ทำไมหัวหน้้าชอบให้กูทำอะไรที่มันมิชชั่น อิมพอสสิเบิลลล
คือแบบบบบถ้าจะสั่งแบบนี้ อยากให้หัวหน้าไปถูตะเกียงขอจินนี่เอา
Last posted
Total of 1000 posts
ทำไมหัวหน้้าชอบให้กูทำอะไรที่มันมิชชั่น อิมพอสสิเบิลลล
คือแบบบบบถ้าจะสั่งแบบนี้ อยากให้หัวหน้าไปถูตะเกียงขอจินนี่เอา
จินนี่ ้ะ จินนี่ จ๋าา ออกมา อาอาาา
กูได้งานใหม่ที่กทม พอจะย้ายแล้วก็รู้สึกเหงาๆเหมือนกัน ที่ทำงานเก่าอยู่ต่างจังหวัดค่าครองชีพไม่สูงมาก เงินเดือนก็ดี เพื่อนร่วมงานและหัวหน้ามีปัญหาบ้างแต่ไม่ถึงขั้นอยู่ด้วยกันไม่ได้ แต่ที่ตัดสินใจเปลี่ยนงานเพราะระบบงานเป็นหลักเลยว่ะ
ถึงตอนนี้ก็ยังรู้สึกเสียดายอยู่ว่าถ้าระบบงานมันดีกว่านี้คงไม่ต้องเข้า กทม
แฟนกูอายุไม่น้อย แต่ไม่ค่อยเรียกสิทโดยเฉพาะที่บริษัท เวลาเงินเดือนออกเงี้ยก็ไม่ขอสลิปเขา เงินออกเดือนนึงาองครั้งเจาแบ่งจ่าย พอได้น้อยก็แบบปล่อยผ่านอ่ะบอกว่าส่งสัยสายบ่อยอะไรบ่อย เฮ้ยยคือมึ้งงงงง อย่างนี้จะรู้ได้ไงว่าประกันสังคมบอสัทจ่ายให้ไหม เขาหักสายตามตกลงหรือเปล่าไรเง้ กูคุยด้วยททีไรมีแต่กูที่หงุดหงิดอ่ะ
กูว่าตอนนี้ กทม ได้เปรียบแค่หนังนอกกระแสที่มีโรงฉายน้อยว่ะ
ความบันเทิงอื่น นิยาย หนังสือการ์ตูน เกมส์ หนังDVD มีให้สั่งทางเน็ตหมด สตรีมก็มีหลายเจ้า Netflix iflix อยู่ต่างจังหวัดก็เข้าถึงได้หมดแล้วขอแค่มีอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง หลายๆอย่างที่กทมมีคนต่างจังหวัดก็มีได้
>>976 ไม่รู้ว่ามึงหวังสูงไปรึเปล่านะ แต่กูที่อยู่ต่างจังหวัดมาเกือบทั้งชีวิต กูอยากบอกว่าหลายๆอย่างที่คนกทม. มองคนต่างจังหวัด บางทีก็เป็นอะไรที่จินตนาการเอาเองว่ะ เห็นได้ชัดๆก็ไอ้โฆษณาIsuzu ในโรงหนัง คือมองว่าการทำเกษตรในพื้นที่ห่างไกลคือความพอเพียง คือการอยู่บธรรมชาติ แต่กูบอกเลยว่าต่างจังหวัดไม่ได้สวยงามเหมือนที่คนกรุงมอง ข้อเีอย่างเดียวคือรถไม่ติดแน่ๆล่ะ ส่วนปัญหาอื่นๆมันก็มี คนต่างจังหวัดก็เป็นมนุษย์เหมือนที่คนเมืองเป็น ไม่ได้ใจกว้างเป็นมิตรโอบอ้อมอารีสามัคคีกับเพื่อนบ้านและคนรอบข้างอะไรขนาดนั้น คนเมืองมีอะไรเหี้ยๆคนต่างจังหวัดก็มีเหมือนกัน
แต่สำหรับคนที่อยู่เมืองมาทั้งชีวิตอยากออกจากที่เดิมๆ การมาอยู่ต่างจังหวัดก็คงเหมาะล่ะมั้ง
>>955 มึงเหมือนกูเลยอะ งานที่ทำอยู่ทำคนเดียวไม่ต้องยุ่งกับใคร พอเป็นแบบนี้
มันก็ทำให้ตั้งแต่กูมาทำงานนี่ก็ไม่มีสังคมอะไรเข้ามา กูก็ชอบนะแต่ก็มีบ้างที่กูรู้สึกเหงาๆ
เพื่อนที่คุยอยู่ก็นานๆเจอกันทีให้หายเหงา แต่พออ่านไปมากูน่าจะหนักกว่า >>961
กูตอนนี้แทบจะสังคมปิดอย่างแท้จริง กูก็ลองย้อนคิดว่าจะทำงานนี้อยู่ได้นานแค่ไหน
หรืออนาคตจะลาออกไปทำงานแบบอื่น แต่เป็นงานที่กูพอใจและชอบแต่ติดแค่งานที่ทำอยู่นี่
ทำให้กูรู้สึกเหงา แต่กูเคยทำงานที่มีเข้าสังคมแล้วกูก็เหนื่อย หรือเพราะใจกูช่วงนี้แค่เหงาเป็นช่วงๆ
แล้วถ้าจะหมายถึงเรื่องแฟนแบบที่บอกเนี่ยไม่รู้เป็นกูคนเดียวไหม จบทำงานมาถ้าไม่ใช่สังคม
ที่ทำงานมา เพื่อนะเก่า ก็เจอคนน้อยลงกว่าตอนเรียนหรือตอนอื่นเยอะ จนกูคิดว่าเรื่องหาแฟนเริ่ม
กลายเป็นเรื่องยากสำหรับกูที่จะเจอคนใหม่ๆ โดยเฉพาะงานที่กูทำเป็นแบบทำคนเดียวไม่ต้องประสานงาน
อะไรกับใครเยอะ เรื่องคนใหม่ๆที่เข้ามาคงไม่เท่า ตอนนี้ที่กูคิดว่าอยากลองย้ายงานไปทำอย่างอื่นให้ใจกู
ไม่รู้สึกเหงา (กูก็มีเพื่อนเป็นครูอนุบาลเหมือนกัน บางที่ถึงจะรู้ว่าเงินเดือนไม่เยอะแต่ถ้ามีความสุข แล้วสุขใจ
ทำแล้วไม่เครียดเท่างานอื่น อยู่กับเด็กๆ บางทีก็อาจจะดี)
เออลืม ผู้มีอิทธิพลนี่ก็น่าจะเยอะด้วย เพราะห่างไกลจากส่วนกลาง แต่สมัยนี้มีโซเชี่ยลอาจจะน้อยลงแล้วมั้ง
กูก็อยู่ต่างจังหวัด อันนี้เล่าจากชีวิตกูนะ ผู้มิอิทธิพลมีมั้ย มี แต่อย่างกูเป็นคนธรรมดาโนเนมสัดๆ ไม่เคยออกไปมีเรื่องอะไรกับใคร กูเลยรู้สึกว่าพวกนี้เป็นเรื่องไกลตัวกู (จริงๆมันก็ใกล้นี่แหละ แต่กูแค่ไม่รู้สึก) เวลาจะไปไหนเดินทางง่าย ไม่ต้องรถติด ไม่ต้องเผื่อเวลาเดินทาง (รถติดก็มีบ้างตอนช่วงเลิกงาน แต่ไม่มีติดเป็นชั่วโมง)
เรื่องสังคมนี่ก็แล้วแต่อีก บ้านกูเป็นครอบครัวเดี่ยว ไม่สุงสิงกับใคร เพื่อนบ้านยังไม่เคยคุย เพราะงั้นกูไม่เจอคนนินทา (เค้าอาจจะนินทากูก็ได้แต่กูไม่รู้ ไม่สน)
แต่สิ่งอำนวยความสะดวกมันไม่ค่อยมีนะ ห้างก็มี 2-3 ที่ โรงหนังก็เพิ่งมาเปิดไม่กี่ปีนี้ สตาร์บัคส์ก็ไม่มี ของกินอะไรที่กูเห็นคนกรุงเทพเค้าฮิตกันกูก็ไม่ได้กินหรอก ได้แต่มองรูปในโซเชียลตาละห้อยเท่านั้น
การขนส่งสาธารณะก็ไม่ดี (แทบจะไม่มีเลยมากกว่า) คือถ้ามึงมาอยู่มึงต้องมีรถของตัวเองอะ (ไม่ต้องรถยนต์ แค่มอเตอร์ไซค์ก็ได้) ถ้ามึงไม่มีรถเลยมึงจะเดินทสงไแไหนลำบากมากกกก
*เดินทางไปไหนลำบาก*
กูพิมพ์ผิด โทษที
มึงกูมีเรื่องอยากจะปรึกษา คืกูเคยไปทำงานในบริษัทเล็ก ๆ บ.หนึ่งมา และไม่ได้เซ็นสัญญา ต่อมาเจ้าของประสบปัญหาหมุนเงินไม่ทัน ทำให้ไม่ได้จ่ายเงินเดือนกูประมาณ 3-4 เดือน หลังจากนั้นกูก็ออก ประเด็นคือกูเดือดร้อนเรื่องเงินกูเลยไปถามเขาว่าเขาจะให้กูได้เมื่อไหร่ ประกอบกับช่วงนั้นมันมีพนักงานใหม่เข้าแล้วกูไปคุยกับเค้าบอกว่าบ.มันมีปัญหานะ ให้ระวังตัวไว้ คือกูก็หวังดีอ่ะแต่เหมือนกูจะคิดผิดไป เพราะพนักงานใหม่คนนั้นก็โดนค้างเงินเหมือนกัน แล้วเขาก็ร้อนเงินเขาเลยเอาเรื่องที่กูเคยพูดว่าบ.มีปัญหาไปบอกเจ้าของ เจ้าของมันก็ขู่กูว่าถ้าเอาเรื่องบ.ไปพูดอีกอาจจะพิจารณาการให้เงินคืน คืออีเหี้ยเหอะ แล้วมันค้างเงินกูมาจะ 2 ปีแล้ว มันบอกไม่เกินเดือน 5 ปีหน้าจะให้คืน เหอะ ๆ แล้วคืออีเหี้ยนี่ตอนทำงานให้ก็ชอบกลับคำ พอออกก็ชอบให้มาช่วยฟรี แล้วบอกว่ามีบุญคุณกับกูเพราะตอนแรกรับกูเข้ามาทำงาน อีเหี้ยเหอะ
สรุปคือกูควรจะทำยังไงดีวะให้ได้เงินคืนอย่างแน่นอน โดยที่ไม่ได้เซ็นสัญญาการจ้างงาน เพราะกูไม่อยากประนีประนอมแล้ว มันทำตัวเหี้ยเกิน เหมือนทุกอย่างไม่ใช่ความผิดมัน แต่มันยังเอาเงินไปเปย์หญิง ไปซื้อไอโฟน 10 แต่ไม่มีเงินคืนกูบอกเงินบ.ติดลบ กูก็เข้าใจนะว่าเงินบ.กับเงินกระเป๋าตัวเองแยกกัน แต่กูเกลียดแม่งจริง ๆ อยากให้แม่งไม่ตายดีเลย
>>987 กูว่าง่ายสุดคือตัดขาด ช่างหัวเรื่องเงินไปเลยแต่อย่าไปยุ่งกับแม่งอีก อย่าให้มันใช้งานมึงฟรีหรือวุ่นกับชีวิตมึงไปมากกว่านี้ แต่ถ้ามึงอยากได้คืนจริงๆก็เตรียมฟ้องศาลดำเนินคดี แต่ปล่อยนานขนาดนี้กูไม่รู้จะมีปัญหาเรื่องอายุความหรืออะไรทางกฎหมายรึเปล่านะ มันเอาเรื่องยากอยู่แล้วเรื่องคดีต้มตุ๋นฉ้อโกง ลองปรึกษาทนายหรือคนที่รู้กฎหมายและเชื่อใจได้
กระทู้อาจพอเป็นแนวทางได้ ลองอ่านดู https://pantip.com/topic/32134799
>>988 คือมันโทรมาขู่กูด้วยว่าอย่าก่อเรื่อง อย่าเที่ยวเอาเรื่องภายในบริษัทไปบอกคนอื่น เรื่องที่ว่านี่คือเรื่องมันชอบไม่จ่ายเงิน จ่ายช้า ดองเงินพนักงานเนี่ยแหล่ะ คือเจออย่างงี้กูชักหมดอารมณ์กับมันแล้วอ่ะ ถ้าก่อเรื่องอีกจะพิจารณาการคืนเงิน อย่างงี้ก็ได้หรอวะ มันบอกว่ากูทำให้บริษัทเสื่อมเสีย
เรื่องต่างจังหวัดกูว่าเหมาะกับการทำงานมากกว่าเมืองว่ะ ถ้าไม่ใช่งานที่ต้องเข้าเมืองติดต่อลูกค้าตลอด การอยู่ต่างจังหวัดหลายๆอย่างมันดีกว่าเมืองจริงๆ
จากประสบการณ์ของกูนะ
สมัยเรียนจบใหม่ๆ ได้งานช่วงสั้นๆที่นนทบุรี ตอนนั้นยังอาศัยหอพักของมหาลัย ตื่นมานั่งรถเมล์ไปทำงาน 30 นาที เพราะยังอยู่หอพักในมอ เพื่อนบางคนก็ยังไม่ย้ายออก เลยไม่รู้สึกถึงความต่างอะไรเท่าไร ประมาณว่าตัวเองยังมีเพื่อน
งานต่อมาได้แถวม.รังสิต ไปเช่าหอข้างมอ ได้อยู่หอแบบไม่มีคนรู้จัก ช่วงแรกค่อนข้างเหงาอยู่ แต่ซักพักก็ชิน งานที่ทำไม่เครียดด้วยออกจะสบายๆ เวลาพักเยอะ
งานต่อมาได้ทำที่ต่างจังหวัด บ้านนอกมาก บริษัทมีบ้านพักเก่าๆให้ แบบพออาศัยอยู่ได้ ไปวันแรกรู้สึกรับไม่ได้เพราะเป็นคนที่อยู่ในเมืองมาตลอด แต่ผ่านไป2-3 กลับชอบว่ะ ตื่นเช้ามาปั่นจักรยานไปทำงาน ไม่ต้องรีบ ไม่เจอรถติด เสียอย่างเดียวที่ร้านอาหารมีน้อย(ยังดีที่มี7-11) กับรถตู้เข้า กทม. มีไม่กี่รอบต่อวัน เข้าเมืองลำบาก
งานล่าสุดที่ทำ อยู่ในเขตเมือง คนพลุกพล่าน เวลาเลิกงานนี่ตัวใครตัวมันมาก เข้าห้องได้ก็เหมือนมาอยู่อีกโลก ไม่รับรู้โลกภายนอกแล้ว มาทำงานแค่วันแรกก็อยากกลับต่างจังหวัดเลยว่ะ คิดถึงบ้านไม้เก่าๆ แอร์ไม่มี แต่พอมาอยู่ในเมืองในห้องดีๆมีแอร์ ไวไฟ เครื่องทำน้ำอุ่น แล้วคิดว่าบ้านเก่าๆที่บ้านนอกมันน่าอยู่กว่าซะงั้น
พวกมึงขอปรึกษาหน่อย คือกุทำพาร์ทไทม์นะ ละเหมือนไปโกงเค้ากลายๆอะ คือกุผิดแหละยอมรับแต่ไม่แรงมาก ไม่ถึงกับโกงเงิน
แบบนี้กุจะโดนไล่ออกหรือแค่ตักเตือนวะ ละจะเสียประวัติปะ ไม่น่าเลยกุ
เพื่อนโม่ง ค่าไปรถไปกลับวันละ 80 บาท นี้ ควรมีมอไซต์ใช้มะ
>>995 อยู่ที่การเดินทางตอนนี้เมิงสะดวกขนาดไหน
ถ้า 80 บาทต่อเดียวขึ้นไปนั่งมั่งยืนมั่งรอไม่นานความเร็วไม่ต่างกะขับมอไซด์เองกุก็ไม่แนะนำ
การมีมอไซด์มันมากับ
- การล้างรถ
- ที่จอด(และเครื่องมือป้องกันโดนโจรยก)
- ค่าน้ำมัน
- ค่าดูแลรักษา
- ขับเองนั่งหลับเล่นมือถือไม่ได้
เมิงก็ลองไปนั่งนึกดูว่าทั้งหมดดีกว่าตอนนี้ไหมถ้าดีกว่าก็รีบถอยเลย
กูขี่มอไซด์ใน กทม. มาตั้งแต่เรียนมหาลัย จนตอนนี้ทำงานแล้วก็ยังขี่ (แถมมีแผนจะสอย Ducati ด้วย)
ถ้าระยะทางไม่ไกลระดับ 20+ กิโลฯ มอไซด์น่ะค่อนข้างคุ้มเลย ทุกวันนี้กูขี่ไปกลับที่ทำงานประมาณ 10 กิโลฯ เศษๆ เติมน้ำมันอาทิตย์ละครั้ง ถังละ 100 บาทเอง
ยืนยันว่าในกทม มอไซยังไงก็เวิ้ค เป็นห่วงแค่เรื่องการขับขี่กับติดไฟแดงหน้าร้อนก็พอ
อ้าวว จะมาบ่นชีวิต 1000 พอดีเลยกระทู้ 55555+
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.