Last posted
Total of 1000 posts
>>501 มึงเกิดมาเพื่อตัวมึงเองไง ตอนมึงฟังเพลง ตอนมึงได้กินข้าว ตอนมึงได้ดูหนัง ดูซีรี่ย์ดีๆ มึงมีความสุขรึปล่าวล่ะ ชีวิตมึงนี่มันไม่โดดเดี่ยวหรอก กูโดดเดี่ยวยิ่งกว่ามึงเยอะ คนที่กูรัก รักกุ และจริงใจกับกู ค่อยๆตายไปทีละคนๆจนกูไม่เหลือใครแล้ว เจอปัญหามากมาย แถมตังก็ไม่ค่อยจะมี 555 เรียนก็ยังเรียนไม่จบ แต่กูโชคดีกว่ามึงก็ตรงที่กูได้อยุ่ดิ้นรนต่อไปนานกว่ามึงแน่ๆ(ถ้ากูไม่เจออุบัติเหตุอ่ะนะ) แล้วกูก็ยังมีความสุขที่ได้ดิ้นรนอยุ่ สุขบ้างทุกข์บ้าง กูก็คิดว่าอย่างน้อยกูยังมีชิวิต กูยังได้ฟังเพลงดีๆที่กูชอบ ได้กินข้าวเมนูที่ชอบ ได้ดูหนัง ได้ทำห่าไรอีกเยอะแยะ ที่กูพูดมากูก็แค่อยากบอกมึงว่า คนเราแม่งก็ไม่มีใครรู้วันตายของตัวเองหรอก มึงมีชีวิตมีตัง มึงก็ทำให้ทุกวันแม่งมีความสุขที่สุดดิวะ แล้วมึงอย่ามาบอกว่าเป็นมะเร็งดีกว่า เชื่อกูเถอะมันทรมานนะ ที่ต้องรู้ว่าตัวเองต้องตายรู้วันตาย แต่ระหว่างนั้นไม่มีปัญญาทำให้ตัวเองมีความสุขได้ ต้องทนอยู่กับความอ่อนแอของร่างกาย กูรู้เพราะแม่กูก็เป้นมะเร็งตาย อ้อ แล้วมึงไม่ต้องกลัวว่ามึงจะตายไปโดยที่ไม่มีใครนึกถึงมึง อย่างน้อยกูก็ได้อ่านเรื่องของมึงแล้ว กูจะนึกถึงมึงแน่ๆ แล้วก็คำบอกลามันก็สำคัญนะ มึงลองเขียนคำลาไว้บ้างก็ดี เวลาตายไปมึงจะได้ไม่มีอะไรคาใจ อย่างน้อยยังมีกูที่จะคอยนึกถึงมึงอยู่ในบอร์ดนี้สบายใจได้เลย
กูนอนไม่หลับ ทำไงถึงจะหลับวะ หลายปีแล้ว แดกยาอะไรก็แล้ว สิ้นหวังปวดหัว สมาธิสั้น ทำอะไรไม่ดีสักอย่าง
>>501
มึงจำไว้ไม่มีอะไรต้องกลัว คนเราเกิดมาตายกันทุกคน มึงได้รับโอกาสที่จะทำอะไรที่อยากทำจริงๆแล้ว
ดีกว่ามึงใช้ชีวิตไปเรื่อยเอื่อยๆ วันนึงมึงเกิดประสบอุบัติเหตุตายตอนอายุสามสิบกว่าทั้งๆที่มึงยังไม่ได้ทำอะไรที่อยากทำจริงๆ มึงคิดว่าไง?
มึงจะตายห่าวินาทีไหนก็ได้ ใช่ ใช่ ใช่ ใช่!
แต่ว่ามึง อย่าลืม มนุษย์คนไหนหรือหมาแถวบ้านกูก็ตายห่าวินาทีไหนก็ได้เหมือนกัน
ล้มหัวฟาดห้องน้ำตาย โดนเขากระทิงเสียบคอ ตกลิฟท์ มอไซด์ล้มโดนรถเมลล์ทับหัว ก็ตายห่าเหมือนกัน เห็นไหม
ปล.อยู่คนเดียวมึงจะรู้สึกแย่ เพราะการอยู่คนเดียวมันฟุ้งซ่านง่าย กูรู้ดี
มึงกลัวได้ เครียดได้ แต่ขณะเดียวกันมึงห้ามหยุดที่จะคิดบวก
ล้มเหลวได้ แพ้ได้ แต่ห้ามหยุดพยายาม จำไว้
มึงต้อง
ใส่ใจเรื่องคนอื่นให้มากขึ้น สนใจเรื่องตัวเองให้น้อยลง
ทำตัวให้ยุ่งเข้าไว้ หาหนังสือ ดูการ์ตูน ทำตัวให้ยุ่งเข้าไว้
>>504 กูเคยแดกยาช่วงหนึ่งที่คิดมากจนนอนไม่หลับ.. พอกูเลิกแดก แม่งนอนไม่หลับยิ่งกว่าเดิม สงสัยเพราะสมองติดยา
กูก็ช่างแม่ง เลิกแดกถาวรเลย วิธีของกูคือ วันไหน ไม่หลับ กูก็ไม่หลับ สัส ถึงพรุ่งนี้มีงานสำคัญ กูก็ไม่นอนช่างแม่งปะไร ช่างแม่ง
วันต่อไปกูไปออกกำลังกาย เอาให้เหงื่อไหลเป็นน้ำตก เหนื่อยตายห่ากันไปข้าง กลับมาบ้านกูคิดอะไรไม่ออกก็ต้องนอนแม่งแล้ว
หลังๆกูหายละ นานๆถึงจะเป็นที
>>507-508 ดีแล้วเพื่อนโม่ง สมัยกูเป็นโรคซึมเศร้าหมอให้ยามา แรกๆก็ดีนะ เหมือนแดกยาแก้หวัด(สมัยนั้นยังใช้ซูโดฯอยู่) แดกแม่งครึ่งชั่วโมงหลับสบายถึงเช้า
แต่ก็อยู่ได้ไม่นานว่ะต้องเพิ่มขนาดยาไปเรื่อยๆ พอกูเรียนจบเริ่มทำงาน ก็มีปัญหา เพราะสมัยเรียนก็นอนไม่เป็นเวลา รีบนอนดึกยังไงก็ไม่หลับซักที แรกๆพยายามพึ่งยาว่ะ แบบว่าถ้านอนไม่หลับจะพยายามแดกยาให้นอนหลับ แต่ก็ไม่ค่อยได้ผล จนสุดท้ายต้องใช้วิธีปรับเวลานอน นอนให้เป็นเวลามากขึ้น ออกกำลังกายมากขึ้น ก็ดีขึ้นนะ ดีกว่าพึ่งยาอย่างเดียว
กูก็เคยแดกยานะ fulox มั้ง แต่แดกแล้วแย่ลงกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ไปอีกรอบ หมอก็ลดยาให้ คราวนี้แดกแล้วไม่เกิดอะไรขึ้น คือแย่เหมือนเดิม ไม่ได้แย่ลง แต่ก็ไม่ได้ดีขึ้น เลยไม่ได้ไปหาหมออีกเลย กูอยู่จังหวัดเล็กๆ ด้วย มีโรงพยาบาลใหญ่ๆ ที่มีจิตแพทย์แค่ที่เดียว ที่อื่นก็ไม่มีเลยไม่รู้จะไปที่ไหนอีก
ออกกำลังกายก็ออกนะ ตอนออกมันก็มีความสุขดีนะ สดชื่นๆ แต่เวลาอื่นนอกเหนือจากนั้นก็รู้สึกแย่ ท้อ หดหู่ ห่อเหี่ยว เหมือนเดิมว่ะ เรื่องนอนไม่หลับก็เป็น เมื่อคืนหลับตีสี่ได้มั้ง ปวดหัวปวดตาชิบหาย
กูไม่ค่อยมีความรู้เรื่องโรคหัวใจเต้นผิดปกตินี้ แต่กูเป็นกำลังใจให้อย่าท้อ อย่าเซ็ง ถ้าเหงามึงมาคุยอะไรในนี้ก็ได้นะ กูจะมาส่องดูบ่อยๆ หาอะไรทำอย่าไปซีมากคิดว่าชีวิตมีแค่นี้ใช้ให้เต็มที่ กูเข้าใจนะคนป่วยคงทุกขืคงท้อถึงคนจะบอกให้อย่าคิดมันก็คิด แต่กูหวังให้มึงดีขึ้นนะ
>>501 ถ้าเป็นกูจะดูด wifi เล่นเกมแม่งทั้งวันเลยสัส
กูฝันมานานละชีวิตกินๆนอนๆในโรงพยาบาล เกมในสตรีมกู ทรัพยากรในคังโคเระกู เกมในมือถือกู
ไหนจะอนิเมะที่ดองมาหลายซีซั่นอีก มึงก็เล่นเกมหาเพื่อนคุย เล่นเว็บบอร์ดหาเพื่อนคุยไปดิวะ
ก่อนตายกูขอแค่แต่งงานกับอิโซคาเซะ นางไม่ดรอปให้กูอะ ตะเตือนไตมาก
กูเห็นโม่งโรงหัวใจแล้วกูนึกถึงตัวเองตอนเด็กๆเลยว่ะ คือกูเหมือนมีปมในใจแปลกๆ คือตั้งแต่เด็กๆ กูเกิดมาเป็นคนที่ค่อนข้างโชคดีคนนึงเลย ร่างกายแข็งแรงดีทั้งๆที่ไม่ได้ออกกำลังกายอะไร กินก็ตามใจปากไปเรื่อยๆ (แต่ตอนนี้อวบละ) แต่ก็ไม่เคยจะป่วยไข้อะไรเลย บาดเจ็บสาหัาอะไรก็ไม่มี คือเรียบง่ายสุดๆ แล้วเวลาเด็กๆ ใครที่ไม่สบายก็จะโดนเทคแคร์มากกว่าคนอื่นใช่มั้ยล่ะ แต่กูดันแข็งแรงเกินไป เลยไม่ค่อยจะมีใครสนใจอะไรเลย พาให้กูไม่ค่อยดูแลร่างกายด้วย เพราะบางทีกูก็คิดว่าถ้ากูไม่สบายขึ้นมา ก็คงจะมีคนแคร์อะไรบ้าง แต่ก็นั่นแหละ กูไม่สบายได้แค่วันเดียว ตื่นขึ้นมาก้หายแล้ว T_T
บางทีกุก็คิดว่าตัวเองจิตป่วยนะ ต้องการความสนใจ แต่กูทำยังไงก็ไม่เคยมีใครใยดีกูเลย (ขนาดแฟนกูยังติดเกมมากกว่ากูอีก) T_T เติบโตขึ้นมาอย่างnobodyสุดๆ
เห้อ สิ้นหวังจังว่ะ
วันนี้ขอมาเขียนเรื่องชีวิตของผู้หญิงญี่ปุ่นที่แต่งงานกับสามีชาวอังกฤษแล้วตอนนี้ทำงานอยู่ร้านขายปลาที่อังกฤษบ้าง🎌🇬🇧 ชีวิตของเธอน่าสนใจดีเลยอยากเอามาแบ่งปันค่ะ👸 จุดประสงค์ที่เขียนเรื่องนี้ถือว่าเป็นตัวอย่างชีวิตของคนคนหนึ่งที่เคยผ่านปัญหาในชีวิตมาแต่ตอนนี้เธอทำชีวิตตัวเองให้มีความสุขเพราะเปลี่ยนทัศนคติตัวเองค่ะ✨😇
เธอชื่อว่าคุณยูกะ เล่าย้อนไปถึงสมัยที่คุณยูกะอายุ20ปีได้เข้าทำงานเป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่งแต่ว่าทำได้ไม่ถึงปีบริษัทก็ล้มละลาย เธอเลยไปทำงานพาร์ทไทม์ในซูปเปอร์มาเก็ตแถวบ้าน ทีนี้แผนกที่เธอทำเป็นแผนกขายปลา 🐋🐟🐳🐬ช่วงแรกๆเธอไม่มีความรู้เรื่องปลาเลย เวลาลูกค้าถามจะต้องให้หัวหน้ามาช่วยตลอด และหลังจากนั้นหัวหน้าก็ค่อยๆสอนวิธีดูปลาและวิธีใช้มีดหั่นปลาอย่างถูกต้อง👍 ใครที่เคยดูรายการทำอาหารญี่ปุ่นจะรู้ว่าญี่ปุ่นมีวิธีหั่นปลาที่พิถีพิถันมาก เธอฝึกฝนตัวเองอย่างหนักจนเป็นคนที่เก่งและมีความรู้เรื่องปลาเธอพยายามมาทั้งหมด12ปีจนได้เลื่อนตำแหน่งเป็นพนักงานประจำและเป็นหัวหน้าคอยไปตรวจสอบซูปเปอร์อื่นๆที่มีหลากหลายสาขาเรื่องการหั่นปลาและให้ข้อมูลกับลูกน้องเรื่องปลาอย่างถูกต้อง 🙋🏼
แต่เธอก็ถูกกดดันจากหัวหน้าอีกที 😂มีปัญหากับการที่หัวหน้าชอบดุชอบด่าเธอ เธอเป็นทุกข์และปรึกษาใครไม่ได้ จึงทำให้เธอตัดสินใจลาออกในที่สุด หลังจากนั้นเธอก็ได้ตัดสินใจไปเรียนต่อที่ปนะเทศไอซ์แลนด์เพราะอยากเปลี่ยนเส้นทางชีวิตบ้าง และแล้ววันหนึ่งเธอก็ได้เล่นแชทในอินเตอร์เน็ตจึงได้เจอกับสามีของเธอซึ่งเป็นชาวอังกฤษและก็ได้ตัดสินใจแต่งงานกัน เธอจึงไปใช้ชีวิตอยู่ที่อังกฤษ👰🇬🇧
ทีนี้ด้วยความที่เธอพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้มีปัญหาในการสื่อสาร อยู่ๆเธอก็ป่วยทางจิตใจเป็น引きこもりฮิคิโคโมริ คือไม่ออกจากบ้าน รู้สึกหวาดระแวงกลัวไปหมด เป็นแบบนั้นอยู่3เดือนอยู่แต่บ้านไม่ยอมออกไปไหน จนมาวันหนึ่งเธอรู้สึกว่าต้องต่อสู้กับความรู้สึกนี้ให้ได้ 🙅เธอนึกถึงสมัยที่เคยทำงานเกี่ยวกับร้านปลาเธอมีความรู้เรื่องปลา เลยลองเข้าในอินเตอร์เน็ตแล้วหาคำว่า fish store london และบังเอิญมากๆที่มีร้านขายปลาเปิดรับสมัครพนักงานอยู่ เธอจึงตัดสินใจไปสัมภาษณ์😉
และวันที่สัมภาษณ์ก็มาถึงเธอไปถึงที่ร้านเพื่อสัมภาษณ์แต่เจ้าของร้านบอกว่ายุ่งมากเลยให้เธอช่วยทำงานหน่อย เธอจึงไม่ได้สัมภาษณ์และช่วยงานร้านปลาไป และเจ้าของร้านก็ได้บอกเธอว่าให้มาทำงานได้เลย😇😂
ทางรายการไปถามเจ้าของร้านว่าทำไมถึงรับเธอเข้าทำงานทั้งๆที่ยังไม่ได้สัมภาษณ์ เจ้าของร้านบอกว่าดูจากการทำงานเอาเลยรู้ว่าเธอเก่งเรื่องปลาและมีใจรักจริงๆ😋
และจากวันนั้นมาจนถึงวันนี้เธอก็ยังทำงานร้านปลาที่อังกฤษเป็นหัวหน้าและมีลูกน้องแล้ว และใช้ชีวิตที่อังกฤษอย่างมีความสุข ที่แอดนำเรื่องนี้มาเล่าเหตุผลเพราะคุณยูกะเคยตัดสินใจจะวางมือจากเรื่องปลาเพราะมีปัญหากับที่ทำงานและคิดว่าจะไม่ยุ่งเรื่องปลาอีก ฝั่งใจที่โดนหัวหน้าด่าจนทำให้ตัวเองลาออก แต่ตอนนี้เธอประสบความสำเร็จในเส้นทางชีวิตของเธอเพราะเธอมีความรู้เรื่องปลา และทำลายกำแพงความรู้สึกนั้นไปแท้จริงแล้วเธอรักปลามากแต่แค่เสียใจกับคำพูดเจ้านายตอนนั้น และเธอก็เอาชนะโรคฮิคิโคโมริได้โดยการที่เธอตัดสินใจเดินออกจากบ้านมาสมัครงาน ถึงแม้ว่าตอนนั้นภาษาอาจจะไม่ได้แต่มันอยู่ที่ความกล้าและความตั้งใจ☺😬
แอดฝากเรื่องนี้ไว้และเป็นกำลังใจให้คนที่อาจจะเจอปัญหาคล้ายๆคุณยูกะนะคะ ขอบคุณที่อ่านจบค่ะ ไว้พบกันใหม่จ้า🙏🏻💕☺✨❤❤
https://www.facebook.com/Lovejapanlife/posts/478509628974954
กูรู้สึกแย่ว่ะ...เอางี้เลยนะเว้ยคือแบบชีวิตกูแม่งเหี้ยว่ะ...กูไม่มีแม่ คือกูเป็นลูกเมียน้อยอ่ะ พ่อกูมีเมียก่อนอยู่แล้วแล้วเขาก็ไม่มีลูกเขาเลยมีแม่กู เพราะอายุห่างกันมากเกินไปบวกปัญหาเรื่องเงิน แม่แท้ๆของกูก็เลยทิ้งพ่อไป พ่อกูก็กลับไปหาแม่ใหญ่ คือแม่ใหญ่เขาก็ดีกับกูมากเว้ย เขารักกูมาก สัสรักกูอย่างกับคลอดกูมาเอง จนบางครั้งกูยังรู้สึกผิดเหี้ยๆเลย ผิดที่เกิดมา กูรู้สึกกูเป็นเสี้ยนหนามในชีวิตเขาเลยแต่เขากลับไม่คิดแบบนั้น เมื่อก่อนตอนกูเป็นเด็ก กูก็ไม่ชอบแม่ใหญ่หรอก กูคิดว่าเขาไม่ใช่แม่กู พ่อกูก็ยังไม่เข็ด ยังไม่พอเขาก็ยังมีคุยกับผู้หญิงอื่นบ้าง ตอนนั้นกูก็สนับสนุนเพราะ 1. กูไม่ชอบแม่ใหญ่ 2. กูอยากให้พ่อแก้แค้นผู้หญิงทุกคน แต่พอกูโตขึ้น พ่อกูก็เลิกพูดกับกูเรื่องผู้หญิงพวกนั้น กูเริ่มคุยกับแม่ใหญ่และสนิทใจกันมากขึ้น กูเริ่มเรียนรู้และประทับใจในสิ่งที่แม่ใหญ่ทำให้พ่อและกู แต่พ่อกูไม่คิดงั้น กูนึกว่าเขาจะหยุด เขากลับไม่หยุด มันไม่ใช่แค่คุยอย่างเดียวเหมือนที่กูเข้าใจในสมัยเด็ก มันเกี่ยวกับเรื่องเซ็กส์ ซึ่งกูรับไม่ได้ กูเคยบอกให้พ่อกูหยุด แต่พ่อกูก็หยุดไม่ได้...กูเสียใจ เกลียดการกระทำนี้ของเขามาก กูอยากจะไปจากเขาแต่ก็ทำไม่ได้ วันหนึ่งกูได้รู้ข่าวว่าพ่อกูป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่ได้ เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง กล้ามเนื้อทุกส่วนจะค่อยๆลีบไปจนหมด ถึงกูจะเกลียดการกระทำของเจาแต่กูก็ไม่เคยเกลียดเขา กูอยากอยู่กับเขาไปนานๆ....กูปรับปรุงตัวเอง ไม่เถียงเขา คอยดูแลเขา เพราะโรคห่านี่ทำให้เขาหงุดหงิดเขาก็มาลงที่กู ที่แม่ใหญ่ กูไม่รู้ว่าที่เขาหงุดหงิดเป็นเพราะอะไร เป็นเพราะเขาไปหากิ๊กเขาไม่ได้หรือเหี้ยอะไรกูก็ไม่รู้ บางทีกูก้อยากรู้ว่าที่เขาด่ากู หาว่ากูไม่ดูแลเขา กูอยากรู้ว่าลองให้เขาไปหาอีตัวพวกนั้นดู ดูสิว่าพวกแม่งจะอยากดูแล ตาแก่ที่ไม่มีเหี้ยอะไรเลยไหม? กูก็แค่สงสัยว่าทำไมกูต้องมาทำด้วย เออ กูรู้กูเป็นลูกเขา มันเป็นหน้าที่ กูรู้ว่าเขาอาจจะอยู่กับกูได้ไม่นานกูเลยต้องทำทุกวันให้ดีที่สุด แต่เขาก็ต้องร่วมมือช่วยกับกูป่ะวะ คือเขาป่วยทุกคนก็ป่วยเว้ย คือสัสคนในบ้านประสาทจะแดกครบกันทุกคนแล้ว แล้วนี่กูแค่ 18 เองนะเว้ย ชีวิตเหี้ยอะไรวะ ทำไมกูต้องมาเจอชีวิตแบบนี้? แม่ก็ทิ้งไปมีผัวมีลูกใหม่ พ่อกุก็ไม่รู้ไปไข่ไว้ที่ไหน แล้วยังจะป่วยอีก....กูรู้สึกแย่ว่ะ...คือแบบสัส ปรึกษาใครก็ไม่ได้ บางทีกูก็คิดนะ ตายเลยง่ายกว่าไหม? คือกูก็แค่อยากระบายว่ะไม่มีอะไรมากหรอก ขอบคุณโม่งทุกคนที่รับฟัง
>>520 สู้ๆนะ อยากจะพิมพ์มึงๆกูๆให้เนียนไปกับโม่งคนอื่นบ้างแต่ก็ไม่ชิน ขอพิมพ์ธรรมดาละกัน คิดว่าพ่อเขาคงรู้สึกแย่กับตัวเองมั้งที่ต้องมานอนทำอะไรไม่ได้ให้ลูกดูแล พอเข้าใจเพราะตอนพ่อเราเป็นมะเร็งเขาก็นอนกะเตียงไปไหนไม่ได้ เขาก็ดูพาลดูอารมณ์เสียบ่นไปเรื่อยแหละ ตอนนั้นก็มีแม่ เรา กะพี่คอยดูแล ก่อนไปร.ร.ก็แวะไปป้นข้าวป้อนน้ำเขาก่อน แต่ก็ทำได้ไม่นานเพราะไม่ถึงปีเขาก็เสีย ที่เราทำได้ก็แค่ให้กำลังใจ พยายามต่อไปนะ ไม่อยากให้มานั่งเสียใจทีหลังเวลาเขาไม่อยู่แล้ว
ช่วงนี้มู้เงียบๆ ไปเลย (ก็ดีแล้วที่ไม่มีคนสิ้นหวังอะไร) แต่กูคิดถึงพวกมึงจัง กูเคยทั้งมาระบาย แล้วก็ให้คำปรึกษาในมู้นี้ .. เหงาอะ
กุด้วย ช่วงนี้เงียบทั้งบอร์ดเลย
เงี่ยนทั้งบอร์ด เอ้ยเงียบทั้งบอร์ด
http://bit.ly/1D5kbmT
เรื่องของสาวญี่ปุ่นที่นั่งเล่นเกมทั้งวัน (ที่เห็นบ่อยๆในเน็ตช่วงนี้อ่ะ) อ่านแล้วน้ำตาจะไหล ;_;
สวัสดีชาวโม่ง กูคือโม่งญที่เคยมาบ่นเรื่องเกือบถูกพี่กระทืบตายคาบ้าน พ่อแม่ยืนดูเฉยๆ แต่ญาติกูพาหนีทัน จำได้ป่ะ กูจะวนเวียนอยู่มู้นี้กับมู้ญาติพี่น้องน่ะ
กูจะบอกว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องจนถึงตอนนี้มันก็ 3 เดือนแล้ว กูคิดว่าเวลาจะช่วยกูได้แต่มันไม่ใช่เลยว่ะ ไม่รู้เพราะใกล้วันแม่หรือเปล่านะ แต่เวลากูเห็นโฆษณาเกี่ยวกับพ่อแม่ กูน้ำตาไหลตลอดเลย ช่วงนี้ก็แอบลุกขึ้นมานั่งร้องไห้เงียบๆคนเดียวทุกคืนเลยว่ะ แถมกูสติแตกง่ายกว่าเดิมอีก อย่างเมื่อเช้าทำกับข้าวแล้วกระปุกกระเทียมที่กูสับเก็บไว้มันหล่น กระเทียมกระจายเต็มพื้น แค่นี้กูก็สติแตกแล้วว่ะ กูเช็ดพื้นไปด้วยร้องไห้ไปด้วย แล้วก็ด่าไป ด่ามันทุกอย่างที่กูจะด่าได้ แล้วทุกครั้งกูก็จะคิดว่า ถ้าวันนั้นกูเดินไปเอามีดในรถมาจามหัวให้พี่เหี้ยๆของกูตายได้ก็ดีสิ... กูคิดแบบทุกครั้งเลยว่ะ
สรุป เวลาไม่ช่วยกูเลยจริงๆ กูไม่กล้าเริ่มทำงานจริงๆนะ กูกลัวกูไปสติแตกหรือเผลอเอามีดไปจามหัวคนอื่นว่ะ
>>528 //กอด
ลองวิธีกูมั้ย คือพอเริ่มรู้ตัวว่าคิดอะ ฮึบเลยเว้ย นับหนึ่งถึงสิบไม่เกินนั้น
แล้วมึงไปหาอะไรที่เป็นงานอดิเรกใช้สมาธิมากๆทำ (เคสกุก็วาดรูป เล่นดนตรี)
สัก สิบห้านาที กูว่ามันช่วยลดความฟุ้งได้เยอะอะมึง เอาใจไปจดจ่อกับอย่างอื่นเยอะๆ
หรือจริงๆ ในความเห็นกู เรื่องงานงี้ มึงหางานที่ต้องใช้ ความคิด หรืออะไรงี้เยอะๆไปทำเลยก็ได้นะ เอาที่ทำแล้วสนุกหรืออยากลองทำอะ
สำหรับกูมันเบี่ยงเบนความสนใจได้ดี เหมือนแทนที่จะโฟกัสเรื่องที่ทำให้เฟลจัดๆ ก็เอาไปโฟกัสเรื่องงาน
แล้วมันทำให้ต้องบังคับตัวเองออกไปข้างนอก ไปเจอนั่นนี่ เจอคนอื่น ด้วย ก็เลยไม่ต้องมานั่งฟุ้งคนเดียวเยอะๆว่ะ
ถ้ามึงรู้ว่าอะไรกระตุ้น ก็พยายามเลี่ยงไว้
คือมันดูเหมือนหนีน่ะเนอะ
แต่ถ้ามึงไม่พร้อมที่จะเผชิญแล้วมันรบกวนมึงมากๆ มึงก็เลี่ยงๆบ้าง อย่าไปโหดกับตัวเองมาก
เวลาระเบิดไปแล้วอะไรก็ไม่ต้องไปเฟลกับมันมากเว้ย ปกติ มันก็ต้องมีขึ้นๆลงๆ ว่ะ
ถือว่าโอเค ระบายออกมา ไม่ต้องไปพยายามเก็บมันเอาไว้ตลอดก็ได้
กุว่า สำคัญที่ตอนนี้อย่างน้อยมึงก็รู้ตัว ก็คอยเตือนๆตัวเองเท่าที่ทำได้ ว่าอย่าไปจมกับมัน มันไม่ทำให้อะไรดีขึ้น
คือให้รู้ตัวว่า เศร้า สติแตก จะดีมากถ้ามึงมานั่งค่อยๆคิดว่าทำไม เกิดขึ้นได้ยังไง ตอนหลัง จะได้เลี่ยงๆการทำให้มันเกิดอีก
เดี๋ยวมันก็ดีขึ้นนะเว้ย เชื่อในตัวเองหน่อย
เรื่องใครชวนไปไหนก็ดูดีๆล่ะ ระวังโดนล่อลวง 55
ถ้าหาที่ไปไม่ได้จริงๆก็เข้าวัดบวชชีโลด แต่เลือกวัดด้วยนะว่าเอาใกล้หรือไกล
>>533 >>534 ญาติกูไม่ให้ไป มันกลัวไม่มีใครอยู่กับมัน = =" ตรงนี้กูก็ห่วงมันเหมือนกัน ถ้ามึงจำที่กูเคยเล่าๆมาได้ ญาติกูมันพวกมีอะไรไม่บอกใคร ขนาดกับกูว่าสนิทๆยังบอกไม่หมดเลย แล้วบ้านมันก็เหี้ยพอกับบ้านกู ดูทรงก็ใกล้ระเบิดแล้วล่ะ กูเคยแซวขำๆว่าคนจะบวชดันไม่ให้บวช มารผจญอ่าาา มันน้ำตาซึมเลย มันบอกว่ามันไม่เหลือใครที่เข้าใจมันแล้ว เหลือแต่กูคนเดียว กูงี้ตกใจเลยว่ะ
>>535 ไปแล้วจะมีผลกับอาชีพการงานที่กูจะกลับไปทำสักวันนึงมั้ยวะ งานราชการอ่ะ
>>536 กูรู้ว่ากูคงทำไม่ได้หรอก 555 แต่เออ ขอบใจว่ะ ตอนนี้กูตั้งเป้าไว้ว่า ทำกับข้าวอร่อยๆให้ญาติกูแดกแล้วไม่ด่าเป็นพอ ซึ่งตอนนี้ฝีมือกูพอไหวแล้ว แต่ยังทำได้ไม่เยอะ สักวันถ้ากูมีผัวสักคน ผู้โชคร้ายคนนั้นไม่อดตายแน่นอน 555
>>537 เรื่องไปหาจิตแพทย์
เวลาถามแบบนี้ก็ชอบมีความเห็นทั้งสองทาง
กูว่าง่ายสุด มึงอย่ามัวลังเลเลย ไปหาหมอซะ ถามเขาเองเลยว่าจะมีประวัติกับหน้าที่การงานมึงมั้ย ถ้ามึงต้องการทำงานราชการ
เคยมีใครไปสมัครราชการไม่ผ่านเพราะเคยมาหาเรื่องซึมเศร้ามั้ย แล้วถ้าหมอบอกหายแล้วจะไปสมัครได้ไหม
ถามๆเขาให้มันจบๆไป ดีกว่ามารอฟังความเห็นคนในเน็ตนะ
พวกมึงงง กูยังไม่ได้ไปหาจิตแพทย์เลยว่ะ เมื่อวานกูคุยกับญาติกู ขอไปหาหมอ มันด่ากูเลย บอกว่ากูคิดไปเองว่าป่วยทางจิต ถ้าไม่คิดก็ไม่เป็น ให้ดูคนพิการ คนที่ลำบากกว่าเราสิ ทำไมเค้าทำได้ บลาๆ สรุป กูถูกสั่งห้ามไม่ให้ไป ทั้งที่กูพยายามบอกว่า กูเริ่มไม่ไหวแล้ว
คืองี้ ช่วงนี้มีข่าวพี่สิงห์ฆ่าตัวตาย เลยมีบทความให้ความรู้เยอะมาก กูอ่านแล้วเช็คกับตัวเอง มันตรงว่ะ
- ไม่มีความหวังในชีวิต
- ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม เพื่อใคร
- พยายามคิดหรือทำการฆ่าตัวตายบ่อยๆ
กูคงบ่นอะไรให้ญาติกูฟังไม่ได้อีกแล้วล่ะ คงต้องมาระบายในนี้เอา กูพยายามคิดในแง่ดีว่า ที่กูสติแตกง่ายอาจเพราะใกล้วันแม่ เจอโคนาวันแม่เยอะจนทำให้นึกถึงวันที่เกือบตายคาบ้านก็ได้มั้ง
541 กุแอบไปหาเอง ก็โอเคนะ ช่วงเครียดๆก็ดีขึ้น แต่ยาแพงฉิบหายยยยยยย
แอบไปหาดิ มึงตัวติดกับญาติเหรอ ค่ายาน่าจะประมาณพันสองพันแล้วแต่อาการระยะเวลา
สายด่วนแม่งห่วย โทรไปแล้วนางบอกถ้ายังไม่อยากฆ่าตัวตายถือว่าไม่เป็นไร สึส
>>542 ไอ้สัส ลั่นเลย 555555555
>>543 >>544 ต้องบอกญาติกูเพราะเรื่องเงินนี่แหละ กลัวเงินกูเองไม่พอ กะลากมันไปด้วย ไม่พอก็ขอมันได้ไง
>>545 ตามที่ >>546 บอกแหละ หาข้อมูลในอากู๋เห็นมีบ่นแนวๆนี้เหมือนกัน
สรุป กูคงพักตัวไม่ได้อีกแล้วมั้ง ในเมื่อกูไม่ได้รักษา กูก็คงต้องพยายามลุกขึ้นไปใช้ชีวิตตามปกติให้ได้สินะ เฮ้อ
เออ ขอวกเข้าเรื่องกามๆหน่อยสิวะ เวลามี sex มันจะรู้สึกผ่อนคลายใช่มั้ย ถ้ามีบ่อยๆแล้วกูจะดีขึ้นป่ะ กูพยายามคิดเองว่า ร่างกายผ่อนคลาย ปลดปล่อย แบบที่เห็นในโดโป๊ คลิปโป๊แล้ว mildbreak หัวโล่ง ไรงี้ พวกมึงคิดว่าไง?
ใครเคยโดนกดดันจากความหวังดีของพ่อแม่บ้างวะ คือเรื่องของเรื่อง กูได้ทุน แล้วต้องเตรียมสอบเข้าม.ต่างประเทศ ทีนี้แทนที่กูจะเคร่งอยู่กะการเตรียมสอบอย่างเดียว กูดันมาทำงานแล็บให้อาจารย์(จะทำส่งเปเปอร์เพราะสัญญากันไว้แล้ว) กะสอนพิเศษ ทีนี้พ่อกะแม่ชอบโทรมาถามว่ายังทำงานที่แล็บอยู่อีกเหรอ หรือยังสอนพิเศษอยู่อีกเหรอ ก็เข้าใจอ่ะว่าหวังดี อยากให้กูโฟกัสกะการสอบ แรกๆก็เฉยๆ แต่พอโดนถามบ่อยๆเข้า เหมือนประมาณว่าทำไมกูยังไม่เลิกทำพวกนี้ กูเริ่มเครียดว่ะ กูอยากให้เค้ารู้นะว่ากูจัดการได้ กูไหว ที่กูทำควบทุกอย่างเพราะแม่งต่อให้กูว่างจัดกูก็เตรียมสอบเท่าเดิมอ่ะ เซ็งๆๆๆ
>>553 ก่อนอื่นเลยยินดีด้วยนะมึงที่ได้ทุน เก่งมากๆ แต่เรื่องจัดการตัวเองได้หรือไม่ มึงต้องอธิบายให้เขาฟังดีๆ อะ ว่าจัดการได้นะ ถึงไม่ได้ทำแล็ปก็เตรียมสอบเท่าเดิม คุยให้เค้าเข้าใจแล้วตบท้ายว่าขอบคุณที่เป็นห่วงมึง แต่ถ้าไปต่างประเทศมันอาจจะเจอเรื่องยุ่งยากกว่านี้ ก็ลองให้มึงได้ทำซะตอนที่อยู่ไทยนี่แหละ
กูขอระบายหน่อยคือกูรู้สึกกูต้องพัฒนาตัวเอง ต้องออกจากcomfort zone ต้องหาความรู้ต้องแก้ไขไอ้ความเหี้ยตัวเอง คือกูรู้แต่...กูดันตัวเองออกไปไม่ได้ กูทั้งกลัวทั้งไม่อยาก กูไม่มีแรงจะดันตัวเองออกไป ยิ่งกูอ่านพวกความเห็นเกี่ยวกับcomfort zoneเอย การไปถึงความสำเร็จ การต้องหาประสบการณ์ กูยิ่งรู้สึกแย่ กูรู้สึกแย่มาก กูรู้ตัว กูรู้ แต่กูก็ทำไม่ได้ กูไม่อยากแต่ก็รู้ว่าอยู่แบบนี้ตลอดไม่ได้ กูจะต้องไม่ใช้เด็ก กูต้องลองอะไรใหม่ๆ แต่กูก็ไม่กล้า ไม่กล้าเลย มันน่ากลัวมาก
>>556 มึงสามารถพัฒนาตัวเองระหว่างอยู่ในcomfort zone ได้มั้ย
กูก็คล้ายๆมึง ทำงานมา2ปีและ เงินเดือนน้อยแต่งานสบาย ตอนแรกกูเคยคิดจะรีบลาออกแต่ก็ติดตรงที่ไม่รุ้จะไปสมัครใหม่ที่ไหน แถมงานเก่าก็สบายเหี้ยๆ ทำงานจริงวันละ 5 ชั่วโมง แถมงานก็ไม่หนัก มีนอนพักระหว่างงานได้อ่ะมึง
แต่กูก็รู้ตัวว่าจะอยู่ที่นี่ตลอดไม่ได้(แม่งดีทุกอย่างยกเว้นเงินเดือนตัวเดียว) กูเลยจะหางานใหม่ ระหว่างไม่ลาออกก็พัฒนาตัวเองเรียนภาษา ติวTOEICเตรียมหางานใหม่ พอเราพร้อมแล้วก็ลาออกแม่งเลย
จิตแพทย์ไม่ได้มีจรรยาบรรณทุกคนหรอก ก็เหมือนคนทั่วไปแหละ มีดีมีชั่ว มีปากเปราะปากหนัก กูนี่แหละเคยไปพบหมอ หมอแม่งเม้าคนรู้จักกูซึ่งบังเอิญเป็นคนไข้อีกคนให้ฟังเป็นฉากๆ จนกูรู้แทบทุกอย่างในชีวิตคนคนนั้นแล้ว กูอยากจะทักท้วงมากเลยว่ามันไม่ผิดจรรยาบรรณรึไงวะ แต่ไม่กล้าพูด กูเด็กด้วย แต่ถ้าคิดอีกแง่ก็อย่าได้แคร์ เกิดเป็นคนก็โดนเม้าโดนนินทากันทุกคนอยู่แล้ว แต่สังคมไทยชอบคาดหวังกับหมอสูงเกินไป จรรยาบรรณสมัยนี้หายาก
กูอยากลองแกล้งฆ่าตัวตายว่ะ กูรู้สึกว่าทุกคนกดดันกู ถ้ากูแกล้งทำเป็นจะตาย เขาจะเลิกกดดันกูป่ะว่ะ
ตอนนี้เหนื่อยและสิ้นหวังมากๆเลยว่ะ แต่ไม่ใช่เรื่องชีวิตกูนะ เป็นชีวิตแฟนกูที่เป็นซึมเศร้า เล่าย่อๆมันเกิดจากครอบครัวมันเป็นแนวพ่อแม่รังแกฉันว่ะ ต้องทำตามที่พ่อแม่หวัง เรียนให้จบได้งานดีๆให้พ่อแม่ไปอวดชาวบ้านอวดญาติๆได้สบาย ทีนี้ก็ยังเรียนไม่จบเพราะทำตัวจบไม่ผ่านไง พอล้มแรกมันก็ไม่กล้าทำอะไรต่อแล้ว ก็มาได้กูที่มันรักกูอยู่ มีกูไว้ว่าเวลาเครียดอะไรก็มาลงกับกูหมดไง กูก็สงสารนะก็เลยคบ กูก็พยายามช่วยมันพูดอะไรปลอบบ้าง พาไปหาจิตแพทย์บ้าง แต่ผลคือก็ไม่ได้ดีขึ้น พอหัวข้อไม่ผ่านก็ดรอปเลยไม่สู้ กูพอเข้าใจนะว่าเครียด+กับอารมณ์ทำงานไม่ปกติก็เลยตัดสินใจได้ไม่ดี แต่สุดท้ายคนที่ฟังคือใคร ก็กูไง ก็เอามาบ่นให้กูฟัง เรื่องพ่อแม่ประสาทแดกอยากให้มันเรียนจบซักที ฯลฯ ทีนี้กูก็ไม่ได้ทำงานดีๆอะไรรับจ้างไปวันๆ ก็มีกลุ่มเพื่อน กูก็เคยโดนด่าโดนต่อว่าที่ไปกินข้าวกับเพื่อน ไม่ชอบเพื่อนกลุ่มนี้ กูก็ต้องวางกำแพงจากคนอื่น กูก็ไม่อยากเล่าไงว่ามีแฟนแบบนี้ โคตรรรขี้ปากคนอื่นเลย แถมเดี๋ยวใกล้กูมากก็พลอยซวยอีก อยากมีงานดีๆกว่านี้ทีไรกูก็ต้องนึกไปว่า ถ้าเกิดมีเพื่อนร่วมงานมันจะซวยเพราะแฟนกูมั้ย ทำงานไกลๆอย่างต่างประเทศนี่อย่าหวังเลย เพราะขู่ไว้พร้อมว่ามันจะฆ่าตัวตายถ้ากูไป ทำไมกูสิ้นหวังจังวะ แล้วมีกูอยู่กูทำอะไรได้บ้างนอกจากนอนกับมัน นอกนั้นแนะนำเหี้ยอะไรก็ไม่ได้ก่อผลอะไรเลย กลับมาแย่เหมือนเดิม กูเหนื่อยมากๆเพราะนี่คือปีที่สามแล้วที่กูเจอสภาพแบบนี้ กูก็คิดนะคงเป็นเพราะกูดูแลมันไม่ดีเองด้วย กูน่าจะอยู่ด้วยตอนที่มันจะไปเจอปัญหา ควรตามประกบ แต่เอาจริงๆนะ ฝันไปเถอะ ทำไมกูต้องทิ้งงานทิ้งรายได้มาให้คนไม่ได้เรื่องนี่ด้วยวะ กูยังคิดอยู่ว่ากูทำงานเผื่อตั้งตัวจะได้อยู่ด้วยกัน แต่กูรู้สึกไม่ไปไหนเพราะมี**นี่มาถ่วงนี่แหละ ไม่รวมปัญหาส่วนตัวกูอีก ตอนนี้อยู่ห่างๆกันแล้วเพราะเปลี่ยนที่ทำงาน แต่ก็โทรมาทุกวันนานๆเจอกันที แต่ช่วงนี้ที่แย่เพราะเปิดเทอมแล้ว กูก็ต้องฟังมันบ่นโดยที่กูทำอะไรไม่ได้เลย ฟังมันอยากฆ่าตัวตายกูก็ได้แต่ภาวนาให้ตายๆไปเลยก็ดี ถึงกูจะกลัวว่าตายไปแล้วยังจะแม่งเป็นเสนียดวิญญาณติดกูก็ตาม ทำไมกูสิ้นหวังจังวะ
ที่เขียนมานี่เล่าไม่หมดหรอก ไม่เว้นบรรทัดด้วย กูแค่อยากระบาย แต่กูอยากเตือนแค่ว่าใครเป็นซึมเศร้ามึงไม่ต้องรักใครนะ มันจะทุกข์กันทั้งคู่แบบกูนี่แหละ มึงหันไปทำตัวเองให้ดีก่อนไปรักใครดีกว่า บ้านใครเป็นแนวพ่อแม่รังแกฉันมึงไม่ต้องไปทนนะ ออกมาเลย อย่ามาอดทนให้เป็นตัวถ่วงชีวิตเหมือนแฟนกู
ขอบคุณที่ฟังกูบ่น
>>560 แล้วพอคนอื่นรู้ว่ามึงแกล้งฆ่าตัวตาย มึงจะรับความกดดันหลังจากตรงนั้นต่อได้ไหม นั่นแหละ คิดดูก่อน
>>561 เรื่องของมึงฟังดูน่าสิ้นหวังกว่าแฟนมึงอีกนะ เท่าที่อ่านมาก็ขอใช้คำพูดตรงๆ เลยว่าถ่วงความเจริญ เข้าใจนะ ว่าตอนเป็นมันแย่จริงๆ แต่มันก็มีอยู่ปลายประเภท พอรู้ว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้าก็จมดิ่งอยู่กับมัน หาข้ออ้างในการทำนั่นนี่ว่า ก็ตัวเองเป็นโรคซึมเศ้ราๆๆ กับพวกที่พยายามออกมาจากตรงนั้น (คือกูเคยเป็นโรคซึมเศร้า รับยาด้วยพักนึง แต่ที่เริ่มมาเป็นปกติได้เพราะต้องการละทิ้งจากสิ้งนั้นๆ หาอะไรเบี่ยงเบนความสนใจจนตัวเองดีขึ้น) คือคนเรามันจะมีพวกอยากเอาชนะกับขี้แพ้แหละ ไอโรคซึมเศร้านี่ก็ด้วย แต่ถ้ามองด้านมัน มันคงเห็นมึงเป็นที่พึ่งสุดท้าย มีอะไรก็มาระบายกับมึงหมด โดยที่ไม่ได้เห็นใจมึงเลย ก็ลองคิดดู ว่าจะเดินออกมามั้ย หรือจะเว้นระยะห่างไว้ก่อน
มึง นี่ไม่ใช่เรื่องกูนะ เป็นเรื่องของเพื่อนกู คือมันอะโดนพ่อแม่กดดันแบบกดดันมากๆ อย่างไม่ให้เล่นคอมเลยซักวันไรเงี้ย เวลากลับมาบ้านก็ต้องอ่านหนังสือ อ่านเสร็จแล้วค่อยทำการบ้าน ไม่ว่าจะเป็นงานด่วนแค่ไหนก็ต้องอ่านหนังสือก่อน เวลาเครียดเวลาสิ้นหวังหรืออะไรห้ามร้องไห้เพราะน้ำตาไม่ได้ช่วยอะไร ประมาณจะต้องลุกขึ้นมาทันทีถึงแม้จะโดนเหล็กเสียบขา ถ้าอยากออกไปเที่ยวนอกบ้านบ้างก็ออกไม่ได้เพราะพ่อแม่ห้าม เวลาพ่อแม่เครียดเรื่องอะไรมาก็จะมาลงที่มัน
กูโคตรสงสารมันเลยอะ คือมันต้องอยู่กับสภาวะอย่างนั้นตลอดเลย แต่เพราะอยู่อย่างนั้นมานานแล้วไม่เคยหืออืออะไรมากไง ที่มันมาพูดๆกับกูนี่ก็เลยเป็นแค่การระบาย แต่สำหรับกู กูไม่อยากให้มันต้องเจอแต่อะไรแบบนี้อะ ครอบครัวคืออย่างแรกที่เราจะต้องเจอในชีวิตและคงจะเป็นสิ่งที่อยู่ในใจเราไปอีกนาน อย่างน้อยๆกูก็อยากให้พ่อแม่เขาฟังปัญหาลูกเขาบ้างอะ ไม่ใช่สักแต่ว่าโดยไม่มองอะไรอย่างนี้ ปัญหามันไม่ได้คลี่คลายเลย มีแต่ความรู้สึกที่แย่ลงไปกว่าเดิม กลัวมันจะเป็นโรคซึมเศร้าเนี่ย เฮ้อ
ปล.กูเคยวางแผนไว้นะ ว่าถ้าเจอพ่อแม่เขาแล้วจะพูดชมลูกเขา เพราะดูเหมือนเขาจะดีใจถ้าเห็นว่าลูกตัวเองทำอะไรได้น่ะ แต่ทำแบบนี้มันต้องใช้เวลานานหน่อย กูก็เลยพยายามสร้างสภาพแวดล้อมที่น่าจะทำให้มมันสบายใจขึ้นมาก่อนน่ะ เฮ้อ
ว่าแต่ใครพอมีอะไรแนะนำกูได้มั้ยว่ากูจะช่วยมันอะไรมันยังไงดี
>>564 ถ้าวัยรุ่นวัยทำงานแล้วก็ทำงานพิเศษ เก็บเงิน ย้ายไปอยู่หอ
ถ้ายังวัยเรียน สอบให้ติดต่างจังหวัด เลือกที่ที่มันดีหน่อยจะได้มีข้ออ้างให้ย้ายออกได้
ให้เดานะ เพศหญิง บ้านมีเชื้อจีนป่าว ถ้าใช่ก็เจอกันมาหมดแหละมั้ง น้องพี่เรียนจบหมอทำงานอยู่สามจังหวัดชายแดนใต้มาหลายปี พอย้ายกลับมากรุงเทพฯจะไปเซเว่นปากซอยตอนสองทุ่มที่บ้านยังไม่ให้ไปเลยเหอะ
>>568 บางบ้าน ทำแบบนั้นเท่ากับตัดขาดพ่อแม่ ซึ่งบางคนก็ไม่อยากทำ มันมีพ่อแม่ที่คิดแบบนั้นก็มีนะ
>>564 กูเคยเป็นคล้ายๆเพื่อนมึง ประเด็นคือมันอยู่ที่ว่าเจ้าตัวอยากทำอะไรกับตัวเอง
ถ้าคิดจะขัดขืน ก็ต้องยอมแลกโดนดุด่าบ้าง เป็นปกติ แต่ถ้าเรื่องมันไม่ร้างแรงมาก ทำบ่อยๆ พ่อแม่เขาก็จะเริ่มชินเอง มีก้าวแรกก็มีก้าวต่อไป
แต่อยากให้ลองคุยกะเพื่อนมึงให้ดี คิดดีๆว่า เกณฑ์ไหนที่รับได้ รับไม่ได้ อย่าให้มันเลยเถิดร้ายแรงขึ้นมา
ไม่ก็ยอมอดทนที่บ้านไป ไปส้รางสภาพแวดล้อมใหม่ (เช่นกลุ่มเพื่อน) ที่มีอิสระหน่อย
กูมีปัญหาชีวิตที่ไม่ค่อยอยากเล่าเท่าไหร่แม่งเยอะเกิน คือตอนนี้กูเหมือนเสพติดความเศร้าความสิ้นหวังว่ะ
กูรู้ตัวเองว่ากูเครียดมากกว่าแต่ก่อนเยอะ ที่เรื่องส่วนใหญ่กูต้องเก็บไว้คนเดียว มันเป็นปัญหาที่ตัวกูเอง
ทุกวันนี้ออกไปข้างนอก เรียน หรือตอนกำลังนั่งดูหนังอยู่บ้าน อยู่ๆกูก็รู้สึกอยากหยุดทุกอย่างแล้วกลับไปนั่งเหม่อนั่งร้องไห้ในห้องตัวเองต่อ
เหมือนมันเป็นช่วงที่กูรู้สึกดีที่สุดในวันๆนึง ยิ่งกูเป็นหนักขึ้นเรื่อยๆด้วย กลัวเป็นโรคซึมเศร้าชิบหาย
>>570 กูว่ามึงเข้าขั้นแล้วล่ะ ถ้ามันเริ่มควบคุมไม่ได้และรบกวนชีวิตประจำวัน มึงก็ควรหาทางแก้ไขนะ
ส่วนใหญ่กูเห็นเพื่อนที่เป็นหนักๆก็จะฟีลคล้ายๆมึง
คือรู้สึกว่าตัวเองต้องเก็บปัญหาไว้คนเดียว เป็นเรื่องของตัวเอง ไม่อยากให้รบกวนคนอื่น
ถ้ามึงไม่อยากหาที่ระบายกับคนอื่น
จริงๆไปหาจิตแพทย์ ระบายกะแม่งก็ได้ไงแม่งก็ไม่ได้รู้จักมึงอยู่ละ
พวกเว็บแชทระบายจบก็แยกทาง ไม่ก็ ไดอารี่ ก็โอเค
ประเด็นคือ ปัญหาของมึงบางทีพูดๆออกมามันได้ reflect(?) ตัวเอง
คือลองผลักให้ปัญหาของมึงเป็นมุมมองของบุคคลที่สามดู มันจะตัดอารมณ์อะไรๆออกได้เยอะ และมีสติมากขึ้น
พอฟังตัวเองพูดมันก็จะรู้สึกว่า "อ่อ ปัญหามันก็มีทางแก้นะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่ขนาดนั้นในบางที"
แล้วก็อยากให้ลองหางานอดิเรกทำดูสักสองสามอย่าง
เวลาที่มันฟุ้งมากๆจริงๆ จะได้หลุดออกมาได้บ้าง
คือกูว่าส่วนนึงที่มึงร้องไห้แล้วมึงแฮปปี้ คือมึงได้ระบายออกมานั่นแหละ
กูเลยอยากให้มึงลองทบททวนแล้วดีลกับอารมณ์ตัวเองดู ทำให้มันชัดเจนไปเลยว่าตกลงเป็นอะไร จะได้จัดการมันถูก
มันไม่ผิดนะที่มึงจะเศร้า อึน แต่ก็อยากให้คิดว่ามึงจมอยู่แบบนั้นไม่ได้อะแหละ ชีวิตมึงยังมีอะไรให้เจออีกเยอะแยะ
//ปล. บอร์ดโม่งนี่ก็ใช้ได้นะ กูชอบมาโพสบอมบ์ไว้ ล็อกอินใหม่ไอพีก็เปลี่ยนละ
เซ็งวะเพื่อนโม่ง มีใครเป็นแบบนี้บ้างวะ
พ่อแม่ไม่ทำมาหากินบ้าง แล้วพอไม้มีเงินก็อ้างนู้นนี้
กูอยากจะเลิกรักคนๆนึงซักทีแต่ก็ทำไม่ได้ เพราะมีสัญญาติดค้างกับเขา
สัญญากันไว้ว่าช่วงที่จบม.ปลายกูไปเรียนต่อตปท.จะมีใครก็ได้ถ้าเจอคนที่ใช่ แต่ถ้ากลับมาเจอกันยังไม่มีใครให้กลับมาคบกัน
อาจจะดูปัญญาอ่อนสัญญาอะไรเด็กๆแต่กูจริงจังมากกูไม่เคยสนใจใครเลยจริงๆรอแล้วรอเล่านานๆทีก็มี Skype กันบ้างแต่เวลาไม่ตรงกัน
มันก็คุยกันลำบากได้แค่นานๆทีจนก่อนกูจะจบป.โทก็ผ่านไป 7 ปีละ ปีสุดท้ายไม่ได้คุยกันเลยอยู่ๆก็หายไป กูก็คิดว่าเขามีใครใหม่ไปแล้ว
แต่อย่างน้อยก็น่าจะบอกกันหน่อยกูจะได้ทำใจเพราะเป็นไปตามสัญญาที่จะได้ไม่รั้งชีวิตใครคนใดไว้
แต่พอกูกลับมากูไปถามทางบ้านเขา เจอข่าวร้ายเหี้ยๆจนรับไม่ไหวจริงๆว่ะ เขาหัวใจล้มเหลวกะทันหันไม่ได้เป็นโรคอะไรด้วยซ้ำ
ตายไปตั้งแต่อาทิตย์แรกที่หายไปแล้ว กูไม่รู้อะไรเลยทางบ้านเขาติดต่อกูไม่ได้เพราะเปลี่ยนเบอร์ ไม่มีใครเล่นสไกด์เป็น
กูช๊อคว่ะไม่อยากจะทำงานห่าอะไรเลย มีชีวิตไปวันๆยังกับคุขี้แพ้นี่จะปีครึ่งแล้วกูยังไม่เลิกเสียใจเลยว่ะ เจอแบบนี้พวกมึงจะทำยังไงวะ
ทำยังไงกูก็ไม่หายกูรักมากจริงๆว่ะคนนี้ไปเล่าให้ใครฟังก็ไม่มีใครเข้าใจกู ก็รู้ว่าต้องเดินต่อไปนะ แต่กูก็เปิดใจรับคนใหม่ไม่ได้เลยว่ะ
พยายามลองไปเดทไปกินข้าวกับผู้หญิงใหม่ๆที่เข้ามาในชีวิตกู กูก็ไม่รู้สึกเหมือนเดิมเห็นแต่เรื่องสมัยม.ปลายที่เคยอยู่กับเขา
กูก็โตๆแล้วแต่ทำไมยังทำตัวเป็นเด็กยังงี้วะสมเพชตัวเองสัด
กูระบายไปหลายบอร์ดหลายช่วงเวลาแล้วมันไม่ช่วยอะไรกูเลยกูลืมไม่ได้ เคยคิดบ้าๆว่าจะบินกลับไปต่อป.เอกฟิสิกส์
เผื่อจะมีหวังได้เห็นไทม์แมชชีนคิดอะไรเด็กๆจริงๆว่ะกู ปัจจุบันแม่งไร้ความหมายจริงๆทำงานไปวันๆไม่มีเหี้ยไรอีกแล้ว
ชีวิตกูวันๆกูคิดแต่เรื่องเดิมๆทุกวี่ทุกวันอยากหายๆไปซักทีว่ะ พ่อแม่กูก็ไม่อยู่แล้วชีวิตมันจะไปมีความหมายอะไรต่อวะ
กูอยากระบายอ่ะ กูขอพื้นที่ในระบายหน่อยนะ
กูไม่เข้าใจทำไม ทุกอย่างต้องเป็นกูอ่ะ กูท้อกูเบื่อ กูรู้สึกไม่อยากทำเหี้ยอะไร แบบกูอยากพัก อยากใช้ชีวิตไปวันๆแบบชิวๆเข้ามหาลัยไปแม่งชีวิตกูไม่มีความสุขเลย ไปเช้าเย็นกลับ อิสระไม่มี เก็บตังค์หาค่าเทอมหาค่ากินค่าแดกเอง เวลาไม่เที่ยวไม่มี เวลาใช้ชีวิตวัยรุ่นไม่มี เหมือนโลกนี้ไม่มีใครเข้าใจกูมากขึ้นทุกวันๆ รู้สึกเบื่อชีวิตเหี้ยๆ วันๆเหมือนอยู่แต่ในลูปในกรอบที่กูต้องทำแบบนี้ๆๆๆๆๆ นะ แล้วผลออกมาก็ควยๆๆๆๆๆ บางทีทำงานแทบตายกว่าจะหาเงินมาแต่ละเม็ดต้องเอาไปจ่ายค่ากีฬาห่าเหวอะไรไม่รู้ กูเบื่อสังคมตอแหล เบื่อคำตอแหลจากคนรักจอมปลอม เบื่อชีวิตประจำวันของกู อยากทิ้งภาระแม่งทุกอย่าง จะว่ากูเลวก็ได้นะ กูอยากทิ้งภาระทางบ้านด้วยอ่ะบางที กูอยากอิสระ อยากอยู่สงบๆ เบื่อว่ะสัสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส ควยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ขอบคุณ.
พวกมึง กูไม่ได้รู้สึกสิ้นหวังหรอกนะแต่กูเกิดสงสัยขึ้นมา พวกมึงว่าเรามีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไรวะ
กูเห็นเพื่อนกูต้องจากบ้านมาอยู่คนเดียว เสียเงินเช่าหอโง่ๆทุกเดือน อัตคัตขัดสนแถมเหงาอีก ไม่ได้อยู่กะพ่อแม่ เงินที่หามาได้ก็เอาไปจ่ายค่าหอ ค่าน้ำค่าไฟ ค่ากินใช้ ทำไมกูรู้สึกว่าการทำงานมันว่างเปล่าจังวะ เราออกจากบ้านไปลำบากทุกวันเพื่อเอาเงินนั่นมาใช้กับสิ่งที่จะเรียกความสุขก็ไม่เต็มปาก ก็แค่ให้พอมีชีวิตอยู่ไปได้ แต่ทำไมเราต้องอยากอยู่ต่อไปวะ เพื่ออะไรวะ เราทรมาณตัวเองเพื่อให้มีชีวิตอยู่ไปทำไมวะ บ้านก็ไม่ได้กลับ พ่อแม่ก็ไม่ได้เจอ เงินที่จ่ายค่าเช่าห้องไปสุดท้ายห้องเหี้ยนั่นก็ไม่ใช่สมบัติของเราอีก เหมือนมันสูญเปล่าไปทุกๆอย่าง งั้นเราพยายามกันอยู่ทุกวันเพื่ออะไรวะ
>>587 คือกูก็มีความฝันนะ กูอยากเป็นศิลปินระดับโลก ทุกวันนี้ก็พยายามอยู่แต่ว่ามันรู้สึกว่างเปล่าไปหมดเลย ตอนวาดรูปกูก็มีความสุขดีนะ แต่งานที่ทำก็ได้เงินน้อยสุดท้ายก็มาสูญกะค่าเช่าห้องไปเกือบทั้งหมด เพื่อนกูก็เป็นแนวๆนี้เหมือนกัน บ้านก็ไม่ได้กลับ กูคิดถึงแม่ กูอยากกลับบ้าน แต่ถ้ากลับก็ไม่มีงานไม่มีเงิน สุดท้ายก็ต้องมาทนอยู่ในห้องรูหนูเหมือนเดิมเพื่อหาเงินมาจ่ายให้สถานที่ๆกูก็ไม่ได้อยากอยู่เท่าไหร่ มันแปลกอ่ะมึง กูมาเช่าห้องเพื่อทำงาน กูได้เงินเดือนมาเพื่อไปจ่ายค่าห้องที่กูไม่ได้อยากอยู่แต่จำเป้นต้องอยู่เพราะต้องทำงาน วันก็วนลูปไปแบบนี้ แล้วสุดท้ายกูเหลืออะไรวะ กูจะทำงานไปเพื่ออะไรในเมื่อสุดท้ายมันก็ไปหมดกะค่าใช่จ่ายประจำวันอยู่ดี มีคนเคยบอกว่าเราหาเงินมาเพื่อใช้ชีวิตแต่ทำไมเราต้องทนลำบากมาเพื่อเอาเงินมาต่อชีวิตที่ไม่มีความสุขวะ แปลกจัง
เหมือนอย่างในวอกกิ้งเดธอ่ะ สุดท้ายทุกคนก็ตายหมด คนที่รอดจะอยู่ไปเพื่ออะไรในเมื่อโลกมันไม่มีอะไรแล้วแต่ละคนไม่ได้หวังถึงการรักษาหรือการฟื้นฟุเลยแค่จะหาที่อยู่ไปวันๆ ทำไมทุกคนต้องพยายามเอาตัวรอดกันวะ ในเมื่อชีวิตที่มีอยู่ก็ไม่ได้มีความสุขอะไรแล้วจะทนทรมานตัวเองทำไม
นี่กูเป็นโรคซึมเศร้าจริงๆหรอวะ กูไม่อยากเป็นอ่ะ กูคิดว่ากูแค่ขี้สงสัยเฉยๆซะอีก มีแต่คนบอกว่ากูเป็นคนโลกสวย มองโลกในแง่ดีนะ กูจะเป็นได้จริงหรอวะ
คนเรามันไม่มีคุณค่าอะไรหรอกเว่ย ต่อให้มึงดิ้นรนค้นหาความหมายมากแค่ไหนมึงก็ไม่เจอหรอกเพราะมันไม่มีตั้งแต่แรกแล้ว
ทุกคนเกิดแก่เจ็บตายโดยไม่ได้ส่งผลอะไรกับจักรวาลแม้แต่นิด
มึงแค่ต้องเข้าใจถึงความว่างเปล่าไร้ประโยชน์นี่แล้วก็ใช้ชีวิตต่อไปซะ ชื่นชมความยิ่งใหญ่สวยงามของธรรมชาติ พยายามกลับคืนสู่ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต ยิ่งหลงใหลไปกับสิ่งจอมปลอมที่มนุษย์สร้าง เงินตรา ตึกรามบ้านช่อง ระบบสังคมห่วยๆนี่ ชีวิตมึงก็จะยิ่งหลงทาง
เป้าหมายของการเกิดมาสำหรับกูคือเข้าใจ ยอมรับ มีความสุขกับความจริงข้อนั้น แล้วก็ตายกลับสู่ความเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล
ช่วยด้วย เราอยากฆ่าตัวตายค่ะ
จะไม่ใช้ถ้อยคำสุภาพนะคะ
กูโคตรอยากตาย วันๆใช้ชีวิตอยู่กับความว่างเปล่า
ชีวิตแม่งมีแต่ความล้มเหลว แค่เรียนให้จบยังทำไม่ได้
ย้ายที่เรียนมา 3 ที่แล้ว คนวัยเดียวกันเค้าจบกันหมดแล้ว
เป็นภาระทางการเงินให้แก่ครอบครัว แถมยังเป็นขี้ปากชาวบ้าน
โคตรรู้สึกผิด ที่ยังไม่ตายตอนนี้เพราะไม่อยากให้พ่อแม่มาฝังศพลูก
แต่ก็นะ ไม่รู้จะมีสติได้อีกนานแค่ไหน
กูก็คิดะว่าเงินที่เค้ามาจ่ายให้กูนี่มันสูญเปล่าเหี้ยๆ ให้เค้าเอาเงินไปจ่ายค่าประกันสุขภาพของเค้าจะดีกว่าไหม
ใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียว ไม่ต้องถามเลยนะว่าไอ้ขี้แพ้อย่างกูจะมีเพื่อนไหม
ทุกๆวัน กูพูดแค่กับคนสองคนคือพนักงานเซเว่น กับเวลาสั่งข้าว
กูเหงามั้ย กูโคตรเหงาเลยไอเหี้ย ถึงกับต้องมาโพสต์ในอินเตอร์เนต ให้คนแปลกหน้ามาติเตียนกู
ชีวิตแม่งโคตรซํงกะตาย ทำห่าไรก็ไม่มีความสุข
จะกินอะไรก็ไม่อร่อย กูโคตรอยากจะเป็นบ้า ชีวิตหาความสุขไม่ได้
ทุกๆวันต้องต่อสู้กับความรู้สึกด้านลบของตัวเอง
แม่งจะมีใครเข้าใจบ้างมั้ยวะ กูโคตรเหนื่อย กูท้อแล้วโว้ย
ไม่ไหวแล้วไอสัส กูอยากหายไปจากโลกนี้ชิบหาย
กูเหนื่อยยย กูจะอยู่ไปทำไมวะ
เออ กูก็ว่ากูน่าจะเป็นโรคซึมเศร้า กูไปหามาละ สามหมอ สามโรงพยาบาล
ยาเหี้ยไรก็แดกมาแล้ว อยากจะบอกว่าแย่ลงสัสๆช่วงนึง
หมอที่กูเจอแม่ง 2 ใน 3 สนใจแต่ตังค์กู นัดถี่ยิ่งกว่าอะไร
แต่ไม่ได้สนใจเรื่องที่กูเล่าซักติ้ด สักแต่อัดยากับเก็บเงิน
กูพยายามหาทางออกให้ตัวกูแล้ว
หาหมอ ปฏิบัติธรรม เล่นกีฬาห่าเหว ไม่ดีขึ้นเลย แถมก็เอาเงินพ่อแม่ไปใช้เพิ่มอีก
กูก็ยังแม่งมืดมนเหมือนเดิม รู้สึกชีวิตบัดซบแม่งไร้จุดหมาย
ไม่มีแรงจูงใจจะทำห่าไรเลยซํกนิด อยู่เหมือนตายทั้งเป็น
แม่ง อยู่ก็เหมือนตายทั้งเป็น ฮึก.. กูเหนื่อยเหี้ยๆ เหนื่อย กูสู้ต่อไปไม่ไหวแล้วไอสัส
กูต้องทำยังไงถึงจะหลุดจากลูปนรกนี่ได้วะะะะ ไอเหี้ยย กูโคตรเกลียดตัวเอง
>>591 การศึกษาไม่ใช่ทุกอย่างว่ะอีโม่ง กูต้องถามมึงก่อนว่านอกจากเรียนมีอะไรที่มึงอยากทำอีกไหม ครอบครัวมึงกูว่าเขาไม่ขัดสนหรอก และอีกอย่างมึงพยายามพอหรือยัง มึงหันกลับมาอยู่กับตัวเองบ้าง อย่าแคร์สังคมมากนัก มึงเหงาเพราะไม่มีใครสนใจมึงเหรอ งั้นมึงก็สนใจตัวเองดิ มึงยังไม่มีจุดหมายมึงแค่เดินชีวิตตามที่พ่อแม่มึงและสังคมวางไว้อยู่แค่นั้น มึงควรมีสติแล้วนั่งคิดดีๆ พ่อแม่มึงคงไม่อยากไปจัดงานศพมึงหรอกนะอีโม่ง
>>591 อยากมีคนคุย มาคุยกะกูมั้ย กูไม่รู้ว่ากูจะทำให้มึงดีขึ้นได้ปะนะ
เพราะตัวเองก็เอาไม่รอดเหมือนกัน 55
แต่เห็นมึงแล้วแบบ ตกใจสัส
มีเพื่อนกูคนนึง เหมือนมึงแบบ แทบจะเป๊ะๆ จนกูแบบ ตกใจว่าเป็นแม่งหรือเปล่า
แต่คิดว่าคงไม่ใช่หรอกมั้ง เพื่อนกูแม่งดูจะไปดี มีชีวิตที่ดีของตัวเองและ
ไม่เป็นไรนะมึง มาพยายามด้วยกัน
ชีวิตเหี้ยเป็นของทุกคน ก็พยายามจัดการชีวิตเหี้ยๆของตัวเองกันต่อไป
>>591 ถ้ามึงต้องการเพื่อน กูเป็นเพื่อนให้มึงได้นะ ก่อนหน้านี้ชีวิตกูก็ล้มเหลวเหมือนกันโหวงไปเลยล่ะ สัส จนวันนึงกูทนไม่ไหวจนมาตั้งมู้สิ้นหวังในโม่ง(อ่านได้ในห้องเลาจ์) กูหาทางออกไม่ได้ หาเพื่อนคุยไม่ได้ จนตรอกจนต้องมาเล่าปัญหาตัวเองในโม่งจำได้ว่าพิมไปร้องไห้ไปเลยสัส พอได้คุยกะพวกโม่งกูก็มีแรงฮึดขึ้นใหม่ ตอนนี้กูก็ยังล้มเหลวในหลายเรื่องแถมมีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์กะคนอื่นอีกแต่กูจะไม่ยอมแพ้นะ มึงเองก็อย่ายอมแพ้เช่นกัน ยิ่งเราล้มมากเท่าไหร่ความสำเร็จของเราก็จะมีคุณค่ามากเท่านั้น ในท้ายที่สุดแล้วเราจะชนะเว้ยให้ความล้มเหลวเป็นบันไดให้มึงไปถึงความสำเร็จนะ
>>592 กูเคยไปบริจาคเลือดมาแล้ว ปืนนี่จะหาได้จากไหนวะ มันต้องมีใบรับรองไม่ใช่เหรอ กูไม่รู้
>>593 การศึกษาไม่ใช่ทุกอย่างจริง แต่แม่งมันปฏิเสธไม่ได้ว่ะว่าสังคมปัจจุบันนี้ คนที่เรียนไม่จบจะหางานดีๆที่เงินเดือนพอเลี้ยงพ่อแม่น้ายายที่ไหนได้วะ กูไม่ได้ฉลาดเหมือนบิล เกต เทพซ่าเหมือนสตีพ จ๊อบ กูเป็นแค่ไอเด็กเหี้ยเก่งแต่ผลาญสมบัติเก่าพ่อแม่ กูพยายามเริ่มต้นใหม่มาสามหน กูถึงกับเคยไปบวชชี(ซึ่งไม่เข้ารสพระธรรมเลยซักนิดเดียว นอกจากความรู้สึกว่าตัวเองสกปรก) กูไม่รู้จะต้องทำยังไงละ ตัวเองเนี่ยล่ะที่กูเกลียดกว่าอะไร
>>594 กูขอบคุณในน้ำใจ มึงทำให้กูนึกถึงเพื่อนคนนึงที่เค้าเคยรับฟังกู ตอนนี้แม่งเหมือนติดเชื้อเนกาทีฟกูไปแล้ว ไม่คุยกับกูแล้ว แต่กูก็เข้าใจเค้านะว่า ไอห่านี่วันๆพูดแต่เรื่องสิ้นหวัง ท้อแท้ หดหู่ ใครจะมาอยากฟังมันเสวนาวะ
>>595 กูกลัวจะกอดคอกันจมจริงๆว่ะ
>>596 ไว้กูจะอ่าน
>>597 ขอบคุณ มึงพูดดีมาก ที่ความสำเร็จเราจะมีค่าขึ้น แต่ว่านะ ชีวิตกูตอนนี้มีแต่ล้มว่ะ
>>598 กูสมเพชเวทนาถึงกับมาขอเด้าคนที่อยากจะฆ่าตัวตาย
กูไม่มีใครที่จะให้ระบายได้จริงๆ กูขอบคุณคนที่อยากช่วยเหลือกู
กูพยายามรีเฟลกการกระทำของตนเองเพื่อหาต้นตอของปัญหา ด้วยการจดบันทึก
แต่กูเขียนไดอารี่มาสองเล่มแล้ว จากที่บันทึกมาปีกว่า กูไม่เปลี่ยนไปเลย มีแต่อาการขึ้นๆลงๆ
กูหาต้นตอไม่ได้จริงๆ มันเหมือนเสาเข็มทรุดไปหนึ่ง แล้วอาคารมันก็ค่อยๆทลายลงเรื่อยๆ
กูพยายามปรับเวลานอน ทำกิจกรรมให้แอคทีฟ ให้ตัวเองกระตือรือร้นและรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตัวเอง
แต่ทำได้ไม่นานก็พัง ความหมดอาลัยตายอยากมันก็เข้ามากัดกินให้ชีวิตซังกะตาย ไม่ออกไปไหน
วันๆกูก็เอาแต่นอนเป็นผัก จ้องความมืดหมุนมีดคัตเตอร์ในมือเล่น บางทีกูนอนติดกันสองวันเลย
นอนตายแบบ อยากให้หลับไปไม่ต้องตื่นเลย ข้าวปลาไม่แดก
กูกลับไปอ่านบันทึกของตัวเองแล้ว กูอยากย้อนเวลากลับไปบีบคอตัวเองชิบหาย
กูเคยกรีดข้อมือเมื่อต้นปี แต่กูไม่กล้าลงมือจริงๆ เออ กูมันขี้ขลาด ไม่ใจ กูกลัวเจ็บ
กูทำได้แค่กรีดเป็นรอยแผลตื้นๆ แค่นั้น
กูเคยวางแผนว่าจะไปที่ไหนซํกแห่ง เช่ารถ ต่อท่อ ลาโลก
เออ กูมีปัญญาคิดเรื่องดับชีวิต แต่กูไม่มีปัญญาใช้ชีวิตจริงๆ
กูมีปัญหาสัส กูไม่รู้จะทำยังไงดี สมองกูมันคงน๊อตหลวมหายไปยกแผงละมั้ง
ครอบครัวเราไม่ได้คุยกันเลย แค่ส่งตังค์มาให้ทุกเดือน
ไอเหี้ย ไม่มีใครเข้าใจกูแม้แต่แม่กูเอง ตัวกูเองก็ไม่เข้าใจ
กูเคยพยายามขอความช่วยเหลือจากครอบครัว จากคนเป็นแม่
นางอยากให้กูไปแอดมิตศรีธัญญา! นางเข้าใจว่ากูกำลังจะเป็นบ้า! เป็นบ้าเนี่ยนะ!!? แม่เห็นกูเป็นอะไรไปแล้ววะ
แม่งเอ้ย เหี้ยสัสๆ กูไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้ เป็นความรู้สึกที่แบบ บัดซบ! โคตรบัดซบ!
ไม่ต้องคิดนานเลยเหี้ยว่ากูกับแม่จะต้องทะเลาะกัน แบบรุนแรงที่สุดในชีวิตกูเลย
กลับมาบ้าน ไม่ต้องเรียนแล้วลูก กลับมาเลี้ยงควาย!
กูรู้ว่ากูทำแม่เสียใจ กูก็เสียใจเหมือนกัน มันคือชีวิตกูที่พัง กูเนี่ยล่ะที่เสียใจที่สุด
แล้วแม่กูก็เริ่มไปหาหมอดู บอกว่าหมอดูเคยทำนายไว้แล้วว่าชีวิตกูต้องพัง! แม่ทำใจแล้ว!
งมงาย ไอเหี้ย งมงาย กูรู้สึกเหี้ย เหี้ย เหี้ย กูรักแม่นะลึกๆ แต่กูไม่คุยกับแม่กูดีๆมาปีกว่าแล้ว
แล้วตอนเจอกูคราวก่อน มาบอกว่าแม่ก็เป็นโรคประสาทเพราะกูแล้ว เอาถุงยาที่จิตแพทย์สั่งมาโชว์ให้กูดูด้วย
มึงคิดว่ากูจะรู้สึกยังไง กูทั้งรู้สึกไม่พอใจ อึดอัดคับข้องใจสัสๆ รู้สึกผิดเหี้ยๆ กูโคตรอยากหายไปให้พ้นๆ
>>602 Action = Reaction ยิ่งมึงโดนหนักขนาดไหน มึงก็ยิ่งต้องพยายามสู้ไม่ใช่เหรอวะ
กุมีเพื่อนร่วมรุ่นคนนึงเป็นพี่แก่กว่ากุ 6 ปีได้ มันซิ่วมา 2 ที่ ขนาดมหาลัยที่ 2 แม่งเรียนปี 4 แต่เสือกเจอไรไม่รู้จนต้องซิ่วมาที่มหาลัยกุ แล้วแต่มันก็พยายาม กุก็อยากเห็นมึงพยายามเหมือนมันบ้าง
จริงๆแล้วมึงไม่ได้อยากฆ่าตัวตายหรอก มึงแค่อยากให้ใครสักคนรับฟังปัญหาของมึง อยู่ข้างๆมึง แค่นั้นเอง ถ้าตอนมึงเรียนมึงพยายามเข้าไปนั่งใกล้คนอื่น คุยกับคนอื่นเยอะๆ สังคมมึงก็จะกว้างขึ้นกว่าที่มึงเป็นอยู่ กุเชื่อว่าปัญหาทุกอย่างมีทางแก้
กูเล่าเรื่องตัวเองนะ
กูรู้สึกว่าตัวเองล้มเหลวมาก ทำอะไรก็ไม่สำเร็จ ต้องให้พ่อแม่เลี้ยง คนอื่นไปไหนต่อไหนแล้ว
กูเสียใจมาก พ่อแม่ตั้งความหวังกับกูแต่กูเป็นความล้มเหลว
กูไปหาหมอเพราะกูทำงานทำการอะไรไม่ได้แล้ว แต่สามครั้งกูก็เลิกไป กูเปิดใจคุยกับหมอไม่ได้
กูเปิดใจคุยกับใครไม่ได้ ทุกคนบอกกูว่าให้อดทน
เหี้ย กูทนจนไม่เข้าใจว่ากูจะทนไปทำไม กูทนจนไม่ไหวแล้วถึงได้มาปรึกษาไง
กูเลิกไปเรียน เก็บตัวอยู่บ้าน กูโชคดีที่พ่อแม่ยังเลี้ยง
กูก็พยายามใช้ชีวิตให้เป็นระเบียบ กินนอนเป็นเวลา ร้องไห้บ้างก่อนนอน
สุดท้ายกูก็ไปวิ่ง
กูพบว่าร่างกายกูแย่มาก ร้อยเมตรกูก็แทบคลานแล้ว
ที่น่าอายมากคือทุกคนแม่งวิ่งเร็วกว่ากูหมด
คนที่ดูอายุพอๆกับกู คนที่ดูเหมือนแม่กูแต่ขาแม่งกล้ามเปรี๊ยะ เจ๊ๆที่แม่งวิ่งไปคุยกันไปก็วิ่งเร็วกว่ากู
ไอ้คนที่เหมือนเป็นนักกีฬาแม่งวิ่งน็อกรอบกูด้วยซ้ำ
คนที่กูวิ่งได้เร็วพอๆกันคือคุณตาแก่ๆที่กำลังเดิน
กูอาย พวกแม่งต้องคิดว่ากูกระจอกแน่เลย
กูพยายามวิ่งให้เร็วขึ้น แล้วแม่งก็หมดแรงเดี้ยงเอง
สุดท้ายกูเลยเข้าใจ
ร่างกายกูเป็นแบบนี้ กูมีแรงแค่นี้ กูวิ่งได้แค่นี้ กูสู้คนอื่นไม่ได้
ดังนั้นกูวิ่งเท่าที่กูวิ่งได้ โฟกัสกับลมหายใจตัวเองอย่างเดียว
กูวิ่งได้เท่าที่ตั้งใจไว้ กูพอใจแล้ว
กูก็เลยเข้าใจว่าชีวิตกูเร็วเหมือนคนอื่นไม่ได้ กูเหนือ่ยก็หยุด
ที่สำคัญคือพอกูโฟกัสกับลมหายใจตัวเอง ออมแรงไว้ กูก็วิ่งครบรอบกะเค้าได้เหมือนกัน
กูเลยรู้สึกล้มเหลวน้อยลงหน่อย
ใช่กูมันโง่ เลยเรียนได้ไม่ดี กูก็ค่อยๆไปของกูละกัน
ชีวิตเป็นการเดินทาง กูเดินช้าๆของกู อ้อมบ้างวนกลับที่เดิมบ้างก็คงไม่เป็นไร
ถึงจะยังรู้สึกไร้ค่าอยู่แต่ทุกวันนี้ก็ดีกว่าวันที่อยู่ๆไปอย่างมืดมนเยอะ
ถ้ามึงกำลังสู้กับความรู้สึกว่าตัวเองล้มเหลวอยู่ กูก็ร้องไห้ให้มึง เพราะกูมีความเจ็บปวดแบบเดียวกัน
>>604 กูอ่านที่มึงระบายแล้วกูร้องไห้เลยว่ะ มึงนี่ร่างแยกกูชัดๆ กูเรียนไม่เก่ง เรียนไม่จบ เวลามีปัญหาหรือรู้สึกเฟลก็ชอบเก็บเอาไว้คนเดียวเพราะเล่าให้ใครฟังไม่ได้ ทุกวันนี้เกาะพ่อแม่แดกพร้อมกับค่อยๆเดินตามความฝันที่จะเป็นศิลปินชื่อดังเหมือนกับโม่งบนๆ
แต่เรื่องวิ่งน่ะ พอมึงวิ่งทุกวันติดต่อกันเป็นเดือนๆ ร่างกายจะเริ่มชิน และมึงจะวิ่งได้นานขึ้น เร็วขึ้น ไม่เหนื่อยง่าย เพราะปอด หัวใจ กล้ามเนื้อเริ่มแข็งแรง ที่พวกเจ๊ๆเขาวิ่งได้เร็วกว่าก็เพราะเขาวิ่งกันมาเป็นปีๆแล้ว มึงที่เริ่มวิ่งใหม่ๆ ร่างกายยังไม่ปรับตัวสู้ไม่ได้หรอก แต่ไม่ต้องอายว่าคนอื่นเขามองมึงกระจอก เพราะพวกเขาก็เคยผ่านช่วงที่วิ่งช้า ขาสั่น หอบแดกจนท้อมาก่อนเหมือนกันแหละ #ชีวิตก็เช่นกัน #กูอ่านเรื่องวิ่งของมึงแล้วรู้สึกเหมือนได้กำลังใจ
>>604 เออ นายโม่งเข้าใจบอกดีว่ะ
>>602 กูมองแล้วประเด็นความผิดหวังมึงคือเรื่องเรียน ที่มึงไม่จบสักทีย้ายมาสามหนแล้ว กูถึงบอกว่าเรื่องเรียนไม่ใช่ทุกอย่าง
ถ้ามึงยังผ่านจุดนี้ไม่ได้ มึงอย่าหวังจะหาที่ทำงานดีๆในฝันของมึงเจอ
แต่ถ้ามึงจะเรียนให้พ่อแม่มึงภูมิใจมึงก็เลือกเรียนในสิ่งที่มึงคิดว่ามึงพาตัวเองไปจบหลักสูตรนั้นได้ก็พอ
แล้วนี่ก็ถือว่าเป็นจุดหมายแห่งความสำเร็จมึงละกัน มึงก็พยายามทำให้ได้ ให้มันจบสักอย่าง
ให้ตัวมึงภูมิใจในตัวเองสักที
กูมองว่ามึงค่อนข้างจับจดและกลัวการเริ่มต้น และมึงแคร์คำพูดแม่มึงมาก
มึงเก็บคำพูดหลายอย่างของแม่มึงมาคิดแค้นในใจ แต่มึงก็รักแม่มึงอยู่ล่ะ
มึงโชคดีแล้วที่มึงเจอแม่แบบนี้ ที่ยอมรับว่าลูกตัวเองมีปัญหา
ถ้ามึงเจอแม่ที่รับสภาพลูกตัวเองไม่ได้หลอกตัวเองว่าลูกกูสบายดีไปวันๆ มึงจะอาการหนักกว่านี้
กูขอย้ำว่า ไม่บ้าก็ไปหาหมอบ้าได้ แต่กูบอกเลยว่าจริง หมอไม่หือไม่อือกับคนไข้
เพราะเขาฟังเฉยๆ ไม่ได้พูดอะไร เปิดโอกาสให้คนไข้พูดไง ถ้ามึงอยากหลุดพ้นมึงต้องเปิดใจกับเขา
คิดว่าเขาเป็นที่ระบายที่หนึ่งก็ได้ พูดๆไปเหอะตอนเจอหมอ ไหนๆมึงก็เสียค่ายาแล้ว มีคนให้รับฟังมึงด้วย
มึงเหนื่อย มึงก็ควรพักนะ ที่พักข้างทางมันไม่ได้เลวร้ายแบบที่มึงคิดหรอก
เออ อันนี้กูไม่ได้กวนตีน เยาะเย้ย ถากถางอะไรนะ แต่กูอยากรู้วิธีเรียนมึงอะ
เอาแค่ให้ "พอจบ" เนี่ย แม่งแถไปได้หมดแหละถ้ามึงใส่ใจกับการเรียนจริงๆ กูสงสัยตรงนี้แหละ ว่ามึงเรียนด้วยวิธีไหนมึงถึงบอกว่ามึงเรียนไม่ไหว
>>607 ชอบอ่านนะ ถ้าหนังสือไม่ยาก
>>604 แด่คนที่มีความเจ็บปวดแบบเดียวกัน...ขอบคุณนะ มึงเล่าแล้วแม่งอยากไปวิ่งด้วยชิบหายเลย
>>606 กูรู้เหมือนมึงเป็นคนมีความคิดความอ่านโตดี กูพยายามอยู่มึง กูอยากภูมิใจกับตัวเองจริง แต่พอรู้ตัวอีกทีกูก็เอาแต่นอนซังกะตาย ไม่มีใจจะทำอะไร แล้วจมอยู่กับความรู้สึกผิด แล้วกูแม่งเจออะไรเล็กน้อยแย่ๆ กูก็จะถือแม่งเป็นเรื่องใหญ่โตได้ โคตรเกลียดตัวเอง กูก็ไม่รู้ทำไมกูต้องเป็นแบบนี้ด้วย
>>608 ได้ เวลากูรู้สึกดีเพรสส่วนใหญ่กูจะนอนเป็นผักเปื่อย กูเลยขาดเรียน เวลาเรียนไม่พอ กูก็เข้าสอบไม่ได้ ตอนอยู่ที่แรกกูโดนชั้นปีบอยคอตด้วยเหตุผลอะไรกูก็สุดจะรู้ เข้ากับสังคมที่นั่นไม่ได้ และการเรียนก็เข้มงวดมาก กูแม่งมันอ่อนแอ ควายและตัวคนเดียวไม่รู้จะปรึกษาใครก็เลยลาออกไป ทีนี้อยู่มาก็เริ่มซึมเศร้าแต่ยังไม่รู้ตัวพอไปเรียนที่ใหม่ก็เริ่มมีปัญหา ตอนนั้นมีปัญหาเรื่องเงินๆทองๆด้วย เลยต้องย้ายอีก
มันมีวิธีแก้ทำให้กูเลิกซังกะตายมั้ย กูทำอะไรก็ไม่มีความสุข
ไอความรู้สึกชีวิตไร้จุดหมายนี่หลอกหลอนกูตลอดเวลา
แล้วบางทีกูนอนไม่หลับ หรือหลับแล้วตื่นกลางดึกแล้วหลับไม่ได้อีก
โรคนอนไม่หลับนี่แก้ยังไง ต้องไปหาหมอไหม
พอไม่ได้นอน บางทีกูก็ไปเรียนไม่ไหว
บางทีก็ดีเพรสแดก แต่งตัวอะไรเรียบร้อยละ แต่นั่งซึมอยู่ในห้องอย่างนั้นล่ะ ทั้งวัน
เออ ที่กูได้ระบาย กูต้องขอขอบคุณที่นี่มาก
ขอบคุณทุกโพสท์ที่ตอบกลับกู ถึงมันจะแค่บนอินเตอร์เนตก็เหอะ
ความคิดชั่ววูบมันชอบมาบ่อยมาก บางทีก็มาหนักเหี้ยๆ...อย่างเช่นเมื่อวาน
จนกูกลัวตัวเองจะไปดีจริงๆ เพราะสติสตังค์กูน้อยสัส
>>603 กฎทางฟิสิกส์มันมาแอพพลายกับกูได้เหรอ กูยังเรียนอยู่ ถึงจะร่อแร่เต็มทีแล้วก็เถอะนะ กูพยายามเข้าหาเพื่อนใหม่ พยายามคุยกับคนนั่งข้างๆเนี่ย แต่ไม่สำเร็จว่ะ พยายามหาคนที่เข้ากันได้ แต่ส่วนใหญ่ทีมีคือมาขอให้กูทำงานให้แบบดูยังไงก็มีป้ายคำว่าผลประโยชน์ล้วนๆแปะบนหัวมัน ขอให้กูทำงานเสร็จก็ไม่มาคุยกับกูอีก กูก็โง่ทำให้นะจวย สงสัยเพราะกูหน้าสดแล้วก็ไม่แต่งตัวเลยคิดว่ากูเป็นเด็กเรียนมั้ง กูรู้ว่าคนดีๆมีอยู่ แต่แม่งทำไมกูไม่เจอซักทีวะ
กูไม่ใช่หมอนะไม่มีความรู้ด้านนี้ แต่คิดว่าตอนนี้มึงขาดความมั่นใจในตัวเองอย่างแรงและมองโลกในแง่ร้าย การที่คนเราจะลุกขึ้นยืนได้ต้องเข้มแข็งพอและมีคนดันหลังด้วยนั่นแหละคือแรงกระตุ้น แต่ตอนนี้มึงไม่มีใครแถมด้วยการที่มึงมองโลกในแง่ร้ายไปไหนก็เลยเจอแต่คนแย่ๆ เรื่องแย่ๆ เพราะมันมองผ่านฟิลเตอร์มืดมนของมึง
วิธีแก้ก็แค่ให้ปรับเปลี่นมุมมองและพยายามต่อ แต่ก็นะ พูดน่ะมันง่ายให้ทำจริงๆคือยากเหี้ย มึงต้องการคนดันหลัง คนที่คอยอยู่ข้างๆมึงจริงๆแล้วยังเชื่อมั่นในมึงอยู่ คนที่คอยดันมึงออกจากอาการเป็นผักเหมือนมือนำทางของมึงอ่ะ ความเห็นในโม่งเป็นกำลังใจที่ดีแต่ทุกคนก็ไม่ได้อยู่ในวงโคจรของชีวิตมึง ออกนอกโม่งไปก็ไม่รู้จักกันแล้ว ถ้ามึงเกิดเฟลแล้วไม่ได้มาบ่นในโม่งก็จะไม่มีคนรับรู้ปัญหานี้อยู่ดี
มึงต้องการใครซักคนในชีวิตจริงแต่ด้วยการมองโลกในแง่ลบทำให้มึงหาเพื่อนไม่ได้ ต้องมีใครซักคนที่นิสัยดีเข้ามาหามึงเองและยังคบกับกับมึงอยู่ถึงแม้ว่ามึงจะมองเค้าในแง่ลบก็ตาม เพราะสุดท้ายเวลาที่ผ่านไปจะทำให้มึงมองเค้าดีขึ้นและมึงจะมีกำลังใจ
พูดไปพูดมาสุดท้ายวิธีการรักษาก็เป็นปัจจัยที่มาจากภายนอกทั้งนั้น เพราะงั้นถ้าสุดท้ายมึงหาเพื่อนเป็นมนุษย์ไม่ได้ก็หาแมวหรือหมาไปเลี้ยงมั้ย อย่างน้อยมึงก็ไม่มีทางคิดหรอกว่ามันจะมาหาผลประโยชน์จากมึงและมึงมั่นใจได้เลยว่าสัตว์พวกนี้จะรักมึงแม้มึงจะไม่มีอะไรเลย ไม่ว่าจะเรียนไม่จบกี่ครั้งหรือผิดพลาดกี่หนมันก็จะรออยู่ที่บ้านและรักมึงเสมอ กูคิดว่าน่าจะช่วยอาการเป็นผักตอนมึงอยู่ห้องได้นะและคิดว่าโลกมึงจะสวยงามขึ้นเรื่อยๆถ้ารักมัน
หรือถ้าอยากเป็นเพื่อนกะคนจริงๆวันเสาร์หน้าถ้าว่างไปดรีมเวิลกันป่ะ ไปนั่งรถไฟเหาะกัน เล่นอะไรหวาดเสียวแล้วปล่อยออกมาให้หมดเลย กูว่าความสนุก ความตื่นเต้นน่าจะช่วยได้ มึงไม่ต้องกลัวมีกูอยู่ทั้งคน ถึงกูจะไม่ใช่คนสนุกสนานก็เถอะ
หรือถ้าแค่อยากคุยก็ตามนี้ ala_atlas@hotmail.com
>>609 อ่านเล่มนี้ดู http://readery.co/9786169241201
>>609 มึงคือร่างแยกกูชัดๆ กูเป็นเหมือนมึงเด๊ะๆ ไม่รู้จะว่าไงว่ะ
ถ้ามึงต้องการเพื่อนมาเป็นเพื่อนกับกูก็ได้นะ แต่จะพากันสิ้นหวังหรือเปล่าวะเนี่ย
กูก็กำลังพยายามอยู่ ตอนนี้กูขาดเรียนไปสามอาทิตย์ติดละ เหี้ยมาก อาทิตย์ต่อไปกูต้องไปเรียนละไม่งั้นเวลาเรียนจะไม่พอ กูจะหมดสิทธิ์สอบ
กูคงแนะนำอะไรดีๆให้มึงไม่ได้ เพราะกูก็กำลังเผชิญสภาพเดียวกัน
แต่อย่างน้อยถ้ามึงมาอ่านมึงจะได้อุ่นใจ (หรือเปล่าวะ..) ที่มึงไม่ได้สู้อยู่คนเดียวนะ
ผ่านมันไปด้วยกันนะมึง
กูกับเพื่อนโม่งอีกคนตั้งแชทบำบัด 101 ใน google hangout ละ
rakku222@gmail.com ใครอยากจอยทักมา
มาคุยไปฆ่าตัวตายหมู่-เอ้ย ปรับทุกข์กัน
>>611 กูคิดเรื่องเลี้ยงสัตว์มากเลยมึง อยากเลี้ยงมากจริงๆ แต่ห้องเช่ากูห้ามเลี้ยงสัตว์ จวย ถ้าจะเลี้ยงจริงๆต้องย้ายที่อยู่ แล้วก็มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม แต่นั่นไม่สำคัญเท่าความคิดที่ว่า..ถ้ากูจะเลี้ยงหมาแมวซํกตัว กูอยากดูแลเค้าให้ดีที่สุด แล้วก็คิดขึ้นมาว่า ชีวิตกูเองยังดูแลไม่ได้ มึงจะไปดูแลชีวิตอื่นเพิ่มอีกไหวเหรอวะ กูต้องรับผิดชอบชีวิตทั้งชีวิตของมันเลยนะเว้ย
>>612 น่าสนใจดี กูจดลิสต์ไว้ละมึง ขอบใจมากเพื่อนโม่ง
>>613 กูคงพูดไม่ได้ว่ารู้สึกอุ่นใจ แต่คือแม่งเพื่อนร่วมชะตากรรม
>>614 กูจะจอยยังไงวะ สอนหน่อยๆ
มึงจะนัดกันไปจบชีวิตหรอวะ พากูไปด้วยดิ
สนใจนัดเย็ดมั้ยครับ สวิงกิ้งคนสิ้นหวัง
ไม่ได้แว๊บมาบอร์ดเดือนเดียว เจอคนสิ้นหวังเพิ่มขึ้นเยอะเลย (ไม่ปลอบละกันนะ เพราะถือว่าโม่งด้านบนทำงานแทนหมดแล้ว)
จ้างกูเป็นเพื่อนได้นะ กูก็สิ้นหวังเหมือนกันแต่คงไม่มากเท่าพวกมึงและไม่ค่อยมีเงินด้วย
กูเองก็มีอารมณ์สิ้นหวังนะ แต่พอได้ไปนั่งดูพวกเรื่องที่เหี้ยกว่าแล้วกูมีกำลังใจแทน
แถวนี้ต้องมีมีพวกแกล้งสิ้นหวังเพื่อหวังเย็ดแน่เลยว่ะ
จากโม่งบนๆ "ใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียว ไม่ต้องถามเลยนะว่าไอ้ขี้แพ้อย่างกูจะมีเพื่อนไหม ทุกๆวัน กูพูดแค่กับคนสองคนคือพนักงานเซเว่น กับเวลาสั่งข้าว" << ไอสัสเอ้ย อ่านแล้วนึกถึงตัวเองฉิบหายเลย คือกูเลือกไม่คบเพื่อนเองแหละ ประมาณว่าอยู่คนเดียวสบายใจกว่า แต่บางทีมันก็อยากมีคนไว้เสวนาบ้าง แล้วเป็นไง กูคุยแค่ตอนสั่งข้าวกับพนักงานเซเว่นยังไงล่ะ ;____;
อ่าน ๆ แล้วเพลงนี้ขึ้นมาเลย : https://www.youtube.com/watch?v=G4VN0in4weA
Moderator Stefan 1 ปีที่ผ่านมา
If you have the courage to die, have the courage to live.
จริง ๆ ก็มีเรื่องอยากเล่า แต่ดู ๆ แล้ว ไว้ค่อยเล่าดีกว่า ของคนอื่นแม่งเศร้ากว่าอีก สาส
นี่ขนาดยังไม่เล่ากุก็เศร้ากะชีวิตมึงละเนี่ย
มาเปิดสไกป์แล้วกินข้าวพร้อมกันเถอะ
จริงดิ กูชอบทำตัวสนิทสนมกับเจ้าของร้านนะ บางทีได้แดกฟรี บางทีได้ลด ประหยัดตัง
ป่ะ สไกป์แล้วแดกด้วยกัน
กูจะสไกป์กินช้างพร้อมมึงได้ก็เสาร์อาทิตอ่ะนะ วันธรรมดากุทำงานเลิกดึก คงมากินด้วยกันไม่ทัน
เอาจริงป่ะ เรื่องสไกป์ แต่กล้องกูมีปัญหา ขอเป็นแชทแทนได้มั้ย 5555
ตื่นกันยังเนะ วันนี้ไม่กินละมาม่า กินข้าวแทน
แถวนี้มีใครเป็นแบบกูบ้างมั้ย เกิดมาเหมือนเป็นแบคกรานด์ชาวบ้านตลอด เหมือนโดนมองข้าม ไม่มะอะไรโดดเด่น พยายามแค่ไหนก็จืดจางเหมือนเดิม
>>643 กูก็เป็น
เออ มีเรื่องอยากปรึกษา ตอนแรกกูก็อารมณ์ดีๆอยู่ แต่พอไปเจอญาติกูเล่าว่าเพื่อนมันดันเป็นรุ่นน้องกูพอดี แถมเขียนฟิคไรงี้ พอมีกระแสตอบรับดีๆอยู่เหมือนกัน กูเลยเเบบมานึกๆดูแม่ง ทั้งเพื่อนร่วมรุ่น รุ่นน้อง รุ่นหลาน บลาๆ ดูจะมีชีวิตที่ประสบความสำเร็จกว่าทั้งนั้นเลย ทำเอารู้สึกเฟลขึ้นมาทันที ก็พยายามคิดนะว่าเราเองก็พยายามสิ แต่เหมือนมันก็ไม่ไหว เราไม่มีความสามรถพอ ทำไม่ได้เท่าเขาจริงๆอะ เฮ้อ ตอนนี้เลยจิตตกซะแล้วว่ะ
ความพยายามส่งคนให้สำเร็จได้ แต่ใช้เวลาไม่เท่ากันสำหรับแต่ละคนว่ะ แค่มึงจะเลิกก่อนถึงรึเปล่านั่นแหละ
>>648 กูก็พยายามปลอบใจตัวเองนะว่าอย่าเครียดอย่าเศร้า เอาเวลาไปหาความสุขให้ตัวเองดีกว่า แต่ก็อดอิจฉาไม่ได้ว่ะ แบบเค้าอายุเท่าหรือน้อยกว่าเราก็ทำอะไรตั้งเยอะแยะ ก็พยายามคิดอยู่นะว่ากูล่ะมัวทำไรอยู่ รีบๆฮึดสู้ได้เเล้ว!! ถึงจะช้าไปแต่แก้ไขอะไรไม่ได้เเล้วนี่เนอะ ใช้เวลาที่เหลืออยู่ให้คุ้มค่าดีกว่า 555
ว่าแต่มึงจะปลอบใจตัวเองยังไงวะถ้าไปเท่าไหร่ก็ไม่ถึงซะที แถมดูมีทางอื่นที่ไม่ว่าจะชอบมั้ยแต่ดูจะเวิร์คกว่าอะ
กูเองไม่อยากเข้าโซเชียลพวกเฟสไรงี้อะไรบ่อยๆ เดี๋ยวไปเจอพวกอวดชีวิตก็อดอิจฉาไม่ได้ทุกที แต่บางทีมันจำเป็น ก็พยายามหลีกเลี่ยงไป
>>647 เป็นเหมือนกูเลย คนรอบตัวกู รุ่นน้อง รุ่นเพื่อน รุ่นพี่ ทุกคนล้วนแต่ประสบความสำเร็จในสิ่งที่พวกนั้นทำกัน ทั้งเรื่องงานเรื่องเรียน คือเห็นแล้วมันก็เฟลตัวเองว่ะ ว่าทำไมถึงไปจุดจุดนั้นไม่ได้วะ เพราะต้นทุนของคนเราไม่เท่ากันหรอ ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนทางครอบครัว เงิน สมอง พอมานั่งคิดดูแล้ว ไอพวกนี้แม่งก็ดันต้นทุนเท่ากันกับกูอีก แต่ความพยายามมัน แรงผลักดันแม่งสูงมาก จนมันทำได้ แล้วตัดภาพมาที่ตัวเอง โอ้โห โคตรลูสเซอร์ ดีใจกับพวกนั้นที่ประสบความสำเร็จนะ แต่ก็กลับมาคิดว่าทำไมตัวเราไม่มีความพยายามเอาซะเลย ขี้แพ้จัง
กูเหงามาก รู้สึกแปลกแยกจากคนรอบข้างมาตั้งแต่เด็ก กูเกิดมาในครอบครัวพ่อแม่เป็นอาจารย์ พี่เป็นหมอฟัน น้องกำลังเรียนนิติม.ดัง แต่กูเรียนห่วยแตกเกือบไม่จบต้องให้พ่อเอาเงินยัด พี่กับน้องเหินห่างไม่สนิท จบมาดูไม่มีอนาคต ทำงานไปวันๆในบริษัทเพื่อนแม่ ไม่มีความฝัน ไม่มีเป้าหมาย เคยมีแฟนแต่เขาเลิกไปแต่งงานกับคนอื่นที่ดีกว่า เพื่อนมีน้อยมาก สมัยม.ต้นเคยโดนหลอกให้เลี้ยงนั่นนี่ เพราะบ้านกูรวย แต่ก็ไม่มีใครรับเป็นเพื่อนสนิทจริงๆซักคน ม.ปลายเลยกลัวการเข้าสังคม ไม่มีเพื่อน เป็นเศษเกินตอนทำงานกลุ่ม อาจารย์ต้องจับยัดกลุ่มคนอื่นเขาตลอด ตอนสอบมหาลัยแค่คิดว่าไปที่ไหนก็ได้ ที่ไม่มีคนจากโรงเรียนเก่าก็พอ พยายามหางานอดิเรกทำแต่ก็จะโดนพ่อแม่ด่าว่าทำอะไรไร้สาระอยู่นั่น หัดเอาอย่างพี่กับน้องซะบ้าง เคยร้องไห้ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง วันเกิดบางทีก็โดนลืม แต่วันเกิดพี่กับน้องจัดงาน เชิญเพื่อนมาบ้าน กูก็ไปหลบอยู่บนบ้าน อ่านหนังสือ เล่นเน็ตไปเรื่อย แถมเขาก็ไม่ได้สนใจจะเรียกลงไปร่วมงานด้วย เคยลงไปร่วมงานครั้งหนึ่งรู้สึกเหมือนเป็นส่วนเกินในบ้าน สุดท้ายก็ต้องมานั่งหลบมุมเหมือนเดิม บางทีกูก็คิดนะว่ากูเป็นลูกแท้ๆรึเปล่า เขาเก็บกูมาจากถังขยะรึเปล่า เหงามากไม่รู้จะพูดกับใคร ได้แต่พูดกับตุ๊กตาหมีที่เคยได้เป็นของขวัญครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิต เหนื่อยมากที่จะต้องมีชีวิตอยู่ แต่จะฆ่าตัวตายก็ใจไม่กล้าพอ อีกอย่างกูกลัวมากถ้ากูตายไปจะไม่มีใครร้องไห้ให้ซักคน แม่ง หดหู่ชิบหายถ้าเป็นงั้น
กูรู้สึกเบื่อๆว่ะ บางวันแม่งแอคทีฟชิบหาย อยากทำโน่นี่ ไอเดียบรรเจิดตลอด แต่พอวันต่อมา พลังงานหายเกลี้ยง ไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น ได้เเต่อิจฉาชีวิตคนอื่นไปวันๆ กูไม่ชอบเลยว่ะแบบนี้
กูเคยสิ้นหวังกับชีวิตมากเหมือนกัน ไร้ค่าท้อแท้ ทำอะไรก็ล้มเหลว เคยคิดอยากจะหายไปเลยเหมือนกัน แต่สุดท้ายกูมาค้นพบการร้องเพลงว่ะ
แม่งคือการสื่อสารที่มีคนตั้งใจฟังกูเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีเลยมั้ง เหมือนได้ชีวิตใหม่เลย
หลังจากนั้นกูก็พยายามถ่ายทอดตัวตนของกูผ่านเสียงเพลง ไม่ว่าจะเรื่องดีเรื่องร้าย เพลงที่กูเขียนคือหลัดฐานการมีชีวิตอยู่ของกู
ตอนนี้กุเริ่มมีงานร้องเพลงพอควรละ ถึงจะยังกระจอกอยู่ก็เหอะ ขอให้พวกมึงเจออะไรที่ใช่สำหรับมึงนะ ชีวิตมึงจะเปลี่ยนจริงๆ
มันไม่มีอะไรสายเกินไปหรอกเว่ยถ้ามึงไม่หยุดค้นหา
กูเคยประกวดเดอะว้อยมารอบนึงอะ ใบ้แค่นี้ กูไม่อยากโม่งแตก 5555
ก็กูเข้ารอบไง 555
ไหนใครประกวดเดอะว้อย ร้องเพลงเป็นกำลังใจให้ที ท้อ (แสดงว่ากูก็ต้องเคยเห็นมึงสินะ ว่าแต่คลิปไหนวะ)
กูเกลียดชีวิตตัวเองว่ะ
เกิดมากูไม่เคยชอบอะไรในชีวิตกูเลยซักอย่าง กูไม่เคยสมหวัง ไม่เคยเหี้ยอะไรทั้งนั้น
ชีวิตกูไม่ได้แย่เท่าพวกที่กูอ่านๆมาข้างบน พ่อแม่กูก็มี ถึงจะอยู่กันไม่มีความสุขแต่เค้าก็ส่งกูเรียนได้
แต่กูไม่เคยรู้สึกได้รับความรักจากใครเลย ไม่มีกำลังใจ กูตายไปก็ไม่มีคนร้องไห้ อาจจะแค่พ่อแม่กูมั้ง ก็เสียเงินกับกูไปตั้งขนาดนั้น
กูไม่รู้จะมีชีวิตไปเพื่อเหี้ยอะไร กูทำงานเก็บเงินเพื่อจะได้ไปซื้อข้าวมากินแล้ววนลูปไปเรื่อยๆเหรอวะ?
เป้าหมายชีวิตกูมี แต่มันเหี้ยมาก แทบไม่มีโอกาสเป็นจริงได้ หรืออาจจะไม่มีเลย กูไม่รู้จะพยายามไปเพื่ออะไร
เพื่อนกูก็มีเหมือนคนปกติทั่วไป แต่แม่งอึดอัดชิบหาย กูได้แต่ตีหน้าเป็นคนอารมร์ดีต่อหน้าคนอื่นๆ ทั้งที่กูจะระเบิดอยู่แล้ว
กูเกือบจะฆ่าตัวตายมาหลายรอบแล้ว เอาโดดตึกนี่แหละ น่าจะสบายสุด แต่กูอยากให้มีคนร้องไห้ตอนกูตายซักคนก็ยังดี
ร้องไห้เพราะรักกู เสียใจเพราะไม่ได้เจอกูอีกแล้ว ตอนนี้แม่งไม่มีหรอก กูเกิดมาไม่มีเหี้ยอะไรดีเลยซักอย่าง ใครมันจะมาคิดถึงกู
สำหรับคนอื่นกูเป็นได้อย่างมากก็แค่เพื่อนคุย
เห็นคนอื่นมีชีวิตดีๆแล้วกูอยากพังให้หมด เออกูอิจฉา กูก็แค่อยากมีชีวิตดีๆกับเค้ามั่ง กูอยากจบทุกอย่างแล้ว
อยู่ต่อไปมีแต่จะแย่ลงเรื่อยๆ กูท่องมาตลอดว่าชีวิตกูต้องดีขึ้น ทนอีกหน่อย แม่งไม่ดีโว้ยไอ้เหี้ย กูเหี้ยลงเรื่อยๆทุกวันๆ
ควย ควยยยยยยยยยยยยยยยยยย
>>672 กูเป็นเหมือนมึงเลย มีคนเยอะแยะบนโลกนี้แต่กูกลับรู้สึกว่ากูอยู่คนเดียว จะมีใครเสียใจบ้างมั้ยถ้ากูตาย โอ่ยยยยยยยยยยย เคยอยากฆ่าตัวตายเหมือนกันแต่กูกลัวบาป แม่งเอ๋ยยยย กูอยากหายไปจากโลกจริงๆ ไม่มีกำลังใจอะรัยเลย พยายามคิดทุกอย่างในแง่ดี แต่ผลแม่งก็เหี้ยเหมือนเดิมไม่มีอะรัยดีขึ้น กูเหนื่อย กูท้อ ไม่มีใครเข้าใจกู เฮ่ออออออออออออ
เคยมีคนบอกกูมาว่ายิ่งเรายึดติดมากเท่าไหร่ เรายิ่งรักคนอื่นยากเท่านั้น
และเมื่อขาดความสุขจากการให้ คนเราก็จะเริ่มมองไม่เห็นคุณค่าของชีวิต เพราะทุกสิ่งมันช่างน่าเบื่อเมื่อโลกประเคนสิ่งดีๆให้เราพอใจไม่ได้
และเมื่อไม่เห็นว่าอะไรดี
สุดท้ายคนบางคนก็จะหาทางหนีความทุกข์แสนน่าละอายนี้
อาจด้วยลูกปืน เชือก ยา หรือดาดฟ้าตึก
แต่สุดท้ายแล้วนั่นก็ไม่ได้ช่วยอะไร
เพราะความตายต่างหากที่เป็นความน่าเบื่อที่แท้จริง ง่ายดาย ไม่น่าสนใจ ใครๆก็ตายได้ จะตายวิธีไหนก็ได้ผลลัพท์ไม่ต่างกัน มีแต่คนที่มีความสามารถจะอยู่แต่โง่จริงๆเท่านั้นที่เชื่อว่าความตายนั้นเป็นทางเลือกน่าสนใจ เพราะความตายเปรียบเสมือนการที่เอาไฟไปลนไอติมแมกนั่มซองละ40ให้ละลายหมดก่อนจะเข้าปากฟรีๆ ใครคิดว่าคนทำแบบนี้ไม่โง่ก็โง่ยิ่งกว่ามันอีก
เลิกยึดติด เลิกคิดว่ากูเป็นคนแบบนี้ เลิกคิดว่ากูชอบไม่ชอบอะไร เลิกไม่ทำอะไรสักอย่างแล้วรอให้โลกมาช่วยฉุดตัวเองขึ้นไป เลิกทำตัวเป็นเจ้าหญิงผู้เลอโฉมทั้งๆที่มึงไม่ใช่ เลิกปล่อยให้ตัวเองเบื่อได้แล้วเพื่อนโม่ง เลิกยึดติดอยู่กับตัวตนไร้ค่าที่มึงเป็นซะตั้งแต่วันนี้ซะ แล้วมึงจะรู้ว่าโลกนี้แม่งน่าสนใจแค่ไหน
กูจะรอเป็นเพื่อนกับมึงที่ไหนสักแห่งบนโลกนี้แหละ ถ้ามึงไม่ฆ่าตัวตายไปซะก่อนนะ5555
กูว่่าความตายทำให้ชีวิตมันงดงามฟะ
แต่การฆ่าตัวตาย มันน่าเกลียดสิ้นดี ชีวิตมันต้องใช้ให้หมดนี่แหละถึงสนุก
ถ้าทุกวันนี้ มึงยังกินอิ่ม นอนหลับนั่นแหละคุณค่าของชีวิตแล้ว
กูเป็นหนึ่งในคนที่ยึดติดมากๆ อาจจะจริงอย่างที่มึงพูด กูไม่เคยเปิดใจให้ใครเลย คนอื่นเค้าเปิดกับกูแต่กูไม่
กูเลิกยึดติดกับมันไม่ได้ มันเป็นเรื่องเดียวที่ทำให้กูยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อ ขาดมันไปกูตายยังจะดีกว่า
กูเกลียดทุกอย่างที่กูเจอ กูไม่ชอบระบบทั้งหมดที่กูอาศัยอยู่ กูกินนอนกินนอนไปวันๆแบบนี้กูไม่เห็นมันจะเป็นคุณค่าชีวิตกูตรงไหน
ได้ทำสิ่งที่ตัวเองอยากทำต่างหากที่เป็นคุณค่าของชีวิต กูเกิดมา อยู่กับความทุกข์มาตั้งแต่เด็ก ลองชั่งน้ำหนักแล้วกูเจอเรื่องแย่มามากกว่าเรื่องดีเยอะ
แล้วมึงจะบอกให้กูเชื่ออยู่อีกเหรอว่าใช้ชีวิตมันสนุก กูไม่เคยสนุกกับมันเลย น่าเบื่อชิบหาย
ชีวิตกูไม่ใช่แมกนั่มซองละ 40 เหมือนมึงหรอก กูแดกขี้เสียบไม้อยู่โว้ย จะเอาไฟลนให้มันจบๆไปยังทรมานเลย
ก็เหมือนเทียนอ่ะมึง เทียนที่มอดจนหมดกับโดนน้ำสาดจนดำอันไหนมันสวยกว่ากันล่ะ
>>678 ไอติมน่ะมันคือชีวิตต่างหาก คิดว่ามึงเกิดมาน่ะถูกๆเหมือนขี้รึไง ค่าทำคลอด ค่าอาหารที่คนเลี้ยงมึง ฯลฯ น่ะไม่ใช่การลงทุนถูกๆ กูก็ไม่อยากอุปมามากมาย แต่ตามปกติถึงมึงอยู่เฉยๆยังไงไอติมมันก็ละลาย ยังไงคนเราก็ค่อยๆตายกันไปทีละหยดอยู่แล้ว ชีวิตที่สนุกก็คือการที่มึงลิ้มรสหยดละลายที่ค่อยๆผ่านไปด้วยจิตที่เป็นตัวมึง ถ้ามึงว่ารสชาติหยดไหนแย่ก็แค่ถุยทิ้งแล้วไปหางทำอะไรสักอย่างดู คนไม่ทำอะไรก็เหมือนคนที่โดนเยี่ยวรดปากแต่ก็ยังเสือกอมไว้ มึงน่ะชอบอมเยี่ยวรึไง ชอบมีความทุกข์หรอ โลกนี้มันเยี่ยวรดหัวพวกเราทุกคนไม่มากก็น้อยก็จริง แต่มึงจะไม่หาทางหลบวิถีเยี่ยวหรือหาร่มมากางหน่อยเรอะ จริงๆแล้วมึงมีเฟติชชอบโดนทารุณกรรมก็บอกมา กูเป็นเอส ไว้อยากโดนเยี่ยวรดหนักกว่านี้บอกกูได้ แต่กูจะไม่สนองมึงหรอก (เพราะกูเอสมาก) แล้วก็ไอ้เรื่องสิ่งที่มึงอยากทำก็ทำไปดิใครห้ามมึง ถ้ามันห้ามแล้วมึงทำไงต่อ ยอม? คำที่บอกว่าตัวเองทำอะไรไม่ได้แม่งก็แค่เสียงสำลักน้ำเยี่ยวอะ เลิกเหอะ แดกฉี่ไม่ได้ดีจริงๆเหมือนที่หนูด*เค้าว่าหรอก โชคดีนะ
>>682 ความดีความชั่วมันห้ามกูอยู่ เรื่องที่กูอยากทำมันไม่ใช่เรื่องดี เป็นเรื่องที่พวกมึงทุกคนจะมองว่ากูเป็นพวกเหี้ยไปเลยถ้ากูทำจริงๆ
ความต้องการกูล้วนๆ
แล้วมึงคิดว่ากูอยากอมทุกข์มากรึไง กูพยายามใช้ชีวิตให้มีความสุขอยู่ กูฝืนตัวเองตลอด เรื่องเหี้ยๆมีแต่เรื่องที่กูเลี่ยงไม่ได้ทั้งนั้น
คนอื่นบางคนก็อาจจะเจอเหมือนกูแหละ แต่กูรับไม่ได้ไง พวกมันก็รับไม่ได้ คนอื่นก็ไม่รู้ว่าแม่งเหี้ยแค่ไหน
ถ้ามันเปลี่ยนได้ง่ายๆแบบที่มึงบอกกูคงไม่มาบ่นในนี้หรอก บางเรื่องแม่งก็ไม่ได้ง่าย
>>683 เหี้ยไม่เหี้ยมึงก็ต้องตัดสินเอง ชั่งเอาว่าทำกับไม่ทำอันไหนได้ประโยชน์กว่า จริยธรรมแม่งสำหรับเด็กวัยที่ยังชั่งผลตอบแทนไม่เป็น same goes กับไอ้เรื่องการใช้ชีวิตให้มีฟามสุข มึงฝืนยิ้มแล้วมึงแฮปปี้ขึ้นคุ้มที่เมื่อยกล้ามเนื้อหน้ามั้ย ถ้าไม่ก็อย่า แค่เนี้ย ชีวิตมันยากตรงไหนวะ กูก็เจออะไรเหี้ยๆมาเยอะจนในที่สุดกูปลงแล้วสัส ต่อให้โดนจับไปทรมาณอีกสักครั้งกูก็ไม่แคร์ ว่างๆลองอ่านเรื่องการปลอบประโลมของปรัชญาดู ลัทธิstoicยินดีต้อนรับมึงเสมอ
ขอพื้นที่ให้กูระบายหน่อยนะ กูอึดอัดมาก
กูกับเพื่อนมันพวกชนกลุ่มน้อย ไม่ค่อยมีใครสนใจ และความที่กูเป็นคนแบบนี้หลายครั้งมันก็เล่นงานกูจนได้ เช่น มีงานอะไร วิชาไหนงดคลาส ย้ายห้องไปเรียนไหนไม่ค่อยบอกกูหรอก บางทีกูรู้สึกน้อยใจว่ะ ทำไมอะ เพราะกูไม่โดดเด่นใช่มั้ย แต่ให้ตายกูก็ไม่เป็นเพื่อนกับพวกแม่งหรอก และยิ่งมาเจอข่าว SG กูยิ่งสิ้นหวังกับประเทศนี้มาก ตอกย้ำความรู้สึกแย่ๆ อีก เบื่อ กูอยากจบเร็วๆ หนีไปไกลๆ เลยสัส จบการบ่น
โลกมันโหดร้ายและกูก็อ่อนแอมาก โลกไม่มีที่สำหรับให้โอกาสคนแก้ตัว ถึงแม้จะทำดีแค่ไหน แต่ถ้าหยิบยกเรื่องความผิดครั้งก่อน กูก็แย่อยู่ดี จะเป็นด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรืออย่างไร แต่ความผิด มันก็คือความผิดใช่มั๊ยว่ะ ทั้งที่กูพยายามลืม แต่มันก็ไม่ได้หายไป จะผ่านไปกี่ปี คนเลวก็ยังต้องเป็นคนเลวถึงแม้มันจะกลับตัวแล้ว ใช่มั๊ยว่ะ โลกแม่งโหดร้ายกับกูขนาดนี้ และกูก็อ่อนแอขนาดนี้ กูอยากหนีปัญหา อยากตายให้รู้แล้วรู้รอด แต่ตอนนี้กูสงสารครอบครัว สงสารคนที่รักกู
ถ้ากูเลือกจะตายเพราะอยากหนีปัญหาที่แก้ไม่ได้ ไม่อยากอยู่ไปพร้อมกับความทุกข์ตลอดชีวิต แบบนี้กูคือคนเห็นแก่ตัวหรือป่าว
แต่ถ้ากูเลือกอยู่เพื่อความสุขของครอบครัว แบบนี้แสดงว่าครอบครัวกูเห็นแก่ตัวหรือเปล่า
>>687 สำหรับการใช้ชีวิตนะมึง สิ่งที่เราเป็นน่ะไม่สำคัญเท่ากับสิ่งที่เราทำ เพราะความเป็นจริงคือผู้คนนั้นไม่อาจรับรู้ได้ถึงสิ่งที่อยู่ลึกลงไปในตัวคนอื่นได้เลย เรารู้ได้เพียงสิ่งที่มันเป็นเพียงเปลือกนอกเท่านั้นเอง มันเป็นขีดจำกัดของศักยภาพมนุษย์ในการเข้าใจคนอื่นน่ะมึง ฉะนั้นมันไม่แปลกหรอกถ้ามึงจะอ่อนแอ&เห็นแก่ตัว ใครๆก็มีความอ่อนแอและเห็นแก่ตัวกันทั้งนั้น ถ้าถามว่าทำไมคนอื่นถึงยังมีความสุขกับการเล่นเกมชีวิต ทั้งๆที่แม่งก็อยู่ในโลกที่โหดร้ายใบเดียวกับมึง คำตอบมันมีหลายอย่างนะ อาจเป็นดวงที่มันเกิดมาฉลาดสร้างทัศนคติดีๆเองเป็นหรือมีใครสอน แต่สำคัญที่สุดมันไม่ได้อยู่ที่ของข้างในพวกนั้นเว่ย มันอยู่ที่การกระทำของคนพวกนั้นต่างหาก
ไม่มีใครแคร์หรอกว่ามึงจะมีน้ำใจแค่ไหนยังไง ตราบใดที่มึงไม่ลงมือทำดีให้คนอื่นรับรู้ กลับกัน ถ้าคนบางคนที่นิสัยเห็นแก่ตัวสัสหมาเสือกไปทำให้คนอื่นรู้สึกดีได้ก็มีสิทธิ์เป็นคนดีแม้เจตนาแม่งจะเหี้ยบัดซบ เช่นกันกับความแข็งแกร่งหรืออ่อนแอในตัวมึง ของที่อยู่ข้างในน่ะไม่ได้มีความหมายอะไรเลย ถ้าจะมัวหาทางให้ภายในแกร่งขึ้นมาน่ะสู้หาทาง"ทำ"ให้คนอื่นยอมรับ หรือเห็นว่ามึงแข็งแกร่งก่อนดีกว่า แล้วพอชีวิตมึงรอดพ้นจากสภาวะเหี้ยๆเจียนตายอะไรแล้วค่อยไปพัฒนาตนเอง เพราะถ้ามึงคิดจะพัฒนาเลยตอนนี้กูว่ายาก เพื่อนกูสมัยที่รร.ที่โดนแกล้งหรือโดนเกลียดแต่ละคนแม่งไม่เคยมีเวลาแม้จะให้นั่งทบทวนตัวเองหรือฝึกฝนอะไรเลยก็เพราะคนอื่นไม่ปล่อยมันไปซะทีเนี่ยแหละ บางครั้งพลังมันมาทางตรงไม่ได้มึงก็ต้องฉลาดหาทางหลีกเลี่ยงไปหาทางอื่นเอา
กูเป็นคนนึงที่จิตใจอ่อนแอมากมาตั้งแต่เด็กๆ ขี้ขลาด ขี้เกียจ ขี้เบื่อ ไม่ชอบทำอะไรสักอย่าง ไม่รักใครสักคน รู้สึกอยากตายครั้งแรกตอนอยู่ป.4 ไม่ได้อยากตายเพราะทนไม่ไหวชีวิตมันเศร้าอะไรพรรค์นั้นด้วย กูแค่อยากจะหลับ เพราะกูรู้สึกว่าชีวิตมันตอบรับความต้องการกูได้ไม่ดีพอ แถมถ้าอยากได้ก็ต้องทำอีก เรียกร้องชิบหาย กูเลยอยากไปหาสิ่งดีๆเอาจากในฝันอันเป็นนิรันดร์หลังความตายเอา แต่ยิ่งโตยิ่งเรียนวิทยาศาสตร์กูก็ยิ่งรู้สึกว่าคนเราตายแล้วมันไม่เหมือนคนหลับว่ะ คนเราหลับแต่สมองมันยังทำงาน=แม่งฝันได้ แต่คนตายมันแค่เอาสมองไปให้หนอนแดก แบบนี้ถ้ากูฝันก็อาจต้องฝันในตัวหนอนหรอวะ มันน่ายี้ผิดรสนิยมกูไปนิดนึง กูเลยเซง กูเลยหาทางออกใหม่ กูมองว่าคนเราแม่งมีจิตใจที่พัฒนามาอย่างซับซ้อนหลายพันปี แต่ระบบที่ใช้สื่อสิ่งที่มันคิดกับโลกภายนอกแม่งห่วยแตกมาก สมมติมึงอยากวาดรูปสวยๆที่จิ้นได้แต่มึงไม่ลงทุนฝึกวาดเป็นปีๆ ยังไงมึงก็ถ่ายทอดมันออกไปไม่ได้ ถ้ามึงรักใคร มึงก็ไม่สามารถทำให้ใครเข้าใจความรู้สึกอันล้นพ้นของมึงได้เหมือนที่มึงรู้สึกจริงๆไม่ว่าจะพยายามจนตายแค่ไหน ฉะนั้น การเชื่อว่าเราเป็นคนแบบไหน เรารู้สึกยังไง หรือเราต้องการอะไร หรือที่เค้าเรียกง่ายๆว่าความยึดติด แม่งจึงเป็นสิ่งบูลชิททั้งหมด สิ่งเดียวที่มีความหมายคือความเป็นจริง คือลูกกระสุนที่พุ่งออกจากปลายกระบอกปืน ไม่ใช่จิตสังหารหรือเจตนาฆ่า คือการกระทำที่คนเลือก ไม่ใช่ตัวเลือกที่คนเลือก คือการทำให้สำเร็จให้ทุกคนรับรู้ ไม่ใช่ทำสำเร็จให้ตัวเองยอมรับ แน่นอนว่าแม่งอาจฟังดูฝืนๆสำหรับมึง "คนเรามันควรจะงามจากภายในไม่ใช่หรอวะ" ใช่ กูก็ชอบแบบนั้น ยิ่งถ้าความงามภายในมันไปผลักดันให้การกระทำทุกอย่างมันงามโดยธรรมชาติยิ่งดีแล้วใหญ่ แต่สำหรับคนที่ภายในทุเรศบัดซบหรือภายในดีแต่ทำดีไม่เป็น กูว่าสิ่งสำคัญคือการกระทำออกมาให้สำเร็จว่ะ เหมือนมึงเป็นนักเวทย์ มึงมีintมีมานาเป็นล้าน แต่เสือกไม่มีskillจะใช้สักดอก... มันจะมีความหมายอะไรวะ
(ต่อ) ฉะนั้น มึงเอาแค่นี้แหละ 1. เลิกยึดติด 2. เริ่มทำสิ่งที่มึงควรทำ 3. ทำให้สำเร็จ 4. เสพความสำเร็จนั่นแล้วติดมันเหมือนยาเสพติดซะ 5. rinse&repeat
เท่านี้มึงก็จะเป็นเหมือนคนที่ใช้ได้คนนึงบนโลกใบนี้แล้ว ย้ำว่าเหมือนนะ ลึกๆ มึงก็อาจจะยังเบื่อโลกอยากตายเหมือนเดิมเหมือนกูนั่นแหละ เพียงแค่ไม่มีใครไล่มึงไปตายอีกแล้วณ จุดนั้น และจากจุดนั้นไปมึงอาจติดยาจนตายไม่ลงก็ได้ใครจะไปรู้ ที่แน่ๆคือมันมีอะไรน่าสนใจที่มึงยังไม่ได้ลองอีกเยอะแน่นอน ใครที่บอกว่าเบื่อโลก จริงๆแม่งก็แค่คนที่เบื่อตัวเองที่กำลังขาดยา เสี้ยนจะเสพโลกแต่เสพไม่ได้แค่นั้นเอง มึงก็ลองคิดเพื่อตัวเองดูนะว่าจะทำอะไรได้บ้าง บางทีมึงอาจไม่ต้องแก้ตัว มึงแค่ไปเริ่มใหม่ที่ไหนก็ได้ หรือถ้ามึงจะแก้ยังไงมันก็แก้ได้ว่ะ ไม่มีเหี้ยอะไรที่เป็นไปไม่ได้หรอก เพราะมึงแค่ยังทำไม่สำเร็จ(บางคนจนแก่ตายก็ทำไม่สำเร็จ5555) มึงลองคิดดูดิว่ามึงตั้งใจแก้ตัวจริงๆแล้วหรอวะ ทำเต็มที่แล้วจริงๆหรอ ไม่ใช่ว่าเป็นสายขี้เกียจคิดแล้วสักแต่ยัดความพยายามทำเรื่องเดิมๆแล้วหวังว่าคนจะเข้าใจนะ ลองศึกษาคนดู เพื่อนมึงต้องการอะไร มึงให้ได้มั้ย มันอยากได้จากมึงมั้ย มึงจะให้มันแค่ไหน มึงจะได้อะไรตอบ มึงพอใจมั้ย มันเลิกทำไม่ดีกับมึงมั้ย มึงว่ามันก็เป็นคนเหมือนมึงรึเปล่า จริงๆเราก็อ่อนแอเหมือนกันมั้ย มึงจะลองรักมันได้รึเปล่า ชีวิตเป็นสิ่งที่ทั้งโสโครกและสวยงามในเวลาเดียวกันได้ มึงแค่ต้องลืมตากว้างๆ ทำใจให้เย็น แต่ใช้ร่างกายให้เหงื่อท่วม(อุปมา)ไป แล้วมึงจะเข้าใจว่าแม่งสุดยอดแค่ไหนที่ได้เกิดมาเจ็บ ยิ้ม ร้องไห้ และเรียนรู้
Ps. เชี่ยพิมพ์รอบแรกตัวอักษรเกิน4kแล้วโพสไม่ได้ว่ะ5555 ยังไงก็สู้ๆนะเพื่อนโม่ง ༼ つ ◕_◕ ༽つ take my energy ༼ つ ◕_◕ ༽つ
>>687 คำปรึกษากูอาจจะไม่ดีเท่าไหร่ แต่กูอยากเล่าให้มึงฟัง
กูเคยฆ่าตัวตายมาแล้วครั้งนึง แต่ว่าไม่ตาย หมอถึงกับให้พยาบาลมาเฝ้าพิเศษเพราะวิธีของกูไม่ใช่การโดดตึกรึแขวนคออะไรที่ใช้เวลา
กูเคยเอามีดแทงอกซ้ายตัวเอง ตอนนั้นก็กะจะตายแล้วล่ะพอหลับตาหมดสติไป อยู่ๆก็ตื่นขึ้นมาอีก กูงงมากที่กูไม่ตายเพราะกูกะแทงให้โดนหัวใจ
ตายๆไปเลย 100% แต่มันก็ไม่ตาย ชีวิตกูไม่เคยมีความสุขซักครั้ง ไม่เคยมีใครรักใครจริงใจซักครั้ง รอดมาได้เพราะมีคนมาส่งของที่บ้านพอดี
ครอบครัวไม่เคยเป็นห่วงกูเลย บอกแค่ว่ากูเนรคุณปล่อยมันตายๆไป พอเริ่มขยับตัวได้อะไรได้ กูก็กะจะเอาอีกรอบ วางเป็นแผนเลยมึง
กูเอาน้ำใส่ให้เต็มอ่างล้างเอาหัวจุ่ม กะกดน้ำตัวเองตายๆไปซะ กูหมดสติไปแล้วด้วยแม่งทรมาณจริง แต่กูก็ไม่ตายอีกพยาบาลมันไขมาช่วยทัน
มีจิตแพทย์มาให้คำแนะนำอ้างครอบครัว อ้างสังคม พูดถึงตัวกูว่าควรจะอยู่อย่างนั้นอย่างนี้ มันไม่ช่วยอะไรเพราะไม่มีใครเข้าใจกู มีแต่ต้องการให้กูเป็นในแบบที่เขาเข้าใจ แต่สุดท้ายแล้วกูก็คิดได้เองว่าการฆ่าตัวตายนี่มันไร้สาระจริงๆ เพราะในเมื่อวันนึงมึงก็ต้องตายอยู่ดีใน 100 ปีนี้
ยังไงกูก็ต้องตายเพราะไอ้เรื่องต่างๆในชีวิตอยู่ดี ไม่จำเป็นต้องไปเร่งอะไรมันปล่อยให้มันค่อยๆเข้ามาหาแล้วคอยดูเหตุการณ์ต่างๆไปเรื่อยๆนี่ล่ะดีแล้ว
อาจจะเป็นที่เขาเรียกว่า "ปล่อยวาง" ก็ได้มั้ง เพราะหลังจากออกจากโรงบาลกูแทบจะไม่มีอารมณ์อะไรอีกเลย พอไม่มีอารมณ์ไม่ฟุ้งซ่าน ก็รู้สึกว่าเรื่องต่างๆในชีวิตมันเป็นเรื่องไร้สาระเล็กๆน้อยๆทั้งนั้นแหละว่ะ บ้านจะถูกยึด เงินจะหมดตัวเพราะค่ารักษา ก็ช่างมันปะไร กูก็หาได้เรื่อยๆตราบที่ยังไม่ตาย การมีชีวิตของกูไม่ใช่การมีความสุข แต่กูต้องการหาความสงบสุขไปเรื่อยๆ ก็แบบนั้นล่ะที่กูคิดออกมาได้จนเลิกฆ่าตัวตาย
บางทีชีวิตก็งี่เง่า ไม่รู้ว่าจะเกิดมาทำไม มีอะไรต่างเข้ามาทำให้ใจไม่เป็นสุขทั้งนั้น ในเมื่อไม่เป็นสุขก็ยิ่งไม่เข้าใจชีวิต
ชีวิตมันก็แค่ต้องการความสงบสุขหรือ "Peace" นั่นแหล่ะ เพียงแต่ถ้าตายไปแล้ว มึงจะรับรู้ความสงบสุขแบบนี้ได้อีกยังไง ปล่อยวางเว้ย กูคิดแบบนี้น่ะ
กูมองว่าฆ่าตัวตายไปมันก็ไม่ผิดหรอก แต่อยากให้ลองอ่านความคิดกูดู
กูคิดจะฆ่าตัวตายตลอดเวลา ตอนนี้ก็ด้วย กูไปยืนเล่นๆที่ระเบียงพร้อมจะโดดอยู่หลายครั้ง ไปยืนเอามีดจ่อตัวเองในครัวอยู่หลายครั้ง ผูกเชือกแขวนคอตัวเองจนกูผูกเงื่อนนั้นคล่องแล้ว แต่ทุกครั้งกูห้ามตัวเองได้ด้วยการคิดถึงคนอื่น คนอื่นในที่นี้ไม่ใช่พ่อแม่หรือเพื่อนคนรู้จักกูทั้งสิ้น พวกนั้นกูไม่สนใจหรอกว่าถ้ากูตายมันจะเสียใจ ช่างแม่งสิ กูตายไปมันก็อยู่กันได้ คนอื่นที่กูหมายถึงคือคนที่กูสามารถเอาชีวิตเหี้ยๆของกูไปช่วยเค้าได้ คนที่ต้องการความช่วยเหลือ แบบที่ไม่ต่างจากกูเท่าไหร่
ชีวิตกูโหยหายความรัก กูต้องการให้ใครซักคนมารักกูแบบที่กูอยากรักใครซักคน กูไม่ต้องการอะไรอีกแล้วนอกจากนี้ ถ้ากูมีคนรักกูจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ทั้งหมดของกูเพื่อเค้าคนเดียว ในเมื่อกูไม่อยากอยู่เพื่อตัวเองอีกแล้ว กูจะเอาเค้าเป็นเหตุผลในการมีชีวิตอยู่ของกูแทน
แต่กูก็ไม่มี ได้ ถ้ากูไม่มีกูจะยัดเยียดความรักของกูให้คนอื่น กูจะเป็นห่วงเป็นใยคนอื่น ดูแลแบบที่กูอยากทำ
ทุกวันนี้กูไม่คิดเรื่องตัวเองอีกต่อไปแล้ว ใครมาขอให้กูช่วยอะไรกูทุ่มสุดตัวช่วยเต็มที่ อย่างน้อยกูก็ทำให้คนอื่นมีความสุขได้ ถึงชีวิตกูจะจมดิ่งลงไปเรื่อยๆแค่ไหนก็ตาม ถ้ากูเผลอคิดถึงเรื่องตัวเองเมื่อไหร่ความคิดอยากฆ่าตัวตายแม่งกลับมาหากูเมื่อนั้น
เรียนจบไปกูจะหาเงินให้ได้เยอะๆ ไม่ใช่เพื่อตัวเอง กูจะเอาเงินกูไปบริจาค ตั้งมูลนิธิเหี้ยอะไรก็ได้ กูจะช่วยเหลือคนอื่นให้ได้มากที่สุด
ตอนนี้กูก็ทำเต็มที่อยู่ แต่กูทำแล้วไม่มีความสุขหรอก ลำบากเหี้ยๆ แต่คนอื่นมันมีความสุขไง
มึงก็ลองหาเหตุผลในการใช้ชีวิตอยู่ต่อสิ ถึงจะเหี้ยแค่ไหนแต่มันก็ทำให้มึงมีเป้าหมายในการใช้ชีวิต
กูอยากปล่อยวางเหมือนที่มึงๆให้คำแนะนำนะ กูขอบคุณมากๆ ที่ให้คำแนะนำมาเล่าประสบการณ์ แต่ตอนนี้กูยังไม่เข้มแข็งหรือแสร้งเข้มแข็งได้อย่างมึง อ่อนแอ แม้กระทั่งฆ่าตัวตายกูก็ไม่กล้า อยากจะเอายานอนหลับมากินเยอะๆ ให้หลับไปเลย กูก็สงสารคนรอบข้างที่เขาแคร์กู ใครจะดูแลพ่อแม่พี่น้องญาติๆ เขาต้องเสียใจเพราะกู กูไม่อยากทำให้เขาเสียใจเพราะการกระทำที่อาจผิดพลาดของกู พ่อแม่ที่ลูกเสียก่อน กูว่ามันน่าสงสารมากๆ กูก็เสือกขี้สงสารอีกไอเหี้ย สงสารคนอื่น สงสารตัวเอง
แต่คือปัญหาของกู กูปล่อยวางมันมาหลายปีแล้ว แต่สุดท้ายมันก็ยังย้อนกลับมาหากู กลับมาให้กูได้นึกถึง และยิ่งกูโตขึ้นเท่าไหร่ กลับกลายเป็นกูยิ่งคิดเป็น ยิ่งคิดเยอะขึ้น ไม่เหมือนสมัยก่อน ที่แค่คิด แค่เครียด แต่ไม่ส่งผลกับชีวิตกูมากมายขนาดนี้ กูบอกตรงๆ กูไม่กล้าเผชิญปัญหา กูอยากหนีปัญหา กูอยากหายๆไปบนโลก ไม่อยากให้ใครรู้จัก ไม่อยากรู้จักใคร กูเลยคิดอยากฆ่าตัวตาย แต่จะให้กูทำร้ายตัวเอง โดดตึกหรือแขวนคอใจกูก็ไม่กล้าพอ กูนี่มันอ่อนแอเหี้ยๆ อ่อนแอที่จะอยู่บนโลก แล้วยังอ่อนแอที่จะตายอีก ตอนนี้กูเลยหนีปัญหาโดยการหลับ หลับไปเลย ตื่นมาพอเครียด กูก็หลับ หลับจนจะข้ามวันข้ามคืน เหอะๆ กูนี่น่าสมเพชจริงๆ
กูเครียด จนกูคิดจะตรอมใจตาย กูอยากปล่อยวาง กูไม่อยากให้มันมากระทบชีวิตกู กูแค่อยากให้ใครสักคนมารักกู ที่กูเป็นกู มารับตัวกูให้ได้ ถึงแม้กูจะเหี้ยแค่ไหน แต่ตอนนี้กูพยายาม กูพยายามจะเป็นคนดี กูอยากมีชีวิต การงาน ครอบครัวที่ดี กูอยากมีชีวิตที่ดีแบบคนอื่น แล้วนี่คือเหี้ยอะไร กูจะพยายามเป็นคนดีคนใหม่แค่ไหน ปัญหาก็ยังคงตามกูมาอยู่ดี โลกนี้แม่งเหี้ยเนอะ กูนับถือคนที่อยู่กับมันได้จริงๆ
>>690 อุวววว กูอยากรู้จักมึงจัง กูอยากตายนะแต่ไม่กล้าทำอะไรแบบนั้นหรอก กลัวเจ็บ นับถือมึงมากๆ กูสรุปเองทางที่ดีที่สุดในการตายคือแก่ตาย เพราะคงไม่เจ็บ ตอนนี้มึงชีวิตเป็นยังไงมั่ง ชีวิตที่ปลงมีอะไรดีขึ่นมั้ย มึงยังเหลือความทะเยอทะยานรึเปล่า??
>>692 เล่ามาเพื่อน
ไม่เข้าโม่งนานคนสิ้นหวังแม่งเยอะชิบหาย กูไม่รู้จะบอกยังไง สู้สู้และอดทนนะพวกมึงกูบ่นจนขี้เกียจบ่น ตะเกียกตะกายแค่ไหนสุดท้ายวนลูปเดิมๆ กูเอาสิ่งที่พวกมึงพูดเก็บไปคิดไปทำบ้าง เหมือนปีนภูเขานะ รู้ว่าปีนสูงขึ่นแต่กูไม่รู้เลยว่ายอดเขาอยู่ไหน จะหยุดเมื่อไร จริงๆมียอดเขาไหม กูอยากไปยอดเขารึเปล่า หรือจริงๆที่กูปีนอยู่ไม่ใช่เขา กูไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น
ปัญหาขาดแรงบันดาลใจในการดำรงชีวิตมีแค่ในคนรึเปล่าวะ
ถูกมู้รึเปล่าไม่รู้ แต่กูขอระบายหน่อยได้ไหม นานๆกูเข้ามาที แต่ตอนนี้กูรู้สึกว่ากูเริ่มรับตัวเองไม่ไหว
กูเป็นโรคซึมเศร้าเรื้อรังว่ะมึง เป็นมาประมาณสองปีจะสามปีแล้ว ช่วงแรกๆที่เป็นกูมีปัญหาหลายๆอย่างเข้ามารุมเร้า
จะเล็กน้อยหรือใหญ่โต คือมันเข้าประเดประดังมาหมดเลยอ่ะ กูก็ใจเย็นนะ แก้ไขไปทีละอัน จนมันเหมือนจะเริ่มดีขึ้น
แต่ไปๆมาๆดันมีปัญหาใหญ่ตามมาอีก เป็นเรื่องในครอบครัวว่ะ คือเป็นเรื่องใหญ่โตมาก
คือกูมีปัญหากับแม่ของพ่อ หรือย่าของกูนั่นแหละ เดิมทีกูไม่ถูกกับย่ากูอยู่แล้ว เพราะอะไรหลายๆอย่างเข้ากันไม่ได้
แต่กูก็ต่างคนต่างอยู่นะ กูไม่อยากทำให้เรื่องมันใหญ่โต ไม่อยากให้พ่อกูต้องมาเครียด
ตอนที่กูเริ่มแก้ไขไปทีละอย่างนั่นแหละ กูดันมีปัญหากับย่ากูพอดี คือแกเป็นโรคทางจิตอ่ะ มักจะชอบหลอนไปเองว่ามีคนจ้องทำร้ายหรือมีคนด่า หรือมีคนมาขโมยของของแกทั้งๆที่ไม่มีเลย
คือแม่กูเคยพูดกับพ่อกูไปแล้วว่าพาไปรักษาดีไหม จะได้ไม่เป็นหนักกว่านี้ สบายใจทั้งสองฝ่าย ย่ากูจะได้หายด้วย
แต่พ่อกูกลัว ไม่ยอมพาไป พ่อกูมีทัศคติว่าคนเข้าโรงบาลจิตเวชคือคนบ้า
แม่กูก็ไม่รู้จะทำยังไง ก็เลยปล่อยเลยตามเลย
ตอนเกิดเรื่องเป็นตอนดึก กูนั่งของกูอยู่ดีๆ
ย่ากูเดินออกมาโวยวายใส่กู บ้านแทบแตก หาว่ากูไปด่าแก แล้วก็ยืนชี้หน้าด่ากูแบบรุนแรงมาก แช่งกูด้วยสารพัดนานา
กูอ่อนไหวง่ายชิบหายเลยร้องไห้ ด่ากลับไม่ได้ด้วย เขาเป็นผู้อาวุโส เป็นแม่ของพ่อด้วย
พ่อกูก็ลงมาพูดให้ ไกล่เกลี่ยเสร็จก็แยกย้ายกันไปนอน กูก็นอนร้องไห้ วันต่อมาพ่อกูก็เดินมาบอกกูว่า
ให้คืนดีกับย่าไว้ ย่าแกจำไม่ได้แล้วล่ะว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืน คนแก่หลงๆลืมๆใช่ป่ะ
กูก็ยิ้ม แต่พอลงมาคือแกเมินกู ไม่คุยกับกู คือไม่ได้ลืม กูก็คิดว่า ดีแล้วจะได้ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกัน
แต่เย็นนั้นพ่อกูบอกให้กูไปขอโทษแก คือกูช็อคมาก กูบอกไปว่ากูไม่ได้ด่า กูไม่ได้ทำอะไรแกเลยทำไมกูต้องไปขอโทษ
โอเค กูอาจจะเป็นคนดื้อหน่อย แต่กูไม่ได้ทำผิดจริงๆ คือพ่อกูคงไม่อยากให้ย่าโกรธเกลียดกู เลยให้กูไปขอโทษ
กูก็ขอโทษตามบทที่พ่อกูป้อนมาให้
ย่ากูก็ยิ้ม แบบเหมือนรอให้กูมาขอโทษ ทั้งๆที่กูไม่ผิด
พ่อก็บอกกับกูว่าแกไม่โกรธเราแล้วนะ เดี๋ยวแกก็ลืมเรื่องนี้
คือพ่อคงคิดว่า สำหรับย่า แปปเดียวเขาก็ลืม แต่สำหรับกู มันเป็นปมไปจนวันตาย
คำแช่งคำด่าของแกยังติดอยู่ในหูกูอยู่เลย บางทีกูก็ฝันร้ายเจอเรื่องนี้
หลังจากวันนั้นกูก็เริ่มเป็นโรคซึมเศร้า
เพราะอยู่บ้านกูต้องเจออะไรแบบนี้ แม่กูน้องกูพี่กูก็ไม่รู้ว่ากูเป็นโรคซึมเศร้า เพราะกูไม่เคยบอกใคร ไม่อยากลากเขามาเครียดด้วย
พ่อกูก็ไม่รู้ คิดว่ากูเจอแค่นั้นเดี๋ยวก็ลืมเหมือนย่า กลับมาร่าเริงได้ใหม่
คือไม่มีใครรู้เลยแหละ อยู่โรงเรียนกูทำเป็นยิ้มสดใส แต่ช่วงนั้นเป็นช่วงงานเข้ามาหักโหม ทุกอย่างโยนมาให้กูหมด กูก็ยิ้มต่อหน้าเพื่อนไปนะ แต่ก็แอบไปร้องไห้ทุกที เพราะมันมีทั้งเรื่องงาน เรื่องเพื่อน เรื่องครอบครัว เรื่องส่วนตัว รุมเข้ามาหมดเลยอะ เครียดเรื่องเกรดด้วยเพราะกูต้องเก็บเกรดเอาทุน แต่ครูกดเกรดมาก
ยังไม่จบ เขียนไม่พอ
พอกูเสร็จจากความเครียดที่โรงเรียน กลับมาบ้านก็เจอความกดดันนี้อีก ไม่มีใครรู้ว่ากูเป็นอะไร กูขอความช่วยเหลือไม่ได้เลย ไม่ใช่แค่พ่อกูที่มีความคิดว่าคนไปหาจิตแพทย์คือคนบ้า แต่บ้านกูก็คิดแบบนี้ คือออกแนวหัวโบราณหน่อย กูเลยบอกใครไม่ได้ อึดอัดมาก เอาไปปรึกษาเพื่อนก็ทำไม่ได้ เพราะเครียดเรื่องงานเรื่องเพื่อนอยู่ ครูสนิทๆก็ไม่มี คือต้องเก็บไว้คนเดียว
เข้าห้องน้ำทีไร ก็จะอาบน้ำ แล้วเรื่องทุกอย่างมันจะปังเข้ามาในหัวทีเดียวเลย ก็ยืนร้องไห้ รู้สึกหนาวก็ทำได้แค่กอดตัวเอง อยากจะกรี๊ดอยากตะโกนออกมาดังๆก็ทำไม่ได้ คือกูตะโกนออกมาแต่ไม่มีเสียง จะมีเสียงทีไรกูก็ต้องปิดปากไว้เหลือเป็นเสียงอู้อี้ในคอ
นอนทีไรก็สะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก เดี๋ยวฝันร้ายบ้าง เดี๋ยวตื่นมาร้องไห้บ้าง กว่าจะเช้ามันยาวนานมาก
บางทีก็เหม่อจนต้องมีคนสะกิด เคยข้ามถนนแล้วเหม่อจนโดนรถบีบแตรใส่เพราะเกือบชน ตอนนั้นกูรู้สึกเหมือนวิญญาณหลุดออกจากร่างมาก
บางทีนั่งอยู่ก็มีภาพหลอนเข้ามาในหัว คิดแต่อะไรแย่ๆไปหมด มองแต่โลกแง่ร้าย จนจะกลายเป็นโรคจิตเข้าเอง
เพราะคิดว่าแต่ละคนที่เข้ามาไม่ประสงค์ดีกันทั้งนั้น ระแวงทุกอย่าง
เคยคิดจะฆ่าตัวตาย แต่ไม่สำเร็จ เพราะมักจะมีอะไรมาขัดตลอดเหมือนไม่อยากให้กูตายงั้นแหละ
ตอนนั้นกูไม่ได้คิดอยากตาย
กูคิดแค่ว่า กูไม่อยากเจ็บปวดอีกแล้ว
ถ้าฆ่าตัวตายก็ต้องตกนรกเหรอ แล้วก็ต้องเจ็บปวดมากๆ แต่เจ็บทางกายยังดีกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้
กูคิดแค่นี้แหละตอนนั้นอะ พอแม่งไม่สำเร็จซักที กูก็เลยเริ่มหางานเข้ามาใส่ชีวิตให้เยอะๆ ให้มีอะไรทำเพื่อไม่ให้คิดเรื่องนี้
ปัญหาทุกอย่างก็เริ่มหมดลงนะ กูก็รู้สึกว่าเออ กูก็หายโรคซึมเศร้าได้เว้ย ไม่ต้องพึ่งหมอก็ได้ นี่ไงกูกลับมาร่าเริงแล้ว ปัญหาจบแล้ว ทุกอย่างแฮปปี้
แฮปปี้พ่อง
ไม่เลยมึง กูยังเป็นอยู่ ตอนนั้นกูแค่ไม่รู้ตัว
พอมีเรื่องเครียดเข้ามาทีไร เรื่องเล็กเรื่องใหญ่กูโวยวายตลอด ฉุนเฉียว โมโหง่าย ขว้างปาข้าวของ ด่าคนอื่น เหมือนไม่มีใครทำอะไรได้ดังใจ
เสร็จแล้วจะมานั่งเสียใจทีหลังว่ากูทำอะไรลงไป
กินเยอะมาก กินจุกจิกไปหมด แต่พอเศร้าทีไรไม่แตะข้าว ไม่อะไรเลย ขนาดท้องร้องหิว แสบท้อง พอจะแตะก็อยากอ้วก ไม่กิน
อารมณ์แปรปรวนยิ่งกว่าตอนเป็นเมน เครียดนิดหน่อยก็คิดแต่เรื่องแง่ลบ จะตายๆอยู่นั่น
กูเลยรู้สึกว่ากูไม่ได้หายเลยไอ้โรคซึมเศร้าเนี่ย
บางทีกูก็นั่งคุยกับตัวเอง เหมือนตัวกูสร้างอีกคนขึ้นมาในตัวให้รับฟังกู คอยพูดกับกู
มันก็สบายใจขึ้นนะ มันเกี่ยวกับการปกป้องตัวเองเปล่าในร่างกายก็ไม่รู้
ที่กูไม่ยอมไปหาหมอ เพราะกูไม่มีเงิน ถ้ากูมีกูคงไปเองแล้ว
กูไม่อยากให้พ่อให้แม่กูต้องมาเครียดมาอะไรกับเรื่องของกู
พ่อแม่กูกลัวพวกขี้เม้าท์ด้วย ค่านิยมคนไทยเนอะ พบจิตแพทย์คือเป็นคนบ้า พวกป้าๆลุงๆทั้งหลายเนี่ยตัวดีชอบเม้าท์ชอบเสือก
กูก็อยากหายนะ อยากมากๆ
กูกลัวตัวเองมาก บางทีเผลอทำอะไรไปบ้างก็ไม่รู้
กูควรทำยังไงดี กูเองก็ไม่รู้เหมือนกัน
ขอบคุณพื้นที่ที่ให้กูระบายนะ แหม ยาวเลย
มึงไปหาหมอรัฐ บอกว่าไม่มีเงินก็ได้ อย่างน้อยไปเล่าให้เขาฟังเขา จะได้รู้ว่าควรทำไง ยาในบัญญียาหลัก(?)แห่งชาติไม่แพง เก็บเงินค่าขนมเอาได้ป่ะกูไม่รู้มึงอายุเท่าไร
ส่วนเรื่องยายเป็นกูกูจะไม่ขอโทษ ไม่ได้ทำอะไรแล้วต้องขอโทษนี่มันเหี้ยจริงๆ
กูเคยโดนอาจารย์ ป้าโรงอาหาร พ่อแม่รุมกูว่ากูขโมยเงินตอนอนุบาล กลับมาพ่อก็ตีกูด้วยไม้จนเลือดแตก ตอนนั้นแม่ไม่มีเศษ20เลยให้แบงค์50กูมา แม่ก็ไม่บอกพ่อ เรื่องเล็กๆแต่กูรู้สึกแย่ยันวันนี้ เรื่องเหี้ยๆมันเกิดตอนกูยังไม่มีภูมิต้านทานโลกดีพอ
บางเรื่องถ้ากูไม่ได้ทำกูจะยอมหักไม่ยอมงอเพราะถ้ากูยอมแม่งก็มาเสียใจกับตัวเองไม่มีใครรู้ ไม่มีใครช่วยอะไรกูได้อยู่ดี แล้วงี้กูจะแคร์คนอื่นทำไม
>>697 กูเก็บเงินเรื่อยๆแหละ ถ้ากูเริ่มมีเงินเยอะเมื่อไหร่กูก็จะไป กูไม่รบกวนพ่อแม่กูแน่ ยังไงก็จะใช้เงินกู ระหว่างนี้กูก็พยายามมองโลกในแง่ดีไว้ ไม่ต้องเครียด แต่ก็นะ เครียดทีไรความคิดแง่ลบก็เข้ามาตลอดอยู่ดี ขอบใจสำหรับคำแนะนำมึงมากนะ
>>698 กูก็บอกให้พ่อกูพาแกไป แต่พ่อกูไม่ยอมอ่ะดิ บอกว่าย่าไม่เป็นไร มันเป็นเรื่องปกติของคนแก่ คือทุกคนช่วยกันพูดแล้วแต่ก็ไม่ฟังอยู่ดี
>>699 ไม่ต้องรอเงินเยอะหรอก ของกูค่ายาเดือนนึงพันนิดๆ แต่คุยกับใครก็จ่ายน้อยว่ากูทั้งนั้น บางคนค่ายา150เอง มึงไปหาก่อนจะได้รู้ราคาจริงๆ อย่างน้อยเขาก็มีคำแนะนำอะไรดีๆแป
กูไม่รู้ว่าเวลากูมองโลกในแง่ดีหรือกูหลอกตัวเองนะเอาจริง555555 แต่กูชอบมองในแง่ร้ายมากกว่า
บอกเลยว่าถ้าย่ามึงเป็นอะไรไปก็เป็นเพราะพ่อมึงล้วนๆ กันไว้ดีกว่าแก้ ถึงจุดที่แก้ไม่ได้แล้วมาสำนึก บางอย่างเริ่มใหม่ไม่ได้ทุกครั้งหรอกมึง หรือบอกเขาว่าเขาขี้เกียจเอาย่าไปหาหมอหรอ บางครั้งการปฏิเสธเสียงแข็งก็ทำให้กูคิดแบบนั้น เหมือนคนผัดวันประกันพรุ่ง วันนี้ไม่เป็นไรไว้ค่อยไปหา
โม่ง กูอยากประกาศกับโลกนี้ว่า กูเป็นจิตเภท
กูอึดอัดชิบหาย หางานก็ยาก.กูแค่เป็นจิตเภทว้อยยยไม่ได้ฆ่าใครตาย มึงเข้าใจไหมกูแดกยากูก็ปกติไง.โรคนี้แม่งเปิดเผยมากก็ไม่ได้ เดี๋ยวไม่ได้งาน.......กูเซ็งว้อยยยยยยย สรยุทธ์ เอาข้อความนี้ไปออกข่าวที ให้มีงานสำหรับกลุ่มคนที่ได้รับการบำบัดทางจิตบ้างงงง ย้ากกกกกกกส์
กูล่ะอยากจะกรีดร้อง55555
ปล.กูเครียดก็ให้กูฮาบ้าง
เศร้าชิบหายเลย จำวันจ่ายตังสมัครสอบผิดเลยไม่ได้สอบ รู้สึกเหี้ยชิบ ทำไมกูเป็นคนงี้วะ
บอร์ดนี้มันแหล่งรวมคนประสาทรึไงวะ
ทำไมมีไอ้พวกขี้แพ้มาบ่นทุกวันเลย
จะว่าไปการมีอยู่ของบอร์ดเอาใจลูสเซอร์พรรค์นี้มันจะส่งผลให้ประชากรลูสเซอร์ในประเทศเราเพิ่มขึ้นปะ
>>713 เพิ่งเห็นของมึงหลังจากส่งอันบน กูเข้าใจที่มึงจะสื่อแล้ว ถ้าเป็นอย่างที่มึงว่าก็น่าจะมีแนวโน้ม(มั้ย? กูก็ไม่แน่ใจ)
แต่กูว่าพวกที่มาระบายในนี้ส่วนใหญ่คนรอบข้างรอบตัวไม่รู้ว่าเครียดมีปัญหา ถึงคนในนี้มาคอยปลอบใจ แต่ออกไปเจอโลกจริงๆนอกอินเตอร์เน็ต แม่งก็ยังมีคนไม่เข้าใจไม่สนใจอยู่ดี ถ้าเพิ่มจำนวนขึ้นจริงก็ต้องหลบๆซ่อนๆ แสดงออกไม่ได้เหมือนเดิม
อ่อนแอ พวกมึงมันช่างอ่อนแอ
เห้ย พวกมึง
เท่าที่กูอ่านมา กระทู้เหี้ยเนี่ยรวมถึงไอ้ป้องกันการฆ่าตัวตายด้วย แม่งไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับชีวิตพวกมึงเลยว่ะ
แม่งมีแต่พวกมึงมาบ่นมาเฟลชีวิต แบ่งกันฟัง ปลอบใจกันหน่อยนึง จบ
คำแนะนำดีๆก็มี แต่กูว่าพวกมึงก็ไม่ทำกันหรอก อ่านแล้วก็คิดว่าไม่ไหวหรอก มึงทำแบบนั้นแบบนี้ไม่ไหว มึงไม่มีความสามารถ ไม่มีแรงบันดาลใจ ไม่มีใครรักเหมือนเดิม
การไปหาจิตแพทย์แม่งก็ไม่ได้ช่วยมึงเท่าไหร่หรอกนะ ยามันช่วยให้สมองมึงเคลียร์ขึ้น เป็นตัวช่วยให้มึงจัดการปัญหาตัวเองได้ง่ายขึ้น แต่ประเด็นคือ"มึง"ต้องเป็นคนจัดการปัญหานั้นด้วยตัวเอง ถ้ามึงแดกยาแล้ววันๆยังนอนอืด รอว่าเมื่อไหร่ซอมบี้จะระบาด ภัยธรรมชาติถล่มโลก จบสิ้นมนุษยชาติไปซักที มึงก็ไม่หายลูซเซอร์หรอกว่ะ
กูจะบอกไรให้ พวกมึงอะมีโพเทนเชี่ยลจะประสบความสำเร็จและมีความสุขทุกคนแหละ สำหรับลูซเซอร์ที่ยังจมปลักอยู่ในหัวตัวเองอย่างพวกเรา สิ่งที่จะช่วยให้มึงไปถึงจุดนั้นไม่ใช่แรงบันดาลใจแต่เป็นความมีวินัยต่างหาก
เริ่มซักที กระดิกตีนออกไปทำอะไรซักอย่างนึง จะไม่มีวันไหนที่มึงปล่อยไปอย่างเปล่าประโยชน์ บ่อยใช่มั๊ยที่วันนึงห้าทุ่มละมึงคิดกับตัวเอง วันนี้ยังไม่ได้ทำเหี้ยอะไรให้เป็นประโยชน์กับชีวิตเลยว่ะ ต่อไปมันจะไม่มีอีกแล้ว วิดพื้นไป 1 ที อ่านหนังสือไป 1 หน้า ทำเหี้ยอะไรก็ได้ อย่างน้อย1ก็ดีกว่า0วะ
ทำไป ทุกวัน ทุกวัน ทุกวัน จากการประสบความสำเร็จเล็กๆมันจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆเอง จากวิ่งได้5นาทีมาอาทิตย์นึงละ พรุ่งนี้การวิ่งให้ได้8นาทีมันจะไปหนักหนาอะไร จริงมั๊ย?
การได้ชนะ ได้สำเร็จบ่อยๆ ไม่ว่าจะเรื่องเล็กแค่ไหน สะสมมันไปเรื่อยๆ สั่งสมความมั่นใจของมึงให้กลับมา จดบันทึกชีวิตของมึงทุกวัน เชื่อกูเหอะที่กูพูดทั้งหมดนี่เพราะกูก็เป็นคนนึงที่ทิ้งชีวิตจมกับความสิ้นหวังไปเป็นสิบปี นอนงอมืองอตีนรออะไรซักอย่างมาเปลี่ยนชะตาชีวิตกู ตอนนี้กูดีขึ้นมากเพราะการสร้างวินัยให้ตัวเองนี่แหละ ท่องกับตัวเองทุกวันว่าจะไม่มีวันไหน=0สำหรับกูอีกแล้ว อย่างน้อยกูต้อง+1 +1 +1
be your best self
ไปไอ้สัส ไปสู้วว
Looser > Loser
ในนี้น่ะ แค่เป็นโลกเสมือน กูคิดว่าหลายๆ. คนเลยนะ ที่จมปลักอยุ่ในนี้ มันก็ดูโอเคนะ
แต่มึงยังไงก็ต้องมีชีวิตภายนอกโลกโซเชียล
กูยอมรับนะ ว่ากูเป็นคนนึงที่รู้สึกแย่ แต่มึงต้องทำอะไรซักอย่างจริง ๆ ในโลกภายนอก.ยิ่งพวกเป็นซึมเศร้า เป็นจิต จริง ๆ มึงต้องสู้นะเว้ย ยามันมีส่วนแต่ความคิดมึงมีส่วนสำคัญมากมากเช่นกัน
กูก็กำลังรักษาตัวอยู่ กูรู้ว่ามันแย่ แต่มึงต้องผ่านมันไปให้ได้
>>719 สำหรับคนอื่นไม่รู้นะ แต่กูก็พยายามอยู่แหละ กูเชื่อว่าร้อยทั้งร้อยรู้ว่าเรื่องมันมีสาเหตุมาจากอะไรแก้ไขยังไง กูมาบ่นในนี้บางทีอยากฟังแนวทางคนอื่นบ้าง บางคนก็มาขอความมั่นใจ คนบ่นเฉยๆเพราะอยากให้ใครสักคนฟังแม่งก็เยอะจริงๆมั้ง
เรื่องมู้แอคทีพตลอดนี่มาจากโม่งในนี้มันมีเยอะหรือว่าเป็นโม่งหน้าเดิมๆวะ
อีกอย่างคือวินัยไม่ได้แก้ทุกปัญหา กูล้มเหลวในการสื่อสารปัญหาตัวเองให้คนรอบข้างรับรู้และกูดันไม่ได้คิดว่ามันเลวร้ายอะไร ถ้ามันอัดอั้นมากก็ตดออกสักทีนึง กูตดในทวิตอ่ะส่วนมาก55555
ถ้ามันไม่ดีลองเปลี่ยนเป็นมู้สิ้นหวัง+วิเคราะห์ปัญหาด้วยม่ะว่ามึงมีแผนระยะสั้นกลางยาวแก้ยังไง ไว้เป็นไอเดียให้คนอื่นด้วย ใครมีแนวไรดีๆก็แนะกันไป จะได้ดูไม่บ่นๆอย่างเดียวอย่างโม่งบนๆว่ากันอย่างน้อยถ้ามึงอยากเสร็จควรชักว่าวด้วยตัวเองก่อนรอคนอื่นมาชักให้มั้ย
กูทำงานพลาดตลอดเลยทั้งๆที่เป็นงานที่ชอบแท้ๆ กูมันกาก ขนาดเค้าชี้ให้เห็นข้อเสียเบ้อเร่มของงานกูยังดูไม่ออกเลยว่ามันแย่ยังไง สิ้นหวังแล้ว
ขอพื้นที่ระบายหน่อย ไม่ต้องสนกูก็ได้
คือกูว่าจะเลิกฝันแล้วว่ะ กูมีฝันนะเเต่ดูเหมือนทำให้สำเร็จนี่มันช่างยากเหลือเกิน ใจนึงก็ยังอยากฝันต่อแต่อีกใจก็รู้ว่าตัวเองมีความสามารถไม่พอ ทำให้มันเป็นจริงไม่ได้ กูเองก็ไม่รู้จะทำไงดี เดินหน้าต่อไป หาอย่างอื่นแทนแต่แอบมีแว้บๆไปหาบ้าง หรือทิ้งไปเลยอย่างไร้เยื่อใยดีวะ
กูมาแชร์ความสุขเล็กๆในรูปแบบของกู ใช้งบไม่เยอะ
เริ่มจากมือถือราคาไม่ถึง3000 Zenphone C จอใหญ่สเปคแรงแรมเยอะพอที่จะเล่นเกมส์ได้
รองรับคลื่น 850Mz ใช้คู่กับโปรของ My CAT เดือนละ 99บาท ไม่เร็วมากแต่พอเล่นเฟสลื่นอยู่
แอพที่แนะนำนอกจากใช้เล่นเกมส์หรือเล่นเฟสบนมือถือ กูแนะนำ Comico Thailand แอพอ่านการ์ตูนฟรีใช้ระบบPoint ในการอ่าน
มีการ์ตูนหลายเรื่องหลายแนวให้พวกมึงได้เลือก หรือถ้าชอบแนวนิยายก็แอพ Dek-d นิยายคุณภาพไม่ถึงกับซีไรต์ แต่ถ้าเลือกดีๆก็เจอนิยายที่พออ่านสนุกๆได้เหมือนกัน ลองๆดูนะ ตอนกูเบื่อๆไม่มีเหี้ยอะไรให้ทำก็พยายามหาความสุขเล็กๆที่พอจะหาได้ใกล้ๆตัวนี่แหละ
เบื่อว่ะ ไม่อยากเข้าโซเชียลอะไรเลย โดยเฉพาะเฟสบุ้ค บางทีก็เข้าไปหาเพื่อนบ้าง ดูเพจที่ตัวเองชอบบ้าง แต่ก็มักจะมีสเตตัสอวดของ อวดความสำเร็จนู่นนี่นั่นของใครอีกหลายๆคนมาขวางหูขวางตาตลอดว่ะ บางอันแค่พิมพ์อะไรไร้สาระคนก็ไลค์กันชิบหาย คืออิจฉาน่ะใช่ แต่ก็อดคิดว่ากูนี่ช่างขี้เเพ้ไม่ได้ว่ะ บางทีอยากตัดขาดไม่ต้องรับรู้เรื่องพวกนี้ไปเลยแล้วมีชีวิตอยู่ในโลกของตัวเองก็มีความสุขดี แต่จะให้ทำอย่างนั้นตลอดคงเป็นไปไม่ได้สินะ เฮ้อ...
กูเคยอ่านเจอว่าเฟสบุ๊คเป็นตัวเพิ่มความอิจฉาให้คนว่ะ ก็จริงนะ พอไม่ดูก็มีความสุขดีแต่พอเจอคนอื่นก็อดอิจฉาไม่ได้ว่ะ อวดกันจัง กลัวเค้าไม่รู้รึไงว่ามีเงินหรือกำลังทำอะไรกับใครที่ไหนน่ะ ไม่ต้องป่าวประกาศทุกเรื่องก็ได้มั้ง
อยากมีแฟนแต่กูเรื่องมาก หาคนที่ชอบไม่มีเลย ทำไงดีวะ
บนเฟสมันไม่ใช่ชีวิตจริงว่ะ อย่าไปติดภาพบนนั้น เพื่อนกูที่อวดนู่นนี่เยอะๆแม่งสิ้นหวังกว่ากูกันตั้งหลายคน
พวกมึงคิดยังไงกับคนที่หน้าเฟสว่าง ไม่แชร์อะไรเลย ซ่อนเพื่อน ซ่อนไลค์ ซ่อนทุกอย่างที่โดนแทกมา เห็นแค่ profile pic กับ cover เลื่อนแป๊บๆก็จบ timeline แล้ว
เฟสผี สมัครไว้เล่นเกม?
กูเป็นคนนึงที่ซ่อนทุกอย่างว่ะ ทั้งในเฟสและชีวิตจริง กูจะรู้สึก insecure เวลามีใครมารู้เรื่องของกูมากเกินไป
เพื่อนสนิทที่รู้จักกันมาเกิน 10 ปี ยังแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวกูเลย บ้านกูอยู่ไหนยังไม่รู้ไม่เคยมาด้วยซ้ำ
เวลาคุยกับคนอื่นกูจะคุยแต่เรื่องผิวเผิน จะไม่ลงเรื่องส่วนตัวของตัวเอง แต่ยินดีรับฟังถ้าอีกฝ่ายอยากเล่า
เพื่อนที่คบกับกูได้ต้องเป็นคนที่ยอมรับได้ว่าต่อให้สนิทกับกูแค่ไหนก็ต้องอยู่ในระยะห่างแบบนี้อยู่ดี
ถ้ามางอแงง๊องแง๊งน้อยใจอยากเสือกมากๆ จะคบกับกูไม่รอดเพราะกูจะอึดอัดรำคาญ
เมื่อกี้กูเห็นเพื่อนกูที่ได้ทำงานในสนพ.รักพิมพ์โพสต์รูปอวดหน้ากากปิดปากอิโต้จุนจิที่เป็นโปรในงานหนังสือว่ะ ครั้งที่แล้วก็อวดปลอกหมอนไปทีละ อิจฉาชิบหาย ยิ่งมานึกว่ากูเองไปสมัครก่อนแถมก็ผ่านสัมภาษณ์เค้ารับแล้วด้วย แต่ต้องปฏิเสธเพราะไกลบ้านเกินก็ยิ่งช้ำว่ะมึง ทั้งที่กูเกือบจะได้ไปยืนตรงนั้นเหมือนกันแล้วแท้ๆ อยากร้องไห้ เป็นที่เดียวที่รับกูด้วย กูไม่มีปสก.เหี้ยอะไรเลย เกรดก็ต่ำ เทียบกับเขาที่ทำพูนิก้ามาก่อนก็ต้องดีกว่าอยู่เเล้ว แต่ทางสนพ.ก็ยังเปิดโอกาสให้กูเข้าไปทำอะ คิดดูดิว่าน่าเสียดายแค่ไหน
>>747 บางทีมึงอาจจะคิดถูกแล้วก็ได้นะ
กูเป็นมึงคนที่เลือกตกลงรับงานไกลบ้าน แล้วตอนนี้ก็นั่งร้องเพลง "ฉันมาทำอะไรที่นี่" ของป๋าเบิร์ดทุกวันที่ไปทำงาน... โดยเฉพาะตอนเช้านี่ไม่อยากจะตื่นเลยสัส เมื่อก่อนกูเคยคิดว่าองค์กรและเนื้องานสำคัญที่สุด แต่บางทีที่ตั้งก็สำคัญว่ะ ที่ทำงานไกลบ้านนี่แม่งบั่นทอนแรงกายแรงใจเราไปเยอะมากๆ ขนาดบ.กูมีรถรับส่งไม่เสียค่าเดินทางนะ แต่มันเหนื่อยชิบหาย จะอยู่หอก็ทั้งเปลืองทั้งไม่ได้อยู่กับครอบครัว พูดแล้วเซ็ง
กูรู้สึกสิ้นหวังจนอยากตายเลยว่ะ รู้สึกว่าชีวิตของกูไม่ใช่ของกู กูต้องเดินตามทางที่คนอื่นอยากให้เดินต้องแบกรับความคาดหวังจากพ่อแม้ญาติพี่น้อง กูอยากมีชีวิตเป็นของตัวเองบ้าง แต่ไอการจะให้ทิ้งทุกสิ่งทิ้งทุกคนในชีวิตกูก็ทำไม่ได้ กูเป็นลูกคนเดียวเค้ก็ต้องอยากให้กูดูแล หาเงินเลี้ยงอยู่แล้ว แต่กูก็ไม่ได้เก่ง หาเงินก็น้อย ก็ต้องทำงานนี่เลี้ยงพ่อแม่ต่อไป แต่กูอยากออกเดินทางเป็นพวกเร่ร่อนอะไรก็ได้ กูอยากมีอิสระ กูไม่อยากให้ใครมาคาดหวังว่ากูต้องทำให้เค้ามีความสุข กูอยากใช้ชีวิตที่เป็นของกูเองทุกสิ่งทุกอย่างที่กูเลือกเอง แต่กูทิ้งทุกคนไปไม่ได้จนกูคิดว่า กูจะอยู่ไปเพื่ออะไรวะนี่มันไม่ใช่ชีวิตกู กูอยากตายจัง
>>756 มันก็ไม่ได้เป็นอิสระจริงๆอ่ะมึง มันก็กลายเป็นว่ากูต้องพยายามหาเงินให้มากขึ้นทุกวัน ต้องทำงานทุเดือน สุดท้ายมันก็ไม่ใช่ชีวิตอย่างที่กูต้องการจริงๆ กูอยากใช้ชีวิตแบบชาวเขา ไม่ก็เดินทางไปเรื่อยๆหาเงินแค่พอประทังชีวิตไม่ต้องแบกภาระและความคาดหวังไว้บนหลัง กูอยากเป็นอิสระจริงๆที่อยากจะทำอะไรก็ทำ
กูคือโม่ง >>747
คราวนี้เพื่อนกูได้เเต่งคอสไปขายของที่บูธในงานหนังสือว่ะ พูดตรงๆนะ อิจฉาโว้ยยยยยยย
คือปกติกูก็โอเคกับเค้า ไม่ได้รู้สึกอะไรมากเลยปล่อยไว้ในเฟสได้ ไม่กดซ่อนไว้เเต่พอถึงเวลางานหนังสือทีไร เเม่งต้องมีรูปอวดของโปรที่ได้ฟรีกับได้เเต่งคอสอยู่เรื่อยเลย ตรงนี้เเหละที่ทำเอากูอิจฉาชิบหาย รู้สึกวันนั้นจะเฟลลงทันทีเลยเว้ย
กูอยากขยันขึ้นหวะ ทำยังไงดีหวะ
กูว่าจะลองหาเวลาตัดขาดจากโลกโซเชียลซักวันก็ยังดีว่ะ กูอยากเขียนอยากวาดอะไรตามใจโดยไม่ต้องไปเห็นงานของคนเก่งกว่าให้รู้สึกเฟลจนหมดกำลังใจ ไม่กล้าทำอะไรเลย พวกมึงว่าดีมั้ยวะ
สิ้นหวัง Wanna be
http://pantip.com/topic/34349487
อ่านแล้วก็ขำ มาโพสกระทู้ทำนองว่ากูอยู่คนเดียวได้นะ พอโดนแขวะมากๆ ก็ออกอาการโมโหด่าคนเม้นไปทั่ว(ทั้งที่เค้ามาตอบตามหลักวิชาการเลยว่าเจ้าของกระทู้เป็นโรคซึมเศร้า)
กูลาออกจากงานแล้วว่ะ กำลังจะย้ายกลับต่างจังหวัด ตอนกูเรียนจบใหม่ๆกูเบื่อกับการอยู่เฉยๆไม่มีเหี้ยอะไรทำที่ต่างจังหวัด กูเบื่อและสิ้นหวังจนต้องมาหางานทำในกทม ตอนนี้กูลาออกจากงานและกลับต่างจังหวัด รอบนี้มีเป้าหมายมากขึ้นกูจะกลับไปเรียนต่อ แต่ก็อดรู้สึกสิ้นหวังไม่ได้ เดือนสองเดือนที่ผ่านมากูไปงานรับปริญญาเพื่อนไปงานแต่งเพื่อน เพื่อนเรียนต่อโทจนจบ เพื่อนแต่งงาน รุ่นน้องที่แอบชอบเรียนจบ แต่ตัวกูเองเป็นคุNEETขี้แพ้หาแฟนไม่ได้ แต่กูจะพยายามปรับปรุงตัว วันนี้กูรู้สึกสิ้นหวังแต่กูคงไม่เป็นแบบนี้ตลอดไป ระหว่างกลับบ้านไปเรียนต่อกูว่าจะลองเขียนนิยายออกมาให้ได้ซักเล่ม กูฝันอยากเป็นนักเขียนตั้งแต่มัธยมและ จะลองดูซักครั้ง
>>766 ชีวิตมึงคล้ายกูมาก แต่ตอนนี้กูมาสิ้นหวังอยู่กทม. อีกรอบว่ะ เมื่อก่อนกูดูทีวี พวกวิศวกรอังกฤษมาทำเกษตรที่อิสาน จบป.โทมาเพาะเห็ด ขายปาท่องโก๋ กูแม่งโคตรไม่เข้าใจ เงินเดือนเป็นแสนในห้องแอร์ไม่ดีตรงไหน ตอนนี้แม่งโคตรเข้าใจสัสๆ กูกำลังหาช่องทางให้ตัวเองเหมือนกัน แต่ยังหาไม่เจอก็ต้องทำงานอื่นไปก่อน เพราะมันต้องกินต้องใช้ แต่กูเห็นเพื่อนจบโทแต่งงานกูไม่เคยรู้สึกว่าตัวเอง loser นะ เพราะนั่นไม่ใช่เป้าหมายชีวิตกูแม้แต่น้อย
>>766 มึงเหมือนกูเลย กูก็ว่าจะไปช่วยปู่ย่าทำสวน พัฒนาดินขายแล้วว่ะ ปีหน้ากูว่าจะลาออกเหมือนกัน นักวิจัยในชีวิตจริงกับในสารคดีสมัยเด็ก
มันต่างกันเหลือเกิน กูเรียนเสียเงินไปกี่ล้านแล้วไม่รู้จบมาไม่ได้ต่างจากมนุษย์เงินเดือนทั่วๆไปเลย แล้วนับวันชีวิตขี้แพ้ขึ้นทุกวันลืมรักเก่าไม่ได้
เลยทำให้ไม่มีแฟน กว่าจะลืมได้ชีวิตกูก็ดำมืดไปแล้ว กูดูในเฟสชวนคิดถึงเวลาเก่าจริงๆ แต่เพื่อนกูไม่เก่ากันแล้ว แต่งงานมีครอบครัว เริ่มทำธุรกิจใหม่ๆ
บางคนไปฮันนีมูนกับแฟนที่เมืองนอก หนึ่งในนั้นเป็นเพื่อนสนิทกูคนนึงแต่งงานกับเพื่อนสนิทกูอีกคนก็กำลังจะมีลูก ตัวกูวันๆไม่มีอะไรหรอกเลิกงานก็เป็นคุดูเมะซื้อฝันไปวันๆ แต่กูจะเลิกเป็นไอ้ขี้แพ้ละ กูจะกลับไปใช้ความรู้ของกูให้เกิดประโยชน์กูว่าจะเปิดบริษัทขายดินทำดินคุณภาพขายที่ตจว.
กูรู้เรื่องสารเคมี สสารที่จะทำให้ดินดีกว่าแค่ในตำราทั่วไป มันคงจะช่วยให้อะไรดีขึ้นถ้ากูได้ใช้ความรู้ของกูช่วยปู่ย่ากูบ้าง ดีไม่ดีอาจจะได้แฟนเป็นสาวตจว.ก็ได้ถ้าเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้ว ก็ได้แต่หวังละนะ
เหี้ยเอ๊ยกุเบื่อชีวิตว่ะ กุแม่งลูสเซอร์ชิบหายเลยว่ะ เกลียดสัส เวลาเห็นคนอื่นประสบความสำเร็จ กุอยู่ม.6 เพื่อนกุก็ค่อยๆสอบติดไปทีละคน บางคนก็เอกชนกากๆเนี่ยแหละ แต่แม่งรู้เส้นทางชีวิตตัวเองอะว่าอยากเป็นอะไรแล้วแม่งแน่วแน่สัสๆ ไม่ใช่ว่ากุไม่รู้นะ กุรู้ว่ากุอยากเป็นโปรแกรมเมอร์ ไม่มีเหตุผลที่กุอยากว่ะ มันเป็นเรื่องเดียวที่เพื่อนกุนับหน้าถือตากุตั้งแต่เด็กๆ แต่พอกุไปศึกษาอะไรหลายๆอย่าง กุเริ่มท้อว่ะ บางคนแม่งสายตาเสียตั้งแต่อายุยังไม่ถึงสี่สิบ บางคนแม่งฝันเป็นโค๊ดเงี้ยแล้วกุนึกภาพตัวเองตอนอายุสามสิบที่ไม่มีเหี้ยอะไรดีเลยแล้วแม่งแย่ว่ะ ในขณะที่เพื่อนกุเตรียมตัวไปเรียนต่อต่างประเทศ กุกลับนั่งเลื่อนหน้าฟีดไปวันๆ หาเรื่องเอาชนะพวกตรรกะกากๆในเฟซ เบื่อก็ชักว่าว แย่ชิบหาย ทุกเรื่องที่กุมีดี คนอื่นแม่งก็เอาชนะกุไปซะหมด ไอ้เหี้ยเด็ก16ถ่ายรูปในพันทิปก็เพื่อนของเพื่อนกุเนี่ยแหละ เห็นกระทู้แม่งแล้วมองไปที่กระเป๋า700Dกับเลนส์คิทที่กุซื้อมาเมื่อสองปีที่แล้ว แม่ง..เหี้ยว่ะ อิจฉาชิบหาย อ่านแล้วปล่อยผ่านไปนะ กุแค่เพ้อเจ้อ
พันทิป /topic/34253648?
ลองอ่านดู นึกว่าเอาความรู้สึกกูไปเขียน
ไอเหี้ยโพสลิ้งไม่ได้
พูดถึงลูสเซอร์แล้วแม่งชีวิตกุก็ลูสเซอร์หว่ะ555555 อิจฉาแต่คนอื่น พอเพื่อนได้ดีละก็ทำใจชมจริงใจไม่ได้ ทำอะไรแม่งก็เหี้ย เอาจริงๆกุอาจแค่ไม่มีความพึงพอใจในตัวเองแค่นั้นก็ได้ แต่กุก็ไม่รู้จะทำไงให้กุมั่นใจในชีวิตมากขึ้น ช่วงนี้มีชีวิตอยู่ไปวันๆด้วยการด่าการนินทาชาวบ้านให้ตัวเองสบายใจไปวันๆ กุรู้ตัวแต่กุก็ทำไรไม่ได้หว่ะ โคตรเหี้ย
กุว่ากุจะเปลี่ยนไปหลังเข้ามหาลัยแล้วแต่ชีวิตแม่งก็เหี้ยเหมือนเดิม กุรู้สึกเหมือนอยู่ในสังคมที่ทุกคนแม่งเก่งกว่ากุตลอด กุพยายามเท่าไหร่แม่งก็ไม่พอ แล้วคณะกุแม่งเรียนหนักชิบหายจนชีวิตกุเริ่มมีปัญหา กุรู้สึกทำเหี้ยอะไรไม่ได้เลย ให้ใครพึ่งพาก็ไม่ได้ ไม่กล้าเป็นเฮดงานไหนเลย งานกลุ่มกุก็รู้สึกมีปัญหากะเพื่อน ไม่พอใจแต่ก็ไม่รู้จะทำไง จะเครียดให้ใครเห็นก็ไม่ได้เพราะกุเคยละ อยากให้ใครซักคนแม่งช่วยกุทีแต่พอแสดงออกอย่างนั้นคนรอบตัวแม่งก็พากันเครียดตาม บรรยากาศแม่งก็แย่ลง แต่บางทีกุก็อยากพักบ้างบางทีแม่งแค่ตามน้ำหัวเราะไปวันๆกุยังทำไม่ได้ สัสเอ้ย55555 แค่ทำตัวให้ร่าเริงไปวันๆก็เหนื่อยชิบหายแล้วยังต้องมาทำงานที่หมกมุ่นกับตัวเอง ต้องใช้ความคิดอีก /กุเรียนอาร์ตหน่ะ แล้วยังรู้สึกว่าเข้ากับอ.ที่คณะไม่ได้อีก รู้สึกเหมือนทุกอย่างแม่งรุมทึ้งกุจั๊งจนกุรู้ตัวแล้วว่าจิตกุแม่งไม่ปกติ แต่แม่งก็ทำไรไม่ได้ พ่อแม่ป่วยกุยังไม่มีปัญญากลับไปหาเลย เหนื่อยเหี้ยๆ พอคิดว่าอยากคุยกับใครซักคนคิดดีๆแล้วแม่งก็ไม่มีจริงๆ
กุอยากระบายมากแต่ไม่รู้ว่าควรไปกระทู้ไหน กุคุยเรื่องฆ่าตัวตายกะเพื่อนบ่อยมากจนเป็นเรื่องขำๆ เพื่อนแม่งก็คงคิดว่ากุขำ แค่คิดว่าเจอชีวิตแค่นี้ต่อไปแม่งจะเหี้ยขนาดไหนก็อยากจบๆสิ้นๆไปละ จะอยู่ทำไมให้เหนื่อยต่อวะ55555 แต่ถ้าเอาจริงๆกุคงทำไม่ได้ไม่ อยากทิ้งความรับผิดชอบหลายๆอย่างทั้งพ่อแม่ เพื่อน คนรู้จัก ขนาดตายยังลำบากใครต่อใครอีกหลายคนกุก็ขอบายหว่ะ
แม่งจะบอกว่าพยายามแล้วกุก็รู้สึกขี้แพ้เข้าไปอีก แต่กุก็ไม่รู้จะทำไงต่อไปละนอกจากหวังให้ทุกอย่างแม่งเข้ามาละจบๆไป รำคาญชีวิตตัวเองเหี้ยๆ
แม่งเหนื่อยสัสๆ ขนาดเป็นลูสเซอร์แล้วยังเหนื่อย
ความสุขเดียวในแต่ละวันของผมคือการตอบกระทู้โม่งเพื่อให้มีคนเห็นด้วยหรือแสดงความขอบคุณ
เป็นคาซาม่าบ้างบางครั้ง ผมนี่มันลูสเซอร์ใช่ไหมครับ
ถ้ากุไม่มีเพื่อนซักคนในมหาลัยกุจะอยู่ได้ปะวะ กุค่อนข้างจะIntrovertอะ แล้วมหาลัยที่กุจะเรียนกุสืบๆดู คณะกุแม่งมีแต่พวกที่ไม่น่าเข้ากะกุได้ เตะบอล เลิกเรียนก็ร้านเหล้าไรเงี้ย (วิทคอม ม.กากๆ) เนิร์ดๆแบบกุไม่ค่อยจะมี รับน้องกุก็ไม่น่าจะไป(ถ้าไม่สถุนมากอาจจะไป) กุจะเรียนคนเดียวจนจบได้ปะวะ
>>778 ขอบคุณมึง มาเป็นลูสเซอร์เหนื่อยๆกัน >>779 กุว่ากุพอรู้ตัวหว่ะ บางทีตอนเครียดมากๆมันควบคุมตัวเองไม่ได้ตอนมัธยมก็มีทำร้ายตัวเองบ้าง ตอนนี้เบาลงเยอะแล้วเหลือเป็นพฤติกรรมแปลกๆแทนอย่างนั่งฉีกกระดาษไปเรื่อยๆ โคตรเหี้ย55555555 รู้สึกปัญหาทุกอย่างแม่งเริ่มที่ตัวกุทั้งนั้น จะห้ามไม่ให้เครียดก็ทำไม่ได้อีก ถ้าไม่ไหวมากๆจริงๆกุคงต้องลองทำอะไรซักอย่างกะชีวิตละ โอ่ย บอกแบบนี้สุดท้ายกุก็จะทนๆไปให้จบๆพอมีปัญหากุก็หลับมาเป็นอีกอยู่ดี เซ็งตัวเอง คอมมูเมื่อก่อนกุก็เคยเล่นหว่ะมึงแต่งานมันเยอะจนไม่มีเวลาแล้ว ขอบคุณมึงมากๆ ได้ระบายไปแล้วหวังว่ากุจะดีขึ้น ไปเป็นลูสเซอร์ต่อ โอ่ยยย
>>782 กุเคยคิดแบบนี้ก่อนกุเข้ามหาลัยเหมือนกัน แต่สุดท้ายถ้ามีคนนิสัยคล้ายๆมึงก็จะเป็นเพื่อนกันได้เองแหละ ช่วงแรกๆมันก็มีแต่อีพวกชอบโชว์ออฟชอบสังคมชอบแสดงเท่านั้นแหละที่มันจะมาคุยกันเย้วๆให้มึงเห็นแต่มันไม่ใช่ทุกคนจะมีไลฟ์สไตล์แบบที่มึงว่าหรอก ส่วนรับน้องอันนี้มันแล้วแต่ม.มึง ถ้าเป็นม.ที่ไม่เคร่งมากคนที่จะกดดันมึงไม่ใช่รุ่นพี่แต่เป็นเพื่อนเหี้ยๆ แต่ถ้ามึงอยากปลีกวิเวกจริงๆก็ได้แหละ ไม่ต้องมีเพื่อนเลย แต่มึงต้องเก่งหน่อยที่จะอยู่คนเดียว จะลำบากบ้างตอนงานกลุ่ม
แต่มหาลัยไม่ค่อยมีงานกลุ่มหรอกกูว่า กูเป็นพวกมนุษย์สัมพันธ์ต่ำ อยู่คนเดียวก็รู้สึกไม่ขาดไม่ต้องขวนขวายหาใคร
กูเหนื่อยว่ะ ก็คิดนะว่าตัวเราของเรา ถ้าไม่เริ่มทำแล้วมันจะพัฒนาได้ยังไง แต่พอเห็นคนอื่นก็อดท้อไม่ได้จริงๆว่ะ เค้าทำได้ดีกว่า เค้าทำเก่งกว่า เรามันห่วยสู้เค้าไม่ได้ บลาๆ แต่ก็นะ เดี๋ยวเฟลเดี๋ยวฮึดสู้สลับไปมาอยู่นี่แหละ ตอนนี้ก็ถือว่าอยู่ในช่วงเฟลละกัน ขอบ่นหน่อย 555
กูอยากเรียนวาดรูปเพิ่มเติม เรียนบลาๆอีกหลายอย่างเพิ่มเติมแต่ปัญหาคือกูมีตังค์ไม่พอว่ะ ที่ดีๆแน่นอนว่าต้องแพงใช่ปะล่ะ กูเห็นคนรู้จักคนนึงแม่งโชคดีได้เรียนที่อเมริกา กลับไทยมาก็หาเรียนต่อได้อีก อารมณ์อยากเรียนอะไรก็เรียนอะ ถามว่าเค้าทำงานมั้ย ก็มีนะทำฟรีแลนซ์ แต่กูไม่คิดว่ามันจะพอขนาดนั้นว่ะ น่าจะบ้านรวยด้วยแหละถึงสนับสนุนได้ตลอด คิดแล้วก็อดอิจฉาไม่ได้ว่ะ มีเงินก็เหมือนมีชัยไปกว่าครึ่งละ เฮ้อ
เก็บเงินเรียนจะไปยากอะไรวะ มึงไม่ต้องบินไปเรียนถึงที่ก็ได้ มันคอร์สสอนอาร์ตผ่านเนทเพียบเลย หาข้อมูลดู
แต่มีเครดิตว่าได้เรียนนอกมันก็ดีนะมึง 5555
วงการนักวาดกูว่าเครดิตอยู่ที่ผลงานว่ะ โอเคถ้าจบนอกอาจจะโปรไฟล์ดีกว่าในกรณีที่ไปสมัครงานกับบริษัทใหญ่ๆ แต่ประวัติการศึกษาไม่สำคัญเท่ากับคุณภาพของพอร์ตงาน เพราะงั้นพัฒนาฝีมือไปเรื่อยๆสำคัญที่สุด เอาให้งานมึงดีจนHRอยากรับเข้าทำงานโดยไม่สนใจว่าจบจากไหน แบบนี้ดีที่สุดว่ะ
กูไม่สามารถอยู่แบบโง่ๆไปตลอดชีวิตได้เลยเหรอวะ...
ใครออกทุนให้กูไปเปิดร้านถ่ายเอกสารที กูไม่อยากเรียนแล้ว ยิ่งเรียนยิ่งโง่ กูสามารถจบก่อนโดนรีไทน์ได้จริงๆเหรอวะ Orz
บางทีกูก็คิดเล่นๆนะ 555
หน้าตาดี มีความสามารถ = เลิศเลอเพอร์เฟค มีคนอวย
หน้าตาดี ไม่มีความสามารถ = ไม่เป็นไรๆ ก็ต้องมีสิ่งที่ทำไม่ได้กันอยู่เเล้วนี่นา
หน้าตาไม่ดี มีความสามารถ = อืม โอเค เอ็งเก่ง
หน้าตาไม่ดี ไม่มีความสามารถ = อี๋ ห่วย ขี้เเพ้ บลาๆ
เหนื่อยใจกับการทำผิดซ้ำๆของตัวกูจังหวะ
หีเอย เศร้าใจว่ะ
เหนื่อยใจกับโลกใบนี้จังว่ะ กูคิดอยู่หลายรอบนะว่ากูไม่ควรจะฉลาดหรือรู้เรื่องอะไรเยอะเลย กูน่าจะเป็นคนโง่ๆที่มีชีวิตแบบโง่ๆ แต่มีความสุขมากกว่าหรือเปล่า ขนาดกูหนีมาแล้ว คนบนโลกโซเชี่ยยังชอบเอาเรื่องเหี้ยๆ ของอีกฝ่ายมาแปะมาด่า กูก็รู้อ่ะน้า ว่าโลกนี้มันไม่สวยงาม แต่เราจะทำอะไรได้บ้างนอกจากทนอยู่มันไปวะแม่ง
สุดท้ายสิ่งที่เราทำได้ก็คือทนๆอยู่บนโลกแห่งนี้ต่อไปสินะมึง
หมั่นทำดีกันไว้นะ คนทำดีจะได้ไปสวรรค์ ดูคนที่ละหมาดบนรถไฟแล้วตกรถไฟได้ไปสวรรค์ทันใจเป็นตัวอย่าง
>>802 ไม่รู้กูเข้าใจมึงถูกรึป่าวนะ แต่ถ้าตามที่กูเข้าใจกูก็เห็นด้วยกับมึงมากๆ
ไม่รู้โลกสวยเกินไปรึป่าว ไม่ชอบคนด่ากัน ทะเลาะ นินทา บ่นลงเฟสด้วย มันทำให้รู้สึกสียสุขภาพจิตว่ะ
กูก็มีเรื่องเครียดๆเหมือนกัน แต่ไม่ได้ทำแบบนี้ เพราะวิธีระบายความเครียดไม่เหมือนกันเหรอ ? หรือเพราะวิธีคิด ?
กูเห็นข่าวที่ฝรั่งเศสแล้วรู้สึกสิ้นหวังว่ะ สงครามก่อการร้ายเกิดขึ้นเพราะฝ่ายตะวันตกไปรุกรานเข้าก่อน พอโดนแก้แค้นก็ตอบโต้ด้วยความรุนแรง ผลก็คือติดลูปความแค้นไม่จบสิ้น กูอยากมีกองทัพของตัวเอง อยากมีอาวุธสุดยอดไว้หยุดสงคราม กูจะทำลายกองทหารทั้งโลกให้หมดให้โลกนี้ไม่เหลืออาวุธร้ายแรงอยู่
>>809 https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1713800588840974&id=1526071940947174 <<<แค้นเคิ้นบ้าไร อหิงสากันดีกว่านะพ่อหนุ่ม ดูพี่แกดิ เสียเมียไปทั้งคนนะเว้ย ถ้ากูเป็นคนวางระเบิดได้มาดูนี่คงผูกคอตายอะบอกเลย
กูเชื่อแล้วว่าเฟซคือแหล่งอวดความสุขของคนว่ะ เดี๋ยวนี้พยายามเข้าให้น้อยที่สุด หรือไม่กดเลื่อนอ่านถ้าไม่จำเป็นแต่บางทีก็มีบางเม้นท์หลงมาบ้าง ทำเอากูอารมณ์เปลี่ยนทันทีเลย เฮ้อ
เงินเดือนห้าหมื่นไม่พอใช่ว่ะ สิ้นหวังแล้ววว
*-*
กู813เองนะกูพิมพ์ประชดน้ะ จริงๆอยากไปตั้งมู้ในพันทิบแต่ไม่มีไอดี
ก่อนมึงจะมาพิมพ์ใน >>817 กูก็ว่าจะพิมพ์แบบมึง แต่ขี้เกียจ เพราะกูว่าเรื่องแบบนี้ไม่เจอกับตัวไม่เข้าใจหรอก จำได้สมัยเรียนมหาลัยมีวิทยากรมาพูด บอกเงินเดือน 60K ไม่พอใช้ กูคิดในใจ อีตอแหล มึงจะอวดว่ามึงกินแต่ของแพงใช้แต่ของแพงสินะ แต่พอมาได้จริงก็พบว่าแม่งไม่พอจริงว่ะ แต่ไม่ใช่เราใช้คนเดียวไม่พอ มันคือภาระของการเป็นผู้ใหญ่ ไหนจะใช้จ่ายส่วนตัว จุนเจือพ่อแม่ ลงทุนสร้างอนาคต ลดหย่อนภาษี ฯลฯ ความจริงของกูไม่ถึงขั้นใช้ไม่พอนะ แต่ออกแนวอยากเก็บให้ได้มากกว่านี้มากกว่า สมัยเด็กเราเคยคิดว่าสมมุติได้เงิน 60K เราใช้ 20K ก็คงเหลือเฟือละ เก็บอีก 40K โห ดูเยอะมาก แต่ในความเป็นจริงไม่ใช่เลย มันมีคชจ.อะไรมากมายที่ต่างกับตอนเด็กที่ดูแลแค่ตัวเองและกินใช้ไปวันๆ ก็พอ
เสือกได้ไหม
เป็นคาซาม่ามาตั้งแต่รู้จักบอร์ดนี้ ทำเพราะอยากให้บอร์ดเป็นระเบียบและน่าอยู่
ช่วงหลังมานี้โดนรุมด่าบ่อยมาก ท้อแท้และอยากตายว่ะ
ขอปรึกษาพวกมึงที เป็นปัญหาเรื่องครอบครัวน่ะ
คืออย่างนี้นะ พ่อกูรู้จักกับคนๆหนึ่งประมาณสี่ห้าเดือน เพราะ ทำงานอยู่ที่นั่น แล้วคุยกันกูขอเรียกเขาว่าเอ
พ่อบอกว่าพ่อสนิทกะเอมาก เอจะยกที่ให้ไร่หนึ่งเลยด้วยซ้ำ พ่อเลยถามพี่กูว่าสนใจทำสวนไหม
แม่กูยื่นเงื่อนไขระหว่างทำงานเมืองนอก(แต่กำกับว่าได้แต่เงิน ได้แต่ทำงาน ได้ภาษาเป็นระยะสั้น)
ส่วนการทำสวน(เป็นระยะยาวได้ที่ดิน ได้รายได้ ได้อยู่กับครอบครัว)
พี่กูอยากไปเมืองนอกมาก แต่เลือกอยู่สวน เพราะ "ระยะยาวกับครอบครัว และมั่นคง"
จนกระทั่งไปที่สวนคุยกะเจ้าของที่ เจรจาเสร็จสรรพรอบแรกและเปลี่ยนจากให้หนึ่งไร่ฟรีๆเป็น"สองไร่หกหมื่นต่อสิบปี"
พ่อกูไปที่กรมที่ดินเสร็จแล้วได้รุ้มาว่า"สองไร่หกหมื่นต่อสิบปีมันแพง"ทางด้านเอจึงเปลี่ยนว่า"สี่ไร่หกหมื่นต่อสิบปี"แทน
และนัดว่าจะมาเซ็นสัญญาอะไรๆหลังจากนั้นอีกที
พอวันนี้ไปปุป เอเอาลูกมา เปลี่ยนเป็นชื่อลูกเขาเป็นผู้ให้เช่า(เจ้าของ)แทน และบอกว่าตัวเองไม่รู้จะอยู่ได้นานแค่ไหน
จึงจะใช้ชื่อลูกแทน ส่วนจากที่จะไปทำสัญญาที่กรมที่ดินก็บอกว่า
การเช่าแค่เซ็นสัญญาระหว่างเจ้าของกับผู้เช่าและอบต.หรือคนใหญ๋คนโตช่วยยืนยันก็พอ
พี่กูเริ่มไม่โอเค เพราะ พี่กูเริ่มระแวงแต่แรกก็ไม่ชอบเรื่องสวนแต่อยากทำเพราะเหตุผลตามข้างบน และเรื่องส่วนเป็นการ"เช่า"
พี่กูก็ระแวงเรื่อยๆ กลัวเขาโกง กลัวโดนเอาเปรียบ คือ ถึงพี่กูเขาไม่ชอบแต่เขาก็อยากทำ ไม่อยากให้สิ่งที่ทุ่มมามันสูญไป
เพราะ การเช่าวางว่าเช่าไว้แค่สิบปีแล้วพืชบางชนิดมันยาวถึงสิบเอ็ดหรือยี่สิบปีได้
ถ้าพ้นปีที่สิบและหมดสัญญา พี่กูมองว่าสิ่งที่ทำมาคือสูญเปล่า เพราะ หากปีที่สิบเอ็ดเขาไม่ต่อสัญญาที่ๆทำไว้จะกลายเป็นของเขา
หรือไม่ก็ถ้าถางดินออกจนหมด มันก็รู้สึกเหมือนต้องเริ่ม 0 ใหม่
แล้วบางทีที่ดินอาจจะถูกเอาเปรียบก่อนสิบปีก็ได้ เพราะ สุดท้ายฝั่งครอบครัวกูคือผู้เช่า และตรงละแวกนั้นใครๆเขาก็สนิทกัน
เขาเป็นพยานอะไรหลายๆอย่างกันได้ ตือพี่กูกลัวโดนโกงนี่ละ เพราะ ไปกันแบบไม่มีอะไรเลยนอกจากเงินและความคิดจะปลูกพืช
แต่แม่มองว่าไม่แปลก เพราะ หลังจากนั้นสิบปีที่ผ่านมาพี่กูจะมีความรู้เต็มที่แล้ว จะเริ่มใหม่ก็ไม่สายแต่พี่กูไม่อยากเริ่มใหม่
ส่วนเรื่องจะโดนเอาเปรียบแม่มองว่าพี่กูระแวงมากเกินไปและถามว่าแล้วจะให้ทำยังไงในเมื่อไม่รู้ว่าจะแก้ยังไง
ตอนนี้กูก้ำกึ่งคนกลาง คือกูเข้าใจที่พี่ระแวงนะว่าเขาจะโกงหรือเอาเปรียบก่อนในช่วงสิบปีไหม เพราะ สัญญามันไม่ครอบคลุม
ทุกกรณีอยู่แล้วยังไงมันก็มีช่องโหว่อยู่ดี อีกอย่างการที่อยู่ๆมาให้เช่าแบบนี้มันง่ายเกินไป
แต่แม่เหมือนกับมองว่าเขาเป็นชาวบ้าน สัญญามันเพิ่ม ปล. พวกกรณีพิเศษได้ สัญญาว่าเราเช่าอยู่ไม่มีใครมาเอาเปรียบได้
อีกอย่างแม่บอกว่าพ่อสนิทกับอบต.สนิทกับคนละแวกนั้นเขาไม่โกงหรอก ไม่ก็สามารถใช้สัญญาผูกมัดได้ อะไรทำนองนี้
คือตอนนี้กูควรทำยังไง เขาสองคนไม่คุยกัน แม่กูบอกพอจะล้มเลิกไม่ทำแล้ว ส่วนพี่กูว่าเขาอยากทำแต่เหมือนเขาท้อที่เหมือนใครๆไม่ฟังเขา
ส่วนกูได้แต่ฟัง แต่ทำเหี้ยไรไม่ได้ คือ กูไม่รู้จะทำยังไงดีแต่ใจกูอยากให้เดินหน้าต่อนะ เพราะ กู้เงินมาแล้ว
จะทำสัญญาแล้ว อาทิตย์หน้าจะเริ่มสร้างบ้านหลังเล็กๆไว้อยู่ที่สวนแล้ว
ยกเลิกตอนนี้ไปมันก็ไม่ใช่ไง แต่กูไม่รู้จะเริ่มยังไง เอาจริงๆกูเองก็ไม่รู้ว่าที่กูรู้สึกเข้าข้างพี่มันถูกไหม
คือกูควรเริ่มทำไงดี หรือปล่อยไปตามจะเป็นเลย?
อยากฆ่าตัวตายแต่ไม่อยากทรมาณว่ะ ทำไงดีวะ
>>826
ไม่อยากทรมาณ ตายยังดีซะกว่า
คิดแบบนี้อยู่ล่ะสิมึง อันที่จริงในทางการแพทย์เขามีการทำยูทานาเซียให้กับคนไข้ที่หมดทางรักษาและต้องนอนทรมาณรอความตายได้ แต่มึงไม่น่าเข้าข่ายนี้ เพราะมึงยังเปิดเวปโม่งเล่นได้ มาคุยกันตรงๆเลยดีกว่าว่าทำไมมึงอยากตาย ชีวิตไม่ดีพอให้อยู่ยังไงบ้าง จริงๆแล้วมีสิ่งที่ชอบแต่เดินไปไม่ถึงอยู่รึเปล่า ถ้ามึงยอมแพ้มันก็จบเลยนะเว้ย แล้วเอาจริงๆความตายไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย มึงตายไปก็อาจมีคนเศร้าหลายคน แต่สักวันน้ำตาเขาก็แห้งก็เลิกเศร้าให้มึงอยู่ดี โลกนี้ไม่แคร์คนที่ไม่คิดจะอยู่หรอกบอกตามตรง
แต่ถ้ามึงอยากมีบทของตัวเอง คิดซะว่าตัวเองเป็นตัวละครตัวนึงก็ได้ มึงก็ต้องทำอะไรสักอย่าง คิดหาทางแก้เกมส์ที่ตัวเองเล่นไม่เก่ง จะด้วยอะไรก็ได้ ถ้ามึงทำ แค่ทำ ถึงแม้ไม่สำเร็จ แต่เนื้อเรื่องมึงก็น่าติดตามขึ้นมาแล้ว มึงจะกลายเป็นตัวละครที่หล่อกว่าอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับคนที่ไม่ทันจะอะไรก็ยอมแพ้ คนส่วนใหญ่เมื่อได้ยินเรื่องราวของมึงเข้า ถ้าเขาไม่ใช่ไอ้ขี้แพ้ที่ชอบทำลายกำลังใจชาวบ้านเพื่อให้เป็นความรู้สึกดีง่อยๆทางเดียวที่เขายังพอหาได้ เขาก็จะเชียร์มึงให้มึงชนะสักวันอยู่แล้ว
ผู้คนน่ะไม่ได้รักในความสุขกันหรอก พวกเขารักในเรื่องราวที่ดีที่อ่านแล้วอดยิ้มไม่ได้ต่างหาก ไม่เชื่อหรอ ลองคิดถึงพวกติดยาดูสิ พวกนั้นก็มีความสุขนะ แต่ทำไมชาวบ้านถึงไล่มันไปตายล่ะ เพราะเรื่องที่มันแต่งออกมาคือโคตรขยะวรรณกรรมเลยไง คนที่มัวแต่มองหาความสุขแต่ไม่มองหาทางที่จะได้มาซึ่งความสุขแม่งไม่มีวันที่จะแฮปปี้ได้โดยแท้จริงหรอก เพราะเรื่องราวมันไม่มี มันขาดความหมายของชีวิต มึงเองก็ลองแสวงหาดูสักครั้งก่อนตายก็ดีนะ เพราะเอาจริงๆ สักวันยังไงเราก็ต้องตายอยู่แล้ว เด็กที่มาโรงเรียนแต่ไม่เขียนอะไรลงสมุดจนจบเทอมเลยแม่ง... ไม่รู้ว่ะ ประหลาดเหี้ยๆ ดูเอ๋อสัสๆ กูหวังว่ามึงจะไม่ใช่เด็กเอ๋อคนนั้นนะเพื่อนโม่ง
>>828 กูเป็นขี้แพ้ กูคิดว่ากูทำอะไรก็ล้มเหลวตลอดน่ะ ล้มเหลวมาไม่รู้กี่งานต่อกี่งาน งานต่อไปกูก็คงไม่รอด ทั้งๆที่กูก็พยายามแล้ว จะลาออกจากมหาลัยมานั่งอยู่บ้านเฉยๆกูก็คงเป็นภาระพ่อแม่ ตอนนี้กูทำให้พวกเขาหมดความหวังในตัวกูแล้ว กูก็หมดความหวังในตัวกูเหมือนกัน กูเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ พอเจออะไรหนักๆมาปะทะกูก็รับไม่ได้ มีแต่ถอยหลังไปเรื่อยๆ กูคงไม่ใช่ประชากรแบบที่โลกต้องการเท่าไหร่
กูคงไม่สนว่าใครจะจำกูได้บ้างหลังจากที่กูตายไปหรอก แต่การอยู่แบบขี้แพ้แบบนี้มันทรมาณชิบหายเลยมึง กูทนเห็นตัวกูถอยหลังลงคลองแล้วโดนคนอื่นดูถูกไม่ได้ว่ะ
>>829 เอาจริงๆกูก็ไม่ได้อยากให้มึงอยู่ทรมาณต่อไปขนาดนั้นหรอก กูไม่เข้าใจสถานการณ์มึงด้วย กูแค่รู้สึกเหงา เพราะเพื่อนกูดรอปกันเรียนไม่ผ่านกันรัวๆแล้วกูเศร้าเหี้ยๆ มาอย่างขี้แพ้ไม่ว่า แต่อย่าเดินจากกูไปทั้งๆที่ยังเป็นไอ้ขี้แพ้สิ กูไม่อยากให้มันน่าเบื่อแบบนี้ ไม่อยากเปลี่ยนแปลงบ้างหรอวะ ถ้ามึงทนไม่ได้ที่จะต่อสู้ตอนนี้ มึงก็ยังไม่ต้องสู้ดิ หาทางรักษาสภาพจิตให้ดีก่อนก็ได้ โลกนี้แม่งโหดร้ายก็จริง แต่ไม่มีใครที่สู้แล้วตายจริงๆหรอก มีแต่สู้แล้วชีวิตจะสบายขึ้นเรื่อยๆ มึงเข้าใจสิ่งที่กูพยายามจะสื่อกับจิตวิญญาณของมึงใช่มั้ยเพื่อนโม่ง มนุษย์เราตราบใดที่ยังไม่ตายน่ะจุดความหวังให้ลุกโชนได้เสมอแหละ
กูก็เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อว่ะ แถมมีความรู้สึกว่ายิ่งพยายามยิ่งพลาดและไร้ค่า แต่จะไม่พยายามก็ไม่ได้ เฮ้อ
>>829 ไม่ใช่มึงคนเดียวหรอกที่คิดแบบนั้น กูก็คิด แต่กูก็ยังไม่อยากตายนะ ยังอยากทำอะไรอีกเยอะ ตามการ์ตูนให้จบ เล่นเกมให้เคลียร์ เขียนนิยายให้เสร็จซักเรื่อง ซื้อของที่อยากได้ให้สะใจ บลาๆ ถึงบางอย่างอาจไม่มีวันเป็นจริง แต่ถึงแค่ได้ฝันมันก็สนุกดีอ่ะนะ กูว่าจะพยายามทำลิสต์ว่าวันนี้กูทำอะไรสำเร็จอยู่ เรื่องเล็กๆน้อยๆก็ได้ อย่างวันนี้ทำเมนูยากๆสำเร็จ วันนี้วาดรูปสำเร็จ วันนี้คุยถูกคอกับเพื่อนสุดๆ เป็นต้น มันช่วยให้กูรู้สึกว่าชีวิตกูยังมีความสุขอยู่ว่ะ ถึงไม่ยิ่งใหญ่อะไรนักหนาก็เถอะ
>>829 ในเมื่อมึงทนเห็นคนอื่นดูถูกมึงไม่ได้ มึงก็ทำให้เขาไม่ดูถูกสิวะ!
กูจะบอกให้ ไอ้ความรู้สึกว่าตัวเองขี้แพ้ ทำอะไรก็ไม่สำเร็จอะ แม่งเกิดกับทุกคนแหละ บางคนโดนยิ่งกว่ามึงด้วยซ้ำ ทั้งคนรอบตัวมึง ทั้งมึง ทั้งกู
ยิ่งคนที่ประสบความสำเร็จมากๆในโลกนี้ ก็ผ่านจุดนี้มาทุกคน
จุดที่ตกต่ำที่สุด ถ้ามึงผ่านมันไปได้ จุดนี้ก็จะเป็นฐานของมึง ทำให้มึงแข็งแกร่งขึ้นอีก เคยได้ยินมั้ย "ยิ่งเราผ่านความเลวร้ายมามากเท่าไหร่ โลกปัจจุบันของเราก็ยิ่งสวยงามมากเท่านั้น"
เช่นว่า มึงตาบอดมาทั้งชีวิต มึงมองว่าการที่มึงตาบอดคือเรื่องธรรมดาของมึง(ฐาน) พอวันนึงมึงเกิดมองเห็นชัดแจ๋วขึ้นมา มึงก็จะมีความสุขมาก เพราะอะไร ทั้งๆที่คนทั่วไปไม่ได้มีความสุขเป็นพิเศษกับการมองเห็นชัด แต่มึงมองด้วยฐานที่ต่ำกว่าไง ทำให้การที่มึงแค่มีตาที่มองเห็นเหมือนคนอื่นนี่ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีมากแล้ว
แล้วมึงลองคิดดูนะ มึงยังมีแขน มีขารึเปล่า? ดมกลิ่นหอมได้มั้ย? มึงกินอาหารแล้วรับรู้ถึงรสชาติมั้ย? คนบางคนทำแบบมึงไม่ได้สักอย่างเลยนะ
มึงลองเปลี่ยนความคิดดู อย่ามองว่าอะไรๆก็แย่ไปหมดล้มเหลวไปหมด
ทุกๆอย่างที่มึงมีในปัจจุบันนั่นแหละคือความสำเร็จของมึง คือความภาคภูมิใจของมึง การที่มึงเกิดมาแล้วหายใจได้,ร้องไห้,หัดเดิน,คุยกับเพื่อน
หรือการที่มึงอ่านออกเขียนได้ มีคอมพิวเตอร์มีเน็ตให้ใช้ มีเพื่อนโม่งมาตอบข้อความมึง นี่ก็คือความสำเร็จของมึงแล้ว
แล้วมึงอย่ามาบอกกูว่ามึงไม่ภูมิใจในตัวเองนะ ทุกคนย่อมมีข้อด้อยของตัวเอง เพียงแต่ตอนนี้มึงโฟกัสข้อด้อยของมึงมากไป จนกลบ/ลืมข้อดีของมึงไปหมด
ลองหันมามองทางอื่นบ้างก็ดี ทุกอย่างที่มึงมีมันไม่ได้เลวร้ายไปซะหมด จำไว้ ถ้ามองจากปุยเมฆก็เห็นแค่ท้องฟ้า แต่ถ้ามองจากพื้นดิน มึงจะเห็นธรรมชาติที่สวยงามทั้งหมด รวมถึงท้องฟ้าที่กว้างกว่าเดิมด้วย
มึงพูดถึงแรงบันดาลใจอ่ะบางคนมันอาจจะพอมีแรงฮึดบ้างแต่คนที่มีปัญหาเคมีในสมองนี่ยากมาก ยังไงก็ต้องกินยาหว่ะ เพราะสมองมันจะตีความอารมณ์เพี้ยนบ่อยๆทำให้เข้าสังคมยากมาก ยังไงก็คิดซะว่าถ้าใครมีแนวโน้มทำร้ายตัวเองก็กล้าๆไปขอความช่วยเหลือให้เป็นเรื่องเป็นีราวด้วยนะครับ ไม่อายกับสิ่งที่ตัวเองเป็นแล้วจะได้แก้ปัญหาตรงจุด
กูกำลังรู้สึกว่าปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง แต่ตัวกูก็คนห่วยๆคนเก่าว่ะ เฮ้อ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง New year but old same me.
พวกมึงแนะนำเหี้ยอะไร กันเนี้ย แล้วพวกมึงเป็นเหี้ย อะไรกัน พวกส้นตีน กูจะบอกพวกมึงฟัง ที่พวกมึงท้อแท้ สิ้นหวัง ไม่มีแรงต่อสู้ เพราะว่า อย่างแรกเลย พวกมึงไม่มีมี เป้าหมาย ในชีวิต มึงเคยคิดมั้ย ชีวต มึง จะอยู่ เพื่อ ตัวเอง หรือว่า จะอยู่ เพื่อ คนที่มึงรัก สัดเอ้ย มึงต้องตั้งเป้าหมายในชีวิตก่อน อันดับแรก และต้องเป็นเป้าหมายเดียว ถ้าพวกมึงมองเห็นสิ่งที่ตั้งใจไว้ เดี๋ยวมันจะมีทางไป ของมันเอง เชื่อกู กูจะบอกให้ กูก็เหมือนพวกมึงนั้นแหละ แต่กูเปลี่ยน ความคิดแล้ว มีชีวิตอยู่ อย่างมีคุณค่า ถ้าไม่ใช่ตัวมึง ก็คิดถึงคนอื่น ก็ยังดี อย่าคิดแบบคนใจแคบ ..กูรักพวกมึง นะกูจะบอกให้
ขออีกนิด ลองทำดู แล้วอีก 1 ปี มาเปิดอ่านดิ แล้วเอ็งจะขำ
กูเคยมีเป้าหมายนะ แต่มันยากและไกลไปจนยิ่งทำให้ท้อ เค้าบอกว่าให้ตั้งเป้าหมายเล็กๆ ที่เป็นไปได้ก่อน กูเลยเปลี่ยนมาเป้าหมายเล็กๆ แต่ก็ยังเสือกล้มเหลวอีก เลยยิ่งเฟลยิ่งท้อไปกันใหญ่ว่าเรื่องเล็กแค่นี้กูยังทำไม่ได้ สรุปคนอย่างกูมันทำเหี้ยอะไรไม่สำเร็จซักอย่าง
https://twitter.com/ibangearn/status/472316183769653248
วันนี้กูเปิดทวิตเตอร์แล้วไปเจอทวิตเก่าที่กูเคยแชร์มา กูรู้สึกว่าเป็นแบบฝรั่งในภาพก็ดีนะ
ไม่ต้องทำให้อะไรให้ยิ่งใหญ่มากก็ได้ แค่ช่วยเหลือหรือแบ่งปันอะไรเล็กๆน้อยๆให้คนอื่นก็พอ
เด็กในภาพคงสนุกกับนิทานแล้วมีความสุขดี
http://pantip.com/topic/34557705 กูอยากไปานเลี้ยงรุ่นนะ อยากรู้ว่าเพื่อนๆแต่ละคนเปลี่ยนไปขนาดไหน แต่ก็อายตัวเองที่เป็นแค่NEETขี้แพ้ตัวหนึ่ง
ถ้าไปคงต้องตอแหลว่าทำงานนู้นนี่อีก
/me เดินมานั่งโต๊ะขี้แพ้เงียบๆ
พยายามหาอะไรทำว่ะ ก้าวไปข้างหน้าเรื่อยๆ อย่าเพิ่งหมดหวัง
กูเนี่ย กูจะบอกให้ว่า กูเคยตั้งใจไว้ว่าจะอยู่แค่ถึงอายุ 30 พอ เพราะชีวิตแม่งบัดซบมาก มีแต่ลงกับลง
เรียนก็ไม่จบ งานก็กาก ไม่พอเลี้ยงตัวเอง ต้องอยู่กับแม่ ขอเงินแม่ใช้ แฟนก็ไม่เคยมี (32 ยังโสดซิงครับ เป็นโคตรพ่อโคตรแม่จอมเวทย์แล้วกูน่ะ)
ตอนนั้นก็คิดเอาไว้ว่าจะอยู่แค่ 30 นี่แหละ ใช้เงินเก็บเท่าที่มีไปหาความสุขเล็กๆน้อยๆ (บุฟเฟ่, เที่ยว, ไม่ใช่อ่างนะ อย่าเข้าใจผิด)
จากนั้นก็หาวิธีสบายๆสักวิธีลาโลกไป จะได้ไม่ต้องเป็นภาระของแม่อีก
แต่ช่วงใกล้ๆสามสิบ ด้วยความเซ็งๆ ลองไปลงเรียนภาคค่ำดู ลงไปงั้นแหละ แม่บอกให้ว่างๆไปลงก็ลง
ปรากฏว่าเสือกเรียนได้ดีว่ะ คงเพราะแก่แล้ว มีประสบการณ์ชีวิต ทำให้เรียนเป็น ประยุกต์ความรู้จิปาถะมาใช้กับการเรียนได้
แก่สุดในห้องแล้วกูน่ะ แต่เด็กๆนับหน้าถือตากันหมด เรียกกูว่าพี่เทพ เพราะในห้องเอาแต่จิ้มมือถือเล่นเกม ไม่ก็อ่านไลท์โนเวล แต่เสือกเรียนได้ A
พอมีเรื่องดีๆเข้ามาก็เริ่มรู้สึกว่าชีวิตมันยังพอมีคุณค่าว่ะ ลองยืดเวลาไปอีกหน่อยละกัน เลยยังไม่ดำเนินแผนการปิดเครื่องตอนอายุ 30
จนมาตอนนี้ ช่วงปีนี้เลย งานชิ้นนึงที่ทำเล่นๆ มันไปเข้าตาผู้ใหญ่เข้า เขาเลยมาติดต่อให้ไปร่วมงานด้วย
ซึ่งค่อนข้างชัวร์ว่าได้งานแน่ แถมค่าตอบแทนก็ไม่เลวอยู่ ตอนนี้รู้สึกอยากเล่นต่อแล้วว่ะ ไม่อยากปิดเครื่องแล้ว
ที่อยากจะบอกคือ ถ้าอยู่เฉยๆ นอนรอวันปิดเครื่องอย่างที่ตั้งใจไว้ในทีแรก กุคงมาพิมตรงนี้ในฐานะผีสิงเน็ทอะนะ เพราะตายไปกุก็ไม่ไปไหนหรอก
แต่พอดีด้วยการกลิ้งๆ แล้วฟลุค แล้วอะไรหลายๆอย่าง สรุปคือขอแค่มึงทำอะไรสักอย่างไปเรื่อยๆ อย่าจม อย่าอยู่เฉย
บางทีมันก็อาจได้พบคุณค่าในตัวเอง หรือได้เจอโอกาสแล่นเข้ามาหาได้เหมือนกันน่ะ
เศร้าได้ ท้อได้ แต่อย่าถอดใจเว้ย พยายามหาทางขยับเขยื้อนบ้าง นิดหน่อยก็ยังดี
มึงไม่รู้หรอกว่าหวดมือสะเปะสะปะไปทางไหนอาจคว้าเจอเชือกให้ดึงตัวเองขึ้นมาจากตมได้น่ะ
เพราะงั้นพยายามเข้านะ อย่าเศร้าอย่างเดียวเว้ย ความหวังยังมีเสมอ กูพูดจริง
>>857 ดูท่าความหวังกูจะมาช้าชิบ เรียนจบมาสองปี เพื่อนได้งานในบ.ดีๆทำ ส่วนกูก็รับฟรีแลนซ์กิ้กก้อก แต่ยังดีที่ได้ตังค์ ถึงเยอะสู้เค้าไม่ได้ก็เหอะ เคยท้อหลายครั้งละ วางไว้ว่าจะทำชีวิตให้มั่นคงให้ได้ก่อนอายุสามสิบแท้ๆ ปีหน้าก็ยี่สิบหกละ เอาวะ ลองพยายามลองหวังต่อก็ได้ ขอบใจมาก
ตอนนี้กูรู้สึกว่ามีชีวิตอยู่ด้วยความทรงจำดีๆในอดีตล้วนๆเลยว่ะ เหมือนกับผ่านช่วงพีคของชีวิตมาแล้ว นึกแล้วก็ตลกดี สมัยเรียนมอปลายเป็นตัวท็อปส์ๆของห้อง สอบเข้ามหาลัยของรัฐได้ ชีวิตมหาลัยก็สนุกสนานดี มีความทรงจำดีๆหลายอย่าง มีเพื่อนใหม่ ออกค่ายอาสา แต่พอเรียนจบทุกอย่างก็ค่อยๆดิ่งลงเหมือนกับสิ่งที่ผ่านจุดสูงสุดแล้วมันก็ค่อยๆตกลงมา เกรดเฉลี่ยกูไม่ดีด้วยล่ะเกินสองมานิดหน่อยแถมจบช้าไปปีหนึ่ง หางานทำได้สองปีก็ลาออกมาอยู่บ้านกับพ่อแม่กะว่าจะหางานใหม่แต่ก็ไม่ได้หาซักที รอสอบงานราชการอยู่ แต่ก็คิดว่าจะพยายามไม่สิ้นหวังไม่จมอยู่กับอดีตมากเกินไป
>>860 เหมือนกูเลย บอกตรงๆกูไม่มีความสุขกับชีวิตปัจจุบันเลย กูนึกถึงอดีตกูมีความสุขกับมันจนลืมเวลา มันผ่านไปไวมาก พอมาอยู่ตรงนี้กูจะเป็นบ้า กูไม่อยากยอมรับสิ่งที่อยู่ตอนนี้ อะไรใหม่ๆที่เข้ามากูปิดกั้นหมด ไม่ว่าเพื่อนหรืออะไร
บางทีกูนั่งดูรูปหรือฟังเพลงที่อยู่ในเวลาที่กูมีความสุข กูยิ่งดิ่งมากกว่าเดิม มันทำให้กูอยากย้อนกลับไปอยู่เวลานั้น ไม่อยากอยู่กับปัจจุบันไม่อยากเจออนาคต
บางทีกูอาจจะกลัวการเปลี่ยนแปลง กูชินกับชีวิตในอดีตที่เป็นมาหลายปี ผ่านมา3ปีแล้วกูก็ยังไม่ชิน มีแต่จะแย่ลงๆ กูเก็บตัวมากขึ้นจากที่ปกติกูเป็นคนฮาๆ
บางครั้งกูคิดมากกูนอนไม่หลับ หรือบางครั้งกูอยากจะนอนอย่างเดียวไม่อยากตื่นมาเจอปัจจุบัน
>>862 กูกลัวเป็นนะแต่กูคิดว่ากูไม่เป็นหรอก กูยังมีความหวังหน่อยๆว่ากูอาจจะเจออะไรดีๆถ้ากูหลุดจากตรงนี้ไปได้ กูพยายามปรับตัวอยู่เพราะอย่างที่บอกอ่ะว่ากูอาจจะกลัวการเปลี่ยนแปลง อะไรใหม่ๆกูอาจจะยังไม่ชิน แต่ดูจะใช้เวลาปรับตัวนาน เพราะอดีตที่กูผูกพันกูใช้เวลาร่วมกับมันมาเป็นสิบกว่าปี
แนะนำหนังเรื่อง Intern พระเอกเกษียณแล้วมาทำงานกับเด็กรุ่นลูก ต้องเรียนรู้งานใหม่ Feel good ดีเรื่องนี้
ก่อนเรียนจบกูแอบชอบเพื่อนที่เรียนด้วยกัน แล้วคุยเปิดใจ ผลคือกูร้องไห้หนักมาก หลังจากนั้นกูกับเค้าก็ไม่ได้คุยกันอีก
ตอนนั้นกูคิดว่าถ้าเวลาผ่านไปซักสี่ห้าปีกูสร้างเนื้อสร้างตัวได้คงกลับไปคุยกับเค้า
แต่ตอนนี้เค้ามีงานทำกูเป็นNEET อยู่ต่างจังหวัด อยากกลับไปคุยนะแต่ก็อายตัวเอง
กูคนนึงที่พยามเดินออกมาจากเซฟโซน เพื่อหาอะไรใหม่ๆ ให้ชีวิต ค้นหาสิ่งที่ตัวเองรัก สิ่งที่ตัวเองชอบ แต่ก็อย่างว่าพอออกมาจากเซฟโซนมันก็เริ่มกลัว อยากวิ่งกลับเข้าบ้านละหว่า ไอ่ห่าเอ้ย แต่เมิงรู้มั้ยว่า ตอนที่ออกมา กูแม่งตื่นเต้นสัส ได้ทำเชี่ยหลายๆอย่างที่กูไม่เคยทำ แต่ตอนนี้เงินเริ่มจะไม่มีแดกแล้วทำเหี่ยไรได้ก็ทำๆไปก่อน เมิงคิดหรอว่าเงินจะลอยมาจากฟ้า หรือเมิงโชคดีก็คงถูกหวย เอาหน่ะอย่างน้อยเป็นลูกจ้างเค้าอีกสักหน่อย พอหาทางคลำทาง ประสบการณ์ที่สั่งสมมามันจะหล่อหลอมรวมกันให้เจอสิ่งที่ตัวเองรัก
กูรู้สึกว่ากูเป็นคนที่เกิดมาเพื่อเป็นลูกจ้างว่ะ กูมั่นใจเลยว่ากูเป็นผู้ตามที่ดีเยี่ยมมากๆ
กูชอบเวลามีใครสักคนสั่งให้กูทำอะไรสักอย่าง พอกูทำออกมาแล้วเขาชมกูอะ
แต่กูไม่สามารถเป็นผู้นำใครได้ กูไม่กล้าออกคำสั่ง แค่บอกหรือประสานงานยังไม่ได้เรื่อง
กูฟังงานได้แต่กูอธิบายและบอกงานไม่ได้ ทำได้แค่ทำมันออกมาให้ เวลาโดนตำหนิกูก็ชอบนะ
พอแก้มาแล้วเขาชมแล้วมันดีอะมันรู้สึกดีมากๆ จนบางทีกูรู้สึกฟินเวลาโดนตำหนิ แต่ตอนโดนชมกูก็ชอบมากเหมือนกัน
กูเคยทำงานร้านพ่อตัวเองมาก่อน
ก็งานชิวๆ ทำสบายๆ แต่กูก็ทำมันพัง
(กูจำไม่ได้ว่าตอนนั้นทำไมกูถึงไม่ทำต่อ)
แล้วกูก็มาเริ่มงานเป็นเบ๊ในออฟฟิศ
และกูก็ทำมันพังอีกครั้ง อันนี้ความผิดกูเองเต็มๆ ไม่แก้ตัว
และตอนนี้อีกกูก็ได้งานใหม่ชิวๆสบายๆ
แต่กูก็เริ่มจะเหลวอีกแล้วมั้ง เท่าที่สังเกตตัวเอง ตอนแรกกูว่าจะตายๆไปซะ แต่ตอนนี้พอมีเหตุจูงใจให้ต้องทำงานเก็บเงินให้ญาติสนิทกู..
เฮ้อแม่งผิดหวังกับตัวเองว่ะ พอได้ทุนเริ่มนั่นนี่ก็ทำพังๆๆ
บางทีกูก็อยากเกิดมามีจุดมุ่งหมายบ้าง เกิดมาลอยๆงี้ ต้องใช้ชีวิตวันๆ ข้าวของที่อยากได้ก็ไม่ได้มี ครั้งนี้กูจะพยายามถึงที่สุดเพราะถ้าเจ๊งมันไม่ได้มีกูที่เดือดร้อน อืม.. มาระบายเฉยๆว่ะ ถ้ามันเจ๊งกูจะไปฆ่าตัวตายหนีแม่ง
ตอนนี้กูรู้สึกว่าความบันเทิงทุกประเภทให้ความสุขกูไม่ได้แล้วว่ะ
เมื่อก่อนสมัยเรียน อ่านนิยาย ดูหนัง ดูอนิเมะ อ่านจบมันก็ฟินนะ
ดูแฟนฉันครั้งแรกฟินไปเป็นอาทิตย์
อ่านนิยาย 5cm per second ของชินไคฟินไปสามสี่วัน
เกมส์ก็เล่นได้ทั้งวัน
แต่พอโตขึ้นกูรู้สึกว่าเวลาได้เสพย์งานดีๆ มันก็ถึงจุดที่อิ่มตัวกับความบันเทิง อารมณ์ประมาณว่ารับของดีมาเยอะจนรับมาอีกก็ไม่สนุกเท่าเดิมแล้ว
เพื่อนโม่ง ถ้ามึงรู้ว่าพ่อมึงกำลังเป็นอัลไซเมอร์ มึงจะทำยังไง
>>876 คือกูจะเล่าให้ฟังว่ากูอยากทำKickstarter ทำคล้ายๆดอกแทคให้คนป่วยความจำเสื่อม,เด็กเอ๋อ,เด็กเล็กใส่ติดตัวเวลาไปข้างนอกหว่ะ
ทำแบบเป็นป้ายผ้าเล็กๆแบบที่ติดทึ่หลังคอเสื้อให้ผ้ามันทนๆไม่เคืองผิว.
1. คนที่ในบ้านมีคนอัลไซเมอร์,เด็กเอ๋อ เขากลัวเรื่องจะหายไปจากบ้านก็สั่งกู
2. กูทำป้ายที่ว่าให้มีข้อมูลแบบเบอร์โทรบ้าน,โรคประจำตัวของเขา,หรือชื่อ,IDประชาชน ให้100แผ่น
3. คนซื้อก็แอบเอาป้ายไปเย็บติดเสื้อผ้าไว้
4.เวลาคนหายถ้าเขากลับบ้านไม่ถูก แต่เสืัอผ้าตัวเดิมคนที่เห็นเขาจะติดต่อกลับบ้านให้ไปรับได้
เอาง่ายๆเลยคือคนมันขี้ลืมแต่คงไม่ถึงขั้นไม่ใส่เสื้อผ้าออกจากบ้านอ่ะนะ ก็ติดให้คนความจำเสื่อม,เด็กเอ๋อ,เด็กเล็กไปโรงเรียน, เด็กวัยรุ่นหนีบ้านไปแว้นเวลามันโดนรถชนโรงพยาบาลจะได้โทรตามญาติถูก
โม่งที่อ่านคิดว่า "ป้ายผ้าคนหาย" ของกูเวิร์คไหมวะ ใครจะเลียนแบบตอนนี้ก็แอบเอาหมึกเพอร์มาเนนท์(หมึกทนน้ำเขียนเบอร์โทร.ที่บ้านไว้ที่แขนเสื้อ,ด้านในกระเป๋ากางเกงส่วนใหญ่สีขาว ก่อนก็ได้นะ) เขียนไปว่าถ้าเขากลับบ้านไม่ถูกให้โทร.มาเบอร์บ้านแบบนี้
อยากตายว่ะมึง หลายรอบแล้วอ่ะ ปัญหาเรื่องเรียน+ครอบครัว ไม่มีคนระบาย เพื่อนสนิทที่สุดแม่งก็เพิ่งทิ้งกูไป แถมแม่งยังเอาเรื่องครอบครัวที่กูเคยปรึกษามันไปล้อว่าเป็นปมด้อยกูในทวิตอีก แม่ง
>>881 มึงระบายมาได้เลย ชาวโม่งยินดีรับฟังมึง
หรือมึงจะไประบายในแชทก็ได้นะ https://fanboi.ch/karma/2128/ กูทำบ่อยเวลาเครียดๆ
มึงกูรู้สึกแย่ กูรู้สึกแย่มากที่กูทำตามความคาดหวังครอบครับไม่ได้ กูไม่อยากทำ มันเป็นเรื่องที่กูไม่อยากแต่เขาต้องการให้กูทำ มันเป็นเรื่องเล็กๆงี่เง่าด้วย
แต่กูไม่อยากทำ กูไม่อยากยังไงก็ไม่อยาก แต่เขาทำหน้าผิดหวังใส่กู กูรู้สึกแย่แต่ยังไงๆกูก็ไม่อยากทำ แต่กูก็เสียใจ
มันทำกูกลัวถ้ากูทำตามความคาดหวังอย่างอื่นไม่ได้กูจะหมดคุณค่ามั้ย ถ้ากูทำไม่ได้อีกเขาจะทำหน้าผิดหวังใส่กูอีกมั้ย ถ้ากูทำตามความคาดหวังที่เขาต้องการไม่ได้กูควรทำยังไง กูไม่รู้ แต่กูรู้สึกเศร้ามาก กูรู้สึกเศร้ามากๆ
>>883 ฟังคุณด้วยใจ โทร. 02-713-6793,12:00-22:00
http://www.samaritansthai.com/
เหนื่อย อุตส่าห์กำลังมีความสุขของตัวเองอยู่ดีๆ แต่หลายครั้งก็มักถูกความสุขของคนอื่นที่ดูดีกว่า ดังกว่า ราคาแพงกว่ามาโถมใส่แทบทุกที พยายามไม่สนใจแต่ก็ไม่ไหวว่ะ มันอดไม่ได้จริงๆ เฮ้อ จากสุขๆกลายเป็นเฟลเลยแม่ง
ไม่เห็นไม่ใช่ว่าไม่มี แหม่ กูมีแต่กูไม่อวดแค่นั้นเอง ทำไมต้องมาทำเหมือนกูคนละระดับชั้นกับพวกมึงด้วยวะ ห่า ใช่ บางอย่างไม่มีปัญญาซื้อแต่หลายอย่างกูก็มีนี่หว่า เอามาตรฐานตัวเองมาวัดคนอื่นชัดๆ มึงเอาเงินไปซื้อก็เรื่องของมึงดิ เออ ถ้ากูก็อยากได้กูถึงจะอิจฉาหรอก แต่ส่วนใหญ่ไม่ไง ไม่ได้อยากรับรู้เลยด้วยซ้ำ เหอะ เซ็ง
ถ้าพวกมึงเครียดนักก็เอากัญชามาแดกเหอะ
ยาเสพย์ติดแก้อาการซึมเศร้าด้ชั่วคราวแต่ทิ้งผลเสียไว้เยอะกว่า ถ้าอยากหายเศร้าแนะนำพวกแอลกอฮอล์ดีกว่ายาแรงๆแบบกัญชา
เรื่องของพวกมึงมันขี้ๆกันมาก มึงรู้มั๊ยว่าการเป็นคนไทยแล้วไม่ได้แดกอาหารไทยๆ มันเจ็บปวดแค่ไหน
พวกมึงรู้ไหมว่ากว่ากูจะหาร้านอาหารไทย ที่ไทยแท้ๆ จริงๆมันหายากแค่ไหน กูหาแทบตายพอเจอปั๊บกูสั่งข้าวมันไก่ เสือกไม่มีให้กู
มึงรู้ป่ะว่ากูสิ้นหวังแล้วทรมานมากแค่ไหนที่ไม่ได้กินมาม่า ขนมจีบ หมี่เกี๊ยวหมูแดง หมูกรอบ ข้าวซอย พะโล้ เห็ดฟาง etc.
กูสิ้นหวังมาก เครื่องปรุงพวก ซีอิ้วขาว น้ำมันหอยก็ไม่มี คะนอ กับ รสดีกูก็จะหมดแล้ว กูจะอยู่ต่อยังไง
วันนี้มันวันวินาศสันตะโรอะไรของกูวะเนี่ย
เฮ้อ เหนื่อยจังมึง กูรู้สึกสิ้นหวังแล้วสมเพชตัวเองมากว่ะ ทำไงให้มันหายไปดีวะความรู้สึกนี้
กูเหนื่อยใจที่ตัวเองเป็นแบบนี้ว่ะ
ทำไมมหาลัยต้องปิดเทอมเปิดเทอมแบบอาเซียนด้วยวะสัส
บางทีกูก็รู้สึกว่าตัวกูไม่มีค่าเลย
กูเห็นแล้วสิ้นหวังแทนวะ
http://pantip.com/topic/34638731
สิ้นหวังกูรู้สึกเหมือนเป็นขยะเลย กูไม่มีเพื่อนในโรงเรียนเลยกูเหมือนคนไม่มีตัวตนเลยไม่ไหวกูอยากร้องไห้ว่ะ คืองี้ กูอยู่ในกลุ่มเพื่อนในห้องกลุ่มใหญ่ๆกลุ่มนึง แต่เหมือนเปนอากาศเลยว่ะพวกมันไม่ค่อยเปิดใจกับกูพวกมันอยู่เปนกลุ่มมากกูก้เข้าสังคมไม่เก่งและขาดความมั่นใจอย่างรุนแรง ช่วงแรกๆมันก้มาคุยดีกับกูนะเว้ย แต่กูก้ไม่ค่ิยกล้าคุยมากเลยตอบแบบอ้ำๆอึ้งๆไป แล้วพวกมันก้เริ่มห่างเหินกู กูไม่รู้จะคุยอะไรที่ทำให้สนิทมากขึ้นอ่ะ มีใครแนะนำอะไรได้ไหม เวลามันคุยอะไรกันแล้วกูเดินไปใกล้ๆมันก้เงียบมันเป็นฟีลที่เจ็บมากเว้ยนึดไม่ออกว่าจะเข้าหาหรือคุยอะไรดีก้เลยได้แต่เงียบๆในกลุ่มทุกวันนี้กลับจากโรงเรียนกูร้องไห้บ่อยมาก ไม่รู้จะทำยังไง เหมือนตัวเองเป็นอากาศในห้องอ่ะสิ้นหวังล้วนใครก้ได้ช่วยกูด้วย...
กูบอกประโยควิเศษให้. เดินเข้าไปหาคนนิสัยดีดี แล้วบอก “เธอ/นาย มาเป็นเพื่อนกันเถอะ“ เขื่อกูส่วนใหญ่ไม่ปฏิเสธหรอก
ความรู้สึกกูในตอนนี้เหมือน >>883 มาก ๆ บวกด้วยคนในบ้านบังคับให้เคร่งศาสนาตามใจเขา อึดอัดชิบหายแต่พูดไม่ได้ ขัดใจก็มึนตึงใส่กู
ดีไม่ดี อาจจะเอาของ ๆกูไปทิ้งด้วย
พี่ชายคาดหวังให้กูเป็นอย่างที่เขาเป็น พอกูทำไม่ได้ เขาไม่อยากคุยกับกูเลย บางทีก็ด่าก็กดดันกู ซึ่งกูพยายามแล้วและไม่ถนัดแบบที่เขาทำด้วย
เริ่มปีใหม่ ไม่มีเหี้ยอะไรดีเลย มีแต่คนเอาแต่ใจใส่กูแล้วเชิดหนี มีกูนั่งเสียใจอยู่คนเดียว
เดินเล่นมือถืออยู่บนทางเท้าสักพักมอเตอร์ไซต์ขับมาบอกน้องเดินไม่ดูรถเลย
>>905 ถ้าเรียนมหาลัยอย่าทำนะเดี๋ยวยิ่งกลายเป็นตัวประหลาด.
ตอนนั้นผมใช้วิธี เวลาเรียนแลป มันต้องรอผลการทดลอง บางทีมันจะผ่านเวลาเที่ยงหรือเย็น ผมจะลงไปซื้อของกินที่เซเว่น จะถามเพื่อนว่าจะฝากซื้ออะไรบ้าง เราก็เดินลงไปซื้อให้เขาหน่ะ. กล้าๆทำดีกับคนอื่นหน่อยจะเข้ากับคนง่ายครับ
คนที่กูไม่ชอบเล่นโม่ง และกูเคยนินทามันในโม่ง.......................................................................................
คนที่กูชอบ เขาเล่นโม่ง และกูก็เคยมาเพ้อถึงเขาในโม่ง
คือเคยรู้สึกกันป่ะวะ ไอ้การที่แบบเอ่อเว้ย เราทำเหี้ยอะไรก็กลายเป็น loser เนี่ย มันรู้สึกจริงๆนะว่าเหมือนหน้ากูมีคำว่า loserสลักอยู่หรือไงว่ะ
มีใครแม่งเคยป่ะว่ะไอ้ความรู้สึกที่ว่าตัวเองแม่ง loser แบบกูอ่ะ กูขอดูหน่อย กูจะได้รู้ว่าอย่างน้อยในโลกนี้ก็ไม่ได้มี loserแค่กูคนเดียว
---
กู ตอนเด็กๆจะรู้สึกว่าตัวเองพิเศษมาตลอด เรียนเก่ง ทำอะไรก็โดดเด่น เป็นตัวแทนห้อง จนมาพลิกตอนมัธยม ยิ่งโต ยิ่งเจอคนเยอะขึ้น ยิ่งมั่นใจตัวเองน้อยลง หนักเข้าก็ไม่มีความสนใจทำอะไรซักอย่าง จบด้วยการเป็น loser ไปวันๆ เย้
>>916 ตอนประถมกูเก่งระดับท็อปห้อง ฐานะก็ดีระดับต้นๆของห้อง (กูลูกข้าราชการไปเรียนโรงเรียนเอกชนบ้านนอกที่ลูกชาวนามาเรียน)
เรียนเก่ง เพื่อนเยอะ คุณครูรัก เรียกได้ว่าเป็นนักเรียนดีเด่นของโรงเรียน ขาดแค่เรื่องกีฬาที่ทำได้ไม่ดี
เข้ามอต้น รร.ประจำจังหวัด กลายเป็นที่โหล่เพราะเสือกไปอยู่ห้องคิงส์
พอเข้ามอปลายก็ดีขึ้นมาหน่อย กลับมาเป็นเด็กเรียนอันดับต้นๆของห้องอีกครั้ง เพราะเลือกสายภาษาเด็กเรียนเก่งระดับกลางๆ
ตอน ม.6ชีวิตกูพีคมาก เป็น1ใน4คนที่สอบติดโควต้าคณะอักษร เป็นคนแรกๆของห้องที่มีที่เรียนในมหาลัยรัฐ หลังจากนั้นกูได้โควต้ามหาลัยรัวๆจนไม่ต้องไปลุ้นแอดมิชชั่น ชีวิตปี1อยู่มหาลัย อยู่หอใน เพื่อนเพียบ กิจกรรมเพียบ เรียน เล่น จีบสาว ทุกอย่างดีหมดจนกูเริ่มติดF
แต่กูเรียนจบในที่สุดถึงจะช้ากว่าเพื่อนไป 1 ปี จบออกมาได้งานไม่ตรงสายแต่ก็คิดว่ายังดีที่มีงานทำ กูทำได้สองปีก็ลาออกมาอยู่บ้านที่ต่างจังหวัด
กูเคยคิดนะว่าชีวิตกูนี่เหี้ยที่สุดแล้ว เพื่อนคนอื่นในรุ่นสมัยมอต้นเรียนต่อสายแพทย์ทั้งนั้น มีงานดีๆทำ เพื่อนสมัยมหาลัยก็จบวิศวะ จบกฎหมาย มีงานดีๆตรงสายงาน ส่วนตัวกูสุดท้ายก็เป็นไอ้ขี้แพ้ว่างงาน เวลาเห็นเพื่อนบางคนเริ่มแต่งงานกูก็แอบเศร้าเล็กๆ แต่ก็คิดไว้แล้วล่ะว่าชีวิตนี้คงไม่มีครอบครัวเหมือนคนอื่น
ทุกวันนี้ก็พยายามทำตัวเองให้ดีขึ้นนะ พยายามเรียนภาษาเพิ่ม หางานราชการสอบ กลางปีคงออกไปหางานทำอีกรอบ
เหนื่อย ท้อ เหนื่อยจนอยากจะปล่อยมือจากทุกสิ่งทุกอย่างแม่งแต่ก็ทำไม่ได้เพราะคำว่าความรับผิดชอบมันค้ำคอ
ไม่ถึงกับชีวิตนี้สิ้นหวัง แต่กูท้อว่ะ พอกูรู้ว่ากูต้องเรียนอะไรบ้างกูต้องทำแลปหรือฝึกงานกี่ ชม.กูก็รู้สึกเหี้ยแล้วว่ะ
ถ้าเป็นคณะอื่นกูทนแปปๆก็จบ แต่นี่กูเรียนมากกว่าคณะอื่น แถมตารางเรียนก็เต็ม ไม่มีที่ว่างแบบคณะอื่นเขา
พอมีที่ว่างเขาก็จะนัดเพิ่มกูอะ แล้วกูก็เรียนไม่รู้เรื่อง โดดก็ไม่ได้อีกเพราะเพื่อนกูไม่มีใครกล้าเซ็นชื่อให้เลย
ขนาดเพิ่งเปิดเทอมกูยังรู้สึกว่ากูเพลียอย่างกับเปิดมาเป็นเดือน ไม่เฟรชเหมือนสมัยกูเปิดเทอมที่ รร.เลย
พอปิดเทอมกูหวังไว้ว่าจะได้ปิด3เดือนเพราะกูมีแพลนทำงานอดิเรกกูซึ่งกูประมานไว้ว่า3เดือนกูทำเสร็จ สรุปคือไม่ใช่เว้ย พ.ค.กูก็ยังไม่ปิด
แล้วนี่กูปียังไม่สูงเลย ถ้าปีหลังๆกูไม่มีเวลาทำสิ่งที่กูรักเลยเหรอวะ แค่ตัววิชาเรียนกูก็เครียดแล้ว งานกับการจับกลุ่มทำงานที่ฟิกและเวลาต่างๆก็ทำกูเครียด
กูเริ่มเป็นนู่นเป็นนี่ตั้งแต่เทอมที่แล้ว เครียดโรคที่เป็นก็เครียด เครียดเรียนก็เครียด กลัวตกก็กลัว ฝึกงานก็เยอะไม่ฝึกก็ไม่ได้
>>916 กูนี่ล่ะไอ้ขี้แพ้ตัวจริง ขน่ดจะโพสโม่งแม่งยังโพสผิดจนมอดต้องมาล็อกทู้มึงคิดดู เรียนมาแม่งสูงเสียเปล่า แม่งเสียเปล่าจิงๆ ทำงานหาเงินไม่ได้ ที่เรียนมาเหมือนเอาทิ้งหลุมขยะรอให้มันเน่าไปวันๆ ทำเหี้ยไรก็ผิด ไปทำงานที่ไหนก็โดนหมายหัวว่าไร้ประสิทธิภาพ ทุกวันนี้กูมีชีวิตด้วยความรู้สึกหดหู่ตลอดเวลาเพราะวันข้างหน้ากูจะทำอะไรหาเลี้ยงตัวเองได้บ้างถ้ากูไม่มีที่ให้อาศัยอยู่แล้ว
เครียดว่ะเพื่อนโม่งโดนไล่ออกจากงาน
กูชอบรักษาระยะห่างกับคนที่เพิ่งรู้จักกันอ่ะ เกรงใจเขา แต่พอเห็นคนอื่นเอฮากันสนิทกันเร็วมาก แล้วกูยืนมองห่างๆ เหมือนโดนทิ้ง โคตรเจ็บเลย TT
กูเบื่อแม่ตัวเองจังว่ะ ไม่เคยฟังที่กูพูดเลยสักรอบ พอบ่นก็ทำเป็นฟังแต่ไม่เข้าใจ เป็นพวกอีโก้สูงจัดชอบแคร์คนอื่นมากกว่าคนในครอบครัว
ชอบเอากูไปเปรียบเทียบกับชาวบ้าน หาว่าเด็กฝรั่งอายุเท่ากูมันออกนอกบ้านไปอยู่เองแล้วไม่มาเพิ่มค่าใช้จ่าย ซึ่งเอาจริงๆกูออกไปก็ได้นะ
แต่อย่าแดกตังค์กูอีก กูจะไม่ให้สักบาท เออนั่นล่ะกูไปแน่ ถ้ารู้ว่าจนพวกพ่อแม่ทั้งหลายมึงจะมีลูกมาทำไมละวะ แบบนี้ก็เป็นแค่คนไร้ความรับผิดชอบ
ดูแลไม่ได้ก็หาว่าพวกกูผลานเงินตัวเอง เอ้าแล้วจะมีไปทำเหี้ยอะไรลูกน่ะ แต่ก็เอาเถอะไว้กูทนไม่ไหวกูจะออกไปให้ไกลๆแล้วไม่กลับมาเหยียบมายุ่งอีกเลย ชีวิตคิดแต่ว่าจะต้องมีเงินหาเงินมาเยอะๆจะได้สบาย ไม่คิดว่ากูอยากใช้ชีวิตแบบตัวเองมั้ยคิดแทนกูไปซะหมด เอาจริงๆกูคิดมาหลายรอบแล้วล่ะว่าบางทีตายห่าไปก็คงจะดีเหมือนกัน ทุกอย่างจบไม่ต้องมานั่งเคลียดนั่งคิดให้ปวดหัวกับชีวิต กูว่ากูก็ใกล้กับช่วงเวลาที่จะบอกลาโลกเต็มทีแล้วล่ะว่ะ กูเบื่อ ทั้งเบื่อทั้งเกลียดทุกอย่างรอบตัว
>>928 แล้วมึงอยากใช้ชีวิตตามที่ตัวเองชอบนี่คือยังไงวะ
มึงอยู่ไปวันๆผลาญเงินเค้าไปเรื่องอย่างที่เค้าว่าจริงรึเปล่า
ถ้ามึงคิดแล้วว่าแม่มึงมันไม่ทันโลกจริงๆ มึงแน่พอแล้ว มึงก็ออกจากบ้านไปเลย กูเองก็มีพ่อแม่บงการชีวิต กูเลยตัดสินใจออกไปอยู่หอ หางานพิเศษทำ ขอทุนมหาลัย เลี้ยงตัวเอง นานๆทีก็กลับไปเยี่ยมบ้านบ้าง ชีวิตดีขึ้นเยอะ
กูว่าครอบครัวคนตายเสียหายนะเนี้ย
>>916มึงใช่ป่ะที่เป้นคนไปบอกให้กูมารวมกระทู้นี่ะ กูไอ้คนเปิดกระทู้loser เองนะ
ถ้าถามว่าความรู้สึกกูตอนนี้เป้นยังไง>>912 นี่แหละกูด้วย แต่กูตอนนี้รู้สึกแม่งแย่กว่าขยะอ่ะ แม่งทำควยไรก้ผิดก้พลาด
คนอื่นเวลาแม่งล้มกูช่วยแม่งตลอดอ่ะ แต่เวลากูพลาดบ้างแม่งมีแต่เหยียบกูซ้ำ แม่งไอ้เหี้ยกูไว้ใจแม่งว่าเป้นเพื่อนไอ้สัด ใส่หน้ากากตอแหลกันทั้งนัน เพื่องโม่งมึงรู้แะ ตอนนี้ความรู้สึกกูแม่งไม่ต่างเหี้ยไรกับกากเดนอ่ะ ครอบครัวก้คาดหวังกันชิบหายอยากให้กูเป้นข้าราชการ ทั้งครอบครัวกูมีแต่คนเก่งๆงานดีๆ แต่กูนี่เหี้ยอะไรวะ เย็ดแม่เอ้ย โคตรขยะที่แย่กว่าสวะอ่ะ แม่งกูอยากบอกครอบครัวกูว่ะ อย่าคาดหวังให้กูเป้นราชการให้ได้เลย ให้กูมองตัวเองว่ากูเป้นมนุษย์ตอนนี้กูยังทำไม่ได้เลยว่ะ
มึงลองนึกดูนะเว้ย แม่งชีวิตคนๆนึงอ่ะ ที่แม่งโดนสอนมาแบบกูให้ช่วยเหลือให้แบ่งปันคนอื่นให้เป้นคนดีของสังคมอ่ะ แล้วสุดท้ายแม่งเป้นไงอ่ะสัด ? ทำคุณบูชาโทษแล้วกูก้เป้นขยะกากเดนอยู่นี่ไง
สำหรับกูตอนนี้นะเว้ยเพื่อนโม่ง กูไม่มีที่พึ่งที่ไหนนอกจากพวกมึงแล้วว่ะ กูเคยบอกคนในครอบครัวไปแล้วเรื่องพวกนี้เขาก้บอกว่าเป้นผู้ชายอย่ามาทำตัวอย่างนี้ แล้วกูเป้นปู้ชายกูเศร้ากูท้อไม่ได้หรอว่ะ? กูก้ทนเรืองเหี้ยๆมาตลอดอ่ะ แต่ตอนนี้กูทนไม่ไหวแล้วไง ขนาดตอนนี้กูยังร้องไห้อยู่เลยว่ะ ครอบครัวกูดูหนังพ่อกูมานั่งข้างๆที่แปรกูกูยังต้องเอาผ้าห่มคลุมหน้าตัวเองแล้วพิมอยู่นี่เลยวะ พ่อกูเขามาเล่นด้วยกูต้องรีบปาดน้ำตาแล้วทำหน้าว่ากูมีความสุขอยู่ แม่งไม่ใช่แล้วว่ะตอนนี้
กูอยากเกิดมาเป็นลูกคนรวยว่ะ ไม่ใช่ว่าพ่อแม่กูไม่ดีนะ แต่เวลาอยากได้อะไรกูต้องดิ้นรนหามาเองตลอด พอได้มากูก็ดีใจนะ แต่พอหันไปมองพวกลูกคนรวย ไม่ต้องดิ้นรนเหมือนกู อยากได้ไรก็ได้เลย มีพ่อแม่สนับสนุนตลอด น้อยใจว่ะ ฮือๆ
ตอนเด็กอยากโตเป็นผู้ใหญ่แล้วทำงานจะได้มีตังค์ของตัวเองไปซื้อของตามใจชอบ แต่พอโต ทำงานมาหลายที่แต่ไม่มีงานประจำซักที อุตส่าห์เก็บได้ถึงแสนกลับต้องเอาไปช่วยโปะค่าทำบ้านใหม่จนแทบไม่เหลือ ยังไม่ได้ใช้อะไรซักบาท ทีนี้งานปัจจุบันก็เงินน้อยกว่าเดิมเหลือแค่หลักพัน นี่จะให้กูช่วยค่าใช้จ่ายอีก ตกลงจะไม่ให้กูได้ใช้เงินตัวเองเลยใช่มั้ย แต่ถึงยังไงก็เงินไม่พออยู่ดีนั่นแหละ เห็นเพื่อนรุ่นเดียวกันทำงานในบ. มีเงินเดือนหลักหมื่น แบ่งแล้วก็ยังพอเอาไปซื้อฟิกซื้อด๋อยได้ก็อิจฉาทุกที เฮ้อ กูเกือบได้ทำบ.นึงแล้วแท้ๆ แต่เสือกไกลบ้านเกิน แล้วก็ไม่มีที่ไหนรับกูอีกเลย...
ดันมาทำบ้านใหม่ตอนเกษียณแล้วงบบานเลยเอาของกูไปโปะแถมไม่บอกซักคำ เงินกู... พอจะซื้ออะไรก็ต้องขออนุญาต คือเงินกู บัญชีกูป้ะ เห็นกูฟุ่มเฟือยขนาดนั้นเลยรึไง ทีนี้ไงล่ะ เกษียณแล้ว รายได้ก็ไม่พอใช้ กลายเป็นต้องพึ่งกูให้ช่วยด้วยทั้งๆที่กูยังมีเงินเก็บไม่พอซักที ตกงานมาประมาณสามปีแล้ว ได้แต่ทำฟรีแลนซ์กิ๊กก๊อก ไปสมัครบ.ที่ไหนเค้าจะรับวะถามจริง
เป็นลูกที่แม่ไม่รัก ทุกวันนี้อยู่กันมาเลี้ยงกันมาเพราะแค่ต้องรับผิดชอบ
กูตลกบ้านกูวะ กูรู้ว่าเรื่องนี้มันน่าจะดูเล็กน้อยสำหรับคนอื่น มีคนซวยกว่ากูเยอะ แต่กูขอระบายนิดหน่อยละกัน
ครอบครัวกูเป็นบ้านทีค่อนข้างปกติ พ่อทำงาน แม่บ้าน กู น้องสาว ย่าและป้าที่ไม่ได้อาศัยอยู่ด้วย คือบ้านกูอยู่อย่างธรรมดามากและมีความสุขดี
ทีนี้ป้ากูต้องการให้ครอบครัวอยู่ร่วมกันเลยจะให้ย่าย้ายไปอยู่บ้านที่ใหญ่กว่า ตอนแรกย่าก็ตกลง เลยจัดการย้ายของ แม่กูเลยย้ายไปอยู่ก่อนคนเดียว
สุดท้ายย่ากูกลับลำไม่ยอมไป แม่กูเลยต้องรับหน้าที่เฝ้าของอยู่คนเดียวที่บ้านนั้น แม่กูพออยู่คนเดียวก็ต้องหาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องเอง ทำงานเล็กๆน้อยๆได้ แต่กูก็ไม่เข้าใจว่าทำไมแม่กูถึงหากินเองไม่เป็นชอบใช้พ่อซื้อข้าวให้กิน พ่อกูเลยเป็นคนที่ต้องวิ่งเทียวไปเทียวมาอยู่ 2 บ้านนี้ ค่าอาหารพอแยกบ้านกันก็ต้องเพิ่มเป็น 2 ชุด ค่าไฟก็เป็น 2 บ้าน แต่พ่อกูก็ทนทำ...
กูพยายามแก้ปัญหาแล้ว บ้านกูเห็นธรรมดางี้ เอาเข้าจริงเสือกไม่มีใครยอมเปิดใจคุยกับใครเลย...
กูถามย่าทำไมไม่ย้าย ย่าบอกกลัวบ้านนี้โดนขโมยของ เลยต้องเฝ้า
....แต่กูรู้ว่าที่จริงแกยังติดเพื่อนของแก ถ้าย้ายไปก็ไม่รู้จะคุยกับใคร
กูขอร้องย่าให้ลองย้ายไปดูไม่ชอบค่อยกลับ กูโดนตะคอกกลับ บอกว่าอย่ามายุ่งเรื่องของกู
คำพูดที่กูเกลียดที่สุดจากปากย่าคือ "เดี๋ยวกูก็ตายแล้ว"
นานๆทีกูจะไปหาแม่ แม่มีนิสัยไม่ดีตรงที่เก็บเงินไม่เป็น จึงลำบากพ่อกูเสมอ
ถึงงั้นเวลากูไปหาเขา เขาก็ดีใจ เขาชอบพูดว่า อยากกินร่วมกันกับครอบครัวอีก กูก็เข้าใจเขานะ
กูรู้ว่าแม่กูอยากกลับมาใจจะขาด ไม่อยากเป็นภาระให้พ่ออีก แต่ของมันก็ย้ายมาจนหมดแล้ว...
พ่อกูก็ยังเทียวไปเทียวมาอยู่แบบนี้ กูรักพ่อมาก แต่เขาเป็นคนที่เก็บความทุกข์เอาไว้คนเดียว ไม่ว่ากูจะถามอะไรเขาก็ไม่เอ่ยปาก...
สุดท้ายก็คาปัญหาไว้แบบนี้จนสภาพเงินเริ่มไม่คล่อง ค่าน้ำค่าไฟค้างเป็นเดือน เคยโดนตัดแบบนอนไม่มีไฟอยู่ประมาณครึ่งเดือน
กูว่าวิธีแก้ไขปัญหาบ้านกูนี้มันชัดเจนมาก และกูก็นึกวิธีอื่นไม่ออกแล้ว คือต้องอุ้มย่าแกไปอยู่บ้านใหม่แบบมัดมือยกไป รวบค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้อยู่บ้านเดียว และเปลี่ยนอีกบ้านเป็นแบบให้เช่า (ซึ่งก็คงต้องเสียเงินปรับปรุงอีก)
และกูก็รู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้...
กูไม่อยากเชื่อเลยว่าปัญหาขี้มดตอนแรกแม่งจะทำให้บ้านกูแตกซะแหรกขาดได้ขนาดนี้
ลืมซักชุดนักเรียน สิ้นหวังแล้ววววว
>>952 กุงงแปปของแทบไม่มีแล้วพวกมึงตอนนี้ใช้ชีวิตกันอยู่ได้ยังไง เรื่องของมันพูดยาก บางคนข้าวของในชีวิตประจำวันแม่งเยอะขาดนิดขาดหน่อยบอกไม่มีของอยู่ไม่ได้
อย่างกุเคยอยู่หอแบบเหมือนไปเข้าค่ายขอแค่มีเสื้อผ้าก็อยู่ได้แล้ว
ถ้าบ้านมึงแม่มึงไม่ได้ทำงานอะไรแล้วทีบ้านไม่มีใครอยู่นอกจากย่า มึงลองให้แม่มึงแบบอาทิตย์นึงกลับบ้านซักวัน2วัน
ถ้าบ้านใหม่กับบ้านเก่าห่างไม่มากให้ไปกลับตอนกลางวันก็ได้ แรกๆอาจเป็น3-4วันที
ส่วนข้ออ้างก็แบบกลับมาทำความสะอาดบ้าน บ้านไม่มีคนดูแล ตอนกลางวันคนออกไปนอกบ้านหมดไม่มีใครดูย่า
ครั้งพ่อมึงจะด่าก็ไม่ได้ อีกบ้านก็มีคนดู เจอกันครึ่งทางไปก่อน
เท่าที่กุอ่านที่มึงเล่าเหมือนบ้านมึงเหยียดแม่มึงเพราะเขาไม่ทำงาน มึงต้องลองออกไปเจอครอบครัวอื่นที่มั้งพ่อแม่ทำงานโลกภายนอกบ้าง
อย่างบ้านกุแม่กุก็ไม่ทำงานพ่อกุทำงานอยู่บ้านอีกต่างหากแต่ก่อนตอนเด็กๆกุก็เหยียดเหมือนมึงแหละ แต่พอกุไปอยู่ม.รู้จักครอบครัวคนอื่นเขา รู้สึกว่าบ้านกุโครตดีไปเลย
>>953 คือกูก็คงลงรายละเอียดไม่ครบเองด้วยแหละวะ แม่งยิบย่อยไปหมด
บ้านเก่าก็เหลือแต่ของใช้เล็กๆน้อยๆอะแหละ ของกูก็มีแค่หนังสือกับเสื้อผ้า คอมอีกเครื่อง ของๆน้อง นอกนั้นก็ของใช้สัพเพเหระของย่า
กูก็พอรู้นะว่าครอบครัวกูยังดีกว่าครอบครัวอื่น แต่กูเซงความหัวแข็งของผู้ใหญ่
บ้านกูไม่ได้เหยียดแม่หรอก เพียงแต่ไม่ค่อยเปิดใจคุยอะไรกัน ต่างคนต่างทำตามใจตัวเองทั้งนั้น เหมือนรักษาน้ำใจแต่ที่เหลือเรื่องของมึงอะไรทำนองนี้ละมั้ง...
ไม่ใช่แม่ไม่หาอะไรทำนะ แต่เขาแม่งคิดทำอะไรไม่มีการวางแผนเลย
เงินที่ได้จากการขายที่ แม่กูก็เอาไปลงทุนซื้อจักรเย็บผ้าปิดปาก เย็บกางเกงไปแล้วที่บ้านใหม่ เลยเป็นการผูกมัดตัวเองไปไหนไม่ได้อีก นั่งเย็บแล้วก็กองไว้ให้พ่อเอางานไปส่ง กูก็หวังว่าแม่จะตั้งตัวได้เองอะนะ..
กูว่าปัญหาครอบครัวกูอยู่ที่ย่าเนี่ยแหละ คือแกไม่ควรกลับลำเพราะทุกอย่างกำลังจะลงตัวอยู่แล้ว มารู้ทีหลังว่านอกจากติดเพื่อนแล้ว เพื่อนแกยังรั้งไม่ให้ไปอีก แม่งเข้าตำรา "ผู้ใหญ่ของบ้านทำตัวมีปัญหา ปัญหาเกิดทั้งบ้าน" จริงๆ
ไม่ใช่ว่ากูเอาครอบครัวมานินทานะ กูแค่อยากรู้ว่ามึงจะคิดยังไงถ้าเจอสภาพแบบนี้แค่นั้นเอง
กุโม่ง>>953
>>954 โม่ง>>955 พูดถูก
เรื่องย้ายที่อยู่ ในเมื่อผู้ใหญ่ไม่ยอมสละกันซักคน งั้นลองใช้ไม้แข็งดูอยู่ที่มึงกับน้องแล้วว่ะ เลือกเอาว่าจะเข้าข้างใคร แม่หรือย่า
ถ้าเข้าข้างแม่ก็ย้ายตามไปอยู่กับแม่ให้พ่อมึงเคลียล์กับย่าเอง
เข้าข้างย่ามึงก็อยู่เฉยๆไม่ต้องทำไร
ส่วนพ่อมึงโวยวายไปงั้น จริงๆตัดสินใจไม่ได้ คนนึงก็แม่อีกคนก็เมีย สุดท้ายเลยวิ่งรอกถึงทุกวันนี้ไง ถถถ
โม่งอื่นมีวิธีอย่างไรเชิญคนถัดไป...
ประตูล็อกจากด้านใน ทำไงดีว้ะลืมกุญแจ แม่งไม่มีสำรองด้วยควยย
เมื่อกี้ได้ดูรายก่ฝารเดอะดาวน์ ซีรี่ย์แล้วเห็นคนดาวน์จบตรี มีงานทำ ดูชีวิตดีกว่า ดูมีความสามารถมากกว่ากูอีก อา กูแพ้คนดาวน์เหรอเนี่ย...
กูอยากหนีปัญหาในชีวิตกูมาก กูทำอะไรก็พลาด
อะไรที่เหมือนจะดีแต่ก็ไม่ดี เรียนก็โง่ ความสามารถพิเศษก็ไม่มี ใช้ชีวิตเหมือนอยู่ไปวันๆ
กูอยากตายให้มันจบๆแต่กูก็ไม่กล้าอีกแหละ โคตรน่าสมเพช ทำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง
กูเหนื่อยว่ะ ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว โคตรสิ้นหวังเลย
สรุปกูคงต้องทนดูสภาพครอบครัวตัวเองต่อไปสินะ [เฮ่อ]
แต่ถ้าหมายถึงให้กูออกไปอยู่กับแม่เลย อันนี้กูลองแล้วนะ
สรุปทั้งพ่อกับแม่ไม่เอาทั้งคู่ ให้กูอยู่เป็นเพื่อนย่ากับน้องหนะ
ขอให้โม่งสิ้นหวังทุกท่านรู้สึกดีขึ้นบ้างกับอากาศที่เย็นในเมืองไทย
กูสิ้นหวังมาก พอมันหมดหนาว ยุงแม่งก็กลับมาหนักกว่าเดิม กูเกลียดยุง รู้สึกได้ถึงความหิวโซของมัน
วันนี้กูตื่นมากะจะเขียนเรื่องสั้นเล่นๆฝึกมือซะหน่อย เปิดเฟสเจอรุ่นน้องเขียนดีกว่า มีคนไลค์ ก็ทำเอาเฟลเลยว่ะ เหอๆ พยายามปลอบใจตัวเองแต่ก็นะ...อดไม่ได้จริงๆ
กูเอาเรื่องเขามาคิดเล็กคิกน้อยเป็นตุเป็นตะ กลัวว่าเขาจะโกรธเกลียดเรา เพราะกูแอบปลื้มเขาอยู่(ไม่ใช่ในเชิงคนรักนะ) กูกลัวมากๆ เห็นเขาคุยกับเพื่อนๆ โพสอะไรลงเฟส กูก็ได้แค่มองเค้าจากอีกฟากของจอว่ะ แล้วก็มาน้อยใจว่านี่กูทำอะไรผิดเหรอ หรือว่าไปทำแย่ๆให้เค้าหมั่นไส้ไว้ บ้าเนอะ ทั้งที่เค้าอาจจะลืมเรื่องเราไปหมดแล้ว หรือไม่เคยโกรธเกลียดเราเพราะไม่เห็นเราอยู่ในสายตาตั้งแต่แรกแล้ว ในขณะที่เรามองหาเค้าอยู่ตลอดเวลา
ชีวิตของแต่ละคนก็มีปัญหาแตกต่างกันไป...กูเองก็มีปัญหา ปัญหาที่แก้ไม่ตก...จนกูเองก็ปลงแล้ว ไม่คิดจะแก้แล้ว ก็ใช้ชีวิตอยู่แม่งไปงี้แหละ กูเคยมาเล่าว่าพ่อกูป่วย เป็นโรคที่รักษาไม่หาย เขาเริ่มเอาแต่ใจและใช้ความป่วยเป็นข้ออ้างให้ทุกคนเอาใจและไม่ขัดใจ ก่อนหน้านี้กูปรับตัวไม่ได้นะ ตอนนี้กูก็เริ่มเฉยๆแล้ว ก็ปล่อยให้เขาทำตามใจเขาไป แต่ที่กูทนไม่ได้...ก็คือการที่เข้าคุยกับผู้หญิงคนอื่น...ซึ่งเขาบอกว่าเป็นคนที่นับถือเขาเหมือนพ่อ คือวันดีคือดีผู้หญิงคนนี้ก็มาเยี่ยมที่บ้านเว้ย มาเรียกเขาว่าป๊าเรียกแม่กูว่ามี้ แต่ลับหลังกูเห็นแชทอีนั่นเรียกแทนตัวเองว่ามี้ไง....คือแม่กูก็รู้เว้ย...ที่ตลกคืออากูก็รู้เว้ย คือทุกคนรู้เว้ยแล้วบอกกูว่าเป็นความสุขของพ่อปล่อยไปเถอะ...เดี๋ยวนะ...คือเดี๋ยวก่อน กูแปลกใจ อยากรู้จริงๆว่าผู้ชายที่คิดนอกใจสมองกำลังคิดอะไรอยู่ ไม่คิดบ้างหรอวะว่ามันเป็นเรื่องที่ผิดอ่ะ? คือกูก็อยากพูดกับพ่อนะ...แต่พ่อกูกำลังป่วยหนักจริงๆว่ะ กูก็ได้แต่แบบ...เอ้อ...ปล่อยไปเถอะ บางครั้งกูเห็นใจแม่นะ...แบบรู้ทั้งรู้ แต่แม่กูก็ยังดูแลพ่อแบบไม่บกพร่องนะ กูว่ามันตลกดี ทำไมผู้ชายถึงคิดว่าการนอกใจภรรยา ทั้งกาย วาจา ใจ มันเป็นเรื่องที่สามารถทำได้วะ....แต่พอผญ.ทำมีแต่คนประนามว่าเป็นกระหรี่ว่าร่าน แต่พอผู้ชายคนกลับบอกว่าเป็นสันดานเจ้าชู้ ผู้ชายทุกคนเป็น แนะนำว่าผู้ชายคนไหน ไม่พร้อมที่จะลงรากกับใครสักคน ก็อย่าแต่งงานเลย...มันเห็นแก่ตัวป่ะ
กูมีปัญหาชีวิตดังนี้
คือแม่กูเป็นคนไม่ทำกับข้าว เวลาจะแดกไรต้องออกไปหาร้านไกลๆ เพราะหมู่บ้านกูไกลปืนเที่ยง
1.กูทำเอง >>นานๆกูก็เบื่อฝีมือตัวเอง
2.โทรสั่ง >>กูแดกแมคแดกเคเอฟซีจนขนปีกแทบงอกแล้ว
3.ข้าวกล่องแช่แข็ง >>สัสสสส มันเป็นทางเลือกที่กูไม่อยากจะเลือกเลย
4.โทรสั่งข้าวกล่องในหมู่บ้าน >>ป้าแม่งปิดๆเปิดๆ ไม่อร่อยด้วย
กูอยู่ในช่วงรอเรียนต่อโท คืออยู่กับบ้าน กูขับรถเป็น แต่ที่บ้านไม่ให้กูออกไปไหนคนเดียว รถที่ใช้ก็เป็นของที่บ้าน
กูเบื่ออาหาร ทำยังไงดี รึกุต้องเข้าเมืองไปกักตุนอาหารแล้วเวฟเอา เพราะบ้านกูไกลปืนเที่ยงเหลือเกิน ออกไปแดกข้าวทีไรเป็นชั่วโมงทุกที
กูซื้อมักโรนี สปาเกตตี้ มาตุนไว้เบื่อๆก็ต้มเส้น ราดน้ำซุบมะเขือเทศข้นๆเอา เปลี่ยนสูตรน้ำซุปไปเรื่อยก็ได้หลายมื้ออยู่
กุไม่ได้สิ้นหวังเรื่องข้าว แต่กุทะเลาะกับแม่เพราะอิเรื่องเล็กๆน้อยๆเนี่ยแหละ แม่กุไม่ออกจากบ้าน แต่กุทนกินอะไรซ้ำๆไม่ได้ พอกุออกไปกินก็ระเบิดลงอีก แค่อยากหาจุดที่บาลานซความต้องการของคนสองคนได้
แล้วมึงจะให้กุไปตอบมู้ไหนหะ ตอบดิ๊
https://fanboi.ch/lifestyle/1579/recent/ มู้นี้น่าจะแทนกันได้
ไลฟ์สไตล์มันซ้อน ๆ กันที่ปรึกษาปัญหา แต่มันมีหัวข้อแยกย่อยแยะอะ
กูทำงานหาย อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
คือกุพยายามจะคุยรึจะมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น แม่กุก็ถามว่ากุทำหน้าเหี้ยอะไร ทำตัวเหมือนคนปกติไม่เป็นรึไง พอกุเงียบหลีกเลี่ยงคนม่างก็บอกว่าชีวิตกุแม่งมีแต่บ้านรึไง ไม่คิดจะออกไปเจอคนอื่นบ้างเหรอ กุอยากรู้มากว่ากุต้องทำตัวห่ายังไงให้แม่กุพอใจ
ป.ล. กุเป็นโรคกลัวสังคม (social phobia) คุยกับคนอื่นได้เกินสิบคำนี่ถือว่าปาฏิหาริย์ แล้วกุรู้สึกว่าการกุสามารถทำให้ไอ้ปาฏิหาริย์นี่เกิดขึ้นได้อย่างน้อยวันละครั้งนี่กูสมควรจะได้รับคำชมไม่ใช่คำพูดบั่นทอนจิตใจ ห่านเอ๊ย ถ้ากูแม่งตายๆไป จะโดนด่าตามหลังอีกมั้ยว่าทำตัวแปลกๆให้ชาวบ้านเค้ามองอีก สัด
>>989 กูไม่ถึงขนาดมึงนะ แต่โดนบอกคล้ายๆกัน อยู่เฉยๆ กำลังคิดอะไรเพลินๆ โดนหาว่าทำหน้าบึ้ง พออยู่บ้านเพราะทำงานฟรีแลนซ์ก็โดนหาว่าเป็นโรคซึมเศร้า ไม่เอาคน คุยกับเพื่อนแค่ในโซเชียล คือแบบเค้าก็ทำงานป่ะ จะให้โทรคุยทุกวันเหรอ ชวนไปเที่ยวก็ชวนแต่เค้าไม่ว่างนิ รายได้ครอบครัวก็น้อยลงแล้ว จะให้ออกไปเที่ยวหาเรื่องเสียตังค์เพื่อ...เหอๆ
>>989 กูคิดว่าดีนะที่มึงยังพยายามจะรักษาให้มันดีขึ้น แต่ถ้ารอบตัวไม่เข้าใจ มึงก็อย่าคิดมาก ใช้วิธีตั้งเป้าว่าจะทำทุกวันแล้ว ก็ตั้งให้สูงขึ้นไปอีก เช่น วันนี้ต้องคุยกับคนอื่นให้ได้ซัก 3 คน จะทักทายป้าข้างบ้าน ออกไปซื้อของ อะไรแบบนี้ พรุ่งนี้ก็ตั้งให้สูงขึ้นไปอีกสเต็ป อะไรแบบนี้ เวลาทำได้สำเร็จตามเป้า อย่างน้อยมึงก็ได้ภูมิใจในตัวเอง จริงมั้ย? :3 ขอให้แก้อาการโฟเบียได้นะ
>>989 เองนะ
>>990 ไปหาอยู่จ้ะ ไม่รู้สึกดีขึ้นเท่าไหร่ก็จริงแต่ที่พยายามได้ขนาดนี้ก็เพราะหมอช่วยไกด์ให้อยู่นั่นแหละ ที่โพสต์เมื่อเช้าเพราะรู้สึกน้อยใจว่ากุก็พยายามอยู่นะว้อยยย ช่วยให้กำลังใจหน่อยได้ม้ายยย ทำนองนั้น
>>991 เจอปัญหาหน้าไม่รับแขกเหมือนกันสินะ :/ ยังไม่ทำงานก็เลยไม่รู้สี่รู้แปดอะไร แต่ดูเหมือนพี่ก็มีความสุขกับการใช้ชีวิตแบบนี่นา เพราะงั้นช่างหัวคนอื่นเถอะ ;)
>>992 เอ่อ... เราไม่ใช่ฮิกกี้นะเออ ตอนนี้อยู่หอในมหาลัยภูมิภาคแห่งหนึ่ง แต่ไม่ได้ออกไปไหนไง เรียนเสร็จถ้าไม่นอนแซ่วอยู่บนเตียงก็แค่ออกไปหาไรกินแถวๆนั้น กลับบ้านมาก็ไม่ได้ออกไปไหนเพราะยังขับมอไซค์ไม่ได้ ...แค่นั้นเอง
>>993 ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ คือเราเคยได้ยินคำแนะนำแนวๆนี้มาแล้วเหมือนกัน ทั้งจากหมอแล้วก็เว็บอื่นๆ แต่เรายังไม่มีความกล้าพออะ ก็เลยปรับนิดหน่อยเป็นกฎให้ตัวเองทำแทน เช่น เจอหน้าคนรู้จักก็โบกมือทักต่อให้ไม่อยู่ในอารมณ์ เพื่อนชวนไปไหนก็ควรจะไป แล้วก็ออกไปวิ่งให้ได้เจอคนอื่นบ้าง ประมาณนั้น จะพยายามสู้ไปเรื่อยๆ ค่ะ
ขอ
ทำ
การ
ปิดมู้
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.