>>61 จับมือมึง ไอสัส กูก็เป็นเหมือนกันแต่ตอนนี้กูผ่านมาละ อายุ 25 แล้วด้วย เติบโตมาพร้อมกับอาการทางจิตเล็กๆ
กูไม่รู้ว่าจะช่วยได้มั้ยแต่จะลองแชร์ประสบการณ์ของกูละกัน มันอาจไม่ดีหรอกแต่มันทำให้กูผ่านมาได้และพยายามเป็นคนทึ่ดีขึ้นได้
ตอนที่กูโดนรังแก กูโดนสารพัดั้งทางกายและทางใจ โดนด่า โดนท้าตบ โดนขู่ เอามีดโกนมาแอบโกนผม เอากาวมาป้ายเสื้อ โดนตบหัว บิดแขน ตั้งฉายาเหี้ยๆให้ ล้อเลียน ทำขยะแขยงทั้งตัวกูและข้าวของที่กูใช้ เวลาอาจานแจกหนังสือเรียนกลับมาเงี้ยแล้วให้แจกก็ทำท่าไม่อยากจะแตะ แบบจีบนิ้วโยนให้งี้อ่ะแล้วอี๋ๆกัน มีโดดถีบด้วย ควยมากๆ
แล้วด้วยปมว่ากูไม่มีเพื่อนเพราะถูกเกือบทั้งห้องรุมแกล้ง คนไม่แกล้งก็จะทำเมินๆหน่อย คนแกล้งก็แกล้งชิบหายเหมือนเป็นกิจกรรมสนุกๆอ่ะ กูก็โหยอยากมีเพื่อนใช่ป่ะล่ะ ก็พยายามทำตัวเป็นเบ๊ ทำตัวให้คนที่ไม่ได้แกล้งประทับใจเค้าจะได้เอาเข้ากลุ่ม คิดแล้วก็สมเพชตัวเองมากที่ยอมก้มหัวขนาดนั้นเพื่ออยากมีเพื่อน แต่มันก็ช่วยได้นิดหน่อยอ่ะนะ พอขึ้นม.3กูถึงเริ่มมีคนที่คุยกับกูบ้างแต่เค้าก็ยังไม่เอากูเข้ากลุ่มเหมือนเดิมเพราะกูเรียนไม่เก่ง ไม่มีประโยชน์ก็เป็นได้แค่นั้นแหละไม่ได้รู้สึกเหมือนได้เป็นเพื่อนใครจริงๆเลย และก็ยังโดนแกล้งเหมือนเดิม
กลายเป็นว่ากูไม่มีที่ให้อยู่อ่ะ กลุ่มแกล้งกูก็อยู่ักับมันไม่ได้ กลุ่มไม่แกล้งก็ไม่ได้เหลียวแล ก็แค่คุยด้วยแต่ก็ไม่ได้รู้สึกเหมือนเป็นเพื่อนจริงๆอยู่ดี เวลาโดนแกล้งก็ไม่ได้มีใครจะมาช่วยอะไรกู
จนวันนึง กูตระหนักได้ว่าทำไมกูต้องอยู่จุดที่ต่ำสุดของสังคมด้วย ทำไมต้องแพ้ตลอด ทำไมต้องยอมโดนแกล้ง ทำไมต้องยอมเป็นเบ๊ ทำไมกูไม่พยายามเพื่ออับเวลตัวเองแทนที่จะพยายามเพื่อให้คนอื่นชอบ กูเลยบอกตัวเองว่ากูจะไม่ยอมแล้ว แล้วกู็เริ่มเรียนรู้จากคนอื่นที่ไม่มีคนแกล้งว่าเค้าอยู่ยังไง กูเลยเข้าใจว่าผลประโยชน์เนี่ยแหละคือสิ่งที่ทำให้บางคนลอยตัวอยู่ได้
กูเริ่มเข้าหาอาจารย์ไปช่วยงานทำตัวให้ดูน่าเชื่อถือในสายตาอาจารย์ มีไรอาจารย์ก็จะฝากเรามาบอกเพื่อนงึ้ พอเป็นงั้นคนอื่นก็จะเริ่มเกรงใจเหมือนว่ากูเป็นเด็กอาจารย์การแกล้งก็ลดลง แล้วก็ตั้งใจเรียนให้มากๆ พอผลสอบออกมาดี พวกที่เฉยๆก็จะเริ่มมองกูใหม่ละ จะเริ่มเข้ามา
ครั้งนึงกูทำผลสอบได้รองท๊อป จากคนที่สอบได้โหล่มาตลอดทีนี้ทุกคนแม่งเงิบ เข้ามาชมเลยนะ ทำได้ไง สุดยอด รู้สึกได้รับความสนใจมากแล้วกูก็เข้าใจว่าโมเดลนี้ใช้ได้ เมื่อมึงเก่งและเอาตัวรอดเองได้ มันจะมีความน่าเชื่อถือมากพอที่คนจะเริ่มไม่กล้าแกล้ง เพราะมันกดมึงไม่ได้แล้ว มึงมีผลประโยชน์แล้วใครๆก็อยากเข้าหารวมทั้งพวกเหี้ยๆด้วย
ชีวิตช่วงปลายๆม.3กูเลยผิดจากเมื่อก่อนมาก กูมีเพื่อนโดยไม่ต้องพยายามหาเพื่อน กูไม่โดนแกล้งแล้ว กูไม่โทษคนที่เฉยๆกับกูนะ เพราะการที่กูทำตัวเหมือนเป็นบุคคลที่มีชั้นต่ำสุดของสังคม มันก็ไม่มีใครอยากคบหรอก เหมือนความประทับใจแรกพบอ่ะ ใครจะรู้ว่าเรานิสัยดีแค่ไหนล่ะถ้าไม่ทีอะไรดึงดูดเค้าให้มาเรียนรู้เรา มิตรภาพความจริงใจมันจะเกิดขึ้นหลังจากเรารู้ัจักกันแล้วน่ะแหละมันต้องสร้าง แต่ขั้นแรกคือต้องทำตัวให้ดูน่าคบก่อน ชีวิตจริงมันก็งี้
เพราะงั้นถ้าให้แนะนำมึง กูอยากให้มึงโฟกัสที่ตัวเอง ลืมๆคนอื่นไปก่อน มองหาสิ่งที่มึงทำได้ดีและขัดเกลามันให้โดดเด่นจนเป็นประโยชน์ที่คนอื่นต้องง้อ ตั้งใจเรียน เข้าหาอาจารย์ทำตัวใสๆ สุภาพ มีความพยายามผู้ใหญ่จะเอ็นดูมึง ยิ้มแย้มแจ่มใสมีไมตรีแม้แต่กับคนที่แกล้งมึง
เมื่อถูกแกล้งอย่าตอบโต้ด้วยความรุนแรงแต่ให้ทำเหมือนมึงโนสนโนแคร์แต่ไม่ใช่ยอมให้มันทำนะ อย่างถ้าโดนดึงผมก็ให้หันกลับไปพูดกับมัน ดึงทำไมเป็นอะไรหรอ นิ่งๆอย่าโวยวาย ใช้ความอ่อนโยนเข้าช่วยแต่พยายามหลีกเลี่ยงออกจากมันมาด้วยจะได้ไม่เจ็บตัว การแกล้งมันจะสนุกเมื่อมันทำแล้วมันมีอำนาจ แต่เมื่อมันทำไม่ได้มันจะหยุดแกล้งมึง
แต่ถ้าหนักข้อมากก็ขอให้อาจารย์ช่วยร้องห่มร้องไห้ แอคติ้งเข้าไปแต่อย่าแสดงออกในด้านลบมากเกินไป ทำให้เหมือนว่ามึงหาทางออกไม่ได้แล้ว ถ้ามีความสัมพันธ์ที่ดีเค้าจะช่วยมึง ยังไงๆก็ต้องมีสงสารบ้างแหละวะ คิดดูว่าขนาดในโม่งไม่รู้จักกันยังสงสารพยายามช่วยรับฟังมึงเลยแล้วคนใกล้ตัวแบบนั้นจะไม่อะไรเลยหรอ
กับพวกเหี้ย ถึงมันจะเหี้ยก็อย่าทำเหี้ยตามมัน อย่างที่ว่าคือทำให้เหมือนว่ามันมีอำนาจเหนือมึงไม่ได้ มึงไม่ตอบโต้มันแต่ไม่ได้ยอมให้มันแกล้ง ยิ้มบ่อยๆ มีความสุขกับตัวเองมากๆ อย่าให้มันเห็นว่ามึงเดือดร้อนจากการกระทำของมัน ใจเย็นแล้วตั้งใจพัฒนาตัวเอง วันนึงมึงจะอยู่สูงพอที่พวกนั้นไม่กล้าแกล้งมึง เพราะดีไม่ดีมันอาจต้องขอให้มึงช่วยด้วยซ้ำไป