จำไว้นะครับเหล่าหนุ่มๆ พวกผู้ชายที่มากดหัวใจรูปแฟนคุณนะเขาอยากจะมาตอกเธอ
ส่วนผู้ชายที่มากดหัวใจรูปคุณ เขาจ้องจะตอกคุณอยู่ ระวังหลังเอาไว้
Last posted
Total of 787 posts
จำไว้นะครับเหล่าหนุ่มๆ พวกผู้ชายที่มากดหัวใจรูปแฟนคุณนะเขาอยากจะมาตอกเธอ
ส่วนผู้ชายที่มากดหัวใจรูปคุณ เขาจ้องจะตอกคุณอยู่ ระวังหลังเอาไว้
ผมไปเจอเรื่องน่าสนใจเรื่องนึงมา และแน่นอนว่าอะไรแปลก ๆ แบบนี้ย่อมเกิดขึ้นที่ "ฟลอริดา" ครับ
มีสื่อต่างประเทศรายงานว่ามีนักโทษ ชาย-หญิง ในเรือนจำรัฐฟลอริดาถูกขังแยกกันคนละห้องขัง แต่ "มีลูกด้วยกัน" โดยที่ไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อน!?
อ่านครั้งแรกแล้วแบบ ห้ะ!? เป็นไปได้ด้วยเหรอ? แล้วทำกันยังไง? เดี๋ยวจะอธิบายให้อ่านละกัน ไม่รู้ว่าเป๊ะมั้ยนะ เพราะศัพท์มันค่อนข้างจะวิทยาศ๊าสตร์ วิทยาศาสตร์
ก่อนจะไปอธิบายถึงวิธีการ ขอเล่ารายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อนละกัน คือทั้งสองคนเป็นวัยรุ่น อายุอยู่ในช่วง 20 ปีกันทั้งคู่ ถูกจับเข้าคุกในข้อหาฆาตกรรมกันทั้งคู่ (แต่คนละคดี) พวกเขาไม่เคยเจอกันต่อหน้าเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ทั้งสองคนรู้จักกันและพูดคุยกันผ่านทาง "ท่อระบายอากาศ" ในเรือนจำ ซึ่งไอ้ตัวห้องขังอ่ะ ก็ไม่ได้อยู่ใกล้กันด้วยนะ เพราะในเรือนจำมันต้องแยกโซนกันระหว่างชาย-หญิง
แต่สิ่งที่เชื่อมหาทั้งสองคนเข้าด้วยกันมีเพียงอย่างเดียว ก็คือไอ้ท่อระบายอากาศนี่แหละ
คือพวกเขาติดต่อกันผ่านทางท่อระบายอากาศ ส่งรูป และข้อความให้กัน จนวันนึงฝ่ายนักโทษหญิงบอกกับฝ่ายชายว่า "อยากจะมีลูก" แล้วพอพูดคุยกันไปพูดคุยกันมาก็ตกลงกันจริง ๆ ว่าจะมีลูก จากนั้นก็เริ่มวางแผนและลงมือ
เอาล่ะมาเข้าเรื่องวิธีการกันเลย
โดยฝ่ายชายจะเริ่มลงมือช่วยตัวเอง และเก็บอสุจิไว้ในพลาสติกแร็ปอาหาร ก่อนจะส่งผ่านท่อระบายอากาศมาที่ห้องขังของนักโทษหญิง (ทำแบบนี้ราว ๆ 5 ครั้งต่อวัน ทุกวันเป็นระยะเวลา 1 เดือน)
ฝ่ายนักโทษหญิง ก็จะใช้อสุจิที่ได้มา ฉีดเข้าร่างกายโดยใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่ใช้ในการรักษาอาการเชื้อราในช่องคลอด (ซึ่งสามารถขอได้จากเจ้าหน้าที่ในเรือนจำ)
หลังจากพยายามทำแบนี้มาสักพักนึง ปรากฏว่าทั้งคู่มีลูกกันจริง ๆ แล้วเด็กที่เกิดออกมาก็สุขภาพแข็งแรงดีซะด้วย
อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญทางด้านปฏิสนธิ บอกว่าวิธีการแบบนี้มันเป็นไปได้ยากมาก แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว
.
วิธีนี้น่าสนนะ ความรักที่เกิดจากความพยายาม
รถ สำคัญต่อชีวิตคู่เปล่าวะ กุยังขับรถไม่เป็นเลย อายุก็เยอะละ อยู่บ้านจะไปไหนก็ไปขึ้น MRT ไม่ก็เรียกรถมารับเอา อยุ่ กทมแม่งสะดวกสัด แต่ถ้ากุมีแฟนแม่งจะมองยังไงวะ
ซื้อก็ซื้อได้นะ แต่ต้องไปเรียนก่อน ไหนจะความคุ้มที่จะซื้อมาใช้ งานก็ WFH เวลาเข้า บ แม่งก็ติด MRT สีลม ไปแปปๆก็ถึง แต่ที่น่ากังวลนอกจากราคาที่ต้องผ่อนแล้ว ไหนจะค่าประกันอีก
>>780 อยู่ที่ทัศนคติของผู้หญิงแต่ละคนด้วย อารมณ์เหมือนไปถามผู้ชายว่าผู้หญิงสมัยนี้ทำงานเก่งเงินเดือนสูง ยังจำเป็นต้องทำกับข้าวทำงานบ้านเป็นไหม? บางคนก็มองว่าไม่จำเป็น บางคนก็มองว่ามันเป็นเสน่ห์ มีสกิลติดตัวไว้ก็ดี
ส่วนตัวกูแยกเป็นสองประเด็นนะ ถ้าอยู่คอนโดติดรฟฟ.ที่ทำงานก็ติดรฟฟ. ก็ไม่เห็นความจำเป็นต้องมีรถในวันนี้ แต่ขับรถเป็นไว้หน่อยก็ดี เวลาไปเที่ยวต่างจังหวัดกูชอบนั่งเครื่องไปถึงแล้วเช่ารถเที่ยวเอา มันสะดวกสบายมาก ซึ่งถ้าขับเป็นทั้งคู่ก็ผลัดกันช่วยกันขับได้
ทำไมผู้ชายที่อยากอยู่เหนือผู้หญิงถึงชอบกดผู้หญิงลงแต่ไม่ยอมพัฒนาตัวเอง Gaslighting ฉ่ำเพื่อให้ผู้หญิงบั่นทอนชีวิตตัวเองลง
>>783 เพราะการพัฒนาตัวเอง มันยากกว่าการกดคนอื่นให้ต่ำ ไม่ใช่แค่เรื่องผชผญหรอก อย่างที่ทำงานเจอเยอะเลย พวกปสด.จ้องดราม่าหาเรื่องใส่ร้ายเลื่อยขาคนอื่นก็คือพวกทำงานกากทั้งนั้น คนทำงานเก่งๆเขาไม่มานั่งเสียเวลาทำอะไรพวกนี้เลย เขาเอาเวลาไปพัฒนาตัวเอง ถีบตัวเองให้สูงๆ ขึ้นไป
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.