สปอยเทียนกวานอาร์ค 3 ต่อจาก >>68 เทียนกวาน Part.119
.
.
.
.
.
ปรกติคาถาคุ้มครองของเทพแห่งฝนทำให้วัวไม่ทิ้งรอยเท้า เป็นไปได้ว่านี่จะเป็นรหัสบอกว่าอีกฝ่ายได้ต่อสู้กับอะไรบางอย่างซึ่งอาจเป็นชายชุดดำที่ฆ่าผีไป 1000 ตนที่ว่าก็ได้ ขณะเดียวกันฮวาเฉิงก็สัมผัสได้ว่าสิ่งที่อยู่ทางตะวันออกได้เปลี่ยนทิศการเคลื่อนไหว พวกเขาจึงออกเดินทางไปตะวันตกต่อด้วยความระวัง จนกระทั่งมาถึงอารามศักดิ์สิทธิ์ของอู๋หย่ง แม้ป้ายอารามจะเขียนด้วยภาษาที่พวกเขาอ่านไม่ออก แต่ด้วยความที่ฮวาเฉิงเคยติดอยู่ในเขาตงลู่ถึง 10 ปีจึงพอแกะตัวอักษรได้บ้าง นอกจากชื่อสถานที่ยังมีประโยคที่พอจับใจความได้ว่าองค์ชายรัชทายาทขึ้นสวรรค์พร้อมแสงสว่างที่สาดส่องอู๋หย่ง แสดงว่าชาวอู๋หย่งบูชาองค์ชายรัชทายาทซึ่งได้เป็นเทพ เช่นนั้นทำไมราชครูถึงได้โกหกเซี่ยเหลียนว่ารัชาทายาทสิ้นพระชนม์ ไม่ได้ขึ้นสวรรค์กัน
เผยหมิงเปรยว่าถ้ามหาเทพอยู่ด้วยก็น่าจะพอถามได้ แต่ฮวาเฉิงก็บอกว่าจวินอู๋เพิ่งได้ขึ้นสวรรค์เมื่อราว 1500 ปีก่อน อีกทั้งเทพที่มีอายุมากกว่านั้นก็ล้วนถูกลืมเลือนหายไปแล้วจนสิ้นเลยไม่มีใครที่น่าจะให้ถามเรื่องของอาณาจักรอู๋หย่งได้ พอเข้าไปในอารามพวกเขาก็พบว่าทุกอย่างเป็นสีดำ ซึ่งอ๋องผีบอกว่าอารามทุกแห่งในอู่หย่งเป็นเช่นนี้ทั้งหมด เซี่ยเหลียนที่เคยเห็นอารามของตัวเองถูกเผามาหลายครั้งสังเกตออกทันทีว่าที่นี่คงถูกไฟไหม้ไม่ต่างกัน แล้วเขาก็นึกขึ้นได้ว่าหินจารึกด้านนอกก็มีร่องรอยเหมือนถูกกระบี่ฟัน หรือว่าอารามแห่งนี้จะถูกทำลายโดยชาวอู๋หย่งเอง
ขณะที่ซีเรียสกันจู่ๆ แม่ทัพเผยก็โวยวายเพราะถูกงูหางแมงป่องของปั้นเยวี่ยกัด พอเค้นความจริงถึงได้รู้ว่าอีกฝ่ายแต๊ะอั๋งราชครูสาวโดยอ้างว่าพออยู่ในที่มืดดูน่ากลัว เลยเผลอกอดปลอบสาวไม่ให้วิตกโดยสัญชาตญาณ ตอนที่เซี่ยเหลียนบอกว่าในเมื่อเป็นเทพเดี๋ยวพิษงูก็สลายเอง เขาก็หันไปเห็นภาพใบหน้าบนกำแพงที่ยังไม่เสียหายเพราะไฟไหม้เลยเข้าไปพยายามแกะส่วนที่ไหม้ออก เพราะพวกเขาอาจได้ข้อมูลว่าเขาตงลู่เกิดขึ้นได้อย่างไร ทำไมถึงสร้างเจวี๋ยขึ้นได้จากภาพพวกนี้ เมื่อฮวาเฉิงชมว่าถ้ามีเซี่ยเหลียนช่วยสืบต้องได้ความมากกว่าที่เขาเคยได้แน่ เซี่ยเหลียนก็ชมอีกฝ่ายกลับว่าสืบเก่งกว่า สักพักแม่ทัพเผยก็ทนไม่ไหวแล้วขอตัวออกไปสูดอากาศข้างนอก
ทั้งสองช่วยกันแกะสีที่ไหม้ออกจนได้เห็นภาพที่ยังคงเหลืออยู่ ทว่าพอพิจารณาสีดีๆ ก็รู้สึกได้ว่าภาพนี้น่าจะถูกวาดเมื่อไม่กี่ร้อยปีนี่เอง ด้านล่างของภาพคือชาวเมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาชื่นชมบูชา ด้านบนมีแสงสีทองส่องจากท้องฟ้าและจากชายหนุ่มรูปงามในชุดสีขาวซึ่งน่าจะเป็นองค์ชายรัชทายาทแห่งอู๋หย่ง ตำแหน่งที่ต่ำกว่าเล็กน้อยมีชาย 4 คนซึ่งมีแสงจากร่างกายเช่นกัน พวกเขาน่าจะเป็นเจ้าหน้าที่สวรรค์ที่องค์ชายรัชทายาทพาขึ้นสวรรค์ไปด้วย เซี่ยเหลียนรู้สึกได้ว่าหากไปที่อารามอื่นจะต้องพบภาพพวกนี้อีกและได้ข้อมูลมากขึ้นเลยจะออกเดินทางกันต่อ แต่ก็สังเกตได้ว่าเผยหมิงยังไม่กลับมา พอออกมาข้างนอกก็ไม่พบอีกฝ่าย ร้องเรียกแล้วก็ไม่มีการตอบกลับ เห็นเซี่ยเหลียนกังวล ฮวาเฉิงเลยเอาผีเสื้อออกมาตัวหนึ่ง บอกว่าความจริงเมื่อวานตนส่งผีเสื้อให้ตามติดทุกคนไว้ และสามารถใช้มันบันทึกเสียงที่ปลายสายกลับมา หากแต่ไม่สามารถคุยกับอีกฝั่งได้
เสียงของเผยหมิงดังออกมาจากผีเสื้อ กล่าวว่าเขาไม่นึกว่าจะมาพบอีกฝ่ายที่นี่ พอได้ยินเสียงคนที่คุยกับแม่ทัพเผยอยู่เซี่ยเหลียนก็ต้องเบิกตากว้างเพราะคนๆ นั้นคือหลิงเหวินร่างชาย แล้วเขาก็เก็ตทันทีว่าชายชุดดำที่ฆ่าผีไป 1000 ตนก็คือเทพอักษรนั่นเอง หลิงเหวินบอกเพื่อนให้เงียบเพราะเสื้อคลุมอมตะอารมณ์เสีย ไป๋จิงไม่ชอบเผยหมิงมาก และเอ่ยว่าตอนนี้ตนไม่สามารถควบคุมร่างกายของตัวเองได้ พอได้ยินแม่ทัพเผยบอกว่าตนก็ไม่สามารถขยับตัวได้เหมือนกัน เซี่ยเหลียนเลยรู้ว่าทั้งคู่ถูกใครบางคนจับตัวไว้อยู่
.
.
.
.
.