สปอยเทียนกวานอาร์ค 4 ต่อจาก >>262 เทียนกวาน Part.141
.
.
.
.
.
ด้วยปัญหาที่บีบคั้นทำให้เซี่ยเหลียนตัดสินใจดักปล้นชาวบ้าน แต่ด้วยความรู้สึกผิดทำให้เขาไม่อาจทำใจลงมือกระทำได้ทันที หลังจากปล่อยผ่านคนไปหลายคน เมื่อทำใจได้ชายที่เขาตัดสินใจชิงทรัพย์กลับมีเครื่องรางอยู่เต็มตัว ทำให้เมื่อเขาร้องตะโกนขอความช่วยเหลือจึงมีเทพราว 33 องค์มาตามคำอธิษฐานอย่างว่องไว เห็นสายตาของทุกคน เซี่ยเหลียนก็ตัวแข็งด้วยความหวาดกลัว มีเทพบางองค์จำเซี่ยเหลียนได้ ต่างตะลึงกล่าวว่าไม่นึกว่าเซี่ยเหลียนจะทำเรื่องเช่นนี้ ก่อน บอกว่าเข้าใจว่าเซี่ยเหลียนกำลังอยู่ในช่วงยากลำบาก พวกตนจะไม่นำเรื่องนี้ไปบอกคนอื่น เซี่ยเหลียนกล่าวขอบคุณอย่างตะกุกตะกัก จำไม่ได้ว่าตนผละจากจุดนั้นมาอย่างไร ระหว่างที่ยืนฝั่งหน้ากับฝ่ามือก็เหมือนเห็นร่างสีขาวที่สวมหน้ากากอยู่ข้างหน้า แต่พอมองดีๆ ก็ไม่เห็นผู้ใด
เซี่ยเหลียนไม่อยากให้เฟิงซิ่นผิดหวังในตัวของเขาจึงไม่ยอมเล่าอะไรให้ฟัง พออีกฝ่ายชวนออกไปหาที่แสดงในวันต่อไปเซี่ยเหลียนก็ไม่อยากออกไปพบหน้าผู้ใด เฟิงซิ่นคิดว่าเซี่ยเหลียนคงเหนื่อย จึงบอกว่าไม่เป็นไร ตนจะไปแสดงคนเดียว เซี่ยเหลียนจะได้มีสมาธิกับการบำเพ็ญด้วย แม้ตอนแรกเซี่ยเหลียนจะพยายามบำเพ็ญเพื่อจะได้กลับขึ้นสวรรค์อีกครั้ง แต่เหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นทำให้เขาไม่มีหน้ากลับไปเจอใครบนสวรรค์อีกแล้ว เขาไม่เชื่อว่าเทพกลุ่มนั้นจะไม่นำเรื่องที่องค์ชายรัชทายาทแห่งเซียนเล่อตั้งใจขโมยของชาวบ้านไปพูดให้คนอื่นฟัง เมื่อถึงห้องนอนก็นอนหลับฝันร้าย รู้สึกว่าทำให้พ่อแม่ต้องขายหน้าที่มีลูกชายเช่นนี้
เมื่อเซี่ยเหลียนตื่นขึ้นมาก็ออกไปหาสถานที่สงบใจ ในที่สุดก็มาถึงสุสานแห่งหนึ่ง อากาศหนาวเย็นจนเขาต้องกอดร่างของตัวเอง พอหันไปเจอไหเหล้าที่มีคนเอามาไหว้สุสานก็หยิบมากระดกโดยไม่สนใจว่าจะเป็นการทำผิดวิถีบำเพ็ญ ระหว่างนั่งกอดไหดื่มเหล้าไปเรื่อยๆ ก็เห็นดวงไฟวิญญาณดวงหนึ่งมาลอยอยู่ใกล้ๆ เซี่ยเหลียนคิดว่านั่นอาจเป็นวิญญาณเจ้าของเหล้าที่ตนหยิบมาดื่มซึ่งไม่พอใจในการกระทำของเขา เซี่ยเหลียนเลยบอกว่าตนจะไปแล้ว แต่ด้วยความเมามายทำให้เขาตกลงไปในหลุมศพเปล่าที่มีคนขุดเตรียมไว้ แข้งขาที่อ่อนยวบเพราะฤทธิ์สุราทำให้เขาปีนขึ้นไปไม่ได้สักทีทั้งๆ ที่หลุมก็ลึกนิดเดียว เซี่ยเหลียนสบถคำหยาบด้วยความโมโห สุดท้ายก็ตะโกนเรียกหาคนช่วยดึงเขาขึ้นไป แม้ไฟวิญญาณจะเหมือนอยากช่วย แต่ก็ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ หลังจากทุ่มพลังทั้งหมด ในที่สุดเซี่ยเหลียนก็ปีนขึ้นมาได้สำเร็จ เขาหอบหายใจ คู้ตัวกอดร่างของตนเอง พึมพำเสียงแผ่วเบาว่าหนาว ไฟวิญญาณเลยพยายามเปล่งแสง แต่ด้วยความที่มันเป็นไฟวิญญาณจึงไม่มีความอุ่นออกมาเลย ระหว่างที่เซี่ยเหลียนกำลังเคลิ้มๆ จะหลับ เขาก็ได้ยินเสียงสะอื้นเสียงหนึ่ง “พระเจ้า โปรดรอข้าที ขอข้าด้วยเถอะ ขอเวลาข้าอีกหน่อย ข้าจะ... ข้าจะ...”
เซี่ยเหลียนตื่นขึ้นมาเพราะถูกเฟิงซิ่นปลุก หลังจากโล่งใจที่เซี่ยเหลียนไปเป็นอะไรอีกฝ่ายก็เปลี่ยนไปโกรธจัด ต่อว่าที่เซี่ยเหลียนจู่ๆ ก็หายไป 2 วัน ทำเอาเซี่ยเหลียนถึงกับงง พอเฟิงซิ่นเล่าว่าเขาเมายำเป เที่ยวไปไล่ต่อยตีชาวบ้าน แถมยังไปขวางขบวนทหารหย่งอัน โชคดีที่เฟิงซิ่นไปเจอพอดีเลยรอดมาได้ พอเฟิงซิ่นกล่าวว่าเขาต้องโกหกราชากับราชินีเพื่อไม่ให้ทั้งสองเครียด เซี่ยเหลียนทำเช่นนี้แล้วจะกลับขึ้นสวรรค์ได้ยังไง เซี่ยเหลียนก็รีบเดินหนี เฟิงซิ่นเลยรู้สึกเอะใจถามว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่เซี่ยเหลียนก็ไม่ยอมตอบอีกฝ่าย สักพักถึงเพิ่งสังเกตว่าแก้มของเฟิงซิ่นบวมช้ำ แขนข้างหนึ่งก็มีผ้าพันแผล พอสอบถามถึงได้รู้ว่าอีกฝ่ายถูกนักแสดงเจ้าถิ่นทำร้ายเพราะทำผิดสัญญา เซี่ยเหลียนเลยบอกไม่ให้เฟิงซิ่นไปแสดงอีก แต่อีกฝ่ายก็ดื้อ ไม่ยอมล้มเลิกหาเงินเด็ดขาด
เซี่ยเหลียนยิ่งรู้สึกผิดต่อเฟิงซิ่น กล่าวขอโทษอีกฝ่ายที่เขาปล่อยให้ไปทำงานคนเดียว ขอโทษที่สร้างปัญหาให้ คราวนี้พอเฟิงซิ่นเอ่ยว่าถ้าเพื่อทำให้เซี่ยเหลียนสามารถบำเพ็ญจนขึ้นสวรรค์ได้อีก เขาก็ยินดี คราวนี้เซี่ยเหลียนพยักหน้ารับอย่างแข็งขัน แม้แต่อาหารฝีมือราชินี เขาก็ช่วยเฟิงซิ่นกินจนหมด หลังจากนั้นขณะที่เฟิงซิ่นออกไปทำการแสดง เซี่ยเหลียนก็จะพยายามบำเพ็ญเพิ่มพลังทิพย์แต่ก็ไม่สามารถทำได้อยู่ดี เมื่อผ่านไป 2 เดือน เขาจึงตัดสินใจขอตัวเดินทางไปหาสถานที่บำเพ็ญที่มีพลังทิพย์ การฝึกจะได้คืบหน้า และพาทุกคนพ้นจากความลำบากนี้เร็วขึ้น ระหว่างนั้นของให้เฟิงซิ่นช่วยดูแลพ่อแม่ของเขาให้หน่อย ซึ่งเฟิงซิ่นก็รับปากอย่างดี วันต่อมาเซี่ยเหลียนก็บอกลาทั้งสามแล้วออกเดินทาง
.
.
.
.
.