ถ้อยคำที่ 1 https://fanboi.ch/animanga/288/
Last posted
Total of 593 posts
ถ้อยคำที่ 1 https://fanboi.ch/animanga/288/
อุอีโนะอีกระหรี่ซังเต มะเร็งสังคม
UENO BEST GIRL
B E S T G I R L
E
S
T
ฟิลอสถึงกับดิ้นพราดๆ
https://www.facebook.com/philos.shinji?fref=ts
โอ้วไอ้ควาย!! โพสได้ควายดีเหมาะกับรสนิยมมึงที่อวยอีกะหรี่อย่างออกหน้าออกตา ขากถุ้ย
ข า อ่ อ น
า
อ่
อ
น
ไป >>>/netwatch เหอะ
อีหนวกของพวกมึงนี่ดีตายห่าล่ะ
>อยากแสดงความคิดเห็นอย่างเสรี
>พอเห็นหัวมู้ไม่ถูกใจกลับรับไม่ได้
>ฮานะคานะ
ถึงบิชท์แต่ก็เป็นคนตรงๆ
อุเอโนะทำให้กูนึกถึงเพื่อนกูคนนึง ห่ามๆ แต่เนื้อแท้ก็ไม่เลวร้ายอะไร
ไม่เหมือนอีหนวกอยู่แต่ใน comfortable zone กระทบจิตใจนิดหน่อยก็จะฆ่าตัวตายล่ะ
การมีโม่งทำให้มนุษย์แสดงสันดานต่ำตมออกมาได้ง่ายขึ้น
เปิดหัวมามีแต่สำนวน hater ...
บอร์ดโม่งนี่มันที่ระบายสินะ
ดูจบละ best girl คือยูซุรุต่างหากเว้ย
ขอโทษ!!! แบบนี้ไม่ได้เรียก "คนตรง" แบบนี้เค้าเรียก "คนไม่มีกาลเทศะ"
あの人 “คนนั้น“ ที่พวกมึงพูดถึงในกระทู้ monogatari สินะ สรุปแล้วใครวะ
โชโกะน่าสงสารทั้งร่างกายและจิตใจมากอ่ะ กูสงสารแม่นาง+ครอบครัวฝ่ายแม่นางที่มาแต่งงานกับครอบครัวที่ครอบครัวฝ่ายพ่อเป็นคนเห็นแก่ตัวนะ..... แม่เป็นนางพยาบาลเลี้ยงลูกเพียงลำพังด้วย เข้าใจว่าแม่อยากให้ลูกเข้มแข็งแต่ใครจะนึกว่าจะมาเจอเด็กในห้องที่แย่แบบนั้น กูเคยเป็นเป้าการโดนแกล้งเรื่องนี้กููเข้าใจโชโกะดี
ตกลงพวกมึงด่าฟิลอสกันเรื่องอะไรวะ กูตามไม่ทัน
จะถึงอย่างไร อุเอโนะก็คือเมียกุ
บอร์ดโม่งเป็น anonymous เปิดโอกาสให้แสดงความเห็นได้โดยไม่ต้องใส่หน้ากากใส่ชื่อล็อกอิน แต่เมื่อตัวตนจริงๆที่แสดงออกมาดันเหี้ยเกินสังคมหรือคนอื่นรับได้ มันก็ต้องโดนด่าหรือถึงขั้นโดนจับแบนเป็นธรรมดา
UENO BEST GIRL
คุยกันแต่อุเอโนะ ไม่มีใครสนใจสาวแว่นเบย :3
เหี้ยสุดในเรื่องก็ว่าได้
ky ละกัน
มึงว่าทาง luckpim จะขายฉบับมังงะได้มั้ยน่อ
สายตอแหล vs. สายบิทช์
น่าจะขายได้นะ อย่าง boxset ที่วางที่อนิเมท เมื่อไม่กี่วันก็หมด
ซาฮาระเบสต์เกิร์ลไอ่สัส
คุณแม่ best girl เว้ยพวกมึง
ยิ่งตอนฉากที่โชยะมันจะเปิดทีงีแล้วคุณแม่อบๆโผล่มานี่นะมึ้งงงงงงงง
ใครดูพากย์ไทย มารีวิวได้ปะ เป็นไงวะ
>>41 อย่าแจ้งแบนกุล่ะที่โพสติดกัน ไม่ได้ต้องการฟลัด แค่อยากให้มันละเอียด
นี่ไงกุเจอตัวอย่างแล้ว ลองไปเปิดเทียบกับตัวอย่างของยุ่นดิ
มีคนไม่เคยอ่าน ไปดูด้วยความเข้าใจผิดว่าเป็นหนังโรแมนติคหลายคนสินะ เพื่อนกูออกมาบ่นบนเฟส 5555+
แถมเพจของพวกโรงหนังแม่งก็โฆษณามั่วๆเข้าไปอีก
กุขัดใจคาแรกเตอร์ชิมาดะในหนัง ถ้าจะใส่มาแค่นี้มึงตัดทิ้งไปเลยดีกว่ามั้ง กลายเป็นตัวละครไร้เหตุผล จู่ๆ อยากมาเข้ากลุ่ม แล้วก็กลายเป็นเพื่อนสนิทหน้าตาเฉย เหตุผลปูมหลังอะไรไม่มี เหมือนยัดมาให้แฟนมังงะพอใจแค่นั้น
ก็เพจมันโฆษณาเป็นหนังรักทั้งที่เป็นหนังเหงา
พอคิมิเสือกโฆษณาเป็นหนังเหงาทั้งที่เป็นหนังรัก
ต้องถามว่าแม่งตอนโพสซี้ดมากี่ยก
จังหวัดกูนี่ไม่ได้ฉายวันแรกด้วยซ้ำ ตอนนี้เพิ่มรอบซับมาฉายช่วงเย็นๆรอบพากย์ช่วงสาย
คนทำ pr มันไม่ได้ดูหรอกมึง อาศัยฟังจากชาวบ้าน ชินไคแม่งทำแต่หนังเหงาๆเศร้าๆ คิมิวะแม่งต้องหนังเหงาๆแน่เลย
เอาจริงๆทำไมมันไม่โฆษณาให้ตรงหนังว่ะ คอหนังดราม่าในไทยก็ไม่น้อยน่ะ ทำไมต้องหลอกคนดูด้วย ไม่เข้าใจ
เพราะมันทำงานระหว่างแผนก
ก็อปปี้ไรเตอร์มันอ่านพล็อตแล้วก็ทำโฆษณาเลยนั่นแหละ ไม่ได้ดูหนังหรอก
ยิ่งสายภาพยนตร์นะ ยิ่งยี้การ์ตูนญี่ปุ่น
ตอนนี้โคตรขยะแขยงความคิดของพวกคนในกลุ่ม แม่งรับความจริงไม่ได้กัน
ถ้าไม่นับการโปรโมทของSFกับMpicที่บอกว่ามันคือหนังรักบ้าง หนังแกล้งคนที่แอบชอบบ้าง
Trailerญี่ปุ่นเองก็โปรโมทมาก้ำกึ่งมากเลยนะว่าเป็นหนังรักหรือหนังดราม่ากันแน่ ขนาดเพลงโปรโมทแม่งยังมีแต่คำว่ารักๆๆเลย
ปล.ส่วนชื่อไทยมันมาตั้งแต่ก่อนLCด้วย จนลักพิมพ์ขายก็ยังไม่มีคนบ่น พอหนังฉายMpicรับกรรมเฉย ดีแค่ไหนไม่ตั้งใหม่เป็น หลับตาฟังถึงเสียงเธอ
ในประเทศไทยหนังรัก มันขายดีกว่าหนังดราม่าไม่ใช่เหรอ
ก็เออไง ส่งเสริมการขายเอายอดอย่างเดียวคนดูก็โดนหลอกไปดิ ไม่ใช่เมะมันไม่ดีแต่คนไม่ได้เตรียมใจมาดูแนวนี้
กูอยากอ่านเรื่องนี้มาซักพักแล้ว อ่านแล้วก็คิดว่าเด็กที่รังแกกับโดนรังแกมันจะรักกันได้ไงวะ เห็นคนชอบเยอะก็คิดว่าคงทำได้สมเหตุสมผลน่าเชื่อถือ คิดว่าเป็นแนวรักเพราะชื่อมังงะมีคำว่ารักไง5555
พอเห็นมีมูฟวี่เตรียมเข้าเลยคิดว่ารอดูหนังก่อนแล้วกัน ถ้าชอบก็ซื้อแพ็คเลย โดนฝยคิดว่ามันเป็นเรื่องรักมาตลอด
พอดูหนังจบเท่านั้นแหละ55555 สัส กูโง่มาตั้งนาน
ถามว่าสนุกไหมมันก็พอใช้ได้แหละ แต่ทำกูหลงคิดว่าเป็นแนวรักมาตั้งนาน /โป้งลักพิมพ์ /โป้งเอ็มพิค
>>65 ถามว่ามันรักกันได้ไหม ? จริงๆแม่งไม่ควรเลยนะ
กูเป็นโชโกะ กูคงเกลียดตายห่าตอนเจอกันใครแรก คงไม่มาปิดปากทำหน้าโมเอะแน่ๆ
คงด่าภาษามือรัวๆแล้ววิ่งหนีไปเรียกรปภ.
ส่วนไอ้อิชิดะ ตลอดทั้งเรื่องมันก็ไม่ได้รู้สึกรักกับใครอยู่แล้ว มีแต่ปักธงคนอื่นรัวๆ มันมีแต่สำนึกผิดเพราะกรรมตามสนองตัวเอง กับคิดแต่เรื่องเพื่อนแค่นั้นเอง
หมาบางตัวก็เห่า hate speech ไม่เลิกนะ
อย่าตีกัน ยังไงอุเอโนะก็ best girl
>>68 เรื่องน้องนี่ ถ้าน้องมันไม่บังเอิญหนีออกจากบ้านไป แล้วอิชิดะไปช่วยเรื่องก็ไม่จบหรอก
ส่วนเรื่องแม่นี่ เอาจริงๆแม่งปลายๆเรื่องเลยนะ ตอนที่อิชิดะช่วยโชโกะไม่ให้ฆ่าตัวตายนั่นล่ะ ถึงจะยอม
คือ โชโกะมันยอมคุยกับอิชิดะตั้งแต่เห็นอิชิดะใช้ภาษามือด้วยซ้ำ กูเลยว่ามันแปลก ทั้งที่มันเป็นคนที่เคยรังแกจนมึงอยากตายไปแล้วครั้งนึงด้วยซ้ำ
รักท่านพระแม่โชโกะนะครับ ชาบูๆ
กูพอเข้าใจหัวอกนิชิมิยะนะ ถึงตอนเด็กจะโดนแกล้งไว้หนักมากแต่พอย้ายโรงเรียนแล้วไม่ได้เจอกันนานๆ ความรู้สึกเกลียดมันก็ค่อยๆเบาลงไง
แล้วพอมาเจอกันอีกทีอีกฝ่ายแม่งทำตัวสำนึกผิดด้วย ขณะเดียวกันสังเกตสีหน้านิชิมิยะมันก็ยังไม่วางใจอิชิดะด้วยซ้ำว่ามาหาทำไม ตานี่จะยังไงกับกูอีก
สรุป ง่ายๆที่ยัยหนวกมันยอมให้อภัยได้เพราะ ห่างกันความรู้สึกก็ยิ่งห่างไป(เวลาเยียวยาทุกสิ่ง)+อีกฝ่ายอยากมาขอโทษ+แต่เดิมนิชิมิยะแม่งก็นิสัยดีโคตรๆอยู่แล้ว เป็นกูนี่ต่อยไอ้เถิกอิชิดะตั้งแต่ปาสมุดลงน้ำละ
http://mogaku.com/2016/10/09/7299/
ใครก็ได้แปลให้หน่อย บทความว่าทำไมถึงใช้เพลงของวงThe Whoในฉากเปิดของเรื่อง
เอาจริง ๆ ก็มีคนญี่ปุ่นคิดว่านี่เป็นหนังรักวัยรุ่นเหมือนกันนะ อ่านจากบทความข้างบนแล้ว แล้วเพลงจบแม่งก็ออกไปในแนวนั้นด้วย จริง ๆ มันมีคุณค่ามากพอในฐานะหนังรักได้อยู่แหละ ขึ้นอยู่กับคนให้คำจำกัดความ จะบอกว่ามันเป็นหนังรัก กูว่ามันก็ไม่ได้ผิดอะไร แต่ที่น่าด่าก็คือไอ้คำโปรโมตมันตีความหนังผิดความหมายไปไกลเกิน เห็นแล้วเพลีย
ส่วนเรื่องเพลงเปิด ก็ไม่มีไรมาก คือเพลงนี้มันค่อนข้างสื่อถึงตัวตนของพระเอกได้ดีเลยหยิบเอามาใช้แค่นั้นแหละ
ตัวเรื่องจริงๆอ่ะมันเป็นพล็อตรักได้ แต่หนังมันไม่สื่อเอง เพราะถึงจุดนั้นมันมีแค่โชโกะคนเดียวที่แสดงออกว่ารักโชยะจริงๆจัง แต่ไอ้บื้อโชยะมันยังลุ่มๆดอนๆอยู่เลย
เอ๊ะ หรือจะนับว่าที่มันมาขอให้มีชีวิตอยู่เพื่อฉัน นี่ก็เป็นการบอกว่ารักได้แล้ววะ lolz
"ฉันอยากเป็นเหตุผลให้เธอมีชีวิตอยู่ต่อ" เป็นคำขอแต่งงานได้เลยนะมึง โครตก๊าวฉากนั้น
เพิ่งดูเมื่อวาน กูรุสึกว่างบางฉากมันเพิ่มมาปะจำไม่ได้ หนังสือไม่อยู่กับตัว อย่างไอคุณแม่โดนกระชากตุ้มหูไปอะ
กับฉากที่ไปโรงบาลแล้วเหลือใส่เครื่องช่วยฟังข้างเดียว นี่คือหู(ข้างที่เป็นแผลเป็น) ดับสนิทไปแล้วเหรอ
โชยะมันแค่ต้องรอเวลา มันยังไม่ชิน
ตอนไปเที่ยวสวนสนุก มันยัง self questioning อยู่เลยว่ามันสามารถมีเพื่อนได้จริงๆหรอ
เพราะงั้นมันเลยไม่กล้าพอที่จะคิดว่าตัวเองจะถูกโชโกะรักหรอก
เออ กูก็ว่าถ้าจังหวะนั้นมันเข้าใจว่านางเอกรักมันก็ยากจริงๆ
ทำอะไรไว้เยอะงั้นอะ
มีใครได้ดูพากย์ไทยปะวะ กูจะไปดูอีกรอบว่าจะไปดูพากย์ไทย
กูเพิ่งดูนะ กูค่อนข้างผิดหวังเลย กูคิดว่าเรื่องต้นฉบับเองมันก็ไม่ได้ดีอะไรมากมายก แต่ก็ค่อนไปในทางดี ภาพรวมหรือทิศทางมันมั่วไปมั่วมา คาแรกเตอร์ขึ้นๆลงๆ กูหวังว่าเกียวจะตบๆ ให้เข้ารูปเข้ารอย ปรากฏว่าเกียวอนิแม่งทำแค่ตัดกับไม่ตัดเท่านั้น นอกนั้นรักษาตามต้นฉบับหมด สุดท้ายก็เลยได้แค่เหมือนในหนังสือ อยากรู้อะไรก็ไปอ่านในหนังสือต่อ
กูมาเปิดมังงะดู ฉากอุเอโนะด่าโชโกะด้วยภาษามือแล้วโชโกะทำท่าดีใจจนอุเอโนะเขินเดินหนีไปมันไม่มีในมังงะนี่หว่า กูชอบนะฉากนั้น อีกฉากที่ชอบคือที่แม่ของโชโกะมากราบตีนแม่ของพระเอก แม่งแรงมาก มุมกล้องแรงกว่าในมังงะอีก
เออ เรื่องนี้เท่าที่ดูๆผลตอบรับคนที่ไม่เคยอ่านไปดูนี่ชมกันทุกคนเลยนะรอบๆตัวกุน่ะ (แต่กุยังไม่มีเวลาไปดู -*-)
อีกเรื่อง มี Eiga koe no katachi special book ที่แจกหน้าโรง แปลไทยมั่งมั้ยอะ?
คนไปดูกับกูชมนะ (เป็นเรียจู ดูรอบไทย)
คนไปดูกับกูก็ชม (เกือบเรียจู รอบไม่ไทย)
ระเบิดไปซะ
กูว่าอิคาวาอิก็เหี้ยเหมือนกันนะในหนัง ดูผ่านๆก็รู้
>>95 เพื่อนกูไม่เคยดูมาก่อน มันบอกว่าตอนแรกควาอิเหมือนพวกเด็กเรียนที่อยากช่วยแต่ไม่กล้า แต่ตอนท้ายของวัยเด็ก(ที่น้ำตาแตกเพราะอิชิดะ)มันหันมาถามเลยว่าอินี่แอ๊บใช่มะ5555 ยิ่งตอนโตนี่ยิ่งเห็นได้ชัด คาวาอิแม่งเป็นประเภทที่ผู้หญิงด้วยกันเห็นแล้วหมั่นไส้จริงๆอ่ะแหละ เหมือนอย่างตอนของมันในมังงะเลย คิดเซ็งที่ตอนท้ายอินี่กูยังอยู่กับกลุ่มได้แบบไม่รู้เรื่องรู้ราว (แต่มันก็คงเป็นห่วงอิชิดะบ้างแหละ ถ้ามันพับนกกระเรียนจริงๆนะ คือกูมองว่าอินี่มันไม่ถึงกับเลวหรอก แค่ตอแหล พูดอะไรทำอะไรต้องหารห้า)
คาวาอิตอนเด็กกูว่าตอแหลแอ๊บเอาตัวรอดเฉยๆ แต่พอมากๆเข้าตอนโตนี้กูว่านางเข้าขั้นป่วยแล้วสมควรไปหาหมอจิตด่วนๆเลย
เออใช่ว่าจะทักเรื่องนึง เด็กป.6 นี่มันเรียนเรื่องคานกันแล้วเหรอวะ
เวลาโชโกะกับโชยะขึ้นเตียงนี่...คิดว่ามันจะเป็นยังไงวะ หรือจะให้อุเอโนะมาช่วยล่ามแปลอารมณ์บิทให้?
>>104 กุนึกถึงอย่างอื่นไม่ออกเลยนอกจากเล่มนี้
http://imgur.com/uQX3uYa
กูเข้าใจโชโกะนะว่าทำไมนางถึงได้รักโชยะง่ายๆ กูเป็นคนเคยโดนแกล้งเหมือนกันเข้าใจดี
อย่างแรกเลยคือพวกโดนรังแกตั้งแต่เด็กเนี่ยแม่งจะมีปมอย่างนึงคืออยากมีเพื่อน อยากได้รับการยอมรับจากสังคม กรณีโชโกะหนักขนาดถูกแกล้งก็ขอโทษเพราะไม่อยากถูกเกลียด เพราะงั้นปมของนางคือไม่มีเพื่อน ไม่เคยมีความรู้สึกว่าตัวเองเคยได้รับการยอมรับจากคนอื่นเลย มันค่อนข้างฝังใจมากๆล่ะ
หลังจากออกจากโรงเรียนโชโกะก็เหมือนจะไม่มีเพื่อนเหมือนเดิม มีแต่เพื่อนที่โรงเรียนคนหูหนวก(ซึ่งส่วนใหญ่ก็แก่ๆ) ไม่เคยมีเพื่อนปกติ ไปเฮฮาแบบเพื่อนปกติ พอวันนึงหัวโจกคนที่เคยแกล้งตัวเองเดินเข้ามาหาพร้อมขอเป็นเพื่อน ต่อให้จะเกลียดขี้หน้ายังไงแต่ในใจลึกๆก็หวังจะได้การยอมรับจากคนนี้มาโดยตลอด มึงเข้าใจป่ะ มันเหมือนมึงวิ่งตามอะไรซักอย่างมานานแต่ไปไม่ถึงซักที จนวันนึงสิ่งนั้นหยุดวิ่งแล้วเดินเข้ามาหามึงเอง มันเป็นความรู้สึกปลาบปลื้มแบบนั้นอ่ะ คนที่เคยรังแกมึงหนักๆเป็นฝ่ายสำนึกเอง ต้องมาขอโทษมึงเองทั้งๆที่มึงไม่ได้ทำอะไรเพื่อดึงเค้ากลับมา มันคือสิ่งที่โชโกะโหยหามานานมากกกก นางเลยยอมเปิดใจให้โชยะง่ายๆ
อย่างนึงที่ประทับใจคือภาษามือ เมื่อตอนประถมอาจารย์ขอให้เรียนภาษามือแล้วทุกคนในห้องไม่อยากเรียน โชโกะเองก็รู้ดีแต่วันนึงโชยะกลับมาแล้วพูดกับโชโกะด้วยภาษามือ ตรงนี้แม่งโครตประทับใจ คนที่ไม่เคยจะเป็นเพื่อน ไม่เคยจะยอมรับในตัวโชโกะเลย กลับพยายามเรียนภาษามือ(ที่เคยเกลียด)จนสื่อสารได้เพื่อนาง แค่นี้ก็รู้สึกเหมือนได้รับการยอมรับแล้ว ซึ่งโชโกะต้องการมิตรภาพตรงนี้มาก แค่นี้ก็เป็นเหตุผลที่ทำให้โชโกะยอมรับมิตรภาพของโชยะแล้ว
หลังจากนั้นก็มีเรื่องมาให้ประทับใจเรื่อยๆ คนที่มีปมเรื่องเพื่อนตั้งแต่เด็กจะประทับใจหนักมากจนกลายเป็นความรักก็ไม่แปลก
ใช่ โชโกะโหยหาการยอมรับมาก มึงสังเกตดูว่าถ้ามีใครในเรื่องเข้าใจภาษามือ นางจะ Impact มาก ตั้งแต่โชยะ ซาฮาระ หรือ บากะตอนท้าย นางจะตาลุกวาว
อย่างนี้กูเรียนภาษามือแล้วไปขอ"เยะ"ได้ซิน่ะ :-D
>>110 ในมังงะมีมากกว่านั้นมึง มีตั้งแต่ขอเป็นเพื่อน ให้อาหารปลา คอยมาอยู่เป็นเพื่อน ตามหาซาฮาระ ดีกับยูซึรุ(อันนี้ใครอ่านในมังงะจะเห็นว่ายูซึรุโดนแกล้งเพราะโชโกะมาตลอด เป็นเรื่องที่เจ็บช้ำของโชโกะมาก) โชโกะต้องการอะไรก็พยายามทำให้ และกูว่าที่สำคัญที่สุดเหมือนการได้อยู่กับโชยะเป็นการเติมเต็มให้โชโกะอ่ะ จากคนไม่มีใครคบพอโชยะมาตัวเองก็เริ่มจะมีกลุ่มเพื่อนเข้ามา ตั้งแต่ซาฮาระที่โชยะไปตามหามาให้ บล๊อคโคลี่ที่ตามโชยะมา อุเอโนะ คาวาอิ ทั้งหมดอ่ะ มาร่วมสร้างหนังด้วยกัน มันเป็นภาพที่โชโกะหวังไว้มานานมาก เหมือนการอยู่กับโชยะมันเหมือนฝันที่เป็นจริง นางก็รักเพราะนางอยู่ด้วยแล้วมีความสุข+โชยะดูแคร์นางมากสุดๆอย่างที่นางไม่เคยคาดคิดว่าจะได้รับจากคนอื่นอีก
คนที่ไม่มีความคาดหวังว่าจะมีคนมาแคร์ตัวเอง อยู่ๆมีคนมาแคร์ แค่มายืนให้อาหารปลาเป็นเพื่อนนางก็สุขใจแล้ว เพราะไม่เคยได้รับอะไรอย่างงี้จากคนอื่นมาก่อน แค่สิ่งที่เรามองว่าเล็กน้อยแต่สำหรับคนที่ไม่เคยมีมันเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากนะมึง
เหมือนเมิงหน้าปลวกแล้วมีมาริโอเมาเร่อมาคอยเทคแคร์อะเมิง
กูชอบเรื่องนี้เพราะได้มานั่งดิสคัสกันนี่ล่ะ แต่ละคนเจอประสบการณ์ชีวิตไม่เหมือนกัน mindset เลยโดน shaped ไปคนละแบบ เลยตีความกันคนละมุม
สงสัยว่าทำไมถึงตัดสินใจทำเป็นมูฟวี่วะ
ถ้าทำเป็นเมะ2courนี่aoyง่ายๆเลยนะเรื่องนี้
เรื่องนี้ตอนแรกกูไม่สนใจเลยเพราะลองอ่าน one-shot แล้วรู้สึกไม่ชอบแบบอธิบายไม่ถูก
แต่อ่านที่พวกมึงคุยกันแล้วกูว่าจะลองไปดู ชอบไม่ชอบค่อยว่ากัน
กูให้ Cour เดียว ยาวกว่านั้นก็ไม่ไหว เหตุการณ์ในเรื่องมันเยอะก็จริง แต่ไม่มีสาระก็เยอะ อะไรก็ไม่รู้ก็เยอะ เรื่องนี้กูชอบตอนที่ยังเป็นตอนเดียวจบ เป็นมุมมองของโชโกะ ตอนพระเอกมาพูดด้วยภาษามือนี่โคตรฟิน แต่พอเป็นซีรี่ส์แล้วมุมมองเป็นของโชยะ ประเด็นหลักไม่ใช่หูหนวกแล้วโดนแกล้ง แต่เป็นการชดใช้ความผิดแทน ธีมมันต่างกันพอสมควร
ปล. อุเอโนะเมียกู
>>127 ถ้าไปเพิ่มเนื้อหา build ให้มันดูอินกับรักมากขึ้น ประเด็นอื่นสำคัญในเรื่องก็จะโดนลดนะมึง
คือ กูมองว่าอัตราส่วนของเรื่องความรักในหนัง กับการ build เนี่ย มันพอโอเคแล้ว
ซึ่งกูมองว่ามังงะเนี่ย เรื่องความรักมาประกอบมากกว่านี้ มันก็ build เยอะกว่า ก็โอเค
กูนึกถึงเรื่องที่คนบอกว่ามันไม่โรแมนซ์ๆๆๆๆๆ แล้วด่าโรงหนังรัวๆเลย
เออโรงหนังก็โปรโมทเหี้ยแหละ แต่มันก็ไม่ใช่ว่ามันจะไม่โรแมนซ์เลยสักนิด มันมีในระดับนึงเลย เพียงแค่ประเด็น coming of age มันใหญ่กว่า
>>127 ไม่เสมอไปนิว่าถ้าไม่เล่าในหนังแปลว่ามันจะไม่ได้เกิดขึ้นจริง เพราะข้อจำกัดของหนังคือเวลาและทุน เพราะงั้นบางส่วนที่หนังมันละเอาไว้ไม่ได้นำเสนอออกมา ในจักรวาลของหนังมันมีเรื่องเกิดขึ้นมากมายแต่แค่หนังไม่ได้นำเสนอส่วนนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าส่วนนั้นมันจะไม่ได้เกิดนี่นา
เค้าก็นำเสนอแค่ส่วนสำคัญๆที่มีอิมแพคต่อเนื้อเรื่อง ส่วนที่เป็นรายละเอียดยิบย่อยก็อาจจะละเอาไว้ให้ไปคิดเอาเองหรือหาต้นฉบับอ่านเอาเอง กูคิดว่าการสร้างหนังมันก็เป็นแบบนี้นะ
ส่วนตัวว่าทำเป็นหนังโรงมันทำให้คนรู้จักในวงกว้างได้มาก+เร็วกว่านะ โดยเฉพาะต่างประเทศ แล้วพอคนรู้จัก ก็ตามไปหาส่วนขยายกันต่อได้
อย่างกุนี่สารภาพเลยถ้าไม่สร้างนี่ไม่รู้จักแน่ๆ
เรื่องประเด็นหนัง จริงๆความรักมันก็มีไม่ใช่ไม่มีเลย แต่โรงมันคงโปรโมทผิดทางไปแหละจริงๆ
ลองนึกเล่นๆดิ ถ้าเมเจอร์โปรโมท5 centimeters มันจะโปรโมทออกมาแบบไหนวะ 555
ปล.ซาฮาระเมียกุ
ส่วนตัวหนังที่มันทำให้คนจบในโรงไม่ได้ต้องออกมาหาหนังสืออ่านเพิ่มนี่
"สำหรับกุถือว่าล้มเหลวนะ" แต่ถ้าออกมาแล้วอยากหาอ่านเพิ่มไม่ใช่เพราะออกมาแล้วงงจนต้องออกไปหาอ่านเพิ่ม
อันนี้กุถือว่า "โคตรประสบความสำเร็จ" การอ้างว่าเวลาไม่พอนุ่นนี่ไม่ใช่สิ่งที่คนมีความรับผิดชอบเค้าทำกัน
มองให้เห็นปัญหาแล้วปรับปรุงดีกว่ามั้งง ส่วนติ่งที่แถ๊ดๆๆ แทนก็เอ่อ ชั่งมันเหอะติ่งยังไงก็ติ่งละวะ ต่อให้ห่วยแค่ไหนติ่งก็คือติ่ง
อันนี้กุบ่นลอยๆรวมๆไม่ได้เจาะจง
สุดท้ายถ้ากุโดนแกล้งกุก้คงชอบแม่มไม่ลงหรอก ถึงให้หลังๆมันมาทำดีกุก้มองว่าอีกฝั่งมันกำลังชดใช้ความผิดมากกว่า
หรือตามบริบทจริงๆกุก้ไม่ยุ่งอะ ไสหัวไปไกลๆดีกว่า แต่อย่างว่ามันเป็นการ์ตูน ถ้าไม่ยุ่งเรื่องก็ไม่เกิดเดินเรื่องไม่ได้จบตั้งแต่ต้น
อันนี้เลยมองข้ามๆไปก็ได้ แต่รวมๆก็จัดอยู่ในเกณฑ์ดี ว่างๆไปดูไว้ไม่เสียหาย
กลับกันว่ะ กูว่าที่หนังมันทำให้คนดูหนังจบแล้วอ่านมังงะเพิ่มโดยตัวละครไม่หลุด(เพราะไม่ได้แก้เลย) ก็ถือว่าเป็นข้อดีนะ หนังไม่เล่า ไม่ได้แปลว่าไม่เกิดขึ้น แต่ถึงจะรู้ว่าอะไรเกิดขึ้น เหตุการณ์มันก็ไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ดี
เรื่อง Romance ในเรื่องกูว่ามันอิหลักอิเหลื่อตั้งแต่ในมังงะแล้ว กูว่าฉากโชโกะสารภาพรักเป็นอะไรที่หลุดจากเรื่องมาก ไม่ควรมีอยู่ทั้งในมังงะและอนิเม กูไม่ได้ห้ามมันรักกันนะ แต่ไม่ควรออกมาก๊องแก๊งแบบนั้น แล้วการที่โชโกะฆ่าตัวตาย ควรมีการวางปมในตัวละครมากกว่านี้หน่อย ตอนนี้เหมือนอ้าวทำไมโดดวะ ในฐานคนดู ควรจะรู้สึกอะไรมากกว่านั้นหน่อย
บริบทมันพอน่าเชื่ออยู่นา
อันนี้มันเพื่อนต่างเพศมาง้อคืนดี (ประเด็นที่มันแกล้งมันยังอยู่ในขอบเขตพออดทนได้อยู่) แถมทำอะไรหลายอย่างจนต้องยอมรับล่ะว่ามันสำนึกผิดจริงตามประสาวัย ไม่ใช่แอ้บหน้าบาง
แล้วคนโดนแกล้งก็มีปมโทษตัวเองอยู่แล้ว แถมโหยหามานานกับเพื่อนที่ยอมรับ
เหตุเกิดก็ช่วงประถม มาเจออีกรอบตอนมัธยมปลาย เลยมีจุดที่เวลาคอยช่วยเยียวยาแผลใจอยู่
เอาจริงๆ กูเกือบไม่ดูเรื่องนี้แล้วเพราะโปรโมทว่าหนังรักนี่แหละ เเต่พอลองอ่านมังงะแล้วเจอว่าเป็นแนวดราม่าชีวิตวัยรุ่น กูรู้สึกว่าน่าสนใจกว่าเท่าตัวเลย
>>133 แล้วมึงดูแล้วงงหรอหรืออะไร มึงแค่ไม่อินที่พระนางรักกันเร็วทั้งๆที่อีกฝ่ายเคยโดนแกล้งมาก่อนไม่ใช่หรอ กูเลยพูดถึงหนังสือเพราะจะบอกว่ามันมีส่วนที่ไม่ได้ฉายบนหนังแต่อาจเกิดขึ้นในจักรวาลของหนังอยู่ เป็นหนังไม่ได้ต้องฉายมันทุกฉากทุกอิริยาบทนี่หว่า เค้าก็ตัดเอาเนื้อหาสำคัญๆมาฉาย คือมันเป็นส่วนที่ให้คนดูไปคิดเอาเองต่อได้ ไม่ใช่ว่าหนังมาแบบนี้แม่งแปลว่าต้องมีแค่นี้เท่านั้น เรื่องนี้มันไม่ใช่หนังรักอยู่แล้วด้วยซ้ำไป
แล้วที่มึงบอกว่าถ้าเป็นมึงมึงจะไม่ดีกะโชยะ ก็นั่นมันมึงไงไม่ใช่โชโกะ มึงเป็นคนหูหนวกที่ถูกแกล้งในสภาพแวดล้อมนั้นรึเปล่า ก็เปล่า เป็นคนที่ถูกเลี้ยงมาแบบนั้นรึเปล่า ก็ไม่ใช่ แต่มึงกลับคิดว่าแม่งไม่สมเหตุสมผลที่โชโกะไปชอบโชยะได้เพราะถ้าเป็นมึงมึงจะไม่ชอบ มันแปลกๆมั้ยล่ะ มึงไม่ได้คิดตามสภาวะของตัวละครแต่มึงเล่นเอาความรู้สึกของตัวเองไปกำหนดการกระทำของตัวละคร พอมันทำอะไรที่ต่างจากมึง มึงก็บอกว่าเจอกันแค่รักกันได้ไง เหี้ยนี่เคยแกล้งมึงนะเป็นกูกูไม่เอามันหรอก ไม่สมเหตุสมผล แต่มันเป็นเหตุผลของมึงเอง ไม่ใช่เหตุผลของโชโกะ กูเลยพยายามอธิบายสภาพแวดล้อม สภาวะทางใจของคนเคยโดนแกล้งให้ฟัง เพื่อให้มึงรู้ว่ามันไม่ใช่ว่าไม่สมเหตุสมผลแต่นี่เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้จากคนที่มีปมทางนี้ ซึ่งคนแบบมึงก็อาจจะมีแต่คนแบบโชโกะก็มีเช่นกัน จะพูดเหมือนกับว่าสิ่งที่โชโกะทำมันเกิดขึ้นแบบนี้ได้เพราะมันเป็นการ์ตูน ความจริงไม่ใช่อย่างงี้ กูว่ามันก็แคบไปนะ
>>131 คนดูทั่วไปเขาไม่สนหรอกมึงว่าคนสร้างมันจะทุนสร้างน้อยหรือมาก มีเวลาทำแค่ไหน
ผลสุดท้ายคือคนดูชอบหรือไม่ สนุกหรือไม่สนุกแค่นั้น มันไม่ใช่หน้าที่ลูกค้าที่ต้องมารู้ปัญหาผู้ผลิตแล้วจะยอมหยวนๆได้ทุกเรื่อง
ส่วนเรื่องที่ว่าถ้าจักรวาลหนังไม่ได้โชว์อะไรให้เห็นไม่ได้แปลว่ามันไม่มี กูคิดว่าความคิดนี้ไม่ถูกต้องทีเดียว
ก็จริงที่มีเวลาจำกัดหรืออะไร แต่ถ้าใส่ไปในเวลาจำกัดมันอาจจะ"ล้น"(หรือถ้าผู้กำกับมันเก่งจริงยัดมาได้หมดแล้วทุกอย่างลงตัวมันก็อีกเรื่อง)
เช่นเรื่องนี้ก็ตัดช่วงที่มันร่วมถ่ายหนังออก ตัดซีนพิธีจบในมังงะออก ฯลฯ เพราะต้องการให้เป็นอย่างนั้น คนไม่เคยอ่านมังงะก็ไม่รู้หรอกว่ามันมีเนื้อเรื่องส่วนถ่ายหนังอยู่
โอเคว่ามันมีสิทธิเป็นไปได้ที่จะมีเพราะมันมีTime amd Spaceที่ใส่เข้าไปได้แต่จักรวาลหนังมันเลือกที่จะไม่มีไงมึง
ถ้างง ยกตัวอย่างเช่น กูสามารถบอกได้ว่าอีอุเอโนะได้กับโชยะในรพ.ไปแล้ว เพราะมันมีTime กับ Spaceที่สองคนนี้อยู่ในรพ.ด้วยกันจริงและมึงปฏิเสธไม่ได้เพราะกูใช้เหตุผลว่าก็หนังมันไม่โชว์ไงล่ะ! เห็นมะ ตรรกะมันแปลกๆละ
ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้ามันจะมีDirector cutเพิ่มความยาวอีกครึ่งชั่วโมงเล่าส่วนที่หนังโรงตัดออกอันนี้ก็แล้วแต่ผู้กำกับ
แต่ในความยาว2ชั่วโมง10นาทีของตัวหนังถ้าไม่อธิบายอะไรก็คือไม่มี ยกเว้นจะไปหาอ่านมังงะเป็นDLCต่ออันนี้อีกเรื่องละ
>>138 กุพูดรวมๆสำหรับคนไม่เคยอ่าน กุอาจจะพิมพ์กำกวมไปมึงเลยคิดไม่ทันหรืออะไรก็ได้เอาเป็นว่ากุตอบให้แล้วกัน
แล้วกุก้ไม่ค่อยเข้าใจอารมณ์คนโดนแกล้งด้วยยิ่งในไทยที่สังคมแม่งไม่เหมือนญี่ปุ่น
ถ้ามึงคิดแต่จะตามตัวละครงี้พระเอกฮาเร็มเจอหน้ากันก็แก้ผ้าให้ปี้เพราะชอบมึงเข้าใจได้หรอ กุไม่เข้าใจวะเพราะกุไม่ใช่ตัวละคร
มันควรจะค่อยๆสื่ออารมณ์ของตัวละครออกมาว่าทำไมถึงชอบ ให้บุคคลที่3 เข้าใจ อันนีกุถือว่าสอบตก มัวแต่คิดง่ายๆว่ามึงควรเข้าใจนะมึงไม่ใช่มัน ถุ้ย
มีหลายเรื่องที่ทำดีไม่ต้องเรื่องความรักก็ได้อย่าง persona 4 กุเล่นมากุก้เข้าใจอารมณ์ของตัวละคร เข้าใจว่าทำไมมิตรภาพมันถึงแน่นแฟ้น
มึงต่างหากที่อยากจะมองอะไรด้านเดียว ยัดๆแค่ว่ากุไม่ใช่มัน มันไม่ใช่กุ จะยัดงั้นก็ได้กุไม่ว่า กุก้บอกได้เหมือนกันว่าหนังแม่งขายติ่ง เพราะกุไม่ใช่ติ่งกุเลยพูดว่ากุไม่ใช่มันกุเข้าใจโชโกะนะ โอเครๆ จบ
>>139 ถ้าเป็นปกติบ้านกุคงเละเทะนั่นแหละ แต่เพราะแม่งเป็นการ์ตูนจะยัดเหตุผลง่อยๆไงก็ได้ ตรงนี้กุทำเป็นมองข้ามได้เพราะไม่ใช้พ้อยหลักของเรื่องแต่เรื่องอารมณ์ของตัวละคร มึงสื่อมาไม่ถึงบุคคลที่ 3 ยกเว้นไอพวกติ่งที่บอกกุเข้าใจๆ เพราะเป็นตัวละครเป้นเรื่องที่กุอวย อันนี้เรื่องของแม่งเหอะ หนังขายติ่ง ติ่งชมไป แต่กุด่า
>>144 ไม่พยายาม? ไหนมึงอธิบายให้กุหน่อยอีกรอบละกัน กุจะขอบคุณมาก
ง่ายๆสำหรับมึงเลยนิมึงเข้าใจดี งั้นช่วยบอกกุที ว่าทำไมยังไง ไม่ยากเกินไปใช่ไหม ไหนๆมึงก็เข้าใจเป็นอย่างดีแล้ว
อ่อ เลิกนิสัยยัดเยียดเหี้ยไรแบบนี้ให้คนอื่นเหอะ ถึงกุจะบ่นจะด่าแต่กุก้ไม่เคยยัดเยียดเหี้ยไร กุก้บอกว่ากุไม่เข้าใจ กุไม่อิน เป็นหนังดีที่ได้แค่ดี มีแต่พวกติ่งอย่างมึงนี่แหละยัดเยียดให้กุกลายเป็น hater จัง
ปล. กุรอมึงอยู่นะ
>>143 ใครยัดเยียดอะไรให้มึงล่ะ กูและคนอื่นก็แค่อธิบายที่มาที่ไปความเป็นไปได้ บลาๆ มึงอยากรู้ก็กลับไปอ่านอีกรอบ ไม่เข้าใจหรืออยากจะแย้งอะไรก็ลิสมาเลยละกันเพราะกูว่าคอมเม้นกูอธิบายเคลียร์ไปแล้ว ให้พิมพ์ใหม่ก็ซ้ำซากอีกอ่ะ
ตอนแรกกูว่าจะไม่ตอบแล้วเพราะกูจับประเด็นใน>>143 ไม่ค่อยเข้าใจว่ามึงจะสื่ออะไรกันแน่ แต่เบื่อที่มึงเอาแต่ยัดว่าคนโน้นคนนี้เป็นติ่ง ที่พูดมาก็เหตุผลล้วนๆทำไมกลายเป็นติ่งไปได้วะ
Topic has reached inactivity threshold.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.