หมดมู้แล้ว กูเปิดไว้ให้พลางนะ 555555
Last posted
Total of 1000 posts
หมดมู้แล้ว กูเปิดไว้ให้พลางนะ 555555
[นักเขียนสายวาย] 1 https://fanboi.ch/801/6586/recent/
สารภาพจากใจว่าตอนกูเสนอให้แยกมู้ ไม่คิดว่ามู้จะหมดไวขนาดนี้555
กูขอพูดต่อเรื่องไซส์นิยายละกัน ส่วนตัวกูว่า A5 มาตรฐานจริง แต่มันก็ไม่สะดวกพกพาอะ แต่ B6 การจัดหน้าก็จะไม่ค่อยคุ้นตาสักเท่าไหร่
กูชอบA5นะ เก็บง่ายดีเพราะเท่าเล่มอื่น แต่เห็นในทวิตหลายคนทำหนังสือไซส์อื่น จัดอาร์ทจัดรูปเล่มสวยๆคนก็ซื้อกันปกติ กูว่าคนจะซื้อไม่ซื้อก็อยู่ที่เนื้อหา ราคา และจำนวนคนอ่านที่ตามนั่นแหละ ไซส์ไม่น่ามีผลมาก
Ky พวกมึง กูลองแต่งนิยายแนวระบบดูปรากฎว่ายอดเฟบขึ้นเร็วเหมือนติดจรวดอ่ะ คือกูแต่งเล่นๆ แก้เซ็งไม่ได้ตั้งใจแต่งเลยยย ตัดภาพกับมาที่นิยายอีกเรื่องกูที่ไม่แมส กูเค้นสมองในการแต่งอย่างยากลำบาก ยอดเฟบขึ้นเหมือนเต่าคลาน กูเศร้าชห
กูขอตอบจากอันที่แล้วนะ 555 คุณคิริ = Kiriphantasy
กูชอบงานเขามาก เป็นคนวาดปกเกิดเป็นไดอารี่ ร้ายเดียงสา
Ky มู้นี้นข เยอะใช่มั๊ย กูอยากรู้ว่าถ้าจะรีไรท์นิยาย ส่วนใหญ่รีไรท์ด้วยเหตุผลอะไรวะ รีภาษาหรือรีเนื้อเรื่องใหม่ นข ที่กูตามคนนึงเหมือนเป็นโรครีไรท์ลิซึ่มอ่ะ วันดีคืนดีมาโพสว่าตัวเองแต่งนิยายดรอปลง รู้สึกไม่สนุก กูนี่อยากทะลุหน้าจอไปตบ แล้วเคาะสมองเขาออกมาว่าคิดอะไรอยู่ คือเขาแต่งนิยายดีแล้ว สนุกอยู่แล้วภาษาก็อ่านง่าย แม่งยังคิดสั้นจะรีไรท์นิยายอีก ทำไมวะ กูไม่เข้าใจเลยแม่ม
กูขำชื่อมู้ว่ะ 55555555555555
ตอบเรื่องว่าทำไมชอบนิยายระบบเอาแบบส่วนตัวกูละกัน
-เนื้อเรื่องมันไม่ยาวเยิ่นเย้อ
-ตัวละครไม่มาก
-มีหลายแนวทำให้ไม่ค่อยน่าเบื่อ
-มันมักทำมาฆ่านิยายน้ำเน่า นิยายพวกพระเอกควายนายเอกโง่ อารมณ์แบบทำไมเราขัดใจตัวนี้ ทำไมอิห่านี่มันทำงี้ ทำไมโง่แบบนี้ พอมีพวกรู้อนาคตมามันล้างแค้นแทนหมดเลย...
อารมณ์เหมือนอ่านโคนันคือมีเนื้อเรื่องใหญ่ครอบไว้แล้วมีตอนสั้นจบเป็นคดีๆ เบื่อนิดหน่อยแต่แม่งอ่านได้เรื่อยๆไง แถมถ้าวันไหนเบื่อมากก็กดลบแฟบเทได้ไม่ค้างมาก
พวกมึงเคยเป็นมั้ย แบบไม่รู้จะอธิบายท่าทางยังไงให้ดูไม่เยิ่นเย้อ แต่คนอ่านนึกภาพตามออก เช่น ท่านั่งรอหมอหน้าห้องฉุกเฉินแบบที่เห็นในละครอ่ะมึง พระเอกนั่งเก้าอี้แล้วโน้มตัวลงมา ศอกค้ำบนหน้าขาแล้วมือประสานกัน หรือท่ายอดฮิตที่เอามือค้ำผนังแล้วนายเอกอยู่ตรงกลาง แบบดักไม่ให้ไปไหน หรือเอามือยันรถ ยันหลังคา ตัวถัง แถวๆเหนือหน้าต่าง หรืออะไรวะ บางทีกูเรียกไม่ถูก
ยอดเฟบในนิยายลดลงช่วงแรกๆเฟลมาก หลังๆเริ่มเท ออกแนวรำคาญมากกว่าว่ะ อยากเอาไม้ฟาดให้ไปไกลๆ แต่กูไม่รู้หรอกว่าใคร กูแค่อยากบ่น
>>9 เป้าหมายระบบแล้วแต่เรื่อง บางเรื่องตัวดอกหลุดเข้ามาในโลกจำลอง ระบบคือผู้ควบคุมแล้วทำการทดลองอะไรสักอย่าง บางเรื่องเป็นแนวระบบคือพระเจ้า บางเรื่องระบบมาเพืาอกู้โลก บางเรื่องระบบรักกันเอง บางเรื่องระบบก็เหมือนพนักงานบริษัทที่มาคุมโลกเราอีกที
เอาจริงๆระบบมันก็แนวเหมือนพระเจ้าคอยซัพอะแค่เปลี่ยนพระเจ้าเป็นเทคโนโลยีแบบเกม
กูว่าระบบมันฮิตตรงที่
1.คอยตบมุก ชงมุกของตัวเอก/คู่ของตัวเอกได้ดี เป็นตัวแทนของคนอ่าน
2.สามารถยัดการกระทำไม่สมเหตุสมผลจนทำให้เรื่องเดินต่อหรือเซอร์วิสได้ง่าย ไม่ต้องมีเหตุผลมารองรับแค่อ้างว่าระบบสั่งก็พอ
3.ตัวเอกมักมีความเก่งโดดเด่นจากตัวละครอื่น โดยอาจเพราะรู้เนื้อเรื่องอยู่ก่อนหรือได้รับการอัพเดทจากระบบ
>>37 เคสกูเห็นเรื่องไหนน่าสนก็เฟบไว้ก่อน อ่านบ้างไม่อ่านบ้าง บางเรื่องเฟบตั้งแต่ตอนแรกยันจนจบไม่เคยเข้าไปอ่าน
จนมันเด้งมาว่านขจะเปิดพรีรวมเล่มกูก็จะใช้แรงฮึดเฮือกสุดท้ายเข้าไปลองอ่านดู อ่านแล้วไม่คลิกก็เอาออก
เคสโม่งนขอาจจะเป็นกูก็ได้ ไม่ต้องน้อยใจนะว่ากูอ่านจบแล้วทิ้ง กูอ่านไม่จบ
ถ้าเรื่องที่อ่านจริงๆ จบแล้วกูก็ไม่อันเฟบนะ เผื่อเขามาแจ้งข่าวสาร ลงตอนพิเศษ หรือเปิดเรื่องใหม่กูก็ตามต่อยาวๆ
ถามคนเขียนที่ขายของแล้วบอกมีนัดรับตามbtsหน่อย ว่านัดรับไงคือต้องซื้อตั๋วของสถานีที่นัดรับหรือไปให้กันตรงรถไฟฟ้าเลย
ky ถามนักเขียนที่งานด้วย มึงแบ่งเวลากันยังไงวะ กูทำงานเสร็จกลับมาล้าชิบหาย นิยายกูก็ยังไม่ไปถึงไหนเลย แล้วคือกูทำงานถึงวันเสาร์ กูจะร้อง
นขคนไหนยอดเฟบไม่ถึงพัน พวกมึงขายได้กี่เล่ม
>>42 กูมาแชร์บ้าง ใช้เวลาช่วงเย็นหลังเลิกงาน แต่ปกติกูเลิกงานถึงห้องก็คือ 1 ทุ่ม
แต่งเก็บวันละหน้าสองหน้า แล้วแต่ฟีล ไม่ก็เสาร์อาทิตย์ แต่ช่วงนี้เสาร์อาทิตย์กูออกไปเที่ยวบ่อย
แต่ว่าพักไหนที่งานประจำหนักๆก็อ่วมอะมึง ต้องแบ่งเวลาดีๆ แต่เอาจริงเวลานอนน้อยไม่ใช่ปัญหา
เวลาเราสละเวลามาแต่งแล้วลงไปแต่ไร้ฟีดแบ็กนี่ทำให้กูเทได้ง่ายกว่าสุขภาพพัง 55555
ky มึง..ของแถมจำเป็นไหม สำหรับนิยายวาย ถ้าจะเปิดพรี(ทำมือเองนะ) เห็นความคิดเห็นบางคนก็ไว้ไม่อยากได้ กูเองก็ว่ารกบ้าน(ฮา) หรือควรแบ่งเป็น 2 กลุ่มไปเลย ไม่เอาของแถมราคา เอาของแถมอีกราคา... แต่ของแถมนี่ตัวแพงเลยนะสำหรับทำน้อยๆ นี่ ปวดใจ..
>>52 ความเห็นคนซื้ออย่างกูนะ ถ้ามึงมีของพรีเมี่ยมเฉพาะรอบจอง หรือพิมพ์รอบเดียว อะไรแบบนี้ คนจะจองจากมึงเยอะกว่าขายหนังสืออย่างเดียวหรือมีสต๊อกไว้เยอะ เพราะถ้าไม่ใช่แฟนคลับมึงจริงๆคนจะเอาเงินไปซื้อเรื่องอื่นที่มันมีพรีเมี่ยมเฉพาะรอบจองก่อนหนังสือของมึงเพราะเขาจะมองว่าหนังสือมึงซื้อเมื่อไหร่ก็ได้
ถ้ามึงอยากเอาใจพวกไม่ชอบพรีเมี่ยมรกบ้านด้วยกูว่าทำพรีเมี่ยมเป็นเล่มเล็กรวมตอนพิเศษอะไรแบบนั้นดีกว่านะ เพราะบางคนก็อยากได้แค่หนังสือ ถ้าของพรีเมี่ยมเยอะแล้วราคาแรงอาจจะโดนเทเอาง่ายๆ
>>52 สำหรับกูไม่จำเป็นรกบ้าน แต่ถ้าไม่มีของพิเศษรอบพรีก็อย่างที่บนๆว่าว่าคนจะไม่กระตือรือร้นซื้อ ดังนั้นของพิเศษที่ต้นทุนต่ำสุดแล้วคนอยากได้สุดคือเล่มเล็กว่ะ แต่ถ้ามึงสงสารคนอ่านที่มาซื้อทีหลังแล้วไม่ได้อ่าน มึงก็อาจลงอีบุ๊กของเล่มเล็กพบกันครึ่งทางงี้ แต่ตั้งราคาให้แพงหน่อย ให้คนเห็นว่าของรอบพรีมีค่า
ของแถมกูว่าพวกที่คั่นกำลังดีว่ะ นอกจากนั้นรกมาก กูไม่รู้จะเก็บยังไงแล้ว
พูดถึงของแถมกูว่ารกมาก กูจะเอาแค่หนังสือในฐานะคนอ่านกูเซ็งที่ต้องเพิ่มเงินเพราะของแถม ทั้งที่ราคาหนังสือไม่เท่าไรแต่ต้องจ่ายแพงเพราะของแถม แต่พอมาเป็นคนขายกูก็เข้าใจสาววายส่วนมากเป็นพวกบ้าของแถม ถึงจริงๆจะไม่ได้แถมเพราะบวกเงินลงไปแล้วแม่งก็ต้องทำไม่งั้นขายไม่ได้อีก
สำหรับกู กูว่ารอบพรีออเดอร์ลดราคาหรือส่งฟรีก็ดีนะ
>>52 สำหรับกูที่ทั้งซื้อและเปย์ ของแถมเป็นอะไรที่น่ารำคาญมาก
กูขอแบ่งเป็น 2 ฝ่าย เพื่อให้มึงลองชั่งน้ำหนักตัดสินใจ (แต่หลักๆกูก็อิงจากครส.ตัวเอง)
ในแง่คนซื้อ : รกมาก ของแถมเนี่ย ยิ่งพวกบ็อกเซ็ตคือกูเน้นการอ่านไม่ใช่สะสม
กูเลยรู้สึกว่ามันยัดเข้าชั้นลำบาก พอเอาเข้าชั้นก็ไม่สวยอีก
ยิ่งพวกของแถมเป็นโปสการ์ดเยอะๆหรือโปสเตอร์ยิ่งแล้วหนัก (อันนี้ฝั่งแฟนฟิคนะ)
โปสเตอร์งี้กูไม่รู้จะเอามาแปะตรงไหน ลำพังก็ไม่ค่อยแปะฝาห้องนอน ล่ะบางอันเรท เก็บก็ลำบาก
สอดใส่หนังสืองี้ บางคนแถมมา 4-5 อันคือหนังสือมันพองอะะะะะะ
ในแง่คนแต่ง : มันคือต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ปกติก็มีแค่ต้นทุนคนวาดปกใช่ไหม พอจะทำของแถมปุ๊บมันคือต้นทุนเพิ่ม
เราต้องจ้างวาดเพิ่มอีก ซึ่งเงินก็ไม่ใช่น้อย ๆ อะ จะแถมแค่ที่คั่นไปคนอ่านบางคนก็ถึงกับเมนชั่นมาถามด้วย
เล่มนี้ไม่มีของแถมเหรอคะ แบบกูก็ไม่รู้จะพูดยังไงดี เลยคิดว่ามันก็คงมีพวกที่ชอบงานเรา และอยากสะสมอะ เขาก็เลยถามหาอย่างอื่นด้วย
กูเคยคิดแบบนักเขียนใจหมาว่าจะอ่านงานกูหรืออยากซื้อเพราะเก็บของแถม
แต่สุดท้ายกูว่าการมีของแถมในหนังสือมันคือค่านิยมอะ เหมือนทุกคนทำ กลายเป็นว่าพอมึงไม่ทำ มึงจะดูแปลกแยกอะ
มึงจะกลายเป็นนข.ที่ดูไม่ลงทุน แต่ถ้าไม่แถมแล้วขายถูกหน่อยก็โอเค กูว่าเดี๋ยวนี้พวกฟิคที่แพงๆ คงเพราะต้นทุนของแถมเนี่ย
ล่ะช่วงนี้แถมกันเว่อร์วังมาก สมัยก่อนกูซื้อได้ที่คั่นมา 2 อันงี้ กูก็พอใจแล้วนะ เพราะกูซื้อมาเพื่ออ่านได้หลายรอบ
กูขอพูดตรงๆ อาจจะดูใจร้าย แต่นิยายเดือนๆ นึงออกมาเยอะมากกกกก งบซื้อมีจำกัด กูเลือกซื้อเฉพาะเรื่องที่มีของแถมพิเศษจำกัดรอบจองเท่านั้นก่อน (แม้จะไม่ได้ชอบมาก) เรื่องไหนไม่มีอะไรพิเศษก็ไว้ท้ายสุดหรือยังไม่ซื้อเลย หรือรอมือ 2 (ไม่ว่าจะชอบแค่ไหนก็ตาม) เพราะเรื่องที่แถมพิเศษรอบจอง ถ้าหมดรอบไปก็หายากหรือโดนอัพ และถ้าต้องเสียเงินซื้อเท่าคนอื่น ก็อยากได้ของครบๆ นะ
อ้อ พวกที่รอบจองจำกัดจำนวนของแถม 30 คน 50 คน 100 คน ถ้ากูไม่ทัน ก็เทเหมือนกัน คือรอบจองละยังมาจำกัดจำนวน จ่ายก็จ่ายเท่ากัน เทเลยละกัน
งั้นนข คงต้องหาของแถมกันต่อไป
มึงควรหาของแถมเฉพาะรอบจองเท่านั้น คนซื้อจะรู้สึกว่าสำคัญมากเพราะคนซื้อส่วนใหญ่ เดี๋ยวนี้เตรียมขายต่อแล้วคนซื้อต่อก็เป็นพวกแบบโหยหาของแถมรอบจองนะมึง
ทิ้งคนซื้อสักคนสองคนที่เรื่องเยอะๆ ก็ไม่เป็นไรหรอก ทำให้ทุกคนพอใจไม่ได้นะ
>>64 ถามหน่อยว่าถ้าเป็นเรื่องที่ขายแต่คนพรีแล้วปิดจ๊อบไม่มีขายลงร้านลงงานให้ซื้อทีหลัง และไม่ได้ดังระดับจะรีปรินท์ง่ายๆ มีของแถมไม่มีของแถมมีผลต่อการตัดสินใจมั้ย คือกูมองว่ามึงเลือกซื้อที่มีของแถมก่อนเพราะคิดว่าเดี๋ยวซื้อทีหลังก็ได้เลยสงสัยในกรณีที่อาจไม่สามารถหาซื้อทีหลังได้
>>68 กูไม่ใช่ 64 นะ
จะซื้อนิยายเรื่องนึงจากอะไรบ้าง
อย่างแรก ซื้อแน่นอน ถ้าแบบนี้ตัดไปเลยไม่ว่าจะมีของแถมหรือไม่มี คนจะซื้อก็ซื้อ เพราะตั้งมั่นจะซื้อแล้วอาจจะเพราะนักเขียนประจำ อะไรก็ว่ากันไป
ไม่ซื้อแน่นอน ตัดไป
ส่วนลังเลจะซื้อนี่แหละ เพราะอย่างที่รู้ว่านิยายออกใหม่เยอะมาก ยิ่งถ้านข ไม่ดัง ไม่ได้อ่านงานนข ด้วยอีก การจะซื้อยิ่งต่ำลงมา แต่ถ้าของแถมดี พ่วงกับปกสวย มันจะทำให้หลงซื้อได้เพิ่มขึ้นน่ะ
คราวนี้กลับมาที่คำถามมึง ถ้านข ไม่ดัง โอกาสรีปริ้นน้อยหรือแทบไม่มี ของแถมมีผลมั้ย
สำหรับกู ถ้าไม่ได้อ่านงานนข คนนั้น ไม่ได้ตามงาน ของแถมไม่มีผลนะ เพราะไม่ได้คิดจะซื้ออะ มันเลยไม่เสียดาย แล้วถ้าจะเก็งราคาเผื่อขายในอนาคตก็ยากนะเพราะคนอ่านไม่รู้จัก โอกาสจะซื้อก็ยาก ยกเว้นฟลุคจริงๆ ที่ต้อนหลังมีกระแสบูมขึ้นมา คนเริ่มตามหาซื้อนี่แหละ ราคาถึงอัปได้ แต่ถ้าถึงตอนนั้น ดังขึ้นแล้ว โอกาสรีปริ้นก็จะสูงตามมา
กูอาจจะตอบตรง ไม่ตรงคำถามบ้าง ขออภัยนะมึง
สำหรับกูง่ายๆว่ะ
เรื่องถูกใจรึเปล่า=ส่งผลต่อการโอน
ราคายังไง=ส่งผลต่อเวลาการโอน
ถ้ากูรู้สึกราคาพีคไปก็ค่อยไปทบทวนข้อ1ใหม่ว่าถูกใจถึงระดับรึเปล่า
ปล.แต่กูสายของแถมรกบ้านน่ะนะ
สำหรับกูของแถมไม่สน ทิ้งหมด
สนใจแต่เนื้อหากับความยากง่ายในการซื้อ
ถ้าเรื่องที่อยากได้มากวุ่นวายนิดก็ยอม แต่ถ้าเรื่องที่เฉยๆแต่ต้องสั่งต้องจองรอนานเอาเลขบัตรประชาชนบลาๆ เทค่ะ
>>64 ซื้อๆ อะไรที่หาซื้อทีหลังไม่ได้ มีหรือไม่มีของแถมกูก็ซื้อ กูสายซื้อแล้วไม่ขายต่ออ่ะ เก็บนานไปก็อยากมีให้ครบๆ
อันนี้กรณีเรื่องที่กูลังเลว่าซื้อไม่ซื้อนะ แต่เรื่องไหนที่กูตั้งใจซื้อ มีหรือไม่มีของแถมจำกัดจำนวนก็ซื้อหมด ยกเว้นรอบพรีที่ของจำกัดมากๆ แบบ 5 คน 10 คน แล้วกูไม่ทัน ก็เทอ่ะ เสียความรู้สึก คือถ้าชอบขนาดตั้งใจซื้อแน่ๆ ก็อยากมีครบ ถ้าได้ไม่ครบก็รออีบุ๊กหรือมือสองราคาเบาๆ ที่มีแค่เล่มดีกว่า
Ky นิยายแนว slice of life มีคนอ่านเยอะแค่ไหนวะ
กลัวนิยายขายไม่ได้จัง
กูเห็นจำนวนนิยายเปิดพรี+ขายงานหนังสือตอนนี้กูก็ได้แต่ถอนใจ เอาแค่ไม่เข้าเนื้อกูก็พอใจแล้ว
Ky ของแถมนิยายอะไรที่ดึงดูดใจนักอ่านวะ แบบเห็นแล้วต้องพรีต้องซื้ออ่ะ
ของที่พวกไม่ใช่สายสะสมอยากกูค้นพบว่ากรีดร้องให้มากที่สุดคือเล่มเล็ก เนื้อหาเสริมต่างๆ
ส่วนโปสเตอร์ โปสการ์ด รูปภาพ บลาๆๆ ไม่สนเอาจริงๆ จังๆ เลยว่ะ
ขอถามหน่อย พวกมึงรับมือยังไงกับคอมเมนต์หาย หรือคอมเมนต์ในแง่ลบวะ ในกรณีที่มึงตัดสินใจเขียนในแบบที่ตัวเองอยากเขียน
>>99 เศร้าจริง คืดถ้ากูบ่นผ่านสื่อ แน่นอนว่าข้อหาไร้้วุฒิภาวะมาแน่นอน
คนเขียนแม่งต้องสตรองมากอ่ะ เขียนดี เฟบน้อย ต้องอดทน ห้ามบ่น ห้ามเขียนหวังเฟบ จะแพ็คขาย ก็ด่ากูหาว่าเขียนนิยายหวังเงิน จะเขียนตามใจ ฉากเซอร์วิสน้อย คนอ่านลด (ซึ่งเป็นสิทธิของเขา กูเข้าใจ) แต่กูก็บ่นไม่ได้อีก ต้องสตรอง
>>100 ความสตรองนี้ต้องก้าวผ่านจริงๆ ปิดตอนโดนจวกอีก ว่ามาแรงๆ ห้ามว่ากลับ กลืนก้อนเลือดลงคอไป
กูรู้แหละว่าเฟบมันไม่มีอะไร แต่เห็นมันลดฮวบๆ ก็เศร้าว่ะ สุดท้ายก็ได้แค่มองนิยายตัวเองว่าทำผิดอะไร
ทำมือ ราคาแพงโดนว่าอีก คือกูพิมพ์น้อยราคาทุนมันจะเท่าราคาขายอยู่แล้ว ยิ่งตอนพิมพ์ต่ำกว่า 50 เล่มนี่กูแทบล้ม ศาลาคนเศร้าจริงๆ ว่ะ
>>95 ข้อแรก เราไม่สามารถทำให้คนทุกคนชอบเหมือนเรา ถ้าปลงตรงนี้ได้ มึงจะเบาสบายและหลุดพ้นจังหวะหนึ่ง
ข้อสอง ความคิดของตัวเราเองก็ไม่ได้จะถูกต้อง หรือดีที่สุด ถ้าย้อนมองตรงนี้ได้ มึงจะเบาสบายและหลุดพ้นจังหวะหนึ่ง
หนังที่ฉายในโรงขนาดเป็นมืออาชีพ การให้คะแนนเว็บมะเขือเน่ายัง แบ่งเป็นนักวิจารณ์ กับคนทั่วไป แปลว่าเราเชื่อทุกคนไม่ได้
เมื่อก่อนตอนเริ่มเขียนใหม่ๆ ในหัวคือ ”อยากเขียนจังเลย” มีความสุขก็เขียนออกมา(จริงๆ ความรู้สึกนี้ต่างหากที่สำคัญมาก)
แต่พอมีคนชอบ ก็ยิ่งแล้วใหญ่ เหมือนได้รับการยอมรับ ตัวลอยเลย เหมือนเป็นดารา(ฮา) กูก็สนใจคอมเม้นท์มาก ตอนนั้นเราคิดในใจว่ารับคำติชมเพื่อพัฒนาผลงาน อยากให้คนเม้นท์เยอะๆ รู้สึกเหมือนมันเป็นแรงผลักดัน
แต่สิ่งที่เป็นคือ หลงใหล ลุ่มหลงไปกับคำชม ดำดิ่ง เครียด จิตตก เวลาโดนด่าแรงๆ หรือ โดนขู่ หลงอยู่ในวังวนแบบนี้ เข้ามาเช็ควันหนึ่งไม่รู้กี่ครั้งไม่ได้ทำงานทำการ เหมือนคนประสาท
มาคิดได้ตอนที่เกิดความพังทลาย สูญเสียความอยากเขียนไปแล้ว ตั้งคำถามให้ตัวเอง
คอมเม้นท์พวกนั้นใครก็ไม่รู้ในโลกออนไลน์ร้อยพ่อพันแม่ ความถนัด การศึกษา ตรรกะ หรือประสบการณ์ชีวิตก็ไม่เหมือนกัน มันมีคนชอบ มันก็มีคนเกลียด เราควรเชื่อไหม เชื่อใคร?
มันมีคราวๆ สองสาย
สายมืออาชีพ คือมึงต้องฟัง แต่ถ้าเราฟังมากไปความเป็นตัวตนของเราก็จะลดลง งานไม่เป็นเอกลักษณ์ นานๆไป คนอาจจะเบี่อ มึงก็ต้องรักษาความสมดุล ให้มันเป็นทางสายกลาง ไม่มากไป น้อยไปถ้ามึงอยากยึดเป็นอาชีพขายงานให้คนอ่าน
สายศิลปิน เป็นมึงเลยโว้ย ไปให้สุดเขียนอย่างที่อยากเขียน ไม่จำเป็นต้องแคร์ใคร อยากอ่าน อ่าน ไม่ชอบ ชั่งแม่ง
งานเขียนการทำงานส่วนใหญ่อยู่ในหัวมึง ในจิตใจมึง ไอ้ที่ถ่ายทอดออกมาเป็นตัวหนังสือ ก็แค่เศษเสี้ยวตะกอนความคิดของมึง ถ้ามึงตามใจคนอ่านมันไปไกล มึงมีความสุขกับเรื่องที่ดำเนินไปไหม ถ้ามึงโอเคก็สบายไป ไม่ต้องเครียด
แต่ถ้ามึงไม่โอเคแล้วต้องทนเขียนไปตามใจคนอื่นนี่ ความสูญเสีย ความพังทลายจะเกิดภายใน ระดับจิตใจ กับมึงคนเดียว ไม่มีใครอยู่ข้างๆ มึงจริง อธิบายให้ใครฟังก็ยาก…
ทิ้งท้าย บางครั้ง ชีวิตจริงมันไม่มีอะไร ที่ได้กับได้ บวกๆๆ ตลอดเวลา โลกนี้ไม่ได้มีแค่ขาว-ดำ แล้วก็ เทา ไม่ใช่สัจธรรม โลกนี้มีหลากสีมากกกกก กว่าเครื่องมือใดๆ จะแสดงผล หรือชี้วัดออกมาได้ สิ่งสำคัญคือ "ตอนนี้เวลานี้มึงมีความสุขกับผลงานตัวเองไหม" อย่าเอาหัวใจความสุขของมึงไปฝากกับคนอื่น
คือกรุงงว่าจะทำมือทำไมแค่ 50 เล่ม รู้ทั้งรู้ว่ายังไงก็เข้าเนื้อ เสียแรงเปล่าแล้วยังจะทำนี่กรุขอด่านะว่าโง่ ก็ปล่อยเป็น web novel ไปดิ จะหาเรื่องทำไม
>>102 โอ๊ยมึง คือดีมาก ขอบคุณมากมึง
กูไม่ได้กะเขียนเป็นอาชีพ (แต่ก็อยากรวมเล่มนะ) กูเขียนเพราะชอบเขียน แต่ก่อนมีเมนต์เดียวกูก็เขียน สนุกของกูคนเดียว เดี๋ยวนี้กูกังวลว่ายอดเมนต์จะเท่าเดิมไหม ยอดเฟบจะลดป่าว กูลงตอนที่กูคิดว่ากูอยากใส่ลงไป แต่คนอ่านน่าจะไม่โอเค พอได้เมนต์ลบกลับมา กูก็แอบเฟล
กูคิดว่ากูจะเขียนอย่างที่อยากเขียนว่ะ คือ ถ้าเปลี่ยนไปมันไม่ใช่ตัวกู พล็อตไม่ใช่แบบที่กูชอบ แล้วกูจะเขียนทำเกลืออะไรวะ
>>103 อย่าว่าแต่เค้า 50 เล่มเลยมึง 20 เล่มกูก็พิมพ์มาละ ถามว่ากูแคร์ไหม คือเข้าเนื้อกูก็เซ็ง แต่กูก็อยากพิมพ์ออกมาเป็นรูปเล่มว่ะ มันสำคัญทางใจ กูชอบของกู มีคนชอบกับกูน้อย แต่คุณค่างานกูมันด้อยกว่าของคนที่เค่ามีคนชอบเยอะ ๆ เหรอวะ สำหรับคนอื่นอาจจะใช่ แต่สำหรับกู กูตอบว่าไม่
เย็บมือนี่ตายหมดแล้วหรอวะ จำได้ว่าสมัยก่อนเพื่อนกูทำกำไรเกินครึ่ง
พอเปลี่ยนมายุคทำเล่ม เหมือนคุ้มทุนแม่งต้อง 100 เล่มมั้ง กัดฟันสั่งเกินยอดพรีไปแม่งคนซื้อไม่ถึง ของเหลือบาน 555
Ky กูมาต่อจากมู้เม้า กูอยากรู้ว่าในสายตาพวกมึง สนพ ไหนผ่านพิจารณาง่ายสุดวะ สนพ เปิดใหม่ผ่านง่ายจริง?
คือดีมาก ขอบคุณมากมึง ขอบ่นหน่อย ช่วงนี้สมองกูวุ่นวายกับการปั่นนิยาย ต้นฉบับก็ค้างเขาไว้สองเรื่อง สองสนพ. คือกูไปสายอาชีพแล้วไม่รุ่งเลย พอได้ชื่อว่าเขียนแล้วจะตีพิมพ์แน่ๆ กูเลยไม่สามารถเขียนงานออกมาแบบสบายๆ ว่ะ เรื่องหนึ่งคือรีไรท์เกินสิบรอบจนปิดตอนเลิกอัพลงเว็บชั่วคราว หมดค่านิยายหรือหนังสือที่จะเอามาเป็นrefเกิน5000ละมั้ง คือแม่งเครียดฉิบหาย กลัวฟีดแบ็ค กลัวคำวิจารณ์ กลัวขายไม่ได้ ยาซึมเศร้าก็แดกไปเถอะ5555 ถึงสนพ.จะไม่ได้กดดันอะไรมากนะเนี่ย กูเลยคิดว่าเคลียร์สองเรื่องนี้เมื่อไหร่กูจะเลิกละสัญญาระหว่างเขียน รอใกล้ๆ จบหรือจบแล้วค่อยทีเดียว เวลาเขียนจะได้ชิลรอทำอีบุ๊คเองแม่ม
>>116 อย่าเป็นเหมือนกูหละ ที่ป่านนี้ 3 ปีแล้วมันยังชิลไม่ได้ ความสุขตรงนั้นมันหายไปแล้วถึงความอยากจะเขียนอะไรสักอย่างยังคงอยู่ก็เถอะ คือตอนนี้กูยังเฟลกับบทวิจารณ์ที่เอางานกูไปเปรียบเทียบพวกอัจฉริยะไม่หายเลย ตอนนั้นกูยังใหม่ด้วยไง เอาจริงมันเทียบไม่ได้อยู่แล้ว
กูไม่รู้ว่ามีใครถามหรือตอบไปรึยัง ถ้ามีคนตอบแล้วแปะลิงค์ให้กูหน่อยก็ได้ว่าอยู่เซ็กชั่นหมายเลขอะไรในมู้นี้
คือกูจะเขียนนิยายลงเน็ตแต่มันค่อนข้างเรทรุนแรง 18+ แต่กูไม่รู้ว่าจะลงเว็บไหน เล้าก็ยุ่งยากมันอืดๆแถมต้องแปะข้อความอะไรก็ไม่รู้ สำหรับคนเพิ่งหัดเล่นอย่างกูมันยากมากกับการใช้งาน จะเด็กดีก็ไม่ได้เพราะมันเรทชนิดบรรยายการกระทำของดุ้น
ยังไงขอความกรุณาเพื่อนโม่งช่วยที จะเอาเว็บแบบให้รายได้ก็ดีนะ
ขอบคุณล่วงหน้าเด้อค่าเด้อ
กอดพวกมึงนะ ในสายตากูพวกมึงเก่งมากๆ แล้วอะ ในขณะที่กูอยากเขียนแต่ก็ได้แค่อยากไม่มีความพยายามจะลงมือสักทีเลย พวกมึงทำได้ดีแล้ว กูเข้าใจว่าคอมเมนต์บางทีมันก็บั่นทอน คงบอกให้พวกมึงเลิกใส่ใจไม่ได้แต่เป็นกำลังใจให้ว่ะ พยายามดึงเอาความเป็นตัวเองที่สนุกกับการเขียนกลับมาให้ได้นะมึง
ตอบ 120 readawrite เดี๋ยวนี้คนก็เริ่มมาลงเยอะมึง ลองที่นี่สิ สำหรับกูชอบมากกว่าธัญนะ ไม่จำกัดเรทเหมือนกันด้วย อินเซสยังมีลงได้เลย
ปกติประกาศพรีหลังจบกี่เดือนกันเหรอ กูว่าการเกลาเรื่องกับแต่งตอนพิเศษต้องใช้เวลาสักพัก แต่กลัวว่าถ้าเว้นช่วงนานเกินไปคนอ่านจะหมดช่วงอยากได้นิยายที่จบไปแล้วแล้ว
มึงกูขอถามหน่อยปกติแล้วคนอ่านรับริบะได้ไหมวะ กูอยากเขียนแบบความจริงที่คู่เกย์ส่วนมากเขาก็ไม่ได้ยึดตำแหน่งตายตัวและอยากให้แมนๆทั้งคู่ แต่กูเห็นในเฟสพอมีริบะมาเสียงตอบรับแย่มากมีแต่คนยี้
เอาจริงมึงปะไว้ข้างหน้าเถอะว่ามี ถ้าคนโอ/ชอบก็โดนดึง แต่ถ้าคนไหนไม่ชอบจะได้ไม่มีปัญหา
สำหรับกูถ้าแมนๆ ทั้งคู่แล้วริบะกูโอเค แต่เคยเจอบางเรื่องนี่โคตรน้อง โคตรสาว แล้วมาริบะกูก็รู้สึกแปลกๆ
กูเป็นคนที่รับได้หมดทุกท่าทุกโพ ขนาดตอนแรกกูจิ้น AB นักเขียนเขียน BA กูยังอ่านได้สบายๆ หรือจะ ริบะ จะ 3P ABC กูก็อ่านได้... ตัวเล็กตัวน้อยเป็นฝ่ายกดตัวใหญ่กูก็ไม่รู้สึกว่าแปลก นิยายผู้หญิงเยผู้ชายก็อ่าน กูเฉยๆทุกกรณี สายตต.รับได้ชัวร์ แต่กูไม่รู้นะว่าตต.ที่เอามาแปลกันมีริบะไหม ขึ้นอยู่กับคนเขียนแล้วล่ะว่าจะทำตามที่ตัวเองต้องการหรือจะกลัวว่าคนอ่านจะเท หรือไม่ก็คิดว่าถ้าการริบะสำคัญกับพล็อตมึงก็ใส่ ถ้าไม่สำคัญก็ปล่อยไป ไม่ก็ฉากที่สลับก็ตัดจบไวๆไม่ต้องบรรยาย
>>138 เมะ เคะคือนิสัย การแสดงออก รูปลักษณ์ภายนอก หรือ ความชอบตอนซั่ม
ถ้าเกิดมาตัวเล็ก หน้าสวย ชอบร้อยดอกไม้ แต่ไม่ชอบถูกเสียบทำไง ต้องฝืนเป็นเคะไหม หรือลองแล้วชอบทั้งเสียบและถูกเสียบ แต่ไม่ได้มึงหน้าสวยมึงต้องอ้าขา หรือยังไง หรือถ้าหล่อล่ำ แมนๆเตะบอล ลองแล้วชอบถูกเสียบมาก แต่คือไม่ได้ มึงต้องเมะเว้ย
>>138 สาวคู่ก็ไม่อ่าน ที่จริงปกติกูไม่ได้อ่านเรื่องที่เคะสาวมากอยู่แล้ว เรื่องนั้นคือหยิบพลาดมา อย่างคู่ที่กูอ่านริบะได้กูรู้สึกว่าทั้ง 2 คนแมนพอๆ กัน ส่วนเมะเคะที่ไม่ริบพ มันจะมีคนนึงที่รู้สึกว่ามีความแมนน้อยกว่าอีกคน แต่ก็ไม่ถึงขั้นออกสาว หรือค่อนมาทางผู้หญิงอะ
>>141 กูเชื่ออยู่อย่างนึงค่ะมึง มีคนรออ่านอยู่เสมอ ขอแค่ลงมือเขียน แล้วเขียนให้สนุก ไม่ว่าจะเขียนให้สาวแตกแดกกันเอง แมนล่ำบาระ รีบะ 4P 5P แฟนตาซี ..แหก เขียนไปเถอะ เขียนที่อยากจะเขียน เป็นความสุข เป็นงานศิลป์ แต่ถ้าเขียนเพราะอยากให้มีคนอ่านเยอะๆ ก็เขียนแบบที่คนชอบ แนววิจัยตลาดก่อนผลิตสินค้า เน้นหากำไร
Ky พวก สนพ เปิดใหม่เขาพิมพ์ขั้นต่ำกี่เล่มวะ 500มั๊ย
สงสัย สนพ มีสิทธิ์ตีพิมพ์นิยายโดยที่ยังไม่ได้เซ็นสัญญากับ นข ไหม
Ky นิยายทำมือ พวกมึงหาคนพิสูจน์อักษรจากไหนอ่ะ
Ky พวกมึงเคยได้ยินประโยคสักประโยคแล้วเกิดแรงบันดาลใจแต่งนิยายขึ้นมามั๊ยวะ กูอ่านสปอยนิยายเรื่องนึงมาแล้วมีประโยคนึงที่ตัวเอกพูดแล้วกูชอบประโยคนั้นมาก เอามาแต่งนิยายใหม่ แต่พล็อตเนื้อเรื่องอะไรไม่เหมือนกับเรื่องนั้นเลย จะเป็นไรมั้ยวะ
ทำไมหมวดวายในดด แข่งขันกันสูงจังวะ แต่ก่อนเวลากูอัพยังติดTop20 ตอนนี้หลุดTop50 แล้วเศร้าชห TT
อยากให้ เว็บนิยายแยกหมวดย่อยในหมวดวาย แฟนตาซี โรแมนติก ไซไฟ ดราม่า ฯลฯ ฐานตอนนี้ก็กว้างมาก ไม่ร้างแน่นอน
Ky วายทำมือ พันเล่มนี่ยอดเฟบประมาณเท่าไหร่วะ
>>118 สามปีเลยเหรอวะ เป็นกำลังให้กลับมาเขียนอย่างที่ชอบได้เร็วๆนะ
>>119 >>122 ไม่คิดว่าจะมีนขวิตกจริตหลังเซ็นสัญญาเหมือนกูหลายคน tt คือกูเชื่อเรื่องดวง จังหวะขาขึ้นขาลงในการเขียนนะ กูไม่ได้ดังอะไรหรอก แค่อยากเล่า ว่าจุดเริ่มต้นมาจาก เรื่องแรกที่พิมพ์ไปแล้วได้แอครีวิวช่วยดึงคน กับอัพถี่เลยติดท็อปไฟว์(เมื่อสองปีที่แล้ว5555) แล้วเหมือนจังหวะนั้นมือกำลังขึ้น เขียนสองเรื่องที่ว่าก็สัญญาปากกับสนพใหญ่หนึ่งที่เล็กหนึ่งที่ไป(เรื่องหนึ่งนขในสนพนั้นมาดีล ส่งพล็อตไปผ่านแล้ว อีกเรื่องเขาส่งสัญญามา กูยังไม่เซ็นแต่คือให้เขาแน่ๆ แต่จนตอนนี้ก็ยังเขียนไม่จบทั้งสอง...) เครียดแอบดองไปเปิดเรื่องเขียนใหม่ อัพตอนเดียวก็มีสนพ.ใหม่ทักมาบอกว่าอยากเอาเป็นเรื่องแรกของเขา ขอสามเดือนให้จบได้ไหม ตอนนั้นกูปสด+แพนิคอะไรไม่รู้ ตอบปฏิเสธแล้วลบเรื่องทิ้งซะงั้น จนตอนนี้เหมือนติดอยู่ในวังวนบางอย่าง ขนาดคิดถึงตังค์ที่จะได้ใจยังไม่ไปด้วยเลยย ชีวิตจริงก็เสือกเรียนคณะที่เรียนหนักแล้วก็ยอดฮิตในวายมหาลัยอีก พูดตรงๆไม่รู้ตรงไหนคือความพอดี คือเป็นนขใครก็อยากได้โอกาส แต่พออย่างนี้แล้วกดดัน สรุป ช่วงนี้กูเป็นนขinactive แน่นิ่งไร้การเคลื่อนไหวมาก ฮาา
>>124 ขอบคุณมากมึงง
Ky ขอคำแนะนำหน่อย แต่งแนวสืบสวนยังไงให้ดูน่าติดตามดี รู้สึกว่าที่กูแต่งมันราบเรียบ(อ่านเอง) ควรใช้มุมมองบุคคลที่1 หรือที่3ดี กูแก้มาหลายรอบ อยากเขียนแนวนี้มาก ดองมานานเพิ่งหยิบมาแก้ใหม่
>>176 มึงต้องคิดก่อนว่าอยากให้คนอ่านรู้สึกแบบไหน แบบคนอ่านรู้คนร้ายไปพร้อมกับมึง หรือ ไม่มีใครรู้เลยนอกจากมึง แล้วค่อยเฉลยๆ ไปทีละนิด
แนวบุคคลที่ 1 ทุกคนจะรุ้จากมุมมองคนใดคนหนึ่งเพราะฉะนั้นรู้เฉลยพร้อมกัน ส่วนบุคคลที่ 3 มึงเลือกเลยว่าเอาแบบไหน
แนวสืบสวนแต่งให้น่าสนใจต้องวางปมซ่อนเงื่อนให้คนลุ้นไปกับมึงจะดีกว่า ให้คนอ่านได้คิดไปพร้อมๆ กับเรื่องมันจะดูให้น่าติดตาม
ส่วนสำนวนยังไง อันนี้กูแนะนำไม่ได้ ลายมือใครลายมือมัน แต่ส่วนตัวกูไม่ชอบให้เวิ่นเว้อยืดยาว แทรกจุดปม ชวนคิดไปทีละนิดแบบนี้
เห็นพวกมึงเม้ากันแล้วนึกถึงสมัยก่อนที่ต้องส่งต้นฉบับให้สนพวะ สมัยนี้นข คนไหนมี.านคนอ่านเยอะๆ แต่งไปได้3-4ตอนก็มีสนพ ติดต่อมาแล้ว วงการวายกำลังเฟื่องฟูหรือสนพอเปิดใหม่เยอะเกินเลยต้องแย่งนข กันวะ 5555
นข ที่รีเควสนักวาด แล้วไม่ได้ตามที่ต้องการนี่ทำไงวะ สนพ ได้มาแต้งมึงกันมั้ยว่าคิวยาวมากหรือไม่ได้ หรือเค้าหาคนวาดใหม่วาดปกเลย
นี่มู้นักเขียน กูว่าอย่าเอาค่ายนู้นค่ายนี้มาแซะเหมือนมู้เม้าเลยว่ะ ถ้าไม่ชอบก็ให้เหตุผลว่าไม่ชอบยังไง ถ้าชอบก็ให้เหตุผลว่าชอบเพราะอะไร ดีไม่ดียังไง บางทีก็อยากความคิดเห็นที่เป็นเรื่องเป็นราวบ้าง
>>191 + จริง สนพบางที่อาจทรีตนักเขียนกับนักอ่านไม่เหมือนกัน(มั้ง กุก็ฟังเขามา บางที่ทำงานด้วยแต่ไม่ได้อุดหนุนเขา) ก็เม้าท์เอาเท่าที่เป็นสาระเหอะ กูไม่ได้เข้าข้างใครนะ แต่อยากได้ข้อมูลประมาณว่าแต่ละที่ทำด้วยแล้วเป็นยังไงมากกว่า มู้เม้าท์ก็คุยเอาทางนู้นละกัน 5555
ky ขอคำปรึกษา พวกมึงว่าเขียนนิยายวายแฟนตาซีมันรุ่งปะวะ คือกูชอบแต่งแต่แนวนี้ แต่ไม่ค่อยมีคนเม้มท์เลยง่ะ ไม่ค่อยมีใครแนะนำนิยายกูด้วย บางทีก็เฟลชิบหายเลย แต่แบบ...ตอนนี้กูก็ยังหน้าด้านเขียนอยู่ แต่กูก็อยากได้กำลังใจจจ
รีวิวในโม่งควรเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งอ่ะ บางทีฟค.ชอบหวีดมันก็เลยดูหวีดเยอะ พวกเนียนอวย คนรู้จักกันก็มี เรื่องมึงไม่มีคนหวีดมองอีกมุมก็คงกลัวโดนด่าว่าม้าด้วยแหละ กูไม่ค่อยกล้าเพราะกลัวหวีดแล้วนข.โดนด่ามาก ถถถถถ
>>198 กูกลับมองว่ามันน่าจะเป็นความชอบของแต่ละคนนะ เขาอาจไม่ม้าแต่ว่าชอบแนวนั้นซึ่งอาจเป็นแนวที่มึงหรือกูไม่ชอบ แต่เห็นด้วยที่อ่านรีวิวแล้วควรหาร 2
ทางที่ดีความอ่านตัวอย่างแล้วลองพิจารณาเอาว่าถ้ามึงอ่านตัวอย่างแล้วอยากตามต่อจะเสี่ยงซื้อมาก็ได้ แต่ถ้าอ่านแล้วไม่โอเคมึงก็เท เพราะตัวอย่างถือเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจ แต่ถ้าอ่านแล้วลังเล ก็ลองหารีวิวหลายๆแหล่งเพื่อพิจารณาเอา
ไม่ว่ารีวิวที่ไหนก็ต้องใช้วิจารณญาณ เพราะต่อให้รีวิวด้วยความจริงใจ100% รสนิยมก็อาจต่างอยู่ดี
กูว่าการรีวิวมันมีข้อดีตรงที่อย่างน้อยชื่อก็ผ่านหูผ่านตาคนว่ะ อารมณ์เดียวกับทำไมชั้นหนังสือมีแนะนำนิยายแฟนตาซีวนแต่เรื่องเดิมๆ เพราะคนก็เห็นผ่านตากันแค่นั้น
Ky กูรู้สึกเขียนดราม่าได้ไม่ถึงอารมณ์ว่ะ ใครมีอะไรแนะนำกูได้บ้างวะ อยากให้แบบอ่านแล้วน้ำตาไหล
>>203 กูก็เป็นอะ บางคนเขียนน้อยแต่อารมณ์ดันได้ เท่าที่กูเคยเขียน (ซึ่งก็ไม่คิดว่าเศร้า) แต่คนอ่านบอกว่านั่งร้องไห้เลย
คือบรรยากาศและความรู้สึกของตัวละคร มึงต้องใส่ให้ครบค่อยๆ ไล่อารมณ์แบบ อาจจะเปิดดูห้องโล่งๆ เงียบๆ ดูอ้างว้าง คือควรพูดถึงฟีลให้คนอ่านรับรู้ด้วย พอมีตลค เข้ามาก็ควรบอกให้ครบอะถึงความรู้สึกตอนนั้น สีหน้าท่าทาง ร้องไห้ หดหู่ ขอบตาแดงก่ำ บลาๆ ไรงี้อะ
ปล มันยากนิดหนึ่ง แต่กูเชื่อว่ามึงทำได้
Ky กูถามอะไรหน่อย คำว่าซือฟุกับซือจุน แปลว่าอาจารย์ใช่มั้ย แล้วมันใช้ต่างกันยังไงวะ กูงง เห็นบางเรื่องพระเอกเรียกนายเอกซือจุน บางเรื่องเรียกซือฟุ
KY กรุคิดพล๊อตนึงขึ้นมาซึ่งต่อยอดมาจากหลายๆพล๊อตที่กรุพบ ที่นี้กรุไม่รู้จะจบแบบไหนดี เลยอยากขอความเห็นเพื่อนโม่งหน่อยว่าถ้าเป็นตัวเองจะทำอะไร
Setting คือ กลุ่มผู้กล้าต้องไปปราบจอมมาร แล้ว Gimmick ของจอมมารคือเมื่อตายแล้วจะส่งพลังให้ปีศาจตัวอื่นต่อเพื่อรอฟักตัวเกิดมาใหม่ วิธีฆ่าถาวรคือต้องให้ผู้มีสายเลือดเทพเป็นคนลงดาบสุดท้าย เพราะจะดึงพลังเข้าตัวให้หักล้างกับเลือดเทพ จอมมารจะตายถาวรแต่ผู้กล้าคนนั้นต้องตายด้วย
ฝ่ายผู้กล้ามี 2 คนที่มีเลือดเทพคือพระเอกกะนายเอกที่รักกัน (อาชีพอะไรก็ได้ นักดาบ นักเวท นักบวช เป็นต้น) ก่อนจะบุกปราสาทมีแม่มดคนหนึ่งในกลุ่มที่เป็นผู้ช่ำชองในศาสตร์ต้องห้ามมายื่นข้อเสนอ ให้ 1 ใน 2 คนมีอะไรกับตนเพื่อที่จะตั้งท้อง เมื่อจอมมารตาย เด็กในท้องจะเป็นผู้รับพลังมาแทนและเด็กจะไม่ตายเพราะสามารถผสมพลังทั้งสองได้ เด็กจะเกิดมาเป็นผู้ยิ่งใหญ่โดยแม่มดจะเป็นคนเลี้ยงดูเองเพื่อไม่ให้กลายเป็นจอมมาร แม่มดยื่นข้อเสนอให้นายเอกก่อนเพราะสนิทกันมากกว่า
ถ้าท่านเป็นนายเอก ท่านจะเลือกทำอะไร
1. ยอมรับข้อเสนอเองเพื่อที่จะได้อยู่กับพระเอก
1.1 ไม่บอกเรื่องลูก
1.2 บอกเรื่องลูก
2. ให้พระเอกรับข้อเสนอเพื่อที่จะได้รอดและอยู่ด้วยกัน
3. ไม่รับข้อเสนอ เป็นคนลงดาบสุดท้ายเองและตายอย่างมีเกียรติ
4. ไม่รับข้อเสนอ ให้พระเอกลงดาบแล้วตายอย่างมีเกียรติ
เพื่อนโม่งจะเลือกข้อไหน หรือมีอื่นๆมั้ย
Ky กูยังงงๆคำจำกัดความของฟีลกู๊ดอยู่เลยว่ะ แบบอ่านแล้วสบายใจงี้ป่ะ
>>210 กุยังงง ๆ แล้วเด็กอยู่ในท้องแม่มด จะไปได้รับพลังอะไรยังไงตอนผู้กล้าฆ่าจอมมารเหรอ แล้วอย่างนั้นจริง ๆ จะเป็นผู้หญิงคนไหนก็ได้ป่ะ ทำไมต้องเป็นเด็กในท้องแม่มดนะ แล้วทำไมเด็กในท้องแม่มดถึงมีสายเลือดครึ่งเทพครึ่งปีศาจ ต้องเป็นครึ่งคนครึ่งเทพป่ะ ถ้าพ่อมีเลือดเทพ แม่มดเป็นมนุษย์ หรือจะให้สมเหตุสมผลคือแม่มดต้องเป็นคนลงดาบละดึงพลังมารเข้าหาตัวเงี้ยเหรอ (เด็กในท้องก็น่าจะตาย?)
มันจะดูขัดกับ gimmick ตอนแรกที่เมิงตั้งไว้เรื่องที่สายเลือดเทพต้องเอาพลังมาหักล้างเพื่อปราบปีศาจป่ะ ว่าถ้าหาเด็กมารับพลังได้ อิ gimmick นั่นก็ดูไม่ค่อยมีราคาแระ
ปกติพวกมึงโฆษณาช่องทางติดต่อยังไง ยอดเฟบนิยายเป็นเป็นหมื่นแต่ยอดฟอลไม่ถึงพัน ทำไงนักอ่านถึงจะฟอลทวิตเยอะๆวะ
ky หน่อย พวกมึงใช้วิธีเอางานไปเสนอสนพ.หรือรอสนพ.มาติดต่ออ่ะ
Ky ยอดพรีนิยายทำมือช่วงนี้เป็นยังไงบ้างวะ
>>210 สำหรับกูที่ยอมรับได้คงให้นายเอกทำมั้ง ให้แม่มดยื่นยาปลูกผสมเหล้าฯลฯ แล้วเบลอๆหลอนๆว่าเป็นพระเอกที่มีอะไรด้วย นอกกายแต่ไม่นอกใจ
แล้วรู้สึกผิดเยอะๆ ตื่นมารู้ตัวก็น้ำตาแตก ไปสารภาพน้ำตานองหน้ากับพระเอก
แต่กูก็งงอยู่ดีตาม>>212 ถ้าต้องเอาคนเลือดเทพไปฆ่าจอมมารก็ต้องเป็นนายเอก/พระเอก แล้วมีลูกแล้วไงวะ พอฆ่า เวทย์มันก็ต้องเข้าตัวนายเอก ทำไมถึงปัดไปเข้าลูกได้ ตรงนี้มันแปลกๆแถมขัดกับประเด็นที่ว่าคนฆ่าต้องมีเลือดเทพและฆ่าแล้วพลังเข้าตัว เหมือนเมิงแค่อยากยัดฉากนอกกายกับแม่มดมาเฉยๆ หรืออยากให้มีลูก?
ของกูคิดไว้น่าจะประมาณนี้มากกว่า
-เปลี่ยนตาม212ว่าให้อีแม่มดที่ท้องลูกเทพไปฆ่าแทน รับพลังเข้าเด็กในท้อง เด็กกลายเป็นครึ่งปีศาจ
-หักมุมเป็นmpregแม่งเลย นายเอกท้อง ไปฆ่าเอง
-ให้เด็กที่เกิดมาไปฆ่าแทน
-ฆ่าก่อน รับพลังมา ตอนใกล้ตายให้แม่มดออนท็อป รับพลังมา ท้อง
อยากให้มีสนพ.มาติดต่อบ้าง ;-; แต่ยอดวิวยอดเฟบน้อย
อย่ารอสำนักพิมพ์ติดต่อมา เสนอไปเองเลย ช่วงนี้เป็นนาทีทองของนักเขียนวาย สำนักพิมพ์วายเยอะจนไม่รู้จะส่งที่ไหน ไม่ได้ที่แรกก็ยังมีที่ 2 3 4 5 6 ให้ลองส่ง สู้โว้ย อนาคตมึงต้องคว้าเองไม่ต้องรอใคร
กูเคยส่งให้ที่นึง ถือว่าเปนที่ใหม่ที่ทำแปลด้วย ก็ทำดีเลย ตามใจปกมาก คุยดีแต่ไม่ได้จ้ะจ๋าหวานขายฝันอะไร ยังไงลองเสี่ยงดวงดู เพราะกูไม่อยากแนะนำชื่อโดยตรง มันดูโฆษณาไป
กูคือคนว่าคนที่พิมพ์ 50 เล่มแล้วมาบ่นปาวๆนะ
คือถ้ามึงทำแล้วมีความสุข ไม่มาบ่นหรือเสียใจภายหลัง กูสนับสนุนนะเพราะกูเองก็เปย์สิ่งที่ทำให้กูสบายใจแม้จะขัดสายตาคนอื่นเหมือนกัน แต่ถ้ามึงทำแล้วมานึกเสียใจ หรือบ่นภายหลัง นั่นแหละคือคนประเภทที่กูว่าโง่
เอาจริงพิมพ์ 50 เล่มก็ได้กำไรมากินขนมอยู่นะ ถ้ามึงไม่กะเอารวย 55555
ปกฉงกงถือว่าเกร่อมากรึยัง อยากได้คนวาดปกสวยๆ
ถ้าทุนพิมมึงต่ำแปลว่า น่าจะพิมเฉยๆ ไม่ปัีมไม่อะไรไม่มีเทคนิคพิเศษ
แพง นาน โดนลัดคิวตามใจ ไม่ได้ดูสเกต เห็นเมื่อเสร็จ แก้ไม่ได้ รับได้ก็จัดไปจ้า
อยากขายให้ได้ 500 เล่มอะ ต้องมีแฟนพันธุ์แท้เท่าไหร่
ฟาส ฟชป ก็โอเคแหละ พวกพิมแบบไม่มีเทคนิคไรมากมาย
จากประสบการ ยอดซื้อคือ 10 ส่วน 100
อิมเพรสนี่ดีมะ ใครเคยใช้มารีวิวหน่อย เพื่อนกุแนะนำที่นี่มา
สนพ.ชวนกูไปแยกลายเซ็นงานหนังสือ พอกูเจอพรีเซนเทชัน BooK Thai เท่านั้นแหละมึง ไม่อยากไปเลย กลัวคนอ่านคาดหวังว่ากูจะต้องสวย หล่อ น่ารัก พอมาเจอตัวจริงแล้วผิดหวัง อิผี พรีเซนเทชันทำร้ายจิตใจกูมาก ต้องมาเลียแผลใจในศาลาคนเศร้า
Ky ถ้าสมมติว่ามีสนพ เล็กๆ ที่มึงไม่รู้จักมาติดต่อขอซื้อลิขสิทธิ์นิยายมึงจะขายมั้ย กูเคยตีพิมพ์กับที่อื่นมาก่อน2-3 เล่มแล้วมีสนพ ใหม่ติดต่อมาว่ะ กูลังเล แต่เรื่องนี้กูเองก็แต่งเล่นๆ ไม่รู้จะผ่านพิจารณากับสนพอื่นมั้ย ลังเลว่ะ
สนพืเล็ก กลาง ใหญ่ พวกมึงวัดจากอะไรอ่ะ
มียกตัวอย่างมั๊ย
Ky คำว่าntrมีขอบจำกัดความแค่ไหน ถ้าจะเขียนเรื่องหนึ่งที่ทั้งสองคนหมั้น แต่ไม่ได้รักกัน จากนั้นฝ่ายหนึ่งก็ไปหลงรักคนอื่น มันคือntrหรือเปล่า
กูไม่ค่อยชอบ นสพ ที่ไม่ให้เซ็นสัญญาก่อนเริ่มทำงานอะ
ใหญ่สำหรับกูคือ พิมพ์หลัก 2000 ขึ้น
กลางๆ 1000
เล็ก 500
กูฟังเพื่อนมาอีกที เลยคิดว่าประมาณนี้ล่ะ
ขายแล้วตังยังไม่ได้ สัญญายังไม่เซ็นก็มี
สนพ พชพ ใหม่นี่ เค้าจะออกงานอะไรบ้างวะ
ปกติถ้าคนอ่านเค้าชอบเรื่องนึงมากๆ เค้าจะตามไปอ่านเรื่องอื่นของคนเขียนด้วยมั้ยวะ กรณีที่ไม่ได้โปรโมทในเรื่องหลักที่เค้าเฟบไว้ด้วยน่ะ
>>288 กูตามนะ ถ้าชอบเรื่องไหนกูจะเข้าไปดูว่า นข แต่งเรื่องอื่นอีกรึเปล่า ถ้ามีก็ตามเฟบไว้ บางทีกูได้เรื่องใหม่ที่ชอบจากแบบนี้แหละ เพราะถ้ากูชอบเรื่องไหนมากๆ นั่นคือกูก็ชอบสำนวนเค้าด้วยแล้วก็มีแนวโน้มจะชอบเรื่องอื่นๆ ด้วย ยกเว้นแต่มีอะไรบางอย่างที่ไม่ถูกจริต เช่น หลายp ข่มขืน
นข คนไหนไม่ตีพิมพ์กับ สนพ บ้าง กูกำลังคิดว่าจะส่งหรือไม่ส่งดี
ขอถามนิดพวกมึงใช้งานโรงพิมพ์อะไร พอดีที่กูใช้อยู่สีปกเพี้ยนจนอยากเปลี่ยน
กูก็อิม ปกติดี เขาจะส่งมาให้ตรวจสีก่อนพิมพ์จริง ถ้าอยากแก้ก็สั่งแก้ได้
เพื่อนโม่ง นข มึงเคยสงสัยปะว่าที่ นอ เม้นต์เค้าด่าหรือชม กูเจอคำพูดกำกวมมาก
ตอนนี้เข้าธีมศาลาคนเศร้าอีกแล้วว่ะ 55555
กูไม่ชอบรี้ดอะไรท์อย่างนึงตรงที่ระบบมันไม่เอื้อให้คอมเม้นเป็นประโยคเลย ได้สติกเกอร์แล้วมันไม่จับใจเท่าคอมเม้นเลยอะ
Ky เห็นว่าน่าสนใจ สำหรับนักอยากเขียนจ้า "สตีเฟ่น คิง" บอกไว้ว่า "อย่าไปเขียน เพราะถูกบังคับให้เขียน หรือเขียนเพื่อเอาอกเอาใจใคร ให้เขียนให้ตัวเองอ่านเป็นคนแรก คือถ้าตัวเองไม่รู้สึกสบายใจที่จะเขียนอย่าเขียน ให้ไปล้างรถซะ" อยากฟัง ลองฟังดู >>https://www.youtube.com/watch?v=WVufZi5GexI
>>315 อ่านแล้วสะอึกเลยวะ แต่ก่อนแต่งนิยายเพราะชอบนะ แต่พอสนพ ติดต่อมาแล้วแม่งกดดัน รู้สึกว่าจะแต่งเล่นๆ ตามใจเหมือนเดิมไม่ได้ต้องหาข้อมูลโน่นนี่นั่นมาbackup กว่าจะแต่งออกมาแต่ละตอนเค้นสมองแล้วเค้นอีกจนเครียดนอนไม่หลับ รู้ตัวอีกทีก็ไม่มีความสุขกับการแต่งนิยายเหมือนเดิมแล้ว กูอึดอัดไม่รู้จะระบายให้ใครฟังดี TT
>>317 กูเห็นหลายคนในนี้ เหมือนหลงทางติดกับดักตัวเอง อยากให้คนชอบ อยากให้คนเม้นท์เยอะๆ อยากให้ขายได้ อยากเอาใจสนพ. จนมันย้อนกลับมาทำลายตัวเอง...
มันมาจากหลายๆ ปัยจัยก็จริง แต่สิ่งที่สำคัญคือ "หัวใจของมึง" พวกมึงต้อง ดูแลรักษาเอง เสริมแรงใจให้หัวใจมึงเข้มแข็ง อย่าเอาไปฝากกับคนอื่นมากไป แล้วมึงจะผ่านมันไปได้นะ สู้ๆ นะ ทุกคน
บางเรื่องสำนวนมันก็ควรเกลานะมึง อันที่จริงความเป็นเหตุเป็นผลของเนื้อเรื่องก็ด้วย การหาข้อมูลก็ด้วย บางทีเจอเรื่องกาวมากๆ กูก็เอ๊ะอะ หรืออย่างน้อยถ้าจะกาวก็ช่วยโน้มน้าวให้กูอ่านแล้วรู้สึกเชื่อหน่อย แต่ แต่ กูก็ไม่อยากให้พวกมึงเครียดกันขนาดนั้นน้าาาา เป็นกำลังใจให้นะพวกมึง
ใจเร็วไป มาต่ออีกหน่อย คือกูว่าการที่ สนพ ไหนๆ เลือกเรื่องหรือผ่านพิจารณาเอาเรื่องของพวกมึงมาทำแสดงว่ามันต้องมีโครงเรื่องที่โดนใจแหละ แต่ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ ต้องมีการขัดๆ เกลาๆ กันบ้าง เหมือนเราแกะตุ๊กตาไม้ โครงมันดีแต่อาจจะยังมีเสี้ยนตำมือก็ต้องใช้กระดาษทรายขัดกันนิดนึง แต่ตัวโครงก็ยังมีความเป็นตัวเองของพวกมึงอยู่ดี เพราะงั้นไม่ศาลาคนแล้วเศร้าเนอะ 😉
เอาจริง กูว่าสนพที่ทักมาตั้งแต่ยังไม่จบก็คือใจพอสมควรอ่ะ คือไม่มีอะไรสามารถยืนยันได้เลยว่าเรื่องนั้นจะแต่งจบ
กูก็ว่าไม่ใช่ใจอะไรหรอก แค่จองเพราะถ้าช้าเดี๋ยวโดนที่อื่นตัดหน้า ถ้านักเขียนแต่งไม่จบสำนักพิมพ์ก็ไม่เสียอะไรเลย แต่ถ้าแต่งไม่ดีตกม้าตายตอนจบ สำนักพิมพ์จะไม่เอามาตีพิมพ์ก็ได้
Ky ตอนนี้คนชอบอ่านแนวไหนกันวะ
จะเม้าสนพ ไปมู้เม้า
ยันเดเล่ที่ชอบคงแบบพูดจาท่าทางเหมือนคนปกติ แต่เนื้อหาที่พูดมึงแม่งป่วยไม่ปกติแล้ว และเจ้าตัวไม่คิดว่าตัวเองป่วย และจะสนุกถ้านำเสนอตอนแรกดูเผินๆ เมะก็ดีนี่นา แต่ตอนจบมารู้ทีหลังมึงแม่งยันจะได้อารมณ์ขนลุกดีน่ะ ตัวอย่างด้อมที่เคยอ่านแล้วชอบก็ประมาณเมะที่ดูแลนายเอกดีทุกอย่าง ทรีทดีมาก แต่ตอนจบในความคิดพระเอกคือมันทำมาทั้งหมดเพื่อให้นายเอกรู้สึกขาดมันไม่ได้ ผูกมัดไว้กับตัวเองแบบนี้ โดยเคะไม่รู้ตัว และไม่รู้สึกผิดที่กระทำไปด้วย จะชอบประมาณนี้นะ
ยันเบียวๆ ก็คงประมาณเอามากักขังหน่วงเหนี่ยว และไม่มีปูอะไรมาเลย เอะอะก็ชอบเธอมาก จะฆ่าเธอนะถ้าหนีไป จริงๆ เขียนแนวนี้ก็ได้นะถ้าปูเนื้อเรื่องก่อนหน้ามาดีน่ะ
ยันก็ประมาณ อัลแตร์ ใน Hard mode npc ที่กูนึกออกเด่นๆ แต่ยันก็มีหลายประเภทนะ
>>340 ยันคุณภาพที่กูเคยอ่านะ
กวีจากเรื่องเกิดใหม่เป็นไดอารี่
อัลแตร์จากHard mode npc
ลั่วปิงเหอนี่ก้ำกึ่งยันคุณภาพกับยันเบียวๆ แต่หักลบกลบหนี้กับคาร์ลูกหมากูให้อภัย 55555
ต้องยันแบบมีที่มาที่ไปวะ ไม่ใช่เอะอะยันแล้วกักขังแบบจำเลยรัก
พระเอกเรื่องอย่ากินน้าคือตัวอย่างยันแบบเบียวๆ
ยันดีๆสำหรับกุคือ อ่านแล้วใจเต้นรู้สึกลึกลับ เหมือนอ่านแนวเฮอเร่อผสมไปหน่อยๆ
แต่ยันเบียวๆสำหรับกุคืออ่านแล้วอิหยังวะ เป็นบ้าปะเอ็ง กินยาไหม
>>342 ลั่วกูว่ายันเบียว แถมไร้เหตุผล บอกว่าเข้าใจเค้าแต่จิตสำนึกพิศาลก็ทำให้หาเรื่องทำร้ายบีบบังคับทารุณเขาต่อ ถถถ
ยันเดเระหลักๆกูคือการ์ตูน clamp สมัยก่อนว่ะ โตเกียวบาบิโลน xพลังล้างโลก RG veda
สำหรับกูยันที่ดูดีคือมีเหตุผลมีที่มาที่ไปไม่ใช่อยากจะยันก็ยัน อยากทำตัวดีก็ทำหน้าใสซื่อ
https://www.img.in.th/image/DvFPSA ฝากไว้สำหรับนข ที่คิดว่านิยายตัวเองยังไม่ดี ไม่เข้าใจว่าทำไมนิยายตัวเองนักอ่านเยอะนะ กูไปเจอมาในเฟส เห็นแล้วขำชห 😂
ยันคุณภาพคือมีเหตุผลว่าทำไมยัน แต่แบบไม่มีคุณภาพคือจ้องจะทำร้ายอย่างเดียว หรือเงี่ยนใส่นายเอกจัด โดยที่ไม่มีการปูเหตุผลว่าทำไม
ถ้าให้ยกตัวอย่างเพิ่มก็ลองอ่านตาม >>342 ก็ได้ยันแบบมีคุณภาพ ส่วนมากจะเป็นพวกพระเอกที่เสียอะไรบางอย่างไป เช่นใกล้ตาย ตกอยู่ในภาวะที่ถูกคนทั้งโลกทอดทิ้ง แต่นายเอกเป็นคนเดียวที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ เลยยึดติดกับนายเอกอย่างหนักจนกลายเป็นอาการยัน
>>345 กูคิดว่า ลั่วปิงเหอ มีเหตุผลมากพอที่จะยันนะมึง โตมาไร้พ่อแม่ เร่ร่อนช่วงนึง แม่เลี้ยงตาย เจ้าบ้านเก่าที่เคยอาศัยอยู่รังแก เข้าสำนัก อาจารย์รังเกียจ เพื่อนในสำนักใช่จะดีด้วย สำนักข้างๆก็รังแก โตจนวัยรุ่นถูกถีบตกเหว โตมากับการเอาชีวิตรอดในดงมาร ถ้าไม่เทิร์นดาร์กแม่งตายในเหวไปแล้ว กูไม่รู้เลยว่ามึงอยากได้เหตุผลขนาดไหนในการ ยันไม่ให้เบียว อันนี้กูสงสัย
ถ้ายันไม่ดีจากฟินจะกลายเป็นขยะแขยงได้ ระวังจุดนี้ด้วยแล้วกัน
เมะแมสอีกอย่างคือแนวพิศาลตบจูบ เอะอะก็โกรธตบตีเอะอะก็ข่มขืน มันอาจดูตลาดล่างไปแต่กูเห็นคนขอให้แนะนำนิยายแนวนี้เยอะ บางทีก็มีคนตามหาพล็อตที่มีเมะแบบนี้ คนปักรอกันตรึม หลายเรื่องที่ได้ตีพิมพ์ก็แนวนี้ ไม่ต้องมีเหตุผลมาก
นิยายทำมือเดี๋ยวนี้พิมพ์กันกี่เล่ม
Ky เวลานักอ่านประจำหายไปจากนิยายแล้วไปเจอเขาเม้นนิยายคนอื่นรู้สึกเหมือนโดนแฟนนอกใจเลยว่ะ 555555 แต่กลับมาคิดอีกรอบเขาเลิกอ่านนิยายกูไปแล้วเปล่าวะ ช่วงนี้ได้คนอ่านใหม่ๆ เพิ่มมาแต่นักอ่านเก่าๆ หายไปทีละคนสองคน ทำไมวะ นิยายไม่ตรงตามความคาดหวังเหรอหรือว่านิยายไม่สนุกเหมือนตอนแรกๆ คิดแล้วแม่งจิตตก ; v ;
ในฐานะคนอ่านบางทีก็ไม่ได้เม้นทุกตอนว่ะ อาจจะข้ามๆ ไปบ้างถ้าบางตอนเนื้อเรื่องมันอยู่ในโทนเดียวๆ กัน บางทีเรื่องก็ไม่ได้ขยับมากนักเลยไม่รู้จะเม้นอะไร
Ky เวลาเจอนักอ่านบอกว่างง อ่านไม่เข้าใจพวกมึงจะแก้ยังไงวะ นักอ่านบอกว่างงแต่ไม่บอกว่างงตรงไหน กูอ่านทวนหลายรอบแล้วคือกูเข้าใจเนื้อเรื่องนะไม่รู้จะแก้ยังไง TT
>>366 มึงลองมาเป็นคนอ่านที่ไม่รู้พล็อตเรื่องของมึง ไม่เคยอ่านนิยายของมึงมาก่อนแล้วอยู่ๆมาอ่านดูดิ รู้สึกแปลกๆบางจุดไหม
ถ้ามึงเป็นคนเขียน มึงรู้พล็อตทุกอย่างหมดแล้ว แต่คนอ่านไม่รู้ มันอาจจะมีบางจุดที่มึงเขียนแล้วมึงลืมไปว่าคนอ่านเขาไม่ได้รับรู้ตรงนี้เหมือนมึงก็ได้ แต่ถ้ามึงเขียนให้มีปมแล้วจะกั๊กเฉลยไว้ ปล่อยคนอ่านให้งงก่อนก็ว่ากันไป โอยย กูไม่รู้จะอธิบายยังไงให้ไม่งงว่ะ เอาเป็นว่าสู้ๆเว้ย
Ky พวกมึงเคยเจอคอมเม้นนักอ่านแบบที่อ่านแล้วรู้สึกทำร้ายจิตใจมากๆ มั๊ยวะ
>>369 มึงไม่สามารถทำให้นักอ่านทุกคนเข้าใจได้นะ บางคนเขาคิดชั้นเดียว พอมีปมอะไรมาเลยคิดตามไม่ทัน บางคนยังเด็กมากๆ อาจจะประถมเองนะมึง กุเองก็เล่นเด็กดีตั้งแต่ ป.6 จนตอนนี้เรียนจบทำงานแล้ว บางทีคนที่งง อาจจะยังเป็นน้องๆวัยน่ารักก็ได้นะ เลยอ่านไม่เข้าใจ
มันจะคล้ายๆเวลาคนอ่านนิยายรักไปอ่านนิยายสืบสวนไรงี้บางทีจะตามไม่ทัน คิดไม่ทันเลยงงๆอะ เก็ทไหม
Ky ถ้ามียาดเฟบประมาณ5,000 พวกมึงว่าจะขายได้ถึง100เล่มมั๊ย กูว่าจะพิมพ์เองไม่ส่งสนพ อ่ะ
พิมพ์มือต้องยื่นภาษีด้วยมั๊ย
>>379 เป็นไปได้นะมึง แต่ๆ ช่วงนี้หนังสือออกเยอะ มึงต้องทำใจหน่อย
>>381 ในโม่งที่สับๆ กันในมู้หนังสือคือ บางเรื่องสับซะกูไม่อ่านเลย พออ่านจริงก็ไม่ได้ขนาดนั้นนี่หว่า บางเรื่องกูหวีดด้วยซ้ำ กูว่าพวกมึงควรมองข้ามๆ ไปบ้าง อะไรปรับได้ก็เอามาปรับ อะไรมันดูเกินไปมึงก็อย่าคิดมาก กูคือคนอ่านนะไม่ใช่คนเขียน แต่เข้ามาดูนักเขียนเค้าคุยอะไรกัน 55555555
ชักนอกเรื่องไปหลายความเห็นแล้ว ไปห้องเม้ามั้ย?
Ky ถามในนี้ได้มั้ยวะ ปกติพวกมึงจ้างนักวาดคนไหนมาวาดปกบ้างอ่ะ
>>390 ใช้หลายคนแต่ไม่ใช้นว.นอก สกิลกูอ่อนด๋อยขอคนที่พูดกันรู้เรื่อง ว่าก็ว่าขนาดภาษาเดียวกันยังพูดไม่รู้เรื่องก็มี555555
มึงชอบคนไหนมึงก็ไปถามเขาเลยรับคอมมิชไหมคะ ถ้าเขารับก็ขอเรทราคา ถามรายละเอียดไป บางคนมีแปะไว้แล้วก็ดูก่อนถ้าไหวก็ถามคิว รอคิวไหวมั้ย ก็ว่าไปอีกขั้น
>>394 กูต้องตอบหลายๆ คนสินะ เดี๋ยวโม่งแตก เอารายชื่อนักวาดไทยที่กูเคยไปถามแล้วเค้าตอบกูดีมากแล้วกัน
KAMUI710
Letmediealone
Kiriphantasy
SnellSnail
N2015
คนวาดสีเทา
SUKI
จริงๆ มีเยอะกว่านี้ กูอาศัยดูตามปกที่สนพ ใช้แล้วตามหาเพจก่อนจะทักข้อความไปหา บางคนกูตามอาร์ตบุ๊คอยู่แล้ว
เราราคาแล้วแต่เนื้องาน มึงลองถามไปดูแล้วกัน
คนไม่ก็มีนะ เลือก สนพ ก็มี เช่น .....
enfer ยังรับงานวาดอยู่มั้ย ใครรู้บ้างว่าหลักพันหรือหลักหมื่น
นักวาดในดวงใจกูแต่ไม่ดังมากคือ sollyz sundayz กะ wizper_thirteen
ลองดูงานเค้าในเฟซดูเผื่อชอบแนวๆเขา
demidream ก็ดีนะ ส่งงานตรงเวลา ราคาก็โอ
>>390 นักวาดไทย มึงทำตารางลิสต์นักวาดที่อยากได้ไว้เลยสักสิบคน เทียบราคา แล้วสอบถามคิวงาน คนไหนไม่ว่างก็ค่อยๆตัดชื่อออก แต่ดูดีๆนะว่ามีคนไหนที่ลิ้งค์คอมมิชเขาขึ้นสถานะ close ไว้อยู่บ้างหรือเปล่า
ถ้าลายเส้นแบบอนิเม งานดี คิวแน่นบางคน กูแนะนำ...
- Kanapy (งานเนี้ยบ ผู้ชายหล่อ ลงสีโทนอบอุ่นได้)
- Kiriphantasy (คนนี้เพิ่งมาแรงเมื่อ 2-3 ปีก่อน ทับเส้นดีมาก)
- Afternoon (คนนี้เส้นสไตล์ตะวันตก ผชหล่อ ผญแซ่บ)
- Demidream (วาดผู้ชายตาเยิ้มๆสวย)
- Kagi (ไฮไลท์หน้าพุ่งมาก ขอโทษค่ะ55555555)
- Suki (งานโดเขาเก็บดีนะ แต่ปกโครงหน้ากับอนาโตมีบางทีก็เพี้ยนๆนิดนึงอะ...)
- Letmediealone (สีสดจนแสบตา)
- Bachichan (วาดผญน่ารักมาก ผชก็หล่อดีนะ ปกเรื่อง the best wingman น่ะๆ)
- ichi (งานโอเคอยู่ เคยวาดปกCoverให้อั่งเปา วาดพี่เยี่ยน่ารักมาก เกี่ยวมั้ยวะ5555)
ถ้าลายเส้นกราฟฟิค น่ารัก หรือจะเน้นวิวได้ แลนด์สเคปดี กูแนะนำ...
- Frank/ 32September (ใช้บรัชเหมือนสีเทียน ภาพมีเอกลักษณ์)
- Movideae (วาดพืชละเอียดมาก คนก็วาดได้ แต่เส้นจะเป็นสไตล์ตะวันตก ไม่ญี่ปุ่น)
- Luluke (จิบิน่ารัก วาดขนมน่ากิน)
- loxsiana (เหมาะกับสายแฟนตาซี)
ถ้าคนไหนไม่ถูกใจมึงเลยก็ลองตามหากลุ่มคอมมิชชั่นในเฟสบุ๊คก็ได้ ถ้าไม่ถูกใจอีก... วาดเอง! เพราะกูก็เทิร์นจากสายเขียนรอคิวนว.เป็นสายวาดเองแล้ว เบื่อรอคิว55555
>>405 มีสิ เยอะแยะ แต่กูไม่ค่อยตามสายนี้เลยอ่า โทษนะ ที่โอเคๆเท่าที่จำได้ก็มี
- Dreamworm (ที่วาดปก es company วาดผู้ชายสมส่วน หล่อ)
- Kaskia (วาดปกเดม่อนสคูลให้เอ็นเทอร์เมื่อนานมาแล้ว ชอบภาพวิ้งๆไว้ใจแกได้)
- Asuka111 (เราจะเห็นแกวาดสาวๆบีเอนเคหรือตัวละครในเกมบ่อย แต่แฟนตาซีแกก็วาดได้นะ คนนี้แพงหน่อย)
- Reine_Beammer (วาดอาวุธ/ เครื่องมือสวยมาก กรอบรูปก็สวย)
- Allenkung1 (เส้นน้องวาดได้ญี่ปุ่นมาก ผู้ชายหล่อโดยเฉพาะทากะสุงิ //-// แต่ตลค.แฟนตาซีก็ได้อยู่)
- Noahxica (ทับเส้นสวย แต่น้องเป็นไบโพล่าร์อยู่ รู้สึกเส้นสีโดดไปมา แต่ก็เป็นเอกลักษณ์ดี)
KY ถามความเห็นนักเขียนหน่อย คิดว่านิยายแนว mpreg เป็น kink ชนิดหนึ่งที่ควรติดแท็กไว้ชัดเจนเพื่อกรองคนกดเข้ามาอ่านรึเปล่า
กูขออวยนักวาดคนนี้ @cclcover คืองานปกฟิคเขาดีมาก ดีชิบหาย ราคาไม่แพงมาก งานไว
นักวาดมีมู้ของนักวาด มู้นักเขียนก็อย่าเม้านอกเรื่องมาก
คุยตรงนี้ก็ว่าก็ไม่เห็นผิดเลย มันก็ยังอยู่ในขอบเขตงานของนข การส่งไปรฯ การทำเล่ม ทำปก ฯลฯ อย่าปสดมากนักเลย
เขาถามว่าจะจ้างใครดีก็ถือเป็นทิปนข.อยู่มั้ง
กูว่านักวาดที่คุยข้างบนอยู่มู้นักเขียนก็ถูกแล้ว เพราะมู้อวยนักวาดมันรัวิวนักวาดเพื่อตามงานซึ่งคนละจุดประสงค์กับที่คุยกันมู้นี้ที่มีเพื่อคอมมิชมาทำปก ทั้งเรื่องการติดต่องาน ราคาคร่าวๆ ความรับผิดชอบ ฯลฯ จากใจโม่งที่ไปดูห้องอวยแล้วได้ประโยชน์กลับมาน้อย
สโคปนข.ก็คุยได้ทุกเรื่องป่ะวะ ตั้งแต่พล็อต ยอดคนอ่าน สนพ. ทำมือ นักวาด การขาย การแพค
จริงๆ นะ เลือกนักวาดผิด ชีวิตบัดซบ เหมือนกันนะ เงินอาจจะไม่มากสำหรับบางคน แต่มันก็เป็นก้อนสำหรับนักเขียนเด็กน้อยอย่างเราต้องเก็บตังค์นะ รีวิวเถอะอยากฟัง
มู้นักวาด มันก็มีรีวิวนักวาด เม้านักวาดอยู่แล้ว จะมาเม้านักวาดมู้ดนี้ด้วยมันก็ซ้ำซ้อนเกินไปปะ แต่ละคนที่ว่ามาก็มีคนพูดถึงในมู้นั้น ทำไมต้องมาทำให้มันซ้ำกันตลอดอะอิมู้นักเขียนเนี่ย
งั้นเปลี่ยนเป็นคุยเรื่องนักวาดปกนิยายวายแทน ทีนี้ก็คุยห้องนั้นไม่ได้แล้ว มาคุยห้องนี้แทน จบ
>>425 มันคือนักวาดในมุมของนักเขียนที่ร่วมงานด้วย ไม่ใช่คนเสพงานวาด กูว่ามันคนละเรื่องกัน มึงดูงงๆ หรือกูเองที่ไม่เข้าใจ ยังไงเรื่องหน้าปกก็งานของนักเขียนปะวะ มึงจะให้คุยเรื่องเขียนยังไงอย่างเดียวเหรอ จัดหน้า ทำรูปเล่ม ตรวจอักษร จ้างนักวาดนี่ก็นักเขียนเหมือนกัน วันสต๊อปเซอร์วิสเลยด้วยซ้ำพวกทำมืออ่ะ ติดต่อเองทุกอย่าง
กูว่ามันเป็นการคุยกันในมุมคนเคยร่วมงานกัน หรือหาคนร่วมงาน ใครน่าสนใจ ใครทำงานแนวไหน แนะนำกันไป เป็นนักเขียนก็น่าจะคุยเรื่องนักวาดในนี้ได้นะ
แถม ๆ กูเป็นนักเขียนกูจะหานักวาดจากมู้นี้ว่ะ กูว่ามันเป็นฟีลนักเขียนด้วยกันแนะนำกัน ไม่ใช่คนเสพงานวาดมารีวิว เพราะกูไม่ได้ดูแค่ผลงาน กูดูความรับผิดชอบ ระยะเวลา ซึ่งกูว่ามู้นี้มีประสบการณ์มากกว่า
เอาจริงมันก็มีเรื่องคอมมิชนักวาด+รีวิวอยู่มู้อื่นนั่นแหละ แต่ถ้าสโคปมาสำหรับสายวายมันก็น่าจะแคบลงมาหน่อยนะมึง
จะว่าไป พวกมึงชอบให้คนสปอยล์งานพวกมึงปะ แบบเอามาเล่าต่อ แคปภาพเนื้อหาไปแปะทวีต สปอยล์เนื้อเรื่องทั้งเล่ม
ทำไมบางเรื่องยอดเฟบ 4พันกว่าแต่คอมเม้นพันกว่า ส่วนอีกเรื่องยอดเฟบ8พันกว่าแต่ยอดเม้นไม่ถึงพันวะ ในกรณีที่นิยาย2เรื่องมีตอนเท่ากัน เป็นนิยายวายเหมือนกัน แต่ทำไมคอมเม้นแตกต่างกันอ่ะ
>>439 กูก็อยากรู้ คือข้องใจเรื่องนี้มานานแล้ว 555555 เหมือนแบ่งกลุ่มนักอ่านแบบActive กับไม่Active ได้อ่ะ แต่ที่กูเจอมายอดเฟบกับยอมเม้นมันโครตสวนทางกันเท่าตัว แบบเรื่องนึง10ตอนยอดเฟบ 8000 ยอดเม้น800 อีกเรื่อง10ตอน ยอดเฟบ4000 ยอดเม้น1600 แบบไหนน่าจะขายได้มากกว่าวะ
>>442 มันทำวิจัยยาก ปัจจัยคือ
1. ไม่มีนักเขียนหรือสนพ.คนไหนบอกยอดขายเป็นเล่มให้คนอื่นรู้ คือ กูเผือกไปดูตามยอดจองของเค้าเองเวลาเปิดพรี ซึ่งดูได้แค่ของนักเขียนบางคนเท่านั้น
2. บางเรื่องอัพไม่จบแล้วเปิดขาย แตกต่างจากอีกเรื่องที่อัพจนจบแล้วเปิดขาย ตัวแปรนี้มันก็มีผลต่อยอดขายอีก
3. วิธีการอัพนิยาย บางคนอัพทีละ 50% อีกคนอัพ 100% ก็วัดยอดเม้นท์ต่อตอนไม่ได้
4. การโปรโมทช่องทางอื่น เช่น รีวิวในทวิต เพจรีวิวนิยายที่มีการลงสปอยก็มีผลต่อการเม้น
5. เว็บอื่นที่นิยายเรื่องนั้นๆ เอาไปลง ปฏิเสธไม่ได้ว่านิยายเดี๋ยวนี้ลงเรื่องเดียว นข ลงกันไป 2 เว็บอย่างต่ำ 5 เว็บอย่างสูง พวกนี้ก็กระจายเม้นไปอีก
6. กูไม่ว่างพอขนาดมานั่งดูทีละเรื่อง 5555 และตัวแปรแม่งเยอะชิบหาย
สรุปคือ ไม่สามารถสรุปได้ว่า ยอดเมนท์นิยายมีผลต่อยอดขายหรือไม่ แต่จากกลุ่มตัวอย่างบอกได้ว่า ‘อาจมีผล’ ต่อยอดขาดเท่านั้น
จบการวิจัยกากๆ แบบผิวเผินของกู
อาจจะมียอดซื้อเยอะกว่ายอดเฟบยอดเม้นท์ 5555
>>438 ถ้าสมมติตัวแปรอื่นเหมือนกันหมด เปิดเรื่องพร้อมกัน เป็นนักเขียนใหม่ที่ไม่เคยมีผลงานมาก่อนเหมือนกัน(กูสมมตินะ) ไม่แบ่งอัพทีละ30% 50% คือตัวแปรอื่นๆ คงที่เหมือนกันหมด แต่ยอดเม้นกับยอดเฟบของ2เรื่องที่มึงว่าสวนทางกัน ก็เป็นไปได้ที่เรื่องที่ยอดเม้นเยอะอาจจะขาดได้มากกว่าเพราะนักอ่านค่อนข้าง Active กว่า บางเรื่องยอดเฟบเยอะก็จริงแต่บางทีก็เฟบไว้อ่านทีหลัง พอจะมาอ่านอีกรอบนข ประกาศเปิดพรีปิดตอนไปแล้วก็มี
Ky ปกติมึงแต่งนิยายที่ไหนกันวะ บ้าน? ร้านกาแฟ? ที่เรียนที่ทำงาน? แล้วแต่งช่วงไหนหัวจะแล่นสุดวะ สำหรับกูคือชอบแต่งตอนกลางคืนที่ห้องนอนรู้สึกเงียบดี กูไม่ถนัดแต่งที่ร้านกาแฟว่ะ คนเยอะแล้วไม่มีสมาธิ แล้วถ้าตื่นเช้ามาแต่งหัวยังทื่อๆ ประมวลผลไม่ทัน ใครมีเทคนิคอะไรบ้างมาแชร์กัน 5555555
https://twitter.com/Hello_Its_MeMe/status/1107571024046915584?s=19
อยากเขียนแนวไหนก็เขียนน่ะใช่ แต่แบบกูก็ยังคิดนะว่าจะมั่นใจได้ไงวะว่าคนอ่านจะแยกแยะเป็นอีก 555
นักอ่านปสด.แม่งเยอะขึ้นทุกวันจริงๆ เมื่อวานนิยายที่กูตามอัพ อยู่ดีๆ มีคนมาด่านายเอกว่าแรดเฉ้ย ด่าพ่อพระเอกไปอี๊ก อินจัดมาก พอกูส่องเขาไม่ได้กดติดตามนิยายแต่ด่าเยอะจ้า ส่องไปเยอะๆ เขาก็ตามแต่นิยายแนวพอร์นๆ ยั่วๆ ย้อนแย้งฉิบหาย คข.ที่เฟลเพราะคนจำพวกนี้อย่าไปใส่ใจนะเว้ย กูว่าเขาช็อตเป็นพักๆ มันเป็นส่วนน้อยว่ะ กูเป็นกำลังใจให้
งานเขียน สำหรับกูก็คือศิลปะแขนงหนึ่งว่ะ เมื่อมันเป็นผลงานที่สร้างสรรค์ออกมาในมุมมองของผู้สร้าง มันก็มีช่องให้คนวิจารณ์ แต่คนวิจารณ์เองก็ควรมีขอบเขตของคำวิจารณ์เช่นกัน เช่น ไม่ด่าตัวละครลามไปยันคนเขียน ตัวละครอาจจะไม่มีสมอง เพราะคนเขียนเค้าอยากให้ไม่มีสมอง ไม่ได้แปลว่าคนเขียนจะโง่ อย่าเที่ยวไปบอกใครเขาว่าเขียนแบบนี้เก็บไว้อ่านเองเถอะ ขอบเขตคือเคารพในงานของเขา ติชมได้ตามสมควร คนเขียนก็ไม่ต้องให้คนอื่นชอบมากนัก มันไม่จำเป็น งานศิลปะของเรา เรามองเราชอบ คนอื่นมองไม่ชอบก็มี อย่าไปเอาตัวเองตั้งไว้ตรงจุดศูนย์กลาง คนเขียนดังๆ ที่ไม่สนใจคำติ ดูแต่คำชม ปัจจุบันนี้ก็ไม่ได้มีผลงานดังๆ อีก เพราะมองข้ามข้อติที่เอามาปรับปรุงได้ กูพล่ามยาวไปละ พอดีกว่า
แรกเข้ามู้มาก็อยากให้กำลังใจเพื่อน นข. หลังๆ เข้ามาเจอ แต่พวก งอแง นอ. ไม่รัก....
ถอนหายใจยาว...... มึงจะไปแค แม่งทำไมมากมาย
รู้จัก มึงก็ไม่รู้จัก สนใจมากไปตัวมึงก็พังเอง เขาไม่แคร์มึงหรอกกกกกกกกกกกกก
รักตัวเองมึงงงง....
Ky เพื่อนโม่ง กูรู้สึกว่าแต่งนิยายได้เด็กน้อยมากเมื่อเทียมกับเพื่อนในสนพ เดียวกัน แต่กูไม่เข้าใจว่าทำไมนักอ่านเรื่องกูเยอะกว่าเรื่องเพื่อนวะ คือเพื่อนกูแต่งนิยายดีกว่ากูเยอะเลย ภาษาสวยกว่า พล็อตแน่นกว่า คาร์น่าดึงดูดกว่า ตัดภาพมาที่นิยายกูคาร์ล่องลอยไม่ค่อยชัดเจน ภาษาก็งั้นๆ พล็อตก็ด้นสดเอา ทำไมคนอ่านเยอะกว่าว่ะ แทนที่จะดีใจกูรู้สึกแปลกๆ มันไม่ใช่อ่ะ TT
>>464 มึงคิดว่าภาษาสวยนี่ยังไง สำหรับกูแยกแค่อ่านแล้วรู้เรื่อง กับอ่านแล้วไม่รู้เรื่อง นิยายภาษาสวย เนื้อเรื่องดี อาจเจาะกลุ่มตลาดนึง นิยายภาษาอ่านง่าย เนื้อเรื่องเข้าถึงง่าย อาจมีคนเข้าถึงได้มากกว่า
ภาษาสวย ฟุ่มเฟือยไปบางทีอ่านแล้วรกหูรกตา บางจุดไม่ต้องบรรยายเยอะ ก็ใช้คำเยอะเยิ่นเย้อมีแต่น้ำน่าเบื่อ
Ky ทำยังไงให้นิยายไม่ออกทะเลวะ กูมีพล็อตตอนเริ่มกับตอนจบกับพวกฉากสำคัญไว้ แต่ระหว่างทางตรงกลางเรื่องกูไม่ได้วางพล็อตไว้ ไม่ชอบทำทรีทเม้นนิยายด้วย ถ้าทำคือแต่งแล้วจะรู้สึกฝืนๆ อ่ะ พอด้นสดระหว่างทางก็มีเรื่องโน้นเรื่องนี้แทรกเข้ามาออกทะเลไปหลายเกาะ พยายามบังคับเส้นทางให้ไปถึงฝั่งนะแต่โครตยากเลย พวกมึงเคยเป็นแบบกูป่ะ จะทำไงดี
>>459 คนอ่านเยอะๆ ไม่ดีเหรอวะ กูว่ามึงแปลกๆ สรุปมึงต้องการอะไร มึงสงสัยคนอ่าน ก็ไม่ควรถามในมู้นักเขียนนะ ไปถามชั้นหนังสือดู ยกตัวอย่าง เรื่องในโทนเดียวกันของทั้งของมึงและของเพื่อน ให้คนอ่านวิเคราะห์ก็ได้ ถ้ากูเป็นเพื่อนมึงกูจะสงสัยมากว่ามึงอยากจะอวดว่านิยายไม่ดีของมึงดีกว่านิยายที่เพื่อนวางพล็อตแน่นๆ คาร์มีเหตุมีผล อะไรแบบนี้ ปล. อันนี้เป็นแค่เสี้ยวนึงของความคิด ตอนที่อ่านที่มึงพิมพ์
ถามหน่อย มีใครเคยส่งต้นฉบับไปโรสปะ ต้องส่งผ่านอมร.ไหม
Ky มีสนพ ไหนรับพิจารณาต้นฉบับแนววายแฟนตาซีบ้าง แบบไม่ดูยอดเฟบกับคอมเม้นประกอบอ่ะ
>>479 นาบู? บางเรื่องกูตามไปดูหน้านิยาย คนเมนท์กับเฟบน้อยมาก ที่จริงกูว่ามึงก็ส่งสนพไปก่อน เขาอาจดูเนื้อเรื่องมากกว่ายอดเฟบยอดเมนท์ก็ได้ แต่ถ้ามีก็เป็นตัวช่วยให้นิยายถูกพิจารณาง่ายขึ้น ช่วงนี้สนพ.วายแฟนตาซี ที่คนพูดถึงเยอะก็clover แต่สนพวายทั่วไปกูก็เห็นมีออกงานแฟนตาซีบ้างเหมือนกัน ไม่ได้แบ่งแยกสายปกติกับแฟนตาซีเท่าไหร่
>>459 กูคิดว่านิยายที่ดี ไม่ได้เท่ากับนิยายที่เป็นที่นิยมว่ะ ในทางกลับกันก็เหมือนกันคือนิยายที่เป็นที่นิยมก็ไม่ได้แปลว่าดี อย่างที่ดังๆ หลายเรื่องกูว่าพล็อตรั่วมาก คาร์ไม่คงที่ ปลูกฝังค่านิยมไม่ดี(rape to loveเงี้ย, คนแปลกหน้าเมาละซั่มกัน ถามจริงในชีวิตจริงส่วนใหญ่แม่งคบกันยืดรักปานจะกลืนกินเหรอ แต่กูก็อ่านจนจบแหละ555) จะให้นั่งด่าก็ด่าได้เป็นวันว่าความสมจริงมีที่ไหน แต่นิยายกลุ่มนี้ก็ต้องยอมรับว่าอาจมีสิ่งชดเชยเช่นภาษาดี อ่านง่ายย่อยง่ายเข้าถึงผู้อ่าน เบาสมองคลายเครียด ไฮแฟนตาซี คาร์แม่งปสดแดกแต่ก็บางทีก็ก๊าวใจ (?) รวมถึงนขขยัน ซึ่งกูเป็นนักอ่านสายพล็อตหนักๆ ก็จริง แต่นานๆ ครั้งก็อ่านแนวกาวๆ ฟินๆ เพ้อๆ แบบที่พูดมาบ้างเหมือนกัน.มันพักสมองดี สรุปมึงไม่ต้องคิดเยอะหรอก เขียนที่ชอบไปเหอะ มีคนอ่านก็ดีแล้ว
Ky กูมีพล็อตอยู่เต็มหัว แต่เขียนไม่จบสักเรื่อง ใครมีวิธีเขียนให้จบบ้างวะ
>>487 สิ่งแรกที่มึงต้องทำ คือเลือกมาสักเรื่องที่มึงเขียนลื่นที่สุด เขียนได้เยอะที่สุด แล้วเขียนให้จบ โดยไม่ต้องไปแตะต้องเรื่องอื่น พวกเขียนหลายๆ เรื่องเปิดหลายเรื่องๆ กูเห็นโคตรบ่อย สุดท้ายไม่จบสักเรื่อง มึงต้องใจจดจ่อและแน่วแน่กับเรื่องเดียวให้ได้ แล้วมันจะจบ พอจบหนึ่งเรื่อง เรื่องอื่นก็จะจบๆ ตามกันมาเอง
Ky เพื่อนโม่ง เวลาพิมพ์นิยายขายเองพวกมึงพิมพ์ตามยอดพรีหรือว่าพิมพ์เผื่อนักอ่านซื้อนอกรอบ ถ้าพิมพ์เผื่อควรพิมพ์กี่เล่มอ่ะ
Ky เพื่อนโม่ง ถ้ายอดเฟบ3000จะขายได้ประมาณกี่เล่มอ่ะ จะถึง300มั๊ย ; ;
ตอนนี้นับจากยอดเฟบได้หรอวะ มึงดูงานที่ออกกันตอนนี้ด้วย กูน้ำตาจะไหลแล้วววว
กูสงสัยว่ะเพื่อนโม่ง สนพ.สมัยนี้เขาคัดเรื่องที่อะไรวะ ยอดเฟฟ ยอดวิว หรือตามอ่านจริงๆจังๆ
>>501 กูแค่สงสัยว่ามันยังวัดได้อยู่หรอถ้านิยายออกกันเยอะขนาดนี้ ถี่ขนาดนี้ คนซื้อจะมีกำลังแค่ไหน โดยส่วนตัวน่ะมุมมองคนซื้อมันดูเหมือนวายบูมนะ มีให้เลือกเยอะมากกกกก แต่ในมุมมองคนขายเหมือนโดนแบ่งตลาดไป ถ้าออกพร้อมๆกันคนที่มีกำลังไม่พอจะจ่ายหมดก็ต้องเลือกแล้วว่าจะเอาอันไหนไม่เอาอันไหน อันนี้แพงไปซื้ออันที่ถูกดีกว่า อันนี้อร่อยแต่อันนั้นอร่อยกว่าและอีกหลายตัวแปร ดังนั้นกูถึงคิดว่ายอดเฟบยังวัดยอดขายได้อยู่อีกหรอ?
กูสงสัยอ่ะเพื่อนโม่ง นิยายหลายเรื่องที่จะทำเป็นซีรีส์อยู่ตอนนี้ บางเรื่องสนพ.มาขอจากคนเขียนเอาไปทำ อย่างนี้ถ้ามีบริษัทมาติดต่อ เค้าต้องติดต่อใครวะ นข.หรือสนพ. แล้วใครเป็นคนตัดสินใจว่าจะให้หรือไม่ใคร ใครได้รับผลประโยชน์บ้างวะ
>>501 ตอนนี้กูเฟบนิยายไว้เป็นกอง แต่พอมีอัพเดททีก็ไม่ได้เข้าไปอ่านอ่ะ อ่านแค่ไม่กี่เรื่องที่ชอบมากๆ เหมือนเฟบไว้ก่อนแล้วคิดว่าจะมาตามอ่านทีหลัง สุดท้ายก็ไม่ได้อ่าน น่าจะวัดยากล่ะมั้ง
ช่วงหลังกูซื้อนิยายน้อยลงเยอะด้วย กูว่ามันมีออกเยอะไปจนตามไม่ทัน จนเริ่มเบื่อที่จะตามอ่ะ
ทำไมนักเขียนบางคนเค้าเขียนเร็วจังวะ แปปๆออกเรื่องอีกละ กูอยากเขียนเรวบ้าง TT
>>508 ใช่ๆ กูเป็นเหมือนมึงเลย บางวันอัพเดทเป็นสิบแต่กูเปิดอ่านแค่ 2-3 เรื่อง จนตอนนี้มีแจ้งเตือนค้างหลายร้อยล่ะ
ส่วนเรื่องซื้อกูก็ซื้อเล่มน้อยลงเหมือนกัน เมื่อก่อนซื้อทุกเดือนเปิดพรีฯบ้าง หน้าร้านบ้าง อย่างน้อยเดือนละ 3-4 เรื่องอ่ะ เดี๋ยวนี้บางเดือนไม่ซื้อเลยถ้าซื้อบ้างก็แค่เรื่องสองเรื่อง แต่ตอนนี้กูเริ่มสนใจอีบุ๊คว่ะ พอได้ลองแล้วรู้สึกว่ามันสะดวกดี ไม่เปลืองที่เก็บ ไม่ต้องคอยดูแลด้วย งานหนังสือนี้ว่าจะไปลองเล่นเครื่องอ่านอีบุ๊ค เผื่อจะมีไว้บ้าง
1 มึงตัน 2 มึงไม่มีพลอตที่วางเอาไว้ แต่งมั่ว 3 มึงไม่มั่นใจในตัวเอง 4 ห่วงคอมเม้นมากไปจนกดดัน
Ky พวกมึงว่าขายนิยายบนเว็บติดเหรียญกับพิมพ์มือแบบไหนได้เงินเยอะกว่ากัน
ขอถามเวลาที่เขียนฉากพระนายจีบกันหน่อย คือกูจีบไม่เป็นแต่ดันเขียนแนวนี้ขึ้นมา มันว่างเปล่าในหัวกูมากเลย
ปกติกูมักจะเขียนพระนายรักกันแล้วไรงี้ หรือแบบ เป็น คสพ แบบ มีเหตุการณ์ด้วยกันจนรักกันแบบไม่รู้ตัว
ยังไม่เคยเขียนแนวแบบจงใจจีบจริงๆ เพื่อนโม่งช่วยแนะนำหน่อย ปล จีบกันแบบวัยทำงานนะ ขอบคุณมาก
Ky เพื่อนโมง ปกติพวกมึงอัพนิยายช่วงไหนกันบ้างที่คิดว่าอัพแล้วได้นักอ่านมาคอมเม้นเยอะๆ ช่วงเช้าสายบ่ายค่ำ วันไหนบ้าง จันทร์-ศุกร์ หรือเสาร์อาทิตย์?
กูสังเกตว่าคำถามมันวนๆ เรื่องเดิมอะทำหิ้งกันดีมั้ย กับคำถามยอดฮิต
- คนอ่านน้อย ทำไงดี
- ยอดเฟบเท่านี้ คนซื้อประมาณเท่าไหร่
- อัปนิยายช่วงไหน คนอ่านเยอะ
- หมดกำลังใจเขียน แต่งไม่ออก พล็อตตัน ทำไงดี
>>522 กูสังเกตพฤติกรรมจากคนรอบๆตัวกุอะ วันเสาร์-อาทิตย์ ตอนกลางวันคนจะออกไปแฮงก์เอ้าท์กันหรือไม่ก็ทำงานอดิเรกที่มันใหญ่ๆใช้เวลาเยอะกว่านั่งอ่านนิยาย คนจะเริ่มอ่านนิยายตั้งแต่ตอนเย็นที่บรรยากาศมันเริ่มสงบไม่ต้องinteractกับใครแล้ว เพราะงั้นถ้ามึงลงนิยายวันเสาร์ คนก็น่าจะอ่านเยอะตอนเย็นวันเสาร์อยุ่ดี กุเลยว่าลงเย็นวันศุกร์ดีสุดเพราะมันกินเวลาว่างทั้งศุกร์-เสาร์-อาทิตย์อะ
แต่ก็เห็นคนที่ไม่ได้ลงช่วงสุดสัปดาห์แต่พอลงไปตอนนึงจบก็บอกเลยว่าจะอัพตอนต่อไปวันไหนให้คนอ่านรู้เวลาประจำไปเลย แบบนี้ก็เวิร์คนะ
Ky เพื่อนโม่ง ปกตินิยายแปล3เล่มจบขายยกเซ็ตทีเดียวใช่มั๊ย กูสงสัยว่าถ้าเป็นนิยายแต่งควรพิมพ์ทีเดียวขายทีเดียวยกเซ็ตสามเล่มไปเลยหรือทยอยเปิดขายทีละภาค พวกมึงคิดว่าแบบไหนจะขายได้มากกว่ากันวะ ในความเห็นกูคิดว่าขายยกเซ็ตน่าจะขายง่ายกว่าเพราะนักอ่านจะได้ไม่ต้องห่วงเรื่องนขดอง/รอเล่มต่อนาน ถ้าขายยกเซ็ตจะได้ปิดตอนในนิยายบนเน็ตไปด้วย แต่ถ้าขายแยกเล่มแล้วปิดตอนเป็นภาคๆ แบบเรื่องเฮฟเฟตัสกูว่ายอดขายภาคต่อไปน่าจะตกว่ะ พวกมึงคิดเห็นยังไงบ้าง
ส่วนตัวกูก็ว่าขายยกเซ็ทดีกว่านะ กันเล่ม 2-3 ยอดตกด้วย แต่หลังๆ นี่หนังสือก็ออกกันเยอะเลื้อออเกิน
เหมือนเซลมีหลายคนมั้ง สลับกันตอบ บางทีก็ลืมย้อนดูเมล์ต้นเรื่อง แต่โดยรวมๆ ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่คนใช้บริการเยอะ อาจต้องเผื่อเวลาหน่อย
ถ้าพิมพ์แค่ระดับ 300ไม่ถึง 500 ไปใช้โรงพิมพ์พวก ฟ.อพ.ดีกว่า ราคาถูกกว่าเยอะ จะพิมโรงพิมพ์ออฟเซต ยอดต้อง 500 ถึงจะถูกกว่าโรงพิมพ์ดิจิตอล
ถ้าพิมพ์ออฟเซ็ตอย่าลืมคิดถึงตอนรีปรินท์ด้วยเพราะไม่สามารถรีน้อยได้ ถ้าใช้กระดาษธรรมดาทั่วไป ไม่ปั๊มลูกเล่น ไปรีปรินท์ที่อื่นได้ ก็แล้วไป ถ้าจะพิมพ์ก็พิมพ์เผื่อเหลือเผื่อเสียด้วย
ปรึกษาหน่อย กูมีปัญหากับการขึ้นต้นนิยายว่ะ แบบ เปิดเรื่องเงี้ย ไม่รู้ว่าแบบไหนจะน่าสนใจ ต้องใส่อะไรบ้างอะ ใีคำแนะนำมะ
>>540 ไม่สิ หม่ยถึงว่าพวกมึงมีคำแนะนำกันมั้ย 555 คือกูไม่รู้ว่าในตอนเปิดมาเลยเนี่ยต้องใส่อะไรบ้าง ชื่อตัวเอกนี่ต้องมาเลยมั้ย หรือค่อยๆ ก็ได้ อย่างถ้าเป็นแนวบุรุษที่ 1 เนี่ย มันต้องบรรยายชื่อลักษณะตัวละครหรือเปล่า ฟรือว่าไปเล่าทีหลัง เพราะกูจะติดตรงนี้ทำให้เริ่มไม่ได้สักที
>>542 อ๋ออออ 55555 กูเข้าใจละ จากที่กูเลือกอ่านอะนะ ถ้าเป็นสรรพนามบุรุษที่ 1 กูจะไม่อ่านที่ขึ้นต้นว่า สวัสดีครับ ผมชื่อ... รูปร่างเล็กๆ ใครก็ว่าหน้าตาผมน่ารัก แต่ที่จริงแล้ว.... อะไรทำนองเนี้ย กูว่ามันไม่ชวนให้อ่านเลย แล้วช่วงนึงมันเยอะมาก กูขอโทษนะ นี่ความคิดกูคนเดียว แต่กูว่ามันไม่มีชั้นเชิงในการเขียนน่ะ มึงอาจจะลองเริ่มจากสิ่งที่ตัวละครกำลังคิด กำลังมอง หรือสภาวะที่อยู่อะไรเยอะแยะ แล้วค่อยเผยความเป็นตัวตนของตัวเองออกมาเรื่อยๆ ส่วนเรื่องทางกายภาพมึงอาจจะค่อยๆ เผยจากวาจาของฝ่ายตรงข้ามที่ไม่ใช่การชมตัวเองว่าน่ารัก คือกูว่าตามความคิดตัวเองถ้าไม่ระดับหลงตัวเองคงไม่มีใครคิดชมตัวเองว่าน่ารักละมั้ง
Ky แต่งนิยายยังไงให้ติดTop20 ของดดวะ กูแต่งมานานแล้วยังวนเวียนอยู่ที่Top50ไม่ค่อยขยับไปไหนเลยแม่งท้อแล้ว เพราะไม่ใช่แนวแมสด้วยรึเปล่าวะ ; ;
เพื่อนที่ลงนิยายในเล้าคอมเม้นต์น้อยลงปะ
Ky กูรู้สึกว่าช่วงนี้นักอ่านใหม่ๆเยอะขึ้น เพราะเด็กปิดเทอมใช่มั๊ย 55555555
ถามหน่อยฮ้าบ แนวเรื่องกับPOVนี่สัมพันธ์กันไหม อยากเขียนนิยายแต่ไม่รู้ว่าควรจะใช้แบบบุคคลที่1 หรือบุคคลที่3ดี ปกติเขียนแต่งานวิชาการภาษาทื่อๆไม่เคยลองเขียนทั้ง2แบบเลย
พวกมึงมีเกณฑ์ในการตั้งราคาขายบนเว็บอย่าง รอร ไม่ก็ ฟชล ยังไงบ้างวะ กะเอาจากจำนวนคำต่อตอนแล้วตีราคา หรือใช้วิธีอะไรกัน กูแต่งนิยายเรื่องหนึ่งจบแล้วและคิดอยากขายแบบติดเหรียญเอาพอหนุกๆหาค่าขนมเพราะขี้เกียจปวดหัวกับรวมเล่มอะ อยากเปลี่ยนมาลองแบบนี้บ้าง
Ky สร้างตัวร้ายยังไงให้ฉลาดดูแพงไม่เหมือนตัวร้าย3บาท5บาทวะ กูแต่งออกมีทีไรกลายเป็นตัวร้ายสามบาทห้าบาททุกทีเลยว่ะ กลายเป็นตัวร้ายกากฟตลกๆร้ายไม่สุดร้ายไม่ลึกหมือนตัวประกอบใช้แล้วทิ้ง ร้ายแบบคนอ่านยังขำอ่ะมึง ปกติกูแต่งแต่แนวตลกเบาสมองอ่ะ ตัวร้ายที่ออกมาตอนแรกเก๊กท่ามาดีผ่านไปสักพักแม่งดีแต่ง รั่วเหมือนเดิม เหมือนสมองกูถูกรีเซ็ตมาแบบนี้ คิดหนักชห
>>559 ตัวร้ายกูหน้าตาดี คุณสมบัติผัวครบ มีเบื้องหลังอันเจ็บปวดรวดร้าว มีจุดมุ่งหมายในชีวิต มีอุดมการณ์ที่จะเห็นบางอย่างดีขึ้น เป็นคนมีความพยายาม เคยโดนตบร่วงมาแล้วแต่ก็พยายามพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นจนมาถึงปัจจุบัน อันที่จริงอย่าเรียกว่าตัวร้ายเลย เรียกว่าคนที่มีอุดมการณ์และวิธีการสวนทางกับตัวเอกดีกว่า
ลองเน้นบรรยาย การแสดงอารมณ์ทางสีหน้าแววตาดูมากกว่าใช้บทพูดดูมั้ย หรือปกติก็บรรยายเยอะแล้ว ลองหาหนังสืออ่านดูเทียบกันหลายๆ เรื่อง
>>559 ตัสร้ายแบบไมาได้ตั้งใจร้าย แต่สภาพแวดล้อมทำให้ราย อละพอเจอเหตุการณ์ทำให้เปบี่ยนหรรือดลับใจได้กุจะชอบมาก แต่ส่วนใหญ่ที่กุเจอคือกลับตัวแล้วตายื้งหมด แม่ยกอย่างกุใจสลาย
ตัวร้ายแนวมาช่วยพระเอกตอนหลังก็แหล่มนะมึง เช่นท่านเส็ตโชมารุหลังๆกุยกให้เป็นพระเอกแทนละ หล่อทุกองศา ตอนแรกๆโผล่มาอย่างตัวร้ายแท้ๆ
พวกมึงเคยอ่านนิยายมากๆ จนสำนวนการเขียนของตัวเองพังมั้ยวะ
ปกติแก้กันยังไง?
นักอ่านนี่คิดว่าตัวเองวิเศษมาจากไหน จะคอมเม้นต์อะไรทำไมไม่พูดจาสุภาพ ต่อให้อินขนาดไหนกูก็ไม่ชอบให้ใครมาเขียนด้วยคำหยาบคายนะ เข้ามาบ่นเพราะรู้สึกว่าหลังๆ ได้รับคอมเม้นต์ประเภทนี้เยอะว่ะ
บางทีอ่านแล้วอยากตายนะ รู้สึกกำลังทำสิ่งที่ไร้ค่าถ้าเอาเวลาไปทำอย่างอื่นชีวิตจะดีกว่านี้ป่าววะ
>>573 กดปิดไปมึง กลางผ้าขาวมีจุดดำจุดเดียว การคอมเมนต์ส่วนนึงสะท้อนเรื่องที่เราเขียน อีกส่วนหนึ่งสะท้อนตัวคนอ่านว่าสันดานยังไง กรองแยกส่วนที่มีประโยชน์เก็บไว้ ที่เลวๆไม่ต้องสนใจ
กูรู้ว่ามันยาก กูเองเคยโดน เคยซึมเพราะคอมเมนต์ คอมเมนต์พิมพ์มาแล้วจากไป นิยายของเราอยู่ยั้งเป็นสมบัติส่วนตน
เห็นด้วยกับ >>574 นะ ละกูมาให้กำลังใจเพื่อนโม่งนักเขียนนะ คนเม้นต์อะเป็นใครก็ไม่รู้ บางทีมันแค่อยากเกรียน เขียนด่าเราใช้เวลาไม่ถึง30วิ ด่าเราเสร็จมันฟิน แล้วมันก็ไปใช้ชีวิตของมันต่อ มันไม่ได้สนใจหรอกว่าคนโดนด่าจะรู้สึกยังไง
เพราะงั้นบางทีมึงไม่ต้องสนหรอก (พูดง่ายทำยาก กูรู้ กูเคยโดนเม้นต์ด่าแค่เม้นต์เดียวจากเม้นต์ชมสิบกว่าเม้นต์ กูยังจิตตก) มึงลองไปโฟกัสกับเม้นต์ดีๆที่เค้าชมมึง ดูแค่นั้นพอ
แต่ถ้ามีคนเม้นต์ติด้วยเหตุผล ใช้ภาษาสุภาพ ชี้ให้เห็นว่าเรามีข้อควรปรับปรุงตรงไหน (เช่นมีพล็อตโฮล สะกดผิด ใช้คำผิด) อะไรพวกนี้กูถือว่าเป็นเม้นต์คุณภาพและคิดว่าคนเม้นต์เค้าหวังดีกับเรา อยากให้เราพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ อันนี้ควรขอบคุณเค้า
แต่ไอ้ที่มาเม้นต์ด่าประโยคเดียว บางทีเม้นต์ด่าที่ไม่เกี่ยวกับนิยายเลย อันนี้ก็ช่างแม่งมัน อย่าไปให้ราคามัน อย่ายอมให้ไอ้เกรียนพวกนี้มามีอิทธิพลกับชีวิตเราเว้ย สู้ๆเพื่อนโม่ง
เพื่อนโม่ง นข มันจะมีโอกาสมะถ้าพล็อตที่เราเขียนไปซ้ำกับนิยายเรื่องอื่น
>>579 +1 ความน่าจะเป็นที่จะซ้ำมันต่ำมาก ถ้าไม่ใช่พล็อตแบบคร่าวๆ แนวโรงเรียนงี้ แนวระบบงี้แบบไม่ได้ลงรายละเอียดปลีกย่อยแต่ละโรงเรียนแต่ละระบบเหมือนคนอื่นนะ เช่นเรื่อง มาฮาเดล,ซาเทียร่า,เซวีน่า พล็อตแนวโรงเรียนเหมือนกันแต่รายละเอียดปลีกย่อยต่างกัน แนวระบบ เช่นเพื่อนพระเอก ระบบความตายของวีรชน แนวระบบเหมือนกันแต่รายละเอียดปลีกย่อยต่างกัน โครงหลักอาจซ้ำกันได้แต่รายละเอียดปลีกย่อยซ้ำกันยาก ความน่าจะเป็นต่ำมาก สมัยก่อนกูเคยโดนลอกพล็อตนิยาย ลอกยันคาร์ตัวละคร เอกลักษณ์เผ่านู่นี่นั่นที่กูคิดขึ้นมาไม่มีข้อมูลในกูเกิ้ล แล้วคนลอกดันเป็นนักอ่านกูด้วย กูเคยเตือนเขาดีๆ แต่กูโดนด่ากับมาว่าใจแคบจ้า ตอนนั้นคือทั้งหัวร้อนทั้งเฟลหนักมาก เจ็บกว่าโดนลอกนิยายก็คือคนลอกดันเป็นนักอ่านตัวเองแล้วมาด่ากูเนี่ยแหละว่าไม่ให้ลอกเพราะใจแคบ // โทษที พอพูดเรื่องนี้แล้วของขึ้น
นิยายกูก็เคยโดนแซะว่าพล็อตเกร่อ แต่พอดีคิดเองไม่ได้ลอกใครมา ขนาดหนังสือที่กูอ่านยังพล็อตหลักซ้ำๆกันเลย อาชีพก็วนไปวนมา (ทั้งไทยเทศ) ชื่อคนแม่งยังมีชื่อที่เกร่อ (โดยเฉพาะนิยายฝรั่ง) ทำไมนิยายที่กูแต่งจะพล็อตซ้ำไม่ได้ แต่เอกลักษณ์ ภาษา คาร์ ลำดับเรื่อง อะไรตั่งต่างต้องแตกต่างจากคนอื่นอยู่แล้ว เวลามีคนบอกเหมือนเรื่องนั้นนี้จังก็เบลอๆ อ๋อเหรอคะ บังเอิญจังนะ ในเมื่อกูไม่ได้ลอกใครยังไงก็ไม่เหมือน คำพูดของพวกที่อ่านแป๊บเดียวด่วนสรุปกูไม่สนใจหรอก
ถามหน่อยมึง เวลามีคนขายนิยายเราในโม่งใช้วัดได้มั๊ยว่านิยายเราดังหรือป่าว
ด่านขในนี้ได้เปล่าวะ แม่งรีทวิตการเมือง ทวิตการเมือง จะเป็นนขหรือฟ้ารักพ่อก็เลือกเอาสักอย่าง
อันฟอลแม่งรำคาญ
เพื่อนโม่งช่วยกูคิดหน่อย กูตั้งใจจะเขียนวายไทยช่วงต้นร.9(ประมาณพ.ศ. 249x) กูเลยไปหาข้อมูลเพิ่มเติมจากทวด ตา ปู่ ยาย และคนแก่มากๆแถวบ้านกู 11-12 คน เท่าที่สำรวจพบว่า ยังมีผู้ชายในช่วงนั้นเวลาคุยกัน ยังเรียกบุรุษที่สามที่เป็นผู้ชายว่า ‘เธอ’ อยู่เลย เช่น คุณปื๊ดเธอไม่ชอบสุงสิงกับใครเท่าไรหรอก
ทีนี้กูไม่แน่ใจ เลยไปหานิยายเก่าๆที่นักเขียนมีอายุมากหน่อยมาอ่านเพิ่ม ก็เจอว่ามีใช้บุรุษที่สามว่าเธอเหมือนกัน
แต่กูกลัวเขียนแล้วคนอ่านจะรู้สึกไม่สบายใจว่ะ กูเลยไม่รู้ว่าจะใช้ ‘เขา’ หรือ ‘เธอ’ ดี ใจหนึ่งก็อยากเขียนว่าเธอ ให้ตรงกับข้อมูลที่ไปหามา แต่อีกใจหนึ่งก็ไม่รู้จะเขียนว่า ‘เขา’ ให้ตรงกับยุคสมัยนี้ดีไหม คนอ่านจะได้ไม่รู้สึกตงิดเวลาอ่าน ฮื่อ...
ปล. หรือจะใช้ ‘แก’ แทนเลยดีไหมวะ
>>598 ขอบใจมากมึง แต่คำว่า กัน มันเป็นบุรุษที่ 1 ส่วนใหญ่ใช้คู่กับ นาย ซึ่งกูคงไม่เขียนอ่ะ เพราะกูอยากใช้ ผมกับคุณ มากกว่า แง้ 5555
>>599 กูจะเขียนในบทสนทนาเวลาคนคุยกันนั่นแหละ แต่กลัวคนอ่านไม่ชอบ เลยยังลังเลอยู่ ถ้าลงมือเขียนจริงจะอธิบายเพิ่มเอาละกัน ยังไงก็ขอบใจมึงมากนะ
ปล. พอมึงบอกตรงเอ่ยถึงคนนั้นด้วยความเคารพ รักใคร่ กูนึกถึงเรื่อง กิ่งไผ่ เลย คิดถึงจัง คุณฟุ้งของพ่อจิตต์5555
หมดแพชชั่นในการเขียน
เขียนตามกระแสก็ใช่รุ่งทุกคนนะมึง ขึ้นอยู่กับฝีมือการเขียนด้วย
ตอนเลกๆไมเรยนหนงสอ โตขนมาตองขดรองเทา
>>610 กูอยากบอกว่าเขียนนอกกระแสคนก็อ่านเยอะนะมึง กูเคยอ่านงานของนขคนนึงเป็นแนวแฟนตาซีผจญภัยไม่ใช่แนวระบบนะ แต่เป็นแนวผจญภัยที่ไม่เน้นความสัมพันธ์พระนายเลยอ่ะ คนก็อ่านเยอะอยู่ กูว่าน่าจะขึ้นอยู่กับฝีมือการเขียนของแต่ละคนด้วย เขียนตามกระแสก็ไม่แน่จะรุ่งเสมอไปหรอก แ
กรณีไม่มีคนอ่านกูว่ามันเป็นไปได้สองแบบ
1. พล็อตมึงไม่ใช่แนวที่คนสนใจ
2. วิธีการเขียนไม่ดึงดูด
แต่ตอนนี้มันยากหน่อยที่ใครจะเห็นนิยายของมึง อย่าง ดด อัพไปนาทีเดียวบางมีตกหน้าหน้าหนึ่งแล้ว ต้องรอคนเห็น ไม่ก็รอคนรีวิว ซึ่งนิยายแม่งก็เยอะชิบหาย กว่าคนรีวิวจะมาเจอบางทีแม่งอาจจะเป็นเรื่องสุดท้ายที่นข เขียนและปิดตัวเองหมดแพชชั่นไปแล้วก็ได้ อย่างเช่นกู ตอนนี้เจอรีวิวคนชอบ กูขอบคุณมาก แต่กูหมดแพชชั่นไปแล้ว หมดไปตั้งสองสามปีได้แล้ว
กูกำลังประสบปัญหาเดียวกัน คือเขียนนิยายกระแส ได้รับการตอบรับดี แต่พอเขียนนอกกระแส โคตรเงียบ กูเศร้ามาก พาลไม่มีแรงเขียนนิยายในกระแสที่เขียนค้างไปด้วย เพราะรู้สึกว่า ที่ฟีดแบ็คดีไม่ใช่กูเขียนดี แต่เพราะมันแค่มีนักอ่านกลุ่มนี้มหาศาล
เขียนลงเน็ตกันทำไมวะ เขียนให้จบแล้วส่งต้นฉบับกับสนพ.ถ้าเรื่องมึงดีเขาก็ทำให้มึงขายได้เอง หรือมึทุนบ้างก็พิมพ์เองแล้วทะยอยให้อ่านเป็นตอนๆไป ไม่มีชื่อก็เอาส่งร้านให้ร้านโปรโมท แบบนี้มึงขายนิยายได้แน่นอน ไม่ใช่เขียนลงเน็ตให้อ่านก่อน ใครเอาพล็อตมึงไปใช้แล้วชิงออกขายก่อนมึงจะเสียใจ
>>622 กูขอเห็นต่างเล็กน้อย กูว่าควรลงเน็ตเพราะนักอ่านและสนพ เดี๋ยวนี้มีตัวเลือกเยอะ เขาไม่จำเป็นต้องมาหยิบงานที่เขาไม่เคยได้ยินหรือเห็นวางขายมาก่อน ในห้องสปอย ขนาดลงในเน็ตยังมาถามอยู่เรื่อยๆ เรื่องนี้ดีมั้ย บลาๆ ส่วนที่บอกเรื่องดี สนพ จะหาวิธีขายให้เอง มันก็ใช่ แต่ถ้ามีฐานลูกค้า ยอดเฟบที่สูง สนพ ก็เหนื่อยน้อยลงเปล่า น่าจะเห็นว่าบางเรื่องนิยายยอดเฟบดี ถูกสนพ มาจีบรัวๆ
พล๊อตนิยายเหมือนกันทั่วราชอาณาจักรแล้วจ่ะ ตอนนี้เค้าแข่งกันที่ภาษา ตัวละคร การดำเนินเรื่อง เอกลักษณ์ พล๊อตแหวกแนวแค่ไหนถ้าเขียนไม่สนุกก็ไม่รุ่งจร้า ไปกังวลเรื่องฐานแฟนคลับที่จะซื้องานมึงดีกว่า
>>622 สมัยโบราณ ไม่มีเน็ต เค้ามีนิตยสารลงนิยายเป็นตอนๆ นักเขียนดังเกิดมากมายจากวิธีนี้ นั่นหมายความว่าคนอ่านจำนวนหนึ่งอ่านแล้วสนุกบอกต่อ มีฟค
สมัยใหม่ลงในเน็ต ให้คนอ่านได้ลองอ่านก่อน ได้มีรีวิวให้คนขี้เกียจตามได้ตัดสินใจ เงินทองของหายากจะซื้อก็ต้องคิดบ้างว่าใช่แนวที่ชอบหรือเปล่า
>>618 เป็นเทพต้นไม้ไรปะ ถ้าใช่ อย่างแรกนิยายที่เปิดมาเจอหน้าข้อมูลเบื้องต้นเป็นแนะนำตัวละครก่อน กูทำใจไว้เลยครึ่งหนึ่งว่ากูจะเปิดอ่านได้ไม่จบบทที่ 1
อ่านบทที่ 1 ยังไม่จบ กูปิดเพราะกูไม่ชอบตัวละครพล่ามกับตัวเอง พูดแล้วก็อธิบายความคิดของตัวเองเรื่องของตัวเอง ไปเรื่อยๆ พยายามเป็นมุกขำ แต่พอมันไม่ขำมันก็...
เรื่องมีแค่บทพูด MC พูดกับคนอื่น MC พูดกับตัวเอง Only ME ME and ME ฉันทำแบบนี้ ฉันพูดแบบนี้ ฉันคิดแบบนี้ ละครวิทยุยังมีช่วงเล่าเหตุการณ์ บรรยายบรรยากาศเลยมึง อ่านแล้วเหมือนถูกขังอยู่ในห้องแคบๆ ฟังเด็กวัยรุ่นพูดคนเดียวไม่หยุด
ถ้าไม่ใช่กูเดาผิด ขอคำใบ้เพิ่ม
>>622 กูว่าใช้กับสมัยนี้ไม่ไดว่ะ ถ้าสมมติยอดเฟบเยอะฐานนักอ่านเยอะก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้วที่สนพจะมาจีบ กูเห็นนิยายบางเรื่องโครตเบียวแต่ยอดเฟบเป็นหมื่นยังแต่งไม่จบก็มีสนพมาจีบอ่ะ ส่วนเรื่องลอกเนี่ยกูว่าพออัพลงเน็ตก็เป็นหลักฐานอย่างหนึ่งในการยันเอาผิดกับคนลอกได้นะ
>>625 กูเห็นด้วยกับมึง รีบลงจะได้ไม่ต้องกลัวซ้ำใครด้วย
Ky พวกมึงว่าเวลาแต่งนิยายใช้ตัวบุคคลที่1บรรยายกับบุคคลที่3บรรยาย แบบไหนนักอ่านนิยมอ่านมากกว่ากันวะ
กูเจอแต่ 1 แบบแย่ๆ ชมตัวเอง อวยตัวเอง ประเภทผมแมนมากนะ แค่ปากชมพู… ผู้ชายที่ไหนมานั่งชมตัวเองแล้วบอกว่าแมนวะ
นั่นแหละ กูเลยไม่ชอบแบบมุม 1 หาดีๆ ยากจัง
กูเจอวิธีฝึกงานเขียนแล้วว่ะ
ที่ห้อง lifestyle นะมึงลองแต่งเรื่องไปลงดู เรื่องพ่อแม่ ชีวิตการงาน ความรัก แล้วโต้ตอบกับคนที่มาตอบดู
ยิ่งเขียนดีขึ้น คนจะยิ่งเชื่อมากขึ้น ให้คำปรึกษามึงจริงจังขึ้น
>>644 มีคนทำตั้งนานแล้ว ที่ลงในพันทิพไง ที่พระนายทำงานในหนังสือพิมพ์ ซื้อปาท่องโก๋มาจีบ
วลีเด็ดคือ ถ้าเอาความรู้สึกทั้งหมดที่ผมมีให้มัน ใส่ไมโครเวฟแล้วติ้ง ออกมาว่าผมเป็นเกย์ เออ ผมยอมเป็นเกย์เพื่อมัน
นี่กูอินจนจำได้ถึงทุกวันนี้เลย 5555555555555 สมัยนั้นมีคนไปตามรอยด้วย ภาพถ่ายนี้ๆๆมาจากถนนxxx แน่ๆ กำลังก่อสร้างอยู่เหมือนในนิยาย วัดนี้แน่ๆ อย่าไปรบกวน ฯลฯ
Ky ทำไมนิยายที่กูตั้งใจแต่งตั้งใจหาข้อมูลเค้นสมองเขียนออกมาคนอ่านน้อย แต่อีกเรื่องที่กูเขี่ยๆแก้เซ็งไม่มีข้อมูลห่าเหวไรเลย มีแต่กาวคนถึงอ่านเยอะกว่าวะ เพราะย่อยง่ายกว่างี้อ่อ
มันก็แล้ว แต่ดวง แต่อารมณ์ของคนอ่านช่วงนั้นๆ ด้วยนะ
คนอ่านช่วงนั้นแบบชีวิตเยอะสิ่ง กำลังเครียดก็อาจจะไม่อยากอ่านแนวข้อมูลแน่นๆ อยากอ่านเบาๆ ย่อยง่าย ไรแบบนั้น
ปกติชอบเขียนบุรุษที่ 1 เมะหรือเคะกันวะ เคะเยอะกว่าปะ
Ky ถ้าอยากขายนิยายให้ได้500เล่มต้องมียอดเฟบยอดวิวประมาณเท่าไหร่ได้วะ
แล้วคนลงในเล้าเป็ดไม่เจ๊งแน่เหรอวะที่บังคับลงจบ ห้ามลบอะ
ถามคนที่เคยเขียนนิยายแนวผีๆ หน่อยดิ คือกูอยากเขียนเรื่องผีแต่ตัวเองเป็นคนกลัวผีมาก มีใครที่เขียนแนวนี้จนจบได้ทั้งที่กลัวผีมั้ยอะ มีวิธียังไงบ้าง หรือจะเขียนไปกลัวไปทั้งอย่างนี้ดี อยากเขียนแต่แค่คิดพล็อตก็กลัวแล้ว มันจะทรมานไปมั้ย พอมีวิธีให้เขียนได้มั้ยอ่า ฮือออ
เพื่อนโม่งนข.เค้าไปแจกลายเซ็นกันมั้ย กูตื่นเต้นชิบ กลัวไม่มีคนมา
กูเบื่อจังเลย เพื่อนโม่ง พอนักเขียนเอาโปสการ์ดไปแจกตอนแจกลายเซ็น แม่งก็มีคนมาตั้งขาย ตั้งรับซื้อ ขอราคาไม่ทำร้ายไตนะ กูแจกไม่ใช่เหรอวะ ทำไมไม่ถามกูว่ามีขายรึเปล่า
เอาของแจกไปล่อ ก็ได้แต่พวกไม่จริงใจกลับมา เงียบๆ แต่คนที่ชอบที่รักงานเราจริงๆ ดีกว่า ช้า แต่รักนานๆ เป็นขนมแห้งด้วยหัวใจ ก็พอ
บูธก็คงแค่อยากหากิจกรรมให้คึกคักอ่ะมึง ไม่งั้นมันก็เงียบๆ บูธอื่นเอานักเขียนขึ้นเวทีกันโครมๆ จะให้มองเฉยๆ ก็ยังไง ไม่ดันคนของตัวเอง เดี๋ยวคนก็ไปหมดหรอก
Ky เพื่อนโม่ง กูรู้สึกช่วงนี้นักอ่านหายไปเยอะเลยว่ะ หายไปแบบจากคอมเม้นตอนละร้อยกว่าเหลือไม่ถึง50 จนกูกลับมาคิดแล้วว่าช่วงหลังนิยายกูไม่สนุกเหรอวะ ท้อแท้มาก TT
คิดว่าถ้าอัพทุกวันแบบวันละตอนงี้ ยอดคนอ่านจะเยอะกว่าอัพเว้นช่วงสัปดาห์ละครั้งหรือสามสี่วันครั้งมั้ยอะ กูกำลังคิดว่าความถี่ในการอัพนิยายมันมีส่วนรึเปล่า
Ky พวกมึงว่าอัพนิยายช่วงไหนคนอ่านเยอะกว่ากันอ่ะ มู้ก่อนๆ เคยมีคนบอกว่าอัพช่วงเย็นคนอ่านเยอะกว่า กูอยากรู้ว่าถ้าอัพตอนเช้ากับตอนเที่ยงคนอ่านเยอะเหมือนช่วงเย็นมั๊ย
คนอ่านกูก็หาย กูคิดว่าการเมืองก็ส่วนหนึ่งนะ คนไม่มีอารมณ์รึเปล่า ถึงจะไม่ใช่หัวการเมืองแต่มันก็ต้องได้รับผลกระทบ เครียดตามสังคมกันบ้าง
>>703 ถ้าตามที่กูคิดคือ คนแต่งอัพนิยายวันเสาร์อาทิตย์กันหลายเรื่องทำให้นิยายกูตกหน้าแรกไวมาก ตกนักอ่านหน้าใหม่ขาจรไม่ค่อยได้อะ แล้วอีกอย่างคือช่วงที่กูแนะนำไป ถ้าสำหรับวันเสาร์อาทิตย์คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยอยู่บ้านกันป่ะ ออกไปเที่ยว ไปกินข้าวไรกันงี้ || กูไม่รู้สิ สำหรับคนอื่นอาจจะไม่ แต่ของกูคือวิวน้อยกว่าวันธรรมดาจริงๆ
Ky เพื่อนโม่งกูจะมาบอกว่า กูลองแต่งนิยายตามกระแสแล้วคนอ่านเยอะกว่าจริงๆ ว่ะ ช้ำใจชห พอเปรียบเทียบกับอีกเรื่องที่กูตั้งใจแต่งแล้ว รู้สึกเหมือนลูกเมียน้อยได้ดีกว่าลูกเมียหลวงอ่ะ
Ky กูถามไรหน่อย นิยายพวกมึงก่อนสนพติดต่อมากลับหลังสนพติดต่อมายังเขียนเหมือนเดิมมั๊ยวะ ตอนแรกกูแต่งนิยายเล่นๆ แก้เขียนแล้วคนอ่านเยอะสนพก็ติดต่อมาอ่ะ ดีใจก็ดีใจนะแต่รู้สึกกดดันมากเลยว่ะ กูรู้สึกว่าจะแต่งเล่นๆเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว หลังจากนั้นกลายเป็นแต่งไม่ออก จะเขียนแต่ละตอนแม่งคิดจนสมองจะระเบิด ตอนแรกมาแต่งนิยายแก้เครียดไปๆมาๆแต่งนิยายแล้วเครียดพ้น ทำไงดีวะ รู้สึกกดดันจนแต่งไม่ออกแล้ว TT
แล้วก็มีนักอ่านอีกประเภท หวีดกูเกือบตาย เม้นต์ทุกเรื่องทุกบทแต่ออกเล่มไม่เคยซื้อ ล่าสุดเห็นไปถอยนิยายมาเรื่องนึง แคปชั่นอย่างดีบอกชอบมากอ่านซ้ำวนไปวนมาตลอดหลายปีแต่เพิ่งไปสอยมือสองมาจากกระบะหลักสิบบาท เห้อม ยังจะแท็ก นข. ไปอ่านอีก สงสาร นข คนนั้นจริมๆ
Ky ปกติหนังสือนี้ใช้กล่องพัสดุขนาดไหนอ่ะ แล้วใช้กล่องไรดีวะ ฝาชนหรือไดคัท
Ky พวกมึงคิดยังไงกับนขที่ทยอยลงนิยายครั้งละ50%
ky เพื่อนโม่งกูถามหน่อย ถ้าสมมติอัพนิยายทุกวันจะทำให้คนอ่านเพิ่มขึ้นจริงมั๊ย
ขยายความอีกหน่อย เฟบช้าคือ มึงลงทุกวันมึงจะเห็นบ่อยๆ ในความรู้สึกมึงก็จะช้าละ อีกอย่างคือถ้าลงอาทิตย์ละครั้ง เหมือนมีคนเห็นเยอะขึ้น เฟบมึงก็จะเยอะตาม ไม่รุ้นะ กูแค่สังเกตเอา
ถามหน่อยเพื่อนโม่ง เวปรีดอะไรท์นี่วัดเรื่องมาแรงยังไงอ่ะ ของกูติดอยู่นะ แต่อยู่ๆก็หายไปแล้วไปโผล่ลำดับท้ายๆของเรื่องฮิตทั้งๆที่บางเรื่องมีทั้งสองแรงค์ ยอดอ่านกูวูปเลยอ่าาาา เสียใจว่ะ แล้วที่เพจรีดเขาโฆษณาให้นี่ต้องทำไงวะ หรือเขาสุ่มแล้วแต่ดวงงี้หรอ
Ky กูรักมู้นี้ว่ะ กูเขียนนิยายวายแต่ไม่มีเพื่อนนักเขียนสักคน เลยไม่รู้จะบ่นอะไรกับใคร คุยกับคนอื่นเค้าก็ไม่รุ้เรื่อง อะไรวะเมนท์ อะไรคือเฟบ ยอดวิว บลาๆๆๆ โอยยยยย เมื่อกี้เห็นทวิตนักเขียนดังๆ เค้ารวมตัวกัน กูยิ่งรู้สึกโดดเดี่ยว พอเข้ามู้นี้ กูใจชื้นละ กูมีพวกมึง ไม่มีอะไร กูแค่อยากมาบอกความในใจ 555555
KY นักเขียนดังๆ ทำมือนี่ทำเรื่องงามหน้าเอาไว้หลายคนจนกูไม่กล้าเปิดพรี คนซื้อหมดความเชื่อถืองานทำมือไปหรือยังวะ (กูถนัดเรียกทำมือ ถึงมันจะเป็นการส่งโรงพิมพ์ก็เถอะ แต่หมายถึงหนังสือที่นักเขียนทำเอง)
ส่วนมากก็ติ่งอยู่ด้อมเดียวกันเลยมีก๊วนมั้ง กูสายงานเขียนออริตลอด ก็จะเหงาๆหน่อย
หวัดดี อยากถามความเห็นคนอื่นๆบ้าง รู้สึกเหมือนกันหรือเปล่าว่า งานเขียนของหลายๆคนอ่านแล้วเหมือนมันเป็นงานแปลหรืองานแปลง
ทั้งการใช้ศัพท์ บรรยากาศและศัพท์เทคนิค อย่างเรื่องนึงคงแปลฝรั่งมาเขียนนามสกุลว่า สตีวาร์ท - คืออ่านคำว่าสจ๊วตผิดหรือเปล่า
บางเรื่องก็น่าจะแปลจีนมา สำนวนมันจีนมากๆ
สนพ.ไหนร่วมงานด้วยดีๆน่าส่งบ้าง ใครรีวิวได้ไหม อย่างอววก็ต้องห้ามเรตปะ
อววมีข้อแม้ว่ามึงต้องดังด้วยนะ
กูเห็นนักอ่านชอบบอกว่า อ่านนิยายเรื่องนี้ๆๆ ไม่ต้องดูชื่อก็รู้เลยว่าใครเขียน เหมือนมีลายเซ็นนักเขียน มันเป็นยังไงวะ สมมติปิดชื่อ อ่านแล้วรู้ขนาดนั้นเลยเหรอวะ
Ky ถ้าจะจ้างแอค/เพจรีวิวนิยาย เขาคิดเรื่องละเท่าไหร่วะกูอยากรู้
>>745 กูมองว่ามันเป็นได้ทั้งคำชมและบางมุมก็เป็คการว่ากระทบด้วย ถ้ามีภาษาเฉพาะ เอกลักษณ์เฉพาะ บางทีคอ.ก็รู้จริงๆ นั่นแหละ แต่บางทีก็มองได้ว่าคข.ไม่พัฒนาได้เหมือนกัน ถ้ามีใครมาบอกว่าพระเอกแบบนี้นายเอกแบบนี้ต้องเป็นคข. คนนี้แน่ๆ เลย นั่นแสดงว่ากี่เรื่องๆ ที่เปิดก็สลัดคาร์เดิมไม่หลุด
Ky ทำไมกูรู้สึกว่าหมวดวายในดด แข่งขันกันสูงกว่าเว็บอื่นวะ ตอนแรกกูอยากไต่ไปถึงTop20นะ แต่แค่ไม่ให้หลุดTop50แม่งก็เลือดตาแทบกระเด็นแล้ว กูว่าดด น่าจะแยกย่อยหมวดวายลงไปอีกนะ
เพื่อนโม่งใครเลิกลงนิยายในเล้าเป็ดกลางคันบ้าง กูไม่อยากเลิกลงอะ เพราะนักอ่านเก่า ๆ อยู่นี่ แต่อย่างหนึ่งทีกูอึดอัดใจคือมันไม่ป้องกันการก็อปและไม่ให้ปิดตอนนี่แหละ
ky เพื่อนโม่ง พวกมึงว่าคาร์นายเอก-พระเอกแบบไหนเสี่ยงโดนนักอ่านเกลียดมากที่สุดวะ แบบพอเห็นคาร์แบบนี้แล้วขอกดปิดทิ้งแม่มเลย
Ky ทำยังไงถึงจะดึงดูดในนักอ่านเข้ามาเม้นนิยายตัวเองเยอะๆ วะ ช่วงหลังนิยายกูเริ่มยาวหลายตอน เกิน50ตอนไปแล้วคนอ่านที่มาเม้นทยอยหดหายลงไปเรื่อยๆ เลยอ่ะ ถ้ากูบอกในTalk ว่าชอบอ่านคอมเม้นนักอ่านแต่ไม่ได้พูดขอเม้นตรงๆ จะโอเคมั๊ยวะ ช่วงหลังคอมเม้นนอนลงจนกูหดหู่ไม่ค่อยมีกะจิตกะใจแต่งเลย TT
Ky เพื่อนโม่งกูขอถามอะไรหน่อย Top100 เว็บดดนับยอดรายวันใช่มั้ย เริ่มตัดยอดนับอันดับใหม่ทุกๆ เที่ยงคืนหรือว่านับแบบRealtimeอ่ะ กูสงสัย
>>759 กูไม่เคยตอบคอมเม้นเลยวะ กูนี่มันเลวจริงๆ ฮรือออ ขอโทษคุณนักอ่านที่มีอยู่น้อยนิดของกูด้วยจริงๆค่ะ
เวลาแต่งนิยายไม่ได้ดังใจมึงทำไงกันวะ อ่านนิยายที่พิมพ์ไปแล้วรู้สึกไม่ใช่ เหมือนแต่งไม่ออกแล้วพยายามเค้นออกมา ตอนอ่านทวนกูเลยไม่ค่อยโอเค แต่งแล้วลบๆอยู่หลายรอบเลย เคยเป็นแบบนี้กันไหมวะ แล้วแก้ปัญหากันยังไง
กูอ่านๆพวกมึงแล้วแปลว่ากูแปลกกว่าคนทั่วไปหรือเปล่าวะ ตรงที่ กูไม่ได้อยากได้คอมเม้นมากเท่าอยากได้ยอด fav
และกูจะแอบหลอนทุกครั้งที่เม้นเพิ่ม พอเข้าไปอ่านคอมเม้น อารมณ์มันก็จะหลอนๆหน่อยแบบ เค้าจะมาเม้นชอบของกูหรือเค้าจะมาด่าว่าเขียนห่วยว้า
แต่ยอดfavที่ขึ้นเรื่อยๆนี่ทำกูปลื้มมาก แบบเออยังมีคนรออ่านกูนะ แม้จะมานึกได้ทีหลังว่า มันอาจจะ favไว้เฉยๆรออ่านทีหลังก็ตามเถอะ
>>773 ของกูถึงบอกจุดติจุดแก้มาก็ได้แต่ขอบคุณ แต่เรื่องแก้ตามไหม นอกจากคำผิดแล้วมันออกจะยากว่ะ เพราะเขียนจบเรื่องแล้วถึงลง ถถถถถถ ถ้าแก้ตามกูคงต้องยกเครื่องหมด กูมีปัญหาชีวิตกับการเขียนไปลงไป คือไม่จบแน่นอน มองลีสนิยายที่จะเขียนของกูตอนนี้ยาวเป็นหางว่าว พล็อตโผล่มาเรื่อยๆแบบไร้ขีดจำกัด แต่เขียนไม่จบ.....เลยตั้งกฏให้ตัวเองว่าเขียนจบก่อนถึงมีสิทธิ์ลงให้ชาวบ้านอ่าน
ถามพวกมึงหน่อย กุเป็นคนอ่านที่อยากรู้เรื่องโพสิชั่นนี่ ถามได้ไหมวะแบบถ้าไม่ใช่พล็อตให้ลุ้นว่าใครรุกรับ หรือไม่ได้จั่วหัวไว้แต่แรกงี้
>>783 อันนั้นก็จะหลอนๆหน่อย แต่ของกูไม่ได้สลับนะ มันล็อคแต่คือในเมื่อมันไม่มี NC ยันท้ายเรื่อง มันเลยไม่ชัดไงว่าคนไหนเมะไหนเคะกันแน่ กูชอบให้คนอ่านเดา+ลุ้นเอง เพราะตลค.ของกูบางมุมมันก็แรดคู่ บางมุมมันก็เหมือนจะแมนพอๆกัน(กูไม่บอกว่าตัวละครกูแมนนะ แต่ถ้าเทียบแค่คู่มันออกจะพอๆกัน)
แต่ไอ้ผลัดกันเสียบอันนี้กูยังใจไม่พอ เอาจริงแค่NCโพเดียวกูยังเขียนไม่ได้เล้ยย มาสล่งสลับ ตัดเข้าโคมไฟไปแทนละกัน
>>784 พวกเมิงดูเป็น นข. ที่เฟรนลี่ดีวะ อยากหานิยายพวกเมิงมาอ่านเลยเนี่ย ในหน้าไทม์ไลน์ทวิตที่กุเห็นผ่านๆนะ มีแบบการเรียกนข.ว่าไรท์งี้ก็ไม่ชอบละ ทำเอากุกลัวการคอมเม้นเลย อห กลัวดูเป็นคนโง่5555 หรือนักเขียนไม่ชอบงี้ แต่กุก็เม้นๆตลอดๆนะอาจจะไม่ทุกตอน บางทีก็เม้นง่ายๆ อ่ะ ให้กำลังใจ
>>785 ไม่มีใครกล้าโพสต์แน่นอน กลัวโม่งแตก 555
สำหรับกู แม้นักอ่านด่าก็ต้องยอมรับนะ ถ้าเขาเข้าใจผิดก็แค่ชี้แจง ถึงจะด่าหรือเกรียนใส่ ทางที่ดีที่สุดคือก้มหัวขอโทษเขา เพราะนิยายของเรายังไม่ดีพอ และพยายามพัฒนาให้ดีขึ้น ก็เท่านั้นป่ะวะ
กูงงนักเขียนที่วีนใส่คนอ่านมากกว่า แบบเค้าบอกมาต่อเร็ว ๆ นะ ก็บอกเค้ากดดัน กูสงสัยว่าคนอ่านควรเมนต์แบบ ไม่ต้องรีบนะคะ เหรอวะ เค้าอยากอ่านสิดี จะไปวีนทำไมวะ
แต่อย่างว่า นักเขียนนักอ่านมีหลายอายุ เด็กประสบการณ์น้อย จะทนไม่ได้ก็ไม่แปลก
กูก็เคยเห็นที่ทวีตกันเรื่องไม่ชอบให้เรียกไรท์ สำหรับกูเรียกอะไรก็ได้ ขอแค่ไม่ใช่คำหยาบแบบอีดกทงไรงี้กูเอาหมด มันจะไปหนักหนาไรวะกับอีแค่เรียกว่าไรท์ ไรเตอร์ ก็คิดเสียว่าเป็นสรรพนามเหมือนคำว่าคุณที่คนกำลังนิยมกันก็ได้ ถ้ากุเป็นคนอ่านนิยายที่เคยเผลอเรียกนข.ว่าไรท์ ละวันนึงนขมาบ่นว่าไม่ชอบให้เรียกว่าไรท์ กุคงรู้สึกแย่ๆ...
กูไม่ชอบคำว่า ไรต์ พอๆ กับคำว่า แอด แต่ก็ไม่ถึงขั้นไปด่าคนที่เขาเรียกหรอกนะ ได้แต่เซ็งๆ ในใจ
ทำไมคนอ่านชอบเรียกนักเขียน นักวาด จีน เกา ปุ่น ว่า อาจารย์วะ แล้วอย่างซิลเวีย เวียดนาม ไม่เห็นเรียกอาจารย์
Ky นิยายที่เค้าบอกว่า กาวๆ นี่คือ นิยายยังไงวะ เขียนแนวไหน กูถามถูกมู้มั้ยวะเนี่ย คือกูอยากรู้ว่ามันต้องเขียนยังไงถึงกาว แล้วทำไมต้องแปะคำว่ากาวไว้ที่ชื่อเรื่อง
กาวๆสำหรับกูเหมือนหนังแบบ Swiss Army Man, Lock Stock And Two Smoking Barrels หรือหนังเกรดBแบบSharknodo คือไม่สนตรรกะของโลกที่ตัวละครอยู่ (อย่างเช่นเป็นโลกแฟนตาซีแท้ๆดันพูดถึงมาร์กซิสม์) หรือมีเหตุการณ์ที่เกินจะจินตนาการว่าในโลกของนิยายแบบนี้มันจะเกิดเรื่องนี้ขึ้นได้ มันสนุกตรงไม่รู้ว่าอ่านอยู่แล้วจะเจออะไรบ้าง
ตย.ความกาวที่สุดในใจกูคือปรินซ์ออฟเทนนิส
มึงเคยเล่นเกมnierไหม กูว่าเนื้อเรื่องแม่งกาวมาก ข้างหนึ่งเป็นไปได้ อีกข้างหนึ่งอยู่กับคำว่าอิหยังวะ 5555 เป็นเกมที่กูชมว่าเนื้อเรื่องดี แต่อิหยังวะมากๆ เนื้อเรื่องเรียล แต่เหนือจินตนาการที่คนทั่วไปจะคิด
Ky เพื่อนโม่ง พวกมึงเคยรู้สึกว่าตัวเองแต่งนิยายไม่สนุกทั้งๆ ที่นักอ่านบอกว่าสนุกไหม แบบนี้ถือว่าเป็นโรคขาดความมั่นใจหรือเปล่าวะ ช่วงหลังๆ กูรู้สึกว่าตัวเองแต่งนิยายแย่ลงว่ะ จนไม่กล้าแต่งต่อ กูควรทำไงดี TT
>>822 ช่วงนี้กูรู้สึกกดดันจริงๆ ว่ะ TT แต่เรื่องไม่มั่นใจในตัวเองแก้ไม่หายสักที ไม่รู้จะทำไงแล้ว Orz แต่พอนิยายถึงจุดพีคต้องแก้ปมกูรู้สึกว่าแต่งยากเป็นพิเศษอ่ะ แก้หลายรอบก็ยังไม่ได้ดั่งใจ
ปล.มู้นี้เหมือนเป็นศาลาให้คำปรึกษานขเวลาจิตตก 555555 กูขอบคุณมู้นี้มากๆ ขอบคุณเพื่อนโม่งด้วยนะ TT
สู้ ๆ นะพวกมึงทุกคน กูไม่ค่อยชอบเว็บโม่งเท่าไหร่ นาน ๆ เข้ามาส่องทีตอนมีดราม่า แต่มู้นี้ทำให้กูรู้สึกว่าโม่งคือเว็บที่กูอยากเข้าทุกวัน
จริง ๆ เราอาจเป็นคนที่เขม่นกันในโลกของนิยายก็ได้ 5555
>>814 กูลองยกตัวอย่างสิ่งที่กูคิดว่ากาว ไม่รู้จะช่วยมึงได้มั้ยนะ แต่กูจะพยายามอธิบาย
Prince of tennis - เนื้อเรื่องคือแข่งเทนนิส = โอเค อันนี้เนื้อเรื่องปกติทั่วไป ไม่กาว
- เริ่มตีเทนนิสแล้วปล่อยพลังอลังการเป็นดราก้อนบอล ตีเทนนิสแล้วสร้างพายุหมุน ตีเทนนิสแล้วสร้างหลุมดำได้ = อิหยังวะ = กาว
Batman ninja - แบทถูกย้อนเวลามาที่ญี่ปุ่นยุคโบราณ = โอเค อันนี้พล็อตทั่วไป ไม่กาว
- ปราสาทของอิพวกตัวร้ายแม่มมีขาเดินได้ ตอนสุดท้ายมีการเอาปราสาทมารวมร่างกันกลายเป็นหุ่นปราสาทยักษ์ = อิหยังวะ = กาว
คือความกาวสำหรับกูคือ การที่มึงโยนตรรกะทิ้งไปได้เลยอะ สิ่งที่เกิดขึ้นในเรื่องแม่งอยู่เหนือตรรกะที่ควรจะเป็นไรงี้ มันเลยจะเกิดความรู้สึก อิหยังวะ ขึ้นมา ไรงี้อะ
ky ถามหน่อย กูรู้ว่าหล่ยคนไม่ชอบนิยายแนว Mpreg และอยากให้ติดTag หรือบอกไว้ตอนลงขาย
แต่อย่างนิยายกู ถามว่าเป็นไหม เรียกได้ว่าเป็น แต่ทั้งเรื่องนอกจากกล่าวถึง2คำว่าเออมันท้องได้นะ และตอนพิเศษ2ตอนที่คู่หลักมีลูกชาย (แบบเป็นคนคลอดออกมานะ แต่มันโตระดับหนึ่งแล้วไม่ใช่ทารก) คือมันไม่มีฉากเกี่ยวกับช่วงท้องเลย ทั้งฉากตอนท้องฉากคลอด กูยังควรต้องบอกไหมวะ
Ky พวกมึง กูอยากมาแชร์เทคนิคแต่งนิยายอ่ะ คือแต่ก่อนกูตันง่ายมากๆ ดองนิยายไปหลายปีเพิ่งกลับมาแต่งเลยเปิดนิยายเรื่องใหม่มาลับสมองเล่นๆ แต่งแบบไม่คิดไรมากออกแบบคาร์นายเอกพระเอกสนองนีดตัวเอง แต่งไปฟินไป หวีดนิยายตัวเองให้เหมือนติ่งนิยายชาวบ้านอ่ะ กูแต่งไปหวีดตัวละครในนิยายตัวเองไป 5555555 พอทำแบบนี้แม่งหัวแล่นหัวลื่น แต่งนิยายได้รัวๆ ไม่สะดุดเลย แถมรู้สึกอยากแต่งต่อเรื่อยๆ เพราะอยากรู้ตอนต่อไปของนิยายตัวเองอ่ะ แต่งนิยายเหมือนหวีดแฟนด้อม กูบรรลุเลยพวกมึง 55555555
กูคอนเฟิมด้วย นข.ที่กูตามเค้าก็หวีดตัวละครเหมือนติ่ง ถถถถ
Ky เพื่อนโม่งที่เป็นนข สมมติตอนนึงมีคนเม้น100-200คอมเม้นงี้มึงจะตอบทุกคอมเม้นเลยป่าววะ กูรู้สึกว่าถ้าตอบทุกคอมเม้นใช้เวลาหลายชั่วโมงเลยอ่ะ
Ky ช่วงนี้แนวระบบกำลังฮิตใช่ป่าววะ ถ้าสมมติกูลองแต่งบ้างพวกมึงว่าจะได้นักอ่านตามกระแสมั้ย 555555
สวัสดีจ้าเพื่อนโม่ง เราเป็นนักเขียนที่ตอนนี้รู้สึกเหนื่อยใจมากๆ เราตั้งใจเขียนนิยายทุกครั้งที่ลงแต่ก็ไม่ค่อยได้คอมเม้นต์เท่าไหร่ เราไม่รู้ว่าทำผิดตรงไหน กับอีกเรื่องที่แต่งแนวยั่วๆ คนกลับชอบ
>>853 กูว่านิยายมันไม่มีผิดมีถูกนะ ปัญหาคือรสนิยมคนอ่านมากกว่า มึงรักการเขียนนิยายเรื่องนี้ไหมหรือเขียนเพื่อตีพิมพ์ ถ้ารักไม่ต้องสนคนอ่าน เขียนตามที่เราอยากเขียน แต่ถ้าหวังตีพิมพ์ขอบอกว่าต้องเขียนตามกระแสที่คนอ่านชอบแม้มันจะฝืนใจก็ตามเถอะ
ส่วนคนที่เขียนตามตัวเองชอบแล้วคนอ่านก็ชอบนี่เรียกว่าทำบุญมาดี...
Ky ถ้านิยายกู 290 หน้า กูขาย 330 คนจะด่ามั้ยวะ เจอบางคนบอกหน้าละบาทก็แพงแล้ว ;-; กูควรขายเท่าไหร่ถึงจะไม่โดนด่าวะ
>>858 ถ้าทำมือเอาราคาแบบไม่เข้าเนื้อให้โรงพิมพ์ตีราคาให้ก่อน จำนวนเล่มก็มีผลกับราคาหารต่อเล่มเท่าไหร่ บวกค่าแรก ค่าสมองมึงด้วย บางคนจะไปสู้ราคากับสนพ.ไม่ได้บวกค่าแรงค่าสมองลงไปด้วยพอนานๆ ไปมันเป็นอาชีพจริงไม่ได้ มึงจะถึงจุดกูทำสิ่งนี้ทำไม เป็นภาระชีวิตไป แต่ถ้ามึงไม่ได้คิดจะเลี้ยงชีพด้วยการเป็นนักเขียนทำมือก็แล้วแต่มึง ขายเท่าทุนก็ถือว่าแชร์ค่าผลิตกับแฟนๆก็ได้
>>856 ตั้งชื่อเรื่องให้โดน แบบเห็นปุ๊บอยากกดเข้ามาอ่านเลยอ่ะ ถ้าชื่อเรื่องเป็นภาษาไทยกูว่าดึงดูดนักอ่านได้มากกว่าอิ้ง คำโปรยไม่ต้องยาวมากก็ได้แต่ต้องได้ใจความ อ่านแวบแรกแล้วอยากกดเข้ามาอ่าน ตัวตัดสินที่นักอ่านจะอ่านต่อมั๊ยคือบทแรก ถ้าบทแรกน่าสนใจ ภาษาอ่านง่าย ย่อยง่าย ยิ่งเป็นแนวเบาสมองคนยิ่งชอบ ส่วนตัวกูว่าเดี๋ยวนี้คนไม่ค่อยอ่านดราม่าแล้วอ่ะ ทำงาน/เรียนเครียดๆ มาทั้งวัน อยากได้อะไรที่ย่อยง่ายๆ ไม่คิดเยอะ ถ้ายิ่งแนวแมสตามกระแสก็ยิ่งช่วยดึงดูดคนอ่านได้อีกจำนวนนึงนะ
มึงเวลาเล่มนิยายจะออกขาย ถ้าให้พวกแอครีวิว หรือพวกเพจรีวิว บอกต่อลงรีวิวนิยายให้มันช่วยได้บ้างมั้ยวะ กูอยากลองดู
แอคนิยายที่รับจ้าวรีวิวมีแอคไหนบ้างวะ กูไม่รู้เรื่องเลย
ถ้าลงนิยายแล้วยอดวิวในเนตไม่ค่อยดี สนพ.จะพิจารณาไหมวะ กูกลัวว่าถ้ายอดไม่ถึงแสนเขาจะไม่เอา
>>869 มึงจะลองส่งสนพไหนอ่ะ ถ้าฟฉ คือดูยอดวิวแน่ๆ 55555
ถ้าสนพที่ไม่ค่อยสนยอดวิวที่กูรู้ก็มีYsick สนพเล็ก หน้าปกไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ นิยายที่ตีพิมพ์กับสนพนี้แต่ละเรื่องยอดวิวยอดเฟบน้อยอ่ะ ไม่รู้เขาพิจารณาจากเนื้อเรื่องอย่างเดียวหรือว่าไง
อีกสนพก็ Peachypie สนพเปิดใหม่นิยายบางเรื่องที่ตีพิมพ์กับสนพนี้ยอดวิวยอดเฟบน้อยมากอ่ะ แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นนขที่เคยตีพิมพ์มาก่อน บางส่วนคือนขใหม่ที่ยอดวิวน้อย
หลายเรื่องของ ซบ กูเห็นยอดวิวไม่เยอะก็ได้ตีพิมพ์นะ หลายเรื่องแล้วด้วย
Ky เพื่อนโม่ง กูสงสัยว่า Top100ดด เริ่มนับยอดใหม่หลังเที่ยงคืนใช่ป่ะ ที่เพื่อนโม่งเคยแนะนำให้อัพนิยายตอนเย็นเพราะคนอ่านเยอะกว่า ถ้าสมมติอัพประช่วงเที่ยงคืนกับอัพช่วงเย็น ถ้านับยอดวิวยอดเม้นจากช่วงเที่ยงคืนแล้วมันน่าจะมากกว่าตอนเย็น กูคิดว่ามีสิทธิ์ได้อันดับในtop100ดดสูงกว่าอัพช่วงเย็นนะ เพราะถ้าอัพเที่ยงคืนมันมีเวลานับเกือบๆ 24 ชม ถ้าสมมติอัพ 6โมงเย็นก็มีเวลานับยอดประมาณ 6 ชม กูคิดถูกป่าววะ 5555555
>>873 ใช่ แต่ถ้ามึงอัพไปก่อนตั้งแต่ตอนที่ยังไม่มีคนอ่าน แล้วนิยายมึงไม่ได้มียอดเฟบเยอะ มึงจะโดนดันตกจาหหน้าแรกไปก่อนที่คนจะว่างเข้ามาไล่หานิยายใหม่อ่าน ถึงลงนานกว่าก็ไม่ได้ยอดมากกว่าอยู่ดี หลังๆมันมีระบบเตือน ลงตอนไหนก็ตามคนก็เข้ามาอ่านเพราะเห็นในแจ้งเตือน ยกเว้นเฟบไว้รออ่าน ถึงไงก็ไม่กดอ่านอยู่ดี
กูเคยเห็นในเว็บบอร์ดว่ามันมีพวกซื้อโฆษณาข้างนอกเพื่อปั่นวิวด้วยนี่
>>867 มึงดูแนวนิยายของตัวเองกับสนพ อ่ะ
ถ้าดังมาก - อวว / บทอ / ทุกสนพพร้อมรับ
ถ้าเย่เยอะ - ฟฉ / ดีพของสถพ
ถ้าน้อยเนื้อหาแน่น - รค / กุหลาบ / ฮม
อันนี้กูวัดมาจากที่กูอ่านนิยายที่ออกค่ายนั้นๆ นะ
ข้างล่างรวมค่ายนิยายเลยแล้วกัน กูว่างพอดี
อวว / บทอ / กุหลาบ / ดีพ / มีดี / ซบ / นบ / ฮม / รค / วดว / ฟฉ / พด / ysick / บ้านวายบุ๊ค / nanaris / peachypie / พบรัก
บทอ ไม่ดังมากบางทีก็ได้นะ
KY กูเป็นนักเขียนที่แยกแอคส่วนตัวกับแอคเขียน แล้วบางทีก็จะมีนักอ่านมาฟอลแอคหลัก พอกูมาเจอในโม่งคนบอกว่าเห็นตัวจริงนักเขียนแล้วเสียความรู้สึก อันนี้กูต้องรับผิดชอบอะไรไหมอะ ถ้านักอ่านมาฟอลแอคส่วนตัวกูเอง
บทอ. ให้อิสระนักเขียนมาก ให้ตรวจแก้เองไม่ยุ่งกับต้นฉบับ หาคนทำปกเอง บรีฟเอง
บทอ. นี่ที่ไหนวะ
>>884 กูรู้สึกเหมือนทำเองเลยว่ะ ของกูที่เคยออกกับสนพ คือ เลือกนักวาดได้ (มีรายชื่อมาให้เลือก) บลีฟปกเอง อันนี้กูก็เงิบไปละ กูเขียนได้แต่จินตนาการปกไม่ออก นอนกลุ้มไปสามวัน ถึงมีบลีฟปกไปส่ง แต่ตรวจแก้เองนี่ไม่มี มีแต่บอกว่าเพิ่มตรงนี้หน่อยได้หรือเปล่า เล่มมันบางไป ถถถถถถถ
นักเขียนอยากได้อีกปก แต่มันขายไม่ได้ สนพ ก็เลยทำอีกปกที่มันขายได้
KY พวกมึงคิดยังไงกับการลอกสไตล์งานเขียนอะ แบบพวกสำนวน วิธีการเล่า แต่ไม่ได้ลอกพล็อตหรือเนื้อเรื่องเลย
ร้อนก็ร้อน วันหยุดก็วันหยุด เสือกลากกุไปเรียน
>>899 ของกุพ่อไม่ค่อยดีจริง แต่ที่กุเป็นฟุไม่ได้เพื่อแก้แค้นผู้ชาย กุเป็นเพราะรู้สึกมันน่ารัก กุรู้สึกว่าพวกเขาต้องใช้ความพยายามเพื่อให้สังคมยอมรับ ทำให้ความรักของพวกเขาดูมีค่าและกุพยายามจะเอาใจช่วย
แต่เอาจริงๆมันมาจากส่วนลึกมั้ง ตอนเด็กที่กุยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรื่องเพศคืออะไรกุก็รู้สึกว่าตัวละครชายสองคนนี้อยู่ด้วยกันแล่วน่ารัก สบายใจ พวกเขาน่าจะได้อยู่ด้วยกันตลอดไป
แปลกนะ เพื่อนกุพ่อส่วนใหญ่แม่งก็เป็นคนแปลกๆ เงียบๆ หรือไม่ก็อารมณ์ร้าย
>>902 จิตวิทยามันก็พยายามหาเหตุผลไปเรื่อย อย่างเมื่อก่อนทฤษฎีที่แพร่หลาย เพราะก๊อปแปะจากบล็อกนึงไปเรื่อยๆมีเสวนากี่ครั้งก็ยกประเด็นมาพูดอย่างสาววายเกิดจากความเก็ดกดทางวัฒนธรรมชายเป็นใหญ่ เลยจับผู้ชายมาอยู่ในบทบาทตัวเองแล้วปู้ยี่ปู้ยำแทนเป็นต้น ทั้งที่กูไม่เข้าทฤษฎีนั้นสักกะผีก เพราะกูชอบวายด้วยเหตุเดียวกับชญ ญญ เพราะความรักคือความรักไม่จำเป็นต้องมีเพศมาขวาง
>>899 กุว่าไอ้การวิจัยอะไรแบบนี้มันเหมารวมจัง กุเนี่ยไม่ได้มีปัญหาเรื่องพ่อเลย หลายๆคนก็ไม่ได้มีปัญหา แต่มาสำรวจวิจัยเอาจากคนไทยคนเอเชีย มันก็โอกาสสุ่มไปเจอคนพ่อเหี้ยหรือผู้ชายเหี้ยมากกว่าพ่อดีอยู่ละปะเพราะสังคมไทยนี่ผู้ชายไม่ดีซะเป็นส่วนมาก แต่มันไม่ได้สัมพันธ์ไรกับความชอบวายเลย
อีพวกทฤษฎีอะไรนี่มันมั่วตลอดแหละ อย่าไปเชื่อให้มาก กูเกลียดพวกเรียนจิตวิทยาแล้วชอบคิดว่าเข้าใจชาวบ้านถ่องแท้นัก ขนาดนักจิตหรือหมอจะให้คำปรึกษายังต้องดูเคสบายเคส ต้องคุยกันหาเหตุผลนู่นนี่ แล้วอีพวกออกทฤษฎีนี่ไปสรุปอะไรมาจากไหน
>>907 เออ ทฤษฎีเดียวกันแต่ 899 มันพีคเพิ่มตรงระบุว่าเป็นพ่อหรือญาติผู้ใหญ่ กูอยากบอกว่าทฤษฎีนี้แม่งแพร่หลายจริง แล้วคนแพร่หลักๆเป็นสาววายด้วย ทำบล็อกลงการ์ตูนแปลในexteenที่สมัยนั้นดังพอควร แล้วเขาเขียนหัวข้อปักหมุดเป็นบทความนั้น เขียนเชิงวิชาการ จากนั้นเวลาพูดถึงสาววายหรือใครอยากอวดภูมิก็ก๊อปบทความนี้ไปเผยแพร่ไม่ให้เครดิต จากนั้นตามที่กูพูดใน907 ว่าคนวงนอกเห็นขนาดสาววายยังแพร่กระจายบทความนั้นก็มีเชื่อกันเยอะ ไม่แปลกใจถ้าในคลาสมันจะมีพูดกันอย่างนั้นจริงๆเท่าไหร่
slice of life กับ feel good ต่างกันมั้ยวะ
slice of life แนวชีวิตประจำวัน นึกถึงซิทคอม
feel good อ่านแล้วรู้สึกดี เยียวยาใจ มีกำลังใจ จะเป็นสายเรื่อยๆแบบslice of life หรือมีเส้นเรื่องหลักแน่นๆแบบแนวอื่นก็ได้
ไอ้899 มันโทรลชัดๆ ไปฟี้ดมันทำไม มุกนี้มันเล่นซ้ำมาแล้ว
กูเรียนโทจิตวิทยาไม่เห็นมีทฤษฏีห่าเหวอะไรนี่เลย อย่าไปฟีดโทรล มุกเน่าๆ เดิมๆ
>>915 ใช่ น้องสาวกูก็กำลังเรียนอยู่ไม่เห็นมันจะมีทฤษฎีอะไรที่ >>899 บอกเลย อีกอย่างพ่อพุงพลุ้ยที่อารมณ์ดีดุจปุยนุ่นของกูนี่จะตีลงโทษกูยังไม่กล้าจนแม่กูต้องออกหน้าเอง พี่น้องผู้ชายกูก็ไม่มี ชีวิตกูไม่เคยเจอเรื่องโดนญาติผู้ชายทำอะไรไม่ดีเลยว่ะ ไม่ค่อยสนิทด้วยแทบไม่เจอหน้ากันด้วยซ้ำ แถมกูชอบผู้ชายที่อ่อนกว่าน่ะ คนรอบข้างกูที่เป็นสาววายก็ชีวิตครอบครัวปกติแต่งงานมีลูกมีเต้ากันไปก็เยอะนะ ไม่ได้กลัวผู้ชายมีแผลใจอะไรขนาดนั้น หลายคนยังเป็นพวกหญิงแกร่งข่มผู้ชายมาแต่เด็กด้วยซ้ำ
การที่ผู้หญิงชอบเรื่องโบรแมนซ์มันฝังใน DNA มาตั้งแต่สังคมโบราณแล้วมึง ถ้าอยากศึกษาจริงจังมันหาไม่ยากหรอกนะ ไม่เกี่ยวอะไรกับเคยถูกพ่อถูกญาติทำไม่ดีใส่ปะวะ แล้วคนที่พ่อตายแต่เกิดรอบตัวไม่มีญาติพี่น้องผู้ชายก็เป็นสาววายไม่ได้เลยดิแบบนี้ 5555555
การที่ 899 เคยโดนพ่อโดนญาติพี่น้องผู้ชายทำอะไรมาจนกลายเป็นสาววายแล้วอยากมีอะไรกับพ่อตัวเองหรือกับญาติพี่น้องผู้ชาย ก็ไม่ได้แปลว่าคนอื่นจะต้องคิดเหมือนมึงนะ มึงจะตั้งทฤษฎีเอาเองจากประสบการณ์ส่วนตัวไม่ได้
ปล.กูว่าที่แม่งมามุกนี้หลายครั้งอาจจะเคยเจอเรื่องแบบนี้จริงๆเลยสับสนตัวเองแล้วพยายามให้ทฤษฎีของตัวเองเป็นที่ยอมรับอารมณ์แบบหาพวกอะไรแนวๆนี้ก็ได้นะกูว่าน่าสงสารออก หรือต่อให้ไม่เคยโดนแต่คิดเป็นจริงเป็นจังแสดงว่าสังคมรอบข้างแม่งน่าหดหู่มาก ที่หล่อหลอมให้เชื่อความคิดแบบนี้ได้
พวกมึงถ้ายังจะคุยเรื่องนี้ก็ย้ายไปห้องเมาท์เถอะ
กูว่าที่บอกว่าอยากมีอะไรกับพ่อมันเอาทฤษฎีฟรอยด์มาจับปะวะ คือทฤษฎีฟรอยด์อะ มักจะอธิบายว่าพฤติกรรมของมนุษย์น่ะมีที่มาจากแรง2แรง คือเซ็กซ์กับความรุนแรง เพราะงั้นนางเลยอธิบายอะไรหลายอย่าง base on เซ็กซ์ไม่ก็ความรุนแรงแค่นั้น
-เรื่องพัฒนาการเด็ก นางก็เอาเรื่องเซ็กซ์เป็นตัวจับ นางอธิบายประมาณว่าตอนเด็กอายุประมาณ 3-5 ปี เด็กจะเริ่มเรียนรู้บทบาททางเพศ โดยที่
- เด็กผู้หญิงจะเกิดปมที่เรียกว่า electra complex คือชอบพ่อเกลียดแม่ เด็กจะรู้สึกอิจฉาแม่ที่ได้ความรักจากพ่อ แล้วจะเริ่มเลียนแบบพฤติกรรมและบทบาททางเพศของแม่ เพื่อให้ตัวเองเป็นที่รักของพ่อ
- เด็กผู้ชายจะมีปม oedipus complex คือชอบแม่เกลียดพ่อ รายละเอียดก็เหมือนๆปมอิเล็กตราของเด็กผู้หญิง
-ดูการตั้งชื้อปมของฟรอยด์ดู oedipus นี่คือวีรบุรุษกรีกที่ฆ่าพ่อแล้วแต่งงานกับแม่เลย (แต่ตามตำนานโอดิปุสนางไม่รู้เรื่องนี้จ้า ก็พ่อแม่จริงๆทิ้งแต่เด็ก นางโตมาแล้วแค่สังหารกษัตริย์เมืองนี้แล้วขึ้นเป็นราชา ตามธรรมเนียมก็ต้องรับมเหสีราชาองค์ก่อนเป็นมเหสีนางด้วย นางก็ทำตามธรรมเนียม พอตอนหลังรู้ความจริงนางก็ช็อกไปจ้า)
-อนึ่ง ฟรอยด์ใช้ทฤษฎีนี้อธิบายพัฒนาการเด็กรวมๆ เหมือนนางก็พยายามหาทฤษฎีมารองรับเหตุผลการพัฒนาการมนุษย์ของนางไป แต่ไม่ใช่ว่าทฤษฎีนางจะถูกทุกแย่าง
-นักจิตวิทยาสายอื่นเค้าก็ตั้งทฤษฎีพัฒนาการเด็กที่ต่างไปจากฟรอยด์เหมือนกัน เช่นทฤษฎีของ piaget นี่ไม่มีเรื่องพวกนี้เลย เค้าเอาพัฒนาการทางสมองมาใช้อธิบายแทน ประมาณว่าเด็กจะเริ่มมีความคิดความเข้าใจตอน 2 ขวบ แล้วจะพัฒนาเต็มที่ตอนอายุ 11-15 ปี
แหง่ะ กูขอโทษที่ทำมู้รกว่ะ คือกูพิมพ์ข้างบนนานมากจนไม่รู้ว่าโทรลล์มันเม้นต์มาอีกหลายเม้นต์ กลายเป็นกูฟีดโทรลล์+ยิ่งทำให้กระทู้นอกเรื่องไปกันใหญ่
คือกูแค่อยากมาอธิบายทฤษฎีฟรอยด์เฉยๆอะ ละกูจะไม่เข้ามาฟีดโทรลล์ละ ขอโทษเพื่อนโม่งทุกคน
แค่เอาทฤษฎีฟรอยด์มาอ้างกูก็ขำแล้ว base on scienceหรือเปล่า ก็เปล่า แต่ดันอ้างซะเหมือนอยู่ในวิชาวิทย์ สมองพวกโทรลหลังๆน้อยกว่าโปรโตชัวอีกว่ะ
พักหลังๆ กูเขียนนิยายแล้วเริ่มรู้สึกเนือยว่ะ เหมือนเมื่อก่อนเขียนนิยายเล่นๆ แล้วสนุกกว่านี้ พอมาเป็นนักเขียนจริงจังแล้วกูรู้สึกไม่อินกับที่เขียน รู้สึกกดดันตลอดเวลาว่าเรื่องนี้จะทำออกมาดีรึเปล่า กูกลัวว่าถ้าทำได้ไม่ดีเท่าเรื่องก่อนหน้าแล้วคนอ่านจะผิดหวัง แก้ยังไงดี
มากูเปลี่ยนเรื่อง นิยายพวกมึงมีผู้ชายอ่านไหม ของกูมีผช.อ่าน แค่กูไม่กล้าถามเขาว่าอ่านแล้วเป็นไง (ไม่ได้เกี่ยวกับฉาก NC) อยากรู้ว่าผช.อ่านละอินๆเขินๆบ้างเปล่า ถ้าในนี้มีหนุ่มๆอ่านอยู่ช่วยบอกหน่อย 555
Ky เพื่อนโม่ง การที่นักอ่านเก่าๆ หายไปแต่ได้นักอ่านใหม่มาแทน ถือเป็นสัญญาณบอกอะไรเกี่ยวกับนิยายของเราได้มั๊ยวะ
>>933 +1 เหมือนกูเลย เวลานักอ่านประจำหายไปกูเศร้ามากอ่ะ เวลาเห็นเขาไปคอมเม้นนิยายเรื่องอื่นยิ่งเศร้า 5555555 ก็กลับมาคิดนะว่าตัวเองแต่งนิยายไม่สนุกเหมือนเดิมหรือเปล่า ; v ; แต่ก็ได้นักอ่านใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาแทน หรือว่าสไตล์งานเขียนกูจะไม่ใช่แบบที่เขาคิดก็เลยไม่อ่านต่อวะ Orz
Ky เพื่อนโม่งนข ปกติเวลาแต่งนิยายพวกมึงจะคิดคาร์ตัวเอกจากอะไรวะ กูชอบแนวเคะแก่โดนกินอ่ะ กี่เรื่องก็สลัดคาร์นี้ไม่ออกสักทีจนโดนนักอ่านเอามาล้อ 55555
>>939 ของกูนี่หลากหลายมาก แต่ส่วนมากจะแบบไปเจอตลค.แบบนี้แล้วชอบนิสัยจุดนี้ แล้วก็เอามาผนวกเป็นคาร์ตัวเอง
ซึ่งนิยายกูทุกเรื่องมันจะมี2ประเภทนี้เสมอคือ
1.แฝด
2.ตัวประกอบที่เก่งเทพเด่นกว่าชาวบ้าน(รวมถึงพอ.นอ.ด้วย) แต่แม่งเพี้ยน ไม่เต็ม ชอบแกล้ง โรคจิต
และความเชี่ยคืออิเบอร์ 2 คนแม่งชอบมากกว่าพอ.นอ.....คือโดนตัวประกอบแย่งซีนบ่อยมาก
เรื่องกูมักจะมีคนจิตไม่ปกติ
Ky ถ้าสมมติกูอัพนิยายแบบ Routine แบบอัพทุกวันศุกร์ตอน 2 ทุ่มแบบนี้มีโอกาสได้นักอ่าน/คอมเม้นเพิ่มจากปกติมั๊ยวะ แบบนักอ่านรู้เวลาอัพนิยายกูแน่นอนจะได้มารอไรงี้ 5555555
เพื่อนโม่งกูขอถาม เขียนนิยายยังไงให้กลายเป็นซีรีส์วะ?
กูชอบอ่านซีรีส์ฝรั่ง ที่กูเห็นเป็นซีรีส์มีหลายแบบ
1. ก็เหมือน 955 บอกแหละว่าเขาจะเอาคู่รองมาแต่งต่อ ในเล่มแรกยังไม่ได้รักกัน ค่อยมาลงลึกภาคสอง
2. เอาตัวละครที่ยังไม่มีคู่ในภาคแรกมาหาคู่ให้ในภาคสอง คู่เป็นตัวละครใหม่ก็ได้ ถ้าตัวที่เรตติ้งดีในภาคแรกก็คงมีคนรออ่านเยอะ
3. เรื่องเกิดในโลกเดียวกัน แต่ตัวละครภาคแรกกับภาคสองไม่เกี่ยวกับเลย อาจจะเจอกันแว้บๆ อาศัยอยู่เมืองเดียวกัน อย่างซีรีส์ลีโอเลิฟอารีส์อะ
4. เรื่องธีมเดียวกัน เช่น ประมูลโอเมก้า มึงก็แต่งประมูลโอเมก้าทุกเล่ม เปลี่ยนคาร์ เปลี่ยนพล็อต
5. คู่เดิม เล่มสอง ส่วนใหญ่จะเจอในซีรีส์สืบสวน ภาคแรกเจอกันรักกัน ภาคสองก็ยังช่วยกันสืบต่อ และเป็นแฟนกันแล้ว (แบบนี้แฟนโรมานซ์อาจจะเบื่อเพราะไม่มีเรื่องรักให้ลุ้นแล้ว)
ถ้าจะแต่งยาวๆต้องระวังเกย์นิเวิร์ส
เรื่องไหนมีบทคู่รองเยอะหรือเป็นซีรีส์กูแทบไม่อ่าน ชอบเรื่องที่โฟกัสแค่คู่หลัก ไม่มีคู่อื่นแย่งซีน
Ky พวกมึงบอกคนอ่านตั้งแต่แรกมั้ยวะ ว่าใครคู่ใคร โพยังไง
พวกเป็นซีรีส์ที่แตกคู่รองยิบย่อยออกมาเยอะแยะนี่กูว่ามันตลกตรงที่สุดท้ายแล้วทุกคนเป็นเกย์กันหมด มันไม่สมเหตุสมผลเลย
ถ้าเป็นกลุ่มเพื่อนเกย์อยู่แล้วกูไม่อะไรมากนะ ก็ทุกคนเป็นเกย์ เล่มต่อๆมาก็น่าจะหาแฟนเพศเดียวกัน แต่กูไม่ชอบแบบที่ภาคแรกบอกว่าไม่ใช่ชัวร์ แต่ภาคสองเปิดมาก็ชอบผช... หรือการเอาคาร์ที่เหลือในเรื่องมาจับคู่กันจนครบคู่ มันดูบังคับเกิน คนเราก็ต้องมีแฟนนอกกลุ่มมั่งดิ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าสนุกก็อ่านหมด เคยอ่านซีรีส์ฝรั่งเรื่องนึงเป็นสิบเล่ม คาร์ที่เป็นเกย์เพิ่มขึ้นทุกเล่มจนมีเป็นสิบๆคนแถมยังแมรี่ซู จนสุดท้ายคิดว่ากุอ่านไรวะเนี่ย แล้วก็เลิกซื้อต่อ 555 แต่กุซื้อเป็นสิบและเล่มแรกๆก็หนุกดีนะ กุแนะนำว่าอย่าแต่งยาวเลยค่ะเพื่อนโมง
มึงเลิกหลงกลโทรลกันสักทีเหอะ
มองผ่านไปเลยเถอะ กูดูมาหลายวันละ รำคาญ ถ้าอยากมีตัวตนมากนัก กูก็จะมองข้ามมึงให้เอง อีสัด อย่านึกว่ากูไม่รู้ แกล้งทำตัวโทรล แล้วก็แกล้งเข้ามาฟีดโทรล(ที่ก็คือตัวเองนั่นแหละ) โป๊ะแตกลืมรีไอดีไปหลายรอบแล้ว ต่อไปนี้กูขอเสนอให้มองข้ามมันไป ปล่อยมันคุยกับตัวเองไป ใครเห็นก็ไม่ต้องไปเมนชั่นถกกันต่อยืดยาว
น่ารำคาญชิบหายเลยว่ะ แจ้งเมต้าได้ไหม
>>963 +1 กูก็ไม่ชอบที่บอกว่าชอบผู้หญิงๆ แต่เล่มตัวเองเปิดมาชอบผช. ถ้าเป็นเกย์ทั้งแก๊งมาตั้งแต่แรกนี่ยังโอเคอยู่
เรื่องซีรีส์ กูชอบแบบตัวละครแต่ละเล่มไม่เกี่ยวกัน แค่มีตัวละครจากเล่มก่อนมาแจมเป็น cameo เฉยๆแบบ Leo loves aries นะ มันรู้สึกแบบ ไม่ต้องอ่านเล่มก่อนหน้า มาอ่านเล่มนี้เลยก็ยังรู้เรื่อง ไรงี้ ไม่รู้สึกถูกบังคับให้ต้องตามอ่านทั้งเซ็ตอ่า
/รำคาญพวกเหมารวม เหนื่อยใจจะเถียงด้วย
ซีรีส์นี่กูโอเคถ้ามันมีตัวละครแจมๆ กัน ไม่ได้เกย์ยกกลุ่ม (และกินกันเองด้วย พับผ่าสิ) มีคู่นอร์มอลบ้างก็ไม่ได้รังเกียจ ให้ดูเรียลบ้าง อย่างน้อยก็เบรกความเกย์เวิร์ล บางเรื่องนี่คู่หลักเกย์ พ่อพระเอกก็เกย์กับพ่อนายเอก น้องใครสักคนก็เกย์ พี่ก็เกย์ เพื่อนกลุ่มเดียวกันก็เกย์
เพื่อนโม่ง กูกำลังประสบปัญหาว่ะ คือกูพึ่งเริ่มเขียนนิยาย เป็นมือใหม่เลยอ่ะ นิยายกูตอนนี้ก็มีคนติดตามจำนวนนึง ตอนแรกกูก็แต่งสนุกๆขำๆ ไม่จริงจัง แต่งอ่านเอง แต่ตอนนี้กูเครียดว่ะ แต่งไม่ออก ตันไปหมด กูแต่งแล้วก็ลบมาซักพักละ กลัวคนอ่านที่ตามอยู่จะไม่ชอบ ภาษากูก็ไม่ได้สวย ธรรมดาๆ ทำยังไงให้หลุดลูปนี้ดีวะ
>>975 ทำไมถึงกลัวคนอ่านไม่ชอบล่ะ ไม่มั่นใจเรื่องภาษา กดดันว่าคนอ่านอาจจะไม่ถูกใจอะไรงี้เหรอ ถ้าเป็นเรื่องภาษา กูบอกได้ว่าเวลากับการเขียนแบบสม่ำเสมอคือตัวช่วยที่ดีที่สุด กูเคยอ่านนิยายของคนเขียนที่เรื่องแรกภาษามันสะดุดแบบหัวทิ่ม เรื่อง 2-3 ก็ยังสะดุดแต่ดีขึ้น พอเรื่อง5-6 เป็นต้นไปเริ่มดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คิดว่าส่วนใหญ่น่าจะเป็นงั้นนะ เขียนมากๆ เขียนไปเรื่อยๆ มันจะค่อยๆ ดีขึ้น ของแบบนี้ไม่เห็นผลในเวลาสั้นๆ หรอกมึง น้อยคน(มากกก) ที่ภาษาจะดีตั้งแต่แรก
>>985 ตอนกูเขียนนิยายกูเคยโดนเอามาด่าในนี้ มีคนชมนิยายกู แล้วหลังจากนั้นกูก็โดนด่า กูไม่ได้โดนด่าเรื่องนิยายด้วยซ้ำ กูโดนด่าสาดเสียเทเสีย โดนด่าเป็นประเด็นอยู่ในนี้ข้ามวัน ในหิ้งมีชื่อนิยายกูอยู่ มีแต่คำชม แต่ตรงที่โดนด่าก็ไม่มีบันทึกไว้เพราะคนที่ด่ามันก็ไม่ได้ด่าที่ตัวนิยายของกูมันเลยไม่ถูกบันทึก
นิยายกูโดนสับเละในโม่ง แต่ก็มีนักอ่านส่วนใหญ่ชอบ แต่กูไม่ชอบโม่งที่ด่านิยายด่าลากมาที่ตัวคน ทั้งๆ ที่มึงไม่หด้รู้จักกูเลย และที่บอกกันว่างั้นว่างี้ ตัวกูเองยังไม่เคยรู้จักคนที่พวกมันพาดพิงถึงเลย ดังนั้นในโม่งมึงอย่าไปเชื่อมาก บางอันดีก็ดีเอามาปรับ บางอันไม่ดี โยนกลับไปให้คนพิมแม่งรับเข้าบ้านไปเอง อย่าไปสนใจ
กูแจ้งแบนโทรลให้แล้วนะ
วันหลังก็ช่วยๆกันเมิน อย่าโง่ฝีดมันอีก ปกติก็เมินกันดีคราวนี้เป็นอะไรกันวะ
ไปดิ้นตามมันก็เหมือนเราแพ้เพราะยอมรับความจริงไม่ได้สิ
พวกมึงยังดี นิยายกูไม่เคยมีใครสับเลย ถึงจะยังเขียนไม่จบแต่ก็ยาวมาก จนบัดนี้ยังไม่มีคนสับ กูแอบห่อเหี่ยว
เอ้า กูถามเฉยๆ เพราะสงสัย มีแค่กูคนเดียวที่ไปแจ้ง กูเลยงงว่ามันไปแจ้งตรงไหนของมัน
มู้ใกล้เต็มอีกเเล้ว ศาลาคนเศร้ามีนักเขียนแวะมาเยอะจริมๆ
พวกมึงพิมพ์นิยายในเวิร์ดตอนละกี่หน้า A4 กันวะ แล้วตอนรวมเล่ม ทั้งเล่มรวมแล้วประมาณกี่หน้า
นขขี้แพ้เยอะมาก 555 พอมีมู้นี้วิ่งไวสัส
ปิดมู้
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.