เปิดบอร์ดด้วยกระทู้ล่อเป้า
แต่อนิเมที่ไม่มีใครแคร์จะเป็นกระทู้ล่อเป้าได้ยังไงกัน
ささみさんだけに!
Last posted
Total of 269 posts
เปิดบอร์ดด้วยกระทู้ล่อเป้า
แต่อนิเมที่ไม่มีใครแคร์จะเป็นกระทู้ล่อเป้าได้ยังไงกัน
ささみさんだけに!
ดูแล้ว ไม่สนุก
ไม่เห็นสนุกเลย งั้นๆ
เล่นเกมส์ดีกว่า
วันนี้ DQ7 ออก
วันนี้ตอน 5 ฉายนะ !
ดูฮางาไนดีกว่า ซาซามิไร้สาระ
ดูตอนแรกแล้วมึน อะไรของเขา ไม่เข้าใจเลย
GJบุ >> โคโตอุระซัง >>>>>>>>>>>>>>>>> ซาซามิ
Season นี้มีเรื่องนี้ด้วย?
ใช้กฏสามตอนดูสิ
GJ สนุกขนาดนั้นเลยเหรอวะ
ตกลงมันมีคนตั้งตารอดูทุกสัปดาห์มะ ซาซามิ
อนิเมดีดูที่ยอดขาย วัดกันไปเลย ระหว่าง ขายไข่ กับ นีทอาสุมิส ใครจะได้เกิน 2 พันแผ่น (สรุปเจ๊งทั้งคู่มีอะไรน่าอวด)
ดูฆ่าเวลาระหว่างรอให้ด็อกกิ้งคอมเมนต์เยอะๆ
実の妹に欲情するなー!
คนพากย์แม่ซาซามิ Arakawa Yuu
ซอร์สจาก NewType ฉบับล่าสุดล่ะมั้ง
แล้วใครจะได้บททามาโมะ
ซอร์สจาก >>17
http://i.imgur.com/fMNBXBE.jpg
ขนาดกรอดูตอนแรก ยังรู้สึกเสียดายเวลา เลยหว่ะกรู
ทามาโกะน่าจะขายดีกว่าซาซามิหน่อยนึงนะ หน่อยเดียว
รูปในซอส ทามะจังเต็มๆ
รูปนั้นมัน เห็นแต่หน้าอก ......
สรุปว่าเรื่องนี้ชาฟท์ทำมาให้เจ๊งเล่น หลังจากโกยจากมาโดกะมาเยอะแล้วสินะ
จริงๆนี่เรียกว่าปกติชองชาฟท์มากกว่า อย่างมาโดกะน่ะมันไม่ปกติ
ชาฟท์ก่าก
ตอนห้า... ก็ยังรู้สึกเฉยๆ
ดูเก็บถ้วยเรอะ ..
ดูเอา Trophy
ดูทุกตอน ตอนละสามรอบ
ดิบรอบ แปลรอบ QCรอบ
ไทป์เซ็ตอ้วกอ่ะ เจอชาฟท์
เรื่องต่อไปชาฟมันอะไร
ส่วนเรื่องนี้ดรอปเหอะ
ซาซามิซังนี่ดูแค่ฮานะคานะทำเสียงง่วงนอนก็พอหล่ะ
เบื่อคากามิ เล่นมุกไม่ขำก็เล่นอยู่นั่นแหละ
ชอบมุกคากามิ โอยาจิแก๊กมันไม่มีไว้ขำแบบหัวเราะก๊าก
ถ้ารู้สึกว่ามันฝืดนั่นแหละคือการชื่นชมมุกที่ถูกต้อง
[Movic] Sasami-san@Ganbaranai "Kagami Dakimakura Cover" 150*50 cm.
カートに入れたのです. むにゅ~
มีของซาซามิไหมนั่น
ซาซามิกากนาโนเดส มุนิว~
ยังไม่ออก มีคากามิแล้ว คนอื่นคงตามๆกันมา
แปลกแฮะ ปกติมันต้องทำนางเอกก่อนสิ
ก็ทำนางเอกก่อนไง?
ตอน 6 แม่ง...
ตอนหกคุณแม่น่ารักดีนะ (เฉพาะครึ่งตอนแรก)
กว่าจะเคลียร์กับคุณแม่เสร็จก็บทท้ายเล่มสาม ดังนั้นตอนนี้...
ขาดทามะกับสึรุกิ ความสนุกคงหายไปเกินครึ่ง
นิคุจัง >>>>>> ท่านแม่
ทามะ >>>>>>>>>>*>>>>>>>> นิคุ
นิคุ >>>>>>>>> ซาซามิ
http://t.co/mIbq8vfM
โจวอุ CV Numakura Manami
ทามาโมะ CV Hidaka Rina ---- My body is ready.
ทามาโมะ จะกลายเป็นอีแดงใน AW มั้ย หรือจะออกมาแง๊วๆแบบลาสออเดอร์
เป็นอะไรก็ได้ กุถอดกางเกงรอละ
คืนนี้ตอน 7
ทามะไม่ตัวประกอบนะครับ
http://imgur.com/3QyvWGd end card 7 ななせめるち
ไอ้พวกมีอารมณ์กับเด็กประถม
ตอน 7 สนุกดีนะ ทามะทำไมไม่สู้ตั้งแต่ตอนที่แล้ว -_-"
สรุปที่แม่เรียกพี่นี่คือ incestกันวายวอดทั้งตระกูล
เสียงโนนากะไอแม่งทำกูตื่น
วันนี้วันเกิดฮานะคานะ 24 แล้ว อะ ตามมาตั้งแต่ยังทีนเอจ
24 แล้ว โคตรป้า
โนนากะไอ พากย์เคียวโกะก็ อืม... จิ้นได้อยู่นะ
คืนนี้ตอน8
มาละ บทที่รอคอย นึกว่าจะมาสักตอน10
ท้ายๆ ตอนเหมือนทำไม่เสร็จ
ทำไม่เสร็จของยุคนี้ ดูดีกว่าทำไม่เสร็จของยุคนู้นเยอะนะชาฟท์
http://www.amiami.jp/top/detail/detail?gcode=CGD2-49988&page=top not sure if want
Shitsux
http://ec2.images-amazon.com/images/P/B00AZFE2QS.09._SCRM_.jpg ช่วยเรียกเรทติ้งให้กระทู้
จะว่าไปกระทู้นี้มีคุยกันสองคนสินะ เปลี่ยวขิงๆ
เมื่อไหร่โจอุจะออกโรง
ซาซามิโคตรกระดาน
กูยอมเสียเวลา 25 นาทีเพื่อดูคางามิง่วงนอน
สายข่าวในสนพ.แห่งหนึ่งรายงานว่ามีคน LC นิยายแล้ว
ไม่บอกละว่าสนพ.ไหน ที่แน่ๆ กุรู้ชื่อสนพ.แล้วใบ้แดก
ใบ้แดกงี้แจ่มใสแน่ๆ
VBK ก็ใบ้แดกนะ
VBK ยังจะเปิดไลน์นิยายอีกเหรอ เท่านี้ยังไม่อนาถพออีกเหรอ
ทำเล่นไป แจ่มใสได้ Hyouka ไปเชียวนะ
วันนี้มีซาซามิ ถ้ามันตัดบทนี้จบในตอนนี้ ก็คงได้เห็นคุณหนู
แจ่มใส มีข่าวว่าได้ Red Data Girl ไปด้วยแหละ
ถ้าจริงนี่เท่ากับมันกะเหมานิยายรีเมคของคาโดคาวะเลยมั้งเนี่ย
ตอน 9 โคตรรีบ จริงๆมันแบ่งได้อีกตอนเลยนะน่ะ
สงสัยจะเอาให้จบเล่ม 4 ปิดซีรีย์
きつねちゃんんんんんんんんんんんんprprprprprprpr
ซาซามิตอน 8 (ตอนที่แล้ว) ที่ฉายช่อง TBS-BS เมื่อคืนไม่แช่ภาพแล้วนะ ทำเสร็จเรียบร้อย
5-6-7 เป็นเรื่องยาวต่อกันหมดเลย แถมเฉลยคำพูดปริศนาที่แม่มันพูดกับพี่ในตอน 8 เรียบร้อย พร้อมกับเปิดตัวลาสบอสที่มีชินเรย์ของ Outer God
สรุปตอนล่าสุด(9) ให้ละกัน เพราะรู้สึกคนที่ดูอนิเมจะเข้าใจกันไปคนละทางหมดเลย
เริ่มจากข้อมูลเบื้องต้น
-ชินเรย์เทพสูงสุดในยุคที่ย้อนมาอยู่ในร่างแม่
-มิโกะแห่งสึคุโยมิทุกคน "อัดยา" เพื่อลดการแปรสภาพโดยไม่จำเป็น โดยผลของยานั้นจะเหมือนกับที่ซาซามิโดนในตอน 8
-ซาซามิโดนดึงกลับมาอยู่ในร่างแม่ด้วยพลังของทามาโมะ
ส่วนที่อนิเมตัดไป
-ช่วงอธิบายเซทติ้งเรื่องชินเรย์และโยวไค -- ตัดไปเถอะ แค่นี้ก็พูดกันยาวแล้ว
-ฉากที่ทามาโมะเรียกซาซามิท้ายตอน8 ตอนนั้นจิตของแม่โดนทำให้หลับไป และเปลี่ยนให้ซาซามิออกมาแทน (เหมือนตอนเนื้องอกที่โผล่มาได้ตอนเจ้าของร่างหลับ)
-ซาซามิตอนแรกอยู่ในสภาพผู้สังเกตการณ์ พอเข้าร่างจริงๆ ก็เกิดอาการมึนเพราะฤทธิ์ยาทำให้ใช้พลังไม่ออก (ในอนิเมนั้นจะบอกกลายๆว่าถึงใช้ออกก็ไม่เท่าแม่)
-นอกจากจะมึนเพราะฤทธิ์ยายังโดนทามาโมะร่ายยาวๆใส่ ทำให้เกิดอาการสับสน มึนงง คุมสติไม่ได้ กลายเป็นปิดผนึกพลังเทพไปโดยปริยาย
สรุป
-ในฉากที่ย้อนกลับมาในวันที่แม่เสีย จะพูดถึงว่ายังมีคนที่ใช้ชินเรย์เทพสูงสุดได้อยู่อีกคนย้อนเวลากลับมาด้วย (แม่จากอนาคต)
-ซาซามิในวัยเด็กไม่มีพลัง แต่ได้แม่ที่มาจากอนาคตเป็นสื่อกลางในการใช้พลังแปรสภาพอดีต ซึ่งอยู่นอกเหนือแผนการของทามาโมะ
-พลังแปรสภาพอดีตที่มีเงื่อนไขคือความสำนึกเสียใจ โดนสึรุกิเอามาใช้เสมือนจุดเซฟ ย้อนกลับไปแต่ละช่วงเวลา(ใช้ความสำนึกเสียใจเป็น markของแต่ละช่วงที่ย้อน)
-วนกลับมาฉากสู้กับทามาโมะอีกที ตอนนี้ทามาโมะพูดว่า ทำไมถึงมีชินเรย์รวมอยู่ในร่างซาซามิอีก บทพูดเต็มๆคือ "ทำไมถึงมีจิตดวงอื่นที่รวมกับชินเรย์อยู่ในร่างของซาซามิอีก"
- จิตนั่นหมายถึงแม่ที่มาจากอนาคตนั่นเอง
จบการอธิบาย
ตอน 10 ...ดูแล้วสำลักน้ำในทุกความหมาย
best episode right now
ข้อสังเกตอีกอย่าง ให้ดูกลางวันกลางคืน
http://i.imgur.com/5oyBg5e.jpg
I watch sasami for the PLOT
ตอนหน้าก็จบแล้ว ;_;
เรื่องทามาโมะพอรู้แล้วมาเห็นฉากแบบนี้มันสะเทือนใจพิกล
ทำไมตอน 10 กับ 11 สนุกจัง
ตอน 11 ทำกูฟินจนน้ำแตกใส่คากามิเลย
ตอน 11 มีตอนไหนให้ฟินคากามิวะ
กูจะซื้อปลอกหมอนข้างลายคากามิแล้วดูตอน 11 ทุกวันหลังอาหารเช้าและบ่าย
BD แผ่นตอน 10-11 คงขายดี แม่งตั้งใจวาดจัด
คืนนี้ตอนสุดท้ายแล้ว
ดีไม่ดีตอนจบก็ประกาศภาค 2 ต่อเลย
จบๆๆ
ตอนสุดท้าย ไม่รู้จะชมอะไรแล้ว ชมฉากแอคชั่นนี่แหละ ไฮเอนด์มาก ขยันแต่เจ๊ง
ส่วนเนื้อเรื่อง อารมณ์พีคสุดของซีซั่นอยู่ช่วงจบเล่ม3จริงๆ ถ้าจะเอาพีคกว่านั้นคงต้องต่ออีกยาวไปเล่ม 5-6-7 ซึ่งฝันไปเถอะ
สรุปสั้นๆว่า "ซื้อ"
กุซื้อคากามิ
http://imgur.com/plVJbQ7 คากามิ? ใครนะ?
แปลจบละ เหลือ QC สามตอนท้ายก็จะได้ถ้วย ดูซาซามิตอนละสามรอบ
ขอขุดหน่อย ไอ้หนุ่มหัวแดงแต่งตัวเป็นไอ้พายุฝน FF 8 ที่โผล่มานี่ไผ? Yamato takeru?
Susanoo ไง
งี้ก็แสดงว่า โอนี่จังของซาซามิคือสุซาโนะโอะ?
พี่มันโดนปิ้งดำๆอยู่ช่วงกลางตอน คนที่ออกนอกผนึกไปตามสุซาโนโอะคือสึรุกิคนเดียว
อีกอย่างนึง สุซาโนโอะเป็นน้องชายของอามาเทราสึ ไม่มีเหตุผลที่สึรุกิ(อดีตอามาเทราสึ)จะเรียกว่าพี่
คนที่มีศักดิ์เป็นพี่สึรุกิตามสายเลือดได้คือฮิรุโกะ ลูกคนแรกของอิซานามิกับอิซานางิ
และหลังจากนี้จะมีตัวละครใหม่ที่เป็นน้องสาวคนแรกของคามิโอมิที่เป็นมิโกะแห่งสึคุโยมิโผล่มาอีกคน คือ สึคุโยมิ ฮิรุเมะ
จะได้รู้อดีตของโอนี่จังก็ช่วงนี้แหละ
ถ้าได้ทำภาคต่อคงได้ดูล่ะนะ แต่สงสัยจะหมดหวัง
http://imgur.com/OfVqBd2 ปกแผ่นสองก็เฟติชถุงน่องต่อ
จริงๆ Hidari นี่วาดสวยนะเนี่ย ไม่รู้ฟัคเทลมันทำอีท่าไหนถึงได้ล่มจมปานนั้น
ฟัคเทล จำได้ว่าอนิเมมันเปลี่ยนลายเส้น สีผม อะไรต่อมิอะไรหมดเลยนิ
มังกะซาซามิ ที่ลงในโชเน็นซันเดย์ ตั้งแต่ตอนหน้าเป็นต้นไป(ตอน30+) จะย้ายไปลงโชเน็นS ที่เป็นรายเดือนแทนแล้ว
ซอร์สจากบล็อกของ อ.อากิระ
ล่าสุดตอน29 จบบทคุณแม่กลับโยมิรอบแรก
ยังมีใครอยากได้สรุปหรือสปอยล์นิยายบทหลังๆอยู่มั้ย พอดีอ่านแสกนแล้วติดลมไปซื้อเล่มต่อ 8-9-10 มา
อยากรู้อะไรจะไปรื้อให้ ถ้าไม่ก็ดองไว้ลงแต่ปก BD
http://imgur.com/UC9pmLh
>133 จัดเลย รออ่าน *-*
http://imgur.com/uoUCWXd
โอเค ถ้างั้นจะเริ่มจากบทสิ้นสุดสงครามกรุงทรอยท้ายเล่ม5 ที่สังเวยวิญญาณมิจจังกับโอนี่จัง ให้ทามาโมะย้อนกลับไปแก้ไขผลแพ้ชนะของสงครามกรุงทรอยให้เมืองไม่แตกแล้วทวยเทพกลับโอลิมปัสก็แล้วกัน ดึกๆจะมาต่อให้
flag เล่ม5 ใส่มาเพราะขี้เกียจเล่า
-ยามาตะโนะโอโรจิSNS อัพเกรดเป็นฮิวโดร่าSNS(ไฮดร้า?) มีอีเวนท์ใหม่ สงครามกรุงทรอย เขียนบทและกำกับโดยZeus เป้าหมายคือการถล่มญี่ปุ่นในฐานะทรอย
-ตัวละครใหม่ คุชินาดะ โนโซมิ เพื่อนร่วมชั้นของทามะ ปรากฏตัวในเกมในฐานะเพื่อนบนเน็ตของซาซามิ
-พอมีโนโซมิจุดประเด็น ซาซามิเลยได้คุยเรื่องครอบครัวของคุณหนู (แม่ไปไหน? ใครฆ่าพ่อ? etc.)
-ฉากอดีตของคามิโอมิที่โผล่มาในความฝันของเจ้าตัว เป็นตอนที่คามิโอมิตกลงรับคำสัญญาจากคนที่เรียกว่า"ท่านฮิรุเมะ"ว่าจะคอยปกป้องเชื้อสายของสึคุโยมิสืบไป
-ทามาโมะ คามิโอมิ(+อาวาชิมะ) และมิจจัง ออกเดินทางในเกมในฐานะคีย์แมนของสงคราม (ช่วงคุณพี่ปักธงด้วยการเซคุฮาระทามาโมะ)
-คากามิ ,สึรุกิ ,ทามะ,etc.
-ก่อนที่ทุกคนจะเสียท่า ทามาโมะตัดสินใจขอยอมแพ้ต่ออพอลโล เพื่อหวังจะเปลี่ยนจุดจบของสงครามกรุงทรอยด้วยการแก้ไขประวัติศาสตร์ ปล่อยเฮเลนที่ถูกขังเพื่อระงับเหตุสงครามม้าไม้โทรจัน แต่จำเป็นต้องใช้พลังมหาศาลในการแปรสภาพ
-คามิโอมิตัดใจบอกลาซาซามิเพราะว่าหน้าที่ที่ตนเคยให้สัญญากับฮิรุเมะได้จบลงที่รุ่นซาซามิที่เลิกพึ่งพลังเทพสูงสุดแล้ว
-มิจจังได้ชินเรย์"ทาเคมิคาซึจิ"และหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากนินิกิโนะมิโคโตะคืน จากนั้นจึงลงทัณฑ์คามิโอมิที่ขอรับโทษแทนน้องสาวที่สละพลังเทพสูงสุด
-มิจจังมอบพลังของคามิโอมิให้ทามาโมะ จากนั้นจึงมอบพลังวิญญาณทั้งหมดของตัวเองให้ทามาโมะอีกต่อ
-ทามาโมะบอกลาคุณหนูที่เพิ่งรู้ตัวว่ามีแม่เป็นจิ้งจอกเก้าหาง จากนั้นจึงแปรสภาพประวัติศาสตร์ด้วยพลังทั้งหมดและหายตัวไป สงครามจบ เทพกลับโอลิมปัส
-ซาซามิกับคุณหนูตัดสินใจออกเดินทางเพื่อตามหาวิธีพาคนสำคัญของทั้งคู่กลับคืนมา
เล่ม6 เริ่มที่ ซาซามิและคุณหนูขึ้นเครื่องไปอินเดีย คากามิโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง ตามด้วยเครื่องบินตก
ด้วยความบังเอิญหรืออะไรสักอย่างก็พาสองคนนี้ไปเจอกับวิษณุ เทพสูงสุดของฮินดู วิษณุนั้นมีหลักที่ตนเองยึดปฏิบัติต่างจากเทพอื่นๆ(ที่เคยปรากฏในเรื่องนี้)อยู่อย่าง ก็คือเทพนั้นมีหน้าที่ตอบสนองต่อคำขอของผู้คน ดังนั้นจึงรับฟังคำขอของคุณหนูและซาซามิ
วิษณุพอได้ยินคำขอแล้วก็ยื่นข้อเสนอหนึ่งให้ทั้งคู่ โดยอ้างว่าคำขอที่ทั้งคู่ว่ามานั้นไม่สามารถทำให้สำเร็จได้ในร่างมนุษย์(และกึ่งมนุษย์อย่างคุณหนู) คำขอที่เป็นระดับปาฏิหาริย์อย่างการคืนชีวิตให้คน จะได้จากการสั่งสมสิ่งที่เรียกว่า"บุญบารมี"ในฐานะเทพเท่านั้น ยิ่งบารมีมากยิ่งสร้างปาฏิหาริย์ได้มาก
เมื่อทั้งคู่ตอบตกลงว่าจะบำเพ็ญตนสร้างบารมีในฐานะเทพ วิษณุก็เตรียมการต่างๆให้ หนึ่งในนั้นคือการทำให้ทั้งคู่อยู่ในร่างของเด็กประถมที่มีร่างแปลงเป็นสาวน้อยเวทมนตร์
คุณหนูได้เซ็ทอวตารของอุมาเทวี มีอาวุธหลักเป็นจักร ส่วนซาซามิได้เซ็ทอวตารของวิษณุ มีอาวุธหลักเป็นวัชระ
เป้าหมายหลักคราวนี้คือการรวบรวมบารมีจากการทำคำขอของผู้คนให้เป็นจริง
รอบหน้าจะมาต่อในหัวข้อ
-คำขอของคุชินาดะ โนโซมิ
-คำขอของสึคุโยมิ ฮิรุเมะ
http://imgur.com/JxQx9Vh
http://imgur.com/MLH1y7j
โนโซมิในเกม(เล่ม5) และโนโซมิตัวจริง(ปกเล่ม8) ตามลำดับ
เพิ่มเติมเล่ม5 เนื่องจากมีคนถาม
-สึคุโยมิ จูจู เป็นเฮเลน รบแพ้นอกจอ กลายเป็นสินสงคราม
-คากามิ ไม่มีบทบาทในเกมช่วงไคลแมกซ์เพราะเป็นผู้ใช้สัตว์อสูร อาชีพที่เทพกรีกดักไว้ว่าจะสั่งการอสูร(แมลงสาบไททัน)ไม่ได้เลยช่วงสงคราม แถมยังใช้ยาตะโนะคากามิกับปลดผนึกคากุทสึจิไม่ได้อีกตะหาก
-สึรุกิ เอาแต่เล่น ดาบไม่มี ทำอะไรไม่ได้ เลเวลต่างกับอพอลโล
-ทามะ กลายเป็นส่วนประกอบของม้าไม้โทรจัน อาวุธปิดฉากสงคราม
-ทามาโมะ ทำตัวมีพิรุธทั้งเล่ม จนกระทั่งคุณหนูเรียกแม่ในช่วงท้าย (ตรงนี้ฉากเรียกน้ำตาพอกับตอนคุณพี่วิญญาณสลาย)
flagสำคัญอีกอย่างที่มีเนื้อเรื่องต่อในเล่ม6
-สุซาโนโอะขอโนโซมิเป็นเมียในเกมระหว่างที่สู้กับกองทัพอีกฝ่ายแบบหลังชนหลัง โดยที่ต่างคนต่างไม่รู้ว่าใครเป็นใคร คนนึงก็เป็นไอ้หนุ่มผมแดง ส่วนอีกคนก็เป็นแม่สาวซามูไร โนโซมิเองก็หวั่นไหวเพราะไม่เคยเจอผู้ชายกินเนื้อ แถมเข้ามาช่วยตอนกำลังอ่อนไหวอีกตะหาก
ทำไมมันกลายเป็นนิยายเกมออนไลน์ไปได้...
เกมออนไลน์เดี๋ยวนี้ก็มีคนตายเป็นเรื่องธรรมดา
ต่อจาก >>138
คุชินาดะ โนโซมิ ถอนหายใจเบาๆ ระยะนี้เธอเริ่มมีท่าทีหม่นหมอง
ทามะเองก็สังเกตได้จึงเอ่ยถามเธอว่าเป็นอะไรไป ไม่ได้กินข้าวเช้ามาเหรอ
แต่ก็ได้รับคำตอบ(แบบหน้าแดงนิดๆ)กลับมาว่า
"นี่ ทามะจัง เคยตกหลุมรักใครรึเปล่า?"
"ม-ไม่ได้นะ ความรักระหว่างผู้หญิงกับผู้หญิงมัน... แบบนี้ทามะก็แย่น่ะสิ"
"ยังไม่ได้พูดเลยนะว่าตกหลุมรักใคร"
"เอ๋ แต่ทามะน่ะรักโนโซมิจังม้าก~มากที่สุดเลยนะ♪"
หลังจากทามะปล่อยมุกประจำตัวแล้วก็ยิ้มแบบมีเลศนัย
"โตเป็นสาวซะแล้วเหรอเนี่ย โนโซมิจังของทามะ"
จากนั้นครูประจำชั้นก็เดินเข้ามาพร้อมกับแนะนำนักเรียนใหม่ที่เพิ่งจะย้ายเข้ามาสดๆร้อนๆ
ชายหนุ่มผู้มีผมสีแดงเพลิงสะพายกีตาร์เคสเดินเข้ามาพร้อมกับแนะนำตัวด้วยชื่อที่เขียนบนกระดาน
"ยากามิ สุซาโนโอะ"
โนโซมิตกใจจนแทบจะเป็นลม
ไม่มีใครสังเกตเลยว่าทำไมผู้ใหญ่ถึงย้ายเข้ามาเรียนรวมกับพวกตัวเองได้ ยกเว้นโนโซมิและทามะ
ส่วนทามะเองก็ไม่ได้แปลกใจอะไรแถมยังเรียกสุซาโนโอะว่าคุณน้าหน้าตาเฉย
สุซาโนโอะก็ปรามทามะว่าอย่าเรียกอย่างนั้น เพราะตอนนี้เขาเป็นเด็กประถมอยู่นะ(แน่นอนว่าใช้วิธีแปรสภาพการรับรู้คนรอบตัวเอา)
แล้วก็แนะนตัวเพิ่มเติมว่า
"ข้าคือเทพผู้กล้าแห่งตำนาน ราชาแห่งปรภพ ท่านสุซาโนโอะไงล่ะ!"
แค่นี้ยังเป็นจูนิเบียวธรรมดาๆ
"แล้วก็เป็นคู่หมั้นของคุชินาดะโนโซมิที่นั่งเขินอยู่ตรงนั้นด้วย!"
โนโซมิแทบอยากจะบินหนีไปจากตรงนั้น คนที่ควรจะพึ่งได้อย่างทามะจังก็กลายเป็นญาติสนิทของฝ่ายตรงข้ามเสียอีก
ชีวิตในฐานะนักเรียนประถมธรรมดาๆของคุชินาดะโนโซมิ ได้จบสิ้นลงแล้ว
โนโซมิที่พบกับซาซามิและคุณหนูโดยบังเอิญเพราะโดดเรียนมาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาให้ทั้งสองฟังทั้งน้ำตา
แม้ว่าในตอนนี้ทั้งซาซามิและโจวต่างก็เป็นแค่คนแปลกหน้าที่เธอแค่รู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเจอที่ไหนมาก่อน
"เข้าใจล่ะ ให้หม่าม้าจัดการเอง"
คุณหนูรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ เพราะนอกจากจะได้ช่วยโนโซมิจังผู้แสนน่ารักแล้วทั้งเธอและซาซามิก็ยังมีโอกาสได้บุญบารมีจากภารกิจสุดโหดคราวนี้อีกตะหาก
ขอเป็นเมียในเกมส์แล้วตามมาเรียนโรงเรียนเดียวกันเนี่ยนะ
ต่อเรื่อยๆนะ อ่านอยู่
ลงชื่อ
คามิยามะมาเยือน
ต่อจาก >>143
"แล้ว...จะทำยังไงกับเขาเหรอคะ?" โนโซมิสงสัย ซาซามิเองก็เช่นกัน
คุณหนูหัวเราะเสียงสูง ขณะเดียวกันก็แปลงร่างเป็นโกโฮโชโจ(สาวน้อยพิทักษ์ธรรม) แบล็คทุรคา
"ไอ้นักเรียนอะไรนั่นมันก็ไม่เท่าไหร่หรอก พวกเธอน่ะเว่อร์กันไปเองทั้งนั้น"
เดี๋ยวคุณหนูจะเป็นคนไสหัวมันไปให้ดูเอง ว่าแล้วก็ชักจักรที่เป็นอาวุธประจำตัวออกมา
ขณะที่คุณหนูบุกเข้าไปนั้นเป็นเวลาพักเที่ยงพอดี นักเรียนทั้งหลายก็ยังกินข้าวไม่เสร็จบ้าง เล่นกันอยู่บ้าง
สุซาโนโอะยังคงอยู่ตรงที่นั่งหลังสุดของห้อง ท่ามกลางเสียงจ๊อกแจ๊กจอแจ
พอเห็นคนบุกเข้ามาหาเรื่องแบบนั้นก็ทำเสียงเหยียดๆ ทำนองว่าได้ยินชื่อแล้วยังจะกล้าเข้ามาหาเรื่องแบบนี้ไม่หวงชีวิตตัวเองแล้วรึไง
คุณหนูก็ข่มกลับด้วยประโยคสุดเฟี้ยวไม่แพ้กันตามสไตล์ผู้ผดุงความยุติธรรม ตามด้วย
"จงตายซะเถอะ! เพื่อความสงบสุขและอนาคตของโนโซมิ! "
"ข้าไม่ยอมตายหรอก เพราะคนที่จะทำให้โนโซมิมีความสุขได้น่ะ มีแต่ข้าเท่านั้น!"
คำพูดของทั้งคู่ทำเอาโนโซมิร้องไห้อีกรอบ (ในความหมายที่ไม่ใช่ตื้นตันใจ)
คุณหนูเล็งขว้างอาวุธจากกลางอากาศ หวังเชือดฝ่ายตรงข้ามด้วยคมจักร
"อ่อนหัด!"
เสียงโลหะที่ปะทะกับจักร มาจากอาวุธของอีกฝ่ายที่ซ่อนอยู่ในกีตาร์เคส
ชื่อของมันก็คือ ดาบมารสังหารเทพ อาเมะโนะฮาบาคิริ
สัญลักษณ์ที่บอกว่าเขาคือเทพผู้กล้าสุซาโนโอะตัวจริง
สุซาโนโอะไล่ต้อนอีกฝ่ายกลับและเอ่ยชมว่าทำได้ไม่เลว แต่ก็คงมาได้เท่านี้
"เพราะว่าความรักที่ข้ามีต่อโนโซมิมันแข็งแกร่งไงล่ะ"
โนโซมิอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี
สุซาโนโอะซัดคุณหนูกระเด็นไปกองกับพื้น และปิดฉากการวิวาทด้วยท่าสุดเท่
"เจ้าผู้กล้าเป็นปฏิปักษ์ต่อเจ้านรก จงสำนึกในผลกรรมที่ตัวเองก่อซะ!"
"ฝ-ฝากไว้ก่อนเถอะ!"
คุณหนูพ่ายแพ้อย่างหมดรูป จนซาซามิต้องช่วยลากออกไป ฝ่ายตรงข้ามคราวนี้เกินกว่าคำว่าตึงมือมากมายนัก
ช่วงพักเที่ยงกำลังจะหมด พวกนักเรียนประถมด้านนอกเริ่มทยอยกลับเข้าห้อง
แล้วซาซามิหันไปเห็นทามะที่กำลังเก็บอุปกรณ์เบสบอลเข้าพอดี
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้พบหนึ่งในสามสาวพี่น้อง หลังจากที่ได้ออกเดินทางไปต่างประเทศ
ซาซามิในร่างเด็กประถมส่งเสียงทักทามะน้องคนเล็ก ส่วนทามะก็ได้แต่เอียงคอด้วยความงง
"ทามะ นี่ฉันเองนะ สึคุโยมิ ซาซามิ ไง"
ถ้าเป็นตอนปกติ ทามะคงจะโผเข้ากอดแล้วเรียกเธอว่าหม่าม้ารินไปแล้ว แต่คราวนี้กลับต่างไป
"สึคุ โยมิ.... ซา ซา มิ? "
ทามะพูดชื่อนั้นซ้ำอีกครั้ง
ราวกับว่ามันเป็นสิ่งที่เธอเพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรก
ต่อจาก >>149
คืนวันเดียวกันที่อพาร์ทเมนท์ของบ้านยากามิ
สุซาโนโอะกำลังพลาดพลั้งเสียท่าในเกมไพ่ทรัมป์(อีแก่กินน้ำ)ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
"ฟังนะ ทามะโบ ชั้นน่ะ ไม่ใช่พวกที่จะยอมอ่อนข้อให้เพราะเห็นว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นเด็กหรอกนะ"
และเขาก็เกลียดการพ่ายแพ้มากๆเอาซะด้วย
"เย้! ทามะชนะอีกแล้ว คุณน้าอ่อนจัง~♪"
"นี่มันบ้าชัดๆ!! เธอต้องเล่นตุกติกอะไรสักอย่างแน่ๆ!"
สุซาโนโอะเริ่มเหวี่ยง เพราะคิดว่าทามะคงจะกำลังใช้การแปรสภาพตบตาเขาอยู่แน่ๆ
"ฮึฮึ เพราะทามะเก่งต่างหากล่ะ นี่ความสามารถล้วนๆเลยนะ ชนะรวดแบบนี้สงสัยจะเป็นเซียนไพ่ทรัมป์ได้แน่เลย"
"ทรัมป์บ้าทรัมป์บออะไรกันล่ะ เอ้า อีกเกม!"
"แล้วเธอจะต้องเสียใจ ที่ทำให้ชั้นคนนี้เอาจริง เธอจะต้องเสียใจแน่ๆ คอยดู!"
ทามะสับไพ่ด้วยท่าทีสนุกสนาน
"ฮึฮืม~ ไพ่ทรัมป์นี่สนุกจังเลยน้า อะ-เอ๋...?"
ทามะตะลึงกับไพ่ในมือตัวเอง ขณะที่อีกฝ่าย สุซาโนโอะ ยิ้มอย่างมีชัย
ไพ่คู่ในมือเขาถูกทิ้งลงมาจนหมด
"หึ... ชั้นชนะแล้วสินะ"
แน่นอนว่าโกงเอา แบบเด็กประถมจับติดซะด้วย
"จ-ใจร้าย ทั้งที่คุณน้าเป็นคนพูดเรื่องห้ามแปรสภาพเองแท้ๆ~"
"หา? แพ้แล้วมาพูดแบบนี้ได้ไง นี่ความสามารถชั้นล้วนๆเลยนะ เทคนิคที่เด็กๆอย่างเธอไม่รู้ไงล่ะ จบนะ?"
ทามะเริ่มน้ำตาคลอ เพราะจะขอเช็คไพ่แล้วสุซาโนโอะไม่ให้ดู
"นั่นไง เธอก็เกลี่ยดการพ่ายแพ้เหมือนกันล่ะสิ แต่ชั้นไม่ผิดหรอกนะ จะเป็นเทพสูงสุดยุคใหม่น่ะมันก็ต้องเจอเรื่องแบบนี้เป็นธรรมดา-- เฮ้ย บอกว่าอย่าเข้ามากอด!"
ทามะยังคงตั้งหน้าตั้งตาจะแย่งไพ่จากมือสุซาโนโอะ
ความรู้สึกจากสัมผัสของทามะ ทำเอาสุซาโนโอะบ่นคิดถึงแม่ขึ้นมา
"แม่ของคุณน้า งั้นก็เป็นยายของทามะน่ะสิ?"
"เรียกหม่าม้าว่ายายเดี๋ยวจะโดนโกรธเอานะ หม่าม้าน่ะเค้ายังเป็นสาวอยู่เสมอล่ะ"
สุซาโนโอะพูดต่อว่ายิ่งกว่านั้นถ้าเขาไม่รีบกลับ มีหวังโดนงอนหนักแน่
"ไม่เอานะ คุณน้ากลับแล้วทามะจะเล่นกับใครล่ะ อยู่ต่อเถอะนะ"
"แหม น่ารักจริงๆนะ พูดแบบนี้ มาเป็นเจ้าสาวชั้นเลยมั้ยล่ะ"
ทามะยังงงๆ เพราะไม่รู้ว่าเจ้าสาวคืออะไร
"คิดจะทำอะไรเด็กกันคะ ไอ้กัปปะลามก"
คากามิในชุดนักเรียนสวมผ้ากันเปื้อนที่กำลังวุ่นกับการทำอาหารเย็นอยู่แทรกขึ้นมา
"โอ้ คากามิน ข้าวเย็นเสร็จแล้วเหรอ? หิวจะแย่แล้วเนี่ย"
"อย่าเรียกแบบนั้นจะได้มั้ยคะ ถึงจะเป็นน้องชายของพี่ก็เถอะ แล้วนี่คิดจะเกาะเป็นปลิงอยู่ที่นี่ไปถึงเมื่อไหร่กันคะ จะวางแผนอะไรอยู่ก็ไม่รู้หรอกนะคะ แต่ถ้ามาเข้าใจอะไรผิดๆฉันจะสับให้เละเป็นหมูบะช่อเลย"
"หงุดหงิดอะไรกันเล่า วันแดงเดือดหรือไง เอ้าๆแจกตะเกียบได้แล้ว "
สุซาโนโอะเปรยๆว่าเขาคงไม่อยู่นานนักหรอก ไม่ต้องห่วง แต่ก็ยังแทะโลมทามะต่อ
คากามิเริ่มไม่สบอารมณ์จนขู่ว่าเพลิงของคากุทสึจิในตัวมันเริ่มจะระงับไม่อยู่แล้ว จนสุซาโนโอะยอมหยุดไปพักหนึ่ง
และเริ่มเปลี่ยนเป้าหมายมาแทะโลมคากามิแทน
(ไม่มีอะไรมาก แค่ลูบหัวแล้วหน้าแดง กับถลกผ้ากันเปื้อนพร้อมเสื้อจนเห็นสะดือและเกือบเห็นบรา และ etc.)
"นั่นแกจะทำอะไรกับน้องสาวที่น่ารักของชั้น หา?"
สึรุกิพูดพร้อมกับยื่นดาบคุซานางิ(อาเมะโนะมุราคุโมะ)มาขวางเอาไว้ พร้อมขู่ฆ่า
สุซาโนโอะแถว่าไม่มีอะไร แค่จะตรวจดูหน้าท้องคากามิดูนิดหน่อย
"โถๆ อย่าเพิ่งหึงผมสิครับลูกพี่ รักนะ~♪"
สุซาโนโอะทำปากจะจูบใส่หน้าสึรุกิ
"น-น-นี่แหละที่ชั้นบอกว่าเกลียดแก ไสหัวไปเลยนะ! จะไปไหนก็ไปเลยไป๊ ไม่งั้นชั้นฟ้องป๋าจริงๆนะ---!!!"
เมื่อสถานการณ์เริ่มเข้าที่ คากามิบอกสึรุกิว่าข้าวเย็นเสร็จแล้ว แต่เธอกลับบอกว่ากินกับสุซาโนโอะไปเถอะ เดี๋ยวจะไปข้างนอก กลับเช้า
หลังจากเหตุการณ์สงครามกรุงทรอยที่จบด้วยการสูญเสีย สึรุกิที่สำนึกแล้วว่าตัวเองทำอะไรไม่ได้เลย เริ่มดูตั้งหน้าตั้งตาทำอะไรจริงจังมากขึ้น
แล้วสึรุกิที่ออกมาข้างนอกอีกครั้ง ก็ได้พบกับซาซามิในร่างเด็กประถมที่แอบมาด้อมๆมองๆอยู่
"...ใครน่ะ?"
สายตาของสึรุกิที่มองมา และคำถามน้ำเสียงเรียบๆ ทำเอาซาซามิกลัวจนหนีไป
นึกแล้วไม่ผิด
สามพี่น้องยากามิ ลืมเรื่องของเธอไปแล้วจริงๆด้วย
...ทำไมมันยาวขึ้นเรื่อยๆฟะ
ยังกะอ่านนิยายแปล มาเรื่อยๆ เลยครับ
ฉากสั้นๆ ต่อจาก >>150
บนถนนในคืนอันมืดมิด
ซาซามิไม่รู้ว่าตัวเองเดินมาไกลเท่าไหร่แล้ว
การที่เธอถูกทามะมองเหมือนคนไม่รู้จักกัน หรือแม้กระทั่งถูกสึรุกิลืม สร้างความเจ็บช้ำให้เธอมากพอดู
ถึงแม้ว่าคนที่ตัดสินใจหนีจากพวกสามสาวพี่น้องไปก่อนแบบไม่บอกกล่าว จะเป็นตัวเธอเองก็ตาม
ตอนนั้นซาซามิคิดแค่ว่าถึงจะโดนโกรธก็คงไม่แปลก แต่นี่มันเกินกว่าที่เธอคิดไว้
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
สำหรับซาซามิที่กลายเป็นคนอื่นในสายตาของสามพี่น้อง เมืองนี้ก็ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว นอกจากความว่างเปล่า
"พี่คะ..."
สิ่งที่ตอบกลับมามีแต่ความเงียบงันจากบ้านเรือนที่ไร้ผู้คนในยามราตรี
ซาซามิส่งเสียกเรียกพี่ชายผู้จากไปซ้ำๆ
ต่อหน้าความเหงาอันโหดร้าย เธอทำได้แค่เพียงยืนนิ่งไม่ไหวติงอยู่พักหนึ่ง
แรกๆก็สรุปสั้นๆ หลังๆดีเทลแม่งเยอะขึ้นๆ ก๊าก
แต่ยาวๆดีแล้ว ตามอ่านอยู่นะครับ
ลงชื่อตามอ่านอยู่แอบๆ
ต่อจาก >>153
ตัดมาที่คุณหนูยืนกอดอก ท่าทางไม่สบอารมณ์
"หงุดหงิด หงุดหงิด หงุดหงิดที่สุด---!"
วันนี้เมื่อตอนกลางวัน เธอโดนสุซาโนโอะซัดซะกระเด็น
"เป็นไปได้ยังไง คนอย่างชั้นเนี่ยนะจะแพ้ มันต้องเป็นเพราะพลังที่วิษณุให้มามันไม่ได้เรื่องแน่ๆ!"
สถานที่คือบ้านของคุชินาดะ โนโซมิ
เพื่อเป้าหมายในการรวบรวม"บารมี"ในการสร้างปาฏิหาริย์ ซาซามิและคุณหนูในร่างเด็กประถมถึงรับปากจะแก้ปัญหาหนักใจของโนโซมิให้ได้
และนี่ก็คือสาเหตุที่ทั้งสองคนมาขอนอนพักที่บ้านของเธอชั่วคราว
บ้านที่ไม่มีคามิโอมิ สำหรับซาซามิมันก็ไม่ใช่สถานที่ที่จะกลับไปอยู่แล้ว
คุณหนูเองก็ไม่ต่างกัน
ครอบครัวของโนโซมิเป็นครอบครัวธรรมดาๆ พ่อแม่ของโนโซมิเองก็ไม่ได้เอะใจเรื่องเพื่อนๆของเธอจะมานอนค้าง นั่นแปลว่าการแปรสภาพเป็นไปด้วยดี
"เอ้อ... ถ้าไม่ไหวก็ไม่ต้องก็ได้นะคะ..."
โนโซมิยังคงดูลนลานกับเรื่องที่เกิดขึ้น ในขณะที่คุณหนูนั้นมั่นใจเต็มที่
"ไม่ได้หรอก ยังไงก็จะช่วยให้ได้ อีกอย่างเธอเองก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล"
โนโซมิไม่ค่อยเข้าใจว่าคุณหนูหมายถึงอะไร
แต่ความจริงใจของคุณหนูที่สื่อออกมาทำเอาเธอน้ำตาคลอ
ปัญหาของเธอไม่ใช่เรื่องที่จะมีใครรับฟังแล้วเข้าใจได้เลย
เพราะฝ่ายตรงข้ามตัวต้นปัญหา เป็นถึงเทพสุดแกร่ง สุซาโนโอะ ที่บิดเบือนโลกด้วยการแปรสภาพได้ตามใจชอบ
คุณหนูยังแถมให้ว่าเมื่อตอนกลางวันนั่นเธอยังไม่ได้เอาจริง ขณะที่ซาซามิพูดถึงตัวจริงของฝ่ายตรงข้ามให้โนโซมิฟัง
พลังสัมผัสวิญญาณของโนโซมิอยู่ในเกณฑ์สูง แต่เธอกลับไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรพวกนี้นัก
ทำไมสุซาโนโอะถึงมาไล่ตามเธอ ข้อมูลที่มีตอนนี้เองก็ยังบอกอะไรไม่ได้ (hint : ดูนามสกุลโนโซมิสิ)
"แล้วทำไมหนูถึงต้องโดนเทพที่ยิ่งใหญ่ขนาดนั้นมาตามติดด้วยล่ะคะ--?"
โนโซมิทำท่าจะร้องไห้อีกรอบ
คุณหนูย้ำให้เธอสบายใจอีกครั้งว่าไม่ต้องห่วง เพราะทางพวกเธอนั้นมีท่านวิษณุ เทพสูงสุดของฮินดูเป็นแบ็ค ระดับมันต่างกัน (แต่ก่อนรับเคสโนโซมิ วิษณุบอกไว้ว่างานนี้ขอนั่งบนภูดูเสือกัดกันดีกว่า)
"รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง เอ้า ซาซามิซัง เปิดเน็ทหาข้อมูลสุซาโนโอะซิ พวกจุดอ่อนอะไรก็เอามาให้หมดเลยนะ เร็วๆด้วย"
"..............."
ซาซามิยังต้องอึ้งกับความคิดของคุณหนู ยิ่งตอนนี้เธอเองก็แทบคิดอะไรไม่ออกแล้ว
ในหัวมีแต่คำพูดเย็นชาของอดีตคนรู้จักอยู่เต็มไปหมด
เสียงหัวเราะสนุกสนานของสามพี่น้องยากามิ และความทรงจำเรื่องของพี่ชาย
"นี่เธอเป็นอะไรไปน่ะ ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว"
ถึงจะเกลียดตัวเองแค่ไหน แต่เธอก็ยังมีลมหายใจเรื่อยมาจนถึงตอนนี้
แต่การถูกทุกคนลืม เหมือนกับว่าเธอไม่เคยมีตัวตนมาตั้งแต่แรกนี่... มันช่างน่ากลัวจนจับใจ
"ชักจะกลัวขึ้นมายังไงก็ไม่รู้สิ ถ้าเกิดสิ่งที่ฉันทำไปมันไร้ผล จนต้องเสียคนสำคัญรอบตัวไปอีกล่ะ แบบนั้นสู้ไม่ทำอะไรเลยไม่ดีกว่าเหรอ ไม่ต้องพยายามอะไร ก็ไม่ต้องเสียอะไรไปอีกไง... "
ยังไงเสีย โลกนี้ก็ไม่ใช่สถานที่ที่คนไม่พยายามอะไรจะอยู่ได้อย่างเป็นสุขอยู่แล้ว
เลิกดีกว่า
เรื่องที่ยากๆ ก็ให้คนที่ทำได้ทำไป ส่วนเราก็อยู่แบบนี้ต่อไปดีแล้ว
ต่อจาก >>156
"ซาซามิซัง ชั้นน่ะ คิดอย่างนี้นะ"
เอโดกาว่า โจว ผู้มีชะตากรรมร่วมกันกับซาซามิ ยิ้มให้เธออย่างอบอุ่นจากใจ
ชะตากรรมที่ว่าสักวัน พวกเธอต้องฆ่ากันให้ตายไปข้างหนึ่ง
"เพราะพวกเราน่ะเป็นมนุษย์ ไม่ใช่เทพเจ้า สิ่งไหนที่อยากได้ก็ต้องเอื้อมมือ พยายามไขว่คว้าหามาเอง
ชั้นน่ะยึดถือแบบนั้นมาตั้งแต่เด็ก ถึงต้องพยายามต่อสู้ ขัดขืน แก่งแย่งชิงดีเรื่อยมา
แต่เธอน่ะ ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นก็ได้ เพราะนั่นน่ะ มันไม่ใช่ชีวิตที่ควรจะเป็นนักหรอก"
"เธอน่ะเป็นศัตรูคู่อาฆาตของชั้น ต้องแข็งแกร่งอยู่เสมอ เพื่อการนั้น ชั้นจะให้เธอยืมพลังของชั้น ไปเจือจางความอ่อนแอในชีวิตเธอเอง"
ไม่ใช่ว่าเพราะชอบเธอหรือเพราะเป็นเพื่อนกันหรอกนะ
"เพราะฉะนั้น ชั้นขอร้องล่ะ อย่าทำหน้าเหมือนยอมแพ้ทุกอย่างแล้วแบบนั้นเลย"
"ชั้นน่ะยังอยู่ตรงนี้ ถึงทุกคนในโลกนี้จะลืมเธอไปจนหมด แต่เธอก็ยังสำคัญต่อชั้นเสมอ
ชั้นจะคอยอยู่ข้างเธอ จะคอยแข่งขัน ประชันกับเธอ มองจ้องเข้าไปในตาเธอ แล้วสู้กับเธอ... จนกว่าเธอจะยืนหยัดต่อไปไม่ไหว"
"ชั้นจะอยู่ตรงนี้เสมอ เพราะว่าชั้น เป็นคู่แข่งฟ้าลิขิตของเธอยังไงล่ะ"
นี่คือคำสารภาพของเอโดกาว่า โจว
คำพูดนั้นทำให้ซาซามิสบายใจจนยิ้มได้อีกครั้ง แม้จะยังหวาดกลัวจนตัวสั่น
เพราะว่าเธอ ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวอีกแล้ว
"โจวจัง"
"อะไรล่ะ"
ซาซามิกุมมือศัตรูผู้แสนน่ารักเอาไว้
"รักโจวจังที่สุดเลย"
แล้วจูบเข้าที่ริมฝีปากของเธอโดยไม่ทันได้ตั้งตัว
ถึงคุณหนูจะขัดขืนด้วยการเหวี่ยงแขนสะเปะสะปะ แต่ก็ไม่วายจะโดนหอมแก้มอีกหลายที ตามด้วยกอด
"โจวจังนี่ เหมือนพี่สาวเลย"
ก่อนจะโดนคุณหนูที่ตอนนี้หน้าแดงถึงหูถีบตกเตียง
"จ-จ-จ เจ้าสัตว์เดรัจฉาน!!!!"
นั่นคือจูบแรกของคุณหนู
ซาซามิยังคงทำหน้างงเหมือนไม่เข้าใจ ระหว่างที่โดนเจ้าตัวซัดด้วยกำปั้นและลำแข้งอีกชุดใหญ่จนหมดแรง
คุณหนูถอนหายใจเฮือกหนึ่ง เพราะดูท่าซาซามิจะไม่มีสามัญสำนึกในเรื่องการสื่อสารแบบคนธรรมดาเอาจริงๆ
"เอาเถอะ เมื่อก่อนชั้นเองก็เคยเป็นแบบนั้นเหมือนกัน แต่ตอนนี้ไม่แล้วล่ะ"
"ช่างไม่รู้อะไรเหมือนเด็กเล็กๆเลยนะ ซาซามิซัง ศัตรูผู้น่ารักของชั้น.... จากนี้ไปก็ขอให้โตขึ้น แกร่งขึ้นด้วยเถอะนะ ขอร้องล่ะ"
โนโซมิที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเพราะอยู่ในห้องมาด้วยกันตั้งแต่เมื่อกี้ ถึงกับยกสองมือขึ้นปิดหน้าด้วยความเขิน
สาวน้อยวัยประถม(ตัวจริง) พยายามจะหนีออกจากห้องตัวเองเพราะนึกว่ากลายเป็น กขค. จนสองสาวต้องคอยล็อคตัวเอาไว้ให้ใจเย็นๆก่อนเพราะมันไม่มีอะไรจริง (ไม่มีอะไรจริงๆนะ)
ต่อจาก >>157
วันถัดมา ในช่วงพักที่โรงเรียนประถมอิวานากะ โรงเรียนของโนโซมิและทามะ
"มาตัดสินกัน!! เทพผู้กล้าสุซาโนโอะ! เอโดกาว่า โจว ผู้นี้ จะเป็นคนสวดศพให้แกเอง!"
คนที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องคราวนี้ดูจะตกอยู่ใต้อำนาจของการแปรสภาพหมด จึงไม่มีใครตกใจกับคำท้าของเธอเลย
มีแต่ซาซามิที่ยังคงท้วงว่าจะไหวเหรอ กับโนโซมิที่คิดว่าไม่ไหวแน่ๆ
"อะไรฟะเนี่ย ไม่เห็นรู้เรื่อง"
สุซาโนโอะบิดขี้เกียจ
"ไม่บอกให้ฟังก็คงไม่เข้าใจสินะ โนโซมิ(ของชั้น)น่ะกำลังเดือดร้อนเพราะการกระทำของแกอยู่ไงล่ะ ไอ้ตัวน่ารังเกียจโรคจิตลามกโลลิคอนสตอล์คเกอร์ มาเที่ยวขอเด็กประถมแต่งงานแบบนี้มันผิดกฏหมายนะ ไม่รู้รึไง!!"
"พ-พูดอะไรน่ะ ขนาดหม่าม้าข้ายังไม่เคยว่าข้าแรงขนาดนี้เลยนะ!"
"หา นอกจากเป็นโลลิคอนแล้วยังเป็นลูกแหง่ติดแม่อีกงั้นเรอะ น่าขยะแขยงเป็นที่สุด ไปตายไป๊"
คุณหนูผู้ยังเรียกทามาโมะว่าหม่าม้า กราดใส่สุซาโนโอะ
"ไอ้เด็กที่ยังลืมหน่มน้มคุณแม่ไม่ได้น่ะ ริจะมีความรัก มันยังเร็วไปร้อยปี! คนอย่างแกน่ะ ไม่มีทางทำให้โนโซมิมีความสุขได้หรอก!"
"แล้วอย่างแกน่ะ ทำได้รึไง!"
ไอ้หนุ่มสุซาโนโอะเริ่มจะเอาจริงแล้วเหมือนกัน
"เรื่องนั้นน่ะ ไว้ชนะก่อนแล้วค่อยมาพูดเถอะ"
แววตาคุณหนูเปล่งประกายอย่างมั่นใจ
"หัวข้อตัดสินก็คือ ดอดจ์บอลนรก!!"
ต่อจาก >>158
แววตาสุซาโนโอะเปล่งประกายเหมือนเด็ก ท่าทางสนใจเต็มที่
สิ่งที่ซาซามิได้จากการเฝ้าดูบ้านสามสาวยากามิเมื่อวานไม่ได้ไร้ประโยชน์ เพราะมันทำให้พวกเธอจับจุดฝ่ายตรงข้ามอย่างสุซาโนโอะสำเร็จ
เทพผู้กล้านั้นคลั่งไคล้เกมการแข่งขันเป็นที่สุด ขนาดที่ตั้งหน้าตั้งตาเล่นไพ่อีแก่กับเด็กประถมได้นานสองนาน
สุซาโนโอะเริ่มเร่งเร้าให้คุณหนูอธิบายกติกามาเร็วๆ
กติกายังเหมือนดอดจ์บอลปกติ ที่เติมคำว่านรกเข้ามาก็แค่ให้ดูเข้ากันเฉยๆ ผู้เล่นแบ่งเป็นสองฝ่ายคอยปาบอลโจมตีใส่ผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม ใครโดนก็นับเป็นเอาท์
ผู้เล่นที่เอาท์ไปแล้วยังสามารถรับส่งลูกกับผู้เล่นในสนามได้อยู่ จนกว่าจะจบเกมนั่นคือมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเอาท์ไปจนหมด
"ฝ่ายใครเอาท์หมดก่อน ถือว่าแพ้"
"ส่วนนายกับชั้น พวกเราเป็นหัวหน้าทีม มีหน้าที่วางแผนอย่างเดียว ไม่มีสิทธิ์ร่วมเกม"
งานนี้วัดกันที่ความสามารถในการเป็นผู้คุมทีม
แน่นอนว่ามีการห้าม"แปรสภาพ" ห้ามเรียกเทพอื่นมาช่วยแจมด้วย (กางเขตแดนกั้นไว้แล้ว)
การแปรสภาพอย่างเดียวที่อนุญาตให้ใช้ในเกมคือการแปรสภาพอย่างอ่อนที่ใช้ควบคุมจิตของเป้าหมายให้ทำตามคำสั่ง
"คิดว่าข้าจะยอมรับกติกาการตัดสินแบบนั้นเรอะ?"
"ที่ชั้นไม่เลือกวิธีอัดกันซึ่งๆหน้า เพราะว่ามันจะจบเร็วไปไงล่ะ พลังของเราน่ะมันต่างชั้นกันเยอะ ไม่รู้รึไง?"
แต่ของจริงคือขนาดคุณหนูที่ใช้พลังเทพจากวิษณุแล้ว ยังโดนอัดกระเด็นด้วยมือเดียวของสุซาโนโอะ
"หรือว่ากลัว?"
คุณหนูทำหน้ายิ้มเยาะ ตามด้วยหยามสุซาโนโอะต่ออีกชุด
"...ได้ ข้ารับคำท้า ตัดสินกันด้วยดอดจ์บอลนรก ถ้าพวกแกชนะ จะให้ข้าไสหัวไปจากโรงเรียนนี้แบบไร้ข้อโต้แย้งงั้นสินะ"
ถ้าได้ตามนั้น ต้นตอปัญหาของโนโซมิจังก็จะหายไปจนหมดสิ้น
"แต่ถ้าข้าชนะล่ะ พวกแกจะทำยังไง?"
"อยากได้อะไรล่ะ?"
คุณหนูมั่นใจสุดๆ ว่ายังไงฝ่ายตัวเองก็ชนะ
สุซาโนโอะตอบกลับด้วยท่าทีจริงจัง
"ตัวแกไงล่ะ"
สุซาโนะโอะนี่เป็นโลลิค่อนสินะ
http://imgur.com/pIiuSiA แปะหน้ามันอีกที เผื่อคนลืม
ต่อจาก >>159
คุณหนูหน้าแดงก่ำแถมยังเผลอใจเต้นไปนิดนึง ก่อนที่จะโวยวายเป็นการใหญ่
ย้ำอีกครั้งว่าตอนนี้เธอและซาซามิอยู่ในร่างเด็กประถมตามเงื่อนไขทำสัญญาของวิษณุ (ที่บอกว่า พูดถึงสาวน้อยเวทมนตร์ก็ต้องเป็นเด็กประถมสิ แถมคำว่าเด็กป.5โลลิ(小五ロリ) เขียนอีกแบบก็จะแปลว่าตรัสรุ้ (悟り)ได้ด้วยนะ! - เลยกลายเป็นสาวน้อยพิทักษ์ธรรม)
ตอนแรกก็สงสัยอยู่หรอกว่าทำไมเจ้านี่ถึงมาขอโนโซมิแต่งงาน แต่ตอนนี้หายสงสัยแล้ว
"อย่าเว่อร์ไปเลยน่า นั่นน่ะ ไม่ใช่ร่างจริงของแกใช่ไหมล่ะ?"
สุซาโนโอะผายมือออกกว้างแล้วตบใส่ฝ่ายตรงข้าม
ร่างของคุณหนูเริ่มเปลี่ยนแปลงด้วยผลจากการแปรสภาพ พูดให้ถูกก็คือ คลายการแปรสภาพจากที่วิษณุทำเอาไว้
กลายมาเป็นร่างของสาวม.ปลาย ตามเดิม
ในชุดเชียร์ลีดเดอร์มินิสเกิร์ตสีส้มพร้อมพู่สีสันสดใส
"ถึงจะกลับเป็นเหมือนเดิมแล้วก็เถอะ แต่ชุดนี่มันอะไรเนี่ย!?"
"ไหนๆก็พวกเราไม่ได้ลงแข่งเองอยู่แล้ว มันก็มีต้องสาวเชียร์ด้วยเซ่ มันถึงจะแจ่ม ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เชียร์ให้มันสุดๆหน่อยล่ะ"
สุซาโนโอะนวดหน้าอกคุณหนูที่จู่ๆก็โดนบังคับให้ใส่ชุดน่าอายด้วยท่าทีสนุกสนาน
"อายุแค่นี้ยังบรึ๊บขนาดนี้ โตแล้วต้องสุดยอดแน่ๆ เกินกว่าที่คิดเยอะเลยนะเนี่ย"
แพ้แล้วก็ต้องมาเป็นเมียข้าซะ
"ก... ชั้นจะฆ่าแก!!!!"
คุณหนูที่หลุดจากโดนขยำมาได้ สวนกลับด้วยหมัดเหล็กประจำตัว แต่สุซาโนโอะก็หลบได้อย่างสบายๆ
"ฮะฮ่า ห้าวไม่เบาเลยนี่ แบบนี้ข้าก็ชอบเหมือนกัน!"
ระหว่างนั้นคุณหนูก็ยังเหวี่ยงใส่เทพผู้กล้าจอมลวนลามอีกหลายหมัด แต่ก็ไม่โดนอยู่ดี
"รู้สึกว่าโจวจะหลุดจากสภาพเด็กป.5โลลิซะแล้ว เราก็เลยแวบมาดูสักหน่อย"
เจ้าของเสียงคือวิษณุในร่างมาสคอตสาวน้อยเวทมนตร์ที่จู่ๆโผล่มาข้างๆซาซามิ ท่าทางตกอกตกใจไม่ใช่น้อย
ประมาณว่าพวกเธอนี่ช่างหาเรื่องจริงๆนะ
ซาซามิได้ทีเลยฟ้องท่านวิษณุทันที ว่าบลาๆๆ ท่านวิษณุเจ้าขา สรุปว่าเจ้าสุซาโนโอะมันเล่นไม่ซื่อเจ้าค่ะ
วิษณุเองถึงเป็นผู้รู้รอบก็ยังไม่อาจหยั่งรู้ได้ว่าบลาๆๆนั้นคืออะไรบ้าง แต่ก็ยังลอยตัวอยู่ในอากาศด้วยท่าทีสนใจใคร่รู้
"พวกเจ้าน่ะ เผลอล้ำเส้น ทำเรื่องอันตรายกว่าที่ตัวเองคาดลงไปแล้วล่ะสินะ"
พวกเธอจะหันหลังกลับไปไม่ได้อีกแล้ว จนกว่าเป้าหมายนั้นจะเป็นจริง
ต่อจาก >>162
"ต- แต่เอาเถอะ อย่างน้อยก็เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ล่ะนะ"
คุณหนูกลับมากอดอกอีกครั้ง แต่หางตายังแดงๆอยู่
"ที่เหลือ-- ก็อย่างที่รู้กัน"
เด็กๆในชั้นเรียนของโนโซมิแบ่งออกเป็นสองฝ่ายตามความสมัครใจ มีเวลาวางแผนให้15นาทีก่อนเกมจะเริ่ม
ซาซามิและโนโซมิ อยู่ในทีมของโจวตามแผน
ตามตำนาน สุซาโนโอะเองก็ไม่ใช่เทพที่มีความสามารถด้านการคุมทัพอยู่แล้ว นี่ก็เป็นจุดอ่อนอีกอย่างของเทพผู้กล้าที่ชอบลุยเดี่ยว
ซาซามิรู้สึกกังวลใจนิดหน่อย ว่ามันจะเป็นไปตามแผนเกินไปรึเปล่า
"เป็นอะไรไป ยังไม่หายจากเมื่อวานอีกรึไง"
แต่ก็ได้เสียงคุณหนูดึงความคิดกลับมา คุณหนูย้ำกับทั้งคู่ว่าไม่ต้องห่วง พวกเราชนะแน่ อย่าได้คิดยอมแพ้เชียวล่ะ เพราะชั้นไม่มีทางยอมตกเป็นของเจ้านั่นแน่
"ฉันจะปกป้อง(ความสาวของ)โจวจังเอง!"
"ฉันจะไม่ยอมให้เจ้านั่นได้แตะต้อง(ร่างกายสุดเซ็กซี่ของ)โจวจังแม้แต่ปลายก้อย เชื่อมั่นสิ เพราะโจวจังน่ะเป็นเพื่อนคนสำคัญ(ที่ฉันอยากแต่งงานด้วย)นี่นา"
"........"
คุณหนูหน้าแดงนิดๆ
"อ-อะไรเล่า ทำมาพูดเท่แบบนั้น... ยังกะคนบ้าเลยไม่ใช่รึไง"
"จะกางเขตแดนล่ะนะ"
วิษณุที่ไหนๆก็โผล่มาแล้ว ก็รับจ็อบเป็นผู้คุมกฏด้วยซะเลย
"ขอบคุณมากค่ะ ท่านวิษณุ"
วิษณุยักไหล่ตอบ แต่ยังสงสัยอยู่ว่าพวกซาซามิจะเอาอะไรมาชนะเทพที่แข็งแกร่งขนาดนั้น
ซาซามิที่มั่นใจในแผนการก็ตอบว่าไม่เป็นไร ถ้ามาถึงขั้นนี้แล้ว ยังไงก็ไม่แพ้
แถมยังมีคุณหนูในชุดสาวเชียร์ กกน.แล่บคอยเชียร์อีก อีกฝ่ายจะเก่งเทพมาจากไหนก็ไม่มีทางแพ้
"เดี๋ยวเถอะ! ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย! (ไม่ได้ตั้งใจโชว์) นี่ชั้นแค่เชียร์ธรรมดาๆเท่านั้นแหละย่ะ เอ้า รีบๆไปลุยกันได้แล้ว!"
"รักกันดีจังเลยนะคะ คู่นี้"
โนโซมิแซว
สุซาโนโอะมองวิษณุด้วยท่าทีสงสัย
การที่วิษณุมาปรากฏตัวถึงญี่ปุ่นได้นั้น เป็นผลข้างเคียงอย่างหนึ่งที่ตกค้างอยู่จากการแปรสภาพครั้งใหญ่ของพวกเทพกรีกในช่วงเหตุการณ์สงครามกรุงทรอย ที่ทำให้เขตแดนของเทพนานาประเทศทับซ้อนกันเต็มไปหมด
แต่สุซาโนโอะไม่ได้สงสัยเรื่องนั้น
"นี่แกกับข้า เคยเจอกันมาก่อนรึเปล่าเนี่ย?"
"รุรุ้นนน สมเป็นเพลย์บอยแห่งตำนานเทพญี่ปุ่น แค่เห็นข้าในร่างมาสคอตเป็นผู้หญิงแบบนี้ก็ชิงรุกทันทีเลยทีเดียวหรือนี่"
แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก นอกจากบอกว่าให้รีบๆเริ่มเกมได้แล้ว
"ไปกันเถอะ โนโซมิจัง"
เสียงเชียร์จากด้านหลังเริ่มหนาหู
"อย่ายอมแพ้นะ หัวหน้าสมาคมแม่บ้านเด็กประถม!"
"จัดการสั่งสอนเจ้าคนไร้มารยาทซะ!"
โนโซมิถึงกับหันกลับไปค้อน ขณะที่ซาซามิเลิกคิ้ว เพราะสังเกตว่าความกังวลใจของโนโซมิที่น้ำตาคลอในตอนนั้นได้หายไปแล้ว
ตามด้วยเสียงเชียร์จากแม่ทัพของทั้งสองฝ่าย
"เอ้าๆ ใส่กันให้เต็มที่เลย พวกลิ่วล้อทั้งหลาย เพื่อความหื่นกระหายของข้าผู้นี้!!"
"ทุกคน! ถ้าแพ้ล่ะก็ พวกเธอโดนประหารแน่!"
และเสียงกรรมการวิษณุเป่านกหวีดเริ่มเกม ให้ทั้งสองฝ่ายตัดสินว่าใครจะได้ครองบอลก่อนด้วยการเป่ายิ้งฉุบ
และเสียงที่คุ้นเคยจากฝั่งสุซาโนโอะ
"ว้าย ๆ"
"ฝากด้วยนะ! ทามะจัง!"
http://imgur.com/dLmvApK
รองบอส ปรากฏกาย
ลางแพ้มาแล้ว
คำถามในใจของซาซามิตอนนี้คือ ทำไม?
ทำไมในกลุ่มพวกเธอถึงไม่มีใครรู้สึกถึงตัวตนของทามะเลยจนกระทั่งเริ่มเกม
หากมันเป็นการแปรสภาพความทรงจำ ผู้ที่จะทำแบบนั้นกับพวกซาซามิที่ตอนนี้อยู่ในฐานะเทพได้ ก็มีแต่เทพที่มีอำนาจเทียบเทียมเทพสูงสุด
สุซาโนโอะอยากชนะมากถึงขนาดต้องทำแบบนั้น?
ไม่ว่าจะเป็นฝีมือใครก็แย่ทั้งนั้น เพราะแผนการของพวกเธอไม่ได้รวมเรื่องที่ทามะจะกลายเป็นฝั่งตรงข้ามไว้ด้วย
ฝ่ายสุซาโนโอะได้เริ่มก่อนเพราะชนะเป่ายิ้งฉุบ
สมาชิกทีมฝั่งคุณหนูเริ่มเสียขวัญ
"อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด! ไม่ต้องไปใส่ใจ ก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไปได้แล้ว เป็นแค่ทาสแท้ๆ!"
สกิลสาวเชียร์ของคุณหนูเริ่มทำงาน สมาชิกหลักทั้งสามส่งสัญญาณคุยกันด้วยสายตา
ในตอนนี้โนโซมิ ซาซามิ และคุณหนู ต่างก็คิดเรื่องเดียวกัน
"ทำไม... ทามะจังถึงไปอยู่ฝั่งตรงข้ามได้ล่ะ?"
---ยิ่งคิดว่าเธออยู่ในฐานะเพื่อนสนิทหมายเลขหนึ่งของโนโซมิแล้ว ยิ่งไม่เข้าใจ---
"จะไปล่ะน้า~~"
ทามะโยนบอลขึ้นสูงในอากาศ
เป็นท่าเปิดการโจมตีที่แสนจะธรรมดาแต่ชวนให้หวาดระแวงเป็นที่สุด
จะมาทางไหน? จะหลบยังไง?
"ย่าห์--!!"
เสียงของทามะดังขึ้นพร้อมกับบอลที่พุ่งเข้ามา
เอ๋? ความรู้สึกทะแม่งๆแบบนี้...
บอลออกหลัง? เรอะ...
ลูกตบจากทามะ ...เป็นลูกธรรมดาๆซะอย่างนั้น
ถึงจะยังงงๆอยู่ แต่คราวนี้ก็ถึงตาของซาซามิซะที
ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลง
"นิพพาน!"
"เตรียมการเสร็จสิ้น! ผู้พิทักษ์เบื้องขวา! อา แห่งอาอุน ที่เป็นดั่งโคมะอินุ! เทพอัสนี----สาวน้อยพิทักษ์ธรรม กาลีพิงค์!!"
(note1: ของคุณหนูจะเป็น "ผู้พิทักษ์เบื้องซ้าย! อุน แห่งอาอุน ที่เป็นดั่งสิงห์! เทพวายุ----สาวน้อยพิทักษ์ธรรม ทุรคาแบล็ค!!"
note2: 阿吽 หรือ ॐ มีรากมาจากภาษาสันสกฤษที่ประกอบด้วยตัวอักษรตัวแรกและตัวสุดท้าย มีความหมายในเชิงจุดเริ่มต้นและจุดจบของทุกสิ่ง และใช้แสดงความสัมพันธ์ของสิ่งที่เป็นคู่กันอย่างขาดกันไม่ได้
note3: ตอนแรกที่บอกว่าคุณหนูได้เซ็ทอวตารของอุมาเทวีนั้น เกิดจากความเข้าใจผิดไปเองของคนสปอยล์ เพราะคนที่มีบทได้ใช้อวตารของวิษณุมีแต่ซาซามิคนเดียว แถมยังมึนเรื่องอวตารของชายาพระศิวะอีก
เอาเป็นว่าอ่านใหม่เข้าใจใหม่แล้วกัน ว่าทั้งกาลีและทุรคาที่เป็นชื่อร่างหลักของสาวน้อยพิทักษ์ธรรมต่างก็เป็นชื่ออวตารของอุมาเทวีทั้งคู่ )
สุซาโนโอะถึงกับผงะ เมื่อรู้ว่านี่คือสิ่งที่สองสาววางแผนไว้แต่แรก (และมันก็ไม่ผิดกติกาด้วย)
เมื่อทามะไม่ใช่ปัญหา ฝั่งซาซามิที่แปลงร่างด้วยพลังเทพของวิษณุก็ไร้ศัตรูแล้ว
"ปลดปล่อยอวตาร ! อวตารลำดับที่เจ็ด นรสิงห์!"
สาวน้อยพิทักษ์ธรรมสามารถใช้พลังความสามารถจากอวตารทั้งสิบของวิษณุได้
ชุดประจำตัวของกาลีพิงค์ในร่างนรสิงห์อวตารมีผ้าคลุม เกราะแขนและเกราะไหล่เพิ่มขึ้นมา บ่งบอกชัดว่านี่เป็นอวตารที่มีจุดเด่นด้านพลังการต่อสู้
ซาซามิส่งเสียงประกาศศักดา พร้อมเขวี้ยงบอลสายฟ้าอัดใส่เด็กๆฝ่ายตรงข้าม(แบบไม่เจ็บตัว)จนเอาท์ไปคนแล้วคนเล่า
"อย่างนี้นี่เอง~"
สุซาโนโอะลากเสียงยาว แถมยิ้มอย่างมีเลศนัย
"น่าสนใจดีนี่ กล้าหลอกเทพผู้กล้าสุซาโนโอะผู้ชิตยามาตะโนะโอโรจิแบบนี้ ชักจะมีน้ำโหขึ้นมาหน่อยแล้ว"
โอกาสที่พวกซาซามิจะได้กินแต้มฟรีๆ มีแค่ตอนนี้เท่านั้น
"ไม่ใช่แต่พวกแกหรอกนะ ที่ใช้วิธีขี้ขลาดแบบนี้ได้ "
"จงตื่นขึ้น! โยมทสึอิคุสะ(กองทัพปรภพ)! จงถ่มน้ำลายใส่เหล่าคนเป็น แล้วย่ำยีเจ้าพวกหญิงศักดิ์สิทธิ์ซะ!"
เค้าร่างของเด็กๆฝั่งสุซาโนโอะที่ยังเหลืออยู่จากการโจมตีฝ่ายเดียวของซาซามิ เริ่มขยายใหญ่ขึ้นอย่างบิดเบี้ยว
ทุรคาไม่มีภาพ แต่มี
http://imgur.com/IYDSd20
สาวน้อยพิทักษ์ธรรม กาลีพิงค์
http://imgur.com/YyxwIYN
ท่านวิษณุ
"นี่มันโกงกันนี่! เจ้าเทพขี้ขลาด! บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าห้ามใช้การแปรสภาพจากภายนอก! เล่นเปลี่ยนเด็กๆที่ไม่มีความผิดอะไรเป็นโยมทสึอิคุสะแบบนี้ได้ยังไงกัน!"
คุณหนูตะโกนกราดใส่สุซาโนโอะที่อยู่อีกฝั่ง จากความมั่นใจเมื่อครู่นี้ กลายเป็นความโกรธเกรี้ยวไปแล้ว
ร่างของเหล่าเด็กๆเบื้องหน้าซาซามิ เริ่มกลายสภาพอย่างบิดเบี้ยวผิดแผกไปราวกับก้อนโคลนที่ถูกยึดกันเป็นรูปร่างมนุษย์
ลูกตาอันใหญ่ยักษ์ ทั้งตัวปกคลุมด้วยเกราะอย่างนักรบ ถืออาวุธทั้งประเภทหอกและดาบที่สนิมเกรอะกรังไว้ในมือ (เอาไว้ใช้รับส่งบอล)
"ไม่นี่ ไม่ได้แปรสภาพอะไรสักหน่อย"
สุซาโนโอะกอดอก ทำเสียงไม่พอใจ
"ข้าก็แค่ส่งเสียงเรียกเฉยๆ ไม่เห็นผิดกติกาตรงไหน"
จากความเห็นของคนกลางอย่างวิษณุ สุซาโนโอะไม่ได้ใช้พลังวิญญาณกระทำเข้ามาภายในเขตสนามเลย
นั่นแปลว่าการแปลงร่างของโยมทสึอิคุสะ อยู่ภายใต้กฏเกณฑ์เดียวกันกับการแปลงร่างของซาซามิ
ไม่ใช่การแปรสภาพ ไม่ผิดกติกา และไม่ได้โกง
คุณหนูกัดฟันเถียง ถึงเกมนี้มันจะไม่แฟร์มาตั้งแต่ต้น แต่สุซาโนโอะก็ไม่น่าจะทำกันถึงขนาดนี้
แต่นี่เป็นกติกาที่ทั้งสองฝ่ายต่างก็เห็นพ้องต้องกัน
"แล้วก็อีกอย่างนะ แผนที่ข้าวางไว้น่ะ ที่จริงมีแค่จะให้ทามะโบคอยปาบอลล่องหนเท่านั้นแหละ เห็นดูท่าทางเอาจริงเอาจัง แต่ไม่รู้คิดอะไรอยู่ ข้าเลยต้องใช้วิธีที่ใช้ได้แทนไปก่อนไง"
"เดี๋ยวนะ... นี่มันหมายความว่าไง"
คุณหนูท่าทางเหมือนจะนึกอะไรได้ ก่อนจะหน้าถอดสีในทันควัน
"หรือว่า"
"ไม่ได้การแล้ว! ซาซามิซัง! ห้ามดึงเกมนานเป็นอันขาดเลยนะ!"
บางทีพวกเธอ อาจจะกำลังมองข้ามอะไรบางอย่างที่ไม่ควรจะมองข้ามไป
การตีโต้ระหว่างโยมทสึอิคุสะและสาวน้อยพิทักษ์ธรรมยังดำเนินต่อไปไม่หยุด
สมาชิกทีมรอบๆตัวซาซามิผู้เป็นกำลังหลักเพียงหนึ่งเดียวในศึก ค่อยๆทยอยเอาท์ไปทีละคนสองคน ด้วยพลังของโยมทสึอิคุสะ
พลังกายของเธอเริ่มมาถึงขีดจำกัด การรับลูกแล้วขว้างกลับไปเริ่มสร้างความเจ็บปวดไปทั้งร่าง
สำหรับตัวเธอที่ถึงแม้จะอยู่ในฐานะอวตารของวิษณุ การรับมือเหล่ากองทัพปรภพด้วยตัวคนเดียวนั้น ก็ยังใช้แรงเกินกว่าระดับพลังปกติไปไม่น้อย
เจ้าพวกนี้ ถึงหน้าตาจะดูน่ากลัว แต่ที่จริงก็ไม่ใช่ศัตรูที่จัดการได้ยากมากมายนัก
อีกนิด เหลืออีกไม่เท่าไหร่แล้ว
ต้องสวนกลับได้แน่
พวกซากทัพแห่งปรภพที่ทำให้ทวยเทพต้องเสียเกียรติ
ต่อจาก >>169
ชั่วระยะเวลาที่คิดแบบนั้นอยู่ บอลจากโยมทสึอิคุสะก็ซัดซาซามิเข้าไปอีกลูก
เธอใช้ทั้งร่างเข้ารับไว้ได้แบบสาหัสสากรรจ์ แม้ตัวจะแทบปลิว แต่ก็ยังเอามือยันพื้นไว้ทันก่อนจะหลุดออกนอกเส้นขอบสนามพอดี
แต่ตอนนี้ ร่างกายของเธอกลับหนักอึ้ง ไม่มีแม้แรงจะขยับตัว
"เป็นอะไรรึเปล่าคะ!?"
โนโซมิจังที่ยังเหลือรอดอยู่ในสนามด้วยผลจากการเอาตัวแลกของซาซามิ มองเธอด้วยแววตาสับสน
"อื้ม ไม่ต้องห่วง ดูสิ"
ซาซามิพยายามลุกขึ้นยืนอีกครั้ง แล้วยกบอลในมืออีกข้างให้ดู
ทีนี้ก็ได้เวลาเอาคืนบ้างล่ะ โนโซมิที่จับข้อมือเธอเอาไว้ต้องบอกแบบนี้แน่
"ทำไมล่ะคะ?"
โนโซมิเริ่มพร่ำพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมาทั้งน้ำตา
"ทำไม--- ทั้งที่เป็นแบบนี้แล้ว ถึงยังจะพยายามต่ออีกล่ะ?"
...พยายาม งั้นเหรอ
"เรื่องของหนูน่ะ... ช่างมันเถอะค่ะ ...มันไม่มีปัญหาอะไรหรอก มีแค่หนูคนเดียวเท่านั้นล่ะที่แปลกไป ก็ทุกคนน่ะไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรเลยด้วยซ้ำ"
น้ำตาของโนโซมิเริ่มไหลอาบแก้ม
"มันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วล่ะค่ะ มีแต่หนูเท่านั้นเองที่ยังไม่ชินสักที "
"พวกพี่ซาซามิน่ะ ไม่ต้องเจ็บปวดเพื่อหนูแบบนี้หรอก ทั้งความรู้สึกแปลกๆ ทั้งความไม่สบายใจชั่วครู่ชั่วคราวพวกนี้น่ะ เพียงแค่หนูอดทน แค่นั้นมันก็พอแล้วไม่ใช่เหรอคะ?"
"นั่นคือ คำตอบของโนโซมิจังเหรอ?"
เจ้าของคำพูดไม่ใช่ซาซามิ แต่กลับเป็นน้องคนเล็กแห่งบ้านยากามิ ยากามิ ทามะ ที่ยืนเด่นอยู่ท่ามกลางเหล่าโยมทสึอิคุสะ
ราวกับราชินีผู้ออกคำบัญชา
ทามะส่งยิ้มหวานให้ ระหว่างที่จ้องมองโนโซมิ
"คุชินาดะฮิเมะจะแบกรับอะไรต่อมิอะไรไว้คนเดียว แล้วยอมกลายเป็นเครื่องบูชายันต์อย่างเต็มใจ โดยไม่สนใจว่าใครที่ยังอยู่ข้างหลังจะต้องพบกับความโศกเศร้าสักเพียงไหน อีกแล้วสินะ?"
ต่อจาก >>170
"เธอน่ะ ทิ้งความทรงจำที่เจ็บปวดทรมานจากชาติภพก่อนให้มันไหลไปกับแม่น้ำซันสึแล้ว ก็เลยไม่ได้รู้สึกอะไร"
"แต่เด็กคนนั้นล่ะ เธอยังคิดจะทำร้ายเด็กคนนั้นที่ต้องทนเจ็บปวดจากการต้องแบกรับความโศกเศร้านั้นมาตลอดจนถึงตอนนี้ ----ไปจนชั่วนิรันดร์อีกงั้นรึ?"
"หนีไปซะ!--- ซาซามิซัง!! โนโซมิ!! เจ้านั่น...ไม่ใช่ยากามิทามะ-----!!"
คุณหนูที่รู้สึกถึงอะไรที่ไม่ชอบมาพากลได้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ ตะโกนเข้ามาในเขตแดน
ทามะโปรยยิ้มหวานอีกครั้ง
"ยากามิ ทามะสิคะ"
"ถ้าหมายถึงร่างนี้น่ะนะ"
เมื่อครั้งสงครามกรุงทรอยนั้น ร่างของทามะที่กลายเป็นส่วนประกอบของม้าโทรจันได้ถูกดัดแปลงให้มีความสามารถในการดูดกลืนเทพที่อยู่ในรัศมีโดยรอบ
ใครก็ตามที่อยู่ในร่างของทามะตอนนี้ บอกว่าตั้งแต่ถูกกลืนเข้ามา เธอก็อยู่เฉยๆมาตลอด จนกระทั่งตอนนี้
"จะโผล่หน้าออกไปให้เห็นเดี๋ยวนี้ล่ะ"
สิ้นเสียงนั้น ทามะก็ทรุดลงไปกับพื้น ร่างทั้งร่างถูกกลืนด้วยความมืดมิดราวกับสุริยคราส
ซาซามิยังจำได้ดี
มันเป็นความรู้สึกเดียวกับเมื่อครั้งที่แม่ของซาซามิที่ฟื้นขึ้นมาจากความตายได้เปิดประตูสู่ปรภพ
แต่ระดับของคราวนี้มันต่างจากครั้งนั้นมาก
ประตูสู่โลกแห่งคนตายที่เปิดขึ้นจากร่างกายของทามะขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ มีดวงตาที่กะพริบอยู่ในความมืดมิดจำนวนนับไม่ถ้วนอยู่ภายใน เห็นเป็นสีดำแดงฉูดฉาดราวกับเลือดที่กำลังไหลริน
บางสิ่งค่อยๆคืบคลานออกมาจากส่วนลึกสุดของประตู
จากส่วนลึกที่สุดของนรกสีเลือด
รูปลักษณ์ภายนอกของเธอดูไม่ต่างจากเด็กประถม
ใบหน้าปุปะเป็นรอยเย็บเหมือนอย่างแฟรนเก้นสไตน์ ร่างกายที่เหมือนกับประกอบขึ้นจากร่างของคนจำนวนมากมายมาเย็บต่อกัน
ในชุดแต่งงานที่ชุ่มโชกไปด้วยเลือด พร้อมช่อดอกไม้ของเจ้าสาวที่เหี่ยวแห้งโรยรา มีมีดปักเรียงรายอยู่บนศีรษะราวกับมงกฏของราชา
รายล้อมด้วยบรรยากาศชั่วร้ายอันดำมืด
"หม่าม้า!"
แม่บังเกิดเกล้าของเทพผู้กล้าสุซาโนโอะ ----นามนั้นก็คือ เทพผู้สร้าง อิซานามิโนะมิโคโตะ
มึงแข่งกันยาวกับกระทู้ Date A Live ใช่มั้ยเนี่ย
ต่อจาก >>171
สาวน้อยยังคงสงวนท่าที ขณะเดียวกันก็เดินไปหยุดตรงเส้นขาวริมขอบสนาม แล้วกวักมือเรียกสุซาโนโอะ
ก่อนจะกระซิบเบาๆ
"คือว่า... หม่าม้าเขินน่ะ ช่วยเป็นล่ามให้หน่อย---"
สุซาโนโอะทำหน้าผิดหวัง ก่อนจะช่วยพากย์ให้
" [ชื่อของเราคืออิซานามิโนะมิโคโตะ หรือก็คือ "เทพผู้สร้าง อิซานามิ"ผู้รังสรรค์ทุกสิ่งในอาเมะโนะนุโบโกะ และนำพาทุกสิ่งกลับคืนสู่เรือแห่งสวรรค์ยังไงล่ะ
ขอขอบคุณที่ช่วยดูแลลูกของเราเป็นอย่างดีเสมอมาด้วยนะ] --เค้าว่างั้นแน่ะ"
หญิงสาวตัวน้อยพยักหน้าหงึกๆ
ซาซามิเองก็รู้จักชื่อนี้ดี
เทพผู้สร้างผู้ให้กำเนิดอามาเทราสึ เทพสูงสุดองค์ปัจจุบัน
เทพผู้สร้างที่กลายสภาพไปเป็นเทพชั่วร้ายจากความโศกเศร้าของการที่ต้องพรากจากสามีอันเป็นที่รักที่ลงมาตามหาถึงในปรภพ
กลายไปเป็นเทพแห่งความตายที่ชั่วร้ายที่สุดในตำนานเทพญี่ปุ่น เจ้าของคำสาปที่พรากชีวิตมนุษย์วันละพันคน
"เอ... [เด็กๆทะเลาะกันจะให้ผู้ใหญ่มาออกหน้ามันก็ยังไงอยู่ แต่ยังไงๆก็ห่วงสุซาโนโอะจังอยู่ดีก็เลยคอยดูอยู่ใกล้ๆ อีกอย่างนึงก็ไม่รู้ว่าเทพยุคใหม่จะเข้ามายุ่งได้ขนาดไหนก็เลย...] โธ่ หม่าม้า เอาแบบสรุปสั้นๆหน่อยได้มั้ยเนี่ย"
"............."
อิซานามิทำหน้าหงอย ก้มหน้าก้มตาไขว้นิ้วตัวเองไปมา
" [ก็สุซาโนโอะจังน่ะ อยู่กับหม่าม้ามาตลอด ก็ต้องมีนึกถึงความสุขของตัวเองบ้างอยู่แล้วใช่มั้ยล่ะ นั่นน่ะหม่าม้าก็เข้าใจอยู่หรอก แต่มันเหงานี่นา เล่นปล่อยให้หม่าม้ารออยู่ที่ปรภพอย่างนี้ มันเหมือนว่าทิ้งกันเลยนี่]"
อิซานามิยกสองมือทั้งสองข้างขึ้นป้ายน้ำตา ร้องไห้กระซิกๆ
"[อย่าปล่อยหม่าม้าไว้คนเดียวแบบนี้สิ สุซาโนโอะจังบ้า บ้าที่สุด....หม่าม้าเหงานะรู้มั้ยย---!] เค้าพูดว่างี้"
(อันนี้ไม่ต้องพากย์ก็ได้นะ-ซาซามิ)
"[แต่ตอนนี้ชั้นรู้เหตุผลแล้วล่ะว่าทำไมสุซาโนโอะจังถึงทิ้งชั้นไว้ ฮึ น่าหงุดหงิดนัก เพราะยัยคุชินาดะฮิเมะสินะ ยัยผู้หญิงที่แย่งสุซาโนโอะไปจากชั้นนั่นมันกลับมาเกิดใหม่อีกครั้งแล้วสินะ...]"
ดูเหมือนว่าโนโซมิจังจะเป็นคุชินาดะฮิเมะที่กลับมาเกิดใหม่
คุชินาดะฮิเมะ เหยื่อบูชายันต์ของยามาตะโนะโอโรจิ ที่สุซาโนโอะได้ช่วยชีวิตเอาไว้และกลายมาเป็นภรรยาของเขาในภายหลังนั้น
บัดนี้ วิญญาณของเธอในฐานะมนุษย์ที่ผ่านการเวียนว่ายตายเกิดมา ได้กลายไปเป็นส่วนหนึ่งของโนโซมิจังแล้ว
และสุซาโนโอะที่เฝ้าตามหาคนรักที่กลับมาเกิดใหม่ ก็เข้ามายังโรงเรียนนี้เพื่อการนั้น
"[เพื่อความสุขของสุซาโนโอะจังแล้ว ถึงจะต้องเจ็บปวดใจ แต่ชั้นก็ยังคอยเฝ้าดูอยู่ไม่ห่าง แต่ตอนนี้มันไม่มีประโยชน์แล้วล่ะ ชั้นจะไม่ทนอีกแล้ว เจ้าคนอ่อนแอที่คิดแค่จะจบเรื่องด้วยการเสียสละตัวเอง มันไม่คู่ควรกับสุซาโนโอะจังหรอก]"
ทั่วทั้งร่างของอิซานามิในตอนนี้ เต็มไปด้วยกลิ่นอายมุ่งร้ายที่รุนแรงยิ่งกว่าพวกโยมทสึอิคุสะอย่างเทียบกันไม่ได้
ต่อหน้าความรักอันเกินพอดีที่มีต่อลูกชาย จะปล่อยให้คำพูดของโนโซมิจังต้องสูญเปล่าก็กระไรอยู่
แต่ฝ่ายตรงข้ามไม่ใช่แค่เทพสูงสุด แต่เป็นถึงเทพผู้สร้าง ลำพังเทพมือใหม่อย่างซาซามิและผู้มีพลังวิญญาณยังไม่ทันถึงขั้นอย่างโนโซมิ คงไม่มีทางชนะแน่
"[คนที่รักสุซาโนโอะจังน่ะ มีแต่ชั้นคนนี้เท่านั้น ใครหน้าไหนที่มันไม่จำเป็นหรือทำให้สุซาโนโอะจังต้องเจ็บปวด ต้องถูกกำจัด จากนั้นก็ค่อยส่งมันลงไปพักผ่อนตลอดกาลในนรกซะ]"
ขณะเดียวกัน คุณหนูที่อยู่นอกเขตแดนก็สังเกตได้ถึงความผิดปกติอีกอย่าง จากการปรากฎตัวของโยมทสึอิคุสะและอิซานามิ
เขตแดนที่ได้รับผลกระทบจากการแปรสภาพครั้งใหญ่ในสงครามกรุงทรอย ไม่ได้มีแต่เขตแดนของเทพนานาประเทศ แต่รวมไปถึงเขตแดนที่แบ่งแยกโลกคนเป็นและคนตายด้วย
ความไม่สบายใจของโนโซมิจัง ไม่ได้มีต้นเหตุมาจากสุซาโนโอะเพียงอย่างเดียวซะแล้ว
http://imgur.com/29qmqte
อิซานามิ โมเอ้~
เทพเรื่องนี้แม่งจะมีปกติสักคนไหมนี้
แม้กระทั่งเทพผู้สร้างยัง.....
รุ่นแม่เรื่องนี้แต่ละคนนี่กินกันไม่ลงเลย
ต่อจาก >>174
"[ในสมัยบรรพกาลน่ะ เทพและมนุษย์นั้นก็ไม่ได้มีขอบเขตแบ่งแยกชัดเจนหรอกนะ ความเป็นความตายเองก็เช่นเดียวกัน ชั้นกับดาร์ลิงค์นี่แหละที่เป็นคนสร้างความปั่นป่วนและปัญหาในอาเมะโนะนุโบโกะจนโลกนี้กลายเป็นรูปร่างขึ้นมา]"
อิซานามิสวนตอบคุณหนูที่โวยเรื่องการขยายอาณาเขตของปรภพมาตั้งแต่เมื่อกี้ เสมือนว่าเรื่องคอขาดบาดตายอย่างการหลอมรวมกันของโลกคนเป็นและคนตาย เป็นเรื่องธรรมดาๆ (ผ่านการพากย์ของสุซาโนโอะ)
"รุรู้น ~♪ คงเป็นอย่างที่ตำนานของเราเล่าว่า หากกัลกีเข้าไปอยู่ในตำแหน่งของศิวะแล้ว จะทำให้เกิดเรื่องร้ายแรงสุดๆตามมาเลยสินั่น? เอ้า โจวเอ๊ย ซาซามิเอ๊ย จะเอายังไงดีล่ะ? พลาดคราวนี้ดีไม่ดีจะได้พากันลงนรกกันหมดเลยนา "
(note1 : กัลกี อวตารสุดท้ายของวิษณุ ที่ว่ากันว่าเป็นอวตารแห่งอนาคต(กลียุค)ที่จะปรากฏขึ้นเพื่อทำลายทุกสิ่งแล้วสร้างขึ้นใหม่ เป็นอวตารแห่งการทำลายล้าง-เช่นเดียวกับศิวะ อีกชื่อที่คุ้นกันทางพุทธก็คือ พระศรีอาริยเมตไตร)
"[ตายจริง มีแขกไม่คุ้นหน้าอยู่ด้วยหรือนี่]"
อิซานามิท่าทางประหลาดใจเล็กน้อย
"[แต่หลบไปซะเถอะค่ะ--- นี่น่ะมันเรื่องของราตรีอันมืดมิด พระอาทิตย์ไม่เกี่ยว]"
"[ฮึฮึ นี่มันง่ายดายกว่าที่คิดไว้ซะอีกนะเนี่ย ถ้าหากปรภพยังขยายตัวออกไปเรื่อยๆแบบนี้ ก็จะไม่มีขอบเขตที่แบ่งแยกระหว่างความเป็นความตายอีกต่อไป]"
"[เพียงเท่านี้ไม่ว่าใครก็จะสามารถอยู่กับผู้เป็นที่รักไปตลอดกาล.....]"
ช่างเป็นคำพูดที่ทิ่มแทงใจซาซามิและโจว
การต้องแยกจากคนสำคัญอันเป็นที่รัก
พวกเธอที่ต่อสู้ขัดขืนสิ่งนั้นจนถึงกับเอาชีวิตเข้าแลก ด้วยการเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นเทพ มีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์วิธีการของอิซานามิด้วยหรือ
เพื่อจะอยู่เคียงข้างสุซาโนโอะ เธอจะย้อมโลกนี้ด้วยสีของนรก
หากสุซาโนโอะปรารถนาจะอยู่บนโลกนี้ ตัวเธอที่ถูกกักขังอยู่ในนรกก็จะขยายอาณาเขตของนรกออกไปเพื่อจะได้ใกล้ชิดกับสุซาโนโอะ
อิซานามิที่ประกาศกร้าวว่าตนเองเตรียมใจไว้ถึงขนาดนั้น พุ่งเป้ามายังโนโซมิที่เธอบอกว่าไม่คู่ควร
"[คนอย่างเธอน่ะรังแต่จะทำให้สุซาโนโอะจังต้องเจ็บช้ำเท่านั้นล่ะ ---คุชินาดะฮิเมะ!]"
"[ไม่ว่าจะอีกกี่ครั้ง! ความตายก็จะตัดผ่าความรักจนขาดสะบั้น! เพราะฉะนั้นหากไร้ซึ่งเส้นแบ่งระหว่างความเป็นและความตายแล้ว ก็จะไม่มีใครต้องพรากจากกันด้วยความตายอีกต่อไป ถ้าเธอคิดว่ามันไม่ใช่ ก็ลองเถียงชั้นกลับมาดูสิ!]"
ในสายตาของอิซานามินั้น คุชินาดะ โนโซมิ ก็เป็นเพียงเด็กน้อยไม่ประสีประสาคนหนึ่งที่ไม่เคยรู้รสชาติของความสิ้นหวังจากการรักใครสักคน
ต่อจาก >>179
"เอ้อ..."
น้ำเสียงของโนโซมิฟังดูเหนื่อยล้า แต่สีหน้าเปลี่ยนไป
"จะบอกว่าเอาแต่พูดอะไรก็ไม่รู้ฟังไม่เข้าใจเลยสักนิดมาตั้งแต่เมื่อกี้นี้แล้ว... แต่ขอขัดอย่างนึงนะคะ"
"ชั้นน่ะ ชื่อคุชินาดะ โนโซมินะคะ! ไม่ใช่คุชินาดะฮิเมะ!"
เสียงดังของโนโซมิ ทำเอาอิซานามิสะดุ้งจนต้องไปแอบอยู่ข้างหลังหนึ่งในโยมทสึอิคุสะที่อยู่ใกล้ๆ
"อะไรกันเล่า อย่าทำเสียงดังสิ! หม่าม๊าตกใจหมดแล้วเห็นมั้ยเนี่ย!"
"เงียบไปเถอะค่ะ!"
สุซาโนโอะที่โดนสวนแบบทันควันยังต้องอึ้งไปเหมือนกัน
โนโซมิที่กลายเป็นผู้ถือไพ่เหนือกว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ เริ่มเรียบเรียงความคิดแบบเด็กๆของเธอออกมาเป็นคำพูดอย่างตั้งใจ
"จู่ๆ ก็มีคนสุดเท่ย้ายเข้ามาเรียน แถมยังโดนขอแต่งงาน อย่างกับในการ์ตูนผู้หญิง เป็นใครก็คงต้องใจเต้นอยู่แล้ว"
"แต่เอาเข้าจริง ทั้งคนรักที่ฟ้าลิขิตมาเอย ทั้งชาติก่อนเอย มันไม่เห็นจะโรแมนติคอย่างที่หวังไว้เลยสักนิด"
ทุกสิ่งที่โนโซมิทำมาได้สื่อให้เห็นถึงน้ำหนักของคำพูดจากใจของคนที่พยายามใช้ชีวิตอย่างมีค่า
ก่อนที่ชาติก่อนของเธอจะก้าวเข้ามา และทำให้ทุกสิ่งที่ว่า กลายเป็นเรื่องไร้ความหมาย
"ชาติก่อนอะไรกันล่ะ ไม่เห็นจะเกี่ยวกับชั้นสักหน่อย คุชินาดะฮิเมะอะไรนั่นก็เป็นคนละคนกับชั้นด้วยซ้ำ อย่ามาทำบ้าๆนะ "
"สุซาโนโอะโนะมิโคโตะ อิซานามิโนะมิโคโตะ พวกคุณน่ะ อย่ามาล้อเล่นกับชีวิตของคนอื่นแบบนี้เลย"
อาจดูเหมือนกำลังระบายความทุกข์ แต่จริงๆแล้ว โนโซมิกำลังโกรธ
"สำหรับเธอแล้ว ตอนนี้มันคงเป็นความรัก แต่สำหรับชั้น มันไม่ใช่เลย"
หัวใจที่เต้นแรงตอนที่มองเธอ
วิญญาณที่มันเรียกร้องหาเธอ
มันไม่ใช่ความรู้สึกของชั้นเลย
มันเป็นเรื่องที่จบไปแล้วเมื่อนานแสนนาน
เป็นแค่แรงกระเพื่อมที่เหลืออยู่จากการใช้ชีวิตอย่างสุดกำลังของคุชินาดะฮิเมะ คนที่ชั้นไม่รู้จักแม้กระทั่งหน้าตา
"ชีวิตของชั้น เป็นของชั้น ถึงจะมีเรื่องให้ทุกข์ใจมากมาย เข้ากับที่บ้านไม่ได้บ้างล่ะ เพื่อนไม่ค่อยมีบ้างล่ะ เรียนเหนื่อยบ้างล่ะ--- แต่มันก็มีจุดจบของมัน
นั่นก็เพราะมนุษย์น่ะ ถ้าได้พยายาม ได้เสียเหงื่อบ้าง ก็ยังสามารถมีความสุขได้ มันอาจจะฟังดูเลวร้าย แต่ก็ดีกว่าปล่อยให้ร่างกายเน่าเปื่อยผุพังไปโดยไม่ทำอะไร
---เพื่อความสุขแบบนั้น ชั้นถึงได้รับไม้ผลัดแห่งชีวิตต่อจากคุชินาดะฮิเมะ แล้วเกิดมาในโลกนี้ไงล่ะ"
ต่อจาก >>180
จากเพียงเสี้ยวหนึ่งของความยากลำบากในชีวิตของโนโซมิ ความรู้สึกเหล่านั้นได้เรียงร้อยออกมาเป็นถ้อยคำ
ที่ระเบิดเข้าใส่เหล่าผู้ถูกปิดผนึกอยู่ในความมืดมิดชั่วนิรันดร์แห่งปรภพ
"สิ่งที่พวกคุณทำลงไปน่ะ มันไม่ใช่แค่เมินเฉยต่อชีวิตของชั้น แต่มันยังเหยียบย่ำกระทั่งช่วงเวลาทั้งชีวิตของคนที่ชื่อคุชินาดะฮิเมะด้วย!"
"..........."
อิซานามิที่นิ่งไปเพราะเถียงไม่ออก ดูตัวเล็กลงไปถนัดตา
ก่อนจะหันไปกระซิบเสียงแผ่วกับลูกชายอีกครั้ง
"เอ่อ... สุซาโนโอะจัง นี่พวกเรา...... โดนโกรธอยู่เหรอ?"
สุซาโนโอะพยักหน้าตอบ ทำเอาเธอคอตกไปพักหนึ่งด้วยความช็อค
แต่ก็กลับมาเชิดหน้าสู้อีกครั้ง
"โลกที่ไร้ซึ่งความสิ้นหวังเอย หรือการพรากจากกันด้วยความตายเอย มันมีอะไรไม่ดีตรงไหนล่ะ?
เมื่อก่อนนี้ สามีที่รักของชั้นก็เคยลงมาตามหาชั้นถึงในปรภพ
แต่ก็ต้องตกใจกับความน่าเกลียดน่ากลัวของชั้นจนต้องวิ่งหนี
จนตอนนั้น ชั้นถึงกับต้องร่ายวจีต้องสาปว่า
"จะช่วงชิงชีวิตของมนุษย์บนดินวันละพันคน" "
คำพูดจากปากของอิซานามิ แฝงไว้ด้วยความเดียวดาย
"แต่เขากลับตอบว่า "ถ้าเจ้าจะทำให้ตายวันละพันคน ข้าก็จะทำให้เกิดวันละพันห้าร้อยคน" ----
สิ่งที่พวกเธอกำลังทำอยู่น่ะ มันก็ไม่ต่างกันหรอก ไอ้ผลลัพธ์อันสวยงามแบบนั้นน่ะ มันไม่ใช่สิ่งที่ชั้นต้องการเลยสักนิด"
"ความทุกข์ทั้งหนึ่งพันน่ะ ถึงจะมีความสุขทั้งพันห้าขึ้นมา มันก็ไม่ได้ถูกลบล้างหายไปอยู่ดีไม่ใช่รึไง..."
แม้ปากจะพร่ำพูดออกมาแต่คำสาป แต่ดวงตาที่อิซานามิจับจ้องโนโซมิไม่วางตานั้น กลับฉายแววประกาย
ประกายแห่งน้ำตาสีดำที่เอ่อล้นออกมา
"ชั้นเหงา ชั้นอยากมีคนคอยเอาใจ ชั้นอยากให้เขาคนนั้นคอยอยู่ใกล้ๆไม่ห่างหายไปไหน ชั้นทนการที่ต้องพรากจากกันชั่วนิรันดร์ด้วยความตายไม่ได้
แต่เขาคนนั้นไม่เคยเข้าใจชั้นเลย มีแต่สุซาโนโอะจังเท่านั้นที่คอยอยู่เคียงข้าง คอยเติมเต็มความเดียวดายอ้างว้างในใจชั้นมาตลอด"
"แต่ทั้งอย่างนั้น เธอก็ยังจะพรากสุซาโนโอะไปจากชั้นอีก"
อิซานามิเริ่มร้องไห้เหมือนเด็กเล็กๆ
"ไม่เอานะ ชั้นกลัวแล้ว อย่าทำแบบนี้เลย----- อย่าแย่งกระทั่งสุซาโนโอะจังไปจากชั้นเลย!"
"ถ้าอย่างนั้น ก็พูดออกมาตั้งแต่แรกสิคะ"
"เหงามากเสียจนอยากจะตามลูกรักออกมาด้วย แต่ก็ทำไม่ได้ ก็เลยจะเปลี่ยนโลกนี้ให้กลายเป็นปรภพอะไรนั่นซะ จนทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อนไปทั่ว
ทั้งที่แค่พูดกับเขาว่า"ชั้นเหงานะ อย่าไปเลย"เสียตั้งแต่แรก มันก็จบแล้วแท้ๆ"
"ทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญแท้ๆ แต่กลับไม่พูดออกไป เอาแต่หวังว่าอีกฝ่ายคงจะเข้าใจ แต่พอเขาไม่เข้าใจก็กลับโกรธเขาซะเอง"
"ชั้นน่ะ เกลียดคนอย่างคุณที่สุด เกลียดคนที่เป็นเหมือนกับตัวชั้นในอดีตที่สุด"
"ที่ไม่ได้รับความรักจากใครเลยน่ะ มันไม่ใช่เพราะร่างกายเน่าเปื่อยน่ารังเกียจหรอก"
"ที่มันเน่าน่ะ คือหัวใจต่างหาก"
"............."
คำพูดที่เป็นดั่งโทษทัณฑ์สถานหนัก ทำเอาอิซานามิที่บอบช้ำทางใจทรุดลงไปกองกับพื้น
ซาซามิใช้จังหวะนี้ส่งบอลให้โนโซมิเป็นคนปิดฉากด้วยการซัดเข้าใส่อีกฝั่ง
บอลที่อัดไว้ด้วยพลังเทพพุ่งเข้าชนเหล่าโยมทสึอิคุสะที่เหลืออยู่ รวมถึงอิซานามิจนหมดสิ้น
-เกมเซ็ท-
ยะยะยะยาวอีกละ
ลงชื่ออ่านถึงตรงนี้
ยาวชิบ แต่แปะมาเรื่อยๆนะ รออ่าน
ต่อจาก >>181
อิซานามิที่ได้สติคืนมา มองสุซาโนโอะด้วยสายตาหมดอาลัยตายอยาก
ชายหนุ่มเกาหัวแกรกๆ ด้วยท่าทีที่ยังสบายอารมณ์อยู่ ในขณะที่มองดูโนโซมิจังและแม่ของตัวเอง
"....พวกข้าแพ้แล้วงั้นสินะ"
สุซาโนโอะยิ้มแป้น
"เจ้าน่ะ เป็นยัยนั่นที่กลับชาติมาเกิดใหม่จริงๆนั่นแหละ ---ความเข้มแข็งแน่วแน่ ขนาดที่ยอมอาสาเสียสละตัวเองเป็นเหยื่อบูชายันต์แก่เทพชั่วร้ายเพื่อปกป้องทุกคน
ถึงแม้จะต้องประจันหน้ากับยามาตะโนะโอโรจิก็ยังไม่ยอมถอยแม้แต่ก้าวเดียวของยัยนั่นน่ะ ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็อดหลงสเน่ห์ไม่ได้สักที"
ยิ่งครั้งนี้ เธออาจจะแซงหน้าเขาไปแล้วด้วยซ้ำ
สุซาโนโอะสลายเขตแดนที่ปกคลุมสนามทิ้งไปอย่างไม่ยากเย็น แล้วจึงสวมกอดคุณแม่ตัวน้อยเอาไว้
"ขอโทษนะ หม่าม้า ผมไม่เคยคิดเลยว่าหม่าม้าจะเหงาถึงขนาดนั้น ตอนที่รู้ว่ายัยนั่นกลับมาเกิดใหม่แล้วก็เลยอยู่ไม่ติดถึงขนาดต้องออกไปตามหา"
"---แต่มันก็เป็นอย่างที่โนโซมิพูดนั่นล่ะ"
"ยัยนั่นกับเธอน่ะ ไม่ใช่คนคนเดียวกันแล้ว"
สายตาของสุซาโนโอะจับจ้องไปที่โนโซมิเด็กหญิงตัวน้อย
"แต่ข้า...จะขอพูดใหม่อีกครั้ง"
"ข้าต้องการเจ้า มาเป็นเจ้าสาวของข้าเถอะ คุชินาดะ โนโซมิ"
"ข้าตกหลุมรักเจ้าตั้งแต่แรกพบ ดังนั้นคราวนี้ข้าจะทำให้เจ้ามีความสุขโดยไม่ทำให้เจ้าต้องลำบากใจอีก"
"แต่ชั้น ยังเป็นเด็กประถมอยู่เลยนะ"
โนโซมิจังที่ถูกอีกฝ่ายจ้องแบบไม่วางตา แก้มแดงระเรื่อ
"เพราะงั้น ---เรามาเริ่มจากเป็นเพื่อนกันก่อนก็แล้วกัน"
ต่อจาก >>185
"อืม"
สุซาโนโอะยิ้มรับอย่างใสซื่อ
"แบบนี้โอเคมั๊ยหม่าม้า? อย่างน้อยเราก็ยังได้อยู่ด้วยกันจนกว่าโนโซมิจะโตนะ ทีนี้อารมณ์ดีขึ้นรึยัง?"
"....เรื่องคราวนี้ ชั้นเองแหละที่ใจร้อนไปหน่อย"
อิซานามิที่ยังอยู่ในอ้อมกอดของลูกชาย เงยหน้าขึ้นมามองโนโซมิที่อยู่อีกฝั่งบ้าง
"เธอน่ะ ช่วยโลกนี้ไว้ได้แล้วล่ะนะ"
"ชั้น ขอโทษด้วย...ก็แล้วกัน"
พูดเพียงเท่านั้น อิซานามิก็หันกลับไปซบอกลูกชายตามเดิม
หมดสิ้นแล้วซึ่งเจตนาร้ายใดๆ เหลือเพียงแค่ความเหงาที่รอการบรรเทา
ซาซามิที่หมดแรงนั่งแหมะกับพื้น เริ่มนึกว่าถ้าจบแบบนี้ได้แต่แรกจะมาเสียแรงเปล่าทำไมเนี่ย
ปัญหาของโนโซมิจัง เจ้าตัวก็เป็นคนจบมันลงด้วยตนเองอย่างสวยงาม พวกเธอเสียอีกที่แทบไม่มีบทอะไรเลย
"รุรู้น~♪"
วิษณุโน้มตัวลงมามองซาซามิด้วยท่าทางสบายอารมณ์
"เอ้า เซอร์วิสพิเศษจากท่านวิษณุไงล่ะน้อ ไหนๆเรื่องที่ทีมอิซานามิแตกได้นี่ก็เป็นผลงานของพวกเจ้านะ แถมยังช่วยประเทศนี้ไว้จากการถูกปรภพกลืนกินได้อีก แบบนี้แล้วยังไม่คิดว่าจะได้"บารมี"ตอบแทนกันบ้างเลยรึ?"
"ยกให้เป็นผลงานพวกชั้นเนี่ยนะ? จะดีเหรอ?"
ขนาดคุณหนูเองยังรู้สึกว่ามันไม่ใช่
แต่ก็ห่อไหล่เป็นเชิงยอมแพ้
"เฮ้อ ช่างเถอะ ----แต่คราวนี้อย่าไปยุ่งกับความทรงจำของโนโซมิจังเลยนะ เพราะถ้าลืมกันอีกทางนี้คงเหงาแย่เลย"
"อุตส่าห์ได้มีน้องสาวกับเค้าบ้างสักทีแบบนี้ สนุกไม่เบาเลยล่ะ"
โจวเปลี่ยนอารมณ์ เงยหน้ามองฟ้า
"แต่จะว่าไป ถึงปัญหาของโนโซมิจังจะโดนเจ้าตัวจัดการเองเรียบร้อยไปแล้ว ---มันก็ยังมีปัญหาใหญ่ของพวกเราเหลืออยู่อีกนะ"
หนทางนั้นอีกยาวไกล เพราะพวกเธอยังพาใครกลับมาไม่ได้สักคน
"แต่ก่อนจะไปเรื่องนั้น...."
คุณหนูกำหมัด ตะโกนเรียกโนโซมิจังที่ยังยืนอยู่ในสนาม
"โนโซมิ!"
ด้วยพลังใจเต็มเปี่ยม
"ไม่ว่าสุซาโนโอะจะกลับมาเมื่อไหร่ หรือไม่ว่าจะโตขึ้นแค่ไหน! เธอต้องกลายเป็นสาวที่สวยขนาดทำให้เจ้านั่นตกใจจนหกล้มก้นจ้ำเบ้าให้ได้เลยนะ!"
โนโซมิที่ได้ยินคำพูดนั้น หลิ่วตาด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะโค้งให้สองสาวเป็นเชิงขอบคุณตามแบบฉบับของเธอ
เพียงเท่านั้นก็เป็นรางวัลที่มีค่าที่สุดของพวกซาซามิแล้ว
---จบบทดอดจ์บอลนรก---
ครึ่งเล่ม 6 แล้วจ้ะ
ก่อนจะเริ่มบทถัดไป ขอย้อนกลับไปยังเหตุการณ์ช่วงสั้นๆในระหว่างช่วงสงครามกรุงทรอย
อาวาชิมะซามะที่ถูกดีดออกจากร่างคุณหนูด้วยผลจากการแปรสภาพครั้งใหญ่ของเทพกรีกที่มีผลขนาดเคลื่อนย้ายประเทศ ได้ตัดสินใจเข้าสิงในร่างของคนผู้หนึ่ง
เขาคนนั้นก็คือ สึคุโยมิ คามิโอมิ พี่ชายของซาซามิที่มากไปด้วยปริศนา
ระหว่างนั้นเองที่อาวาชิมะฉวยโอกาสลอบดูความทรงจำที่เหลืออยู่ในอดีตของคามิโอมิไปด้วย
สถานที่คือลานพิธีแห่งหนึ่งที่ไม่รู้ว่าตั้งอยู่ที่ไหน
ท่ามกลางก้นบึ้งแห่งความมืดมิด มีเพียงแสงรำไรจากเปลวเทียนที่ตัดฝ่าทัศนียภาพสีดำสนิท
ยิ่งเมื่อมองจากมุมมองของคามิโอมิ ชายผู้ปกปิดใบหน้าไว้ตลอดเวลา ทัศนวิสัยก็ยิ่งแคบเข้าไปอีก
และเมื่อเพ่งดูจากทัศนวิสัยแคบๆนั้น ก็ปรากฏร่างเล็กๆของคนผู้หนึ่ง
ร่างของหญิงสาวผู้อ่อนวัย ในชุดมิโกะ
คามิโอมิเองเมื่อเห็นดังนั้นก็เข้าไปคุกเข่าต่อหน้าอีกฝ่าย
แล้วหญิงสาวก็พูดอะไรบางอย่างออกมา
"พวกเรา จะขึ้นเป็นจันทราแห่งดินแดนนี้"
น้ำเสียงนั้น ฟังดูเหมือนคำอธิษฐานมากกว่าจะเป็นพิธีกรรมอันใด
"จากนี้ไป พวกเราที่ได้รับนามสึคุโยมิ จะเป็นตะเกียงส่องทาง เป็นเครื่องมือที่ใช้สะท้อนแสงของดวงสุริยาที่สถิตในร่างนี้ เพื่อชี้นำผู้คน"
ดั่งโพรมีธีอุสในตำนานของประเทศไกลโพ้นทะเลที่นำแสงไฟและอารยธรรมมาสู่มนุษยชาติ
"จะเป็นดั่งอินทรีที่ไม่ว่าล่าเหยื่อครั้งใดก็จะทุ่มจนสุดแรง เช่นนั้น เราจะได้ไม่ต้องถูกสาปแช่งจากใครหรือผู้ใดอีก"
ไหล่ของหญิงสาวสั่นเทิ้มราวกับกำลังหลั่งน้ำตา
"ความผิดของเรานั้นหนักหนานัก แต่อย่างไรเสีย ก็ไม่จำเป็นต้องรู้หรอก เพราะการที่เราไม่อาจสร้างจักรวรรดิพันปีได้ ก็เหมือนกับหลอกลวงคนทั้งโลกแล้ว
เรานี่ช่างคิดอะไรโง่เง่าจริงๆ จะต้องดุด่าว่ากล่าวเราว่าอย่างไรดีล่ะถึงจะสาสม-----พี่ชาย"
คามิโอมิได้แต่ยืนมองหญิงสาวพร่ำพูดอยู่อย่างนั้น
แล้วจึงลูบศีรษะของเธอเบาๆ
เธอเองก็อดยิ้มออกมาไม่ได้
"พี่น่ะ เป็นคนจิตใจดี ...อืม แต่คงเป็นเพราะไม่รู้อะไรสินะ เพราะไม่รู้อะไร จึงได้กล้าสัมผัสกระทั่งตัวเราที่แปดเปื้อน"
"เพราะไม่รู้อะไร จึงทำตัวไม่กังวลอะไรแบบนั้นได้ ถึงแม้อีกฝ่ายจะเป็นใครที่ไม่รู้จัก หรือถึงแม้จะรู้ว่าเป็นคนสำคัญก็ตามที ถ้าอย่างนั้น..."
"ช่วยปกป้องลูกหลานของเราด้วยเถอะ"
คำขอนั้น มาถึงโดยไม่ทันได้ตั้งตัว
"ช่วยเป็นพี่ชายที่ไม่รู้อะไร อย่างนี้ต่อไปไม่เปลี่ยนแปลงด้วยเถอะ"
ไม่มีเสียงตอบอันใด นอกจากในความคิดที่ฉุกขึ้นมา
"แล้วแต่ท่านจะบัญชาขอรับ ท่านฮิรุเมะ"
ภาพเหตุการณ์ครั้งอดีตที่บัดนี้ถูกผนึกไว้ในใจของคามิโอมิขนาดที่เจ้าตัวก็ไม่มีทางนึกออก ตัดจบเพียงเท่านั้น
คามิโอมิที่ได้สติตื่นขึ้นมาในยามเช้า ยกมือขึ้นมาปิดหน้าไว้อย่างเคย พลางควานหานาฬิกาตั้งโต๊ะที่อยู่ใกล้ๆ
"อ้าว?"
แต่กลับเจอทามาโมะโนะมาเอะนอนขดตัวอยู่บนเตียงในชุดนอนส่งเสียงฟี้ ฟี้ แทน
---------------------------จบการย้อนความ---------------------------------
ต่อจาก >>188
ณ น่านน้ำแห่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ภายในอาณาเขตของเทพแห่งเทวตำนานกรีก
ที่ซึ่งหมู่เกาะญี่ปุ่นทั้งหลายได้เคยถูกการแปรสภาพเคลื่อนย้ายมาตั้งไว้เมื่อครั้งเหตุการณ์สงครามกรุงทรอย
พวกซาซามิและคุณหนูกำลังสำรวจก้นทะเลที่เต็มไปด้วยโขดหินระเกะระกะ ปะการัง ซากเรือและเครื่องบินที่จมอยู่ใต้ผืนทราย
"แบบนี้... ดีแล้วเหรอ?"
คุณหนูในร่างสาวน้อยพิทักษ์ธรรมถามซาซามิด้วยเทเลพาธี
บารมีก้อนใหญ่ที่ได้มาอย่างยากลำบากเมื่อคราวก่อน ที่จริงมันควรจะแบ่งกันคนละครึ่ง แต่อีกฝ่ายกลับยืนยันให้เธอเอาไปใช้สร้างปาฏิหาริย์ก่อน
"ดีแล้วล่ะ ตอนนี้ฉันเองก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าตอนนี้พี่อยู่ที่ไหน"
จากข้อมูลที่วิษณุสืบมา ก็ไม่พบอะไรเกี่ยวกับคามิโอมิเลย
ส่วนโอกาสที่จะสร้างปาฏิหาริย์คืนชีวิตให้ทามาโมะโนะมาเอะนั้น ถ้าไม่จัดการตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าจะต้องรออีกเมื่อไหร่
"ซาซามิซัง เธอนี่ชอบพูดอะไรที่ทำให้ตัวเองเสียเปรียบอยู่เรื่อยเลยนะ"
คุณหนูเบ้ปาก ทำเสียงไม่พอใจ
"เอาแต่ทำร้ายตัวเอง เจ็บตัวซะเอง ขยับตัวไม่ไหวต้องล้มลุกคลุกคลานซะเองทุกทีแบบนั้นน่ะ มันดูไม่ได้เลยนะรู้ไหม"
"เอ้อ...."
ซาซามิได้แต่หัวเราะแห้งๆ เพราะไม่รู้จะตอบไปว่ายังไง
ในใจนั้นอยากจะพูดออกไปว่าเธอกลัว
ก่อนนี้ สมัยที่เธอยังมีพลังเทพสูงสุด อยากจะได้อะไรก็ได้ทุกอย่างตามที่ต้องการ ไม่เคยต้องไขว่คว้าอะไรให้เหนื่อย
การเป็นได้ทุกอย่างที่อยากเป็น รู้ได้ทุกอย่างที่อยากรู้ ทำได้ทุกอย่างที่อยากทำ มันเป็นสิ่งที่ว่างเปล่าเสียจนน่ากลัว
เรื่องนั้นมันคอยตอกย้ำซ้ำๆจนกลายเป็นนิสัย จากนิสัยก็กลายเป็นสัญชาตญาณ
คนอย่างเธอน่ะ คงเป็นสิ่งที่โจวจังต้องเบือนหน้าหนีด้วยความรังเกียจเป็นแน่
"แถวนี้น่ะไม่ใช่สถานที่ที่พวกเจ้าจะมาคุยเล่นกันหรอกนะ"
วิษณุทำท่าจริงจัง ขณะที่ตัวเองกำลังขี่ปลาน้ำลึกเล่น
ที่นี่คืออาณาเขตของเหล่าเทพแห่งเทวตำนานกรีก ที่ตอนนี้กำลังรบกับเทพทั้งโลกอยู่เนื่องจากประเด็นสงครามกรุงทรอยครั้งก่อน
ถ้าไม่อยากตายก็อย่าไปขวางน้ำเชี่ยวซะล่ะ
ตอนนี้พวกเธอเข้ามาในเขตนี้ได้ด้วยความสามารถข้ามฟ้าดินในสามวินาทีของวิษณุ เทพสูงสุดของฮินดู
"เฮ้อ... นี่ถ้าพาหนะเรายังอยู่ล่ะก็นะ"
วิษณุยังไม่แคล้วบ่นพึมพัมไปเรื่อย ทำนองว่าไม่ได้อยากใช้นักหรอกไอ้ความสามารถนี่
พาหนะของท่านวิษณุ?
"เฮ้อ...เอาเถอะ ---ว่าแต่ หม่าม้--ทามาโมะโนะมาเอะน่ะ อยู่ที่นี่จริงๆรึ?"
คุณหนูเองทำเสียงอ้อมแอ้ม เพราะยังเขินกับการเรียกหม่าม้าอย่างคนทั่วไป
"อื้ม"
วิษณุกอดอกตอบอย่างขึงขัง
"จิ้งจอกขาวเก้าหางขนทองคำน่ะ มีความเกี่ยวข้องกับทางฮินดูอยู่ ดังนั้น เราในฐานะที่เป็นเทพฮินดูก็ย่อมมีสิทธิ์ตรวจสอบได้เช่นกัน"
"แต่ทามาโมะโนะมาเอะเอง ก็เป็นต้นเหตุของการล่มสลายของราชวงศ์หนึ่งในอินเดียไม่ใช่เหรอ จะมาช่วยให้ฟื้นกลับมาแบบนี้ ไม่เป็นไรแน่นะ?"
"จะเป็นประเทศหรือโลก ก็ล่มสลายมาด้วยน้ำมือเราตั้งไม่รู้กี่รอบแล้วล่ะ"
ระดับมันต่างกัน (กรุณากลับไปอ่าน Note ที่ว่าด้วยกัลกี หรือพระศรีอาริยเมตไตร)
สรุปย่อๆอีกครั้ง จิ้งจอกเก้าหาง ทามาโมะโนะมาเอะที่เอาชีวิตเข้าแลกเพื่อเปลี่ยนจุดจบของสงครามกรุงทรอย ได้ถูกทวยเทพสาปและถูกผนึกอยู่ใต้ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนแห่งนี้
เบื้องหน้าของพวกซาซามิในตอนนี้คือโพรงใต้ทะเลลึกที่มืดสนิทจนมองไม่เห็นหนทาง
วิษณุที่นำไปก่อนไม่ไกลนัก ส่งสัญญาณให้ทั้งคู่ตามมา
ร่างของเธอในตอนนี้เปล่งแสงเรืองรองออกมาดุจพระอาทิตย์
"ทีนี้มองเห็นชัดขึ้นแล้วใช่ไหม นี่ล่ะคือแสงจากเหล่าเทพพระอาทิตย์ทั้งหลายที่รวมอยู่ในตัวเรา อิจฉามั้ยล่ะ?"
ระหว่างที่เคลื่อนตัวตามอุโมงค์ใต้ทะเลที่ทอดยาวไปได้พักใหญ่ๆ ในที่สุด พวกซาซามิก็มาจนถึงสุดทาง
http://imgur.com/YPAGGlk
ปกแผ่น 4 ทามะจังมาแล้ว
ต่อจาก >>189
คุณหนูถึงกับต้องกลั้นใจไว้ เมื่อได้เห็นภาพที่อยู่ตรงหน้า
ไม่มีร่องรอยของสิ่งมีชีวิตใดๆ
ณ ก้นบึ้งของเวิ้งน้ำอันเงียบงัน มีเพียงร่างของสัตว์ยักษ์เก้าหางหูตั้งชันที่นอนสงบอยู่บนผืนทรายสีเทา
"หม่าม้า!!"
คุณหนูที่กรีดร้องจนสุดเสียง ยกมือขึ้นมาปิดหน้า
ร่างยักษ์นั้นอยู่ในสภาพที่กลายเป็นหินไปแล้วทั้งตัว มีร่องรอยหักพังไปตามกาลเวลาอยู่ทั่วไป
"แม้จะเป็นถึงจิ้งจอกเก้าหางผู้ถูกกล่าวขานในตำนาน แต่กลับยอมสละพลังวิญญาณทั้งหมดของตนเพื่อแลกกับการบิดเบือนหนึ่งในเทวตำนานอันยิ่งใหญ่"
วิษณุกล่าวอย่างชื่นชม
"แต่จะว่าไป สภาพก็ยังดูดีกว่าที่เรานึกไว้นะนี่"
ที่ผ่านมาก็มีผู้โชคร้ายที่ต้องคำสาปจากความพิโรธของทวยเทพแห่งตำนานกรีกอยู่ไม่น้อย จากสายตาของวิษณุ กรณีของทามาโมะเองก็เป็นเพียงหนึ่งในนั้น
ด้านซาซามิเองแม้จะพิจารณาจากสภาพพื้นที่ที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพังของเรือและเครื่องบินอย่างกับอยู่ในสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้าแล้ว ก็ยังประมาณความเคียดแค้นของเหล่าเทพไม่ได้
ความผิดสถานใดที่ต้องทำกันถึงขนาดที่ตายไปแล้วก็ยังถูกปล่อยทิ้งให้เน่าเปื่อยผุพังไปอย่างโดดเดี่ยวในสถานที่ไร้ซึ่งผู้คนสัญจรแบบนี้
"สภาพดีอะไรกันล่ะ! อย่ามาพูดเหมือนกับหม่าม้าเป็นสิ่งของนะ! แบบนี้มันดีตรงไหนกันล่ะ!"
ทั้งที่ทามาโมะเป็นคนที่ช่วยพวกเธอไว้แท้ๆ
วิษณุตอบกลับแบบเหนื่อยใจ
"ก็ต้องเป็นสิ่งของสิ นี่น่ะมันคือซากที่ไร้ชีวิตนะ ดวงวิญญาณหรือวิญญาณเทพเองก็ถูกฉุดลงนรกไปหมดแล้ว
ลองได้เจอกับคำสาปจากความพิโรธของทวยเทพที่ปิดผนึกการเคลื่อนไหวจนหมดสิ้นเข้าไป แล้วยังไม่พังทลายไปหมดจนบัดนี้ก็นับว่าปาฏิหาริย์มากแล้ว"
"ช่วยที"
น้ำเสียงของโจวในตอนนี้ หมดสิ้นแล้วซึ่งความเย่อหยิ่งถือตัวใดๆ
"ขอร้องล่ะ จะทำยังไงก็ได้ ช่วยหม่าม้าที"
"ชะตาของเจ้านี่ เกี่ยวพันถึงอาณาจักรใหญ่มากมาย ทั้งญี่ปุ่น จีน อินเดีย จนไปถึงกรีก..."
"ลำพังเทพสูงสุดของฮินดูอย่างเรา คงให้คำขาดอะไรไม่ได้หรอก"
วิษณุพูดด้วยเสียงเรียบเย็น
"ถึงแม้จะมีโอกาสหนึ่งในหมื่นที่จะดึงวิญญาณกลับมาจากนรกได้ แต่ก็ไม่รับประกันว่าจะกลับมาเป็นดังเดิมได้ เพราะร่างนี้มันเปราะบางจนเกินเยียวยาเสียแล้ว อย่างนี้แล้วยังไม่ตัดใจเรื่องที่จะคืนชีวิตให้เจ้านี่อีกรึ?"
"ไม่"
"ชั้นน่ะ คิดถึงหม่าม้า ชั้นอยากขอโทษ อยากจะสัมผัสกันให้มากกว่านี้ "
"อยากจะอ้อนหม่าม้า... อยากทำตัวให้สมกับเป็นลูกหม่าม้า..."
"ชั้นเหงา.... ชั้น... อยากเจอหม่าม้าอีกครั้ง!"
วิษณุพยักหน้ารับคำขอนั้น ต่อหน้าคุณหนูที่ร้องไห้เหมือนเด็กน้อย
"อืม ถ้าเช่นนั้นก็ดี การทำให้คำขอของมนุษย์เป็นจริงน่ะ เป็นงานของเทพอย่างเราอยู่แล้ว"
โถ่ คุณหนู ;;___;;
ต่อจาก >>191
วิษณุเวอร์ชั่นมาสค็อตหมุนตัวหนึ่งรอบแล้วกลับเป็นร่างเดิม
จากนั้นจึงอธิบายให้สองสาวฟังอีกรอบว่าบารมีทั้งหมดที่ได้จากตอนปิดเคสดอดจ์บอลนรกจะถูกนำไปใช้สร้างปาฏิหาริย์เพื่อคืนชีพทามาโมะโนะมาเอะ
"ครั้งนี้คงต้องใช้บารมีส่วนของพวกเจ้าสองคนรวมกัน ถึงจะพอ แต่นั่นก็เท่ากับว่าพวกเจ้าต้องใช้บารมีจนหมดตัว ถ้าพลาดขึ้นมาก็ถึงชีวิตเลยนะ จะดีรึ?"
"เอาเลย"
คุณหนูตอบแบบชัดถ้อยชัดคำ
"ลองเป็นแบบนี้จะมารอช้าอีกไม่ได้แล้ว หม่าม้าเองก็ดูเหมือนจะใกล้ขีดจำกัดเต็มทีแล้วเหมือนกัน ถึงขั้นนี้แล้วจะมาเหลาะแหละไม่ได้แล้วล่ะนะ ใช่มั้ย ซาซามิซัง?"
"เอ๊ะ--? อ๋า อื้ม.."
ซาซามิเองก็พยักหน้าตอบ ถึงตอนนี้แล้วจะมาพูดว่า "ถึงตายเลยเหรอ งั้นไม่เอาดีกว่า" ก็ดูจะผิดกาลเทศะไปหน่อย
ถึงจะกลัว แต่เธอก็เข้าใจความรู้สึกของโจวจังดี ครั้งหนึ่งเธอเองก็เคยต้องพรากจากแม่ของตัวเองแบบนี้เหมือนกัน
"อธิษฐานให้ดีล่ะ"
"หากใจพวกเจ้าเชื่อมั่นแล้ว ต้องช่วยได้แน่ เพราะจิตที่ตั้งมั่นของมนุษย์นั้น สามารถเปลี่ยนแปลงได้กระทั่งโชคชะตา"
"นะโม อมิตตาพุทธ ผู้กระทำกรรมใดย่อมได้รับผลแห่งกรรมนั้น จงขานรับเถิด เหล่าทวยเทพและทุกสรรพสิ่งเอ๋ย จงตอบแทนผลกรรมอันดีซึ่งเหล่าเราได้บำเพ็ญต่อโลกนี้ด้วยเถิด !"
ซาซามิและโจวจับมือกันไว้แน่น
ในใจของซาซามิตอนนี้ มีเพียงคำอธิษฐานอย่างสุดแรงกล้า
คำอธิษฐานที่มีต่อเหล่าทวยเทพ วิษณุ และทามาโมะโนะมาเอะ
ขอร้องเถอะค่ะ คุณแม่ของโจวจัง
คุณแม่ผู้ยิ่งใหญ่ที่ต่อสู้เพื่อพลิกประวัติศาสตร์ ปกป้องอนาคตของพวกฉันเอาไว้ จนตัวเองต้องมาตกระกำลำบากแบบนี้
ขอแค่อีกสักนิด
แค่เสี้ยวเดียวของอีกสักนิด
เพื่อเด็กขี้แยคนหนึ่ง--- ที่เข้มแข็งขึ้นมาได้ทุกครั้งเพราะความพยายามที่ยิ่งใหญ่เกินตัว
ช่วยฟื้นกลับมาทีเถอะค่ะ
ขอร้องล่ะ!
เสียงปริแตกราวกับเปลือกไข่ค่อยๆดังขึ้น
ความรู้สึกไม่ค่อยดีเริ่มเกิดขึ้นในใจ
ซาซามิสบตาเข้ากับคุณหนูที่หน้าซีดเผือด ต่างคนต่างไม่พูดอะไร
ร่างของทามาโมะโนะมาเอะค่อยๆพังทลายลง ชิ้นส่วนที่หนักอึ้งเริ่มตกลงกระแทกพื้นทรายจนคลุ้งไปทั่วบริเวณ
ขณะที่โจวยังคงตะโกนเรียกแม่ของตัวเองซ้ำๆอย่างสุดเสียง
แต่กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย --- พวกเธอทำพลาดงั้นหรือ? ไม่มีปาฏิหาริย์อันใดงั้นหรือ?
วิษณุเองก็กลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
แล้วในที่สุด เวิ้งน้ำที่ถูกรบกวนด้วยฝุ่นทรายที่ฟุ้งกระจาย ก็กลับมากระจ่างใสอีกครั้ง
ไม่มีร่างของทามาโมะโนะมาเอะเหลืออยู่แล้ว
"อะไรกัน... ทั้งที่ตั้งใจอธิษฐานขนาดนั้นแล้วแท้ๆ ทั้งที่ทำดีมาตลอดแท้ๆ"
โจวจังยกมือขึ้นป้ายน้ำตา ยืนร้องไห้อยู่ตรงนั้น
"ช้าไป.... งั้นเหรอ?"
เสียงสะอื้นที่หลุดรอดออกมาจากอกของคุณหนู ทำเอาซาซามิอยากจะร้องไห้ตามไปด้วย
นี่มันหมายความว่ายังไง? อย่างกับทุกอย่างมันถูกกำหนดมาให้เป็นแบบนี้แต่แรกเลยไม่ใช่เหรอ?
ราวกับว่า ทั้งบทสรุปอันโหดร้าย ทั้งความเศร้าอันเจ็บปวดนี่ มันถูกกำหนดไว้แล้วตั้งแต่ต้น
http://imgur.com/uoUCWXd รูปเก่ารีรัน
ต่อจาก >>193
"?"
ไม่ทันไรซาซามิก็รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง
หลังจากที่ทำหัวให้ว่าง สลัดความคิดที่มีมาจนถึงเมื่อกี้ออกไป แล้วมองดูภาพตรงหน้า
เธอก็สังเกตเห็นบางสิ่งที่เป็นส่วนหนึ่งของเศษซาก กำลังเคลื่อนไหวอยู่
ภาพของสิ่งนั่นแทบทำให้หัวใจเธอหยุดเต้น
"โจ-- โจวจัง! ตรงนั้น ดูตรงนั้น!"
โจวพุ่งเข้าไปก่อนที่ซาซามิจะทันได้ปลอบว่าอย่าร้องไห้เสียอีก
แม้จะยังไม่ทันรู้ว่าเป็นอะไร แต่มันก็เป็นเพียงความหวังเดียว
เธอเริ่มลงมือขุดรื้อเศษซากที่มีอยู่มากมายพวกนั้นออกไปทีละชิ้นๆ
ทั้งที่ถ้าใช้พลังกระสุนพระอินทร์ของสาวน้อยพิทักษ์ธรรมแค่นัดเดียวก็สามารถเป่าให้กระจายไปได้ทั้งกอง
แต่ถ้าทำแบบนั้น ทุกอย่างมันก็จะสูญเปล่า
เธอทั้งขุด ทั้งรื้อขว้างออกไปเรื่อยๆ จนมือเริ่มเป็นแผล
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเท่าไหร่แล้ว รู้แค่ว่าเหนื่อยเมื่อยล้าไปทั้งตัว
แล้วในช่วงสุดท้าย ขณะที่รื้อชิ้นส่วนสุดท้ายออกมานั้น พวกเธอก็พบกับร่างเล็กๆที่เฝ้าตามหาราวกับปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นในยามคับขัน
โจวหายใจแรงๆออกมา
ที่ตรงนั้น มีเด็กหญิงตัวเล็กนอนหลับอยู่
ร่างกายที่ราวกับเด็กประถม ดวงตาเรียวเล็กน่ารักน่าชัง ไรผมสีทองราวกับเต้าหู้ทอดน้ำมัน
มีหูจิ้งจอกสองข้างตั้งชันอยู่บนศีรษะ อยู่ในชุดพิธีโบราณตามแบบอย่างองเมียวจิ
หางทั้งเก้าพริ้วไหวไปมาในกระแสน้ำ
เค้าร่างของทามาโมะโนะมาเอะ สาวน้อยที่นอนหลับตาอยู่ในขณะนี้ กำลังบิดเบือน และกระพริบเป็นระยะๆ ขณะที่ค่อยๆจางไปทีละน้อย
ร่างที่เคยดูมีชีวิตชีวานั้น ค่อยๆกลายเป็นสีเทา
"ไม่นะ!"
โจวให้ทามาโมะกัดเพื่อดูดพลังวิญญาณที่เธอมีไป สีหน้าของทามาโมะดีขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆซีดจางกลับไปเป็นเหมือนเดิม
ถึงซาซามิจะห้ามว่าถ้าทำแบบนั้นไปเธอเองก็จะตายไปด้วยอีกคน ตอนนี้โจวจังก็คงจะไม่ได้ยินแล้ว
ดังนั้นเธอจึงทาบมือกับคุณหนู ให้ยืมพลังด้วยอีกแรง
"ขอร้องล่ะ...."
"ขอร้องล่ะ.... จะเอาชีวิตชั้นไปก็ได้ จากนี้ไปชั้นจะตั้งใจทำแต่สิ่งดีๆ จะไม่ทำเรื่องเลวๆอีกแล้ว...!
ช่วยทีเถอะ ใครก็ได้ ช่วยหม่าม้าที! ให้ชั้นได้ตอบแทนหม่าม้าที่มอบชีวิต... มอบอนาคตให้ชั้นที!!"
"ก็เป็นซะอย่างนี้ละน้า...มนุษย์"
วิษณุที่หายตัวไปจนถึงเมื่อครู่ กลับมาปรากฏตัวข้างกายของทั้งคู่อีกครั้งด้วยท่าทางดูจริงจังต่างจากที่เคย
มือข้างหนึ่งของเธอช่วยพยุงไหล่ของโจวเอาไว้ ขณะที่อีกข้างสัมผัสร่างของทามาโมะอย่างอ่อนโยน
แล้วแสงสุกสว่างราวดวงอาทิตย์ก็ค่อยๆไหลเวียนเข้าสู่ร่างของทามาโมะโนะมาเอะ
ปาฏิหาริย์ที่ไหนจะเกิดง่ายๆกันล่ะ จริงไหม
ซาซามิเองที่ได้แต่อธิษฐานอย่างสุดหัวใจ โดยทำอะไรอย่างอื่นไม่ได้เลย ก็ได้แต่มองภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้า
ช่างเป็นภาพแห่งความสุขจริงๆ
ต่อจาก >>195
ทามาโมะโนะมาเอะลืมตาขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ
เจ้าหล่อนกระพริบตาด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะยกมือขึ้นป้ายตาตัวเอง
"ยังร้องไห้อยู่... อีกเหรอคะ?"
หน้าของคุณหนูที่ปกติจะเรียบร้อยอยู่เสมอ ตอนนี้กลับมอมแมมแถมยังเปื้อนน้ำตาเสียแบบนี้ คนเป็นแม่อย่างทามาโมะเองเห็นเข้าก็อดขำด้วยความเอ็นดูไม่ได้
"จริงๆเลย เหมือนใครกันน้า เด็กคนนี้เนี่ย..."
"ปล่อยให้คลาดสายตาไม่ได้เลยนะ เจ้าตัวยุ่งที่สุดในโลกของดิชั้น"
"หม่าม้า!"
โจวจังในตอนนี้ โผเข้ากอดคุณแม่ที่ยังลุกไม่ไหวอยู่เอาไว้แน่น
ตอนนี้ คงไม่เป็นไรแล้วล่ะ
ซาซามิกับวิษณุมองหน้ากัน อารมณ์ประมาณว่า อยากจะนั่งหลังชนกันแล้วบ่นออกมาดังๆว่าเหนื่อยจริงๆ ไม่ไหวแล้ว~ แล้วก็ยิ้มออกมา
"ฮะฮะฮะ"
ยินดีด้วยนะ โจวจัง
ดีใจอย่างกับเป็นเรื่องตัวเองแน่ะ
ต่อจาก >>196
บ้านของโจวจังเป็นห้องใหญ่เหมือนแมนชั่นสำหรับครอบครัว ในโรงแรมที่เป็นฐานของอาราฮาบากิ
หลังจากที่ชุบชีวิตทามาโมะโนะมาเอะได้สำเร็จ พวกซาซามิที่กลับมาถึงญี่ปุ่นด้วยพลังของวิษณุ ก็ตัดสินใจว่าจะพักอยู่ที่นี่ไปสักระยะ
บ้านของโนโซมิเองก็ไม่ได้แย่อะไร เพียงแต่ว่าพวกเธอไม่อยากดึงโนโซมิเข้ามาลำบากด้วยอีก
ซาซามิที่ผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อนตั้งแต่เมื่อวาน พอตื่นเช้าขึ้นมาก็เจอกับบรรยากาศแปลกๆระหว่างทามาโมะโนะมาเอะและคุณหนู
".........."
".........."
ไม่ใช่ความเงียบสงบที่ชวนให้ผ่อนคลาย แต่มันคือความเงียบสนิทเสียจนไม่น่าไว้วางใจ
ทั้งที่แม่ลูกอุตส่าห์ได้กลับมาพบกันอีกครั้งแท้ๆ
"เอ่อ... คือ"
โจวจังได้แต่ม้วนปลายผมของตัวเองไปมาแก้เขิน แม้ฝ่ายตรงข้ามจะอยู่ตรงหน้า แต่เธอกลับไม่กล้าสบตา เอาแต่บิดไปมาเหมือนสาวน้อยวัยประถมเพิ่งตกหลุมรักครั้งแรกยังไงยังงั้น
ด้านทามาโมะโนะมาเอะ พอเห็นอย่างนั้นก็พยักหน้าเล็กน้อย
"คุณหนู หิวแล้วเหรอคะ?"
"ม-ไม่ใช่สักหน่อย"
"แต่จะว่าไป ทำไมถึงได้เรียก[คุณหนู]อยู่อีกล่ะ"
"เอ... ก็เรียกมาอย่างนั้นตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วนี่คะ"
"บ้าจริง ถ้างั้น อยากเรียกอะไรก็เชิญตามใจเลย"
โจวจังงอน น้ำตาเริ่มคลอ
ทามาโมะโนะมาเอะดูจะไม่ค่อยเข้าใจ ว่าทำไมคุณหนูถึงได้มีทีท่าแบบนั้นกับเธอ
"กรุณาเรียกดิชั้นว่า[ทามาโมะโนะมาเอะ]เหมือนเดิมเถอะค่ะ องค์กรของเราจะได้ไม่เสียปกครอง"
"คุณหนูน่ะ เป็นถึงผู้นำของ"อาราฮาบากิ" จะมาเลือกปฏิบัติไม่ได้นะคะ "
"ร-รู้แล้วน่า"
โจวทำเสียงประชด แล้วก้มหน้าซุกหัวเข่า (ซาซามิพากย์ให้ : แง๊~ ทางนี้ก็อยากจะอ้อนหม่าม้าเหมือนกันนะ)
ด้วยฐานะของโจวจังในตอนนี้ เธอจึงไม่สามารถพูดอย่างนั้นได้
ซาซามิเองก็อยากจะช่วย แต่พอคิดดูอีกทีการที่เธอโผล่มาที่นี่ก็คล้ายกับจะเป็นก้างขวางคอกลายๆ
แต่พอจะชิ่งหนี ก็เจอคุณหนูหันมาจ้องเขม็งเหมือนกับจะพูดว่า "จะหนีไปไหนยะ เดี๋ยวฆ่าทิ้งซะหรอก" เข้าไปอีก
"ทานเสร็จแล้ว เดี๋ยวดิชั้นจะล้างจานให้นะคะ"
"อ๊ะ ให้ชั้นทำเองๆ"
โจวจังเข้าไปขวางทามาโมะโนะมาเอะที่เพิ่งจะลุกขึ้นเอาไว้
"หม่า...ทามาโมะโนะมาเอะน่ะ เพิ่งจะฟื้นกลับมาเมื่อวานเองไม่ใช่เหรอ ให้ออกแรงมากๆไม่ดีหรอก เดี๋ยวจะเกิดเรื่องเอา เพราะงั้น..."
"ขอประทานโทษด้วยค่ะ"
ทามาโมะโนะมาเอะยอมกลับไปนั่งที่เดิมด้วยท่าทางหงอยๆ หูจิ้งจอกบนหัวก็พลอยพับตกไปด้วย
ซาซามิชักเริ่มทนไม่ไหว
"มา! เรื่องล้างจานให้ฉันจัดการเอง! ไหนๆก็มาขอเค้าอยู่อยู่แล้ว จะให้นิ่งดูดายไม่ได้หรอก!"
เดี๋ยวจะเปลี่ยนชื่อเรื่องให้เป็น ซาซามิซัง@พยายามสุดๆ ให้ซะเลย
ทามาโมะโนะมาเอะไม่รอช้า รีบกุลีกุจอเปิดตู้เย็นหยิบขวดพลาสติกออกมารินน้ำชาแจกให้ทีละแก้วๆ ราวกับว่าขนาดเจ้าตัวก็ยังลืมเรื่องกลุ้มใจของตัวเองไปหมดแล้ว
"ดื่มเยอะๆนะคะ"
รอยยิ้มสดใสของทามาโมะโนะมาเอะที่มอบให้ซาซามินั้นแฝงด้วยคำขอบคุณอย่างยิ่ง
จะว่าไป ทั้งเธอและซาซามิเองก็เคยปะทะกันในฐานะศัตรูตั้งไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว และก็ยังไม่เคยได้พูดคุยกันดีๆสักที
ไหนๆก็พยายามฝ่าฟันมาถึงขนาดนี้ ต้องเสียน้ำตาไปก็ไม่น้อย กว่าจะสร้างปาฏิหาริย์แล้วกลับมาพบกันใหม่อีกครั้งได้แบบนี้
มันก็ต้องมีรางวัลให้กันบ้างล่ะ
"ขออนุญาตแนะนำตัวก่อน--- ฉันชื่อสึคุโยมิ ซาซามิค่ะ"
"จากนี้ไป คงต้องขอฝากตัวด้วยสักระยะค่ะ!"
"... ไม่ต้องสุภาพขนาดนั้นก็ได้ค่ะ"
ทามาโมะโนะมาเอะทำหน้าตาตื่นๆ ทำนองว่าจะมาแนะนำตัวกับสาวใช้อย่างดิชั้นทำไม ไม่กลัวเสียหน้าเหรอ?
ซาซามิกุมมือเล็กๆของอีกฝ่ายเอาไว้แน่น
"ได้โปรด ยกลูกสาวให้ฉันด้วยเถอะค่ะ!"
SasamixKagami shipperfags gonna cry now.
http://imgur.com/plVJbQ7
".............."
ขนาดท่าทีตอนตกใจของทามาโมะโนะมาเอะยังดูน่ารัก
จริงๆแล้วซาซามิตั้งใจแค่ว่าจะทำให้บรรยากาศความตึงเครียดผ่อนคลายลงสักหน่อยด้วยการพูดอะไรพิลึกๆ แต่ดูเหมือนจะพลาดไปซะสนิท
ทามาโมะโนะมาเอะอ้ำอึ้งอยู่พักหนึ่ง จึงค่อยเรียบเรียงคำพูดออกมา
"เอ่อ คือว่า ....ระหว่างที่ดิชั้นไม่อยู่เนี่ย คุณหนูไปมีรสนิยมแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กันคะ จู่ๆก็มาบอกกันแบบนี้ ดิชั้นเองก็ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกันค่ะ"
"เดี๋ยวเถอะ! นี่เธอพูดพล่ามอะไรออกมายะ !"
ซาซามิโดนคุณหนูหวดด้วยม้วนกระดาษหนังสือพิมพ์ไปหนึ่งดอก
"จะละเมออะไรก็รอให้หลับซะก่อนเถอะย่ะ! อยู่ๆมาโพล่งข้อมูลอะไรไม่รู้แบบนั้นออกมา หม่าม้าก็เข้าใจผิดกันพอดีสิ"
"อะไรกันน่ะ โจวจัง! ทั้งที่ฉันรักโจวจังมากขนาดนี้แท้ๆ! ทั้งที่เราไปถึงขั้นจูบกันแล้วแท้ๆ!"
"เงียบไปเลยนะ! หุบปากเลยด้วย! อย่าพูดนะ! ไปตายซ้า!!~"
คุณหนูจับซาซามิอุดปาก
ทามาโมะโนะมาเอะเห็นทั้งสองคนเป็นแบบนั้นก็หัวเราะคิกคัก
โจวจังก็ทักว่าที่ขำออกคงเพราะเข้าใจแล้วสินะว่าซาซามิพูดเล่น
"เปล่าหรอกค่ะ คุณหนู ดิชั้นแค่รู้สึกดีใจขึ้นมายังไงก็ไม่รู้"
"ในที่สุดก็มีเพื่อนสนิทวัยเดียวกันแล้วสินะคะ..."
รอยยิ้มของทามาโมะโนะมาเอะในตอนนี้ เหมือนกับรอยยิ้มของคนเป็นแม่เสียจริงๆ
โจวจังหน้าแดงแจ๋ ระหว่างที่แขนสองข้างยังใช้ท่าโช้คสลีปเปอร์กับซาซามิ
"ม-ไม่ใช่สักหน่อย พูดอะไรน่ะ ยัยนี่น่ะเป็นคนใช้ตะหาก! เป็นทาสของชั้น! เหมือนกับเธอและก็คนอื่นๆนั่นแหละ! อย่าเข้าใจผิดไปสิ! ...หม่าม้า?"
โจวจังเงยหน้าขึ้นมองทามาโมะโนะมาเอะที่เงียบไปด้วยความเป็นห่วง
ร่างกายของเธอดูอ่อนเปลี้ยเพลียแรง ตาปิดไปข้างหนึ่งด้วยความเหนื่อยอ่อน
"หม่าม้า!"
คุณหนูผละจากซาซามิไปหาทามาโมะโนะมาเอะในทันที ตอนนี้เธอดูสับสนไปหมดไม่รู้ว่าต้องทำยังไง
ชั่ววูบหนึ่งเธอก็ตัดสินใจใช้ท่าตบหยอกแมวต่อหน้าทามาโนะโนะมาเอะที่จู่ๆก็หลับไป
เสียงดังเพียะใหญ่ตรงหน้าทำเอาทามาโมะสะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกรอบ
"ข-ขออภัยค่ะ รู้สึกว่าจะเผลอหลับไป"
"อะไรกัน นี่ยังฟื้นกลับมาไม่เต็มที่เลยนี่นา จากนี้ช่วยอยู่นิ่งๆไปจนกว่าจะหายดีแล้วกันนะคะ"
"เดี๋ยวจะอุ้มไปที่เตียงให้ วันนี้นอนพักก่อนก็แล้วกันค่ะ"
ทามาโมะโนะมาเอะดูมีสีหน้ากังวล
"ท-ทำไมวันนี้คุณหนูถึงได้ใจดีอย่างนี้ล่ะคะ รู้สึกไม่ค่อยดีพิกล"
"อะไรน๊าาาาา!! พูดอะไรไม่พูด ดันพูดว่ารู้สึกไม่ค่อยดีงั้นเรอะ! แก้ใหม่เดี๋ยวนี้เลยนะ!"
"อื้อออ อ๋อโอ๊ดอ๊าาาา"
ทามาโมะที่โดนคุณหนูดึงแก้มพูดไม่เป็นภาษา
โจวจังค่อยๆอุ้มทามาโมะโนะมาเอะที่ยังน้ำตาซึมอยู่ขึ้นมาโดยไม่ลำบากมากนัก
"ว่าแต่ ตัวเล็กจังเลยนะคะ... นี่ป๊ะป๋าเค้าทำสาวตัวแค่นี้ท้องเหรอเนี่ย...?"
"ท-ที่ดิชั้นอยู่ในร่างนี้น่ะก็เพราะว่ามีเรื่องให้ต้องเสียพลังวิญญาณไปหรอกนะคะ ร่างจริงที่สมกับฉายา "สาวงามล่มเมือง"อย่างดิชั้นน่ะ เซ็กซี่กว่านี้เยอะ--- "
"อื้ม ชักอยากฟังเรื่องของหม่าม้าสมัยนั้นแล้วสิ"
ดูเหมือนโจวจังจะตัดสินใจได้แล้วว่าจะเรียกว่าหม่าม้าหรือทามาโมะโนะมาเอะ
ตัวเธอที่หลงทางมานาน โดยไม่เคยล่วงรู้เลยว่ามีแม่ที่รักเธอที่สุดคอยอยู่เคียงข้างมาตลอด คงไม่มีทางปล่อยให้สิ่งสำคัญหลุดลอยไปไกลจากตัวอีกแล้ว
ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็พร้อมจะเผชิญหน้ากับอุปสรรคไม่เคยถอยหนี นั่นล่ะคือคุณสมบัติของโจวจัง
"มีเรื่องอยากคุยด้วยเยอะแยะเลย แต่พอไม่ใช่คำสั่งแล้ว แบบนี้ยังจะเล่าให้ฟังอีกรึเปล่านะ?"
เจอสายตาออดอ้อนของลูกสาวจ้องเอาแบบนั้น ทามาโมะโนะมาเอะเองก็เริ่มออกอาการรู้ตัวว่าโดนอ้อนอยู่เหมือนกัน
อาการปวดหัวมึนงงก็พลันหายไปในทันที ด้วยความสุขซะจนล้นใจ
"เอาเถอะ ถ้าอยากรู้ขนาดนั้นล่ะก็... จะยอมเล่าให้ฟังก็ได้ค่ะ"
หางทั้งเก้าที่กระดิกไปมาเหมือนจะตอบแทนให้ซะอย่างนั้น
ต่อจาก >>199
1 สัปดาห์ผ่านไป หลังจากการคืนชีพของทามาโมะโนะมาเอะ
พวกซาซามิยังคงต้องวิ่งวุ่นกันรอบเมืองเพื่อเก็บสะสมบารมีกันใหม่ตั้งแต่ต้น (เพราะโดนใช้ไปจนหมดเกลี้ยงตอนที่สร้างปาฏิหาริย์คืนชีวิตให้ทามาโมะ)
ด้วยผลกระทบต่อเนื่องจากเหตุการณ์ดอดจ์บอลนรกที่ทำให้ปรภพรุกล้ำเข้ามาสู่เมืองนี้ ทำให้สภาพทางวิญญาณของเมืองแปดเปื้อนไปหมด
แม้ต้นตอของปัญหาอย่างอิซานามิจะกลับปรภพไปแล้ว ก็ยังมีภาระอีกมากมายให้พวกเธอต้องคอยตามล้างตามเช็ด
อย่างเช่นการปัดเป่าพวกเทพหน้าตาเหมือนสัตว์ประหลาดที่ถือกำเนิดขึ้นจากความแปดเปื้อน ที่ไม่เกินกว่าความสามารถของพวกเธอที่แปลงร่างเป็นสาวน้อยพิทักษ์ธรรม หรือการช่วยแก้ไขปัญหาให้ผู้คนที่สัมผัสกับความแปดเปื้อนจนความรู้สึกด้านลบทวีคูณจนอยากฆ่าตัวตาย ไม่ว่าอันไหนก็ได้บารมีตอบแทนทั้งนั้น
การเก็บสะสมบารมีกำลังไปได้สวย
คุณหนูเองพอมีฐานที่มั่นแล้วก็ออกจากบ้านไปไล่เก็บบารมีตั้งแต่เช้าทุกวัน (ทามาโมะถึงจะเป็นห่วงแต่ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี)
"แต่ว่าแบบนี้มันจะดีเหรอ...?"
บารมีที่คุณหนูเก็บมาได้ช่วงนี้ เจ้าตัวยกให้ซาซามิหมด ทั้งที่ซาซามิเองทำได้แค่คอยสนับสนุน
"นอกจากคุณทามาโมะโนะมาเอะแล้ว โจวจังก็ยังต้องช่วยท่านอาวาชิมะอีกไม่ใช่เหรอ?"
ฝั่งซาซามิที่ต้องช่วยสร้างปาฏิหาริย์ให้คืนชีวิตกลับมา ก็มีสองคนเช่นกัน คือคามิโอมิ และมิจจัง(ชื่อชั่วคราว)
"ไม่เป็นไรหรอกน่า"
จากคำบอกเล่าของวิษณุ มิจจัง(ชื่อชั่วคราว) นั้นกำลังเข้ารับการรักษาจากพวกศาลเจ้าสึคุโยมิอยู่ ส่วนท่านอาวาชิมะนั้นก็แค่เสียพลังวิญญาณไปเฉยๆ ปล่อยไว้สักพักก็กลับมาเอง
ดังนั้นคนที่เป็นปัญหามากที่สุดก็คือพี่ชายของซาซามิ สึคุโยมิ คามิโอมิ
"แต่ว่า โจวจังเองก็ตกที่นั่งลำบากแบบนี้ ยังไงก็ต้องคว้าเอาของตัวเองไว้ก่อนไม่ใช่เหรอ มาช่วยฉันแบบนี้มันก็ออกจะ---อะอะอะโอ้ย"
ซาซามิกำลังเดินอยู่ดีๆ ก็โดนคุณหนูดึงผมไว้
"พูดบ้าอะไรกันล่ะ ชั้นน่ะ ไม่ใช่คนถือตัวอะไรขนาดนั้นหรอกนะ"
โจวจังทำเสียงดุ พลางเอานิ้วจิ้มจมูกซาซามิ
"ก็คราวนี้พูดกันไว้แล้วไม่ใช่รึไงว่าจะมาพยายามด้วยกันสองคน จะให้ชั้นได้ประโยชน์อยู่ฝ่ายเดียวแบบคราวก่อนมันก็ไม่แฟร์น่ะสิ
นี่พูดเลยนะ ที่มาใจดีด้วยอยู่อย่างนี้ก็เพราะว่าสบายใจเรื่องที่หม่าม้าฟื้นมาแล้วหรอก สำนึกไว้ซะด้วยล่ะ "
ว่าแล้วก็ฮัมเพลงอย่างสบายอารมณ์
"จากนี้ไป ถ้ายังจะมาเกรงใจกับเรื่องแปลกๆอีกจะต่อยให้ปลิวเลย โอเค๊?"
"เข้าใจล่ะ งั้นเรามาแต่งงานกันเถอะ โจวจัง"
"อืม... เอ๊ย!?... ให้ตายสิ! เผลอเออออไปด้วยไม่ได้เลยนะ! ยัยมนุษย์ติ๊งต๊อง! อย่าได้ใจไปนัก! เห็นชั้นยอมให้แบบนี้ แต่เรื่องที่ชั้นกับเธอน่ะเป็นศัตรูกันน่ะ มันยังไม่เปลี่ยนแปลงไปหรอกนะ ไว้รอจบเรื่องคราวนี้เมื่อไหร่ เตรียมรับศึกใหม่ได้เลย!"
แต่แล้วก็มีสิ่งหนึ่งโผล่มาขัดจังหวะจนทำให้คุณหนูถึงกับชะงัก
ซาซามิเห็นอย่างนั้นก็ถามเธอว่าเกิดอะไรขึ้น ทางด้านคุณหนูก็บอกให้เงียบแล้วทำเสียงกระซิบกระซาบ บอกให้ดูอะไรสักอย่าง
ร่างที่ซาซามิคุ้นตา เดินอยู่บนถนนที่ตัดผ่านย่านการค้า
"คุณแม่?"
สึคุโยมิ จูจู มิโกะแห่งสึคุโยมิ อยู่ในชุดมิโกะเหมือนอย่างเคย ในมือข้างหนึ่งมีถุงผ้าสำหรับจ่ายตลาดอยู่
"เจอกันที่นี่ก็สวยสิ! สึคุโยมิ จูจู! เจ้าศัตรูของป๊ะป๋า! เตรียมตัวตายซะเถอะ!!"
ต่อจาก >>200
ระหว่างที่ซาซามิยังคิดอยู่ว่าคุณแม่ของเธอมาทำอะไรที่นี่ โจวจังก็แปลงร่างเป็นสาวน้อยพิทักษ์ธรรมแล้วพุ่งเข้าใส่สึคุโยมิ จูจู
อีกแล้วเรอะ...
ยังไงซะก็คงโดนอัดร่วงเหมือนตอนสุซาโนโอะอยู่ดีนั่นล่ะ... ซาซามิคิด
แต่ดูเหมือนเธอจะคิดตื้นไปหน่อย เพราะพลังที่วิษณุเทพสูงสุดของฮินดูประทานมาให้นั้น ถึงจะสู้เทพผู้กล้าไม่ได้ก็จริง แต่ก็ยังประมาทไม่ได้อยู่ดี
"หือ"
สึคุโยมิ จูจู มองโจวที่พุ่งเข้าใส่แบบไม่คิดชีวิตด้วยท่าทีประหลาดใจ
"เจ้าคือ---"
"ตายซ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!"
โจวจังในร่างสาวน้อยพิทักษ์ธรรมควงจักรเข้าจู่โจมคุณแม่ของซาซามิ
ใบจักรที่ลับจนคมกริบด้วยพลังวิญญาณถูกซัดออกไปสุดแรง
ตัดร่างของสึคุโยมิ จูจูออกเป็นสองส่วนอย่างงดงาม
"......."
ซาซามิพูดอะไรไม่ออก
จักรที่หมุนกลับเข้ามาสู่มือของโจวจัง ไม่มีแม้รอยเลือด
ภาพแม่ตัวเองที่ถูกตัดขาดเป็นสองท่อน แต่ยังเคลื่อนไหวได้อยู่ ทำเอาซาซามิแทบล้มทั้งยืน
"จ...โจวจัง..."
"ทำไม....ถึงทำกับคุณแม่แบบนี้ล่ะ โจวจัง... ฆาตกร!!"
"ม-ไม่ใช่นะ! แม่เธอไม่ยอมป้องกันตัวเองนะ! ชั้นไม่ได้ตั้งใจฆ่าสักหน่อย!!"
โจวจังที่เถียงกลับสุดชีวิตเองก็ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อยู่เหมือนกัน
"ให้ตายสิ... จู่ๆมาทำอะไรเนี่ย"
มีเสียงเซ็งๆออกมาจากร่างที่ถูกแยกเป็นสองท่อน แล้วควันสีชมพูก็พุ่งขึ้นมาปิดร่างเอาไว้
พอควันจางหายไปก็เหลือเพียงกระดาษรูปร่างเหมือนคนถูกตัดขาดเป็นสองส่วนตกอยู่บนพื้น
สรุปว่าที่ขาดสองท่อนไปเมื่อกี้ ก็คือชิกิกามิ(ภูตรับใช้)ตัวแทน
ต่อจาก >>201
"ไม่ยอมปกปิดทั้งพลังวิญญาณทั้งจิตสังหาร แถมพอรู้ว่าเป็นเหยื่อล่อแล้วก็ยังไม่รีบหนีอีก ...ดูท่าพวกเจ้านี่คงอยากตายกันจริงๆสินะ"
ร่างที่ร่อนลงมาแตะพื้นเบาๆ จ้องมองมาที่โจวจังที่น้ำตายังไม่ทันแห้งดีด้วยสายตาเหยียดๆ
"ที่แท้ก็ของดูต่างหน้าที่ถูกลืมของ"อาราฮาบากิ"เองหรอกรึ--- มีธุระอะไรแถวนี้ล่ะ"
"น่าเสียดายนะ ตอนนี้เราไม่ได้มีเวลาเหลือเฟือพอจะมาเล่นกับเจ้าเสียด้วย"
เธอกำหมัดไว้แน่น ขณะยังคงท่าทีที่ไม่เคยยี่หระอะไรไว้ตามเดิม
"เมื่อหลายวันก่อน ดูเหมือนว่าเมืองนี้จะโดนปรภพรุกล้ำเข้ามาด้วยวิธีการบางอย่าง... ตัวเราที่ฟื้นกลับมาจากความตายเองก็ได้รับผลกระทบจากความแปดเปื้อนพวกนั้นเหมือนกัน"
สึคุโยมิ จูจู บ่นว่าตอนนี้พลังวิญญาณส่วนใหญ่ของเธอสลายไปเกือบหมด จนแทบจะกลายเป็นคนธรรมดา
"หืม... งั้นก็ดีสิ ร่างกายอ่อนแออย่างนี้ยังกล้ามาโผล่หน้าให้ศัตรูอย่างชั้นเห็นอีก! คราวนี้ล่ะ จะได้โอกาสล้างแค้นให้ป๊ะป๋าซะที!"
แถมรอบนี้อีกฝ่ายยังเป็นตัวจริง ไม่ใช่ร่างตัวแทนซะด้วย
"ช่างไม่หลาบจำเสียจริงๆ"
"ถึงจะอ่อนแอลง แต่เราก็ยังไม่ได้ด้อยไปกว่าลูกเจี๊ยบเช่นเจ้าหรอกนะ"
คราวนี้ฝั่งจูจูก็พร้อมรับมือเช่นกัน
"เดี๋ยวก่อน! หยุดทั้งคู่นั่นแหละ! แถวนี้คนผ่านไปมาตั้งเยอะแยะเดี๋ยวก็เป็นเรื่องเอาหรอก!!"
ระหว่างที่ซาซามิห้ามไว้ ทั้งคู่ก็เตรียมออกอาวุธกันแล้ว
"โจวจังน่ะ ตอนที่คุณทามาโมะโนะมาเอะไม่อยู่ก็เศร้าเหมือนกันไม่ใช่เหรอ? ทางนี้ก็เหมือนกันนั่นแหละ ความรู้สึกที่เสียแม่ไปน่ะ ตัวเองก็น่าจะรู้ดีที่สุดแท้ๆ!"
"อ-อะไรกัน---"
คุณหนูอ้ำอึ้งเหมือนมีอะไรจะพูดต่อ แต่ก็เถียงไม่ออก
ตอนที่เจอกับอิซานามิโนะมิโคโตะแล้วเถียงไม่ออกสักคำนั่นก็เหมือนกัน ตอนนี้ฝ่ายตรงข้ามที่เป็นแม่คนคงกลายเป็นของแสลงของเธอไปแล้ว
ชีวิตที่ต้องทำร้ายกัน แย่งชิงกันน่ะ มันเจ็บปวดนะ
ซาซามิที่คิดเช่นนั้น อาจจะดูมองโลกในแง่ดีไปหน่อย
แต่เธอกลับไม่ได้สังเกตเลยว่า ตัวเองนั้นไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะเป็นห่วงใครได้อีกแล้ว
จนกระทั่งได้ยินคำพูดนั้น
"เจ้า---"
สึคุโยมิ จูจู มองหน้าซาซามิด้วยความประหลาดใจ
"เป็นใครกัน?"
หัวใจของซาซามิ แทบหยุดเต้น
อีกแล้ว...
ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ ซาซามิมีคำถามคาใจอยู่ข้อหนึ่ง
คนที่ลืมเรื่องของเธอไป นอกจากทามะ และสึรุกิแล้ว
ยังรวมไปถึงคุณแม่ของเธอด้วยรึเปล่า...?
"คุณแม่คะ"
แค่จะพูดคำนั้นออกมา ซาซามิยังทำไม่ได้เลย
เธอรู้สึกแค่ว่ามีใครคนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้ ถามเธอว่า "เป็นอะไรรึเปล่า?" ด้วยความห่วงใย
เสียงนั้นทำเอาเธอได้แต่ร้องไห้ออกมาในใจ
"ฮึ นี่ถ้าเป็นพวกวิญญาณร้าย เราคงลงมือไล่ไปแล้วล่ะ"
จูจูตอบเสียงอ่อน
ต่อจาก >>202
แล้วเสียงของใครคนหนึ่งก็แทรกเข้ามา
"โธ่... คุณแม่เอาอีกแล้วเหรอคะเนี่ย ...ก็บอกแล้วไงคะว่าพวกภูตผีน่ะไม่มีจริง !"
ราวกับฝันร้ายของซาซามิ
"เดี๋ยวสิ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?"
คุณหนูพูดเสียงสั่น
ซาซามิเองก็รู้สึกเช่นเดียวกัน ใครที่ยืนหัวเราะอยู่เคียงข้างคุณแม่ของเธอตรงนั้น
แต่พอได้เห็นหน้า เธอก็จำได้
ใบหน้าที่เธอเคยเห็นในกระจกทุกวัน
ปลายผมที่ม้วนกลม และเครื่องแบบโรงเรียนโคโนะฮานะซาคุยะ
สาวน้อยร่างเล็ก ท่าทางเหมือนคนสุขภาพไม่ค่อยดี
เหมือนกับตัวเธอก่อนที่จะถูกแปรสภาพให้กลายเป็นเด็กประถมด้วยพลังของวิษณุไม่ผิดเพี้ยน
นั่นมัน... "ตัวฉัน" อีกคนหนึ่งนี่นา
ตอนนี้เริ่มเข้าสู่บทการหายตัวไปของสึคุโยมิ ซาซามิ ที่เคยเกริ่นไว้แล้วนะ
ตามอ่านสปอยล์ซาซามิตาแฉะเลย...
ต่อจาก >>203
"อืม ค่ะ ขอโทษที่โทรปลุกนะคะหม่าม้า อาการเป็นยังไงบ้าง? ถ้างั้นก็นอนพักซะนะคะ เงียบเลยนะ หรือจะให้สั่ง? พักผ่อนซะเถอะค่ะ หน้าที่หม่าม้าตอนนี้มีแค่นั้นแหละ"
ระหว่างที่โจวจังโทรศัพท์หาทามาโมะโนะมาเอะ เจ้าตัวเองก็ยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
"พูดอะไรบ้าๆ ไม่เป็นไรหรอกน่า แค่มีเรื่องติดใจนิดหน่อยเท่านั้นแหละ อ้อ คืนนี้หนูค้างที่บ้านซาซามิซังนะคะ ม-ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย! เข้าใจผิดแล้วหม่าม้า!"
"หนูกับซาซามิน่ะ เป็นคู่แข่งกันนะ! ฮึ หม่าม้าเนี่ยล่ะก็! แต่เรื่องนั้นน่ะช่างเถอะ หม่าม้าน่ะ อยู่เฉยๆไปก่อนก็แล้วกัน ตอนนี้น่ะร่างกายหม่าม้ายังอ่อนแออยู่นะรู้มั้ย"
พอคุยเสร็จ โจวจังก็วางสาย แล้วเก็บมือถือใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อตามเดิม
"เฮ้อ ต้องให้เป็นห่วงอยู่เรื่อยเลย หม่าม้าเนี่ย"
"คุยเสร็จแล้วเหรอ?"
ซาซามิถามแบบเนือยๆ
"อืม พออธิบายไปว่าจะว่านอนค้างบ้านซาซามิซัง ให้หม่าม้านอนพักรักษาตัวไปก่อน ก็เจอถามเลยว่าจะให้เอาเสื้อผ้าไว้เปลี่ยนไปให้มั้ย เฮ้อ ไอ้เราก็อยากให้พักอยู่เฉยๆแท้ๆ"
มีแถมให้ด้วยว่าไปนอนค้างแล้วอย่าเอาแต่เล่นเกมทั้งคืนด้วยล่ะ
เป็นบทสนทนาที่สมกับเป็นแม่ลูกเสียจริงๆ
สำหรับซาซามิในตอนนี้ โจวจังช่างเป็นตัวตนที่เจิดจ้าเหลือเกิน
เมื่อเทียบกับเธอที่ถูกกระทั่งคุณแม่ของตัวเองลืม
ณ แมนชั่นโอโมฮิคาเนะ สถานที่พักที่ทางศาลเจ้าสึคุโยมิจัดไว้ให้คุณแม่ของซาซามิ ผู้ไร้ทักษะในการใช้ชีวิตเช่นคนปกติ
แม้จะยังอยู่ในช่วงที่มิจจัง(ชื่อชั่วคราว) ผู้รับหน้าที่ทำงานบ้านจะไม่อยู่ แต่สภาพแมนชั่นยังดูสะอาดสะอ้านเรียบร้อย
จนพวกซาซามิที่แอบเข้ามาสังเกตการณ์ ยังต้องแปลกใจ
นี่คงเป็นฝีมือของคนที่ใครเห็นก็ต้องนึกว่าเป็นซาซามิเป็นแน่
ต่อจาก >>206
จากการแอบฟังคุณแม่ เธอคนนั้นรู้สึกจะชื่อว่า "สึคุโยมิ ฮิรุเมะ"
เธอตื่นแต่เช้า ไปโรงเรียนทุกวัน ใช้ชีวิตอย่างปกติสามัญชน
ที่น่ากลัวคือกลับไม่มีใครตั้งคำถามเลย ว่าเธอแตกต่างไปจากซาซามิตัวจริง
ซาซามิไม่เข้าใจ แบบนี้แปลว่านอกจากโจวจังแล้ว ไม่มีใครที่จำเธอได้เลยงั้นเหรอ?
ทำไมตัวปลอมอย่างฮิรุเมะถึงเข้ามาสวมรอยแทนได้?
ยิ่งไม่เข้าใจว่าทำไม เรียกท่านวิษณุไปเท่าไหร่ก็ไม่ยอมตอบกลับมาสักที
ด้วยเหตุนี้ พวกเธอจึงมองไม่เห็นทางอื่นนอกจากลอบเข้ามาตรวจสอบเรื่องตัวตนของสึคุโยมิ ฮิรุเมะด้วยตัวเอง
"...หวา!?"
แม้พลังของสึคุโยมิ จูจูจะอ่อนลง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะจับสัมผัสของพวกเธอที่แอบเข้ามาไม่ได้เลยเสียทีเดียว
ซาซามิที่ลงไปนอนกลิ้งบนเสื่อด้วยความตกใจ เงยหน้าขึ้นมาก็เห็นคุณแม่ของตัวเองที่ถือยันต์ไว้ในมือ จ้องเขม็งมาจากทางในครัว
ตอนนี้ซาซามิไม่ได้อยู่ในฐานะลูกสาว แต่เป็นวิญญาณอะไรสักอย่างที่จับสัมผัสได้ไม่ชัด
"นี่คุณแม่ทำอะไรคะเนี่ย!?"
คนถาม ไม่ใช่ซาซามิ
แต่เป็นฮิรุเมะที่เพิ่งเสร็จจากการเตรียมวัตถุดิบสำหรับทำอาหารค่ำที่เอาออกมาจากตู้เย็น
เธอมัดผมดูทะมัดทะแมง สวมผ้ากันเปื้อน มีกระทะอยู่ในมือ ดูท่าทางตกใจ
"ไม่มีอะไรหรอก สงสัยแค่พวกวิญญาณเร่ร่อนแถวนี้น่ะ"
ในสายตาของจูจูตอนนี้ ซาซามิตกชั้นไปเป็นวิญญาณเร่ร่อนที่ต้องไล่ไปให้พ้นๆซะแล้ว
"โธ่ คุณแม่ล่ะก็ เอาอีกแล้วนะ ก็บอกแล้วไงคะ--- ว่าผีน่ะไม่มีจริง~"
ฮิรุเมะจังที่ดูจะยึดมั่นกับคอมมอนเซนส์แบบนั้น พูดแบบยิ้มๆ
"คุณแม่คะ เดี๋ยวตีไข่เสร็จแล้วช่วยหันผักต่อด้วยนะ"
"ฮิรุเมะนี่ก็ ใจคอจะไม่ให้แม่ได้พักบ้างเลยหรือไงกัน"
"ก็ปกตินี่คะ จะบ้านไหนๆ คุณแม่ก็ต้องเป็นคนทำอาหารทั้งนั้นแหละ"
"อืม จริงด้วย ก็เราเป็นแม่ของฮิรุเมะนี่นะ"
จูจูพึมพำแล้วก็เตรียมอาหารต่อไปแบบเก้ๆกังๆ แถมท่าจับมีดก็ยังผิดเหมือนคนไม่เคยเข้าครัวเสียอย่างนั้น
ที่จริงมันควรจะเป็นภาพของครอบครัวที่น่ารักน่าชัง
เพียงแต่ว่า ซาซามิไม่ได้อยู่ตรงนั้น
คนที่อยู่ตรงนั้นแทนที่เธอ คือคนที่เธอไม่เคยรู้จัก
ถึงจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ถึงจะไม่รู้ว่ามันแปลว่าอะไร
แต่ที่ยืนของเธอในโลกนี้ ก็ดูเหมือนจะถูกใครไม่รู้ที่ชื่อว่า "สึคุโยมิ ฮิรุเมะ" ช่วงชิงไปเสียแล้ว
ต่อจาก >>207
ลำพังแค่ตอนที่เกือบโดนยันต์โจมตีจากคุณแม่เข้าไปก่อนหน้านี้ ซาซามิก็ทรุดลงไปกองกับพื้น จนแทบร้องไห้ออกมาด้วยความสมเพชตัวเองแล้ว
"เป็นอย่างนี้ไปได้ยังไงกันนะ"
โจวจังทำท่าสงสัย พลางยื่นมือดึงซาซามิให้ลุกกลับขึ้นมา
ไม่มีใครเลยที่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงจากการที่ สึคุโยมิ ฮิรุเมะ เข้ามาแทนที่ซาซามิ
ราวกับว่าอีกฝ่ายมีตัวตนอยู่ตรงนั้นตั้งแต่แรก
นี่ล่ะคือความน่ากลัว
เหมือนกับว่ามีภูตสลับร่าง (changeling) ดอปเปลแกงเกอร์ หรือทริคลับลวงพรางอันใดในนิยายนักสืบ ที่สลับคนอื่นเข้าไปแทนตัวเธอ
จนโลกรอบกายรับรู้ว่าคนอื่นนั้นเป็น "ตัวจริง"
ส่วนตัวซาซามิเอง กลับกลายเป็นเพียงวิญญาณเร่ร่อน
พวกสามพี่น้องยากามิที่ลืมเรื่องของเธอไป ก็คงไม่ได้ติดใจสงสัยอะไรกับเรื่องคราวนี้เหมือนกัน
อะไรบางอย่างที่ตบตาเทพที่แข็งแกร่งอย่างพวกเธอได้ อะไรบางอย่างที่เป็นต้นตอของการสมคบคิดครั้งนี้ กำลังเคลื่อนไหวอยู่
ซาซามิรู้สึกเหมือนกับตัวเองพลัดหลงมาในอีกมิติหนึ่ง มิติที่ไม่มี"ตัวเธอ"อยู่
โลกคู่ขนานที่เป็นเรื่องราวของ "สึคุโยมิ ฮิรุเมะ"
บทสนทนาของแม่ลูกในครัวยังดำเนินต่อไป
ขณะที่ซาซามิได้แต่มอง พลางคิดในใจว่าสมควรแล้วหรือที่คนอย่างเธอจะเข้าไปทำลายภาพบรรยากาศอบอุ่นแบบนี้
น้ำตาของเธอมันก็เริ่มเอ่อล้นออกมา
"เห็นเธออยู่ดีๆก็จิตตกแบบนี้แล้วมันรำคาญชะมัด ทุเรศลูกกะตาซะจนอยากไล่ไปตายให้พ้นๆเลยล่ะ"
คุณหนูใจร้ายตามเคย...
"แต่ชั้นเคยบอกแล้วไม่ใช่เหรอ ถึงทุกคนในโลกนี้จะลืมเธอไปจนหมด ชั้นก็จะยังคอยอยู่ตรงนี้เสมอ สบายใจเถอะ เลิกร้องไห้ได้แล้ว"
โจวจังสงสัยว่านี่คงเป็นฝีมือของใครสักคนที่ประสงค์ร้ายกับซาซามิ ซึ่งถ้าหากมันเป็นการสมคบคิดแล้ว พวกเธอที่ไม่รู้ทั้งตัวจริงและจุดประสงค์ของอีกฝ่ายเลยก็ตกอยู่ในภาวะเสียเปรียบ
แต่ถ้าเกิดต้องสู้กันขึ้นมา แล้วพวกเธอจัดการเจ้าตัวปัญหาได้ล่ะก็
งานนี้คงได้บารมีมหาศาลเป็นแน่
ต่อจาก >>208
"อย่างแรกเลยก็ต้องสืบเรื่องของยัยฮิรุเมะอะไรนั่นให้ทุกกระเบียดซะก่อน จะว่าไป--- ชื่อนี้มันคุ้นๆเหมือนเคยได้ยินที่ไหนกันนะ"
"อื้ม น..นั่นสินะ มา... พยายาม.... กันต่อเถอะ"
"จะว่าไป เจ้าพวกนี้ก็มองไม่เห็นเรามาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วเหมือนกันสินะ"
โจวจังเหมือนจะคิดอะไรแผลงๆอีกแล้ว
"ไม่นึกเลยว่า สึคุโยมิ จูจูที่ชั้นเกลียดนักเกลียดหนาจะมีวันที่อ่อนแอได้ถึงขนาดนี้ด้วย นี่ล่ะโอกาสแก้แค้นชั้นดีเลย"
"หนี้แค้นที่หยามชั้นไว้ตอนสงครามกรุงทรอย จะจับเขียนหน้าเล่นซะให้เข็ด"
"ไม่เอาน่า..."
ซาซามิปราม แต่ก็คิดในใจว่าถ้าไม่ใช่จะฆ่าแกงกันแบบก่อนหน้านี้ จะทำอะไรก็ทำไปเถอะ
แล้วฮิรุเมะที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเพราะมองไม่เห็น ก็เดินเข้ามาใกล้ทั้งคู่
"หวา!?"
เธอรู้สึกเหมือนเดินไปชนเข้ากับกำแพงที่มองไม่เห็น หน้าอกของโจวจังนั่นเอง
"อ-อะไรเล่า---- อ้อ จริงสิ มองไม่เห็นอยู่นี่นะ ฮะฮะ งี่เง่าชะมัดเลยยัยนี่"
คุณหนูจ้องหน้าฮิรุเมะ ก่อนคิดว่าจะลองแกล้งดูสักหน่อย
ว่าแล้วเธอก็ลองดึงผมฮิรุเมะจนคอเอียง ดึงแก้มสองข้างเล่น และอื่นๆ
"ม-ไม่เอาน่า โจวจัง"
"ไรเล่า ไม่ดีหรือไง จะได้ตรวจสอบร่างกายของยัยนี่ไปด้วยในตัวเลย"
(จริงๆคือเห็นเป็นของเล่นใหม่ที่หน้าตาเหมือนซาซามิ)
"ไม่ได้นะ! ถ้าจะเล่นก็มาเล่นฉันแทนสิ! แบบนี้ไม่เอานะ ฮิรุเมะจังน่ะอยากจะเอาอะไรจากฉันก็เอาไป แต่สิทธิ์ในการโดนโจวจังแตะเนื้อต้องตัวน่ะต้องเป็นของฉันคนเดียวรู้มั้ย!!"
"นี่เธอมีสิทธิ์อะไรพรรค์นั้นด้วยเรอะ....!?"
แต่ในชั่ววูบนั้น ร่างของโจวจังก็ทรุดลงเหมือนกับจะเป็นลมหมดสติ
แล้วระหว่างนั้น ฮิรุเมะที่ก้าวต่อไปแบบงงๆ ก็เดินผ่านเธอไปแบบไม่รู้สึกอะไร
"หนังสือพิมพ์ หนังสือพิมพ์~"
ฮิรุเมะฮัมเพลงไประหว่างเดินไปรับหนังสือพิมพ์รอบเย็น
"ป-เป็นอะไรไปเหรอ?"
"..........?"
โจวจังที่ท่าทางเหมือนกลับมาตั้งหลักได้อีกครั้ง เอามือประกบปากตัวเองเอาไว้ สีหน้าซีดเผือด
จากนั้นจึงตะโกนไล่หลังฮิรุเมะไปว่า
"ธ-เธอน่ะ เมื่อกี้ ---ทำอะไรลงไปกันแน่!?"
เช่นเคย แม้ถึงจะอยู่ตรงหน้า แต่ฮิรุเมะที่เดินจากไป ก็ยังไม่รู้สึกถึงตัวตนของพวกเธอเลยแม้แต่นิด
ต่อจาก >>209
คืนนั้น พวกซาซามิตัดสินใจค้างคืนกันที่แมนชั่นของคุณแม่ ที่ยังมีห้องหับไม่ได้ใช้อยู่อีกหลายห้อง
ถึงจะจับสัมผัสพลังวิญญาณจากฮิรุเมะจังแทบไม่ได้เลย แต่พวกซาซามิก็ยังคอยสังเกตการณ์ต่อแบบไม่วางตา
ใจจริงเธออยากจะรีบเก็บสะสมบารมีไปช่วยพี่ชายให้เร็วขึ้นแม้สักนาทีก็ยังดี
แต่ตอนนี้เธอคิดได้แล้วว่าควรจะเลี่ยงความรู้สึกที่ตั้งหน้าตั้งตาจะทำตามเป้าหมายของตัวเองให้สำเร็จ จนถึงขนาดที่ยอมเอาตัวเข้าแลกโดยไม่คิดหน้าคิดหลังไปซะก่อนจะดีกว่า
เพราะปัญหาตอนนี้ มันอยู่ที่ว่า
"สึคุโยมิ ฮิรุเมะ เป็นใครกันแน่?"
"ทำไมเธอถึงได้เข้ามาแทนที่ตัวฉัน(สึคุโยมิ ซาซามิ) เหมือนกับว่าสลับร่างกันได้แบบนี้?"
"และทำไม นอกจากโจวจังแล้ว ทุกคนถึงได้ลืมเรื่องของเธอไปหมด?"
การหายตัวไปของวิษณุเองก็น่าสงสัย เพราะพวกเธอเองที่เป็นฝ่ายเชื่อคำพูดของวิษณุและยอมทำสัญญาเป็นเทพเพื่อสร้างปาฏิหาริย์แต่แรก
แต่ถ้าหากเรื่องที่วิษณุพูดมากลับกลายเป็นแค่คำโกหกที่แฝงไว้ด้วยเจตนาร้ายล่ะ?
ถ้าหากสถานการณ์วุ่นวายที่พวกเธอกำลังผจญอยู่นี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของแผนการลวงโลกครั้งใหญ่ล่ะ?
ยิ่งคิดไป ก็ยิ่งหาทางออกไม่ได้
ต่อจาก >>210
หลังจากที่ยืมห้องอาบน้ำและชุดนอนใช้โดยพลการแล้ว ทั้งสองสาวที่ยังตัวอุ่นๆอยู่ก็จัดแจงเอาผ้านวมที่ใช้สำหรับรับแขกมาปูเป็นที่นอนเคียงกัน
สายตาของซาซามิเหม่อมองฝ่าความมืดอันบางเบาขึ้นไปยังเพดาน ในค่ำคืนของปลายฤดูร้อนที่แต่งแต้มด้วยเสียงของหมู่แมลง
"อุตส่าห์เฝ้ามาทั้งวัน สุดท้ายก็ยังไม่รู้อยู่ดีนะ ว่าฮิรุเมะจังเป็นใครกันแน่"
"เอ๋? อ้อ อืม..."
ห้องนั้นเองก็ไม่ได้กว้างขวางอะไรนัก ผ้านวมที่พวกเธอใช้ปูนอนจึงชิดกันเสียจนรู้สึกได้ถึงไออุ่นจากร่างกายของอีกฝ่ายที่นอนอยู่ข้างๆ
แต่เสียงตอบจากโจวจังกลับค่อยเสียจนซาซามิต้องขยับหน้าเข้าไปใกล้ๆกว่าเดิม เพื่อจะฟังให้ชัดๆ
"พรุ่งนี้ ลองตามไปดูที่โรงเรียนกันเถอะ ยังไงพวกสามพี่น้องยากามิก็จับสัมผัสพวกเราที่อยู่ในสถานะเทพแบบนี้ได้อยู่แล้ว ถึงตอนนั้นค่อยคุยกัน
ถึงจะยังจำไม่ได้ แต่ถ้าได้ฟังเรื่องที่ฉันอธิบายแล้ว พวกเค้าต้องเข้าใจแน่..."
ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ
"โจวจัง?"
ซาซามิแตะไหล่ของอีกฝ่าย
"หวา!?"
ทางนั้นถึงกับสะดุ้งแล้วหันกลับมาหาเธอด้วยท่าทางตื่นๆ
โจวจังในตอนนี้หน้าแดงแจ๋ หนังตาตก... อาการแบบนี้มัน...
"โจวจัง เป็นอะไรรึเปล่า? ท่าทางเหมือนไข้ขึ้นเลย เหนื่อยเหรอ?"
"อืออ... อืม ไม่มีอะไรหรอกน่า"
คุณหนูทำเสียงแข็ง แต่ท่าทางหนาวสั่น ก่อนจะมุดกลับเข้าไปในผ้านวมตามเดิม
ซาซามิหลับตาลง เธอได้แต่เป็นห่วงโจวจัง แต่อีกใจหนึ่งก็ยังกังวลกับเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น
"ขอโทษนะ ที่ฉันเอาแต่พึ่งโจวจังอยู่เรื่อย ทั้งที่เรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวกับโจวจังแท้ๆ"
ซาซามิควานหามือของโจวจังในความมืด และกุมมันเอาไว้
โจวจังสะดุ้งอีกครั้ง แต่ก็ไม่ได้ปัดมือออก
มือข้างนั้นของซาซามิค่อยๆไล่ไปตามสัมผัสอันเรียบลื่นของเรียวนิ้วของเธอ
"ฉันกลัว... เมื่อกี้นี้ฉันมาลองนึกดูแล้ว ถ้าเกิดว่าฉันเป็นตัวปลอมขึ้นมาล่ะ ถ้าเกิดว่าทุกอย่างมันเป็นเพราะฉันเข้าใจผิดไปเองล่ะ"
ก็ไม่มีใครจำฉันได้เลยนี่นา
หรือว่าทุกอย่างมันจะเป็นเรื่องที่ฉันละเมอเพ้อพกไปเองตั้งแต่แรก
หรือว่าที่ผิดแปลกไปจะเป็นความทรงจำของฉันเอง
ยิ่งคิดก็ยิ่งกลัวขึ้นมาจับใจ
ซาซามิดึงมือของโจวจังขึ้นมาทาบที่แก้ม
นั่นคือสิ่งเดียวที่เธอพอจะพึ่งได้ในตอนนี้
"ถ้าเกิดโจวจังลืมฉันไปอีกคน ฉันคง---"
น้ำตาของซาซามิค่อยๆกลั่นออกมาจากความปวดร้าวในใจ
"มันคงเป็นบทลงโทษ เป็นการชดใช้สินะ ทั้งที่เป็นแค่มนุษย์แท้ๆ กลับมาคิดสร้างปาฏิหาริย์เอาเองตามใจชอบ
คราวนี้น่ะ ฉันแค่ออกเดินทางไปหน่อยเดียว เพียงเพื่อจะตามหาวิธีที่จะพาคนสำคัญกลับคืนมา
ไม่ได้คิดเลยด้วยซ้ำว่าจะละทิ้งสิ่งสำคัญหรือชีวิตปกติสุขที่เคยมีไปให้หมด
กะว่าพอเสร็จเรื่องก็จะรีบกลับมาแท้ๆ
แต่มันกลายเป็นว่า ที่อยู่ของฉันในโลกนี้มันหายไปหมดตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้... "
ต่อจาก >>211
เธอกลัว จนตัวสั่นไปหมด
ก่อนที่เสียงของเธอจะละลายหายไปกับความมืด โจวจังที่รับรู้ได้ถึงความรู้สึกนั้นก็หันมาสบตากับซาซามิ
"ไม่เป็นไรหรอก"
คุณหนูลูบหัวซาซามิในร่างเด็กน้อยเบาๆ
เธอเองก็เคยรุ้สึกแบบเดียวกัน
"ชั้นน่ะ พอตกกลางคืนแบบนี้ บางทีก็นึกถึงเรื่องแย่ๆ เรื่องน่ากลัว ไม่ก็เรื่องที่ทำให้ไม่สบายใจ ขึ้นมาบ้างเหมือนกัน"
"ด้วยพลังของ"อาราฮาบากิผู้ไม่ยอมสยบ"ที่พัวพันเข้ากับวิญญาณของชั้น มันทำให้ชั้นดูดกลืนพลังของเหล่าเทพได้ก็จริง
แต่พวกที่ถูกดูดเข้ามานั่นก็ไม่ได้หายไปไหนหรอก ยังคงมาโหวกเหวกโวยวายอยู่ในจิตของชั้นนี่แหละ
ทั้งเสียงของชั้น ทั้งจิตใจของชั้น จะโดนพวกนั้นเป่าหายไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ "
สิ่งนี้คือความจริงของเรื่องหนักใจที่เธอเก็บไว้คนเดียวตลอดมา แต่ไม่เคยแสดงออกให้เห็นถึงความอ่อนแอ
"การที่เป็นร่างรวมของเหล่าเทพ มันทำให้ตัวตนของฉันเบาบางลง ถ้าประมาทนิดเดียวล่ะก็ มีหวังได้ถูกกลืนหายไปแน่ "
"แต่ว่านะ แต่ละครั้งที่ชั้นกอด"ตัวชั้น"เอาไว้ แม้ว่ามันจะเป็นยังไงก็ตาม ชั้นก็จะกัดฟันสู้ ค่อยๆเรียบเรียงสิ่งที่ประกอบขึ้นมาเป็นตัวชั้นออกมาทีละอันๆ"
"สีผม ผิวสัมผัส สีที่ชอบ ของที่กิน บทสนทนาที่เคยคุย ความรู้สึกที่เคยสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นความเจ็บปวด หรือความโศกเศร้า อะไรก็ตามที่นึกได้ ชั้นจะกอดมันไว้ให้หมด"
"เพราะทั้งหมดนั่น มันคือชิ้นส่วนของตัวชั้น ที่ประกอบขึ้นมาเป็นตัวชั้น"
"เธอเองก็เหมือนกัน"
มือที่ประสานกันไว้ในตอนแรก เลื่อนมาวางอยู่ตรงหน้าของทั้งคู่
สายตาที่ประสานกัน ตอกย้ำถึงเรื่องราวที่พวกเธอได้ถักทอขึ้นมาจนถึงตอนนี้
ต่อจาก >>212
"คนน่ารำคาญอย่างเธอ จะให้ลืมลงได้ไงล่ะ ชั้นน่ะจำได้หมดแหละ เธอคงลืมไปแล้วสินะ ครั้งแรกที่เราพบกัน ตอนที่เธอตักหิมะอยู่น่ะ เธอใส่เสื้อกันหนาวหลายชั้นซะจนตัวกลมเป็นตุ๊กตาหิมะเลยนะ"
"ชั้นน่ะ ยึดติดกับตำแหน่ง ถึงได้เอาแต่ประกาศปาวๆว่าเป็นคู่แข่งฟ้าลิขิต แต่พอเริ่มเข้าเรียน เธอก็กลับเอาแต่ตีมึนทำเป็นไม่รู้เรื่องไปซะเฉยๆ"
"จริงสิ--- ตอนนั้นเราแลกเบอร์มือถือกันด้วยนี่นะ ตอนนั้นน่ะชั้นไม่เข้าใจเลยว่าเธอจะทำอะไรกันแน่ ก็เลยเผลอทำอะไรงี่เง่าไปซะเยอะเลย"
โจวจังพูดเรื่องเก่าด้วยท่าทีสนุกสนาน
เมื่อครั้งแรกที่พบกัน ตัวเธอที่ปากคอเราะร้ายนั้นก็เป็นเหมือนกระบองเพชรที่มีหนามแหลมคม
แต่พอได้รู้จักกัน สนิทกันจนได้จับมือถือแขน ก็ค่อยรับรู้ถึงความน่ารักขึ้นมาทีละนิด
จะไม่ใช่เพื่อนหรือเปล่าก็ไม่รู้ ---แต่คำว่า"พวกเธอ"ในตอนนี้ ก็หาคำอะไรมาแทนไม่ได้แล้ว
"ตอนที่เกาะคุซึริวนั่น ขนาดชั้นวางแผนมาซะดิบดีแต่ก็ยังแพ้ซะหมดรูปเพราะพวกเธอ แต่ทะเลที่พวกเราได้ดูด้วยกันหลังจากที่เรื่องทุกอย่างในตอนนั้นจบลง มันก็สวยมากจริงๆ"
"ตอนสงครามกรุงทรอยเองก็เหมือนกัน โดนเห็นอะไรน่าอายๆไปตั้งเยอะ ถึงตอนสุดท้ายมันจะจบด้วยเรื่องเศร้าก็จริง แต่ระหว่างนั้นน่ะ ชั้นสนุกมากเลย"
คุณหนูยกมือของซาซามิขึ้นมาทาบไว้ที่แก้มตัวเอง ให้ความอบอุ่นจากกายเธอเป็นคำตอบอีกครั้ง ว่าเธอยังอยู่ตรงนี้
"เธอน่ะเป็นคนบอกเองไม่ใช่เหรอ ว่าเรื่องที่ทำเองคนเดียวไม่ได้ก็มีอยู่เหมือนกัน"
ปัญหาของโจว คือการที่เธอต้องทิ้งชีวิตแบบคนธรรมดาไปเพื่อคงสภาพวิญญาณของตัวเองเอาไว้
โจวจังยิ้มแบบฝืนๆ
"ชั้นน่ะรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับป๊ะป๋าก่อนตายไม่ได้ เลยได้แต่เดินตามอุดมคติที่คนอื่นวางไว้ แต่เพราะเธอ ชั้นถึงได้เปลี่ยนแปลงเป็นคนใหม่
แต่ชั้นก็ยังไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเองอยู่ดี จะให้ทำไงได้ล่ะ น่าหงุดหงิดชะมัดเลย ชั้นน่ะเกลียดเธอที่สุดเลยรู้มั้ย... ฮึฮึ"
ซาซามิมีคำถามหนึ่งขึ้นมาในใจ จึงส่งเสียงเรียกอีกฝ่ายแบบกล้าๆกลัวๆ
"โจวจัง"
ไม่มีเสียงตอบอันใด
"จ-โจวจัง ขอโทษนะ หลับแล้วเหรอ? ขอขโมยจูบแบบไม่ทันตั้งตัวอีกสักรอบได้เปล่า~?"
"....ไว้ชาติหน้าเถอะย่ะ"
คุณหนูตอบกลับ ท่าทางสลึมสลือ
"เธอน่ะ มันเป็นยัยบ๊องไร้สมรรถภาพ ดังนั้นคิดถึงแต่เรื่องตัวเองเอาไว้ก็พอ แล้วก็นะ หัดเอาแต่ใจตัวเองเข้าไว้ซะด้วย
ถึงว่ายัยฮิรุเมะนั่นจะเป็นตัวเอกประเภทเด็กดีขยันทำงานบ้านก็แล้วไงล่ะ แต่เธอก็ยังเป็นเธออยู่ดี มั่นใจตัวเองหน่อย"
"ถึงฉันจะคิดแบบนั้นได้ก็เถอะ แต่ฉันก็ไม่ได้เก่งเหมือนโจวจังอยู่ดีนี่นา"
"ถ้างั้นก็เข้มแข็งหน่อยสิ ยัยบ้า เธอน่ะเป็นศัตรูคู่อาฆาตของชั้นนะ ขอร้องล่ะ พยายามหน่อยเถอะ ชั้นคาดหวังในตัวเธออยู่นะ"
"เธอน่ะ ...ถ้าจะทำก็ทำได้นี่นา"
ช่างเป็นถ้อยคำจากคู่แข่งฟ้าลิขิต ที่ชวนให้อบอุ่นไปทั้งหัวใจ
จนซาซามิไม่ได้นึกเลยว่า นั่นจะเป็นคำพูดสุดท้ายก่อนจากลาของเธอกับโจวจัง
เหลือคนเดียวแล้ว จากนี้ก็เข้าสู่ช่วงสุดท้ายของบทนี้จริงๆซะที (สงครามครั้งใหญ่ของภูตน้อยผู้เดียวดาย+ขอปาฏิหาริย์จงบังเกิดอีกครั้ง)
นิยาย LC แล้ว จะหยุดโพสสปอยไหม?
สปอย ไม่ใช่แปล โพสไปเหอะ!
ไม่ใช่แปล....555
ควายสัด
ใครได้ลิขสิทธิ์ไป?
ไอ้โม่งนักแปล พวกมึงโดนก็อปแน่ๆ
งั้นสปอยล์เล่ม 11 ให้นะครับ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
-สึรุกิตาย
ใครบอก เล่ม 11 น่ะ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
-ผมไม่ได้อ่าน
ปกแผ่น 5
ส่วนสปอยล์ก็... อืม เอาไงดี จริงๆกะรอลงต่อพร้อมปกแผ่นนี้นะเนี่ย
เอาไว้ถ้าโดนเซนชูปล่อยเกาะแล้วจะรีเทิร์นก็แล้วกัน
ปล. >>221 เป็นสปอยล์จริง
ตอบ >>225
http://imgur.com/urkG4Mc
เติม あたしと選んでけよ?」 ปิดท้ายประโยค พอดีมันหลุดไปอีกหน้า
อ่านเรื่องLCแฟนซับในนี้แล้วเพิ่งนึกได้ว่าลืมบอกไปอย่างนึง นิยายต้นฉบับซาซามิเป็นมุมมองบุคคลที่หนึ่ง แต่ที่เอามาลงในนี้คือแปลงเป็นบุคคลที่3แถมตัดฉับๆ และทั้งหมดที่พิมพ์มาคือ200หน้าแรกของเล่ม6
บอกไว้ก่อนเดี๋ยวอาจจะมีคนทัก เวลานิยายของจริงออก
http://imgur.com/TgHLXQe
ปกแผ่นสุดท้าย แล้วเจอกันใหม่
เข้ ไม่ได้เข้ามา 2 เดือน LC แล้วเรอะ ต้องรออีกกี่ปีกว่ามันจะออกทันสปอยล่ะวะเนี่ย
ยี้ คากามิ
ชาฟท์ก่าก
http://imgur.com/enF7a6P
http://imgur.com/KXEmAMl
http://imgur.com/MRUPAlS
http://imgur.com/6KKqMjQ
http://imgur.com/hnkfZ0e
http://imgur.com/e4gRaoP
http://imgur.com/4kEFCy4
http://imgur.com/fWaFCei
http://imgur.com/JWNmqwP
http://imgur.com/CHL6FOu
http://imgur.com/FTF6u8h
http://imgur.com/BiSj783
http://imgur.com/wJmShPN
SS2 มาหน่อยไอ้หำ!! หรือจะให้ดีเอาแมลงลูกตามาทำก็ได้ Akira เหมือนกัน
จะทำให้จบ sละ12 ตอน คงต้อง 3s
ของอากิระ เรื่องใหม่ที่มีแววก็ 大奥のサクラอยู่ค่ายเดียวกับมอนไดจิ http://imgur.com/SeZPfEO
明日から頑張る
歌:月読 鎖さ美 (CV:阿澄佳奈)
昨日も今日もヌクヌクのベッドの上で過ごしてる
柔らかい毛布に抱まれて安心したい
ちょっとダルい 面倒くさい
そう言えば誰かがやってくれる
甘えたい ゆるされたい これが私の日常
だって頑張りすぎると疲れちゃうし
リセットしてるだけなの
ホントはもうわかってる
明日は頑張ってみよう
生産的な行動しよう
あなたが 靴ひも結んでくれるなら
一緒に出かけたりして
デートみたいだねって言って
笑ったり 泣いたり
リアルな世界ってキラキラしてるよ
想像よりも素敵だね
引きこもるのも楽じゃない
深夜アニメをチェックして
動画編集したら通販も あぁ忙しい
身勝手だって言われても 守ってくれる人がいる
無理しない 頑張らない それが私の愛情
だって頑張りすぎると疲れちゃうよ
心は正直だから
足りない何か わかってる
明日は頑張ってみよう
計画的に過ごそう
みんなに会いたい こんな風に思うなんて
なんだか違う人みたい
ちょっと変わったんだねって言って
笑ったり すねたり
リアルな世界ってキラキラしてるよ
想像よりも嬉しいね
明日は頑張ってみよう
生産的な行動しよう
私が行く先 今度は決めるから
一緒に出かけたりして
デートみたいだねって言って
笑ったり 泣いたり
リアルな世界ってキラキラしてるよ
想像よりも楽しいね
LaLaLa…… きっと素敵だね
ลืมแปะคลิป คาราซองค์ซาซามิ ทั้ง 6 เพลง
http://www.youtube.com/watch?v=iasRMpHntjI&list=PLOCrboXEwsny6aDotAFQmEsTnkUd9DlKP
กำหนดวันออก ささみさん@がんばらない 12 (ガガガ文庫)((文庫))
เดือน 12 วันที่ 18
ほんとうの「ハッピーエンド」を探して
神様たちが消え、不思議なことは何一つなくなり、穏やかで優しい日常。
邪神三姉妹、そしてお兄ちゃんがいた頃の記憶を、忘れかけていたささみ。
そんな生ぬるい「楽園」ーーハッピーエンドは……
「納得ーーできるかぁぁぁぁぁぁぁぁぁぁ!!」
押しつけられたハッピーエンドに唾を吐きかけて、薄ら寒い平和な「日常」に後ろ足で砂を引っかけて、旅立とう。
「もう少しだけがんばる」終わりの、あとの物語。
本当のフィナーレへ、アニメ化もされた大人気シリーズ、完結!
นิยายอวสานสิ้นปี ซี2คงได้แค่ฝัน
เฮ้อ อยากเห็นโนโซมิกับรูรูนะเป็นอนิเมจัง
อยากเห็นมุชิเมดามะเป็นอนิเมะมากกว่า
เด็กซ์ได้ไปแล้ว... ไม่ใช่โรสแฮะ
จะขายได้เรอะ..
กูซื้อBDไปแล้ว
นึกว่าซื้ออยู่คนเดียวซะอีก BD ของไทยมาก็คงซื้ออีกรอบล่ะนะ
นิยายเล่มจบเลื่อนไป มค.แล้ว
อัพเดทเพิ่ม นิยายเล่ม12 เลื่อนไปไหนก็ไม่รู้แล้ว... หายไปจากตารางออกของGAGAGAเลย
เล่ม11 ออกมาจะครบปีละ เงียบสนิททั้งGAGAGA และเซนชู
เล่ม1ไทยออกแล้วใช้ชื่อว่า "คุณซาซามิ@ไม่พยายามหน่อยเหรอ"
ขุดไว้ก่อน เดี๋ยวคงมีคนมาQC (มั้ง)
ชื่อไทยน่ารักดี กูชอบนะ ซื้อมาแล้วแต่ยังไม่แกะเลย
กูเข้ามาเพราะอ่านชื่อมู้ผิดเป็น จุดตกต่ำของซาฟท์
กำลังอ่านอยู่ ขัดใจคำว่า ม่ะมะ กับ ปะป๊ะ นิดหน่อย แต่ปล่อยไปเพราะต้นฉบับทามะก็ภาษาวิบัติพอกัน
จบบทวาเลนไทน์ละ มีความผิดพิสูจน์อักษรหลุดมาสามจุดได้ บทพูดหยาบๆเป็นไทยแล้วหยาบไม่สุดเท่าไหร่
ที่ชอบสุดก็บทพูดทามะ แปลเป็นไทยแล้วปัญญาอ่อนดีมาก โดยสรุปคือดีกว่ามาตรฐานเซนชูที่โดนด่ากระจุยเยอะ ถ้าดูอนิเมไม่รู้เรื่องก็ลองซื้อมาอ่านดู
ส่วนคากามิ คำพูดติดปาก โดนถอดเสียงเป็น ฟุนย้าาาา 555555555
เออ ถอดเสียงมาเป็นฟุนย้านี่ขำมาก 55555
Topic has reached inactivity threshold.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.