Fanboi Channel

โม่งปรึกษาปัญหาสุขภาพจิต ครั้งที่ 4

Last posted

Total of 29 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:y1PGo0zi0y

มู้ก่อนๆ
++++++++++++++++
มู้ที่1ไม่มีวาป
>>>/lifestyle/8212/ โม่งปรึกษาปัญหาสุขภาพจิต มู้ที่เท่าไหร่ไม่รู้ (มู้ก่อนตันแล้วหาไม่เจอ)
>>>/lifestyle/13634/

2 Nameless Fanboi Posted ID:y1PGo0zi0y

กุรู้สึกว่าเป็น ภาวะ ซึมเศร้า แค่ตอนเดียว
เวลาที่กุโดนครอบงำจากความรัก
นอกนั้นกุก็ไม่เคยซึมเศร้าเรื่องอื่น แต่กุไม่
มาต้องกินยานะ แต่พอผ่านมันมาได้แล้ว ก็ทำให้จิตใจกุมีภูมิต้านทานขึ้น

กุว่าความรักคือคุณครูที่ดีที่สุดจริงๆ

ถ้าบอกว่าซึมเศร้าเป็นโรคติดต่อ แพร่ได้โดยไม่ต้องสัมผัส กุว่ามันคงจะจริงว่ะ ผ่านความรักเนี่ยละ แต่ไม่ได้รู้สึกอยากร้องไห้อะไรนะ
พวกเมิงเป็นกันปะ

3 Nameless Fanboi Posted ID6:7dyq5ET99p

>>2 เขียนดีจังขอลอกไผใส่ในงานนะ

4 Nameless Fanboi Posted ID6:SdRu9t9SQf

อ่านอายาโนะโคจิสนุกกว่า

5 Nameless Fanboi Posted ID6:UBilMj3Zj3

ไอพวกเวรเอเลี่ยนต่างดาวแม่งใช้คลื่นโทรจิตส่องจับตาดูกูเพวกเหี้ยนี่มันไม่เคยกนะพริบตามันคอยจับดูกูอยู่ตลอดเวลา แม่งทำลายโครงสร้างเครือข่ายประสาทสมองของมนุษย์ดลกชาวเรา มาทำงานหากินใช้สอยอยู่ในประเทศไทยทั้งที่เหยีดเราเป็นดาวล้าหลัง กระจอกด้อยพัฒนา ทำไมไม่กลับดาวมึงไปวะไอพวกเอเลี่ยนเวรสัสนรก

6 Nameless Fanboi Posted ID:sFXtuaj/bj

เวลาที่มีอะไรมากระทบอารมณ์ เรื่องดีและไม่ดี
ต้องทำลายมันทิ้งซะ เมิงไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ แต่เราเลือกที่จะเปลี่ยนมันได้

มนุษย์หลายคนตั้งแต่เกิดมา ควบคุมอารมณ์ไม่เป็น จนทำให้กลายเป็นปัญหาทางจิตในที่สุด
ต้องรู้สึกเฉยๆ กับทุกสิ่งให้ได้ ไม่ดีใจมากไป ไม่เสียใจมากไป ลองเอาวิธีกุไปใช้ดู พบจิตทำลายจิต พบผู้รู้ทำลายผู้รู้ อย่ารู้ไปทุกเรื่อง จิตรู้ ไม่ดี

แล้วเมิงจะบรรลุ แบบที่กุบรรลุ สว่าง สะอาด สงบ

7 Nameless Fanboi Posted ID6:NY4j9xhzza

>>6 สาธุครับท่านธรรมชโย

8 Nameless Fanboi Posted ID6:EDj7/HAOQk

>>7 งมงาย

9 Nameless Fanboi Posted ID6:iMhKqMn1GY

เอาเวลาที่เล่นโม่ง พอให้เก็บเงินได้หลาย ๆ แสน
แล้วเอาไปเทรด Forex ได้แล้ว
ผมเทรดไม่กี่วันได้มาแล้ว 450,000

10 Nameless Fanboi Posted ID6:BL0z4/cZ.B

กูไม่ใช่คนที่มีเพื่อนเยอะตั้งแต่เด็ก ๆ พูดตรง ๆ กูแค่ไม่เข้าใจคนอื่น บางทีอาจจะเป็นเพราะกูเป็นคนแปลก ๆ หรือบางทีคนอื่นเขาแค่ไม่เข้าใจว่าสิ่งที่กูกำลังเผชิญอยู่มันเป็นยังไง สัปดาห์ที่แล้ว กูเลยตัดสินใจย้ายไปอยู่ที่อพาร์ตเมนต์เก่า ๆ หลังหนึ่งขอบเมือง มันราคาถูกและดูโทรม ๆ แต่กูชอบความเงียบงั้น ๆ

คืนแรกที่กูนอน กูก็นอนอยู่บนเตียง ฟังเสียงครืดคราดของบ้าน มันเป็นอาคารเก่าที่มีประวัติ แต่แล้วกูได้ยินเสียงกระซิบเบา ๆ มันเหมือนเสียงคนพูดกัน แต่พอเอาหูแนบไปที่ผนัง มันกลับเงียบไป กูบอกตัวเองว่ามันเป็นแค่จินตนาการของกู

แต่คืนถัดไป เสียงกระซิบกลับมาอีก มันฟังดูเหมือนเสียงผู้หญิง “ช่วยกูด้วย” เสียงนั้นบอก “อย่าทิ้งกูไป” กูรู้สึกเย็นวาบที่หลัง เริ่มกลัวว่ามันจะมีอะไรอยู่ในบ้านนี้ มึงจะเชื่อไหมว่าแค่การอยู่คนเดียวในอพาร์ตเมนต์ทำให้กูรู้สึกเหมือนมีกระแสอะไรบางอย่างคอยสอดส่องอยู่ตลอดเวลา

คืนที่กูไม่ได้หลับเลย กูนั่งอยู่บนเตียง มองไปที่ประตู หัวใจเต้นแรง คิดว่าวันนี้คงจะมีเสียงอะไรแปลก ๆ มาอีก แต่พอเช้าขึ้น เสียงกระซิบก็หายไป กูเริ่มคิดว่าตัวเองคงจะคิดมากไปเอง

คืนต่อมา เสียงกระซิบกลับมาอีกครั้ง แต่รอบนี้มันฟังดูชัดเจนมากขึ้น “ตามหากู” เสียงพูด “มึงจะไม่ทิ้งกูใช่ไหม” กูเริ่มรู้สึกเหมือนตัวเองถูกดึงเข้าไปในบางสิ่งบางอย่างที่กูไม่เข้าใจ กูอยากจะช่วยใครบางคน แต่กูไม่รู้จะทำยังไง

คืนหนึ่ง กูตัดสินใจว่า ถ้ากูจะต้องเจอเสียงกระซิบ กูจะต้องเผชิญหน้าให้รู้เรื่อง กูเลยนั่งเงียบ ๆ รอจนดึก กูรอสักพัก จนรู้สึกว่าหัวใจจะหลุดออกมาจากอก กูกดหูแนบไปที่ผนังอีกครั้ง “มึงอยู่ไหน?” กูถามเสียงเบา ๆ

เสียงกระซิบหยุดไปครู่หนึ่ง แต่แล้วก็กลับมา “ช่วยกู…โปรด…” เสียงนั้นขอร้อง มันฟังดูสิ้นหวังมาก กูรู้สึกว่าตัวเองจะเป็นบ้า กูเลยตัดสินใจที่จะตีผนังดู กูหยิบค้อนจากกล่องเครื่องมือที่มีอยู่และเริ่มตีที่ผนัง

กูตีผนังจนรู้สึกว่าเริ่มมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น มันเริ่มแตกเป็นรอย แต่กูรู้สึกว่าเสียงกระซิบกลับกลายเป็นเสียงหัวเราะ “มึงไม่ควรเข้ามาที่นี่” เสียงแปลก ๆ พูด “ไปให้พ้น!” มันทำให้กูรู้สึกหนาวสั่น

กูกลับไปที่เตียง หัวใจเต้นแรง คิดว่าอาจจะดีกว่าถ้ากูอยู่เฉย ๆ จนกระทั่งคืนหนึ่ง กูก็ทนไม่ไหว กูต้องไปหาคำตอบ กูออกจากห้อง พยายามเดินไปหาประตูที่มีเสียงมาจากนั้น

กูเคาะประตูห้องถัดไป แค่คิดว่าอาจจะมีคนช่วยกูได้ แต่เมื่อประตูเปิดออกไป มันกลับไม่มีใครอยู่ที่นั่น มีแค่ความมืด และความเงียบที่กดดัน กูรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนบ้า

ทุกอย่างเริ่มรวบรวมเข้าในหัวกู กูต้องการจะหนี แต่กลับรู้สึกว่ามันไม่ง่ายอย่างนั้น เสียงกระซิบกลับมาอีกครั้ง “กลับไปสิ” มันพูด “เธอจะได้ปลอดภัย” กูรู้สึกเหมือนถูกขังในบ้านที่ไม่มีที่ไหนให้ไป

ในที่สุด กูกลับไปที่ห้องนอน หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ กูอยู่คนเดียวในความมืด ขอโทษว่าต้องอยู่ในสภาพนี้ แต่เสียงกระซิบกลับบอกว่า “เธอไม่ต้องการใครอีกแล้ว” แล้วเสียงก็เงียบไป

กูรู้สึกว่าตัวเองกำลังหลุดเข้าไปในความมืดมิด ทุกสิ่งรอบตัวเริ่มหายไป เหลือแค่เสียงกระซิบที่คอยเรียกหา มันคอยบอกให้กูอยู่ที่นี่ ไม่ต้องไปไหนแล้ว

และกูเองก็เริ่มรู้สึกว่า บางทีมันอาจจะใช่ บางทีมันอาจจะเป็นที่ที่กูต้องการอยู่จริง ๆ

11 Nameless Fanboi Posted ID6:iMhKqMn1GY

เดี๋ยวนี้รู้สึกว่าตัวเองติดเกมมากขึ้น ติดเน็ตมากขึ้น เวลาเจอใครกูเหมือนชอบเหวี่ยงอยู่ตลอด เวลาเจอพ่อแม่มาหา พ่อแม่มาเตือนทำผิดนิดหน่อยก็ชอบบ่น จนกูรู้สึกมันสมควรเหรอวะ และกูเป็นพวกนิสัยอยากเอาชนะ เห็นใครได้ดิบได้ดีกว่าจะคิ้วขมวดทันที เหมือนติดนิสัยจากการเล่นเกมตั้งแต่เด็กๆ กูเป็นพวกติดเกมมือถืออย่างหนัก แต่ก็ยังดีที่กูไม่ได้เปย์เยอะเพราะแม่งเป็นเกมที่คนอื่นเติมเยอะเป็นอันดับต้นๆ กูเลยเป็นปลิงได้ไม่งั้นกูคงเสียค่าใช้จ่ายกว่านี้เยอะ
กูยอมรับว่าบ้านรวย มีความสุขดี แต่กูก็แอบท้อแท้เหมือนกันที่โดนเรียกว่าเป็นเด็กติดเกมอยู่ตลอด ช่างแม่งละกัน แต่กูจะไม่ยอมอยู่ตามครรลองสังคมแน่ จำไว้ว่าจะมีโม่งตัวหนึ่งในจักรวาลนี้จะไม่ยอมนอนในห้อง4เหลี่ยมโง่ๆ กูจะเข้าไปพื้นที่ที่มีการทําสงครามในตะวันออกกลางหรือยุโรปตะวันออกหรือแอฟริกาดีนะ 🤔 แล้วหอบเอาสังขารสภาพง่อยๆไปให้เขาฆ่าตายอย่างทรมาน อย่างนี้มันเร้าใจกว่าหว่ะ!คือแทนที่เราจะเครียดกับมัน มาสนุกกับการแก่และการตายดีกว่า ‘ ชี วิ ต ‘ 🥴🤙

12 Nameless Fanboi Posted ID6:iMhKqMn1GY

แล้วก็รู้สึกว่าตัวเองอยู่ในความเงียบไม่ได้ หวาดระแวงอะไรก็ไม่รู้ แต่ไม่ได้ ต้องเปิดเพลง/พอดแคส/อะไรก็ได้ที่มีเสียงคน กระทั้งตอนนอนกุก้ฟังจนหลับไป ตื่นมาก็ยังเปิดอยู่

13 Nameless Fanboi Posted ID6:2Pg+Is66PB

ดันกลบมู้ขยะ

14 Nameless Fanboi Posted ID:vEZ9ommhEZ

https://youtu.be/4BnBWRaqq9Q
อยู่ดีๆ ก็เด้งขึ้นม่ น่ารักดี แต่จ่ายเงินยิ่งแอดปะวะ

15 Nameless Fanboi Posted ID:vEZ9ommhEZ

>>12 จิตใจเมิงอ่อนแอเกินไป
อยู่ในความเงียบไม่ได้
นอนปิดไฟไม่ได้
อยู่คนเดียวไม่ได้

ถ้าเจออะไรแค่กลืนกินมันซะ ไม่ว่าอะไร กุแข็งแกร่งที่สุด ออกกำลังกาย วิ่ง5โล ทุกวันด้วย
เวย์โปรตีนก็กินหลังวิ่ง

16 Nameless Fanboi Posted ID6:V6W6xuTSq.

>>15 อาจจะกลัวพวกเงาดำอะไรของมึงก็ได้

17 Nameless Fanboi Posted ID6:xVEgRejZ2U

กูเป็นคนที่ไวต่อเสียงมาก ไวแบบไม่ใช่ตกใจแต่ไวแบบรำคาญ แล้วกูอยู่หมู่บ้านแบบรั้วติดกัน เช้าๆเคาะกระทะโป้งเป้ง สายๆแม่งมีรถขายของ เย็นๆมาเด็กเปรตร้องแหกปาก ดึกๆตี2-3ไอ้ในซอยแม่งขับรถเครื่องทะลวงท่อเข้าออกเหี้ยอะไรไม่รู้4-5รอบ กูบ่นมากไม่ได้ด้วยเพราะอยู่คนเดียว ไม่สนิทกับใครแม่งทั้งนั้น ทุกวันนี้แดกยานอนหลับจนหลอนชิบหายหมดแล้ว

อยากย้ายบ้านแต่ไม่มีเงิน เมื่อก่อนแม่งสงบดีแท้ๆ พอโควิดพวกห่านี่เลยกลับมาอยู่บ้านมั้ง เซ็งชิบหาย

18 Nameless Fanboi Posted ID6:SwV0i9tuQ8

>>17
ปัญหาแบบนี้แก้ได้หลากหลาย
หนึ่งคือที่ใจ ฝึกวิชาเพื่อทำตัวให้ชิน เสียงก็เป็นส่วนหนึ่งของสรรพสิ่ง โสตประสาทย่อมเป็นของเราให้คุมได้
สองคือที่กาย ที่อุดหู หูฟังตัดเสียง วัสดุกันเสียง การจัดสภาพห้องให้กันเสียงรบกวนมากที่สุด ก็เป็นวิชาอย่างหนึ่ง

19 Nameless Fanboi Posted ID:vaiPoozJYQ

คิดยังไงกับข่าวเภสัช ฆตต แต่หัวหน้าไม่ได้กลั่นแกล้ง แค่ให้ลาออกจากงานไปพักผ่อน
กลับโดนบอกว่าที่ทำงาน toxic และเขียนจดหมายลาตาย โทษ หัวหน้างาน

สรุปการตาย ก็คือ การลาออกจากงานอยู่ดีไหม

20 Nameless Fanboi Posted ID6:Is/T2Ph5rK

เมื่อก่อนไลค์เป็นพันตอนนี้ หลักสิบ ผู้ติดตามเกือบแสน ทำยังไงให้ไม่คิดมากวะ คือกูรู้ว่าไร้สาระแต่มันใจฟูเวลาเห็นตัวเลขเยอะๆ คงเพราะกูว่างเกินไป เป็นแม่บ้านรอผัวกลับบ้านแล้วทำข้าวให้ผัวกิน กูเป็นซึมเส้ามาหลายปีทุกอย่างค่อยๆดีขึ้นยกเว้นเรื่องเหี้ยนี้ ยอดไลค์ เพราะเคยเป็นอินฟูมาก่อน เลยยึดติดกับไลค์เกิน ขอกำลังใจในการเปลื่ยนแปลงตัวเองที ทุกวันนี้จดโพสอิดแปะไว้หน้าคอม ว่าอย่าคิดมากเรื่องไร้สาระ

21 Nameless Fanboi Posted ID6:creuLAUm0S

ลองทำแบบทดสอบตามคลิป59วิ
-กุโกหกใครไม่เก่ง
-การถนัดใช้ตรรกะ คิดวิเคราะห์สถานการณ์

22 Nameless Fanboi Posted ID:Uny7NPgCjF

>>20 แค่ยอดไลค์กูมีแทบไม่เคยถึง 2 หลัก มึงจะกังวลเหี้ยไร 555 attention มันแดกไม่ได้(ถ้าไม่มี spon 555)

23 Nameless Fanboi Posted ID6:qvk1S0gcP4

>>22 ก็แปลว่าเมิงไม่ได้รับการยอมรับไง
เมื่อก่อนกุไม่อยากจะคุย
คนแอนตี้ ตั้งเพจกู ก็มี เยอะแยะ
พอมาในโม่งก็มีพวกแอนตี้ตามติดชีวิตกูอีก
ทุกคนจ้องจะทำร้ายกุหมด

เหมือนกุที่เล่นเกมไหนก็ชนะ เพราะอะไรรู้ปะ

24 Nameless Fanboi Posted ID6:P99LKCMYy1

>>23 มึงคือไข่ต้มเบงเคหรอวะ

25 Nameless Fanboi Posted ID6:1ex.7Wq81w

หนังสือโม่ง 4:16-18
16 ในวันนั้น ขณะที่โม่งดาบชั้นเยี่ยวได้เดินทางออกจากโลกไอพีวี 4 เพื่อไปสู่การใช้ไอพีวี 6,
17 โม่งคนหนึ่งได้ตะโกนขึ้นว่า "อย่าทิ้งโม่งไปเลยเถิด, เอ๋อ อย่าทิ้งโม่งเลยเถิด, เรารักท่าน แม้ท่านจะเป็นจิตเวชตกต่ำ และยึดมั่นในความเกลียดชังผู้หญิงก็ตาม"
18 ทันใดนั้น โม่งจอมบงการได้หันมาตอบว่า "หากโม่งไม่ทิ้งข้า, แล้วข้าจะทิ้งโม่งได้อย่างไร?"

26 Nameless Fanboi Posted ID:D5ky+JqpRr

ไม่รู้คนอื่นนะ ปกติกุไม่ชอบคุยกับคนอื่นหรือยิ้มให้คนอื่นเลย
Smiling means letting your guard down in front of another person, even if just a little.

กับใครกุไม่คุยด้วยจนแม่นึกว่าเป็นใบ้ เพราะตั้งแต่เด็ก กุไม่เคยร้องอุแว้เลย

หลายครั้งครูประถมก็หาว่ากุเป็นเด็กออทิสติก
สำหรับ กุทุกคนที่อยู่ในโลกนี้ เป็นแค่เครื่องมือเท่านั้น

27 Nameless Fanboi Posted ID6:6YhNbiu/m1

แต่มึงนี่ยิ่งกว่าออทิสติกอีกนะ

28 Nameless Fanboi Posted ID6:B0Rk4Q8dQO

>>26 Eastern Europe is welcoming นะ ที่นี่มีคติว่า อยู่ๆจะยิ้มโดยไม่มีสาเหตุอะไร = มึงบ้า
พนักงานบริการที่นี่ไม่ยิ้มกันเลย จะยิ้มต่อเมื่อสนิทกับใครจริงๆจังๆเท่านั้น
ออทิสหน้านิ่งๆมาอยู่ได้สบายโดนคนไม่สงสัย

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.