กูมารีวิวให้แล้วนะ
******************************************************
KAGEROU DAZE - IN THE DAZE
ลิขสิทธิ์โดย :Zenshu
แปล : Shidu
ผู้แต่ง : จินจิน / ถ้าจะชอบมาก บทท้ายเล่มมีแต่จินจิน พวกเธอว์จงสรรเสริญ ท่านโอจินจิน (จินจินผู้ยิ่งใหญ่) ซะ!!
จากนักแต่งเพลงให้โวคัลลอยด์ร้อง แต่เพลงดันดัง เลยกลายเป็นซีรี่ยส์ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าตั้งใจให้เพลงมันต่อเนื่องเป็นเรื่องกันแต่แรก หรือมาแถเอาทีหลัง แต่เอาเป็นว่าได้มาเขียนเป็นนิยายด้วยละกัน หลังจากได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างมานานว่าดีนักดีหนา เป็นที่นิยมชมชอบในหมู่เด็กวัยมัธยม มีแฟนคลับซีรี่ยส์เป็นจำนวนมากเข้าขั้น top three ของญี่ปุ่น ก็เลยลองซื้อมาอ่านดู ขอสรุปในส่วนเนื้อหาดังนี้
- เริ่มเรื่องด้วยการบรรยายความรู้สึกของเด็กผู้ชายคนนึงที่เห็นผู้หญิงที่ตัวเองชอบโดยรถชนตายไปต่อหน้าต่อตา แล้วก็ไม่พูดถึงอีกเลย
- ตัดกลับมาที่ Neet + ฮิกกี้ที่ขังตัวเองอยู่ในห้องมา 2 ปี ออกจากบ้านไปห้างเพื่อซื้อเมาส์กับคีย์บอร์ด หลังจากของเดิมโดนน้ำอัดลมหกใส่เพราะโดนแกล้งจากสาวน้อยที่เหมือนเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ตัวนึง แถมเป็นช่วงโอบ้ง สั่งซื้อของออนไลน์แล้วร้านไม่ส่งของ เลยโดนผู้ก่อการร้ายจับเป็นตัวประกันร่วมกับคนในห้าง ด้วยความโกรธแค้นผู้ก่อการร้ายและได้รับการช่วยเหลือจากกลุ่มคนปริศนาจึงทำให้สามารถจับผู้ก่อการร้ายได้ทั้งหมด แต่ตัวเองก็โดนยิง(ถากๆ)จนสลบไป
- ตัดกลับไปก่อนหน้าเหตุุการณ์ข้างบนนิดนึง น้องสาวของหนุ่ม Neet + ฮิกกี้คนข้างบน ผู้เป็นไอด้อลชื่อดังที่กำลังประสบกับปัญหาที่ตัวเอง"ดึงดูดสายตาคนอื่นมากเกินไป" จับผลัดจับผลูโดนเข้าใจผิดพาไปเข้าร่วมกับกลุ่มคนลึกลับที่เรียกตัวเองว่า "กลุ่มซ่อนตา" หลังจากรู้ว่าเข้าใจผิดก็เลยบอกว่าจะช่วยรักษาอาการ"ดึงดูดสายตาคนอื่นมากเกินไป"ให้ ต่อมาเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องไปห้างเดียวกับไอ้คนข้างบนเพื่อซื้อของ และร่วมมือกันเพื่อจับผู้ก่อการร้าย โดยอาศัยความสามารถพิเศษของแต่ละคน
- ไอ้หนุ่มNeet + ฮิกกี้ ตื่นมาเจอน้องสาวกับกลุ่มคนลึกลับ ทำความรู้จักกันแล้วไปเที่ยวสวนสนุกบนดาดฟ้าห้างด้วยกัน
- ระหว่างทางกลับบ้าน ไปเจออุบัติเหตุ สาวน้อยที่เหมือนเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์เห็น 1 ในผู้ประสบเหตุแล้วหลุดชื่อๆหนึ่งออกมา
เนื้อเรื่องทั้งหมดของเล่ม 1 293 หน้ามีแค่นั้น
-สื่อประเภทนิยายมีเอกลักษณ์และข้อได้เปรียบกว่าสื่ออย่างเพลง อนิเม หรือมังกะคือ สามารถใช้การบรรยาย พรรณาโวหาร ทำให้ผู้อ่านเกิดจินตนาการสร้างภาพในจิตใจขึ้นมาตามที่ผู้แต่งต้องการได้ เกิดความรู้สึกคล้อยตามไปกับตัวละครในเรื่องได้ ตามแต่ที่หน้ากระดาษจะมี จุดนี้ถือเป็นการวัดกึ๋นคนแต่งว่าจะทำออกมาได้ดีขนาดไหน ซึ่งสำหรับเรื่องนี้ การบรรยายยาวยืดมีแต่น้ำ อ่านแล้วหาความสนุกไม่เจอ ไม่รู้ไปอยู่ตรงไหน เหมือนอ่านไดอารี่อีสาวธรรมดาๆที่ไม่ค่อยเป็นที่จดจำ หรือดูอนิเม Slice of Life จืดๆเรื่อยๆมาเรียงๆ การพลิกอ่านไปแต่ละหน้า เพื่อให้ได้รู้ว่า "อือ อย่างนี้เองหรอ ...อือ แล้วไงต่อ?" เป็นแบบนี้ไปจนจบเล่ม จุดพีคของเนื้อเรื่อง เหมือนจะมีอยู่ 2 จุด แต่ก็ไม่ได้บิ้วท์อารมณ์สักเท่าไหร่ หักมุมไม่มี พลิกแพลงไม่มี เหมือนจะแทรกมุขตลกเข้ามา แต่ก็ไม่ตลก เหมือนจะมีดราม่า แต่ก็งั้นๆ อ่านแล้วไม่เกิดความรู้สึกอิน ไม่มีความรู้สึกลุ้นไปกับตัวละคร ถ้าเทียบเป็นกราฟชีพจรก็เริ่มต้นด้วยโดนช็อตไฟฟ้า เส้นกราฟกระตุกขึ้นนิดนึงแล้วก็นิ่งยาวไปจนก่อนจะจบก็มีกระตุกขึ้นอีกนิดนึง เหมือนจะให้ความหวังแล้วก็นิ่งไป
-เนื้อเรื่อง เป็นพล็อตธรรมดาๆที่พบเห็นได้ทั่วไปตามอนิเมแก๊กตลก ขาดความสมเหตุสมผลในหลายๆอย่าง ฮิกกี้+นีทขังตัวเองมา 2 ปี แต่หุ่นยังผอมเพรียว เออ ตัวเอกอ้วน ใครจะอ่านกันวะ!! ผู้อาจหาญกล้าสู้กับผู้ก่อการร้ายมีปืนด้วยการอาศัยจังหวะโดดแผล็ว เอามือถือตัวเองเสียบกับคอมฯที่มีไว้กระจายภาพไปยังจอทีวีในร้าน(ที่ไม่รู้ว่าคอมฯนั้นมีแลนหรือไวร์เลสรึเปล่า) เพื่อให้อีสาวโปรแกรมคอมฯเปิดชัตเตอร์ให้ตำรวจเข้ามาจับผู้ก่อการร้าย ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะโดนยิง ตำรวจบุกเข้ามาแล้วไม่มีการยิงสู้ ไม่มีใครโดนลูกหลง อา เมพ เมพ ตอนเสียบสายจากโทรศัพท์เข้ากับคอมฯในร้านต้องบรรยายเยอะๆหน่อย ถ้าเป็นอนิเมก็ต้องแอ็คอาร์ตท่ามากเป็นโจโจ้ ฉากนี้ต้องมี มันเท่ห์ดี
-ภาพประกอบก็ปกติ ไม่ได้ดีเด่ สวยล้ำ ออกจะเป็นภาพลายเส้นง่ายๆรายละเอียดน้อยๆ
-การแปลจัดว่าดีอ่านแล้วลื่นไหล แม้จะเจอบางประโยคที่อ่านแล้วตะหงิดๆแต่ก็พอทำใจผ่านๆไปได้
สรุป อ่านก็เสียเวลา ไม่อ่านก็ไม่เสียใจอะไร ถ้ามีคนให้มาฟรีก็โชคดีไป แต่ถ้าถามว่ามีคุณค่าทางวรรณกรรม ช่วยเยียวยาจิตใจ กระตุ้นสมอง เพิ่มการสูบฉีดของเลือด พัฒนาการเรียนรู้อะไรมั้ย ก็ไม่ เอาเวลาที่กูนั่งอ่านกับเงินที่กูเสียไปคืนมา!!! สรัส!!!