สปอยเทียนกวานอาร์ค 3 ต่อจาก >>198 เทียนกวาน Part.134
.
.
.
.
.
เซี่ยเหลียนบอกเฟิงซิ่นกับมู่ฉิงว่าที่นี่คือถ้ำ 1 พันเทวะ พอมู่ฉิงทำท่าจะไปดึงผ้าคลุมหน้าของรูปปั้นออก ฮวาเฉิงก็ตวัดเอ้อมิ่งขู่ไม่ให้ทำเช่นนั้น กล่าวว่าอย่าจับอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าในแดนของคนอื่น เซี่ยเหลียนกับเฟิงซิ่นต้องพยายามไกล่เกลี่ยทั้งสองถึงยอมถอย พวกเขาเดินทางใน้ถ้ำต่อ เห็นฮวาเฉิงเดินนำแบบไม่สะดุด ทั้งเฟิงซิ่นกับมู่ฉิงก็อดสงสัยไม่ได้ ทั้ง 3 มีปากเสียงกัน สุดท้ายฮวาเฉิงก็บอกว่าตนจะเดินนำหน้าไปไกลๆ ให้ห่างจากทั้งสอง ตอนนั้นเองจู่ๆ มู่ฉิงก็คว้าแขนเซี่ยเหลียน ส่วนเฟิงซิ่นชกผนังถ้ำให้หินปิดทางกั้นอ๋องผีไว้ ก่อนที่ทั้งสองจะถล่มยันต์กันผีแปะบนหินพวกนั้น เซี่ยเหลียนรีบขอคำอธิบายจากทั้งสอง มู่ฉิงเลยด่าเซี่ยเหลียนว่าตาบอด ไม่เห็นเลยหรือว่าอีกฝ่ายมีท่าทางแปลกๆ แค่ไหน เฟิงซิ่นตะโกนให้ทั้งสองวิ่ง พลางชกผนังถ้ำปิดกั้นทางเป็นระยะ สักพักเซี่ยเหลียนจึงเค้นถามว่าอ๋องผีมีอะไรแปลก มู่ฉิงถามกลับว่าไม่เห็นมุกที่ผมของฮวาเฉิงเลยเหรอ มันคือตุ้มหูมุกปะการังสีแดงที่เซี่ยเหลียนทำหายไปในเทศกาลซ่างหยวนเมื่อ 800 ปีก่อน
เซี่ยเหลียนถึงกับอึ้ง ถามว่าอีกฝ่ายจำผิดหรือเปล่า แต่มู่ฉิงก็บอกว่าเพราะเซี่ยเหลียนกับเฟิงซิ่นสงสัยว่าเขาเป็นคนขโมย เขาเลยเครียดตามหาสิ่งนั้นอยู่เป็นปีๆ จะจำผิดได้ยังไง ถึงอย่างนั้นเซี่ยเหลียนก็อ้างว่าอาจแค่เหมือนกันก็ได้ มู่ฉิงเลยหันไปดึงผ้าคลุมหน้าของรูปปั้นออก ปรากฏว่ามันคือใบหน้าของเซี่ยเหลียน รูปปั้นทุกตัวในถ้ำนี้ล้วนเป็นเทพองค์เดียวกัน เซี่ยเหลียนยิ่งทำอะไรไม่ถูก ถามว่าอีกฝ่ายรู้ได้ยังไงว่าทุกชิ้นคือรูปปั้นของเขา มู่ฉิงยิ่งเดือด บอกว่าเมื่อก่อนตนเป็นคนดูแลเสื้อผ้า เครื่องประดับให้เซี่ยเหลียน ทั้งจัด ทั้งซัก ทั้งซ่อม จนจำได้ทั้งหมด ถึงได้รู้ว่ารูปปั้นพวกนี้ล้วนใส่เสื้อผ้าของใคร การที่ฮวาเฉิงพยายามขัดขวางไม่ให้พวกตนสำรวจรูปปั้น บอกว่าตนไม่รู้จักที่นี่จึงเป็นเรื่องตอแหลทั้งนั้น
ยิ่งมองรูปปั้นก็ยิ่งเห็นรายละเอียดสมจริงเหมือนต้นฉบับจนเฟิงซิ่นถึงกับขนลุก มู่ฉิงเสนอให้ทำลายรูปปั้นทิ้งให้หมดเพราะอาจมีคาถาครอบงำเซี่ยเหลียน แต่เซี่ยเหลียนก็บอกว่าถึงฮวาเฉิงจะโกหก แต่เขาก็ยังเชื่อว่าอีกฝ่ายไม่ได้ทำร้ายเขาด้วยการใช้คาถาอย่างแน่นอน ตอนนั้นเองเฟิงซิ่นก็เจอใยแมงมุมเหมือนในหลุม พอคิดว่ามันมีไว้เพื่อบล็อกทางปกปิดบางสิ่งไว้ด้านหลัง ทั้งสามเลยช่วยกันแกะใยเข้าไปด้านใน พวกเขาพบกับรูปภาพขนาดใหญ่มากมาย เห็นลายมือน่าเกลียดบนนั้นก็แน่ใจว่าเป็นของฮวาเฉิง พอเห็นภาพร่างสีขาวสว่างเข้าไปอุ้มเด็กชายในชุดสีแดงที่หล่นจากกำแพง ทั้งสามก็อึ้ง ไม่อยากเชื่อว่าอ๋องผีจะคือเด็กชายที่หล่นจากกำแพงเมื่อ 800 ปีก่อนคนนั้น พอดูภาพอื่นเห็นพบว่าในทุกๆ ภาพ ร่างในชุดสีแดงนี้จะคอยมองเซี่ยเหลียนอยู่เสมอ หลายสถานที่ หลายเวลา ยังมีรูปปั้นมากมายพวกนั้นอีก นี่มันสตอล์กเกอร์โรคจิตชัดๆ
ทั้งสามแยกกันสำรวจรูปภาพ ความทรงจำมากมายในอดีตกลับเข้ามาในหัวของเซี่ยเหลียน เขาได้ยินเฟิงซิ่นกับมู่ฉิงแหกปากเสียงดัง แต่พอจะเข้าไปดู เฟิงซิ่นกลับห้ามเขาไว้ มู่ฉิงเองก็หน้าดำบอกให้รีบออกไปจากที่นี่โดยไม่ยอมอธิบายอะไรให้เซี่ยเหลียนฟัง ทั้งคู่คว้าแขนเซี่ยเหลียนคนละข้างลากออกไปให้ห่างจากสถานที่นั้น เห็นเซี่ยเหลียนอยากดูรูปนั้นให้ได้ เฟิงซิ่นก็ตะคอกว่าสิ่งนั้นไม่ควรถูกใครพบเห็น ส่วนมู่ฉิงโวยวายว่าอนาคตอย่าไปเข้าใกล้ฮวาเฉิงอีก เจ้าหมอนั้นมันเป็นโรคจิตวิปริต แต่พอขอคำอธิบายเพิ่ม ทั้งคู่กับอึกอักไม่ยอมบอก ตอนนั้นเองทั้งสามก็เห็นร่างสีแดงยืนขวางทางอยู่เบื้องหน้า มือหนึ่งหมุนผมที่มีไข่มุกสีแดงห้อยประดับอยู่ ส่งยิ้มแสแสร้งบอกว่าตนเตือนแล้วว่าอย่าไปจับอะไรในถิ่นของคนอื่น เพราะไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
เฟิงซิ่นระดมยิงธนูใส่อีกฝ่ายไม่ยั้ง แล้วมู่ฉิงก็นึกได้ว่าเป็นเพราะด้ายแดงทำให้ฮวาเฉิงตามพวกตนเจอเลยพยายามหันมาแกะเชือกออกจากมือเซี่ยเหลียน แต่เซี่ยเหลียนก็ต่อต้าน บอกว่าเดี๋ยวเขาจะคุยกับอ๋องผีตรงๆ เอง พอทั้งสองก็ไม่ยอม เซี่ยเหลียนเลยท้าต่อยแก้ปัญหากัน มู่ฉิงร้องให้เฟิงซิ่นเข้าไปลุยก่อน แล้วอาศัยจังหวะแอบแปะอะไรบางอย่างบนหลังของเซี่ยเหลียนอย่างรวดเร็ว
Note : ตามที่กูบอกในหลังสปอยพาร์ทที่ 53 >>>/801/7776/969 ว่าพาร์ท 34 >>>/801/7776/621 มีบางอย่างที่เชื่อมโยงกันอยู่ รู้แล้วเนอะว่าใครเป็นหัวขโมยมุกตัวจริง ส่วนเรื่องรูปที่เฟิงซิ่นกับมู่ฉิงไม่ยอมให้เซี่ยเหลียนดูนั่น ตามสัมภาษณ์แม่โม่ มันก็คือภาพ... แบบที่พวกมึงคิดอยู่นั่นแหละ 5555
.
.
.
.
.