แอบโผล่หน้ามาเงียบๆ บ่นว่ากูสั่งปรมาจารย์กับนายอินทร์ แต่ตอนนี้ยังมิได้ของเลย ว่าแล้วก็แปะ
สปอยเทียนกวานอาร์ค 5 ต่อจาก >>492 เทียนกวาน Part.151
.
.
.
.
.
เซี่ยเหลียนถูกไป๋อู๋เซียงจับใส่หน้ากากเข้าคู่กัน อีกฝ่ายยังพยายามพูดโน้มน้าวให้เขามาเป็นศิษย์ แต่เซี่ยเหลียนก็เมิน เปลี่ยนเรื่องถามว่าหลางอิ๋งคือองค์ชายรัชทายาทคนแรกของหย่งอันใช่หรือเปล่า ไป๋อู๋เซียงตอบว่าใช่ เพื่อป้องกันไม่ให้คนนอกรู้ว่าเชื้อเชื้อสายกษัตริย์ติดโรค พวกขุนนางจึงตั้งใจฆ่าหลางอิ๋ง แล้วหาคนมาสวมรอยแทน ทว่าหลางอิ๋งก็หนีออกมาได้และกลายเป็นผี เมื่อไป๋อู๋เซียงพบเด็กชายจึงเล่าความจริงว่าเซี่ยเหลียนเป็นคนก่อเหตุในวันนั้น หากให้ความร่วมมือเขาก็จะช่วยล้างแค้นให้ แต่ด้วยหน้าตาแบบนั้นจะเป็นคนหรือผีก็ย่อมไม่มีใครคิดทำดีด้วย ให้เขากินไปย่อมดีกว่ามีชีวิตต่อ ตอนนั้นจู่ๆ เซี่ยเหลียนก็เรียกคนตรงหน้าว่าฝ่าบาท พอเห็นไป๋อู๋เซียงทำท่าเหมือนจะเผลอตอบรับคำเรียก เซี่ยเหลียนก็จี้ถามต่อว่าแท้จริงแล้วอีกฝ่ายก็คือองค์ชายรัชทายาทแห่งอู๋หย่งใช่หรือไม่ เซี่ยเหลียนไม่คิดว่าเขาที่ทำให้เขาสามารถเข้าใจภาษาอู๋หย่งเป็นจวินอู๋ เพราะตามประวัติ มหาเทพเกิดหลังจากอู๋หย่งล่มสลายไปแล้ว เพราะฉะนั้นจึงเหลือแค่ราชครูกับไป๋อู๋เซียงเท่านั้น อีกทั้งอีกฝ่ายยังทำให้เตาดีดฮวาเฉิงออกไป คนที่จะออกคำสั่งกับเตาใจกลางอาณาจักรอู๋หย่งได้จะเป็นใครได้นอกจากองค์ชายรัชทายาทคนนั้น
เศวตไร้หน้าโจมตีใส่เซี่ยเหลียน เซี่ยเหลียนเลยเรียกอีกฝ่ายว่าองค์ชายรัชทายาทรัวๆ เห็นเซี่ยเหลียนยังใช้กระบี่ฟางซิ่นเป็นอาวุธ ไป๋อู๋เซียงก็บอกว่าความจริงแล้วกระบี่เล่มนี้มีชื่อว่าจื่อซิ่น (หทัยสังหาร) แล้วจู่ๆ เซี่ยเหลียนก็ร้องว่ามีใครอีกคนอยู่ที่นี่ด้วย เศวตไร้หน้าบอกว่าตนไม่หลงกลลวงของเซี่ยเหลียน ทว่าเซี่ยเหลียนเห็นใบหน้าใหญ่ยักษ์สะท้อนในกระบี่จริงๆ พออีกฝ่ายย้ำว่าที่นี่มีแค่หินกับลาวา เซี่ยเหลียนก็นึกบางอย่างออก ไม่นานนักก็มีร่างใหญ่ยักษ์พุ่งโจมตีใส่ไป๋อู๋เซียง มันคือรูปปั้นหินยักษ์ขององค์ชายรัชทายาทผู้เป็นที่รักของพระเจ้าที่ฮวาเฉิงปั้นไว้และบอกว่าเป็นงานปั้นที่ดีที่สุดของตนนั่นเอง
เซี่ยเหลียนอาศัยจังหวะขึ้นไปเกาะบนรูปปั้นก่อนใช้พลังสั่งให้มันกระโดดหนีออกไปจากเตาได้สำเร็จ พอร้องเรียกหาฮวาเฉิง อ๋องผีก็รีบขึ้นมาอยู่บนรูปปั้นด้วยสีหน้าร้อนใจเพราะก่อนหน้านี้ไม่อาจเข้าไปในเตาช่วยเซี่ยเหลียนได้ ไม่นานนักภูเขาก็เริ่มสั่น ตอนที่เซี่ยเหลียนขับกันดั้มหนีภูเขาก็ระเบิดควันสีดำออกมา เมื่อมองดีๆ ก็เห็นว่ากลุ่มควันนั้นคือคำสาปหน้าคน ฮวาเฉิงที่เห็นไป๋อู๋เซียงรีบบอกตำแหน่งให้เซี่ยเหลียนใช้กันดั้มต่อยวันพันช์ใส่เป้าหมาย ทว่าเศวตไร้หน้าก็หลบได้อย่างรวดเร็วแล้วใช้พลังเดอะเฟลชเขามาโจมตีใส่เข่าของกันดั้มจนล้มคุกเข่า ตอนนั้นเซี่ยเหลียนก็หันไปเห็นว่าเตาระเบิดลาวาออกมาด้วยจึงรีบขับกันดั้มหนี ส่วนไป๋อู๋เซียงก็อาศัยจังหวะนั้นหลบไปเช่นกัน
กลุ่มควันกับลาวาไล่ตามพวกเซี่ยเหลียนมาติดๆ แต่จู่ๆ กันดั้มก็ล้มลงเพราะพลังของเซี่ยเหลียนหมด ฮวาเฉิงเลยดึงเซี่ยเหลียนมาม๊วฟส่งพลังให้ขับกันดั้มได้ต่อ แล้วเซี่ยเหลียนก็นึกได้ว่าเผยหมิงกับเทพแห่งฝนยังอยู่ที่นี่จึงตั้งใจกลับไปรับ แต่พอหันไปก็สะดุดกับภูเขาผี 3 ลูก เขาขับกันดั้มวิ่งหนีทำเอาบ้านเมืองโบราณสถานเสียหายยับๆ แต่สุดท้ายก็ถูกภูขาทั้งสามล้อมไว้ ด้วยพลังแห่งรักและการให้กำลังใจจากอ๋องผี เซี่ยเหลียนจึงบังเกิดพลังดันพวกมันออกไปได้ ก่อนชักกระบี่ออกมา อนิจจากระบี่ถูกปั้นไว้แต่ด้ามจับ มิได้ปั้นใบดาบไว้ในฝักแต่อย่างใดจนฮวาเฉิงต้องขอโทษขอโพยบอกว่าคราวหน้าจะกลับไปปั้นให้ เซี่ยเหลียนเลยรีบปลอบก่อนโยนด้ามกระบี่ทิ้งแล้วโกยต่อ
ฮวาเฉิงใช้ผีเสื้อเป็นโทรศัพท์ให้เซี่ยเหลียนคุยกับเผยหมิง มู่ฉิงกับเฟิงซิ่น ดูเหมือนทุกคนรวมทั้งพวกเผยซู่จะไปรวมตัวกันที่แม่น้ำอู๋หย่งเรียบร้อยแล้ว เซี่ยเหลียนเลยบอกให้ทุกคนรอตรงนั้นเขาจะไปรับ พอเห็นกันดั้มทุกคนก็ถึงกับติดสตั๊นเพราะไม่เคยเห็นรูปปั้นเทพองค์ใดใหญ่โตขนาดนี้มาก่อน และในตอนที่ทุกคนขึ้นมาอยู่บนกันดั้มแล้ว พวกเขาก็เห็นคำสาปพยายามจะออกจากออกไปสู่โลกภายนอก ขณะที่เซี่ยเหลียนบอกว่าโชคดีที่เขาตงลู่มีบาเรียกั้นไว้ ฮวาเฉิงก็แย้งขึ้นมาว่าตอนนี้ไป๋อู๋เซียงได้ใช้พลังเปิดบาเรียของเขาตงลู่ออกแล้ว
Note : เผื่อลืมไปแล้ว องค์ชายรัชทายาทของอู๋หย่งคือคนที่ประวัติคล้ายๆ เซี่ยเหลียน เคยเป็นเทพที่รักของทุกคน สุดท้ายก็ถูกผู้คนทำลายอารามเหมือนกัน ภาพวาดสุดท้ายที่เซี่ยเหลียนเห็นคือองค์ชายติดโรคหน้าคน
.
.
.
.
.