ขอแหวกกาวฮาเร็มพี่ซี กับ All ประมุขเจียง สปอยเทียนกวานต่อนะ
ต่อจาก >>795 เทียนกวาน Part.9
.
.
.
.
.
เมื่อเจรจาไม่เป็นผล เซี่ยเหลียนจึงลวงมือเข้าไปในแขนเสื้อหมายใช้ยันต์ลอตสุดท้ายที่ซ่อนอยู่ ตอนนั้นเองพวกผีก็เงียบ ทำท่าทางเหมือนเห็นสิ่งที่น่าหวาดกลัวมาก ก่อนจะแตกหือหนีไปคนละทิศคนละทาง ทำเอาเซี่ยเหลียนอดประหลาดใจไม่ได้ ยันต์ของเขาไม่ได้มีอิทธิฤทธิ์มากมายถึงขนาดทำให้พวกผีมีปฏิกิริยาอย่างนั้น หรือว่าพวกนั้นจะกลัวอะไรบางอย่างที่อยู่ด้านหลังของเขา เมื่อหันกลับไปเขาก็เห็นท่าทางไม่ทุกข์ร้อนของซานหลาง แล้วเด็กหนุ่มก็เอ่ยชมว่าพวกผีคงหนีไปเพราะความเก่งกาจของเซี่ยเหลียน
ไม่นานนักพวกเซี่ยเหลียนก็กลับมาถึงหมู่บ้านผูจี้ เมื่อตรองถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ เซี่ยเหลียนเลยเสนอดูดวงชะตาให้เด็กหนุ่มซึ่งกระตือรือร้นส่งมือ ความจริงแล้วเซี่ยเหลียนดูลายมือไม่เป็น แต่เขาต้องการตรวจสอบว่าอีกฝ่ายมีลายมือหรือไม่ เพราะเวลาพวกผีปลอมตัวจำแลงร่างมักจะไม่มีสิ่งนี้อยู่ ทว่ามือของซานหลางกลับปรากฏลายมือชัดเจน หากอีกฝ่ายเป็นผีจริงก็จะต้องเป็นผีในระดับสูงมาก เซี่ยเหลียนปลุกชายชราพร้อมบอกว่าอย่าได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ใครฟัง แม้จะยังมึนงงแต่ผู้เฒ่าก็พยักหน้ารับ จากนั้นเซี่ยเหลียนจึงชวนซานหลางที่ไม่มีที่ไปให้มาพักด้วยกัน แล้วทั้งสองก็ช่วยกันขนอุปกรณ์เซ่นไหว้กลับอารามผูจี้
เซี่ยเหลียนจัดของเข้าที่ และเมื่อซานหลางถามถึงเตียงนอน เขาที่มีเสื่อไม้ไผ่แค่ผืนเดียวเลยบอกให้อีกฝ่ายมาแชร์เสื่อกับตนไปก่อน เด็กหนุ่มไม่ได้อิดออดอะไร จากนั้นซานหลางจึงเดินสำรวจอารามในขณะที่เซี่ยเหลียนกวาดทำความสะอาดพื้นอีกรอบ ก่อนที่อีกฝ่ายจะตั้งข้อสังเกตขึ้นมาว่าในอารามผูจี้ไม่มีรูปเคารพของเทพประจำอาราม เซี่ยเหลียนไม่ทันคิดเรื่องนั้นจึงบอกว่าตนซื้ออุปกรณ์สำหรับคัดหนังสือมาด้วยพอดี เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยวาดรูปมาแขวน ซานหลางอาสาเป็นคนวาด ถึงเซี่ยเหลียนจะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะรู้จักหน้าตาของเทพที่ถูกเผารูปปั้นภาพวาดไปหมดตั้งแต่ 800 ปีก่อน แต่เด็กหนุ่มก็ยืนยันขอเป็นคนวาดอยู่ดี
เซี่ยเหลียนลองถามความเห็นของอีกฝ่ายว่าคิดอย่างไรกับเทพองค์ชายรัชทายาทแห่งเซียนเล่อ ซานหลางคิดสักพักก่อนตอบว่าเขาคิดว่าเทพจวินอู๋ต้องเกลียดเทพองค์นี้มาก ไม่อย่างนั้นคงไม่ไล่ออกจากสวรรค์ถึงสองครั้ง เซี่ยเหลียนยิ้ม อธิบายให้คนอายุน้อยกว่าฟังว่าจวินอู๋ต้องทำตามกฎของสวรรค์ เขาถอดรองเท้าเตรียมเข้านอน ตอนนั้นเองก็สังเกตว่าซานหลางมองคำสาปพันธนาการอีกรอยบนข้อเท้าของเขา แต่สุดท้ายเด็กหนุ่มก็ไม่กล่าวอะไรเช่นเดิม เขาเองก็ไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้เลยเรียกอีกฝ่ายเข้านอน ทั้งสองล้มตัวลงนอนข้างกันโดยสงบไร้เหตุการณ์อะไรทั้งสิ้น แต่เมื่อตื่นเช้าขึ้นมา เซี่ยเหลียนก็เห็นภาพวาดภาพหนึ่งแขวนอยู่เหนือโต๊ะบูชา มันคือภาพวาดลายเส้นงดงามของชายผู้แต่งกายหรูหรา ใบหน้าสวมหน้ากากสีทอง มือหนึ่งถือกระบี่ ส่วนอีกข้างถือดอกไม้ ภาพของเทพองค์ชายรัชทายาทแห่งอาณาจักรเซียนเล่อผู้เป็นที่รักของเทพเจ้า
เซี่ยเหลียนรีบแต่งตัว เมื่อออกมานอกอารามก็เจอซานหลางที่กำลังถือไม้กวาดยืนพักมองท้องฟ้า ใกล้ๆ มีใบไม้ที่ถูกกวาดมากองรวมกัน เขาเอ่ยชมภาพวาดที่เด็กหนุ่มวาด ก่อนเรียกให้อีกฝ่ายกลับเข้าที่พักเพื่อที่ช่วยทำผมให้ใหม่ เมื่อคืนหลังจากเห็นว่าอีกฝ่ายมีลายมือเซี่ยเหลียนก็ลดความระวังไปมาก แต่พอได้เห็นรูปวาดเขาก็เริ่มระแวงขึ้นมาอีก เขาใช้มือสางผมให้ซานหลาง การสร้างเส้นผมให้สมจริงเป็นเรื่องยากสำหรับผี หลายครั้งจึงปลอมเป็นคนหัวล้าน ทว่าผมของเด็กหนุ่มก็ปรกติทุกอย่าง ถึงอย่างนั้นคนธรรมดาจะวาดรูปของเขาออกมาถูกต้องได้อย่างไร
.
.
.
.
.