ย้าย
>>>/lounge/303/
Last posted
Total of 1000 posts
ย้าย
>>>/lounge/303/
ทุกวันนี้...ยิ่งใช้ชีวิต ยิ่งรู้สึกเหมือนไม่เหมือนตัวเองขึ้นเรื่อยๆ...ถ้ารู้ว่าโตมาแล้วจะยากขนาดนี้ ผมนี่ล่ะอยากมุดกลับเข้ารกแม่เสียจริงจัง...
เสียดายที่แม่ไม่อยู่ในกรูมุดกลับแล้ว...เหลืออยู่ก็แต่พ่อ...ที่ไม่รู้จะทิ้งกรูไปอีกเมื่อไหร่
เรียนนีโคตรเหนื่อย แข่งขันก็ซะปวดหัว...ทำงานเชรี่ยอะไรเกือบทั้งวัน...ได้นอนสองสามชม.ต่ออาทิตย์
แดกกาแฟต่างน้ำ...อาจารย์ก็ขยันล้มแบบจังงงง มีความสุขมากรึไง เฮ้อ....ถ้าแม่งจะเยอะขนาดนี้...
ตายเลยดีกว่าไหม...
>>2 เด๋วพอมึงกำลังจะจบจะเครียดกว่านี้อีก อย่างกูเนี่ย เรียนจะจบอีกไม่กี่เดือนแล้วส่งพอร์ตไปเป็นร้อยที่แต่ไม่มีใครรับกูเข้าทำงานเลย กูส่งมาตั้งแต่ต้นเทอมยันตอนนี้คนที่ส่งทีหลังกูเค้าได้งานกันไปหมดละ เหลือแต่กู ทำไมมันยากอย่างงี้วะแล้วทำไมคนอื่นถึงได้งานกันง่ายๆ กูว่ากูก็ไม่ได้ห่วยนะ ผลงานก็เยอะ ทำไมวะหรือกูมันกระจอกมากแต่ไม่รู้ตัวเอง
อุตส่าห์เตรียมใจระบายบางเรื่องให้คนที่(คงคิดเอาเองว่า)สนิทฟัง นอกจากเขาไม่ฟังแล้ว คงคิดว่าไร้สาระอีกมั้ง รู้สึกแย่เหี้ยๆ
>>2 กูเข้าใจมึง เพราะกูก็เจอ บางทีแม่งคีบแบบกูลงถังขยะต่อหน้าต่อตาด้วยซ้ำ เคืองนะ แต่ก็ต้องทำต้องแก้ บางวันไม่ได้นอนนั่งตัดโมเดลยันเช้า หอบโมเดลเพิ่งทำเสร็จไปเรียนเลยตอนแปดโมง น้ำไม่อาบกลับมานอนตาย ตื่นตอนเย็นรีบทำการบ้านอีกวิชาแบบวนลูป เป็นมิตรกับกาแฟ กระทิงแดง เซเว่น จบมาเจอลูกค้าเหี้ยๆหลายคนก็เยอะ ตอนเรียนมันหนักแค่ทำงานส่ง แต่ตอนทำงานแม่งหนักไปหมดทุกอย่างทั้งเรื่องงาน เรื่องชีวิต มึงจำคำพูดรุ่นพี่แบบกูไว้ให้ดี อย่าดองงาน มีเหี้ยอะไรรีบๆทำซะอย่าหมักไว้ เดี๋ยวมึงจะลำบากทีหลัง
กูกำลังตระหนักว่าตัวเองเป็นมนุษย์ห่วยแตกว่ะ แบบมนุษย์ที่ไม่มีอะไรดี ทั้งหน้าตา การศึกษา ฝีมือ งาน เงิน แถมยังขาดความมั่นใจ ขาดการมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี ขี้ระแวงอีก ทำเหี้ยไรไปต้องกลับมาคิดมาก ทำเหี้ยไรมีแต่โดนด่า ไม่ใช่ว่าที่เป็นอยู่นี่เป็นเพราะกูไม่พยายามนะกูพยายามหางานเป็นร้อยๆที่ก็ไม่ได้ พยายามคยกะคนอื่นก็ต่อไม่ติด ลดความอ้วนก็ไม่ลดทั้งๆที่กินก็ไม่ใช่มาก ออกกำลังกายไม่บ่อยแต่ก็ออกทุกอาทิตย์ ฝีมือก็ไม่เทพทั้งๆที่ฝึกชิบหาย ทำเหี้ยไรก็ไม่ดีทั้งๆที่ตั้งใจทำแล้วแต่รู้สึก่าสมองด้านครีเทีฟกูมันฝ่อมั้ง คิดอะไรได้แต่โบราณๆ พวกมึงว่ามนุษย์ที่บัดซบทุกอย่างแม้พยายามจนแทบกระอักนี่มันมีจริงป่าววะ หรือทั้งหมดนี่มันเกิดจากการที่กูพยายามไม่พอ
>>9 อย่างน้อยมึงก็ยังรู้ว่าอะไรเป็นปัญหาที่มึงต้องแก้ไข แต่กูนี่ไม่รู้เลยว่ะเพราะพยายามแล้วแต่ก็ยังไม่ดีเลยไม่รู้ว่าต้องทำไงต่อไปถึงจะดีว่ะ เหมือนหนทางมันมืดมิดหมดเลย จนกลัวว่าถ้าจริงๆแล้วความพยายามไม่ได้ช่วยอะไรกูจะทำไงหรือ หรือมันจะมีคนที่พยายามทำอะไรก็ไม่เกิดจริงๆ
สำหรับคนทำงานครีเอทีฟมึงต้องไม่ใช่แค่ฝึกว่ะ ต้องหาประสบการณ์ชีวิตด้วยถึงจะคิดอะไรใหม่ๆแหวกๆได้
ออกเดินทางชมนกชมไม้รู้จักผู้คนใหม่ๆ หาหนังแปลกๆที่ไม่เคยคิดจะดู อ่านหนังสือใหม่ๆบ้างหลุดจากกรอบเดิมๆที่ใช้ชีวิตมาตลอด
เพิ่งส่งมิดเทอมไปเมื่อวาน แย่ว่ะ...โมเดลก็ไม่เสร็จ ทั้งๆที่กูคิดไว้แล้วว่า มันต้องดีอ่ะ คือถ้าโมเดลเสร็จนี้เลิศอ่ะ วาดรูปกูก็วาดมาเยอะ ก็กะจัดเต็มแต่แม่งทุกอย่างแย่ไปหมด งานต้องเริ่มตอนบ่าย ดรออิ้งปริ้นยังไม่เสร็จ กว่าจะมาบ่ายสอง โมเดลแม่งไม่ยอมมาส่ง กลายเป็นว่า เวลาที่กูเสียไป เงินที่กูเสียไป ไม่มีอะไรดีสักอย่าง โดนหักคะแนนส่งเลทอีกต่างหาก ไม่คิดว่าจะทำงานได้แย่ขนาดนี้ว่ะ //ผมนี้้องไห้หนักมาก....
เมื่อวานเป็นอะไรที่เชรี่ยมาก....พูดเลอ
>>13 มันผ่านไปแล้วเว่ย ทำงานมันก็ต้องมีวันที่เหี้ยๆมั่ง ดีๆมั่ง เดินหน้าๆ ก็ได้รู้ขีดจำกัดตัวเองไป
จะได้รู้ว่าต้องปรับยังไงด้วย
ตอนแรกๆกูก็คิดว่า กูจัดระบบอะไรได้ดีนะ
พอเรียนคณะนี้ กูถึงรู้ ว่าอ๋อ ไม่ว่ะ ยังดีได้กว่านี้อีก 555
นอยแดกให้พอแล้วลองจัดระบบตัวเองใหม่ดู จะได้ไม่ต้องมาเจอความรู้าสึกแบบนัี้อีก
>>15 รุ่นพี่สายออกแบบกูเคยพูดตอนกูนอยที่งานออกมาไม่พอใจไว้ว่า
งานออกแบบ ไม่มีคำว่า เพอร์เฟค หรือ เลิศ
เพราะมันพัฒนาปรับปรุงไปได้เรื่อยๆ
ต่อให้มึงส่งไปแล้ว เวลาผ่านไป มึงโตขึ้น เก่งขึ้น งานชิ้นนั้นของมึงที่เคยดี อาจจะง่อยไปเลยก็ได้
(เหมือนเวลากลับไปดูรูปที่มึงวาดตอนเด็กๆ ไรงี้)
กุเคยแบบ ส่งงานเสร็จ นึกได้ ไอเหี้ยยยย น่าจะทำแบบนั้น แบบนี้ ด้วยซ้ำไป
มันอยู่ที่เมิงบริการจัดการ ทำให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ ในเวลาที่มี แล้วก็ปล่อยให้มันไป
แล้วก็เชื่อมั่นในสิ่งที่มึงพยายามมาตลอดซะ
คือถ้ามันไม่ทันเวลา แต่มึงก็อาจทำได้ดีที่สุดแล้ว ตามข้อจำกัดทุกอย่างที่มึงมี
(คือกูเป็นบ่อยนะ เวลาทำงาน แล้วชอบวางแผนงานไว้โหด ตั้งเป้าสูง แล้วงานมันไม่ได้ ด้วยเวลาไม่พอ หรือ สกิลไม่ถึง)
อย่างมาก มันก็แค่รู้สึกเหมือนโดนตบหน้าว่า มึงมันกาก ทำตามเป้าไม่ได้ เท่านั้นแหละ 555
แล้วมึงจะทำไงละ ยอมให้มันด่าว่ากากไปเรื่อยๆหรอ? ก็ทำได้แค่ดูว่าตัวเอง ทำไมถึงทำไม่ทัน (ทั้งที่ทำเต็มที่สุดๆแล้ว) เท่าัน้นแหละ
ถ้านอยมาก ก็ทำงานเพิ่ม ไม่ต้องสนใจอะไรแม่งเลย (อันนี้ถ้าเป็นเรื่องเฟลว่างานไม่ดีนะ) ทำแม่งจนพอใจ
ก็ถือซะว่า เป็นบทเรียนราคาแพงเว่ย นี่แหละ ที่มึงจ่ายค่าเทอมเพื่อมาเรียน :)
เด็กแม่งขาดวิจารณญาณในการดูหนัง/การ์ตูนว่ะ เลียนแบบการ์ตูนหมด นี่กูพูดถึงน้องตัวเองนั่นแหละ กลุ้มใจว่ะ จะตัดผมทรงเดียวกับการ์ตูน เลียนแบบการ์ตูนหมด ทำเรื่องจัญไรแบบพระเอก ...... จะให้การ์ตูนเซ็นเซอร์อะไรที่ไม่เหมาะสมเช่นโจรสลัดในวันพีชแดกเหล้า ก็ไม่ได้อีก กูก็ไม่อยากให้เซ็นเซอร์เหมือนกันแม่งแก้ปัญหาไม่ถูกจุดแถมยังน่ารำคาญอีกว่ะกูว่า แต่กูก็ไม่อยากให้น้องกูเลียนแบบอะไรที่ไม่ดีแบบนี้ ทำไงดีวะ
>>17 มึงก็หาทางสอนสิวะ อะไรถูกอะไรไม่ถูก อะไรควรทำอะไรแม่งเหี้ย แบบมีช่วงเหี้ยมาเมื่อไรมึงก็พยายามสอนหน่อยว่านี้เหี้ยนะ ตรงส่วนไหนเลียนแบบมาไม่ดีมึงก็ต้องเตือน หาเหตุผลดีๆมาอธิบาย แก้ด้วยเซนเซอร์มันไม่ถูกจุดอยู่แล้ว จะว่าไปน้องมึงอายุเท่าไรวะ คือถ้ายังอยู่ประถมต้นนี้กูว่าคงคิดยังไม่ค่อยเป็นเท่าไร เจอความเป็นพระเอกก็เชื่อหมด(มันเท่นิ) มันก็เป็นหน้าที่มึงแล้วละที่ต้องสอน
ทำไมกูไม่เคยคิดอยากทำตัวแบบโนบิตะหรือไม่ก็ทาตัวเหลืองแบบกล้วยห้อมจอมซนว่ะ
กูว่ามันอยู่ที่สภาพแวดล้อมของเด็กกับวิจารณญาณของมันนะ
มึงลองหาการ์ตูนที่พระเอกไม่แดกเหล้า ตัวละครรอบตัวไม่ทำเรื่องแบบที่มึงไม่ชอบก็ได้นะ
โดราเอมอนนี่แม่งตำนานเลยกูแนะนำ ไอ้ภาคเดอะมูฟวี่พวกโฮ่งเหมียว อาณาจักรหุ่นยนต์ อาหรับราตรีเงี้ย
เด็กมันเลียนแบบตามพ่อแม่ มากกว่าทีวีอีก
ไอเหี้ย กูเฟลอีกแล้ว งานกูไม่ได้รับเลือกอ่ะ เสียใจๆๆๆๆ แงแงแงงแง
พวกมึงรับมือกับความผิดหวังยังไงวะ กูทำใจไม่ได้แล้วอ่ะ โดนปฎิเสธครั้งแล้วครั้งเล่าจนจะลุกยืนไม่ไหวแล้ว ทำไงดี
ปฏิเสธไรฟะ งาน ความรัก หรืออะไรอื่นๆอีก
มึงเตรียมตัวไม่ดีหรือเปล่ามึง ทำงานเกี่ยวกับอะไรล่ะ เรียนจบสาขาไหน กูว่าบางที ฟ้าอาจจะให้มึงไม่เป้ฯลูกน้องใครก็ได้นะมึง
กูเป็นคนใจแคบ ไม่ชอบช่วยเหลือคนอื่น ไม่ค่อยชอบมีส่วนร่วม
กูเคยลองฝืนช่วยคนอื่นดู กูก็ช่วยมันจนสุดทาง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกดีมันฝืนๆ ลองออกไปหาไรทำร่วมกับเพื่อนๆเก่าๆก็งั้นๆ
จะแก้ยังไงดีวะ
>>34 เพื่อนกูแม่งอยากเป็นหมอ แต่ไม่ชอบช่วยเหลือคน ตอนมันป่วยกูก็ซื้อยาให้มันแดกฟรีๆ แต่แค่โทรไปชวนให้ช่วยงานคณะด้วยกันวันศุกร์ ก็โกหกบอกจะกลับบ้าน มาวันเสาร์โทรหากูให้ไปกินข้าวเป็นเพื่อนมัน กลับบ้านพ่อง (ม.กูอยู่ ตจว. บ้านมันอยู่กรุงเทพ)กูก็แกล้งถามว่าไม่ได้กลับบ้านตั้งแต่เมื่อวานแลเวหรอ มันบอกอ๋อเปลี่ยนใจ ไม่ว่าจะเทสรุ่นรับน้องหรือช่วยงานคณะมันไม่เคยโผล่หัวมาเลยเว้ย ถ้าไม่มีคะแนนมันไม่ไป ถ้ามึงอยู่ด้วยลำแข้งของมึงเองไม่โทรมาขอความเชื่อเหลือชาวบ้านกูจะไม่ว่าเลย แต่ไอ้นี่โทรมาขอนั่นขอนี่แต่ให้มาวันเทสรุ่น ให้มาช่วยงานตัดกระดาษหน่อยก็ไม่มา น้ำใจไม่มีแต่อยากเป็นหมอ บอกเป็นหมอสบาย+งานน้อย+เงินเดือนเยอะ ตอนแรกกูไม่เกลียดมันนะแต่มันดูถูกวิชาชีพหมอชิบหายกูโกรธมาก เป้าหมายมันคือหมอผิวหนัง เกลียดจังคนที่ทำงานพวกนี้ควรมีจิตอาสากว่านี้ไหม? ไม่ใช่ถ้าไม่มีค่าตอบแทนก็จะไม่ทำ
>>36 จริงๆการทำงานแลกเงินในความคิดกูมันก็ไม่ผิดนะแต่พวกที่เอาแต่ทำตัวเป็นฝ่ายรับอย่างเดียววันนึงจะลำบากเพราะไม่มีใครให้มันซ้ำแล้วซ้ำอีกหรอก กูคิดว่านิสัยงี้ไม่ใช่แค่มึงหรอกที่จะเกลียดมัน คงมีคนอื่นอีกเยอะและวันนึงที่มันต้องการความช่วยเหลือก็จะไ่ม่มีใครอยากช่วยมันเพราะมันไม่เคยช่วยใคร ก็ปล่อยมันไปมึงอย่าไปสน ห้องกูก็มีคนแบบนี้หมือนกันตอนนี้แม่งไม่มีเพื่อนคบแล้วเลยพยายามกลับมาทำดีกะคนอื่นแต่ใครๆก็รู้สันดานกลายเป็นคนก็ดีด้วยคุยด้วย รับความช่วยเหลือจากมันแต่ไม่เป็นเพื่อนด้วยและไม่อยากช่วยมันเวลามันเดือดร้อน คิดดูงานทีสิสมันพังไม่มีใครสงสารซักคนมีแต่ไม่สนใจกับสะใจ ชีวิตน่าสมเพชเหี้ยๆเพราะหลอกแดกคนอื่นเค้ามามาก ขนาดแก้งเพื่อนมันเองยังแตกกะมันเลยสุดท้ายไม่มีคนช่วยทำงานงานดรอปเลย ก๊ากๆๆๆ
ปล.อาชีพหมอที่กูเคยได้ยินมันลำบากไม่ใช่หรอวะ ไม่เห็นมีหมอคนใหนบอกว่างานสบายซักคน
คนเราทำอะไรมันต้องหวังผลกันอยู่แล้วมันเป็นสันดานของมนุษย์ ไม่มีหรอกพวกที่ทำแล้วไม่หวังผล แบบทำบุญพวกมึงก็หวังจะได้บุญ หรือแม้กระทั่งยกมือไหว้คนมึงยังหวังให้เขารับไหว้เลย เราแก้ไขสันดานใครไม่ได้ สิ่งที่ทำได้คือแก้ไขตัวเอง เอาง่าย คือแม่งก็เป็นแค่เพื่อนมึงป่ะ ไม่ได้มีความหมายอะไรในชีวิตมึงอยู่แล้ว อย่าเก็บเรื่องแม่งมาใส่ใจเลย สักวันสิ่งที่แม่งทำก็จะส่งผลกระทบต่อตัวมันเอง โตขึ้นจะเป็นหมอ แต่ถ้าสันดานแบบนี้ก็คงไปไม่รอด เพราะการจะทำอาชีพอะไรสักอย่าง การจะอยู่กับมันไปตลอดชีวิตของมึง อาศัยแค่เงินเยอะ งานน้อย อย่างเดียวมันไม่พอ มันอยู่ที่ใจมึง ใจมึงต้องชอบ
บางทีกูก็เห็นแก่ตัวนะ 555+ งานคณะไม่ค่อยช่วย แบบงานกูเยอะแล้วไงประเด็น แต่กูก็ช่วยหากกูว่างจริงๆว่ะ
กูปรึกษาพวกมึงหน่อยดิ กูกำลังจะสิ้นหวังกับอนาคตลูกว่ะถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป คืองี้
เมื่อวานกูเพิ่งไปหย่ากับเมียมา เหตุผล แม่งเล่นไพ่ เกาะแดก วันๆไม่ทำห่าไรนอกจากเล่นไพ่ ลูกกูก็ไม่ดูแล พาเพื่อนมาแดกเหล้าบ้านกูผลานตังไปวันๆ กูก็หามาให้มันเรื่อยๆจนกูหมดความอดทน ไม่เท่านั้นสิมึง มันสอนลูกกูเล่นไพ่ แดกเหล้าแต่เด็กเลยไอ้เหี้ย ช่วง 2-3 ปีก่อนกูมีงานเยอะมากๆด้วยเลยไม่ค่อยมีเวลามาดูลูกนักด้วยเลยแย่ไปใหญ่ มึงรู้มั้ยลูกกู 4 ขวบมันเล่นป๊อกเด้ง กับอีแก่เป็นแล้วอ่ะไอ้เหี้ย จะอัจฉริยะก็ควรจะไปเก่งในเรื่องดีๆสิวะ ไม่เท่านั้นแม่งพูดกูมึง ผัวๆเมียๆ เย็ดๆ เริ่มเอาแต่ใจ ออกแววแรดแต่เด็กแล้วไอ้สัส กูพูดได้เลยถ้าปล่อยไว้แบบนี้ป.5 มันมีผัวแน่ๆแต่...
กูจะไม่มีวันยอมให้เป็นแบบนั้น อดีตแก้ไขไม่ได้แต่อนาคตเปลี่ยนแปลงได้ ตอนนี้กูมีชีวิตใหม่ สลัดเมียสวะออกไปพ้นๆได้ซะที เชื่อมั้ยตอนหย่ากันมันไม่พูดถึงเรื่องลูกเลยด้วยซ้ำ บอกศาลไปว่าไม่มีกำลังทรัพดูแลทั้งๆที่มันมีบ้านที่เชียงใหม่ทิ้งลูกสาวสองคนให้กู แต่ไม่เป็นไรกูไม่ฟ้องหรอก เอาลูกมาให้กูดีซะอีกกูจะเลี้ยงให้เป็นคุณหนูเลยสัส คือลูกกูโตไปหน้าตาดีแน่นอนแม่มันสวยกูก็หล่อ แต่ปัญหาคือมันรับนิสัยเหี้ยๆของแม่มันมาเต็มๆ เอาแต่ใจโวยวาย แรดร่าน ปากจัด ครบเซ็ตสก๊อยเลยมึง ณ ตอนนี้ 4 ขวบคนกับ 5 ขวบคนนิสัยแรงพอๆกัน มันฉลาดนะแต่ไปฉลาดในเรื่องไพ่ไอ้สัสเอ้ยหย่าช้ากว่านี้แม่งคงแทงสนุ๊ก ปั่นไฮโลเป็นน่ะสัส
กูจะเปลี่ยนนิสัยมันยังไงดีวะ แล้วกูก็ไม่อยากตีกลัวโตไปมันจะเก็บกด คือตอนนี้กูกำลังจะสร้างเงื่อนไขคือพูดเพราะ เรียบร้อย ตั้งใจเรียน ทำตัวดี ทำตามกฏของกู อยากได้อะไรมึงได้ โวยวายมึงจะไม่ได้อะไรจากกู ไพ่คือห้ามเล่นเด็ดขาด ตอนนี้กูว่าจะลาออกงานมาเลี้ยงลูกเลยว่ะ แต่ติดที่กูเลี้ยงเด็กไม่เป็นนี่แหละ พวกมึงช่วยแนะนำกูที หรือกูควรจะเริ่มที่สังคมด้วยป่าววะ ตอนนี้มันเรียนโรงเรียนอนุบาลแถวบ้านกูค่าเทอมไม่แพงมากสังคมนับว่าเหี้ยสัสมีแต่เด็กแว๊นอ่ะมึงแถบนั้น กูควรจะส่งเข้าหญิงล้วนดัดนิสัยหรือนานาชาติไปเลยดีป่าววะได้ทั้งภาษาได้ทั้งสังคม หรือพวกมึงคิดว่าสังคมมันไม่เกี่ยววะ? เพราะส่วนตัวที่ส่งเข้าแถวบ้านเพราะกูก็จบมาจากโรงเรียนวัดนี่แหละ แต่กูรวยกูก็ได้ดีได้ยังไงก็ช่วยแนะนำกูที
>>41 ลกมึงยังเด็ก ยังมีวิธีสอนอีกนาน อยู่กับเขาเยอะๆ เรียนรู้เขา เข้าใจเขาว่าเขาเป็นเด็กยังไง
กูว่าหลังจากนั้น มึงจะเข้าใจเองว่า ต้องทำยังไง เด็กแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน
ลองหาหนังสือจิตวิทยาเด็กมาอ่านพัฒนาการเด็กคร่าวๆก็ได้เว้ย
กูไม่แนะนำการใช้แค่วิธีออกกฎ แล้วทำได้ได้รางวัลนะ
คือใช้ได้ แต่อยากให้มึงให้ความเข้าใจเด็กด้วย บอกเหตุผลให้เด็กได้
ไม่งั้นถ้ามึงเซทกรอบไว้แน่นไป ลูกมึงตอนไม่อยู่ในสายตา ก็ไปทำอะไรเหี้ยๆได้อยู่ดี
เรื่องไพ่ เรื่องอะไรงี้ กูว่า เลิกเล่นไป ก็ดีแล้ว ถ้าสภาพแวดล้อมไม่มีคนเล่น ก็ไม่เล่นไปเอง
เรื่องโรงเรียน หญิงล้วน กับนานาชาติก็ไม่ใช่ไม่แรง ลองไปถามๆดูแล้วกันว่า สภาพแวดล้อมที่ไหนดี ใจเย็นๆเลือกแล้วกัน
>>42 ขอบใจมึงมาก กูว่าวันเสาร์หน้าจะไปปรึกษาสถาบันพัฒนาการเด็กอยู่ หาหนังสือที่มึงว่ามาอ่านด้วยพอดี โอเค
เออ ช่วยแนะนำโรงเรียน ใกล้ๆร่วมฤดีให้หน่อยดิวะ กูลองเสิร์ชดูแล้วแต่ไม่รู้สังคมข้างในว่ะ อนุบาล ยัน ม.ปลายเลยก็ดี แต่นานาชาติร่วมฤดีกุไม่ไหวนะ ขายบ้านยังไม่พอจ่าย
แนะนำอะไรมากไม่ค่อยได้ แต่ในฐานะที่มีพ่อเป็นซิงเกิ้ลแด๊ก
พยายามอยู่เป็นเพื่อนลูก ทำกิจกรรมร่วมกันให้มากๆ อาจจะเล่นด้วยกันหรือทำอาหารให้ทานก็ได้ พอลูกโตขึ้นพอที่จะเรียนรู้เอง รู้ว่าอะไรควรไม่ควรได้แล้วก็อย่าพยายามพูดเรื่องแย่ๆฝั่งแม่มากนัก พยายามพูดให้เป็นกลางไว้ สู้ๆ
4-5ขวบยังดัดได้ไม่ยากเกินไป ทำตัวดีมึงก็ใจดี ทำนิสัยแม่มึงขึ้นเสียงให้มีอำนาจกว่าลูกให้ได้ถ้าต้องตีก้ต้องทำว่ะ
สู้เขาสหายโม่ง
>>41 จากหัวอกของเด็กที่มีพ่อแยกทางกับแม่ ก่อนอื่นเลยค่ะ ไม่ว่าเด็กจะเล็กขนาดไหนจะบอกเลยว่าเด็กเขาเข้าใจค่ะ เมื่อพ่อแม่แยกทางกัน มันจะเป็นปมในจิตใจของเด็กค่ะ ปมเล็กปมใหญ่ยังไงนี่ก็ต้องดูอีกที สิ่งที่คุณพ่อควรจะทำในตอนนี้ควรจะอธิบายและชี้แจงให้ลูกเห็น ว่าสิ่งไหนถูกสิ่งไหนผิด ควรจะมอบความรักให้มากกว่าเดิมเป็นสิบๆเท่า เพราะเด็กที่พ่อแม่หย่ากันนั้นต้องการความรักสูงมาก ตอนนี้อาจจะไม่ต้องอธิบายถึงรายละเอียดว่าทำไมถึงหย่ากัน แต่เมื่อเด็กเริ่มโตขึ้นพูดคุยรู้เรื่องควรจะให้แกมานั่งรับฟังถึงปัญหา อธิบายให้แกฟัง อย่าคิดว่าเด็กเป็นเด็ก นี่คือเรื่องของผู้ใหญ่ ไม่จริงเรื่องค่ะ เมื่อคุณมีลูกเรื่องนี้จะเป็นเรื่องของครอบครัว พยายามสอนเด็กว่าการที่ครอบครัวมีปัญหา ไม่ได้แปลว่าจะต้องทำให้ตัวเองเป็นเด็กมีปัญหาตามไปด้วย เซ็ทตัวเองให้เป็นแบบอย่างที่ดี เป็นที่พึ่ง อยู่กับลูกให้เหมือนเพื่อนที่ลูกสามารถเข้าหาและปรึกษา และต้องวางตัวให้เป็นผู้ปกครองลูกจะได้รู้ว่าใครคือผู้ใหญ่ใครคือเด็ก การสอนที่ดีคืออะไรที่เราอยากให้ลูกทำกับเรา เราก็ทำกับลูกค่ะ เช่นหากไม่อยากให้ลูกพูดคำหยาบ คุณก็ไม่ควรจะพูดคำหยาบทั้งกับลูกและคนอื่นๆทั้งต่อหน้าและลับหลังลูก บางทีคุณอาจจะคิดว่าแกไม่ได้ฟัง แต่เด็กในวัยนั้นเรียนรู้ทุกอย่างมาจากผู้ปกครองหมดแหละค่ะ
สู้ๆนะคะ //หากพูดเยอะไปขออภัยค่ะ
>>47 ผิดเต็มๆที่ปล่อยลูกไปอยู่กับแม่นิสัยเหี้ยแบบนั้น พลาดตั้งแต่เอามาเป็นแม่แล้วล่ะ แถมลูกสองคนนิสัยแม่มันเป๊ะทั้งคู่ ปวดหัวมากๆครับ
แต่ทำไงได้มันก็ลูกเรา ยังไงก็ขอบคุณครับ เอ้อ อีกนิดนึงก็คือละครสมัยนี้สักแต่ว่าทำออกมาไม่นึกว่าเด็กมาดูมันจะคิดยังไงลูกผมมันจำมาจากละครทั้งนั้น ท่าทางคำพูดอะไร+นิสัยแม่ที่เป็นของจริงเข้าไปอีก เคลียดเลยครับ
กูไม่รู้จะถามตรงไหน ขอถามตรงนี้แล้วกัน
คือตากูเสียปีที่แล้ว ตอนนี้กระดูกอยู่บ้านน้า ส่วนกระดูกยายกับบรรพบุรุษคนอื่นๆอยู่ที่บ้านตา แล้วน้ากูคนนึงก็บอกว่าจะเอากระดูกไปรวมไว้ที่วัดแล้วให้แม่กูเซ็นเอกสารยินยอมให้เอากระดูกไปไว้วัดได้ มันเป็นเอกสารเขียนขึ้นเองไม่ใช่เอกสารทางการอะ(ลุงกูเขียนขึ้นมา) กูอยากรู้ว่ามันจำเป็นต้องเซ็นด้วยเหรอวะแค่ย้ายกระดูก ตอนย่ากูเสียพ่อกูก็ไม่เห็นต้องเซ็นอะไร ทีนี้ทางบ้านแม่กูอะมีปัญหาเรื่องสมบัติอยู่ คือบ้านที่กูอยู่ตอนนี้อะปลูกอยู่ตรงที่ของยายที่เสียไปแล้ว(ก่อนเสียแกบอกให้มาปลูกที่นี่จริงๆแม่กูจะไปปลูกแถวลาดพร้าว) พอยายเสียก็ไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ เออแล้วแม่กูก็ไม่เซ็นอะ เลยทะเลาะกับน้า กูสงสัยว่าแม่กูคิดไปเองรึเปล่าว่าน้ากุจะให้มาหลอกเซ็นเอกสารอะไรหรือว่าเป็นไปได้ว่าย้ายกระดูกทำบุญมันต้องทำตามขั้นตอนนั้นคือมันต้องเซ็นจริงๆ
ตอนนี้กูรู้สึกแย่มาก เพราะจริงๆกูไม่ได้มีปัญหากับญาติพี่น้อง แต่แม่กูมีปัญหาเรื่องนี้บ่อยมากจนกูเริ่มเขวว่าพวกญาติมันจะมาเอาประโยชน์จริงๆรึเปล่า
>>48 ไม่ต้องให้ดูละครเลยค่ะดีที่สุด เมื่อก่อนเคยรู้จักกับครอบครัวหนึ่งที่ ทั้งบ้างไม่มีทีวี มีเพียงเครื่องเดียวในห้องนอนพ่อแม่ ซึ่งเด็กจะต้องขออนุญาติก่อนเข้าออกห้องพ่อแม่ แต่ก็เข้าใจว่าสมัยนี้เทคโนโลยีมันกว้างไกลกว่าสมัยก่อนมากๆ ไม่มีทีวีก็มีเน็ต แต่สมัยนี้ก็มีโปรเกรมแบบบล็อคค่ะ แบบบล็อคเน็ตพวกเว็บต่างๆที่ไม่อยากให้เด็กเข้าเราก็บล็อคได้ค่ะ แม้ว่าจะห้ามลูกดูทีวีแต่เราก็เลือกสรรค์ได้ค่ะ เช่นละครช่วงอาหารเย็นที่มันสนุกๆเหมาะสำหรับเด็กก็ให้ดู แต่พอถึงฉากที่ตบกันหรืออะไรก็ลองคุยกับลูกดูว่าเห็นหากนี้แล้วรู้สึกอย่างไร คุยและปรึกษาถึงผลที่ตามมา ต้องบอกว่าสิ่งที่เห็นนั้นคือการแสดง หากคนทีทำแบบนี้ในชีวิตจริงจะมีผลอย่างไร แล้วก็ควรจะกำหนดเวลาดูทีวีค่ะ เช่นระหว่างช่วงเวลานี้ถึงนี้เท่านั้น ก่อนจจะดูทีวีการบ้านต้องเสร็จก่อนตั้งเงื่อนไขอะไรๆก็ว่าไป
>>50 ก่อนจะลงมือเซ็นอะไรต้องอ่านสัญญาให้ถี่ถ้วน ให้ครบทุกแผ่นและต้องเข้าใจทุกแผ่นและต้องมั่นใจว่าจะไม่มีอะไรเพิ่มเติม การเซ็นสัญญานั้นมักจะต้องมีพยายาน ถึงสองคนเสมอ สัญญาที่เขียนควรจะเป็นการพิมพ์ออกมาให้เป็นกิจลักษณะ ไม่ควรจะเป็นลายมือเขียนใดๆ และเมื่อเซ็นควรจะมีถ่ายสำเนาเก็บไว้ทั้งคู่ค่ะ
>>41 กูกล้าพูดเลยสังคมมีส่วนมากๆ ส่งให้เรียนโรงเรียนแพงๆไปเลย ซื้อสังคม ฝึกมารยาท
ถ้าฝึกนิสัยลองให้เลี้ยงสัตว์ดู ทำให้ใจเย็น/สุภาพขึ้นด้วย โดยมีข้อแม้ว่าลูกต้องเป็นคนดูแล ให้อาหารเอง อะไรแบบนี้ ลองดูนะเพื่อนโม่ง สู้ๆว่ะ
กูเป็นกำลังใจให้ มีไรมาอัพเดทก็ได้นะ พวกกูพร้อมรับฟังเสมอ
>>41 เด็กวัยนี้ยังดัดได้อยู่ ไม่น่าเป็นปัญหาหรอก มึงหาโรงเรียนดีๆ สังคมดีๆให้ลูกอยู่ มึงรวยเรื่องนี้ไม่น่าจะมีปัญหาอยู่แล้ว แล้วก็กันอีแม่อย่าให้มาจุ้นจ้านกับการเลี้ยงลูกของมึงเป็นอันขาด ถ้ามึงลาออกมาเลี้ยงลูกได้โดยไม่มีปัญหากูก็เห็นด้วย ต้องให้ความรักกับลูกแล้วดูแลลูกมากๆ นะ กูเป็นกำลังใจให้มึง มีอะไรมาปรึกษาได้เสมอ
จิตแพทย์ที่ไหนดีบ้าง แนะนำหน่อยดิเพื่อนโม่ง
>>41 นี่กูเองนะ
กูลองทำตามที่พวกมึงแนะนำแล้ว ใช้เหตุผลมากๆ พูดคะ ขา กับลูก เลิกเรียนหรือตอนอยู่บ้านก็พาไปทำกิจกรรม อะไรแทนมันจะได้ไม่สุมหัวกันเล่นไพ่
กูรีวิวเลยพวกมึงมันระดับ 5 ดาวจริงๆ ลูกกูพฤติกรรมดีขึ้นมาก เรียบร้อยพูดเพราะ น่ารัก ว่าง่ายขึ้นเยอะ กูก็พอเข้าใจวัยมันละว่ากำลังเป็นวัยเลียนแบบ
กูทำอะไรตอนนี้มันเลียนแบบกูหมดเลย กูพูดคะ ขา มันก็พูดตาม ว่างๆกูอ่านหนังสือพิมพ์ มันก็ไปหยิบหนังสือมาอ่านมั่ง เอ้อ ค่อยเบาใจกูไป ตอนนี้เสียแค่เล่นไพ่ที่กูยังแก้ไม่ได้ กูห้ามแล้วนะ เอาไพ่ไปทิ้งขยะหมดแล้วด้วย ลูกกูเสือกฉลาดวาดตัวเลขเขียนสัญลักษณ์ทำไพ่เองเลยสัสเอ้ย สรุปห้ามยังไงก็ห้ามไม่ได้ กูเลยไม่ห้ามละตอนนี้ แต่หากิจกรรมอะไรมาทำให้ไม่ว่างแทน พวกละครน้ำเน่าตบตีทั้งหลายกูไม่เปิดเลย เปิดเป็นพวกสารคดี ดิสโคเวอรี่ ดูปลา ดูสัตว์ฟังภาษาอังกฤษไปแทน เอ้อ ดีขึ้นเยอะอ่ะ ยังไงก็ขอบคุณทุกคำแนะนำมากๆเว้ย
เอ้อ ยังมีอีกปัญหานึง คือ แม่ ลูกกูมันเข้าใจนะเว้ย ว่าหย่ากันคืออะไร กูบอกไปหมดแล้ว แต่กรณีแม่มัน มันไม่เหมือนคนอื่นไง คือเลิกแล้ว มันไม่เอาลูกเลย ก่อนจะหย่ากันอาทิตย์นึงมันไม่คุยกับลูกด้วยซ้ำจนลูกมันต้องหนีมาเล่นมาคุยกับกูแทน ตอนนั้นงานกูก็ยุ่งๆด้วย คือ พวกมึงเคยเห็นผู้หญิงเหี้ยๆแบบนี้มั้ยวะ ไม่เอาลูกตัวเองอ่ะไอ้สัสกูสงสารมันชิบหาย มันเข้าใจว่าหย่ากันจริง หย่ากันคือแยกกันอยู่ แม่ไม่อยู่บ้านแล้วนะ แต่ว่าแม่ยังอยู่บนโลกเจอแม่ได้ ทั้งที่อีห่าแม่มันทิ้งไปอยู่เชียงใหม่เปิดบ่อน เอาผัวใหม่เข้าบ้านแล้ว กูละไม่รู้จะบอกลูกยังไง กูควรจะหาเมียใหม่ดีป่าววะ? อย่างน้อยมันจะได้มีคนให้เรียกว่าแม่ แต่คนไทยกูคงจะขอบาย หาแหม่มฝรั่งดีกว่า ส่วนใหญ่ที่กูเห็นเทคแคดูแลลูกไม่รังเกียจลูกเลี้ยงดีกว่าคนไทยเยอะ
แต่ตอนนี้กูคิดนะ ว่าไอ้วิธีบ่น ด่า ตี เอาลูกไปเทียบกับคนอื่น ที่พ่อแม่กูสมัยเด็กๆเคยใช้แม่งไม่ได้ผลซักนิด ยิ่งทำลูกยิ่งต่อต้าน อะไรที่กูเคยเจอมาในสมัยเด็กๆแล้วกูไม่ชอบกูก็จะไม่ใช้เลยเพราะลูกกูมันก็คงไม่ชอบเหมือนกัน คุยกันด้วยเหตุผลกูว่าเป็นวิธีเลี้ยงเด็กที่เวิร์คที่สุดแล้วยังไงก็ขอบใจอีกทีเว้ย
ส่วนเรื่องโรงเรียนกูกำลังคิดอยู่ว่าจะรอให้จบอนุบาลแล้วค่อยย้าย หรือย้ายเทอมหน้าเลย พวกมึงคิดว่าไงดีวะ? ตอนนี้โรงเรียนที่มันอยู่สังคมก็ไม่ค่อยดีนัก ลูกกูเคยแดกนมโรงเรียนแล้วท้องเสียด้วย กูได้ยินข่าวลือมาว่าครูแม่งเอานมดีๆไปเก็บไว้ใส่แพคใหม่ใส่กล่องแบรนโรงเรียนแล้วขายให้เด็กประถมแทน แต่เอานมเก่าๆเหลือในคลังมาแจกให้เด็กแทนไอ้สัส จะทนไปซัก 2 ปีดีป่าววะ
เอ้อ แล้วมึงว่าโรงเรียนอนุบาลรัฐบาลกับเอกชนอะไรเวิร์คกว่ากันวะ เพราะตอนเด็กๆกูก็อยู่แต่รัฐบาลเลยไม่รู้ว่าเอกชนเป็นไงบ้าง
กูลองปรึกษาแฟนเก่า(ไม่ใช่เมียเก่านะ) มันก็แนะนำให้เข้าเอกชนพวกเซนต์ๆทั้งหลายเพราะมันจะเน้นสอนพวกภาษาที่ 2-3 สภาพแวดล้อมก็ดูดี
แต่รัฐบางที่ก็ใช่ว่าจะห่วยกูอ่านในพันทิปมันก็มีดีด้วย สอนภาษาจีน ภาษาอังกฤษ แถมค่าเทอม 1000 เองมึง กูเลยชั่งใจ
ภาพรวมๆพวกมึงคิดว่าอะไรดีกว่ากันวะ? รบกวนหน่อยนึง
>>60 เรื่องเมียมึงช่างหัวแม่งไปเลยดีแล้ว เหี้ยแบบนั้น ยิ่งคุยยิ่งเอาลูกมาเสีย ก็บอกลูกไปตรงๆแบบเพราะๆ แต่อย่าด่าเมียมึงให้ลูกฟัง อย่าสอนให้ลูกเกลียดแม่ บอกลูกไปแบบเพราะๆ ว่าแม่เขามีธุระ ไปต่างจังหวัดต่างประเทศว่าไป มาเจอไม่ได้ โกหกไปก่อน เดี๋ยวพอโตขึ้นจะเขาใจเอง ย้ำกับลูกไปว่าทุกคนยังรักลูกเหมือนเดิม บอกรักลูกบ่อยๆ
เรื่องวาดไพ่เดี๋ยวสักพักมีกิจกรรมใหม่ๆทำก็ลืมไปเอง มองในแง่ดีลูกมึงก็มีหัวศิลปะว่ะ
ส่วนโรงเรียน ถ้าต้องอยู่อีกตั้งสองปีก็ย้ายเถอะว่ะ นานไปสำหรับเด็ก ปรับตัวไม่ยากหรอกเด็กอ่ะ ไหนจะเรื่องสุขภาพอาหารการกินอีก
เรื่องโรงเรียนแนะนำอ่านกระทู้นี้
http://pantip.com/topic/33292280
สู้ๆเว้ย ท่องไว้เพื่อลูกๆๆ กูเข้าใจ
เรื่องละคร กูบอกเลย ห้ามให้เด็กดู เด็กผู้หญิงไหนโตมากับละครไทย นิสัยแย่หมด วี๊ดว๊ายดัดจริตโวยวายไม่น่ารักซักนิด ให้ไปดูการ์ตูนช่อง9 ดิสนีย์คลับหรือทรูวิชั่นแทนดีกว่า อย่างน้อยการ์ตูนช่องพวกนี้เขาก็คัดมาแล้วว่าเหมาะกับเด็ก
เรื่องเล่นไพ่ ไปซื้อพวกเกมกระดานอื่นๆอย่างหมากฮอส หมากเก็บ การ์ดเกม แต่งตัวตุ๊กตา มาฝึกให้ลูกเล่นดู กูค่อนข้างเชื่อว่าเด็กชอบเล่นของแบบนี้มากกว่า พอติดแล้วเดี๋ยวก็เลิกเล่นไพ่ไปเองมั้ง
ส่วนโรงเรียนนี่สังคมมันมีผลจริงๆคือ กูก็แนะนำไม่ได้หรอก บอกได้แค่ว่าโรงเรียนแพงกว่ามันก็คัดเด็กของพ่อแม่กะเลกะลาดออกไปได้พอสมควรแล้วว่ะ อย่างโรงเรียนค่าเทอม1000ของมึงที่ว่าสอนภาษาจีนภาษาอังกฤษ กูก็ไม่รู้ว่าดีไหมนะกูไม่กล้าวิจารณ์ แต่ลองคิดดูว่าคนที่มีปัญญาจ่ายค่าเทอม1000มันก็มีปัญญาเอาลูกมันมาฝากอะ ลองถามความเห็นผู้ปกครองดีๆ หรืออย่างโรงเรียนแพงๆบางที่ก็มีเรื่องแกล้งกันเหมือนกัน
>>60 ยินดีด้วยที่ลูกโอเคขึ้น กูมีคนใกล้ตัวประสบการณ์คล้ายมึง
กูนึกถึงตอนเด็กละคร 3 5 7 9 กูก็ดูนะ 55 นั่งดูเลยทั้งครอบครัว (ผู้หญิง) แต่โตขึ้นมาเรียบร้อยอะไม่กรี๊ดๆ ส่วนนึงคือพ่อกูชอบเหน็บว่าละครไร้สาระ วุ้ๆ เลยไม่คิดงี่เง่าตาม เจ้าพ่อตรรกะ แล้วที่บ้านเป็นตัวอย่างที่ดีเลยไม่เป็นปัญหา มีการมานั่งด่าละครด้วยกันเฮฮากันไป 55
กับลูกคุยกันเยอะๆ สนิทไว้ยิ่งดีน่าจะเติมเต็มลูกได้บ้าง ส่วนแม่ใหม่นี่ไม่มีความเห็น ถามว่าเด็กเหงาไหมโตขึ้นกูคิดว่ามีบ้างนะ น้อยใจอะไรงี้ ใกล้ตัวกูมีซิงเกิลแด๊ดฟังๆ นางเล่ากูก็แอบสงสารเด็กเหมือนกัน นางพยายามพาลูกเที่ยวให้เวลาเยอะๆ มีกิจกรรมด้วยกัน กูก็คิดว่าน่ารักดี เว้นว่าอยากได้เพื่อนคู่คิด คู่ชีวิต คู่แชร์ ก็ลองมองๆ ไว้ก็ได้ หวังว่าจะเจอคนที่รักลูกมึงจริงๆ ละกัน
โรงเรียนนี่กูเรียนเอกชนมากูได้ภาษานะ รร.กูเน้นอังกฤษ คุณภาพรุ่นกูจัดว่าดีเด็กที่เรียนด้วยกันตั้งแต่ประถมเรียนสายหมอกันเยอะอยู่ เรียนต่อรร.ท็อปๆ ของจังหวัดหลายคน ต่อม.ท็อปของประเทศก็หลาย (สังเกตเฉพาะเพื่อนห้องเก่ากูนะ) อดีตหญิงล้วนเข้มงวดระเบียบจัดสุดๆ แต่เสียดายยุคหลังหละหลวม ถ้าเงินถึงส่งเข้าเอกชนได้ก็ส่งแต่ 2 คนอายุไล่ๆ กันนี่ก็น่าคิดนะ
ตอนเด็กกูเคยออกอนุบาล 1 ต่อ 2 รร.แถวบ้านไม่เป็นปัญหาอะไรนะ
ไอ้สัสชี้ผิดจะชี้ 60
>>60 ยินดีด้วยนะคะที่ลูกคุณพัฒนาไปในทางที่ดี เรื่องแม่ใหม่มีความเห็นว่าอย่าเลยค่ะ ช่วงนี้เด็กยังทำใจไม่ได้ ไม่ว่าแม่ของเขาจะแย่ขนาดไหนในสายตาของเด็กนั้น แม่ก็คือแม่ค่ะ จะไม่มีใครสามารถแทนได้เด็ดขาด ดีไม่ดีหากคุณนำแม่ใหม่ขึ้นมาเด็กอาจจะคิดว่ากำลังถูกแย่งความรักและพลันจะต่อต้านอีก ตอนนี้สิ่งที่ดีที่สุดคือการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับลูกให้แน่นแฟ้นค่ะ อย่างที่เคยบอกไว้ว่าเด็กที่ครอบครัวแตกแยก ต้องการความรักสูง สูงมากค่ะ เราต้องให้ความรักเขามากๆ เพื่อที่เขาจะได้ไม่ไปหาความรักจากคนอื่น เมื่อโตขึ้นจะได้ไม่มีปัญหาเรื่องใจแตก
ส่วนเรื่องไพ่ไพ่ ให้เล่นได้ค่ะ ถ้าอยากเล่นไพ่นักก็ให้เล่นแต่เปลี่ยนเกมส์ที่เล่น และชนิดของไพ่ แล้วถ้าน้องเขาวาดไพ่เป็นยิ่งดีใหญ่เลยค่ะ แทนที่จะให้วาดพวกไพ่ตองก็ให้วาดไพ่คำศัพท์ ไว้ให้เล่นจับคู่ เอาไว้เสริมสร้างพัฒนาการ เด็กสมัยนี้วิธีการเลี้ยงดุด่าไม่เวิร์คแล้วเพราะเด็กมีความคิดมากขึ้น สิ่งที่ดีที่สุดคือการอธิบายเหตุผลพูดคุยอย่างผู้ใหญ่ ไม่ได้ให้เด็กกลัวเราแต่ให้เด็กเกรงเรา ส่วนเรื่องโรงเรียนอันนี้ไม่แน่ใจเท่าไหร่นัก มันอยู่ที่เด็กด้วยว่าจะคบเพื่อนแบบไหน โรงเรียนเอกชนก็มีพวกคนรสยและฐานะปานกลาง แต่พวกนี้ก็ไม่ได้คอนเฟิมว่าจะดีเสมอไป อาจจะมีพวกลูกคุณหนูนิสัยแย่มาก็ได้
ส่วนโรงเรียนรัฐ ก็อย่างที่รู้กันว่าใครจะเรียนก็ได้ ทุกที่ล่ะแค่มีคนดีและไม่ดีปะปนเพราะมันเป็นสังคม สอนลูกเราให้ดี ให้เลือกคบเพื่อน แต่ก็ไม่ใช่ว่าแบบ อี๋ แกมันไม่ดีฉันไม่คบแก มันก็ไม่ใช่ สอนให้ลูกเป็นที่รักของผู้อื่น ให้อยู่ร่วมสังคมกับคนอื่นให้ได้ รู้จักผิดชอบช่วยดี แค่นี้อยู่ที่ไหนก็ได้ค่ะ
ปล. เวลาจะย้ายโรงเรียนปรึกษาลูกหนย่อยก็ดีค่ะ ให้แกมีส่วนร่วมในการตัดสินใจบ้าง เพราะเมื่อก่อนดิฉันเคยเรียนนานาชาติสมัยอนุบาลแถวนนทบุรี พอจะขึ้นป.1จู่ๆ พ่อก็ย้ายมากรุงเทพไม่ถามสักคำ ให้เข้าโรงเรียนเอกชนภาคไทย กว่าจะปรับตัวได้ ตั้งหลายเดือน (เพราะตัวเองไม่แข็งไทย แล้วอาจารย์ที่นี่ก็ไม่พูดอังกฤษ เพื่อนๆก็ล้อหาว่าเราพูดไทยไม่เป็น //ก็พูดไม่เป็นจริงๆ) ผมนี่ร้องไห้ไปโรงเรียนทุกวัน เกลียดโรงเรียนไปเลย
พวกแกเคยมีความรู้สึกเกลียดทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกไหม...
กูรู้สึกเฮงซวยมาก อยู่แม่งหัวกูเป็นไรไม่รู้ อยากด่าอยากว่า อยากเถียงไรไปหมด แล้วแม่งก็หลุดไง เพื่อนแม่งก็โกรธกู แต่พอแม่งเงียบแล้วอึดอัดชิบหาย รู้สึกเฮงซวย
โอ๊ยย รำคาญพ่อกูชิบหายเลย แม่มเป็นอัมพฤต แล้วเสือกทำอะไรหลายๆอย่างไม่เข้าท่าเลยวะ เมื่อก่อนไม่หนักขนาดนี้ มีแต่บ่นๆ
เดี่ยวนี้แม่มชอบเยี่ยวใส่ท่อ ส้วมดีๆมีไม่เยี่ยวสัส วันไหนท่อทันก็เสือกเยี่ยวอีกแม่มกูละเบื่อ
แล้วยังอยากได้เงิน อยากเอาโฉนดที่ดินไปให้เพื่อนลงทุน 2 ที่ พอถามไปถ้าเพื่อนไม่มีเงินคืนทำไงละ
บอกว่า"เขามีคืนอยู่แล้วละ" คือแบบถ้าเขาเจ๊งธนาคารกูยึดบ้านกูดิถูกมั้ยไหม ?? แล้วพอกูตอบไปแบบนี้แม่มด่ากู
กับ คนที่จะให้ยืมอะคือมาจากไหนกูไม่รู้จัก แต่พี่ชายกูบอกว่ารู้จักกับคนที่พ่อกูคุยโทรศัพท์มาอีกที่ คือแม่งเป็นใครก็ไม่รู้ คุยกันซักพักหนึ่ง อยู่ดีๆบอกให้ลงทุนทำงานกับเขา กับ หลักประกันห่าอะไรก็ไม่มีมีแค่ประกันปากเปล่าวะ แล้วก่อนหน้านี้ก็เอาเงินไปให้ใครไม่รู้ยืมไป 100K แล้วโอนคืนให้ เดือนละ 2000 บาท แบบว่ากูท้อเลยวะ
>>73 มึงหัดนึกตอนที่มึงยังเด็กอยู่สิครับ พูดก็ไม่ได้ เดี๋ยวก็เยี่ยวเดี๋ยวก็ขี้ เขาก็ต้องทำมาหาแดกให้มึงอีก การที่มึงไม่ให้เกรียติบุพการี ไม่เคารพ กูไม่แปลกใจเลยว่ะว่าทำไมชีวิตมึงถึงสิ้นหวัง....กลับไปคิดทบทวนดูนะครับ เมื่อก่อนพ่อมึงทำอะไรให้มึงไว้บ้าง ที่มึงมีทุกวันนี้ มานั่งพิมพิ์ว่ารำคาญเขาได้ในนี้เพราะใคร ถ้าไม่มีน้ำเชื้อเขา มึงก็ไม่ได้ลืมตาเกิดขึ้นมาบนโลกนี้หรอกครับ สำเหนียกตัวเองไว้ด้วย วันใดไม่มีเขาแล้วมึงจะเสียใจ จะมานั่งเคาะโลงขอโทษมันก็ไม่มีประโยชน์แล้วครับ ตอนนี้ยังมีเวลากลับตัวกลับใจนะครับ
>>73 มึงก็ลองย้อนนึกไปบ้างนะ ว่าตอนเด็กๆพ่อมึงทำอะไรให้มึงบ้าง ส่งเรียนหมดไปกี่บาท ค่ากินค่าแดก ไหนจะร้องไห้งอแงเอาของเล่น เอาอะไรอีก คือ มึงว่าพ่อตัวเองงี้มันถูกอ่อวะ
ส่วนกรณีนี้มึงลองไปคุยกับพ่อดูอีกทีนะ มึงยกเหตุผลไป ถ้ายังไม่ฟังมึงก็ไม่จำเป็นต้องตามใจเขา เรื่องธุระกิจลงทุนไรพวกนี้มันไม่มีคำว่าเพื่อนหรอกมึง ทางทีดีถ้าจะทำนะ มึงไปทำลายลักษษ์อักษรอะไรมาเถอะ บอกพ่อไปว่าถ้าจะเอาต้องมีใบอะไรก็ว่าไป
>>74 คือมีแต่แม่ส่งเรื่องเรียน คือ เป็นอัมพฤตมา 9 จะ 10 ปีแล้ว คือ2 ปี หลังๆพึ่งมาโกรธสุดนี้แหละ เพราะพูดอะไรไปก็มีแต่ด่ากลับตลอด
ถ้าถามว่าเคยกลับตัวไหมเคย เพราะตอนนั้นสงสารแกมากไม่มีคนดูแลกูเป็นคนดูแลคนเดี่ยวด้วย ตอนอายุ 14 ตอนนี้ 18
>>76 คือ ที่ไม่อยากทำเพราะบ้านกูไม่มีอะไรเหลือแล้วไง รถไม่มี มีแค่มอไซต์คันเดี่ยวกับบ้านเพียวๆ 1 หลัง กับ อีก 1 ที่ดิน
คือ แกจะเอา 2 ที่ดินไปให้เพื่อนทำให้
>>77 แค่บุญคุญที่เขาทำให้มึงเกิดมาก็ไม่รู้ว่าชาตินี้มึงจะใช้หมดรึเปล่าเลยครับ อย่าใช้คำว่าสงสารเลย บาปเปล่าๆ เขาด่าก็ช่างเขาเถิด ฟังไว้เฉยๆ ก็ไม่ต้องเถียง เถียงแล้วได้อะไรละครับ เถียงแล้วจะชนะ ชนะแล้วได้อะไร ปัญหาเรื่องเงินก็คุยกับพ่อดีๆ คุยแล้วไม่ฟังเราก็เออออตามเขาไป แล้วค่อยมานั่งแก้ปัญหาเอง แต่มึงแค่อายุ18 คงทำอะไรไม่ได้มาก ก็คงต้องให้แม่จัดการ ส่วนตัวเองก็แบ่งเบาภาระนิดๆหน่อยๆ
ส่วนกูเองก็มีพ่อที่ป่วย เป็นกล้ามเนื้ออ่อนแรง แม้ตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นอัมพฤตแต่ก็เริ่มเดินเหินลำบาก จะไปไหนมาไหนกูก็ต้องอุ้มต้องประคอง เขาเป็นคนเอาแต่ใจ ยิ่งป่วยยิ่งเอาแต่ใจ โมโหร้ายชอบตวาด บางทีกูก็หงุดหงิด บางทีกูก็โมโหแต่พอกูมาคิดย้อนกลับไป พ่อให้กูมาตั้งเท่าไหร่ สั้สแค่นี้ทำให้ไม่ได้ แค่นี้บ่นก็ไม่ต้องไปทำมาหาแดกอะไรแล้ว
>>78 >>77 กูเข้าใจในทั้งสองมุมมองของพวกมึงนะ แต่บางทีมึงก็ไม่ใช่ต้องไปตามใจหรือยอมทุกอย่างเปล่าวะ ความรักที่มันมีแต่การตามใจมันเรียกรักแบบเสียสติว่ะมึง มึงก็ต้องดูเหตุผลของมันด้วยว่ามันเหมาะที่จะเอาที่ดิน เอาอะไรไปเสี่ยงมั้ยกับที่พ่อมันทำโดยไม่มีลายลักษณ์อักษรน่ะ แต่กูก็เห็นด้วยที่ >>77 มึงไม่ควรคิดแบบนั้นกับพ่อมึงแน่ๆล่ะ มึงควรใช้เหตุผลให้มากกว่าอคติส่วนตัว ส่วนตัวกูไม่เชื่อเรื่องภพชาติเรื่องบุญกรรมอะไรเลยสักนิด กูยังว่ากูเคารพบุพการีกูมากๆเลย
>>78 แม่กูก็คงไม่ค่อย ช่วยอะไรหรอกมีปัญหาเรื่องตัวเองกัยงานเยอะมากแล้ว จริงๆคนดูแลพ่อมามีหลายคนนะ แต่อยู่ได้ไม่ถึงปีมีปัญหากันทุกคน
พี่น้องแท้ๆก็ไล่กลับมาทุกรอบแล้ว เป็นคนหัวดื้ออะ บางครั้งไม่ใช่เรื่องของตัวเองชอบไปยุ่ง เรื่องนี้กูไม่ชอบมากเลย คือแบบว่ายุ่งทุกเรื่อง คือยุ่งไม่พอชอบเปล่าประกาศให้คนระแวงนั้นฟังหรือคนรู้จัก จนเขาไม่ชอบแม่กูอะเพราะมีแต่ข่าวเสียจากปากพ่อ คือมันก็จริงบางเรื่องอยู่ที่แม่กูมีเรื่องเสียแต่มันก็ไม่ควรเอามาพูดให้คนอื่นฟังนะ คือ พูดกับทุกคนที่มาคุยกับแกโดยเฉาะกับผญที่คุยโทรศัพทด้วย
ถ้ามึงขัดใจพ่อไม่ได้จริงๆ มึงก็ปล่อยให้ทำก็ได้ เเต่ต้องมีหลักฐานลายลักษณ์อักษร ทำสัญญากันให้ชัดเจน ว่านี่ที่ดินกูนะ เเย่งส่วนปันผล ส่วนเงิน หรือถ้าผิดสัญญากุฟ้องเอาคืนได้ บลาๆ
น่าจะดีที่สุด ถ้ามึงขัดใจพ่อมึงไม่ได้
กูไม่ค่อยแคร์นะ จะพ่อจะเหี้ยอะไร ให้กำเนิดมาแล้วไง มันยากเย็นนักหรือไงวะ เย็ดกับเมียเนี่ย ถ้าพ่อมันเหี้ยก็บอกว่าเหี้ย ชีวิตใครชีวิตมันว่ะ
เรื่องกู้เงิน ลงทุนบ้าบอเนี่ย เขาพยายามทำเนี่ย ก็เพราะว่าเป็นอัมพฤตนั่นแหละ รู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า เป็นตัวถ่วง ก็พยายามจะหาวิธีที่ตัวเอง
จะทำได้ ใครมันจับจุดได้ก็หลอกเอาตังไปสบายๆ ถ้ามึงไปห้ามเขาก็จะยิ่งรู้สึกเหมือนโดนลดคุณค่าตัวเองลงไปอีก กรณีนี้แม่งแก้ยากที่สุด
กูไม่มีคำตอบที่ดีให้มึงว่ะ แต่ถ้าถามกู ก็ทำได้แค่หาเงินเยอะๆ หาอะไรให้เขาทำไปเรื่อยๆ ไม่ต้องมาหมกมุ่น
ส่วนเรื่องเยี่ยวนี่แม่งเหี้ยจริงอะไรจริง ต้องด่าว่ะ
>>83 >>84 84พูดตรงอยู่ เเต่บางคนคนเเก่เเกพูดด้วยดีๆก็ได้มั้ง มันไม่เหมือนกัน บางคนต้องยุ ต้องล่อ ต้องด่า มันเเล้วเเต่ด้วยว่าเป้นคนยังไง คนไม่ยอมเเพ้ มึงก็ยุ ทำไม่ได้เหรอ เเล้วจะไปทำอะไรได้บลาๆ คนมันยุขึ้นมันก็ทำได้เอง เเต่บางคนยุไม่ขึ้นเเม่งไม่ทำอีกต่างหาก
บางคนกลัวโดนด่าถึงจะทำ บางคนโดนด่าเเล้วไม่ทำเลย ประชด
กูว่าหาอะไรให้เเกทำไปเเบบที่ 84 พูด ให้เเกดูมีคุณค่า ชมเเกบ้างเเบบ สุดยอด บลาๆ เเต่อย่าให้เหลิง เพราะเเกคงอยากให้ตัวเองมีประโยชน์ มีคุณค่า ที่เเกไม่ยอมเพราะเเกเชื่อว่าเเกทำได้ เเกลงทุนได้ เเล้วเเกจะหาเงินมาให้ได้ เพราะเเกน้อยใจที่เป็นอัมพฤตเเต่ทำอะไรไม่ได้เลย
เเต่กูก็ไม่รู้ว่ะ นอกจากที่บอกไปเเล้ว ว่าปล่อยให้เเกทำเเต่ต้องจำกัด มึงต้องมองถึงผลเสียเเทนด้วย ทำสัญญาอะไรกันไว้ บลาๆ
หรือไม่ก็หาอะไรให้เเกทำเเทน ให้เเกดูมีความหวัง มีคุณค่า
หวยงี้ได้ป่ะวะ? 555555
อย่างน้อยซื้อเเบบเดือนละสองสามใบ ไม่กี่ร้อย ให้เเกมีหวัง ถูกก็ดีใจ ถ้าไม่ถูกก็ปลอบเเกว่าเอาใหม่ นี่ใกล้ถูกเเล้ว เดือนนี้เลขไหนดีพ่อ บลาๆ
ยังดีกว่าทำธุรกิจไม่มั่นคง เเล้วเสียทีละเป็นล้าน เเต่นี่ความเห็นส่วนตัวกูนะ กูไม่รู้
ลืม กู>>82 เอง บิบิ
แต่อย่างเรื่องเยี่ยวนี่ กูไม่เห็นว่ามันจะเหี้ยตรงไหนเลยว่ะ เด่วพอมึงแก่มึงก็ต้องเป็นแบบนั้น เลอะเทอะแล้วไงวะ มึงก็ล้างมือเอา ก่อนยายกูตายหนักกว่าแม่งอีก ทั้งขี้ทั้งเยี่ยวเลยมึงที่กูต้องมานั่งทำ แต่กูก็ทำไม่ได้บ่นอะไรเพราะกูว่าวันนึงกูก็ต้องเป็นแบบนี้ แต่อย่างเรื่องธุระกิจกูก็เห็นด้วยว่าไม่ควรตามใจพ่อมึงแน่ๆล่ะ แต่มึงควรพูดดีไม่ใช้อคติ เอาเหตุผลให้เค้าเห็นมากกว่านี้
>>87 มันไม่ได้อยู่ที่มึงสอนอย่างเดียวนะ มันอยู่ที่ตัวเด็กด้วย ต่อให้มึงยัดเข้าสังคมดีแค่ไหนคุณหนูไฮโซยังไง ถ้าเด็กมันสันดาลสก๊อยมันก็เป็นสก๊อยวันยังค่ำ
>>88 อันนั้นมันต้องโตขึ้นเเล้วเว้ย เเต่ถ้าเด็กๆมันปูทางมาดี เด็กมันก็ดี มันอยู่ที่ว่าอะไรมันจะเข้าหัวเด็กทำให้มันคิดไปทางไหนว่ะ เช่นสังคมคุณหนู เเต่สันดารสก๊อย ก็เพราะมึงตามใจมันเกินไปรึเปล่าโดยที่ไม่ได้สอนอะไร หรือมันไปนอกลู่นอกทางเเล้วมึงไม่รู้เองรึเปล่า
เพราะสมัยนี้สื่อทุกอย่างทุกระดับสังคมมันเเค่ปลายนิ้วเเล้ว มึงเลื่อนๆเฟสก็เจอเเล้ว
กูเชื่อว่าเเรกเริ่มเด็กมันก็เหมือนกระดาษว่างๆเเหละ เเล้วเเต่ว่าพ่อเเม่กับรอบๆตัวมันจะยัดอะไรลงไป
เพราะกูไม่เคยเห้นคนที่พ่อเเม่ดี รอบตัวดีเเล้วมันจะเหี้ยขึ้นมาได้ ถ้าไม่มีเพื่อน หรืออะไรพาไป
>>86 กูจะบอกว่าแกมีหวัง แต่ไม่รับวะ ก่อนหน้านี้ 4 เดือนก่อนเพื่อนเก่ารับพาไปทำงานด้วย ได้เดือนละ 10K เยอะนะสำหรับคนพิการ อยู่ดีๆ แม่งกลับมาเฉยเลยบอกจะกลับมาดูแลกูกับพี่ กูถามไปกลับมาช่วยอะรได้ไหมละ ทำงานมันยังพอมีเงินส่งมาให้ใช้นะพ่อ
>>84 กูไม่เคยด่าพ่อนะ ถ้าพ่อไม่ขึ้นเสียงก่อน เคยบอกไปแล้ว 3 รอบ บอ"กประหยัด ลงท่อแหละเหมือนกัน" เออเหมือนกันแต่มันเหม็นนะว้อยย ท่อห้องน้ำนะ
ปล.พ่อกูช่วยตัวเองได้ทุกอย่าง ขับจักรยานได้
อืมม มึงรีบโอนให้เป้ฯของมึงเลยนะมึงเด๋วพ่อมึงทำบ้านพังหมด เข้าใจพ่อมึงนะ แต่คนเป้นแบบนั้นแม่ง สมองพังไปแล้ว 80% ฟะ คิดอะไรไม่ดีแล้วมึง
>>92 ทำสัญญาเช่าที่ดินก็ได้ เช่นที่ดินนี่ที่กู มึงเอาไปทำอะไรก็ได้ตามสัญญากูคิดเดือนละ xxxxxxxx เวลาเกิดอะไรขึ้น ที่ดินยังเป็นของมึง หรือเกิดอะไรขึ้นก็ฟ้องศาลได้ เพราะที่ดินในสัญญายังเป็นของเรา เขาเเค่เช่ายืม
ประมาณนี้มั้ง เคยเรียนเมื่อนานมาเเล้ว รอผู้รูั้มาให้ข้อมูล
>>93 เป็นชื่อ กูกับพี่ชายนะ เซ็นต์ต้องเซ็นท์ 2 คน ใช่สมองไม่ดีด้วย ตอนไม่ไปทำงานใหม่ๆ ไปทำประกันใหม่ไว้ กูถามรายละเอียดประกันตอบไม่รู้อย่างเดี่ยว ถามอีกอ่านรายละเอียดไหม ? พ่อ:ไม่รู้
แล้วกูได้ยินคุยกับพนง พนงงานบอกว่ายอดเงินต่ำกว่านี้ ประกันจะหักเรื่อยๆ แต่ไม่รุ้นะเท่าไหร่
กับเรื่อยการสื่อสารของแก ก็แก้ไม่ได้แล้ว บางครั้งคุยอะไรไม่พอใจชอบขึ้น"ห่า"
>>94 ขอบคุณมากพีโม่ง
เอ่อะ กูไม่เห็นด้วยนะที่มึงจะคิดทวงบุญคุณจากลูกกันอยู่นั่นแหละ ไอเรื่องที่ทำให้เกิดมาก็ดี เรื่องเลี้ยงมาก็ดี คือสำนึกว่าเค้าเลี้ยงเรามาเรารักเค้ามันก็โอเคแล้วไม่ใช่หรอแต่ถ้าเค้าทำอะไรผิดมันก็ต้องว่าไปตามผิดป่ะวะ เหมือนตอนเด็กๆมึงทำไรผิดมึงก็ถูกด่า ทำไมพอเป็นพ่อแม่แล้วมันมีบาเรียห้ามแตะต้องวะ ทั้งๆที่ก็คนเหมือนกัน อย่างเรื่องฉี่นี่กูว่าเหี้ยมากนะไม่รับผิดชอบต่อส่วนรวมเลย ถ้าแกฉี่แล้วทำความสะอาดเองเลยก็ว่าไปแต่ถ้าฉี่แล้วปล่อยทิ้งมึงคิดสิว่ากลิ่นเป็นไง กลายเป็นแหล่งเชื้อโรคงี้ แล้วคนทำความสะอาดจะเป็นยังไงมันลำบากคนอื่นมั้ย ครอบครัวมันต้องช่วยเหลือกันและกันดิวะไม่ใช่ปล่อยให้คนนึงทำตามใจชอบเพราะเอาแต่คิดเรื่องบุญคุณแล้วทำให้คนอื่นในบ้านต้องมาลำบาก ไหนจะแม่ ไหนจะลูก ถ้ามีคนอื่นมาบ้านเค้าจะคิดยังไงพ่อจะถูกมองยังไง กูไม่ชอบเลยนะความคิดแบบต้องอดทนเสมอเค้าจะด่าจะว่าอะไรที่มันไร้สาระเฮงซวยก็ต้องยอม มึงบ้าป่ะ มึงเป็นทาสในเรือนเบี้ยหรอที่ต้องยอมเนี่ย มันควรจะพูดกันได้ถกกันได้ดิวะ ไม่ได้ด่ากลับแต่ไม่ได้ยอมโดนด่าไม่พูดอะไร มึงคิดว่าการอดทนมันดีจริงๆหรอวะ ถ้าบ้านถูกยึดก็ต้องอดทนด้วยป่ะ ครอบครัวมันเป็นของทุกคนที่ช่วยกันดูแลนะไม่ใช่ให้ใครคนเดียวตัดสินใจความเป็นตายของทุกคน ให้ทางเลือกกันหน่อยเหอะ การคิดแบบแตะต้องพ่อแม่ไม่ได้นี่มันไม่เป็นการกดดันลูกไปหน่อยหรอ
>>96 ฉี่แล้วไปทำความสะอาดแค่ ราดน้ำเฉยๆแต่ไม่ขัดซะทีกูเลยต้องไปขัด
กับ ถ้า" ถ้ามีคนอื่นมาบ้านเค้าจะคิดยังไงพ่อจะถูกมองยังไง" กูจะรีบทำความสะอาดก่อนเลย ปกติกูทำเฉพาะ เสาร์-อาทิตย์
ส่วนเรื่องยอมไม่ยอม กูไม่ยอมนะ และกูไม่พูดด้วยพูดแล้วเหมอืนเถียงกับคนบ้าวะ เถียงแล้วเอาเรื่องหนี้ๆเก่ามาพูดเสริม คือมันไม่เกี่ยวกันเลยนะ
ล้างขี้เยี่ยวมึงทำได้ก็ทำไปเถอะ ตอนมึงเกิดมาขี้เยี่ยวให้พ่อแม่เช็ดกี่ปีกว่าจะทำเองเป็น
ส่วนเรื่องบ้าน กูบอกได้ว่าพ่อแม่ไม่ได้แปลว่าถูกเสมอโดยเฉพาะเรื่องเสี่ยงๆแบบนี้ ต้องแยกความกตัญญูให้ออกก่อน
เจอมาเยอะแล้วคนแก่ๆโดนหลอกเอาเงินไปลงทุนเจ๊งบ้านพังตอนแก่ลูกหลานรับกรรม เรื่องนี้กูโดนด่าก็ยอมดีกว่าให้บ้านแม่งหายไปเพระาความหน้ามืดของพ่อมึง
มีแต่คนบอกว่ากูเสียงเพราะเว้ย กูไม่มีปัญหาเรื่องร้องเพี้ยน แต่ที่กูมีปัญหาคือกูร้องเสียงสูงไม่ค่อยได้อะ และกูมั่นใจว่าเร้นจ์เสียงกูกว้าง แต่กูอาจจะร้องเพลงผิดวิธีหรือยังฝึกไม่พอ กูอยากร้องเพลงเก่งอะ กูร้องเพลงขึ้นเสียงสูงแล้วกูทรมานอยากร้องได้สบายๆแบบคนอื่นๆ แต่พ่อแม่กูไม่ให้เรียนร้องเพลง ไม่สนับสนุนเลย มีใครมีวิธีฝึกร้องด้วยตัวเองให้เก่งระดับร้องเสียงสูงสบายๆได้ไหมวะ กูเครียดจัง
กูรู้สึกพ่อแม่ไม่สนใจกูไม่มีใครสนใจกูแฟนก็ไม่สนใจกูกูไปหาจิตแพทย์ที่ไหนดีวะที่เขารับฟังดีๆหน่อย
ดูพ่อมึงน่าจะแข็งแรงอยู่พอสมควรนะ เยี่ยวลงโถส้วมปกติเถิด น้ำชักโครกมันไม่ได้แพงอะไรเลย
แต่ถ้าช่วยตัวเองไม่ได้ ก็ดูแลกันไปตามอัตภาพ
กูดูหนังtheory of everything แล้วรู้สึกอับอายตัวเอง กูหางานไม่ได้กูก็ท้อชิบหายละไม่อยากทำอะไรต่อไปแต่ศาสตราจารย์สตีเฟ่นป่วยขนาดนั้นแต่ก็ยังขยัน พยายามทำโน่นทำนี่ เค้าอยู่ยังไงไม่ให้สิ้นหวังวะ กูก็มีครอบครัวพ่อแม่นะถึงจะไม่มีแฟนก็เถอะแต่ทำไมกูเจอเรื่องเล็กน้อยกูก็ท้อแท้เดินต่อไม่ได้แล้ววะทั้งๆที่ศจ.ยังใช้ชีวิตอย่างมีความหวังด้วยร่างกายแบบนั้น กูนี่ซาบซึ้งจริงๆ ทั้งๆที่เข้าใจว่าปัญหาของกูมันขี้ตีนแต่ทำไมกูลุกไม่ขึ้นซะที
>>108 แรงบันดาลใจว่ะเพื่อนโม่ง มึงต้องหาแรงบันดาลใจมากระตุ้น อยากรวย อยากได้แฟนสวย หรือมีแฟนอยู่แล้วมึงก็คิดว่าจะทำเพื่อเค้าให้ดีกว่าเดิม
ครอบครัวนี่ก็เป็นแรงบันดาลใจให้มึงได้เสมอด้วย ส่วนตัวกูล้มมาหลายครั้งมาก ทำอะไรก็ห่วยก็แป้กไปบ่อยๆแต่กูยังมีกำลังใจจากรอบข้างมึงคิดแบบนี้แล้วจะไม่ท้อเว้ย ยังไงก็สู้ๆ
>>108 ถ้ามึงท้อมากๆ แล้วใช้ตัวเองสร้างแรงบันดาลใจไม่ได้ มึงก็หาแรงบันดาลใจจากปัจจัยอื่นมาตามที่>>110 บอก
มึงหาหนังสือชีวประวัติ หาหนังสืออะไรก็ได้ที่มึงสนใจติดตัวไว้ ถ้ามึงรู้สึกอยากหนีความเครียด อ่านหนังสือซะ กูไม่ใช่คนหัวโบราณนะเว้ย แต่หนังสือมันช่วยบำบัดได้ระดับหนึ่งจริงๆ
กูเคยเป็น ท้อมาก ทั้งๆที่กูเป็นคนกำลังใจดี แต่มีช่วงนึงกูท้อเฟลลุกแทบไม่ขึ้น กูก็อาศัยหากำลังใจจากอะไรเล็กๆน้อยๆแบบนี้มากระตุ้น
เหนื่อยก็พัก พยายามเข้ามึง
>>111 กูพักมาสองวันแล้วยังเฟลแดกอยู่เลยไม่รู้จะหาแรงบันดาลใจจากไหนดีว่ะ ตอนนี้ที่กูคิดอย่างเดียวคือกูอยากมีงานทำแต่พอส่งเรซูเม่ไปแล้วเค้าเงียบหายมันก็เฟลมากนะ ตอนแรกยังไม่เท่าไหร่แต่นี่กูส่งไปเกือบยี่สิบที่แล้วอ่ะมันก็เงียบทุกที่ ขนาดได้ดูชีวิตของศจ.สตีเฟ่นแล้วก็ยังเฟลแดกไม่หายทั้งๆที่แม่งก็เรื่องเล็กๆเอง
สิ้นวังว่ะ พ่อกูทำงานคนเดียว แม่ก็อยู่บ้านเลี้ยงลูก แต่กูนี่สิ ใช้เงินเขาเปลืองเหลือเกิน กูก็พยายามประหยัดเเล้วนะ แต่กูรู้สึกว่ากูควรทำได้มากกว่านี้ กูเป็นลูกคนโตด้วยไง กูอยากช่วยพ่อเเม่หาเงิน แม่กูมีปมว่าพอท้องแล้วโดนไล่ออกจากงาน เขาเลยไม่กล้าหางาน พ่อกูก็ไม่ว่าอะไร แต่กูรู้ว่าพ่อเหนื่อย กูอยากช่วยทุกคนเลย กูไม่อยากเป็นวัยรุ่นงอมืองอตีน แต่อายุยังไม่ถึง ไปหางานที่ไหนเขาก็ไม่รับ เเม่ง
>>112 มึงเฟลแดกมึงไม่ผิด โอเคนะ แล้วปัญหามึงกับปัญหาสตีเฟ่นแม่งไม่เหมือนกัน ชีวิตใครก็ปัญหาใหญ่ทั้งนั้น เอาเป็นว่ามึงดูเขาเป็นตัวอย่าง
มึงเห็นใช่มั้ยว่ากว่าแม่งจะลุกขึ้นมาฮึดสู้กับชีวิตก็นั่งเฟลแดกเหมือนมึงนั่นแหละ แต่สุดท้ายเขาก็ลุกขึ้นสู้
กูช่วยไรมึงไม่ได้ว่ะ ตอนนี้พักไป แล้วมึงต้องลุกขึ้นมา เลิกเฟลจนไม่ได้ทำอะไร ตามจิกบริษัทที่มึงสมัครไปก็ได้ เออกูรำคาญชิบหายบริษัทในไทยพอไม่รับก็ไม่บอกให้ชัดๆ
>>113 อายุมึงเท่าไหร่ ยังไม่ถึง 18 แต่เกิน 15 ยัง? บางที่อย่างต่ำรับ 15 ขึ้นไป มึงลองดูพวกร้านอาหารใหญ่ๆเขาก็รับเด็กม.ปลายเว้ย
อ่ะอย่างที่คนรู้จักกูเคยทำ โอโตยะ แม่ศรีเรือน ลองดู เซเว่นแถวบ้านกูเคยติดป้ายรับสมัคร PT 17 ขึ้นไป
กูแนะนำพวกร้านอาหาร งานเหนื่อยแต่มีโอกาสได้ทำอยู่
PT งานหนังสือบางสำนักอย่างนานมี ลักพิม สถาพร รับ 15 ขึ้นไปเหมือนกัน ไว้งานรอบหน้ามึงก็ลองตามข่าวรับสมัครดู พวกนี้ได้ไม่ต่ำกว่าสี่พัน
กูละเบื่อจริงๆกับชีวิต คือกูเรียนสถาปัตย์เว้ยแล้วมันก็มีแบ่งกลุ่มเป็นกลุ่มๆ เสือกได้กลุ่มกับคนที่เกลียดครับ แล้วทีนี้ก็ต้องทำงานร่วมกันไง
เซ็งมาก คนที่กูเกลียดแม่งเป็นพวกไม่ฟังคนอ่ะ แบบบ้าอำนาจ แล้วเสือกได้เป็นหัวหน้ากลุ่ม แม่งเอ้ย กรูล่ะเซ็งสัสๆ ทุกวันนี้ยอมแม่งตลอดเพื่อจะไม่ให้มีปัญหา กูเริ่มจะไม่ไหวแล้วนะเว้ยยย อยากกระทืบแม่งจัง
>>115 ต่อยเลยนาย ตะก่อนกูก็เจอแบบนี้นิสัยอย่างงี้ คิดแบบเดียวกะมึงเป๊ะไม่อยากมีปัญหาเด๋วงานเสียก็มีแต่เราคนเดียวแหละที่ยอมเพราะอีห่ารากนั่นไม่ฟังควยไรเลย ชอบแบ่งงานแบบห่วยๆบางที่ก็ทำตัวโง้โง่เอางานมาทำเองเยอะๆแล้วทำไม่เสร็จซักอย่างแล้วมาโวยวายลงเฟสบุคว่าเพื่อนไม่ช่วย โถๆอีดอกคนอื่นเค้าก็ทำหน้าที่ตามที่มึงแบ่งให้น่ะแหละไม่ช่วยควยไรล่ะ มโนไปเองว่าตัวเองทำงานเยอะปัญญาอ่อนสัส งานไหนเอาไปจ้างเค้าทำได้ก็เสือกไม่ทำเอามาทำเองหมดแล้วก็ทำไม่ทัน โง้โง่ ควายได้โล่ที่หลังก็ร้องว่า มอออออ ไปเลยนะอีดอกทอง พอได้ทีโดดงานจ้าอีดอกแล้วก็ทิ้งทั้งหมดให้กูรับผิดชอบ เพราะคิดว่าไม่อยากมีปัญหาเนี่ยแหละทำกูคับแค้นใจจนทกวันนี้ น่าจะต่อยปากไปซักที
>>116 เออใช่ ชอบหาว่ากุไม่ช่วย แต่พอเรียกประชุมก็คุยกับคนที่แม่งสนิทอยู่สองคน สัส พอถามว่ามีอะไรให้ช่วยไหมบอกไม่มี แล้วก็มาว่าว่าไม่ช่วย สัสถ้ากูอ่านใจมึงได้กูไปเป็นหมอดูแล้ว ไม่มาเรียนให้เสียเวลาหรอก กูละเพลีย โตเป็นควายแล้วยังจะทำตัวอย่างกับเด็ก ไร้ซึ่งความเป็นผู้นำโคตรๆ
แม่กูอายุ62กูกับน้อง20-19 กว่าจะเรียนจบ กว่าจะทำงานมั่นคง กูกลัวแม่ไม่อยู่ทันกูตอบแทนบุญคุณเค้าว่ะ
พักนี้กูหดหู่ว่ะ คือพอกูได้อ่านกระทู้พวกคุยเรื่องเงินเดือน อายุ Xปี เงินเดือน XXXXX บาท หรือเวลาคนอื่นคุยกันว่าตำแหน่งอะไร โบนัสเท่าไหร่ แล้วพอเทียบกับตัวเองก็จะรู้สึกทำไมกูน้อยจัง ทำไมกูกากจัง คือกูได้ไม่เยอะไม่น้อย เฉลี่ยๆต่อเดือนก็ราวๆ 40k แต่พอได้ยินเค้า 60k 80k 100k กันแล้วก็รู้สึกกูได้น้อยจัง ก็รู้นะว่าอย่าไปเทียบกับคนอื่น หรือต่อให้กูได้ 100k กูก็จะไปเทียบกับคนที่มากกว่าแล้วคิดว่ากูได้น้อยอยู่ดี ทำไงให้กูเลิกคิดมากดีวะ มึงอย่าด่ากูนะ
ก็พอใช้แหละ บ้านกูก็ฐานะปานกลาง ไม่มีภาระอะไร แต่แบบ แม่งอดคิดไม่ได้เวลาได้ยิน
>>123 มันก็จริงเว้ย อดอิจฉาไม่ได้ กูก็ยังไม่ถึงขั้นบรรลุหรอก ถ้าได้เงินเยอะๆมันก็ดี เพราะมีอะไรที่อยากทำอีกเยอะ
แต่คือไม่อยากให้มึงคิดมากไง เลยบอกว่าเอาเวลาคิดมากไปคิดวิธีหาเงินเพิ่มดีกว่าหรือเอาไปฝึกอะไรที่จะช่วยเราเลื่อนตำแหน่งเพิ่มความสามารถอะไรงี้ ถ้ามัวแต่คิดลบทุกอย่างแม่งก็ลบหมด ลองเปลี่ยนให้เป็นพลังบวกดูว่ะมึง
ความคิดฟุ้งซ่านนี่แม่งตัวอันตรายสำหรับความก้าวหน้าเลย วิธีแก้คือต้องแม่งทำตัวให้ยุ่งไปคิดเรื่องอื่นจนไม่มีเวลาฟุ้งซ่านอ่ะ
งานกลุ่มทีไรกูออกตังก่อนทุกที....แล้วสุดท้ายก็เก็บไม่ได้ครบ หรือไม่กว่าจะครบก็เหนื่อยสัส ไม่รู้ทำไมจะต้องเป็นกู...
ให้กูไปเลเซอร์คัทก็บังคับให้กูไปเวลานี้เวลานี้ ไม่คิดว่ากูจะไม่ว่าง หรือทำอย่างอื่นบ้างหรออีดอกกกกก
งานกูก็เยอะป่ะ...กูไม่ได้ขับรถเอง ทำไมไม่ให้พวกบ้านใกล้ไปทำวะสัสเอ้ย โคตรเกลียดแม่งเลยว่ะ ถ้าครั้งนี้ไม่จ่ายกูนะเมิง กูจะทำยังไงดีวะสัส
ไม่ถึงกับสิ้นหวังแต่ขอระบายหน่อย บอร์ดนี้มีห้องระบายมั้ยวะ ?
ก็เรื่องเดิมๆ เงินแหละ ทำงานหลังขดหลังแข็งจะได้เงินมาที เก็บไว้หลายปีในที่สุดก็ได้กำหนดไปเที่ยวต่างประเทศ
ไปกับญาติๆพี่น้องและหลานๆ ก็จ่ายให้หลานไปเที่ยวด้วย โอเคก็ไม่ได้อะไร กูก็เอ็นดูหลานคนนี้ด้วย(ลูกพี่)
แต่ก็ถูกพวกผู้ใหญ่พูดเหน็บแนมอีกว่ารักหลานไม่เท่ากัน ทำไมไม่พาคนอื่นๆไปด้วย ทั้งๆที่มันก็เงินกู
แถมใช่ว่าเด็กมันอยากจะไป เจอกันนานๆที แถมบางคนก็โตๆแล้ว มันก็อยากไปเที่ยวของมัน
กูไม่ได้อะไรกับเด็กๆเลย มีก็แต่พวกผู้ใหญ่เนี่ยแหละ ชอบพูดเหน็บแนม ทำให้ขัดแย้งกันเอง เรื่องงไม่เป็นเรื่อง
แถมช่วงอีกมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายอีก เพิ่งจ่ายค่าเครื่องไป แถมต้องเตรียมเงินเผื่อไปช้อปด้วย อันนี้เตรียมไว้แล้วคือพอดี
วันนี้ดันเกิดเรื่องต้องให้เงินทั้งที่ไม่ใช่คนก่อเลย กลับบ้านมาหน้าจอคอมก็เสียอีก คนเช่าบ้านก็ค้างจ่ายมาตั้งหลายเดือนละ-*--*-**-
กูรู้สึกชีวิตแม่งไร้ค่า....ไร้ฝัน...ไร้ตัวตน...นี่กูมีชีวิตอยู่ไปเพื่อคนอื่น...ทำไมกูถึงใช้ชีวิตแบบนี้วะ
กูมีความฝันเพื่อพ่อ....เรียนเพื่อพ่อ...อยู่เพื่อพ่อ...
แต่รู้ไหม...พวกมึง...พ่อกูจะอยู่ได้อีกไม่ถึงสองปีว่ะ...
กูจะทำยังไงดีวะ...กูต้องทำตัวให้เข้มแข็ง...ทั้งๆที่ข้างในกู...ไม่ไหมแล้วว่ะสัส...กูอยากจะตาย...แต่กูก็ไม่อยากให้พ่อกูเสียใจ
ถ้ากูตายพ่อคงเสียใจมาก...นี่ไง...เขาถึงว่ากันว่าคนตายก่อนแม่งโชคดี...
ไม่ทรมาร...
กูมีพ่อที่เป็นคนบ้า ปู่กับย่าที่แก่หงำเหงือกใกล้ตาย ปู่กูนีเ่ป็นเส้นเลือดในสมองตีบ จะตายวันไหนก็ไม่รู้ นอนครางได้ทุกวัน ย่ากูก็เป็นความดัน กูห่วงที่สุดคือกูยังเรียนมหาลัยแล้วพ่อกูยังทำตัวเป็นนีท ไม่ทำการทำงาน ยาก็ไม่เคยกิน มันจะหายได้ไงวะ ทุกวันนี้ไปหาหมอ หมอก็บอกให้หางานทำแต่ก็ไม่ฟัง หนีความจริง กูยังสงสัยเลยว่าถ้าฆ่าพ่อตัวเองทิ้ง แล้วทำศพหนเดียวให้จบๆ นี่ยังจะดีกว่าอีกไหมเลย
กูยังไม่มีความฝันอะไรเลยเพื่อนเอ๋ย~
อีเหี้ย กูแม่งมีปัญหากับอีชะนีขยะๆตัวนึงในพันทิพย์ว่ะมึง ไม่รู้มันอ่านหนังสือไม่ออกหรือมันปากหมาแต่กำเนิด เถียงเรื่องเดิมๆวนซ้ำไปมาในอ่างอยู่ได้
ไม่มีใครบิทเกมเถ้าแก่น้อยให้กูเลย เจี๋ยใจ
เฮ้อมึง กูสอบไม่ติดคณะที่กูอยากเรียนที่สุดว่ะ ไม่มีแอดด้วย แต่กูดันติดคณะที่มันใกล้เคียง+ม.ใกล้บ้าน+ครอบครัวกูทุกคน ย้ำว่าทุกคน ชอบม.นี้
แต่กูนอยอยู่ดีว่ะ มันมีวิชาเหมือนกัน แบบดรออิ้ง ออกแบบกราฟิกไรงี้ แต่หลักสูตรแม่งต่างกันเยอะว่ะ ที่ที่กูอยากได้เขาเรียนแฟชั่นด้วย เรียนนิทรรศการศิลป์ด้วย และอีกมากมายกูยังนอยจนตอนนี้อยู่เลย (._.)
เออยังเล่าไม่จบ ที่สำคัญคะแนนวาดกูได้ 82/100 แต่ GAT กูเสือกเหี้ย เลยไม่ติด อยากจะเอาหัวโขกฝาบ้านตายว่ะ
กูไม่ได้สิ้นหวังแต่กูอยากระบายมาก กูเป็นคนที่เกลียดสังคมมาก คืออยู่สังคมได้ไหม ได้นะ มีเพื่อน มีแฟน ทุกอย่างปกติเหมือนคนในสังคมทั่วไป แต่กูเกลียดสังคม เดี๋ยวก็วิ๊ดว๊ายตามกระแสบ้าๆบอๆ เกลียดวัตถุนิยมแบบสุดโต่ง เกลียดความตอแหลดัดจริตของคนไทยวัยรุ่นไทย เช่น แบบ ผญ.บอกว่าโสดเหงาอยากมีแฟน แต่คนที่มาจีบไม่หล่อไม่รวย ไม่เอา เกลียดเพจที่เอาคำคม(คมตรงไหนวะปัญหาอ่อนชิบหาย) ไปลงเพจตัวเองแล้วมาวิ๊ดว๊าย คือแม่งก็คือความจริงของโลกใบนี้ มึงจะเหี้ยอะไรหนักหนา เกลียดการเหยียดชาติพันธุ์ เหยียดฐานะทางสังคม เกลียดทุกอย่างว่ะ แต่ยังไงก็หนีไม่พ้น เพราะสุดท้ายกูต้องอยู่สังคมกับไอ้พวกนี้ไปจนแก่ตาย ขอบคุณมาก กูมาระบายแค่นี้แหละ
เฮ้ออ ตอนนี้กูคิดจะไปเรียนที่ๆไม่มีคนรู้จ้กกู แต่กูกลัวยามกูลำบากวะ ก้บเรื่องเพื่อน
คือ ปกติช่วงกูลำบากกูจะมีเพื่อนเลี้ยงตลอด อย่างชวนกินข้าวที่บ้านบ้าง,เลี้ยงอะไรหลายๆอย่าง
กลัวตอนไปเรียนไกลๆ จะไม่มีคนทำขนาดนี้
กูอยาก delete สมองตัวเองว่ะ กูรู้สึกว่ากูมี trauma เยอะมาก บางเรื่องคิดว่าลืมไปแล้ว แต่พอมีอะไรมาสะกิดมันก็กลับคืนมาเหมือนตะกอนที่ตกอยู่ในใจตลอดชาติไม่มีวันหายไปไหน ถ้ามันมี 1-2 เรื่องยังโอเคนะ แต่พอมาคิดๆ ดูแล้วเหมือนกูจะมีเยอะมาก ทำไงให้มันลืมแบบหายขาด เอาตะกอนออกไปจากหัวใจได้มั่งวะ
>>163 เรื่องเล็กน้อยไร้สาระมากว่ะ เหมือนพอมีอะไรมาสะกิดมันก็เจ็บแปล๊บขึ้นมา หรือว่าคนอื่นก็เป็นกัน? แต่คือมันเยอะมากเลยว่ะของกู ไปเจออันนั้นก็สะกิดเรื่องนั้นในอดีต ไปเจออันโน้นก็สะกิดเรื่องโน้นในอดีต บางเรื่องผ่านมาเป็นสิบๆ ปีแล้วโดนสะกิดทีก็ยังเจ็บเหมือนเดิม ไม่ได้รู้สึกว่าดีขึ้นเลย แต่ถ้าไม่มีอะไรมาสะกิดก็โอเคนะ ไม่ได้คิดอะไร มันต้องมีสิ่งเร้า
กูอยากลืม หรือไม่ก็ไม่รู้สึกอะไรกับมันแล้ว เห็นหลายคนบอกว่าพอเวลาผ่านไปนานๆ เรื่องที่เคยคิดว่าเป็นเรื่องร้าย พอย้อนกลับไปมองกลับรู้สึกว่าเป็นเรื่องตลก เป็นเรื่องจิ๊บๆ ขำๆ ..... แต่กูไม่เลยอ่ะ ตอนนั้นเจ็บตอนนั้นเฟลยังไง ตอนนี้ก็เป็นอย่างนั้น
>>165 ของกูมันไม่แป๊ปอ่ะดิ ถ้ามีอะไรสะกิดทีกูนอนไม่หลับไปเลยคืนนั้นทั้งคืน ถ้าหนักกว่านั้นก็วันรุ่งขึ้นคิดต่อ กลางวันเนี่ยยังโอเคนะเพราะกูทำงานทำห่าไรไปยุ่งๆ ไม่มีเวลาคิด แต่กลางคืนเนี่ยทรมานมาก เพราะต้องนอนมันเลยทำอะไรไม่ได้ พอสมองว่าง มันก็คิดจนนอนไม่หลับยันเช้า
ขอบคุณมากนะที่ช่วยตอบให้
เป็นไปได้ป่ะวะไอ่เหี้ย ที่มีคนคบกันไม่มองหน้าตา กูว่านี่ปี 2015 แล้ว ไม่น่าจะหลงเหลือแล้วป่ะวะ
แต่ก่อนกูเชื่อตอนนี้แม่งยุคภายนอกเชี่ยๆ ถ้ามึงดูกล่อดูรวยแม่ง หอมสัด
มึง กูมาถูกกระทู้รึเปล่าวะ ขอกูระบายหน่อย
ตอนนี้กูมาเรียนต่อแล้วกูรู้สึกสิ้นหวังมากว่ะ กูเรียนไม่รู้เรื่องเลย ไม่รับอะไรเข้าหัวแม้แต่นิดเดียว เวลาเรียนในห้องเหมือนกูฟังภาษาต่างดาว ฟังอ.พูดไม่เข้าใจ
แถมนอกจากจะเรียนไม่รู้เรื่องแล้วทั้งสุขภาพร่างกายและจิตใจกูพังหมดแล้วว่ะ ทั้งปวดหัวปวดท้อง นอนไม่หลับ จำอะไรใหม่ ๆ ไม่ได้แถมทำท่าจะลืม ๆ ของเก่าอีกต่างหาก วัน ๆ ก็นั่งซึมเศร้าไม่มีความสุขเลย กูพอจะรู้ว่าสาเหตุหลัก ๆ มันมาจากความเครียดสะสมแต่กูก็ไม่รู้จะระบายออกทางไหนดี กูเป็นคนไม่กินเหล้า ไม่เที่ยว กูอยากเรียนให้รู้เรื่องเข้าใจเพราะเสียเงินมาตั้งเยอะ
แต่พอคิดว่าสุดท้ายมันจะจบแค่กระดาษใบเดียวโดยที่กูไม่ได้อะไรเลยแถมสุขภาพพังกลับไทยไปอีกมันทำกูเฟลโคตร ๆ
กูควรทำไงดีวะ พยายามตั้งใจเรียนแล้ว อ่านหนังสือแล้วแต่ยังไงที่ไม่เข้าใจมันก็ไม่เข้าใจว่ะ
ไปปรึกษาอ.ที่ปรึกษาก็ไม่ตอบเมลกู(ต้องเมลนัดก่อนถึงไปคุยได้) อ.ที่สอนกูไปถามคำถามแม่งก็ไม่ยอมตอบกู บอกแล้วว่าอ่านหนังสือไม่เข้าใจเลยมาถามแม่งก็ไม่ยอมตอบไม่ยอมอธิบายไล่กูกลับมาอ่าน(หนังสือและสไลด์ที่กูบอกว่าอ่านแล้วแต่ไม่เข้าใจ)
กูเหนื่อยว่ะ ท้อแท้ ไม่รู้จะทำยังไงดี
ถามโม่งคนไหนจน แล้วแฟนไม่รังเกียจมีไหม
>>184 กูว่าเหลือคนแบบนั้นประมาณ 0.01% ในโลก
ส่วนมากมันก็มองกันที่ฐานะและหน้าตาเป็นหนึ่งในองค์ประกอบทั้งนั้น แต่ถ้าถามว่าทำไมคนหน้าตาไม่ดีถึงมีคู่ มึงต้องอย่าลืมว่าคนเรามีข้อจำกัดของตัวเอง อย่างเช่นถ้ามึงเป็นไฮโซมึงก็สามารถคว้าดาราระดับนางเอกได้ แต่ถ้ามึงเป็นแวนซ์มึงก็คว้าได้แค่สก๊อยซ์แถวบ้าน แต่อย่างน้อยๆ มึงก็ต้องเลือกสก๊อยซ์คนที่มึงคิดว่าสวยที่สุดในหมู่สก๊อยซ์หรือสวยที่สุดในสายตามึง มีน้อยว่ะที่จะไม่ดูกันที่หน้าตาฐานะเลย แค่เลเวลความเป็นไปได้ของแต่ละคนมันไม่เท่ากัน
เพราะงี้ไงคนสมัยนี้มันถึงได้โสดกันเยอะ คนสมัยก่อนเลือกเอาจากเลเวลที่เป็นไปได้ พอทน พอรับได้ แต่สมัยนี้บางคนเสือกฝันเกินเลเวลตัวเอง พอไม่ได้อย่างที่ต้องการกูโสดแม่ง ไม่แคร์ (ที่ว่ามาคือกูเองแหละ 555555)
>>185 ตกไปนิด ขอขยายเพิ่มเติมว่าสก๊อยซ์ที่สวยสุดในสายตาของแวนซ์ อาจจะเป็นผู้หญิงที่หน้าเหี้ยมากในสายตามึงชนิดที่ว่าถ้าทั้งโลกเหลืออีนี่คนเดียวกูยอมโสดก็ได้ เพราะงั้นมึงเลยมองว่าคนหน้าตาไม่ดีก็มีคู่ได้ แต่ในเลเวลของเขา ในสังคมของเขา เขาก็มองว่าสวยแล้ว
คำว่าสวยของแต่ละสังคมมันก็ไม่เหมือนกัน ไม่งั้นสก๊อยซ์มันจะชอบทาหน้าเทาปากแดงคิ้วปลิงให้พวกเราๆ แซวกันเหรอ มันก็ทำเพราะคิดว่ามันสวยสุดแล้วนั่นแหละถึงได้ทำ
จริงของพวกมึง คือกูเพิ่งโดนด่ามา เลยเสียเซล์ฟ (คือหน้ากูไม่ได้เหี้ยนะ จัดว่านักรัก ไม่ได้หลงตัวเองนะ) เหมือนพยามทำให้ตัวเองดูดีอ่ะ เก็ทป่ะมึง โดยการด่ากู
คือกูไม่ได้หวังสูงแบบแฟนกูจะต้องเป็นเจ้าชายหล่อรวยล่ำน่าแดกนิสัยดี
แต่กูก็ยังหาคนที่พอดีกับกูไม่เจอซักที
ช่วงนี้กูคิดถึงเรื่องความตายบ่อยมาก ประมาณว่าคิดเกือบตลอดเวลา โดยเฉพาะก่อนนอนกับเพิ่งตื่น(หัวโล่งๆ) ฟังเหมือนดูดีนะ เหมือนพระสงฆ์ที่เจริญมรณะนุสติตลอดเวลา แต่แม่งทรมาณว่ะ เป็นมาตั้งแต่เด็กแล้วด้วย กูคิดว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้าประกอบกับสารเคมีในสมองผิดปรกติ ถึงได้คิดในเรื่องที่คนอื่นไม่คิดกัน อย่างเช่น คนเราเกิดมาทำไม ชีวิตมันคืออะไร ก่อนBig Bang มีอะไรอยู่ จักรวาลจะสิ้นสุดตรงไหน นรกสวรรค์มีจริงมั้ย บลาๆๆๆ คิดเรื่องประสาทแดกที่พระเรียกว่าอจินไตยน่ะ
ช่วงนี้มาหนักขึ้นเพราะกูเริ่มไม่เชื่อความศักดิ์สิทธิของศาสนา เป็นเอธิสนั้นแหละพูดง่ายๆ เชื่อไปทางวิทยาศาสตร์ว่าจักรวาลเกิดจากbig bang คนเราเกิดครั้งเดียวตายครั้งเดียว ตายแล้วทุกอย่างก็จบ ไม่มีเวรกรรมอะไรตามมา ถึงอย่างจบที่ก้านสมองตาย พอคิดแบบนี้มันก็เริ่มสิ้นหวังว่ะ คนใกล้ตัวของกูตายไป 2-3คนช่วงสิ้นปีเลยกระตุ้นให้กูเป็นแบบนี้ด้วยมั้ง ไหนจะทุกวันนี้ที่กูต้องใช้ชีวิตอยู่บนโลกจริง เรียนจบแยกย้ายกับเพื่อนใช้ชีวิตในลูปมนุษย์เงินเดือน ทำงานเพื่อมีชีวิตอยู่ กูมีห่วงแค่พ่อแม่สองคนนี้ ถ้าพ่อแม่กูตายกูคงสิ้นหวังกว่าเดิม เพราะไม่มีอะไรให้ห่วงให้ยึดติดแล้ว ........หรือถ้ากูมีความผูกพันกมากๆกับใครซักคนได้ กูคงเลิกคิดแบบสิ้นหวังไปเอง ไม่งั้นก็หาเด็กมาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม
บ่นให้ฟังเฉยๆ ไม่ต้องเปิดประเด็นเรื่องศาสนานะ เดี๋ยวมาม่ากันเปล่าๆ
>>196 คิดเรื่องพวกนั้นมากๆก็ตัดบทตัวเองซะ ว่า "มันก็เป็นของมันอย่างนั้น"
บางเรื่อง มันไม่มีเหตุผลขนาดนั้น เหมือนมึงถามว่า
ทำไมต้นไม้สีเขียว เงี้ย มึงก็ไปศึกษาต่อได้ว่า อ่อ มีคลอโรฟีล บลาๆๆๆ มีทฤษฎีตอบมึงไปได้เรื่อยๆ
แต่สุดท้าย ที่มันเป็นแบบนั้น เพราะมันเป็นแบบนั้นแหละ ปลงบ้างนะมึงนะ แต่ก่อนกูก็เป็น
แต่เป็นเรื่องที่หาคำตอบไม่ได้ เลยไม่รู้จะคิดไปทำไมให้มันมากขนาดนั้น
หาอะไรยุ่งๆทำ บางทีมันก็ลืมๆไปเอง
กูก็เคยคิดนะ แต่คงไม่เท่ามึง คิดว่าเป็นกันทุกคน อยู่ที่มากหรือน้อยมากกว่า
กูก็สงสัยนะ แบบอีกสัก 500 ปีโลกมนุษย์จะเป็นยังไง กูคงอยู่ไม่ถึงแต่ก็อยากรู้
จะมีวิธีมั้ยวะ ในช่วงชีวิตกูจะมีเทคโนโลยีอมตะหรือยัง คิดไปคิดมา
สุดท้ายก็ไม่มีอะไร อยากทำอะไรก็ทำไป ก็แค่นั้นอยู่ดี
>>196 มึงคิดมากเป็นทุนเดิมอยู่เเล้ว อย่าเอาเรื่องรอบข้างมาเป็นอิทธิพลในความคิด ไม่งั้นมึงจะคิดไปเรื่อยๆ ยิ่งเกิดเรื่องรอบตัวเล็กๆน้อยๆ มึงก็จะคิดไปเอามาโยงไปเรื่อยๆ ทั้งที่จริงๆไม่มีอะไร มึงลองหาความหมายของมึงดู ทำอะไรสักอย่าง ทำเเบบที่มึงจะภูมิใจได้ว่าก่อนตายกูจะทำนี่นั่นนี่ให้ได้ เขียนหนังสือ ถ่ายภาพ วาดรูป บลาๆๆๆ
>>199 อีก 500 ปีเป็นยังไงกูไม่รู้ แต่ในรุ่นๆเรามีสิทธิ์ลุ้นสงครามเย็นของตัวบิ๊กๆรอบสองว่ะ เศรษฐกิจเตรียมพังได้เลย
เทคโนอมตะกูว่าไม่มีนะ แต่ถ้าเทคโนประเภทยืดอายุ ซ่อมแซมสร้างเซลล์ให้มากกว่าการตายอาจจะเป็นไปได้ กูว่าเทคโนโลยีนี้ถ้ามีแม่งจะสุดยอดยิ่งกว่าเงินอีก เพราะมันคือการซื้อเวลาชัดๆ
>>201 เเนวคิดเจ๋งดี เเต่กูว่าสงครามกลางเมืองว่ะ กับสภาวะทางธรรมชาติที่จะเเย่ลงเรื่อยๆ น่าจะีปัญหาด้านผลพิษ อาหารอดอยาก
เทคโนโลยีน่าจะไปเรื่องอวัยวะ การปลูกถ่าย ที่งี้ก็จะมีลักพาตัวเอาอวัยวะ หรือการยืดอายุโดยการย้ายสมองไปตัวใหม่ เเต่เทคโนโลยียิ่งมาก เหมือนสังคมยิ่งเลวร้าย กูว่าอาจจะไปถึงจุดที่เทคโนโลยีก้าวหน้าสัสๆ เเต่คนก็เหี้ยสัสๆเช่นกัน
>>196 เหมือนกันเลยว่ะ อือ คิดเรื่องตายบ่อยมากๆ เหมือนกัน ไม่มีห่วงอะไรนอกจากพ่อแม่กับญาติๆเหมือนกัน หลายปีก่อนเคยทำใจให้เชื่อนรกสวรรค์แต่พอได้รู้ว่าแม้แต่ดวงอาทิตย์ก็มีจุดจบเลยเลิกเชื่อ นรกสวรรค์คงไม่วาร์ปไปอยู่บนดาวอื่นหรอกนะ แต่พอคิดแบบนั้นแล้วมันก็ยิ่งสิ้นหวังกว่าเดิมอีก ตัวเองกลัวความมืดกลัวการอยู่คนเดียวมาก คงไม่ต้องถามว่ากลัวตายแค่ไหน แค่คิดถึง แค่ไปหาเรื่องแนวนี้มาอ่านก็สั่นแล้ว (พูดถึงตรงนี้ก็สมเพชตัวเอง orz) เรื่องอื่นๆบ้าๆที่คนอื่นไม่คิดก็พยายามคิดหาคำตอบแบบเอาเป็นเอาตาย แต่สุดท้ายก็รู้สึกว่าตัวเองม่างไม่ได้รู้อะไรเลยนี่หว่า
ป.ล. ตอนนี้ว่างรอเข้ามหาลัยก็เลยไปทำงานกับญาติแต่ก็ยังหยุดคิดไอ้แนวนี้ไม่ได้ว่ะ ทั้งๆทีนึกว่าทำงานฝีมือต้องใช้สมาธิแลัวจะหยุดคิดได้ ทำไงดี
>>203 กู >>196 กลับมาอ่านอีกทีเพิ่งรู้ว่ามีคนเป็นแบบเดียวกับกูด้วย แต่ก็อย่างที่เม้น >>200 พูดอ่ะ ถ้าหาความหมายให้ชีวิตได้คงเลิกคิดไปเอง ความคิดจะมาจดจ่ออยู่ที่เป้าหมายของตัวเอง อ่อกูจะบอกว่าสมัยมหาลัยกูก็มีอาการนี้แต่ไม่หนักมาก เพราะตอนนั้นกูมีความสุขมาก ทั้งเพื่อนใหม่ทั้งชีวิตใหม่ในมหาลัย มีอะไรที่กูได้ทำเยอะแยะ เรื่องเรียนเรื่องกิจกรรมเรื่องออกค่าย ตอนเรียนจบได้งานทำใหม่ๆ กูไปเมดคาเฟ่ว่ะ การมีสาวๆน่ารักๆมาให้คุยด้วยกูว่าก็มีความสุขดี แต่พอผ่านไปนานๆกูก็เริ่มอิ่มตัวแล้วเลิกไปร้าน ตอนนี้ชีวิตกูเลยเหลือแค่การทำงานกับพ่อแม่ แค่สองอย่าง ถ้าพ่อแม่กูตายกูคงเหลือแค่ทำงานหาเลี้ยงตัวเองไปวันๆ กูกะว่าจะหาเด็กมาอุปการะว่ะ ชีวิตคนโสดกูว่ามันสบายแต่พอแก่ตัวไปไม่สร้างห่วงสร้างภาระให้ตัวเองแม่งจะว่างเปล่าชิบหายเลย
>>203 ไม่รู้คำแนะนำนี้จะดีมั้ย มึงลองหางานอดิเรกทำมั้ย งานประเภทพวกต้องคิดแก้ปัญหาตลอดไม่ใช้แค่งานสมาธิเฉพาะตอนทำอะ ให้ยกตัวอย่างพวกเขียนโปรแกรมไรแบบนี้มึงมีปัญหาติดบัคอะไรมึงก็คิดวิธีแก้ตัวนั้นตลอด(คือกูทำแล้วกูคิดถึงมันยันฝัน....) มึงจะได้ไม่ไปคิดเรื่องอื่น หรือมึงหาอะไรที่มึงทำแล้วสนุก บางทีมึงไม่ต้องหาความหมายหรือคิดอนาคตไปไกลหรอกมันไม่มีใครรู้คำตอยที่ถูกอยู่ดี สุดท้ายก็มีแต่ให้มึงคิดในแง่ร้ายขึ้นๆ มึงลองคิดว่าที่มึงคิด(ตัวมึงในอนาคต ตัวมึงที่ตายแล้ว)เป็นคนอื่นดู คือมึงคิดว่าไอ้คนที่มึงคิดไม่ใช้ตัวมึงจริงๆให้เหมือนคนอื่นที่ไม่รู้จักไปเลยมึงอาจได้ความคิดแง่ร้ายน้อยลง
กูรู้สึกความหมายในการมีชีวิตกูเล็กมากเลยวะแค่อยากอ่านการ์ตูน/นิยายเล่มต่อไป อ่านจบทีได้มาดีดดิ้นเมื่อไรเล่ม/ตอนต่อไปจะออกแล้วมาเป็นพลังรอเมื่อไรวันนั้นจะมา 5555
ทำไมคนที่กูรักมากๆเค้าตายจากกูไปหมดเลยวะโม่ง กูรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นตัวซวยเลยว่ะ คนรอบตัวกูตายกันจนกูชินละ
4 ปีก่อน ยายกับตากูป่วยแล้วจากไป ถัดมา 2 ปีพ่อกูเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายมาบอกกูตอนเหลือเวลานิดเดียวแล้วก็ตาย
ปีต่อมาแม่กูตายอีกคนเกิดอุบัติเหตุรถคว่ำตอนกลับจากทำงานตจว. แฟนกูคนแรกก็โดนลูกหลงพวกขี้ยามันยิงกันกระสุนทะลุปอด
คนที่ 2 ที่กูคบล่าสุดเลยโลหิตจางกำเริบ มีอาการแทรกซ้อนเหี้ยไรอีกไม่รู้ไปส่งหมอไม่ทัน ไม่กี่เดือนก่อนกูยังคุยยังไปดูหนังกับมันอยู่เลย
หลังจากแฟนกูหายไปอีกคนไม่กี่วัน น้องสาวกูก็โดนรถชนอีกแล้วเสียเลือดมากหมอช่วยไว้ไม่ได้ คือกูเสียใจจนรู้สึกว่ามันชินแล้ว กูรู้สึกเฉยๆเหมือนพูดเหี้ยอะไรไม่ออกละ บ้านกูตอนนี้จากมีกัน 6 คนเหลือกูคนเดียวแล้ว กูไม่มีใครแล้วจริงๆว่ะ ไอ้เหี้ยชีวิตกูไม่มีความหวังเหี้ยไรอีกแล้วกูอยู่ไปเพื่อส้นตีนอะไรวะ ชีวิตแม่งเฮงซวยสัส
>>205 กูไม่ใช่ 196รึ 203 นะ แต่กูเพิ่งมาอ่านมู้นี้แล้วเห็น 196 แม่งเหมือนกูซะกูตกใจนึกว่ากูละเมอพิมพ์...
กูเป็นเหมือน 196 เลยอ่ะ ตั้งแต่สองสามปีที่แล้วละ กูเห็นที่มึงแนะนำมาว่าอะไรที่สนุกทำเป็นงานอดิเรกแล้วมีแพชชั่นกับมัน กูก็ทำนะ
แต่ไม่รู้กูเป็นเหี้ยไร มีความสุขก็จริงอยู่ แต่บางทีพอกูนั่งนิ่งๆ มาคิดถึงไอ้ที่ทำไปแล้วก็รู้สึกว่าไอ้ความรู้สึกแบบนี้แม่งประเดี๋ยวประด๋าวชิบหาย
อ่านหนังสือ คุยกับเพื่อน ไปเที่ยว ฯลฯ ทั้งหมดนี้กูรู้สึกเหมือนมันเป็นแค่ object หนึ่ง กูไม่รู้จะอธิบายยังไงดี แต่กูคิดว่าแค่ตายไปทั้งหมดก็จบแล้วไม่ใช่เหรอวะ ถึงนิยายรึการ์ตูนที่อ่านแม่งจะทำให้รู้สึกค้างคา แต่ถ้ากูตายกูก็ไม่รู้สึกค้างคาอยู่แล้วสิ แถมกูไม่ต้องเหนื่อยตามอ่านด้วย อะไรแบบนี้
แต่กูไม่ได้สิ้นหวังอะไรกับชีวิตนะ(ฟังดูย้อนแย้งกับที่กูพูดมาข้างบนชิบหาย) กูแค่รู้สึกอยากลบตัวตนกูไปเลย กูไม่อยากทำอะไรแล้ว
เคยนั่งวางแผนว่าจะมีชีวิตต่อไปจนกว่ากูจะแน่ใจว่าพ่อกับแม่อยู่ได้สบายแล้ว หาวิธีตายที่แน่ใจว่าบริจาคร่างกายได้ บลาๆๆ
กูไม่ชัวร์ว่ากูควรไปหาจิตแพทย์ดีมั้ยว่ะ หรือกูจะเป็นโรคซึมเศร้า หรือกูจะบวชแม่งเลยดี
>>210 กูเข้าใจมึงนะ กูชอบคิดเรื่องตายตั้งแต่เด็กๆเพราะปสกตอนนั้นมันเหี้ยมากๆ ช่วงประมาณม.5นี่หนักขึ้น และก็คิดอยากตายทุกวันจนมาถึงตอนนี้ ประมาณ6-7ปีล่ะ
อยากตายมันไม่ได้แปลว่ากูจะฆ่าตัวเองเดี๋ยวนั้นสักหน่อยถูกป่ะ กูอยากตายนะ ถ้าพ่อแม่ตายหมดแล้วกูจะทำไงดี
ศาสนาไม่ช่วยอะไร งานอดิเรกทำสักพักก็เบื่อ มันไม่รู้มีประโยชน์จะอะไร จักรวาลกว้างเป็นล้านล้าน กูก็มีค่าพอๆกับหินก้อนหนึ่ง
กูพิมพ์ไม่เก่งอีก เอาเป็นว่าเหมือนมึงกูก็ไม่ได้สิ้นหวังในชีวิต ไม่ได้เป็นปัญหาในชีวิต
กูปกติเหมือนพวกมึงทุกคนแค่อยากตาย เหมือนคนอยากทำดั้ง คนอยากรวยงี้
ค่ายาแพงอยู่ กูนี่จ่ายรายครั้งสองพันกว่าบาทมั้ง พอหาหมอบ่อยๆแล้วนัดนานๆครั้งขึ้น สามสัปดาห์/เดือนละครั้งงี้
กูหาเอกชนแล้วมาเบิกยาที่รพรัฐนะ รพรัฐกูว่างแค่ช่วงเย็นหมอชอบไม่อยู่สัส
กูไม่เจอปัญหาแบบพวกมึง(กูเซ็งชีวิตเรื่องอื่น)นะ แต่ตอนไหนว่างจัด กูชอบจินตนาการจำลองว่าคนใกล้ตัวหรือตัวกูเองจะตายยังไงว่ะ แม่งเป็นเพราะว่างเกินจิตเลยฟุ้งซ่าน
*แยกคำว่าอยากกับทำออกไหม
เวลาชักว่าวเสร็จกูรู้สึกสิ้นหวังกับตัวเองทุกทีเลยหวะ แบบเหี้ยเอ้ยตัวเรา ไรแบบนี้ กูควรทำไง
อย่าบอกว่าห้ามชักว่าว ยากชิบ
ใครมีญาติมีพ่อมีแม่ มีคนที่รักเป็นโรค ALS บ้างวะ...หรือโรคเหี้ยอะไรที่แบบรักษาไม่ได้ รู้ตัวว่าเป็นแล้วยังไงก็ต้องตายห่าอยากรู้พวกมึงทำใจยอมรับกันยังไงวะ....แบบ...สัสพวกมึงเคยคิดป่ะวะ ถ้าหากพวกเขาตายไปแล้วมึงจะอยู่กันยังไง....
>>222 มันก็ไม่ต่างจากคนปกติเท่าไหร่หรอกว่ะ เพียงแค่มึงรู้วันเวลาที่เขาจะไปก็เท่านั้น คนทั่วๆไปอย่างมึง อย่างกูมีโอกาศตายได้ทุหเมื่อแหละ ญาติพ่อกูนั่งกินเข้าอยู่ใต้ต้นไม้กลางวันแสกๆยังโดนฟ้าผ่าตายเลยมึง ไม่มีใครคาดคิด
เพราะงั้นต่อให้มึงไม่ป่วย ญาติมึงปกติก็ไม่ควรประมาท ทำประกงประกันไว้ซะเสมอ ส่วนปู่กูเค้าก็เป็นมะเร็งปอด ตอนนี้ตายไปละ แต่กูก็ไม่ได้เศร้าอะไรมีใจหายนิดๆ เพราะปู่กูสอนมาแบบนี้ ทุกคนก็ต้องตายทั้งนั้น ช้าเร็วต่างกันแค่นั้น รู้วันตายยังดีกว่าไม่รู้ เพราะจะได้ทำอะไรที่อยากทำก่อนตาย
คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่าถ้าพ่อแม่ด่วนจากไปก่อนวัยอันควร พวกมันจะอยู่ไม่ได้
แต่กูเห็นแม่งก็อยู่รอดได้ทุกคนแหละ (กูก็ผ่านมาแล้ว)
>>224 สำหรับกูคงยากว่ะ
เพราะกูเป็นคนติดแม่มาก ติดแบบสุดๆ เลย เรียกได้ว่าถ้าให้ย้ายออกจากบ้านไปอยุ่คนเดียว กูไม่ยอมไปกูอยู่กับแม่อยู่
ซึ่งอาการติดแม่กูมันหนักมาก จนแม่กูยังกลุ้มใจเลย อยากให้กูมีแฟน แต่งงาน จะได้หายอาการแบบนี้ แต่ถึงยังไงกูไม่มีหรอกฟงแฟน
กะว่าถ้าแม่กูเป็นอะไรไป กูคงตามไปแหละ เหมือนเป้าหมายในชีวิตกูคือดูแลแม่กูให้มีความสุข
>>225 กูก็ติดแม่ระดับนึงถ้าแม่เสียกูคงเศร้าหลายวันแต่ถ้าเป็นกรณีพ่อกุยังคิดว่าเลยอาจร้องไห้แค่วันนั้นแล้วคงไม่ร้องแล้วมั้ง จะซึ้งอะไรมันมีแต่ทำให้ชีวิตกุ แม่ น้องแย่ลง ตอนนี้กุก็คิดแค่ว่าพ่อคือผู้ให้กำเนิดแต่ไม่ใช้ผู้นำครอบครัวเลย แถมงานการก็ไม่ทำอีก เผลอๆอาจไม่ร้องแน่สำหรับพ่อ
กูเคยเชื่อว่าพ่อกูเป็นผู้ชายที่ดีไม่มีกิ๊ก
แต่วันนึงกูได้ยินพ่อกับเพื่อนคุยกันเรื่องผู้หญิงเท่านั้นแหละ
กูแอนตี้ทุกอย่าง กูคิดว่าถ้ามันสอนเรื่องศาสนาให้กู
กูจะตบแม่งเรื่องกิ๊กนี่แหละ
ปล.มันยังไม่รู้ว่ากูได้ยิน
เพื่อลุ้นเผื่อจะเจอคนดวงแข็งพอไงวะ
กูก็เคยนะสิ้นหวังในหลายๆเรื่องกูว่าเรื่องพวกนี้มันหดหู้ว่ะ
ไม่ว่าจะสิ้นหวังเรื่องในอนาคตที่ยังไม่เคยเกิดไม่รู้ว่าคิดมากไปมั้ย
มีใครเคยเป็นมั้ยวะ คือว่างๆก็คิดเรื่องข้างหน้าที่แม่งยังไม่เกิด
หรือบางทีแม่งก็เบื่อๆชีวิตที่เป็นอยู่ ไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น
หรือบางทีกูขี้เกียจเกินไป ก็ก็งงตัวเอง
แต่ตอนนี้รู็สึกสิ้นหวังกับทีสิสงานจบของตัวเองมากเลยว่ะ
กูรู้สึกไม่ไหวไม่อยากทำแล้วแต่พอกูคิดว่า ช่างแม่งล่ะทำๆไปเหอะ
ไอ้เหี้ยยยยยยยย ขอระบายหน่อยเหอะ กูรับจ๊อบเป็นติวเตอร์เว้ย ไปสอนที่บ้านเด็กชม.ละ300 สองชั่วโมงก็600อาจจะดูเยอะ แต่แม่งอยู่ซะแถวๆศรีย่าน ไอ้ห่า ให้สอนตอนเย็น เดินทางเข้าไปแถวนั้นแม่งรถติดสัดๆ สรุปวันๆนึงกูเสียเวลาไปร่วมสี่ชั่วโมง ตกชั่วโมงละ150เอง เหนื่อยกายไม่เท่าไหร่ เหนื่อยใจชิบหาย เด็กที่กูสอนแม่งเด็กเกรียนหัวโปกพึ่งเข้าม.1. ไอ้เหี้ย เกรียนสุด เอาแต่ใจ รับมือยากชิบหาย ดุก็ไม่ได้ ดุแล้วแม่งงอนไม่ฟังเหี้ยอะไรเลย. มึงนึกภาพเด็กฮึดฮัดแล้วไม่ยอมคุยกะมึงอ่ะ นั่นแหละใช่เลย แต่ปกติก็ไม่ค่อยฟังกูอยู่แล้วอีก เอาหนังสือแบบฝึกหัดมาให้ทำ แล้วแบบฝึกหัดแม่งผิดกูเฉลยให้ก็ไม่เชื่อกู หาว่ายศกูต่ำกว่าคนเขียนหนังสือ สัดเอ้ย เห็นกูเป็นลูกจ้างแม่มันมั้ง เอาแต่ใจสัดๆ แม่มันก็คิดอย่างเดียวว่ากูจะทำให้มันเก่ง เหี้ย เด็กโลกไหนเรียนพิเศษแล้วไม่ทำแบบฝึกหัดแล้วจะรอดบ้างวะ ล่าสุดแม่งสอบเข้าม.1. ไอ้สัด ไม่ติดตัวจริง ต้องไปเรียนปรับพื้นฐาน แล้วแม่งรร.ให้ซ้อมเชียร์ไง จตุรมิตรอ่ะมึง กลับมาก็เหนื่อย คราวนี้ไม่ฟังกูเลย กูบอกถ้าเหนื่อยยังไม่ต้องเรียนก็ได้ แต่แม่งดื้อ จะเรียน พอเรียนจริงๆก็ง่วง ไม่ฟัง เล่นมือถือ กูเครียดสัดๆเลยแม่งเอ๊ย พี่ที่แล็บบอกให้ปล่อยวาง จะไม่เรียนก็เรื่องของมัน เงินมัน แต่แบบ กูวางไม่ลงจริงๆ ใครมีวิธีรับมือเด็กหัวโปกบ้างวะ ช่วยกูด้วยยยย หรือกูควรจะปลงแล้วเลิกสอนไอ้เด็กนี่ดีวะเนี่ย
>>231 เกิดเป็นภาพสะท้อนตัวกูวัยเด็กขึ้นมาเลย 5555555555555555555 ถ้ามึงเหนื่อยมึงไม่ไหวก็ไม่ต้องทำสิวะ นั่งรถก็หมดกำลังใจเสียสุขภาพจิตแล้ว แต่ถ้าอยากสอนกูว่ามึงก็สอนให้มันสนุกๆ สอนสนุกยังไงมึงมีมุขอะไรไปเล่นก็ปล่อยไปสิวะ ทำเหมือนนั่งคุยกับเพื่อนไปก็ได้ ตอนกูยังผมติ่งหูกูก็เป็นแบบนี้แหละ ดื้อด้านรำคาญครูไม่อยากเรียน นั่งกดเพจเจอร์ ถถถถ+ แต่ครูมันรู้วิธีเข้าหามั้ง มาแซวกูว่าแชทกับใคร แล้วก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อยเลย เล่นบ้างเรียนบ้างเป็นแบบนี้ไปกูเลยไม่เบื่อ เรียนแล้วสนุกกูก็อยากเรียน
แต่ไอเด็กคนนี้เป็นผู้ชายคงจะมาตรฐานกับกูแฮะ ถ้ามึงพยายามแล้วแต่มันยังไม่เรียนอีกก็ช่างหัวมันสิวะ ครูตปท.มันสอนยังไงมึงก็เอายังงั้นแหละ สอนแบบเพื่อนแต่ถ้าไม่ฟังก็ปล่อยมันไปกูสอนต่ออยากรับไม่รับเรื่องของมึง ส่วนมึงก็ไปกินตังค์ชิลๆ แค่นั้นแหละ
กูเป็นอีบ้าประสาทแดกเรื่องทำมือถือตกจากกระทู้ญาติพี่น้องฯ นะ กูมานั่งอ่านที่ตัวเองพิมพ์แล้วเป็นอีบ้าชิบหาย คนอื่นคงมองว่ากูไร้สาระมาก ซีเรียสกับเรื่องแค่นี้ ซึ่งกูก็รู้ตัวนะ แต่ที่บ้ากว่านั้นคือกูก็ยังไม่หายเฟลและสิ้นหวังในตัวเองอยู่ดี... เกลียดตัวเองชิบหาย สงสารพ่อแม่ชิบหายที่มีลูกโง่ๆ อย่างกู โง่แม่งในทุกมิติ ทั้งเรื่องการงานและเรื่องส่วนตัว ไม่รู้จะทำไงให้หายโง่ เพราะรู้สึกว่ายิ่งโตยิ่งโง่ ถึงจะไม่เคยทำอะไรเหี้ยๆ แต่ก็ทำแต่เรื่องโง่ๆ ไม่เคยทำเรื่องอะไรให้พ่อแม่ได้ภูมิใจ
>>235 กูอาจปลอบใจอะไรมึงไม่ได้ แต่กูคล้ายๆมึงว่ะ ตอนนี้ตกงานมาซักพักละ เงินจากพวกงานเก่าที่เคยทำก็ต้องเอาไปช่วยเรื่องทำบ้านใหม่แทบหมด แรกๆกูตั้งใจว่าจะทำงานหาเงิน เวลาอยากซื้ออะไรก็ใช้เงินตัวเองแต่สุดท้ายกลับทำไม่ได้อย่างที่หวังเสียที มีแต่รายจ่าย รายรับแทบไม่มี นี่กูก็รับฟรีแลนซ์รองานไปวันๆ ค่าตอบแทนแค่หลักร้อยแถมสามเดือนมีงานที กูโคตรสิ้นหวัง เห็นคนอื่นได้ดีมีความสุข ซื้อโน่นนี่อวดลงเฟซก็ได้แต่อิจฉาไปวันๆ เฮ้อ...
>>236 กอดมึง รายได้น้อยแต่รายจ่ายบานเหมือนกัน แถมเป็นรายจ่ายแบบฉุกเฉินและไม่เต็มใจทั้งนั้น เรื่องใช้เงินซื้อความสุขให้ตัวเองอย่างชาวบ้านเขาน่ะเหรอไม่มีหรอก นี่ขนาดกูไม่เล่นเฟสนะ เลิกรับรู้ชีวิตดี๊ดีของคนอื่นมาหลายปีละ เล่นแล้วรู้สึกว่าทุกข์มากกว่าสุข แต่กูก็ยังทุกข์กับความกระจอกงอกง่อยของตัวเองอยู่ดี
อยู่ดีๆกะสิ้นหวังกับชีวิตซะงั้นวะ เป็นเฮียไรไม่รู้
>>238 ไอ้ความรู้สึกสิ้นหวังนี่ส่วนมากมันก็ชอบมาแบบทำไมไม่รู้ทั้งนั้นแหละว่ะ ยกเว้นบางคนอาจจะเกืดจุดพลิกผันกับชีวิต แต่ประเภทอยู่ดีๆ เป็นก็มีเยอะ กูคนนึงล่ะ พยายามจดจ่อหาอะไรทำจะได้ไม่ฟุ้งซ่านมาก กูก็พยายามอยู่ แต่บางทีก็ทำไม่ได้หรอก บางครั้งมันหดหู่จนไม่อยากทำอะไรแม้แต่งานอดิเรกที่เราชอบด้วยซ้ำ
เวลากูหดหู่มากๆ กูจะไม่อยากนอนว่ะ ง่วงนะ แต่ดันไม่อยากนอน เพราะเวลาที่เราหลับตานอนรอให้มันหลับสมองจะว่าง พอสมองว่างไอ้สิ่งที่เราฟุ้งซ่านมันจะประดังประเดเข้ามามากมายมหาศาล เป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุด กูเลยจะนั่งเล่นเน็ทไปเรื่อยๆ จนเช้าแล้วก็อัดกาแฟเซเว่นก่อนไปทำงาน เป็นการโต้รุ่งที่สูญเปล่ามาก
กูก็เป็น นอนเฉยๆมีแต่ความคิดว่า ตายดีกว่ามั้ย มีดอยู่ห้องครัวนะ จะไม่ต้องเจอเรื่องดีและร้ายอีก กรีดลงไม่ใช่ทางขวาง ทำลายมัน(เส้นเลือดใหญ่) ตายเถอะ ตายกัน ตายเถอะ ระเบียงไม่สูงพอ ขึ้นไปอีกแต่ตกลงมาตายสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นนะ ตายเงียบๆ เรามาตายกันเถอะ เลยไม่ค่อยชอบเวลาก่อนนอนเท่าไร ยานอนหลับก็ไม่ค่อยช่วยเหี้ยอะไรเท่าไร นอกจากเซล้มกองกับพื้นถ้าตื่นเช้ามากนะ เหมือนมึงแดกเหล้าอ่ะเซไม่ตรงทาง พอตื่นเช้าไม่ได้คนอื่นว่ากูขี้เกียจอีก ชีวิตดี5555555555 สมเพชตัวเองวะ
มีตอนนึงมีความคิดแค่อยากนอนนี่แหละ กูเทยาทั้งบ้านแล้วแดกแล้วแดก ดีไม่ตาย จิตสำนึกกูอยากตายว่ะ ไม่รู้จะห้ามยังไง ค่อยๆประคองกันและกัน
เขานิสัยดีนะ ยกเว้นเรื่องนี้ ขาดสติปุ๊ปพยายามฆ่าตัวเองปั๊ป นี่ล่าสุดเอามีดกรีดข้อมือตัวเอง ดีไม่ตาย มีดไม่คม5555555555555 สมน้ำน้ำมึง อีจิตใต้สำนึก
>>242 ใช่เลยว่ะมึง กูเก็บกดจากเรื่องอื่นมาก่อนแล้ว เรื่องนี้มันมาจุดชนวนพอดี เลยระเบิดบึ้ม ขอบใจมากว่ะ
>>244 สู้ๆ นะมึง มีอะไรก็มาระบายในนี้ได้ กูได้มาระบายก็รู้สึกดีขึ้นเยอะ ได้แนวทางที่ดีด้วย ขอบคุณทุกคนมาก แต่วันนี้กูก็เผลอทำอะไรโง่ๆ อีกแล้วว่ะ 55555 เอาเถอะ มันผ่านไปละ แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ช่างแม่ง กูไม่ค่อยมีปัญหากับอะไรที่จบไปแล้ว กูมักจะเครียดเวลาอยู่ในโหมดไม่รู้จะทำไงดีมากกว่า เพราะมันเป็นโหมดชี้ชะตาว่าจะไปต่อในทางที่ดีหรือแย่ ซึ่งกูก็มักตัดสินใจพลาดตลอด ครั้งนี้ก็เช่นกัน 555 กูเข้าใจฟีลที่ว่าไม่อยากอยู่แล้วมากๆ ไม่อยากเจอเรื่องราวอะไรอีกทั้งนั้น แต่กูยังไม่เคยพยายามตายด้วยวิธีใดๆ ว่ะ ใจไม่แข็งพอ มึงก็อยู่เป็นเพื่อนกันก่อน อย่าเพิ่งไปไหน
ควยเอ้ย กูเอาเวลาไปสร้าง skill เพื่อให้หาเงินได้มาก ๆ ตอนนี้ใกล้จะ 30 แล้วเงินเดือนเกือบ 48k
แต่ความเป็นผู้ใหญ่ไม่มีเลย โดนที่บ้านด่าตลอด ทำไงดีวะ
>>247 กูว่ามึงมีความเป็นผู้ใหญ่ระดับนึงแล้วว่ะ ไม่งั้นมึงจะหางานที่เงินเดือน 48k ได้ไง แต่บ้านมึงคงด่ามึงในแง่นิสัยหรือการแสดงออกบางอย่างมั้ง ซึ่งเรื่องนี้กูเฉยๆ กูถือว่า คนเรามีสิทธิทำอะไรก็ได้ที่ไม่เดือดร้อนใครและไม่ผิดกม.ว่ะ แต่เผอิญว่า thailand only ว่ะ ต้องวางตัว แคร์สังคม ประเพณี ธรรมเนียม โน่นนี่นั่นอีก อันนี้มึงต้องทำใจแล้วล่ะ คหสต.
เห็นโม่งบนๆ เม้าเรื่องนอนๆ จะว่าไป ช่วงนี้กูก็เป็นมนุษย์เฟล ความสิ้นหวังแดกกบาลอยู่ ไม่น่าจะนอนตีเท่าไหร่ สุดท้าย 6 โมงเช้ากูก็ตื่นแบบไม่ง่วงเลยอยู่ดี
>>249 มันไม่ง่วงก็จริง แต่อาการออกทางร่างกายแทนว่ะ กูเคยเฟลแบบพีคสุดเป็นหลายเดือน นอนตี 3 ตื่น 6 โมงเช้า ผลคือ แรกๆ ไม่มีอะไร ตาหวานซึ้งกว่าเดิมจนชาวบ้านทัก 1-2 อาทิตย์ต่อมาจะเริ่มมีตุ่มตามตัวเป็นแบบปื้นแดงๆ 1 เดือนขึ้นไป กูจะทรุด แบบเป็นไข้น่ะมึง ตัวจะร้อนตลอดเวลา
ไม่ไหวว่ะ ถ้านอนปกติได้ก็นอนเถอะมึง เชื่อกู
กูมีเรื่องปรึกษาหลายเรื่องว่ะ คือ กูอายุก็จะจบปริญญาตรีเเล้วกูเรียนวิศวะไฟฟ้าอยู่ม.รัฐเเห่งหนึ่ง ทีนี้ที่กูเลือกเรียนวิศวะมาเนี่ยไม่ใช่ว่ากูชอบนะ
กูโดนบังคับไอสาส เเล้วกูก็โคตรจะเกลียดวิศวะเลยเเต่ก็ทนเรียนมาได้อะนะเเต่ยังไงก็ไม่ชอบอยู่ดี
ทีนี้กูเรียนมาจะจบเเล้วพอมาทำโปรเจคจบเเม่งรู้สึกว่ายิ่งเเม่งไม่ใช่ใหญ่เลย คือไม่รู้จบไปโง่ๆอย่างกุนี่จะหางานทำได้ไหม
ต่อมาเรื่องงานไม่พอ เรื่องหญิงบ้าง
กูจีบหญิงไม่เป็นเลย ย้ำว่าไม่เป็น คุยกับสาวก็ไม่เป็นชีวิตนี้ไม่เคยมีเเฟน เเม้เเต่เพื่อนชายกุก็มีเพื่อนเเค่4-5คนที่คุยๆกันสนิทๆได้กีฬากุก็ไม่เล่น
เป็นพวกเก็บตัวเงียบๆเก่งเเต่คีย์บอร์ดไปวันๆ กุล้มเหลวมากในการเข้าสังคมคุยกับใครก็ไม่เก่ง
กุเครียดเรื่องการเข้าสังคมมากว่ะ พอคิดว่าวัยทำงานเเล้วต้องไปหาสังคมใหม่ๆก็กลัว ทำไงดีวะจะฝึกพูดไม่ให้ขัด พูดเก่งๆอะไรยังไงดี
ชีวิตนี้คงได้เเต่ชักว่าวจนตายด้วยเเหง
>>251 กัดฟันเรียนให้จบเหอะว่ะ เสียดายเวลา พอจบแล้วค่อยไปหางานสาขาอื่นทำก็ได้ แต่โอกาสโตอาจน้อยหน่อย อันนี้ต้องทำใจยอมรับนะมึง ส่วนเรื่องญ. กูเฉยๆ พี่กูคนนึงก็ไม่ได้พยายามเข้าสังคม แต่ใครคุยด้วยแกก็ตอบ แค่นั้น ชีวิตแกก็ปกติ ดำเนินไปได้
ส่วนเรื่องการเข้าสังคม มันต้องใช้เวลาว่ะ พอเริ่มคุ้นเคยกับสถานที่ มันก็เข้ากันได้เอง กูพูดจริง
เห็นสเตตัสเพื่อนรุ่นเดียวกันแต่ละคนอัพรูปเที่ยวนอกสวยหล่อ รูปรถ รูปแฟน ละหดหู่
รู้สึกโหวงที่ตัวเองไม่มีซักอย่าง จน งานก็งั้น ความสามารถพิเศษไม่มี จะพัฒนาตัวเองก็ไม่กระเตื้องเหมือนสมองจะไม่รับอะไรใหม่ๆแล้ว ทำไมกูถึงได้กากยังงี้
>>253 เบื้องหลังรูปกิน เที่ยว ปี้แฟน มันอาจแลกมาด้วยเงินจำนวนมหาศาลหรือความกลุ้มใจก็ได้นะมึง ยิ่งแฟนนะตัวดีเลย ตัวสูบเงินชั้นดี ไม่มีเงินไปเอาใจเดี๋ยวก็หนีไปมีคนอื่น
พอใจในสิ่งทีีมึงมีเหอะว่ะ อย่างน้อยมึงก็ยังมีที่ซุกหัวนอน มีเวื้อผ้าใส่ มีข้าวแดก 3 มื้อแบบเลือกเองได้ ไม่ใช่มีคนเลือกให้มึงแบบนักโทษเรือนจำหรือรพ. บ้า
กูเองก็เคยเฟลนะแบบคนอื่นได้โน่นมีนี่ทไไมกู้เองไม่มีเลยจนได้อ่านอั หนังสือของสตีเฟ่นฮอกิ้นแล้สรู้สึกดีขึ้นมาก มันมีประโยคนึงเค้าบอกว่าถึงร่างกายจะเป็นงี้แต่เค้าก็ไม่รู้สึกว่าเสัียอะไรๆปหรือทำอะไรไม่ได้ เค้าได้ทำทุกอย่างที่ต้องการเพราะเค้ามองในสิ่งที่เค้าทำได้ และมองข้ามสิ่งที่เค้าไม่มี ชีวอตเค้าเลยมีความสุข
>>253 กูก็เป็นเหมือนกัน แต่พอได้มาคุยกับเพื่อนหลายคนที่ดูชีวิตดีถึงได้รู้ว่าชีวิตพวกมันก็มีความบัดซบในแบบของตัวเองกันทั้งนั้น บางคนนี่แย่จนปัญหาชีวิตกูกลายเ็นเรื่องเล็กไปเลย
หน้าฉากในเฟสมันแค่ไม่อยากจะฟูมฟายให้คนอื่นมาสมเพช หลังๆมากูแค่ทะยอยอัพรูปของกินที่เคยเซฟไว้เป็นช่วงๆยังโดนเพื่อนแซวเลยว่าชีวิตดีทั้งที่กูรู้สึกเฟลกับชีวิตตัวเองช่วงนี้มาก
โม่งทุกตนล้วนสิ้นหวัง
กูรู้สึกชีวิตแม่งจืดจางว่ะ หลังจบม.6 ชีวิตกูเริ่มจางลงๆ เพื่อนก็เริ่มห่างๆกันไป มีเล่นดอทด้วยกันบ้างบางที แต่ก็ห่างไปเรื่อยๆ แฟนกูก็เลิกกันไปละ แม่งไร้จุดหมายเลยชีวิตกู ตัวกูทำได้ทุกอย่าง พูดได้ 5 ภาษา เล่นดนตรีได้ แต่ไม่เก่งซักอย่าง ชีวิตโคตรห่วยเลยว่ะ ทำเหี้ยไรก็แป้ก กูรู้สึกหมดกำลังใจจะทำอะไรยังไงไม่รู้แม่งไม่มีแรงบันดาลใจเลย
>>251 ช่วยเรื่องหญิงละกัน
เรื่องคุยนี่แนะนำว่าถ้าเราไม่ใช่คนที่คิดอะไรที่น่าสนใจมาคุยได้ ให้ลองตั้งใจฟังที่อีกฝ่ายพูดดู แล้วในประโยคนั้นๆมันจะมีคำที่สามารถใช้เป็นตัวเริ่มหรือเสริมหรือต่อให้กับการสนทนานั้นได้ ถ้าใช้ถูกจุดบุคคลที่เราคุยด้วยนั้นจะรู้สึกดีกับเรามาก อย่าไปกลัว
แต่ถ้ามึงอยากพูดเก่งจริงๆต้องฝึกวีธีฝึกมันเยอะแยะหาเอาตามกูเกิ้ล
ถ้าอยากแก้ไขเรื่องการเข้าสังคมจริงๆกูแนะนำว่าถ้าเรียนจบให้ลองไปเป็นเซลล์ที่ต้องเจอลูกค้าเยอะๆไม่ซ้ำคนหรือถ้ามีทุนก็ลองเปิดร้านขายเสื้อผ้าผู้หญิงดู ตามตลาดนัดก็ได้ อย่างหลังจะได้พูดคุยกับสาวๆด้วย(คุยเรื่องสินค้า ฟังหล่อนต่อราคา แล้วพูดขอบคุณ คงไม่ยากเกิน) พอทำไปซักพักอย่างน้อยกูเชื่อว่ามึงน่าจะดีขึ้น
ตากูมั่ง วันนี้ไปธนาคารมาแม่งเจอพนังงานชายวัยกลางคนทำตัวเหี้ยๆใส่วะ ไอ้สัดตอนแม่งกดคิวแม่งกดโคตรเร็วพอกูกำลังเดินไปแม่งกดอีกคิวละแล้วแม่งก็หาว่ากูไม่ทันแล้วเรียกคนถัดไปจากกูมาแล้วแม่งบอกว่าจะทำให้พร้อมกัน พอไปๆมาๆแม่งทำไม่ได้แม่งให้น้องผู้หญิงที่นั่งข้างๆทำรายการคิวที่ต่อจากกูที่แม่งเรียกมาเฉย แต่อีกฝ่ายเรียกคิวลูกค้ามาพอดี แม่งเลยหน้าเสียกูละสะใจแม่งชิบหาย กูแอบเห็นน้องเขาทำหน้าสมเพชใส่มันด้วย
แต่แม่งอยากต่อยมันชิบหาย ควยอายุประมาณ 40 ละแม่งยังมานั่งเป็นพนักงงานการเงินที่ให้เด็กจบใหม่ไปทำอยู่เลย แถมกูยังเห็นผู้จัดการสาขาอายุน้อยกว่าแม่งอีก ทำตัวเหมือนข้าราชการกร่างๆเมื่อก่อนเวลาไปติดต่องาน สัด มันหมดยุคหมอบคลานแล้วไอ้เหี้ย
เพื่อนโม่งเคยรู้สึกเคว้งคว้างมั้ยวะ ล่องลอย ไม่มีเป้าหมาย ไม่รู้จะทำอะไร บางทีก็ไม่อยากตื่น เพราะมันพบแต่ความว่างเปล่า มันไม่ใช่ความสับสน ลังเลหรืออะไร ความรู้สึกนี้มันจะมาเป็นระยะๆ ทั้งๆที่ชีวิตก็ไม่ได้ย่ำแย่นัก แต่มันเหมือนกับไม่มีอะไรเลยว่ะ คิดอะไรก็คิดไม่ออก บางทีก็ไม่อยากทำอะไร จิตมันว่างไปหมด แม่งไม่รู้จะไปทางไหนดี
เรียนทันตะปีห้า กำลังจะโดนไทร์ว่ะ ตอนนี้แบบหมดแรงเหี้ยๆ
ไม่รู้จะแนะนำให้สู้ต่อหรือถอย เพราะไม่รู้ว่ามึงจะโดนไทร์เพราะอะไร เพราะไม่ชอบคณะที่เรียน เพราะไม่ถนัด เพราะขี้เกียจเหลวไหล แต่เข้าทันตะได้นี่อย่างน้อยๆ มึงก็ฉลาดกว่ากูแน่นอนล่ะ
สมัยเรียนกูไม่ค่อยสิ้นหวังไม่ค่อยหมดแรงเพราะเรียนมันเรียนกันเป็นตัวๆ ไป มีจุดเริ่มต้นสิ้นสุดชัดเจน เวลาใกล้หมดเทอมกูจะเหนื่อยมากเลยนะ แต่อาการมันเหมือนคนกำลังจะถึงเส้นชัย อีกนิดเดียวว้อย ฮึดว้อย สู้ว้อย จะได้ไม่ต้องกลับมาเรียนตัวเดิมซ้ำ แต่พอมาทำงานนะมึงง เฮ้ออ ชีวิตรูทีน ทำให้ตายก็ไม่มีวันจบสิ้น มองไม่เห็นจุดสิ้นสุด มองไม่เห็นเส้นชัย มีแต่ความเหนื่อยหน่ายท้อแท้ ท้อโคตรแม่ง แต่อาจเป็นเพราะกูไม่ชอบงานที่ทำด้วยล่ะมั๊ง แต่ปัญหาคือกูก็ไม่รู้ว่ากูชอบอะไร อยากทำอะไร ตั้งแต่จบมากูไม่เคยแฮปปี้กับงานเลยซักงาน ทำเพื่อให้มีแดกล้วนๆ พูดแล้วก็ เฮ้ออออ อีกที
กูเป็นคนที่ถ้าได้ใช้ภาษาต่างประเทศโดยเฉพาะภาษาที่กูชอบมากๆ(ญี่ปุ่น) คุยกับใครแล้วกูจะมีความสุขมากๆเลยเว้ย
แค่ได้นำภาษาไปใช้ในชีวิตจริงก็ทำให้กูแฮปปี้ แต่เผอิญกูเลือกเรียนวิทย์สุขภาพว่ะ บอกเลยว่าที่เรียนทุกวันนี้ฝืนมากๆ
วันนี้แม่งน่าเบื่อเหี้ยๆ พูดอะไรไปก็ไม่มีใครฟัง เกมที่เล่นเสือกเฟลไปทั้งคู่ ควยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
โดนยั่วโมโหถึงสองรอบ พ่องดิสัส เชี้ยเอ้ย
มีคนบอกว่ากูไม่ค่อยพูดปัญหาของกูเลย ไม่เปิดใจ พอกูพยายามพูด สิ่งที่ได้มาคือความสงสาร เห็นใจ
คือไม่รู้ กูไม่อยากให้ใครมาสงสาร รู้สึกแย่กว่าเก็บไว้คนเดียวอีก
อันนี้อยากถามความเห็นพวกมึงตายแบบไหนสบายสุด กูคิดไว้ว่าถ้าภาระหมดแล้วจะฆ่าตัวตายว่ะ ไม่รู้เมื่อไร
ทำไมมันมีแต่คนอยากตายเร็วๆวะ กูนี่อยากจะหนุ่มไปนานๆ อยากจะอยู่สัก4-5ร้อยปี
กูอยากตายในวัยที่ยังมีเรี่ยวแรง ไม่ต้องอยู่เป็นภาระใคร แล้วก็มีเงินเหลือไว้ให้คนข้างหลัง อยากตายซัก 30-35 ประมาณนี้ แต่คงไม่ฆ่าตัวตายว่ะ ป๊อด บอกเลย ถ้าไม่ป๊อดคงไปนานแล้วตั้งแต่ช่วงเจอปัญหาหนักๆ ช่วงนั้นอยากตายทุกวัน อยากหลับแล้วไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย
เพื่อนโม่ง มีใครเคยโดนแบล็คลิสต์ ค่ายโทรศัพท์ไหม \ นอกเรื่อง กูไม่เห็นห้องแนวนี้
เมิงกุว่ากุอาจจะต้องไปโรงพยาบาลจิตเวชว่ะ มีโรงพยาบาลไหนแนะนำไหมโม่ง
กูรู้สึกหดหู่โดยไม่มีสาเหตุ อยากอยู่คนเดียว ยิ่งใครมาวุ่นวายกูยิ่งหดหู่เหมือนอยากจะร้องไห้ ใจหายแปลกๆด้วยว่ะ กูรำคาญสิ่งรอบตัวไปหมด
อยากให้มันเงียบๆ กูไม่อยากรู้จักใคร ไม่อยากคุยกับใคร ไม่ไว้ใจใคร กูคิดว่าตัวเองน่าจะกำลังเป็นโรคซึมเศร้าว่ะ กูอยากไปหาจิตรแพทย์ แต่จะไปยังไงวะ พ่อแม่กูจะคิดว่าไงล่ะ ถ้ากูบอกว่าแค่อยากไปปรึกษาหมอ เขาคงคิดว่ากูไร้สาระแต่ตอนนี้กูไม่โอเคจริงๆว่ะ ไม่ได้มีอะไรทำให้กูรู้สึกแย่เลยด้วยซ้ำทำไมมันหดหู่แบบนี้วะ
ไอ้เหี้ย พวกขี้แพ้เยอะจังเลยวะ
(ด่าพวกมึงไปงั้นๆแหละ กูก็ด้วย ฮืออ สิ้นหวังจุง)
>>288 หมายถึงที่นี้สินะ http://www.chulawellness.com/
กู >>280 นะ กูไปเอกชน ช่วงแรกก็ไปรัฐนี่แหละ แต่คือกูว่างแค่ตอนเย็นๆ หมอก็ชอบไม่อยู่ มีนัดก็นัดเช้าหลังๆเอกชนว่ะ
แต่กูไปซื้อยาที่รพรัฐนะ พยาไท2 ค่าปรึกษาประมาณพันต้นๆ ไม่รวมยา รวมนี่หีฉีกพอดี
พอไปหาแล้วหมอจะนัดนานๆทีวะ เดือนละครั้ง2000กว่าๆกูจ่ายไหวอยู่ ไม่ต้องหงุดหงิดเรื่องนัดเช้า
เรื่องตาย ไม่รู้ดิกูมองคนละด้านกับพวกมึงมั้งกูไม่อยากเห็นโลกแล้ว เหมือนหนังม้วนเดิมอ่ะมึง ตื่นเต้นแค่ตอนแรกดูไปสักร้อยครั้งก็เบื่อ
กูไม่เชื่อเรื่องหลังความตายด้วยไง ตายก็คือตาย จบ ไม่ทุกข์ไม่สุข ไม่เจ็บป่วย
มึงรู้ได้ไง ถ้าไม่มีไวไฟจริง กูก็ยังไม่เคยเห็นคนยกเลิกบริการ ฟื้นมามีชีวิตเลยนะ
ศูนย์เวลเนสมันเป็นไงวะ อยากเผือก
>>299 กูก็เคยอยากตายเพราะป่วย มันทรมานมาก มองไม่เห็นว่าวันไหนจะหาย ได้ไปแต่โรงพยาบาล โรงพยาบาล แล้วก็โรงพยาบาล เวลามีคนมาให้กำลังใจก็ไม่ได้รู้สึกดีเลย เพราะกำลังใจไม่ได้ช่วยให้กูหาย ไม่ได้ช่วยให้กูเจ็บน้อยลง ในหัวมีแต่คำว่า "มึงไม่เป็นอย่างกูมึงก็พูดได้สิ ลองมานอนเป็นผักอย่างกูมั๊ยล่ะ" แต่ที่ไม่ฆ่าตัวตายก็แค่เพราะว่าป๊อด ทำไม่ลง ได้แต่อยู่แบบซังกะตายไปวันๆ
มาถึงวันนี้ดีขึ้น ถามว่าดีใจมั๊ยที่ตอนนั้นไม่ตาย ก็เฉยๆ นะ คิดว่าถ้าตายไปซะตั้งแต่วันนั้นก็จบไปแล้ว แถมเหลือเงินไว้ให้พ่อแม่เยอะกว่าตอนนี้ด้วย แต่ในเมื่อมันไม่ตาย ก็มีชีวิตกันต่อไป.... เรียกว่าต้องเริ่มต้นใหม่แบบติดลบเลย เพราะอายุมากกว่าเด็กจบใหม่ไปหลายปี แต่ไม่มีประสบการณ์ทำงาน มีแค่ประสบการณ์ในการเข้าโรงพยาบาลอย่างโชกโชน....
>>301 อีกอย่างที่กังวลคือการสมัครงาน ถ้าบอกเค้าตรงๆ ว่าป่วยและมีโอกาส Recurrence ก็คงไม่มีใครรับ
แต่ถ้าไม่บอก แล้วพอไปทำงานจริงเกิดกลับมาทรุดต้องลางานไปโรงบาลบ่อยๆ ก็คงโดนไล่ออกอยู่ดี
แต่ตอนนี้คิดเอาไว้ว่าจะไม่บอก เพื่อให้ได้งานไว้ก่อน แต่ก็ต้องมาคิดอีกว่าถ้าไม่บอกว่าป่วยแล้วจะบอกว่าหลายปีที่ผ่านมาทำอะไรอยู่ดี...
พวกมึงเคยมีเพื่อนหรือคนรู้จักที่อายุเท่ากันแต่เขาไปได้ไกลกว่าเราปะ มองแล้วก็ได้แต่แม่งเอ้ย ทำไมวะ
เพราะกูช้าหรอ เพราะกูไม่รู้ว่าตัวเองถนัดอะไรหรอ เพราะต้นทุนไม่เท่ากันหรอ แม่ง อยากจะร้องไห้ เขาจะเข้าเส้นชัยกันหมดแล้ว
แต่กูยังไม่ทันได้สวมรองเท้าวิ่งเลย สิ้นหวังฉิบหาย
อืมม ถนัดคนละอย่างมากกว่าฟะ อย่างกูชอบทำงานช่างศิลป์ ไม่ชอบพวกออฟฟิค งานก็ระดับหนึ่ง
เบื่อว่ะ ท้อแท้ ทั้งที่รู้ว่าท้อไปก็ไม่ได้ห่าอะไรขึ้นมา แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง จะเปลี่ยนแปลงยังไงให้อะไรๆ มันไม่แย่ลง ล้มลุกคลุกคลานมาหลายครั้งก็มีแต่แย่ลงทุกครั้ง จนกลายเป็นคนไม่กล้าจะทำอะไร เพราะกลัวว่าถ้าเปลี่ยนแล้วจะไปเจอสิ่งที่เฮงซวยกว่าเหมือนที่ผ่านมา เลยได้แต่มีชีวิตแบบจมปลัก แล้วก็มานั่งท้อ เป็นพวกขี้แพ้ให้คนอื่นหัวเราะเยาะ แก่ตัวมาคงตายเป็นหมาอยู่ข้างถนน
>>306 ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าไหวตัวรึเปล่า มันเหมือนกับกูหยุดนิ่งแล้วมองคนรอบๆ ตัว แล้วมานั่งจมปลักว่าตัวเองทำไรอยู่วะ พยายามจะหาทางออกแล้ว แต่กลัวเจอทางตันฉิบหายเลย แต่ก็จริงอย่างที่มึงพูด ปัยจัย โชค โอกาส ต้นทุนแม่งไม่เคยเท่ากัน พูดความจริงแล้วเศร้า
>>307 แนะนำกูได้สมเป็นโม่ง 5555 แต่มึงทำให้กูขำได้ ขอบใจแจร้
>>308 ไม่แปลกหรอกมึง ใครๆ ก็กลัวการเปลี่ยนแปลงอะ เพราะไม่รู้ว่ามันจะดีขึ้นหรือแย่ลง เป็นธรรมดาที่มึงจะท้อ กูเข้าใจนะ ถึงมันไม่ได้อะไรขึ้นมาก็ตามแต่เราก็ยังมีความรู้สึกแบบนั้น เห้อ นี่กูจะเป็นหมาที่ตายข้างๆ มึงป่ะเนี่ย
ถึงโม่งบนๆ ที่กูขี้เกียจย้อน บางทีเวลากูจะนอนกูก็คิดนะ ไอ้เรื่องจักรวาลเกิดมาได้เพราะ big bang แต่กูก็คิดต่อว่ะ ถ้าสิ่วที่โอบล้อมโลกนี้เรียกว่าจักรวาล แล้วนอกขอบจักรวาลเขาเรียกว่าอะไร หรือจักรวาลไม่มีที่สิ้นสุด ถ้าอย่างงั้นก่อนที่จะเกิด big bang น่ะ สิ่งที่อยู่รอบๆ นั้นเรียกว่าอะไร
แค่นั้นยังไม่พอ กูยังนั่งคิดว่าตัวตนของกูในตอนนี้นี่มันโคตรมายาเลย (ไม่ใช่ทางธรรมนะ) คือกูรู้สึกอยุ่ตอนนี้น่ะ แสดงว่ากูยังมีชีวิตใช่ไหม ถ้าอย่างงั้นหลังกูตาย กูจะได้เจอกับนรกไหม กูจะโดนลงโทษตามบาปที่กูทำไว้ไหม แต่กูก็ยังคิดต่อไปว่ะ ขนาดกูนอนหลับแล้วตื่น ช่วงเวลาตอนกูหลับกูจำไม่ได้ (ไม่รวมฝันนะ) แสดงว่าถ้ากูตายก็เหมือนปิดไฟดับไปจนกว่าจะตื่นขึ้นมาอีกครั้งเหรอ แต่ถ้ากูตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ตัวตนกูก็ไม่เหมือนเดิมนะ ครอบครัวกู เพื่อนกู ความทรงจำทั้งหมดของกูในช่วงชีวิตก่อนตายก็หายไปเหรอ แล้วถ้าสิ่งที่เรียกว่านิพพานมีอยู่จริง นั่นคือการแยกตัวออกไปมองดูวัฎจักรของคนอื่นวนเวียนซ้ำไปมาเหรอ อย่งงั้นจะมีความรู้สึกเหลืออยู่ไหม หรือกูจะกลายเป็นเศษธุลีในจักรวาลนี้ ไม่รู้ว่ะ กูคิดแบบนี้ตั้งแต่ประถมแล้ว ตั้งแต่ยังไม่รู้จัก big bang ด้วยซ้ำ แต่กูก็ไม่ได้อยากตายนะ นี่กูโรคจิตรึเปล่าวะ แต่กูคิดเรื่องแบบนี้ทีไรกูก็ร้องไห้ทุกที นี่ขนาดพิมพ์กูยังน้ำตาไหล สะอึกสะอื้นเลยมึง
>>309 คืออย่างน้อยยังเป็นสัญญาณที่ดีว่ามึงไม่อยากจบแค่ตรงนี้ ต้องลองหาทางบิ้วอารมณ์ดูว่ะ ชีวิตจะก้าวหน้าแม่งก็มีเปลี่ยนงาน ลงทุน เลื่อนตำแหน่ง ช้ากว่าคนอื่นหน่อยแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไปถึงเส้นชัยไม่ทัน มีคนๆนึงเว้ยชีวิตแม่งไม่ค่อยพร้อม ม.ปลายที่บ้านไม่มีทุนจะให้ไปช่วยทำนา ก็หาทุนจนได้เรียนม.ปลาย อยากเรียนต่อวิศวะแต่ไม่มีเงินอีกนั่นแหละ เลยไปเรียนเซลล์วิทยาที่มีทุน จนจบออกมาทำงานร.พ.แต่งงานมีครอบครัว เห็นว่าถ้าเป็นงี้ชีวิตนี้แม่งติดแหง็กอยู่ในแล็บแน่ เลยไปเรียนรัฐศาสตร์แล้วย้ายไปทำงานธุรการ ตอนเรียนรัฐศาสตร์มีวิชากฎหมายเลยเรียนกฏหมาย แล้วย้ายไปทำงานศาล สุดท้ายสอบเป็นผู้พิพากษาได้ ชีวิตคนๆนี้แม่งเดินอ้อมมากกว่าจะถึงเส้นชัยอ่ะ มึงลองดูเว้ยถ้าเริ่มออกเดินไม่หยุด ซักวันแม่งก็ต้องอ่ะแหละ
http://youtu.be/wdYBRhq-4tQ
ให้มึงดูนะเพื่อนๆโม่ง
ถ้าจะฆ่าตัวตาย พวกคุณจะพาเหล่าคนที่คุณเกลียดไปด้วยไหมครับ
กุเครียดว่ะโม่ง กุโดนบ้านบังคับให้ทำในสิ่งที่กุไม่อยากทำ ใจกุไม่รัก หัวกุก็ไม่เอา แต่ต้องทำด้วยความรู้สึกรับผิดชอบปัญหาที่บ้าน
พอกุทำสิ่งที่กุไม่ชอบ กุก็เครียด ความรักในงานที่กุชอบก็ค่อยๆลดลง กุรู้สึกว่าตอนนี้จะหันมาทำงานในทางที่ชอบก็สายเกินไปแล้ว
ส่วนงานที่ทำอยู่ก้ไม่ได้ทำให้กูดีขึ้น กูหมดหวัง สิ้นหวังมาก
กุไมไ่ด้อยากเป็นคนที่ทำให้คนอื่นชอบหรือเอาใจคนอื่น กุแค่พยายามเลี่ยงการกระทบกระทั่งจนมันกลายเป็นนิสัยติดตัวกูอะ
กูไม่ได้ชอบนิสัยนี้ แต่กูก็เถียงคนอื่นเค้าไม่เป็น
รู้สึกว่ามองไปทางไหนก็มืดมนนัก
>>310 มึง มึงล้ำมากอ่ะ มึงไปเรียนปรัชญามั้ย //ไม่ได้ประชดนะ// กูเรียนมา2เทอม กูว่ามันต้องทำให้มึงเจอประกายอะไรซักอย่างอ่ะ คือมึงอาจจะไม่ได้คำตอบนะ แต่มึงจะแบบมีวิธีคิดของตัวเองอ่ะ เชื่อในสิ่งที่ตัวเองอยากจะเชื่อ
คำถามบางอันของมึง ถ้าไม่อคติกับศาสนา เบสบนศาสนาซักหน่อย มึงจะได้คำตอบนะ (อย่างการแตกดับของจิตน่ะ มันแตกดับอยู่ตลอดแหละ ยังมีถกกันอยู่เลยว่าแล้วเราตอนนี้คือคนเดียวกับเมื่อกี้รึเปล่า)
ส่วนตัวกูว่า วิทยาศาสตร์ก็คือปรัชญาแบบนึงด้วยซ้ำอ่ะ คือมันอยู่บน presupposition ว่าสสารมีจริง ไรงี้
ยาวชิบหาย เหมือนจะออกนอกประเด็นด้วย กูแค่จะบอกว่ามึงก็ปกตินะ ที่จะคิดอะไรๆเยอะแยะ //ข้ามกูไปเหอะ โทษนะเพื่อนโม่ง
กูก็คิดนะ ชีวิตมันสำคัญขนาดต้องมีนรก สวรรค์มารองรับพวกมึงเลยเหรอ ส่วนตัวกูคิดว่าตายก็คือจบมั้ง(ไม่แน่ใจเพราะยังไม่ตาย)
เรื่องที่อยากทำ หนังที่อยากดูมันคงไม่สำคัญแล้วว่ะถ้าตาย ที่มึงยังรู้สึกเสียดายเพราะมึงยังไม่ตายไง
จักรวาลกว้างมากนะมึง ถ้ามองกว้างๆแล้วเราคงมีค่าแค่ฝุ่นละอองในอวกาศก็ได้
>>320 ขี้แพ้เหมือนกูเลย กูอยากยืนหยัดในสิ่งที่กูชอบ ไม่ชอบได้บ้าง ไม่ต้องแคร์คนอื่นมากมาย แต่กูไม่กล้า
มึงลองคิดดูแล้วกัน ชีวิตมีหลายทางให้ถึงจุดหมาย ตอนนี้มึงแค่เปลี่ยนเป็นเส้นทางอ้อม
กูเดาว่ามึงยังเรียนอยู่นะ ถ้ามึงรักสิ่งที่มึงทำจริงๆ ระหว่างเรียนมึงแบ่งเวลาไปทำได้ไหม จบแล้วค่อยมาเรียนได้รึเปล่า
ตอนนี้มันหันกลับไม่ได้แล้วกูก็อยากให้มึงตั้งใจกับสิ่งที่มึงทำอยู่นะ คิดให้ฉลาด ทำให้ดี คนอื่นจะว่ายังไงช่างแม่ง ก็มึงไม่ได้ถนัดตั้งแต่ต้น
มันอาจจะเป็นแรงบันดาลใจ อาจเป็นการคิด ตอนมึงทำสิ่งที่มึงชอบก็ได้
ถ้ามึงทำงานแล้วก็เก็บๆเงินแล้วทำอะไรที่มึงชอบดีกว่านะ ชีวิตนึงไม่ยาวไม่สั้น อย่าเอาเวลามาเกรงใจคนอื่นเลย เอาไปใช้ทำสิ่งที่มึงอยากทำเถอะ
กูอยากตาย แต่ก็กลัวความเจ็บปวด ถ้าสักวันกูต้องฆ่าตัวตายจริงๆ กูพยายามไม่แคร์คนอื่นมากทำอะไรที่กูต้องทำ อยากทำให้เสร็จๆว่ะจะได้ไร้ห่วง
>>322 สนใจปรัชญาแนะนำไปลงเรียนที่ราม มีแบบPre degree ลองลงพวกวิชาพื้นฐานของปรัชญา ซื้อหนังสือของรามมาอ่าน ถึงเวลาก็ไปสอบที่ศูนย์ ทั้งหมดนี่หมดเงินไม่เกิน 3000 ไม่รวมค่าเดินทางไปสอบ ถ้าสอบผ่านแล้วชอบก็ต่อยาวๆไปเลย
แต่ไม่แนะนำให้ยืนคะแนนสอบเข้าเพื่อลงเรียนเป็นคณะหลัก มันใช่ทำมาหากินไม่ได้ สมัครงานยากพูดแบบง่ายๆ หาชอบจริงๆก็ค่อยๆอ่านค่อยๆสอบเก็บหน่วยกิตที่รามดีกว่า
จะรีบตายไปทำไมสร้างภาระให้คนข้างหลังเปล่าๆ มาเป็นนีทปิดกั้นสังคมแบบกูดีกว่า อยู่ไปวันๆทำงานเลี้ยงพ่อแม่แค่นี้ก็พอละ
ที่กูปิดกั้นสังคมไม่ใช่กูไม่อยากเข้าสังคมหรือเข้าสังคมไม่ได้ แต่กูคิดว่ายิ่งรู้จักคนมากเท่าไหร่ปัญหายิ่งมีมากเท่านั้น แล้วยิ่งมึงผูกพันธ์มีความทรงจำดีๆกับใครมากเท่าไหร่พอมึงต้องจากเขามันก็ยิ่งเจ็บเท่านั้นแหละ กูเลยคิดว่าไม่ต้องสร้างความทรงจำกับใครมากนัก สร้างเฉพาะกับคนที่สำคัญจริงๆก็พอ เช่น พ่อแม่ ลูกเมีย ที่ต่อให้วันนึงจากกันกูก็ยินดีที่จะเสียใจ
ยังไงชีวิตมันก็ไม่มีเหี้ยไรมากมายอยู่แล้ว พวกมึงมันก็เหมือนเครื่องจักรทุกคนแหละ ทำงาน หาเงิน เป็นฟั่นเฟืองตัวหนึ่ง พอทำไม่ไหวไม่ดีเริ่มเสียก็โดนเขี่ยออก เพราะงั้นก็อยู่ๆไปเถอะยังไงมึงก็ต้องเสื่อมไปอยู่ดี แค่สร้างปัญหาให้น้อยที่สุดก็พอละ
กูก็ปิดกั้นตัวเองอยู่นะ ไม่รู้ดิ รู้สึกว่าเป็นของชำรุด ใครจะอยากมาสร้างความทรงจำดีดีด้วย? คนอย่างกูถ้าพ่อกับแม่ตายหมดแล้วก็คงไม่มีห่วงอีก
กูขี้ลืมมากมาก ถ้าไม่คุยกับใครนานๆนี่ลืมชื่อ ความทรงจำหลายเรื่องหาย ปกติก็ป้ำๆเป๋อๆอยู่แล้ว ซึ่งกูก็ไม่รู้ว่าเพราะยาที่กินหรือเพราะตัวกูเอง กูโทษตัวเองก่อนดีกว่า ทำอะไรก็ไม่ดีให้สุดสักอย่าง ไร้พรสวรรค์ ความพยายามก็ไร้ค่า
กูอยู่คนเดียวโลกคงบอกว่าขอบคุณมากที่สุดแล้ว
เครียดอ่ะ ที่บ้านเป็นหนี้ไฟแนนซ์อยู่3แสนเกือบ4แสน
ตอนนี้กำลังเร่ขายรถอยู่ ขายยากสุดๆ ผ่อนไม่ไหวแล้วเดือนนึงแม่งตั้ง13k
ขอคำแนะนำเรื่องไฟแนนซ์หน่อยดิ
http://thenicestplaceontheinter.net/
ให้ทุกคนในมู้นี้มีกำลังใจสู้ต่อไปนะ
กูอยู่มหาลัยซึ่งปีนึงที่ผ่านมานี้กูอยู่แต่กลับเพื่อนกลุ่มนี้ตลอด แล้วพวกมันก็จะดรอปกันหมดกลุ่ม1ปี เพื่อซิ่วหมอ กูกลัวว่ะ กูกลัวว่าต้องตัวคนเดียวแล้วว่ะ เออกูเรียน6ปีด้วย ถ้า4ปีกูยังพอคิดว่ากูสู้ไหว แต่โดดเดี่ยว6ปีแม่งเหี้ยจริมๆ
>>337 กับนะกูพิมผิด คือ1ปีกูก็ไม่มั่นใจ มันอาจดรอปจนกว่าจะติดเลยก็ได้ คณะกูแม่งดอกไม้ข้างทางจริงๆรองรับคนอยากเป็นหมอพอเข้ามาได้ก็ลาออกเพราะติดหมอแล้วและดรอปกันหนึ่งในสามของคณะแล้วเนี่ย กูก็น้อยใจนะว่าทำไมกูไม่เรียนหมอไปเลยไม่ก็ทำไมพวกนั้นไม่เข้าที่นี่และตั้งใจสอบหมอจนกว่าจะติดตั้งแต่แรก กูจะได้ไม่ต้องทนจากเพื่อนที่อุส่าสนิทกลางทางแบบนี้
>>341 มันไม่แน่หรอก เพื่อนกับมึงไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดเวลา กุเคยเห็นพวกมีความฝันแต่ทำตัวซึนก็เยอะ ถ้ามึงเปิดใจแล้วก็หน้าด้านหน่อย มึงได้เพื่อนเยอะแน่นอน แต่คัดเพื่อนด้วยนะ ไอ้พวกปลิงเกาะงานกลุ่มนี่อย่าไปเอา พวกเด็กเนิร์ดก็คบได้ แค่คบคนที่มึงสบายใจแล้วก็เป็นตัวของตัวเองได้ นั่นแหละคือเพื่อนจริงๆ
เบื่ออออออออออออออออออออออออ ;(
ขอระบายมั่งได้ป่าววะ
ทำไมตัวกุมันถึงแย่จังวะ ทำเกรดดีๆให้พ่อแม่ก็ไม่ได้ เรียนก็ไม่เข้า พอวิชาไหนมิดเทอมเหี้ยๆหน่อยก็ไปกดปลายภาคเยอะๆเอา ยังไงแม่งก็ไม่เกินB ควิสก็ขาด พอวันนี้เจอวิชาแบบสอบทีเดียวไม่มีมิดเทอมกุนี่หมุนเลย พอไม่มีคะแนนเก็บเหี้ยๆมากระตุ้นแล้วกุก็แทบไม่ได้อ่านเข้าไปเลย กุว่าเกรดเทอมนี้แม่งร่วงรูด กุจะแก้ตัวยังไงดีวะ เกรดมันติดไปถึงตอนสมัครงานด้วย ทำกิจกรรมอะไรก็ไม่ชอบถ่ายรูป เกียรติบัตรเหี้ยไรก็โยนทิ้งไปหมดแล้ว เห้อ
กูก็รู้สึกว่าช่วงนี้กุเหี้ยว่ะแบบอยากจะร้องไห้ชิบหาย กูมีความสนใจหลายอย่างแต่หลักๆคืออยากเป็นศิลปินทำงานวาดภาพกูก็เริ่มจากทำงานบริษัทเล็กๆแต่ทำยังไงก็งานออกมาไม่ดีท้งๆที่พยายามแล้ว หัวหน้านี่เอือมกุมากเสียวว่าจะโดนไลออกอยู่เนี่ย สุขภาพตอนนี้ก็ไม่ดีเงินก็ไม่มีเงินเดือนก็น้อยไม่มีส่งกลับ้าน บ้านในกรุงเทพก็เช่าอยู่แพงชิบหาย ทั้งๆที่แทบไม่ได้กินแต่ก็อ้วนๆๆๆหน้าโทรมเป็นแผลที่หน้าอีกเห็นแล้วรับไม่ได้ อยากจะทำอะไรให้ใครก็ล้มเหลว แฟนก็ไม่มีผุ้ชายก็ไม่แล กูเบื่อมาก
รู้สึกว่าตัวเองไม่น่าเกิดมาเลย อยากตายจัง
>>348 มึงคือร่างแยกของกู ทำให้กูได้รู้ว่าไม่ได้มีแต่เราที่ตกอยู่ในสภาพแบบนี้ ซึ่งก็ไม่ได้ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นหรอกนะ แต่อย่างน้อยก็เหมือนมีเพื่ินร่วมชะตากรรม กูยิ่งวันยิ่งตกต่ำ ชีวิตมีแต่เลวลง ยิ่งพยายามยิ่งล้มเหลว ยิ่งตั้งใจทุ่มเทยิ่งผิดพลาด ชีวิตไม่มีเหี้ยไรดี ทั้งการงาน เงิน หน้าตา รูปร่าง สุขภาพ แต่ก็ต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป
เพื่อนๆกูเรียนจบมหาลัยกันหมดแล้ว แต่กูยังไม่จบเลยว่ะ ทั้งๆที่กูควรจะจบพร้อมเพื่อน แต่กูก็ทำตัวเหลวไหลจนติดวิชานู่นนี่ แต่กูจะมุ่งมั่นให้มากขึ้นละ กูเชื่อว่ากูจะต้องทำได้และมีงานทำเหมือนคนอื่นๆเขา ถ้าไม่งั้นกูก็คงดูแลใครไม่ได้ ไม่มีใครอยากจะฝากชีวิตไว้กับคนอย่างกูแน่ๆ เพื่อนโม่งพวกมึงให้กำลังใจกูหน่อย อุคริอุคริ
ช่วงนี้กุเครียดและจิตตกมาก กุว่าโรคซึมเศร้ากุกำเริบว่ะ
กุไม่อยากเข้าไปคุยตามศูนย์ปรึกษาปัญหาตอนนี้
พอจะมีที่ไหนแนะนำมั้ย กุต้องการคนคุยมาก
>>358 ไปโรงบาลที่มีแผนกจิตเวช แต่หมอไม่ค่อยมีเวลาคุยกับมึงหรอก คนไข้เยอะ คนที่จะมีเวลาคุยกับมึงนานหน่อยและรับฟังมึงส่วนมากจะเป็นนักจิตวิทยาน่ะ ก็ดีนะ กูไปมา เขาก็รับฟังดี อีกอย่างมันสบายใจตรงที่ไม่รู้จักฉันไม่รู้จักเธอ ถ้าเล่าให้คนรู้จักฟังมันไม่สบายใจ ไม่อยากให้คนใกล้ตัวทุกข์ไปกับเราด้วย ส่วนบางคนก็อาจจะเอาไปเมาท์ต่อ
กูเป็น loser ตัวหนึ่ง
กูนอนตีห้าทุกวัน ไม่สามารถนอนหัวค่ำได้เพราะกูติดเน็ตมาก
กูอับอายในมหาลัยที่กูติดทั้งๆที่กูไม่พยายามในการสอบเข้ามหาลัย
กูตั้งเป้าหมายอะไรแล้วทำไม่สำเร็จทุกที เพราะเอาความสุขตัวเองมาอ้าง
กูอยากหางานพาร์ทไทม์ทำแต่สุดท้ายก็หาข้ออ้างให้ตัวเองได้ว่าที่นั่นเต็มแล้ว ที่นั่นไกลมาก ที่นั่นเลิกดึก
กูเป็นเด็กที่โดนพ่อแม่สปอยมาแต่เด็ก และกูดีใจมากที่พ่อแม่ไม่เคร่งเหี้ยไรกับกูมากนัก
กูเลือกทำสิ่งที่สบายกว่าแต่ผลลัพท์ต่ำกว่าเหมือนถอยหลังลงคลอง ตัวอย่างคือกูเลือกที่จะไม่ใช่เงินมากกว่าหาเงิน
กูปลอบใจตัวเองโดยการเอาพี่ตัวเองมาเป็นมาตรฐานว่าชีวิตพี่กูแย่กว่ากูมากนัก
ทั้งๆที่ทุกครั้งที่พี่กูล้มพี่กูจะลุกขึ้นได้ทุกครั้ง ส่วนกูไม่ล้มเพราะไม่เดินหน้า
กูเป็นคนขี้กลัวไม่ยอมทำอะไรแต่จะชะโงกดูคนอื่นก่อนค่อยทำตามเขาทีหลังทำให้เป็นผู้ตามตลอด
กูจะปลอบใจตัวเองด้วยผลงานพวกผู้นำที่ทำผิดพลาด แล้วคิดว่าดีแล้วที่กูไม่เสนอหน้าไปหลักมากนัก
กูเป็นคนขี้มโนว่าอีกxxปีกูจะเก่งแบบนู่นแบบนี้ มั่นใจในการเรียนรู้ของตัวเองมากทั้งๆที่ตอนนี้กูคิดเลขช้าลง
กูคิดว่าตัวเองโง่ลงเพื่อเป็นข้ออ้างว่าอดีตกูเคยเก่งและยึดติดกับคำชมในอดีต
กูควรเปลี่ยนแปลงตัวเองสักที
นี่กูคิดแบบนี้มากี่รอบแล้ววะ
กูปลอบใจตัวเองว่าอย่างน้อยกูก็รู้ข้อเสียของตนเองดีกว่าพวกที่ไม่รู้ว่าตัวเองแย่
กูเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนที่แย่กว่ากูเลยไม่พัฒนาสักที
สิ่งแรกที่กูควรเปลี่ยนคือทัศนคติของตัวเอง แล้วกูก็คิดว่าแล้วจะเปลี่ยนทัศนคติตัวเองยังไงวะ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆนะเว้ย
กูนึกขึ้นได้ถึงพวกบทความชีวิตดี๊ดีคือกูต้องตื่นเช้า ดื่มน้ำ ออกกำลังกาย เมื่อสุขภาพดีขึ้นสุขภาพจิตจะดีขึ้น
หลังจากนั้นกูคิดว่ากูจะรีบนอนเพื่อตื่นมาวิ่งตอนเช้า แต่พอมองเวลาตอนนี้ตีสาม นอนไปยังไงก็ตื่นเที่ยงอยู่ดี
กูเลยคิดว่าจะโต้รุ่งแล้วนอนตอนสองทุ่ม แล้วสุดท้ายกูก็ทนไม่ไหวและหลับตอนหกโมงเช้า
กูตื่นมาตอนบ่ายแล้วรู้สึกว่าร่างกายหนักมากแล้วไปดื่มน้ำเย็นแล้วทำไรกิน หลังจากนั้นก็เล่นคอมแล้วลืมทุกอย่าง
แล้วมานึกเรื่องพวกนี้ได้ตอนตีสองอีกที
อย่างแรกกูควรนอนให้เป็นเวลา และดื่มน้ำวันละสี่ขวด
กูควรเปลี่ยนวิธีปรับเวลานอนจากการโต้รุ่งเป็น
หลับแม่งไปเลยตอนนี้ตื่นกี่โมงช่างมัน พอหนึ่งทุ่มให้ทำอะไรก็ได้ให้เหนื่อยที่สุดแล้วไปอาบน้ำเพื่อนอน
ตั้งนาฬิกาปลุกตอนเช้าด้วยเพลงที่ชอบเป็นกำลังใจในการตื่นตั้งปลุกแบบทุกห้านาทีและวางไว้ห่างตัวเพื่อที่จะปิดได้อย่างลำบาก
หลังจากตื่นมากูกินอาหารเช้าทานน้ำหนึ่งขวด หาอะไรฆ่าเวลาครึ่งชม.ให้อาหารพอย่อยแล้วออกไปวิ่งเท่าที่ทำได้
วิ่งเสร็จกลับมาพักสักแป๊ป แล้วอาบน้ำให้สดชื่นหลังจากนั้นก็อ่านหนังสือ
พอตกบ่ายช่วงที่ร้อนมากไม่มีกระจิตกระใจทำอะไรแน่ๆหาอะไรคลายเครียดไปเรื่อยๆจนสี่โมงที่เริ่มเย็นแล้วก็ออกกำลังกายอีกที
เหนื่อยแล้วก็พักสักครู่แล้วค่อยไปทานอาหารเย็นอาบน้ำและอ่านหนังสือจากนั้นก็เตรียมนอน
ทำตามนี้ได้เมื่อไรหลังจากนั้นค่อยคิดอีกที นอนละ
กูไม่ค่อยเข้าใจ แต่กูเอาใจช่วยมึงละกัน
เบื่อวะ อยากหายไปจากโลกนี้ชิบหาย เฮ้อออออออออออ
มึงร่างเรียงความหรอวะ
คล้ายกูเลยว่ะ อยากเปลี่ยนตัวเอง แต่ก็ผัดวันประกันพรุ่งและมีข้ออ้างให้ตัวเองตลอด เป็นคนขี้กลัว จะทำอะไรก็กลัวจนไม่กล้าทำอะไร ทุกวันนี้อยู่ไปวันๆ มาก แล้วก็มาเกลียดตัวเองที่ไม่ทะเยอทะยานเหมือนคนอื่น แต่บางทีก็คิดว่าอยู่แบบนี้ก็สบายดีอยู่แล้ว จะดิ้นรนไปทำไม ความคิดวนไปวนมาอยู่ที่เก่าสรุปผ่านมาหลายปีก็ยังไม่ได้เปลี่ยนตัวเอง ยกเว้นมีแต่แก่ลงทุกวัน
ชีวิตนี้ทำไรดี กูไม่มีจุดหมายเลยว่ะ ทำงานหาตังเลี้ยงพ่อแม่ พ่อแม่ตายกูจะทำไรต่อดีวะ พูดตรงๆเกิดมานี่มีแต่ปัญหา เมื่อไหร่โลกมันจะแตกๆหายไปซะทีวะ
ทำยังไงถึงตายโดยไม่เจ็บวะ
ขอใช้บริการมู้นี้หน่อยนะ
เมื่อนานมาแล้วกูเคยเล่าในมู้ญาติพี่น้องเรื่องที่จะถูกพี่ชายแท้ๆ ฆ่าตายคาบ้านเพียงเพราะเตือนแม่ว่าอย่าไว้ใจใครง่ายๆ ถึงจะเป็นแฟนพี่ก็เถอะ ญาติกูรีบพากูหนีออกมาแทบไม่ทัน รายละเอียดช่างมัน เอาเป็นว่ากูรอดมาได้ก็แล้วกัน
แต่หลังจากเหตุการณ์นั้น กูนอนร้องไห้แทบทุกคืน กูช็อก วันที่เกิดเรื่องกูยืนนิ่งเลย ใครจะไปคิดว่าพี่กูจะคิดฆ่ากูจริงๆ แล้วพ่อแม่กูก็ห้ามแต่ปาก เหมือนพูดห้ามไปงั้นเอง มันยิ่งทำให้กูสิ้นหวังกับบ้านกูจริงๆ
ตอนนี้กูมาอาศัยญาติกูเป็นการถาวร เพราะถ้ากูกลับไป กูคงเป็นศพแน่ๆ กูถามญาติกูว่า กูผิดอะไร ตลอดชีวิตกูทำทุกอย่างตามที่ที่บ้านต้องการแล้ว พอกูทำงาน กูก็ไม่กวนอะไรที่บ้านเลย แต่ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ญาติกูมันก็ตอบว่าพี่ชายกูเสียสติไปแล้ว ถูกที่บ้านตามใจจนเสียคน ใครพูดขัดหูไม่ได้ คือญาติกูเห็นสภาพบ้านกูมาบ้าง แต่วันเกิดเรื่อง มันเห็นคาตา เพราะมันก็โดนลูกหลงนิดหน่อยตอนพยายามกันพี่ชายกูไว้
ญาติกูก็พยายามปลอบใจกูเรื่อยๆ นะ แต่กูรู้สึกสิ้นหวังกับชีวิตจริงๆ คนในครอบครัวแท้ๆ ทำไมกูถึงวางใจไม่ได้วะ ทำไมกูต้องหนีหัวซุกหัวซุน กูร้องไห้เพราะเรื่องนี้แทบทุกคืน อยากตายให้พ้นๆ ไป แต่กูตายไม่สำเร็จสักที มันคงเป็นดวงกูมั้ง จนญาติกูขอไว้ว่า อย่างน้อยก็อยู่เป็นเพื่อนมันก่อน มันเลี้ยงกูได้ ให้กูมีสภาพจิตใจดีก่อนแล้วค่อยหางานก็ได้ แต่ขอแค่อย่าตายก็พอ
กูพยายามทำตามคำแนะนำของโม่งในหลายๆ มู้ที่กูได้อ่านนะ แต่กูทำไม่ได้ กูลืมเรื่องนี้ไม่ได้เลย T_T สภาพจิตใจกูก็ไม่ดีขึ้นเลย ไปไหนก็เห็นคนอื่นเค้ามีครอบครัว คนไม่มีกูก็เข้าใจเค้า แต่ของกู คือกูมีแต่กลายเป็นว่ากูต้องอยู่อย่างหวาดกลัวเพราะคนในครอบครัว ต้องฝืนยิ้มกับคนอื่น แต่ในใตกูพังหมดแล้ว
กูพิมพ์ไปก็ร้องไห้ไป กูสิ้นหวังจริงๆ โม่งเอ๊ย พวกมึงช่วยทำให้กูรู้สึกดีขึ้นทีเถอะ T_T
>>375 ไม่รู้จะให้คำแนะนำไรดี เพราะสภาพครอบครัวกูก็เน่าอยู่ ระยะสุดท้ายละด้วย แต่ก็ไม่เท่ามึงละนะถึงกับฆ่าแกงกันเลย ส่วนตัวกูคิดว่าทำไรไม่ได้นอกจากทำใจ กูรู้ว่ามันยากแต่ว่ามึงคิดซะว่าถ้ามีแล้วไม่ดีก็ไม่ต้องมีหรอกครอบครัวพี่น้องพ่อแม่ ไม่ต้องรู้สึกไม่เท่าเทียมคนอื่นหรอกนะมึง มึงยังต้องมีโอกาสเจอคนที่จะมาเติมเต็มส่วนที่มึงขาดไปได้แน่ๆ พูดดูง่ายเนอะแต่ทุกวันนี้กูก็ยังรู้สึกแบบเดียวกะมึงอยู่ ยังไงก็ขอให้มึงสู้ๆนะกูเป็นกลจให้คนับ
>>376 ขอบใจนะมึง กอดหน่อย ฮือๆ T_T
>>377 มันเป็นยาประเภท 3 ป่ะวะ ที่ว่าห้ามขายให้คนซื้อถ้าไม่มีใบสั่งยามาน่ะ
>>378 อยากไปนะ แต่ญาติกูไม่ให้ไป มันกลัววันนึงกูไปสมัครงานแล้วที่ทำงานเช็คเจอแล้วจะเสียประวัติ เพราะกูทำงานเกี่ยวกับราชการน่ะมึง แต่กูก็เข้าใจนะ ว่าเรื่องนี้กูต้องผ่านมันไปให้ได้ แต่ตอนนี้ยังทำไม่ได้สักทีนี่สิ
.
.
.
เมื่อคืนกูพิมพ์เสร็จแล้วนั่งร้องไห้หนักกว่าเดิมอีก ญาติกูตื่นมาเข้าห้องน้ำแล้วเจอพอดี กูเลยขอไปนอนด้วย กูไม่ไหวจริงๆ สิ้นหวังเหี้ยๆ
กูก็อายนะ โตเป็นควายแล้วยังมาเกาะแขนชาวบ้านร้องไห้จนหลับเนี่ย แต่กูรู้สึกดีขึ้นว่ะ ญาติกูกล่อมกูนอนเหมือนเด็กเลย ลูบๆ หัวกูแล้วบอกว่า พี่อยู่นี่ ไม่เป็นไรๆ นอนซะ ได้ยินประมาณนี้ ร้องไห้แล้วหูมันอื้อหน่อยๆ แต่มันทำให้กูรู้สึกว่า อย่างน้อยกูยังพอจะเชื่อใจญาติกูได้บ้าง มันคงไม่ลุกขึ้นมาฆ่ากูกลางดึกหรอกมั้ง กูตื่นอีกทีเที่ยงเลย ไม่ได้หลับยาวมาหลายอาทิตย์แล้ว เฮ้อ
แต่กูหลอนจริงๆ กูไม่กล้ามีแฟนเลย กูไม่รู้ว่าความรักจะทำให้มันอยากฆ่ากูทิ้งมั้ย เพราะขนาดคนในบ้านยังจะฆ่ากูได้ คนอื่นก็คงทำได้ง่ายแน่ๆ
กูคิดแบบนี้ตลอดเลย สลัดความคิดนี้ไม่ออกจริงๆ นี่กูเป็นโรคจิตไปหรือยังวะ
>>379 มึงอย่าอายเลย สิ่งที่มึงเจอเป็นเรื่องหนักหนาจริงๆ กูว่าเก็บไว้กับตัวคนเดียวมันจะทำให้มึงยิ่งแย่นะ การไปหาหมอพวกนี้ถ้าไม่มีหมายจากศาลเขาไม่เปิดเผยข้อมูลคนไข้กันหรอก กูเป็นมึงกูก็คงพังลงไปเหมือนกัน กูก็เคยนึกอิจฉาคนอื่นที่มีครอบครัวดีๆนะ แต่อิจฉาไปเราทำอะไรไม่ได้ ในจุดนี้มึงยังมีชีวิตอยู่ มึงต้องพยายามต่อไป ชีวิตข้างหน้าจะปล่อยให้สิ่งเหล่านี้มาหลอกหลอนมึงต่อไปอีก หรือมึงจะหาทางหยุดมัน มึงต้องเป็นคนเลือกเอง กูอยากบอกว่ามึงรักษาตัวนะ อย่าไปคิดเลยว่าโตแล้วยังต้องเป็นแบบนี้ คนทั่วไปไม่ได้โดนฆ่ากัน นี่ยิ่งเป็นพี่มึงอีก ไม่ผิดหรอกที่จะเศร้าหรือกลัวนะ กุเป็นกำลังใจให้มึงนะ
>>380 มึงคงไม่ต่างจากกูสินะ ฮือๆ มึงเองก็ต้องสู้นะโม่ง ; ; ว่าแต่มึงเล่าให้กูฟังบ้างได้มั้ยว่าเกิดอะไรขึ้นที่บ้านมึงอ่ะ
ญาติกูว่า มันต้องใช้เวลา แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็จะพากูไปหาหมอเองเลย คือมันคงอยากให้กูพยายามเองก่อนมั้ง
ตั้งแต่เกิดเรื่องก็ประมาณเดือนกว่าแล้วล่ะ คือกูไม่ได้ร้องไห้ทั้งวันทั้งคืนแบบตอนแรกๆ แล้ว แต่ยังเหลือร้องไห้ตอนกลางคืนนี่แหละ แล้วก็ยังไม่ลืมเหตุการณ์เหมือนเดิม
>>375 อ่านแล้วสงสารมึงว่ะ แต่ก็ไม่รู้จะช่วยอะไรได้มากไหม เพราะกูก็เป็นอย่างโม่งบางคนตรงที่ครอบครัวก็พังอยู่แล้ว แต่ยังไม่ถึงขั้นจะฆ่ากันตอนดึกแบบนี้ เอาตรง ๆ เวลาเห็นครอบครัวอื่นที่เขามีความสุข พร้อมหน้าพร้อมตากันกูก็อดอิจฉาไม่ได้นะ แต่พอมองกลับมาหาตัวเอง ครอบครัวเรามันเป็นแบบนั้นไม่ได้แล้วว่ะ ก็ได้แต่ทำใจ มึงบอกว่ามึงมีญาติอยู่ใช่ไหม มึงสามารถเริ่มใหม่กับคนที่เขาดีกับมึงได้นะ ถึงจะไม่ใช่ครอบครัวกันโดยตรง แต่ก็เกี่ยวโยงกันอยู่ อยู่กับเขาให้เขาเยียวยามึงซะ ไม่งั้นจะแย่แน่ ๆ แล้วปัญหาที่เกิดยิ่งเป็นกับพี่ชายแท้ ๆ ของตัวเองด้วยแล้ว อย่างที่ >>380 บอก มันไม่ผิดหรอกที่มึงจะเศร้า กลัว ผิดหวัง ตกใจ แต่ขอให้มึงเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นแรงผลักดันตัวเองล่ะ ลองไปปรับทุกข์ พูดคุยกับหมอ ไม่ก็มาบ่นในโม่งก็ได้ กูแม่งตามอ่านตลอดล่ะ สู้ ๆ มึง
>>382 ขอบใจนะมึง กอดที TT บางทีกูยังสงสารตัวเองเลยว่ะ
ไม่ใช่ฆ่ากันกลางดึกนะ กลางวันเลยนี่แหละ หน้าบ้านตอน 9 โมงครึ่ง กูเลยช็อกมากเลยไง ; ;
ตอนออกจากบ้านมาแล้ว ญาติกูพยายามนั่งคิดสาเหตุที่พี่กูคลั่ง มันว่าพี่กูคงขวางหูขวางตามั้ง
คือเวลากลับบ้าน กูกับญาติคนนี้สนิทกันมานาน ไปไหนไปกันตลอด หลังๆ พี่ชายกูมันง่อย ปกติก็ทำเหี้ยอะไรไม่ค่อยเป็น พ่อแม่กูเลี้ยงดีเกินไป เลยทำเหี้ยไรไม่เป็น เสือกมาปวดหลังอีก ยกโน่นนี่ไม่ค่อยได้อีก หลังๆ เวลากลับบ้านญาติกูจะทำงานแบบผู้ชายอ่ะ ยกของ เดินสายไฟ ติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ไรงี้ ส่วนกูก็ทำงานเบาๆ ไป แล้วพี่กูมันเริ่มเมินๆญาติกูตั้งแต่ตอนนั้นแหละ เหมือนพวกกูไปทำมันด้อยค่าลงมั้ง?? อิจฉาใช่มั้ยวะแบบนี้?? คือกูไม่เคยน้อยใจอะไรแบบนี้ จะมีแต่น้อยใจที่พ่อแม่รักพี่กูมากกว่า
วันนี้ก็นั่งคุยกับญาติกูว่าถ้ากูอยู่ตลอดเลยได้มั้ย มันก็ให้กูอยู่ได้เรื่อยๆ แหละ มันว่าเหมือนมีแม่บ้านส่วนตัว มีคนทำกับข้าวให้ (สัดดด 555) กูเองก็ไม่กล้าไปอยู่คนเดียวหรือหาผัว กูโครตกลัว สมัยนี้ไม่มีอะไรปลอดภัยเลยสักอย่าง กูกลัวจนเลยจุดที่จะหาใครสักคนเข้ามาในชีวิตแล้วล่ะ
แต่บ่นในนี้แล้วรู้สึกดีขึ้นจริงๆ ขอบคุณนะ รักพวกมึงงงง ; ;
>>382 เห้ย ร่างแยกกูไหมเนี่ย 55555 พ่อแม่กูก็สปอยพี่ชายกูเหมือนกัน และพี่ชายกูก็เป็นโรคปวดหลังด้วย และ ปิ๊งป่อง ! ทุกอย่างเลยตกมาที่น้องมัน ซึ่งก็ใครล่ะ กูไง 5555 แต่ปลงไปแล้วว่ะ เรื่องมันก็ผ่านมานานแล้วด้วย ทุกคนก็เริ่มโตขึ้น เริ่มมีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ถึงความสัมพันธ์ภายในครอบครัวมันจะไม่ดีเหมือนแต่ก่อน แต่ทุกคนก็รู้แล้วว่าตัวเองต้องทำอะไร มีหน้าที่แบบไหน
กูก็ยินดีกับมึงด้วยนะ ถ้ามึงมีญาติ มีไรให้คุยด้วยอะ อย่างน้อยมันก็ดีกว่าเก็บไว้คนเดียว กูก็เคยเป็นคนที่มาบ่นในห้องนี้แหละ ได้โม่งคนนึงปลอบไว้เหมือนกัน เลยโอเคที่กูพอจะช่วยอะไรมึงได้ อย่างน้อยก็รับฟัง จุ๊บ ๆ นะจ๊ะ
ปล.ชักอยากจะรู้จักมึงจริงๆ รู้สึกถูกชะตา
ไปอ่านเรื่องเบญจเพจแล้วกลัวว่ะ กลัวตัวเองเป็นหนึ่งในคนที่ซวยแบบนั้น
โม่งช่วยปลอบใจกูที
>>375 กูจำมึงได้ และกูคือโม่งที่เล่าเรื่องพ่อให้มึงฟังเอง กอดมึงนะ โอ๋ ๆ มึงยังไม่หายช็อคจากเรื่องตอนนั้นสินะ เรื่องการไปหาจิตแพทย์กูว่าไม่น่าจะเสียประวัตินะนอกจากว่าต้องทำงานที่เกี่ยวข้องกับการต้องรับผิดชอบชีวิตคน ส่วนเรื่องต้องเปิดเผยมั้ยนี่ไม่รู้ว่ะ
เรื่องหาแฟนกูว่าแล้วแต่ ถ้าไม่อยากมีก็ไม่ต้องมี แต่อาจจะแก้เครียดด้วยการออกไปเที่ยวกับเพื่อนบ้าง ลองหากิจกรรมอื่นทำเพื่อให้ลืมเรื่องนี้ไปบ้าง ตกลงตอนนี้มึงหางานใหม่ได้รึยัง ถ้ายังการอยู่บ้านเฉย ๆ มันอาจจะทำให้มึงยิ่งเครียดกว่าเดิมนะ ออกไปเจอคนบ้างเพราะการหมกตัวอยู่แต่ในห้องมันทำให้มึงมัวแต่คิดเรื่องที่กังวลวนไปวนมาเท่านั้น ไปโดนแดด ขยับตัวซะหน่อย ให้ร่างกายได้ปรับสภาพซะหน่อย กูคงพูดว่าอย่าคิดมากไม่ได้แต่เรื่องที่เกิดขึ้นเพิ่งผ่านไปได้ไม่นานและมันกระทบจิตใจมึงมาก เพราะฉะนั้นคงลืมไม่ได้ง่าย ๆ แน่นอนแต่อย่าจมอยู่กับอดีตมากเกินไปเลย
ว่าแต่ญาติมึงตัดกับบ้านลุงป้านั่นได้ยังวะ สู้ ๆ นะเว้ย อย่ายอมแพ้ กูก็เคยอยากตายแต่สุดท้ายก็ผ่านช่วงเวลาเหี้ย ๆ มาได้ ตอนนี้ก็พยายามสู้อยู่เหมือนกัน ยังมีชีวิตอยู่ก็ใช้มันซะให้คุ้ม ทำตัวเองให้ดีขึ้นจนครอบครัวที่ทำร้ายมึงต้องอิจฉาซะเลย
>>387 นิสัยดีใช่มั้ยล่ะ ตัวจริงมันโครตเจนเทิลแมนเลย เพื่อนกูมาทีมันก็เลี้ยงจะอิ่มทั้งวง กูกับเพื่ินยังเคยคุยกันเลยว่า ถ้าเจอสาวหลอกแดกสงสัยหมดตัว แต่มันคงไม่โง่ขนาดนั้นมั้ง
>>388 กรี๊ดดดด มีคนจำกูได้<3 กูก็จำมึงได้ คิดถึงมึงงงงง กอดที~~ ที่บ้านมึงเป็นไงมั่งงงง ดีขึ้นยัง
เรื่องแฟน กูทำใจมีไม่ลง แต่ถ้าจะมี กูรอมึงอยู่นะ จะเพศอะไรถึงมึงโอเคกูก็โอเค 5555 ว่าแต่มึงเพศอะไรวะเนี่ย ตัวผู้ตัวเมียหรือครึ่งๆ? แต่ที่แน่ๆ อยากเจอมึงตัวเป็นๆ มากเลย พ่อมึงโครตเก่ง มึงก็เก่ง เก่งกว่ากูอีก นับถือๆ ; ;/
ส่วนเรื่องงาน กูยังไม่กล้าสมัครงานว่ะ เพราะงานที่กูทำส่วนใหญ่เป็นงานราชการที่ต้องเจอคนเยอะ ถ้าสภาพจิตใจยังเป็นแบบนี้คงให้บริการปชชไม่ได้ o<-< กูไม่อยากเป็นข้าราชการเหี้ยๆ เช้าชามเย็นชาม หน้าหงิกใส่ปชช ไม่เอาาาาา
เรื่องอื่นๆ ก็พยายามทำตามคำแนะนำของมึงในตอนโน้นแหละ ญาติกูก็พาไปข้างนอกมั่ง กูชวนเพื่อนมาห้องมั่ง แต่เพื่อนกูไม่รู้เรื่องอะไรนะ
>>389 กอดมึง กูตัวเมีย กูชอบผชแต่กูสามารถเบี่ยงเบนได้ มั้ง 555 กูเคยอยู่หญิงล้วนและกูเคยใจเต้นกับเพื่อนผญ พอ ๆ เดี๋ยวผิดหัวมู้ กูว่ามึงเก่งกว่ากูมากว่ะ ครอบครัวกูไม่ได้มีปัญหาอะไร ตอนนี้พวกญาติก็ไม่ค่อยมายุ่งกับบ้านกูแล้วล่ะหรือถึงมาพ่อแม่กูก็ไม่ได้เล่าอะไรให้กูฟังมาก ส่วนใหญ่ที่กูเครียดเพราะความคาดหวังของพวกเค้ามากกว่า เค้าเลี้ยงกูมาดีกูก็อยากตอบแทนแต่กูไม่ได้เรื่อง เรียนก็งั้น ๆ ไม่มีความฝันอันยิ่งใหญ่อะไร งานที่อยากทำก็เลี้ยงครอบครัวไม่ได้เลยต้องเป็นพนักงานกินเงินเดือนไปวัน ๆ ยังไงลองเปลี่ยนแนวงานมั้ย ยังอยากเป็นราชการรึเปล่า? ถ้าไม่ก็ลองบริษัทเอกชนดู อาจจะได้เจอเพื่อนใหม่ ๆ สังคมใหม่ ๆ วิธีการทำงานใหม่ ๆ กูทำเอกชนแต่มีเพื่อนทำราชการ คงแล้วแต่ที่แล้วแต่องค์กรเพราะบางคนก็ดูมีความสุข บางคนก็บอกว่าเพื่อนร่วมงานเช้าชามเย็นชาม ยังไงก็ขอให้มึงได้งานดี ๆ ในอนาคตนะ สู้ ๆ เว้ย
>>391 น้วยมึงแป๊บบบ /me ซุกนม
จริงๆ กูก็เลสเก่านะมึง มาๆ มามะ เรามาคบกันเถอะ 5555 ผิดมู้ตามมึงเลย 5555
ดีแล้วแหละที่บ้านมึงโอเคขึ้น ส่วนบ้านกูนี่ คงรอให้พี่กูหายบ้าก่อนแหละ แต่พูดถึงเรื่องการเลี้ยงดู บ้านกูก็ดูเหมือนเลี้ยงแบบปล่อยนะ แต่กับกู กูเหมือนถูกกดดันเงียบๆ อยู่คนเดียวอ่ะ ปากบอกไม่บังคับ แต่บอกว่าพี่กูเหี้ยไปคนนึงแล้ว ถ้ากูเหี้ยอีกคนคงแย่ คืออะไร... มันเลยกลายเป็นว่ากูต้องเรียนดี กูต้องทำทุกอย่างให้ดี บลาๆ ตามที่เคยเล่าไปในตอนแรกโน้นอ่ะ
แล้วเออ สรุป ไอ้พี่เหี้ยมันบินไปเมกาจริงๆ ว่ะ มันไปหลังจากวันที่มันจะฆ่ากูอ่ะ แต่กูไม่กลับบ้านนะ เพราะแฟนพี่เทียวไปเทียวมาบ้านกู กูคุยกับญาติแล้วก็ลงความเห็นกันว่า ถึงพี่กูไม่อยู่ แต่แฟนพี่มันก็อยู่ แถมพ่อแม่กูก็ยังมองกูไม่ดีเหมืแนเดิม ถ้ารู้ถึงหูพี่กู มันอาจส่งเพื่อนมันมาฆ่ากูแทนก็ได้ เพราะฉะนั้น กูจะไม่ไปเหยียบบ้านอีกเพื่อความปลอดภัยของตัวกูเอง รู้สึกตัวเองเป็นลูกที่แย่นะ แต่กูหลอนจริงๆ
เรื่องงาน กูเฉยๆ นะ งานอะไรก็ได้ที่ใกล้บ้านและได้เงินเดือนไม่น้อยเกินไป จริงๆ ที่กูอยู่เค้ารับธุรการด้วยนะ ทำ8โมงเช้าเลิก2ทุ่ม กูอยากทำนะแต่ญาติกูไม่ให้ทำเพราะเงินเดือนมันน้อยไง 6พันเอง แถมหยุดวันอาทิตย์วันเดียวอีก ก็เสียดายนะแต่เงินเดือนน้อยอะไรจริง เลิกงานช้าอีก เฮ้ออออ แต่กูจะพยายามต่อไปนะมึง รักมึง<3
>>392 ก็เพราะเป็นโม่งนี่หว่า จะรู้ได้ไงว่าเป็นใคร อาจจะรู้จักหรือไม่รู้ก็ได้ จริงป่ะ อย่างมู้ห้องnetwatchก็เดาว่าส่วนใหญ่คงเป็นเลเยอร์กับคุ เผลอๆ ไอ้ที่ด่าๆ กัน ชีวิตจริงอาจเป็นเพื่อนกันก็ได้ who know?
>>393 กูมองมึงที่กำลังจะคบกับ 391 นะ ไม่เป็นไร๊ เพศไม่สำคัญ (ซื้อดิลโด้สองหัวให้) แต่ขอวกกลับมาที่พี่ชายมึงนิดนึงนะ แม่งเอาจริงดิ 5555 ตัวเองไม่อยู่แล้วแต่จะส่งแฟนส่งเพื่อนมาฆ่าเนี่ยนะ กูล่ะหลอยแทนจริง ๆ มึงไม่ต้องกลับแล้วโว้ย จะเป็นลูกที่ย่งที่แย่อะไรก็เอาชีวิตตัวเองไว้ก่อนซะ เรื่องงานก็ลองหา ๆ ดู ถ้ายังไม่เจออันที่คุ้มงานคุ้มเงินก็ลองทำพวกเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปก่อน เดี๋ยวก็มีทางออกเอง
ปล.แล้วนี่ไม่กลัวกูเป็นพี่ชายมึงหรอ กูอาจจะนั่งอยู่ร้านเน็ตที่ไหนสักที่แล้วเข้าโม่งมาอ่านที่น้องสาวพิมพ์
ปล.1 ด้านบนนั้นกูล้อเล่น
>>394 ไม่นิยมของปลอมย่ะ แค่นิ้วกับลิ้นก็พอแล้ว (อย่าชวนกูออกทะเลผิดมู้สิมึงงง)
เรื่องพี่กู กูแค่กลัวไง เพราะมันไม่ใช่เด็กเรียน ออกจะเหี้ยด้วยซ้ำ ไม่ดูดม้าแต่เหล้าก็แดก มีเพื่อนเป็นแก๊งอะไรสักอย่าง ไอ้เรื่องสักทั้งตัวกูยังพอเข้าใจ พยายามมองเป็นศิลปะตามร่างกาย แต่เรื่องอื่นกูไม่เข้าใจเท่าไหร่
มันอาจจะไม่ทำขนาดนั้น แต่กูกลัวมาก กูก็คิดในแง่ร้ายไว้ก่อน มึงเข้าใจกูใช่ไหม? ปสกที่เจอที่หน้าบ้านวันนั้นทำกูหลอน
ถ้ามึงนึกไม่ออก มึงลองนึกว่าเป็นกูแล้วกัน
ยืนเถียงกับพี่กูหน้าบ้าน แล้วมันพยายามถีบกู ญาติกูเอาตัวกันไว้ มันเลยถีบกูไม่ได้เต็มที่ แต่ก็โดนลูกถีบที่ก้นไป 2 ที ทีนี้กูเลือดขึ้นหน้า ปกติกูไม่พูดหยาบกับมันนะ กูเลยด่ามันกลับแล้วขึ้นกูมึง ด่าเรื่องมันทำตัวเป็นแมงดา หลอกฟันสาวแล้วเกาะเค้าแดก จี้ใจจำมันมั้ง มันเลยหยิบกรงดักหนู2กรง พยายามจะเอามาทุบกู ญาติกูก็พยายามกันไว้แต่เริ่มกันไม่อยู่ ตอนนี้ญาติกูเลยโดนลูกหลง โดนมุมแหลมๆของกรงหนูครูดที่แขนไปหน่อยนึง ไอ้พี่เหี้ยก็ด่ากูกลับเรื่องกูทิ้งพ่อแม่ กูเลยด่ากลับว่าเพราะมีแมงดามาเกาะพ่อแม่กูต่างหาก ไม่ถูกกันกูเลยไม่ยุ่งกับมึง มึงยังมาหาเรื่องกูอีกทำไม รอบนี้ไอ้พี่เหี้ยมันยกเก้าอี้พับที่เป็นไม้มาจะฟาดกู ฟาดจริงชนิดกะเอากูตาย แล้วญาติกูกันให้ไม่ไหว ญาติกูเลยฉุดข้อมือกูพาขึ้นรถแล้วขับพาหนีออกมาเลย
มึงนึกภาพออกยัง
>>394 เยป ภาพในหัวกูลอยมาแล้ว ถ้ากูเป็นญาติมึงกูพามึงไปตั้งแต่หยิบกรงดักหนูแล้วเนี่ย 5555 ไม่ปกตินะ กับการที่คนในครอบครัวจะทำร้ายกัน ไม่ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหนก็เถอะ กูดีใจด้วยนะที่มึงออกมาจากตรงนั้นได้แล้ว อยู่กับญาติ ให้เขาดูแลอะดีแล้ว แต่ภาพที่มึงบรรยายพี่มึงนี่ ทำให้กูนึกถึงเน วัดดาวสมัยก่อนเลยว่ะ
>>396 พี่เหี้ยกูก็ขี้ก้างแบบเนจริงๆแหละมึง (ขออภัยที่พาดพิง)
ส่วนญาติกู มันบอกตอนขึ้นรถแล้วว่า ถ้าไม่เกรงใจพ่อแม่กู คงต่อยพี่กูคว่ำไปแล้ว เพราะญาติกูพวกเจินเทิลแมนด้วย มันเกลียดผู้ชายที่ทำร้ายผู้หญิงที่สุด แล้วนี่ เคสนี้ กูคือน้องในไส้ มันก็ไม่คิดว่าพี่ชายกูจะเหี้ยได้ขนาดนี้เหมือนกัน
วันนั้นกูร้องไห้ตลอดทาง ร้องจนต้องขอแวะอ้วกข้างทาง อ้วกเสร็จร้องไห้ต่อ ส่วนญาติกู นั่งด่าพี่กูกับปลอบกูไปตลอดทาง วันนั้นกูเสียใจ 2 เรื่องคือช็อกที่พี่แท้ๆจะฆ่ากูกับเสียใจที่ทำให้ญาติกูโดนลูกหลงไปด้วย
แต่ขอยืนยันว่าเรื่องจริงแน่นอน กูไม่รู้จะโกหกไปทำไม เรื่องในบ้านเหี้ยๆแบบนี้ เล่าให้ใครฟังได้ที่ไหน กูเล่าละเอียดยิบๆได้แค่ในนี้แหละ ชีวิตจริงรู้ไม่กี่คน แถมกูบอกไม่ละเอียดด้วย กูบอกแค่ทะเลาะกับที่บ้าน จบ
พูดถึงคนที่รู้เรื่องนี้ ช่วงที่มีเรื่องเป็นอะไรที่เหี้ยมากสำหรับกู เพราะนอกจากญาติกูได้แผลเพราะช่วยกูแล้ว ญาติกูยังต้องฝากกูไว้กับเพื่อนสนิทของมันที่ไว้ใจได้ 2 คน ให้มาอยู่เป็นเพื่อนช่วงกลางวันด้วย จริงๆกูไม่อยากกวนใครนะ แต่กูรู้สภาพตัวเองไง ญาติกูก็ต้องไปจัดการธุระที่บ้านอีก มันก็ห่วงกูแต่มันหิ้วกูไปด้วยไม่ได้ กูเลยเหมือนเด็กมาก เช้าญาติโทรคุย สายถึงมืด เพื่อนสนิทญาติพาไปเดินห้าง เที่ยวเล่น ดึกญาติโทรถามความเป็นไป เป็นแบบนี้อยู่ 3 วัน
ชีวิตบัดซบชะมัด แต่ก็โอเค ผ่านมาได้ ต่อจากนี้ก็ต้องรักษาแผลที่ใจให้ดีขึ้นมากพอจะไปเจอผู้คนล่ะนะ
>>393 นมกูเล็ก ไม่ค่อยมีให้ซบเท่าไหร่นะ 555
งานธุรการอันนั้นเงินน้อยไปว่ะ หกพันนี่น้อยกว่าค่าแรงขั้นต่ำอีกนะมึงแถมชม.การทำงานยาวเกินไป ไม่คุ้มหรอกนอกจากว่าไม่มีไรจะทำและไม่มีเงินจะกินแล้วจริงจังตอนนั้นค่อยอย่าเลือกงาน พี่มึงไปเป็นโรบินฮู้ดแล้วสินะ แต่แฟนเค้าก็ยังไปมาบ้านพ่อแม่มึงเนี่ยนะ? กูไม่เคยมีแฟนเลยไม่รู้ว่าเวลาแบบนี้แฟนจะยังสามารถไปมาหาสู่ครอบครัวอีกฝ่ายได้เหรอวะ? แต่เอาเถอะ กูคงก้าวก่ายไรมากไม่ได้
เรื่องพ่อแม่ถ้าเค้าไม่ได้ลำบากมีปัญหาอะไรก็ ปล่อยเค้าไปเถอะ อย่างที่เคยบอก ถ้ากังวลจริงจังเลยก็อาจจะโทรไปบ้าง ส่งเงินให้เค้าบ้างแต่ไม่ต้องกลับไปก็ได้ ยังไงสุดท้ายก็ชีวิตเรา ถ้าเค้าไม่คิดจะปกป้องมึงและถ้ามึงกลับไปแล้วเสี่ยงมีอันตรายถึงชีวิตก็อย่าเอาตัวเองไปเสี่ยงเลย
อวยญาติขนาดนี้ เลี้ยวเข้า route incest
>>397 มึงโชคดีนะ ที่มีคนเป็นห่วงมึงขนาดนั้น ถึงจะมีความคิดแวบนึงว่า ทำไมกูเหมือนเด็กเลยวะ ที่ต้องให้คนมาดูแล แต่เชื่อเถอะ ถ้าตอนนั้นมึงไม่มีคนพวกนั้นมึงอาจจะเขวกว่านี้ก็ได้
ส่วนเรื่องโกหกไม่โกหก กูไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นเลยว่ะ เอาตรง ๆ นะ เพราะปัญหามันสุดตีนแล้วอะ ถึงได้มาพิมพ์พูดคุยในโม่งกัน เพราะไปคุยที่อื่นไม่ได้ ในโม่งมันก็มีแต่พวกเรานี่แหละ เวลามีคนมาบอกว่าอยากฆ่าตัวตายในนี้กูรู้สึกสงสารมากกว่าสมเพชอีกนะ คงเพราะกูเชื่ออย่างแท้จริงล่ะมั้ง เลยชอบมาพูดคุยในห้องนี้บ่อย ๆ เป็นเรื่องปกติที่ทุกคนแม่งจะแพ้ นู๊ป มีปัญหา ชีวิตบัดซบ
ก็นะ รักษาแผลใจนะมึง ดึกแล้วก็อย่าฟุ้งซ่านให้มันมากนักล่ะ
>>398 นมเล็กไม่ว่า แต่อย่ามีควยโว้ย 5555 แหม มึงนี่ รับมุขตลอดเลยสัสสส 5555555
งานนี้ก็เงินน้อยจริงๆ เสือกใช้งานหนักอีก แต่ดีตรงใกล้มาก แต่ไม่ไหว 6พันนี่ซื้อข้าวปลากินแต่ละเดือนก็หมดแล้ว
เรื่องแฟนพี่ ก็ชนวนเหตุที่กูเตือนแม่จนพี่กูมันคลั่งเพราะเรื่องนี้แหละ แต่งกันรึก็เปล่า จดทะเบียนรึก็ยัง ให้รถที่บ้านไปใช้ ฝากฝังให้มาดูพ่อแม่ โธ่ไอ้พี่สมองน้อย มึงไปเมกานานๆ คิดว่าแฟนมึงจะรอมึงมั้ย ไว้ใจได้ขนาดไหนก็ไม่รู้ มีปัญหาแล้วจะทำยังไง?
แล้วพี่เหี้ยๆคนนี้มันไม่เคยคบใครได้นานเลย มากสุด2ปีที่กูเห็น แถมเคยทำสาวท้องจนเค้าโทรมาฟ้องกูเนี่ย กูต้องรับเป็นหลานเองแบบไม่เกี่ยวกับพ่อแม่กู เพราะไอ้พี่เหี้ยกูเสือกไปบอกพ่อแม่กูว่าอินี่มีคนอื่น มีเหี้ยอะไร กักเค้าให้อยู่แต่ในบ้าน คุยกับชายอื่นก็ซ้อมเค้าซะหน้าเละ นี่กูยังแปลกใจเลยว่าแฟนเก่าพี่กูมันทนได้ไง เห็นว่ารักพี่กูมากมั้ง (โธ่..) คือคนนี้กูเคยเจอเคยคุย กูเลยรู้นิสัย พูดแล้วก็เสียดายว่ะ แฟนเก่าพี่กูคนนั้นรักพี่กูยังกะอะไร พอท้องพี่กูเสือกทิ้งเค้าอีก จัญไรเหี้ยๆ
ตอนนั้นกูทำงานมีเงินพอสทควร กูเลยบอกให้เค้ามาหา แต่ตอนนั้นแฟนเก่าพี่กูจิตตกจนต้องไปหาจิตแพทย์ แล้วแกไม่ยอมบอกหมอว่าท้องอ่อนๆ สุดท้ายก็แท้งไป พูดแล้วกูก็รู้สึกแย่เหี้ยๆ
เรื่องพ่อแม่ มากสุดคงโอนเงินไปให้ว่ะ คงไม่ไป กูกลัว
>>399 >>401 >>402 สัสสสส อย่าคิดสิวะะะ เอาเข้าจริงญาติกูมันก็ไม่ได้ดีเด่อะไรมาก เพียงแต่มันดีกว่าผู้ชายอื่นที่กูเคยรู้จักล่ะนะ ไม่แดกเหล้าแดกเบียร์ ไม่หน้าม่อ ไม่เล่นการพนัน แต่มันเป็นคุแบบไม่รู้ตัว ไอ้นี่มันคุเกม เกมธรรมดาไม่ใช่เกมเย็ดสาวนะ ทำงานเสร็จกลับมากดจอยยิกๆๆๆ 55555
>>400 จริงวะมึง ช่วงนั้นกูพยายามฆ่าตัวตายบ่อยมาก คือกูรู้สึกว่า ถ้าพ่อแม่กูรักพี่กูมากขนาดนี้ แล้วให้กูเกิดมาทำไม กูขอคืนร่างกายนี้ให้เลยดีกว่า ไรงี้
กูเคยถึงขนาดว่ากูจะไปขายตัวประชดชีวิตซะเลย แต่กูทำไม่ลง นมก็เล็ก หน้าตาก็งั้นๆ ขายไปคงไม่มีใครเอา 55555
จะพยายามต่อไป ขอบใจมึงมากนะ
เชื่อว่าเพื่อนโม่งหลายคนในนี้เคยไปพบจิตแพทย์มาแล้ว แต่กูยังเลย อยากรู้ว่ามันมีขั้นตอนอะไรบ้าง ตอนนี้กูล่ะ สิ้นหวังจริงๆ
วันนี้กูได้รับผลตอบกลับจากโครงการที่กูเสนอแล้วเว้ย กูเป็นแค่นักวิทย์ต๊อกต๋อยทำโปรเจคอันนึงทั้งวันทั้งคืนมา 4 ปีอดหลับอดนอนไม่ได้ออกไปไหนนอกจากแลปกับบ้านเป็นนีทไปวันๆ โปรเจคทฤษฏีพลังงานใหม่กูถูกปฏิเสธว่าทำไมไม่ได้โว้ยกูเลยโดนเด้งออกจากทีมแล้ว แต่ไม่ใช่ว่ามันผิดพลาดหรอกมันเกี่ยวกับคน พาร์ทเนอร์กูเป็นคนร่างแบบแผนให้กลับถูกเรียกตัวว่ะ คนที่ใช่ได้ทุกอย่างไปหมดแต่คนที่ทำไม่ได้เหี้ยอะไรเลย เป็นจดหมายตอกหน้าที่ดีจังเหมือนโดนส้นตีนถีบหน้าว่ามึงกลับประเทศมึงไปเถอะมีความสามารถแค่นี้ก็ไปอยู่กับทีมปลูกเห็ดซะ เสียเวลาไป 4 ปีเหมือนกับเล่นขี้ไปวันๆไม่ได้เหี้ยอะไรสักนิด กูว่ากูพอเข้าใจพวกชอบหมกตัวอยู่คนเดียวแล้วล่ะ พอไม่มีหวังจะทำอะไรต่อก็จะไม่ต้องอะไรแล้ว ก็ดีเหมือนกันกูจะได้เป็นนีทหมกตัวดูเมะเล่นเกมทั้งวันซะที พอละงานเหี้ยๆ มีดีแค่เงินเท่านั้นล่ะฝันเหี้ยไรไร้สาระสัส
กูสิ้นหวังกับผู้หญิงไทยว่ะ แต่ละคน แต่ละเรื่องที่เจอทำกูสะเทือนใจมากเลยว่ะ ผู้ชายที่กูรู้จักที่ว่าเลวๆ ยังทำไม่ได้ครึ่งนึงของที่ผู้หยิงทำเลยว่ะ เหี้ยเอ้ย
>>407 งั้นกูก็ปัญญาอ่อน เพราะกูก็เจอแต่ผู้ชายเหี้ย ทั้งเจอเองกับตัว คนใกล้ตัวเจอ จากในข่าวทีวี จนกูไม่เคยไว้ใจผู้ชายคนไหน คิดไว้ก่อนว่าผู้ชาย=เหี้ยเสมอ ต้องระวังระแวงเว้นระยะห่างเสมอ แต่กูว่ากูปัญญาอ่อนยังดีกว่าพวกผู้หญิงหน้าโง่โลกสวยมองโลกในแง่ดีจนโดนผู้ชายเหี้ยๆ หลอก เพราะกูไม่เคยไว้ใจผู้ชาย กูจึงไม่เคยโดนหลอก ไม่ต้องมานั่งฟูมฟายเสียใจทีหลัง ชีวิตกูก็มีความสุขดี
แล้วพ่อมึงล่ะ เหี้ยเหรอ งง
>>411 กูว่าขึ้นอยู่กับมึงล้วนๆ อะ ก็นะ มึงอาจจะเจออะไรมา จนมองว่าผู้ชายเหี้ยเสมอไป แต่ถ้าเงยหน้าขึ้นมามองจริงๆ คือมันไม่ช่ายยยย มึงมีสิทธิคิดได้เว้ย ว่าเขาจะเป็นแบบนั้น แต่ว่าถ้าไม่มีอะไรจริงๆ ก็อย่าพึ่งไปตัดสินเลย
>>414 ถามได้ไหมวะว่าเป็นยาแบบไหนบ้าง ไม่ต้องเอาชื่อวิชาการก็ได้ อยากรู้ว่ามันช่วยอะไรเราได้บ้างน่ะ
โอ๊ยเครียดสัส
อยากตายว่ะ
>>419 ยาต้านอาการซึมเศร้าไม่เหมือนยาประเภทอื่นที่กินแล้วจะเห็นผลทันที แต่มันไปปรับสารเคมีในสมอง ซึ่งต้องใช้เวลานานกว่ายาทั่วไป
พอเริ่มได้ผลก็ค่อยๆลดยาลง และอย่าไปคาดหวังมากว่ากินยาแล้วจะหายเศร้า ให้ทำอย่างอื่นเช่นออกกำลังกาย หากิจกรรมอื่นทำ ออกไปเจอคน ควบคู่กับการใช้ยาไปด้วย
>>423 ของกูตอนกินใหม่ๆ แม่งหลับสบายชิบหาย หลังๆไม่ได้ผล พอปรับยาแรงขึ้นเหมือนกูจะแพ้ยาบางตัว กินแล้วเบื่ออาหารกินอะไรไม่ลง ตัวทีฤทธิ์เบากว่าก็กินแล้วเหมือนขี้เกียจ วันๆเอาแต่อยากนอนอยู่บนเตียง(ช่วงนั้นเป็นนิสิตอยู่ด้วย พักหอในอยู่มหาลัยเหมือนอยู่บ้าน ไม่ต้องทำงานวันๆเรียนเสร็จกลับมานอน) กูเลยรู้สึกว่าถ้าไม่จำเป็นจริงๆไม่อยากใช้ยาว่ะ เน้นออกกำลังกาย ปรับทัศนคติตัวเอง ออกไปเจอคน หากิจกรรมทำ ระบายความเครียดให้คนรอบข้างฟัง อาการกูก็ไม่ได้จัดว่ารุนแรงอะไรมากมายด้วยล่ะ เลยใช้วิธีอื่นแทนยาได้
เห็นชีวิตพวกมึงเเล้วของกูดูง่อยๆไปเลย เเต่ขอระบายหน่อยเหอะ อย่าด่ากูนะ เรื่องมีอยู่ว่ากูสอบติดมหาลัยที่นึง เเต่มันเป็นอันดับสองที่กูอยากได้ คือกูโง่เองที่สอบไม่ได้อันดับหนึ่ง จริงๆกูก็ไม่เสียใจนะ เเต่กูเซ็งอ่ะ เวลากูเห็นเพื่อนหรือคนอื่นๆที่สอบติดมหาลัยที่กูอยากได้อันดับหนึ่งทีไรกูก็จะคิดมากตลอด เเบบทำไมกูไม่ได้บ้าง กูไม่มีความคิดที่จะซิ่วนะ เเต่เเม่งก็เซ็งอ่ะ กูคิดว่ากูเหมาะกับสังคมที่นั่นมากกว่าอ่ะ กูคิดเรื่องนี่ตลอดเลยอ่ะมึง เเต่ไม่อยากซิ่วว้อย (ซิ่วเเล้วก็ไม่รู้จะเข้าได้รึเปล่า) อ่ะๆ พูดถึงข้อสอบบ้าง กูว่าอีเหี้ย 7 วิชาสามัญเเม่งยากชิบหาย กูทำเเล้วกูรู้สึกเคว้ง เเบบเเม่งที่กูอ่านมาไม่เห็นมีออก อีดอก เเล้วก็ข้อสอบ pat ภาษาก็ไม่ได้มาตราฐาน ภาษาที่กูสอบเเม่งยากกว่าระดับเด็ก ม ปลายอีกอีเหี้ย อีกภาษามีคนบอกว่าง่าย ซึ่งกูไม่ประหลาดใจเพราะคนสอบได้คะเเนนกันเยอะ เเม่งใช้มาตราฐานอะไรในการออกข้อสอบวะ กูนะอยากจะให้อีเหี้ยควายๆ สทศ ทั้งหลายไปตายให้หมด ดอก
>>424 กูเคยมีปัญหาเรื่องนอนหลับ จริงๆเรื่องก็เริ่มมาจากนอนหลับนั่นแหละ กินยาแก้แพ้ไป แบบเก่ามีผลข้างเคียงให้ง่วงนอน
กินจากหนึ่งเม็ดจนปาไปห้าเม็ดก็นอนไม่หลับ(ดื้อยา) จะให้แดกยาแก้แพ้วันล่ะห้าหกเม็ด แดกมาสามปี กูเริ่มรู้สึกชีวิตแม่งไม่ง่ายล่ะ ตับพังพอดี เลยไปพบจิตแพทย์ครั้งแรก
ครั้งแรกได้ยานอนหลับกับต้านเศร้ามา แดกยานอนหลับก็ไม่หลับเพราะดื้อยา ไปเจอหมออีกรอบได้ยาอีกตัวแต่กินแล้วเมาเลยมึง ต้องคลานไปแดกน้ำอ่ะคิดดู ถ้าไม่หมดฤทธิ์ยา
ทีนี้แลปที่กุทำโปรเจกอยู่ไม่เคยจะเข้าใจอาการว่ากูตื่นเช้าไม่ได้(เมา) แล้วกูจะมคนๆซึมๆ ช่วงนั้นชีวิตบัดซบมาก
>>425 กูว่ามึงลองอยู่สักปีก่อน ถามใจตัวเองมหาลัยสังคมมันไม่ใช่หรือมึงเรื่องเยอะเอง อ่านหนังสือไว้ ถ้าปีนึงแล้วมึงยังคิดว่าไม่ใช่ก็ออกมา สำหรับกูมหาลียดังมีส่วนช่วยหางานตอนแรกๆจริงๆว่ะ เพราะสภาพแวดล้อมที่มีคนแข่งขันกันด้วยอะไรด้วยมั้ง
อีกอย่างมึงด่าข้อสอบได้นะ แต่มึงต้องคิดว่ามีคนได้คะแนนดีกว่ามึงเพราะเขาทุ่มเทมากกว่ามึงรึเปล่า
>>423 >>421 ขอบใจพวกมึงมากนะ พอได้มาคุยกับคนที่ได้รับยาหรือมีประสบการณ์ตรงแล้วรู้สึกดีขึ้นเยอะ คือกูไม่ได้ถึงขั้นอยากตายอะไรหรอก ยังพูดคุยกับเพื่อนได้เป็นปกติ แต่รู้สึกไม่วางใจใครเลยแม้แต่คนในครอบครัวก็ตาม ปัญหาก็มีเข้ามาตลอด บางทีก็คิดว่าทำไมถึงเป็นกูอีกแล้ว แต่ก็พยายามปล่อยไป ถือซะว่าเป็นแบบทดสอบของพระเจ้า แต่ว่า บางทีมันก็เหมือนไม่มีสติอยู่กับตัวว่ะ กูออกกำลังกาย ไปด้านนอก ก็ไม่รู้สึกผ่อนคลาย ไม่รู้สึกสนุกเลย บางทีก็ไม่นอนสองสามวันติดกัน บางครั้งก็หลับจนไม่ทำอะไร ถ้าเป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ กูว่าต้องแย่แน่ ๆ เลยอยากลองไปคุยดู
>>426 กู>>425 นะ ขอบคุณมาก มหาลัยที่กูได้มันก็มีชื่อเเหละ เเต่มันก็รองมาจากมหาลัยอันดับหนึ่งของกู ส่วนกูข้อสอบที่กูโง่ก็ส่วนนึง เเต่กูไปเปิดช่วงคะเเนนเเล้ว ส่วนใหญ่กูว่าเป็นที่ข้อสอบว่ะ
ภาษาที่กูสอบ ช่วงคะเเนน 270-300 คนสอบได้ 5 คน
ภาษาที่เค้าบอกกันว่าข้อสอบง่าย ช่วงคะเเนน 270-300 คนสอบได้ 43 คน
กูเกลียด สทศ จริงๆ เเต่ก็เเต๊งกิ้วมึงมาก
สมัยเรียน ตอนเดินกลับหอแล้วผ่านอาคารเรียน มีเพื่อนกูคนหนึ่งพูดมาว่าอาชีพยามนี่น่าสงสารนะ วันๆไม่มีคนให้คุยด้วยต้องอยู่คนเดียวทั้งคืน(มันหมายถึงยามที่ต้องเฝ้าอาคารเรียนที่ไม่มีคนอยู่ตอนดึกๆ) กูก็อดทึ่งไม่ได้เหมือนกันว่า ชนชั้นแรงงานค่าแรงไม่ได้เยอะเหมือนชนชั้นกลางมนุษย์เงินเดือนใน กทม นี่เค้าอยู่กันได้ยังไง เงินเดืนอน้อยคุณภาพชีวิตไม่ดีก็เรื่องหนึ่ง แต่ประเด็นคือการที่ต้องมาอยู่คนเดียวไม่มีใครให้คุยด้วยนี่กูว่ามีนทรมานมากๆ
ซึ่งตอนนี้กูก็เริ่มใกล้จะเป็นแบบนั้นแหละ กะว่าจะลาออกจากงานเดิมช่วงปลายปี ถ้าหางานใหม่ไม่ได้ก็คงเป็นNEETต่อไป สองปีก่อนกูเป็น NEET ที่ต่างจังหวัดได้ไม่ถึงอาทิตย์แม่งเหงาชิบหายจนต้องเข้า กทม มาหางานทำ นี่ก็ใกล้จะกลับไปสภาพเดิม แต่รอบนี้ดีหน่อยที่กูเริ่มรู้จุดหมายในชีวิตมากขึ้น มีเป้าหมายให้ทำ ถ้าต้องไปอยู่ ตจว จริงๆ คงเรียนภาษาไปด้วย หางานราชการสอบไปด้วย
แต่คิดแล้วก็กลัวว่ะ คนมันอยู่ กทม มาตลอดเกือบๆ 10 ปี ให้กลับไปอยู่ ตจว ที่1ทุ่มปิดไฟนอน แค่คิดนี่ก็ก็เริ่มทรมานและ ทั้งที่ตั้งแต่เกิดจนถึง ม.ปลายกูก็อยู่ ตจว มาตลอดนะ
ตอนแรกกูก็คิดว่าการอยู่คนเดียวมันก็สบายใจดี วันๆนั่งเล่นเน็ตอยู่หอไม่ออกไปไหนไม่คุยกับใครก็ไม่เห็นเป็นไร
ปรากฏว่าพอกูไม่เล่นเน็ตไม่เล่นเว็บบอร์ดแล้วมันก็เหงาเหมืิอนกันว่ะ ถ้าเล่นเน็ตยังได้คุยกับคนอื่นเห็นความเป็นไปของโลกภายนอกบ้าง คนที่บอกว่าชอบอยู่คนเดียวเนี่ยถ้าไม่เล่นเน็ตไม่คุยกับใครเลยจริงๆจะยังชอบอยู่รึเปล่าวะอยากรู้
กู >>430 เองนะ ทุกวันนี้กูอยู่คนเดียวแต่ที่ไม่เหงามากเพราะอินเตอร์เน็ตนี่แหละ ได้ทำอะไรหลายอย่าง หาเพื่อนคุย คุยกับเพื่อนเก่า เข้ากลุ่มที่สนใจ เล่นคอมมู บลาๆๆๆๆ หายเหงาไปได้เยอะ แต่กูมีงานทำนะไม่ได้นั่งเล่นเน็ตหน้าจออย่างเดียว วันธรรมดาออกไปทำงาน ตอนเย็นกลับห้องมาเล่นเน็ต กูเคยโดนหัวหน้าแซวด้วยว่าไม่ดูทีวีแล้วจะรับรู้ข่าวสารได้ไง อินเตอร์เน็ตมันเป้นการสื่อสารทางเดียว(หัวหน้ากูอายุ 40กว่า ไม่คุ้นกับอินเตอร์เน็ต)
แต่กูก็มีความสุขดี บางทีก็มีออกไปหาอะไรทำข้างนอกบ้าง กินข้าวกับเพื่อน ดูหนัง ถ่ายรูป อะไรแบบนี้
ที่กูพูดถึงยามในเม้น >>430 กูว่าเค้าน่าเห็นใจว่ะ อาชีพนี้ไม่มีเงินเยอะพอจะซื้ออุปกรณ์ITแพงๆ ค่าอินเตอร์เน็ตรายเดือนก็แพงเกินไปเมื่อเทียบกับเงินเดือน แถมลักษณะงานมันก็ไม่ได้คุยกับผู้คนเท่าไรด้วย ยิ่งทำงานกะดึกนี่คุยกับหมาอย่างเดียวเลย
กูเป็นมนุษย์ที่ไม่เข้าใจมนุษย์เลยว่ะ มนุษยศาสตร์ก็สอนกูไม่เข้าใจ
กูเบื่อชีวิตมากจนไม่รู้จะบ่นอะไรออกมาดี =__=
>>437-438 แนะนำแบบเดียวกับมู้ป้องกันการฆ่าตัวตาย ........ ไปพบจิตแพทย์ เอาตาม รพ รัฐ หรือคลินิกก็ได้ ถ้าอายพยาบาลหรือประชาสัมพันธ์ก็บอกว่า นอนไม่หลับอยากพบแพทย์ ขอทราบตารางคลินิกจิตเวช โรคซึมเศร้าเป็นอาการเจ็บป่วยเหมือนโรคทางร่างกาย ไม่ได้แปลว่าเราอ่อนแอ มันรักษาได้
เบื่อว่ะพวกมึง พอเป็นคนอ้วนแล้วพูดเรื่องออกกังกายก็ดูไม่น่าเชื่อถือเลย ปกติก็ไม่มีความมั่นใจเพราะอ้วนอยู่แล้ว มาแบบนี้ยิ่งรู้สึกแย่ ปกติกูก็ไม่ได้อ้วนขนาดหนักนะสูง 160 หนัก 60 อ่ะ ก็อ้วนแหละแต่ไม่ถึงขนาดอ้วนเลวร้าย(หรือคิดไปเองวะ) แต่ช่วงนี้พยายามลดอยู่กูก็ศึกษาวิธีลดมาอย่างดีเข้าใจว่าร่างกายทำงานยังไง ก็พยายามออกกำลังกายอย่างถูกวิธี พอมีใครจะลดบ้างก็อยากจะแนะนำ แต่พอแนะนำไปแม่งไม่น่าเชื่อถือว่ะไอ้เหี้ย เพราะกูอ้วนอยู่ เหมือนกับถ้าวิธีกูได้ผลกูก็คงไม่อ้วนหรอกอะไรงี้ แล้วก็แห่ไปอดอาการกันเพราะเห็นคนอื่นทำแล้วน้ำหนักลด เออ วิธีกูน้ำหนักแม่งไม่ค่อยลดหรอกแต่อย่างน้อยกูจับพุงตัวเองก็เจอกล้ามเนื้อล่ะวะไม่ใช่พุงเหลวๆอย่างเมื่อกีอน แต่เฟลว่ะพูดไรไปไม่มีใครเชื่อ รู้สึกไร้ค่าสัสๆ ลดความอเวนมันลดง่ายๆที่ไหน
ใครไม่เชื่อช่างแม่ง ถ้ามึงลดวิธีมึงแล้วได้ผลก็ทำต่อสักปีก็ลดเยอะแล้ว ถึงคราวนั้รจะได้ตอกหน้าพวกที่ไม่เชื่อมึงไง
ทำไมคนชอบคิดว่ากูโง่วะ ทั้งๆที่กูก็มีความรู้รอบตัวมากกว่า คิดอะไรตามหลักตรรกะและเหตุผลกูพูดอะไรก็มีข้อมูลรองรับ เพียงแค่บุคลิกกูดูเอ๋อๆไม่ทันคนแต่คือในความเป็นจริงกูก็ไม่ได้ไม่ทันคนขนาดนั้น กูนำเสนอทฤษฎีอะไรมันก็มีเหตุผลที่อธิบายได้นะแต่พอคนไม่เข้าใจในสิ่งที่กูพูดก็จะบอกว่าพอๆอย่ามั่ว อย่าแถ คือกูไม่ได้มั่วหรือแถอะไรเลย กูแค่นำเสนอในสิ่งที่มีความเป็นไปได้ซึ่งถ้าลองคิดดูแล้วมันก็สามารถเกิดขึ้นจริงได้ แต่ไม่มีใครเชื่อถือกู ฟังคำพูดกูแล้วคิดตาม ทุกคนเอาแต่คิดว่ากูโง่ๆๆๆๆๆๆ แม่งเอ้ยยยยยย กูอึดอัดสัส กูก็ไม่ได้ฉลาดระดับไอสไตน์แต่กูก็มีความรู้และไม่ได้โง่แน่นอน จะวัดจากไอคิวก็ยังได้ ฟังกูพูดแล้วดูเหมือนหลงตัวเองใช่มั้ยล่ะ ลองพูดอย่างงี้ในชีวิตจริงแม่งคงบอกว่าคนฉลาดเค้าไม่มาพูดว่าตัวเองฉลาดกันหรอก แต่พอไม่แสดงออกว่าฉลาดก็โดนด่าว่าโง่อีก เออดี
ความฉลาดกับหลงตัวเองมันต่างกันนะพี่วิง
>>446 เซเลปคนดังที่มีแฟนคลับเป็นเหล่าโม่งคอยสรรเสริญ ถึงกับมีกระทู้สรรเสริญพี่แกแยกออกมาเลย
นี่ถ้าไม่ดังจริงตั้งกระทู้แยกไม่ได้นะนี่
เอ่อ กูไม่ใช่วิงไม่รู้จักด้วยอันนี้กูมาบ่นปัญหาส่วนตัวหลังจากที่ทะเลาะกับพี่มาแต่กูขอไม่ลงรายละเอียดละกัน มันเริ่มจากเรื่องเล็กๆแต่มันเป็นการดูถูกสติปัญญากูมากและมันหลายครั้งแล้ว
>>448 กูก็รู้ว่ามันต่างกัน รู้ด้วยว่าพอมาพูดทำนองว่าตัวเองเก่งมันจะต้องโดนคนอื่นมาบอกว่าหลงตัวเอง ไม่แปลกหรอกที่มึงจะคิดแบบนั้นเพราะมึงเองก็ไม่ได้รู้จักกู(แต่ถ้ามึงรู้จักกูมึงก็อาจบอกว่ากูโง่เหมือนกับที่พี่กูคิดอ่ะแหละ กูก็ไม่รู้ว่าทำไมทั้งๆที่กูยกทฤษฎีและความเป็นได้มาอ้างก็บอกให้กุหยุด เฟลสัส) แต่คือพอเราทำเป็นเก่งก็จะโดนคนอื่นขเม่น โดนด่าว่าอวดฉลาดแต่พอทำเงียบก็โดนด่าว่าโง่ ไร้ซึ่งความน่าเชื่อถือใดๆ กูก็วางตัวไม่ถูก กูไม่ได้อยากมาทำตัวฉลาดยกไอคิวมาเกทับ พูดจาเทพๆจนคนเหม็นขี้หน้า แต่กูก็ไม่รู้ว่าทำไมเวลากูพูดอะไรใครๆก็ไม่เชื่อ คิดว่ากูโง่ แต่พอเป็นคนอื่นพูดเรื่องเดียวกันกลับมีน้ำหนักมากกว่า ทำไมวะ มันอยู่ที่อะไร ไม่ว่าจะพ่อแม่พี่น้องญาติทุกคนแม่งมองว่ากูเป็นเด็กกากทำห่าไรไม่เป็น ทั้งๆที่ในความเป็นจริงไม่ได้มีใครมาเห็นตอนกูแก้ปัญหาอะไรเองเลย ทุกคนตัดสินกูจากอะไร กูทำผิดอะไรวะ กูมั่นใจว่ากูรู้กว้างกว่าบรรดาญาติๆหลายๆคนซะอีกแต่ในสายตาคนอื่นก็ยังมองว่ากูเป็นคนกากอยู่ดี หรือกูต้องได้โนเบลก่อนวะถึงจะเห็นหัวกูบ้าง หรือกูต้องเรียนหมอคนถึงจะยอมรับว่ากูเองก็มีศักยภาพ หรือเพราะการมีความรู้เรื่องประวัติศาสตร์มากมายแต่ไม่เก่งฟิสิกมันจะดูไร้สาระวะ แม่ง
แปลกไหมวะ รู้สึกเฉยๆกับครอบครัวตัวเอง ยกเว้นพี่ชาย
>>454 ไม่แปลก กูไม่ได้คุยกับน้องชายแท้ๆมา 10 ปีแล้ว พ่อแม่กูก็รู้เรื่องนะว่ากูกับน้องไม่ถูกกันไม่พูดกัน พยายามแล้วแต่สุดท้ายก็ไม่ได้คุย
กูเองก็เคยคิดจะคืนดีกับมัน เพราะเห็นว่าเป็นพี่น้องกัน แต่สุดท้ายก็จบลงตรงที่ต่างคนต่างอยู่ ซึ่งทุกวันนี้กูก็เฉยๆช่างแม่งชีวิตใครชีวิตมัน
มันดูแปลกในสายตาคนนอก เพื่อนกูที่รู้เรื่องก็รู้สึกแย่ที่พี่น้องไม่คุยกัน พ่อแม่กูเองเมื่อก่อนก็พยายามตอนนี้ก็ปลงแล้วว่ะ
>>456 ไม่รู้สึกอ่ะ ถ้าน้องกูตายกูก็เฉยๆ คงมางานศพตามประเพณี แต่ถ้าตายหลังพ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่ตายห่าหมดแล้วคงไม่มาอ่ะ ให้ลูกหลานมันจัดการงานศพเอง ถ้ามันไม่มีญาติคอยจัดการศพกูคงเอาไปเผาถูกๆตามวัดบ้านนอก วัน กทม คิดค่างานศพแพง แน่นอนว่าในทางกลับกันถ้ากูตายก่อนคงเป็นแบบเดียวกับที่กูพูดมา มันก็คงเฉยๆกับการตายของกู แล้วเอากูไปเผาราคาถูกตามวัดบ้านนอก
>>457 เพื่อนกูที่รุ้เรื่องนี้ก็พูดแบบนี้ว่ะ ประมาณว่าเกิดมาเป็นพี่น้องกันทั้งที ทำไมไม่คุยกัน ทำไมต่างฝ่ายต่างทำตัวเหมือนกันแปลกหน้า กูเลยไม่อยากเล่าเรื่องนี้ให้คนอื่นฟังมากนัก ทุกวันนี้เวลามีคนถามถึงญาติกูก็บอกว่ามีน้องนะ เรียนอยู่นะ แล้วก็จบแค่นั้น เมื่อก่อนกูก็คิดแบบมึงนี่แหละ เกิดมาเป็นพี่น้องกันมันไม่ควรเป็นแบบนี้ แต่ตอนนี้กูไม่คิดมากและ เพราะถือว่ากูเป็นฝ่ายพยายามคุยกับมันแล้วแต่มันไม่เอาเอง ทุกวันนี้นานๆทีจะเจอมันตอนกลับบ้าน แต่ก็ไม่คุยกัน นอนคนละห้อง ผลัดกันมากินข้าวในห้องครัวแล้วก็กลับขึ้นห้อง
อาจเพราะไม่มีใครเริ่มก็ได้นะมึง เรื่องโกรธมันก็นานมาแล้ว ตอนนี้คงไท่อะไรแล้วล่ะ แค่ต่างคนต่างไม่อยากเสียฟอร์มมาคุยกันก่อน
กูรู้สึกตัวกูมีความรู้สึกต่อคนรอบตัวต่ำ คือนอกจากเกลียดแล้วนอกนั้นมีแค่ เออ กูอยู่กับคนนี้สบายหน่อย กับคนนี้อยู่ได้แต่ลำบากนิด เฉยๆหมดกับญาติก็เป็นงี้คือเขาก็ดูแลกูดี กูก็ทำดีกลับแต่กูรู้สึกกูทำกลับไปแบบนั้นแต่กูไม่ได้รู้สึกว่ารักเขา กูกลัวว่ากูจะรู้สึกงี้ตลอดแบบตอนไหนเขาเป็นอะไรกูกลัวว่ากูจะไม่รู้สึกอะไรนอกจากคิดว่ากูแย่ที่ไม่รับผิดชอบในการดูแลเขา และกูกลัวว่าถ้าเขาเป็นอะไรกูจะคิดถึงแต่ตัวเองไม่มีเขาแล้วกูจะลำบากงู้นงั้มากกว่ากูจะเสียใจเพราะกูเสียเขาไป กูกลัวมาก กูเคยคิดเล่นๆแล้วกูดันรู้สึกว่ากูคิดแบบนั้นจริงๆ กูเห็นแก่ตัวมากที่คิดถึงแต่ตัวเอง กูรู้สึกแย่ กูรักใครไม่เป็นและทำเป็นแค่กาฝากรับผลประโยชน์
กับอีกอย่างคือกูชอบดูถูกคน แบบมีคนมาถามเรื่องที่กูทำได้ง่ายๆกูจะเผลอคิดไปว่าโง่จัง พอคิดงี้แล้วกูรู้สึกผิด หรือตอนประกาศผลสอบกูจะหาเพื่อนคนหนึ่งมาเป็นฐานกูเสมอ กูต้องเหนือกว่าคนนั้น กูรู้สึกแย่ที่ทำงั้นแต่กูก็หยุดความรู้สึกดูถูกคนอื่นไม่ได้ กูรู้สึกกูต้องเหยียบมันลงไปมากกว่าที่กูจะรู้สึกกูต้องดึงตัวเองขึ้นมา กูกลัว
ขอบคุณที่ให้กูระบาย
>>461 ลองเปลี่ยนจากคำว่าเหยียบให้คนอื่นลงไปเป็นคำว่าแรงผลักดันดีไหม กูเข้าใจความรู้สึกที่ต้องเหนือกว่าคนอื่นให้ได้นะ เพราะเมื่อก่อนก็เคยเป็น เห็นคนอื่นเก่งกว่า (ในเรื่องที่ชอบทำ) เป็นไม่ได้ กูก็กลับไปฝึกตัวเอง จนเก่งกว่าเขา ถือว่าเป็นแบบทดสอบอะ แต่ตอนนี้ก็ปล่อยวางมากขึ้นแล้ว ชีวิตดันไปสิ้นหวังในเรื่องอื่นแทน แต่ยังไงก็ลองเปลี่ยนมุมมองดูนะ สู้ ๆ อย่าไปกลัว
กูรู้สึกแย่มากๆเลยว่ะ ชีวิตต้องมีเป้าหมายไหม กูรู้สึกสูญเสียเป้าหมายไปกะทันหัน ทำอะไรไม่ถูกเลยอยากร้องไห้ก็ทำไม่ได้
ขอบใจนะมึง กูยังดีกว่าหลายๆคนที่ระยายที่ไหนก็ไม่ได้ กูยังดีที่มีโม่ง
หมอบอกกูค่อนข้างไบโพล่าร์ บางทีมันสลับไปเศร้าแล้วโคตรสิ้นหวังอยากตาย ช่วงนี้พอทำใจได้บ้าง กูจะตั้งเป้าหมายสูงๆด้วยแล้วกัน ขอบใจพวกมึงมาก
ช่วงนี้กูกำลังจะออกจากงาน ชีวิตสองปีที่ผ่านมากูติดร้านอาหารแนวๆคาเฟ่แห่งหนึ่งแถวเอกมัย ปีแรกกูบ้ามากต้องไปทุกอาทิตย์ ปีที่สองกูเริ่มทำใจว่าำนักงานก็คือพนักงาน ออกนอกร้านก็จบ และกูเองก็ได้คุยกับพนักงานที่สนิทๆกันอยู่สองสามคน กูก็รู้สึกพอใจมากและ
ปลายปีนี้กูกำลังวางแผนลาออกจากงาน ก็อยากหากิจกรรมอะไรซักอย่างมาทำ ก็ทำได้ซักพักก็เบื่อว่ะ อย่างเล่นกล้องเล่นไปซักพักรูปจากกล้องดิจิตอลมันธรรมดาไปกูก็เปลี่ยนมาเล่นกล้องฟิล์ม แต่กล้องฟิล์มแม่งเปลืองถ่ายวืดบ่อย สุดท้ายกูก็เบื่อ กูแวะไปห้องSubculture เห็นกระทู้คอมมูมีตั้ง 30 กว่ากระทู้ กูก็สนใจว่ามีอะไรดี ก็ลองมาเล่นคอมมู แรกๆก็สนุกนะ แต่ก็เหมือนกับกิจกรรมก่อนหน้า มันเกิดเส้นแบ่งระหว่างมืออาชีพกับมือสมัครเล่น ตอนก็เล่นแบบสนุกๆมันก็สนุกดีอยู่หรอก แต่พอตั้งใจให้งานมันออกมาดีมันจะเริ่มไม่สนุกและ
ไม่มีอะไรกูมาบ่นให้ฟัง ชีวิตกูพยายามจะไม่สิ้นหวังนะ กูเคยคิดจะฆ่าตัวตายเมื่อสามปีก่อน แต่เพื่อนรอบตัวกูดีมาก ช่วยให้กำลังใจกูจนกูผ่านมาได้ กูคิดว่าอย่างน้อยจะใช้ชีวิตให้คุ้มค่าหาอะไรทำไปเรื่อยๆ ใช้ชีวิตให้มันมีประโยชน์ต่อคนอื่นมากที่สุดและก็หาความสุขใส่ตัวไปด้วย
>>470 ตอนกูเรียนไม่จบ เปอร์ไป1ปี กูเคยทำงานสอนเด็กที่วัดว่ะ กูไปกดไลค์เพจแปลซับอังกฤษแล้วมีพี่คนหนึ่งติดต่อมาหากูโดยบังเอิญ
แบบว่าขาดคนสอนอยากให้มาสอนน้องที่วัน 1 วัน ตอนนั้นกูปลื้มมาก คือตอนแรกกูเคว้งมากเลยนะโวยเพื่อนเรียนจบหมด อยู่หอก็อายรุ่นน้อง
กูอยากสร้างคุณค่าให้ชีวิตตัวเอง กูคิดว่านี่แหละสิ่งที่กูอยากทำ แต่พอไปสอนจริงแม่งเงิบว่ะ คือกูจินตนาการว่าเป็นวัดเก่าๆ เด็กที่มาเรียนก็ลูกชาวบ้านไม่ค่อยมีตังค์อ่ะมึง
แต่ผิดคาด กูประมาทวัดในกทมมากไปฮ่าๆ(กูเด็กต่างจังหวัด) วัดแม่งใหญ่พอสมควรมีตึกอาคารเรียนในตัว เด็กที่มาก็หน้าตาผิวพรรณดี เสื้อผ้าชุดนักเรียนที่ใส่ก็ดูยังใหม่อยู่ มีโทรศัพท์มือถือใช้
ถ้าให้กูเดาคือ ผู้ปกครองเด็กพวกนี้อยากประหยัดค่าเรียนพิเศษเลยเลือกส่งลูกมาเรียนฟรีกับวัด กูไม่ได้รู้สึกแย่อะไรมากนะ พวกน้องๆเค้าก็ดูตั้งใจเรียนดี อย่างน้อยก็เอาเวลาเสาร์อาทิตย์มาใช้ประโยชน์ แต่มันพลิกความรู้สึกกูตรงที่กูอยากมาสอนเด็กจนๆด้อยโอกาส กลายเป็นเจอเด็กจากชนชั้นกลางแทน................ก็บ่นให้มึงฟัง
ทุกวันนี้กูคิดว่างานเพื่อสังคมที่กูอยากทำคือเก็บเด็กมาเลี้ยงว่ะ กูคิดว่าการให้ชีวิตใหม่กับเด็กซักคนหนึ่งคงเป็นการให้ที่มีค่ามากที่สุดและ
>>471 ก็ตามที่มึงเจอแหละ แต่อย่าว่างู้นงี้เลย จะวัดเมือง หรือต่างจังหวัด เดี๋ยวนี้พอๆกันเลยวะ กูเคยไปบวชต่างจังหวัดมา พอกัน ไปพวกสถานสงเคราห์ยังดีกว่า แต่ถ้าจะไปก็เตรียมตัวหน่อย เด็กพวกนี้ต้องการความรักรุนแรงมาก ถ้ามึงเบื่องานอาจะะเป็นช่วงที่มึงดาวน์ ก็ลองทำดูบางทีมึงเจออย่างนั้นมา มึงอาจจะท้อ แต่มันไม่ได้เป็นอย่างที่มึงเจอทั้งหมด มีคนบอกกุว่าเหรียญมันมีสองด้านเว้ย แต่ในความจริงแม่งอารมณ์ลูกไฟดิสโก้ แม่งสะท้อนด้านไหนมามึงก็เห็นแค่ด้านนั้นแหละ ต้องลงไปคลุกคลี ถึงจะรู้ อย่างน้อยก็ถือว่าได้ทำประโยชน์
>>471 ต่อๆ มึงจะบ่นอะไร ในนี้มีคนว่ามึงที่ไหน กูบอกเลยกูไม่ใช่คนให้คำปรึกษาดี Ha ไรหรอก ตัวจริงกูแม่งก็... ไม่ต่างกับคนอื่นเท่าไหร่ ถ้ามึงจะเลี้ยงเด็ก อันนี้กูก็ออกความเห็นอะไรไม่ได้ แต่ทำอะไร อยากให้ค่อยๆคิด มองปัญหาคนอื่นมันมองง่ายเว้ย แต่เรื่องตัวเองยังไงมันก็มีความรู้สึก อารมณ์เข้ามาอยู่แล้ว ขนาดตัวกูเองยังเอาตัวไม่รอด... 55555
กูรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่าจังว่ะ กูแม่งไม่ต่างอะไรจากขยะ เกิดมาเพื่อตายห่าเวลากูทำอะไรเพื่อใคร ทำดีแค่ไหนก็ไม่มีใครต้องการ
แล้วกูทำดียังไง จริงใจแค่ไหนสุดท้ายก็โดนหักหลังโดนโกงไปจากคนที่ไว้ใจที่สุด ทำงานด้วยกันมาเป็น 10 ปี
กูรู้สึกหมดหวังในมนุษย์แล้วว่ะแม่งมีแต่ทำร้ายกันทำลายกัน แล้วยังงี้มันจะมีอะไรที่ทำให้กูรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าในความเป็นมนุษย์มั่งวะ
กูอยากตายแต่กูก็ไม่อยากตาย ความคิดกูมันบอกว่ากูไม่สมควรอยู่แล้ว แต่ยีนส์ในตัวกูมันเป็นตัวขวางกูไม่ให้ตายกูไม่รู้จะไปทางไหนดีว่ะ
>>474 ขนาดตัวมึงเองยังไม่เห็นค่าในตัวมึง แล้วใครมันจะเห็นวะ ต่อให้คนอื่นเห็นมึงก็ไม่รู้หรอก แล้วมึงผิดมั้ยที่ไว้ใจมัน กูไม่รู้ เอาง่ายๆ มึงก็ไปหาข้อดีมึงมาจดไว้ซัก 100 ข้อ คิดไม่ออกใช่มั้ย เอาข้อดีเหี้ยไรก็ได้ จะโง่จะไร้สาระแค่ไหนก็ได้ ถ้สมึงคิดไม่ออกจริงๆ มึงลองถามเพื่อนมึง บ้านมึงเอา กูไม่รู้กูเข้าใจมึงมั้ย ที่ทำได้ก็แค่รับฟัง กับแนะนำ มึงลองเอาไปคิดดูล่ะกัน
>>475 คือ >>474 มันอาจจะเป็นโรคซึมเศร้าว่ะ อาการของโรคนี้มันจะเป็นแบบนี้แหละ สิ้นหวัง มองไม่เห็นค่าในตัวเอง มันเป็นการเจ็บป่วยอย่างหนึ่งจะไปบังคับให้มันเห็นค่าในตัวเองมันก็ทำไม่ได้ เหมือนสั่งคนดื่มเหล้าไม่ให้เมาอ่ะมึง
>>474 กูแนะนำว่าให้มึงไปหาหมอ ไม่ต้องอาย โรคทางจิตใจก็เหมือนโรคทางร่างกาย ป่วยได้ก็รักษาได้
>>472 แต่ถ้าจะไปก็เตรียมตัวหน่อย เด็กพวกนี้ต้องการความรักรุนแรงมาก.........เพื่อนกูเล่าให้ฟังว่าเด็กพวกนี้ห้ามกอดไม่งั้นจะตามมาขอให้อุ้มให้กอดเป็นโขยง ฟังแล้วก็น่าสงสารว่ะ
กูมีความรู้สึกว่ากูจะอยู่ได้อีกไม่นานนักร่างกายกูมันบอก แต่พอกูจะทำอะไรที่กูอยากทำหรืออยากได้แม่งก็มีแต่คนขัด
ครอบครัวมีแม่งก็เหมือนไม่มีเพราะไม่เคยเข้าใจกูเลยสักนิด ไม่เคยแคร์ไม่เคยสังเกตกูเลยด้วยซ้ำ
เอาแต่บอกให้คิดถึงวันพรุ่งนี้ๆๆๆ เงินก็เงินกูยังมาขัด ก็เพราะกูคิดถึงวันพรุ่งนี้ไงกูเลยจะทำในสิ่งที่กูอยากทำ
ไม่ใช่มัวแต่เก็บดองไว้จนแก่ตายห่าไปก็ไม่มีเหี้ยอะไรเลย
มึงก็อย่าสนสิวะ อย่างน้อยกูอยากให้มึงตามใจตัวเองบ้าง ตามใจคนอื่นมาทั้งชีวิตแล้ว
ทำตามใจแค่ครั้งสองครั้งเป็นไร บ้านมึงไม่ได้ล้มละลายสักหน่อย กูเป็นกำลังใจให้นะ
แต่ความกล้ามึงต้องชนะใจเอง กล้าๆหน่อย
พวกมึง มันมีเว็บที่คนคุยปรึกษากันเรื่องชีวิตสนุกสนานโลกสวยบ้างมั้ยวะ กูเป็นพวกเศร้าตลอดว่ะ ชอบนั่งอยู่คนเดียวแล้วหดหู่ไปเรื่อยๆ แต่พอเห็นคนอื่นมีความสุขแล้วกูชอบว่ะ ทำกูยิ้มได้ตลอดเลย
น่าจะนัดโม่งห้องนี้ทำอะไรเพื่อสังคมบ้างนะ แบบอาสาสมัคร เผื่อจะให้กำลังใจได้บ้าง
พวกมึงเคยทำอะไรที่มันผิดมากๆโดยบังเอิญมั้ย กูทำร้ายคนรอบตัวกูทุกคนไม่เว้นแม้แต่ครอบครัวตัวเอง กูเข้าไปยุ่งกับเรื่องที่ไม่ควรยุ่ง
แต่ปัญหามันไม่ได้ตกที่กู มันไปตกกับคนรอบตัวกูทั้งหมดกูไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้ เพื่อนกู พ่อแม่กู แฟนกูทุกคนทั้งเสียใจแล้วก็เกลียดกูกันหมด
กูไม่รู้จะอยู่ไปเพื่ออะไรแล้ว กูทั้งเปลี่ยนชื่อ ทั้งหนีไปอยู่ที่ไกลๆจะได้เริ่มชีวิตใหม่แล้วแท้ๆปัญหาเดิมๆมันก็ย้อนไปทำร้ายคนรอบตัวกูอีก
กูแค่อยากจะใช้ชีวิตธรรมดามันไม่ได้เลยหรอ กูนั่งคิดนะว่ากูเกิดมาเพื่ออะไรในเมื่อไม่มีใครต้องการกู กูนำแต่ปัญหาไปให้คนที่รู้จักกูแบบไม่มีทางเลี่ยง
งี้ชีวิตกูมันมีประโยชน์อะไรอีกวะ ก่อนกูจะตายกูอยากจบปัญหาไม่ให้มันไปรบกวนใครอีกจังว่ะแต่กูไม่สามารถพอแก้อะไรไม่ได้อีกแล้ว ทำไมโลกมันเฮงซวยจังให้กูเกิดมาแต่ไม่ให้กูใช้ชีวิตสงบๆ กูอยากจะหายๆไปจัง
>>480 ตอนนี้ที่ปรึกษาชีวิตกูเข้ามาแต่โม่งอะ ที่อื่นมันเหมือนบ่นได้ไม่สุดยังไงไม่รู้
>>483 ตอนนี้โอเคไหมนาย ยังอยู่ที่เดิมหรือออกมาแล้ว ได้ติดต่อทางครอบครัวบ้างไหม ไม่รู้ว่าจะเดาถูกรึเปล่า แต่กูพอจะเดาได้ว่ามึงทำอะไร ตอนนี้ใจเย็นก่อนนะ แต่อยากจะแนะนำ ถ้ามึงหนีไปเรื่อย ๆ ปัญหามันก็ไม่จบ คนรอบตัวมึงต้องเดือดร้อน ลองตั้งสติดี ๆ แล้วหันหน้าเจอปัญหาสักตั้งไหม อาจจะพูดง่าย ทำยาก แต่ยังไม่จำเป็นต้องตอนนี้ก็ได้ เพราะถ้ามึงหายไปจริง ๆ ก็ไปแบบค้างคา ทุกคนก็ต้องรับผลที่มึงก่อ ลองมองดี ๆ มันต้องมีสักทางสิที่จะทำได้ (อันนี้ไม่ได้มาตอกย้ำหรืออะไรนะ กูล่ะเป็นห่วงมึงจริง ๆ แม้คำพูดจะดูแบบก่นด่าก็เถอะ)
>>483 ชีวิตมึงทำไมต้องรอให้คนอื่นมาให้ความหมายว่ะ มึงบอกคนรอบตัวมึงไม่ให้คุณค่ามึง แล้วมึงให้คุณค่าตัวมึงเองแค่ไหน กูไม่เข้าใจ หนีอ่ะหนีได้เว้ยมันก็เป็นวิธีรับมือปัญหาที่แม่งไม่ค่อยถูกหรอก แล้วก็ถ้ามึงรู้สึกว่ามาบ่นในนี้แล้วยังไม่ดีขึ้น คำแนะนำมันใช้ไม่ได้ หรือมึงคิดว่ามึงอารมณ์ไม่ปกติ กูแนะนำให้มึงไปคุยกะนักจิต ไม่จำเป็นต้องเป็นอะไรมึงก็ไปได้
ไม่รู้ว่ามาทอปปิคนี้จะถูกมั๊ย กู้ลิกกันแฟน กูจับได้ว่าเขามีคนอื่น กูเสียใจมาก กูเลิกกันเขาแบบจริงจัง จะไม่ยุ่งกันอีก เขาคุยกะคนนั้นได้สองเดือน
กูรักเขา ใจนึงก็ยังอยากมีเขา แต่กูด็ไม่อยากกลับไป กูกลับไปไม่ได้ กูรู้ถ้ากลับไป คนเรา นเคยได้นอกใจแล้ว มันจะนอกใจอีก มันนอกใจแล้ว คือมันก็ไม่ได้รักเราแล้ว
แต่เขาก็รักกูอ่ะมึง กูก็รักเขา เขายอมเลิกคุยกับคนนั้น แต่กูจะทำยังไงดี กูต้องใจอ่อนแน่นอน ให้สติกูหน่อย กูไม่อยากกลับไปแล้ว กูเจ็บ
เขาคบกูมาสองปีสองเดือน(ไม่นับเวลาคุยกันก่อนหน้านี้) เขาก็คุยกะคนนั้นมาสองเดือนแล้ว ถ้าเขาเลิกที่จะไปคบกับคนนั้นกูจะไม่เสียใจขนาดนี้ แต่สุดท้ายเขาเลิกยุ่งกับคนนั้น เพื่อจะกลับมาหากู กูยิ่งรู้สึกแย่มาก แต่จะไม่กลับไปแล้วหล่ะ เขารู้ว่าทำแบบนี้แล้วกูจะต้องเสียใจ แต่เขาก็เลือกที่จะทำ โอ้ยยย ทำไมกูต้องรักเขาด้วยว่ะ คิดว่าตอนนี้ทำไรอยู่ยังคุยกะคนนั้นรึเปล่า เครียดมั๊ย ร้องไห้เหมือนกูรึเปล่า เกลียดเขาก็เกลียดไม่ลง ให้กลับไปรักกูก็ทำไม่ได้ เมื่อไหร่กูจะดีขึ้นว่ะ ตลอดที่ผ่านมาอยู่ด้วยกัน ตัวติดกันจนเพื่อนพี่ถามตลอด พอไม่มีเขาแล้วกูทำตัวไม่ถูกจริงๆว่ะ :'(
>>491 โม่ง ญ ค่ะ แต่เครียดจริงเลยพูดหยาบไปเยอะ
>>492 ถ้ามึงเป็นหญิง กูจะไม่แนะนำให้มึงกลับไปหา ช (จริงๆมันก็ไม่ควรกลับทั้งนั้นแหละไม่ว่าหญิงหรือชาย)
ก็อย่างที่มึงคิด ช คนนั้นรู้แล้วว่ามึงต้องเสียใจแต่ก็ทำ และมีครั้งแรกก็มีครั้งต่อไปได้ ต่อให้กลับไปคบมันก็ไม่เหมือนเดิม
เพราะความเชื่อใจหายไปแล้ว ความระแวงจะมาแทนที่
แนะนำให้มึงห่างๆออกมา หรือถ้าทำใจไม่ได้จริงๆก็คุยกันแบบเพื่อนไปก่อน แต่อย่าใจอ่อน
>>493 แม่บอกว่า ถ้าเรารักเขาจริง เขารักเราจริง เลิกกันไปตอนนี้ ให้เวลาห่างกันและกัน สี่เดือน ห้าเดือน ถ้าเขายังรอ ยังรักเราอยู่ ยังมั่นคงต่อกัน และนี่เป็นครั้งแรกที่เขาทำแบบนี้ แม่บอกจะกลับไปคบ แม่ก็จะไม่ว่า กูเอาไงดีว่ะ
เขาบอกเขาแค่หลง ผญคนนั้นก้มาคุยกับกู มาเคลียร์กับกูด้วยว่ามันไม่ได้มีอะไร ยังไงแฟนกูก็รักกูคนเดียว คือกูก็รู้ แต่ทำไมตอนมึงทำมึงไม่คิด อีดอกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ตอนนี้กูทำได้แต่ประชด แดกดัน (เก่งเรื่องนี้) ให้มันเสียใจ ตัดใจไปสะ กุก็จะได้ตัดใจง่ายขึ้น แต่ความพยายามมันไม่ลดละเลยว่ะ กูจะดูไปเรื่อยตามที่แม่บอกดีมั๊ยว่ะ กูโง่เนอะ กูขอโทษ ความรักนี่มัน เฮ้อ ..
>>494 กูไม่ค่อยอยากแนะนำให้กลับไปแต่ขอกูเล่าเรื่องเพื่อนคนนึงให้ฟัง เพื่อนกูเป็นหญิงแล้วมีช่วงนึงที่มีสาวอื่นมาติดแฟนเค้า ก็ทะเลาะกันโมโหจนห่างกันไปแบบเลิกกลาย ๆ เลยอ่ะ เพื่อนกูระหว่างที่เลิกนั่นก็มีแฟนใหม่นะแต่สุดท้ายพอกลับมาเจอกันก็รักกันใหม่ ตอนนี้แต่งงานมีลูกไปแล้ว
กูว่าคงอย่างที่แม่มึงบอกว่ะ ว่าถ้ารักกันจริง ลองให้เวลาห่างกันดูซักพักสุดท้ายก็อาจจะกลับมารักกันเหมือนเดิมได้นะ
มันมองได้สองด้านไง ผชอาจจะทำแบบเดิม หรืออาจจะรู้สึกผิดจนไม่กล้านอกใจอีกก็ได้เพราะถ้าเค้ารักมึงจริง เค้าจะต้องเสียใจและไม่กล้าทำแบบนี้อีกเพราะรู้ว่ามึงต้องเสียใจมากเหมือนครั้งนี้แน่นอน
ยังไงกูฟันธงให้ไม่ได้ว่าควรทำไง แต่ลองค่อย ๆ คิดดูละกัน สู้ ๆ จากกูที่ยังไม่มีแฟนโสดสนิทมาตลอดชีวิต 555
กู >>494 เองนะ
คือกูเริ่มรู้สึกเชื่อเรื่องกรรมอ่ะมึง คือมันอาจจะเพราะกูคิดมาก โยงไปมาเองนะ พ่อกูตอนนี้ก็นอกใจแม่ กูก็รู้มาสักพักแล้วแต่ไม่กล้าบอกไม่อยากให้เลิกกัน ต้องเสียใจแน่นอนกูสงสารแม่ เลยคิดว่าคงเป็นเวรเป็นกรรมที่พ่อกูก่อกับแม่แล้วมันมาส่งผลกับลูกอะไรงี้เปล่าว่ะ
อาจจะคิดมากไปเอง
ตอนนี้กูก็เลิกกับดขาไปแล้ว บอกเขาให้ทำตัวดีดี ถ้าคนมันรักกันจริงเป็นคู่กันสักวันมันจะกลับมาได้เอง เขาก็บอกจะรอ ก็ดูกันต่อไป เห้อออ ตากูนี่ช้ำกินไรไม่ลงเลยมึงเอ้ย
กูเบื่อการสร้างเงื่อนไขปัญญาอ่อนขึ้นมาให้ความรักจังว่ะ
รักแท้ ต้องอย่างนั้น รักแท้ ต้องอย่างนี้
แม่ง ความรักมันไม่ได้อยู่ๆก็เกิดออกมา แล้วแท้จริงมั่นคง ชนะทุกปัญหา ด้วยเวทมนต์
ถ้าเกิดมันไม่ชนะ ไม่มั่นคง แปลว่ามันไม่ใช่รักแท้
ไอ้ควาย
มันคือสิ่งที่ต้องสร้าง ต้องพัฒนา ต้องปรับปรุงไปเรื่อยๆ
ถ้ามึงคาดหวังให้เวทมนต์เกิดขึ้นจากความว่างเปล่าไม่ต้องขวนขวายลงแรงทำห่าอะไรเลย
พอมันไม่เกิดขึ้น ก้แค่โทษว่ามันไม่ใช่รักแท้ ง่ายดีเนอะ
เหี้ยจริงๆ
กูเพิ่งรู้ว่าตัวเองเป็นโรคหัวใจเต้นผิดปกติว่ะ 3 อาทิตย์ก่อนกูยังไปเดินห้างกันแฟนอยู่เลย
อยู่ๆก็หน้ามืด ปวดตรงหัวใจแล้วก็น๊อคไป ตื่นมาอีกทีกูหลับไปยาวๆอาทิตย์นึง หมอบอกโชคดีที่ชีพจรกลับมา
คือจริงๆกูตายไปแล้วล่ะเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอเลยสลบแล้วหัวใจหยุดเต้นไป 2 นาที
ตอนนี้กูต้องอยู่โรงบาลยาวๆคงต้องพักการเรียนไปเทอมนึงละ กูรู้สึกเหงาจังว่ะ
ช่วงที่กูตื่นแรกๆ มีเพื่อนมีแฟนคนรู้จักมาเยี่ยมกูเยอะแยะ แต่พอนานๆไปเริ่มไม่มีใครมาหาแล้วว่ะ
กูรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นพวกประหลาด อยู่ๆนึกจะตายก็ตายได้เลยไอ้สัสชีวิตมันตลกจังวะ
แฟนกูก็เริ่มห่างๆไปคุยกับคนอื่น กูว่าเร็วๆนี้คงบอกเลิกกูแล้วล่ะ พ่อแม่กูก็ไปทำงานตปท.
เหี้ยชีวิตเหมือนฝันเลย เหมือนเมื่อวานกูยังมีทุกอย่างแต่พอตื่นมาอีกทีกูก็ไม่เหลืออะไรเลย
แต่กูก็ไม่คิดว่าตัวเองไร้ประโยชน์สมควรตายหรอกนะ ยังไงคนมันจะตายเมื่อไหร่ก็ได้อยู่ละ
แล้วคนห้องข้างๆกูชีวิตบัดซบกว่ากูเยอะได้คุยกันมา รุ่นๆเดียวกันพอดีนั่นทั้งตาบอดข้างนึง
ขาไม่มีแรง พ่อตาย เห็นแล้วกูรู้สึกโชคดีขึ้นมาเลยที่เกิดแค่กับกูคนเดียว แต่กูแย่กว่าแค่อาการ
คือจะตายห่าวินาทีไหนก็ได้แบบนี้มันน่ากลัวกว่าเป็นมะเร็งที่รู้วันตายอีกว่ะ เห้อ ชีวิตไม่เข้าใจจริงๆว่าเกิดมาทำไม
>>501 มึงเกิดมาเพื่อตัวมึงเองไง ตอนมึงฟังเพลง ตอนมึงได้กินข้าว ตอนมึงได้ดูหนัง ดูซีรี่ย์ดีๆ มึงมีความสุขรึปล่าวล่ะ ชีวิตมึงนี่มันไม่โดดเดี่ยวหรอก กูโดดเดี่ยวยิ่งกว่ามึงเยอะ คนที่กูรัก รักกุ และจริงใจกับกู ค่อยๆตายไปทีละคนๆจนกูไม่เหลือใครแล้ว เจอปัญหามากมาย แถมตังก็ไม่ค่อยจะมี 555 เรียนก็ยังเรียนไม่จบ แต่กูโชคดีกว่ามึงก็ตรงที่กูได้อยุ่ดิ้นรนต่อไปนานกว่ามึงแน่ๆ(ถ้ากูไม่เจออุบัติเหตุอ่ะนะ) แล้วกูก็ยังมีความสุขที่ได้ดิ้นรนอยุ่ สุขบ้างทุกข์บ้าง กูก็คิดว่าอย่างน้อยกูยังมีชิวิต กูยังได้ฟังเพลงดีๆที่กูชอบ ได้กินข้าวเมนูที่ชอบ ได้ดูหนัง ได้ทำห่าไรอีกเยอะแยะ ที่กูพูดมากูก็แค่อยากบอกมึงว่า คนเราแม่งก็ไม่มีใครรู้วันตายของตัวเองหรอก มึงมีชีวิตมีตัง มึงก็ทำให้ทุกวันแม่งมีความสุขที่สุดดิวะ แล้วมึงอย่ามาบอกว่าเป็นมะเร็งดีกว่า เชื่อกูเถอะมันทรมานนะ ที่ต้องรู้ว่าตัวเองต้องตายรู้วันตาย แต่ระหว่างนั้นไม่มีปัญญาทำให้ตัวเองมีความสุขได้ ต้องทนอยู่กับความอ่อนแอของร่างกาย กูรู้เพราะแม่กูก็เป้นมะเร็งตาย อ้อ แล้วมึงไม่ต้องกลัวว่ามึงจะตายไปโดยที่ไม่มีใครนึกถึงมึง อย่างน้อยกูก็ได้อ่านเรื่องของมึงแล้ว กูจะนึกถึงมึงแน่ๆ แล้วก็คำบอกลามันก็สำคัญนะ มึงลองเขียนคำลาไว้บ้างก็ดี เวลาตายไปมึงจะได้ไม่มีอะไรคาใจ อย่างน้อยยังมีกูที่จะคอยนึกถึงมึงอยู่ในบอร์ดนี้สบายใจได้เลย
กูนอนไม่หลับ ทำไงถึงจะหลับวะ หลายปีแล้ว แดกยาอะไรก็แล้ว สิ้นหวังปวดหัว สมาธิสั้น ทำอะไรไม่ดีสักอย่าง
>>501
มึงจำไว้ไม่มีอะไรต้องกลัว คนเราเกิดมาตายกันทุกคน มึงได้รับโอกาสที่จะทำอะไรที่อยากทำจริงๆแล้ว
ดีกว่ามึงใช้ชีวิตไปเรื่อยเอื่อยๆ วันนึงมึงเกิดประสบอุบัติเหตุตายตอนอายุสามสิบกว่าทั้งๆที่มึงยังไม่ได้ทำอะไรที่อยากทำจริงๆ มึงคิดว่าไง?
มึงจะตายห่าวินาทีไหนก็ได้ ใช่ ใช่ ใช่ ใช่!
แต่ว่ามึง อย่าลืม มนุษย์คนไหนหรือหมาแถวบ้านกูก็ตายห่าวินาทีไหนก็ได้เหมือนกัน
ล้มหัวฟาดห้องน้ำตาย โดนเขากระทิงเสียบคอ ตกลิฟท์ มอไซด์ล้มโดนรถเมลล์ทับหัว ก็ตายห่าเหมือนกัน เห็นไหม
ปล.อยู่คนเดียวมึงจะรู้สึกแย่ เพราะการอยู่คนเดียวมันฟุ้งซ่านง่าย กูรู้ดี
มึงกลัวได้ เครียดได้ แต่ขณะเดียวกันมึงห้ามหยุดที่จะคิดบวก
ล้มเหลวได้ แพ้ได้ แต่ห้ามหยุดพยายาม จำไว้
มึงต้อง
ใส่ใจเรื่องคนอื่นให้มากขึ้น สนใจเรื่องตัวเองให้น้อยลง
ทำตัวให้ยุ่งเข้าไว้ หาหนังสือ ดูการ์ตูน ทำตัวให้ยุ่งเข้าไว้
>>504 กูเคยแดกยาช่วงหนึ่งที่คิดมากจนนอนไม่หลับ.. พอกูเลิกแดก แม่งนอนไม่หลับยิ่งกว่าเดิม สงสัยเพราะสมองติดยา
กูก็ช่างแม่ง เลิกแดกถาวรเลย วิธีของกูคือ วันไหน ไม่หลับ กูก็ไม่หลับ สัส ถึงพรุ่งนี้มีงานสำคัญ กูก็ไม่นอนช่างแม่งปะไร ช่างแม่ง
วันต่อไปกูไปออกกำลังกาย เอาให้เหงื่อไหลเป็นน้ำตก เหนื่อยตายห่ากันไปข้าง กลับมาบ้านกูคิดอะไรไม่ออกก็ต้องนอนแม่งแล้ว
หลังๆกูหายละ นานๆถึงจะเป็นที
>>507-508 ดีแล้วเพื่อนโม่ง สมัยกูเป็นโรคซึมเศร้าหมอให้ยามา แรกๆก็ดีนะ เหมือนแดกยาแก้หวัด(สมัยนั้นยังใช้ซูโดฯอยู่) แดกแม่งครึ่งชั่วโมงหลับสบายถึงเช้า
แต่ก็อยู่ได้ไม่นานว่ะต้องเพิ่มขนาดยาไปเรื่อยๆ พอกูเรียนจบเริ่มทำงาน ก็มีปัญหา เพราะสมัยเรียนก็นอนไม่เป็นเวลา รีบนอนดึกยังไงก็ไม่หลับซักที แรกๆพยายามพึ่งยาว่ะ แบบว่าถ้านอนไม่หลับจะพยายามแดกยาให้นอนหลับ แต่ก็ไม่ค่อยได้ผล จนสุดท้ายต้องใช้วิธีปรับเวลานอน นอนให้เป็นเวลามากขึ้น ออกกำลังกายมากขึ้น ก็ดีขึ้นนะ ดีกว่าพึ่งยาอย่างเดียว
กูก็เคยแดกยานะ fulox มั้ง แต่แดกแล้วแย่ลงกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ไปอีกรอบ หมอก็ลดยาให้ คราวนี้แดกแล้วไม่เกิดอะไรขึ้น คือแย่เหมือนเดิม ไม่ได้แย่ลง แต่ก็ไม่ได้ดีขึ้น เลยไม่ได้ไปหาหมออีกเลย กูอยู่จังหวัดเล็กๆ ด้วย มีโรงพยาบาลใหญ่ๆ ที่มีจิตแพทย์แค่ที่เดียว ที่อื่นก็ไม่มีเลยไม่รู้จะไปที่ไหนอีก
ออกกำลังกายก็ออกนะ ตอนออกมันก็มีความสุขดีนะ สดชื่นๆ แต่เวลาอื่นนอกเหนือจากนั้นก็รู้สึกแย่ ท้อ หดหู่ ห่อเหี่ยว เหมือนเดิมว่ะ เรื่องนอนไม่หลับก็เป็น เมื่อคืนหลับตีสี่ได้มั้ง ปวดหัวปวดตาชิบหาย
กูไม่ค่อยมีความรู้เรื่องโรคหัวใจเต้นผิดปกตินี้ แต่กูเป็นกำลังใจให้อย่าท้อ อย่าเซ็ง ถ้าเหงามึงมาคุยอะไรในนี้ก็ได้นะ กูจะมาส่องดูบ่อยๆ หาอะไรทำอย่าไปซีมากคิดว่าชีวิตมีแค่นี้ใช้ให้เต็มที่ กูเข้าใจนะคนป่วยคงทุกขืคงท้อถึงคนจะบอกให้อย่าคิดมันก็คิด แต่กูหวังให้มึงดีขึ้นนะ
>>501 ถ้าเป็นกูจะดูด wifi เล่นเกมแม่งทั้งวันเลยสัส
กูฝันมานานละชีวิตกินๆนอนๆในโรงพยาบาล เกมในสตรีมกู ทรัพยากรในคังโคเระกู เกมในมือถือกู
ไหนจะอนิเมะที่ดองมาหลายซีซั่นอีก มึงก็เล่นเกมหาเพื่อนคุย เล่นเว็บบอร์ดหาเพื่อนคุยไปดิวะ
ก่อนตายกูขอแค่แต่งงานกับอิโซคาเซะ นางไม่ดรอปให้กูอะ ตะเตือนไตมาก
กูเห็นโม่งโรงหัวใจแล้วกูนึกถึงตัวเองตอนเด็กๆเลยว่ะ คือกูเหมือนมีปมในใจแปลกๆ คือตั้งแต่เด็กๆ กูเกิดมาเป็นคนที่ค่อนข้างโชคดีคนนึงเลย ร่างกายแข็งแรงดีทั้งๆที่ไม่ได้ออกกำลังกายอะไร กินก็ตามใจปากไปเรื่อยๆ (แต่ตอนนี้อวบละ) แต่ก็ไม่เคยจะป่วยไข้อะไรเลย บาดเจ็บสาหัาอะไรก็ไม่มี คือเรียบง่ายสุดๆ แล้วเวลาเด็กๆ ใครที่ไม่สบายก็จะโดนเทคแคร์มากกว่าคนอื่นใช่มั้ยล่ะ แต่กูดันแข็งแรงเกินไป เลยไม่ค่อยจะมีใครสนใจอะไรเลย พาให้กูไม่ค่อยดูแลร่างกายด้วย เพราะบางทีกูก็คิดว่าถ้ากูไม่สบายขึ้นมา ก็คงจะมีคนแคร์อะไรบ้าง แต่ก็นั่นแหละ กูไม่สบายได้แค่วันเดียว ตื่นขึ้นมาก้หายแล้ว T_T
บางทีกุก็คิดว่าตัวเองจิตป่วยนะ ต้องการความสนใจ แต่กูทำยังไงก็ไม่เคยมีใครใยดีกูเลย (ขนาดแฟนกูยังติดเกมมากกว่ากูอีก) T_T เติบโตขึ้นมาอย่างnobodyสุดๆ
เห้อ สิ้นหวังจังว่ะ
วันนี้ขอมาเขียนเรื่องชีวิตของผู้หญิงญี่ปุ่นที่แต่งงานกับสามีชาวอังกฤษแล้วตอนนี้ทำงานอยู่ร้านขายปลาที่อังกฤษบ้าง🎌🇬🇧 ชีวิตของเธอน่าสนใจดีเลยอยากเอามาแบ่งปันค่ะ👸 จุดประสงค์ที่เขียนเรื่องนี้ถือว่าเป็นตัวอย่างชีวิตของคนคนหนึ่งที่เคยผ่านปัญหาในชีวิตมาแต่ตอนนี้เธอทำชีวิตตัวเองให้มีความสุขเพราะเปลี่ยนทัศนคติตัวเองค่ะ✨😇
เธอชื่อว่าคุณยูกะ เล่าย้อนไปถึงสมัยที่คุณยูกะอายุ20ปีได้เข้าทำงานเป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่งแต่ว่าทำได้ไม่ถึงปีบริษัทก็ล้มละลาย เธอเลยไปทำงานพาร์ทไทม์ในซูปเปอร์มาเก็ตแถวบ้าน ทีนี้แผนกที่เธอทำเป็นแผนกขายปลา 🐋🐟🐳🐬ช่วงแรกๆเธอไม่มีความรู้เรื่องปลาเลย เวลาลูกค้าถามจะต้องให้หัวหน้ามาช่วยตลอด และหลังจากนั้นหัวหน้าก็ค่อยๆสอนวิธีดูปลาและวิธีใช้มีดหั่นปลาอย่างถูกต้อง👍 ใครที่เคยดูรายการทำอาหารญี่ปุ่นจะรู้ว่าญี่ปุ่นมีวิธีหั่นปลาที่พิถีพิถันมาก เธอฝึกฝนตัวเองอย่างหนักจนเป็นคนที่เก่งและมีความรู้เรื่องปลาเธอพยายามมาทั้งหมด12ปีจนได้เลื่อนตำแหน่งเป็นพนักงานประจำและเป็นหัวหน้าคอยไปตรวจสอบซูปเปอร์อื่นๆที่มีหลากหลายสาขาเรื่องการหั่นปลาและให้ข้อมูลกับลูกน้องเรื่องปลาอย่างถูกต้อง 🙋🏼
แต่เธอก็ถูกกดดันจากหัวหน้าอีกที 😂มีปัญหากับการที่หัวหน้าชอบดุชอบด่าเธอ เธอเป็นทุกข์และปรึกษาใครไม่ได้ จึงทำให้เธอตัดสินใจลาออกในที่สุด หลังจากนั้นเธอก็ได้ตัดสินใจไปเรียนต่อที่ปนะเทศไอซ์แลนด์เพราะอยากเปลี่ยนเส้นทางชีวิตบ้าง และแล้ววันหนึ่งเธอก็ได้เล่นแชทในอินเตอร์เน็ตจึงได้เจอกับสามีของเธอซึ่งเป็นชาวอังกฤษและก็ได้ตัดสินใจแต่งงานกัน เธอจึงไปใช้ชีวิตอยู่ที่อังกฤษ👰🇬🇧
ทีนี้ด้วยความที่เธอพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้มีปัญหาในการสื่อสาร อยู่ๆเธอก็ป่วยทางจิตใจเป็น引きこもりฮิคิโคโมริ คือไม่ออกจากบ้าน รู้สึกหวาดระแวงกลัวไปหมด เป็นแบบนั้นอยู่3เดือนอยู่แต่บ้านไม่ยอมออกไปไหน จนมาวันหนึ่งเธอรู้สึกว่าต้องต่อสู้กับความรู้สึกนี้ให้ได้ 🙅เธอนึกถึงสมัยที่เคยทำงานเกี่ยวกับร้านปลาเธอมีความรู้เรื่องปลา เลยลองเข้าในอินเตอร์เน็ตแล้วหาคำว่า fish store london และบังเอิญมากๆที่มีร้านขายปลาเปิดรับสมัครพนักงานอยู่ เธอจึงตัดสินใจไปสัมภาษณ์😉
และวันที่สัมภาษณ์ก็มาถึงเธอไปถึงที่ร้านเพื่อสัมภาษณ์แต่เจ้าของร้านบอกว่ายุ่งมากเลยให้เธอช่วยทำงานหน่อย เธอจึงไม่ได้สัมภาษณ์และช่วยงานร้านปลาไป และเจ้าของร้านก็ได้บอกเธอว่าให้มาทำงานได้เลย😇😂
ทางรายการไปถามเจ้าของร้านว่าทำไมถึงรับเธอเข้าทำงานทั้งๆที่ยังไม่ได้สัมภาษณ์ เจ้าของร้านบอกว่าดูจากการทำงานเอาเลยรู้ว่าเธอเก่งเรื่องปลาและมีใจรักจริงๆ😋
และจากวันนั้นมาจนถึงวันนี้เธอก็ยังทำงานร้านปลาที่อังกฤษเป็นหัวหน้าและมีลูกน้องแล้ว และใช้ชีวิตที่อังกฤษอย่างมีความสุข ที่แอดนำเรื่องนี้มาเล่าเหตุผลเพราะคุณยูกะเคยตัดสินใจจะวางมือจากเรื่องปลาเพราะมีปัญหากับที่ทำงานและคิดว่าจะไม่ยุ่งเรื่องปลาอีก ฝั่งใจที่โดนหัวหน้าด่าจนทำให้ตัวเองลาออก แต่ตอนนี้เธอประสบความสำเร็จในเส้นทางชีวิตของเธอเพราะเธอมีความรู้เรื่องปลา และทำลายกำแพงความรู้สึกนั้นไปแท้จริงแล้วเธอรักปลามากแต่แค่เสียใจกับคำพูดเจ้านายตอนนั้น และเธอก็เอาชนะโรคฮิคิโคโมริได้โดยการที่เธอตัดสินใจเดินออกจากบ้านมาสมัครงาน ถึงแม้ว่าตอนนั้นภาษาอาจจะไม่ได้แต่มันอยู่ที่ความกล้าและความตั้งใจ☺😬
แอดฝากเรื่องนี้ไว้และเป็นกำลังใจให้คนที่อาจจะเจอปัญหาคล้ายๆคุณยูกะนะคะ ขอบคุณที่อ่านจบค่ะ ไว้พบกันใหม่จ้า🙏🏻💕☺✨❤❤
https://www.facebook.com/Lovejapanlife/posts/478509628974954
กูรู้สึกแย่ว่ะ...เอางี้เลยนะเว้ยคือแบบชีวิตกูแม่งเหี้ยว่ะ...กูไม่มีแม่ คือกูเป็นลูกเมียน้อยอ่ะ พ่อกูมีเมียก่อนอยู่แล้วแล้วเขาก็ไม่มีลูกเขาเลยมีแม่กู เพราะอายุห่างกันมากเกินไปบวกปัญหาเรื่องเงิน แม่แท้ๆของกูก็เลยทิ้งพ่อไป พ่อกูก็กลับไปหาแม่ใหญ่ คือแม่ใหญ่เขาก็ดีกับกูมากเว้ย เขารักกูมาก สัสรักกูอย่างกับคลอดกูมาเอง จนบางครั้งกูยังรู้สึกผิดเหี้ยๆเลย ผิดที่เกิดมา กูรู้สึกกูเป็นเสี้ยนหนามในชีวิตเขาเลยแต่เขากลับไม่คิดแบบนั้น เมื่อก่อนตอนกูเป็นเด็ก กูก็ไม่ชอบแม่ใหญ่หรอก กูคิดว่าเขาไม่ใช่แม่กู พ่อกูก็ยังไม่เข็ด ยังไม่พอเขาก็ยังมีคุยกับผู้หญิงอื่นบ้าง ตอนนั้นกูก็สนับสนุนเพราะ 1. กูไม่ชอบแม่ใหญ่ 2. กูอยากให้พ่อแก้แค้นผู้หญิงทุกคน แต่พอกูโตขึ้น พ่อกูก็เลิกพูดกับกูเรื่องผู้หญิงพวกนั้น กูเริ่มคุยกับแม่ใหญ่และสนิทใจกันมากขึ้น กูเริ่มเรียนรู้และประทับใจในสิ่งที่แม่ใหญ่ทำให้พ่อและกู แต่พ่อกูไม่คิดงั้น กูนึกว่าเขาจะหยุด เขากลับไม่หยุด มันไม่ใช่แค่คุยอย่างเดียวเหมือนที่กูเข้าใจในสมัยเด็ก มันเกี่ยวกับเรื่องเซ็กส์ ซึ่งกูรับไม่ได้ กูเคยบอกให้พ่อกูหยุด แต่พ่อกูก็หยุดไม่ได้...กูเสียใจ เกลียดการกระทำนี้ของเขามาก กูอยากจะไปจากเขาแต่ก็ทำไม่ได้ วันหนึ่งกูได้รู้ข่าวว่าพ่อกูป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่ได้ เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง กล้ามเนื้อทุกส่วนจะค่อยๆลีบไปจนหมด ถึงกูจะเกลียดการกระทำของเจาแต่กูก็ไม่เคยเกลียดเขา กูอยากอยู่กับเขาไปนานๆ....กูปรับปรุงตัวเอง ไม่เถียงเขา คอยดูแลเขา เพราะโรคห่านี่ทำให้เขาหงุดหงิดเขาก็มาลงที่กู ที่แม่ใหญ่ กูไม่รู้ว่าที่เขาหงุดหงิดเป็นเพราะอะไร เป็นเพราะเขาไปหากิ๊กเขาไม่ได้หรือเหี้ยอะไรกูก็ไม่รู้ บางทีกูก้อยากรู้ว่าที่เขาด่ากู หาว่ากูไม่ดูแลเขา กูอยากรู้ว่าลองให้เขาไปหาอีตัวพวกนั้นดู ดูสิว่าพวกแม่งจะอยากดูแล ตาแก่ที่ไม่มีเหี้ยอะไรเลยไหม? กูก็แค่สงสัยว่าทำไมกูต้องมาทำด้วย เออ กูรู้กูเป็นลูกเขา มันเป็นหน้าที่ กูรู้ว่าเขาอาจจะอยู่กับกูได้ไม่นานกูเลยต้องทำทุกวันให้ดีที่สุด แต่เขาก็ต้องร่วมมือช่วยกับกูป่ะวะ คือเขาป่วยทุกคนก็ป่วยเว้ย คือสัสคนในบ้านประสาทจะแดกครบกันทุกคนแล้ว แล้วนี่กูแค่ 18 เองนะเว้ย ชีวิตเหี้ยอะไรวะ ทำไมกูต้องมาเจอชีวิตแบบนี้? แม่ก็ทิ้งไปมีผัวมีลูกใหม่ พ่อกุก็ไม่รู้ไปไข่ไว้ที่ไหน แล้วยังจะป่วยอีก....กูรู้สึกแย่ว่ะ...คือแบบสัส ปรึกษาใครก็ไม่ได้ บางทีกูก็คิดนะ ตายเลยง่ายกว่าไหม? คือกูก็แค่อยากระบายว่ะไม่มีอะไรมากหรอก ขอบคุณโม่งทุกคนที่รับฟัง
>>520 สู้ๆนะ อยากจะพิมพ์มึงๆกูๆให้เนียนไปกับโม่งคนอื่นบ้างแต่ก็ไม่ชิน ขอพิมพ์ธรรมดาละกัน คิดว่าพ่อเขาคงรู้สึกแย่กับตัวเองมั้งที่ต้องมานอนทำอะไรไม่ได้ให้ลูกดูแล พอเข้าใจเพราะตอนพ่อเราเป็นมะเร็งเขาก็นอนกะเตียงไปไหนไม่ได้ เขาก็ดูพาลดูอารมณ์เสียบ่นไปเรื่อยแหละ ตอนนั้นก็มีแม่ เรา กะพี่คอยดูแล ก่อนไปร.ร.ก็แวะไปป้นข้าวป้อนน้ำเขาก่อน แต่ก็ทำได้ไม่นานเพราะไม่ถึงปีเขาก็เสีย ที่เราทำได้ก็แค่ให้กำลังใจ พยายามต่อไปนะ ไม่อยากให้มานั่งเสียใจทีหลังเวลาเขาไม่อยู่แล้ว
ช่วงนี้มู้เงียบๆ ไปเลย (ก็ดีแล้วที่ไม่มีคนสิ้นหวังอะไร) แต่กูคิดถึงพวกมึงจัง กูเคยทั้งมาระบาย แล้วก็ให้คำปรึกษาในมู้นี้ .. เหงาอะ
กุด้วย ช่วงนี้เงียบทั้งบอร์ดเลย
เงี่ยนทั้งบอร์ด เอ้ยเงียบทั้งบอร์ด
http://bit.ly/1D5kbmT
เรื่องของสาวญี่ปุ่นที่นั่งเล่นเกมทั้งวัน (ที่เห็นบ่อยๆในเน็ตช่วงนี้อ่ะ) อ่านแล้วน้ำตาจะไหล ;_;
สวัสดีชาวโม่ง กูคือโม่งญที่เคยมาบ่นเรื่องเกือบถูกพี่กระทืบตายคาบ้าน พ่อแม่ยืนดูเฉยๆ แต่ญาติกูพาหนีทัน จำได้ป่ะ กูจะวนเวียนอยู่มู้นี้กับมู้ญาติพี่น้องน่ะ
กูจะบอกว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องจนถึงตอนนี้มันก็ 3 เดือนแล้ว กูคิดว่าเวลาจะช่วยกูได้แต่มันไม่ใช่เลยว่ะ ไม่รู้เพราะใกล้วันแม่หรือเปล่านะ แต่เวลากูเห็นโฆษณาเกี่ยวกับพ่อแม่ กูน้ำตาไหลตลอดเลย ช่วงนี้ก็แอบลุกขึ้นมานั่งร้องไห้เงียบๆคนเดียวทุกคืนเลยว่ะ แถมกูสติแตกง่ายกว่าเดิมอีก อย่างเมื่อเช้าทำกับข้าวแล้วกระปุกกระเทียมที่กูสับเก็บไว้มันหล่น กระเทียมกระจายเต็มพื้น แค่นี้กูก็สติแตกแล้วว่ะ กูเช็ดพื้นไปด้วยร้องไห้ไปด้วย แล้วก็ด่าไป ด่ามันทุกอย่างที่กูจะด่าได้ แล้วทุกครั้งกูก็จะคิดว่า ถ้าวันนั้นกูเดินไปเอามีดในรถมาจามหัวให้พี่เหี้ยๆของกูตายได้ก็ดีสิ... กูคิดแบบทุกครั้งเลยว่ะ
สรุป เวลาไม่ช่วยกูเลยจริงๆ กูไม่กล้าเริ่มทำงานจริงๆนะ กูกลัวกูไปสติแตกหรือเผลอเอามีดไปจามหัวคนอื่นว่ะ
>>528 //กอด
ลองวิธีกูมั้ย คือพอเริ่มรู้ตัวว่าคิดอะ ฮึบเลยเว้ย นับหนึ่งถึงสิบไม่เกินนั้น
แล้วมึงไปหาอะไรที่เป็นงานอดิเรกใช้สมาธิมากๆทำ (เคสกุก็วาดรูป เล่นดนตรี)
สัก สิบห้านาที กูว่ามันช่วยลดความฟุ้งได้เยอะอะมึง เอาใจไปจดจ่อกับอย่างอื่นเยอะๆ
หรือจริงๆ ในความเห็นกู เรื่องงานงี้ มึงหางานที่ต้องใช้ ความคิด หรืออะไรงี้เยอะๆไปทำเลยก็ได้นะ เอาที่ทำแล้วสนุกหรืออยากลองทำอะ
สำหรับกูมันเบี่ยงเบนความสนใจได้ดี เหมือนแทนที่จะโฟกัสเรื่องที่ทำให้เฟลจัดๆ ก็เอาไปโฟกัสเรื่องงาน
แล้วมันทำให้ต้องบังคับตัวเองออกไปข้างนอก ไปเจอนั่นนี่ เจอคนอื่น ด้วย ก็เลยไม่ต้องมานั่งฟุ้งคนเดียวเยอะๆว่ะ
ถ้ามึงรู้ว่าอะไรกระตุ้น ก็พยายามเลี่ยงไว้
คือมันดูเหมือนหนีน่ะเนอะ
แต่ถ้ามึงไม่พร้อมที่จะเผชิญแล้วมันรบกวนมึงมากๆ มึงก็เลี่ยงๆบ้าง อย่าไปโหดกับตัวเองมาก
เวลาระเบิดไปแล้วอะไรก็ไม่ต้องไปเฟลกับมันมากเว้ย ปกติ มันก็ต้องมีขึ้นๆลงๆ ว่ะ
ถือว่าโอเค ระบายออกมา ไม่ต้องไปพยายามเก็บมันเอาไว้ตลอดก็ได้
กุว่า สำคัญที่ตอนนี้อย่างน้อยมึงก็รู้ตัว ก็คอยเตือนๆตัวเองเท่าที่ทำได้ ว่าอย่าไปจมกับมัน มันไม่ทำให้อะไรดีขึ้น
คือให้รู้ตัวว่า เศร้า สติแตก จะดีมากถ้ามึงมานั่งค่อยๆคิดว่าทำไม เกิดขึ้นได้ยังไง ตอนหลัง จะได้เลี่ยงๆการทำให้มันเกิดอีก
เดี๋ยวมันก็ดีขึ้นนะเว้ย เชื่อในตัวเองหน่อย
เรื่องใครชวนไปไหนก็ดูดีๆล่ะ ระวังโดนล่อลวง 55
ถ้าหาที่ไปไม่ได้จริงๆก็เข้าวัดบวชชีโลด แต่เลือกวัดด้วยนะว่าเอาใกล้หรือไกล
>>533 >>534 ญาติกูไม่ให้ไป มันกลัวไม่มีใครอยู่กับมัน = =" ตรงนี้กูก็ห่วงมันเหมือนกัน ถ้ามึงจำที่กูเคยเล่าๆมาได้ ญาติกูมันพวกมีอะไรไม่บอกใคร ขนาดกับกูว่าสนิทๆยังบอกไม่หมดเลย แล้วบ้านมันก็เหี้ยพอกับบ้านกู ดูทรงก็ใกล้ระเบิดแล้วล่ะ กูเคยแซวขำๆว่าคนจะบวชดันไม่ให้บวช มารผจญอ่าาา มันน้ำตาซึมเลย มันบอกว่ามันไม่เหลือใครที่เข้าใจมันแล้ว เหลือแต่กูคนเดียว กูงี้ตกใจเลยว่ะ
>>535 ไปแล้วจะมีผลกับอาชีพการงานที่กูจะกลับไปทำสักวันนึงมั้ยวะ งานราชการอ่ะ
>>536 กูรู้ว่ากูคงทำไม่ได้หรอก 555 แต่เออ ขอบใจว่ะ ตอนนี้กูตั้งเป้าไว้ว่า ทำกับข้าวอร่อยๆให้ญาติกูแดกแล้วไม่ด่าเป็นพอ ซึ่งตอนนี้ฝีมือกูพอไหวแล้ว แต่ยังทำได้ไม่เยอะ สักวันถ้ากูมีผัวสักคน ผู้โชคร้ายคนนั้นไม่อดตายแน่นอน 555
>>537 เรื่องไปหาจิตแพทย์
เวลาถามแบบนี้ก็ชอบมีความเห็นทั้งสองทาง
กูว่าง่ายสุด มึงอย่ามัวลังเลเลย ไปหาหมอซะ ถามเขาเองเลยว่าจะมีประวัติกับหน้าที่การงานมึงมั้ย ถ้ามึงต้องการทำงานราชการ
เคยมีใครไปสมัครราชการไม่ผ่านเพราะเคยมาหาเรื่องซึมเศร้ามั้ย แล้วถ้าหมอบอกหายแล้วจะไปสมัครได้ไหม
ถามๆเขาให้มันจบๆไป ดีกว่ามารอฟังความเห็นคนในเน็ตนะ
พวกมึงงง กูยังไม่ได้ไปหาจิตแพทย์เลยว่ะ เมื่อวานกูคุยกับญาติกู ขอไปหาหมอ มันด่ากูเลย บอกว่ากูคิดไปเองว่าป่วยทางจิต ถ้าไม่คิดก็ไม่เป็น ให้ดูคนพิการ คนที่ลำบากกว่าเราสิ ทำไมเค้าทำได้ บลาๆ สรุป กูถูกสั่งห้ามไม่ให้ไป ทั้งที่กูพยายามบอกว่า กูเริ่มไม่ไหวแล้ว
คืองี้ ช่วงนี้มีข่าวพี่สิงห์ฆ่าตัวตาย เลยมีบทความให้ความรู้เยอะมาก กูอ่านแล้วเช็คกับตัวเอง มันตรงว่ะ
- ไม่มีความหวังในชีวิต
- ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม เพื่อใคร
- พยายามคิดหรือทำการฆ่าตัวตายบ่อยๆ
กูคงบ่นอะไรให้ญาติกูฟังไม่ได้อีกแล้วล่ะ คงต้องมาระบายในนี้เอา กูพยายามคิดในแง่ดีว่า ที่กูสติแตกง่ายอาจเพราะใกล้วันแม่ เจอโคนาวันแม่เยอะจนทำให้นึกถึงวันที่เกือบตายคาบ้านก็ได้มั้ง
541 กุแอบไปหาเอง ก็โอเคนะ ช่วงเครียดๆก็ดีขึ้น แต่ยาแพงฉิบหายยยยยยย
แอบไปหาดิ มึงตัวติดกับญาติเหรอ ค่ายาน่าจะประมาณพันสองพันแล้วแต่อาการระยะเวลา
สายด่วนแม่งห่วย โทรไปแล้วนางบอกถ้ายังไม่อยากฆ่าตัวตายถือว่าไม่เป็นไร สึส
>>542 ไอ้สัส ลั่นเลย 555555555
>>543 >>544 ต้องบอกญาติกูเพราะเรื่องเงินนี่แหละ กลัวเงินกูเองไม่พอ กะลากมันไปด้วย ไม่พอก็ขอมันได้ไง
>>545 ตามที่ >>546 บอกแหละ หาข้อมูลในอากู๋เห็นมีบ่นแนวๆนี้เหมือนกัน
สรุป กูคงพักตัวไม่ได้อีกแล้วมั้ง ในเมื่อกูไม่ได้รักษา กูก็คงต้องพยายามลุกขึ้นไปใช้ชีวิตตามปกติให้ได้สินะ เฮ้อ
เออ ขอวกเข้าเรื่องกามๆหน่อยสิวะ เวลามี sex มันจะรู้สึกผ่อนคลายใช่มั้ย ถ้ามีบ่อยๆแล้วกูจะดีขึ้นป่ะ กูพยายามคิดเองว่า ร่างกายผ่อนคลาย ปลดปล่อย แบบที่เห็นในโดโป๊ คลิปโป๊แล้ว mildbreak หัวโล่ง ไรงี้ พวกมึงคิดว่าไง?
ใครเคยโดนกดดันจากความหวังดีของพ่อแม่บ้างวะ คือเรื่องของเรื่อง กูได้ทุน แล้วต้องเตรียมสอบเข้าม.ต่างประเทศ ทีนี้แทนที่กูจะเคร่งอยู่กะการเตรียมสอบอย่างเดียว กูดันมาทำงานแล็บให้อาจารย์(จะทำส่งเปเปอร์เพราะสัญญากันไว้แล้ว) กะสอนพิเศษ ทีนี้พ่อกะแม่ชอบโทรมาถามว่ายังทำงานที่แล็บอยู่อีกเหรอ หรือยังสอนพิเศษอยู่อีกเหรอ ก็เข้าใจอ่ะว่าหวังดี อยากให้กูโฟกัสกะการสอบ แรกๆก็เฉยๆ แต่พอโดนถามบ่อยๆเข้า เหมือนประมาณว่าทำไมกูยังไม่เลิกทำพวกนี้ กูเริ่มเครียดว่ะ กูอยากให้เค้ารู้นะว่ากูจัดการได้ กูไหว ที่กูทำควบทุกอย่างเพราะแม่งต่อให้กูว่างจัดกูก็เตรียมสอบเท่าเดิมอ่ะ เซ็งๆๆๆ
>>553 ก่อนอื่นเลยยินดีด้วยนะมึงที่ได้ทุน เก่งมากๆ แต่เรื่องจัดการตัวเองได้หรือไม่ มึงต้องอธิบายให้เขาฟังดีๆ อะ ว่าจัดการได้นะ ถึงไม่ได้ทำแล็ปก็เตรียมสอบเท่าเดิม คุยให้เค้าเข้าใจแล้วตบท้ายว่าขอบคุณที่เป็นห่วงมึง แต่ถ้าไปต่างประเทศมันอาจจะเจอเรื่องยุ่งยากกว่านี้ ก็ลองให้มึงได้ทำซะตอนที่อยู่ไทยนี่แหละ
กูขอระบายหน่อยคือกูรู้สึกกูต้องพัฒนาตัวเอง ต้องออกจากcomfort zone ต้องหาความรู้ต้องแก้ไขไอ้ความเหี้ยตัวเอง คือกูรู้แต่...กูดันตัวเองออกไปไม่ได้ กูทั้งกลัวทั้งไม่อยาก กูไม่มีแรงจะดันตัวเองออกไป ยิ่งกูอ่านพวกความเห็นเกี่ยวกับcomfort zoneเอย การไปถึงความสำเร็จ การต้องหาประสบการณ์ กูยิ่งรู้สึกแย่ กูรู้สึกแย่มาก กูรู้ตัว กูรู้ แต่กูก็ทำไม่ได้ กูไม่อยากแต่ก็รู้ว่าอยู่แบบนี้ตลอดไม่ได้ กูจะต้องไม่ใช้เด็ก กูต้องลองอะไรใหม่ๆ แต่กูก็ไม่กล้า ไม่กล้าเลย มันน่ากลัวมาก
>>556 มึงสามารถพัฒนาตัวเองระหว่างอยู่ในcomfort zone ได้มั้ย
กูก็คล้ายๆมึง ทำงานมา2ปีและ เงินเดือนน้อยแต่งานสบาย ตอนแรกกูเคยคิดจะรีบลาออกแต่ก็ติดตรงที่ไม่รุ้จะไปสมัครใหม่ที่ไหน แถมงานเก่าก็สบายเหี้ยๆ ทำงานจริงวันละ 5 ชั่วโมง แถมงานก็ไม่หนัก มีนอนพักระหว่างงานได้อ่ะมึง
แต่กูก็รู้ตัวว่าจะอยู่ที่นี่ตลอดไม่ได้(แม่งดีทุกอย่างยกเว้นเงินเดือนตัวเดียว) กูเลยจะหางานใหม่ ระหว่างไม่ลาออกก็พัฒนาตัวเองเรียนภาษา ติวTOEICเตรียมหางานใหม่ พอเราพร้อมแล้วก็ลาออกแม่งเลย
จิตแพทย์ไม่ได้มีจรรยาบรรณทุกคนหรอก ก็เหมือนคนทั่วไปแหละ มีดีมีชั่ว มีปากเปราะปากหนัก กูนี่แหละเคยไปพบหมอ หมอแม่งเม้าคนรู้จักกูซึ่งบังเอิญเป็นคนไข้อีกคนให้ฟังเป็นฉากๆ จนกูรู้แทบทุกอย่างในชีวิตคนคนนั้นแล้ว กูอยากจะทักท้วงมากเลยว่ามันไม่ผิดจรรยาบรรณรึไงวะ แต่ไม่กล้าพูด กูเด็กด้วย แต่ถ้าคิดอีกแง่ก็อย่าได้แคร์ เกิดเป็นคนก็โดนเม้าโดนนินทากันทุกคนอยู่แล้ว แต่สังคมไทยชอบคาดหวังกับหมอสูงเกินไป จรรยาบรรณสมัยนี้หายาก
กูอยากลองแกล้งฆ่าตัวตายว่ะ กูรู้สึกว่าทุกคนกดดันกู ถ้ากูแกล้งทำเป็นจะตาย เขาจะเลิกกดดันกูป่ะว่ะ
ตอนนี้เหนื่อยและสิ้นหวังมากๆเลยว่ะ แต่ไม่ใช่เรื่องชีวิตกูนะ เป็นชีวิตแฟนกูที่เป็นซึมเศร้า เล่าย่อๆมันเกิดจากครอบครัวมันเป็นแนวพ่อแม่รังแกฉันว่ะ ต้องทำตามที่พ่อแม่หวัง เรียนให้จบได้งานดีๆให้พ่อแม่ไปอวดชาวบ้านอวดญาติๆได้สบาย ทีนี้ก็ยังเรียนไม่จบเพราะทำตัวจบไม่ผ่านไง พอล้มแรกมันก็ไม่กล้าทำอะไรต่อแล้ว ก็มาได้กูที่มันรักกูอยู่ มีกูไว้ว่าเวลาเครียดอะไรก็มาลงกับกูหมดไง กูก็สงสารนะก็เลยคบ กูก็พยายามช่วยมันพูดอะไรปลอบบ้าง พาไปหาจิตแพทย์บ้าง แต่ผลคือก็ไม่ได้ดีขึ้น พอหัวข้อไม่ผ่านก็ดรอปเลยไม่สู้ กูพอเข้าใจนะว่าเครียด+กับอารมณ์ทำงานไม่ปกติก็เลยตัดสินใจได้ไม่ดี แต่สุดท้ายคนที่ฟังคือใคร ก็กูไง ก็เอามาบ่นให้กูฟัง เรื่องพ่อแม่ประสาทแดกอยากให้มันเรียนจบซักที ฯลฯ ทีนี้กูก็ไม่ได้ทำงานดีๆอะไรรับจ้างไปวันๆ ก็มีกลุ่มเพื่อน กูก็เคยโดนด่าโดนต่อว่าที่ไปกินข้าวกับเพื่อน ไม่ชอบเพื่อนกลุ่มนี้ กูก็ต้องวางกำแพงจากคนอื่น กูก็ไม่อยากเล่าไงว่ามีแฟนแบบนี้ โคตรรรขี้ปากคนอื่นเลย แถมเดี๋ยวใกล้กูมากก็พลอยซวยอีก อยากมีงานดีๆกว่านี้ทีไรกูก็ต้องนึกไปว่า ถ้าเกิดมีเพื่อนร่วมงานมันจะซวยเพราะแฟนกูมั้ย ทำงานไกลๆอย่างต่างประเทศนี่อย่าหวังเลย เพราะขู่ไว้พร้อมว่ามันจะฆ่าตัวตายถ้ากูไป ทำไมกูสิ้นหวังจังวะ แล้วมีกูอยู่กูทำอะไรได้บ้างนอกจากนอนกับมัน นอกนั้นแนะนำเหี้ยอะไรก็ไม่ได้ก่อผลอะไรเลย กลับมาแย่เหมือนเดิม กูเหนื่อยมากๆเพราะนี่คือปีที่สามแล้วที่กูเจอสภาพแบบนี้ กูก็คิดนะคงเป็นเพราะกูดูแลมันไม่ดีเองด้วย กูน่าจะอยู่ด้วยตอนที่มันจะไปเจอปัญหา ควรตามประกบ แต่เอาจริงๆนะ ฝันไปเถอะ ทำไมกูต้องทิ้งงานทิ้งรายได้มาให้คนไม่ได้เรื่องนี่ด้วยวะ กูยังคิดอยู่ว่ากูทำงานเผื่อตั้งตัวจะได้อยู่ด้วยกัน แต่กูรู้สึกไม่ไปไหนเพราะมี**นี่มาถ่วงนี่แหละ ไม่รวมปัญหาส่วนตัวกูอีก ตอนนี้อยู่ห่างๆกันแล้วเพราะเปลี่ยนที่ทำงาน แต่ก็โทรมาทุกวันนานๆเจอกันที แต่ช่วงนี้ที่แย่เพราะเปิดเทอมแล้ว กูก็ต้องฟังมันบ่นโดยที่กูทำอะไรไม่ได้เลย ฟังมันอยากฆ่าตัวตายกูก็ได้แต่ภาวนาให้ตายๆไปเลยก็ดี ถึงกูจะกลัวว่าตายไปแล้วยังจะแม่งเป็นเสนียดวิญญาณติดกูก็ตาม ทำไมกูสิ้นหวังจังวะ
ที่เขียนมานี่เล่าไม่หมดหรอก ไม่เว้นบรรทัดด้วย กูแค่อยากระบาย แต่กูอยากเตือนแค่ว่าใครเป็นซึมเศร้ามึงไม่ต้องรักใครนะ มันจะทุกข์กันทั้งคู่แบบกูนี่แหละ มึงหันไปทำตัวเองให้ดีก่อนไปรักใครดีกว่า บ้านใครเป็นแนวพ่อแม่รังแกฉันมึงไม่ต้องไปทนนะ ออกมาเลย อย่ามาอดทนให้เป็นตัวถ่วงชีวิตเหมือนแฟนกู
ขอบคุณที่ฟังกูบ่น
>>560 แล้วพอคนอื่นรู้ว่ามึงแกล้งฆ่าตัวตาย มึงจะรับความกดดันหลังจากตรงนั้นต่อได้ไหม นั่นแหละ คิดดูก่อน
>>561 เรื่องของมึงฟังดูน่าสิ้นหวังกว่าแฟนมึงอีกนะ เท่าที่อ่านมาก็ขอใช้คำพูดตรงๆ เลยว่าถ่วงความเจริญ เข้าใจนะ ว่าตอนเป็นมันแย่จริงๆ แต่มันก็มีอยู่ปลายประเภท พอรู้ว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้าก็จมดิ่งอยู่กับมัน หาข้ออ้างในการทำนั่นนี่ว่า ก็ตัวเองเป็นโรคซึมเศ้ราๆๆ กับพวกที่พยายามออกมาจากตรงนั้น (คือกูเคยเป็นโรคซึมเศร้า รับยาด้วยพักนึง แต่ที่เริ่มมาเป็นปกติได้เพราะต้องการละทิ้งจากสิ้งนั้นๆ หาอะไรเบี่ยงเบนความสนใจจนตัวเองดีขึ้น) คือคนเรามันจะมีพวกอยากเอาชนะกับขี้แพ้แหละ ไอโรคซึมเศร้านี่ก็ด้วย แต่ถ้ามองด้านมัน มันคงเห็นมึงเป็นที่พึ่งสุดท้าย มีอะไรก็มาระบายกับมึงหมด โดยที่ไม่ได้เห็นใจมึงเลย ก็ลองคิดดู ว่าจะเดินออกมามั้ย หรือจะเว้นระยะห่างไว้ก่อน
มึง นี่ไม่ใช่เรื่องกูนะ เป็นเรื่องของเพื่อนกู คือมันอะโดนพ่อแม่กดดันแบบกดดันมากๆ อย่างไม่ให้เล่นคอมเลยซักวันไรเงี้ย เวลากลับมาบ้านก็ต้องอ่านหนังสือ อ่านเสร็จแล้วค่อยทำการบ้าน ไม่ว่าจะเป็นงานด่วนแค่ไหนก็ต้องอ่านหนังสือก่อน เวลาเครียดเวลาสิ้นหวังหรืออะไรห้ามร้องไห้เพราะน้ำตาไม่ได้ช่วยอะไร ประมาณจะต้องลุกขึ้นมาทันทีถึงแม้จะโดนเหล็กเสียบขา ถ้าอยากออกไปเที่ยวนอกบ้านบ้างก็ออกไม่ได้เพราะพ่อแม่ห้าม เวลาพ่อแม่เครียดเรื่องอะไรมาก็จะมาลงที่มัน
กูโคตรสงสารมันเลยอะ คือมันต้องอยู่กับสภาวะอย่างนั้นตลอดเลย แต่เพราะอยู่อย่างนั้นมานานแล้วไม่เคยหืออืออะไรมากไง ที่มันมาพูดๆกับกูนี่ก็เลยเป็นแค่การระบาย แต่สำหรับกู กูไม่อยากให้มันต้องเจอแต่อะไรแบบนี้อะ ครอบครัวคืออย่างแรกที่เราจะต้องเจอในชีวิตและคงจะเป็นสิ่งที่อยู่ในใจเราไปอีกนาน อย่างน้อยๆกูก็อยากให้พ่อแม่เขาฟังปัญหาลูกเขาบ้างอะ ไม่ใช่สักแต่ว่าโดยไม่มองอะไรอย่างนี้ ปัญหามันไม่ได้คลี่คลายเลย มีแต่ความรู้สึกที่แย่ลงไปกว่าเดิม กลัวมันจะเป็นโรคซึมเศร้าเนี่ย เฮ้อ
ปล.กูเคยวางแผนไว้นะ ว่าถ้าเจอพ่อแม่เขาแล้วจะพูดชมลูกเขา เพราะดูเหมือนเขาจะดีใจถ้าเห็นว่าลูกตัวเองทำอะไรได้น่ะ แต่ทำแบบนี้มันต้องใช้เวลานานหน่อย กูก็เลยพยายามสร้างสภาพแวดล้อมที่น่าจะทำให้มมันสบายใจขึ้นมาก่อนน่ะ เฮ้อ
ว่าแต่ใครพอมีอะไรแนะนำกูได้มั้ยว่ากูจะช่วยมันอะไรมันยังไงดี
>>564 ถ้าวัยรุ่นวัยทำงานแล้วก็ทำงานพิเศษ เก็บเงิน ย้ายไปอยู่หอ
ถ้ายังวัยเรียน สอบให้ติดต่างจังหวัด เลือกที่ที่มันดีหน่อยจะได้มีข้ออ้างให้ย้ายออกได้
ให้เดานะ เพศหญิง บ้านมีเชื้อจีนป่าว ถ้าใช่ก็เจอกันมาหมดแหละมั้ง น้องพี่เรียนจบหมอทำงานอยู่สามจังหวัดชายแดนใต้มาหลายปี พอย้ายกลับมากรุงเทพฯจะไปเซเว่นปากซอยตอนสองทุ่มที่บ้านยังไม่ให้ไปเลยเหอะ
>>568 บางบ้าน ทำแบบนั้นเท่ากับตัดขาดพ่อแม่ ซึ่งบางคนก็ไม่อยากทำ มันมีพ่อแม่ที่คิดแบบนั้นก็มีนะ
>>564 กูเคยเป็นคล้ายๆเพื่อนมึง ประเด็นคือมันอยู่ที่ว่าเจ้าตัวอยากทำอะไรกับตัวเอง
ถ้าคิดจะขัดขืน ก็ต้องยอมแลกโดนดุด่าบ้าง เป็นปกติ แต่ถ้าเรื่องมันไม่ร้างแรงมาก ทำบ่อยๆ พ่อแม่เขาก็จะเริ่มชินเอง มีก้าวแรกก็มีก้าวต่อไป
แต่อยากให้ลองคุยกะเพื่อนมึงให้ดี คิดดีๆว่า เกณฑ์ไหนที่รับได้ รับไม่ได้ อย่าให้มันเลยเถิดร้ายแรงขึ้นมา
ไม่ก็ยอมอดทนที่บ้านไป ไปส้รางสภาพแวดล้อมใหม่ (เช่นกลุ่มเพื่อน) ที่มีอิสระหน่อย
กูมีปัญหาชีวิตที่ไม่ค่อยอยากเล่าเท่าไหร่แม่งเยอะเกิน คือตอนนี้กูเหมือนเสพติดความเศร้าความสิ้นหวังว่ะ
กูรู้ตัวเองว่ากูเครียดมากกว่าแต่ก่อนเยอะ ที่เรื่องส่วนใหญ่กูต้องเก็บไว้คนเดียว มันเป็นปัญหาที่ตัวกูเอง
ทุกวันนี้ออกไปข้างนอก เรียน หรือตอนกำลังนั่งดูหนังอยู่บ้าน อยู่ๆกูก็รู้สึกอยากหยุดทุกอย่างแล้วกลับไปนั่งเหม่อนั่งร้องไห้ในห้องตัวเองต่อ
เหมือนมันเป็นช่วงที่กูรู้สึกดีที่สุดในวันๆนึง ยิ่งกูเป็นหนักขึ้นเรื่อยๆด้วย กลัวเป็นโรคซึมเศร้าชิบหาย
>>570 กูว่ามึงเข้าขั้นแล้วล่ะ ถ้ามันเริ่มควบคุมไม่ได้และรบกวนชีวิตประจำวัน มึงก็ควรหาทางแก้ไขนะ
ส่วนใหญ่กูเห็นเพื่อนที่เป็นหนักๆก็จะฟีลคล้ายๆมึง
คือรู้สึกว่าตัวเองต้องเก็บปัญหาไว้คนเดียว เป็นเรื่องของตัวเอง ไม่อยากให้รบกวนคนอื่น
ถ้ามึงไม่อยากหาที่ระบายกับคนอื่น
จริงๆไปหาจิตแพทย์ ระบายกะแม่งก็ได้ไงแม่งก็ไม่ได้รู้จักมึงอยู่ละ
พวกเว็บแชทระบายจบก็แยกทาง ไม่ก็ ไดอารี่ ก็โอเค
ประเด็นคือ ปัญหาของมึงบางทีพูดๆออกมามันได้ reflect(?) ตัวเอง
คือลองผลักให้ปัญหาของมึงเป็นมุมมองของบุคคลที่สามดู มันจะตัดอารมณ์อะไรๆออกได้เยอะ และมีสติมากขึ้น
พอฟังตัวเองพูดมันก็จะรู้สึกว่า "อ่อ ปัญหามันก็มีทางแก้นะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่ขนาดนั้นในบางที"
แล้วก็อยากให้ลองหางานอดิเรกทำดูสักสองสามอย่าง
เวลาที่มันฟุ้งมากๆจริงๆ จะได้หลุดออกมาได้บ้าง
คือกูว่าส่วนนึงที่มึงร้องไห้แล้วมึงแฮปปี้ คือมึงได้ระบายออกมานั่นแหละ
กูเลยอยากให้มึงลองทบททวนแล้วดีลกับอารมณ์ตัวเองดู ทำให้มันชัดเจนไปเลยว่าตกลงเป็นอะไร จะได้จัดการมันถูก
มันไม่ผิดนะที่มึงจะเศร้า อึน แต่ก็อยากให้คิดว่ามึงจมอยู่แบบนั้นไม่ได้อะแหละ ชีวิตมึงยังมีอะไรให้เจออีกเยอะแยะ
//ปล. บอร์ดโม่งนี่ก็ใช้ได้นะ กูชอบมาโพสบอมบ์ไว้ ล็อกอินใหม่ไอพีก็เปลี่ยนละ
เซ็งวะเพื่อนโม่ง มีใครเป็นแบบนี้บ้างวะ
พ่อแม่ไม่ทำมาหากินบ้าง แล้วพอไม้มีเงินก็อ้างนู้นนี้
กูอยากจะเลิกรักคนๆนึงซักทีแต่ก็ทำไม่ได้ เพราะมีสัญญาติดค้างกับเขา
สัญญากันไว้ว่าช่วงที่จบม.ปลายกูไปเรียนต่อตปท.จะมีใครก็ได้ถ้าเจอคนที่ใช่ แต่ถ้ากลับมาเจอกันยังไม่มีใครให้กลับมาคบกัน
อาจจะดูปัญญาอ่อนสัญญาอะไรเด็กๆแต่กูจริงจังมากกูไม่เคยสนใจใครเลยจริงๆรอแล้วรอเล่านานๆทีก็มี Skype กันบ้างแต่เวลาไม่ตรงกัน
มันก็คุยกันลำบากได้แค่นานๆทีจนก่อนกูจะจบป.โทก็ผ่านไป 7 ปีละ ปีสุดท้ายไม่ได้คุยกันเลยอยู่ๆก็หายไป กูก็คิดว่าเขามีใครใหม่ไปแล้ว
แต่อย่างน้อยก็น่าจะบอกกันหน่อยกูจะได้ทำใจเพราะเป็นไปตามสัญญาที่จะได้ไม่รั้งชีวิตใครคนใดไว้
แต่พอกูกลับมากูไปถามทางบ้านเขา เจอข่าวร้ายเหี้ยๆจนรับไม่ไหวจริงๆว่ะ เขาหัวใจล้มเหลวกะทันหันไม่ได้เป็นโรคอะไรด้วยซ้ำ
ตายไปตั้งแต่อาทิตย์แรกที่หายไปแล้ว กูไม่รู้อะไรเลยทางบ้านเขาติดต่อกูไม่ได้เพราะเปลี่ยนเบอร์ ไม่มีใครเล่นสไกด์เป็น
กูช๊อคว่ะไม่อยากจะทำงานห่าอะไรเลย มีชีวิตไปวันๆยังกับคุขี้แพ้นี่จะปีครึ่งแล้วกูยังไม่เลิกเสียใจเลยว่ะ เจอแบบนี้พวกมึงจะทำยังไงวะ
ทำยังไงกูก็ไม่หายกูรักมากจริงๆว่ะคนนี้ไปเล่าให้ใครฟังก็ไม่มีใครเข้าใจกู ก็รู้ว่าต้องเดินต่อไปนะ แต่กูก็เปิดใจรับคนใหม่ไม่ได้เลยว่ะ
พยายามลองไปเดทไปกินข้าวกับผู้หญิงใหม่ๆที่เข้ามาในชีวิตกู กูก็ไม่รู้สึกเหมือนเดิมเห็นแต่เรื่องสมัยม.ปลายที่เคยอยู่กับเขา
กูก็โตๆแล้วแต่ทำไมยังทำตัวเป็นเด็กยังงี้วะสมเพชตัวเองสัด
กูระบายไปหลายบอร์ดหลายช่วงเวลาแล้วมันไม่ช่วยอะไรกูเลยกูลืมไม่ได้ เคยคิดบ้าๆว่าจะบินกลับไปต่อป.เอกฟิสิกส์
เผื่อจะมีหวังได้เห็นไทม์แมชชีนคิดอะไรเด็กๆจริงๆว่ะกู ปัจจุบันแม่งไร้ความหมายจริงๆทำงานไปวันๆไม่มีเหี้ยไรอีกแล้ว
ชีวิตกูวันๆกูคิดแต่เรื่องเดิมๆทุกวี่ทุกวันอยากหายๆไปซักทีว่ะ พ่อแม่กูก็ไม่อยู่แล้วชีวิตมันจะไปมีความหมายอะไรต่อวะ
กูอยากระบายอ่ะ กูขอพื้นที่ในระบายหน่อยนะ
กูไม่เข้าใจทำไม ทุกอย่างต้องเป็นกูอ่ะ กูท้อกูเบื่อ กูรู้สึกไม่อยากทำเหี้ยอะไร แบบกูอยากพัก อยากใช้ชีวิตไปวันๆแบบชิวๆเข้ามหาลัยไปแม่งชีวิตกูไม่มีความสุขเลย ไปเช้าเย็นกลับ อิสระไม่มี เก็บตังค์หาค่าเทอมหาค่ากินค่าแดกเอง เวลาไม่เที่ยวไม่มี เวลาใช้ชีวิตวัยรุ่นไม่มี เหมือนโลกนี้ไม่มีใครเข้าใจกูมากขึ้นทุกวันๆ รู้สึกเบื่อชีวิตเหี้ยๆ วันๆเหมือนอยู่แต่ในลูปในกรอบที่กูต้องทำแบบนี้ๆๆๆๆๆ นะ แล้วผลออกมาก็ควยๆๆๆๆๆ บางทีทำงานแทบตายกว่าจะหาเงินมาแต่ละเม็ดต้องเอาไปจ่ายค่ากีฬาห่าเหวอะไรไม่รู้ กูเบื่อสังคมตอแหล เบื่อคำตอแหลจากคนรักจอมปลอม เบื่อชีวิตประจำวันของกู อยากทิ้งภาระแม่งทุกอย่าง จะว่ากูเลวก็ได้นะ กูอยากทิ้งภาระทางบ้านด้วยอ่ะบางที กูอยากอิสระ อยากอยู่สงบๆ เบื่อว่ะสัสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส ควยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ขอบคุณ.
พวกมึง กูไม่ได้รู้สึกสิ้นหวังหรอกนะแต่กูเกิดสงสัยขึ้นมา พวกมึงว่าเรามีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไรวะ
กูเห็นเพื่อนกูต้องจากบ้านมาอยู่คนเดียว เสียเงินเช่าหอโง่ๆทุกเดือน อัตคัตขัดสนแถมเหงาอีก ไม่ได้อยู่กะพ่อแม่ เงินที่หามาได้ก็เอาไปจ่ายค่าหอ ค่าน้ำค่าไฟ ค่ากินใช้ ทำไมกูรู้สึกว่าการทำงานมันว่างเปล่าจังวะ เราออกจากบ้านไปลำบากทุกวันเพื่อเอาเงินนั่นมาใช้กับสิ่งที่จะเรียกความสุขก็ไม่เต็มปาก ก็แค่ให้พอมีชีวิตอยู่ไปได้ แต่ทำไมเราต้องอยากอยู่ต่อไปวะ เพื่ออะไรวะ เราทรมาณตัวเองเพื่อให้มีชีวิตอยู่ไปทำไมวะ บ้านก็ไม่ได้กลับ พ่อแม่ก็ไม่ได้เจอ เงินที่จ่ายค่าเช่าห้องไปสุดท้ายห้องเหี้ยนั่นก็ไม่ใช่สมบัติของเราอีก เหมือนมันสูญเปล่าไปทุกๆอย่าง งั้นเราพยายามกันอยู่ทุกวันเพื่ออะไรวะ
>>587 คือกูก็มีความฝันนะ กูอยากเป็นศิลปินระดับโลก ทุกวันนี้ก็พยายามอยู่แต่ว่ามันรู้สึกว่างเปล่าไปหมดเลย ตอนวาดรูปกูก็มีความสุขดีนะ แต่งานที่ทำก็ได้เงินน้อยสุดท้ายก็มาสูญกะค่าเช่าห้องไปเกือบทั้งหมด เพื่อนกูก็เป็นแนวๆนี้เหมือนกัน บ้านก็ไม่ได้กลับ กูคิดถึงแม่ กูอยากกลับบ้าน แต่ถ้ากลับก็ไม่มีงานไม่มีเงิน สุดท้ายก็ต้องมาทนอยู่ในห้องรูหนูเหมือนเดิมเพื่อหาเงินมาจ่ายให้สถานที่ๆกูก็ไม่ได้อยากอยู่เท่าไหร่ มันแปลกอ่ะมึง กูมาเช่าห้องเพื่อทำงาน กูได้เงินเดือนมาเพื่อไปจ่ายค่าห้องที่กูไม่ได้อยากอยู่แต่จำเป้นต้องอยู่เพราะต้องทำงาน วันก็วนลูปไปแบบนี้ แล้วสุดท้ายกูเหลืออะไรวะ กูจะทำงานไปเพื่ออะไรในเมื่อสุดท้ายมันก็ไปหมดกะค่าใช่จ่ายประจำวันอยู่ดี มีคนเคยบอกว่าเราหาเงินมาเพื่อใช้ชีวิตแต่ทำไมเราต้องทนลำบากมาเพื่อเอาเงินมาต่อชีวิตที่ไม่มีความสุขวะ แปลกจัง
เหมือนอย่างในวอกกิ้งเดธอ่ะ สุดท้ายทุกคนก็ตายหมด คนที่รอดจะอยู่ไปเพื่ออะไรในเมื่อโลกมันไม่มีอะไรแล้วแต่ละคนไม่ได้หวังถึงการรักษาหรือการฟื้นฟุเลยแค่จะหาที่อยู่ไปวันๆ ทำไมทุกคนต้องพยายามเอาตัวรอดกันวะ ในเมื่อชีวิตที่มีอยู่ก็ไม่ได้มีความสุขอะไรแล้วจะทนทรมานตัวเองทำไม
นี่กูเป็นโรคซึมเศร้าจริงๆหรอวะ กูไม่อยากเป็นอ่ะ กูคิดว่ากูแค่ขี้สงสัยเฉยๆซะอีก มีแต่คนบอกว่ากูเป็นคนโลกสวย มองโลกในแง่ดีนะ กูจะเป็นได้จริงหรอวะ
คนเรามันไม่มีคุณค่าอะไรหรอกเว่ย ต่อให้มึงดิ้นรนค้นหาความหมายมากแค่ไหนมึงก็ไม่เจอหรอกเพราะมันไม่มีตั้งแต่แรกแล้ว
ทุกคนเกิดแก่เจ็บตายโดยไม่ได้ส่งผลอะไรกับจักรวาลแม้แต่นิด
มึงแค่ต้องเข้าใจถึงความว่างเปล่าไร้ประโยชน์นี่แล้วก็ใช้ชีวิตต่อไปซะ ชื่นชมความยิ่งใหญ่สวยงามของธรรมชาติ พยายามกลับคืนสู่ธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต ยิ่งหลงใหลไปกับสิ่งจอมปลอมที่มนุษย์สร้าง เงินตรา ตึกรามบ้านช่อง ระบบสังคมห่วยๆนี่ ชีวิตมึงก็จะยิ่งหลงทาง
เป้าหมายของการเกิดมาสำหรับกูคือเข้าใจ ยอมรับ มีความสุขกับความจริงข้อนั้น แล้วก็ตายกลับสู่ความเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล
ช่วยด้วย เราอยากฆ่าตัวตายค่ะ
จะไม่ใช้ถ้อยคำสุภาพนะคะ
กูโคตรอยากตาย วันๆใช้ชีวิตอยู่กับความว่างเปล่า
ชีวิตแม่งมีแต่ความล้มเหลว แค่เรียนให้จบยังทำไม่ได้
ย้ายที่เรียนมา 3 ที่แล้ว คนวัยเดียวกันเค้าจบกันหมดแล้ว
เป็นภาระทางการเงินให้แก่ครอบครัว แถมยังเป็นขี้ปากชาวบ้าน
โคตรรู้สึกผิด ที่ยังไม่ตายตอนนี้เพราะไม่อยากให้พ่อแม่มาฝังศพลูก
แต่ก็นะ ไม่รู้จะมีสติได้อีกนานแค่ไหน
กูก็คิดะว่าเงินที่เค้ามาจ่ายให้กูนี่มันสูญเปล่าเหี้ยๆ ให้เค้าเอาเงินไปจ่ายค่าประกันสุขภาพของเค้าจะดีกว่าไหม
ใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียว ไม่ต้องถามเลยนะว่าไอ้ขี้แพ้อย่างกูจะมีเพื่อนไหม
ทุกๆวัน กูพูดแค่กับคนสองคนคือพนักงานเซเว่น กับเวลาสั่งข้าว
กูเหงามั้ย กูโคตรเหงาเลยไอเหี้ย ถึงกับต้องมาโพสต์ในอินเตอร์เนต ให้คนแปลกหน้ามาติเตียนกู
ชีวิตแม่งโคตรซํงกะตาย ทำห่าไรก็ไม่มีความสุข
จะกินอะไรก็ไม่อร่อย กูโคตรอยากจะเป็นบ้า ชีวิตหาความสุขไม่ได้
ทุกๆวันต้องต่อสู้กับความรู้สึกด้านลบของตัวเอง
แม่งจะมีใครเข้าใจบ้างมั้ยวะ กูโคตรเหนื่อย กูท้อแล้วโว้ย
ไม่ไหวแล้วไอสัส กูอยากหายไปจากโลกนี้ชิบหาย
กูเหนื่อยยย กูจะอยู่ไปทำไมวะ
เออ กูก็ว่ากูน่าจะเป็นโรคซึมเศร้า กูไปหามาละ สามหมอ สามโรงพยาบาล
ยาเหี้ยไรก็แดกมาแล้ว อยากจะบอกว่าแย่ลงสัสๆช่วงนึง
หมอที่กูเจอแม่ง 2 ใน 3 สนใจแต่ตังค์กู นัดถี่ยิ่งกว่าอะไร
แต่ไม่ได้สนใจเรื่องที่กูเล่าซักติ้ด สักแต่อัดยากับเก็บเงิน
กูพยายามหาทางออกให้ตัวกูแล้ว
หาหมอ ปฏิบัติธรรม เล่นกีฬาห่าเหว ไม่ดีขึ้นเลย แถมก็เอาเงินพ่อแม่ไปใช้เพิ่มอีก
กูก็ยังแม่งมืดมนเหมือนเดิม รู้สึกชีวิตบัดซบแม่งไร้จุดหมาย
ไม่มีแรงจูงใจจะทำห่าไรเลยซํกนิด อยู่เหมือนตายทั้งเป็น
แม่ง อยู่ก็เหมือนตายทั้งเป็น ฮึก.. กูเหนื่อยเหี้ยๆ เหนื่อย กูสู้ต่อไปไม่ไหวแล้วไอสัส
กูต้องทำยังไงถึงจะหลุดจากลูปนรกนี่ได้วะะะะ ไอเหี้ยย กูโคตรเกลียดตัวเอง
>>591 การศึกษาไม่ใช่ทุกอย่างว่ะอีโม่ง กูต้องถามมึงก่อนว่านอกจากเรียนมีอะไรที่มึงอยากทำอีกไหม ครอบครัวมึงกูว่าเขาไม่ขัดสนหรอก และอีกอย่างมึงพยายามพอหรือยัง มึงหันกลับมาอยู่กับตัวเองบ้าง อย่าแคร์สังคมมากนัก มึงเหงาเพราะไม่มีใครสนใจมึงเหรอ งั้นมึงก็สนใจตัวเองดิ มึงยังไม่มีจุดหมายมึงแค่เดินชีวิตตามที่พ่อแม่มึงและสังคมวางไว้อยู่แค่นั้น มึงควรมีสติแล้วนั่งคิดดีๆ พ่อแม่มึงคงไม่อยากไปจัดงานศพมึงหรอกนะอีโม่ง
>>591 อยากมีคนคุย มาคุยกะกูมั้ย กูไม่รู้ว่ากูจะทำให้มึงดีขึ้นได้ปะนะ
เพราะตัวเองก็เอาไม่รอดเหมือนกัน 55
แต่เห็นมึงแล้วแบบ ตกใจสัส
มีเพื่อนกูคนนึง เหมือนมึงแบบ แทบจะเป๊ะๆ จนกูแบบ ตกใจว่าเป็นแม่งหรือเปล่า
แต่คิดว่าคงไม่ใช่หรอกมั้ง เพื่อนกูแม่งดูจะไปดี มีชีวิตที่ดีของตัวเองและ
ไม่เป็นไรนะมึง มาพยายามด้วยกัน
ชีวิตเหี้ยเป็นของทุกคน ก็พยายามจัดการชีวิตเหี้ยๆของตัวเองกันต่อไป
>>591 ถ้ามึงต้องการเพื่อน กูเป็นเพื่อนให้มึงได้นะ ก่อนหน้านี้ชีวิตกูก็ล้มเหลวเหมือนกันโหวงไปเลยล่ะ สัส จนวันนึงกูทนไม่ไหวจนมาตั้งมู้สิ้นหวังในโม่ง(อ่านได้ในห้องเลาจ์) กูหาทางออกไม่ได้ หาเพื่อนคุยไม่ได้ จนตรอกจนต้องมาเล่าปัญหาตัวเองในโม่งจำได้ว่าพิมไปร้องไห้ไปเลยสัส พอได้คุยกะพวกโม่งกูก็มีแรงฮึดขึ้นใหม่ ตอนนี้กูก็ยังล้มเหลวในหลายเรื่องแถมมีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์กะคนอื่นอีกแต่กูจะไม่ยอมแพ้นะ มึงเองก็อย่ายอมแพ้เช่นกัน ยิ่งเราล้มมากเท่าไหร่ความสำเร็จของเราก็จะมีคุณค่ามากเท่านั้น ในท้ายที่สุดแล้วเราจะชนะเว้ยให้ความล้มเหลวเป็นบันไดให้มึงไปถึงความสำเร็จนะ
>>592 กูเคยไปบริจาคเลือดมาแล้ว ปืนนี่จะหาได้จากไหนวะ มันต้องมีใบรับรองไม่ใช่เหรอ กูไม่รู้
>>593 การศึกษาไม่ใช่ทุกอย่างจริง แต่แม่งมันปฏิเสธไม่ได้ว่ะว่าสังคมปัจจุบันนี้ คนที่เรียนไม่จบจะหางานดีๆที่เงินเดือนพอเลี้ยงพ่อแม่น้ายายที่ไหนได้วะ กูไม่ได้ฉลาดเหมือนบิล เกต เทพซ่าเหมือนสตีพ จ๊อบ กูเป็นแค่ไอเด็กเหี้ยเก่งแต่ผลาญสมบัติเก่าพ่อแม่ กูพยายามเริ่มต้นใหม่มาสามหน กูถึงกับเคยไปบวชชี(ซึ่งไม่เข้ารสพระธรรมเลยซักนิดเดียว นอกจากความรู้สึกว่าตัวเองสกปรก) กูไม่รู้จะต้องทำยังไงละ ตัวเองเนี่ยล่ะที่กูเกลียดกว่าอะไร
>>594 กูขอบคุณในน้ำใจ มึงทำให้กูนึกถึงเพื่อนคนนึงที่เค้าเคยรับฟังกู ตอนนี้แม่งเหมือนติดเชื้อเนกาทีฟกูไปแล้ว ไม่คุยกับกูแล้ว แต่กูก็เข้าใจเค้านะว่า ไอห่านี่วันๆพูดแต่เรื่องสิ้นหวัง ท้อแท้ หดหู่ ใครจะมาอยากฟังมันเสวนาวะ
>>595 กูกลัวจะกอดคอกันจมจริงๆว่ะ
>>596 ไว้กูจะอ่าน
>>597 ขอบคุณ มึงพูดดีมาก ที่ความสำเร็จเราจะมีค่าขึ้น แต่ว่านะ ชีวิตกูตอนนี้มีแต่ล้มว่ะ
>>598 กูสมเพชเวทนาถึงกับมาขอเด้าคนที่อยากจะฆ่าตัวตาย
กูไม่มีใครที่จะให้ระบายได้จริงๆ กูขอบคุณคนที่อยากช่วยเหลือกู
กูพยายามรีเฟลกการกระทำของตนเองเพื่อหาต้นตอของปัญหา ด้วยการจดบันทึก
แต่กูเขียนไดอารี่มาสองเล่มแล้ว จากที่บันทึกมาปีกว่า กูไม่เปลี่ยนไปเลย มีแต่อาการขึ้นๆลงๆ
กูหาต้นตอไม่ได้จริงๆ มันเหมือนเสาเข็มทรุดไปหนึ่ง แล้วอาคารมันก็ค่อยๆทลายลงเรื่อยๆ
กูพยายามปรับเวลานอน ทำกิจกรรมให้แอคทีฟ ให้ตัวเองกระตือรือร้นและรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตัวเอง
แต่ทำได้ไม่นานก็พัง ความหมดอาลัยตายอยากมันก็เข้ามากัดกินให้ชีวิตซังกะตาย ไม่ออกไปไหน
วันๆกูก็เอาแต่นอนเป็นผัก จ้องความมืดหมุนมีดคัตเตอร์ในมือเล่น บางทีกูนอนติดกันสองวันเลย
นอนตายแบบ อยากให้หลับไปไม่ต้องตื่นเลย ข้าวปลาไม่แดก
กูกลับไปอ่านบันทึกของตัวเองแล้ว กูอยากย้อนเวลากลับไปบีบคอตัวเองชิบหาย
กูเคยกรีดข้อมือเมื่อต้นปี แต่กูไม่กล้าลงมือจริงๆ เออ กูมันขี้ขลาด ไม่ใจ กูกลัวเจ็บ
กูทำได้แค่กรีดเป็นรอยแผลตื้นๆ แค่นั้น
กูเคยวางแผนว่าจะไปที่ไหนซํกแห่ง เช่ารถ ต่อท่อ ลาโลก
เออ กูมีปัญญาคิดเรื่องดับชีวิต แต่กูไม่มีปัญญาใช้ชีวิตจริงๆ
กูมีปัญหาสัส กูไม่รู้จะทำยังไงดี สมองกูมันคงน๊อตหลวมหายไปยกแผงละมั้ง
ครอบครัวเราไม่ได้คุยกันเลย แค่ส่งตังค์มาให้ทุกเดือน
ไอเหี้ย ไม่มีใครเข้าใจกูแม้แต่แม่กูเอง ตัวกูเองก็ไม่เข้าใจ
กูเคยพยายามขอความช่วยเหลือจากครอบครัว จากคนเป็นแม่
นางอยากให้กูไปแอดมิตศรีธัญญา! นางเข้าใจว่ากูกำลังจะเป็นบ้า! เป็นบ้าเนี่ยนะ!!? แม่เห็นกูเป็นอะไรไปแล้ววะ
แม่งเอ้ย เหี้ยสัสๆ กูไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้ เป็นความรู้สึกที่แบบ บัดซบ! โคตรบัดซบ!
ไม่ต้องคิดนานเลยเหี้ยว่ากูกับแม่จะต้องทะเลาะกัน แบบรุนแรงที่สุดในชีวิตกูเลย
กลับมาบ้าน ไม่ต้องเรียนแล้วลูก กลับมาเลี้ยงควาย!
กูรู้ว่ากูทำแม่เสียใจ กูก็เสียใจเหมือนกัน มันคือชีวิตกูที่พัง กูเนี่ยล่ะที่เสียใจที่สุด
แล้วแม่กูก็เริ่มไปหาหมอดู บอกว่าหมอดูเคยทำนายไว้แล้วว่าชีวิตกูต้องพัง! แม่ทำใจแล้ว!
งมงาย ไอเหี้ย งมงาย กูรู้สึกเหี้ย เหี้ย เหี้ย กูรักแม่นะลึกๆ แต่กูไม่คุยกับแม่กูดีๆมาปีกว่าแล้ว
แล้วตอนเจอกูคราวก่อน มาบอกว่าแม่ก็เป็นโรคประสาทเพราะกูแล้ว เอาถุงยาที่จิตแพทย์สั่งมาโชว์ให้กูดูด้วย
มึงคิดว่ากูจะรู้สึกยังไง กูทั้งรู้สึกไม่พอใจ อึดอัดคับข้องใจสัสๆ รู้สึกผิดเหี้ยๆ กูโคตรอยากหายไปให้พ้นๆ
>>602 Action = Reaction ยิ่งมึงโดนหนักขนาดไหน มึงก็ยิ่งต้องพยายามสู้ไม่ใช่เหรอวะ
กุมีเพื่อนร่วมรุ่นคนนึงเป็นพี่แก่กว่ากุ 6 ปีได้ มันซิ่วมา 2 ที่ ขนาดมหาลัยที่ 2 แม่งเรียนปี 4 แต่เสือกเจอไรไม่รู้จนต้องซิ่วมาที่มหาลัยกุ แล้วแต่มันก็พยายาม กุก็อยากเห็นมึงพยายามเหมือนมันบ้าง
จริงๆแล้วมึงไม่ได้อยากฆ่าตัวตายหรอก มึงแค่อยากให้ใครสักคนรับฟังปัญหาของมึง อยู่ข้างๆมึง แค่นั้นเอง ถ้าตอนมึงเรียนมึงพยายามเข้าไปนั่งใกล้คนอื่น คุยกับคนอื่นเยอะๆ สังคมมึงก็จะกว้างขึ้นกว่าที่มึงเป็นอยู่ กุเชื่อว่าปัญหาทุกอย่างมีทางแก้
กูเล่าเรื่องตัวเองนะ
กูรู้สึกว่าตัวเองล้มเหลวมาก ทำอะไรก็ไม่สำเร็จ ต้องให้พ่อแม่เลี้ยง คนอื่นไปไหนต่อไหนแล้ว
กูเสียใจมาก พ่อแม่ตั้งความหวังกับกูแต่กูเป็นความล้มเหลว
กูไปหาหมอเพราะกูทำงานทำการอะไรไม่ได้แล้ว แต่สามครั้งกูก็เลิกไป กูเปิดใจคุยกับหมอไม่ได้
กูเปิดใจคุยกับใครไม่ได้ ทุกคนบอกกูว่าให้อดทน
เหี้ย กูทนจนไม่เข้าใจว่ากูจะทนไปทำไม กูทนจนไม่ไหวแล้วถึงได้มาปรึกษาไง
กูเลิกไปเรียน เก็บตัวอยู่บ้าน กูโชคดีที่พ่อแม่ยังเลี้ยง
กูก็พยายามใช้ชีวิตให้เป็นระเบียบ กินนอนเป็นเวลา ร้องไห้บ้างก่อนนอน
สุดท้ายกูก็ไปวิ่ง
กูพบว่าร่างกายกูแย่มาก ร้อยเมตรกูก็แทบคลานแล้ว
ที่น่าอายมากคือทุกคนแม่งวิ่งเร็วกว่ากูหมด
คนที่ดูอายุพอๆกับกู คนที่ดูเหมือนแม่กูแต่ขาแม่งกล้ามเปรี๊ยะ เจ๊ๆที่แม่งวิ่งไปคุยกันไปก็วิ่งเร็วกว่ากู
ไอ้คนที่เหมือนเป็นนักกีฬาแม่งวิ่งน็อกรอบกูด้วยซ้ำ
คนที่กูวิ่งได้เร็วพอๆกันคือคุณตาแก่ๆที่กำลังเดิน
กูอาย พวกแม่งต้องคิดว่ากูกระจอกแน่เลย
กูพยายามวิ่งให้เร็วขึ้น แล้วแม่งก็หมดแรงเดี้ยงเอง
สุดท้ายกูเลยเข้าใจ
ร่างกายกูเป็นแบบนี้ กูมีแรงแค่นี้ กูวิ่งได้แค่นี้ กูสู้คนอื่นไม่ได้
ดังนั้นกูวิ่งเท่าที่กูวิ่งได้ โฟกัสกับลมหายใจตัวเองอย่างเดียว
กูวิ่งได้เท่าที่ตั้งใจไว้ กูพอใจแล้ว
กูก็เลยเข้าใจว่าชีวิตกูเร็วเหมือนคนอื่นไม่ได้ กูเหนือ่ยก็หยุด
ที่สำคัญคือพอกูโฟกัสกับลมหายใจตัวเอง ออมแรงไว้ กูก็วิ่งครบรอบกะเค้าได้เหมือนกัน
กูเลยรู้สึกล้มเหลวน้อยลงหน่อย
ใช่กูมันโง่ เลยเรียนได้ไม่ดี กูก็ค่อยๆไปของกูละกัน
ชีวิตเป็นการเดินทาง กูเดินช้าๆของกู อ้อมบ้างวนกลับที่เดิมบ้างก็คงไม่เป็นไร
ถึงจะยังรู้สึกไร้ค่าอยู่แต่ทุกวันนี้ก็ดีกว่าวันที่อยู่ๆไปอย่างมืดมนเยอะ
ถ้ามึงกำลังสู้กับความรู้สึกว่าตัวเองล้มเหลวอยู่ กูก็ร้องไห้ให้มึง เพราะกูมีความเจ็บปวดแบบเดียวกัน
>>604 กูอ่านที่มึงระบายแล้วกูร้องไห้เลยว่ะ มึงนี่ร่างแยกกูชัดๆ กูเรียนไม่เก่ง เรียนไม่จบ เวลามีปัญหาหรือรู้สึกเฟลก็ชอบเก็บเอาไว้คนเดียวเพราะเล่าให้ใครฟังไม่ได้ ทุกวันนี้เกาะพ่อแม่แดกพร้อมกับค่อยๆเดินตามความฝันที่จะเป็นศิลปินชื่อดังเหมือนกับโม่งบนๆ
แต่เรื่องวิ่งน่ะ พอมึงวิ่งทุกวันติดต่อกันเป็นเดือนๆ ร่างกายจะเริ่มชิน และมึงจะวิ่งได้นานขึ้น เร็วขึ้น ไม่เหนื่อยง่าย เพราะปอด หัวใจ กล้ามเนื้อเริ่มแข็งแรง ที่พวกเจ๊ๆเขาวิ่งได้เร็วกว่าก็เพราะเขาวิ่งกันมาเป็นปีๆแล้ว มึงที่เริ่มวิ่งใหม่ๆ ร่างกายยังไม่ปรับตัวสู้ไม่ได้หรอก แต่ไม่ต้องอายว่าคนอื่นเขามองมึงกระจอก เพราะพวกเขาก็เคยผ่านช่วงที่วิ่งช้า ขาสั่น หอบแดกจนท้อมาก่อนเหมือนกันแหละ #ชีวิตก็เช่นกัน #กูอ่านเรื่องวิ่งของมึงแล้วรู้สึกเหมือนได้กำลังใจ
>>604 เออ นายโม่งเข้าใจบอกดีว่ะ
>>602 กูมองแล้วประเด็นความผิดหวังมึงคือเรื่องเรียน ที่มึงไม่จบสักทีย้ายมาสามหนแล้ว กูถึงบอกว่าเรื่องเรียนไม่ใช่ทุกอย่าง
ถ้ามึงยังผ่านจุดนี้ไม่ได้ มึงอย่าหวังจะหาที่ทำงานดีๆในฝันของมึงเจอ
แต่ถ้ามึงจะเรียนให้พ่อแม่มึงภูมิใจมึงก็เลือกเรียนในสิ่งที่มึงคิดว่ามึงพาตัวเองไปจบหลักสูตรนั้นได้ก็พอ
แล้วนี่ก็ถือว่าเป็นจุดหมายแห่งความสำเร็จมึงละกัน มึงก็พยายามทำให้ได้ ให้มันจบสักอย่าง
ให้ตัวมึงภูมิใจในตัวเองสักที
กูมองว่ามึงค่อนข้างจับจดและกลัวการเริ่มต้น และมึงแคร์คำพูดแม่มึงมาก
มึงเก็บคำพูดหลายอย่างของแม่มึงมาคิดแค้นในใจ แต่มึงก็รักแม่มึงอยู่ล่ะ
มึงโชคดีแล้วที่มึงเจอแม่แบบนี้ ที่ยอมรับว่าลูกตัวเองมีปัญหา
ถ้ามึงเจอแม่ที่รับสภาพลูกตัวเองไม่ได้หลอกตัวเองว่าลูกกูสบายดีไปวันๆ มึงจะอาการหนักกว่านี้
กูขอย้ำว่า ไม่บ้าก็ไปหาหมอบ้าได้ แต่กูบอกเลยว่าจริง หมอไม่หือไม่อือกับคนไข้
เพราะเขาฟังเฉยๆ ไม่ได้พูดอะไร เปิดโอกาสให้คนไข้พูดไง ถ้ามึงอยากหลุดพ้นมึงต้องเปิดใจกับเขา
คิดว่าเขาเป็นที่ระบายที่หนึ่งก็ได้ พูดๆไปเหอะตอนเจอหมอ ไหนๆมึงก็เสียค่ายาแล้ว มีคนให้รับฟังมึงด้วย
มึงเหนื่อย มึงก็ควรพักนะ ที่พักข้างทางมันไม่ได้เลวร้ายแบบที่มึงคิดหรอก
เออ อันนี้กูไม่ได้กวนตีน เยาะเย้ย ถากถางอะไรนะ แต่กูอยากรู้วิธีเรียนมึงอะ
เอาแค่ให้ "พอจบ" เนี่ย แม่งแถไปได้หมดแหละถ้ามึงใส่ใจกับการเรียนจริงๆ กูสงสัยตรงนี้แหละ ว่ามึงเรียนด้วยวิธีไหนมึงถึงบอกว่ามึงเรียนไม่ไหว
>>607 ชอบอ่านนะ ถ้าหนังสือไม่ยาก
>>604 แด่คนที่มีความเจ็บปวดแบบเดียวกัน...ขอบคุณนะ มึงเล่าแล้วแม่งอยากไปวิ่งด้วยชิบหายเลย
>>606 กูรู้เหมือนมึงเป็นคนมีความคิดความอ่านโตดี กูพยายามอยู่มึง กูอยากภูมิใจกับตัวเองจริง แต่พอรู้ตัวอีกทีกูก็เอาแต่นอนซังกะตาย ไม่มีใจจะทำอะไร แล้วจมอยู่กับความรู้สึกผิด แล้วกูแม่งเจออะไรเล็กน้อยแย่ๆ กูก็จะถือแม่งเป็นเรื่องใหญ่โตได้ โคตรเกลียดตัวเอง กูก็ไม่รู้ทำไมกูต้องเป็นแบบนี้ด้วย
>>608 ได้ เวลากูรู้สึกดีเพรสส่วนใหญ่กูจะนอนเป็นผักเปื่อย กูเลยขาดเรียน เวลาเรียนไม่พอ กูก็เข้าสอบไม่ได้ ตอนอยู่ที่แรกกูโดนชั้นปีบอยคอตด้วยเหตุผลอะไรกูก็สุดจะรู้ เข้ากับสังคมที่นั่นไม่ได้ และการเรียนก็เข้มงวดมาก กูแม่งมันอ่อนแอ ควายและตัวคนเดียวไม่รู้จะปรึกษาใครก็เลยลาออกไป ทีนี้อยู่มาก็เริ่มซึมเศร้าแต่ยังไม่รู้ตัวพอไปเรียนที่ใหม่ก็เริ่มมีปัญหา ตอนนั้นมีปัญหาเรื่องเงินๆทองๆด้วย เลยต้องย้ายอีก
มันมีวิธีแก้ทำให้กูเลิกซังกะตายมั้ย กูทำอะไรก็ไม่มีความสุข
ไอความรู้สึกชีวิตไร้จุดหมายนี่หลอกหลอนกูตลอดเวลา
แล้วบางทีกูนอนไม่หลับ หรือหลับแล้วตื่นกลางดึกแล้วหลับไม่ได้อีก
โรคนอนไม่หลับนี่แก้ยังไง ต้องไปหาหมอไหม
พอไม่ได้นอน บางทีกูก็ไปเรียนไม่ไหว
บางทีก็ดีเพรสแดก แต่งตัวอะไรเรียบร้อยละ แต่นั่งซึมอยู่ในห้องอย่างนั้นล่ะ ทั้งวัน
เออ ที่กูได้ระบาย กูต้องขอขอบคุณที่นี่มาก
ขอบคุณทุกโพสท์ที่ตอบกลับกู ถึงมันจะแค่บนอินเตอร์เนตก็เหอะ
ความคิดชั่ววูบมันชอบมาบ่อยมาก บางทีก็มาหนักเหี้ยๆ...อย่างเช่นเมื่อวาน
จนกูกลัวตัวเองจะไปดีจริงๆ เพราะสติสตังค์กูน้อยสัส
>>603 กฎทางฟิสิกส์มันมาแอพพลายกับกูได้เหรอ กูยังเรียนอยู่ ถึงจะร่อแร่เต็มทีแล้วก็เถอะนะ กูพยายามเข้าหาเพื่อนใหม่ พยายามคุยกับคนนั่งข้างๆเนี่ย แต่ไม่สำเร็จว่ะ พยายามหาคนที่เข้ากันได้ แต่ส่วนใหญ่ทีมีคือมาขอให้กูทำงานให้แบบดูยังไงก็มีป้ายคำว่าผลประโยชน์ล้วนๆแปะบนหัวมัน ขอให้กูทำงานเสร็จก็ไม่มาคุยกับกูอีก กูก็โง่ทำให้นะจวย สงสัยเพราะกูหน้าสดแล้วก็ไม่แต่งตัวเลยคิดว่ากูเป็นเด็กเรียนมั้ง กูรู้ว่าคนดีๆมีอยู่ แต่แม่งทำไมกูไม่เจอซักทีวะ
กูไม่ใช่หมอนะไม่มีความรู้ด้านนี้ แต่คิดว่าตอนนี้มึงขาดความมั่นใจในตัวเองอย่างแรงและมองโลกในแง่ร้าย การที่คนเราจะลุกขึ้นยืนได้ต้องเข้มแข็งพอและมีคนดันหลังด้วยนั่นแหละคือแรงกระตุ้น แต่ตอนนี้มึงไม่มีใครแถมด้วยการที่มึงมองโลกในแง่ร้ายไปไหนก็เลยเจอแต่คนแย่ๆ เรื่องแย่ๆ เพราะมันมองผ่านฟิลเตอร์มืดมนของมึง
วิธีแก้ก็แค่ให้ปรับเปลี่นมุมมองและพยายามต่อ แต่ก็นะ พูดน่ะมันง่ายให้ทำจริงๆคือยากเหี้ย มึงต้องการคนดันหลัง คนที่คอยอยู่ข้างๆมึงจริงๆแล้วยังเชื่อมั่นในมึงอยู่ คนที่คอยดันมึงออกจากอาการเป็นผักเหมือนมือนำทางของมึงอ่ะ ความเห็นในโม่งเป็นกำลังใจที่ดีแต่ทุกคนก็ไม่ได้อยู่ในวงโคจรของชีวิตมึง ออกนอกโม่งไปก็ไม่รู้จักกันแล้ว ถ้ามึงเกิดเฟลแล้วไม่ได้มาบ่นในโม่งก็จะไม่มีคนรับรู้ปัญหานี้อยู่ดี
มึงต้องการใครซักคนในชีวิตจริงแต่ด้วยการมองโลกในแง่ลบทำให้มึงหาเพื่อนไม่ได้ ต้องมีใครซักคนที่นิสัยดีเข้ามาหามึงเองและยังคบกับกับมึงอยู่ถึงแม้ว่ามึงจะมองเค้าในแง่ลบก็ตาม เพราะสุดท้ายเวลาที่ผ่านไปจะทำให้มึงมองเค้าดีขึ้นและมึงจะมีกำลังใจ
พูดไปพูดมาสุดท้ายวิธีการรักษาก็เป็นปัจจัยที่มาจากภายนอกทั้งนั้น เพราะงั้นถ้าสุดท้ายมึงหาเพื่อนเป็นมนุษย์ไม่ได้ก็หาแมวหรือหมาไปเลี้ยงมั้ย อย่างน้อยมึงก็ไม่มีทางคิดหรอกว่ามันจะมาหาผลประโยชน์จากมึงและมึงมั่นใจได้เลยว่าสัตว์พวกนี้จะรักมึงแม้มึงจะไม่มีอะไรเลย ไม่ว่าจะเรียนไม่จบกี่ครั้งหรือผิดพลาดกี่หนมันก็จะรออยู่ที่บ้านและรักมึงเสมอ กูคิดว่าน่าจะช่วยอาการเป็นผักตอนมึงอยู่ห้องได้นะและคิดว่าโลกมึงจะสวยงามขึ้นเรื่อยๆถ้ารักมัน
หรือถ้าอยากเป็นเพื่อนกะคนจริงๆวันเสาร์หน้าถ้าว่างไปดรีมเวิลกันป่ะ ไปนั่งรถไฟเหาะกัน เล่นอะไรหวาดเสียวแล้วปล่อยออกมาให้หมดเลย กูว่าความสนุก ความตื่นเต้นน่าจะช่วยได้ มึงไม่ต้องกลัวมีกูอยู่ทั้งคน ถึงกูจะไม่ใช่คนสนุกสนานก็เถอะ
หรือถ้าแค่อยากคุยก็ตามนี้ ala_atlas@hotmail.com
>>609 อ่านเล่มนี้ดู http://readery.co/9786169241201
>>609 มึงคือร่างแยกกูชัดๆ กูเป็นเหมือนมึงเด๊ะๆ ไม่รู้จะว่าไงว่ะ
ถ้ามึงต้องการเพื่อนมาเป็นเพื่อนกับกูก็ได้นะ แต่จะพากันสิ้นหวังหรือเปล่าวะเนี่ย
กูก็กำลังพยายามอยู่ ตอนนี้กูขาดเรียนไปสามอาทิตย์ติดละ เหี้ยมาก อาทิตย์ต่อไปกูต้องไปเรียนละไม่งั้นเวลาเรียนจะไม่พอ กูจะหมดสิทธิ์สอบ
กูคงแนะนำอะไรดีๆให้มึงไม่ได้ เพราะกูก็กำลังเผชิญสภาพเดียวกัน
แต่อย่างน้อยถ้ามึงมาอ่านมึงจะได้อุ่นใจ (หรือเปล่าวะ..) ที่มึงไม่ได้สู้อยู่คนเดียวนะ
ผ่านมันไปด้วยกันนะมึง
กูกับเพื่อนโม่งอีกคนตั้งแชทบำบัด 101 ใน google hangout ละ
rakku222@gmail.com ใครอยากจอยทักมา
มาคุยไปฆ่าตัวตายหมู่-เอ้ย ปรับทุกข์กัน
>>611 กูคิดเรื่องเลี้ยงสัตว์มากเลยมึง อยากเลี้ยงมากจริงๆ แต่ห้องเช่ากูห้ามเลี้ยงสัตว์ จวย ถ้าจะเลี้ยงจริงๆต้องย้ายที่อยู่ แล้วก็มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม แต่นั่นไม่สำคัญเท่าความคิดที่ว่า..ถ้ากูจะเลี้ยงหมาแมวซํกตัว กูอยากดูแลเค้าให้ดีที่สุด แล้วก็คิดขึ้นมาว่า ชีวิตกูเองยังดูแลไม่ได้ มึงจะไปดูแลชีวิตอื่นเพิ่มอีกไหวเหรอวะ กูต้องรับผิดชอบชีวิตทั้งชีวิตของมันเลยนะเว้ย
>>612 น่าสนใจดี กูจดลิสต์ไว้ละมึง ขอบใจมากเพื่อนโม่ง
>>613 กูคงพูดไม่ได้ว่ารู้สึกอุ่นใจ แต่คือแม่งเพื่อนร่วมชะตากรรม
>>614 กูจะจอยยังไงวะ สอนหน่อยๆ
มึงจะนัดกันไปจบชีวิตหรอวะ พากูไปด้วยดิ
สนใจนัดเย็ดมั้ยครับ สวิงกิ้งคนสิ้นหวัง
ไม่ได้แว๊บมาบอร์ดเดือนเดียว เจอคนสิ้นหวังเพิ่มขึ้นเยอะเลย (ไม่ปลอบละกันนะ เพราะถือว่าโม่งด้านบนทำงานแทนหมดแล้ว)
จ้างกูเป็นเพื่อนได้นะ กูก็สิ้นหวังเหมือนกันแต่คงไม่มากเท่าพวกมึงและไม่ค่อยมีเงินด้วย
กูเองก็มีอารมณ์สิ้นหวังนะ แต่พอได้ไปนั่งดูพวกเรื่องที่เหี้ยกว่าแล้วกูมีกำลังใจแทน
แถวนี้ต้องมีมีพวกแกล้งสิ้นหวังเพื่อหวังเย็ดแน่เลยว่ะ
จากโม่งบนๆ "ใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียว ไม่ต้องถามเลยนะว่าไอ้ขี้แพ้อย่างกูจะมีเพื่อนไหม ทุกๆวัน กูพูดแค่กับคนสองคนคือพนักงานเซเว่น กับเวลาสั่งข้าว" << ไอสัสเอ้ย อ่านแล้วนึกถึงตัวเองฉิบหายเลย คือกูเลือกไม่คบเพื่อนเองแหละ ประมาณว่าอยู่คนเดียวสบายใจกว่า แต่บางทีมันก็อยากมีคนไว้เสวนาบ้าง แล้วเป็นไง กูคุยแค่ตอนสั่งข้าวกับพนักงานเซเว่นยังไงล่ะ ;____;
อ่าน ๆ แล้วเพลงนี้ขึ้นมาเลย : https://www.youtube.com/watch?v=G4VN0in4weA
Moderator Stefan 1 ปีที่ผ่านมา
If you have the courage to die, have the courage to live.
จริง ๆ ก็มีเรื่องอยากเล่า แต่ดู ๆ แล้ว ไว้ค่อยเล่าดีกว่า ของคนอื่นแม่งเศร้ากว่าอีก สาส
นี่ขนาดยังไม่เล่ากุก็เศร้ากะชีวิตมึงละเนี่ย
มาเปิดสไกป์แล้วกินข้าวพร้อมกันเถอะ
จริงดิ กูชอบทำตัวสนิทสนมกับเจ้าของร้านนะ บางทีได้แดกฟรี บางทีได้ลด ประหยัดตัง
ป่ะ สไกป์แล้วแดกด้วยกัน
กูจะสไกป์กินช้างพร้อมมึงได้ก็เสาร์อาทิตอ่ะนะ วันธรรมดากุทำงานเลิกดึก คงมากินด้วยกันไม่ทัน
เอาจริงป่ะ เรื่องสไกป์ แต่กล้องกูมีปัญหา ขอเป็นแชทแทนได้มั้ย 5555
ตื่นกันยังเนะ วันนี้ไม่กินละมาม่า กินข้าวแทน
แถวนี้มีใครเป็นแบบกูบ้างมั้ย เกิดมาเหมือนเป็นแบคกรานด์ชาวบ้านตลอด เหมือนโดนมองข้าม ไม่มะอะไรโดดเด่น พยายามแค่ไหนก็จืดจางเหมือนเดิม
>>643 กูก็เป็น
เออ มีเรื่องอยากปรึกษา ตอนแรกกูก็อารมณ์ดีๆอยู่ แต่พอไปเจอญาติกูเล่าว่าเพื่อนมันดันเป็นรุ่นน้องกูพอดี แถมเขียนฟิคไรงี้ พอมีกระแสตอบรับดีๆอยู่เหมือนกัน กูเลยเเบบมานึกๆดูแม่ง ทั้งเพื่อนร่วมรุ่น รุ่นน้อง รุ่นหลาน บลาๆ ดูจะมีชีวิตที่ประสบความสำเร็จกว่าทั้งนั้นเลย ทำเอารู้สึกเฟลขึ้นมาทันที ก็พยายามคิดนะว่าเราเองก็พยายามสิ แต่เหมือนมันก็ไม่ไหว เราไม่มีความสามรถพอ ทำไม่ได้เท่าเขาจริงๆอะ เฮ้อ ตอนนี้เลยจิตตกซะแล้วว่ะ
ความพยายามส่งคนให้สำเร็จได้ แต่ใช้เวลาไม่เท่ากันสำหรับแต่ละคนว่ะ แค่มึงจะเลิกก่อนถึงรึเปล่านั่นแหละ
>>648 กูก็พยายามปลอบใจตัวเองนะว่าอย่าเครียดอย่าเศร้า เอาเวลาไปหาความสุขให้ตัวเองดีกว่า แต่ก็อดอิจฉาไม่ได้ว่ะ แบบเค้าอายุเท่าหรือน้อยกว่าเราก็ทำอะไรตั้งเยอะแยะ ก็พยายามคิดอยู่นะว่ากูล่ะมัวทำไรอยู่ รีบๆฮึดสู้ได้เเล้ว!! ถึงจะช้าไปแต่แก้ไขอะไรไม่ได้เเล้วนี่เนอะ ใช้เวลาที่เหลืออยู่ให้คุ้มค่าดีกว่า 555
ว่าแต่มึงจะปลอบใจตัวเองยังไงวะถ้าไปเท่าไหร่ก็ไม่ถึงซะที แถมดูมีทางอื่นที่ไม่ว่าจะชอบมั้ยแต่ดูจะเวิร์คกว่าอะ
กูเองไม่อยากเข้าโซเชียลพวกเฟสไรงี้อะไรบ่อยๆ เดี๋ยวไปเจอพวกอวดชีวิตก็อดอิจฉาไม่ได้ทุกที แต่บางทีมันจำเป็น ก็พยายามหลีกเลี่ยงไป
>>647 เป็นเหมือนกูเลย คนรอบตัวกู รุ่นน้อง รุ่นเพื่อน รุ่นพี่ ทุกคนล้วนแต่ประสบความสำเร็จในสิ่งที่พวกนั้นทำกัน ทั้งเรื่องงานเรื่องเรียน คือเห็นแล้วมันก็เฟลตัวเองว่ะ ว่าทำไมถึงไปจุดจุดนั้นไม่ได้วะ เพราะต้นทุนของคนเราไม่เท่ากันหรอ ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนทางครอบครัว เงิน สมอง พอมานั่งคิดดูแล้ว ไอพวกนี้แม่งก็ดันต้นทุนเท่ากันกับกูอีก แต่ความพยายามมัน แรงผลักดันแม่งสูงมาก จนมันทำได้ แล้วตัดภาพมาที่ตัวเอง โอ้โห โคตรลูสเซอร์ ดีใจกับพวกนั้นที่ประสบความสำเร็จนะ แต่ก็กลับมาคิดว่าทำไมตัวเราไม่มีความพยายามเอาซะเลย ขี้แพ้จัง
กูเหงามาก รู้สึกแปลกแยกจากคนรอบข้างมาตั้งแต่เด็ก กูเกิดมาในครอบครัวพ่อแม่เป็นอาจารย์ พี่เป็นหมอฟัน น้องกำลังเรียนนิติม.ดัง แต่กูเรียนห่วยแตกเกือบไม่จบต้องให้พ่อเอาเงินยัด พี่กับน้องเหินห่างไม่สนิท จบมาดูไม่มีอนาคต ทำงานไปวันๆในบริษัทเพื่อนแม่ ไม่มีความฝัน ไม่มีเป้าหมาย เคยมีแฟนแต่เขาเลิกไปแต่งงานกับคนอื่นที่ดีกว่า เพื่อนมีน้อยมาก สมัยม.ต้นเคยโดนหลอกให้เลี้ยงนั่นนี่ เพราะบ้านกูรวย แต่ก็ไม่มีใครรับเป็นเพื่อนสนิทจริงๆซักคน ม.ปลายเลยกลัวการเข้าสังคม ไม่มีเพื่อน เป็นเศษเกินตอนทำงานกลุ่ม อาจารย์ต้องจับยัดกลุ่มคนอื่นเขาตลอด ตอนสอบมหาลัยแค่คิดว่าไปที่ไหนก็ได้ ที่ไม่มีคนจากโรงเรียนเก่าก็พอ พยายามหางานอดิเรกทำแต่ก็จะโดนพ่อแม่ด่าว่าทำอะไรไร้สาระอยู่นั่น หัดเอาอย่างพี่กับน้องซะบ้าง เคยร้องไห้ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง วันเกิดบางทีก็โดนลืม แต่วันเกิดพี่กับน้องจัดงาน เชิญเพื่อนมาบ้าน กูก็ไปหลบอยู่บนบ้าน อ่านหนังสือ เล่นเน็ตไปเรื่อย แถมเขาก็ไม่ได้สนใจจะเรียกลงไปร่วมงานด้วย เคยลงไปร่วมงานครั้งหนึ่งรู้สึกเหมือนเป็นส่วนเกินในบ้าน สุดท้ายก็ต้องมานั่งหลบมุมเหมือนเดิม บางทีกูก็คิดนะว่ากูเป็นลูกแท้ๆรึเปล่า เขาเก็บกูมาจากถังขยะรึเปล่า เหงามากไม่รู้จะพูดกับใคร ได้แต่พูดกับตุ๊กตาหมีที่เคยได้เป็นของขวัญครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิต เหนื่อยมากที่จะต้องมีชีวิตอยู่ แต่จะฆ่าตัวตายก็ใจไม่กล้าพอ อีกอย่างกูกลัวมากถ้ากูตายไปจะไม่มีใครร้องไห้ให้ซักคน แม่ง หดหู่ชิบหายถ้าเป็นงั้น
กูรู้สึกเบื่อๆว่ะ บางวันแม่งแอคทีฟชิบหาย อยากทำโน่นี่ ไอเดียบรรเจิดตลอด แต่พอวันต่อมา พลังงานหายเกลี้ยง ไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น ได้เเต่อิจฉาชีวิตคนอื่นไปวันๆ กูไม่ชอบเลยว่ะแบบนี้
กูเคยสิ้นหวังกับชีวิตมากเหมือนกัน ไร้ค่าท้อแท้ ทำอะไรก็ล้มเหลว เคยคิดอยากจะหายไปเลยเหมือนกัน แต่สุดท้ายกูมาค้นพบการร้องเพลงว่ะ
แม่งคือการสื่อสารที่มีคนตั้งใจฟังกูเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีเลยมั้ง เหมือนได้ชีวิตใหม่เลย
หลังจากนั้นกูก็พยายามถ่ายทอดตัวตนของกูผ่านเสียงเพลง ไม่ว่าจะเรื่องดีเรื่องร้าย เพลงที่กูเขียนคือหลัดฐานการมีชีวิตอยู่ของกู
ตอนนี้กุเริ่มมีงานร้องเพลงพอควรละ ถึงจะยังกระจอกอยู่ก็เหอะ ขอให้พวกมึงเจออะไรที่ใช่สำหรับมึงนะ ชีวิตมึงจะเปลี่ยนจริงๆ
มันไม่มีอะไรสายเกินไปหรอกเว่ยถ้ามึงไม่หยุดค้นหา
กูเคยประกวดเดอะว้อยมารอบนึงอะ ใบ้แค่นี้ กูไม่อยากโม่งแตก 5555
ก็กูเข้ารอบไง 555
ไหนใครประกวดเดอะว้อย ร้องเพลงเป็นกำลังใจให้ที ท้อ (แสดงว่ากูก็ต้องเคยเห็นมึงสินะ ว่าแต่คลิปไหนวะ)
กูเกลียดชีวิตตัวเองว่ะ
เกิดมากูไม่เคยชอบอะไรในชีวิตกูเลยซักอย่าง กูไม่เคยสมหวัง ไม่เคยเหี้ยอะไรทั้งนั้น
ชีวิตกูไม่ได้แย่เท่าพวกที่กูอ่านๆมาข้างบน พ่อแม่กูก็มี ถึงจะอยู่กันไม่มีความสุขแต่เค้าก็ส่งกูเรียนได้
แต่กูไม่เคยรู้สึกได้รับความรักจากใครเลย ไม่มีกำลังใจ กูตายไปก็ไม่มีคนร้องไห้ อาจจะแค่พ่อแม่กูมั้ง ก็เสียเงินกับกูไปตั้งขนาดนั้น
กูไม่รู้จะมีชีวิตไปเพื่อเหี้ยอะไร กูทำงานเก็บเงินเพื่อจะได้ไปซื้อข้าวมากินแล้ววนลูปไปเรื่อยๆเหรอวะ?
เป้าหมายชีวิตกูมี แต่มันเหี้ยมาก แทบไม่มีโอกาสเป็นจริงได้ หรืออาจจะไม่มีเลย กูไม่รู้จะพยายามไปเพื่ออะไร
เพื่อนกูก็มีเหมือนคนปกติทั่วไป แต่แม่งอึดอัดชิบหาย กูได้แต่ตีหน้าเป็นคนอารมร์ดีต่อหน้าคนอื่นๆ ทั้งที่กูจะระเบิดอยู่แล้ว
กูเกือบจะฆ่าตัวตายมาหลายรอบแล้ว เอาโดดตึกนี่แหละ น่าจะสบายสุด แต่กูอยากให้มีคนร้องไห้ตอนกูตายซักคนก็ยังดี
ร้องไห้เพราะรักกู เสียใจเพราะไม่ได้เจอกูอีกแล้ว ตอนนี้แม่งไม่มีหรอก กูเกิดมาไม่มีเหี้ยอะไรดีเลยซักอย่าง ใครมันจะมาคิดถึงกู
สำหรับคนอื่นกูเป็นได้อย่างมากก็แค่เพื่อนคุย
เห็นคนอื่นมีชีวิตดีๆแล้วกูอยากพังให้หมด เออกูอิจฉา กูก็แค่อยากมีชีวิตดีๆกับเค้ามั่ง กูอยากจบทุกอย่างแล้ว
อยู่ต่อไปมีแต่จะแย่ลงเรื่อยๆ กูท่องมาตลอดว่าชีวิตกูต้องดีขึ้น ทนอีกหน่อย แม่งไม่ดีโว้ยไอ้เหี้ย กูเหี้ยลงเรื่อยๆทุกวันๆ
ควย ควยยยยยยยยยยยยยยยยยย
>>672 กูเป็นเหมือนมึงเลย มีคนเยอะแยะบนโลกนี้แต่กูกลับรู้สึกว่ากูอยู่คนเดียว จะมีใครเสียใจบ้างมั้ยถ้ากูตาย โอ่ยยยยยยยยยยย เคยอยากฆ่าตัวตายเหมือนกันแต่กูกลัวบาป แม่งเอ๋ยยยย กูอยากหายไปจากโลกจริงๆ ไม่มีกำลังใจอะรัยเลย พยายามคิดทุกอย่างในแง่ดี แต่ผลแม่งก็เหี้ยเหมือนเดิมไม่มีอะรัยดีขึ้น กูเหนื่อย กูท้อ ไม่มีใครเข้าใจกู เฮ่ออออออออออออ
เคยมีคนบอกกูมาว่ายิ่งเรายึดติดมากเท่าไหร่ เรายิ่งรักคนอื่นยากเท่านั้น
และเมื่อขาดความสุขจากการให้ คนเราก็จะเริ่มมองไม่เห็นคุณค่าของชีวิต เพราะทุกสิ่งมันช่างน่าเบื่อเมื่อโลกประเคนสิ่งดีๆให้เราพอใจไม่ได้
และเมื่อไม่เห็นว่าอะไรดี
สุดท้ายคนบางคนก็จะหาทางหนีความทุกข์แสนน่าละอายนี้
อาจด้วยลูกปืน เชือก ยา หรือดาดฟ้าตึก
แต่สุดท้ายแล้วนั่นก็ไม่ได้ช่วยอะไร
เพราะความตายต่างหากที่เป็นความน่าเบื่อที่แท้จริง ง่ายดาย ไม่น่าสนใจ ใครๆก็ตายได้ จะตายวิธีไหนก็ได้ผลลัพท์ไม่ต่างกัน มีแต่คนที่มีความสามารถจะอยู่แต่โง่จริงๆเท่านั้นที่เชื่อว่าความตายนั้นเป็นทางเลือกน่าสนใจ เพราะความตายเปรียบเสมือนการที่เอาไฟไปลนไอติมแมกนั่มซองละ40ให้ละลายหมดก่อนจะเข้าปากฟรีๆ ใครคิดว่าคนทำแบบนี้ไม่โง่ก็โง่ยิ่งกว่ามันอีก
เลิกยึดติด เลิกคิดว่ากูเป็นคนแบบนี้ เลิกคิดว่ากูชอบไม่ชอบอะไร เลิกไม่ทำอะไรสักอย่างแล้วรอให้โลกมาช่วยฉุดตัวเองขึ้นไป เลิกทำตัวเป็นเจ้าหญิงผู้เลอโฉมทั้งๆที่มึงไม่ใช่ เลิกปล่อยให้ตัวเองเบื่อได้แล้วเพื่อนโม่ง เลิกยึดติดอยู่กับตัวตนไร้ค่าที่มึงเป็นซะตั้งแต่วันนี้ซะ แล้วมึงจะรู้ว่าโลกนี้แม่งน่าสนใจแค่ไหน
กูจะรอเป็นเพื่อนกับมึงที่ไหนสักแห่งบนโลกนี้แหละ ถ้ามึงไม่ฆ่าตัวตายไปซะก่อนนะ5555
กูว่่าความตายทำให้ชีวิตมันงดงามฟะ
แต่การฆ่าตัวตาย มันน่าเกลียดสิ้นดี ชีวิตมันต้องใช้ให้หมดนี่แหละถึงสนุก
ถ้าทุกวันนี้ มึงยังกินอิ่ม นอนหลับนั่นแหละคุณค่าของชีวิตแล้ว
กูเป็นหนึ่งในคนที่ยึดติดมากๆ อาจจะจริงอย่างที่มึงพูด กูไม่เคยเปิดใจให้ใครเลย คนอื่นเค้าเปิดกับกูแต่กูไม่
กูเลิกยึดติดกับมันไม่ได้ มันเป็นเรื่องเดียวที่ทำให้กูยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อ ขาดมันไปกูตายยังจะดีกว่า
กูเกลียดทุกอย่างที่กูเจอ กูไม่ชอบระบบทั้งหมดที่กูอาศัยอยู่ กูกินนอนกินนอนไปวันๆแบบนี้กูไม่เห็นมันจะเป็นคุณค่าชีวิตกูตรงไหน
ได้ทำสิ่งที่ตัวเองอยากทำต่างหากที่เป็นคุณค่าของชีวิต กูเกิดมา อยู่กับความทุกข์มาตั้งแต่เด็ก ลองชั่งน้ำหนักแล้วกูเจอเรื่องแย่มามากกว่าเรื่องดีเยอะ
แล้วมึงจะบอกให้กูเชื่ออยู่อีกเหรอว่าใช้ชีวิตมันสนุก กูไม่เคยสนุกกับมันเลย น่าเบื่อชิบหาย
ชีวิตกูไม่ใช่แมกนั่มซองละ 40 เหมือนมึงหรอก กูแดกขี้เสียบไม้อยู่โว้ย จะเอาไฟลนให้มันจบๆไปยังทรมานเลย
ก็เหมือนเทียนอ่ะมึง เทียนที่มอดจนหมดกับโดนน้ำสาดจนดำอันไหนมันสวยกว่ากันล่ะ
>>678 ไอติมน่ะมันคือชีวิตต่างหาก คิดว่ามึงเกิดมาน่ะถูกๆเหมือนขี้รึไง ค่าทำคลอด ค่าอาหารที่คนเลี้ยงมึง ฯลฯ น่ะไม่ใช่การลงทุนถูกๆ กูก็ไม่อยากอุปมามากมาย แต่ตามปกติถึงมึงอยู่เฉยๆยังไงไอติมมันก็ละลาย ยังไงคนเราก็ค่อยๆตายกันไปทีละหยดอยู่แล้ว ชีวิตที่สนุกก็คือการที่มึงลิ้มรสหยดละลายที่ค่อยๆผ่านไปด้วยจิตที่เป็นตัวมึง ถ้ามึงว่ารสชาติหยดไหนแย่ก็แค่ถุยทิ้งแล้วไปหางทำอะไรสักอย่างดู คนไม่ทำอะไรก็เหมือนคนที่โดนเยี่ยวรดปากแต่ก็ยังเสือกอมไว้ มึงน่ะชอบอมเยี่ยวรึไง ชอบมีความทุกข์หรอ โลกนี้มันเยี่ยวรดหัวพวกเราทุกคนไม่มากก็น้อยก็จริง แต่มึงจะไม่หาทางหลบวิถีเยี่ยวหรือหาร่มมากางหน่อยเรอะ จริงๆแล้วมึงมีเฟติชชอบโดนทารุณกรรมก็บอกมา กูเป็นเอส ไว้อยากโดนเยี่ยวรดหนักกว่านี้บอกกูได้ แต่กูจะไม่สนองมึงหรอก (เพราะกูเอสมาก) แล้วก็ไอ้เรื่องสิ่งที่มึงอยากทำก็ทำไปดิใครห้ามมึง ถ้ามันห้ามแล้วมึงทำไงต่อ ยอม? คำที่บอกว่าตัวเองทำอะไรไม่ได้แม่งก็แค่เสียงสำลักน้ำเยี่ยวอะ เลิกเหอะ แดกฉี่ไม่ได้ดีจริงๆเหมือนที่หนูด*เค้าว่าหรอก โชคดีนะ
>>682 ความดีความชั่วมันห้ามกูอยู่ เรื่องที่กูอยากทำมันไม่ใช่เรื่องดี เป็นเรื่องที่พวกมึงทุกคนจะมองว่ากูเป็นพวกเหี้ยไปเลยถ้ากูทำจริงๆ
ความต้องการกูล้วนๆ
แล้วมึงคิดว่ากูอยากอมทุกข์มากรึไง กูพยายามใช้ชีวิตให้มีความสุขอยู่ กูฝืนตัวเองตลอด เรื่องเหี้ยๆมีแต่เรื่องที่กูเลี่ยงไม่ได้ทั้งนั้น
คนอื่นบางคนก็อาจจะเจอเหมือนกูแหละ แต่กูรับไม่ได้ไง พวกมันก็รับไม่ได้ คนอื่นก็ไม่รู้ว่าแม่งเหี้ยแค่ไหน
ถ้ามันเปลี่ยนได้ง่ายๆแบบที่มึงบอกกูคงไม่มาบ่นในนี้หรอก บางเรื่องแม่งก็ไม่ได้ง่าย
>>683 เหี้ยไม่เหี้ยมึงก็ต้องตัดสินเอง ชั่งเอาว่าทำกับไม่ทำอันไหนได้ประโยชน์กว่า จริยธรรมแม่งสำหรับเด็กวัยที่ยังชั่งผลตอบแทนไม่เป็น same goes กับไอ้เรื่องการใช้ชีวิตให้มีฟามสุข มึงฝืนยิ้มแล้วมึงแฮปปี้ขึ้นคุ้มที่เมื่อยกล้ามเนื้อหน้ามั้ย ถ้าไม่ก็อย่า แค่เนี้ย ชีวิตมันยากตรงไหนวะ กูก็เจออะไรเหี้ยๆมาเยอะจนในที่สุดกูปลงแล้วสัส ต่อให้โดนจับไปทรมาณอีกสักครั้งกูก็ไม่แคร์ ว่างๆลองอ่านเรื่องการปลอบประโลมของปรัชญาดู ลัทธิstoicยินดีต้อนรับมึงเสมอ
ขอพื้นที่ให้กูระบายหน่อยนะ กูอึดอัดมาก
กูกับเพื่อนมันพวกชนกลุ่มน้อย ไม่ค่อยมีใครสนใจ และความที่กูเป็นคนแบบนี้หลายครั้งมันก็เล่นงานกูจนได้ เช่น มีงานอะไร วิชาไหนงดคลาส ย้ายห้องไปเรียนไหนไม่ค่อยบอกกูหรอก บางทีกูรู้สึกน้อยใจว่ะ ทำไมอะ เพราะกูไม่โดดเด่นใช่มั้ย แต่ให้ตายกูก็ไม่เป็นเพื่อนกับพวกแม่งหรอก และยิ่งมาเจอข่าว SG กูยิ่งสิ้นหวังกับประเทศนี้มาก ตอกย้ำความรู้สึกแย่ๆ อีก เบื่อ กูอยากจบเร็วๆ หนีไปไกลๆ เลยสัส จบการบ่น
โลกมันโหดร้ายและกูก็อ่อนแอมาก โลกไม่มีที่สำหรับให้โอกาสคนแก้ตัว ถึงแม้จะทำดีแค่ไหน แต่ถ้าหยิบยกเรื่องความผิดครั้งก่อน กูก็แย่อยู่ดี จะเป็นด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรืออย่างไร แต่ความผิด มันก็คือความผิดใช่มั๊ยว่ะ ทั้งที่กูพยายามลืม แต่มันก็ไม่ได้หายไป จะผ่านไปกี่ปี คนเลวก็ยังต้องเป็นคนเลวถึงแม้มันจะกลับตัวแล้ว ใช่มั๊ยว่ะ โลกแม่งโหดร้ายกับกูขนาดนี้ และกูก็อ่อนแอขนาดนี้ กูอยากหนีปัญหา อยากตายให้รู้แล้วรู้รอด แต่ตอนนี้กูสงสารครอบครัว สงสารคนที่รักกู
ถ้ากูเลือกจะตายเพราะอยากหนีปัญหาที่แก้ไม่ได้ ไม่อยากอยู่ไปพร้อมกับความทุกข์ตลอดชีวิต แบบนี้กูคือคนเห็นแก่ตัวหรือป่าว
แต่ถ้ากูเลือกอยู่เพื่อความสุขของครอบครัว แบบนี้แสดงว่าครอบครัวกูเห็นแก่ตัวหรือเปล่า
>>687 สำหรับการใช้ชีวิตนะมึง สิ่งที่เราเป็นน่ะไม่สำคัญเท่ากับสิ่งที่เราทำ เพราะความเป็นจริงคือผู้คนนั้นไม่อาจรับรู้ได้ถึงสิ่งที่อยู่ลึกลงไปในตัวคนอื่นได้เลย เรารู้ได้เพียงสิ่งที่มันเป็นเพียงเปลือกนอกเท่านั้นเอง มันเป็นขีดจำกัดของศักยภาพมนุษย์ในการเข้าใจคนอื่นน่ะมึง ฉะนั้นมันไม่แปลกหรอกถ้ามึงจะอ่อนแอ&เห็นแก่ตัว ใครๆก็มีความอ่อนแอและเห็นแก่ตัวกันทั้งนั้น ถ้าถามว่าทำไมคนอื่นถึงยังมีความสุขกับการเล่นเกมชีวิต ทั้งๆที่แม่งก็อยู่ในโลกที่โหดร้ายใบเดียวกับมึง คำตอบมันมีหลายอย่างนะ อาจเป็นดวงที่มันเกิดมาฉลาดสร้างทัศนคติดีๆเองเป็นหรือมีใครสอน แต่สำคัญที่สุดมันไม่ได้อยู่ที่ของข้างในพวกนั้นเว่ย มันอยู่ที่การกระทำของคนพวกนั้นต่างหาก
ไม่มีใครแคร์หรอกว่ามึงจะมีน้ำใจแค่ไหนยังไง ตราบใดที่มึงไม่ลงมือทำดีให้คนอื่นรับรู้ กลับกัน ถ้าคนบางคนที่นิสัยเห็นแก่ตัวสัสหมาเสือกไปทำให้คนอื่นรู้สึกดีได้ก็มีสิทธิ์เป็นคนดีแม้เจตนาแม่งจะเหี้ยบัดซบ เช่นกันกับความแข็งแกร่งหรืออ่อนแอในตัวมึง ของที่อยู่ข้างในน่ะไม่ได้มีความหมายอะไรเลย ถ้าจะมัวหาทางให้ภายในแกร่งขึ้นมาน่ะสู้หาทาง"ทำ"ให้คนอื่นยอมรับ หรือเห็นว่ามึงแข็งแกร่งก่อนดีกว่า แล้วพอชีวิตมึงรอดพ้นจากสภาวะเหี้ยๆเจียนตายอะไรแล้วค่อยไปพัฒนาตนเอง เพราะถ้ามึงคิดจะพัฒนาเลยตอนนี้กูว่ายาก เพื่อนกูสมัยที่รร.ที่โดนแกล้งหรือโดนเกลียดแต่ละคนแม่งไม่เคยมีเวลาแม้จะให้นั่งทบทวนตัวเองหรือฝึกฝนอะไรเลยก็เพราะคนอื่นไม่ปล่อยมันไปซะทีเนี่ยแหละ บางครั้งพลังมันมาทางตรงไม่ได้มึงก็ต้องฉลาดหาทางหลีกเลี่ยงไปหาทางอื่นเอา
กูเป็นคนนึงที่จิตใจอ่อนแอมากมาตั้งแต่เด็กๆ ขี้ขลาด ขี้เกียจ ขี้เบื่อ ไม่ชอบทำอะไรสักอย่าง ไม่รักใครสักคน รู้สึกอยากตายครั้งแรกตอนอยู่ป.4 ไม่ได้อยากตายเพราะทนไม่ไหวชีวิตมันเศร้าอะไรพรรค์นั้นด้วย กูแค่อยากจะหลับ เพราะกูรู้สึกว่าชีวิตมันตอบรับความต้องการกูได้ไม่ดีพอ แถมถ้าอยากได้ก็ต้องทำอีก เรียกร้องชิบหาย กูเลยอยากไปหาสิ่งดีๆเอาจากในฝันอันเป็นนิรันดร์หลังความตายเอา แต่ยิ่งโตยิ่งเรียนวิทยาศาสตร์กูก็ยิ่งรู้สึกว่าคนเราตายแล้วมันไม่เหมือนคนหลับว่ะ คนเราหลับแต่สมองมันยังทำงาน=แม่งฝันได้ แต่คนตายมันแค่เอาสมองไปให้หนอนแดก แบบนี้ถ้ากูฝันก็อาจต้องฝันในตัวหนอนหรอวะ มันน่ายี้ผิดรสนิยมกูไปนิดนึง กูเลยเซง กูเลยหาทางออกใหม่ กูมองว่าคนเราแม่งมีจิตใจที่พัฒนามาอย่างซับซ้อนหลายพันปี แต่ระบบที่ใช้สื่อสิ่งที่มันคิดกับโลกภายนอกแม่งห่วยแตกมาก สมมติมึงอยากวาดรูปสวยๆที่จิ้นได้แต่มึงไม่ลงทุนฝึกวาดเป็นปีๆ ยังไงมึงก็ถ่ายทอดมันออกไปไม่ได้ ถ้ามึงรักใคร มึงก็ไม่สามารถทำให้ใครเข้าใจความรู้สึกอันล้นพ้นของมึงได้เหมือนที่มึงรู้สึกจริงๆไม่ว่าจะพยายามจนตายแค่ไหน ฉะนั้น การเชื่อว่าเราเป็นคนแบบไหน เรารู้สึกยังไง หรือเราต้องการอะไร หรือที่เค้าเรียกง่ายๆว่าความยึดติด แม่งจึงเป็นสิ่งบูลชิททั้งหมด สิ่งเดียวที่มีความหมายคือความเป็นจริง คือลูกกระสุนที่พุ่งออกจากปลายกระบอกปืน ไม่ใช่จิตสังหารหรือเจตนาฆ่า คือการกระทำที่คนเลือก ไม่ใช่ตัวเลือกที่คนเลือก คือการทำให้สำเร็จให้ทุกคนรับรู้ ไม่ใช่ทำสำเร็จให้ตัวเองยอมรับ แน่นอนว่าแม่งอาจฟังดูฝืนๆสำหรับมึง "คนเรามันควรจะงามจากภายในไม่ใช่หรอวะ" ใช่ กูก็ชอบแบบนั้น ยิ่งถ้าความงามภายในมันไปผลักดันให้การกระทำทุกอย่างมันงามโดยธรรมชาติยิ่งดีแล้วใหญ่ แต่สำหรับคนที่ภายในทุเรศบัดซบหรือภายในดีแต่ทำดีไม่เป็น กูว่าสิ่งสำคัญคือการกระทำออกมาให้สำเร็จว่ะ เหมือนมึงเป็นนักเวทย์ มึงมีintมีมานาเป็นล้าน แต่เสือกไม่มีskillจะใช้สักดอก... มันจะมีความหมายอะไรวะ
(ต่อ) ฉะนั้น มึงเอาแค่นี้แหละ 1. เลิกยึดติด 2. เริ่มทำสิ่งที่มึงควรทำ 3. ทำให้สำเร็จ 4. เสพความสำเร็จนั่นแล้วติดมันเหมือนยาเสพติดซะ 5. rinse&repeat
เท่านี้มึงก็จะเป็นเหมือนคนที่ใช้ได้คนนึงบนโลกใบนี้แล้ว ย้ำว่าเหมือนนะ ลึกๆ มึงก็อาจจะยังเบื่อโลกอยากตายเหมือนเดิมเหมือนกูนั่นแหละ เพียงแค่ไม่มีใครไล่มึงไปตายอีกแล้วณ จุดนั้น และจากจุดนั้นไปมึงอาจติดยาจนตายไม่ลงก็ได้ใครจะไปรู้ ที่แน่ๆคือมันมีอะไรน่าสนใจที่มึงยังไม่ได้ลองอีกเยอะแน่นอน ใครที่บอกว่าเบื่อโลก จริงๆแม่งก็แค่คนที่เบื่อตัวเองที่กำลังขาดยา เสี้ยนจะเสพโลกแต่เสพไม่ได้แค่นั้นเอง มึงก็ลองคิดเพื่อตัวเองดูนะว่าจะทำอะไรได้บ้าง บางทีมึงอาจไม่ต้องแก้ตัว มึงแค่ไปเริ่มใหม่ที่ไหนก็ได้ หรือถ้ามึงจะแก้ยังไงมันก็แก้ได้ว่ะ ไม่มีเหี้ยอะไรที่เป็นไปไม่ได้หรอก เพราะมึงแค่ยังทำไม่สำเร็จ(บางคนจนแก่ตายก็ทำไม่สำเร็จ5555) มึงลองคิดดูดิว่ามึงตั้งใจแก้ตัวจริงๆแล้วหรอวะ ทำเต็มที่แล้วจริงๆหรอ ไม่ใช่ว่าเป็นสายขี้เกียจคิดแล้วสักแต่ยัดความพยายามทำเรื่องเดิมๆแล้วหวังว่าคนจะเข้าใจนะ ลองศึกษาคนดู เพื่อนมึงต้องการอะไร มึงให้ได้มั้ย มันอยากได้จากมึงมั้ย มึงจะให้มันแค่ไหน มึงจะได้อะไรตอบ มึงพอใจมั้ย มันเลิกทำไม่ดีกับมึงมั้ย มึงว่ามันก็เป็นคนเหมือนมึงรึเปล่า จริงๆเราก็อ่อนแอเหมือนกันมั้ย มึงจะลองรักมันได้รึเปล่า ชีวิตเป็นสิ่งที่ทั้งโสโครกและสวยงามในเวลาเดียวกันได้ มึงแค่ต้องลืมตากว้างๆ ทำใจให้เย็น แต่ใช้ร่างกายให้เหงื่อท่วม(อุปมา)ไป แล้วมึงจะเข้าใจว่าแม่งสุดยอดแค่ไหนที่ได้เกิดมาเจ็บ ยิ้ม ร้องไห้ และเรียนรู้
Ps. เชี่ยพิมพ์รอบแรกตัวอักษรเกิน4kแล้วโพสไม่ได้ว่ะ5555 ยังไงก็สู้ๆนะเพื่อนโม่ง ༼ つ ◕_◕ ༽つ take my energy ༼ つ ◕_◕ ༽つ
>>687 คำปรึกษากูอาจจะไม่ดีเท่าไหร่ แต่กูอยากเล่าให้มึงฟัง
กูเคยฆ่าตัวตายมาแล้วครั้งนึง แต่ว่าไม่ตาย หมอถึงกับให้พยาบาลมาเฝ้าพิเศษเพราะวิธีของกูไม่ใช่การโดดตึกรึแขวนคออะไรที่ใช้เวลา
กูเคยเอามีดแทงอกซ้ายตัวเอง ตอนนั้นก็กะจะตายแล้วล่ะพอหลับตาหมดสติไป อยู่ๆก็ตื่นขึ้นมาอีก กูงงมากที่กูไม่ตายเพราะกูกะแทงให้โดนหัวใจ
ตายๆไปเลย 100% แต่มันก็ไม่ตาย ชีวิตกูไม่เคยมีความสุขซักครั้ง ไม่เคยมีใครรักใครจริงใจซักครั้ง รอดมาได้เพราะมีคนมาส่งของที่บ้านพอดี
ครอบครัวไม่เคยเป็นห่วงกูเลย บอกแค่ว่ากูเนรคุณปล่อยมันตายๆไป พอเริ่มขยับตัวได้อะไรได้ กูก็กะจะเอาอีกรอบ วางเป็นแผนเลยมึง
กูเอาน้ำใส่ให้เต็มอ่างล้างเอาหัวจุ่ม กะกดน้ำตัวเองตายๆไปซะ กูหมดสติไปแล้วด้วยแม่งทรมาณจริง แต่กูก็ไม่ตายอีกพยาบาลมันไขมาช่วยทัน
มีจิตแพทย์มาให้คำแนะนำอ้างครอบครัว อ้างสังคม พูดถึงตัวกูว่าควรจะอยู่อย่างนั้นอย่างนี้ มันไม่ช่วยอะไรเพราะไม่มีใครเข้าใจกู มีแต่ต้องการให้กูเป็นในแบบที่เขาเข้าใจ แต่สุดท้ายแล้วกูก็คิดได้เองว่าการฆ่าตัวตายนี่มันไร้สาระจริงๆ เพราะในเมื่อวันนึงมึงก็ต้องตายอยู่ดีใน 100 ปีนี้
ยังไงกูก็ต้องตายเพราะไอ้เรื่องต่างๆในชีวิตอยู่ดี ไม่จำเป็นต้องไปเร่งอะไรมันปล่อยให้มันค่อยๆเข้ามาหาแล้วคอยดูเหตุการณ์ต่างๆไปเรื่อยๆนี่ล่ะดีแล้ว
อาจจะเป็นที่เขาเรียกว่า "ปล่อยวาง" ก็ได้มั้ง เพราะหลังจากออกจากโรงบาลกูแทบจะไม่มีอารมณ์อะไรอีกเลย พอไม่มีอารมณ์ไม่ฟุ้งซ่าน ก็รู้สึกว่าเรื่องต่างๆในชีวิตมันเป็นเรื่องไร้สาระเล็กๆน้อยๆทั้งนั้นแหละว่ะ บ้านจะถูกยึด เงินจะหมดตัวเพราะค่ารักษา ก็ช่างมันปะไร กูก็หาได้เรื่อยๆตราบที่ยังไม่ตาย การมีชีวิตของกูไม่ใช่การมีความสุข แต่กูต้องการหาความสงบสุขไปเรื่อยๆ ก็แบบนั้นล่ะที่กูคิดออกมาได้จนเลิกฆ่าตัวตาย
บางทีชีวิตก็งี่เง่า ไม่รู้ว่าจะเกิดมาทำไม มีอะไรต่างเข้ามาทำให้ใจไม่เป็นสุขทั้งนั้น ในเมื่อไม่เป็นสุขก็ยิ่งไม่เข้าใจชีวิต
ชีวิตมันก็แค่ต้องการความสงบสุขหรือ "Peace" นั่นแหล่ะ เพียงแต่ถ้าตายไปแล้ว มึงจะรับรู้ความสงบสุขแบบนี้ได้อีกยังไง ปล่อยวางเว้ย กูคิดแบบนี้น่ะ
กูมองว่าฆ่าตัวตายไปมันก็ไม่ผิดหรอก แต่อยากให้ลองอ่านความคิดกูดู
กูคิดจะฆ่าตัวตายตลอดเวลา ตอนนี้ก็ด้วย กูไปยืนเล่นๆที่ระเบียงพร้อมจะโดดอยู่หลายครั้ง ไปยืนเอามีดจ่อตัวเองในครัวอยู่หลายครั้ง ผูกเชือกแขวนคอตัวเองจนกูผูกเงื่อนนั้นคล่องแล้ว แต่ทุกครั้งกูห้ามตัวเองได้ด้วยการคิดถึงคนอื่น คนอื่นในที่นี้ไม่ใช่พ่อแม่หรือเพื่อนคนรู้จักกูทั้งสิ้น พวกนั้นกูไม่สนใจหรอกว่าถ้ากูตายมันจะเสียใจ ช่างแม่งสิ กูตายไปมันก็อยู่กันได้ คนอื่นที่กูหมายถึงคือคนที่กูสามารถเอาชีวิตเหี้ยๆของกูไปช่วยเค้าได้ คนที่ต้องการความช่วยเหลือ แบบที่ไม่ต่างจากกูเท่าไหร่
ชีวิตกูโหยหายความรัก กูต้องการให้ใครซักคนมารักกูแบบที่กูอยากรักใครซักคน กูไม่ต้องการอะไรอีกแล้วนอกจากนี้ ถ้ากูมีคนรักกูจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ทั้งหมดของกูเพื่อเค้าคนเดียว ในเมื่อกูไม่อยากอยู่เพื่อตัวเองอีกแล้ว กูจะเอาเค้าเป็นเหตุผลในการมีชีวิตอยู่ของกูแทน
แต่กูก็ไม่มี ได้ ถ้ากูไม่มีกูจะยัดเยียดความรักของกูให้คนอื่น กูจะเป็นห่วงเป็นใยคนอื่น ดูแลแบบที่กูอยากทำ
ทุกวันนี้กูไม่คิดเรื่องตัวเองอีกต่อไปแล้ว ใครมาขอให้กูช่วยอะไรกูทุ่มสุดตัวช่วยเต็มที่ อย่างน้อยกูก็ทำให้คนอื่นมีความสุขได้ ถึงชีวิตกูจะจมดิ่งลงไปเรื่อยๆแค่ไหนก็ตาม ถ้ากูเผลอคิดถึงเรื่องตัวเองเมื่อไหร่ความคิดอยากฆ่าตัวตายแม่งกลับมาหากูเมื่อนั้น
เรียนจบไปกูจะหาเงินให้ได้เยอะๆ ไม่ใช่เพื่อตัวเอง กูจะเอาเงินกูไปบริจาค ตั้งมูลนิธิเหี้ยอะไรก็ได้ กูจะช่วยเหลือคนอื่นให้ได้มากที่สุด
ตอนนี้กูก็ทำเต็มที่อยู่ แต่กูทำแล้วไม่มีความสุขหรอก ลำบากเหี้ยๆ แต่คนอื่นมันมีความสุขไง
มึงก็ลองหาเหตุผลในการใช้ชีวิตอยู่ต่อสิ ถึงจะเหี้ยแค่ไหนแต่มันก็ทำให้มึงมีเป้าหมายในการใช้ชีวิต
กูอยากปล่อยวางเหมือนที่มึงๆให้คำแนะนำนะ กูขอบคุณมากๆ ที่ให้คำแนะนำมาเล่าประสบการณ์ แต่ตอนนี้กูยังไม่เข้มแข็งหรือแสร้งเข้มแข็งได้อย่างมึง อ่อนแอ แม้กระทั่งฆ่าตัวตายกูก็ไม่กล้า อยากจะเอายานอนหลับมากินเยอะๆ ให้หลับไปเลย กูก็สงสารคนรอบข้างที่เขาแคร์กู ใครจะดูแลพ่อแม่พี่น้องญาติๆ เขาต้องเสียใจเพราะกู กูไม่อยากทำให้เขาเสียใจเพราะการกระทำที่อาจผิดพลาดของกู พ่อแม่ที่ลูกเสียก่อน กูว่ามันน่าสงสารมากๆ กูก็เสือกขี้สงสารอีกไอเหี้ย สงสารคนอื่น สงสารตัวเอง
แต่คือปัญหาของกู กูปล่อยวางมันมาหลายปีแล้ว แต่สุดท้ายมันก็ยังย้อนกลับมาหากู กลับมาให้กูได้นึกถึง และยิ่งกูโตขึ้นเท่าไหร่ กลับกลายเป็นกูยิ่งคิดเป็น ยิ่งคิดเยอะขึ้น ไม่เหมือนสมัยก่อน ที่แค่คิด แค่เครียด แต่ไม่ส่งผลกับชีวิตกูมากมายขนาดนี้ กูบอกตรงๆ กูไม่กล้าเผชิญปัญหา กูอยากหนีปัญหา กูอยากหายๆไปบนโลก ไม่อยากให้ใครรู้จัก ไม่อยากรู้จักใคร กูเลยคิดอยากฆ่าตัวตาย แต่จะให้กูทำร้ายตัวเอง โดดตึกหรือแขวนคอใจกูก็ไม่กล้าพอ กูนี่มันอ่อนแอเหี้ยๆ อ่อนแอที่จะอยู่บนโลก แล้วยังอ่อนแอที่จะตายอีก ตอนนี้กูเลยหนีปัญหาโดยการหลับ หลับไปเลย ตื่นมาพอเครียด กูก็หลับ หลับจนจะข้ามวันข้ามคืน เหอะๆ กูนี่น่าสมเพชจริงๆ
กูเครียด จนกูคิดจะตรอมใจตาย กูอยากปล่อยวาง กูไม่อยากให้มันมากระทบชีวิตกู กูแค่อยากให้ใครสักคนมารักกู ที่กูเป็นกู มารับตัวกูให้ได้ ถึงแม้กูจะเหี้ยแค่ไหน แต่ตอนนี้กูพยายาม กูพยายามจะเป็นคนดี กูอยากมีชีวิต การงาน ครอบครัวที่ดี กูอยากมีชีวิตที่ดีแบบคนอื่น แล้วนี่คือเหี้ยอะไร กูจะพยายามเป็นคนดีคนใหม่แค่ไหน ปัญหาก็ยังคงตามกูมาอยู่ดี โลกนี้แม่งเหี้ยเนอะ กูนับถือคนที่อยู่กับมันได้จริงๆ
>>690 อุวววว กูอยากรู้จักมึงจัง กูอยากตายนะแต่ไม่กล้าทำอะไรแบบนั้นหรอก กลัวเจ็บ นับถือมึงมากๆ กูสรุปเองทางที่ดีที่สุดในการตายคือแก่ตาย เพราะคงไม่เจ็บ ตอนนี้มึงชีวิตเป็นยังไงมั่ง ชีวิตที่ปลงมีอะไรดีขึ่นมั้ย มึงยังเหลือความทะเยอทะยานรึเปล่า??
>>692 เล่ามาเพื่อน
ไม่เข้าโม่งนานคนสิ้นหวังแม่งเยอะชิบหาย กูไม่รู้จะบอกยังไง สู้สู้และอดทนนะพวกมึงกูบ่นจนขี้เกียจบ่น ตะเกียกตะกายแค่ไหนสุดท้ายวนลูปเดิมๆ กูเอาสิ่งที่พวกมึงพูดเก็บไปคิดไปทำบ้าง เหมือนปีนภูเขานะ รู้ว่าปีนสูงขึ่นแต่กูไม่รู้เลยว่ายอดเขาอยู่ไหน จะหยุดเมื่อไร จริงๆมียอดเขาไหม กูอยากไปยอดเขารึเปล่า หรือจริงๆที่กูปีนอยู่ไม่ใช่เขา กูไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น
ปัญหาขาดแรงบันดาลใจในการดำรงชีวิตมีแค่ในคนรึเปล่าวะ
ถูกมู้รึเปล่าไม่รู้ แต่กูขอระบายหน่อยได้ไหม นานๆกูเข้ามาที แต่ตอนนี้กูรู้สึกว่ากูเริ่มรับตัวเองไม่ไหว
กูเป็นโรคซึมเศร้าเรื้อรังว่ะมึง เป็นมาประมาณสองปีจะสามปีแล้ว ช่วงแรกๆที่เป็นกูมีปัญหาหลายๆอย่างเข้ามารุมเร้า
จะเล็กน้อยหรือใหญ่โต คือมันเข้าประเดประดังมาหมดเลยอ่ะ กูก็ใจเย็นนะ แก้ไขไปทีละอัน จนมันเหมือนจะเริ่มดีขึ้น
แต่ไปๆมาๆดันมีปัญหาใหญ่ตามมาอีก เป็นเรื่องในครอบครัวว่ะ คือเป็นเรื่องใหญ่โตมาก
คือกูมีปัญหากับแม่ของพ่อ หรือย่าของกูนั่นแหละ เดิมทีกูไม่ถูกกับย่ากูอยู่แล้ว เพราะอะไรหลายๆอย่างเข้ากันไม่ได้
แต่กูก็ต่างคนต่างอยู่นะ กูไม่อยากทำให้เรื่องมันใหญ่โต ไม่อยากให้พ่อกูต้องมาเครียด
ตอนที่กูเริ่มแก้ไขไปทีละอย่างนั่นแหละ กูดันมีปัญหากับย่ากูพอดี คือแกเป็นโรคทางจิตอ่ะ มักจะชอบหลอนไปเองว่ามีคนจ้องทำร้ายหรือมีคนด่า หรือมีคนมาขโมยของของแกทั้งๆที่ไม่มีเลย
คือแม่กูเคยพูดกับพ่อกูไปแล้วว่าพาไปรักษาดีไหม จะได้ไม่เป็นหนักกว่านี้ สบายใจทั้งสองฝ่าย ย่ากูจะได้หายด้วย
แต่พ่อกูกลัว ไม่ยอมพาไป พ่อกูมีทัศคติว่าคนเข้าโรงบาลจิตเวชคือคนบ้า
แม่กูก็ไม่รู้จะทำยังไง ก็เลยปล่อยเลยตามเลย
ตอนเกิดเรื่องเป็นตอนดึก กูนั่งของกูอยู่ดีๆ
ย่ากูเดินออกมาโวยวายใส่กู บ้านแทบแตก หาว่ากูไปด่าแก แล้วก็ยืนชี้หน้าด่ากูแบบรุนแรงมาก แช่งกูด้วยสารพัดนานา
กูอ่อนไหวง่ายชิบหายเลยร้องไห้ ด่ากลับไม่ได้ด้วย เขาเป็นผู้อาวุโส เป็นแม่ของพ่อด้วย
พ่อกูก็ลงมาพูดให้ ไกล่เกลี่ยเสร็จก็แยกย้ายกันไปนอน กูก็นอนร้องไห้ วันต่อมาพ่อกูก็เดินมาบอกกูว่า
ให้คืนดีกับย่าไว้ ย่าแกจำไม่ได้แล้วล่ะว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืน คนแก่หลงๆลืมๆใช่ป่ะ
กูก็ยิ้ม แต่พอลงมาคือแกเมินกู ไม่คุยกับกู คือไม่ได้ลืม กูก็คิดว่า ดีแล้วจะได้ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกัน
แต่เย็นนั้นพ่อกูบอกให้กูไปขอโทษแก คือกูช็อคมาก กูบอกไปว่ากูไม่ได้ด่า กูไม่ได้ทำอะไรแกเลยทำไมกูต้องไปขอโทษ
โอเค กูอาจจะเป็นคนดื้อหน่อย แต่กูไม่ได้ทำผิดจริงๆ คือพ่อกูคงไม่อยากให้ย่าโกรธเกลียดกู เลยให้กูไปขอโทษ
กูก็ขอโทษตามบทที่พ่อกูป้อนมาให้
ย่ากูก็ยิ้ม แบบเหมือนรอให้กูมาขอโทษ ทั้งๆที่กูไม่ผิด
พ่อก็บอกกับกูว่าแกไม่โกรธเราแล้วนะ เดี๋ยวแกก็ลืมเรื่องนี้
คือพ่อคงคิดว่า สำหรับย่า แปปเดียวเขาก็ลืม แต่สำหรับกู มันเป็นปมไปจนวันตาย
คำแช่งคำด่าของแกยังติดอยู่ในหูกูอยู่เลย บางทีกูก็ฝันร้ายเจอเรื่องนี้
หลังจากวันนั้นกูก็เริ่มเป็นโรคซึมเศร้า
เพราะอยู่บ้านกูต้องเจออะไรแบบนี้ แม่กูน้องกูพี่กูก็ไม่รู้ว่ากูเป็นโรคซึมเศร้า เพราะกูไม่เคยบอกใคร ไม่อยากลากเขามาเครียดด้วย
พ่อกูก็ไม่รู้ คิดว่ากูเจอแค่นั้นเดี๋ยวก็ลืมเหมือนย่า กลับมาร่าเริงได้ใหม่
คือไม่มีใครรู้เลยแหละ อยู่โรงเรียนกูทำเป็นยิ้มสดใส แต่ช่วงนั้นเป็นช่วงงานเข้ามาหักโหม ทุกอย่างโยนมาให้กูหมด กูก็ยิ้มต่อหน้าเพื่อนไปนะ แต่ก็แอบไปร้องไห้ทุกที เพราะมันมีทั้งเรื่องงาน เรื่องเพื่อน เรื่องครอบครัว เรื่องส่วนตัว รุมเข้ามาหมดเลยอะ เครียดเรื่องเกรดด้วยเพราะกูต้องเก็บเกรดเอาทุน แต่ครูกดเกรดมาก
ยังไม่จบ เขียนไม่พอ
พอกูเสร็จจากความเครียดที่โรงเรียน กลับมาบ้านก็เจอความกดดันนี้อีก ไม่มีใครรู้ว่ากูเป็นอะไร กูขอความช่วยเหลือไม่ได้เลย ไม่ใช่แค่พ่อกูที่มีความคิดว่าคนไปหาจิตแพทย์คือคนบ้า แต่บ้านกูก็คิดแบบนี้ คือออกแนวหัวโบราณหน่อย กูเลยบอกใครไม่ได้ อึดอัดมาก เอาไปปรึกษาเพื่อนก็ทำไม่ได้ เพราะเครียดเรื่องงานเรื่องเพื่อนอยู่ ครูสนิทๆก็ไม่มี คือต้องเก็บไว้คนเดียว
เข้าห้องน้ำทีไร ก็จะอาบน้ำ แล้วเรื่องทุกอย่างมันจะปังเข้ามาในหัวทีเดียวเลย ก็ยืนร้องไห้ รู้สึกหนาวก็ทำได้แค่กอดตัวเอง อยากจะกรี๊ดอยากตะโกนออกมาดังๆก็ทำไม่ได้ คือกูตะโกนออกมาแต่ไม่มีเสียง จะมีเสียงทีไรกูก็ต้องปิดปากไว้เหลือเป็นเสียงอู้อี้ในคอ
นอนทีไรก็สะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก เดี๋ยวฝันร้ายบ้าง เดี๋ยวตื่นมาร้องไห้บ้าง กว่าจะเช้ามันยาวนานมาก
บางทีก็เหม่อจนต้องมีคนสะกิด เคยข้ามถนนแล้วเหม่อจนโดนรถบีบแตรใส่เพราะเกือบชน ตอนนั้นกูรู้สึกเหมือนวิญญาณหลุดออกจากร่างมาก
บางทีนั่งอยู่ก็มีภาพหลอนเข้ามาในหัว คิดแต่อะไรแย่ๆไปหมด มองแต่โลกแง่ร้าย จนจะกลายเป็นโรคจิตเข้าเอง
เพราะคิดว่าแต่ละคนที่เข้ามาไม่ประสงค์ดีกันทั้งนั้น ระแวงทุกอย่าง
เคยคิดจะฆ่าตัวตาย แต่ไม่สำเร็จ เพราะมักจะมีอะไรมาขัดตลอดเหมือนไม่อยากให้กูตายงั้นแหละ
ตอนนั้นกูไม่ได้คิดอยากตาย
กูคิดแค่ว่า กูไม่อยากเจ็บปวดอีกแล้ว
ถ้าฆ่าตัวตายก็ต้องตกนรกเหรอ แล้วก็ต้องเจ็บปวดมากๆ แต่เจ็บทางกายยังดีกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้
กูคิดแค่นี้แหละตอนนั้นอะ พอแม่งไม่สำเร็จซักที กูก็เลยเริ่มหางานเข้ามาใส่ชีวิตให้เยอะๆ ให้มีอะไรทำเพื่อไม่ให้คิดเรื่องนี้
ปัญหาทุกอย่างก็เริ่มหมดลงนะ กูก็รู้สึกว่าเออ กูก็หายโรคซึมเศร้าได้เว้ย ไม่ต้องพึ่งหมอก็ได้ นี่ไงกูกลับมาร่าเริงแล้ว ปัญหาจบแล้ว ทุกอย่างแฮปปี้
แฮปปี้พ่อง
ไม่เลยมึง กูยังเป็นอยู่ ตอนนั้นกูแค่ไม่รู้ตัว
พอมีเรื่องเครียดเข้ามาทีไร เรื่องเล็กเรื่องใหญ่กูโวยวายตลอด ฉุนเฉียว โมโหง่าย ขว้างปาข้าวของ ด่าคนอื่น เหมือนไม่มีใครทำอะไรได้ดังใจ
เสร็จแล้วจะมานั่งเสียใจทีหลังว่ากูทำอะไรลงไป
กินเยอะมาก กินจุกจิกไปหมด แต่พอเศร้าทีไรไม่แตะข้าว ไม่อะไรเลย ขนาดท้องร้องหิว แสบท้อง พอจะแตะก็อยากอ้วก ไม่กิน
อารมณ์แปรปรวนยิ่งกว่าตอนเป็นเมน เครียดนิดหน่อยก็คิดแต่เรื่องแง่ลบ จะตายๆอยู่นั่น
กูเลยรู้สึกว่ากูไม่ได้หายเลยไอ้โรคซึมเศร้าเนี่ย
บางทีกูก็นั่งคุยกับตัวเอง เหมือนตัวกูสร้างอีกคนขึ้นมาในตัวให้รับฟังกู คอยพูดกับกู
มันก็สบายใจขึ้นนะ มันเกี่ยวกับการปกป้องตัวเองเปล่าในร่างกายก็ไม่รู้
ที่กูไม่ยอมไปหาหมอ เพราะกูไม่มีเงิน ถ้ากูมีกูคงไปเองแล้ว
กูไม่อยากให้พ่อให้แม่กูต้องมาเครียดมาอะไรกับเรื่องของกู
พ่อแม่กูกลัวพวกขี้เม้าท์ด้วย ค่านิยมคนไทยเนอะ พบจิตแพทย์คือเป็นคนบ้า พวกป้าๆลุงๆทั้งหลายเนี่ยตัวดีชอบเม้าท์ชอบเสือก
กูก็อยากหายนะ อยากมากๆ
กูกลัวตัวเองมาก บางทีเผลอทำอะไรไปบ้างก็ไม่รู้
กูควรทำยังไงดี กูเองก็ไม่รู้เหมือนกัน
ขอบคุณพื้นที่ที่ให้กูระบายนะ แหม ยาวเลย
มึงไปหาหมอรัฐ บอกว่าไม่มีเงินก็ได้ อย่างน้อยไปเล่าให้เขาฟังเขา จะได้รู้ว่าควรทำไง ยาในบัญญียาหลัก(?)แห่งชาติไม่แพง เก็บเงินค่าขนมเอาได้ป่ะกูไม่รู้มึงอายุเท่าไร
ส่วนเรื่องยายเป็นกูกูจะไม่ขอโทษ ไม่ได้ทำอะไรแล้วต้องขอโทษนี่มันเหี้ยจริงๆ
กูเคยโดนอาจารย์ ป้าโรงอาหาร พ่อแม่รุมกูว่ากูขโมยเงินตอนอนุบาล กลับมาพ่อก็ตีกูด้วยไม้จนเลือดแตก ตอนนั้นแม่ไม่มีเศษ20เลยให้แบงค์50กูมา แม่ก็ไม่บอกพ่อ เรื่องเล็กๆแต่กูรู้สึกแย่ยันวันนี้ เรื่องเหี้ยๆมันเกิดตอนกูยังไม่มีภูมิต้านทานโลกดีพอ
บางเรื่องถ้ากูไม่ได้ทำกูจะยอมหักไม่ยอมงอเพราะถ้ากูยอมแม่งก็มาเสียใจกับตัวเองไม่มีใครรู้ ไม่มีใครช่วยอะไรกูได้อยู่ดี แล้วงี้กูจะแคร์คนอื่นทำไม
>>697 กูเก็บเงินเรื่อยๆแหละ ถ้ากูเริ่มมีเงินเยอะเมื่อไหร่กูก็จะไป กูไม่รบกวนพ่อแม่กูแน่ ยังไงก็จะใช้เงินกู ระหว่างนี้กูก็พยายามมองโลกในแง่ดีไว้ ไม่ต้องเครียด แต่ก็นะ เครียดทีไรความคิดแง่ลบก็เข้ามาตลอดอยู่ดี ขอบใจสำหรับคำแนะนำมึงมากนะ
>>698 กูก็บอกให้พ่อกูพาแกไป แต่พ่อกูไม่ยอมอ่ะดิ บอกว่าย่าไม่เป็นไร มันเป็นเรื่องปกติของคนแก่ คือทุกคนช่วยกันพูดแล้วแต่ก็ไม่ฟังอยู่ดี
>>699 ไม่ต้องรอเงินเยอะหรอก ของกูค่ายาเดือนนึงพันนิดๆ แต่คุยกับใครก็จ่ายน้อยว่ากูทั้งนั้น บางคนค่ายา150เอง มึงไปหาก่อนจะได้รู้ราคาจริงๆ อย่างน้อยเขาก็มีคำแนะนำอะไรดีๆแป
กูไม่รู้ว่าเวลากูมองโลกในแง่ดีหรือกูหลอกตัวเองนะเอาจริง555555 แต่กูชอบมองในแง่ร้ายมากกว่า
บอกเลยว่าถ้าย่ามึงเป็นอะไรไปก็เป็นเพราะพ่อมึงล้วนๆ กันไว้ดีกว่าแก้ ถึงจุดที่แก้ไม่ได้แล้วมาสำนึก บางอย่างเริ่มใหม่ไม่ได้ทุกครั้งหรอกมึง หรือบอกเขาว่าเขาขี้เกียจเอาย่าไปหาหมอหรอ บางครั้งการปฏิเสธเสียงแข็งก็ทำให้กูคิดแบบนั้น เหมือนคนผัดวันประกันพรุ่ง วันนี้ไม่เป็นไรไว้ค่อยไปหา
โม่ง กูอยากประกาศกับโลกนี้ว่า กูเป็นจิตเภท
กูอึดอัดชิบหาย หางานก็ยาก.กูแค่เป็นจิตเภทว้อยยยไม่ได้ฆ่าใครตาย มึงเข้าใจไหมกูแดกยากูก็ปกติไง.โรคนี้แม่งเปิดเผยมากก็ไม่ได้ เดี๋ยวไม่ได้งาน.......กูเซ็งว้อยยยยยยย สรยุทธ์ เอาข้อความนี้ไปออกข่าวที ให้มีงานสำหรับกลุ่มคนที่ได้รับการบำบัดทางจิตบ้างงงง ย้ากกกกกกกส์
กูล่ะอยากจะกรีดร้อง55555
ปล.กูเครียดก็ให้กูฮาบ้าง
เศร้าชิบหายเลย จำวันจ่ายตังสมัครสอบผิดเลยไม่ได้สอบ รู้สึกเหี้ยชิบ ทำไมกูเป็นคนงี้วะ
บอร์ดนี้มันแหล่งรวมคนประสาทรึไงวะ
ทำไมมีไอ้พวกขี้แพ้มาบ่นทุกวันเลย
จะว่าไปการมีอยู่ของบอร์ดเอาใจลูสเซอร์พรรค์นี้มันจะส่งผลให้ประชากรลูสเซอร์ในประเทศเราเพิ่มขึ้นปะ
>>713 เพิ่งเห็นของมึงหลังจากส่งอันบน กูเข้าใจที่มึงจะสื่อแล้ว ถ้าเป็นอย่างที่มึงว่าก็น่าจะมีแนวโน้ม(มั้ย? กูก็ไม่แน่ใจ)
แต่กูว่าพวกที่มาระบายในนี้ส่วนใหญ่คนรอบข้างรอบตัวไม่รู้ว่าเครียดมีปัญหา ถึงคนในนี้มาคอยปลอบใจ แต่ออกไปเจอโลกจริงๆนอกอินเตอร์เน็ต แม่งก็ยังมีคนไม่เข้าใจไม่สนใจอยู่ดี ถ้าเพิ่มจำนวนขึ้นจริงก็ต้องหลบๆซ่อนๆ แสดงออกไม่ได้เหมือนเดิม
อ่อนแอ พวกมึงมันช่างอ่อนแอ
เห้ย พวกมึง
เท่าที่กูอ่านมา กระทู้เหี้ยเนี่ยรวมถึงไอ้ป้องกันการฆ่าตัวตายด้วย แม่งไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับชีวิตพวกมึงเลยว่ะ
แม่งมีแต่พวกมึงมาบ่นมาเฟลชีวิต แบ่งกันฟัง ปลอบใจกันหน่อยนึง จบ
คำแนะนำดีๆก็มี แต่กูว่าพวกมึงก็ไม่ทำกันหรอก อ่านแล้วก็คิดว่าไม่ไหวหรอก มึงทำแบบนั้นแบบนี้ไม่ไหว มึงไม่มีความสามารถ ไม่มีแรงบันดาลใจ ไม่มีใครรักเหมือนเดิม
การไปหาจิตแพทย์แม่งก็ไม่ได้ช่วยมึงเท่าไหร่หรอกนะ ยามันช่วยให้สมองมึงเคลียร์ขึ้น เป็นตัวช่วยให้มึงจัดการปัญหาตัวเองได้ง่ายขึ้น แต่ประเด็นคือ"มึง"ต้องเป็นคนจัดการปัญหานั้นด้วยตัวเอง ถ้ามึงแดกยาแล้ววันๆยังนอนอืด รอว่าเมื่อไหร่ซอมบี้จะระบาด ภัยธรรมชาติถล่มโลก จบสิ้นมนุษยชาติไปซักที มึงก็ไม่หายลูซเซอร์หรอกว่ะ
กูจะบอกไรให้ พวกมึงอะมีโพเทนเชี่ยลจะประสบความสำเร็จและมีความสุขทุกคนแหละ สำหรับลูซเซอร์ที่ยังจมปลักอยู่ในหัวตัวเองอย่างพวกเรา สิ่งที่จะช่วยให้มึงไปถึงจุดนั้นไม่ใช่แรงบันดาลใจแต่เป็นความมีวินัยต่างหาก
เริ่มซักที กระดิกตีนออกไปทำอะไรซักอย่างนึง จะไม่มีวันไหนที่มึงปล่อยไปอย่างเปล่าประโยชน์ บ่อยใช่มั๊ยที่วันนึงห้าทุ่มละมึงคิดกับตัวเอง วันนี้ยังไม่ได้ทำเหี้ยอะไรให้เป็นประโยชน์กับชีวิตเลยว่ะ ต่อไปมันจะไม่มีอีกแล้ว วิดพื้นไป 1 ที อ่านหนังสือไป 1 หน้า ทำเหี้ยอะไรก็ได้ อย่างน้อย1ก็ดีกว่า0วะ
ทำไป ทุกวัน ทุกวัน ทุกวัน จากการประสบความสำเร็จเล็กๆมันจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆเอง จากวิ่งได้5นาทีมาอาทิตย์นึงละ พรุ่งนี้การวิ่งให้ได้8นาทีมันจะไปหนักหนาอะไร จริงมั๊ย?
การได้ชนะ ได้สำเร็จบ่อยๆ ไม่ว่าจะเรื่องเล็กแค่ไหน สะสมมันไปเรื่อยๆ สั่งสมความมั่นใจของมึงให้กลับมา จดบันทึกชีวิตของมึงทุกวัน เชื่อกูเหอะที่กูพูดทั้งหมดนี่เพราะกูก็เป็นคนนึงที่ทิ้งชีวิตจมกับความสิ้นหวังไปเป็นสิบปี นอนงอมืองอตีนรออะไรซักอย่างมาเปลี่ยนชะตาชีวิตกู ตอนนี้กูดีขึ้นมากเพราะการสร้างวินัยให้ตัวเองนี่แหละ ท่องกับตัวเองทุกวันว่าจะไม่มีวันไหน=0สำหรับกูอีกแล้ว อย่างน้อยกูต้อง+1 +1 +1
be your best self
ไปไอ้สัส ไปสู้วว
Looser > Loser
ในนี้น่ะ แค่เป็นโลกเสมือน กูคิดว่าหลายๆ. คนเลยนะ ที่จมปลักอยุ่ในนี้ มันก็ดูโอเคนะ
แต่มึงยังไงก็ต้องมีชีวิตภายนอกโลกโซเชียล
กูยอมรับนะ ว่ากูเป็นคนนึงที่รู้สึกแย่ แต่มึงต้องทำอะไรซักอย่างจริง ๆ ในโลกภายนอก.ยิ่งพวกเป็นซึมเศร้า เป็นจิต จริง ๆ มึงต้องสู้นะเว้ย ยามันมีส่วนแต่ความคิดมึงมีส่วนสำคัญมากมากเช่นกัน
กูก็กำลังรักษาตัวอยู่ กูรู้ว่ามันแย่ แต่มึงต้องผ่านมันไปให้ได้
>>719 สำหรับคนอื่นไม่รู้นะ แต่กูก็พยายามอยู่แหละ กูเชื่อว่าร้อยทั้งร้อยรู้ว่าเรื่องมันมีสาเหตุมาจากอะไรแก้ไขยังไง กูมาบ่นในนี้บางทีอยากฟังแนวทางคนอื่นบ้าง บางคนก็มาขอความมั่นใจ คนบ่นเฉยๆเพราะอยากให้ใครสักคนฟังแม่งก็เยอะจริงๆมั้ง
เรื่องมู้แอคทีพตลอดนี่มาจากโม่งในนี้มันมีเยอะหรือว่าเป็นโม่งหน้าเดิมๆวะ
อีกอย่างคือวินัยไม่ได้แก้ทุกปัญหา กูล้มเหลวในการสื่อสารปัญหาตัวเองให้คนรอบข้างรับรู้และกูดันไม่ได้คิดว่ามันเลวร้ายอะไร ถ้ามันอัดอั้นมากก็ตดออกสักทีนึง กูตดในทวิตอ่ะส่วนมาก55555
ถ้ามันไม่ดีลองเปลี่ยนเป็นมู้สิ้นหวัง+วิเคราะห์ปัญหาด้วยม่ะว่ามึงมีแผนระยะสั้นกลางยาวแก้ยังไง ไว้เป็นไอเดียให้คนอื่นด้วย ใครมีแนวไรดีๆก็แนะกันไป จะได้ดูไม่บ่นๆอย่างเดียวอย่างโม่งบนๆว่ากันอย่างน้อยถ้ามึงอยากเสร็จควรชักว่าวด้วยตัวเองก่อนรอคนอื่นมาชักให้มั้ย
กูทำงานพลาดตลอดเลยทั้งๆที่เป็นงานที่ชอบแท้ๆ กูมันกาก ขนาดเค้าชี้ให้เห็นข้อเสียเบ้อเร่มของงานกูยังดูไม่ออกเลยว่ามันแย่ยังไง สิ้นหวังแล้ว
ขอพื้นที่ระบายหน่อย ไม่ต้องสนกูก็ได้
คือกูว่าจะเลิกฝันแล้วว่ะ กูมีฝันนะเเต่ดูเหมือนทำให้สำเร็จนี่มันช่างยากเหลือเกิน ใจนึงก็ยังอยากฝันต่อแต่อีกใจก็รู้ว่าตัวเองมีความสามารถไม่พอ ทำให้มันเป็นจริงไม่ได้ กูเองก็ไม่รู้จะทำไงดี เดินหน้าต่อไป หาอย่างอื่นแทนแต่แอบมีแว้บๆไปหาบ้าง หรือทิ้งไปเลยอย่างไร้เยื่อใยดีวะ
กูมาแชร์ความสุขเล็กๆในรูปแบบของกู ใช้งบไม่เยอะ
เริ่มจากมือถือราคาไม่ถึง3000 Zenphone C จอใหญ่สเปคแรงแรมเยอะพอที่จะเล่นเกมส์ได้
รองรับคลื่น 850Mz ใช้คู่กับโปรของ My CAT เดือนละ 99บาท ไม่เร็วมากแต่พอเล่นเฟสลื่นอยู่
แอพที่แนะนำนอกจากใช้เล่นเกมส์หรือเล่นเฟสบนมือถือ กูแนะนำ Comico Thailand แอพอ่านการ์ตูนฟรีใช้ระบบPoint ในการอ่าน
มีการ์ตูนหลายเรื่องหลายแนวให้พวกมึงได้เลือก หรือถ้าชอบแนวนิยายก็แอพ Dek-d นิยายคุณภาพไม่ถึงกับซีไรต์ แต่ถ้าเลือกดีๆก็เจอนิยายที่พออ่านสนุกๆได้เหมือนกัน ลองๆดูนะ ตอนกูเบื่อๆไม่มีเหี้ยอะไรให้ทำก็พยายามหาความสุขเล็กๆที่พอจะหาได้ใกล้ๆตัวนี่แหละ
เบื่อว่ะ ไม่อยากเข้าโซเชียลอะไรเลย โดยเฉพาะเฟสบุ้ค บางทีก็เข้าไปหาเพื่อนบ้าง ดูเพจที่ตัวเองชอบบ้าง แต่ก็มักจะมีสเตตัสอวดของ อวดความสำเร็จนู่นนี่นั่นของใครอีกหลายๆคนมาขวางหูขวางตาตลอดว่ะ บางอันแค่พิมพ์อะไรไร้สาระคนก็ไลค์กันชิบหาย คืออิจฉาน่ะใช่ แต่ก็อดคิดว่ากูนี่ช่างขี้เเพ้ไม่ได้ว่ะ บางทีอยากตัดขาดไม่ต้องรับรู้เรื่องพวกนี้ไปเลยแล้วมีชีวิตอยู่ในโลกของตัวเองก็มีความสุขดี แต่จะให้ทำอย่างนั้นตลอดคงเป็นไปไม่ได้สินะ เฮ้อ...
กูเคยอ่านเจอว่าเฟสบุ๊คเป็นตัวเพิ่มความอิจฉาให้คนว่ะ ก็จริงนะ พอไม่ดูก็มีความสุขดีแต่พอเจอคนอื่นก็อดอิจฉาไม่ได้ว่ะ อวดกันจัง กลัวเค้าไม่รู้รึไงว่ามีเงินหรือกำลังทำอะไรกับใครที่ไหนน่ะ ไม่ต้องป่าวประกาศทุกเรื่องก็ได้มั้ง
อยากมีแฟนแต่กูเรื่องมาก หาคนที่ชอบไม่มีเลย ทำไงดีวะ
บนเฟสมันไม่ใช่ชีวิตจริงว่ะ อย่าไปติดภาพบนนั้น เพื่อนกูที่อวดนู่นนี่เยอะๆแม่งสิ้นหวังกว่ากูกันตั้งหลายคน
พวกมึงคิดยังไงกับคนที่หน้าเฟสว่าง ไม่แชร์อะไรเลย ซ่อนเพื่อน ซ่อนไลค์ ซ่อนทุกอย่างที่โดนแทกมา เห็นแค่ profile pic กับ cover เลื่อนแป๊บๆก็จบ timeline แล้ว
เฟสผี สมัครไว้เล่นเกม?
กูเป็นคนนึงที่ซ่อนทุกอย่างว่ะ ทั้งในเฟสและชีวิตจริง กูจะรู้สึก insecure เวลามีใครมารู้เรื่องของกูมากเกินไป
เพื่อนสนิทที่รู้จักกันมาเกิน 10 ปี ยังแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวกูเลย บ้านกูอยู่ไหนยังไม่รู้ไม่เคยมาด้วยซ้ำ
เวลาคุยกับคนอื่นกูจะคุยแต่เรื่องผิวเผิน จะไม่ลงเรื่องส่วนตัวของตัวเอง แต่ยินดีรับฟังถ้าอีกฝ่ายอยากเล่า
เพื่อนที่คบกับกูได้ต้องเป็นคนที่ยอมรับได้ว่าต่อให้สนิทกับกูแค่ไหนก็ต้องอยู่ในระยะห่างแบบนี้อยู่ดี
ถ้ามางอแงง๊องแง๊งน้อยใจอยากเสือกมากๆ จะคบกับกูไม่รอดเพราะกูจะอึดอัดรำคาญ
เมื่อกี้กูเห็นเพื่อนกูที่ได้ทำงานในสนพ.รักพิมพ์โพสต์รูปอวดหน้ากากปิดปากอิโต้จุนจิที่เป็นโปรในงานหนังสือว่ะ ครั้งที่แล้วก็อวดปลอกหมอนไปทีละ อิจฉาชิบหาย ยิ่งมานึกว่ากูเองไปสมัครก่อนแถมก็ผ่านสัมภาษณ์เค้ารับแล้วด้วย แต่ต้องปฏิเสธเพราะไกลบ้านเกินก็ยิ่งช้ำว่ะมึง ทั้งที่กูเกือบจะได้ไปยืนตรงนั้นเหมือนกันแล้วแท้ๆ อยากร้องไห้ เป็นที่เดียวที่รับกูด้วย กูไม่มีปสก.เหี้ยอะไรเลย เกรดก็ต่ำ เทียบกับเขาที่ทำพูนิก้ามาก่อนก็ต้องดีกว่าอยู่เเล้ว แต่ทางสนพ.ก็ยังเปิดโอกาสให้กูเข้าไปทำอะ คิดดูดิว่าน่าเสียดายแค่ไหน
>>747 บางทีมึงอาจจะคิดถูกแล้วก็ได้นะ
กูเป็นมึงคนที่เลือกตกลงรับงานไกลบ้าน แล้วตอนนี้ก็นั่งร้องเพลง "ฉันมาทำอะไรที่นี่" ของป๋าเบิร์ดทุกวันที่ไปทำงาน... โดยเฉพาะตอนเช้านี่ไม่อยากจะตื่นเลยสัส เมื่อก่อนกูเคยคิดว่าองค์กรและเนื้องานสำคัญที่สุด แต่บางทีที่ตั้งก็สำคัญว่ะ ที่ทำงานไกลบ้านนี่แม่งบั่นทอนแรงกายแรงใจเราไปเยอะมากๆ ขนาดบ.กูมีรถรับส่งไม่เสียค่าเดินทางนะ แต่มันเหนื่อยชิบหาย จะอยู่หอก็ทั้งเปลืองทั้งไม่ได้อยู่กับครอบครัว พูดแล้วเซ็ง
กูรู้สึกสิ้นหวังจนอยากตายเลยว่ะ รู้สึกว่าชีวิตของกูไม่ใช่ของกู กูต้องเดินตามทางที่คนอื่นอยากให้เดินต้องแบกรับความคาดหวังจากพ่อแม้ญาติพี่น้อง กูอยากมีชีวิตเป็นของตัวเองบ้าง แต่ไอการจะให้ทิ้งทุกสิ่งทิ้งทุกคนในชีวิตกูก็ทำไม่ได้ กูเป็นลูกคนเดียวเค้ก็ต้องอยากให้กูดูแล หาเงินเลี้ยงอยู่แล้ว แต่กูก็ไม่ได้เก่ง หาเงินก็น้อย ก็ต้องทำงานนี่เลี้ยงพ่อแม่ต่อไป แต่กูอยากออกเดินทางเป็นพวกเร่ร่อนอะไรก็ได้ กูอยากมีอิสระ กูไม่อยากให้ใครมาคาดหวังว่ากูต้องทำให้เค้ามีความสุข กูอยากใช้ชีวิตที่เป็นของกูเองทุกสิ่งทุกอย่างที่กูเลือกเอง แต่กูทิ้งทุกคนไปไม่ได้จนกูคิดว่า กูจะอยู่ไปเพื่ออะไรวะนี่มันไม่ใช่ชีวิตกู กูอยากตายจัง
>>756 มันก็ไม่ได้เป็นอิสระจริงๆอ่ะมึง มันก็กลายเป็นว่ากูต้องพยายามหาเงินให้มากขึ้นทุกวัน ต้องทำงานทุเดือน สุดท้ายมันก็ไม่ใช่ชีวิตอย่างที่กูต้องการจริงๆ กูอยากใช้ชีวิตแบบชาวเขา ไม่ก็เดินทางไปเรื่อยๆหาเงินแค่พอประทังชีวิตไม่ต้องแบกภาระและความคาดหวังไว้บนหลัง กูอยากเป็นอิสระจริงๆที่อยากจะทำอะไรก็ทำ
กูคือโม่ง >>747
คราวนี้เพื่อนกูได้เเต่งคอสไปขายของที่บูธในงานหนังสือว่ะ พูดตรงๆนะ อิจฉาโว้ยยยยยยย
คือปกติกูก็โอเคกับเค้า ไม่ได้รู้สึกอะไรมากเลยปล่อยไว้ในเฟสได้ ไม่กดซ่อนไว้เเต่พอถึงเวลางานหนังสือทีไร เเม่งต้องมีรูปอวดของโปรที่ได้ฟรีกับได้เเต่งคอสอยู่เรื่อยเลย ตรงนี้เเหละที่ทำเอากูอิจฉาชิบหาย รู้สึกวันนั้นจะเฟลลงทันทีเลยเว้ย
กูอยากขยันขึ้นหวะ ทำยังไงดีหวะ
กูว่าจะลองหาเวลาตัดขาดจากโลกโซเชียลซักวันก็ยังดีว่ะ กูอยากเขียนอยากวาดอะไรตามใจโดยไม่ต้องไปเห็นงานของคนเก่งกว่าให้รู้สึกเฟลจนหมดกำลังใจ ไม่กล้าทำอะไรเลย พวกมึงว่าดีมั้ยวะ
สิ้นหวัง Wanna be
http://pantip.com/topic/34349487
อ่านแล้วก็ขำ มาโพสกระทู้ทำนองว่ากูอยู่คนเดียวได้นะ พอโดนแขวะมากๆ ก็ออกอาการโมโหด่าคนเม้นไปทั่ว(ทั้งที่เค้ามาตอบตามหลักวิชาการเลยว่าเจ้าของกระทู้เป็นโรคซึมเศร้า)
กูลาออกจากงานแล้วว่ะ กำลังจะย้ายกลับต่างจังหวัด ตอนกูเรียนจบใหม่ๆกูเบื่อกับการอยู่เฉยๆไม่มีเหี้ยอะไรทำที่ต่างจังหวัด กูเบื่อและสิ้นหวังจนต้องมาหางานทำในกทม ตอนนี้กูลาออกจากงานและกลับต่างจังหวัด รอบนี้มีเป้าหมายมากขึ้นกูจะกลับไปเรียนต่อ แต่ก็อดรู้สึกสิ้นหวังไม่ได้ เดือนสองเดือนที่ผ่านมากูไปงานรับปริญญาเพื่อนไปงานแต่งเพื่อน เพื่อนเรียนต่อโทจนจบ เพื่อนแต่งงาน รุ่นน้องที่แอบชอบเรียนจบ แต่ตัวกูเองเป็นคุNEETขี้แพ้หาแฟนไม่ได้ แต่กูจะพยายามปรับปรุงตัว วันนี้กูรู้สึกสิ้นหวังแต่กูคงไม่เป็นแบบนี้ตลอดไป ระหว่างกลับบ้านไปเรียนต่อกูว่าจะลองเขียนนิยายออกมาให้ได้ซักเล่ม กูฝันอยากเป็นนักเขียนตั้งแต่มัธยมและ จะลองดูซักครั้ง
>>766 ชีวิตมึงคล้ายกูมาก แต่ตอนนี้กูมาสิ้นหวังอยู่กทม. อีกรอบว่ะ เมื่อก่อนกูดูทีวี พวกวิศวกรอังกฤษมาทำเกษตรที่อิสาน จบป.โทมาเพาะเห็ด ขายปาท่องโก๋ กูแม่งโคตรไม่เข้าใจ เงินเดือนเป็นแสนในห้องแอร์ไม่ดีตรงไหน ตอนนี้แม่งโคตรเข้าใจสัสๆ กูกำลังหาช่องทางให้ตัวเองเหมือนกัน แต่ยังหาไม่เจอก็ต้องทำงานอื่นไปก่อน เพราะมันต้องกินต้องใช้ แต่กูเห็นเพื่อนจบโทแต่งงานกูไม่เคยรู้สึกว่าตัวเอง loser นะ เพราะนั่นไม่ใช่เป้าหมายชีวิตกูแม้แต่น้อย
>>766 มึงเหมือนกูเลย กูก็ว่าจะไปช่วยปู่ย่าทำสวน พัฒนาดินขายแล้วว่ะ ปีหน้ากูว่าจะลาออกเหมือนกัน นักวิจัยในชีวิตจริงกับในสารคดีสมัยเด็ก
มันต่างกันเหลือเกิน กูเรียนเสียเงินไปกี่ล้านแล้วไม่รู้จบมาไม่ได้ต่างจากมนุษย์เงินเดือนทั่วๆไปเลย แล้วนับวันชีวิตขี้แพ้ขึ้นทุกวันลืมรักเก่าไม่ได้
เลยทำให้ไม่มีแฟน กว่าจะลืมได้ชีวิตกูก็ดำมืดไปแล้ว กูดูในเฟสชวนคิดถึงเวลาเก่าจริงๆ แต่เพื่อนกูไม่เก่ากันแล้ว แต่งงานมีครอบครัว เริ่มทำธุรกิจใหม่ๆ
บางคนไปฮันนีมูนกับแฟนที่เมืองนอก หนึ่งในนั้นเป็นเพื่อนสนิทกูคนนึงแต่งงานกับเพื่อนสนิทกูอีกคนก็กำลังจะมีลูก ตัวกูวันๆไม่มีอะไรหรอกเลิกงานก็เป็นคุดูเมะซื้อฝันไปวันๆ แต่กูจะเลิกเป็นไอ้ขี้แพ้ละ กูจะกลับไปใช้ความรู้ของกูให้เกิดประโยชน์กูว่าจะเปิดบริษัทขายดินทำดินคุณภาพขายที่ตจว.
กูรู้เรื่องสารเคมี สสารที่จะทำให้ดินดีกว่าแค่ในตำราทั่วไป มันคงจะช่วยให้อะไรดีขึ้นถ้ากูได้ใช้ความรู้ของกูช่วยปู่ย่ากูบ้าง ดีไม่ดีอาจจะได้แฟนเป็นสาวตจว.ก็ได้ถ้าเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้ว ก็ได้แต่หวังละนะ
เหี้ยเอ๊ยกุเบื่อชีวิตว่ะ กุแม่งลูสเซอร์ชิบหายเลยว่ะ เกลียดสัส เวลาเห็นคนอื่นประสบความสำเร็จ กุอยู่ม.6 เพื่อนกุก็ค่อยๆสอบติดไปทีละคน บางคนก็เอกชนกากๆเนี่ยแหละ แต่แม่งรู้เส้นทางชีวิตตัวเองอะว่าอยากเป็นอะไรแล้วแม่งแน่วแน่สัสๆ ไม่ใช่ว่ากุไม่รู้นะ กุรู้ว่ากุอยากเป็นโปรแกรมเมอร์ ไม่มีเหตุผลที่กุอยากว่ะ มันเป็นเรื่องเดียวที่เพื่อนกุนับหน้าถือตากุตั้งแต่เด็กๆ แต่พอกุไปศึกษาอะไรหลายๆอย่าง กุเริ่มท้อว่ะ บางคนแม่งสายตาเสียตั้งแต่อายุยังไม่ถึงสี่สิบ บางคนแม่งฝันเป็นโค๊ดเงี้ยแล้วกุนึกภาพตัวเองตอนอายุสามสิบที่ไม่มีเหี้ยอะไรดีเลยแล้วแม่งแย่ว่ะ ในขณะที่เพื่อนกุเตรียมตัวไปเรียนต่อต่างประเทศ กุกลับนั่งเลื่อนหน้าฟีดไปวันๆ หาเรื่องเอาชนะพวกตรรกะกากๆในเฟซ เบื่อก็ชักว่าว แย่ชิบหาย ทุกเรื่องที่กุมีดี คนอื่นแม่งก็เอาชนะกุไปซะหมด ไอ้เหี้ยเด็ก16ถ่ายรูปในพันทิปก็เพื่อนของเพื่อนกุเนี่ยแหละ เห็นกระทู้แม่งแล้วมองไปที่กระเป๋า700Dกับเลนส์คิทที่กุซื้อมาเมื่อสองปีที่แล้ว แม่ง..เหี้ยว่ะ อิจฉาชิบหาย อ่านแล้วปล่อยผ่านไปนะ กุแค่เพ้อเจ้อ
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.