Last posted
Total of 1000 posts
มีใครเคยออกจากงานเพราะดันไปชอบคนในที่ทำงานที่เดียวกัน แต่อีกฝ่ายเขาดันมีแฟนแล้วบ้างไหมวะ
คือเงินอาจจะไม่เยอะ แต่งานก็ดีนะไม่หนักมาก แต่พอกูคิดเรื่องเขากับแฟนเขาแล้วกูรู้สึกเจ็บจนทนไม่ไหวจริงๆว่ะ
ปล. กูกับเขาคุยกันแค่ในที่ทำงานเฉยๆนะ ไม่เคยนัดกันไปเที่ยว
มีงานอะไรที่งานไม่หนักเเล้วจบมาทุกอาชีพก็ทำได้บ้างวะ
คือกูจบวิศวะ เเล้วพอมาลองสัมผัสงานวิศวะ เเม่งไม่ใช่ทางกูเลยว่ะสัส เเล้วเวลามันน้อยมากสำหรับอยากจะทำจ๊อบอื่น
กูมีจ๊อบเสริมงานฟรีเเลนซ์อยู่ไง ทีนี้งานวิศวะบ.ที่ทำเเม่งงานเยอะจริงโอรัวๆ ได้เงินเยอะเเต่กูก็อยากทำจ๊อบเสริมด้วย(เป็นงานที่ชอบ)
กูทำมาสองปีละทีนี้กูเริ่มได้เงินฟรีเเลนซ์พอๆกับเงินเดือน เเถมทำเเค่ไม่กี่วัน กูอยากลาออกเหมือนกันเเต่ฟรีเเลนซ์ก็ยังไม่มั่นคงขนาดนั้น คำถามคือ กูจะหางานประจำที่งานไม่หนักสบายๆ เลิกหกโมงทุ่ม เอาเเบบไม่ต้องเเบกงานกลับมาทำที่บ้านได้บ้างไหมวะ เงินไม่ต้องเยอะ ต้องการเวลากับพลังงานไปลงกับงานฟรีเเลนซ์ ไม่ต้องสายวิศวะก็ได้มีอะไรบ้าง เปิดกะลาให้กูหน่อย ไปทำบัญชีอะไรพวกนี้งานหนักไหม
บัญชีมึงจะตายเอา กุแนะนำประสานงาน ธุรการนะ มันจะจบ ไม่ก็งานประเภทเอกสารล้วนๆ
งานประสานงานธุรการ งานเอกสาร นี่อะไรบ้างอะ พวกcall center อะไรพวกนี้เหรอ ถ้าจะเซิร์จค้นหาต้องเซิร์จว่าไง
ตอนนี้เเพลนโง่ๆเเบบสิ้นคิดของกูคือ พยายามเข้าราชการหน่วยงานที่งานไม่หนักมากให้ได้ จะได้มีเวลาตามที่หวัง
เเต่ถ้าเข้าไม่ได้ก็จะหาเเผนสองเนี่ยเเหละ งานอะไรก็ได้ที่ทำได้สบายๆ จบเป็นวันไป
>>984 เออ งานธุรการนี่แหละไม่หนักแน่นอน อีกงานที่กูว่าไม่หนักด้วยคือ กูว่าคงเป็นพนักงานรายวันตามพวกเทกซ์ไทล์ ตามโรงงานอุตสาหกรรมรายวันหว่ะ อันนั้นคือวันละ300บาท เลิกงานปุ๊บจบตรงนั้นเลย มึงจะสนไหมล่ะ? ส่วนข้าราชการที่ไม่หนักมากสุดๆเลยนะ รู้สึกว่าการปกครองส่วนท้องถิ่นนี่แหละหนักน้อยสุด แต่คนสมัครเยอะสัสๆเพราะรู้กันทั่วว่าสบายง่ายๆ ถ้ามึงจะราชการมึงไปเป็นลูกจ้างชั่วคราวให้เค้าง่ายกว่านะ ไม่ก็ พนง.ราชการก็ได้อยู่
>>980 พี่เพื่อนกุจบวิศวะ แต่ทำงานแบงค์ มันบอกว่ามีตน.ที่เขาชอบจ้างเด็กวิศวะอยู่เว้ย ไม่รู้เอาไปคิดเลขหรือไรเดี๋ยวกูไปถามมาให้ อย่างอื่นก็พวกแอดมิน เซลโค ไฟแนนซ์บางที่ก็ไม่จำเป็นต้องจบด้านนี้ ส่วนมาเก็ตติ้งกูแลดูจะไม่ใช่ทางมึงกูตัดออก งานฟรีแลนซ์มึงทำอะไรวะ ทำไมรายได้ดีขนาดไม่กี่วันเท่าเงินเดือน
มือลั่น กุคิดว่าตน.งานมันล้านแปดเลยนะ แต่เอาที่ดีกว่า 300 ต่อวันเถอะ มึงเองก็เป็นแรงงานมีสกิล ถ้าเอาตามข้อกำหนดของมึงว่า 1.ไม่หนักมาก เลิกหก-ทุ่ม (เทียบบ.ทั่วไปแล้วคือโอ1-2ชม. หรือไม่มีโอถ้าเวลายืดหยุ่น) 2.ไม่หวังเลื่อนขั้น/ก้าวหน้า/โบหนักๆ เพราะยังไงมึงมีรายได้สองทางอยู่แล้วเลยไม่แคร์ตรงนี้มาก มึงลองบราวซ์เอาจากเขตบ้านมึงละนั่งไล่อ่านอันที่ถูกใจดูเลย คนอาจจะถามนิดหน่อยที่จบวิศวะแต่ไม่ทำตามสาย กุงงมากเวลาคนบ่นงานหายาก ที่มีปห.น่ะเพราะคิดว่าเงินสูงไม่เท่าที่หวัง/โบน้อยกันทั้งนั้น แต่ถ้าตัดสองอย่างนี้ไปกุว่างานกลางๆ ไม่หวือหวาทั้งแง่ของการใช้งานเราและรายได้น่ะเยอะจะตาย
เงินเดือนกูตอนนี้ประมาณ 27000 อะ ทำวิศวะบ.ยุ่นมาสองปี อันนี้คือรวมสวัสดิการเสริม ใบกว.+ค่าภาษาTOEIC+ญี่ปุ่น เเล้วนะ(กูได้TOEIC 870, n3)
ทีนี้มันก็บ.ยุ่นอะ งานหนัก โอเยอะ เน้นทำงาน ทีนี้งานฟรีเเลนซ์กูคืออิลลัส ,รับงานแปล รายได้ทำเฉพาะวันหยุดตอนมีงานก็ราวๆ 8000-35000 เเกว่งไปมาตามความที่ไม่มีงาน หรือ ไม่มีเวลาทำงาน บางเดือนเเม่งก็ได้เยอะมากกว่างานประจำกูอีก
คือจะให้กูออกไปทำฟรีเเลนซ์เต็มตัวก็ยังพออยู่ได้เเละคิดว่าหาเงินได้มากกว่านี้ เเต่มันก็ไม่มั่นคงอะมึงเเละกูคิดว่า หางานประจำโง่ๆ เอาเงินเดือนซัก12000-15000 เเต่อยากได้งานที่เติบโตฐานเงินบ้างไปเรื่อยๆตามอายุน่าจะดีกว่าออกมาฟรีเเลนซ์เพียวๆ เสี่ยงเกินไป อนึ่งกูคิดว่ากูยังมีเเรงทำอยู่ จะทำสองงานไปก็ไม่เสียหาย
ที่กูอยากเข้าราชการ ไม่ก็รัฐวิสาหกิจเพราะมันก็โตตามCเเละอายุใช่ปะ สวัสดิการมีเเถมเลิกตรงเวลา ตรงสเปคกูเลย เข้าไปทำงานโง่ๆ หรือไม่โง่ก็ได้ มีงานไม่เป็นไร เเต่ขอเลิกตรงเวลา โอบ้างไม่เน้นโอ ไม่ต้องงานเยอะเเบบต้องกลับมาทำที่บ้านเเบบบ.ยุ่น หยุดเสาร์อาทิตย์ มีความก้าวหน้าทางเงินเดือนพอละ ยิ่งงานไม่เครียดยิ่งดี งานวิศวะเเม่งก็เครียดว่ะ กดดัน เเต่ราชการ,รัฐวิสาเเม่งก็เข้ายากอยู่ เลยเผื่อมองอาชีพที่ไม่ใช้วิชาชีพเป็นทางเลือก อยากหนีวิศวะละ
จะปรับเงินเดือนขั้นต่ำจริงหรอวะ หรือแค่คิด
ถ้าจริงนี่ข้าวกูจานเท่าไหร่เนี่ย
https://www.thairath.co.th/news/business/1519793
กูไม่มีเพื่อนที่ทำงานเลย ซึ่งในชีวิตประจำวันกูแฮปปี้ดีนะ กูชอบอยู่คนเดียว กินข้าวคนเดียว ไม่เม้ามอยกับใครทำงานของกูไป ส่วนเรื่องงานก็คุยประสานงานกับเพื่อนร่วมงานได้ทั่วไปตามปกติ แต่เวลาบริษัทมีอีเวนต์ต่างๆ กูจะประดักประเดิดมาก เพราะกูไม่มีกลุ่มแบบคนอื่น ไม่รู้จะไปนั่งโต๊ะไหนกับใครดี ไม่มีคนทำกิจกรรมกลุ่มด้วย จะไปแจมกลุ่มคนอื่นเค้าก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ แต่ก็คือรู้สึกได้อะว่าเค้าก็อยากอยู่ของเค้าเองสนิทๆ กันเนอะ เราคนนอกไปอยู่ด้วยเค้าก็อึดอัด จะทำอะไรตัวคนเดียวแบบในชีวิตประจำวันก็ทำไม่ได้เพราะรูปแบบงานมันบังคับให้ต้องทำร่วมกับคนอื่น ตั้งแต่การนั่งรถบัส นั่งโต๊ะกินข้าว ทำกิจกรรม ฯลฯ
>>994 หาคนที่มีความชอบแบบเดียวกันแล้วชวนคุยมันก็ไม่อยากอะ อย่างกูตอนแรกๆเข้าไปก็ไม่กล้าคุยกับใคร แต่ทำไปซักพักพอรู้ว่าคนนั้นคนนี้มีไลฟ์สไตล์แบบเดียวกับกู เช่นชอบเล่นเกมคอนโซล ชอบไอดอลญี่ปุ่น เกาหลี ชอบดูช่องยูทูปเดียวกัน ชอบรถยนต์ ปรากฏว่ากูก็เข้าได้กลับทุกกลุ่มไม่ยากเลย แต่เผอิญกูเป็นคนติดสื่อบันเทิงทุกรูปแบบอะ เลยกลายเป็นใครคุยอะไรกันกูรู้เรื่องหมด
อีช่อ ล้มเจ้า !! อีช่อ ล้มเจ้า !! อีช่อ ล้มเจ้า !! อีช่อ ล้มเจ้า !! อีช่อ ล้มเจ้า !!
พรรคอนาคตใหม่ ล้มเจ้า !! พรรคอนาคตใหม่ ล้มเจ้า !! พรรคอนาคตใหม่ ล้มเจ้า !!
คนเลือกพรรคอนาคตใหม่ คือพวกล้มเจ้า !! คนเลือกพรรคอนาคตใหม่ คือพวกล้มเจ้า !!
กูเป็นฟรีแลนซ์ ก่อนหน้านี้กูขยันมากๆ รับงานเยอะสุดๆ ชีวิตประจำวันคือ ตื่นมาออกกำลังกายตอนเช้า อาบน้ำ กินข้าวเช้า อ่านหนังสือดีๆพร้อมจิบกาแฟชมดอกไม้ จากนั้นก็ทำงาน กินข้าวกลางวัน ทำงาน กินข้าวเย็นกับครอบครัว ทำงาน เข้านอน บางวันถ้ามีเพื่อนชวนก็ออกไปเที่ยวบ้าง ชีวิตดูเป็นรูทีนที่สงบสุข แต่จู่ๆกูก็รู้สึกไม่อยากทำงานว่ะ กูค่อยๆลดงานที่รับลง รู้สึกไม่อยากทำงานนั้น ไม่อยากทำงานนี้ กูค่อยๆปฏิเสธ จนสุดท้ายไม่รับสักงานเลยว่ะ ตอนแรกก็คิดว่าขี้เกียจหรือป่าว แต่อาการมันหนักกว่าขี้เกียจอีก คือมันไม่อยากแตะงานเลยอ่ะ ขี้เกียจของกูคือทนๆทำไป แต่นี่คือกูไม่สามารถแตะงานได้เลย กูไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนอ่ะ คิดว่ากูดูแลตัวเองดีแล้วนะ ทั้งการนอนหลับ สุขภาพกาย และความสัมพันธ์กับคนอื่น แต่กูลืมนึกถึงสุขภาพใจไปว่ะ ตอนนี้กูทำตัวเรื่อยเปื่อยเป็นผักมา 2 เดือนละ นั่งดูซีรี่ย์โง่ เล่นเกม กิน ไปเที่ยว ช็อปปิ้ง ผลาญเงินเก็บ มันก็ไม่มีความสุขขึ้นเลยว่ะ แต่ก็ไม่ได้เศร้านะ (กูเคยเป็นโรคซึมเศร้ามาก่อน อาการมันก็ไม่ได้เป็นแบบนี้) มันรู้สึกเฉยๆว่ะ เหมือนกูเป็นมันฝรั่งอ่ะ กลวงๆไงไม่รู้ว่ะ มันคืออาการที่เค้าเรียกว่า burn out หรือเปล่าวะ มีใครเคยเป็นแบบกูบ้าง กูควรไปหาจิตแพทย์มะ
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.