ขอปรึกษาพวกมึงที เป็นปัญหาเรื่องครอบครัวน่ะ
คืออย่างนี้นะ พ่อกูรู้จักกับคนๆหนึ่งประมาณสี่ห้าเดือน เพราะ ทำงานอยู่ที่นั่น แล้วคุยกันกูขอเรียกเขาว่าเอ
พ่อบอกว่าพ่อสนิทกะเอมาก เอจะยกที่ให้ไร่หนึ่งเลยด้วยซ้ำ พ่อเลยถามพี่กูว่าสนใจทำสวนไหม
แม่กูยื่นเงื่อนไขระหว่างทำงานเมืองนอก(แต่กำกับว่าได้แต่เงิน ได้แต่ทำงาน ได้ภาษาเป็นระยะสั้น)
ส่วนการทำสวน(เป็นระยะยาวได้ที่ดิน ได้รายได้ ได้อยู่กับครอบครัว)
พี่กูอยากไปเมืองนอกมาก แต่เลือกอยู่สวน เพราะ "ระยะยาวกับครอบครัว และมั่นคง"
จนกระทั่งไปที่สวนคุยกะเจ้าของที่ เจรจาเสร็จสรรพรอบแรกและเปลี่ยนจากให้หนึ่งไร่ฟรีๆเป็น"สองไร่หกหมื่นต่อสิบปี"
พ่อกูไปที่กรมที่ดินเสร็จแล้วได้รุ้มาว่า"สองไร่หกหมื่นต่อสิบปีมันแพง"ทางด้านเอจึงเปลี่ยนว่า"สี่ไร่หกหมื่นต่อสิบปี"แทน
และนัดว่าจะมาเซ็นสัญญาอะไรๆหลังจากนั้นอีกที
พอวันนี้ไปปุป เอเอาลูกมา เปลี่ยนเป็นชื่อลูกเขาเป็นผู้ให้เช่า(เจ้าของ)แทน และบอกว่าตัวเองไม่รู้จะอยู่ได้นานแค่ไหน
จึงจะใช้ชื่อลูกแทน ส่วนจากที่จะไปทำสัญญาที่กรมที่ดินก็บอกว่า
การเช่าแค่เซ็นสัญญาระหว่างเจ้าของกับผู้เช่าและอบต.หรือคนใหญ๋คนโตช่วยยืนยันก็พอ
พี่กูเริ่มไม่โอเค เพราะ พี่กูเริ่มระแวงแต่แรกก็ไม่ชอบเรื่องสวนแต่อยากทำเพราะเหตุผลตามข้างบน และเรื่องส่วนเป็นการ"เช่า"
พี่กูก็ระแวงเรื่อยๆ กลัวเขาโกง กลัวโดนเอาเปรียบ คือ ถึงพี่กูเขาไม่ชอบแต่เขาก็อยากทำ ไม่อยากให้สิ่งที่ทุ่มมามันสูญไป
เพราะ การเช่าวางว่าเช่าไว้แค่สิบปีแล้วพืชบางชนิดมันยาวถึงสิบเอ็ดหรือยี่สิบปีได้
ถ้าพ้นปีที่สิบและหมดสัญญา พี่กูมองว่าสิ่งที่ทำมาคือสูญเปล่า เพราะ หากปีที่สิบเอ็ดเขาไม่ต่อสัญญาที่ๆทำไว้จะกลายเป็นของเขา
หรือไม่ก็ถ้าถางดินออกจนหมด มันก็รู้สึกเหมือนต้องเริ่ม 0 ใหม่
แล้วบางทีที่ดินอาจจะถูกเอาเปรียบก่อนสิบปีก็ได้ เพราะ สุดท้ายฝั่งครอบครัวกูคือผู้เช่า และตรงละแวกนั้นใครๆเขาก็สนิทกัน
เขาเป็นพยานอะไรหลายๆอย่างกันได้ ตือพี่กูกลัวโดนโกงนี่ละ เพราะ ไปกันแบบไม่มีอะไรเลยนอกจากเงินและความคิดจะปลูกพืช
แต่แม่มองว่าไม่แปลก เพราะ หลังจากนั้นสิบปีที่ผ่านมาพี่กูจะมีความรู้เต็มที่แล้ว จะเริ่มใหม่ก็ไม่สายแต่พี่กูไม่อยากเริ่มใหม่
ส่วนเรื่องจะโดนเอาเปรียบแม่มองว่าพี่กูระแวงมากเกินไปและถามว่าแล้วจะให้ทำยังไงในเมื่อไม่รู้ว่าจะแก้ยังไง
ตอนนี้กูก้ำกึ่งคนกลาง คือกูเข้าใจที่พี่ระแวงนะว่าเขาจะโกงหรือเอาเปรียบก่อนในช่วงสิบปีไหม เพราะ สัญญามันไม่ครอบคลุม
ทุกกรณีอยู่แล้วยังไงมันก็มีช่องโหว่อยู่ดี อีกอย่างการที่อยู่ๆมาให้เช่าแบบนี้มันง่ายเกินไป
แต่แม่เหมือนกับมองว่าเขาเป็นชาวบ้าน สัญญามันเพิ่ม ปล. พวกกรณีพิเศษได้ สัญญาว่าเราเช่าอยู่ไม่มีใครมาเอาเปรียบได้
อีกอย่างแม่บอกว่าพ่อสนิทกับอบต.สนิทกับคนละแวกนั้นเขาไม่โกงหรอก ไม่ก็สามารถใช้สัญญาผูกมัดได้ อะไรทำนองนี้
คือตอนนี้กูควรทำยังไง เขาสองคนไม่คุยกัน แม่กูบอกพอจะล้มเลิกไม่ทำแล้ว ส่วนพี่กูว่าเขาอยากทำแต่เหมือนเขาท้อที่เหมือนใครๆไม่ฟังเขา
ส่วนกูได้แต่ฟัง แต่ทำเหี้ยไรไม่ได้ คือ กูไม่รู้จะทำยังไงดีแต่ใจกูอยากให้เดินหน้าต่อนะ เพราะ กู้เงินมาแล้ว
จะทำสัญญาแล้ว อาทิตย์หน้าจะเริ่มสร้างบ้านหลังเล็กๆไว้อยู่ที่สวนแล้ว
ยกเลิกตอนนี้ไปมันก็ไม่ใช่ไง แต่กูไม่รู้จะเริ่มยังไง เอาจริงๆกูเองก็ไม่รู้ว่าที่กูรู้สึกเข้าข้างพี่มันถูกไหม
คือกูควรเริ่มทำไงดี หรือปล่อยไปตามจะเป็นเลย?