>>>/lifestyle/1579/ โม่งปรึกษาปัญหา&นินทาญาติพี่น้อง
>>>/lifestyle/3178/ โม่งปรึกษาปัญหา&นินทาญาติพี่น้อง ||
>>>/lifestyle/5773/ โม่งปรึกษาปัญหา&นินทาญาติพี่น้อง |||
Last posted
Total of 1000 posts
>>>/lifestyle/1579/ โม่งปรึกษาปัญหา&นินทาญาติพี่น้อง
>>>/lifestyle/3178/ โม่งปรึกษาปัญหา&นินทาญาติพี่น้อง ||
>>>/lifestyle/5773/ โม่งปรึกษาปัญหา&นินทาญาติพี่น้อง |||
ญาติกุแม่งประสาทแดก ไปดูดวงมาให้กุละหมอทักว่ากุโตขึ้นจะก้าวร้าว ละแม่งเชื่อหมอด้วย หลังจากนั้นปฏิบัติกับกุเหมือนอากาศ ดูแลหลานคนอื่นมากกว่า กุนี่งงแดก ถ้ากุจะก้าวร้าวก็เพราะมึงนี่แหละ
>>2 เข้าใจความรู้สึกกูก็โดนแต่ต่างกันหน่อยเพราะกูมันทับจากบ้านกูเป็นบ้านลูกคนจีน+กูเป็นผู้หญิง+พ่อแม่หัวโบราณเชื่อหมอ+กูมีพี่และเป็นผู้ชาย
หมอแม่งทักว่ากูเป็นเด็กก้าวร้าวนี่แหละมีอะไรไม่ยอมคนจะเอาให้ได้ปากกล้าปากเก่งชอบใช้กำลัง
แม่กูเลยไม่ตามใจอะไรกูเลยมีอะไรเอาของกูไปให้พี่หมดพี่กูต้องได้ก่อนเสมอ เขาบอกจะได้รู้จักแบ่งปันรู้จักอดทนรอบ้าง แรกๆกูก็ไม่ก้าวร้าวหรอกกูก็เงียบๆจนโตมาพ่อกูเลี้ยงกูด้วยลำแข้งจริงๆมีอะไรตีกับฟาดกูไว้ก่อน กูทะเลาะกับพี่เพราะกูไม่ยอมทำกับข้าวให้พ่อก็ฟาดกูไว้ก่อนเลยว่าเป็นผู้หญิงต้องทำงานบ้าน จนหลังๆกูเริ่มตีกับพี่ด่าคำพูดคำเพราะกูเริ่มทนไม่ไหวกับนิสัยพี่ที่ชอบเอาของกูไปใช้
คือกูชอบคอมไรงี้เลยเก็บตังเป็นเดือนๆมาอัพแต่พี่กูเอาไปแล้วกูก็ต้องยอมเพราะพ่อแม่บอกให้กูยอมพี่อย่าก้าวร้าวอย่าทำตัวไม่สมเป็นผู้หญิง จนช่วงวัยรุ่นหมอคนเดิมนั้นแหละทักกูจ้า ว่ากูเป็นห่าอะไรนี่แหละแบบผู้หญิงไม่ยอมชายจะเอาตนเป็นใหญ่โพงพางแบบนี้แต่งงานไม่ได้หรอกไม่มีใครเอาทางแก้คือให้กูพึ่งลำแข้งตัวเองให้อ่อนน้อมถ่อมตนอ่อนหวานกว่านี้มีงานอะไรต้องช่วยพ่อแม่แต่ต้องไม่แบมือขอเงิน
อ่อนน้อมอ่อนหวานพ่อมึงปีนขึ้นหลังคาไปซ่อมได้อ่ะอีสัส
กูจะไปต่อยอีหมอเหี้ยนั้นอยู่
>>5 พ่อกับแม่กูไม่ค่อยตีกูเลยนะ แม่เคยไล่ตีกูเพราะกูไม่ยอมกินยา
อาจารย์ที่มหาลัยกูเป็นผู้ชาย แกชอบทำอาหารเป็นแม่บ้านแม่เรือน ส่วนเมียแกปีนบันไดซ่อมหลังคา มันไม่เกี่ยวหรอกว่าผู้หญิงต้องทำแบบนั้น ผู้ชายต้องทำแบบนี้ เผลอๆผู้หญิงแกร่งซ่อมนี่นั่นได้อย่างมึงอาจเจอผู้ชายเรียบร้อยอ่อนหวานก็ได้ เปิดมุมมองพ่อแม่มึงบ้าง
ละหมอดูคือหมอเดา กูเคยลองศึกษาเรื่องโหราศาสตร์อยู่พักใหญ่ ไม่ได้เก่งอะไรหรอก แต่สุดท้ายก็เข้าใจแล้วว่า การดูดวงมันคือสถิติ ถูกบ้างไม่ถูกบ้าง อย่างมงายเลย แต่การเลี้ยงลูกด้วยความรุนแรง ขาดการเอาใจใส่นี่แหละ ที่จะทำให้ลูกมีปัญหา
ถ้าอยากเปลี่ยน ลองวิจารณ์การเลี้ยงลูกของพ่อแม่มึงต่อหน้าแกไปเลย
พ่อแม่ดีๆที่ไหนจะคิดว่าลูกจะได้ดีโดยการกดขี่ ลำเอียง ส่งเสริมความไม่เท่าเทียม ล้าหลังแบบนี้ เอาบทความที่เกี่ยวกับการเลี้ยงลูกแบบใช้กำลัง การตี ว่าจะเกิดผลเสียกับเด็กยังไง การเลี้ยงลูกที่ดีต้องทำยังไง มานั่งเทศให้พ่อแม่มึงฟังแบบใจเย็นๆ พูดย้ำๆซ้ำๆวนๆไป มันต้องเข้าสมองสักวัน
ที่แนะนำไปกูไม่การันตีนะว่าจะได้ผล แล้วมันจะออกมาดี สังคมการเป็นอยู่แต่ละบ้านแตกต่างกัน อาจมีวิธีที่ดีกว่านี้ก็ได้ กูเห็นหนทางรำไรที่พอจะไปต่อได้เฉยๆ
>>6 กูจะจองเวรเผาพริกเกลือหมออยู่ดูเหี้ยอะไรสุ่มสี่สุ่มห้า
>>7 ยินดีกับมึงด้วยเพื่อนโม่ง พ่อกูนี่ไม่เข็มขัดฟาดก็กระดาษม้วนแล้วฟาดกูรัวเลย จนหลังๆกูเริ่มมีการแอบหลบบ้างไรบ้าง จริงๆกูก็ไม่อะไรกับการที่ผู้หญิงต้องทำงานบ้านงานเรือนผู้ชายทำงานกูเป็นพวกมองว่าหารครึ่งเถอะเหนื่อยก็ช่วยๆกันน่าจะดีกว่า แต่อย่างทีทมึงว่าแหละกูซ่อมได้ตั้งแต่หลังคายันรถละลองผิดลองถูกมาไม่น้อยเลยจนกูว่าเอาดีด้านช่างดีมั้ง
กูก็เคยลองนะเอาผลวิจัยจากต่างประเทศมาก็แล้วให้พี่ของพ่อมาพูดก็แล้วยังไม่เห็นหนทาง ตอนนี้กูรอเรียนจบแล้วย้ายออก จะทิ้งให้พ่อแม่อยู่กับพี่นี่แหละกูก็อยากรู้ว่าลูกที่เขารักเชิดหน้าชูตาจะดูแลเขาได้จะทำได้แบบกูมั้ย
กูเกลียดพวกหมอดูมาก ทำคนอื่นชีวิตชิบหายหลายรอบแล้ว ส่วนตัวเองนั่งกระดิกตีนนับเงินไปวันๆ ต้มตุ๋นไปเรื่อยๆ
น้ากูมีเมียน้อย น้าสะใภ้กูเลยไปหาหมอดูที่แม่กูไปฟังมาว่าแม่นมาก อีหมอมันบอกว่าน้ากูโดนเมียน้อยเล่นของใส่ ของแรงมาก กูฟังแล้วอยากจะอ้วก แหม่ คนมันเงี่ยนไม่รู้จักพอ โดนทำของบ้านมึงสิ แล้วน้าสะใภ้กูก็เสือกเชื่อสนิท เสียเงินเพิ่มสี่พันบาทค่าทำของอีก กูไปดูของที่ทำมา มันก็แค่ขวดน้ำสีขุ่นไปเหมือนผสมแป้งเปียก มีกลิ่นน้ำอบหอมๆ เอาผ้าสีแดงๆมาผูกๆรอบฝาขวด ต้องเอามาผสมน้ำอาบ ไอ้เหี้ย ปัญญาอ่อนมาก แล้วถามว่าได้ผลไหม ได้ผลก็เหี้ยแล้ว ทุกวันนี้น้ากูก็ยังไปมาหาสู่กับเมียน้อยอยู่
กูเกลียดรองจากหมอดูก็พี่น้องตัวเองนี่แหละ
แม่กูน่ะ ไม่เคยฟังเหตุผลกูเลย เขาฟังแต่ตัวเอง กูอธิบายอะไรแม่งก็ไม่ฟังกูไปหมด กูต้องมานั่งร้องไห้ทุกวันๆคนเดียว กูเบื่อครอบครัวกู พอกูเรียนไม่ดีก็เอาไปเปรียบเทียบกูกับคนอื่น ลูกข้างบ้านแม่งดีอย่างงี้อย่างงั้น เขาชมลูกคนข้างบ้านมากกว่ากูอีก พอกูเรียนดี ก็ยังไม่พอใจเขา ต้องเรียนดีกว่านี้ กูทำไมได้ กูโง่ กูไม่ได้ฉลาดเหมือนเด็กข้างบ้าน มันเลยทำให้กูเกลียดอีเด็กข้างบ้านโดยไม่มีเหตุผล แล้วยายกูก็ชอบจับผิดกู ยายชอบเล่าเรื่องแย่ๆของกูในบ้านให้คนอื่นฟัง แล้วกูก็อาย ขนาดกูพิมพ์ไปกูยังร้องไห้เลย กูเจ็บใจ ส่วนน้องชาย มันก็ไม่ทำอะไรเลยวันๆ กูต้องล้างจาน ทำนู่นทำนี่ แต่มันกับแม่กลับนอนเฉยๆ โอเค พอเข้าใจได้ คือกูต้องอดนอนให้พวกเขานอนหลับสบายว่างั้น กูอยากจะด่าพวกเขาจริงๆ กูไม่ได้เกลียดเขาเลยแต่กูเจ็บใจ เขาบังคับกูทำนู่นทำนี่ กูไม่เป็นอิสระ กูอยากเป็นตัวเองบ้าง เขาทำลายความฝันกูทุกอย่างเลย กูเบื่อ กูก็อยากมีอิสระเหมือนเด็กคนอื่นๆบ้าง กูเหนื่อย อย่าทำหนูหมดหวับไปมากกว่านี้เลยนะคะ.
แค่คิดว่าต้องคุยกะแม่ บอกจะขอทำนั่นทำนี่ กุก็มวนท้องแล้ว มีแต่ความทรงจำไม่ดีว่าแม่งจะประสาทแดกใส่กูอ่ะ
>>12 มามะกอดๆ กูเข้าใจมึงโม่งกูก็มีแม่แบบมึงแหละ ทั้งชีวิตไม่เคยชื่นชมในตัวกูเลย ชอบเอากูไปเทียบกับคนอื่น
พยายามคิดในเชิงบวกไว้ พยายามใช้ความโหดร้ายเป็นแรงผลักดัน "กูต้องไปให้พ้นจากครอบครัวนี้" มึงท่องไว้แล้วพยายามเรียนให้ดีๆแล้วเวลาสอบให้เลือกมหาวิทยาลัยไกลๆบ้าน เวลาทำงานก็เลือกที่ทำให้ไกลบ้าน แล้วชีวิตมึงจะมีความสุข
>>12-14 กอดมึงด้วยคนหว่ะ ถึงแม่กูจะไม่ ปสด แบบแม่พวกมึงแต่แม่งก็พอๆกันเลย บางเรื่องไม่มีเหตุผลด้วยซ้ำ บางเรื่องแม่งทำพลาดเองโทษกูไว้ก่อนละค่อยมาหาเหตุผลทีหลัง บางเรื่องผิดแต่บอกตัวเองไม่ผิด บอกกูผิดเฉยซะงั้น เอาตรงๆว่าคำว่า "กูต้องไปให้พ้นจากครอบครัวนี้" สำหรับกูนี่ก็อยากท่องไว้เหมือนกันนะ แต่อนาคตคือมืดมนมาก พ้นไปแล้วหนีเสือปะจระเข้ไหมไม่รู้ เพราะรอบๆตัวออกมานี่คือหาที่ไปแทบไม่มี เพราะเจอคนในบ้านแบบแม่กูรั้งให้มาลงอเวจีด้วยกันไม่พอ ถ้าออกไปแม่งเค้าจะทวงบุญคุณทุกหยดเลือดเหมือนกันนี่สิ
ถ้าครอบครัวโดนพิษโควิด 19 จนเกิดปัญหาเครียดจากปัญหาการงานการเงินอละอีกหลายๆอย่างจะทำยังไงดี เมื่อวานนี้พายุเข้าบ้านนํ้าท่วมหนักมากกำแพงถล่มไปด้วยวันนี้ปกติดีแล้วแต่โดนแม่พาลใส่ตลอดบอกว่าเราไม่มีประโยชน์เราอายุ 18 เรารู้สึกเป็นภาระครอบครัว ทำให้คนอื่นๆในครอบครัวลำบากอยากจะลดภาระครอบครัวให้โดยการหาวิธีหายไปโดยไม่ให้ใครรู้จะดีมั้ย เราไม่อยากให้เขาเสียค่าใช้จ่ายให้เราแล้ว งานก็ไม่มีทำช่วงนี้เลยเศรษฐกิจไม่ดี ทุกๆอย่างแย่ไปหมดเลยพยายามกินให้น้อยลงแล้วไม่ซื้อของอะไรเลยด้วยแต่ก็ยังรู้สึกเป็นภาระเขาอยู่ดี
พ่อกู ชอบขี้บนพื้น ล้างตูดบนพื้น
ทั้งๆที่มีส้วม เหม็น และ สกปรกพื้นมาก
>>16 ขอกอดนะ การที่น้องคิดได้อยากทำอะให้กับครอบครัวบ้าง น้องไม่ได้เป็นภาระเลยนะ น้องพยายามจะเป็นที่พึ่งให้กับครอบครัวต่างหาก ตอนนี้งานมันหายากมากและไม่ค่อยมีตัวเลือกมากเท่าไร แต่ก็ยังพอมีทางหาได้ต้องสมัครไปหลายที่หน่อยนะ พี่ก็กำลังหางานใหม่เหมือนกัน เรามาพยายามไปด้วยกันดีไหม
เขาว่าคนเเก่จะชอบเล่นขี้ พาไปทำบัดซะ
ต้นกระทู้เพิ่งเห็นว่ามีคนเดือดร้อนเพราะญาติเชื่อหมอดูด้วย กูก็เจอเหมือนกัน แต่เป็นคนละแนว
หมอดูบอกพ่อกูว่ากูจะได้ไปเรียนเมืองนอกแล้วเค้าก็เชื่อเป็นตุเป็นตะ
แล้วกูก็ไม่ใช่คนชอบเรียนหนังสือถึงเกรดตอนเรียนตรีจะดีแต่ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ สายงานกูเรียนโทไม่ได้สำคัญด้วย
กูพูดไปตรงๆว่าไม่เอาเค้าก็ไม่ฟัง สุดท้ายกูก็ทำงานไปเรื่อยไม่ไปเรียนต่อจนทุกวันนี้อายุจะ 30 แล้ว
ทุกวันนี้เหมือนคนยอมรับความจริงไม่ได้ ยังไม่เลิกหวังลมๆแล้งๆ ยังเอาเรื่องนี้มาพูดตอนกินข้าวบ่อยๆ
ครอบครัวบ้าหมอดูนี่มีกันทุกบ้านจริงๆ กุละงิด
บอกเราว่าเลี้ยงเราสบายกว่าคนอื่นจะมีเรื่องอะไรให้เครียด จะเรื่องอะไรละ ถ้าไม่ใช่เรื่องความวุ่นวายในอนาคตของครอบครัวบ้าบอคอแตกนี่ น่าหัวเราะที่ต่อให้พูดอะไรไปเขาก็เลือกจะไม่รับแล้วยกแต่เรื่องชีวิตประจำวันเราขึ้นมาพูดซ้ำซากไปมา ในขณะที่ตัวเขามีคนให้พูดคุยปรึกษาชีวิตตั้งหลายคนแต่ทางนี้เลือกที่จะเก็บมันมาตลอดเพราะเขาบอกว่าแค่ฟังให้รู้เฉยๆ รู้ตัวแหละว่าที่วันๆ พูดอยู่ไม่กี่ประโยคกับการใช้ตามากกว่าปากมันไม่ตรงความตรงการของผู้รับสาร แล้วมาบ่นเราว่าทำตัวไม่เคารพญาติผู้ใหญ่ ให้แตะตัวนิดๆ หน่อยๆ ไม่ได้ แต่ประเด็นคือรู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอว่าเราไม่ชอบ กี่เดือนกี่ปีเราก็เป็นแบบนี้ตลอด ที่เราเลือกจะทำตัวเป็นมนุษย์คะแนนมาตฐานก็เพราะไม่อยากตกเป็นเป้าของบรรดาญาติๆ ที่ต่อหน้าก็พูดดี ลับหลังก็รู้ๆ กันอยู่ มาบอกให้เราปรับปรุงตัวให้ดีขึ้นไม่งั้นจะไปอยู่กับใครได้ แต่ที่ผ่านมาไปอยู่กับใครที่ไหนเราก็ไม่เคยมีปัญหา แล้วอะไรคือสิ่งที่เขาต้องการกันแน่ สิ่งที่เอาไปอวดไปข่มคนอื่นได้ ? หุ่นเชิดที่ฟังทุกอย่างในอนาคต ?
การที่มีใครพูดดีด้วยแบบหน้ามือเป็นหลังมือต่างจากเวลาปกติที่เค้าทำร้ายจิตใจเรา เพียงเพราะยามนั้นเค้าต้องพึ่งพาเราหรือเราทำให้เค้าพอใจ มันทำให้อดคิดไม่เลยว่าเป็น conditional love จังนะที่เราต้องตอบสนองความต้องการเค้าก่อนถึงจะได้รับการปฏิบัติที่ดีกลับมา และเราคงไม่เอามาใส่ใจขนาดนี้ถ้าคนนั้นไม่เป็นพ่อเรา
อยากถามว่า พวกคุณแทนตัวเองกับพ่อแม่ว่ายังไงเอ่ย 55555 อยากรู้มุมคนอื่นมั่งอะ
กูอยากฆ่าตัวตายทุกครั้งที่พ่อแม่ร้องขออะไรซักอย่างจากกู แม่กูชอบขอเงินกูอ้อมๆ พ่อกูแคปจอของที่อยากได้มาให้กูซึ่งสื่อว่าอยากให้กูซื้อให้
กูเป็นลูกคนเดียวแล้วกูพึ่งเจอสถานการณ์โควิดคือพึ่งตกงาน กูเครียดมากสัส
>>36 เข้าใจเลยก็เป็นเหมือนกัน จากเดิมที่เครียดอยู่แล้วมันยิ่งดิ่งจนร้องไห้ เข้มแข็งแค่ไหนก็ฝืนไม่อยู่แล้ว และรู้สึกไม่อยากคุยกับพ่อแม่หรือใครไปเลย แนะนำให้ปิดช่องทางที่ต้องคุยหรือรับรู้อะไรไปก่อนเพื่อเยียวจิตใจตัวเอง ตอนนี้ตัวเองต้องรอดก่อน อดทนให้ผ่านช่วงนี้ไปได้ งานส่งไปเยอะๆ เป็นร้อยที่มันต้องได้สักที่ ชีวิตมีอะไรดีๆอีกเยอะที่ต้องเจอ ขอให้ผ่านไปได้เร็วๆ เอาใจช่วยนะ
พ่อแม่ชั้นต่ำไอส้นตีนสัส รำคาญแหกปากโวยวายหอนแข่งกับหมาอยู่ได้ ส้นตีน รำคาญอีห่า แม่งไปโมโหอีกคน เอามาลงอีกคน หัวควย เห็นลูกเป็นโถระบายขี้ก็ซื้อโถระบายขี้มาไว้ในบ้านไอระยำ ไม่ใช่เย็ดให้กูเกิดมาเพื่อเป็นที่รองรับอารมณ์พวกมึงอีเวร เลือกเกิดได้กูไม่อยากเกิดกับพ่อแม่ที่ตีกรอบกูทุกอย่างแต่เป็นแบบอย่างดีๆให้กูเห็นไม่ได้สักอย่าง เก่งแต่ลุกขึ้นมาทวงบุญคุณกูตั้งแต่จำความได้หรอกไอสถุน
หยุดนินทา แบบบ่นพี่สะใภ้ลับหลังไม่ได้ แบบบ่นต่อหน้าแตกหักแน่ๆ พอมาบ่นลับหลังก็รู้สึกเปนคนไม่ดีอีก
โม่ง กูไม่ชอบพี่กู แต่ตอนนี้พี่กูดิ่งมากเป็นโรคซึมเศร้า กูพยายามทำทุกอย่างที่ทำได้ในฐานะน้องแล้ว กูเข้าไปกอดเขา คุยกับเขาให้เขายอมเปิดใจ ให้เขาลองคุยกับพ่อแม่ แต่เขาก็ไม่ยอมเปิดใจ เขาเอาแต่จะคิดฆ่าตัวตาย กูจะทำยังไงดีถึงกูจะไม่ชอบเขากูก็ยังรักเขาในฐานะพี่น้องครอบครัวเดียวกัน ทุกๆคนรอบตัวเขาทั้งเพื่อนแฟนเขาพยายามขอร้องให้กูช่วยเขา กูเองก็ทำเท่าที่ทำได้แล้ว ถ้าเกิดเขาฆ่าตัวตายจริงๆกูจะทำยังไงดี ทุกอย่างจะเป็นความผิดกูมั้ยที่กูช่วยเขาไม่ได้ กูไม่รู้จะทำยังไงแล้ว
กูไม่รู้เลยว่ากูต้องการอะไร อยากเป็นอะไร ไม่รู้เลย ทุกวันนี้ก็เรียนตามแบบที่พ่อแม่อยากให้เรียน ซึ่งถึงกูจะทำได้ดี แต่กูไม่ชอบอ่ะ แต่ก็นั่นแหละ ถ้าถามว่าชอบอะไรกูก็ไม่รู้ตัวเองเหมือนกัน
>>49 กูก็เป็นคล้ายๆมึงเหมือนกัน ทำตามที่ครอบครัวบอกทุกอย่างเรื่องการเรียน เข้ารร.นี้ ทำสอบให้ได้อันดับเท่านี้ๆ เข้ามหาลัยใกล้บ้าน โตขึ้นจะทำอาชีพอะไรแดกยังไม่รู้เลย เพราะเหมือนโดนสังคมรอบข้างปลูกฝังมาให้คิดอะไรเองไม่เป็นอ่ะ พอลองทำอะไรเองแก้ปัญหาเองก็จะโดนผู้ใหญ่ตอกว่า ทำไมทำแบบนี้ ทำไมไม่ทำแบบนู้นแบบนั้น มันฝังใจนะ เชื่อเถอะคนร้อยทั้งร้อยไม่มีใครอยากมาโดนด่าแบบนี้ทุกวันหรอก สุดท้ายเลยตัดปัญหาไม่หาทางแก้เอง ยอมทำตามที่คนอื่นบอกเพื่อไม่ให้ตัวเองโดนด่าหรือเสียใจ มึงลองหาอะไรอย่างอื่นทำดู จะวาดรูป ดูหนัง ฟังเพลง อะไรก็ได้ที่มึงสนใจ(หรืออะไรที่มึงไม่ชอบ รู้สึกเฉยๆ ลองทำไปเรื่อยๆดู)แล้วลองคิดว่าสิ่งที่มึงสนใจ มึงอยากจะโตไปเป็นแบบนั้นหรือเปล่า เช่น มึงลองฟังเพลงจนชอบ รู้สึกสนุกรู้สึกมีความสุข มึงอยากจะเป็นคนที่แต่งหรือร้องเพลงเองเพื่อแบ่งปันความรู้สึกต่างๆ ให้คนอื่นได้รับรู้ความรู้สึกเหมือนตอนมึงได้ฟังหรือเปล่า หรือมึงจะลองปลูกต้นไม้เล็กๆในบ้าน คอยมั่นดูแลทุกวันจนมันโตสวยผลิดอกออกผล แล้วมึงอยากจะลองปลูกอย่างอื่นดูบ้าง จะไปเป็นชาวสวนหรือคนขายต้นไม้หรือเปล่า อะไรที่มึงเฉยๆ ไม่ได้ชอบหรือสนใจแต่ยังไม่เคยลองอ่ะ ทำเลย อย่าไปกลัวหรือคิดไปเองก่อนว่ามันไม่ดี มันอาจจะต่อยอดมาเป็นอาชีพในอนาคตก็ได้ แต่ถ้าสุดท้ายแล้วมึงหาสิ่งที่ชอบไม่ได้จริงๆ กูแนะนำให้มึงเรียนพวกสายอาชีพหรือภาษานะ เลือกดูอาชีพที่ตลาดขาดแคลนและมึงคิดว่าจบแล้วมึงไม่ตกงานแน่นอนอ่ะ สายภาษาก็สำคัญเดี๋ยวนี้โลกพัฒนาไปไกลแล้ว คนติดต่อหากันง่ายขึ้น ชาวต่างชาติมาเที่ยวก็เยอะ เอาไปต่อยอดได้อีกหลายอาชีพเลย
จริงๆกูคิดว่ามึงทำตามคำสั่งคนอื่นมากไป มึงต้องลองคิดอะไรด้วยตัวมึงเองบ้าง คนที่คอยสั่งมึงเขาไม่ได้อยู่กับมึงตลอดชีวิตหรอก หาตัวตนของตัวเองได้แล้วโตขึ้นมาจะได้ไม่เสียใจภายหลัง กูคงแนะนำอะไรได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ โชคดีนะมึง
ทำไงดี หลานติดโทรศัพท์มาก ไม่ตั้งใจเรียน ดูแต่อีพวกยูทูปเบอร์คอนเทนท์ปัญญาอ่อน การบ้านไม่ส่งครู ครูโทรมาด่าแม่เด็กว่าทำไมไม่สอน เอ้าก็แม่มันขายของที่ร้านทุกวัน ตอนนั้นกูเห็นเลย น้ากูเปิดลำโพงให้ฟังเสียงครูด่ามัน มันไม่สำนึก แลบลิ้นปลิ้นตาใส่ กูก็สอนไม่ไหว โง่เกินเยียวยา ไม่สนใจฟัง ตาจ้องแต่ไอแพด พอโดนยึดก็โวยวาย วิ่งหนีล็อกประตูเข้าห้องนอน ตะโกนด่าแม่มันอีก ทั้งๆที่เพิ่งอยู่ป.3 แท้ๆ ก้าวร้าวชิบหาย บางทีก็วิ่งหนีมาดูทีวีบ้านกู พ่อแม่กูก็ตามใจไม่พามันกลับบ้านอีก เพราะแบบนี้ไงกูถึงได้เกลึยดเด็ก โดนเฉพาะเด็กผู้หญิง กรี๊ดทีหูกูแทบแตก โมโหสัสๆ โตมายังไงวะ ทำไมพ่อแม่มันตามใจขนาดนี้
>>53 ตัดไม่ได้ กูใช้คอมทำงานที่บ้านทุกวัน แม่นอนดู netflix และบ้านหลานที่อยู่ติดกันก็ใช้ไวไฟของบ้านกู แล้วแอพแต่ละอย่างนี่ก็มีแต่ติ๊กต่อก ยูทูป hayday อะไรพวกนี้ เหอะๆ
กูคิดอยู่ ว่าถ้าพรุ่งนี้แม่งมานอนเล่นกับคนที่บ้านกูอีก กูจะยึดมือถือมันมาลบแอพ วันละแอพไปเลย ใครด่ากูใจร้ายกูไม่สนแล้ว รำคาญลูกตา
กูมาถึงจุดที่อยากระบายในนี้แล้วหวะ
กูเกลียดแม่กู และกูก็มั่นใจว่าแม่เกลียดกู
แล้วกูทนอัดอั้นมา20ปีแล้ว
แม่งชอบหน้าบางแต่เสือกชอบเอาเรื่องที่มึงอับอายเกี่ยวกับกูไปเล่าให้ชาวบ้านฟัง
กูไม่แคร์นะที่แม่เอาไปประจานใครต่อใคร
แต่รำคาญและโคตรกระอักกระอ่วน เวลามาบอกกับกูต่อหน้าว่าแม่งอับอายขายหน้า
โคตรชิทเลยหวะ แถมเรื่องที่เอาไปเล่าแม่มโคตรธรรมดาเลยด้วยซ้ำ
>>55 ฝากพี่ส่องให้ละ(มันกลัวกู เพราะกูดุ) เจอเฟซบุ๊คกับไลน์ เฟซแค่สมัครไว้ ไม่เล่น ไลน์ก็ไม่คุยกะเพื่อนเลย มีแต่ส่งสตก.ตอบกันบางวัน ที่เล่นถี่ๆทุกวันก็ติ๊กต่อกกับยูทูป
เฮ้อ พูดแล้วท้อว่ะ ป.3 แล้วยังผัน Verb ไม่เป็นเลย ไม่รู้ด้วยว่า is am are ใช้ต่างกันยังไง เรียนพิเศษไม่ได้ช่วยอะไรจริงๆ
>>56-58 ขอบคุณมากพวกมึง เดี๋ยวกูลองไปคุยเรื่องแอพนี้กับคนบ้านนั้นดู
>>60 ติ๊กต่อกไทยแม่งโคตรแหล่งรวมขยะแว้นสก๊อยเลย ยูทูปก็ลองโหลดyoutube kidมาน่าจะช่วยกรองได้ในระดับนึง เรื่องเน็ตกูว่ามึงลองเปลี่ยนรหัสไวไฟดูแล้วเก็บให้มึงรู้รหัสคนเดียว ไม่ต้องบอกรหัสไวไฟกับพ่อแม่มึงเดี๋ยวแอบเอาไปบอกอีเด็กนั่น พอเปลี่ยนรหัสมึงก็เป็นคนเอาโทรศัพท์พ่อแม่มาใส่รหัสเอง คนอื่นจะได้ไม่รู้ กันพวกมาเกาะแดกเน็ตฟรีได้อีก
>>54 มึงใช้เน็ตบ้านใช่ป่ะ จริงๆ มันกำหนดได้นะว่าจะให้เครื่องไหนใช้ได้หรือไม่ได้ มึงสามารถตัดได้เองเลยด้วย กูไม่แน่ใจว่าของมึงใช้ทรูหรืออะไรนะ แต่ของทรูถ้ามึงเป็นคนติดเน็ตบ้านเอง มันจะมีไอดีกับพาสให้มึงเข้าไปจัดการได้ โดยล็อกอินตามคู่มือที่มาในกล่องเราเตอร์เลย
ลองหาคำว่าล็อกเน็ตไวไฟ MAC address อ่ะ น่าจะเจออยู่
กูแม่งเซ็งชิบหาย กูไม่โอเคกับแม่กูเลย ชอบพาญาติ พาคนเข้ามาบ้านโดยไม่บอกกูก่อน แล้วพาขึ้นมาถึงห้องนอน มาทัวร์เที่ยวชมบ้าน อะไรคือความเป็นส่วนตัววะ บางทีกูอยู่ในห้องนอน หัวยุ่งๆหน้าพึ่งตื่นใส่เสื้อผ้าเน่าๆ พาแขกมาเยี่ยมชมบ้าน แล้วก็มาเรียกๆๆกูให้ออกมาเจอแขก คืออะไรวะ กูไม่ออกก็ไม่ได้ โดนหาว่าเสียมารยาท กูโคดเซ็งเลย บางทีบ้านมันเป็นที่ส่วนตัวป่าววะ ไม่ใช่จะมาพาใครเข้าออก มาเยี่ยมชมอะไรนักหนา พวกญาติเค้าก็ไม่ได้ขอร้อง แต่แม่กูนี่แหละชอบเชื้อเชิญขึ้นมาดูบ้าน คือกูโคดไม่มีความเป็นส่วนตัวเลยเวลาอยู่บ้าน
>>65 เหมือนกูเลยว่ะ ที่หนักกว่านั้นคือพอญาติพาลูกๆมา แม่กูมาเปิดห้องกูให้พวกเด็กเปตรสันขวานพวกนั้นเข้ามาเล่นเฉยเพราะห้องกูมีโมเดลกับการ์ตูนเยอะ พอกูไล่ออกไปเพราะนี่มันห้องกูและของกูก็โดนด่าว่ากะอีแค่หนังสือการ์ตูนกับตุ๊กตา แบ่งน้องมันเล่นจะเป็นไรไป กูบอกว่าของมันแพงกลายเป็นกูโดนด่าเฉยที่กูซื้อมาแพง ทั้งที่กูทำงานแล้วซื้อด้วยเงินตัวเองทั้งนั้น
แล้วมีหนนึงที่พีคมากคือหนึ่งในอีเด็กเปรตพวกนั้นมันทำโมเดลที่กูไปหิ้วมาจากญี่ปุ่นหักแบบคอหักประกอบคืนไม่ได้ด้วย กูตามเอาเรื่องถึงบ้านเลย แม่กูบอกให้ยอมๆแต่กูไม่ยอม กูแจ้งความเอาแม่งขึ้นโรงพักด้วยถ้าไม่ชดใช้ค่าเสียหาย ญาติกูก็ด่าว่ากะอีแค่ของเล่นจะโวยวายไปทำไม กูก็ด่าสวนว่าถ้าไม่มีปัญญาอบรมลูกให้ดีก็เอายาฆ่าหญ้ากรอกปากตายไปให้หมดบ้านไป สรุปก็ได้เงินค่าเสียหายคืนพร้อมตัดญาติ ส่วนแม่กูก็ด่ากูเช้าเย็นว่าทำไมไปพูดแบบนั้น บังคับให้กูไปขอโทษ แต่กูไม่แคร์เพราะนี่ทรัพย์สินของกู ญาติเหี้ยๆเสียไปก็ไม่เห็นจะเป็นไร
แม่ๆแม่งเป็นไรเห็นใจคนทั้งโลกมากกว่าลูกตัวเอง เห็นแก่หน้าอะไรก็ไม่รู้มากกว่าความรู้สึกลูกทั้งนั้นอ่ะ
กูจะบ้า
พ่อกูอดเหล้ามาได้ 20 ปี 2-3 ปีมานี้มีปัญหาการเงิน แทนที่จะยิ่งประหยัด ช่วยกันหาทางแก้ แม่งเสือกดีแตกกลับไปแดกเหล้าเมาหัวราน้ำ บ้านช่องไม่ยอมกลับ ล่าสุดหายตัวไป 2-3 วัน วุ่นวายกันทั้งบ้านกว่าจะหาตัวเจอ แถมทำโทรศัพท์หายอีก แม่งโว้ยย ทั้งกูทั้้งแม่ช่วยกันบอกให้เลิก แม่งก็ไม่ยอม ไม่รู้จะทำยังไงเลย เครียดชิบหาย
>>65 แม่กูก็เป็นไม่ใช่แค่ญาติคนที่ทำงานก็ทำโอ้โห้มากปลุกกูแต่เช้าให้ลงมารินน้ำทำขนมให้เข้าออกห้องกูเป็นประตูโดเรม่อนเลยวินาศกว่าคือเขาเอาเด็กมาด้วย กูก็นั่งทำงานวาดรูปให้ห้องของกูไปเปรตกว่าคือด้วยความกูมีซินติคที่ใช้งาดรูปในคอมอ่ะอย่างแพงกูกัดฟันซื้อเลือดแทบกระเด็น กูนั่งวาดโห้เดินมาดูใหญ่เลยวาดสวยดีนะวาดป้าบ้างสิ วาดไรค้าบจ่ายตังกูมั้ยค้าบ น้องแม่งก็อยากลองไงงอแงจะมาเล่นของกูแม่ก็แบบเออยอมน้องหน่อยกูก็ต้องยอมแม่งเอาปากกาจิ้มหน้าจอแบบแทงลงไปอ่ะจิ้มๆเสร็จปาทิ้งจับจอเขย่าเอามือตบๆจอกูแทบกรี๊ดอ่ะสรุปกูใช้มาถนอมอย่างดีวันนั้นวันเดียวฟิลม์หน้าจอไปหมดปากกากูไส้หักสีน้ำพู่กันไม่ต้องพูดถึงพังเรียบรวมๆเป็นหมื่น
แม่กูชอบพูดแซะ พูดบ่นกู กูอยากคุยประโยคสนุกสนานกับครอบครัวไม่ได้เลย เจอกัยจะต้องปล่อยพลังลบใส่กูตลอด คุยเล่นคุยหัวไม่เป็น กูเบื่อมาก กูจะเป็นโรคซึมเศร้าแล้ว คนเหี้ยอะไรเข้าวัดทุกวัน ชอบมโนว่าตัวเองเป็นคนดี
ที่บ้านญาติแม่งอยู่กันหลายคนแล้วชอบบ่น เปิดประตูบ้านแล้วรีบปิดนะ เดี๋ยวยุง เดี๋ยวแมลววันเข้าบ้าน กินข้าวแล้วเอาฝาชีปิดไว้นะ พอกูบอกเดี๋ยวไปซื้อไม้ดักแมลงวันมาให้แม่งก็ไม่เอา บอกบาป ไม่อยากให้กูฆ่าสัตว์ บ่นยุงเยอะแล้วยากันยุงก็ไม่ทา ไม่ฉีด บอกว่าคนแก่อยู่บ้านเยอะ สารเคมีอันตราย และไม่อยากฆ่าสัตว์
>>73 เปิดประตูแล้วรีบปิดก็ปกตินะ บ้านกูก็ทำกัน ปิดฝาชีก็ปกติ กูเคยถามคนในบ้านเหมือนกันว่าทำไมถึงไม่ใช้พวกไม้กาวดักแมลงวัน แกบอกว่ามันสกปรก เรื่องยุงเยอะก็วนกลับข้อแรกใหม่ ถ้ารีบปิดก็ไม่มียุงเข้า(กูเป็นแบบนี้จริงๆ รีบปิดยุงมันไม่มี แต่บางวันแมวอยู่แล้วแมวชอบเดินเข้าห้องช้าแม่งยุงมาเลยสัส) ไม่ต้องทาหรือฉีดยากันยุงด้วย สรุปคือทุกอย่างในบ้านมึงที่(คิดว่า)มึงมีปัญหาแม่งปกติหมดเลยสำหรับบ้านกู
ปล. บ้านกูอยู่ในสวน เหล่ายุง แมลง สิงสาราสัตว์เพียบ
โอเค กูยอมรับว่ากูผิด แม่งเปลี่ยนความคิดกูเลย กูจะพยายามไม่มีปัญหาละกัน
กูเพิ่งซื้อคอมใหม่เพราะรุ่นที่อยากได้มีโปรลดราคาพอดี เครื่องเก่ามันก็ไม่ไหวแล้ว และของต้องใช้ทำงานด้วย
พ่อแม่กูก็มาถามซ่อกแซ่ก ถามว่าราคาเท่าไหร่ พอบอกก็บ่นว่าแพงทั้งที่ไม่ใช่รุ่นแพงอะไรเลย
ถามว่ายี่ห้ออะไร พอบอกเค้าก็ว่าทำไมต้องซื้อของยี่ห้อแปลกๆทั้งที่ยี่ห้อโคตรแมส
ถามว่ามี touch screen มั้ย พอบอกว่าไม่มีก็แซะกูอีกว่าเครื่องราคาตั้งขนาดนี้ซื้อมาได้ทั้งที่ไม่มี ทำไมโง่จัง โดนเค้าหลก ทั้งที่มีไปก็ไม่ได้ใช้
แล้วก็มาพูดแซะกูว่าจะรีบซื้อไปทำไม เดี๋ยวของมันก็ตกรุ่น
คือไม่เข้าใจว่าอยู่เฉยๆไม่ได้หรอวะ เงินก็เงินกู ทำไมต้องมาพูดแบบนี้ให้กูรู้สึกแย่ด้วยวะ
เรื่องคอมตัวเองก็ไม่ได้รู้อะไรเลย แต่เห็นกูซื้อปุ๊ปต้องทำเป็นว่าตัวเองรู้ดีขึ้นมาทันที
>>78 ระบบ touch screen นี่จะมีไปทำไมวะกูไม่เข้าใจ คนใช้แม่งมีเม้าส์ก็ใช้เม้าส์กัน นอกจากคนนอกนั้นแหล่ะจะมาทำตัวเป็นเด็กเกาะเบาะแล้วมาจิ้มหน้าจอบังคับมึงทำนู่นนี่ เป็นกูก็เอาข้อมูลมาอธิบายให้เข้าใจนะ จะได้เลิกวุ่นวายสักที ถ้ามึงไม่อยากแตกหักกับพ่อแม่มากก็อธิบายไปเวลาโดนถาม อธิบายให้ละเอียดจนเขาโต้แย้งไม่ได้ หรือเอาแบบฮาร์ดคอร์ไม่สนความเป็นพ่อแม่ก็บอกไปเลยว่าอย่ายุ่ง เก็บเงินซื้อมาเอง
ปล. ถ้าเขาเข้าใจว่าของมันดีแค่ไหนระวังโดนบังคับให้แบ่งญาติแบ่งหลานเล่นคอมฯ หรืออาจจะโดนแอบใช้
>>78
พ่อแม่บางคนชอบบลัฟเวลาลูกซื้ออะไรด้วยเงินตัวเอง เพื่อเติมเต็มความรู้สึกว่าตัวเองยังมีความสำคัญ ยังคอนโทรลลูกได้อยู่
ไม่ต้องคิดมากหรอก ในมุมกลับกันก็คือเขาเห็นมึงพึ่งพาตัวเองได้แล้ว ลึกๆ ก็เลยกลัวขึ้นมาไง
แต่ถ้ามึงถึงวัยทำงานเต็มตัวแล้วยังอยู่กับพ่อแม่แบบไม่มีแผนจะย้ายออกก็ทำใจหน่อย... ต้องโดนไปอีกนาน
มึง แม่มาพูดว่ากูไม่รักพ่อรักแม่ ไม่มีความผูกพัน ไม่มีเยื่อใย คิดถึงแต่ตัวเอง จนกูเริ่มสงสัยว่าหรือกูไม่ได้รักพวกเขาจริงๆวะ กูเป็นคนที่ไม่ค่อยใส่ใจอะไรแล้วก็ขี้ลืม ขนาดตัวเองกูยังไม่ใส่ใจขนาดนั้นเลย เรื่องมันเกิดจากการที่กูไม่ได้ปลุกเขาทั้งที่เขาต้องไปทำงานวันพรุ่งนี้ เพราะว่ากูเห็นเขางีบเหมือนวันหยุดแล้วกูก็ไม่ต้องไปเรียนพรุ่งนี้พอดี เพิ่งมานึกได้ว่าเขาต้องไปทำงานนี่หว่าตอนเขาพูด กูเริ่มสงสัยมากๆแล้ว แต่ถ้ากูไม่รักเขาทำไมกูต้องเสียใจทุกครั้งที่เขาพูดจาไม่ดีกับกูแบบนี้ด้วยวะ
แม่กูเหี้ยมากควยๆหีๆตอแหลมากๆอ้างนู่นอ้างนี่่
เพื่อนสนิทมากของพี่ชายกูแต่งงาน กูอยากไปงานแต่ง แต่พ่อแม่กูบอกไม่เกี่ยวไม่ไป มึงว่าควรป่ะ กูจะทำยังไงให้เค้าไปดี พี่กูกับเพื่อนพี่เค้าสนิทเหมือนเป็นอีกครอบครัวนึงเลยนะ มันไม่มีความสัมพันธ์เกี่ยวกับพ่อแม่กูเลยซักนิดจริงๆหรอ = ='
อยากเถียงแม่ชิบหายเลย ตอนพูดทวงบุญคุณ ด้วยประโยคว่า เมื่อก่อนจน ต้องวิ่งวุ่นทำงาน เลี้ยงลูก เลี้ยงพ่อแม่ ถ้าแม่ไม่ดิ้นรนก็ไม่มีทางทำให้ชีวิตกูสบายได้หรอก คงอยู่บ้านจนๆ ไม่มีอันจะกิน ไม่ได้มาเรียน จนกล้ามาต่อล้อต่อเถียง คือกูอยากบอกว่าถ้าจะจนแล้วลำบากขนาดนั้นก็ไม่ต้องมีลูกสิวะ ดูแลกูจนโตได้ แต่ไม่เคยดูแลสภาพจิตใจกูเลย
เราทำผิดปะวะ ควรทำไงดี คือตอนนี้เราพึ่งเรียนจบ ทำงานฟรีแลนซ์ บ้านอยู่ตจว แต่อาศัยอยุกทมกับพี่ ช่วงโควิดเราก็กลับบ้านมาพร้อมพี่ (บ้านมีปู่ย่าแม่พ่อ เราอยากกลับมาหาแม่) สมัยก่อนเรามักจะติดเล่นเกมอ่านนิยาย ตื่นสาย ชอบอยู่คนเดียวเงียบๆ คือที่บ้านมีห้องส่วนตัวแหละแต่อยู่ชั้นบน ที่บ้านก็จะบอกให้ลงมาข้างล่าง ไรประมาณนี้ เราก็ทำตามตลอดนะ (มั่นใจว่าเป็นเด็กดีเลย ตั้งใจเรียน ไม่ติดเพื่อน ไม่เที่ยว ยกเว้นตื่นสายกะติดเล่นเกม) แต่พอโตมาคือเราต้องหาที่ส่วนตัวทำงานอะ ที่บ้านก็จะเสียงดังกันมาก เราเลยโดนด่าด้วยเรื่องหลายๆเรื่องเลย เช่นตื่นสายเอยอะไรเอย ทั้งที่ตั้งแต่กลับบ้านมายังไม่เคยตื่นสายเลยสักวัน พอถามเขาว่า วันนี้เราตื่นเช้าไม่ใช่หรอ ตอบกลับมาว่าก็เมื่อก่อนเราตื่นสาย เราทำให้เขาคิดแบบนั้นเอง ... เราเงิบไปเลย จนมาคิดฝังหัวในใจว่าต่อให้ทำดีแค่ไหนถ้าตอนเด็กทำผิดตรงไหนนิดเดียวตอนโตมาถึงเปลี่ยนแล้วก็โดนว่าอยู่ดีหรอ นี่แค่เรื่องตื่นสายนะ ... หลักๆที่โดนว่าอีกคือเรื่องทำงานฟรีแลนซ์ จะให้ไปราชการหรือทำงานอื่นอยู่นั่น เคยทำงานอื่นก็ว่าเงินเดือนน้อยอีก ไม่พอใจกันสักที ... เราก็อยากมีหน้าที่การงานที่ดีเหมือนกันนะ เราเรียนเก่งกว่าพี่อีก แต่ปีเราโควิดมา ไม่เปิดสอบหลายๆอย่างเหมือนปีพี่ชายเรา ... แล้วยังเอามาเทียบกับพี่ชายกับญาติคนอื่นๆตลอด หลังๆเราเลยเงียบลงๆ กลายเป็นเหมือนเย็นชากับครอบครัว (ไม่แสดงสีหน้า ไม่เล่าอะไรให้ฟัง) ซึ่งเราก็ไม่ชอบที่ตัวเองเป็นแบบนี้ จนไม่สดใสเหมือนเวลาอยู่กับคนอื่นๆ ... เขาเลยยิ่งมองเราเป็นพวกเข้าสังคมไม่ได้เข้าไปอีก คือเราก็เสียใจนะที่เราเย็นชาใส่คนที่ทำอาหารให้กิน คนที่เมื่อก่อนสนิทกันมาก คนที่เรารู้ว่าเป็นห่วงเราแหละ แต่พูดอะไรเขาก็ไม่ฟังอยู่ดี รู้ว่ามันเป็นการหนีปัญหาเพราะเดี๋ยวก็กลับกทมแล้ว แต่เราก็ไม่รู้จะแฮปปี้คุยกับพวกเขาเหมือนพี่ชายเราได้ยังไง (พี่ชายเรามีหน้าที่การงานที่ดี สอบเข้าผ่านทั้งที่เรียนไม่เก่ง แต่เราก็สนิทกับพี่นะ ถึงได้อยากเข้าไปทำงานด้วยแต่ไม่เปิดสอบ) ยิ่งพี่เรากล้บบ้านมาพร้อมกันเราก็ยิ่งรู้สึกว่าเขามีพี่เราแล้วเราก็ทำแบบนี้ต่อไปได้แหละ เราทำผิดใช่มั้ยอะแบบนี้ ไม่รู้จะแก้ยังไงแล้ว ยิ่งเรารู้เบื้องหลังว่าปู่ย่ารักลูกอีกคนมากกว่า (ที่ไม่ใช่พ่อเรา แล้วยกนั่นนี่ให้เขาหมด ฟังแต่เขา) เราก็ไม่รู้จะทำยังไง
กำลังสนใจซื้อมอไซค์รุ่น filano เลยลองไปถามญาติ ญาติบอกไม่ชอบล้อเล็กๆ มันล้มง่าย เลยสงสยว่าล้อเล็กมันล้มง่ายจริงหรอ?
ทำไมกูจะต้องถูกให้ทำในสิ่งที่ไม่อยากทำเพียงเพราะว่ากูเกิดมาเป็นลูกเขาด้วยวะ
พ่อกูให้กูไปช่วยงานเขา กูก็งงว่าทำไมไม่จ้างคนงานวะ ไม่รู้เป็นเพราะงก กลัวไม่มีเงินไปกินเหล้าหรือไม่มีคนอยากทำงานด้วยกันแน่ กูไม่เข้าใจ กูไม่อยากทำ แต่กูก็สงสารเขา ไม่อยากโดนด่าว่าอกตัญญู อยู่บ้านเฉยๆ คือกูก็ทำงานบ้านของกูปกติไง เอางานมาให้กูทำในบ้านก็ได้ กูทำให้เลย กูแค่ไม่อยากออกไปที่ที่มีคนเยอะๆ
ลูกจ้างกับนายจ้างเขายังเต็มใจกันทั้งสองฝ่ายอะมึง ทำงานแลกเงิน เออแฟร์ๆ แต่กูไม่ใช่ลูกจ้างของพ่ออะ ที่ผ่านมากูก็ทำงานแบบไม่เอาเงินตลอด แต่ถ้าให้ออกไปเจอคนข้างนอกคือไม่ไหว ให้เงินกูก็ไม่เอา
งงว่ะ ที่ผ่านมากูก็ทำให้ตลอดทั้งๆที่ไม่ใช่หน้าที่กู พอครั้งนี้ไม่ได้ทำให้กูกลับโดนด่า หรือจริงๆแล้วคนเป็นลูกต้องทำทุกอย่าง รวมทั้งเป็นลูกน้องด้วย แบบค่าจ้างก็เงินที่กูส่งเสียให้มึงเรียนไรงี้เหรอ คือไร ธุรกิจครอบครัวเหรอ กูไม่ได้อยากเป็นส่วนหนึ่งของไอ้งานนี่ ถ้าจะมีกูมาใช้งานแบบนี้ ไม่น่าให้กูเกิดมาเลย ลำบากใจ กูไม่อยากอยู่ที่นี่ กูอยากกลับหอ ไม่มีใครยอมพากูกลับเลย กูคิดอยู่ว่าจะหนีไปเองตอนนี้เลยดีมั้ย หนีปัญหาไปเลย
จริงๆพอถึงวัน ถ้ากูไม่ไปจริงๆ ก็ไม่มีใครลากกูไปขึ้นรถได้หรอก แต่มันก็รู้สึกแย่อะ เหมือนทำให้พ่อผิดหวัง ทำสิ่งที่เขาอยากให้ทำไม่ได้ โอ้ยยย กูไม่เข้าใจตัวเองเลย ไม่อยากเจอหน้าเลย ไม่อยากอยู่ด้วย ไม่ได้สนิทกันซักหน่อย ทำไมต้องคิดมากขนาดนี้ เกลียดความรู้สึกแบบนี้จัง หรือจริงๆกูกลัวเขาวะ กลัวอะไร ไม่เข้าใจเลย
>>96 ถ้ามึงไม่ appreciate ที่ได้เกิดมา และคิดว่าตัวเองไม่ควรเกิดมา ก็แนะนำว่า ไปตายซะ จุ๊บๆ
แต่ถ้ามึงรู้สึก appreciate ที่ได้เกิดมา มึงก็ควรสำนึกบุญคุณคนที่ทำให้มึงเกิดมาและทำงานหาเงินมาเลี้ยงมึง หาเงินส่งเสียให้มึงเรียน ให้มึงมีสิ่งของเครื่องใช้ ให้มึงมีเน็ตมาใช้พิมพ์บ่นในนี้
หรือถ้าไม่พอใจจริงๆ ก็เชิญออกไปใช้ชีวิตคนเดียว โดยที่ไม่ต้องขอเงินที่บ้าน เครนะ
>>97 พูดเหมือนไม่คิดอะ โดยธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตเมื่อเกิดมาแล้วมันจะดิ้นรนอยู่ตามสัญชาตญาณ(เว้นแต่พวกมีความผิดปกติ) ไม่เกี่ยวว่ายินดีหรือไม่กับการเกิดมา
การไล่ไปตายด้วยเหตุผลว่าไม่อยากเกิดมาก็ไปตายเป็นการแสดงออกถึงความไม่เข้าใจในธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตแต่อยากฉอดแรงๆ ซึ่งดูโง่ดี
อย่างที่สอง การถูกทำให้เกิดมาไม่ใช่เรื่องของบุญคุณเพราะไม่ได้เรียกร้องตั้งแต่ต้น มันคือการถูกยัดเยียดให้เกิด จนโตพอตระหนักไดด้มันก็ไม่อยากตายตามสัญชาติญาณ ซึ่งจะไปเหมาว่านี่คือบุญคุณไม่ได้ มันคือธรรมชาติ การเลี้ยงดูคือหนึ่งในกฎเกณฑ์ของสังคมมนุษย์ คือความรับผิดชอบที่ถูกกำหนดโดยรูปแบบของสังคม ไม่ใช่บุญคุณพอๆกับที่ทำให้เกิดน่ะแหละ ไม่เลี้ยงผิดกฎหมาย
สิ่งที่เป็นบุญคุณคือความช่วยเหลือที่ถูกร้องขอ เป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือจากการถูกกำหนดให้ทำ เช่น ขอให้ช่วยอะไรบางอย่าง เป็นต้น ปัจจัย 4 คือสิ่งที่พ่อแม่ถูกกำหนดให้ทำอยู่แล้ว มากกว่าปัจจัยสี่ที่ลูกร้องขอตะหากที่มันจะกลายเป็นบุญคุณ เคนะ รู้นะ ต้องแยกคำว่าหน้าที่กับบุญคุณออกจากกันนะ ไม่งั้นต้องไปกราบหมอ เลี้ยงดูพยาบาล เพราะเป็นคนทำให้เกิดมาเหมือนกัน
>>98 จริงอยู่ว่าสิ่งมีชีวิตนั้นดิ้นรนเพื่อมีชีวิตรอดตามสัญชาตญาณ มนุษย์เองก็มีส่วนนั้นเช่นกัน
แต่สิ่งที่แตกต่างคือมนุษย์ไม่ใช่มีชีวิตไปวันๆ เหมือนพวกสัตว์ทั่วไป ที่แค่มีอาหารกินก็พอแล้ว
มนุษย์มีความต้องการที่ซับซ้อน รวมถึงรู้จักตั้งคำถามถึงตัวตนของตัวเอง
และเมื่อตั้งคำถามแล้วได้คำตอบว่าไม่อยากมีชีวิตอยู่ หรือไม่อยากเกิดมา การที่บอกให้ไปตายซะ ก็คือคำตอบที่สมเหตุสมผลที่สุดแล้ว
เพราะถ้ามึงไม่อยากจะอยู่ มึงจะทรมานอยู่ไปทำไม มึงมีสิทธิเลือกว่าจะ "อยู่" หรือ "ตาย"
อย่าไปยึดติดกับคำสอนของคนโบราณเก่าแก่ ไร้สาระ คำสอนพวกนั้นก็แค่กุศโลบายที่ทำให้มึงอยากอยู่ในโลกนี้เท่านั้นเอง
ความตายไม่ใช่เรื่องไม่ดี ความตายไม่ใช่การพ่ายแพ้ ถึงแม้ความตายจะนำความเสียใจมาให้คนรอบข้างมึง แต่ไม่นานมันก็จะผ่านไป
พวกที่คิดว่าการถูกไล่ให้ไปตายนั้นเป็นสิ่งที่แย่ แปลว่ามึงช่างอ่อนแอเหลือเกิน
อย่างที่สอง การถูกทำให้เกิดมาไม่สามารถตัดสินได้ว่า เป็นบุญคุณหรือไม่เป็นบุญคุณ
จะเป็นหรือไม่เป็น มันขึ้นอยู่กับคนๆ นั้นเองว่ารู้สึกอย่างไรที่ได้เกิดมา
ถ้ามึงไม่รู้สึกดีใจที่ได้เกิดมา มันก็ไม่เป็นบุญคุณหรอก ในทางตรงข้ามถ้ามึงรู้สึกดีใจที่ได้เกิดมา นั่นแหละบุญคุณได้เกิดขึ้นแล้ว
กูถึงถามไงว่ารู้สึกดีใจไหมที่ได้เกิดมา
เพราะต่อให้พ่อแม่มันจะแย่แค่ไหน แต่ถ้ามันรู้สึกดีใจที่ได้เกิดมา มันก็เป็นหนี้บุญคุณพ่อแม่ที่พามันมาโลกนี้แล้ว
ในทางตรงข้าม ถ้ามันไม่รู้สึกดีใจที่ได้เกิดมา ต่อให้พ่อแม่จะเลี้ยงดูมันดีแค่ไหน บุญคุณก็ไม่เกิดขึ้นกับมันหรอก
ส่วนเรื่องการเลี้ยงดูถึงจะมีกฏเกณฑ์หรือกฏหมายมาบังคับก็ไม่สำคัญอยู่ดี
เพราะสุดท้ายแล้วคนเป็นพ่อแม่ก็มีสิทธิเลือกว่าจะ "เลี้ยง" หรือ "ไม่เลี้ยง" คนที่เลือกไม่เลี้ยงก็มีให้เห็นเยอะแยะมากมายในปัจจุบัน
พวกที่มีพ่อแม่เลี้ยงมีทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต นั่นแปลว่ามันโชคดี แต่มันจะรู้สึกดีใจไหมที่โชคดี อันนี้อยู่ที่มันจะตัดสินเอง
มันไม่มีจริงหรอก คำว่าหน้าที่ ความรับผิดชอบที่ถูกกำหนดอะไรนั่น เพราะสุดท้ายแล้วมนุษย์สามารถทำได้ทุกอย่างที่ขัดแย้งกับสิ่งเหล่านั้น
สิ่งที่เรียกว่าหน้าที่ มันก็แค่คำที่คนรุ่นก่อนยัดเยียดให้คนรุ่นต่อไปเท่านั้นเอง ไม่มีอะไรมากกว่านั้น
และคนรุ่นต่อไป ก็มีสิทธิเลือกเหมือนกันว่าจะ "ทำตาม" หรือ "ไม่ทำตาม"
มีสิทธิเลือกว่าจะ "สำนึกบุญคุณ" "ตอบแทนบุญคุณ" หรือ "เนรคุณ"
ยาวไป ไม่อ่าน : สิ่งที่มึงพิมพ์มา มันคือการพูดเอาแต่ได้ให้คนที่เป็นลูกได้ประโยชน์แต่ฝ่ายเดียว
>>99 สิ่งที่มึงพิมก็คือการยกประโยชน์ให้ฝ่ายพ่อแม่อย่างเดียวเหมือนกันโดยไม่มองบริบทความเป็นจริง
ในเมื่อมึงก็ยอมรับว่าการเอาตัวรอดมันคือสัญชาตญาณ แต่มึงเสือกมาพูดว่าไม่อยากอยู่ก็เลือกไปตายซะ ทั้งๆที่ระบบการคิดเป็นเหตุผลอันชัดเจนมันขัดแย้งกับสัญชาตญาณของสิ่งมีชีวิต เหมือนไม่เคยเห็นเวลาคนฆ่าตัวตายที่ใจอ่ะอยากตาย แต่พอจะตายกลไกเอาตัวรอดตามสัญชาตญาณมันก็ดิ้นรนให้คนกลับมาอยู่ดี มนุษย์มันเลือกได้ตอนที่มันมีสติน่ะแหละ พอมันจะตายเข้าจริงๆร่างกายก็ตอบสนองอัตโนมัติ ระบบเหตุผลที่มึงมโนมันไม่สำคัญเมื่อกำลังจะตายหรอก
และถ้าการเลี้ยงดูไม่ใช่สิ่งที่สังคมบังคับ เวลาทิ้งลูกก็คงไม่มีความผิดอ่ะ ซึ่งกฎเกณฑ์ปัจจุบันมันไม่ใช่ มีคนไม่ทำตามไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่พูดไปไม่มีจริง ถ้าคิดว่าตัวเองถูก มีลูกแล้วเอาไปทิ้งพร้อมมาป่าวประกาศสิ ถ้ามันคือสิ่งที่มนุษย์ในสังคมเลือกจะทำได้ มึงจะไม่มีความผิดทางกฎหมาย ถูกมั้ย ซึ่งความจริงมันไม่ใช่ เพรางั้นถึงไม่อยากเลี้ยงก็โดนบังคับให้เลี้ยงอยู่ดี ซึ่งถ้าเลือกจะไม่เลี้ยงก็ไม่ได้หมายความว่ากฎเกณฑ์มันไม่มีอยู่จริง
และอย่างที่บอกมึงไปทำความเข้าใจก่อนว่าบุญคุณที่พูดถึงหมายถึงอะไร เลี้ยงปล่อยๆ ให้บ้าน ให้ข้าว มันก็ปกติป่ะ ปัจจัย 4 พื้นฐาน แต่ถ้าเด็กแม่งบอกอยากกินพิซซ่าแแล้วมึงซื้อให้ กูมองว่านี่คือบุญคุณเพราะเด็กมันขอจากมึงเองทั้งๆที่มึงเลือกจะปฎิเสธแล้วให้แม่งกินข้าวเปล่าอย่างเดิมไปก็ได้ สำนึกไม่สำนึกเกี่ยวไร มึงไปช่วยคนแล้วมันไม่สำนึกแม่งเปลี่ยนความจริงว่ามึงช่วยมัน มึงมีบุญคุณต่อมันได้หรอ
โครตเบื่อตรรกะยัดเยียดให้คนอื่นเองแล้วเหมาว่านี่คือบุญคุณจริงๆ ทีเด็กเกิดมาเพื่อเติมเต็มความรู้สึกของพ่อแม่ไม่ถือง่าเด็กมีบุญคุณต่อพ่อแม่บ้างล่ะ ตลกจัง
ก็เรื่องเดิมๆ นีทฮิกกี้ที่พ่อแม่อยากให้ทำงานเป็นโล้เป็นพาย แต่เจ้าตัวดันเลือกจะเกาะกินสบายๆ ถ้าพ่อแม่ไม่อยู่หรือตัดจากมรดกก็รู้สึกเอง
กูเหนื่อย ไอ่เหี้ย เกิดเป็นลูกสาวบ้านคนจีนนี่แม่งมีแต่ความเหนื่อย เหี้ยอะไรก็เรียกแต่ชื่อกู
แล้วพี่ชายกุไม่เคยทำอะไรเกี่ยวกับงานบ้านเลย วันๆเอาแต่ทำหน้าบูด คุยก็ไม่คุย พอเวลามีงานจะให้ช่วยทำค่อยนึกถึงกุ
กุเบื่อมาก เบื่อมากๆ กุแค่อยากมีพี่ชายที่ใส่ใจกุให้ได้ซัก 1/4 ของที่กูใส่ใจมันหรือแค่คุยกับกูให้ดีกว่านี้นิดนึงก็ได้ ตอบกูบ้าง ไอ้เหี้ย กูบอกตัวเองจะช่างแม่งๆกี่ทีแล้วก็ยังทำไม่ได้ ควยเอ๊ย กูเกลียดตัวเอง เกลียดมันด้วย น้อยใจ ไอ่เหี้ย
>>107 ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยย 555555555555555555555555555555555555 นี่มันตัวฉันอีกคนนึง พี่กูนอนโซฟากลางบ้าน มีคนกดกริ่งที่บ้าน แม่งไม่ลุก กูที่อยู้ในห้องนอนต้องลุก เยดแม่
คนเรียกไปยกของ ไม่เรียกพี่ที่นอนข้างนอก เรียกกูที่อยู่ในห้อง กูแบบ เป็นผญ.ที่ต้องทำส้นตีนทุกอย่างให้ได้เหมือนผช.อ่ะ กูอยากจะตัดมดลูกแล้วไปต่อจู๋แทนมาก เป็นผช.บ้านนี้สบายเหี้ยๆ
หีแตดอุ่นกับข้าวยังต้องอุ่นให้ ดีที่กูไม่ต้องเคี้ยวแล้วไปป้อนให้ด้วย แม่งเอ๊ย
กูสงสัยมากนะ ว่าเขาจะสร้างกูขึ้นมาทำไม สร้างกูเพื่อมาดูความพังของกูหรอ กูยังไม่แน่ใจเลยกูเจาะถุงยางมาเกิดรึป่าว พอพ่อแม่ทะเลาะกันทีไร โยงมาหากูทุกที กูทำให้เขาต้องทะเลาะกัน พ่อกูหาว่าแม่มีชู้ แล้วบอกว่ากูน่ะลูกชู้ แต่ไม่เคยหาว่าน้องชายเป็นลูกชู้ เขารักน้องมากกว่ากู แม่เคยถามย่าว่า รถ กับ กูจะเลือกอะไร เขาตอบเลือกรถ ในสายตาญาติฝั่งพ่อกูคืออีลูกชู้ว่างั้น พ่อกูหลอนยาขนาดหนัก กูยังเชื่อเหมือนเดิมว่าแม่กูไม่เคยมีชู้อะแหละ พอกูมาอยู่กับยาย ญาติฝั่งแม่ ยายก็เสียดสีกูเกือบทุกครั้ง ต้องการไรจากกูกัน สอนให้กูยอมน้อง แม่:พี่ต้องเสียสละ ยาย:เธอเป็นพี่เธอยอมน้องไม่ได้รึไง แม่:หนูเป็นหลานหนูจะอะไรกับยายเขานักหนา เขาเป็นแม่ของแม่นะ เขาพูดอะไรก็ปล่อยเขาไปเถอะ ยาย:ทำไมเธอใจร้ายกับคนอื่นได้ขนาดนี้ติดนิสัยพ่อมาล่ะสิ พ่อขี้เหล้าของเธอไง พ่อ:อีบ้า นิสัยเสีย ได้เลือดชั่วจากแม่มึงมาละสิ แน่นอนกูเหี้ย กูชั่ว ไม่มีใครต้องการกู กูทำอะไรผิดหรอ ทำไมถึงเกลียดกูกันนักหนากูยอมทุกอย่างเหมือนที่สอนให้กูเป็นกระสอบทราย สอนให้กูอดทน เป็นที่ระบายของคนอื่น กูนึกไม่ออกอะกูทำอะไรผิด กูเรียนให้เกรดดีแต่ไม่มีคนชมกู กูพยายามอย่างหนักให้เขาเห็นกู กูพยายามทำตัวสดใสตอนอยู่โรงเรียน กูไม่ดีเลยหรอ แย่ขนาดนั้นเลยหรอ อยู่โรงเรียนกูดีหมด แต่กูกลับมาแพ้ให้คนในบ้าน เขาไม่เคยรู้หรอกว่ากูรู้สึกยังไง ร้องไห้ทุกคืน คิดว่าทำยังไงเขาถึงจะรักกูเหมือนน้อง กูคิดไม่ออก กูทำทุกอย่างแล้ว เพื่อนกูที่โรงเรียนจะรู้ไหมวะ ว่าความสดใสที่ชอบกันนักหนา มันก็หดหู่เหมือนกันนะ.
ไปสร้างหนี้พนันเยอะแล้วไม่ประหยัดเงิน สิ้นเดือนแทบจะหมดตัว กูจะหารหอนอกกับเพื่อนจนวันนี้ต้องจ่ายแล้วทำเป็นไม่รับรู้ แล้วจะให้เขาทำไงวะ สร้างความหวังลมๆแล้งๆจนวันจ่ายไม่มีตังค์ ละคนที่ต้องออกไปรับหน้าขอโทษเขาคือกู กว่าหนี้จะหมดก็อีก 2 ปี แทบจะลดฐานะจากปานกลางเป็นจนล่ะสัส รอกูมีงานทำกูจะวางแผนเงินดีๆไม่มาปสดกับหนี้อีก
นีี่แค่เรื่องเงินนะ ไหนจะเรื่องบูลลี่อีก พูดออกมาได้ว่าแหย่ลูกตัวเองให้โกรธแล้วสนุก เจอหน้าทีไรแม่งหาเรื่องด่าลด self esteem ตลอด ไม่รู้ตัวหรอวะว่าทำไมกูไม่รักพ่อ รักแต่แม่ จะเล่นดนตรี วาดรูป เล่นเกม อ่านนส เล่นกีฬา พอเห็นพ่อเป็นต้องเลิกทำทุกครั้ง เหมือน mindset ต่างกันเกินไป สอนเท่าไหร่ก็ไม่จำเพราะสมัยนั้นการกดขี่ลูกเป็นเรื่องธรรมดา บอกว่าลูกเกลียดพ่อแม่เป็นบาป แต่พ่อแม่จะด่า ทุบตีก็ได้
ครอบครัวกูรุ่นพ่อยากจนด้วยแหละ พึ่งจะมีเงิน รถ บ้านตอนที่กูเกิด วิถีการเลี้ยงดูเลยไม่ค่อยคิดมาก
พ่อแกหาเงินไม่ค่อยเก่งแต่ใช้เงินเก่งมากๆ ล่าสุดกำลังจะหมดหนี้แกก็ไปหาหนี้มาอีกห้าแสน รู้สึกชีวิตนี้กูเกิดมาใช้หนี้ให้เขากับญาติเหี้ยๆของเขาเฉยๆ อยากเป็นคนดวงดีเกิดไปอยู่สุขสบายบ้าง พ่อเป็นคนเหี้ย ญาติก่อนหนี้อะไรไว้รับมาหมด เงินเก็บแม่สิบล้านขโมยไปแจกญาติหมด แล้วเอาหนี้ญาติกลับมาสิบล้าน ยังใช้ไม่หมด ข้อดีคืถ้าเขาเสียไปก่อนหนี้ตัวนี้เสียไม่ลงถึงกู ข้อไม่กีคือถ้าเขายังอยู่เขาก็ปลิงกู/น้อง/แม่ ไปเรื่อยๆ
>>109 ตอนนี้มึงยังอยู่มัธยมอาจจะต้องทนไปก่อน พอเข้ามหาลัยก็ย้ายไปอยู่หอซะ พยายามแยกตัวให้ห่างจากครอบครัวให้มากที่สุด มึงต้องเอามายด์เซ็ต” พี่ต้องเสียสละ ต้องอดทน ต้องเชื่อฟังพ่อแม่เท่านั้น”ออกไปจากสมองด้วย ไม่ได้ขอให้เกิดมาเสือกเลี้ยงดูไม่ดีอีก ถือว่าไม่มีบุณคุณต่อกันว่ะ เดี๋ยวพอมึงทำงานนะ จะเจอมุกขอเงิน ขอหีขอแตดเพียบ หวังว่าเมื่อถึงตอนนั้นมึงจะใจแข็งพอที่จะตัดขาดไอ้ครอบครัวพรรค์นั่นได้ ไม่อย่างนั้นชีวิตมึงจะฉิบหายหนักกว่าตอนนี้แน่นอน
คำว่า กตัญญู บาป บุญ เป็นสิ่งที่มนุษย์มโนขึ้นมาเอง ถ้าหลุดพ้นจากคำเหล่านี้ได้ ชีวิตจะมีความสุขขึ้นเยอะ
>>112 ขอบคุณนะ กูจะพยายามตัดมันออกละกัน ไอกตัญญู บาป บุญนั่นน่ะ เพราะกูทำไปก็ไม่ใครเห็นค่านี่เนอะ แต่ลึกๆกูก็ยังอยากได้ความรักจากเขาอยู่นะ แม้ว่ามันอาจจะเป็นความคิดที่ดูโง่เง่า ซ้ำซากก็เหอะ กูไม่ชอบให้ยายด่าพ่อ กูไม่ชอบให้พ่อ ด่าแม่ กูไม่ชอบให้พวกเขาต้องด่ากัน พอกูปกป้องพ่อ หาว่าไม่รักแม่ เลว ปกป้องแม่ พ่อบอกได้เลือดชั่ว ปกป้องใครก็โดนด่า ทุกวันนี้คือลืมกอดพวกเขาไปแล้ว เด็กวัยเดียวกันที่ออกไปเที่ยวกับเพื่อน เฮฮาสนุกสนาน แต่เราต้องมานั่งฟังคำด่าทอจากพวกเขาตลอด พิมพ์ไปก็อยากจะร้อง ทำไมต้องเป็นกูด้วยล่ะ กูรักพวกเขามากอะแต่กูก็ปวดใจทุกวันเหมือนกัน ต่อให้เขาจะขยี้กูก็เถอะกูเลือกที่จะอยู่ข้างเขาอยู่ดีอะ กูอยากใจเด็ดเหมือนคนอื่นๆนะ แต่ก็พยายามทำอยู่ ขอ How to ห้ามสงสารหน่อยนะ ไม่ไหวกับนิสัยตัวเอง
อ่า บางทีก็รู้สึกว่าพ่อคือหมาที่แม่เลี้ยงไว้ ประโยชน์อย่างเดียวคือทำให้แม่มีความสุข ไม่ได้ให้เงิน ให้อาหาร ให้ความรู้กับลูก
กูรู้สึกว่าแม่ตัวเองมีปัญหากับความโกรธ เป็นคนระเบิดอารมณ์ได้เพียงแค่เรื่องเล็กน้อยเช่นรถข้างหน้าขับช้าหรือเวลากูขัดใจเขานิดหน่อย ด่าแบบจะเป็นจะตาย เอาง่ายๆ แค่กูถ่ายรูปให้ไม่ถูกใจหรือทำน้ำเสียงเบื่อก็ด่าเหมือนกูทำลายชีวิตเขา จะปาข้าวของใส่กู ทำของตกแตก แสดงออกแบบเกิน 100 อะ แล้วเป็นไม่นานมากแต่เป็นบ่อย กูจะลองไม่ไปเยี่ยมหรือนอนที่บ้านซักเดือนนึงดู
>>118 ปัญหาควบคุมอารมณ์สุดๆเลยมึง แล้วถ้าใครท้วงก็จะบอกว่าตัวเองไม่ได้โกรธป่ะ?
บ้านกู แม่แม่ง ตัวเองด่าคนอื่นแว้ดๆๆ พอขึ้นอื่นเสียงดังนิดนึงก็หาว่าเขาด่า แต่ตัวเองพูดดีๆ กูจะบ้าตาย พอกูโวยตอบแม่งขุดเรื่องห่าเหวอะไรไม่รู้มาด่า ยังกะกูต้องการมากอ่ะ
แล้วขยันมายุ่งกะชีวิตกู
เป็นห่วงก็พูดดีๆ ไม่ใช่แซะ
กูทำงานก็มาว่ากูนั่งทั้งวันทั้งคืน อ่ะละจะให้กูยืนทำงานอ่อ กูทำเหี้ยไรก็ไม่ดีซักอย่าง ถ้ากูยืนทำงานเดี๋ยว็ต้องมาเสือกว่าทำไมไม่นั่ง
แล้วงานการตัวเองทำมั้ย ก็ไม่ แถมไม่หาอะไรทำซักอย่าง ซื้อครอสติชมาให้เผื่อมีงานอดิเรกก็ไม่ทำ วันๆนั่งลุ้นหุ้นแล้วก็เอาแต่บ่นๆๆ
แม่ง
เเม่กูเเม่ง ขอโทษสักคำมีไหมวะ การบ้านก็เยอะกลับบ้านมากูก็กวาดบ้าน ล้างจาน เก็บผ้า การบ้านกูก็ยังไม่ได้ทำ เเถมเเม่เเม่งก็ตากกระโปรงกูลากพื้น พาดถุงขยะอีกสัส เปื้อนเลยเนี่ยไอ้ห่า เหี้ยไรก็กูผิดกูผิดเนี่ย ตอนกูจะตากเเม่งก็ไล่กูไปเรียนพิเศษ บอกจะตากเอง ควย เหี้ยไรสัส พอตากเเล้วเเม่งก็งี้ตลอดเนี่ย กูว่าเเม่เเม่งก็สวนมาอีก บอกกระโปรงตั้งยาว เห็นเเล้วทำไมไม่เก็บ โห อีควย ทีกระโปรงตั้งยาวมึงไม่ตากให้มันสูงๆวะอีกสัส เคยดูตัวเองบ้างไหม เเถเหี้ยไรนักหนาไอ้ควย!!!!!!!!
กูเคยชินกับการเห็นแม่กับพ่อเลี้ยงทะเลาะกันแล้วทำร้ายร่างกาย จนกูมาอยู่กับน้ามาเรียนมัธยมที่กรุงเทพ พอเริ่มโตกูก็เริ่มไม่คุยกับอีพ่อเลี้ยง กูทั้งด่ามันทั้งบ่นแม่ว่าถึงมันจะพูดดีทำดีกับกู แต่ถ้าทำร้ายร่างกายแม่ มันก็ไม่ใช่คนดีแล้วมั้ยไอเหี้ย ยิ่งเจอประโยคคลาสสิค 'เรื่องของผัวเมีย' กูอยากจะถุยน้ำลายใส่ แล้วพวกผู้ใหญ่พอเห็นกูมึนใส่อีพ่อเลี้ยงก็ชอบทำสายตาแบบ เอาน่าเด็กวัยกำลังต่อต้านกำลังมีปัญหา นึกออกป้ะ พวกมึงอ่ะผิดปกติ กูมีสิทธิ์จะโกรธ กูมีสิทธิ์จะด่า ไอความเกรี้ยวกราดที่กูมีแม่งยังไม่ทำให้แม่กูหลุดจากความสัมพันธ์นี้ด้วยซ้ำ แล้วกูจะยังต้องหงิมๆยืนดูแม่ถูกทำร้ายร่างกายเหรอ ควย
กูเบื่อแม่ เข้าใจนะว่าชอบแฟนกูมาก แต่บางทีก็อวยแฟนกูจนกูรำคาญอ่ะ เรียนหมอได้เกรด 4 หายากงู้นงี้ คิดว่าจะมีกี่ซักกี่คนที่ได้หมอเป็นแฟนจนกูเอิ่บ มีแฟนเป็นหมอมันก็ไม่ได้สูงส่งอะไรขนาดนั้นมั้ย พูดเหมือนในอนาคตจะไม่เจอคนดีกว่านี้อ่ะ อวยจนกูอยากประชดเลิกแม่ง เซง
ถาม แม่ชอบบ่นว่าบิลบัตรเครดิตมาบ้าน
ของบางอย่างนางก็ฝากซื้อทางเน็ตเองแล้วก็ลืม จู้จี้ว่าจ่ายแพง เดือนนึงใช้จ่ายบัตรแค่พันเดียวก็พอแล้ว... รำคาญเลยเปลี่ยนมาโอนแทน แต่เสียดายแต้มสะสมยัตรเอามาแลกของได้ ทำไงดีวะ
พ่อตากูครับมึงจะขี้น้อยใจไปไหน คือกูกลับมาบ้านกูถามแล้วนะว่าตอนเย็นจะกินอะไรกัน
แม่ยายกูก็บอกไม่กินอ่ะ พ่อตากูก็บอกไม่กิน
โอเครไม่มีใครกินนะ กูก็ไปเลี้ยงลูกกล่อมนอน (แม่มันอยู่เวรกลับดึก)
กูก็กล่อมลูกกูนอนเสร็จออกมาหิวๆกูก็ไปหาอะไรกินในครัว เดินผ่านพ่อตากูนั่งแหมะดูทีวีอยู่ แม่ยายไปเข้าห้องน้ำ
กินอยู่ดีๆ พอแม่ยายกูออกจากห้องน้ำเดินไปที่ทีวี พ่อตากูที่นั่งแหมะอยู่แม่งเด้งขึ้นมาแบบเดือดๆ บอกจะกลับบ้านเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าปิดประตูเสียงดัง แล้วก็ขับรถออกไปเลย...
กูเอ๋อเลยครับ มึงงอนอะไรวะ...แม่ยายกูบอกว่าแม่งงอนกูไม่ยอมชวนแกกินข้าว
ฮะแค่เนี้ยนะแล้วกูถามแล้วนะว่ามึงจะกินไม้ตอนกูกลับมาเสือกบอกไม่กินเองนะมึงเปนไบโพล่าป่าววะ
กูโม่งที่เคยบ่นน้องจะเข้าหมอนะขอย้ายมานี่ น้องแม่งเป็นคนที่จับปลาหลายมือ มันนิยมการเป็นจุดสูงสุดด้วยอ่ะทั้งที่ตัวเองไม่เก่งขนาดนั้น เป็นเด็กระดับปานกลางถึงเก่งแต่ไม่ได้เทพ ภาษาที่ 3 4 ก็จะเรียนให้ได้ก่อนจบม.6 หมอก็จะเข้าม.อันดับ 1 ของไทย วางแผนเรียนรามปีหน้าอีกชิบหาย กูไม่สนับสนุนเลยเพราะมันยังเด็ก ยังหาตัวเองไม่เจอ เป้าหมายชีวิตมันก็เปลี่ยนมาตลอดจนสุดท้ายเอามายำรวมกัน กูบอกให้ใจเย็นลงก็งอนทำเหมือนกูไม่เชื่อมัน กูก็ได้แค่ให้กำลังใจแล้วมันจะทำอะไรก็ปล่อยไปแล้วหละ ตอนอายุเท่ามันกูก็เคยสับสนตัวเอง แต่ไม่ได้ทำร้ายตัวเองเท่านี้ ไม่ชอบกดดันตัวเองจนกว่าจะแน่นอนจริงๆ
>>132 กูเข้าใจน้องมึงนะ ตอนสมัยมัธยมกูเองก็อยากเป็นจุดสูงสุด อยากเข้าโรงเรียนที่ดีที่สุด คณะที่เก่งที่สุด แต่พอเข้ามหาลัยโตขึ้นแล้วเพิ่งหันมามองตัวเองทำความเข้าใจว่าตัวเองอยากทำอะไร ก่อนหน้านี้อยากเอาชนะอย่างเดียวแล้วหลอกตัวเองว่านี่แหละคือสิ่งที่กูชอบ ทำให้พลาดหลายๆอย่างชีวิตวัยรุ่นก็ใช้ไม่คุ้ม พอเป็นผู้ใหญ่ก็ต้องทำงานที่ไม่ได้ชอบไปวันๆไร้แพสชั่น โคตรเสียดายเลย
>>132 ตามอ่านมานาน น้องมึงยังเป็นแบบนั้นอยู่อีกหรอ เห็นด้วยกับเม้นบนเพราะกูก็เคยเป็นแบบนั้นนะ ถึงได้รู้ว่ามันทำร้ายตัวเองแค่ไหน แต่พอยิ่งโตขึ้น ยิ่งเห็นโลกกว้างขึ้นมันก็จะเข้าใจมากขึ้นเองว่าคนเราไม่จำเป็นต้องเก่งที่สุดถึงจะมีความสุขได้
อย่างน้อยก็ดีที่น้องมึงก็มีเป้าหมายและความตั้งใจนะมึง นิสัยวัยรุ่นใครพูดก็ไม่ฟังแล้วหล่ะ ดูทรงแล้ว ถ้าน้องมึงสอบติดก็ดีไป แต่ถ้าไม่ติดขึ้นมาต้องเสียใจมากแหงๆ พอเวลานั้นแหละที่กำลังใจจากครอบครัวและคนรอบข้างจะสำคัญมากๆ เอาใจช่วยนะ
เหนื่อยเว้ยครอบครัวไม่เคยสนับสนุนอะไรกูเลย กูยอมลาออกจากมหาลัยเพื่อให้พี่กูเรียนให้จบ แล้วพี่กูโคตรขายฝันบอกเดี๋ยวพี่ทำงานแล้วพี่จะส่งเทอเรียนเอง บอกเลยกูไม่เชื่อกูว่ามึงทำไม่ได้อ่ะ แต่ในใจนี่คือแอบหวังนิดๆ แล้วมึงคิดดูกูนอนว่างมาเกือบ3ปีในขนาดที่เพื่อนกูจะจบมหาลัยกันแล้ว แล้วชอบมีคนมาบอกว่าทำไมมึงไม่ออกไปทำงาน คือมึงคิดตามนะกูอยู่ต่างจังหวัดงานมีนไม่ได้มีให้กูทำเยอะขนาดนั้น แล้วงานที่มีคืออยู่ในตัวเมืองแล้วบ้านกูคือเหมือนอยู่เหนือกับใต้เลยจ้าาา ค่าโดยสารไปกลับวันนึงก็ปาไปเกิน100อ่ะ กูต้องมานอนเป็นคนไร้ค่าอยู่ที่บ้านทำอะไรไม่ได้ บ้านกูจนอีกถึงขั้นจนมาก กูเครียดจนเป็นโรคซึมเศร้าอ่ะแต่ที่บ้านก็ไม่เคยสนใจกูคงคิดว่ากูสบายมั้งนอนอยู่บ้าน มึงรู้มั้ยกูอยากตายมากๆแต่ไม่รู้ทำยังไงถึงจะตายโดยที่ไม่ต้องทรมานแบบหลับแล้วไม่ตื่นอ่ะ แบบมึงว่ากูยอมเยอะไปมั้ยวะแบบกูยอมไปซะทุกอย่างเพราะที่บ้านไม่เคยเห็นกูสำคัญ เห็นกูไม่น่าสงสาร คือกูคิดนะว่าชีวิตกูน่าสงสารมากเพราะกูไม่มีอนาคตเลยกูไร้ค่า กูทิ้งทุกอย่างให้คนที่ไม่ได้เรื่องอะไรเลยได้แต่ขายฝันไปวันๆ ขอบคุณสำหรับพื้นที่ระบายที่ไม่ใช่โถส้วม
>>135 แล้วบ้านทำงานอะไร ไม่มีรถหรอ แล้วอยู่เฉยๆมันได้อะไร ได้เรียนออนไลน์มั้ย ได้ฝึกสกิลไรรึเปล่า มึงมาโม่งได้แปลว่าเข้าเน็ตได้ หาความรู้เพิ่มเติม เรียนเองก็ไม่น่ายากมั้ง
กูอ่านแล้วเหมือนมึงเป็นคนรอโชคชะตาอ่ะ แต่ไม่ลงมือทำไรซักอย่าง พอบ้านไม่ให้เรียนต่อมึงก็ออกมานอนเฉยๆ เพราะหารถไปทำงานไม่ได้ก็เลยนอนเฉยๆ เหมือนถ้าอะไรไม่อำนวยความสะดวกมห้มึงก็จะไม่ทำ ไม่มีแบบทางเลือกสองสามแบบใช้วิธีนี้ไม่ได้แล้วใช้วิธีไหนดี พอไม่มีรถบุ๊ปมึงก็เลิกมานอนเลย
ทั้งๆที่บอกว่าตัวเองไร้อนาคตแต่ก็ไม่ดิ้นรน อนาคตชิบหายแน่ถ้าทำงี้
>>135 ลองคิดแบบนี้นะ ต่อให้งานระดับแรงงานไร้ฝีมือได้เงินเท่าค่าแรงขั้นต่ำ หักลบค่าเดินทางกับค่ากินมันก็ไม่น่าจะติดลบ แปลว่าถ้ามีงานทำงานสุทธิวันนึงอย่างแย่ที่สุดคือ 0 บาท แต่ถ้าไม่ทำงาน ทุกๆวันจะติดลบเพราะมีค่ากิน เหตุผลแค่นี้ก็มากพอที่จะไปทำงานแล้ว
เข้าใจว่าการเสียเวลาเดินทางไปทำงานทุกวันเพื่อให้ได้เงิน 0 บาทมันดูไม่คุ้ม แต่มันคุ้มที่สุดเท่าที่มึงจะทำได้ในตอนว่ะ ทำๆไปเหอะ ถ้าจะไม่ทำมึงก็ต้องหาอะไรที่ดีกว่าการนอนโง่ๆมาตลอด 3 ปี
มึงบอกพี่มึงขายฝัน แต่ที่มึงทำอยู่นี่ก็คือรอให้ความฝันยื่นโอกาสมาให้ถึงตัวเหมือนกัน มึงใช้ชีวิตแบบเด็กมาตลอด 20 กว่าปี แต่ชีวิตมันสั่งให้มึงต้องโต เพราะงั้นเลิกงอแงแล้วโตได้แล้ว
>>135 บอกไรมึงให้ มีทางออกที่ดีกว่านี้นะ บ้านมึงจนมากจริงๆ แต่มึงมีเน็ต มีคอมใช่ไหม? มึงหาหนังสือ ม.ปลาย/แบบฝึกหัด ม.ปลาย มาหัดเขียนหัดทำแทนนอนอยู่บ้านจนเน่าเฟะละไปสอบแกทแพทให้คะแนนมึงดีๆ เข้า ฬ ได้ ..... ที่ตรงนั้นคือขนาดมึงไม่มีชุดเรียนต่อรุ่นพี่ยังหามือสองดีๆให้มึงได้บอกไว้เลย เมื่อก่อนกูเรียนราม ทนกับระบบเน่าๆ นั่งรถเมล์สามต่อเพื่อให้ตัวเองทะเลาะกับที่บ้าน สุขภาพร่างกายเสื่อมโทรม ครูในภาควิชาบางคนก็กากเดนแถมยังกักขฬะรังเกียจ นศ. ทำงานควบเรียนสารพัดจนเด็กในภาควิชากว่าจะเรียนจบใช้เวลาสิบปีมาหลายคนสัสๆ พอมารู้ว่า ฬ ให้ทุนได้มากกว่า มีรุ่นน้องๆกูสอบเข้าได้ ขอทุนผ่าน ชีวิตคือดีอ่ะ ถึงไม่ได้ดีมากแต่แม่งก็เจอกับเพื่อนฐานะดีๆ คอนเนคชั่นดีๆ สังคม ปสด. จอมปลอมเยอะแต่ก็คือได้เรียน ได้โอกาสอยู่ในที่ศิวิไลซ์ ทุกๆปีมี บ. ใหญ่ๆมาจัดอีเวนท์หางานแบบที่ ม.รามให้ไม่ได้ ทั้งหมดคือตัวมึงเองละ หรือถ้ามึงมองไปรอบตัวละหาทางออกไม่เจอจริงๆก็เอาเชือกแข็งแรงๆมาเส้นนึงละหาขื่อบ้านมึงไปผูกคอตายซะ
กูมาปรึกษาถูกห้องมั้ยวะ แต่ถ้าผ่านมาก็ช่วย ๆ ตอบกูหน่อยนะ กูกำลังสองสัยว่าน้องกูมีปัญหาอะไรหรือเปล่า
คือลูกพี่ลูกน้อง(ห่าง ๆ)กูเดิมอยู่ตจว. แต่แม่เขาส่งมาเรียนมัธยมในกรุงให้มาอยู่บ้านยายแท้ ๆ แต่น้องเขาชอบมาเล่นบ้านกูไป ๆ มา ๆ หิ้วเสื้อผ้ามาอยู่บ้านกูแบบไม่มีใครชวนซึ่งบ้านกูก็ปล่อยเบลอเข้าใจว่าอาจไม่สะดวกใจบ้านนั้นพี่ชอบเอาเพื่อนเอาแฟนมาอยู่บ้านแล้วผู้ชายล้วน แล้วเอาตรง ๆ บ้านนั้นค่อนข้างทรุดโทรมอยู่บ้านกูสบายกว่ามีแอร์มีเน็ต
แต่...กูเริ่มรู้สึกแปลก ๆ เหมือนน้องพยายามเคลมว่าบ้านกูเป็นบ้านน้องเขาเอง ครูเยี่ยมบ้านนร.ก็ให้มาบ้านกู เรียกกูว่าพี่กับเพื่อนไม่เท่าไรแต่เรียกแม่กูที่มีศักดิ์เป็นป้าว่าแม่กูเริ่มเอ๊ะ ไม่ค่อยกลับบ้านยายหรือไปช่วยยายขายของเลยมีแต่ยายน้องที่มาหาที่บ้านกูตลอด ความรู้สึกกูเหมือนน้องเขาพยายามเบลอครอบครัวฝั่งยายแท้ ๆ ทิ้ง กูคิดมากไปเปล่าวะ หรือน้องเขามีปัญหาด้านสังคมหรือจิตใจอะไรที่กูควรปรับทัศนคติเปล่า
>>140 กูว่ามันกำลังเฟคเพื่อเข้าสังคมในชีวิตมันให้ได้ ทำแบบนี้คือสุดท้ายมันจะไม่เหลือคนที่จริงใจกับมันเลยด้วยซ้ำ กูเข้าใจเด็กนะที่ว่ามันรู้ว่าที่ไปตรงไหนสบายบ้างมันก็ย้ายถิ่นฐานไปตรงนั้นอ่ะ อ่านข้อความหลังๆนี่มึงควรเอามันมาคุยหว่ะ ดูท่าเหมือนมันคงมีอะไรที่ไม่ดีกับที่ๆตัวเองจากมา เช่น สภาพบ้านโทรมๆ บ้านหลังคาสังกะสี ห้องน้ำโสโครก ส้วมซึม บลาๆ แล้วพอมาเจอบ้านมึงละดีที่สุดในชีวิตคงอยากเป็นส่วนนึงด้วย ถ้าให้คิดต่อไปอีกคือ น้องมึงเหมือนถูกมองเป็นส่วนเกินของบ้านมาก่อน เป็นแค่คนอาศัย ไม่ใช่ครอบครัวหว่ะ พอมีที่ๆรู้สึกว่าตัวเองมีตัวตนเลยทำแบบที่มึงเห็นอ่ะ
>>141 เออ มึงพูดให้กูได้คิด หลัก ๆ ที่กูคิดคือน้องแค่อยากสบายแล้วอยากเฟคทำตัวให้ดูดีดูมีตังส์กับเพื่อนแล้วมันเริ่มเกินเลย
แต่สภาพครอบครัวน้องมันก็ไม่ดีจริง ๆ แหล่ะ พี่น้องคนล่ะพ่อหมดแต่อย่างน้อยพี่ ๆ ก็เคยถูกเลี้ยงด้วยกัน แต่น้องตูู้ม! อยู่ดี ๆ แม่โยนมาให้ยาย มันเพิ่งรู้ตัวตอนประถมด้วยซ้ำว่ามีพี่อีก ส่วนตอนอยู่ตจว.มันก็อยู่ในฐานะลูกติดแม่พ่อเลี้ยงไม่ชอบมัน อยู่ที่ไหน ๆ มันเลยอาจรู้สึกอิหลักอิเหลื่อ
ส่วนบ้านกูในฐานะที่แม่กูเป็นซิงเกิ้ลมัมกูกับแม่เลยสนิทกันเหมือนเพื่อนครอบครัวมีแต่ผู้หญิงสภาพแวดล้อมก็โอเคเทียบกันแล้ว...อยากเป็นส่วนนึงในบ้านกูก็อาจไม่แปลก แต่ถึงยังไงกูก็มองมันในฐานะผู้อาศัยอยู่ดีอ่ะ แค่เอ็นดูสงสารเด็กแล้วยิ่งเด็กพยายามกลมกลืนกับบ้านกูโดยการเฟคหลอกตัวเองหลอกคนอื่นแบบนี้กูก็ไม่โอเค โอ๊ย กูจะกังวลเรื่องการวางตัวของน้องหรือความใจแคบของกูก่อนดีวะ
>>142 ถ้ามึงรู้สึกอยู่ว่ามันส่วนเกิน มึงลองทำให้มันมีส่วนช่วยเหลือจุนเจือครอบครัวฝั่งมึงบ้าง อะไรเซฟได้ก็ควรทำ ถ้ามันยินดี มันโอเค ช่วยเหลือได้สุดความสามารถที่มันมี สายตากูคือมันพิสูจน์ตัวเองได้ระดับนึง ไม่ใช่ว่าทำตัวเป็นเด็กใจแตก ทำตัวเสเพล อันนี้ถ้าเริ่มออกลายแล้วมึงสั่งอะไรไม่ได้ ควรทำลายชีวิตมันให้ออกไปจากชีวิตมึงให้ได้
>>143 มาอยู่บ้านกูฟรี แม่กูสงสารยายกู(ไม่ใช่ยายเด็กนะ) มีบ่น ๆ บ้างแต่พวกญาติก็กล่อม ๆ ว่าถือว่าช่วยเด็กสงสารมัน ซึ่งส่วนนี้กูไม่คิดอะไรมากอย่างน้อยค่าขนมแม่ก็ส่งมาให้ แต่ค่าเทอมนี่แหล่ะปัญหาเทอมนี้แม่ส่งมาไม่ครบ ยายแท้ ๆ ก็ไม่ค่อยมีเงินช่วยได้แค่นิดหน่อยน้าแท้ ๆ ก็ไม่สนใจ จบที่บ้านกูกับญาติอีกส่วนช่วยกันออก ไว้เทอมหน้าเป็นแบบนี้อีกคงมีปัญหาแล้ว
ส่วนเรื่องการสั่งอันนี้ก็อีกปัญหาที่กำลังแตะความอดทนกูคือน้องเป็นเด็กเรียบร้อยเรียนเก่งแต่ขี้เกียจถ้ากูไม่สั่งก็ไม่ทำงานบ้าน อยู่ห้องเดียวกับกูแต่ไม่เคยออกตัวช่วยกวาดถู ที่บ้านให้หน้าที่หลัก ๆ เป็นล้างจานแต่ชอบดองไว้บอกเดี๋ยวทำแต่สุดท้ายก็ไม่ได้ทำ บางทีอาจเพราะแบบนี้ด้วยกูเลยรู้สึกไม่สนิทใจเหมือนจะใช้ชีวิตสบายเกินไป
>>144 กูอาจใช้คำแรงไป ไม่เชิงเฟคแต่พยายามเกินไปที่จะเนียนเข้ากับครอบครัวกูจนดูไม่มีมารยาท เรื่องที่พยายามแสดงออกต่อคนที่โรงเรียนว่านี่คือบ้านมันก็เรื่องนึง แต่มารยาทตอนอยู่บ้านกูก็อีกเรื่องอย่างเมื่อก่อนน้องชอบหยิบของกินที่กูซื้อมาไปกินโดยไม่ขอ ของถูก ๆ กูพยายามมองข้ามจนมันกินของแพงกูเลยจัดหนักไปรอบ หรืออยู่ร่วมห้องกับกูแต่เวลากูไม่อยู่ในห้องชอบล็อคประตูเจ้าของห้องอย่างกูเวลาอยากเข้าไปเอาของต้องเคาะ...อันนี้น้องบอกกลัวย่ากูเข้าไปย่ากูไม่ชอบมัน แต่เรื่องพวกนี้พอกูว่าก็ไม่ทำแล้ว เพราะงั้นถ้าถามกูว่าโอเคมั้ย ในตอนนี้กูยังโอเคเด็กเรียบร้อยพูดจากับกูดีแต่ถ้ายังติดขี้เกียจความเอ็นดูของกูก็อาจลดลงไปเรื่อย ๆ อย่างน้อยตอนนี้กูยังอยากช่วยน้องปรับการวางตัวการเข้าสังคมอยู่
>>145 ไม่แน่ใจนะว่าน้องมึงอายุเท่าไหร่ ถ้ายังเด็กก็ลองเปิดใจคุยดีๆดูนะ คุยแบบใจเย็นอ่ะ ถ้าเป็นเด็กเรียบร้อยเรื่องช่วยงานบ้านนี้กูว่าพอคุยได้อยู่ จากที่มึงเล่ามาคือเด็กมันอาจไม่ได้รับการอบรมเท่าไหร่น่ะ มารยาททางสังคมบางอย่างเลยไม่ค่อยมี เรื่องที่พยายามหลอกว่าครอบครัวมึงเป็นครอบครัวตัวเองส่วนหนึ่งอาจเพราะต้องการการยอมรับจากเพื่อนก็ได้ ส่วนเรื่องค่าเทอม ลองแนะนำให้น้องกู้กยศ.ดู ไม่ก็หาทุนของร.ร.อ่ะ
>>146 กูจะพยายามใจเย็นคุย ตอนนี้กูอาจจะติดหงุดหงิดหน่อยเพราะบ้านกูไม่ค่อยเจ้ากี้เจ้าการกัน(ยกเว้นเรื่องเงิน) ค่อนข้างอิสระเพราะรู้หน้าที่กันดีพอมีคนใหม่มาอยู่แล้วไม่รู้จักทำอะไรเองต้องคอยสั่งจังหวะครอบครัวเลยเหมือนสะดุด แล้วกูอาจวางมาตรฐานไว้สูงเกินไปด้วยแหล่ะ แบบกูมองน้องว่าปีหน้าก็เป็นนางสาวแล้วยังต้องให้สอน? ถึงจะดีต่อกันแค่ไหนแต่ก็อดขัดหูขัดตาขัดใจอยู่ลึก ๆ ไม่ได้ แต่พอมองในแง่ที่ว่าอาจไม่ได้รับการอบรมมาจริง ๆ ก็พอมองอย่างใจเย็นได้มากขึ้น
ส่วนเรื่องทุนเคยทำเรื่องขอแล้วแต่ไม่ได้ ก็ได้แต่ช่วยพยุงกันไปคนล่ะนิดอย่างน้อยก็เป็นเด็กรักเรียนแต่ช่วยตลอดไปคงไม่ไหว ส่วนกู้กยศ.ไว้จบม.ต้นค่อยว่ากันอีกทีตอนนี้น้องเพิ่งม.2 อย่างน้อยตอนนี้วางแพลนไว้แล้วว่าถ้าขึ้นม.ปลายต้องหางานพิเศษทำ น้องมันรับปากอยู่ถ้าปิดเทอมจะทำแต่หลังเลิกเรียนไม่อยากทำไม่มีเวลาทำการบ้าน...กูขอความเห็นหน่อยม.ปลายเรียนไปด้วยทำงานพิเศษไปด้วยจะเกินขีดจำกัดไปเปล่าวะ แบบตอนกูเรียนเพื่อนกูก็เรียนไปทำงานพิเศษไปยังไหวแต่ไม่ค่อยซีเรียสเรื่องผลการเรียน แต่น้องกูค่อนข้างซีเรียสกับผลการเรียนเพราะส่วนหนึ่งที่ญาติ ๆ เอ็นดูเพราะเรียนเก่ง
>>145 โอเค อายุ14 กูว่าวัยเรียนรู้ มึงควรสอนสิ่งที่ถูก สิ่งที่มีคุณภาพ ปรับๆให้ได้เลยวัยนี้อ่ะ จูนให้เข้ากันได้คือมึงจะถูกหวยมาก ถ้ายังคุยกันได้อยู่ก็ควรสอน เออ กูว่าส่วนนึงคือเด็กขาดการอบรมแน่ๆ แล้วขาดความอบอุ่นพอตัวหว่ะ .... หาเรื่องคุยกับมันเยอะๆ ให้มันเข้าใจถึงพื้นที่ส่วนตัวมึงให้ได้ว่าอันไหนได้ไม่ได้นะ เปิดใจให้รู้ถึงพื้นเพได้จะดีมาก สู้ๆหว่ะ
ปกติคนทำงานแล้วสมัยนี้เค้าให้เงินที่บ้านกันป่ะ อยากรู้ ให้เดือนละหลักหมื่นนี่มันปกติไหม
น้องกูแม่ง ขับรถก็ไม่เป็น มอไซก็ไม่หัดทั้งๆที่อยู่ตจว.มันจำเป็นต้องขับรถพวกนี้ให้เป็น แล้วเสือกจะไปอยู่หอนอนคนเดียวอาศัยเพื่อนรับส่งเอา แถมยังนิสัยเหี้ย ขี้เกียจ ชอบทำงานบ้านลวกๆ กูเอาเปรียบคนอื่นได้แต่คนอื่นห้ามเอาเปรียบกู หนักไม่เอาเบาไม่สู้ ข้อดีคือแม่งสร้างภาพกะคนภายนอกเก่ง แม่กับกูเลยต้องกลายเป็นสนามอารมณ์ แม่บอกจะให้อยู่หอนอกที่ใกล้ๆม.หน่อยจะได้เดินไปเรียนได้เวลาไม่มีรถ อยู่ตั้งมหาลัยแต่เหมือนโตแต่ตัว กูจะทำไงดี เห้อ
ล่าสุดแม่กูเห็นธนาคารปล่อยสินเชื่อเลยมาขอให้กูกับน้องช่วยกู้เอาเงินมาปิดหนี้ที่บอกว่าได้มาตั้งแต่สมัยกูเรียน จริงๆกูก็พยายามหาทางแก้ปัญหานะ แต่เขาไม่เคยบอกยอดหนี้ทั้งหมด ไปจี้มากๆก็เอาแต่ร้องไห้ ร้องแต่จะเอาเงินอย่างเดียว บอกไม่อยากสร้างปัญหาให้กูเครียด กูตัดปัญหาให้เดือนละ 5K จากเงินเดือนกู 20K ก่อนหน้านี้กูเคยขอจ่ายหนี้ให้นะ แต่อาจจะไม่ได้ให้รายเดือนให้เอาไปจ่ายหนี้ก่อน สรุปทำไม่ได้เพราะเงินที่กูให้เขาจ่ายหนี้ เขาเอาไปหมุนจ่ายที่อื่น วนลูปมาตลอด 2 ปีที่กูทำงาน อาจจะดูเห็นแก่ตัว แต่กูกลัวว่าถ้ายอมกู้เงินก้อนนี้ให้เขา อีก 4-5 ปี นี้กูคงหมดโอกาสที่จะสร้างตัวแล้ว เพราะแบกทั้งหนี้และเผลอๆก็ไม่รู้ว่าจะมีหนี้อื่นโผล่มาอีกไหม จะทำไงดีวะ น้องกูเพิ่งเริ่มทำงานและออกตัวปฎิเสธว่าไม่กู้ให้เด็ดขาด แม่ก็เอาแต่โทรมาร้องไห้ กูปวดหัวชิบหาย
กู154 ลืมบอกว่า 5K ไม่รวมของใช้ ของกินที่กูให้ตั้งหากนะอีก 2K เผลอๆถ้ามีเรื่องจำเป็นเช่น ค่าเทอมน้อง ค่าโทรศัพท์แม่ โผล่มาให้กูตกใจเล่นบางเดือน บางวันมีค่ากาแฟร้อยสองร้อย 555 เล่าแล้วตลกว่ะ กูทำงานเช่าหออยู่และมีหนี้กยศที่เริ่มส่ง แม่กูไม่เคยพูดเรื่องนี้เลยว่ะ
>>154 ไม่กู้ให้ ตรรกะแม่มึงนี่ตรรกะคนเป็นหนี้เลยแหละ ปนะเภทกู้มาโปะแบบนี้มีแต่ดิ่งลงเหว หนี้ไม่มีวันหมดแน่นอนเพราะมึงจะโดนดอกเบี้ยบานนนน อันนี้คือคนที่จัดสรรเงินไม่เป็นแน่ๆให้ ขนาดให้เงินไปจ่ายหนี้ยังเสือกเอาไปหมุนอีก มึงกู้มาให้ใหม่กูว่าหนี้เก่าก็ไม่หมดอยู่ดี แล้วมึงก็จะมีหนี้สองก้อน ยืนยันไปเลยว่าไม่กู้ จะบ้าหรอ แล้วมึงจะสร้างตัวยังไง
>>154 นอกจากเรื่องนิสัยสร้างหนี้แล้วอีกอย่างที่ทำให้ยากคือทิฐิของคนเป็นแม่ คือเค้ารู้สึกว่าถ้าเปิดเผยด้านที่ล้มเหลวให้มึงฟังจะรู้สึกแพ้น่ะ เค้ายังอยากให้ตัวเองอยู่ในสถานะที่เหนือกว่ามึงอยู่ ไอ้ที่ว่าไม่อยากให้เครียดครึ่งนึงก็เป็นเพราะเหตุผลนี้
มึงต้องใจแข็งไปเลย บังคับให้เค้าบอกให้หมดให้ได้ แล้วก็จ่ายตรงไปยังหนี้แต่ละเจ้าไปเลย ไม่ใช่ให้แม่แล้วให้ไปหมุนเอง แล้วมึงก็ต้องบอกแม่ด้วยว่าตัวเองให้ได้เท่าไร ลิมิตเท่าไร
อันนี้ไม่ฟันธง แต่ถ้าเค้ามีนิสัยใช้เงินเกินตัวล่ะก็ ก้อนเก่าหมดก็จะแอบไปกู้คนอื่นวนไปเรื่อยๆอยู่ดี ที่สุดแล้วมันจะสุดที่มึงให้เงินฟิกรายเดือน แล้วห้ามขอเพิ่มห้ามอะไรทั้งนั้น ใช้ชีวิตของใครของมัน เป็นความสัมพันธ์พังๆ
>>158 ความเห็นมึงนี่น่าสนับสนุนจริง แต่ถ้าเกิดกับกูที่มีแม่คิดเองไม่ได้นี่กูก็หนีเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามสกุลละหายไปเลยปล่อยให้แม่งไม่รู็ชะตากรรมก็ดีนะ
>>154 กู้หนี้ใหม่โปะยอดหนี้เก่าแบบไม่รู้ยอดหนี้รวมคือแม่งฆ่าตัวตายมาก บ้าคลั่งสัสๆ กู้อ่ะกู้ได้แต่ต้องให้เงินจากหนี้ใหม่กลบหนี้เก่าจนเกลี้ยงเลย แล้วดอกเบี้ยต้องต่ำกว่ายอดหนี้ที่ผ่านๆมา ทำไม่ได้ห้ามกู้ใหม่ ของเก่าต้องเคลียร์ได้ให้เคลียร์ ถ้าเค้นไม่ได้ บอกไม่ตรง โกหกต่างๆนานา หนีจากครอบครัวบ้านมึงเหอะ แต่เสียวชิบหายว่าคนแบบมึงจะกลายเป็นเครื่องทดแทนบุญคุณในสายตาแม่มึงไปซะแล้ว
แม่กูแม่งเป็นควยอะไรนักหนาวะ หมกมุ่นกับเรื่องหน้าอกกูอยู่ได้ นมใหญ่ก็เพราะมึงให้มานี่แหละ อีควาย
เสื้อในจะใส่แบบไหน กูขยับตัวเดินไปเดินมา เดี๋ยวมันก็ต้องมีเนินล้นๆบ้าง แล้วกูอยู่บ้าน ไม่มีใครเขามามองนอกจากมึง เป็นหีแตดอะไรนักหนา
เสื้อเข้ารูปหน่อยก็มส่ไม่ได้ จะให้ใส่แต่โคร่งๆ ตั้งแต่อย฿ากะแม่งมากูไม่เคยแต่งตัวสวยอีกเลย เพราะแม่งห่าอะไรก็ไม่ดีหมด
ควาย ทำอะไรก็ไม่ดี อยู่ไม่สุขซักอย่าง ไม่ต้องมาอ้างรักหวังดี ไปให้ไกลๆกูเลย สัส
เมื่อนานมาแล้วกูเคยอ่านบทความนึง (น่าจะกระทู้มิตรสหายในโม่งนี่แหละ) ที่เค้าทำวิจัยแบบตามดูชีวิตคนหลายๆคนเป็นเวลานาน
แล้วเค้าบอกว่าคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตมีทุกอย่างเหมือนๆกัน คือมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนใกล้ชิด ตอนอ่านกูก็แบบหรอวะ
มาตอนนี้กูว่ากูเข้าใจแล้วว่าทำไม การอยู่กับครอบครัวที่ประสาทแดกดราม่าได้ทุกเรื่องนี่มันดูดพลังชีวิตสัสๆเลย ทุกวันนี้รู้สึกหมดแรงมาก
>>161 กูเคยฟังคนนึงที่เป็นนักวิเคราะห์ศก เป็นที่ปรึกษาให้นายกคนดังเมื่อนานมาแล้ว เขาสอนว่าให้เราทำบุญเยอะๆแต่เป็นการทำบุญกับพระในบ้าน ซึ่งก็คือพ่อแม่(ทำบุญเขาไม่ได้หมายถึงการให้ของนะ หมายถึงให้ทำดี มีน้ำใจต่อกัน) ถัดมาก็คือพี่น้อง ไปจนถึง8ทิศ(บนล่างซ้ายขวาหน้าหลัง ตามหลังพุทธมั้ง คือผู้มีพระคุณ พ่อแม่ พี่น้อง ครูอาจารย์ เพื่อน เมีย คนรับใช้) ให้ทำความสัมพันธ์ให้ดีๆ ซึ่งกูว่าจริงมากอ่ะ พอความสัมพันธ์กับคนรอบตัวดีเมิงจะมีเพื่อนช่วยคิด มีคนให้คำปรึกษาเวลาเจอปัญหาชีวิตต่างๆ มีคนให้พึ่งพึงเวลาพลาด
พอมาย้อนคิดชีวิตกูเองแม่งจริงมาก กูกับที่บ้านไม่ค่อยดีกันเท่าไร เวลามีปัญหาต้องปรึกษาเพื่อน เพื่อนก็ไม่ค่อยอยากให้คำปรึกษาเพราะมันเองก็ไม่รู้ ก็จะได้คำปรึกษากลางๆมา สุดท้ายก็ตัดสินใจเอง ที่ตัดสินใจพลาดจนเสียใจถึงทุกวันนี้ก็มีเยอะ
ที่เมิงบอกว่าคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตคือมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนใกล้ชิด มันทำให้เขาได้รับผลพ่วงอีกอย่างคือทำให้เขามีคนข้างหลังที่ดีด้วยว่ะ มีการสนับสนุนจากครอบครัวคนใกล้ตัว ช่องทางชีวิตมันก็เยอะกว่า ง่ายๆคือมีต้นทุนทางจิตใจ(และอาจจะทางทรัพย์)ดีกว่านั่นแหละ
>>162 ไอสัส พูดเลย พระในบ้านทำตัวไม่เหมือนพระหว่ะ เลยรู้สึกไม่อยากทำบุญให้ด้วยเท่าไหร่ ยิ่งพี่น้องคือยิ่งน่ารังเกียจ ทำไมกูรู้สึกว่ายิ่งอยู่ไกลห่างจากพวกนี้ได้ มาเริ่มต้นให้ตัวเองอยู่คนเดียวได้ยิ่งรู้สึกว่าไปได้มากกว่ายังไงไม่รู้ โอเคอย่างนึงว่าประโยคหลังๆมึงว่ามาจริงแต่ประโยคหน้ากูไม่โอเค ถ้ามีพ่อแม่ที่แม่งทำให้เกิดมาแบบเลี้ยงดูทิ้งๆขว้างๆนี่มึงจะทำดีตอบกลับไปทำส้นตีนไรวะ ยิ่งพวกที่เลี้ยงเหี้ยๆเพื่อให้ตัวเองมีหลักฐานว่าเรียกร้องค่าเลี้ยงดูกับลูกได้ในตอนตัวเองแก่นี่คือเจอเยอะสัสๆ ระยำชิบหาย จะให้มองว่าเป็นผู้มีพระคุณต้องมองกลับกันว่าเจ้ากรรมนายเวรยังดีกว่าเยอะ
>>163 ก็เหลือ8ทิศไงเมิง หลักมันคือพอเราดีกับเขาเขารักเราดีกับเรา พอมีปัญหาก็เกื้อหนุนกัน มีคนให้คำปรึกษา ที่บอกว่าทำดีกับคนในบ้านก่อนคงเพราะเขาคิดว่าเมิงอยู่ครอบครัวเดียวกันมันควรจะไว้ใจกันได้มากกว่าพวกนอกบ้าน
กูเองก็อยากดีๆกับที่บ้านนะ แต่แม่กูดูหนังมากไปกลัวมีลูกปอกลอกก็ด่ากูว่าประจบหวังสมบัติทั้งๆที่ตอนนั้นกูป4(ย้อนคิดแล้วตลกสัสกูก็ประจบก็กอดนัวเนียตามประสาเด็กอ้อนแม่มั้ย) หลังจากนั้นเลยฝังใจไม่อ้อนแม่อีกต่างคนต่างอยู่ เงินในบ้านวางอยู่กูไม่แตะเลย กิจการที่บ้านกูแม่ก็เคยด่าไว้ว่าอย่าหวังนอนกินเงินกงสี ทุกวันนี้ก็ไม่มีใครแย่งจริงๆ ไม่มีใครทำต่อด้วยเป็นพนักงานเงินเดือนหมด
บ้านกูเรียนจบหางานทำเองทุกคน แต่กับญาติกูนี่แม่กูสร้างอาชีพให้มาเยอะละ เรียนจบก็มาขอเงินแม่3-4แสนเอาไปซื้อของมาขาย เป็นเจ้าของกิจการกันหมด
>>164 มีใครไม่อยากได้ครอบครัวดีๆบ้างเหรอวะ คือถ้าคนเป็นพ่อแม่แม่งไม่ได้เลี้ยงมาดีๆแต่แรกอ่ะ คนเป็นลูกที่ไหนอยากจะทำตัวเป็นทองเนื้อเก้าให้วะ ที่กูเคยเจอมานะ เลี้ยงก็เลี้ยงกูแบบทุกอย่างราคาถูกสุดๆ เข้าเรียนก็ก่ะจะส่งกูเข้า รร.วัดหรือหา รร.เอกชนที่มีเรื่องฉาวๆมาก่อนจนคนไม่เรียนให้กูเรียนแล้ว รร. เสนอค่าเทอมถูกสัสๆมาให้ , หาพี่เลี้ยงสมัยกูเด็กๆ3-4ก็คือพวกพี่เลี้ยงที่กูมารู้อีกทีไปจ้างคนไหนไม่รู้ทีหลังว่าแบบเพิ่งออกจากคุกมาเลี้ยงกูจนเข้า รพ. มีแผลเป็นเต็มตัว กว่ากูจะรู้ก็ปาเข้าไปวัยรุ่น เจอล้อเจอด่าจากเพื่อนร่วมห้องสารพัด , ตอนกูติวเข้า ม.1 รร.ดีๆสักที่ จ้างใครก็ไม่รู้มาติว สอนห่าไรไม่ตรงกับที่กูจะไปสอบ สุดท้ายเชิดเงินหนีไป สรุปคือกูโดนฟาดเพราะหาว่ากูไม่ตั้งใจเรียน ช่วงนั้นคือเจออะไรผิดปกติในบ้านมาโทษกูสารพัดทั้งๆที่กูไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำ หรือขนาดรักษากูใน รพ. อีเหี้ยทั้งๆที่มีของที่ดีกว่าตัวเองมีเงินจ่ายได้ วันนึงกูติดเชื้อลงลำไส้เสือกให้ได้แค่พากูไปรักษาที่ร้านขายยา บอกว่า รพ. รัฐสมัยนี้แม่งไม่ใส่ใจคนไข้ได้จริงหรอก จ่ายกับร้านขายยานี่แหละถูกกว่า รักษาได้พอๆกัน ควยเหอะอีห่า ต้องให้เภสัชบอกเองว่าให้แอดมินเข้า รพ. สุดท้ายด่ากูข้างเตียงจนกูเพลียไปเองอ่ะ แล้วเวลาเอาไปพูดกับชาวบ้านก็อวดว่าลูกตัวเองก็ถูกเลี้ยงดูมาเหมือนๆกับที่คนทั่วๆไปเลี้ยงดู นี่ผ่านมาสิบปีแค่ส่วนนึงนะ เป็นมึงมึงคิดดูเอาว่าพ่อแม่แบบนี้มึงอยากจะตอบแทนด้วยอะไร ชีวิตกูที่ผ่านมาตั้งแต่เล็กจนโต สถานที่ที่อึดอัดที่สุดคือบ้าน กูไปเรียน รด.(ค่าใช้จ่าย รด. ทุกอย่างกูออกเงินเองหมด) หรือไปหางานพิเศษ(จริงๆกูแอบทำด้วยซ้ำเพราะที่บ้านไม่โอเค กลัวกูปลีกกล้าขาแข็งใจแตกอะไรไม่รู้ไร้สาระ) ทำว่าเหนื่อยว่าลำบาก กูยังอยากอยู่ต่อมากกว่าบ้านที่ควรเป็นที่น่าอยู่ที่สุดอ่ะคิดเอา ส่วนญาติๆเข้าข้างพ่อแม่กูเพราะเชื่อว่ากูถูกเลี้ยงมาเหมือนคนอื่นแต่กูไม่รักดีเอง พอถึงช่วงเวลาลำบากคือมาขออาศัย มาเอาคนนอกที่บอกรู้จักกันมาอยู่ด้วย วันดีคืนดีเกือบโดนยกเค้าก็มี ห้องนอนส่วนตัวกูเละเทะมากช่วงนั้น เจอรื้อค้นจนกูต้องเอาเงินทุกแดงเข้าบัญชีธนาคารให้หมดเลยพอรู้ว่าเงินเริ่มหายๆ พ่อแม่แบบนี้กูไม่อยากให้เป็นพระในบ้านจริงๆ เจ้ากรรมนายเวรดูจะเหมาะกว่าเยอะ พอย้ายหนีออกมาได้ แบบหาจังหวะขนเสื้อผ้า ขนของที่ตัวเองต้องใช้ละหนีออกมาหางานทำในเมืองคือกูไม่เคยถามหรือติดต่ออะไรไปอีกเลยนะว่าเป็นอะไรยังไงบ้าง ชีวิตกูตอนนี้ดีขึ้นมาก ล้มลุกคลุกคลานช่วงแรกแต่ทุกวันนี้มีงานทำมีเงินเก็บ ไม่เห็นต้องมาเชื่อกับการทำบุญพระในบ้านอะไรนี่เลย บุพการีแม่งก็ไม่ได้เหมือนๆกันหมดแบบที่พระศาสนาหรือหลักธรรมอะไรสอนหรอก บางคนรู้ว่ามีลูกเมียยังบกพร่องในการสร้างสถาบันครอบครัวที่ดีให้กับลูกเลยคิดดูเอาเองนะมีตามข่าวเยอะแยะไป อย่ามองด้านเดียวดิว่าตัวเองชีวิตแบบนี้แบบนั้นเพราะคนใกล้ชิดแค่ในบ้าน มีอะไรเป็นหลักประกันวะว่าความสัมพันธ์ในเครือญาติไว้ใจกันได้แค่เพราะสายเลือดเดียวกัน? ถ้าเริ่มต้นกับคนนอกบ้านแล้วดีกว่า ทำคุณคนขึ้นมากกว่าญาติสายเลือดเดียวกันมันจะเป็นไปไม่ได้เหรอ
>>165 โทษทีเมิงกูจำผิดมันหลัก6ทิศ บนล่างซ้ายขวาหน้าหลัง 8ทิศมันฮวงจุ้ย
ใจเย็นเมิง ถ้าพ่อแม่ไม่ได้ก็มีอีกเยอะแยะ หลักมันแค่ให้คนทำดีต่อคนรอบตัวพึ่งพากัน อย่างพ่อแม่เมิงถ้าเขาถูกสอนให้ยึดหลัก6ทิศเขาก็จะทำดีกับคนรอบตัวรวมถึงลูกด้วย แต่เขาไม่ยึด ทำดีไปก็เหมือนเอาดินไปถมแม่น้ำ ก็เปลี่ยนคนไปหาคนที่เขารู้ค่าความดีที่เมิงทำ
ข้อเสียพวกหลักธรรมสมัยก่อนคือแม่งสเตอริโอไทป์เกินไป คิดว่าคนนั้นคนนี้ต้องเป็นแบบคำสอน พ่อแม่ต้องเลี้ยงลูก ลูกโตมาต้องทดแทนคุณ พอสังคมเปลี่ยนมีคนแหวกคอกมา พวกคำสอนพวกนี้แม่งเลยไปต่อไม่ถูกเลย
>>166 พ่อแม่ห่วยๆก็ชอบเอาคำสอนพวกนี้มาอ้างแหละ แต่เมืองไทยแม่งบ้าความกตัญญูไม่ลืมหูลืมตาไง ไม่เคยสนใจว่าแม่ทำเหี้ยอะไรกะลูกบ้าง
นี่คือกูไม่ได้โดนอะไรเหี้ยๆแบบ >>165 นะ ชีวิตกูดีๆ สบายๆ แต่โดนบั่นทอนกำลังใจไปเยอะ แค่นี้กูก็ยังไม่อยากจะมาสำนึกบุญคุณอะไรเลย ต่อให้บางอย่างที่เขาพูดมันจริงแล้วมีประโยชน์กูก็ไม่เอา
แม่บอกโตแล้ว ต้องคุยกันได้ พูดกันได้ มีอะไรก็พูด
ก็แม่แม่งเคยฟังป่ะล่ะ มาถึงก็ด่าก็เทศน์เหมือนกูโง่มาก เล่าอะไรให้ฟังก็กูผิดก็ไม่ดี เรื่องตลกก็กลายเป็นกูไม่ดี กูทำไม่ดีไม่รู้เรื่อง ทำอะไรให้ก็ไม่เคยดี ใครจะอยากพูดด้วย มโนอย่างเดียว แล้ววันๆไม่ทำอะไร แต่พูดจาเหมือนกูกากแถมเป็นนีททั้งที่กูทำงานมีเงินเดือน (ไม่ได้ทำจากบ้านด้วย ฟาย)
กูเหนื่อยอ่ะ พอกูเหนื่อยกูก็ไม่อยากทำอะไรแล้ว
หลายปีก่อนเคยทะเลาะรอบใหญ่กับที่บ้าน จากนั้นกูเลยไม่สนิทกับที่บ้าน วันนี้ทะเลาะกับแม่ แม่ถามประมาณไม่อยากกลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อนเหรอ คิดไรอยู่ก็พูดออกมา กูอยากบอกว่ายังไงกูก็กลับไปเชื่อใจคนในบ้านไม่ลงจริงๆ กับหลายๆสิ่งที่เขาทำกับกูเอาไว้อะ แม่คงจำไม่ได้ว่าเคยพูดว่ากูไม่น่าเกิดมาเลย น่าเอาขี้เถ้ายัดปากให้ตาย แม่จำไม่ได้แต่กูจำได้ ทุกวันนี้กูเกลียดตัวเองด้วยซ้ำ ถ้ากูไม่เกิดมาทุกคนในบ้านจะมีความสุขกว่านี้รึเปล่า บางเรื่องอะอย่าฝืนเลย ครส.ดีๆมันพังไปนานแล้ว มันแก้ไม่ได้แล้ว
กูเหนื่อย พ่อด่ากูให้แม่ฟัง แม่มาด่าให้กูฟังต่อ ชอบบอกรอดูกูพัฒนาตัวเอง กูพยายามเปลี่ยนด้านแย่ๆตัวเองไปเยอะมากจนเพื่อนกูยังทัก สุดท้ายที่บ้านกูไม่เห็นความพยายามของกูจ้า555555 ปกติคะแนนกลางภาคกูคาบเส้นตลอด เทอมล่าสุดคะแนน80%+ทุกวิชา กูภูมิใจมาก พอเอาให้ดูก็ไม่พูดไร แถมยังบ่นว่าทำไมกูไม่ไปอ่านหนังสือเข้ามหาลัย คือกูขอคำชมสักนิดไม่ได้จริงๆเหรอวะ
พ่อแม่กูไม่ได้เหี้ยขนาดเลี้ยงลูกทิ้งๆขว้างๆ หรือบังคับลูกมากจนลูกทนไม่ได้ฆ่าพ่อแม่ตายแบบในข่าว
แต่กูก็รู้สึกไม่โอเคกับอะไรหลายๆอย่าง ทั้งความขี้ดราม่า คิดว่าตัวเองรู้ไปหมดทุกอย่าง ไม่ supportive (โทษทีนึกคำไทยไม่ออก) ฯลฯ
เลยรู้สึกว่ามันครึ่งๆกลางๆ มันไม่ได้แย่ขนาดที่จะทนไม่ได้ต้องตัดขาดจากกันไปเลย แต่ทนอยู่ต่อไปกูเองก็รู้สึกเหนื่อย
หลังๆกูคิดมาตลอดเลยนะว่ากูน่าจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้ได้ถ้าเค้าไม่ทำตัวแบบนี้ ชีวิตทุกวันนี้รู้สึกต้องใช้พลังงานเยอะมากในการพยายามเลี่ยงเค้า
อย่างน้อยไม่ได้ถึงขั้นประสบความสำเร็จในชีวิตมากขึ้น แต่กูก็คงไม่รู้สึกทุกข์มากเท่านี้
>>167 >>169 เซมว่ะ ของกูนี่กูรู้นะว่าพ่อแม่รักและเป็นห่วง แต่พ่อแม่กูใจแคบ เอาความคิดของตัวเองเป็นใหญ่ มองว่ากูคือลูก คือคนไม่เอาไหน เดี๋ยวโดนหลอก เด๋วคิดไม่ได้เป็นประจำ ไม่เคยให้เกียรติมองกูในฐานะมนุษย์ที่เป็นผู้ใหญ่แล้วเหมือนๆกัน อีโก้สูง เอาไม้บรรทัดตัวเองตัดสินทุกอย่างแบบมองโลกแค่ขาวดำ อะไรที่ตัวเองไม่เห็นด้วยคือผิด อะไรที่เห็นด้วยคือถูก ทั้งๆที่ถ้าจะให้อธิบายออกมาเป็นเหตุเป็นผลก็ยังทำไม่ได้ แต่มั่นใจมากว่าตัวเองถูก
กูไม่เคยดิสคัสห่าไรได้เลย เพราะพอกูอ้าปากจะพูด เค้าก็จะบอกว่ากูไม่รู้อะไร ผู้ใหญ่พูดถูกเสมอ ขนาดพากูไปหาตาแล้วบอกให้กูเชื่อฟังตาทุกอย่างเพราะคนโบราณไม่เคยผิดถ้าเชื่อจะได้ดีทุกคน ทั้งๆที่หลายอย่างกูฟังแล้วรู้สึกว่าแบบฟัคโลจิค โลกแคบและช่างตามโลกไม่ทันมากๆ แต่สำหรับพ่อแม่กูคือ เกิดก่อนถูกทุกอย่าง คือไม่เมกเซ้นมากๆ
แล้วกูไม่ใช่ว่าอายุน้อยเป็นเด็กใสๆไม่เคยผ่านโลก กูจะ 30 แล้วนะ แต่พ่อแม่ชอบมองกูว่าโง่มากกูต้องโดนคนนู้นนี้หลอกแน่ๆทั้งๆที่กูไม่เคยมีประวัติโดนใครหลอกด้วยซ้ำ แต่เค้าก็ไม่เคยให้ค่าความเห็นกูเท่าไหร่ พยายามจะคอนโทรลชีวิตทุกอย่าง ทั้งการงานอาชีพ เส้นทางในอนาคต ความเชื่อ ความนับถือ ถ้ากูมองไม่เหมือนเค้ากูจะผิดทันที ครั้งนึงกูบอกว่ากูไม่ได้นับถือศาสนาก็ทำเหมือนกูนี่แม่งโดนผีเข้า โดนคนปั่น กลายเป็นคนบาปจะเอากูเข้าวัด คือเหี้ยมะ ไม่เคยจะฟังด้วยซ้ำว่าทำไมกูถึงไม่เชื่อในศาสนา
หลายเรื่องมากๆที่กูต้องยืนหยัดในแนวคิดตัวเองจนเค้ายอม แต่ก็จะมีคำพูดที่ทำให้รู้สึกว่ากูเลือกผิดมาตลอด ซึ่งแม่งเหี้ย แม่งทำให้กูรู้สึกว่าชีวิตกูไม่เคยดี เฮงซวยและผิดพลาด คือทำไมเราต้องรู้สึกแบบนี้กับตัวเองเพราะคนอื่นวะ กูเหมือนเกิดมาเป็นตุ๊กตาหุ่นเชิดอะไอ้เหี้ย
>>170 กู >>169 นะ กูก็จะ 30 แล้วเหมือนกัน ไม่นับถือศาสนาเหมือนกัน แต่ยังดีที่เรื่องนี้ตอนนี้ไม่ค่อยเป็นประเด็นมาก
จริงๆคือพ่อแม่กูก็หัวสมัยใหม่ประมาณนึง เรียกว่าเป็นคนหัวสมัยใหม่ตอนเค้ายังหนุ่มสาวละกัน
ตอนนี้ก็ 60 กว่ากันแล้ว แต่ก็ยังไม่รับรู้ความเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆอย่าง
แต่ด้วยความที่เค้าเคยเป็นคนหัวสมัยใหม่นี่แหละ เลยเกิดปัญหาอีกแบบคือเค้ามองไม่ออกว่าตอนนี้ตัวเองไม่ใช่คนหัวสมัยใหม่อีกแล้ว
ยังยึดติดอยู่กับอะไรที่มันเคยใหม่เมื่อ 30-40 ปีที่แล้ว ซึ่งทุกวันนี้มันล้าสมัยไปแล้ว
เรื่องศาสนานี่ตอนกูเด็กๆนี่พ่อกูอาการหนักสัสๆ ตอนกู search หาเพลงคริสมาสต์ไปทำงานกลุ่มภาษาอังกฤษ
เค้าเห็นยังด่ากูเลยว่าฟังเพลงพวกนี้ทำไม คือถ้าแบบคนทั่วไปที่ไม่ได้เรียนหนังสือสูงๆแล้วถูกปลูกฝังให้เกลียดตะวันตกไม่ลืมหูลืมตาก็ว่าไปอย่างนะ
แต่นี่คือคนเรียนจบเมืองนอกจากมหาลัยดังของอเมริกา แถมมีเพื่อนฝรั่งเยอะแยะด้วย
กูล่ะสงสัยว่าจริงๆว่าด้วยทัศนคติแบบนี้ เค้าสามารถใช้ชีวิตในประเทศคริสต์มาได้หลายปีได้ยังไงโดยไม่อกแตกตาย
ตอนเด็กๆก็ไม่คิดอะไรนะ พอโตขึ้นมองย้อนกลับไปนี่ก็แอบรู้สึกว่านี่แม่งความคิดไม่ปกติชัดๆ
อีกอย่างคือตอนกูเด็กๆกูก็ไม่ชอบเข้าวัด คือไปถึงก็ไม่มีอะไรทำต้องไปตากแดดร้อนๆ และกูเจอควันธูปแล้วจะเวียนหัว ซึ่งเค้าก็ขยันไปวัดเหลือเกิน
พอวันนึงกูก็ทนไม่ไหวก็บอกเค้าว่ากูไม่ชอบไป ไม่ไปได้มั้ย เค้าก็รุมด่ากูใหญ่ว่าทำไมเป็นคนแบบนี้ อยากจะเป็นพวกนับถือผีหรอ
ก็ไม่รู้ว่ากูควรขอบคุณเค้ารึเปล่านะ บางทีถ้าไม่มีพ่อแม่ทำตัวแบบนี้กูอาจจะไม่ได้ตาสว่างเรื่องศาสนาก็ได้
>>168 กอดมึงนะ นึกว่ากุละเมอมาพิมพ์เอง แม่กุก็เคยบอกว่าไม่น่าให้กุเกิดมา คือเขาคงจำไม่ได้แต่กุจำได้เป็นปมที่ปลดล็อคไม่ได้ซักที พอกุพูดตรงๆกับเขากลายเป็นเขาจำไม่ได้ หาว่ากุคิดมากอีก กุคิดว่าเขาคงไม่ได้ตั้งใจให้กุตายไปพ้นๆหรอกแต่การที่เขาบ่ายเบี่ยงประเด็นนี้ ไม่ยอมรับว่าเคยพูด มองว่ามันเป็นเรื่องเล็กทำให้ปมนี้คงไม่คลายไปตลอดชีวิตกุแล้ว พอกุดาวน์ๆคำพูดนี้มันจะวนกลับมาให้กุอยากตายไปให้พ้นๆตลอดเลย กุพยายามแค่ไหนเขาก็ไม่เคยเห็นค่า ไม่ชม เจอหน้าทีก็หาเรื่องติตลอด ซึ่งกุพยายามทำความเข้าใจว่ามันเป็นมายด์เซ็ตคนสมัยก่อนที่ไม่ชม กลัวเหลิงอะนะ แต่มันไม่ได้ทำให้กุรู้สึกดีขึ้นเลย ทำได้แค่ประคองจิตใจตัวเองไปวันๆว่ะ ตอนนี้ทำงานแล้วก็ออกมาอยู่ห่างๆ กอดมึงนะ ถ้าเข้าม.แล้วได้ออกมาอยู่หอหวังว่าจะทำให้มึงรู้สึกดีขึ้น
เรื่องคำชมหรือให้กำลังใจนี่กูไม่ค่อยอะไรนะ ไม่ได้ต้องการอะไรพวกนี้ แค่อย่าทำให้กูต้องเหนื่อยมากขึ้นก็พอ
ทุกวันนี้ต้องมาระแวงว่าวันดีคืนดีเค้าจะหาเรื่องอะไรมาดราม่าใส่กูอีกนี่ก็เหนื่อยมากแล้ว
เวลากูมีความสุขกับอะไรซักอย่างเค้าก็จะต้องมาเรื่องมาพูดให้กูรู้สึกแย่จนได้ เวลาทุกข์นี่ไม่ต้องพูดถึง รอซ้ำเติมอย่างเดียว
ทุกวันนี้มีปัญหาอะไรต้องพยายามปิดให้มิด ไม่งั้นเดี๋ยวเค้ารู้แล้วจากเรื่องที่อาจจะไม่ได้ใหญ่โตก็ยิ่งหนัก
รู้สึกโคตรเครียดกับการที่แม่กูโวยวายเวลากูต้องออกจากบ้านไปทำงาน ทั้งที่กูออกไปแค่อาทิตย์ละ 1-2 วัน
คือต้องเข้าออฟฟิซแค่นี้กูว่าก็บุญโขแล้ว ที่อื่นนี่เค้าต้องเข้าเต็มเวลาหรืออาทิตย์เว้นอาทิตย์กันเกือบหมดแล้ว
ไม่รู้ทำไมเค้าจะต้องเรียกร้องอะไรเยอะแยะไม่สิ้นสุดโดยไม่ดูความเป็นจริงแบบนี้ด้วย
โม่ง มีเรื่องมาปรึกษา ไม่รู้เข้าถูกมู้มั้ยนะ แต่เข้าเรื่องเลยแล้วกัน กูเป็นนักศึกษา มีลุงที่รู้จักคนนึงมาขอให้ช่วยสอนภาษาอังกฤษเด็กพิเศษให้หน่อย เป็นไฮเปอร์ สมาธิสั้น อายุ 16 แต่ระดับชั้นที่เรียนเท่ากับเด็ก 12 ได้เรียนซ้ำชั้นหลายปีเพราะตอนแรกเรียนโรงเรียนรัฐ โดนบูลลี่เรื้อรังมานาน จนได้ย้ายไปเรียนใหม่ที่โรงเรียนเด็กพิเศษ
ตัดมาที่กู กูเคยอยากสอนพิเศษหารายได้เสริม แต่กูไม่เคยสอนมาก่อน เคยแค่ติวให้เพื่อนตอนมัธยมแต่มันเทียบไม่ได้เลยว่ะ ลุงเขาอยากให้กูลองดู แต่กูไม่อยากเสี่ยง กูเห็นใจเด็กคนนั้น อยากเป็นเพื่อนด้วย แต่การที่ต้องสอนพิเศษออนไลน์ สอนระยะไกล มันไม่ถึงตัว มันเข้าถึงยาก แถมยังเป็นเด็กพิเศษที่มี trauma ทางใจ กูไม่รู้จะประคองน้องยังไงว่ะ พอได้รับรู้แล้วกูเห็นใจ ไม่อยากปล่อยผ่าน แต่ก็ไม่มั่นใจว่าตัวเองจะทำได้ดี กูไม่ได้เก่งขนาดนั้น แถมยังความมั่นใจในตัวเองต่ำด้วย เป็นพวกมึงจะทำยังไงวะ
กูถามหน่อยดิ พวกป่วยเป็นซึมเศร้าไปหาหมอมาแล้วได้ยาแล้วไม่ยอมแดกยานี่เป็นควยไรมากป่าวอ่ะ เป็นเหี้ยไรทำไมไม่แดก มึงอยากหายจริงไหมอ่ะ ถ้ามึงไม่อยากหายมึงไม่ต้องให้กูพาไปหาก็ได้นะหมออ่ะ เปลืองตังเปลืองยา พอเตือนให้แดกก็บอกว่าอย่ายุ่งกับชีวิตกู คือเหี้ยไรอ่ะ คราวหลังมึงไม่ต้องขังตัวเองแล้วนะ กูจะขังมึงไว้ให้เน่าอยู่ในนั้นแหละไอควาย ทำตัวเป็นภาระแถมยังไม่คิดอยากออกจากจุดที่เป็นอยู่ด้วย กูควรทำไงดีวะ แม่งเอ้ย
ญาติกูมาขออยู่บ้านกูซักระยะเพราะทะเลาะกับผัว กูก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ นิสัยมันก็โอเคในระดับหนึ่งคือไม่ค่อยมาวอแววุ่นวายหรือสร้างความเดือดร้อนให้เท่าไหร่ ช่วยทำงานบ้านด้วย แต่มีเรื่องนึงที่กูไม่ชอบเลยคือแม่งชอบเตะแมวกูนี่ล่ะ แมวกูมันขี้อ้อนไงแล้วชอบเอาตัวไปถูไถคน แต่ญาติกูเกลียดแมว พอแมวกูไปถูไถขามันแม่งเตะกระเด็นเลย ไม่ได้เตะแบบเบาๆนะ เตะลอยเลย พอกูด่าว่าไปเตะมันทำไมแม่งก็ด่ากูว่ากูไม่เก็บแมวไว้ให้ดีเอง ....นี่มันบ้านกูป่ะวะ แมวกูจะไปไหนมาไหนก็เรื่องของมันเด่ะ พอทะเลาะกันแม่งโทรไปฟ้องแม่กูให้มาด่ากู เห็นแมวดีกว่าน้อง กูก็บอกว่านี่บ้านกู กูคือกฎ ไม่พอใจก็ไปอยู่ที่อื่น โดนด่าอีกว่าไม่มีน้ำใจ ตอนนี้มันไม่มาเตะแมวกูให้เห็นต่อหน้าแต่กูว่าลับหลังแม่งก็เตะแมวกูอยู่ชัวร์ๆ ห่าเอ้ย จะไล่แม่งออกไปยังไงดีวะ
คนที่บ้านกูชอบ Body shaming มาก ทั้งคนในบ้านและคนนอก ตัวกูโดนด่าว่าดำ ขี้เหร่ เงาะป่ามาตั้งแต่เด็ก พอโตมา คนรอบตัวชอบบอกกูขาว ละกูเคยได้ยินเขาพูดกับญาติว่า เพราะมาเรียนกรุงเทพไงเลยขาวขึ้น กูงงเลย กรุงเทพเกี่ยวไร แล้วกูเคยใส่กระโปรงทรงเอไปม. เขามาเจอรูปที่กูถ่ายกับเพื่อน ก็บอกว่าตันขนาดนี้แถมยังขาสั้น กล้าใส่ไปได้ไง หลังจากนั้นกูไม่กล้าใส่อีกเลย เขาค่อยมาบอกทีหลังว่าไม่อยากให้กูใส่เพราะมันดูโป๊ แต่กูหมดความมั่นใจไปแล้วอะ แบบใจเสียมากๆ ทุกวันนี้เขายังมีหน้ามาถามอีกว่าทำไมความมั่นใจในตัวเองต่ำขนาดนี้ แหม ไม่เคยหันไปมองสิ่งที่ตัวเองทำกับกูบ้างเลยนะ
มือบอนไปเปิดเมสเสนเจอร์ของแม่ เห็นแม่คุยกะพี่สาวเพราะนางลงสตอรี่มีมเด็กจมน้ำ เนื้อความประมาณว่าพ่อแม่อุ้มชูแต่ลูกคนเล็ก (aka กู) แล้วนางที่เป็นลูกคนโตปล่อยจมน้ำตายห่าเป็นโครงกระดูก
แม่ถามพี่กูว่าแซะแม่เหรอ พี่กูก็บ่นประมาณว่าทีกับกูพ่อแม่โคตรสปอยล์ ไม่ว่าอะไรกูเลย ทีนางปล่อยให้ไปไหนมาไหนเอง แม่กูตอบนางว่าไม่ใช่ว่าเค้าไม่เคี่ยวกู เค้าก็มีเตือน แล้วเค้าก็บอกพี่กูว่าไปไหนมาไหนเป็นจะได้ไม่ต้องห่วง ละพี่กูนางก็ตัดบทว่าขก.พูดเรื่องกูละ
ละช่วงนี้ประจวบเหมาะเรื่องกูเพิ่งจบใหม่ด้วย ที่บ้านเองก็แปะงานที่รับสมัครเข้าเฟซกูรัวๆ แต่กูไม่กล้าไปสมัครงานที่ไหนเลย กูยอมรับว่ากูไม่กล้าออกจากบ้านไปไหนมาไหน เพราะพี่กูนางเคยมีคดีเก่าเรื่องหนีออกจากบ้านไปเอาผัวหลายรอบได้ เลยทำให้พ่อเคี่ยวกูเรื่องออกจากบ้านจนกูไปไหนไม่เป็น กูรู้ว่าที่กูเป็นอยู่แม่งเหี้ยนะ แต่กูจะทำยังไงให้กูออกมาจากความรู้สึกนี้ได้อะ มีหลายงานที่กูอยากไปลองทำ แต่พอกูมองพ่อ กูก็ไม่อยากบอกอะไรเค้าเลย กูกลัวโดนด่า แต่กูก็ไม่อยากเป็นภาระโง่ๆ ที่บ้านแล้ว
20 ธันวาคมนี้ เลือกตั้ง อบจ.
https://ilaw.or.th/node/5787
เช็คสิทธิ์
https://stat.bora.dopa.go.th/Election/enqelectloc/
กูกลัวพี่กูฆ่าตัวตายมาก มันทำงานเป็นออดิท กูไม่ค่อยรู้เรื่องด้านนี้ บ่นว่าเหนื่อยทุกวัน เลิกงานดึกดื่น พอได้มีโอกาสกลับบ้านมา มันก็มาบ่นกับคนที่บ้านว่าอยากลาออก อยากไปทำงานตปท.ที่เป็นสายอื่นไม่เกี่ยวกับตัวเลข แต่พ่อแม่แทนที่จะปลอบ ดันไปบอกว่าคนอื่นยังทนได้แล้วทำไมตัวเองทนไม่ได้ สมัยพ่อแม่เหนื่อยกว่านี้อีก กูเพิ่งเคยเห็นมันร้องไห้ครั้งแรกในรอบหลายปีเลย มันบอกว่าอุตส่าห์คิดว่าพ่อแม่จะเข้าใจ ล่าสุดมันบอกว่าอยากฆ่าตัวตายตามเพื่อนแล้ว กูเครียดมาก จริงๆมันเป็นคนขยันแล้วก็ฉลาดทีเดียวนะ กูไม่อยากให้คนมีศักยภาพดีแบบนี้เสียไปเพราะแรงกดดันจากงาน&ครอบครัวเลยว่ะ กูภาวนาทุกวันว่าขอให้อนาคตพี่กูไปได้ไกลกว่านี้ ได้ไปอยู่ที่ๆคุณภาพชีวิตดี แต่แม่ก็ยัดเยียดให้อยู่ไทยต่อนั่นแหละ บอกว่าไทยก็ดีแล้ว ตปท.ไปเดี๋ยวก็โดนเหยียด ต้องเป็นเบ๊ให้คนขาว ฟังแล้วหงุดหงิดว่ะ
กูจะบ้าตาย ทำไมผูู้ใหญ่บางคนมันต้องพูดเสียงดังด้วยวะ กุรำคาญ คุยอะไรก็โวยวายๆเหมือนทะเลาะกัน ประสาทชิบหาย พอคนอื่นพูดเสียงดังละด่าด้วยนะ
กูเหนื่อย กูเหนื่อยๆๆ ไอ้ห่า คุยกะญาติผู้ใหญ่แก่ๆ เขาก็ไม่ค่อยได้ยินต้องพูดดังๆช้าๆ มันทำให้กูรู้สึกเหมือนตะโกน
แล้วแม่งเวลากูอยุ่บ้านก็ถามกันแต่เรื่องเงิน เรื่องงาน แต่ถามแค่ไอ้แบบความก้าวหน้านั่นนี่ ที่แบบ กูก็ไม่อยากไปนึกถึงมันไง กุเหนื่อย
รุ้สึกเหมือนอยู่บ้านแล้วมีแต่ต้องมารายงานชีวิตตัวเอง แล้วกูเครียดอ่ะ เหมือนกูมันกากมาก ไม่มีดี ไม่มีความก้าวหน้าห่าอะไรในชีวิต
เงินเดือนก็ถามหาอยู่นั่นแหละ กูเหนื่อย กุอยู่บ้านกูอยากพัก ทำไมมันมีแต่เรื่องให้กูเหนื่อยมากขึ้นทุกวันวะ
กูกำลังจะย้ายงาน เซ็นสัญญาที่ใหม่ แจ้งออกที่เก่าไปหมดแล้ว
แล้วแม่กูก็เอาแต่พูดว่าเดี๋ยวที่ใหม่จะใช้งานหนักแน่เลย รู้มั้ยว่าคนรู้จักที่ทำงานอยู่ที่นั่นบ่นว่าไม่ดีหรอก รู้มั้ยว่าต้องไปเริ่มทุกอย่างใหม่ นู่นนี่
คือไม่เข้าใจว่าจะพูดแบบนี้ไปเพื่ออะไรวะ ไม่ต้องพูดกูก็เครียดจะตายห่าอยู่แล้ว กูก็พยายามเก็บอารมณ์ไม่ตอบโต้อะไร
แต่ก็ยังทำตัวแบบเดิมไม่เลิกอยู่นั่น จนกูหงุดหงิดก็มีการมาพูดอีกว่าทำไมต้องหงุดหงิด ควยเหอะ
เบื่อญาติกูเว้ย ตอนกูไปญี่ปุ่นเมื่อต้นปีก่อน กูยังกักตัวเองไว้ที่บ้สน ใส่แมสหมั่นล้างมือตลอดเวลา อิเหี้ยนี่ไปเที่ยวห้างที่ผู้ติดเชื้อไปมา วันเดียวกันด้วย เสือกไม่ทำห่าไรเลย ไม่ใส่แมส แล้วมานั่งไอค่อกแค่ก รดหัวคนอื่น ปีใหม่นี้นางไม่กัดตัวนาจา ไปเที่ยวเตร็ดเตร่ ดีออก
พ่อเอาแต่เรียกกูว่าไอ้อ้วน/หมู กูนั่งเรียนก็บอกพุงย้อยเชียว กูปั่นจักรยานก็มาล้อไขมันสั่นใหญ่เลย แต่กูไม่ได้อ้วนขนาดนั้นอะ คือกูมีพุงนิดเดียว ขากูยอมรับว่าใหญ่แต่ไม่ได้ใหญ่เหี้ยๆงี้ คือโดยรวมก็ถือว่าผอมมีเสือกพุงยื่นงี้อะ กูไม่โอเค เมื่อก่อนแม่กูไม่ให้พ่อเรียกแบบนั้นแต่พ่อไม่ยอมเลิก ตอนนี้แม่ติดเรียกตามแล้ว เวลาเดินไปข้างนอกเจอคนตัวใหญ่ก็ชอบเรียกกูดูละบอกคนนั้นอ้วนเนอะละก็ล้อโน่นนี้ เป็นเหี้ยไรกับหุ่นคนอื่นวะ กูเสียความมั่นใจในการแต่งตัวโคตรๆ ที่กูอยากระบายคือตรงนี้ ด้วยความพ่อล้อกูทุกครั้งที่มีโอกาส ตอนนี้กูติดนิสัยชักสีหน้าใส่พ่อทุกครั้งที่พ่อเริ่มคุยอะไรสักอย่างกับกู เวลาพ่อพูดกูจะอคติไว้ก่อนตลอด คือกูรู้สึกผิดอะ นอกจากเรื่องนี้แล้วที่เหลือพ่อดีกับกูมากๆ รักกูมาก กูพยายามทนเวลาพ่อล้อกูแต่กูไม่โอเคจริงๆกูบอกแล้วว่าอย่าล้อก็ไม่ฟัง กูอยากเป็นลูกที่ดีแต่กะอีแค่ไม่ชักสีหน้าตอนนี้กูยังทำไม่ได้เลย...
>>201 ถ้าอธิบายสาเหตุไปเต็มที่แล้วว่าไม่ชอบให้เรียกแบบนั้นเพราะอะไร แต่พ่อยังล้ออยู่ ถ้าเป็นกูกูจะล้อกลับด้วยปมด้อยของเขาทุกครั้งที่เขาล้อมา อาจดูโหดร้ายอกตัญญูสำหรับบางคนแหละแต่กูมองว่าทำงี้เพื่อให้เขาฉุกคิดในตอนนั้นบ้างว่าอย่าพูดล้อคนอื่นในเรื่องที่จะทำให้เสียความมั่นใจ ผู้ใหญ่หลายคนถ้าเจอตอกกลับแบบนี้ ถ้าในใจมันคิดได้แล้วรู้สึกได้แล้วก็จะเลิกล้อเอง แต่มึงอย่าคาดหวังคำขอโทษนะ ผู้ใหญ่ส่วนใหญ่ ยิ่งคนเป็นพ่อแม่ ไม่เคยขอโทษลูกหรอกถึงแม้ในใจจะรู้สึกผิดมากก็ตาม อีโก้แหละ เป็นที่ตัวเขา มึงเองถ้าเขาเลิกล้อก็อย่าไปถามหาคำขอโทษมากนะ ถ้าเขาเปลี่ยนพฤติกรรมให้ก็คือเขาขอโทษในแบบของเขาแล้ว
พวกโม่ง กูเครียดเรื่องค่าเทอมมหาลัยว่ะ พ่อแม่กูบอกว่าให้ค่าเทอมไม่เกิน2หมื่น พ่อง คณะที่กูอยากเข้าทุกที่แม่งราคาเกินนั้นอยู่แล้ว เหี้ยว่ะ ไม่น่าเกิดมาจน ถ้ากูไปขอทุน ไม่ผ่านแน่ๆ พ่อแม่กูเงินเดือนเกินกว่าที่เขากำหนด กูน้อยใจว่ะ ทีเรื่องอื่นจ่ายได้ แต่เรื่องการศึกษาของกูจ่ายไม่ได้ รึ กูจะไปหางานทำตอนมหาลัยดี แล้วคณะที่กูอยากเข้าดันหน่วยกิตเยอะ แม่ง
ชอบญาติตัวเองทำไงดีครับ ชี้แจงก่อนนะครับว่าผมกับเขาเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน เรามีทวดชายคนเดียวกันแต่ทวดหญิงคนละคนเนื่องจากว่าคุณทวดของพวกเรามีภรรยา2คนครับ ผมกับเธอเรียกได้ว่าแทบจะโตมาด้วยกันเลยซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาผมไม่เคยคิดอะไรกับเธอเกินกว่าพี่น้องจนเข้ามหาวิทยาลัยนี่แหละครับ… ผมกับเธอติดมหาวิทยาลัยเดียวกัน เธอจึงย้ายมาอยู่บ้านใหญ่(เป็นบ้านของคุณทวดครับ จริงๆคนในครอบครัวจะอยู่กันที่บ้านนี้แล้วพอใครมีครอบครัวก็ค่อยย้ายออก ซึ่งแม่ของเธอซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าของผมก็ได้ย้ายออกไปตอนแต่งงาน)พวกเราเลยได้เจอกันทุกวัน แถมผมยังพ่วงหน้าที่เป็นคนคอยดูแลเธอด้วยเนื่องจากแม่ของเธอฝากฝังเอาไว้
ในวันที่มีเรียน พวกเราก็จะไปกลับพร้อมกัน ยกเว้นวันที่ผมหรือเธอคนใดคนนึงเลิกเรียนก่อน หรือมีนัดหลังเลิกเรียน พวกเราก็จะแยกกันกลับครับ แต่ส่วนมากถ้าเธอเป็นฝ่ายที่ต้องกลับทีหลังผมจะเป็นคนรอหรือไปรับเอง หรืออย่างวันที่เธอมีไปเที่ยวกลางคืนจนกลับเองไม่ไหวผมก็จะเป็นคนไปรับ ในตอนแรกก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นครับแต่ด้วยความใกล้ชิดหรืออะไรไม่รู้มันกลับทำให้ผมหวั่นไหวกับญาติคนนี้ไปเสียแล้ว…
ผมรู้ตัวว่ามันเป็นความรู้สึกที่ผิด แต่ผมเองก็ไม่สามารถตัดใจได้สักที ยิ่งเวลาผ่านไปก็ยิ่งรู้สึกมากขึ้น การที่เจอกันทุกวัน มีหน้าที่คอยดูแลตลอด มันทำให้ผมต้องข้องแวะกับเธอเสมอจนไม่มีเวลาเลี่ยงไปตัดใจเลย ผมควรทำอย่างไรดีครับ
มีใครบล็อคไอจีพ่อแม่บ้างไหม?
วันนี้แม่มาถามเราว่าบล็อคแม่หรอ เพื่อนแม่เอารูปมาให้ดู ฟังแล้วสะอึกไปเลย (แม่นึกว่าเราไม่เล่นไอจี)
คือสังคมแม่เราจะวัยรุ่นหน่อย แม่ไม่หัวโบราณแต่แม่สนิทกับญาติและเพื่อนเยอะแยะเต็มไปหมด เราเลยบล็อคทุกคนที่รู้จักเลย มีแต่เพื่อนเท่านั้นที่ฟอล จะได้ลงรูปบิกินี่ ลงรูปกับแฟน นู่นนี่นั่นได้แบบไม่ติดใจ
ประเด็นคือมีช่วงนึงเราตั้งค่าให้เป็นสาธารณะ เพื่อนแม่เราที่หัวโบราณหน่อยมาเจอพอดี พอแม่รู้ปุ้บ แม่บอกว่าเราไม่ได้อัพเดทชีวิตให้แม่ดูเลย แม่คิดถึง (แม่อยู่ตจว) ฟังแล้วก็เศร้าอะ มันก็จริงของเขา แต่ถ้าไม่บล็อคก็เตรียมรับมือกับพวกญาติพี่น้อง ป้าข้างบ้านได้เลย ควรทำไงดีอ่า?
อิจฉาเพื่อนเหมือนกันเวลาลงไอจีแล้วแท็กพ่อแม่เวลาไปไหนด้วยกัน กูเป็นประเภทไม่ชอบเปิดเผยให้คนในบ้านอะเวลาไปไหน บ่นอะไร เที่ยวกับใคร กูเขิน
ปรึกษาหน่อย พ่อกูนี่เข้าข่ายเปโด พวกใคร่เด็กป้ะวะ กูตะหงิดๆมาซักพักละ พ่อกูชอบเด็กผู้หญิงมาก ไม่อะไรกับเด็กผู้ชายเลย วัยแบบประมาณแป๋วแหววลูกลิเดียอะ แป๋วแหววนี่พ่อกูก็ชอบมาก หลายอย่างมันดูเกินเอ็นดูเด็กไปหน่อยอะ พ่อกูจะชอบเด็กประมาณนั้น-12ไม่ก็13ไรงี้ นั่งดูคลิปในยูทูป ถ้าเจอเด็กผู้หญิงน่ารักๆตามห้างไรงี้ก็เดินไปเล่นด้วยแบบถึงเนื้อถึงตัว ลูกสาวลูกน้องพ่อก็เอามานั่งตัก กอดแบบแตะตัวในลักษณะที่กุมองแล้วuncomfortableมากๆ แบบกูแอบขยะแขยงพ่อกูเองเลยว่ะ สมัยก่อนตอนกูเด็กๆกูก็สนิทกับพ่อมาก ก็รู้สึกว่าพ่อใกล้ชิดกูฟิลนี้เลย ปอลอ กูเป็นผู้หญิง
>>218 ถ้าพ่อมึงอายุมากแล้วคนสมัยก่อน(50+)มันจะมีแนวคิดว่าเล่นกับเด็กผู้หญิงต้องถึงเนื้อถึงตัวมากกว่าเด็กผู้ชายด้วยแหละจะดูอ่อนโยนกว่าอะไรแบบนี้ แต่ข้างในก็ไม่ได้คิดอะไรแค่แยกว่าเล่นกับเด็กผู้ชายต้องบอลๆหน่อย ใช้แรงเยอะๆ ส่วนเด็กผู้หญิงต้องทะนุถนอม หอม กอด อะไรประมาณนี้ เป็นวิธีแสดงออกถึงความเป็นมิตรของคนสมัยก่อนน่ะ ส่วนถ้ามองในฟิลเตอร์ปัจจุบันที่ต้องรักษาสิทธิ์ในร่างกายเด็กมากขึ้นกว่าเดิมก็อาจจะมองดู creepy ไปหน่อย แต่อยากให้เข้าใจมุมมองคนแก่บางทีมันแสดงออกแบบนี้เพราะมันรู้สึกว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้วน่ะ แต่ไม่ได้หมายความว่ามึงจะระแวงไม่ได้ ก็ค่อยๆดูไปถ้ายังไม่ล่วงไปถึงจับหน้าอกแบบเน้นๆหรือจับหอย ก็ค่อยตกใจ เอาไปบอกแม่หน่อยก็ดี (ส่วนตัวกูว่าพ่อมึงเป็นประเภทเอ็นดูเด็กมากกว่าเพราะเปโดส่วนใหญ่ไม่มีอารมณ์กับผู้ใหญ่เลย แต่ระวังไว้ก็ดีแล้วเพราะผู้ใหญ่บางคนตัณหากลับตอนแก่ก็มีเหมือนกัน)
>>218 พ่อกูก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน จากสายตาคนเป็นครอบครัวเดียวกันมานานคิดว่าคงเอ็นดูตามประสาเด็กอะ พ่อกูไม่ค่อยชอบเด็กผู้ชายเพราะดูซน ถ้าไปเล่นด้วยก็จะเล่นแรงหน่อย แต่กูก็พยายามเตือนพ่อแหละ สังคมสมัยนี้มันเปลี่ยนไปพอสมควร กูเคยลองสมมุติให้พ่อฟังว่าถ้ากูตอนเด็กๆ มีผู้ชายหน้าตาแบบนี้มาเล่นด้วย เห็นคนแปลกหน้ามาลูบหัวจับแขนจับขาลูกตัวเองจะรู้สึกยังไง ใจเขาใจเราหน่อย เราเอ็นดูเด็ก แต่แม่เด็กกับพ่อเด็กเขาไม่ได้คิดแบบนั้นนะ ถ้าไม่ได้เปโดก็ดี สังคมสมัยนี้มันน่ากลัวจนแทบจะไว้ใจคนในครอบครัวตัวเองไม่ได้เลย แม่ง
ถามโม่งในกระทู้หน่อยว่ากูจะเอายังไงดี กูตกงานมาครึ่งปีละ แต่พอมีเงินเก็บอยู่บ้างราวๆห้าหมื่น ซึ่งเงินก้อนนี้คือเงินก้อนสุดท้ายในชีวิตกูแล้ว กูต้องใช้มันระหว่างที่ยังหางานไม่ได้ ซึ่งก็มีค่าบัตรเครดิต ค่าผ่อนมอไซ ค่าโทรศัพท์ กูก็ให้แม่เป็นค่าน้ำค่าไฟราวๆเดือนละพันเพราะอยู่บ้านแม่ กินใช้เองก็ตกเดือนละสามพัน รวมๆรายจ่ายประมาณเดือนละหมื่น
เล่าพื้นเพก่อนว่าบ้านกูมีธุรกิจที่จวนจะเจ๊งแบบตลาดมันไม่สามารถโตมากไปกว่านี้อีกแล้ว แถมการบริหารงานแบบเก่าๆของพ่อแม่กูก็ยิ่งทำให้มันดิ่งลงเหว กูเคยพยายามมาปรับปรุงระบบการทำงานแต่คือไม่ได้ผล แม่กูไม่ยอมปรับอะไรทั้งนั้น พอกูทำงานด้วยก็ให้เงินเดือนกูแค่สี่พันบาท ต่ำกว่าแอดมินที่จ้างมาอีก ซึ่งมันไม่พอผ่อนมอไซ มีปัญหาหลายอย่างจนกูสาบานว่ากูจะไม่ทำงานกับที่บ้านอีกต่อไป แล้วก็จะบ่นอยู่ตลอดว่ากูไม่เคยช่วยอะไรทั้งที่เวลาเขาขอยืมเงินไปหมุนธุรกิจกูก็ให้ตลอด จากที่กูมีเงินเก็บเป็นแสนๆตั้งแต่เริ่มทำงานเมื่อสิบปีก่อน กูต้องมาโอนให้เขาทีละห้าหมื่นหกหมื่น และกูก็ไม่เคยได้มันคืน จนเงินเก็บกูก็เหลือเท่านั้นนั่นล่ะ ห้าหมื่นบาทก้อนสุดท้ายแล้ว พอกูปฏิเสธก็เอาญาติมารุมกดดันกู อ้างบุญคุณ ไม่มีพ่อแม่เลี้ยงมาจะโตมาได้ยังไง ญาติกูก็ยิ่งแล้วใหญ่ด่ากูเนรคุณสารพัด นรกส่งมาเกิดมั่ง ไม่สงสารแม่มั่งรึไง เดี๋ยวเขาก็ให้คืน มาหว่านล้อมกูให้นึกถึงบุญคุณที่เขาเลี้ยงมา แต่ไม่มีใครสงสารกูเลย ตกงานก็เครียดพอแรงอยู่ละ ยังจะโดนรุมกดดันให้เอาเงินให้อีก ใจหนึ่งก็อยากให้เพื่อตัดปัญหาน่ารำคาญ แต่อีกใจก็บอกว่าถ้าให้ไปจะเอาอะไรผ่อนรถ กูให้ยืมไปไม่เคยได้คืนเลยซักครั้ง ถ้าไม่มีเงินก้อนนี้กูโดนยึดรถแน่ เอาไงดีวะ
>>225 ประเด็นคือที่บ้านให้แค่ที่ซุกหัวนอนกับข้าว แต่เรื่องหนี้สินของกู กูก็ต้องจัดการเองไม่เกี่ยวกับเขา อย่างเรื่องค่ามอไซกับบัตรเครดิต กูเคยอธิบายไปแล้วว่าให้เขากูก็ไม่มีเงินจ่ายหนี้ เขาเลยบอกว่าก็ทำงานกับที่บ้านสิ กูชี้แจงว่าได้เงินสี่พันมันไม่พอจ่าย เขาก็วนไปที่อยู่บ้านจะเอาไรเยอะแยะ ช่วยแม่บ้าง สรุปคุยกันไม่รู้เรื่อง
มีกระทู้นินทาพ่อแม่ปล่าววะ
กูเป็นลูกตระกูลตำรวจทหารและขรก เจอตรรกะเหี้ยๆมาเยอะมาก
- มีลูกถ้าไม่ใช้จะมีมาทำอะไร
- พ่อแม่ทำร้ายลูกได้ทุกอย่าง แต่ลูกทำไม่ได้ เพราะลูกจะบาปแต่พ่อแม่ไม่บาป
- ถึงจะได้บำนาญเยอะ แต่กูก็ต้องส่งเงินให้
- ชอบอ้างคดีอุทลุมว่าฟ้องไม่ได้ เอามาเป็นข้ออ้างในการกดขี่กู แต่กูไม่ยอมหรอก ถ้าเรื่องมันเริ่มเลวร้ายกูก็จะยื่นให้อัยการ
ปรึกษาหน่อย คือพ่อแม่กูแม่งเงินหายติดต่อกันทีละพันสองพันต่อเนื่องตั้งแต่2019แล้ว แม่กูเคยสงสัยว่ากูไม่ก็คนงานในบ้านขโมยเงินไป ล่าสุดเงินหายตอนที่ไม่มีใครอยู่บ้าน มีคนงานคนนึงกวาดบ้านอยู่คนเดียวชั้นล่าง แม่กูเลยเรียกมาด่าจะไล่คนนี้ออก แต่กูรู้ว่าเค้าไม่ได้เป็นคนขโมยว่ะ ครั้งก่อนหน้าที่เงินหาย กูกับคนงานคนนี้อยู่ด้วยกันตลอด เค้าไม่ได้ทำแน่นอนชัวร์ป้าป กูอยากช่วยมากๆ เพราะเค้าไม่ได้ขโมยจริงๆ เงินแม่หายที่อื่นหรือนับเงินไม่ครบเองก็ไม่รู้ แต่จับมือใครดมไม่ได้เลยมาลงที่คนงานคนนีัแทน แต่เขาไม่ใช่คนแบบนี้แน่ๆอะ ทำงานกะบ้านกูมาตั้งสิบหกปี ไม่มีหรอกจะมาขโมย ถ้าจะขโมยคงเอาไปตั้งแต่ปีแรกที่เข้ามาแล้วล่ะ หลักฐานก็ไม่มีเลย กล้องก็ไม่ติด แต่ตอนนั้นกูไม่รู้ว่าใคคนทำกันแน่เลยไม่กล้าพูดว่ะ แต่ตอนนี้กูรู้แล้วว่าใครทำ แต่หลักฐานกูมีไม่พอ ตั้งแต่ที่แม่เงินหายรอบแรกน้องกูอ่านคอมมิคโค่ อ่านการ์ตุนเว็บเขียวล่วงหน้า อ่านอคบีคอมมิคติดต่อกันทั้งวันทั้งคืนทั้งที่มันต้องเสียตังค์ ถ้าจะอ่านต่อเนื่องขนาดนั้นต้องเติมขั้นต่ำสองสามพัน กูรู้สึกผิดสังเกตมาก น้องกูเป็นเด็กประถมได้เงินค่าขนมวันละ15บาท ไปเอาเงินขนาดนี้มาจากไหน?เพื่อนน้องกูเท่าที่เห็นไม่มีให้ยืมเยอะขนาดนี้แน่ๆแต่กูไม่มีหลักฐานเลย จะหาหลักฐานยังไงดี...
>>234 แนะนำหาให้ได้ว่าน้องมึงเติมทางไหนถ้าเป็นทางวอลเล็ตมันมีสเตจเมนท์ให้เช็คเวลาเติมเข้าจ่ายออกถ้าน้องมึงเติมเป็นพันมึงต้องคุยกับพ่อแม่แล้วว่าน้องเอาเงินตรงนี้มาจากไหน ถ้าน้องเก็บมานานแล้วก็ต้องถามอีกว่าเก็บมานานเท่าไร 15บาทน้องมึงใช้หมดทุกวันมั้ย กูก็เติมคิมิคโค่ประมาณร้อยสองร้อย แล้วมึงต้องเข่นน้องถ้าน้องมึงทำจริง
ขอถามหน่อยเวลาได้บ้านต่อจากพ่อแม่แบ่งพื้นที่ใช้กันยังไง บ้านที่อยู่เป็นทาวน์เฮ้าส์ขนาด2ห้องนอนแล้วในอนาคตก็ต้องมีครอบครัวกัน ซึ่งกูกับน้องก็อยากอยู่ไม่อยากย้ายออกทั้งคู่
พ่อแม่ทะเลาะกันตั้งแต่จำความได้ ทุกครั้งที่แม่กลับบ้านมาพ่อจะอารมณ์เสียเสมอ ล่าสุดแม่กลับไปเช้งเม้งที่บ้านเกิด กำลังจะกลับ แต่พ่อโทรไปด่าแม่ว่ามึงไม่ต้องกลับมา กูซึ่งเป็นลูกเบื่อสถานการณ์นี้มาก และสิ้นปีกูจะย้ายไปทำงานที่ กทม กูรู้สึกว่ากูไม่อยากไปอยู่บ้านใหม่พ่อที่ กทม เลยว่ะ ต้องอยู่กับพ่อสองคนแม่งโคตรประสาทเสีย กูอยากถามพวกมึงว่าเงินเดือนเด็กจบใหม่ 18000 พอจะผ่อนคอนโดไหวไหมวะ หรือหาห้องเช่าก่อนดี
>>240 ไหวมั้ยมันขึ้นอยู่กับราคาคอนโด โลเคชั่น ค่าครองชีพว่ะ เช่นของกุ กูซื้อคอนโดมือสองอยู่ในย่านชานเมืองเก่าแต่รถไฟฟ้าเข้าถึง แถวบ้านกูค่าครองชีพจะค่อนข้างถูก มีร้านที่ขายแกงถุง 25-30 บาท ราคาคอนโดกุก็ก็แค่ล้านต้นๆ เวลากู้มันจะมีช่วงดอกเบี้ยคงที่ 3 ปีแรกที่ทำให้กูจ่ายในเรตต่ำมากๆ ราวๆ 4000 ต่อเดือน ราคาถูกกว่าห้องเช่าอีก กูคำนวนค่าเดินทาง ค่าส่วนกลาง น้ำ ไฟ หนี้อื่นๆ และราคาคอนโดที่กูต้องจ่ายตอนดอกเบี้ยสูงให้เป็นตัวเลขกลมๆแบบเวอร์ๆ ยังไงก็ไม่เกินหมื่นห้าต่อเดือน
ซึ่งในอีก 3 ปีข้างหน้ากูคิดว่ากูต้องดิ้นรนให้เงินเดือนกูขึ้นอยู่แล้ว หรือต่อให้ไม่ขึ้นกูก็ยังผ่อนไหวถึงจะอัตคัตหน่อยนึง แต่กูเลือกความเป็นไปได้ตรงนี้มากกว่า เพราะอย่างน้อยต่อให้จ่ายต่ำสุด ดอกเบี้ยบานเบอะ มันก็ยังมีจุดจบถ้าเราจ่ายสม่ำเสมอ แต่ถ้าเช่าห้องมันก็ต้องเช่าไปตลอดขึ้นอยู่กับมึงวางแผนชีวิตยังไง
เพราะงั้น ถึงเงินเดือนน้อย มึงก็ต้องลองหาคอนโดและคำนวนว่ารวมรายจ่ายทั้งหมดที่เป็นไปได้ และเงินเก็บแล้ว มันเกินรายรับมึงรึเปล่า พูดไม่ได้หรอกว่ามึงจะซื้อไม่ได้เลย อย่างแรกที่ต้องกังวลคือมึงจะกู้ผ่านรึเปล่าตะหาก มีเงินก้อนไว้แปะส่วนต่างมั้ย จะอยู่ติดที่รึเปล่า บลาๆ แต่ยิ่งถูกคอนโดยิ่งกากก็เท่านั้น รับความเสี่ยงได้แค่ไหน ถ้ามึงต้องการคอนโดดี เพื่อนบ้านคูล ปลอดภัยร้อยเปอร์ อยู่ในเมือง ราคาสี่ล้าน สิบล้าน เวินเดือนมึงไม่ไหวแน่นอน แต่ถ้าสเป็คมึงไม่ได้สูงขนาดนั่น แค่ล้านต้นๆ หรือแสนปลายๆ มึงก็มีโอกาส ขึ้นอยู่กับมึงรับความเสี่ยงได้แค่ไหนน่ะแหละ
สุดท้ายก็อยู่ที่มึงวางแผนว่ะ วางแผนไม่ดีเงินเดือนเยอะกว่านี้ก็ซื้อคอนโดไม่ได้หรอก เพื่อกูบางคนเงินเดือนจะสี่หมื่นอยู่ละแม่งยังใช้เวินเดือนชนเดือนเลยเหอะ ทั้งๆที่ศักยภาพแม่งผ่อนคอนโดดีๆ ได้สบาย แต่ถ้าไม่มีวินัย ไม่ประเมิณความเสี่ยง มันก็ทำไม่ได้
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.