Fanboi Channel

โม่ง Loser มาแชร์ความเป็น Loser ในตัวคุณกัน

Last posted

Total of 124 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:WxRQZt4e4I

> เป็นเลา
> อายุจะ 33
> ยังไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง เช่าเค้าอยู่
> แฟนก็ไม่มี
> รถก็ไม่มี
> แน่นอนว่าขับรถไม่เป็น
> เป็นโรคประจำตัวที่ต้องกินยาทุกวัน
> จีบสาวมีแต่โดนเมินไม่ก็หลอกเอาเงิน
> ซื้อบริการทางเพศและช่วยตัวเองกับหนังโป๊การ์ตูนโป๊เพื่อทดแทนชีวิตที่ว่างเปล่า
> วัน ๆ ไถเฟสบุ๊คกับอ่านโม่ง

2 Nameless Fanboi Posted ID:8OjxBP5ukk

>>1 ชีวิตจะมีค่าถ้านายแชร์แหล่งซื้อบริการ

3 Nameless Fanboi Posted ID:yHltSYdsvQ

>>2 Penthouse เอกมัย

4 Nameless Fanboi Posted ID:qUxJkH4DVg

>>1 นอกจากเฟสกับโม่ง ไม่คิดจะหาทางเพื่อให้ตัวเองหลุดจากชีวิตงี้หรอ ไม่แปลกที่จะโดนสาวเมิน ไม่มีอะไรเลยแม้กระทั่งความพยายาม

5 Nameless Fanboi Posted ID:bMlbKyLXQl

>>1 ไม่ทำงานละมีเงินใช้เหรอวะ

6 Nameless Fanboi Posted ID:yHltSYdsvQ

>>4 >>5 มันก็มีบ้าง แต่นี่กระทู้ loser ไงเลยมาแชร์แต่แง่มุมที่เป็น loser

7 Nameless Fanboi Posted ID:GgYiNaK66l

เงินเดือนน้อยกว่าเมียห้าเท่า แต่ต้องใช้ไลฟ์สไตล์เดียวกับเมีย
ลูซเซอร์พอยัง

8 Nameless Fanboi Posted ID:o5V48keTSt

>>7 มีเมีย = ไม่ loser

แถมเมียรวยอีก

9 Nameless Fanboi Posted ID:YlNfuZ3wCS

>>6 มีเงินหรือมีงาน ที่มึงบอกว่ามีอะ

10 Nameless Fanboi Posted ID:FsKm5L7hyD

>>9 มีงานสิ

11 Nameless Fanboi Posted ID:YlNfuZ3wCS

>>10 ชีวิตมึงคอมพลีตละ

12 Nameless Fanboi Posted ID:Kw+7oxIoxR

>>11 มีงานก็เป็น loser ได้
เกือบทุก ๆ คนมีความเป็น loser ในตัวเองอยู่แล้ว
อยากเชิญชวนมาเผยความเป็น loser ในตัวเองกัน

13 Nameless Fanboi Posted ID:yHZAUpv/ls

>>12 อันนี้เห็นด้วย กูมีงานทำ เงินเดือนไม่น้อยจนน่าเกลียด แต่กูก็ว่าตัวเอง loser สัสๆ

14 Nameless Fanboi Posted ID:dh8IXdmUS.

ตราบใดที่กูยังไม่หยุดพัฒนา กูก็ไม่รู้สึก loser ว่ะ ถึงแม้จะไม่ได้มีพร้อม แต่รู้ว่าซักวันจะมีแน่
ไม่มีไรแชร์เลย หรือกูหลงตัวเองวะ

15 Nameless Fanboi Posted ID:YlNfuZ3wCS

มุมขี้เเพ้ของกูคืออยากตายว่ะ

16 Nameless Fanboi Posted ID:FsKm5L7hyD

>>15 ทำไมอยากตายเล่ามา

17 Nameless Fanboi Posted ID:YlNfuZ3wCS

>>16 กูขี้เกียจอยู่ เเถมกูคิดว่าโลกหลังความตายสนุกกว่า

18 Nameless Fanboi Posted ID:yHZAUpv/ls

>>14 ที่กูรู้สึก loser เพราะกูหยุดพัฒนานี่แหละ ช่วงนี้ขี้เกียจชิบหาย ทำงานไปวันๆ พอใจกับตำแหน่งและเงินเดือนปัจจุบัน เลิกงานมาก็พักผ่อน ผลาญเงิน

19 Nameless Fanboi Posted ID:Kw+7oxIoxR

>>17 เชื่อว่าโลกหลังความตายมีจริงเหรอ

20 Nameless Fanboi Posted ID:Kw+7oxIoxR

>>18 ตั้งเป้าหมายดูไหม

21 Nameless Fanboi Posted ID:YlNfuZ3wCS

>>19 ก็จากการพิจารณาเรื่องเล่าทั้งหลาย เเละพ่อเเม่ที่ไม่เคยโกหกกูบอกว่าเคยเจอ กูว่ามีนะ เเค่กูไม่รู้ว่ามันเป็นยังไง ซึ่งถ้ากูคุยกับผีได้กูก็ไม่อยากตายละ

22 Nameless Fanboi Posted ID:FsKm5L7hyD

>>21 จำเรื่องราวก่อนเกิดได้ไหมละ ? ทุกอย่างมืดดำสนิทไม่มีการรับรู้อะไร นั่นแหละสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังตาย ไม่มีสวรรค์ ไม่มีนรก ไม่มีภพหน้า ไม่มีอะไรทั้งนั้น

23 Nameless Fanboi Posted ID:H5lJmTqefg

>>22 กูก็ไม่เห็นคนตายกลับมาเล่าสักคน กูต้องตายเองถึงจะรู้

24 Nameless Fanboi Posted ID:NhiJ0XWiXs

>>23 รอไรล่ะ

25 Nameless Fanboi Posted ID:E6MkLcuPiT

คนไทยขี้แพ้เยอะแต่จิตใจดีงามครับ ก่อนตายไม่คิดจะไปกราดยิงคนอื่นมาตายเป็นเพื่อน
ถ้าเมกันขี้แพ้เยอะแบบไทยนี่คงมีข่าวกราดยิงทุกวัน

26 Nameless Fanboi Posted ID:qkIO/69hQ7

>>25
ไม่คิดจะไปกราดยิง X
หาปืนไปกราดยิงไม่ได้ O

27 Nameless Fanboi Posted ID:PTXHQPkyWu

ทำไมไม่ยิงลุงก่อนตายแล้วทิ้งเลขบัญชีพ่อแม่ไว้

28 Nameless Fanboi Posted ID:HktZ5ac0eK

ทำงานมาสิบกว่าปี
- โดนไล่ออก 2 ครั้ง
- ไม่ผ่านโปร 2 ครั้ง
- โดนบีบออก 1 ครั้ง

โคตรจะลูซเซอร์

29 Nameless Fanboi Posted ID:rOS8xIMPH7

>>28 ได้วิเคราะห์ตัวเองไหมว่าเป็นเพราะอะไร แล้วคิดจะแก้ไขยังไง

30 Nameless Fanboi Posted ID:Xmb9lTM8.o

>>29 แค่เจอที่ ๆ ไม่เหมาะกับเรา เราทำดีที่สุดแล้ว

31 Nameless Fanboi Posted ID:MF9H0LE1gU

>>28 กูมองว่า ปสก เยอะดี วัฒนธรรม บ ในไทยก็ไม่ได้เทพอะไรขนาดนั้น ที่จะต้องไปแคร์

32 Nameless Fanboi Posted ID:v3y/mJKay/

>>31 ขอบคุณนะ

33 Nameless Fanboi Posted ID:ZIyS8OjPbt

ทำงานวันเดียวออกมา 2 ที่
ที่แรก ไม่ชอบบรรยากาศการทำงาน
ที่2 นั่งรองานทั้งวัน พองานมาจะให้ทำให้เสร็จใน 2 ชั่วโมงก่อนเลิกงาน 6 โมงเย็น
ทั้ง 2 ที่มีดีคือทำงาน จ-ศ

34 Nameless Fanboi Posted ID:DP6gCX1etv

อายุ 33 แล้วยังหาเมียไม่ได้เลย จะไปตีหรี่ก็ไม่มีตัง เลยต้อง shark wow ไปวันๆฮือ

35 Nameless Fanboi Posted ID:w/fng6YwI1

>>34 ถ้ามึงทำงานหาเลี้ยงกู ให้เงินกูใช้ กูจะยอมเปนเมียให้ก้ได้นะ

36 Nameless Fanboi Posted ID:wK68jHk1zq

ปีหน้าจะเรียนจบแล้ว แต่คิดไม่ออกเลยว่าจะจบมาทำอะไร เพราะเรียนสายสังคมเป็ดๆด้วย
ไม่มีเป้าหมายในชีวิต อาจจะเคยมีแต่ก็หายหมดแล้ว
ไม่รู้สึกอยากทำอะไรเลย เหมือนแค่อยู่ไปวันๆ

37 Nameless Fanboi Posted ID:tjYZ.PFTzS

>>36 ลองหาที่ฝึกงานทำดูมึง ปรึกษากับรุ่นพี่หรืออาจารย์ก็ได้

38 Nameless Fanboi Posted ID:41dKr8c6Mu

>>35 ก็เค้าบอกอยู่ว่าไม่มีตัง

39 Nameless Fanboi Posted ID:LqNPsecups

>>38 อันนี้ไม่ค่อยเกี่ยวแต่อ่านแล้วนึกขึ้นได้เลยขอนอกเรื่องนิด บอกว่าเคยดูคลิปนึงในยูทูป (จำไม่ได้แล้วว่าคลิปไหน) เปิดโลกมาก เค้าคุยกันเรื่องค่าตีกะหรี่ กูเพิ่งรู้ว่าถ้าพวกแบบเกรดล่างมากๆ แบบไม่สวย ไม่สาว หุ่นไม่ดี คือโคตรถูกอะ ถูกยิ่งกว่าขี้ แบบเงินแค่นั้นกูนั่งทำงานสุจริตหน้าคอมห้องแอร์ก๊อกๆ แก๊กๆ ไม่กี่นาทีก็ได้แล้ว (หารจากเงินเดือนเอาคร่าวๆ นะ) แต่เค้าคือต้องขายตัว ต้องให้ผู้ชายที่ไหนไม่รู้มาเยแลกกับเงินแค่นั้น หดหู่สัสๆ เมื่อก่อนกูคิดว่าอย่างน้อยแม่งต้องมีหลักพัน นี่แบบ หลักร้อย ห๊ะ หลักร้อยแบบแดกบุฟเฟต์ห้างยังไม่ได้เลย ... ชีวิตคนเราแม่งไม่เท่ากันจริงๆ เดี๋ยวนี้กูเลิกอยากรวยละ เป็นคนชั้นกลางเป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมดา แม้ชีวิตไม่ได้หรูหราแต่ก็ดีแค่ไหนแล้ว

40 Nameless Fanboi Posted ID:Vc8aIB5VEg

ตอนเด็กเคยฝันไว้ว่าจะเก่งสามภาษา ปัจจุบัน 20 กลางๆ ภาษาไทยบางคำยังเขียนผิด อังกฤษอ่านออกฟังออก พูดเขียนได้แค่แบบพื้นฐาน
ช่างแม่มละกูขี้เกียจ หมดไฟจะเรียน

41 Nameless Fanboi Posted ID:5KDEYjVP1U

>>39 คิดแบบมึงเหมือนกัน บางทีก็รู้สึกว่าการที่กูหรือว่าเพื่อนรอบตัวทำงานสบาย เงินเดือนเยอะๆ ได้ ความสามารถมันก็ยังงั้นๆ ว่ะ แค่โชคดีเกิดมามีครอบครัวพร้อมซัพพอร์ต บางคนจังหวะชีวิตมันได้พอดีก็ไปรุ่ง ทั้งที่จริงๆ คนบางคนที่ต้องไปทำงานแบบนั้น หรืองานที่ไม่ต้องการวุฒิ คนพวกนั้นถ้ามีโอกาสได้เรียนหรือมีเงินทุนก็คงทำได้แหละ
แต่ตอนนี้กูก็ยังปลงเลิกอยากรวยเหมือนมึงไม่ได้นะ ฮือ เพราะกูเชื่อว่ากูแค่เกิดมาบ้านจน แต่ความสามารถก็เท่าๆ กันคนอื่น เลยทำให้กูยังไม่หยุดดิ้นรน ถามว่าเหนื่อยมั้ย เหนื่อยสัส ต้องโดนคนดูถูกว่าไม่เจียมตัว แต่ทุกคนไม่ได้เกิดมาโชคดีปะวะ

42 Nameless Fanboi Posted ID:cS4MLSJ5zA

>>41 ใช่ไง กูไม่อินกับไอ้พวกที่ชอบบอกว่าจะรวยได้ต้องเก่งขยันบลาๆๆๆๆ
รอบข้างกูรวยเพราะต้นทุนดีทั้งนั้น มีไม่กี่คนหรอกที่รวยจากความเก่งจริงๆ

43 Nameless Fanboi Posted ID:uTK4K+S.R8

>>42 กูว่ามันเป็นที่โครงสร้างสังคมบ้านเรามากกว่า ที่ทำให้คนรวยรวยแล้วรวยอีก คนจนตะเกียดตะกายขยันยังไงก็จนอยู่ดี

44 Nameless Fanboi Posted ID:cS4MLSJ5zA

>>43 แต่กูรำคาญไอ้พวกรวยจากกองเงินกองทองพ่อแม่แล้วทำมาปากดีนำเสนอตัวเอง
ฟังแล้วมึงไม่ได้เก่งหรอก แค่ใช้ความเหลื่อมล้ำมากกว่า น่ารำคาญเว้ยยย

45 Nameless Fanboi Posted ID:h6/13+HSlv

>>44 กูเบื่อพวกวันนาบี อยากรวย แล้วอวยคนรวยมากกว่า

46 Nameless Fanboi Posted ID:vwik4bH7Lt

เคยไปอ่านงานวิจัยอะไรมาสักอย่างนี้ละ ความสามารถในการเรียนรู้ พรสวรรค์หลายๆอย่าง นี้แม่งถ่ายทอดมาทางพันธุกรรม ที่เหลือนิดหน่อยก็สภาพแวดล้อมซึ่งแม่งก็เป็นแพ็คคู่เกี่ยวกันอยู่ดีอะ
คือเข้าใจดีเลยหวะ คนใกล้ตัวพ่อแม่วิศวะ ลูกโคตรเก่งคณิตชิบหายเลยเรียนมั่งโดดมั่งคะแนนท็อปตลอด
ตอนเด็กๆขยันแทบตายสุดท้ายยังไงก็แพ้ กว่าจะเกิดมาก็ดวง พ่อแม่รวย/เก่งไหมก็ดวง เกิดในประเทศไหนอีกแม่งเอ้ย
ต้นทุนชีวิตนี่แม่งเป็นเหมือนเป็นstatusลับ ส่วนพันธุกรรมแม่งคือ base status จะโตได้ขนาดไหน

47 Nameless Fanboi Posted ID:9c+XI.ccxg

กระทู้loserจริงด้วย5555

48 Nameless Fanboi Posted ID:KJByzvTqLB

>>47 ลองดูประเทศอินเดียเป็นแบบอย่างแล้วมึงจะรู้ว่าบางคนขยันขันแข็งสู้ชีวิตไม่ได้เป็นลูซเซอร์ด้วยซ้ำ แต่โครงสร้างมันปูให้อยู่แค่นี้ ก่อนจะว่าใครก็เปิดตาดูด้วยไม่ใช่ดูแค่เปลือกนอก พวกรวยๆคนใหญ่คนโตที่มึงสรรเสริญวันๆอาจจะแค่ไปปาร์ตี้สนุกสนาน รอตังเข้ากระเป๋าไปวันๆก็ได้

49 Nameless Fanboi Posted ID:Lde2ERZxoG

>>48 อย่าฟีดโทรลน่า

50 Nameless Fanboi Posted ID:EvmCC7UnPp

>>46 ที่ว่ามาไม่เกี่ยวหมด อยู่ที่ระบบการเลี้ยงดูหลายส่วยนะ สิ่งที่ไปเจอใน รร. เองร่วมห้องอีก หลายๆอย่างมีส่วนหล่อหลอมให้คนๆนึงเติบโตมาคิดยังไง มองอะไรแบบไหนบ้าง ดวงก็อีกส่วน ที่แน่ๆนะ สิ่งนึงที่ควรมีเพื่อให้มีปัญญาหาโอกาสในชีวิตได้คือmindset หนอนหนังสือ รักการอ่าน เห็นพวกรักการอ่านแล้วมีปัญญาไปค้นคว้าเพิ่มนี่คือเหมือนเพิ่มโอกาสในชีวิตกลายๆเลย แล้วแต่ละคนจะเริ่มมาทบทวนจนหลงตัวเองว่าก็รักการอ่านนะ ซึ่งพอถ้าได้ถามจริงๆว่าสัปดาห์นี้อ่านหนังสืออะไร เดือนนี้อ่านไปกี่เล่มคือตอบกันไม่ได้ ..... บางคนมีความขยัน มีความมุมานะ ถ้าทันขาดความรู้เป็นเชื้อไฟปัญญานำทาง มันจะรู้ได้ยังไงว่าตัวเองกำลังเดินไปในทางที่ดีกับตัวเองรึเปล่า

51 Nameless Fanboi Posted ID:h07LGtywVV

>>47 กระทู้ loser แหละมึง เหลือพื้นที่ให้เค้าได้สบายใจสักที่ละกัน ตอนกลางวันกูพิมพ์ยาวมากเป็นเรียงความหนึ่งหน้าเอสี่เลยมั้ง สุดท้ายก็ลบทิ้ง คิดว่ามันไม่มีประโยชน์ กูพิมพ์ไปก็โดนว่าเหยียดว่าโน่นนี่นั่นอยู่ดี ถ้าเค้าจะคิดได้คงคิดได้นานแล้ว คงไม่มาคิดได้เพราะคำพูดโม่งที่ไหนไม่รู้หรอก เพราะงั้นก็เลยคิดว่าปล่อยๆ ไปเหอะ ชื่อมู้มันก็บอกอยู่แล้ว มันไม่ใช่มู้พัฒนาตัวเองเพื่อชีวิตที่ดีกว่า ไม่ใช่มู้รีแมน กูว่ามา loser ในมู้นี้ก็ถูกแล้ว ดีแล้วล่ะ ดีกว่าไปเผยแพร่ความคิด loser ในมู้รีแมนหรือมู้อื่นๆ

52 Nameless Fanboi Posted ID:h07LGtywVV

>>51 พอมาอ่านเมนต์ตัวเองก็ loser อยู่นะเนี่ย 555

53 Nameless Fanboi Posted ID:aevrL.6fu9

>>50 เขียนไว้แล้วไงที่ "สภาพแวดล้อม" ด้วย เพื่อนเป็นยังไงตัวเราก็ไม่ต่างกันใช้เงินก็พอช่วยคัดเกรดได้บ้าง รร.กูจำได้ตอนเลื่อนชั้นปีนึงไม่รู้ผอ.คิดไงแม่งเอาเด็กเหี้ยมารวมผสมๆชั้นกันเพื่อจะช่วยลากกันเรียน สรุปโดนเด็กปกติมีสันดานเหี้ยติดมาด้วยโดนเรียนตามงี้ เป็นเหตุและผลเลยไง
กูมีเพื่อนคนนึงลูกชาวบ้านนี่ละ มันไม่ได้อังกฤษจะเรียนหมอแม่งขยันมากนะเรียนพิเศษ ตั้งใจเรียนขี้สงสัยถาม ทำข้อสอบจนหมดเวลา สุดท้ายเข้าไม่ได้
คนที่เข้าได้ก็อยากที่รู้กันไม่พ่อก็แม่เป็นหมอ บ้านฐานะดีเจอที่เรียนพิเศษที่เดียวกัน กูคุยกับแม่งก็รู้อะว่าไม่ธรรมดาแอบสงสัยทำไมอยู่ รร ที่ดีกว่านี้
พ่อแม่คงคิดสังคม average สังคมใหญ่มีหมดคุณภาพต่ำได้ละมั้ง ต่ำไปบน
ที่กูจะสื่อก็ตามนี้้แหละ คนเก่งและขยันนี้แข่งด้วยยากมาก แน่นอนผลการวิจัยใช่ว่าจะ100%ตลอด คือความเป็นไปได้ว่าจะ"เก่ง"เหมือนพ่อแม่

https://www.nber.org/system/files/working_papers/w25114/w25114.pdf

54 Nameless Fanboi Posted ID:c7NRcDT0Xt

>>51 เออ มึงมีเหตุผล บ่นมากๆ ไม่แก้ไรมันก็ Loser แต่นี้โม่งห้อง Loser ดังนั้นไม่ผิดอะไร

55 Nameless Fanboi Posted ID:mC6r6mkU+a

>>53 บ่นส้นตีนไรสัส อ่านไม่รู้เรื่อง ควย ข้อความสวะๆแบบนี้เหมาะกับมู้แบบนี้ชิบอีห่า

56 Nameless Fanboi Posted ID:aevrL.6fu9

>>55 ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาแต่ คำพูดคำจาดูถูกคนอื่นแบบนี้ บ่งบอกคุณภาพคนจริงๆ

57 Nameless Fanboi Posted ID:apURwuSwTH

>ทะเลาะกับเพื่อน 3 ครั้ง
>เป็นปัญหา
>ลาออกจากโรงเรียน
>หนีปัญหา

เวลามีคนถามถึงสาเหตุว่าเกิดอะไรขึ้นก็ไม่กล้าเล่าว่าตัวเองแหละ เป็นปัญหา เพราะกลัวเขาจะมองละซ้ำเติม

58 Nameless Fanboi Posted ID:apURwuSwTH

>ย้ายโรงเรียน
>เรียนโรงเรียนใหม่ได้ 1 วัน
>ไม่ไปอีกเลย
>ลาออก

59 Nameless Fanboi Posted ID:zkeJ.Hk855

อาจจะดูปญอแต่กูคิดมาตลอดว่าตัวเองสูงซัก 177-178 คนรอบตัวก็ชอบทักว่าสูง 180 แต่พอวัดจริงไม่ว่าจะที่ไหน พยายามให้แม่นยำที่สุดก็แค่ 172-173 กูน้อยใจมากเพราะสูงเท่านี้มาตั้งแต่อายุ 14 ปจบอายุ 20 ละแม่ม คงไม่สูงขึ้นแล้วแหละ คิดในแง่ดีถ้าไม่ได้วัดกันเป็นตัวเลขกูก็ดูสูงอยู่เวลาไปยืนต่อแถว ยืนในรถไฟฟ้า เพื่อนกูเตี้ยกว่าก็เยอะ ให้คนเข้าใจผิดแล้วชมแบบนี้ดีแล้ว

60 Nameless Fanboi Posted ID:UEGM+u0N55

ไหนใครเล่นโม่งแต่ไม่เป็นloserมารายงานตัวหน่อยดิ

61 Nameless Fanboi Posted ID:w78aNk3cCz

อยากเป็น loser กับเขาบ้างต้องทำยังไงดีอะคับ นี่ลองหลายๆอย่างดูแล้วก็ยังเป็น loser อย่างคนอื่นๆเขาไม่ได้ซักที

62 Nameless Fanboi Posted ID:cDf/hX9NLJ

>>61 เล่นโม่งก็ถือว่าขาได้เหยียบการเป็นLoserไปแล้วข้างนึง

63 Nameless Fanboi Posted ID:fv+6C7MzJl

>>62 +1

64 Nameless Fanboi Posted ID:3ZJvKA9sq8

อายุ 34 เงินเก็บไม่ไปไหน ไม่มีผู้หญิงชอบสักคน อ้วน เตี้ย loser สัด ๆ

65 Nameless Fanboi Posted ID:.AsZTHnUWw

อ่านข่าวไปเจอว่าที่จีนกำลังมี movement ใหม่ที่เรียกกันว่า lying flat โดยคอนเซปต์คือทำงานแค่พอให้มีชีวิตอยู่ได้ แล้วก็นอนแห้งๆ ไปไม่ดิ้นรนอะไรไป การดูแลตัวเองใช้งบประมาณ 800 หยวนต่อเดือน

เจ้าของเทรนด์ทำงานเป็นนักแสดงในกองถ่าย ไปรับงานแสดงเป็นตัวประกอบยืนเฉยหรือนอนเป็นศพประมาณ 2-3 วันต่อเดือนก็ได้เงินพอ แล้วก็จบทั้งเดือน

เทรนด์นี้กำลังแพร่หลายมากขึ้น ทำงานให้พอมีชีวิตได้แล้วจบ

เทรนด์นี้กำลังโตขึ้นเรื่อยๆ วัยรุ่นจีนหลายๆ คนบอกว่าทำงาน 996 (เข้างาน 9 โมง เลิกสามทุ่ม 6 วันต่อสัปดาห์) ก็ได้แค่อยู่รอดอยู่แล้วไม่ได้ทำให้ชีวิตดีขึ้นอะไร จะให้สู้มากกว่านี้ก็ไม่ไหวแล้ว ดังนั้นสู้ใช้ชีวิตแบบ lying flat ดีกว่า ค่าเท่ากันแต่สบายกว่า

สิ่งนี้กำลังสร้างปัญหาให้สังคมจีน เมื่อคนจีนจำนวนหนึ่งปฏิเสธที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และทำงานแค่พออยู่รอด จนกระทั่งรัฐบาลจีนต้องออกมาประนามว่าเป็นการใช้ชีวิตที่ไร้ค่า น่าอับอาย ไม่คิดถึงส่วนรวม มนุษย์มันไม่ควรจะอยู่รอดไปวันๆ ซึ่งคนในวัฒนธรรมนี้ก็หาได้สนใจไม่ แถมบางคนยังตอกหน้ากลับอีกว่าแล้วพวกคุณที่ดิ้นรน 996 กัน ทำอะไรได้มากกว่าอยู่รอดไปวันๆ ด้วยเหรอ

ผมสนใจปัญหานี้ในหลายๆ แง่

ข้อแรก ผมคิดว่าวิธีการที่ประนามหยามเหยียดและเอากำลังเข้าฟาด มันไม่ได้ผลกับคนกลุ่มนี้ และวิธีที่ดีกว่าหากอยากจะให้เขาลุกขึ้นมาสู้ชีวิตขับเคลื่อนเศรษฐกิจ คือการทำความเข้าใจว่าทำไมเขาถึงรู้สึกว่าดิ้นรนไปก็เท่านั้น ถ้าเขามองไม่เห็นว่าจริงๆ มันมีหนทางก็สร้างความเข้าใจ แต่ถ้าระบบมันไม่มีหนทางจริงๆ ก็ปรับระบบ

ข้อสอง พอปรับระบบหลายๆ คนอาจจะคิดว่าระบบมันแฟร์ทำไมต้องปรับระบบให้ไอ้พวกขี้แพ้พวกนี้ ซึ่งถ้าความขี้แพ้พวกนั้นมันไม่มีผลอะไรกับเศรษฐกิจรวมมันก็ไม่ต้องปรับหรอก แต่ที่รัฐบาลจีนและหลายๆ คนออกมาดิ้นนั่นมันไม่ใช่เพราะว่าทุกคนรู้ว่าสุดท้ายเราก็หนีกันไม่พ้นหรอกเหรอ

ข้อสาม พอคิดแบบนี้แล้วจะเห็นว่าเศรษฐกิจของประเทศมันต้องอาศัยทั้งความร่วมมือและการแข่งขัน ทัศนคติที่แบ่งว่าโลกเรามีพวกขี้แพ้กับพวกผู้ชนะแล้วทำไมฉันต้องแคร์พวกขี้แพ้ มันก็เป็นปัญหา เพราะถ้าถึงที่สุดแล้วพวกขี้แพ้ไม่แคร์คุณพอๆ กัน ตัดสินใจ lying flat ไมมีใครทำงานร่วมมือกันสร้างองค์กรสร้างบริษัทสร้างคอมมิวนิตี้ โลกก็เดินหน้าได้ยาก คุณก็เดือดร้อน แต่กลับกันไม่มีการแข่งขันเลยก็ไม่มีแรงจูงใจเช่นกัน การปรับกติกาและระบบไม่ได้สำคัญที่ว่าเราจะไม่ยอมปรับกติกาและระบบให้ไอ้พวกขี้แพ้ แต่เราปรับกติกาให้อยู่ร่วมกันได้ ไม่ให้มีคนมากเกินไปที่รู้สึกว่ากติกาไม่แฟร์จนตัดสินใจไม่เล่น lying flat กันไปหมด

ข้อสี่ สิ่งนี้ไม่ไกลจากเมืองไทย ผมรู้สึกว่าที่คนกำลังสู้กับระบบอยู่ด้วยวิธีที่พลาดบ้างโง่บ้างฉลาดบ้างมันยังเป็นสัญญาณที่ดีกว่าคนตัดสินใจ lying flat เยอะนะ การมี authorative power สมบูรณ์แบบฮ่องเต้สี มันก็ไม่ได้แปลว่าคุณไม่ต้องพึ่งคนอื่นนะ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

66 Nameless Fanboi Posted ID:VxrRmYnrwm

อยากเป็นนักหลวม เพราะ เท่ห์ 😎

67 Nameless Fanboi Posted ID:VxrRmYnrwm

>>65 ขับเคลื่อนเสดกิจบ้าบออะไรวะ โลกนี้มันไม่มีจุดมุ่งหมายในชีวิตจริงๆซักหน่อย ทำไมมนุษย์ต้องพัฒนา ต้องมีวิวัฒนาการ ต้องอยู่รอดต่อไปด้วย? สุดท้ายตายไปก็ว่างเปล่าอยู่ดี
โดยเฉพาะประเทศเจ็กหยุดโตซักที มึงจะวางแผนยึดโลกเหรอวะ

68 Nameless Fanboi Posted ID:VxrRmYnrwm

ค่ายแรงงานก็มี ขู่ตัดโซเชี่ยลเครดิต ส่งพวกนักหลวมไปเกณท์ค่ายแรงงานที่มึงทําสิเจ็ก

69 Nameless Fanboi Posted ID:aPxASEdfTO

เกิดเป็นผญจนอายุจะเข้า25ยังไม่เคยมีผู้ชายมาจีบ ความขี้เหร่มันเป็นจุดเริ่มต้นความลูเชอร์จริง พอขี้เหร่ก็เข้าสังคมยาก พอเข้าสังคมยากก็เป็นคนขี้อาย และกลัวคน มาจากยีนส์ไม่ดีด้วยบางทีก็พวงความโง่มาด้วยอีกหนื่ง

70 Nameless Fanboi Posted ID:aPxASEdfTO

ไม่มีเพื่อนชักคนนี่ลูเชอร์มะ

71 Nameless Fanboi Posted ID:jvrxhUQfg8

กูแก้แค้นผญที่มันกวนตีนกูโดนการเอารุปหน้าพวกมันมาตัดใส่รูปดาราเอบรีละชัวว่าวใส่แม่งเลยเอาให้ชุ่มเหนอะหนะ เปนไงละมึงเสือกมากวนตีนกูกลายเปนกระหรี่ถังแชมให้กูช่ำยีซะเตมอิ่มเลย(ถ้ามันสวยนะแต่ถ้าอุบาทกุจะช่างมันขยะเกิน)

72 Nameless Fanboi Posted ID:y+.6yD8Ky8

สั่งบุหรี่ในเซเว่นกันยังไงวะ
แล้วแนะนำยี่ห้อไหนอ่าโม่ง
กูจะเบียวดูดบุหรี่หน่อย

73 Nameless Fanboi Posted ID:S7DSI56hl3

>>72 ไปบอกน้องเเคชเชียร์ว่า เอาเมเวียส สกายบลู ซองแข็ง จะดูไฮโซไม่ไก่กาเพราะน่าจะแพงสุด เป็นบุหรี่ที่กูเบียวสูบยี่ห้อแรกหลังเลิกกับแฟน

74 Nameless Fanboi Posted ID:+vRM1PCWcN

กูเป็นอีอ้วนที่นั่งแดกขนมหน้าคอมเหมือนในมีมเฟมทวิตที่พวกแอนไทเฟมทำเลยว่ะ สงสารเฟมทวิตคนอื่นที่โดนเหมารวมว่ามีสภาพเหมือนกูจริงๆ

75 Nameless Fanboi Posted ID:Z/gvOC2KNr

กรวยเหอะครัชตอกไข่จะมาทอดแทกตอกไป2ฟองปกติเปนเหรี้ยไรฟอง3เสือกเน่าสรุปอดแดกทิ้งให้หมดเปรเหรี้ยยยยยไรรรห้ะะะะกรวยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

76 Nameless Fanboi Posted ID:HtNlGVrZoi

มึง ถ้ากูอิจฉาเพื่อนคนหนึ่งมาก กูเลยไม่ยุ่ง ไม่ถามชีวิตส่วนตัวเขา แต่ยังคบเป็นเพื่อนสนิดกันนะ ที่กูไม่ยุ่งเพราะกูกลัวว่าถ้ารู้แล้วจะอิจฉา แบบนี้กูดูแย่ป่ะ55

77 Nameless Fanboi Posted ID:HtNlGVrZoi

คือกูไม่รู้สึกยินดีกับความสำเร็จของเขา เวลารู้ว่าเขามีผชจีบเยอะกูก็อิจฉา ซึ่งกูเก็บเรื่องพวกนี้ไว้แค่ในใจนะ บางทีกูก็รู้สึกว่าทำไมกูต้องเป็นคนขี้อิจฉาขนาดนี้

78 Nameless Fanboi Posted ID:gYscg5kHWk

กลัวการโดนสัมภาษณ์งาน เคยไปสัมแล้วเขาเทสสกิลเราก็พอรู้ตัวเองกากตั้งแต่ก่อนเข้าห้องสัมละ ตอนนั้นมันเหมือนโดนตอกย้ำในความกากตัวเองเป็นปมในใจจนถึงตอนนี้ไม่กล้าสมัครงาน เป็นพวกขี้แพ้อยู่เนี่ยงานยิ่งหายากๆอยู่

79 Nameless Fanboi Posted ID:r2g84ow7Qj

>>78 เหี้ยเอ๋ย เหมือนกูเลยว่ะ มึงเป็นแฝดกูบ่นิ รู้สึกตัวเองแม่งนักหลวมสัส ๆ ทุกวันนี้เลยทำฟรีแลนซ์แทน พยายามอัพสกิลฟรีแลนซ์ตัวเอง มันเป็นความรู้สึกว่าตัวเองไม่เก่งพอตัวกูกากจริงๆแหละเลยกลัวว่าไปสมัครงานแล้วโดนสัมแล้วเค้าจะรู้ว่าตัวกูกากจริง ๆ สมัครมาทำควยไรแบบนี้

80 Nameless Fanboi Posted ID:x7LxbYG4xR

>>78 >>79 เหตุผลที่กูจะไปสมัครข้าราชการแทน กูไม่มั่นใจความรู้ในสายวิชาตนเองเลย กูเรียนเก่งนะแต่รู้สึกว่ากูจะเป็นคนทํางานไม่เก่งแน่ๆ กูไม่มีประสบการ์ณมาก่อน แล้วทัางานกับคนอื่นไม่ค่อยจะเป็น ชอบลุยเดี่ยวซึ่งไม่ดีต่อการทํางานรูปแบบบริษัท คือสกิลการประสานงานการทํางานกูมันกาก หรือไปทำธุรกิจstart upเองแม่งก็กลัวอีก กูว่ากูแม่มกากเกนจะทําอะไรด้วยตนเอง กูเลยอยากได้งานที่มึงไม่ค้องคิดเยอะ ทําตามที่นายสั่งพอ แล้วก็มีสวัสดิการพอให้อยู่รอดไปวันๆ 💀

81 Nameless Fanboi Posted ID:sH7.0jNGi5

เร้องเพลงเหี้ยมาก แล้วหลงตัวเองว่ากูร้องเพราะ
ไปประกวดรายการๆนึง ทุกวันนี้ยังเห็นกูอยู่ในคลิปที่เค้าตัดมาหัวเราะอยู่เลยไอเหี้ยเอ้ย มึงทำเหี้ยอะไรรรรรรร มึงไปเอาไรไอบ้า

82 Nameless Fanboi Posted ID:JO8HXC55+z

>>81 ฮ่า ๆ ๆ มึงนี่มัน loser จริง ๆ ว่ะไอ้งั่ง สมควรแล้ว ร้องเพลงเหี้ยก็ไม่รู้ตัวว่าร้องเพลงเหี้ย ฮ่า ๆ ๆ

83 Nameless Fanboi Posted ID:JO8HXC55+z

>>81 ไม่เป็นไรนะ อย่างน้อยครั้งนึงเธอก็ได้ลองดู แล้วรู้จักตัวเองมากขึ้น เรื่องคลิปเก่า ๆ เดี๋ยวคนก็ลืม ๆ ไปน่ะ

84 Nameless Fanboi Posted ID:NDG6nFIdn2

>>81 มึงไปเดอะดาวป่ะนิ 55 มองเป็นเรื่องตลกนะมึง เอาไปเล่าขำๆให้เพื่อนฟัง จะทำให้เพื่อนชอบมึงมากขึ้น กูก็ร้องเหี้ย แล้วก็เคยไปประกวดร้องเพลงคนฟังเต็มสนาม ได้ที่ 4 แน่ะ แข่งกัน 4 คน 555 เล่าให้ใครฟังเค้าก็ขำ แล้วก็ชื่นชมที่เรามีความกล้านะ เป็นการได้ปลดล็อคความสามารถตัวเอง เสียใจเพราะทำ ดีกว่าเสียดายที่ไม่ได้ทำ

85 Nameless Fanboi Posted ID:l4m8zerXdJ

>>84 ใช่ ๆ มันก็เป็นสีสันดีออก น่ารัก ๆ

86 Nameless Fanboi Posted ID:KDvPs4/JAh

>>84 ใช่555555 จริงๆเริ่มๆลืมไปบ้างแล้วนะ แต่คลิปมันเด้งขึ้นมาตรงวิดีโอในเฟสกูว่าในคลิปนั่นมันต้องมีกูแน่ๆ แล้วมีจริงๆด้วยแม่ง5555

ในเม้นบ้างก็บอกเป็นคนที่ทีมงานจ้างมาเอาความตลกๆหรือป่าว มาเป็นสีสันรายการหรือป่าว กับคนอื่นกูไม่รู้นะว่าจ้างมาหรือป่าวแต่กูอ่ะของจริง55555555 อหกูไม่ได้ได้ตังเลยนะ555555555555เห็นแบบนั้นแล้วอย่างน้อยได้ตังก็ยังดี แต่ทำไงได้นะกูไปเอง5555555555555555กูไม่ไหวจริงๆแม่งเอ้ยยยย

87 Nameless Fanboi Posted ID:KuV2jwse.b

>>81 อย่างมึงไม่ได้Loserหรอกเรียกว่าเสร่อมากกว่า มีอีกหลายคนที่หลบอยู่ในรูไม่กล้าออกสู่สาธารณะชน ด่าคนนู้นคนนี้ว่ากากแต่ตัวเองแม่งจริงๆไม่ได้เรื่องกว่า ไม่พยายามที่จะทําอะไรพัฒนาตัวเองหรือเปลี่ยนแปลงตัวเอง มองว่าตัวเองเจ๋งตัวเองประกาศชัยชนะได้ แต่พอให้มาแข่งมาแสดงอะไรแม่งหนีหลบเป็นหมา อันนี้กูว่าLoserของจริง กูว่ามึงแม่งมีBallsกล้าออกทีวีก็เท่สัสๆละหว่ะ

88 Nameless Fanboi Posted ID:l4m8zerXdJ

>>87 ไม่ว่ะ คนที่ไม่ออกมาทำ คือคนที่รู้จักตัวเองพอว่าทำไมไ่ด้ แล้วไปฉายแสงด้านอื่นที่ตัวเองทำไม่ได้ การด่าคนอื่นในเน็นคือความบันเทิงอย่างนึงไม่ใช่ losers อะไร

89 Nameless Fanboi Posted ID:NjQazNF5y3

>>87 เสร่อไงวะ กูว่าใจถึงดีออก >>88 กูไม่เก่งอะไรก็ยังเสนอหน้าไปทำเลย กูว่ามันเป็นการท้าทายความสามารถตัวเอง อย่าไปจำกัดกรอบตัวเองว่าทำไม่ได้ ถ้าไม่เคยลอง

90 Nameless Fanboi Posted ID:QjqDGqXvE1

>>89 เสร่อเพราะสะเพร่าประมาณความสามารถตัวเองผิด และไม่มีความเข้าใจในวงการแข่งขันนั้นๆว่ามันต้องมีการเรียนการฝึกฝนมา แต่ใจถึงอ่ะใช่ นับถือเลยแหล่ะ

91 Nameless Fanboi Posted ID:VMX7CNbdtS

กูเป็นคนที่น่าเบื่อมากก เงียบมากกๆๆ ได้แต่หัวเราะแหะๆ เอ๋อๆ ทำไรชักช้า จิตใจก็อ่อนแอ แถมกลัวคนนิดๆ กูว่ากูใช้ชีวิตทำงานไม่ได้แน่เลยว่ะ เห้ออ ูดแล้วเครียด คือช่วงนี้กูฝึกงานใช่ป่ะ ล่ะกูอัทยาศัยแย่สุดๆๆ จะสัปดาห์นึงแล้ว ยังไม่สนิดกับพี่ที่ทำงาน ยังทำห่าอะไรไม่ได้เลย เสียใจว่ะ กูคิดบ่อยๆว่ามันจะมีใครแย่ไปกว่ากูอีกไหม แล้วคนรอบข้างคงจะอยากให้กูหายๆไปแน่เลย ฮือ

92 Nameless Fanboi Posted ID:VMX7CNbdtS

คือกูก็อ่านวิธีเข้าสังคม วิธีการผูกมิตร วิธีการเพิ่มความมั่นใจนะ แต่พอก็จะเอาไปใช้จริงๆ กูทำไม่ได้อ่ะ ความกลัวมันกัดกินความกล้าไปหมด พวกมึงอาจจะคิดว่าแค่คุยกับคนมันยากตรงไหน สำหรับกูมันยากมากๆๆ ยิ่งผูกมิตรจนไปถึงขั้นสนิดในระดับหนึ่งนี้ มันเกินเอื้อมสำหรับกูมากๆ คือกูไม่ได้นิสัยแย่อะไรนะ แต่กูยอมรับว่ากูปิดกั้นตัวเอง ด้วยความไม่กล้าในหลายๆอย่างด้วยแหละ เห้อ คิดแล้วเศร้า

93 Nameless Fanboi Posted ID:kWvYKINbVG

>>92 ทำงานไม่ต้องไปสนิทมากหรอก เอาแค่ไม่ตีกันก็พอ สำคัญคือช่วยคนอื่นทำงานช่วยทีมทำงานก็พอ

94 Nameless Fanboi Posted ID:l4m8zerXdJ

>>90 จะว่าไปเสร่อมันแปลว่าไม่รู้จักธรรมเนียมสังคม ไม่รู้จักอ่านบรรยากาศป่ะ

95 Nameless Fanboi Posted ID:l4m8zerXdJ

https://th.wiktionary.org/wiki/สะเหล่อ#ภาษาไทย

เนื้อหา
1 ภาษาไทย รากศัพท์ การออกเสียง คำคุณศัพท์ ดูเพิ่ม
ภาษาไทย
รากศัพท์
กร่อนมาจาก เซ่อ + เล่อ

การออกเสียง
การแบ่งพยางค์ สะ-เหฺล่อ
การแผลงเป็น
อักษรโรมัน ไพบูลย์พับบลิชชิง sà-lə̀ə
ราชบัณฑิตยสภา sa-loe
(มาตรฐาน) สัทอักษรสากล(คำอธิบาย) /sa˨˩.lɤː˨˩/(ส)
คำคุณศัพท์
สะเหล่อ (คำอาการนาม ความสะเหล่อ)

(ภาษาปาก) ทั้งเซ่อและเล่อ, ทั้งเซ่อซ่าและเล่อล่า
ดูเพิ่ม
เสร่อ

96 Nameless Fanboi Posted ID:CrttD8U.3+

อิจฉาคนที่ติ่งเกาหลีอ่ะ เวลาไปไหนก็มีป้ายมีสแตนดี้ดาราที่ชอบ ได้ไปกรี๊ดกร๊าดถ่ายรูปกัน กูอยากมีฟีลนั้นบ้าง555555 เอาจริงเด็กผญGen z นี่เป็นติ่งกัน80%เลยนะ เพื่อนกูก็เป็นติ่งหมดเลย เวลาเขาคุยกันแล้วเราไม่รู้เรื่องมันก็แอบอึดอัดไม่รู้ว่าควรไปอยู่ตรงไหนดี เหมือนเพื่อนก็สังเกตุและพยายามไม่คุยเรื่องเกาหลีมากตอนอยู่กับกู เพื่อให้กูสามารถแจมด้วยได้ แต่เขาก็ไปจับกลุ่มกันเองที่ไม่มีกูเพื่อคุยเรื่องเกาหลีกันอ่ะ แอบเฟลๆแต่พอเข้าใจได้ เป็นติ่งคือดีตรงที่ไปเมคเฟรนกับคนที่ติ่งด้วยกันได้ง่ายด้วย เพื่อนเคยมาขายให้กูนะ แต่กูไม่อินจริงๆอ่ะ ถามว่าหล่อมั้ยก็หล่อ แต่ก็แค่นั้นไม่รู้สึกอะไร เคยไปดูพวกรายการวาไรตี้ กูก็ไม่ค่อยชอบพวกท่าทางอะไรแบบนั้น เออกูรู้สึกว่ามันfakeเกินไปนั่นแหละ55555 แต่เพื่อนกรี๊ดกันมาก

97 Nameless Fanboi Posted ID:K7RLYNFegs

>>96 ท่าทางแบบไหนที่มึงว่าfakeขอรู้เป็นจุดสังเกตหน่อย กูก็ติ่งเกานะกรี้ดเบ้าหน้าอย่างเดียวไม้ได้ตั้งใจดูเลยfakeไม่fake

98 Nameless Fanboi Posted ID:D.qua8pyy8

>>97 หน้าพลาสติก = Fake assครับ ไปศัลยมายังหล่อสู้กูไม่ได้เลยหว่ะ สายเกาแม่งกูว่าตุ๊ดแถวบ้านกูยังจะดูหล่อกว่าแม่งอีก

99 Nameless Fanboi Posted ID:CrttD8U.3+

>>97 บอกก่อนว่ามันเป็นแค่ความรู้สึกกูนะ กูรู้สึกว่าพวกเขาจะดูตุ้งติ้งๆเหมือนผญหน่อยอะ บางทีก็มีท่าเซอร์วิสทำท่าแบ๊วๆ ยิ้มขยิบตาใส่กล้องไรงี้5555 กูก็แค่ไม่ชอบดูแนวนี้เฉยๆแหละ ส่วนพวกMVเพลง เวลาดูกูก็รู้สึกเหมือนดูงานศิลป์สวยๆ(โปรดักชั่นเขาดีจริง)​ แต่ไม่ได้รู้สึกแบบ โหหล่อมากเท่มาก อะไรงี้

100 Nameless Fanboi Posted ID:cWcZVjUSgi

>>99 อ๋ออออ ปกติกูชอบเมมที่ดูขรึมๆ เมมที่แสดงออกแบบแมนๆอยู่แล้ว พวกแบ๊วๆส่วนใหญ่พวกหน้าหวานๆตัวบางๆหน่อยพวกตุ้งติ้งกูก็ไม่ค่อยชอบนะ บางคนไม่เหมาะแก่การตุ้งติ้งเลยมึงฝืนธรรมชาติสาส แต่ไม่ได้สนใจจะดูเท่าไหร่ไม่ได้เอะใจว่านั่นfake55555
เออละมีบางพวกที่เซอร์วิสชิปเปอร์แบบปลอมๆด้วย ดีนะกูไม่ได้ไปบ้าตามพวกแม่ง

101 Nameless Fanboi Posted ID:bOUMHXL4ax

>>100 อ่อถ้างั้นขอถามหน่อย แล้วคิดอย่างใงกับพวกวงdeath core เท่ไหม

102 Nameless Fanboi Posted ID:R8SWmHQs4h

>>101 https://youtu.be/5PGcVeZVav8 เอาเรื่องอยู่คร๊

103 Nameless Fanboi Posted ID:R8SWmHQs4h

>>101 เอาตรงนะ มึงไปถามเรื่องดนตรีกับติ่งนี่ใช้ไรคิดวะ ความสามารถทางด้านดนตรีไม่สนคร่ เขาดูแต่อิมเมจอ่ะค่ะ

104 Nameless Fanboi Posted ID://xLqqDjyf

>>103 ไม่ใช่เรื่องดนตรี ก็หมายถึงอิมเมจนี่แหละ

105 Nameless Fanboi Posted ID:mXzjLhAtRr

>>101 อันนี้หรอ>>102 กูเข้าไปตกใจเลยกูไม่ได้ฟังเพลงแนวนี้มาก่อน5555555 ถ้าเอาแต่หน้าตาก็บอกไม่ถูกนะ มันดูนานแล้วก็เท่ในยุคนั้นแหละ

106 Nameless Fanboi Posted ID:dDRvsbTb/q

>>105 มันไม่ได้มียุคนะ แนวนี้มีมาตลอดนับวันวงไหม่ๆจะเยอะขึ้น ญี่ปุ่นก็เริ่มมีแนวนี้ ลองดู https://m.youtube.com/watch?v=x1soPy2YmH0

107 Nameless Fanboi Posted ID:2HWgt+JOCv

https://youtu.be/zd5GGvWWnzU
คนที่ร้องคนแรกเป็นไง

108 Nameless Fanboi Posted ID:tMzxb0dnNh

อายุ 35 เงินเดือน 120,000 รู้สึกโคตรจะ loser เลยว่ะ

109 Nameless Fanboi Posted ID:W/Igrq9Y0Q

>>108 แถวบ้านกู อายุ 50 เงินเดือน 15000 อยู่เลย คิดมาก

110 Nameless Fanboi Posted ID:tMzxb0dnNh

>>109 เพื่อนกุมีแต่พวกรวย ๆ 😩

111 Nameless Fanboi Posted ID:wPHaRW+D+y

ความloser ของกูคือ
หลงตัวเอง

เกิดมาจนนะแต่หัวสูงอยากมีอยากหรูไปอวดคนอื่นกลบปมด้อย(แต่อันนี้กูพยายามทำงานเก็บเงินไม่สร้างหนี้สิน ไม่ใช้จ่ายเงินเกินตัว)

ขี้อิจฉาอ่ะ เห็นใครดีกว่าไม่ได้ แต่คิดไปมาก็เหนื่อยเปล่าที่ไปอิจคนอื่น เลยพยายามโฟกัสแค่ตัวเอง

ตะเกียกตะกายอยากไปแต่เมืองนอก คนเรามันก็อยากได้คุณภาพชีวิตที่ดีกว่านี้อ่ะ

ขี้อวด เวลามีของอะไรมาใหม่ราคาแพงก็โพสอวดตลอด

112 Nameless Fanboi Posted ID:lcrTyoPa0F

อายุ25เงินเดือน70 แต่รู้สึกเหมือนcareer pathในประเทศนี้มันตันแล้วเลยว่ะ กูไม่ชอบคุยกับคนเข้าสังคมไม่เก่งพรีเซ้นห่วย ไม่อยากเป็นสายเมเนเจอร์ แต่ถ้ามุ่งไปสายspecialistแม่งก็คงขยับไปได้ไม่มากกว่านี้เท่าไหร่แล้ว ขี้เกียจพัฒนาตัวเอง พัฒนาทัศนะคติหรือเหี้ยอะไรก็ตามแล้วด้วย หลังเลิกงานอยากนอนเล่นเกมดูวีดูหนังโง่ๆไปวันๆ แต่ก็ยังมาต้องกังวลพวกเรื่องเงินออมไว้ใช้หลังเกษียณ หรือพวกค่ารักษาพยาบาลถ้าเกิดพ่อแม่กูป่วยขึ้นมาอีก(จากที่เคยเห็นมาค่าใช้รักษาพยาบาลแม่งก็ไม่ใช่น้อยๆ) เห้อ ถ้ากูย้ายประเทศหนีไปชีวิตกูจะดีกว่านี้ได้มั้ยวะเนี่ย

113 Nameless Fanboi Posted ID:EkcmmBcpFo

กูปัจจุบันอายุ 42 เรียนจบแค่ม.6 ยังคงเกาะพ่อแม่กินไม่เคยแม้แต่จะไปสมัครงานสักครั้งเดียว วันๆนึงใช้เวลาไปกันการ กิน นอน ดูเมะ เล่นเกม เที่ยวอ่าง กูรู้สึกว่าตัวเองแม่งลูเซอร์ชิบหาย แต่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองก็ขี้เกียจเกิน

114 Nameless Fanboi Posted ID:pbzsBrwAe2

>>113 ถ้ามึงไม่ได้ทำงาน แต่ทำกิจกรรมพวกนั้นได้โดยที่ไม่ขาดสนเงินทองมาจนอายุ42 กูก็ไม่เห็นเหตุผลที่มึงจะต้องเปลี่ยนนะ

115 Nameless Fanboi Posted ID:zcRyVGteNO

>>113 บ้านมึงรวยขนาดไหนวะเนี่ยไอ้เหี้ย หรือมึงจะบอกว่าไม่เคยสมัครงาน แต่เล่นหุ้นพอร์ทพันล้านวะ

116 Nameless Fanboi Posted ID:iI0LO4WoKD

>>113 ถ้าเกาะพ่อแม่แดกที่ว่าคือเกาะมรดกแดกหรือเกาะ passive income ของพ่อแม่แดก แล้วยังสามารถใช้ชีวิตชิลล์ๆ ใช้เงินไปกับเรื่องไม่จำเป็นได้โดยไม่อั้นและไม่ต้องทำงาน มึงคือผู้ชนะเว้ย 555 แต่ถ้าคำว่าเกาะพ่อแม่แดกหมายถึงพ่อแม่ทำงานอยู่แล้วมึงเกาะแดก อันนั้นอันตราย เพราะถ้าวันไหนพ่อแม่ทำงานไม่ไหวแล้ว รายได้ตรงนี้จะหายไป แต่กูเดาว่าแบบแรกนะ เพราะมึงอายุตั้ง 42 แล้ว พ่อแม่มึงไม่น่าจะทำงานแล้วมั้ง

117 Nameless Fanboi Posted ID:ELXP1m/.J6

>>112 เป็นเหตุผลที่เราต้องมีการเมืองดี มีรัฐสวัสดิการ เพราะที่เป็นอยู่ รัฐแทบไม่ช่วยเหี้ยอะไรเลย เงินผู้สูงอายุ ใช้ไม่กี่วันก็หมด อีสัส

118 Nameless Fanboi Posted ID:lcrTyoPa0F

ถ้ามึงยังสามารถใช้เหตุผลว่า"ขี้เกียจ"มาเป็นเหตุผลของการไม่เปลี่ยนแปลงตัวเองได้ แสดงว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นยังไม่ใช่สิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตมึง

119 Nameless Fanboi Posted ID:3SGutevs50

กูสามสิบกลางๆ กำลังเฟลว่าไปทำงานที่ไหนก็ทำไม่ได้นานเท่าไร ที่นานสุดคือสามปี แต่ระหว่างนี้ก็เปลี่ยน บ.ไปเรื่อย ความรู้สึกกูคือเหมือนเข้ากับคนที่ทำงานไม่ค่อยได้ กับกูเองพอทำไปสักพักก็ใจฝ่อหมดไฟ เหมือนกูไม่ขยันเอง กับเป็นคนพูดไม่ค่อยเก่ง บางที่อยู่ได้ไม่เกินอาทิตย์ บางที่ก็อยู่ได้2-3 เดือน พออายุเยอะ รู้สึกเหมือนกูพ่ายแพ้เอง ทำอะไรก็ไม่เก่งสักอย่าง ยังดีว่าครอบครัวกูซัพพอร์ทให้อยู่ แต่แบบเหมือนไม่มีอะไรเป็นของตัวเอง คือกูไม่ต้องขวนขวายหางานก็จริง แต่ก็รู้สึกกูอยากพัฒนาตัวเองให้ทำงานยาวๆกว่านี้ บางทีกูก็กลัวว่ากูกำลังลูซเซอร์ป่ะวะ แต่แบบพ่อแม่กูมีหน้าที่การงานดีมาก พอตัวเองทำอะไรไม่ยืดเหมือนพ่อแม่ บางทีกูก็ท้อแท้ ว่ากูมีอะไรดีบ้างวะ ถึงพ่อแม่กูไม่บ่นไม่ต่อว่า แต่ลึกๆกูก็กลัวว่า กูไม่มีอะไรให้เขาชื่นชมได้เลย

120 Nameless Fanboi Posted ID:tjmVRDYgKi

ต้อง shark wow ในวันวาเลนไทน์ loser สาด T_T

121 Nameless Fanboi Posted ID:hTimL+GsqH

>>120 เราจะloserไปด้วยกันโม่ง จับหรรม

122 Nameless Fanboi Posted ID:0y5OEYP+hM

when I was a kid I had a friend, which happened to be a girl, we used to play together, we were both ugly so there was no attraction between us. We were walking side by side going to school when she told me to keep distance because she doesn't want to be seen with me

123 Nameless Fanboi Posted ID:0y5OEYP+hM

https://www.youtube.com/watch?v=Ys93EYlJrtE

That reminds me of when I was being “confident” and talking to this one girl at my dorm. She had the heart and soul of an angel so she would talk to me like a normal person. I got her gifts, gave her rides and brought her meals when she was studying late. She liked my humor and thought my hobbies were interesting that she actually tried them out herself with me.

So one day I decided to take it to another level and asked her out to a play and dinner. She actually said yes because it was her favorite play and we started talking about plan arrangements. Her friends walked by on the way to their room and when they got to their door they burst into laughter like they had been holding it in for a while. The girl I was talking to told me to ignore them which I did. A few minutes later we said goodnight and I said I’d pick her up the next night at 5pm. She said she couldn’t wait. I had the biggest smile for the rest of the night.

The next day she wasn’t at her dorm and wasn’t answering my calls or text. Not wanting to waste a ticket, I went to the play by myself. When I ran into her a few days later and asked about what happened, she said she had been feeling sick. Every time I tried to hang out and talk she would tell me that she had to go. She slowly ghosted me and then wouldn’t even say Hi if we passed each other on the campus or hallway. One day we happened to have to use the same elevator. I tried talking to her, but she acted cold like I was some stranger bothering her. So I just gave up entirely.

Decades later this video explains things and now I get what happened.

124 Nameless Fanboi Posted ID:ar2p5rpowT

กับคนอื่นเขาทำให้มึงรู้สึกดีเนอะ มีชีวิตอยู่มันดีจังๆๆๆ
ส่วนกูพูดห่าอะไรก็ผิดหมด ดีแต่ทำให้มึงอยากตาย เออดีเนอะ ใช่สิ กูมันเหี้ยนี่

Topic expired

Topic has reached inactivity threshold.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.