ความสุขเดียวในแต่ละวันของผมคือการตอบกระทู้โม่งเพื่อให้มีคนเห็นด้วยหรือแสดงความขอบคุณ
เป็นคาซาม่าบ้างบางครั้ง ผมนี่มันลูสเซอร์ใช่ไหมครับ
Last posted
Total of 1000 posts
ความสุขเดียวในแต่ละวันของผมคือการตอบกระทู้โม่งเพื่อให้มีคนเห็นด้วยหรือแสดงความขอบคุณ
เป็นคาซาม่าบ้างบางครั้ง ผมนี่มันลูสเซอร์ใช่ไหมครับ
ถ้ากุไม่มีเพื่อนซักคนในมหาลัยกุจะอยู่ได้ปะวะ กุค่อนข้างจะIntrovertอะ แล้วมหาลัยที่กุจะเรียนกุสืบๆดู คณะกุแม่งมีแต่พวกที่ไม่น่าเข้ากะกุได้ เตะบอล เลิกเรียนก็ร้านเหล้าไรเงี้ย (วิทคอม ม.กากๆ) เนิร์ดๆแบบกุไม่ค่อยจะมี รับน้องกุก็ไม่น่าจะไป(ถ้าไม่สถุนมากอาจจะไป) กุจะเรียนคนเดียวจนจบได้ปะวะ
>>778 ขอบคุณมึง มาเป็นลูสเซอร์เหนื่อยๆกัน >>779 กุว่ากุพอรู้ตัวหว่ะ บางทีตอนเครียดมากๆมันควบคุมตัวเองไม่ได้ตอนมัธยมก็มีทำร้ายตัวเองบ้าง ตอนนี้เบาลงเยอะแล้วเหลือเป็นพฤติกรรมแปลกๆแทนอย่างนั่งฉีกกระดาษไปเรื่อยๆ โคตรเหี้ย55555555 รู้สึกปัญหาทุกอย่างแม่งเริ่มที่ตัวกุทั้งนั้น จะห้ามไม่ให้เครียดก็ทำไม่ได้อีก ถ้าไม่ไหวมากๆจริงๆกุคงต้องลองทำอะไรซักอย่างกะชีวิตละ โอ่ย บอกแบบนี้สุดท้ายกุก็จะทนๆไปให้จบๆพอมีปัญหากุก็หลับมาเป็นอีกอยู่ดี เซ็งตัวเอง คอมมูเมื่อก่อนกุก็เคยเล่นหว่ะมึงแต่งานมันเยอะจนไม่มีเวลาแล้ว ขอบคุณมึงมากๆ ได้ระบายไปแล้วหวังว่ากุจะดีขึ้น ไปเป็นลูสเซอร์ต่อ โอ่ยยย
>>782 กุเคยคิดแบบนี้ก่อนกุเข้ามหาลัยเหมือนกัน แต่สุดท้ายถ้ามีคนนิสัยคล้ายๆมึงก็จะเป็นเพื่อนกันได้เองแหละ ช่วงแรกๆมันก็มีแต่อีพวกชอบโชว์ออฟชอบสังคมชอบแสดงเท่านั้นแหละที่มันจะมาคุยกันเย้วๆให้มึงเห็นแต่มันไม่ใช่ทุกคนจะมีไลฟ์สไตล์แบบที่มึงว่าหรอก ส่วนรับน้องอันนี้มันแล้วแต่ม.มึง ถ้าเป็นม.ที่ไม่เคร่งมากคนที่จะกดดันมึงไม่ใช่รุ่นพี่แต่เป็นเพื่อนเหี้ยๆ แต่ถ้ามึงอยากปลีกวิเวกจริงๆก็ได้แหละ ไม่ต้องมีเพื่อนเลย แต่มึงต้องเก่งหน่อยที่จะอยู่คนเดียว จะลำบากบ้างตอนงานกลุ่ม
แต่มหาลัยไม่ค่อยมีงานกลุ่มหรอกกูว่า กูเป็นพวกมนุษย์สัมพันธ์ต่ำ อยู่คนเดียวก็รู้สึกไม่ขาดไม่ต้องขวนขวายหาใคร
กูเหนื่อยว่ะ ก็คิดนะว่าตัวเราของเรา ถ้าไม่เริ่มทำแล้วมันจะพัฒนาได้ยังไง แต่พอเห็นคนอื่นก็อดท้อไม่ได้จริงๆว่ะ เค้าทำได้ดีกว่า เค้าทำเก่งกว่า เรามันห่วยสู้เค้าไม่ได้ บลาๆ แต่ก็นะ เดี๋ยวเฟลเดี๋ยวฮึดสู้สลับไปมาอยู่นี่แหละ ตอนนี้ก็ถือว่าอยู่ในช่วงเฟลละกัน ขอบ่นหน่อย 555
กูอยากเรียนวาดรูปเพิ่มเติม เรียนบลาๆอีกหลายอย่างเพิ่มเติมแต่ปัญหาคือกูมีตังค์ไม่พอว่ะ ที่ดีๆแน่นอนว่าต้องแพงใช่ปะล่ะ กูเห็นคนรู้จักคนนึงแม่งโชคดีได้เรียนที่อเมริกา กลับไทยมาก็หาเรียนต่อได้อีก อารมณ์อยากเรียนอะไรก็เรียนอะ ถามว่าเค้าทำงานมั้ย ก็มีนะทำฟรีแลนซ์ แต่กูไม่คิดว่ามันจะพอขนาดนั้นว่ะ น่าจะบ้านรวยด้วยแหละถึงสนับสนุนได้ตลอด คิดแล้วก็อดอิจฉาไม่ได้ว่ะ มีเงินก็เหมือนมีชัยไปกว่าครึ่งละ เฮ้อ
เก็บเงินเรียนจะไปยากอะไรวะ มึงไม่ต้องบินไปเรียนถึงที่ก็ได้ มันคอร์สสอนอาร์ตผ่านเนทเพียบเลย หาข้อมูลดู
แต่มีเครดิตว่าได้เรียนนอกมันก็ดีนะมึง 5555
วงการนักวาดกูว่าเครดิตอยู่ที่ผลงานว่ะ โอเคถ้าจบนอกอาจจะโปรไฟล์ดีกว่าในกรณีที่ไปสมัครงานกับบริษัทใหญ่ๆ แต่ประวัติการศึกษาไม่สำคัญเท่ากับคุณภาพของพอร์ตงาน เพราะงั้นพัฒนาฝีมือไปเรื่อยๆสำคัญที่สุด เอาให้งานมึงดีจนHRอยากรับเข้าทำงานโดยไม่สนใจว่าจบจากไหน แบบนี้ดีที่สุดว่ะ
กูไม่สามารถอยู่แบบโง่ๆไปตลอดชีวิตได้เลยเหรอวะ...
ใครออกทุนให้กูไปเปิดร้านถ่ายเอกสารที กูไม่อยากเรียนแล้ว ยิ่งเรียนยิ่งโง่ กูสามารถจบก่อนโดนรีไทน์ได้จริงๆเหรอวะ Orz
บางทีกูก็คิดเล่นๆนะ 555
หน้าตาดี มีความสามารถ = เลิศเลอเพอร์เฟค มีคนอวย
หน้าตาดี ไม่มีความสามารถ = ไม่เป็นไรๆ ก็ต้องมีสิ่งที่ทำไม่ได้กันอยู่เเล้วนี่นา
หน้าตาไม่ดี มีความสามารถ = อืม โอเค เอ็งเก่ง
หน้าตาไม่ดี ไม่มีความสามารถ = อี๋ ห่วย ขี้เเพ้ บลาๆ
เหนื่อยใจกับการทำผิดซ้ำๆของตัวกูจังหวะ
หีเอย เศร้าใจว่ะ
เหนื่อยใจกับโลกใบนี้จังว่ะ กูคิดอยู่หลายรอบนะว่ากูไม่ควรจะฉลาดหรือรู้เรื่องอะไรเยอะเลย กูน่าจะเป็นคนโง่ๆที่มีชีวิตแบบโง่ๆ แต่มีความสุขมากกว่าหรือเปล่า ขนาดกูหนีมาแล้ว คนบนโลกโซเชี่ยยังชอบเอาเรื่องเหี้ยๆ ของอีกฝ่ายมาแปะมาด่า กูก็รู้อ่ะน้า ว่าโลกนี้มันไม่สวยงาม แต่เราจะทำอะไรได้บ้างนอกจากทนอยู่มันไปวะแม่ง
สุดท้ายสิ่งที่เราทำได้ก็คือทนๆอยู่บนโลกแห่งนี้ต่อไปสินะมึง
หมั่นทำดีกันไว้นะ คนทำดีจะได้ไปสวรรค์ ดูคนที่ละหมาดบนรถไฟแล้วตกรถไฟได้ไปสวรรค์ทันใจเป็นตัวอย่าง
>>802 ไม่รู้กูเข้าใจมึงถูกรึป่าวนะ แต่ถ้าตามที่กูเข้าใจกูก็เห็นด้วยกับมึงมากๆ
ไม่รู้โลกสวยเกินไปรึป่าว ไม่ชอบคนด่ากัน ทะเลาะ นินทา บ่นลงเฟสด้วย มันทำให้รู้สึกสียสุขภาพจิตว่ะ
กูก็มีเรื่องเครียดๆเหมือนกัน แต่ไม่ได้ทำแบบนี้ เพราะวิธีระบายความเครียดไม่เหมือนกันเหรอ ? หรือเพราะวิธีคิด ?
กูเห็นข่าวที่ฝรั่งเศสแล้วรู้สึกสิ้นหวังว่ะ สงครามก่อการร้ายเกิดขึ้นเพราะฝ่ายตะวันตกไปรุกรานเข้าก่อน พอโดนแก้แค้นก็ตอบโต้ด้วยความรุนแรง ผลก็คือติดลูปความแค้นไม่จบสิ้น กูอยากมีกองทัพของตัวเอง อยากมีอาวุธสุดยอดไว้หยุดสงคราม กูจะทำลายกองทหารทั้งโลกให้หมดให้โลกนี้ไม่เหลืออาวุธร้ายแรงอยู่
>>809 https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1713800588840974&id=1526071940947174 <<<แค้นเคิ้นบ้าไร อหิงสากันดีกว่านะพ่อหนุ่ม ดูพี่แกดิ เสียเมียไปทั้งคนนะเว้ย ถ้ากูเป็นคนวางระเบิดได้มาดูนี่คงผูกคอตายอะบอกเลย
กูเชื่อแล้วว่าเฟซคือแหล่งอวดความสุขของคนว่ะ เดี๋ยวนี้พยายามเข้าให้น้อยที่สุด หรือไม่กดเลื่อนอ่านถ้าไม่จำเป็นแต่บางทีก็มีบางเม้นท์หลงมาบ้าง ทำเอากูอารมณ์เปลี่ยนทันทีเลย เฮ้อ
เงินเดือนห้าหมื่นไม่พอใช่ว่ะ สิ้นหวังแล้ววว
*-*
กู813เองนะกูพิมพ์ประชดน้ะ จริงๆอยากไปตั้งมู้ในพันทิบแต่ไม่มีไอดี
ก่อนมึงจะมาพิมพ์ใน >>817 กูก็ว่าจะพิมพ์แบบมึง แต่ขี้เกียจ เพราะกูว่าเรื่องแบบนี้ไม่เจอกับตัวไม่เข้าใจหรอก จำได้สมัยเรียนมหาลัยมีวิทยากรมาพูด บอกเงินเดือน 60K ไม่พอใช้ กูคิดในใจ อีตอแหล มึงจะอวดว่ามึงกินแต่ของแพงใช้แต่ของแพงสินะ แต่พอมาได้จริงก็พบว่าแม่งไม่พอจริงว่ะ แต่ไม่ใช่เราใช้คนเดียวไม่พอ มันคือภาระของการเป็นผู้ใหญ่ ไหนจะใช้จ่ายส่วนตัว จุนเจือพ่อแม่ ลงทุนสร้างอนาคต ลดหย่อนภาษี ฯลฯ ความจริงของกูไม่ถึงขั้นใช้ไม่พอนะ แต่ออกแนวอยากเก็บให้ได้มากกว่านี้มากกว่า สมัยเด็กเราเคยคิดว่าสมมุติได้เงิน 60K เราใช้ 20K ก็คงเหลือเฟือละ เก็บอีก 40K โห ดูเยอะมาก แต่ในความเป็นจริงไม่ใช่เลย มันมีคชจ.อะไรมากมายที่ต่างกับตอนเด็กที่ดูแลแค่ตัวเองและกินใช้ไปวันๆ ก็พอ
เสือกได้ไหม
เป็นคาซาม่ามาตั้งแต่รู้จักบอร์ดนี้ ทำเพราะอยากให้บอร์ดเป็นระเบียบและน่าอยู่
ช่วงหลังมานี้โดนรุมด่าบ่อยมาก ท้อแท้และอยากตายว่ะ
ขอปรึกษาพวกมึงที เป็นปัญหาเรื่องครอบครัวน่ะ
คืออย่างนี้นะ พ่อกูรู้จักกับคนๆหนึ่งประมาณสี่ห้าเดือน เพราะ ทำงานอยู่ที่นั่น แล้วคุยกันกูขอเรียกเขาว่าเอ
พ่อบอกว่าพ่อสนิทกะเอมาก เอจะยกที่ให้ไร่หนึ่งเลยด้วยซ้ำ พ่อเลยถามพี่กูว่าสนใจทำสวนไหม
แม่กูยื่นเงื่อนไขระหว่างทำงานเมืองนอก(แต่กำกับว่าได้แต่เงิน ได้แต่ทำงาน ได้ภาษาเป็นระยะสั้น)
ส่วนการทำสวน(เป็นระยะยาวได้ที่ดิน ได้รายได้ ได้อยู่กับครอบครัว)
พี่กูอยากไปเมืองนอกมาก แต่เลือกอยู่สวน เพราะ "ระยะยาวกับครอบครัว และมั่นคง"
จนกระทั่งไปที่สวนคุยกะเจ้าของที่ เจรจาเสร็จสรรพรอบแรกและเปลี่ยนจากให้หนึ่งไร่ฟรีๆเป็น"สองไร่หกหมื่นต่อสิบปี"
พ่อกูไปที่กรมที่ดินเสร็จแล้วได้รุ้มาว่า"สองไร่หกหมื่นต่อสิบปีมันแพง"ทางด้านเอจึงเปลี่ยนว่า"สี่ไร่หกหมื่นต่อสิบปี"แทน
และนัดว่าจะมาเซ็นสัญญาอะไรๆหลังจากนั้นอีกที
พอวันนี้ไปปุป เอเอาลูกมา เปลี่ยนเป็นชื่อลูกเขาเป็นผู้ให้เช่า(เจ้าของ)แทน และบอกว่าตัวเองไม่รู้จะอยู่ได้นานแค่ไหน
จึงจะใช้ชื่อลูกแทน ส่วนจากที่จะไปทำสัญญาที่กรมที่ดินก็บอกว่า
การเช่าแค่เซ็นสัญญาระหว่างเจ้าของกับผู้เช่าและอบต.หรือคนใหญ๋คนโตช่วยยืนยันก็พอ
พี่กูเริ่มไม่โอเค เพราะ พี่กูเริ่มระแวงแต่แรกก็ไม่ชอบเรื่องสวนแต่อยากทำเพราะเหตุผลตามข้างบน และเรื่องส่วนเป็นการ"เช่า"
พี่กูก็ระแวงเรื่อยๆ กลัวเขาโกง กลัวโดนเอาเปรียบ คือ ถึงพี่กูเขาไม่ชอบแต่เขาก็อยากทำ ไม่อยากให้สิ่งที่ทุ่มมามันสูญไป
เพราะ การเช่าวางว่าเช่าไว้แค่สิบปีแล้วพืชบางชนิดมันยาวถึงสิบเอ็ดหรือยี่สิบปีได้
ถ้าพ้นปีที่สิบและหมดสัญญา พี่กูมองว่าสิ่งที่ทำมาคือสูญเปล่า เพราะ หากปีที่สิบเอ็ดเขาไม่ต่อสัญญาที่ๆทำไว้จะกลายเป็นของเขา
หรือไม่ก็ถ้าถางดินออกจนหมด มันก็รู้สึกเหมือนต้องเริ่ม 0 ใหม่
แล้วบางทีที่ดินอาจจะถูกเอาเปรียบก่อนสิบปีก็ได้ เพราะ สุดท้ายฝั่งครอบครัวกูคือผู้เช่า และตรงละแวกนั้นใครๆเขาก็สนิทกัน
เขาเป็นพยานอะไรหลายๆอย่างกันได้ ตือพี่กูกลัวโดนโกงนี่ละ เพราะ ไปกันแบบไม่มีอะไรเลยนอกจากเงินและความคิดจะปลูกพืช
แต่แม่มองว่าไม่แปลก เพราะ หลังจากนั้นสิบปีที่ผ่านมาพี่กูจะมีความรู้เต็มที่แล้ว จะเริ่มใหม่ก็ไม่สายแต่พี่กูไม่อยากเริ่มใหม่
ส่วนเรื่องจะโดนเอาเปรียบแม่มองว่าพี่กูระแวงมากเกินไปและถามว่าแล้วจะให้ทำยังไงในเมื่อไม่รู้ว่าจะแก้ยังไง
ตอนนี้กูก้ำกึ่งคนกลาง คือกูเข้าใจที่พี่ระแวงนะว่าเขาจะโกงหรือเอาเปรียบก่อนในช่วงสิบปีไหม เพราะ สัญญามันไม่ครอบคลุม
ทุกกรณีอยู่แล้วยังไงมันก็มีช่องโหว่อยู่ดี อีกอย่างการที่อยู่ๆมาให้เช่าแบบนี้มันง่ายเกินไป
แต่แม่เหมือนกับมองว่าเขาเป็นชาวบ้าน สัญญามันเพิ่ม ปล. พวกกรณีพิเศษได้ สัญญาว่าเราเช่าอยู่ไม่มีใครมาเอาเปรียบได้
อีกอย่างแม่บอกว่าพ่อสนิทกับอบต.สนิทกับคนละแวกนั้นเขาไม่โกงหรอก ไม่ก็สามารถใช้สัญญาผูกมัดได้ อะไรทำนองนี้
คือตอนนี้กูควรทำยังไง เขาสองคนไม่คุยกัน แม่กูบอกพอจะล้มเลิกไม่ทำแล้ว ส่วนพี่กูว่าเขาอยากทำแต่เหมือนเขาท้อที่เหมือนใครๆไม่ฟังเขา
ส่วนกูได้แต่ฟัง แต่ทำเหี้ยไรไม่ได้ คือ กูไม่รู้จะทำยังไงดีแต่ใจกูอยากให้เดินหน้าต่อนะ เพราะ กู้เงินมาแล้ว
จะทำสัญญาแล้ว อาทิตย์หน้าจะเริ่มสร้างบ้านหลังเล็กๆไว้อยู่ที่สวนแล้ว
ยกเลิกตอนนี้ไปมันก็ไม่ใช่ไง แต่กูไม่รู้จะเริ่มยังไง เอาจริงๆกูเองก็ไม่รู้ว่าที่กูรู้สึกเข้าข้างพี่มันถูกไหม
คือกูควรเริ่มทำไงดี หรือปล่อยไปตามจะเป็นเลย?
อยากฆ่าตัวตายแต่ไม่อยากทรมาณว่ะ ทำไงดีวะ
>>826
ไม่อยากทรมาณ ตายยังดีซะกว่า
คิดแบบนี้อยู่ล่ะสิมึง อันที่จริงในทางการแพทย์เขามีการทำยูทานาเซียให้กับคนไข้ที่หมดทางรักษาและต้องนอนทรมาณรอความตายได้ แต่มึงไม่น่าเข้าข่ายนี้ เพราะมึงยังเปิดเวปโม่งเล่นได้ มาคุยกันตรงๆเลยดีกว่าว่าทำไมมึงอยากตาย ชีวิตไม่ดีพอให้อยู่ยังไงบ้าง จริงๆแล้วมีสิ่งที่ชอบแต่เดินไปไม่ถึงอยู่รึเปล่า ถ้ามึงยอมแพ้มันก็จบเลยนะเว้ย แล้วเอาจริงๆความตายไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย มึงตายไปก็อาจมีคนเศร้าหลายคน แต่สักวันน้ำตาเขาก็แห้งก็เลิกเศร้าให้มึงอยู่ดี โลกนี้ไม่แคร์คนที่ไม่คิดจะอยู่หรอกบอกตามตรง
แต่ถ้ามึงอยากมีบทของตัวเอง คิดซะว่าตัวเองเป็นตัวละครตัวนึงก็ได้ มึงก็ต้องทำอะไรสักอย่าง คิดหาทางแก้เกมส์ที่ตัวเองเล่นไม่เก่ง จะด้วยอะไรก็ได้ ถ้ามึงทำ แค่ทำ ถึงแม้ไม่สำเร็จ แต่เนื้อเรื่องมึงก็น่าติดตามขึ้นมาแล้ว มึงจะกลายเป็นตัวละครที่หล่อกว่าอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับคนที่ไม่ทันจะอะไรก็ยอมแพ้ คนส่วนใหญ่เมื่อได้ยินเรื่องราวของมึงเข้า ถ้าเขาไม่ใช่ไอ้ขี้แพ้ที่ชอบทำลายกำลังใจชาวบ้านเพื่อให้เป็นความรู้สึกดีง่อยๆทางเดียวที่เขายังพอหาได้ เขาก็จะเชียร์มึงให้มึงชนะสักวันอยู่แล้ว
ผู้คนน่ะไม่ได้รักในความสุขกันหรอก พวกเขารักในเรื่องราวที่ดีที่อ่านแล้วอดยิ้มไม่ได้ต่างหาก ไม่เชื่อหรอ ลองคิดถึงพวกติดยาดูสิ พวกนั้นก็มีความสุขนะ แต่ทำไมชาวบ้านถึงไล่มันไปตายล่ะ เพราะเรื่องที่มันแต่งออกมาคือโคตรขยะวรรณกรรมเลยไง คนที่มัวแต่มองหาความสุขแต่ไม่มองหาทางที่จะได้มาซึ่งความสุขแม่งไม่มีวันที่จะแฮปปี้ได้โดยแท้จริงหรอก เพราะเรื่องราวมันไม่มี มันขาดความหมายของชีวิต มึงเองก็ลองแสวงหาดูสักครั้งก่อนตายก็ดีนะ เพราะเอาจริงๆ สักวันยังไงเราก็ต้องตายอยู่แล้ว เด็กที่มาโรงเรียนแต่ไม่เขียนอะไรลงสมุดจนจบเทอมเลยแม่ง... ไม่รู้ว่ะ ประหลาดเหี้ยๆ ดูเอ๋อสัสๆ กูหวังว่ามึงจะไม่ใช่เด็กเอ๋อคนนั้นนะเพื่อนโม่ง
>>828 กูเป็นขี้แพ้ กูคิดว่ากูทำอะไรก็ล้มเหลวตลอดน่ะ ล้มเหลวมาไม่รู้กี่งานต่อกี่งาน งานต่อไปกูก็คงไม่รอด ทั้งๆที่กูก็พยายามแล้ว จะลาออกจากมหาลัยมานั่งอยู่บ้านเฉยๆกูก็คงเป็นภาระพ่อแม่ ตอนนี้กูทำให้พวกเขาหมดความหวังในตัวกูแล้ว กูก็หมดความหวังในตัวกูเหมือนกัน กูเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ พอเจออะไรหนักๆมาปะทะกูก็รับไม่ได้ มีแต่ถอยหลังไปเรื่อยๆ กูคงไม่ใช่ประชากรแบบที่โลกต้องการเท่าไหร่
กูคงไม่สนว่าใครจะจำกูได้บ้างหลังจากที่กูตายไปหรอก แต่การอยู่แบบขี้แพ้แบบนี้มันทรมาณชิบหายเลยมึง กูทนเห็นตัวกูถอยหลังลงคลองแล้วโดนคนอื่นดูถูกไม่ได้ว่ะ
>>829 เอาจริงๆกูก็ไม่ได้อยากให้มึงอยู่ทรมาณต่อไปขนาดนั้นหรอก กูไม่เข้าใจสถานการณ์มึงด้วย กูแค่รู้สึกเหงา เพราะเพื่อนกูดรอปกันเรียนไม่ผ่านกันรัวๆแล้วกูเศร้าเหี้ยๆ มาอย่างขี้แพ้ไม่ว่า แต่อย่าเดินจากกูไปทั้งๆที่ยังเป็นไอ้ขี้แพ้สิ กูไม่อยากให้มันน่าเบื่อแบบนี้ ไม่อยากเปลี่ยนแปลงบ้างหรอวะ ถ้ามึงทนไม่ได้ที่จะต่อสู้ตอนนี้ มึงก็ยังไม่ต้องสู้ดิ หาทางรักษาสภาพจิตให้ดีก่อนก็ได้ โลกนี้แม่งโหดร้ายก็จริง แต่ไม่มีใครที่สู้แล้วตายจริงๆหรอก มีแต่สู้แล้วชีวิตจะสบายขึ้นเรื่อยๆ มึงเข้าใจสิ่งที่กูพยายามจะสื่อกับจิตวิญญาณของมึงใช่มั้ยเพื่อนโม่ง มนุษย์เราตราบใดที่ยังไม่ตายน่ะจุดความหวังให้ลุกโชนได้เสมอแหละ
กูก็เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อว่ะ แถมมีความรู้สึกว่ายิ่งพยายามยิ่งพลาดและไร้ค่า แต่จะไม่พยายามก็ไม่ได้ เฮ้อ
>>829 ไม่ใช่มึงคนเดียวหรอกที่คิดแบบนั้น กูก็คิด แต่กูก็ยังไม่อยากตายนะ ยังอยากทำอะไรอีกเยอะ ตามการ์ตูนให้จบ เล่นเกมให้เคลียร์ เขียนนิยายให้เสร็จซักเรื่อง ซื้อของที่อยากได้ให้สะใจ บลาๆ ถึงบางอย่างอาจไม่มีวันเป็นจริง แต่ถึงแค่ได้ฝันมันก็สนุกดีอ่ะนะ กูว่าจะพยายามทำลิสต์ว่าวันนี้กูทำอะไรสำเร็จอยู่ เรื่องเล็กๆน้อยๆก็ได้ อย่างวันนี้ทำเมนูยากๆสำเร็จ วันนี้วาดรูปสำเร็จ วันนี้คุยถูกคอกับเพื่อนสุดๆ เป็นต้น มันช่วยให้กูรู้สึกว่าชีวิตกูยังมีความสุขอยู่ว่ะ ถึงไม่ยิ่งใหญ่อะไรนักหนาก็เถอะ
>>829 ในเมื่อมึงทนเห็นคนอื่นดูถูกมึงไม่ได้ มึงก็ทำให้เขาไม่ดูถูกสิวะ!
กูจะบอกให้ ไอ้ความรู้สึกว่าตัวเองขี้แพ้ ทำอะไรก็ไม่สำเร็จอะ แม่งเกิดกับทุกคนแหละ บางคนโดนยิ่งกว่ามึงด้วยซ้ำ ทั้งคนรอบตัวมึง ทั้งมึง ทั้งกู
ยิ่งคนที่ประสบความสำเร็จมากๆในโลกนี้ ก็ผ่านจุดนี้มาทุกคน
จุดที่ตกต่ำที่สุด ถ้ามึงผ่านมันไปได้ จุดนี้ก็จะเป็นฐานของมึง ทำให้มึงแข็งแกร่งขึ้นอีก เคยได้ยินมั้ย "ยิ่งเราผ่านความเลวร้ายมามากเท่าไหร่ โลกปัจจุบันของเราก็ยิ่งสวยงามมากเท่านั้น"
เช่นว่า มึงตาบอดมาทั้งชีวิต มึงมองว่าการที่มึงตาบอดคือเรื่องธรรมดาของมึง(ฐาน) พอวันนึงมึงเกิดมองเห็นชัดแจ๋วขึ้นมา มึงก็จะมีความสุขมาก เพราะอะไร ทั้งๆที่คนทั่วไปไม่ได้มีความสุขเป็นพิเศษกับการมองเห็นชัด แต่มึงมองด้วยฐานที่ต่ำกว่าไง ทำให้การที่มึงแค่มีตาที่มองเห็นเหมือนคนอื่นนี่ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีมากแล้ว
แล้วมึงลองคิดดูนะ มึงยังมีแขน มีขารึเปล่า? ดมกลิ่นหอมได้มั้ย? มึงกินอาหารแล้วรับรู้ถึงรสชาติมั้ย? คนบางคนทำแบบมึงไม่ได้สักอย่างเลยนะ
มึงลองเปลี่ยนความคิดดู อย่ามองว่าอะไรๆก็แย่ไปหมดล้มเหลวไปหมด
ทุกๆอย่างที่มึงมีในปัจจุบันนั่นแหละคือความสำเร็จของมึง คือความภาคภูมิใจของมึง การที่มึงเกิดมาแล้วหายใจได้,ร้องไห้,หัดเดิน,คุยกับเพื่อน
หรือการที่มึงอ่านออกเขียนได้ มีคอมพิวเตอร์มีเน็ตให้ใช้ มีเพื่อนโม่งมาตอบข้อความมึง นี่ก็คือความสำเร็จของมึงแล้ว
แล้วมึงอย่ามาบอกกูว่ามึงไม่ภูมิใจในตัวเองนะ ทุกคนย่อมมีข้อด้อยของตัวเอง เพียงแต่ตอนนี้มึงโฟกัสข้อด้อยของมึงมากไป จนกลบ/ลืมข้อดีของมึงไปหมด
ลองหันมามองทางอื่นบ้างก็ดี ทุกอย่างที่มึงมีมันไม่ได้เลวร้ายไปซะหมด จำไว้ ถ้ามองจากปุยเมฆก็เห็นแค่ท้องฟ้า แต่ถ้ามองจากพื้นดิน มึงจะเห็นธรรมชาติที่สวยงามทั้งหมด รวมถึงท้องฟ้าที่กว้างกว่าเดิมด้วย
มึงพูดถึงแรงบันดาลใจอ่ะบางคนมันอาจจะพอมีแรงฮึดบ้างแต่คนที่มีปัญหาเคมีในสมองนี่ยากมาก ยังไงก็ต้องกินยาหว่ะ เพราะสมองมันจะตีความอารมณ์เพี้ยนบ่อยๆทำให้เข้าสังคมยากมาก ยังไงก็คิดซะว่าถ้าใครมีแนวโน้มทำร้ายตัวเองก็กล้าๆไปขอความช่วยเหลือให้เป็นเรื่องเป็นีราวด้วยนะครับ ไม่อายกับสิ่งที่ตัวเองเป็นแล้วจะได้แก้ปัญหาตรงจุด
กูกำลังรู้สึกว่าปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง แต่ตัวกูก็คนห่วยๆคนเก่าว่ะ เฮ้อ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง New year but old same me.
พวกมึงแนะนำเหี้ยอะไร กันเนี้ย แล้วพวกมึงเป็นเหี้ย อะไรกัน พวกส้นตีน กูจะบอกพวกมึงฟัง ที่พวกมึงท้อแท้ สิ้นหวัง ไม่มีแรงต่อสู้ เพราะว่า อย่างแรกเลย พวกมึงไม่มีมี เป้าหมาย ในชีวิต มึงเคยคิดมั้ย ชีวต มึง จะอยู่ เพื่อ ตัวเอง หรือว่า จะอยู่ เพื่อ คนที่มึงรัก สัดเอ้ย มึงต้องตั้งเป้าหมายในชีวิตก่อน อันดับแรก และต้องเป็นเป้าหมายเดียว ถ้าพวกมึงมองเห็นสิ่งที่ตั้งใจไว้ เดี๋ยวมันจะมีทางไป ของมันเอง เชื่อกู กูจะบอกให้ กูก็เหมือนพวกมึงนั้นแหละ แต่กูเปลี่ยน ความคิดแล้ว มีชีวิตอยู่ อย่างมีคุณค่า ถ้าไม่ใช่ตัวมึง ก็คิดถึงคนอื่น ก็ยังดี อย่าคิดแบบคนใจแคบ ..กูรักพวกมึง นะกูจะบอกให้
ขออีกนิด ลองทำดู แล้วอีก 1 ปี มาเปิดอ่านดิ แล้วเอ็งจะขำ
กูเคยมีเป้าหมายนะ แต่มันยากและไกลไปจนยิ่งทำให้ท้อ เค้าบอกว่าให้ตั้งเป้าหมายเล็กๆ ที่เป็นไปได้ก่อน กูเลยเปลี่ยนมาเป้าหมายเล็กๆ แต่ก็ยังเสือกล้มเหลวอีก เลยยิ่งเฟลยิ่งท้อไปกันใหญ่ว่าเรื่องเล็กแค่นี้กูยังทำไม่ได้ สรุปคนอย่างกูมันทำเหี้ยอะไรไม่สำเร็จซักอย่าง
https://twitter.com/ibangearn/status/472316183769653248
วันนี้กูเปิดทวิตเตอร์แล้วไปเจอทวิตเก่าที่กูเคยแชร์มา กูรู้สึกว่าเป็นแบบฝรั่งในภาพก็ดีนะ
ไม่ต้องทำให้อะไรให้ยิ่งใหญ่มากก็ได้ แค่ช่วยเหลือหรือแบ่งปันอะไรเล็กๆน้อยๆให้คนอื่นก็พอ
เด็กในภาพคงสนุกกับนิทานแล้วมีความสุขดี
http://pantip.com/topic/34557705 กูอยากไปานเลี้ยงรุ่นนะ อยากรู้ว่าเพื่อนๆแต่ละคนเปลี่ยนไปขนาดไหน แต่ก็อายตัวเองที่เป็นแค่NEETขี้แพ้ตัวหนึ่ง
ถ้าไปคงต้องตอแหลว่าทำงานนู้นนี่อีก
/me เดินมานั่งโต๊ะขี้แพ้เงียบๆ
พยายามหาอะไรทำว่ะ ก้าวไปข้างหน้าเรื่อยๆ อย่าเพิ่งหมดหวัง
กูเนี่ย กูจะบอกให้ว่า กูเคยตั้งใจไว้ว่าจะอยู่แค่ถึงอายุ 30 พอ เพราะชีวิตแม่งบัดซบมาก มีแต่ลงกับลง
เรียนก็ไม่จบ งานก็กาก ไม่พอเลี้ยงตัวเอง ต้องอยู่กับแม่ ขอเงินแม่ใช้ แฟนก็ไม่เคยมี (32 ยังโสดซิงครับ เป็นโคตรพ่อโคตรแม่จอมเวทย์แล้วกูน่ะ)
ตอนนั้นก็คิดเอาไว้ว่าจะอยู่แค่ 30 นี่แหละ ใช้เงินเก็บเท่าที่มีไปหาความสุขเล็กๆน้อยๆ (บุฟเฟ่, เที่ยว, ไม่ใช่อ่างนะ อย่าเข้าใจผิด)
จากนั้นก็หาวิธีสบายๆสักวิธีลาโลกไป จะได้ไม่ต้องเป็นภาระของแม่อีก
แต่ช่วงใกล้ๆสามสิบ ด้วยความเซ็งๆ ลองไปลงเรียนภาคค่ำดู ลงไปงั้นแหละ แม่บอกให้ว่างๆไปลงก็ลง
ปรากฏว่าเสือกเรียนได้ดีว่ะ คงเพราะแก่แล้ว มีประสบการณ์ชีวิต ทำให้เรียนเป็น ประยุกต์ความรู้จิปาถะมาใช้กับการเรียนได้
แก่สุดในห้องแล้วกูน่ะ แต่เด็กๆนับหน้าถือตากันหมด เรียกกูว่าพี่เทพ เพราะในห้องเอาแต่จิ้มมือถือเล่นเกม ไม่ก็อ่านไลท์โนเวล แต่เสือกเรียนได้ A
พอมีเรื่องดีๆเข้ามาก็เริ่มรู้สึกว่าชีวิตมันยังพอมีคุณค่าว่ะ ลองยืดเวลาไปอีกหน่อยละกัน เลยยังไม่ดำเนินแผนการปิดเครื่องตอนอายุ 30
จนมาตอนนี้ ช่วงปีนี้เลย งานชิ้นนึงที่ทำเล่นๆ มันไปเข้าตาผู้ใหญ่เข้า เขาเลยมาติดต่อให้ไปร่วมงานด้วย
ซึ่งค่อนข้างชัวร์ว่าได้งานแน่ แถมค่าตอบแทนก็ไม่เลวอยู่ ตอนนี้รู้สึกอยากเล่นต่อแล้วว่ะ ไม่อยากปิดเครื่องแล้ว
ที่อยากจะบอกคือ ถ้าอยู่เฉยๆ นอนรอวันปิดเครื่องอย่างที่ตั้งใจไว้ในทีแรก กุคงมาพิมตรงนี้ในฐานะผีสิงเน็ทอะนะ เพราะตายไปกุก็ไม่ไปไหนหรอก
แต่พอดีด้วยการกลิ้งๆ แล้วฟลุค แล้วอะไรหลายๆอย่าง สรุปคือขอแค่มึงทำอะไรสักอย่างไปเรื่อยๆ อย่าจม อย่าอยู่เฉย
บางทีมันก็อาจได้พบคุณค่าในตัวเอง หรือได้เจอโอกาสแล่นเข้ามาหาได้เหมือนกันน่ะ
เศร้าได้ ท้อได้ แต่อย่าถอดใจเว้ย พยายามหาทางขยับเขยื้อนบ้าง นิดหน่อยก็ยังดี
มึงไม่รู้หรอกว่าหวดมือสะเปะสะปะไปทางไหนอาจคว้าเจอเชือกให้ดึงตัวเองขึ้นมาจากตมได้น่ะ
เพราะงั้นพยายามเข้านะ อย่าเศร้าอย่างเดียวเว้ย ความหวังยังมีเสมอ กูพูดจริง
>>857 ดูท่าความหวังกูจะมาช้าชิบ เรียนจบมาสองปี เพื่อนได้งานในบ.ดีๆทำ ส่วนกูก็รับฟรีแลนซ์กิ้กก้อก แต่ยังดีที่ได้ตังค์ ถึงเยอะสู้เค้าไม่ได้ก็เหอะ เคยท้อหลายครั้งละ วางไว้ว่าจะทำชีวิตให้มั่นคงให้ได้ก่อนอายุสามสิบแท้ๆ ปีหน้าก็ยี่สิบหกละ เอาวะ ลองพยายามลองหวังต่อก็ได้ ขอบใจมาก
ตอนนี้กูรู้สึกว่ามีชีวิตอยู่ด้วยความทรงจำดีๆในอดีตล้วนๆเลยว่ะ เหมือนกับผ่านช่วงพีคของชีวิตมาแล้ว นึกแล้วก็ตลกดี สมัยเรียนมอปลายเป็นตัวท็อปส์ๆของห้อง สอบเข้ามหาลัยของรัฐได้ ชีวิตมหาลัยก็สนุกสนานดี มีความทรงจำดีๆหลายอย่าง มีเพื่อนใหม่ ออกค่ายอาสา แต่พอเรียนจบทุกอย่างก็ค่อยๆดิ่งลงเหมือนกับสิ่งที่ผ่านจุดสูงสุดแล้วมันก็ค่อยๆตกลงมา เกรดเฉลี่ยกูไม่ดีด้วยล่ะเกินสองมานิดหน่อยแถมจบช้าไปปีหนึ่ง หางานทำได้สองปีก็ลาออกมาอยู่บ้านกับพ่อแม่กะว่าจะหางานใหม่แต่ก็ไม่ได้หาซักที รอสอบงานราชการอยู่ แต่ก็คิดว่าจะพยายามไม่สิ้นหวังไม่จมอยู่กับอดีตมากเกินไป
>>860 เหมือนกูเลย บอกตรงๆกูไม่มีความสุขกับชีวิตปัจจุบันเลย กูนึกถึงอดีตกูมีความสุขกับมันจนลืมเวลา มันผ่านไปไวมาก พอมาอยู่ตรงนี้กูจะเป็นบ้า กูไม่อยากยอมรับสิ่งที่อยู่ตอนนี้ อะไรใหม่ๆที่เข้ามากูปิดกั้นหมด ไม่ว่าเพื่อนหรืออะไร
บางทีกูนั่งดูรูปหรือฟังเพลงที่อยู่ในเวลาที่กูมีความสุข กูยิ่งดิ่งมากกว่าเดิม มันทำให้กูอยากย้อนกลับไปอยู่เวลานั้น ไม่อยากอยู่กับปัจจุบันไม่อยากเจออนาคต
บางทีกูอาจจะกลัวการเปลี่ยนแปลง กูชินกับชีวิตในอดีตที่เป็นมาหลายปี ผ่านมา3ปีแล้วกูก็ยังไม่ชิน มีแต่จะแย่ลงๆ กูเก็บตัวมากขึ้นจากที่ปกติกูเป็นคนฮาๆ
บางครั้งกูคิดมากกูนอนไม่หลับ หรือบางครั้งกูอยากจะนอนอย่างเดียวไม่อยากตื่นมาเจอปัจจุบัน
>>862 กูกลัวเป็นนะแต่กูคิดว่ากูไม่เป็นหรอก กูยังมีความหวังหน่อยๆว่ากูอาจจะเจออะไรดีๆถ้ากูหลุดจากตรงนี้ไปได้ กูพยายามปรับตัวอยู่เพราะอย่างที่บอกอ่ะว่ากูอาจจะกลัวการเปลี่ยนแปลง อะไรใหม่ๆกูอาจจะยังไม่ชิน แต่ดูจะใช้เวลาปรับตัวนาน เพราะอดีตที่กูผูกพันกูใช้เวลาร่วมกับมันมาเป็นสิบกว่าปี
แนะนำหนังเรื่อง Intern พระเอกเกษียณแล้วมาทำงานกับเด็กรุ่นลูก ต้องเรียนรู้งานใหม่ Feel good ดีเรื่องนี้
ก่อนเรียนจบกูแอบชอบเพื่อนที่เรียนด้วยกัน แล้วคุยเปิดใจ ผลคือกูร้องไห้หนักมาก หลังจากนั้นกูกับเค้าก็ไม่ได้คุยกันอีก
ตอนนั้นกูคิดว่าถ้าเวลาผ่านไปซักสี่ห้าปีกูสร้างเนื้อสร้างตัวได้คงกลับไปคุยกับเค้า
แต่ตอนนี้เค้ามีงานทำกูเป็นNEET อยู่ต่างจังหวัด อยากกลับไปคุยนะแต่ก็อายตัวเอง
กูคนนึงที่พยามเดินออกมาจากเซฟโซน เพื่อหาอะไรใหม่ๆ ให้ชีวิต ค้นหาสิ่งที่ตัวเองรัก สิ่งที่ตัวเองชอบ แต่ก็อย่างว่าพอออกมาจากเซฟโซนมันก็เริ่มกลัว อยากวิ่งกลับเข้าบ้านละหว่า ไอ่ห่าเอ้ย แต่เมิงรู้มั้ยว่า ตอนที่ออกมา กูแม่งตื่นเต้นสัส ได้ทำเชี่ยหลายๆอย่างที่กูไม่เคยทำ แต่ตอนนี้เงินเริ่มจะไม่มีแดกแล้วทำเหี่ยไรได้ก็ทำๆไปก่อน เมิงคิดหรอว่าเงินจะลอยมาจากฟ้า หรือเมิงโชคดีก็คงถูกหวย เอาหน่ะอย่างน้อยเป็นลูกจ้างเค้าอีกสักหน่อย พอหาทางคลำทาง ประสบการณ์ที่สั่งสมมามันจะหล่อหลอมรวมกันให้เจอสิ่งที่ตัวเองรัก
กูรู้สึกว่ากูเป็นคนที่เกิดมาเพื่อเป็นลูกจ้างว่ะ กูมั่นใจเลยว่ากูเป็นผู้ตามที่ดีเยี่ยมมากๆ
กูชอบเวลามีใครสักคนสั่งให้กูทำอะไรสักอย่าง พอกูทำออกมาแล้วเขาชมกูอะ
แต่กูไม่สามารถเป็นผู้นำใครได้ กูไม่กล้าออกคำสั่ง แค่บอกหรือประสานงานยังไม่ได้เรื่อง
กูฟังงานได้แต่กูอธิบายและบอกงานไม่ได้ ทำได้แค่ทำมันออกมาให้ เวลาโดนตำหนิกูก็ชอบนะ
พอแก้มาแล้วเขาชมแล้วมันดีอะมันรู้สึกดีมากๆ จนบางทีกูรู้สึกฟินเวลาโดนตำหนิ แต่ตอนโดนชมกูก็ชอบมากเหมือนกัน
กูเคยทำงานร้านพ่อตัวเองมาก่อน
ก็งานชิวๆ ทำสบายๆ แต่กูก็ทำมันพัง
(กูจำไม่ได้ว่าตอนนั้นทำไมกูถึงไม่ทำต่อ)
แล้วกูก็มาเริ่มงานเป็นเบ๊ในออฟฟิศ
และกูก็ทำมันพังอีกครั้ง อันนี้ความผิดกูเองเต็มๆ ไม่แก้ตัว
และตอนนี้อีกกูก็ได้งานใหม่ชิวๆสบายๆ
แต่กูก็เริ่มจะเหลวอีกแล้วมั้ง เท่าที่สังเกตตัวเอง ตอนแรกกูว่าจะตายๆไปซะ แต่ตอนนี้พอมีเหตุจูงใจให้ต้องทำงานเก็บเงินให้ญาติสนิทกู..
เฮ้อแม่งผิดหวังกับตัวเองว่ะ พอได้ทุนเริ่มนั่นนี่ก็ทำพังๆๆ
บางทีกูก็อยากเกิดมามีจุดมุ่งหมายบ้าง เกิดมาลอยๆงี้ ต้องใช้ชีวิตวันๆ ข้าวของที่อยากได้ก็ไม่ได้มี ครั้งนี้กูจะพยายามถึงที่สุดเพราะถ้าเจ๊งมันไม่ได้มีกูที่เดือดร้อน อืม.. มาระบายเฉยๆว่ะ ถ้ามันเจ๊งกูจะไปฆ่าตัวตายหนีแม่ง
ตอนนี้กูรู้สึกว่าความบันเทิงทุกประเภทให้ความสุขกูไม่ได้แล้วว่ะ
เมื่อก่อนสมัยเรียน อ่านนิยาย ดูหนัง ดูอนิเมะ อ่านจบมันก็ฟินนะ
ดูแฟนฉันครั้งแรกฟินไปเป็นอาทิตย์
อ่านนิยาย 5cm per second ของชินไคฟินไปสามสี่วัน
เกมส์ก็เล่นได้ทั้งวัน
แต่พอโตขึ้นกูรู้สึกว่าเวลาได้เสพย์งานดีๆ มันก็ถึงจุดที่อิ่มตัวกับความบันเทิง อารมณ์ประมาณว่ารับของดีมาเยอะจนรับมาอีกก็ไม่สนุกเท่าเดิมแล้ว
เพื่อนโม่ง ถ้ามึงรู้ว่าพ่อมึงกำลังเป็นอัลไซเมอร์ มึงจะทำยังไง
>>876 คือกูจะเล่าให้ฟังว่ากูอยากทำKickstarter ทำคล้ายๆดอกแทคให้คนป่วยความจำเสื่อม,เด็กเอ๋อ,เด็กเล็กใส่ติดตัวเวลาไปข้างนอกหว่ะ
ทำแบบเป็นป้ายผ้าเล็กๆแบบที่ติดทึ่หลังคอเสื้อให้ผ้ามันทนๆไม่เคืองผิว.
1. คนที่ในบ้านมีคนอัลไซเมอร์,เด็กเอ๋อ เขากลัวเรื่องจะหายไปจากบ้านก็สั่งกู
2. กูทำป้ายที่ว่าให้มีข้อมูลแบบเบอร์โทรบ้าน,โรคประจำตัวของเขา,หรือชื่อ,IDประชาชน ให้100แผ่น
3. คนซื้อก็แอบเอาป้ายไปเย็บติดเสื้อผ้าไว้
4.เวลาคนหายถ้าเขากลับบ้านไม่ถูก แต่เสืัอผ้าตัวเดิมคนที่เห็นเขาจะติดต่อกลับบ้านให้ไปรับได้
เอาง่ายๆเลยคือคนมันขี้ลืมแต่คงไม่ถึงขั้นไม่ใส่เสื้อผ้าออกจากบ้านอ่ะนะ ก็ติดให้คนความจำเสื่อม,เด็กเอ๋อ,เด็กเล็กไปโรงเรียน, เด็กวัยรุ่นหนีบ้านไปแว้นเวลามันโดนรถชนโรงพยาบาลจะได้โทรตามญาติถูก
โม่งที่อ่านคิดว่า "ป้ายผ้าคนหาย" ของกูเวิร์คไหมวะ ใครจะเลียนแบบตอนนี้ก็แอบเอาหมึกเพอร์มาเนนท์(หมึกทนน้ำเขียนเบอร์โทร.ที่บ้านไว้ที่แขนเสื้อ,ด้านในกระเป๋ากางเกงส่วนใหญ่สีขาว ก่อนก็ได้นะ) เขียนไปว่าถ้าเขากลับบ้านไม่ถูกให้โทร.มาเบอร์บ้านแบบนี้
อยากตายว่ะมึง หลายรอบแล้วอ่ะ ปัญหาเรื่องเรียน+ครอบครัว ไม่มีคนระบาย เพื่อนสนิทที่สุดแม่งก็เพิ่งทิ้งกูไป แถมแม่งยังเอาเรื่องครอบครัวที่กูเคยปรึกษามันไปล้อว่าเป็นปมด้อยกูในทวิตอีก แม่ง
>>881 มึงระบายมาได้เลย ชาวโม่งยินดีรับฟังมึง
หรือมึงจะไประบายในแชทก็ได้นะ https://fanboi.ch/karma/2128/ กูทำบ่อยเวลาเครียดๆ
มึงกูรู้สึกแย่ กูรู้สึกแย่มากที่กูทำตามความคาดหวังครอบครับไม่ได้ กูไม่อยากทำ มันเป็นเรื่องที่กูไม่อยากแต่เขาต้องการให้กูทำ มันเป็นเรื่องเล็กๆงี่เง่าด้วย
แต่กูไม่อยากทำ กูไม่อยากยังไงก็ไม่อยาก แต่เขาทำหน้าผิดหวังใส่กู กูรู้สึกแย่แต่ยังไงๆกูก็ไม่อยากทำ แต่กูก็เสียใจ
มันทำกูกลัวถ้ากูทำตามความคาดหวังอย่างอื่นไม่ได้กูจะหมดคุณค่ามั้ย ถ้ากูทำไม่ได้อีกเขาจะทำหน้าผิดหวังใส่กูอีกมั้ย ถ้ากูทำตามความคาดหวังที่เขาต้องการไม่ได้กูควรทำยังไง กูไม่รู้ แต่กูรู้สึกเศร้ามาก กูรู้สึกเศร้ามากๆ
>>883 ฟังคุณด้วยใจ โทร. 02-713-6793,12:00-22:00
http://www.samaritansthai.com/
เหนื่อย อุตส่าห์กำลังมีความสุขของตัวเองอยู่ดีๆ แต่หลายครั้งก็มักถูกความสุขของคนอื่นที่ดูดีกว่า ดังกว่า ราคาแพงกว่ามาโถมใส่แทบทุกที พยายามไม่สนใจแต่ก็ไม่ไหวว่ะ มันอดไม่ได้จริงๆ เฮ้อ จากสุขๆกลายเป็นเฟลเลยแม่ง
ไม่เห็นไม่ใช่ว่าไม่มี แหม่ กูมีแต่กูไม่อวดแค่นั้นเอง ทำไมต้องมาทำเหมือนกูคนละระดับชั้นกับพวกมึงด้วยวะ ห่า ใช่ บางอย่างไม่มีปัญญาซื้อแต่หลายอย่างกูก็มีนี่หว่า เอามาตรฐานตัวเองมาวัดคนอื่นชัดๆ มึงเอาเงินไปซื้อก็เรื่องของมึงดิ เออ ถ้ากูก็อยากได้กูถึงจะอิจฉาหรอก แต่ส่วนใหญ่ไม่ไง ไม่ได้อยากรับรู้เลยด้วยซ้ำ เหอะ เซ็ง
ถ้าพวกมึงเครียดนักก็เอากัญชามาแดกเหอะ
ยาเสพย์ติดแก้อาการซึมเศร้าด้ชั่วคราวแต่ทิ้งผลเสียไว้เยอะกว่า ถ้าอยากหายเศร้าแนะนำพวกแอลกอฮอล์ดีกว่ายาแรงๆแบบกัญชา
เรื่องของพวกมึงมันขี้ๆกันมาก มึงรู้มั๊ยว่าการเป็นคนไทยแล้วไม่ได้แดกอาหารไทยๆ มันเจ็บปวดแค่ไหน
พวกมึงรู้ไหมว่ากว่ากูจะหาร้านอาหารไทย ที่ไทยแท้ๆ จริงๆมันหายากแค่ไหน กูหาแทบตายพอเจอปั๊บกูสั่งข้าวมันไก่ เสือกไม่มีให้กู
มึงรู้ป่ะว่ากูสิ้นหวังแล้วทรมานมากแค่ไหนที่ไม่ได้กินมาม่า ขนมจีบ หมี่เกี๊ยวหมูแดง หมูกรอบ ข้าวซอย พะโล้ เห็ดฟาง etc.
กูสิ้นหวังมาก เครื่องปรุงพวก ซีอิ้วขาว น้ำมันหอยก็ไม่มี คะนอ กับ รสดีกูก็จะหมดแล้ว กูจะอยู่ต่อยังไง
วันนี้มันวันวินาศสันตะโรอะไรของกูวะเนี่ย
เฮ้อ เหนื่อยจังมึง กูรู้สึกสิ้นหวังแล้วสมเพชตัวเองมากว่ะ ทำไงให้มันหายไปดีวะความรู้สึกนี้
กูเหนื่อยใจที่ตัวเองเป็นแบบนี้ว่ะ
ทำไมมหาลัยต้องปิดเทอมเปิดเทอมแบบอาเซียนด้วยวะสัส
บางทีกูก็รู้สึกว่าตัวกูไม่มีค่าเลย
กูเห็นแล้วสิ้นหวังแทนวะ
http://pantip.com/topic/34638731
สิ้นหวังกูรู้สึกเหมือนเป็นขยะเลย กูไม่มีเพื่อนในโรงเรียนเลยกูเหมือนคนไม่มีตัวตนเลยไม่ไหวกูอยากร้องไห้ว่ะ คืองี้ กูอยู่ในกลุ่มเพื่อนในห้องกลุ่มใหญ่ๆกลุ่มนึง แต่เหมือนเปนอากาศเลยว่ะพวกมันไม่ค่อยเปิดใจกับกูพวกมันอยู่เปนกลุ่มมากกูก้เข้าสังคมไม่เก่งและขาดความมั่นใจอย่างรุนแรง ช่วงแรกๆมันก้มาคุยดีกับกูนะเว้ย แต่กูก้ไม่ค่ิยกล้าคุยมากเลยตอบแบบอ้ำๆอึ้งๆไป แล้วพวกมันก้เริ่มห่างเหินกู กูไม่รู้จะคุยอะไรที่ทำให้สนิทมากขึ้นอ่ะ มีใครแนะนำอะไรได้ไหม เวลามันคุยอะไรกันแล้วกูเดินไปใกล้ๆมันก้เงียบมันเป็นฟีลที่เจ็บมากเว้ยนึดไม่ออกว่าจะเข้าหาหรือคุยอะไรดีก้เลยได้แต่เงียบๆในกลุ่มทุกวันนี้กลับจากโรงเรียนกูร้องไห้บ่อยมาก ไม่รู้จะทำยังไง เหมือนตัวเองเป็นอากาศในห้องอ่ะสิ้นหวังล้วนใครก้ได้ช่วยกูด้วย...
กูบอกประโยควิเศษให้. เดินเข้าไปหาคนนิสัยดีดี แล้วบอก “เธอ/นาย มาเป็นเพื่อนกันเถอะ“ เขื่อกูส่วนใหญ่ไม่ปฏิเสธหรอก
ความรู้สึกกูในตอนนี้เหมือน >>883 มาก ๆ บวกด้วยคนในบ้านบังคับให้เคร่งศาสนาตามใจเขา อึดอัดชิบหายแต่พูดไม่ได้ ขัดใจก็มึนตึงใส่กู
ดีไม่ดี อาจจะเอาของ ๆกูไปทิ้งด้วย
พี่ชายคาดหวังให้กูเป็นอย่างที่เขาเป็น พอกูทำไม่ได้ เขาไม่อยากคุยกับกูเลย บางทีก็ด่าก็กดดันกู ซึ่งกูพยายามแล้วและไม่ถนัดแบบที่เขาทำด้วย
เริ่มปีใหม่ ไม่มีเหี้ยอะไรดีเลย มีแต่คนเอาแต่ใจใส่กูแล้วเชิดหนี มีกูนั่งเสียใจอยู่คนเดียว
เดินเล่นมือถืออยู่บนทางเท้าสักพักมอเตอร์ไซต์ขับมาบอกน้องเดินไม่ดูรถเลย
>>905 ถ้าเรียนมหาลัยอย่าทำนะเดี๋ยวยิ่งกลายเป็นตัวประหลาด.
ตอนนั้นผมใช้วิธี เวลาเรียนแลป มันต้องรอผลการทดลอง บางทีมันจะผ่านเวลาเที่ยงหรือเย็น ผมจะลงไปซื้อของกินที่เซเว่น จะถามเพื่อนว่าจะฝากซื้ออะไรบ้าง เราก็เดินลงไปซื้อให้เขาหน่ะ. กล้าๆทำดีกับคนอื่นหน่อยจะเข้ากับคนง่ายครับ
คนที่กูไม่ชอบเล่นโม่ง และกูเคยนินทามันในโม่ง.......................................................................................
คนที่กูชอบ เขาเล่นโม่ง และกูก็เคยมาเพ้อถึงเขาในโม่ง
คือเคยรู้สึกกันป่ะวะ ไอ้การที่แบบเอ่อเว้ย เราทำเหี้ยอะไรก็กลายเป็น loser เนี่ย มันรู้สึกจริงๆนะว่าเหมือนหน้ากูมีคำว่า loserสลักอยู่หรือไงว่ะ
มีใครแม่งเคยป่ะว่ะไอ้ความรู้สึกที่ว่าตัวเองแม่ง loser แบบกูอ่ะ กูขอดูหน่อย กูจะได้รู้ว่าอย่างน้อยในโลกนี้ก็ไม่ได้มี loserแค่กูคนเดียว
---
กู ตอนเด็กๆจะรู้สึกว่าตัวเองพิเศษมาตลอด เรียนเก่ง ทำอะไรก็โดดเด่น เป็นตัวแทนห้อง จนมาพลิกตอนมัธยม ยิ่งโต ยิ่งเจอคนเยอะขึ้น ยิ่งมั่นใจตัวเองน้อยลง หนักเข้าก็ไม่มีความสนใจทำอะไรซักอย่าง จบด้วยการเป็น loser ไปวันๆ เย้
>>916 ตอนประถมกูเก่งระดับท็อปห้อง ฐานะก็ดีระดับต้นๆของห้อง (กูลูกข้าราชการไปเรียนโรงเรียนเอกชนบ้านนอกที่ลูกชาวนามาเรียน)
เรียนเก่ง เพื่อนเยอะ คุณครูรัก เรียกได้ว่าเป็นนักเรียนดีเด่นของโรงเรียน ขาดแค่เรื่องกีฬาที่ทำได้ไม่ดี
เข้ามอต้น รร.ประจำจังหวัด กลายเป็นที่โหล่เพราะเสือกไปอยู่ห้องคิงส์
พอเข้ามอปลายก็ดีขึ้นมาหน่อย กลับมาเป็นเด็กเรียนอันดับต้นๆของห้องอีกครั้ง เพราะเลือกสายภาษาเด็กเรียนเก่งระดับกลางๆ
ตอน ม.6ชีวิตกูพีคมาก เป็น1ใน4คนที่สอบติดโควต้าคณะอักษร เป็นคนแรกๆของห้องที่มีที่เรียนในมหาลัยรัฐ หลังจากนั้นกูได้โควต้ามหาลัยรัวๆจนไม่ต้องไปลุ้นแอดมิชชั่น ชีวิตปี1อยู่มหาลัย อยู่หอใน เพื่อนเพียบ กิจกรรมเพียบ เรียน เล่น จีบสาว ทุกอย่างดีหมดจนกูเริ่มติดF
แต่กูเรียนจบในที่สุดถึงจะช้ากว่าเพื่อนไป 1 ปี จบออกมาได้งานไม่ตรงสายแต่ก็คิดว่ายังดีที่มีงานทำ กูทำได้สองปีก็ลาออกมาอยู่บ้านที่ต่างจังหวัด
กูเคยคิดนะว่าชีวิตกูนี่เหี้ยที่สุดแล้ว เพื่อนคนอื่นในรุ่นสมัยมอต้นเรียนต่อสายแพทย์ทั้งนั้น มีงานดีๆทำ เพื่อนสมัยมหาลัยก็จบวิศวะ จบกฎหมาย มีงานดีๆตรงสายงาน ส่วนตัวกูสุดท้ายก็เป็นไอ้ขี้แพ้ว่างงาน เวลาเห็นเพื่อนบางคนเริ่มแต่งงานกูก็แอบเศร้าเล็กๆ แต่ก็คิดไว้แล้วล่ะว่าชีวิตนี้คงไม่มีครอบครัวเหมือนคนอื่น
ทุกวันนี้ก็พยายามทำตัวเองให้ดีขึ้นนะ พยายามเรียนภาษาเพิ่ม หางานราชการสอบ กลางปีคงออกไปหางานทำอีกรอบ
เหนื่อย ท้อ เหนื่อยจนอยากจะปล่อยมือจากทุกสิ่งทุกอย่างแม่งแต่ก็ทำไม่ได้เพราะคำว่าความรับผิดชอบมันค้ำคอ
ไม่ถึงกับชีวิตนี้สิ้นหวัง แต่กูท้อว่ะ พอกูรู้ว่ากูต้องเรียนอะไรบ้างกูต้องทำแลปหรือฝึกงานกี่ ชม.กูก็รู้สึกเหี้ยแล้วว่ะ
ถ้าเป็นคณะอื่นกูทนแปปๆก็จบ แต่นี่กูเรียนมากกว่าคณะอื่น แถมตารางเรียนก็เต็ม ไม่มีที่ว่างแบบคณะอื่นเขา
พอมีที่ว่างเขาก็จะนัดเพิ่มกูอะ แล้วกูก็เรียนไม่รู้เรื่อง โดดก็ไม่ได้อีกเพราะเพื่อนกูไม่มีใครกล้าเซ็นชื่อให้เลย
ขนาดเพิ่งเปิดเทอมกูยังรู้สึกว่ากูเพลียอย่างกับเปิดมาเป็นเดือน ไม่เฟรชเหมือนสมัยกูเปิดเทอมที่ รร.เลย
พอปิดเทอมกูหวังไว้ว่าจะได้ปิด3เดือนเพราะกูมีแพลนทำงานอดิเรกกูซึ่งกูประมานไว้ว่า3เดือนกูทำเสร็จ สรุปคือไม่ใช่เว้ย พ.ค.กูก็ยังไม่ปิด
แล้วนี่กูปียังไม่สูงเลย ถ้าปีหลังๆกูไม่มีเวลาทำสิ่งที่กูรักเลยเหรอวะ แค่ตัววิชาเรียนกูก็เครียดแล้ว งานกับการจับกลุ่มทำงานที่ฟิกและเวลาต่างๆก็ทำกูเครียด
กูเริ่มเป็นนู่นเป็นนี่ตั้งแต่เทอมที่แล้ว เครียดโรคที่เป็นก็เครียด เครียดเรียนก็เครียด กลัวตกก็กลัว ฝึกงานก็เยอะไม่ฝึกก็ไม่ได้
>>916 กูนี่ล่ะไอ้ขี้แพ้ตัวจริง ขน่ดจะโพสโม่งแม่งยังโพสผิดจนมอดต้องมาล็อกทู้มึงคิดดู เรียนมาแม่งสูงเสียเปล่า แม่งเสียเปล่าจิงๆ ทำงานหาเงินไม่ได้ ที่เรียนมาเหมือนเอาทิ้งหลุมขยะรอให้มันเน่าไปวันๆ ทำเหี้ยไรก็ผิด ไปทำงานที่ไหนก็โดนหมายหัวว่าไร้ประสิทธิภาพ ทุกวันนี้กูมีชีวิตด้วยความรู้สึกหดหู่ตลอดเวลาเพราะวันข้างหน้ากูจะทำอะไรหาเลี้ยงตัวเองได้บ้างถ้ากูไม่มีที่ให้อาศัยอยู่แล้ว
เครียดว่ะเพื่อนโม่งโดนไล่ออกจากงาน
กูชอบรักษาระยะห่างกับคนที่เพิ่งรู้จักกันอ่ะ เกรงใจเขา แต่พอเห็นคนอื่นเอฮากันสนิทกันเร็วมาก แล้วกูยืนมองห่างๆ เหมือนโดนทิ้ง โคตรเจ็บเลย TT
กูเบื่อแม่ตัวเองจังว่ะ ไม่เคยฟังที่กูพูดเลยสักรอบ พอบ่นก็ทำเป็นฟังแต่ไม่เข้าใจ เป็นพวกอีโก้สูงจัดชอบแคร์คนอื่นมากกว่าคนในครอบครัว
ชอบเอากูไปเปรียบเทียบกับชาวบ้าน หาว่าเด็กฝรั่งอายุเท่ากูมันออกนอกบ้านไปอยู่เองแล้วไม่มาเพิ่มค่าใช้จ่าย ซึ่งเอาจริงๆกูออกไปก็ได้นะ
แต่อย่าแดกตังค์กูอีก กูจะไม่ให้สักบาท เออนั่นล่ะกูไปแน่ ถ้ารู้ว่าจนพวกพ่อแม่ทั้งหลายมึงจะมีลูกมาทำไมละวะ แบบนี้ก็เป็นแค่คนไร้ความรับผิดชอบ
ดูแลไม่ได้ก็หาว่าพวกกูผลานเงินตัวเอง เอ้าแล้วจะมีไปทำเหี้ยอะไรลูกน่ะ แต่ก็เอาเถอะไว้กูทนไม่ไหวกูจะออกไปให้ไกลๆแล้วไม่กลับมาเหยียบมายุ่งอีกเลย ชีวิตคิดแต่ว่าจะต้องมีเงินหาเงินมาเยอะๆจะได้สบาย ไม่คิดว่ากูอยากใช้ชีวิตแบบตัวเองมั้ยคิดแทนกูไปซะหมด เอาจริงๆกูคิดมาหลายรอบแล้วล่ะว่าบางทีตายห่าไปก็คงจะดีเหมือนกัน ทุกอย่างจบไม่ต้องมานั่งเคลียดนั่งคิดให้ปวดหัวกับชีวิต กูว่ากูก็ใกล้กับช่วงเวลาที่จะบอกลาโลกเต็มทีแล้วล่ะว่ะ กูเบื่อ ทั้งเบื่อทั้งเกลียดทุกอย่างรอบตัว
>>928 แล้วมึงอยากใช้ชีวิตตามที่ตัวเองชอบนี่คือยังไงวะ
มึงอยู่ไปวันๆผลาญเงินเค้าไปเรื่องอย่างที่เค้าว่าจริงรึเปล่า
ถ้ามึงคิดแล้วว่าแม่มึงมันไม่ทันโลกจริงๆ มึงแน่พอแล้ว มึงก็ออกจากบ้านไปเลย กูเองก็มีพ่อแม่บงการชีวิต กูเลยตัดสินใจออกไปอยู่หอ หางานพิเศษทำ ขอทุนมหาลัย เลี้ยงตัวเอง นานๆทีก็กลับไปเยี่ยมบ้านบ้าง ชีวิตดีขึ้นเยอะ
กูว่าครอบครัวคนตายเสียหายนะเนี้ย
>>916มึงใช่ป่ะที่เป้นคนไปบอกให้กูมารวมกระทู้นี่ะ กูไอ้คนเปิดกระทู้loser เองนะ
ถ้าถามว่าความรู้สึกกูตอนนี้เป้นยังไง>>912 นี่แหละกูด้วย แต่กูตอนนี้รู้สึกแม่งแย่กว่าขยะอ่ะ แม่งทำควยไรก้ผิดก้พลาด
คนอื่นเวลาแม่งล้มกูช่วยแม่งตลอดอ่ะ แต่เวลากูพลาดบ้างแม่งมีแต่เหยียบกูซ้ำ แม่งไอ้เหี้ยกูไว้ใจแม่งว่าเป้นเพื่อนไอ้สัด ใส่หน้ากากตอแหลกันทั้งนัน เพื่องโม่งมึงรู้แะ ตอนนี้ความรู้สึกกูแม่งไม่ต่างเหี้ยไรกับกากเดนอ่ะ ครอบครัวก้คาดหวังกันชิบหายอยากให้กูเป้นข้าราชการ ทั้งครอบครัวกูมีแต่คนเก่งๆงานดีๆ แต่กูนี่เหี้ยอะไรวะ เย็ดแม่เอ้ย โคตรขยะที่แย่กว่าสวะอ่ะ แม่งกูอยากบอกครอบครัวกูว่ะ อย่าคาดหวังให้กูเป้นราชการให้ได้เลย ให้กูมองตัวเองว่ากูเป้นมนุษย์ตอนนี้กูยังทำไม่ได้เลยว่ะ
มึงลองนึกดูนะเว้ย แม่งชีวิตคนๆนึงอ่ะ ที่แม่งโดนสอนมาแบบกูให้ช่วยเหลือให้แบ่งปันคนอื่นให้เป้นคนดีของสังคมอ่ะ แล้วสุดท้ายแม่งเป้นไงอ่ะสัด ? ทำคุณบูชาโทษแล้วกูก้เป้นขยะกากเดนอยู่นี่ไง
สำหรับกูตอนนี้นะเว้ยเพื่อนโม่ง กูไม่มีที่พึ่งที่ไหนนอกจากพวกมึงแล้วว่ะ กูเคยบอกคนในครอบครัวไปแล้วเรื่องพวกนี้เขาก้บอกว่าเป้นผู้ชายอย่ามาทำตัวอย่างนี้ แล้วกูเป้นปู้ชายกูเศร้ากูท้อไม่ได้หรอว่ะ? กูก้ทนเรืองเหี้ยๆมาตลอดอ่ะ แต่ตอนนี้กูทนไม่ไหวแล้วไง ขนาดตอนนี้กูยังร้องไห้อยู่เลยว่ะ ครอบครัวกูดูหนังพ่อกูมานั่งข้างๆที่แปรกูกูยังต้องเอาผ้าห่มคลุมหน้าตัวเองแล้วพิมอยู่นี่เลยวะ พ่อกูเขามาเล่นด้วยกูต้องรีบปาดน้ำตาแล้วทำหน้าว่ากูมีความสุขอยู่ แม่งไม่ใช่แล้วว่ะตอนนี้
กูอยากเกิดมาเป็นลูกคนรวยว่ะ ไม่ใช่ว่าพ่อแม่กูไม่ดีนะ แต่เวลาอยากได้อะไรกูต้องดิ้นรนหามาเองตลอด พอได้มากูก็ดีใจนะ แต่พอหันไปมองพวกลูกคนรวย ไม่ต้องดิ้นรนเหมือนกู อยากได้ไรก็ได้เลย มีพ่อแม่สนับสนุนตลอด น้อยใจว่ะ ฮือๆ
ตอนเด็กอยากโตเป็นผู้ใหญ่แล้วทำงานจะได้มีตังค์ของตัวเองไปซื้อของตามใจชอบ แต่พอโต ทำงานมาหลายที่แต่ไม่มีงานประจำซักที อุตส่าห์เก็บได้ถึงแสนกลับต้องเอาไปช่วยโปะค่าทำบ้านใหม่จนแทบไม่เหลือ ยังไม่ได้ใช้อะไรซักบาท ทีนี้งานปัจจุบันก็เงินน้อยกว่าเดิมเหลือแค่หลักพัน นี่จะให้กูช่วยค่าใช้จ่ายอีก ตกลงจะไม่ให้กูได้ใช้เงินตัวเองเลยใช่มั้ย แต่ถึงยังไงก็เงินไม่พออยู่ดีนั่นแหละ เห็นเพื่อนรุ่นเดียวกันทำงานในบ. มีเงินเดือนหลักหมื่น แบ่งแล้วก็ยังพอเอาไปซื้อฟิกซื้อด๋อยได้ก็อิจฉาทุกที เฮ้อ กูเกือบได้ทำบ.นึงแล้วแท้ๆ แต่เสือกไกลบ้านเกิน แล้วก็ไม่มีที่ไหนรับกูอีกเลย...
ดันมาทำบ้านใหม่ตอนเกษียณแล้วงบบานเลยเอาของกูไปโปะแถมไม่บอกซักคำ เงินกู... พอจะซื้ออะไรก็ต้องขออนุญาต คือเงินกู บัญชีกูป้ะ เห็นกูฟุ่มเฟือยขนาดนั้นเลยรึไง ทีนี้ไงล่ะ เกษียณแล้ว รายได้ก็ไม่พอใช้ กลายเป็นต้องพึ่งกูให้ช่วยด้วยทั้งๆที่กูยังมีเงินเก็บไม่พอซักที ตกงานมาประมาณสามปีแล้ว ได้แต่ทำฟรีแลนซ์กิ๊กก๊อก ไปสมัครบ.ที่ไหนเค้าจะรับวะถามจริง
เป็นลูกที่แม่ไม่รัก ทุกวันนี้อยู่กันมาเลี้ยงกันมาเพราะแค่ต้องรับผิดชอบ
กูตลกบ้านกูวะ กูรู้ว่าเรื่องนี้มันน่าจะดูเล็กน้อยสำหรับคนอื่น มีคนซวยกว่ากูเยอะ แต่กูขอระบายนิดหน่อยละกัน
ครอบครัวกูเป็นบ้านทีค่อนข้างปกติ พ่อทำงาน แม่บ้าน กู น้องสาว ย่าและป้าที่ไม่ได้อาศัยอยู่ด้วย คือบ้านกูอยู่อย่างธรรมดามากและมีความสุขดี
ทีนี้ป้ากูต้องการให้ครอบครัวอยู่ร่วมกันเลยจะให้ย่าย้ายไปอยู่บ้านที่ใหญ่กว่า ตอนแรกย่าก็ตกลง เลยจัดการย้ายของ แม่กูเลยย้ายไปอยู่ก่อนคนเดียว
สุดท้ายย่ากูกลับลำไม่ยอมไป แม่กูเลยต้องรับหน้าที่เฝ้าของอยู่คนเดียวที่บ้านนั้น แม่กูพออยู่คนเดียวก็ต้องหาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องเอง ทำงานเล็กๆน้อยๆได้ แต่กูก็ไม่เข้าใจว่าทำไมแม่กูถึงหากินเองไม่เป็นชอบใช้พ่อซื้อข้าวให้กิน พ่อกูเลยเป็นคนที่ต้องวิ่งเทียวไปเทียวมาอยู่ 2 บ้านนี้ ค่าอาหารพอแยกบ้านกันก็ต้องเพิ่มเป็น 2 ชุด ค่าไฟก็เป็น 2 บ้าน แต่พ่อกูก็ทนทำ...
กูพยายามแก้ปัญหาแล้ว บ้านกูเห็นธรรมดางี้ เอาเข้าจริงเสือกไม่มีใครยอมเปิดใจคุยกับใครเลย...
กูถามย่าทำไมไม่ย้าย ย่าบอกกลัวบ้านนี้โดนขโมยของ เลยต้องเฝ้า
....แต่กูรู้ว่าที่จริงแกยังติดเพื่อนของแก ถ้าย้ายไปก็ไม่รู้จะคุยกับใคร
กูขอร้องย่าให้ลองย้ายไปดูไม่ชอบค่อยกลับ กูโดนตะคอกกลับ บอกว่าอย่ามายุ่งเรื่องของกู
คำพูดที่กูเกลียดที่สุดจากปากย่าคือ "เดี๋ยวกูก็ตายแล้ว"
นานๆทีกูจะไปหาแม่ แม่มีนิสัยไม่ดีตรงที่เก็บเงินไม่เป็น จึงลำบากพ่อกูเสมอ
ถึงงั้นเวลากูไปหาเขา เขาก็ดีใจ เขาชอบพูดว่า อยากกินร่วมกันกับครอบครัวอีก กูก็เข้าใจเขานะ
กูรู้ว่าแม่กูอยากกลับมาใจจะขาด ไม่อยากเป็นภาระให้พ่ออีก แต่ของมันก็ย้ายมาจนหมดแล้ว...
พ่อกูก็ยังเทียวไปเทียวมาอยู่แบบนี้ กูรักพ่อมาก แต่เขาเป็นคนที่เก็บความทุกข์เอาไว้คนเดียว ไม่ว่ากูจะถามอะไรเขาก็ไม่เอ่ยปาก...
สุดท้ายก็คาปัญหาไว้แบบนี้จนสภาพเงินเริ่มไม่คล่อง ค่าน้ำค่าไฟค้างเป็นเดือน เคยโดนตัดแบบนอนไม่มีไฟอยู่ประมาณครึ่งเดือน
กูว่าวิธีแก้ไขปัญหาบ้านกูนี้มันชัดเจนมาก และกูก็นึกวิธีอื่นไม่ออกแล้ว คือต้องอุ้มย่าแกไปอยู่บ้านใหม่แบบมัดมือยกไป รวบค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้อยู่บ้านเดียว และเปลี่ยนอีกบ้านเป็นแบบให้เช่า (ซึ่งก็คงต้องเสียเงินปรับปรุงอีก)
และกูก็รู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้...
กูไม่อยากเชื่อเลยว่าปัญหาขี้มดตอนแรกแม่งจะทำให้บ้านกูแตกซะแหรกขาดได้ขนาดนี้
ลืมซักชุดนักเรียน สิ้นหวังแล้ววววว
>>952 กุงงแปปของแทบไม่มีแล้วพวกมึงตอนนี้ใช้ชีวิตกันอยู่ได้ยังไง เรื่องของมันพูดยาก บางคนข้าวของในชีวิตประจำวันแม่งเยอะขาดนิดขาดหน่อยบอกไม่มีของอยู่ไม่ได้
อย่างกุเคยอยู่หอแบบเหมือนไปเข้าค่ายขอแค่มีเสื้อผ้าก็อยู่ได้แล้ว
ถ้าบ้านมึงแม่มึงไม่ได้ทำงานอะไรแล้วทีบ้านไม่มีใครอยู่นอกจากย่า มึงลองให้แม่มึงแบบอาทิตย์นึงกลับบ้านซักวัน2วัน
ถ้าบ้านใหม่กับบ้านเก่าห่างไม่มากให้ไปกลับตอนกลางวันก็ได้ แรกๆอาจเป็น3-4วันที
ส่วนข้ออ้างก็แบบกลับมาทำความสะอาดบ้าน บ้านไม่มีคนดูแล ตอนกลางวันคนออกไปนอกบ้านหมดไม่มีใครดูย่า
ครั้งพ่อมึงจะด่าก็ไม่ได้ อีกบ้านก็มีคนดู เจอกันครึ่งทางไปก่อน
เท่าที่กุอ่านที่มึงเล่าเหมือนบ้านมึงเหยียดแม่มึงเพราะเขาไม่ทำงาน มึงต้องลองออกไปเจอครอบครัวอื่นที่มั้งพ่อแม่ทำงานโลกภายนอกบ้าง
อย่างบ้านกุแม่กุก็ไม่ทำงานพ่อกุทำงานอยู่บ้านอีกต่างหากแต่ก่อนตอนเด็กๆกุก็เหยียดเหมือนมึงแหละ แต่พอกุไปอยู่ม.รู้จักครอบครัวคนอื่นเขา รู้สึกว่าบ้านกุโครตดีไปเลย
>>953 คือกูก็คงลงรายละเอียดไม่ครบเองด้วยแหละวะ แม่งยิบย่อยไปหมด
บ้านเก่าก็เหลือแต่ของใช้เล็กๆน้อยๆอะแหละ ของกูก็มีแค่หนังสือกับเสื้อผ้า คอมอีกเครื่อง ของๆน้อง นอกนั้นก็ของใช้สัพเพเหระของย่า
กูก็พอรู้นะว่าครอบครัวกูยังดีกว่าครอบครัวอื่น แต่กูเซงความหัวแข็งของผู้ใหญ่
บ้านกูไม่ได้เหยียดแม่หรอก เพียงแต่ไม่ค่อยเปิดใจคุยอะไรกัน ต่างคนต่างทำตามใจตัวเองทั้งนั้น เหมือนรักษาน้ำใจแต่ที่เหลือเรื่องของมึงอะไรทำนองนี้ละมั้ง...
ไม่ใช่แม่ไม่หาอะไรทำนะ แต่เขาแม่งคิดทำอะไรไม่มีการวางแผนเลย
เงินที่ได้จากการขายที่ แม่กูก็เอาไปลงทุนซื้อจักรเย็บผ้าปิดปาก เย็บกางเกงไปแล้วที่บ้านใหม่ เลยเป็นการผูกมัดตัวเองไปไหนไม่ได้อีก นั่งเย็บแล้วก็กองไว้ให้พ่อเอางานไปส่ง กูก็หวังว่าแม่จะตั้งตัวได้เองอะนะ..
กูว่าปัญหาครอบครัวกูอยู่ที่ย่าเนี่ยแหละ คือแกไม่ควรกลับลำเพราะทุกอย่างกำลังจะลงตัวอยู่แล้ว มารู้ทีหลังว่านอกจากติดเพื่อนแล้ว เพื่อนแกยังรั้งไม่ให้ไปอีก แม่งเข้าตำรา "ผู้ใหญ่ของบ้านทำตัวมีปัญหา ปัญหาเกิดทั้งบ้าน" จริงๆ
ไม่ใช่ว่ากูเอาครอบครัวมานินทานะ กูแค่อยากรู้ว่ามึงจะคิดยังไงถ้าเจอสภาพแบบนี้แค่นั้นเอง
กุโม่ง>>953
>>954 โม่ง>>955 พูดถูก
เรื่องย้ายที่อยู่ ในเมื่อผู้ใหญ่ไม่ยอมสละกันซักคน งั้นลองใช้ไม้แข็งดูอยู่ที่มึงกับน้องแล้วว่ะ เลือกเอาว่าจะเข้าข้างใคร แม่หรือย่า
ถ้าเข้าข้างแม่ก็ย้ายตามไปอยู่กับแม่ให้พ่อมึงเคลียล์กับย่าเอง
เข้าข้างย่ามึงก็อยู่เฉยๆไม่ต้องทำไร
ส่วนพ่อมึงโวยวายไปงั้น จริงๆตัดสินใจไม่ได้ คนนึงก็แม่อีกคนก็เมีย สุดท้ายเลยวิ่งรอกถึงทุกวันนี้ไง ถถถ
โม่งอื่นมีวิธีอย่างไรเชิญคนถัดไป...
ประตูล็อกจากด้านใน ทำไงดีว้ะลืมกุญแจ แม่งไม่มีสำรองด้วยควยย
เมื่อกี้ได้ดูรายก่ฝารเดอะดาวน์ ซีรี่ย์แล้วเห็นคนดาวน์จบตรี มีงานทำ ดูชีวิตดีกว่า ดูมีความสามารถมากกว่ากูอีก อา กูแพ้คนดาวน์เหรอเนี่ย...
กูอยากหนีปัญหาในชีวิตกูมาก กูทำอะไรก็พลาด
อะไรที่เหมือนจะดีแต่ก็ไม่ดี เรียนก็โง่ ความสามารถพิเศษก็ไม่มี ใช้ชีวิตเหมือนอยู่ไปวันๆ
กูอยากตายให้มันจบๆแต่กูก็ไม่กล้าอีกแหละ โคตรน่าสมเพช ทำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง
กูเหนื่อยว่ะ ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว โคตรสิ้นหวังเลย
สรุปกูคงต้องทนดูสภาพครอบครัวตัวเองต่อไปสินะ [เฮ่อ]
แต่ถ้าหมายถึงให้กูออกไปอยู่กับแม่เลย อันนี้กูลองแล้วนะ
สรุปทั้งพ่อกับแม่ไม่เอาทั้งคู่ ให้กูอยู่เป็นเพื่อนย่ากับน้องหนะ
ขอให้โม่งสิ้นหวังทุกท่านรู้สึกดีขึ้นบ้างกับอากาศที่เย็นในเมืองไทย
กูสิ้นหวังมาก พอมันหมดหนาว ยุงแม่งก็กลับมาหนักกว่าเดิม กูเกลียดยุง รู้สึกได้ถึงความหิวโซของมัน
วันนี้กูตื่นมากะจะเขียนเรื่องสั้นเล่นๆฝึกมือซะหน่อย เปิดเฟสเจอรุ่นน้องเขียนดีกว่า มีคนไลค์ ก็ทำเอาเฟลเลยว่ะ เหอๆ พยายามปลอบใจตัวเองแต่ก็นะ...อดไม่ได้จริงๆ
กูเอาเรื่องเขามาคิดเล็กคิกน้อยเป็นตุเป็นตะ กลัวว่าเขาจะโกรธเกลียดเรา เพราะกูแอบปลื้มเขาอยู่(ไม่ใช่ในเชิงคนรักนะ) กูกลัวมากๆ เห็นเขาคุยกับเพื่อนๆ โพสอะไรลงเฟส กูก็ได้แค่มองเค้าจากอีกฟากของจอว่ะ แล้วก็มาน้อยใจว่านี่กูทำอะไรผิดเหรอ หรือว่าไปทำแย่ๆให้เค้าหมั่นไส้ไว้ บ้าเนอะ ทั้งที่เค้าอาจจะลืมเรื่องเราไปหมดแล้ว หรือไม่เคยโกรธเกลียดเราเพราะไม่เห็นเราอยู่ในสายตาตั้งแต่แรกแล้ว ในขณะที่เรามองหาเค้าอยู่ตลอดเวลา
ชีวิตของแต่ละคนก็มีปัญหาแตกต่างกันไป...กูเองก็มีปัญหา ปัญหาที่แก้ไม่ตก...จนกูเองก็ปลงแล้ว ไม่คิดจะแก้แล้ว ก็ใช้ชีวิตอยู่แม่งไปงี้แหละ กูเคยมาเล่าว่าพ่อกูป่วย เป็นโรคที่รักษาไม่หาย เขาเริ่มเอาแต่ใจและใช้ความป่วยเป็นข้ออ้างให้ทุกคนเอาใจและไม่ขัดใจ ก่อนหน้านี้กูปรับตัวไม่ได้นะ ตอนนี้กูก็เริ่มเฉยๆแล้ว ก็ปล่อยให้เขาทำตามใจเขาไป แต่ที่กูทนไม่ได้...ก็คือการที่เข้าคุยกับผู้หญิงคนอื่น...ซึ่งเขาบอกว่าเป็นคนที่นับถือเขาเหมือนพ่อ คือวันดีคือดีผู้หญิงคนนี้ก็มาเยี่ยมที่บ้านเว้ย มาเรียกเขาว่าป๊าเรียกแม่กูว่ามี้ แต่ลับหลังกูเห็นแชทอีนั่นเรียกแทนตัวเองว่ามี้ไง....คือแม่กูก็รู้เว้ย...ที่ตลกคืออากูก็รู้เว้ย คือทุกคนรู้เว้ยแล้วบอกกูว่าเป็นความสุขของพ่อปล่อยไปเถอะ...เดี๋ยวนะ...คือเดี๋ยวก่อน กูแปลกใจ อยากรู้จริงๆว่าผู้ชายที่คิดนอกใจสมองกำลังคิดอะไรอยู่ ไม่คิดบ้างหรอวะว่ามันเป็นเรื่องที่ผิดอ่ะ? คือกูก็อยากพูดกับพ่อนะ...แต่พ่อกูกำลังป่วยหนักจริงๆว่ะ กูก็ได้แต่แบบ...เอ้อ...ปล่อยไปเถอะ บางครั้งกูเห็นใจแม่นะ...แบบรู้ทั้งรู้ แต่แม่กูก็ยังดูแลพ่อแบบไม่บกพร่องนะ กูว่ามันตลกดี ทำไมผู้ชายถึงคิดว่าการนอกใจภรรยา ทั้งกาย วาจา ใจ มันเป็นเรื่องที่สามารถทำได้วะ....แต่พอผญ.ทำมีแต่คนประนามว่าเป็นกระหรี่ว่าร่าน แต่พอผู้ชายคนกลับบอกว่าเป็นสันดานเจ้าชู้ ผู้ชายทุกคนเป็น แนะนำว่าผู้ชายคนไหน ไม่พร้อมที่จะลงรากกับใครสักคน ก็อย่าแต่งงานเลย...มันเห็นแก่ตัวป่ะ
กูมีปัญหาชีวิตดังนี้
คือแม่กูเป็นคนไม่ทำกับข้าว เวลาจะแดกไรต้องออกไปหาร้านไกลๆ เพราะหมู่บ้านกูไกลปืนเที่ยง
1.กูทำเอง >>นานๆกูก็เบื่อฝีมือตัวเอง
2.โทรสั่ง >>กูแดกแมคแดกเคเอฟซีจนขนปีกแทบงอกแล้ว
3.ข้าวกล่องแช่แข็ง >>สัสสสส มันเป็นทางเลือกที่กูไม่อยากจะเลือกเลย
4.โทรสั่งข้าวกล่องในหมู่บ้าน >>ป้าแม่งปิดๆเปิดๆ ไม่อร่อยด้วย
กูอยู่ในช่วงรอเรียนต่อโท คืออยู่กับบ้าน กูขับรถเป็น แต่ที่บ้านไม่ให้กูออกไปไหนคนเดียว รถที่ใช้ก็เป็นของที่บ้าน
กูเบื่ออาหาร ทำยังไงดี รึกุต้องเข้าเมืองไปกักตุนอาหารแล้วเวฟเอา เพราะบ้านกูไกลปืนเที่ยงเหลือเกิน ออกไปแดกข้าวทีไรเป็นชั่วโมงทุกที
กูซื้อมักโรนี สปาเกตตี้ มาตุนไว้เบื่อๆก็ต้มเส้น ราดน้ำซุบมะเขือเทศข้นๆเอา เปลี่ยนสูตรน้ำซุปไปเรื่อยก็ได้หลายมื้ออยู่
กุไม่ได้สิ้นหวังเรื่องข้าว แต่กุทะเลาะกับแม่เพราะอิเรื่องเล็กๆน้อยๆเนี่ยแหละ แม่กุไม่ออกจากบ้าน แต่กุทนกินอะไรซ้ำๆไม่ได้ พอกุออกไปกินก็ระเบิดลงอีก แค่อยากหาจุดที่บาลานซความต้องการของคนสองคนได้
แล้วมึงจะให้กุไปตอบมู้ไหนหะ ตอบดิ๊
https://fanboi.ch/lifestyle/1579/recent/ มู้นี้น่าจะแทนกันได้
ไลฟ์สไตล์มันซ้อน ๆ กันที่ปรึกษาปัญหา แต่มันมีหัวข้อแยกย่อยแยะอะ
กูทำงานหาย อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
คือกุพยายามจะคุยรึจะมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น แม่กุก็ถามว่ากุทำหน้าเหี้ยอะไร ทำตัวเหมือนคนปกติไม่เป็นรึไง พอกุเงียบหลีกเลี่ยงคนม่างก็บอกว่าชีวิตกุแม่งมีแต่บ้านรึไง ไม่คิดจะออกไปเจอคนอื่นบ้างเหรอ กุอยากรู้มากว่ากุต้องทำตัวห่ายังไงให้แม่กุพอใจ
ป.ล. กุเป็นโรคกลัวสังคม (social phobia) คุยกับคนอื่นได้เกินสิบคำนี่ถือว่าปาฏิหาริย์ แล้วกุรู้สึกว่าการกุสามารถทำให้ไอ้ปาฏิหาริย์นี่เกิดขึ้นได้อย่างน้อยวันละครั้งนี่กูสมควรจะได้รับคำชมไม่ใช่คำพูดบั่นทอนจิตใจ ห่านเอ๊ย ถ้ากูแม่งตายๆไป จะโดนด่าตามหลังอีกมั้ยว่าทำตัวแปลกๆให้ชาวบ้านเค้ามองอีก สัด
>>989 กูไม่ถึงขนาดมึงนะ แต่โดนบอกคล้ายๆกัน อยู่เฉยๆ กำลังคิดอะไรเพลินๆ โดนหาว่าทำหน้าบึ้ง พออยู่บ้านเพราะทำงานฟรีแลนซ์ก็โดนหาว่าเป็นโรคซึมเศร้า ไม่เอาคน คุยกับเพื่อนแค่ในโซเชียล คือแบบเค้าก็ทำงานป่ะ จะให้โทรคุยทุกวันเหรอ ชวนไปเที่ยวก็ชวนแต่เค้าไม่ว่างนิ รายได้ครอบครัวก็น้อยลงแล้ว จะให้ออกไปเที่ยวหาเรื่องเสียตังค์เพื่อ...เหอๆ
>>989 กูคิดว่าดีนะที่มึงยังพยายามจะรักษาให้มันดีขึ้น แต่ถ้ารอบตัวไม่เข้าใจ มึงก็อย่าคิดมาก ใช้วิธีตั้งเป้าว่าจะทำทุกวันแล้ว ก็ตั้งให้สูงขึ้นไปอีก เช่น วันนี้ต้องคุยกับคนอื่นให้ได้ซัก 3 คน จะทักทายป้าข้างบ้าน ออกไปซื้อของ อะไรแบบนี้ พรุ่งนี้ก็ตั้งให้สูงขึ้นไปอีกสเต็ป อะไรแบบนี้ เวลาทำได้สำเร็จตามเป้า อย่างน้อยมึงก็ได้ภูมิใจในตัวเอง จริงมั้ย? :3 ขอให้แก้อาการโฟเบียได้นะ
>>989 เองนะ
>>990 ไปหาอยู่จ้ะ ไม่รู้สึกดีขึ้นเท่าไหร่ก็จริงแต่ที่พยายามได้ขนาดนี้ก็เพราะหมอช่วยไกด์ให้อยู่นั่นแหละ ที่โพสต์เมื่อเช้าเพราะรู้สึกน้อยใจว่ากุก็พยายามอยู่นะว้อยยย ช่วยให้กำลังใจหน่อยได้ม้ายยย ทำนองนั้น
>>991 เจอปัญหาหน้าไม่รับแขกเหมือนกันสินะ :/ ยังไม่ทำงานก็เลยไม่รู้สี่รู้แปดอะไร แต่ดูเหมือนพี่ก็มีความสุขกับการใช้ชีวิตแบบนี่นา เพราะงั้นช่างหัวคนอื่นเถอะ ;)
>>992 เอ่อ... เราไม่ใช่ฮิกกี้นะเออ ตอนนี้อยู่หอในมหาลัยภูมิภาคแห่งหนึ่ง แต่ไม่ได้ออกไปไหนไง เรียนเสร็จถ้าไม่นอนแซ่วอยู่บนเตียงก็แค่ออกไปหาไรกินแถวๆนั้น กลับบ้านมาก็ไม่ได้ออกไปไหนเพราะยังขับมอไซค์ไม่ได้ ...แค่นั้นเอง
>>993 ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ คือเราเคยได้ยินคำแนะนำแนวๆนี้มาแล้วเหมือนกัน ทั้งจากหมอแล้วก็เว็บอื่นๆ แต่เรายังไม่มีความกล้าพออะ ก็เลยปรับนิดหน่อยเป็นกฎให้ตัวเองทำแทน เช่น เจอหน้าคนรู้จักก็โบกมือทักต่อให้ไม่อยู่ในอารมณ์ เพื่อนชวนไปไหนก็ควรจะไป แล้วก็ออกไปวิ่งให้ได้เจอคนอื่นบ้าง ประมาณนั้น จะพยายามสู้ไปเรื่อยๆ ค่ะ
ขอ
ทำ
การ
ปิดมู้
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.