียนจิตมาเหมือนกันแต่ไม่ได้ไปเฮโลตอนเขาแหก ถึงงั้นก็ไม่ได้เป็นแฟนนิยายรดส.

ก่อนอื่น คนเราต้องรู้อยู่แล้วว่าไม่ว่านิยายเรื่องอะไรก็คือเรื่องแต่ง เคสแต่ละเคสมันมีมุมที่ต่างกันออกไป ต่อให้รู้เรื่อง DID จริงมันก็ไม่มีจรรยาบรรณที่จะไปฟังธงเป็นเธรดว่าต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ ควรพูดไปในเชิงเสนอแนะมากกว่าว่ามันไม่ใช่แบบไหนและแต่ละเคสอาจเป็นไปในแนวทางไหน

คือถามจริงๆว่าคิดว่าอย่างในหนังเรื่อง split คือถูกต้องทุกอย่างเหรอวะ คนดูก็มีสิทธิ์ตีความว่าหนังเรื่องนี้ใช้โรคเป็น plot device ในทางที่ไม่ควร แต่ไม่ใช่ว่าจะแบนทุกเรื่องจากโลกมั้ยวะ ไปรณรงค์ดีกว่าว่าอยากเห็นอะไรเป็นแบบไหนมากขึ้น ไม่ใช่สักแต่จะแบนจะตัด คนแหกต้นเรื่องเรียนมาแต่ก็ไม่ได้ทำงานสายจิตด้วยนี่

เพราะงั้นอยากให้กลจ.ทุกคนว่าเขียนไปเถอะ สร้างสรรค์ไปเถอะ เขียนเตือนย้ำหน่อยก็ดีว่าเป็นเรื่องแต่ง ไม่อิงเคสจริง หรือสะท้อนโรคไหนในความเป็นจริง บลาๆ

995 Nameless Fanboi Posted ID:/6Y2Q96NIn

>>993 กูก็ไม่แน่ใจนะ แต่คิดว่าจัดตามเรทปะ มีฉากเยเย้ =โรแมนซ์งี้ปะ

996 Nameless Fanboi Posted ID:Sixfaqx01K

>>993 แนะนำให้ดูคู่แข่งในตลาดนะ จุดขายหลักของนิยายคืออะไร ถ้าจะสู้ด้วยพล็อตเน้นความรักก็ลงนิยายรัก ถ้าคิดว่า NC เด็ดกว่าพล็อตก็ลงโรแมนซ์ จากที่ฟังมึงกูคิดว่าลงนิยายรักได้อยู่มั้ง แต่ถ้า NC เปิดเผยมากระบุรายละเอียดเยอะก็ลงโรแมนซ์ไป นิยายรักคนใสๆ อยู่เยอะ อาจจะโดนรีวิว 2-3 ดาวได้ แถวนั้นบางคนก็ไม่ชอบให้มีฉากเยเย่เยอะ

997 Nameless Fanboi Posted ID:nzcooP+FPD

>>994 รดส ที่โดนแหกแรงเพราะตัวนขด้วย เพราะมีคนเตือนเขาตั้งแต่เขียนลงเว็บไง ว่าที่เขาเขียนมันไม่ถูก แต่เขาหาแคร์ไม่ มั่นๆ พร้อมบอกว่าศึกษามาอย่างดี บลาๆ แล้วนี่บอกตัวเองเรียนจิต มึงไม่แคร์เหรอที่ดขาเขียนเกี่ยวกับการรักษาอาการทางจิตแบบไม่ถูกต้อง แคร์นิดหนึ่งก็ดีนะ

998 Nameless Fanboi Posted ID:/6Y2Q96NIn

>>994 มึงคิดเหมือนกูเลยอะ กูพึ่งตามรอยดราม่านักวาดไปอ่านเจอคนที่น่าจะเป็นคนเปิดประเด็น แม่งคือด่าแรงมาก ฉอดหนักหลายๆเรื่องที่ไม่น่าไปด่า แบบด่าพล๊อตกูพอเข้าใจนะ แต่แหกยันสำนวน แหกยันเรื่องว่านายเอกโชคร้ายเกินมนุษย์มนา คือมึง มึงไปตัดสินไม่ได้เว้ยว่าชีวิตคนมันจะซวยขนาดนั้น อีกอย่างมันคือนิยายอะ กูยอมให้มันอยู่บนจินตนาการที่ไม่เวอร์วังจนเกินไป มันยังพอเป็นไปได้ไงที่คนๆนึงจะซวยซ้ำซวยซ้อนอะ พอมีคนท้วงนางก็แขวนด่ากลับอีก อย่างเดียวที่กูเห็นด้วยกับล๊อคอินนั้นคือเรื่องพล๊อตอะที่มันบ้งจริงกับเรื่องใส่รายละเอียดผิดทำให้คนเข้าใจบุคลากรทางการแพทย์ผิดๆ แค่นั้น

999 Nameless Fanboi Posted ID:/6Y2Q96NIn

>>997 กูพึ่งเห็นเม้นมึงว่ะ ถ้าเป็นอย่างนั้นกูไม่ค่อยแปลกใจละว่าทำไมเค้าโดนแหกแรงขนาดนี้

1000 Nameless Fanboi Posted ID:AqcWqSdQYn

>>996 แล้วถ้ามีแฟนตาซีมีแวมไพร์ แต่ฉาก nc เยอะ ก็ควรลงโรแมนซ์เหมือนกันใช่ไหม

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.