สปอยเทียนกวานอาร์ค 3 ต่อจาก >>201 เทียนกวาน Part.135
.
.
.
.
.
สิ่งที่มู่ฉิงนำมาแปะเซี่ยเหลียนคือยันต์ที่ทำให้อีกฝ่ายต้องทำตามคำสั่งเจ้าของยันต์ เมื่อถูกสั่งให้อยู่นิ่งๆ และห้ามพูดเซี่ยเหลียนเลยไม่อาจขัดขืน มู่ฉิงสั่งให้เซี่ยเหลียนวิ่งตามพวกตน แต่ด้วยความไม่รู้ทางพวกเขาจึงวนกลับมาที่เดิม และถูกฮวาเฉิงดักหน้า เฟิงซิ่นกับมู่ฉิงรีบบังหน้าเซี่ยเหลียนทันที พออ๋องผีถามว่าทั้งคู่ทำอย่างนี้ไปเพื่ออะไร เฟิงซิ่นก็ตะคอกบอกว่าพวกตนเห็นทุกอย่างแล้ว และสั่งไม่ให้อีกฝ่ายเข้าใกล้เซี่ยเหลียนอีก
อ๋องผีบอกว่าทั้งสองไม่มีสิทธิ์พูดอย่างนั้นกับเขาแล้วสั่งให้ผีเสื้อโจมตีใส่ อีกฝ่ายบุกเข้ามาประชิดขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดก็ตั๊นหน้ามู่ฉิงไปทีหนึ่ง ก่อนจะมีใยพุ่งมาห่อเฟิงซิ่นกับมู่ฉิงเป็นดักแด้อีกครั้ง ทั้งสองเลยถึงบางอ้อว่าที่แท้คนที่จับพวกตนไว้ในหลุมก็คืออีกฝ่าย และสิ่งนี้ก็คือใยของผีเสื้อต่างหาก ฮวาเฉิงเต็มไปด้วยความโกรธ แขวะมู่ฉิงว่าตนมีความสามารถในการใช้ดาบโค้งมากกว่า มู่ฉิงจึงนึกได้ว่าอีกฝ่ายคือทหารเด็กที่เซี่ยเหลียนอยากสนับสนุนในตอนนั้น อ๋องผีต่อยหน้ามู่ฉิงอีกรอบ กล่าวว่ามู่ฉิงโกหกหัวหน้ากองว่าเซี่ยเหลียนสั่งให้ไล่เขาออกจากกองทัพ พอมู่ฉิงแถว่าเขาช่วยให้อีกฝ่ายไม่ต้องเสี่ยงอันตรายต่างหาก ฮวาเฉิงก็ประเคนหมัดใส่หน้าของมู่ฉิงอีก แต่มู่ฉิงก็ด่ากลับว่าตอนนั้นตนตัดสินใจถูกจริงๆ ที่ไล่ฉวาเฉิงออกจากกองทัพ เพราะขืนปล่อยให้เข้าใกล้เซี่ยเหลียนก็มีแต่เอาแค่คิดเรื่องบัดสี ช่างน่ารังเกียจจริงๆ
พอถูกด่าว่าน่ารังเกียจฮวาเฉิงก็ยกหมัดค้าง ถามว่าสิ่งที่เฟิงซิ่นกับมู่ฉิงเถียงกันบนภูเขาก่อนหิมะถล่มเป็นความจริงหรือ ทำเอาทั้งสองเลิกลั่กตกใจ แล้วมู่ฉิงก็สั่งให้เซี่ยเหลียนวิ่งหนีไป แต่อ๋องผีก็ใช้ใยผีเสื้อมัดเซี่ยเหลียนไว้ได้ทัน พอเห็นฮวาเฉิงจะเข้าไปหาเซี่ยเหลียน เฟิงซิ่นก็ขอให้อีกฝ่ายปล่อยเซี่ยเหลียนไป บอกว่าเซี่ยเหลียนทนทุกข์มามากพอแล้ว แต่อ๋องผีก็ไม่ฟัง เขาเข้าไปอุ้มเซี่ยเหลียนเดินไปอีกทาง ทิ้งเฟิงซิ่นกับมู่ฉิงไว้เบื้องหลังจนในที่สุดก็เดินออกห่างจนไม่ได้ยินเสียงของทั้งสอง
ฮวาเฉิงพาเซี่ยเหลี่ยนมาถึงส่วนที่เหมือนห้องนอนภายในถ้ำ พอวางเซี่ยเหลียนลงบนเตียงหินก็เจอยันต์ที่มู่ฉิงแปะไว้ แต่กลับไม่ยอมช่วยดึงออกเพราะกลัวว่าท่าทีเซี่ยเหลียนที่มีต่อตนอาจเปลี่ยนไปแล้ว เขาพยายามบอกว่าตนไม่ได้คิดไม่ดีขณะถอนเสื้อเซี่ยเหลียนเพื่อช่วยรักษาแผลนำแข็งกัดให้ แต่แล้วก็มีเสียงพูดด่าฮวาเฉิงดังขึ้น พอมองไปก็เจอมู่ฉิงกับเฟิงซิ่นยืนอยู่หน้าทางเข้าห้อง อ๋องผีรีบดึงเสื้อกลับให้เซี่ยเหลียนแล้วไปฉะปากกับทั้งสอง ถึงจะหงุดหงิดแต่เซี่ยเหลียนก็รู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆ เพราะมู่ฉิงเหมือนจะใช้คำหยาบคายทั้งยังปลุกปั่นมากกว่าปรกติ เห็นฮวาเฉิงง้างเอ้อมิ่งก็ร้องห้ามไว้ แต่ไม่ทัน เฟิงซิ่นกับมู่ฉิงตัวขาดเป็น 2 ท่อนเสียแล้ว อ๋องผีเดินกลับมากอดเซี่ยเหลียนที่นั่งอึ้งแข็งเป็นหิน แล้วดึงยันต์บนหลังออกให้ เซี่ยเหลียนรีบพุ่งไปหาทั้งสองทันที ดูเหมือนว่ามู่ฉิ่งจะสิ้นใจไปแล้ว เมื่อเฟิงซิ่นพยายามบอกเขาว่าอ๋องผีเป็นปีศาจ อย่ายุ่งกับอีกฝ่าย เซี่ยเหลียนก็หยิบฟางซิ่นแทงใส่หัวใจของคนตรงหน้า ก่อนรีบกลับไปสมทบกับฮวาเฉิง บอกให้อีกฝ่ายเผยตัวจริงออกมา
ตอนที่ช่วยดึงยันต์ออก ฮวาเฉิงได้แอบกระซิบบอกเซี่ยเหลียนแล้วว่าเฟิงซิ่นกับมู่ฉิงตัวจริงยังถูกห่อเป็นดักแด้อยู่ที่เดิม เซี่ยเหลียนจึงรู้ว่าสิ่งที่อยู่ต่อหน้าไม่ใช่เพื่อนของตน ร่างปลอมที่จำแลงเป็นมู่ฉิงกับเฟิงซิ่นหัวเราะ เอ่ยว่าจะทำตามที่เซี่ยเหลียนต้องการ จากนั้นกองเลือดบนพื้นก็ก่อตัวเป็นชายคนหนึ่งซึ่งทำให้เซี่ยเหลียนขนลุก เมื่อร่างของเฟิงซิ่นและมู่ฉิงหายไป ตรงหน้าก็มีชายหนุ่มในชุดขาวคนหนึ่งยืนอยู่ บนใบหน้าคือหน้ากากครึ่งแย้มยิ้ม ครึ่งร่ำไห้ กล่าวทักทายด้วยเสียงอบอุ่นว่า “เป็นอย่างไรบ้าง เซี่ยเหลียน”
เซี่ยเหลียนหัวชาทำอะไรไม่ถูก เมื่อฮวาเฉิงออกไปโจมตีใส่ อีกฝ่ายก็พลิ้วหลบอย่างว่องไว ยื่นมือหมายจะสัมผัสหน้าของเซี่ยเหลียน แต่อ๋องผีก็กลับมาตัดมือของชายคนนั้นไว้ได้ทัน ทว่าพอฝ่ายนั้นสะบัดแขน มือข้างใหม่ก็งอกออกมาแล้วยื่นไปที่ตาขวาของฮวาเฉิงอย่างรวดเร็ว แม้จะหลบทัน บนแก้มของอ๋องผีก็ปรากฏแผลขึ้นมา พอเขาส่งผีเสื้อเข้าจู่โจม เมื่อพวกมันห่อร่างในชุดขาวนั้นไว้ไม่นานก็ระเบิดกลายเป็นผง ก่อนที่มือข้างนั้นจะยื่นมาที่ตาขวาของฮวาเฉิงอีกครั้ง
.
.
.
.
.