>>621
พอถามสารทุกข์สุขดิบเสร็จ ไม่ทันไรโซตะก็หันกลับไปมองนอกหน้าต่างเหมือนกับตอนแรกอีกรอบ
ขณะเดียวกันนั้น ทิวทัศน์นอกหน้าต่างก็ขาดหายไป
อุโมงค์ที่เชื่อมไปยังเมืองคิริยะโกะ รถบัสกำลังเข้าสู่ช่วงที่ต้องลอดผ่านอุโมงค์ที่ว่านั้น
ฉันเห็นสีหน้าโซตะที่มองออกไปข้างนอก สะท้อนอยู่บนกระจกหน้าต่าง
โซตะทำหน้าประหนึ่งว่าภูมิใจมากที่เอาชนะฉันได้หลังจากที่ต้อนฉันเสียจนมุม......ก็แน่ล่ะสิ
ไม่มีท่าว่าจะโกรธกันเลยสักนิด
โซตะ----- ดูท่าจะสนุกน่าดู
แต่แล้วเจ้าตัวก็หยุดยิ้ม เก็บอาการตัวเอง เหมือนกลัวว่าใครจะรู้
ฉันรุ้สึกอย่างนั้น
เพราะว่าฉันรู้ยังไงล่ะ
เรื่องที่ถึงเจ้าตัวจะทำเป็นไม่สนใจ แต่ก็ยังคอยดูแลเอาใจใส่ฉันอยู่ตลอด
"จะว่าไป------"
โซตะพูดขึ้นมาลอยๆ ขณะเดียวกัน เงาที่เปิดปากพูดก็สะท้อนอยู่บนกระจกหน้าต่าง
"งานโฮคุบิปีนี้ จะเอาไงดีหว่า"
คำพูดนั้น ที่จริงก็ไม่ได้มีความหมายอะไร ฟังยังไงก็เป็นบทสนทนาธรรมดาทั่วไปในชีวิตประจำวัน------
"ได้ยินว่าปีสามเขาให้เข้าร่วมตามความสมัครใจนี่"
"เรอะ ถ้างั้นห้องฉันขออยู่เฉยๆไม่ต้องทำอะไรดีกว่า"
"ปีก่อนของโซตะทำอะไรกันเหรอ?"
"คาเฟ่ขนมญี่ปุ่น"
"อี๋ เชยสุดๆ"
"แล้วยูซึกิล่ะ"
"บ้านผีสิง"
"เข้าท่าดีนี่ แล้วตอนปีหนึ่งล่ะ"
"บ้านผีสิง"
"เป็นฝ่ายขายเรอะ"
ไม่มีความหมายอะไรเป็นพิเศษ จะเรียกว่าเป็นเนื้อหาสาระอะไรก็ไม่ใช่
"......จะยังไงก็เถอะ ปีนี้ก็คงต้องหาอะไรทำสักอย่างล่ะนะ"
"นั่นสิ......"
ก็แค่พูดไปตามสิ่งที่คิด สิ่งที่ลอยออกมาจากใจเท่านั้นเอง-----
"ไปลองปรึกษาโคฮารุกับโนโนกะดูดีไหมนะ งานโฮคุบิปีนี้เป็นปีแรกของโนโนกะซะด้วยสิ
อ๊ะ ถ้างั้นยิ่งต้องชวนชิโอเนะด้วยเลย!"
เรื่องง่ายๆอย่างนั้น กลับทำให้ตัวฉันในตอนนี้รู้สึกดีใจยิ่งกว่าอะไร-----
"นี่ถ้าเกิดว่าอยากจะทำอะไรกันขึ้นมา----- พี่โซตะก็พร้อมจะร่วมวงด้วยแน่นอนสินะ?"
"-----นั่นล่ะ"
ถึงจะกลับไปเหมือนสมัยเด็กไม่ได้ แต่ก็ยังก้าวเดินไปพร้อมกันเหมือนสมัยนั้นได้
รู้ตัวอีกที ก็มองเห็นปลายทางอุโมงค์ฝั่งเมืองคิริยะโกะอยู่เบื้องหน้ารถบัส
อีกไม่นาน รถก็จะออกจากอุโมงค์แล้ว
"เอ้อ"
"หืม?"
"ขอโทษนะ"
"......อะไรอีกล่ะ"
คราวนี้ ฉันสื่อความหมายเข้าใจง่ายเสียจนโซตะต้องหันหน้าหลบ
พอรถบัสแล่นออกมาจากอุโมงค์ได้ ทัศนียภาพโดยรอบก็กลับมากว้างขึ้นในชั่วอึดใจ
ใบหน้าของโนโนกะ อยู่ๆก็แวบขึ้นมาในความคิด
พอมองดูฝ่ามือของตัวเอง ก็ยังรู้สึกได้ถึงความเจ็บแปลบบนนั้น
ฉันอยากจะขอโทษโนโนกะให้เป็นเรื่องเป็นราวอีกสักครั้ง
อืม ทำเรื่องแบบนั้นลงไป จะให้ขอโทษอย่างเดียวก็คงไม่พอสินะ
ถึงโนโนกะจะยกโทษให้ แต่ฉันคงไม่ยอมอภัยให้ตัวเองแน่------
ฉันจะต้องผ่านมันไปให้ได้
ณ ที่แห่งนั้น จานบินที่ลอยอยู่เหนือท้องฟ้าและทะเลสาบคิริยะ ยังคงทอแสงเป็นประกายอ่อนโยน ราวกับจะมอบความสว่างไสวให้กับตัวเมือง