สปอยเทียนกวานอาร์ค 4 ต่อจาก >>249 เทียนกวาน Part.140
.
.
.
.
.
พอรู้ว่ายาที่แม่ต้องการคือยารักษาอาการไอเป็นเลือด เซี่ยเหลียนก็เสียงสูงด้วยความตกใจทำให้ราชาได้ยินแล้วดุภรรยาทันทีว่าตนบอกแล้วว่าไม่ให้บอก เซี่ยเหลียนรีบเข้าไปต่อว่าพ่อว่าทำไมถึงไม่รรีบบอก ปล่อยให้อาการทรุดหนักจนยากจะรักษาแล้วเช่นนี้ ทั้งสองทะเลาะกัน แต่พอเซี่ยเหลียนบอกว่าต้องรีบพาไปหาหมอ เฟิงซิ่นก็เตือนว่าหากทำเช่นนั้นทหารหย่งอันจะพบตัว ราชินีเสริมว่าเพราะเช่นนั้นพวกตนจึงไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเซี่ยเหลียน และขอให้ช่วยซื้อยามาลองดูก่อน
เซี่ยเหลียนไปหยิบกระบี่ฮ่องจินแล้วส่งให้เฟิงซิ่นนำมันไปจำนำเพื่อนำเงินไปซื้อยา ด้วยความที่กระบี่เล่มนั้นเป็นสิ่งที่จวินอู๋มอบให้ทำให้เฟิงซิ่นพยายามห้ามไว้ ระหว่างทางทั้งคู่เจอกลุ่มชาวบ้านกำลังมุงดูบางอย่าง เมื่อสอบถามก็ได้ความว่าบ่าวรับใช้ผู้หนึ่งกำลังซ้อมเจ้านาย เนื่องจากบ่าวผู้นั้นติดตามรับใช้นายอย่างภักดีมานาน ทว่าเจ้านายกลับไม่เห็นค่า ทั้งๆ ที่รู้ว่าครอบครัวของบ่าวยากจนก็ยังไม่ยอมจ่ายเงินเดือนและใช้งานหนัก ในที่สุดบ่าวผู้นั้นก็ทนไม่ไหว ได้ยินดังนั้นเซี่ยเหลียนก็ตัวสั่น ยิ่งเฟิงซิ่นเอ่ยเห็นด้วยกับการกระทำของบ่าวคนนั้นก็ยิ่งรู้สึกหวาดกลัว
ด้วยความที่ไม่ได้พาคนไข้มา หมอจึงจ่ายยาสุ่มตามอาการให้ แต่โรคหนัก ค่ายาจึงแพง เงินที่ได้จากการจำนำจึงซื้อยาได้พอใช้ไม่นาน ขณะที่เฟิงซิ่นไปต้มยา เซี่ยเหลียนก็รีบกลับไปหาผ้าผูกเอวทองคำผืนสุดท้ายมามอบให้เพราะเพิ่งตระหนักได้ว่าทั้งๆ ที่เฟิงซิ่นติดตามตนมานาน ยามยากก็ไม่ทิ้งไปไหน แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขากลับไม่เคยมอบอะไรให้อีกฝ่ายเลย ด้วยความกลัวว่าเฟิงซิ่นจะทอดทิ้งตนไปอีกคนจึงมอบของซื้อใจโดยไม่ได้บอกเหตุผล ตอนแรกเฟิงซิ่นปฏิเสธ บอกว่าภายหน้าอาจต้องนำไปจำนำซื้อยาอีก แต่พอเซี่ยเหลียนคะยั้นคะยอมากเข้า ในที่สุดเขาก็รับไว้โดยอธิบายว่าหากต้องการใช้ก็มาเอาคืนไปได้เลย
เซี่ยเหลียนรู้สึกผิดต่อพ่อ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปขอโทษยังไง พวกเขาไม่อาจหยุดพักนาน จำต้องออกเดินทางหนีการจับกุมเป็นระยะ แต่พอออกมาไกลเซียนเล่อมากขึ้นก็พบว่าชาวบ้านต่างดูสงบสุขไร้ความทุกข์ร้อน แม้จะมีการพลัดเปลี่ยนแผ่นดินก็ไม่ได้รู้สึกแตกต่าง เงินที่ได้จากการจำนำฮ่องจิ้นใกล้หมดแล้ว ทรัพย์สมบัติที่พอจำนำได้ก็ไม่เหลือแล้ว พอเห็นการแสดงข้างถนนที่ตนเคยไม่ยอมทำก่อนหน้า เซี่ยเหลียนจึงชวนเฟิงซิ่นให้ลองแสดงหาเงินดู เฟิงซิ่นบอกว่าตนทำคนเดียวก็พอ แต่สุดท้ายเซี่ยเหลียนก็ต้องออกไปร่วมแสดงด้วยอยู่ดี แต่ตอนก้มลงเก็บเศษเหรียญก็อดรู้สึกเหมือนได้สูญเสียอะไรบางอย่างไปไม่ได้ ทว่าเฟิงซิ่นกลับโชว์ยิงธนูไปปักธงประดับของคนอื่นโดยไม่ทันคิด ทั้งสองจึงถูกพาเข้าไปในบ้านหลังนั้นซึ่งเป็นสถานเริงรมย์เพื่อให้ชดใช้ค่าเสียหาย พอแม่เล้าเห็นพวกเขาไม่มีเงินจึงตั้งใจพาเซี่ยเหลียนไปบริการลูกค้า โชคดีที่เฟิงซิ่นรีบลากเซี่ยเหลียนหนีออกมาได้ก่อน
เซี่ยเหลียนกับเฟิงซิ่นเปลี่ยนสถานที่ตั้งการแสดง ด้วยความที่การแสดงสดใหม่ทำให้พวกเขาได้เงินมาค่อนข้างมาก แต่สุดท้ายก็ถูกนักแสดงเจ้าถิ่นตามมาหาเรื่องถึงที่พักเพราะทั้งสองไปแย่งพื้นที่ทำมาหากินจนพวกเขาไม่ได้เงินเลย เซี่ยเหลียนพยายามเถียงว่าไม่ใช่ความผิดของพวกตน พออีกฝ่ายจะรุม เฟิงซิ่นก็ต่อยกำแพงเป็นหลุมให้อีกฝ่ายหงอไป สุดท้ายพวกนักแสดงเจ้าถิ่นจึงเสนอให้ทำการแสดงอกหินผาแข่งกัน ผู้ใดชนะก็จะได้อยู่ต่อ ส่วนผู้แพ้ต้องออกไปจากบริเวณนั้น แต่ด้วยความที่เซี่ยเหลียนกับเฟิงซิ่นเป็นเทพ สกิลสูงกว่าอีกฝ่ายอย่างเห็นได้ชัด ทว่าด้วยเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับปากท้อง หากไม่พยายามตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าต่อไปจะใช้ชีวิตต่ออย่างไร ชายนักแสดงที่เข้ามาแข่งด้วยจึงฝืนตัวเอง แม้กระอักเลือดบาดเจ็บก็หมายสู้ตาย เซี่ยเหลียนเห็นว่าหากแข่งต่อไปอีกฝ่ายต้องตายแน่ จึงเป็นฝ่ายขอยอมแพ้เองแม้เฟิงซิ่นจะไม่เห็นด้วยก็ตาม
ด้วยความที่อาการป่วยของราชาแย่ลง ทำให้พวกเซี่ยเหลียนไม่อาจย้ายเมืองเพื่อหาที่ทำการแสดงใหม่ พอเซี่ยเหลียนเห็นเฟิงซิ่นที่กำลังต้มยาร้องเพลงอารมณ์ดีก็รู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆ พอนึกว่าหลังจากเหตุการณ์มีเรื่องกับพวกนักแสดงเจ้าถิ่นตอนนั้น บางทีอีกฝ่ายก็ชอบยิ้มคนเดียวโดยไม่มีเหตุผล บางทีก็ทำอะไรพลาดบ่อยๆ แต่ด้วยความเหนื่อยเซี่ยเหลียนจึงคร้านจะสอบถาม พอเขาเห็นว่ายาชุดนี้เป็นชุดสุดท้ายที่เหลืออยู่ เซี่ยเหลียนก็บอกเฟิงซิ่นว่าตนจะหาวิธีหาเงินมาเอง ให้อีกฝ่ายคุ้มครองราชากับราชินีไว้ และห้ามตามเขามาเด็ดขาด
Note 1 : เผื่อลืมไปแล้ว ที่ตอนหลังเฟิงซิ่นมีอาการแปลกๆ เป็นเพราะกำลังมีความรักกับเจียนหลันที่เจอที่ซ่อง พอไม่ต้องย้ายเมืองก็เลยแอบดีใจ
Note 2 : สุดท้ายทั้งสองก็ต้องมาแสดงข้างถนน ทั้งๆ ที่ตอนแรกมู่ฉิงก็ชวนแล้ว แถมยังด่าอีกฝ่ายด้วย
.
.
.
.
.