เนื่อง อรอ กูรู้แต่เรื่งเก่าที่เจ้าตัวเคยจะออกกับสนพ.เล็กๆสนพนึง ปกเรียบร้อย เปิดพรีเรียบร้อย ปรากฏอยู่ดีๆไปออกกับสนพ.อื่นเฉย จนสนพ.แรกต้องไล่คืนเงินพรีให้ลูกค้าแต่ละคน
Last posted
Total of 1000 posts
เนื่อง อรอ กูรู้แต่เรื่งเก่าที่เจ้าตัวเคยจะออกกับสนพ.เล็กๆสนพนึง ปกเรียบร้อย เปิดพรีเรียบร้อย ปรากฏอยู่ดีๆไปออกกับสนพ.อื่นเฉย จนสนพ.แรกต้องไล่คืนเงินพรีให้ลูกค้าแต่ละคน
ไปดูจากอีกมู้ว่าสนพที่ข้อความหลุดคือฮ.นี่เอง ทำเป็นบ่นเรื่องสนพ.อื่นตัดหน้า ตัวเองก็เลี้ยงคนเขียนที่ไปออกกับสนพอื่นทั้งที่บอกจะออกกับอีกสนพจนเปิดพรีเสร็จเรียบร้อยไม่ใช่เหรอวะ ไม่สนับสนุนสนพศัตรูแต่สนับสนุนนักเขียนตัวเองงี้หรอ
ดีแล้วที่ถึงกูสนใจthe wrong wayแต่เททิ้งทั้งสนพ. ป่านนี้ยังโทษคนเขียนไข่มุกอีกว่าผิด
เปลี่ยนใจไปเจ้าใหญ่นี่นึกถึงคนนึงเป็นซีรี่ย์ที่ชุดนึงออกกะ ฮ อีกชุดไปออกกะ อวว
กูอยากจะรู้ว่ามีสนพ.ไหนมั่งที่ไม่เคยมีเรื่องดราม่าหรือปัญหาในการจัดการใดๆ เลยหลงเหลืออยู่บ้างไหม
ไพร์ดกูไม่เคยซื้อกับเค้าโดยตรงอะ ปกติซื้อในนายอินทร์ตลอดเลยไม่รู้สึกว่ามีปัญหาอะไร ส่วนฝูก็ก็ไม่เคยเจอปัญหา ขัดใจแค่เรื่องส่งนี่แหละ เค้าส่งได้ทีละไม่เยอะแต่กูก็รอได้อยู่ดีเพราะเค้าแจ้งแล้วก็ส่งตามลำดับโอนเงิน
ส่วนฮ.นี่กูไม่โอเคมากกับเรื่องส่งของไม่ตามลำดับการโอน กูเจอตอนขุนศึกนี่ปรี๊ดเลย โอนไปตั้งนานแต่เสือกได้คิวส่งวันท้ายๆ ละตอนนั้นกูกำลังคลั่งมากด้วย อยากอ่านใจจะขาด อุตส่าห์ไม่แกะเล่มที่พรีมาก่อนหน้าเป็นปี แต่พอได้อ่านจริงกูยิ่งปรี๊ดกว่า แม่งมีแต่ฉากเย 555555
อูฐงูนกกระจอกเทศจะรีปริ้น ขายดีเหรอวะ มีวงเล็บว่า (รอบแก้ไข) มีคนถามว่าแก้ไขยังไง คนทำบอกว่าแก้ที่สะกดผิด เท่ากับว่าสำนวนตลก ๆ ยังอยู่เหมือนเดิมสินะ
เคยออกด้วยแล้วไปออกกับสนพ.ใหญ่
เดาว่าเป็นอตด. คนที่มีเคสลอกโดยุ่นเรื่องที่เกี่ยวกับนักบาส
เพราะเรื่องแรกออกฮ. ขายดีด้วย อยู่ๆเรื่องอื่นเทไปอวว.เฉยเลย
มด.น่าจะส่งแบบที่สั่งชุดเดียวออกไปก่อน ของเราสั่งแบบชุดเดียวหลังออเดอร์ที่สั่งหลายชุด ออเดอร์ชุดเดียวออกก่อนหลายชุดสถานะยังนิ่งๆ รอได้ว่ะไม่รีบนินจาแวนมาส่งบ้านบ่อยมาก ของเฮอร์นี่ไวมากนะเราสั่งวันแรกแล้วโอนเลยได้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 5
เห็นเพื่อนกูบอกว่าค่ายไพเรทที่จะทำอันคัทอ.ฮานะยกเลิกแล้วว่ะ บอกว่ามีคนมากระซิบเตือนว่าไม่ควรทำไม่งั้นจะมีปัญหาแน่ๆ
ก็ยังดีที่กลัวนะ แม้ลึกๆ อยากให้โดนเล่นสักทีบ้างก็เหอะ
อยากรู้ใครได้ LC แต่เอาเหอะใครได้มาก็เปย์อยู่ดี
พวกมึง ปกติ มีดี แจ้งเลขแทรคไหม
>>158 ก่อนหน้านี้ มด สำหรับกูคือนิยายไม่มีเรื่องไหนถูกจริตสักเรื่อง ซื้อมาละเสียดายตังค์ แต่พักหลังๆ มานี้รู้สึกว่าเค้าเลือกเรื่องดีขึ้น อันดับมดในใจกูเลยสูงขึ้นมา แต่เสือกมาเฟลตรงส่งของนี่แหละ กูไม่โอเคกับเรื่องนี้จริงๆ ถ้าบอกว่าตามลำดับก็ต้องตามลำดับสิวะ ไม่งั้นคนอื่นเค้าจะรีบโอนทำห่าอะไรถ้าไม่อยากได้เร็วๆ
เห็นบอกว่าแพ็คไว้แล้วคงแค่แปะชื่อส่งไรงี้มั้ง แต่คนที่เลือกลายของแถมหรือหลายๆชุดอาจจะค่อยๆทำ กูเดานะ แต่ก็เข้าใจเรื่องตามสะดวกอยู่หรอก บ้านกูตจว.ยังไงก็รออยู่ดี
>>159 ช่วงแรกมด.แปลห่วยด้วย หยิบมาทีกว่าจะอ่านจบนี่ฝืนใจมาก หลังๆโอเค เรื่องแจ่มขึ้น ปกติกูซื้อหน้าร้าน เพราะไม่ทันที่นางพรี มารอบนี้อ่ะถูกจริตกู พรีแม่ง โอ้.....โดนทำพิษแล้ว
>>160 ถ้าใช้คำพูดว่าเริ่มส่ง กูโอเคนะ แต่ปัญหาคือ"ตามลำดับโอน" กูกดโอนละวิ่งไปตู้เลย ถ้าตามลำดับจริงแล้วกูอยู่วันท้ายๆนี่กูมโนได้มะ ว่าคนโอนแม่งฟาสต์ฟิวเรียสชิบหาย
(มึงแม่ง..จะกอดหรือกัดดีวะ..)
>>160 ลำดับการโอนในระบบมันจะมีขึ้นมาว่าเลขออเดอร์ไหนแจ้งโอนเข้ามาก่อนหลัง คนซื้ออย่างพวกเราจะไม่รู้ว่าใครโอนก่อน-โอนหลัง แต่ระบบในร้านรู้ได้จากการที่คนซื้อแจ้งโอนนี่แหละ สมมติ Aกดจองวันที่1 แต่โอนเงินวันที่3 Bกดจองวันที่2 โอนเงินวันที่2 แล้วแจ้งเลย คนที่ลำดับมาก่อนคือ B ไม่ใช่ A เวลาแจ้ง ดังนั้นถ้ามีสนพ.ไหนเรียงตามลำดับ มึงต้องโอนแล้วรีบแจ้ง ณ บัดเดี๋ยวนั้นเลย เพราะกูคิดว่าเค้าคงไม่มานั่งไล่เวลาว่าใครโอนก่อนหลังแน่ๆ ไล่เอาจากการแจ้งเข้ามาง่ายกว่า
>>162 จริง ช่วงแรกกูซื้อเล่มของมดจากร้านหนังสือ ซื้อมาละอยากปาทิ้ง ดีนี่มันไม่ได้แพงมาก กะว่าจะลองอ่านขำๆ เผื่อสนุก แต่แม่ง กูไม่ขำเลย เสียดายตังค์ชิบหาย555555555 ส่วนนิยายแต่งนี่กูไม่ค่อยอ่านอยู่ละ เห็นซีรีส์อะะไรก่อนหน้านี้เกี่ยวกับโซเชียลๆ ละบาย รองานแปลดีกว่า
>>164 กูเคยซื้อรักร้ายๆของนายน้อยที่เป็นแปลจีนแรกๆ สำนวนแบบง่วงมาก เฉยมาก กูเลยดอง จนหลังๆกูกลับมาอ่านแนวจีนโบราณอีกถึงยอม แล้วแม่ง.."แปลดีขึ้น" ส่วนนิยายแต่ง กูสารภาพตามตรง ฝีมือคนไทยแต่ง มันเฉยๆ แนววนๆ หาโอเคยาก ที่คนรุมซื้อกูก็ว่ามันธรรมดาเกิน แต่งเส้นตรงไป (กูขอโทษสายนิยมนักเขียนไทยด้วย)
>>165 เลือกเรื่องดีขึ้นด้วย แปลดีขึ้นด้วย งานของมดเลยเป็นอีกงานที่กูเฝ้ารอรองๆ จากฝู
บกรอีกที่ที่กูรู้สึกชอบตั้งแต่เค้าทำเทียนซือ ส่วนสนพอื่นกูนึกไม่ออกละ ส่วนใหญ่มีออกมาตรงจริตกูบ้างไม่ตรงบ้าง คละๆ กันไป ยกเว้นฝูที่กูรู้สึกโอเคเกือบทุกเรื่องที่เค้ายกมาแปล หรืออาจเพราะกูชอบสำนวนการแปลของคุณเฟื่องก็ไม่รู้
ส่วนนิยายแต่งคนไทยกูก็รู้สึกเหมือนมึงอะ เข้าร้านหนังสือทีเจอแต่วิศวะ นศ แพทย์ มีแต่แนวๆ นี้ทั้งนั้น เนื้อเรื่องส่วนใหญ่มักจะมีความเป็นไอดอล เดินไปไหนคนรู้จัก ฮอตเว่อร์วัง ต้องมีเพจคิ้วบงคิ้วบอยบิ้ว มีแม่ยกเชียร์ ความฟินแบบเกร่อๆ ส่วนคนแต่งไทยที่กูอ่านละชอบก็เสือกไม่ดัง ทั้งๆ ที่ภาษากับพลอตให้ฟีลนิยายแปลจีนที่พวกสนพ.เลือกมา ถ้าพอมีชื่อหน่อยตอนนี้ก็ไม่เห็นงานใหม่ๆ เค้าออก จนทุกวันนี้กูเลือกแต่นิยายแปลอ่าน
>>166 นิยายไทยถ้าแนวมหาลัยก็วนๆแต่โซตัส วิศวะ หมอ เดือน คิ้วบอย ฮอตบอย คือกูก็ผ่านมหาลัยมา คณะแพทย์นี่แม่ง ให้เวลาพวกมันนอนยังแทบจะไม่มี ไม่ต้องมารวมว่าเดินอ่อยวิศวะเลย หมอบริ้งค์ๆน่ะ ปี1ก็พอทน แต่ปีหลังๆ ถามมันหน่อยตื่นยัง หรือหลับอยู่ แล้วมันออกมาถี่จนกูรู้สึกว่าใครหน้าปกปังกว่านี่ได้เปรียบละ
ไทยแต่งแนวพีเรียดตปท.โดยเฉพาะจีน กูว่าก็ไม่ไหวอ่ะ ไม่ค้นเรฟอะไรเลย (มีพันธนาการสายน้ำมั้งที่กูยอมสำหรับไทยแต่ง) กูว่านข.ไทยขาดความตั้งใจไปหน่อย เหมือนรีบเข็นรีบโกย แนวตลาดกูไม่ว่า แต่ช่วยมีจุดเด่นที แบบเห็นปุ้บกูห้ามพลาด ไม่ใช่แบบ "อ้อ...รอลดราคาละกัน"
นิยายไทยเค้าต้องเลือกที่ขายได้ว่ะ ไม่ได้เลือกที่พลอตดีภาษาดี เพราะงั้นมันก็เลยเหมือนๆกันหมด อันที่กูคิดว่าดีก็มีนะแต่กระแสเงียบกริบเชียว
>>183 นข.ดังมีฐานแฟนคลับแล้วนี่นา ขน.ไม่ดังยอดวิวดีมันการันตียอดขายไม่ได้ ทางเลือกผู้บริโภคก็คือรอซื้ออันที่สนใจแหละ ตราบใดที่ยอดพวกนั้นไม่ลดอ่ะนะ สนพ.คงไม่สนจะเปลี่ยนแนวหรอก
(แต่กูก็สงสัย เวลาดูลิสต์นิยายวาย อย่างจีน ญี่ปุ่น กูไม่ค่อยเห็นแนวเส้นตรงแบบของไทยเลย..ไม่ค่อยมีรักในวัยเรียนเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ปูมาแบบอดีตหลอกหลอนตอนโต )
กูไปส่องมา เหมือนว่ามีปัญหาการจัดการ แต่พรีนิยายปกแข็งเรื่องนึงราคาโหดไปนะ(โปรแม่งขูดรีดใช้ได้)
>>181 ถ้าปั้นแล้วนข.ไปออกกับสนพ.อื่นล่ะ เป็นกูกูเลอกนข.ที่มีฐานอยู่แล้วดีกว่า เพราะกูเห็นหลายสนพ.ที่เจอนข.ไปออกสนพ.อื่น (ล่าสุดที่เม้ากันคือฮูกมะ) ในแง่ธุรกิจ กูว่ามาปั้นนข.ใหม่มันเสียเวลา ปั้นไปก็ไม่รู้จะโดนสนพ.ไหนเอาไปออกด้วย แต่ถ้าได้นข.ดัง มันก็ไม่ต้องห่วงอย่างน้อยเรื่องยอดขาย ถึงไปออกกับที่อื่นก็ยังได้ยอด อะไรแบบนี้แหละ
>>189 เอออันนี้กูเข้าใจเว้ย เค้าเป็นสนพ.ใหญ่ยังไงโอกาสเลือกนข.ดังๆ ให้มาออกงานด้วยก็มีโอกาสจีบติดง่ายกว่า ข้อเสนอก็น่าจะให้ได้เยอะกว่าที่อื่น
แต่ไอ้เรื่องถ้าปั้นแล้วไปออกกับที่อื่นมันยังมีที่ไหนน่าไปออกด้วยอีก กูนึกไม่ออก เพราะในไทยตอนนี้ สนพ.ที่ทำวายขาย ออว ก็น่าจะใหญ่สุดปะ มีภาษีสุดในแง่ตัวธุรกิจ ถูกมะ ละมันมีที่ไหนอีกที่สูสีกะนาง เรื่องนี้คือเรื่องที่กูสงสัย
>>190 กูคิดว่าในแง่ตัวบริษัท อวว.มันใหญ่ก็จริง แต่ยอดพิมพ์มันก็ไม่น่าต่างกับสนพ.อื่นนะ อย่างมด. นบ. ด. บทอ. อะไรพวกนี้ที่มาทำวายเหมือนกัน จะให้พิมพ์วายยอดไปหมื่นเล่มก็เว่อเกินอะ ยอดพิมพ์มันไม่ต่างหรอกเพราะฐานลูกค้ามันก็ฐานเดียวกัน มันมีกะจำนวนอยู่แล้วว่าคนอ่านเท่าไหร่ ยกเว้นจะไปเทียบกับสนพ.กลางๆเล็กๆ ฮม. พวกนี้ ยอดก็น่าจะน้อยกว่า แต่ไม่มากหรอก เพราะฮม.ก็ขายร้านหนังสือทั่วไปด้วย
อวว มันแตกมาจากแจ่มไง ยังไงก็มีภาษีดีกว่าในมุมมองคนซื้อ นขอยากไปออกด้วยมากกว่า คนที่ออกกับอวว กูเห็นแต่ไปทำเอง ไม่เห็นไปออกกับที่อื่นนะ
กุหลาบก็แตกมาจากอมร.ใช่ป่ะ เหมือนเคยได้ยินใครพูด มิน่าบ้อกววฮซ.ถูกมาก มีโรงพิมพ์ของตัวเองนี่เอง
>>194 ใช่ๆ ของสยาม
>>195 ใช่มะ แบรนด์แจ่มนี่ขนาดรุ่นพ่อแม่ลุงป้าน้าอาพี่ชายกูยังรู้จัก ถึงแม้จะรู้เพราะมาจากวลีจากอ่านนิยายแจ่มแล้วโลกสวยก็เหอะ 5555 แต่กูว่าแบรนด์แจ่มมันเป็นแบรนด์ที่คนทั่วไปต่อให้ไม่สนใจนิยายก็ต้องเคยได้ยินชื่อมามั่งอะ เข้าถึงคนหลายช่วงอายุ เพราะตัวสนพ.ก็มีไลน์นิยายแตกเป็นหมวดๆ อีก
>>196 ใช่ กุหลาบก็อมร. อมร.ก็ร้านนอ
>>193 อ่าจริงๆ อวว.ยอดพิมพ์ต่างจากค่ายอื่นๆพอดูเลยมึง ฐานลูกค้าเดียวกันก็จริงแต่กำลังการผลิตนี่คนละเรื่องอ่ะ สนพ.ที่แตกมาจากบ.ใหญ่ๆอย่างกล. ด. บทอ.ก็ยังไม่มีค่ายไหนลงเต็มตัวสักค่าย มด.เองก็เปิดลู่ทางมาเฉยๆยอดไม่ต่างจากสมัยทำแฟนตาซีจีน นบ.กับฮม.เป็นเหมือนจะเป็นหัวเรือในวงการก็จริงแต่กำลังการผลิตน้อย หลายเรื่องหมดแล้วหมดเลยต้องรอสต๊อกพิทพ์ใหม่ต่างจากค่ายใหญ่ที่มีมาเรื่อยๆ จากหลายๆปัจจัย อวว.เลยเป็นค่ายวายที่มั่นคงสำหรับนักเขียนที่สุดแล้วตอนนี้ เขาเล่นตลาดนิยายรักอยู่แล้ว เพราะงั้นภาษีเลยดีกว่าค่ายใหญ่ค่ายอื่นที่ไม่ได้เน้นสายทางนี้แต่แรก อีกอย่างอวว.ก็อมร.ตีพิมพ์อมร.จัดจำหน่ายอะนะ
นักเขียนใหม่อาจจะใช่ แต่ถ้านักเขียนที่มีฐานแฟนคลับอยู่แล้ว จะอยู่กับสำนักพิมพ์ไหน ก็ได้พิมพ์เยอะอยู่ดีแหละ ไม่งั้นนักเขียนดังๆก็ไปอยู่ อวว หมดดิ
ที่ไม่ย้ายไป ก็เพราะอยู่ค่ายเดิม ยอดพิมพ์ก็สูงอยู่ดี
ให้ตามยอดพิมพ์ ไม่ใช่ตามยอดขายนะ
>>201 ก็ยอดพิมพ์นั่นแหละ
กูคงพิมพ์สั้นไป คืออออ ที่กูบอกว่ายอดขายมันน่าจะได้เยอะกว่าที่อื่น หรือมีโอกาสขายได้มากกว่าเพราะยอดพิมพ์ที่สนพ.ให้กับคนเขียนมันเป็นเลขตีพิมพ์ที่สูงกว่า อย่างที่ >>200 บอกก็ถูกอีกว่าถ้าขนดังยังไงยอดพิมพ์ก็เยอะ แต่ย้อนกลับไปที่ถกเรื่องนี้คือ >>193 ที่บอกว่ายอดสนพ.อื่นก็น่าจะพอๆ กับอวว แล้ว >>198 มาเสริมว่ายอด อวว ต่างกับที่อื่นพอสมควร กูเลยยกเรื่องยอดพิมพ์มาอ้างอิง ว่าถ้ายอดขายอววไม่สูงหรือโอกาสขายได้เยอะกว่า เค้าก็ไม่น่าจะดารันตีให้เยอะหรือเปล่า สนพ.มันต้องคำนวณแล้วดิว่าจะขายได้ประมาณเท่าไหร่ ใครจะอยากขาดทุน
กูพิมพ์งงปะ
ถ้าหนังสือ สนพ. ไหนวางขายตามร้านต่างๆทั่วประเทศได้ก็ต้องยอดพิมพ์ใกล้เคียงกันแหละ คงราวๆสองสามพันเล่ม ก็มีหลายเจ้าอยู่นะ
ถ้าวางเฉพาะบางร้านหรือแค่ไม่กี่สาขาแปลว่ายอดพิมพ์น้อยกว่าแน่ๆ
กูว่าถ้าเป็นนข. ถ้าจะพิมพ์ที่ไหนก็ไม่น่าจะดูที่จำนวนพิมพ์อย่างเดียว แต่น่าจะดูแนวสนพ.หรือการทรีทนข.ของสนพ.ด้วย ส่วนคนซื้ออย่างเราๆ บ่องตงว่าอวว.ดูใหญ่สุด แต่ก็ไม่ค่อยได้เปย์ให้ค่ายนี้เท่าไหร่ยกเว้นนิยายแปลว่ะ กูไม่ได้รู้สึกว่านิยายวายของอวว.ดังสุดดีสุดอะไรนะ เพราะค่ายที่ออกแล้วกูซื้อแทบทุกเล่มจริงๆไม่ใช่ค่ายนี้ แต่อวว.ดูดังเพราะนข.ที่ดังกระแสดี แนวแมสๆมาอยู่ค่ายนี้เยอะ (เอาจริงก็นับนิ้วได้นะ มีสี่ห้าคนมั้ย) หรือกูจะเป็นสาววายรุ่นเก่า ถึงไม่ได้รู้สึกว่าอวว.ดังมากเท่าสาววายเด็กๆหน่อย
กูกลับมาอีกทีเหมือนประเด็นที่กูเปิดไว้เกี่ยวกับสนพ.ก็ยังไม่จบ แต่กูชอบอ่านที่มาแลกเปลี่ยนความคิดกันนะ ส่วนใครจะเห็นด้วยหรือคิดต่างก็แล้วแต่มุมมองของพวกมึงอะ แต่ที่ทำให้กูคิดว่าสนพ.อววภาษีดีกว่าสนพ.ที่ทำสายวายแบบเดียวกันในตลาด ณ ขณะนี้กูก็ดูจากหลายๆ องค์ประกอบอะนะ
1. บริษัทแม่ อววแตกมาจากแจ่มใส ซึ่งแจ่มใสก็ไม่ใช่แบรนด์กระจอกๆ ในแง่ตัวธุรกิจ ด้วยความอยู่มานานและสินค้าเค้าครอบคลุมคนเกือบทุกวัย ทั้งเลิฟซีรีส์ มากกว่ารัก อวว เลิฟ enter ในตลาดวายพวกมึงที่เสพวายอยู่แล้วอาจจะไม่ได้รู้สึกว่าอววพิเศษกว่าสนพ.อื่นที่ทำวาย แต่คนทั่วไปถ้าบอกว่าอววเจ้าเดียวกับแจ่มใส มันก็จะมีไบแอสในความรู้สึกไม่มากก็น้อยแล้วอะ อย่างน้อยเด็กสาวหลายๆ คนในประเทศนี้ก็ต้องเคยอ่านนิยายเลิฟซีรีส์มามั่งล่ะ หรือเวลามึงเดินเข้าร้านหนังสือไม่ว่าจะนายอิน ซีเอ็ด b2s มึงก็ต้องเคยเห็นหนังสือของแจ่มวางเด่นบนเช้วเรียงเป็นตับ แล้วมึงลองสังเกตว่าหนังสือนิยายของแจ่มมักจะวางบนเช้วในจุดที่เด่นกว่าสนพ.อื่น
2. ช่องทางการสื่อสารทั้งออนไลน์/ออฟไลน์ มึงลองเทียบยอดไลค์ ยอดติดตาม ของอววกับสนพ.อื่นที่จับตลาดวายเหมือนกันดูความแตกต่าง อววเหลืออีก 2หมื่นกว่าจะครบแสน ส่วนฮ.(กูขอเทียบกับที่นี่เพราะคนอ่านวายน่าจะรู้จัก ฮ.มาก่อนสนพ.อื่นที่พึ่งหันมาจับตลาดวายในช่วงหลังๆ) มีคนกดติดตามพึ่งจะ 3หมื่นทั้งๆ ที่อยู่มานานกว่า แล้วมึงลองดูโพสของอวว ดูการทำตลาดออนไลน์ของเค้า ต่อให้ไม่มีห่าอะไรแม่งก็มีคอนเท้นโพสเพื่อสื่อสารกับแฟนนิยายอยู่ดี ซึ่งสนพ.วายหลายๆ ที่ไม่เป็น ส่วนใหญ่คือจะโพสทีก็ตอนจะประกาศ LC ประกาศเปิดพรี ประกาศแจ้งข่าว นี่ยังไม่รวมพวกเว็บไซต์อีก สนพ.วายส่วนใหญ่เว็บแม่งคือเว็บเทพ แต่อววมันใช่ไหมละ มด ก็มีเว็บของตัวเอง แต่การจัดการมันครบเท่าไหม ก็ไม่
ส่วนออฟไลน์อย่างร้านหนังสือ อย่างที่กูบอกอะ มึงเดินเข้าร้านมึงก็เห็นแล้วอะว่าหนังสือของสนพ.ไหนอยู่ตำแหน่งไหน อย่าคิดว่าตำแหน่งวางไม่สำคัญนะ
ช่องทางพวกนี้เป็นตัวกระจายข่าว เป็นตัวประชาสัมพันธ์ การที่คนกดไลค์ คนแชร์ คนติดตามเยอะมันมีผลอยู่แล้วในแง่นี้ อย่างน้อยก็เข้าถึงคนได้มากกว่าแน่ๆ อะ 'โอกาส'ที่คนจะซื้อมันจึงเยอะตามไปด้วย เพราะผ่านการเห็นการรับรู้ ส่วนจะซื้อชัวร์ๆ ไหม กูไม่รู้หรอก แต่แค่ ความเป็นไปได้มันมีสูงกว่าหนังสือของสนพ.ที่วางให้เห็นแต่สันละอยู่ชั้นล่างแน่ๆ อะ *ยกเว้นมึงตั้งใจจะไปซื้ออยู่แล้วมึงถึงไปนั่งหา นั่งส่อง
3. นักเขียนที่ออกหนังสือกับอวว ส่วนใหญ่นขของออวมีฐานคนอ่านอยู่แล้ว ซึ่งฐานคนอ่านที่ว่าก็ไม่จำเป็นต้องเป็นฐานเดียวกับคนอ่านของสนพ.อื่นทั้งหมด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฐานของนข.อววจะไม่อ่านของสนพ.อื่น
ต่อ
4. เรื่องฝากวางขายตามร้านหนังสือแล้วยอดพิมพ์คงจะเท่าๆ กัน อันนี้ไม่จริงเสมอไป ไม่จำเป็นต้องเป็นสนพ.ใหญ่ๆ มึงก็สามารถเอาหนังสือไปฝากวางขายได้เว้ย ตัวอย่าง สนพ.บุ้คนิชมีนิยายวางขายที่นายอินกับ b2s แต่ไม่น่าจะทุกสาขาและกระจายไม่ครอบคลุมแน่ๆ (กูขออ้างถึงเพราะพึ่งเห็นโพสเค้าไม่นานว่ามีเกี่ยวกับเรื่องดึงหนังสือ หากสาขาใกล้บบ้านที่ลคไปซื้อไม่มี) หรือไม่มึงเดินเข้าร้านหนังสือหลายๆ สาขาก็ได้ แล้วลองดูว่าหนังสือของเจ้าไหนที่วางขายแน่นอน ซึ่งมันมีไม่เยอะหรอก แล้วการกระจายหนังสือตามร้านมันก็ไม่ได้กระจายไปเท่าๆ กันอยู่แล้ว กูถึงบอกว่าบางทีวางขายในร้านหนังสือชั้นนำ (นายอิน/b2s) แต่มีสาขาละไม่กี่เล่มมันก็มี มันถึงได้มีการดึงหนังสือกันข้ามสาขาไง แล้วหนังสือทุกเรื่องก็ใช่ว่าจะเข้าทุกสาขา สปก.ส่วนตัวกูที่เจอเองด้วย เพราะกูเคยจะไปซื้อเรื่อง ฤาขันทีไม่อาจมีรักกับวังหลังที่นายอินแถวบ้าน แต่พนงบอกไม่มีเข้า อยากได้ต้องสั่งจอง หรือบางเรื่องของมาไม่กี่เล่ม หมดแล้วหมดเลยไม่มีมาวางอีก นอกจากจะสั่งจองกับพนงให้เค้าดึงจากสาขาที่เหลือมา ไม่มึงก็ต้องสั่งทางออนไลน์
แล้วทุกเรื่องของแต่ละสนพ.ไม่จำเป็นต้องพิมพ์จำนวนเท่ากันรึเปล่า ต่อให้จะพิมพ์กับค่ายเดียวกันก็เถอะ ยิ่งเป็นสนพ.เล็ก ยิ่งน่าจะพิจารณาเป็นเรื่องๆ ไปว่ามันจะขายได้เท่าไหร่ กูคิดว่าสนพ.เค้าต้องประเมินอยู่แล้วว่าเรื่องที่เค้าเลือกมันจะขายได้มากน้อยแค่ไหน แต่เพียงแค่การพิมพ์กับอววโอกาสที่จะได้ตีพิมพ์เยอะกว่ามันมีสูงกว่าไง เพราะอววต้องเลือกเรื่องที่มั่นใจว่าขายได้มาทำอยู่แล้วอะ ประกอบกับหลายๆ อย่างที่กูพูดไปด้วย
แล้วการที่เค้าการันตีการพิมพ์เยอะกว่า ก็หมายความว่ามันต้องมีโอกาสขายได้เยอะ ถูกไหมอะ เรื่อง A ประเมินแล้วว่าพิมพ์ 1พัน เรื่อง B ดังมากๆ เอาไปทำเป็นซีรีส์ด้วย พิมพ์รอบแรกเลย 3พัน ถ้าขาดตลาดก็ตีพิมพ์เพิ่ม
ส่วนสนพ.อื่นที่ธุรกิจเล็กกว่ากำลังทุนมันอาจทำไม่ได้เท่าไง ไหนจะการตลาด การโฆษณาต่างๆ อีก
อวว อาจไม่ได้มีหนังสือที่สนุกสุด ดีสุด แต่องค์ประกอบหลายๆ อย่างมันได้ไง งานขายในตลาดอะ
ส่วนมึงจะซื้อหนังสือของอวว.ไหมนี่ก็อีกเรื่อง เพราะกูไม่ได้กำลังพูดเรื่องคุณภาพของนิยายหรือความสนุกของนิยาย
ในแง่นักอ่าน กูมองว่า อวว โรส ไพรด์ บลาย มด พวกนี้คือสนพ.ใหญ่จริง คือมีโรงพิมพ์ของตัวเอง ฝากขายร้านหนังสือทั่วไปค่อนข้างเยอะ
ทางฮม นบและเครือ ซบ บกร วดว อันนี้ก็ถือว่าสนพ.ใหญ่แต่รองลงมาเพราะยังไม่มีโรงพิมพ์ของตัวเอง ส่วนนิยายมีฝากวางขายตามร้านใหญ่ๆบางเรื่องและบางสาขาเท่านั้น
ทั้งนี้ทั้งนั้นกูเห็นด้วยว่า อวว ดูแมสสุดในงานวายแต่งจริงๆทั้งแนวนิยาย นข. ยอดขายและการโปรโมต ส่วนค่าตอบแทนของนข.ถ้าออกกับสนพ.กูไม่รู้ว่ะ
>>212 โรส มด อันนี้กูรู้ว่ามาจากสนพ.ใหญ่ บริษัทใหญ่ แต่พึ่งรู้ว่าไพรด์ก็มีโรงพิมพ์ของตัวเองเหมือนกัน ความรู้ใหม่กูเลย กูคิดว่าสนพ.พวกนี้ยังขาดการตลาดที่ดีกับการโปรโมตว่ะ อีกอย่างโรสเหมือนไม่ได้ลุยตลาดวายมากๆ เท่าอววด้วยแหละ ทั้งๆ ที่เครือใหญ่แท้ๆ ก็ต้องยอมรับอะว่าอววจับทางได้ดีกว่า ส่วนมดนี่กูว่าการเลือกเรื่องดีขึ้น พัฒนาขึ้น
แต่วายแต่ง อวว แนวมันซ้ำซากมากจนดูเกลื่อนไปหมด แทบจะแยกนักเขียนไม่ออกแล้ว มี ร เรือ ที่งานจะแตกต่างจากคนอื่นหน่อย
>>219 เหมือนกับแจ่มใสเลิฟซีรีส์มะ 55555 คายตะขาบสู่เด็กรุ่นใหม่ๆ กูเคยติ่งเลิฟซีรีส์มาก่อนสมัยมอต้นจนตอนนี้เรียนจบทำงานแล้วแต่ยังจำโมเม้นนั้นได้ ก็นะ ช่วงวัยอะ วัยหนึ่งเราก็ต้องเคยกรี๊ดกร๊าดกับอะไรแบบนี้ก่อน พอโตขึ้น ผ่านอะไรเยอะขึ้น เรื่องพวกนั้นกลายเป็นเรื่องลูกกวาดที่มาย้อนคิดว่ากูเคยชอบไปได้ยังไง
กูอ่านตัวอย่าง จ. เรื่องใหม่ของร. แล้ว กูรู้สึกแปลกๆว่ะ ไม่อ่านแล้วไม่ลื่นอ่ะ บอกไม่ถูก เหมือนกินข้าวอร่อยดีแต่อร่อยไม่สุด เหมือนมันขาดอะไรไปแบบนี้อ่ะ
KY หนึ่งคำมั่นที่สั่งรับหน้าร้าน สามารถรับได้หลังบ่าย 3 เป็นต้นไปนะ
ใครไปแล้วบอกกูด้วยนะ ว่ามด.ส่งตามที่แจ้งรึเปล่า
มึ๊งงงง กูไม่เข้าใจแอดมินมด.เลยเว้ย
ตั้งแต่ที่กูบอกไปว่าขอเปลี่ยนการจัดส่ง เขาก็บอกแจ้งร้านให้แล้ว
วันนี้คืออัลลัยยย ให้กูไปรับเองเหมือนเดิม โว๊ะ!
ธรรมดาอ่ะ เพจไหนคนตามเยอะ แอดมินก็จะถูกอวยงี้แหละ แปลเจิ้นว่าเจิ้นหลายคนชอบ บอกอ่านแล้วได้ฟีลดี แต่กูเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ไม่ชอบ มันมีคำแทนได้ในภาษาไทยจะเจิ้นไปเพื่อ!
คือ คนแปลอยากใช้ เจิ้น แต่ สนพ.บอก ให้ใช้ เรา ดีกว่าน่ะ
ชื่อเรื่องเลย เจิ้น ในหนังสือ เรา
กูสนใจเรื่องนี้เพราะเมื่อก่อนเขาเคยรีวิวไว้น่าสนอ่ะ สำหรับกูขอแค่ไม่แปลประหลาดๆ (แบบนกกระจอกเทศ)ก็โอเคละ ตราบใดที่กูอ่านแล้วมโนภาพตามได้
เเต่กูก็ไม่ชอบเวลาเพจไหนดังๆแล้วลูกเพจตามอวยจนเกินไป เคสแบบนี้ส่วนใหญ่หลังๆพังกันทั้งนั้น อวยมากเหลิงมาก กูทำไรก็ได้
หวังว่ารายนี้คงไม่ซ้ำรอยนะ
ถ้าโดนอวยมากๆ มันก็ยากว่ะที่จะไม่เหลิง
เพจ cq นี่ดังแล้วเหรอ เห็นคนไลค์แค่สี่พันกว่าเอง กูก็เพิ่งรู้จัก
สำหรับกูcq ถือว่าดัง ถ้าเทียบกับว่าแต่แรกนางแค่แปลไปทั่ว จนได้งานน่ะนะ
ยิ่งไม่ใช้ชื่อที่สื่อถึงการแปลพวกนี้ด้วย
แล้วตอนที่เค้าแปลทั่วไปเป็นยังไงบ้างอะ โรสก็น่าจะเลือกหน่อยหรือเปล่า สนพ.ก็ไม่ใช่ไก่กา // ตอนนี้พวกมึงติดเรื่องไหนในเล้ากันมั่งปะ
กูเพิ่งรู้ว่ากูย่อมากไป ตอนแรกกูจะย่อคำว่า กุหลาบแต่กูไม่รู้จะย่อยังไง เลยย่อ ร. ขอโทษนะเพื่อนโม่ง
กูอ่านแล้ว มันขัดๆอ่ะ มันเหมือนขาดอะไรไป มันเหมือนผู้หญิงสวยแต่ขาดความเป็นธรรมชาติ มันดูประดิษฐ์คำเกินไป
กูบอกไม่ถูกอ่ะ กูเลยไม่รู้จะบอกยังไง ไม่รู้มีใครเข้าใจกูไหม
เพราะเนื้อหามันออกแนวประชดๆ กัดๆ แสบๆ ด้วยมั้ง พอภาษามันประดิษฐ์เกินไปเลยดูแปลกๆหรือเปล่า
>>258 กูเห็นหลายเรื่อง บางทีมันก็เหมือนจะพยายามแปลให้ได้ฟีลนิยายจีน คือพยายามจะคงอารมณ์ความเป็นนิยายแปลเอาไว้มากเกินไป จนขาดสมดุลความพอดี การเลือกใช้คำ สำนวน พอมาเป็นภาษาไทยแล้วมันเลยดูประดิษฐ์ๆ แข็งกระด้าง ไม่ลื่นไหล กูเป็นมือสมัครเล่น ไม่ได้เก่งภาษาจีนแต่ภาษาจีนบางสำนวน บางคำ บางบริบทถ้าแปลออกมาตรงๆ มันจะแบบหืมม...บางทีคนแปลควรมีทักษะเรียบเรียงและเลือกใช้คำให้ได้อารมณ์ตรงกับความหมายที่เค้าต้องการจะสื่อ ไม่ใช่เอาตรงเป๊ะแต่ไร้อารมณ์ความสุนทรีย์ กูชอบอ่านเวลามือฉมังเค้าแปลพวกบทกวีหรือสำนวนจีนมาเป็นไทย หลายคำมันไม่ได้ตรงเป๊ะ แต่การสื่อสารความหมายมันได้จนกูอยากคารวะ
>>258 มึงไม่โอกับการประดิษฐ์คำสินะ แต่เจิ้นนี่ก็ทับศัพท์อ่ะมึง คือกูไม่ได้หาเรื่องมึงนะ แต่สมมติไม่ใช้เจิ้น จะใช้คำว่าอะไรแทน "เรา" (พอมาเป็นชื่อเรื่องกูกลับรับไม่ได้) "ตัวข้า"
สำหรับกู เจิ้น มันก็สื่อว่าตัวเอกเป็นฮ่องเต้ เหมือนคำนามแทนสนมปกติ แบบ เสียนเฟย หยางกุ้ยเฟย อะไรงี้อ่ะ
>>264 อ้อ กูเก็ตละ เห็นตอนแรก บ่นๆกันเรื่องชื่อ(ในเพจกุหลาบ -คนแปล มีบ่นน่ะเรื่องคำว่าเจิ้น ก็เลยคิดถึงเคสนี้) กูนึกว่า หมายถึงสรรพนาม เออถ้าบรรยายแบบบรรยากาศแบบนี้กูเข้าใจละ คือมันจะเยิ่นเย้อกินพื้นที่เกินไปใช่มะ?
ปล.แต่มองในแง่คาร์ อิท่านราชครูก็กะล่อนคิเในแง่ว่านางเยิ่นเย้อเอาใจหรือเปล่า
เย็นย่ำถ้าอยู่ในบทบรรยายก็ไม่ค่อยอะไร แต่ในบทพูดดูล้นๆ
สำนวนลิเกเกินไปสินะ
มึงรฤกรักที่จะตีพิมพ์กับ everY มันเป็นฟิคไม่ใช่หรอ ทำไมถึงเอามาตีพิมพ์ได้อะ
แต่กูชอบให้ฝ่าบาทแทนตัวเองว่าเจิ้นนะ กูว่ามันฟังดูไว้ตัวดี (หรือกูคิดไปเอง 55)
คนที่เริ่มต้นด้วยนิยายแปลจีนอยู่แล้วอาจจะเฉยๆ ชอบและคุ้นเคย แต่สำหรับกูที่ดูหนัง ซีรีส์จีนมาตั้งแต่เด็ก กูคุ้นเคยกับแปลพากย์ไทยโดยการเรียกตัวเองว่า "เรา" ของฮ่องเต้อะ อ่านเจอเจิ้นทีไรกูขนลุกแปลกๆ ทุกทีทั้งที่กูดูแบบดำน้ำก็รู้แหละว่าเจิ้น เปิ่นหวาง เปิ่นกงอะไรพวกนี้มันทับศัพท์ กูไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจตอนดูที่เป็นเสียงจีนทั้งหมด แต่พอมาแปล กูรู้สึกว่ามันเป็นคำที่มีคำไทยที่พอใช้แทนได้ก็ควรจะใช้ พอใช้ทับศัพท์โดยที่บริบทโดยรอบเป็นภาษาไทยเผลอๆ อ่านไปอ่านมาแล้วไม่อิน กระทั่งสุดท้ายหลีกเลี่ยงไปเลย ซึ่งมันเป็นความผิดกูเองแหละที่ทำใจให้ชินไม่ได้
กูไม่อ่านนิยายวายจีนเลยไม่รู้ว่าคนอ่านแนวนี้เป็นปกติจะรู้สึกไงนะ แต่กูก็คิดว่าถ้าภาษาไทยมันมีคำให้ใช้อยู่แล้วก็น่าจะใช้คำไทยมากกว่า นึกสภาพนิยายญี่ปุ่นแปลไทยแล้วแทนตัวเองว่า โอเระ โบคุ แบบนี้กูคงรู้สึกแปลกๆเหมือนกัน
กูไม่ชอบแทนตัวแบบทับศัพท์ในเมื่อเป็นคำที่สามารถแปลทยได้โดยเฉพาะสรรพนาม ต่อให้จะไม่ตรงบริบททั้งหมดก็เถอะ
อารมณ์เดียวกับถ้าวายยุ่นแปลคำแทนตัวเองว่าโบคุ โอเระ วาตาชิงี้ คือกูอ่านไทยไม่ได้อ่านญี่ปุ่น
พึ่งเห็นว่าโม่งข้างบนก็คิดเหมือนกู ยกตัวอย่างเหมือนกันด้วย มึงคือร่างแยกกูใช่มั้ย
>>275 พอเป็นญี่ปุ่นมันแปลก เพราะเราคล้ายๆ ญี่ปุ่นที่มีคำเรียกเยอะ อย่าง เรา ฉัน ผม คุณ นาย เธอ ท่าน เลยแปลง่ายมั้ง กูว่าเจิ้นมันแทนไทยยาก คำเฉพาะ ที่มันใช้เราเพราะว่าทีวีไทยเก่าๆ จำเป็นต้องพากย์ไทยไง
กูอ่านจีนแปลแต่เด็ก พวกหน่วยวัด หรือตำแหน่ง ก็ทับศัพท์เลย เพราะใจความจริงของมันภาษาจีนบางทีก็หาคำแทนยาก อย่างค่ายเน่ยฉางก็คำเฉพาะ มึงอ่านจีนแปลบ่อยๆ ก็เหมือนเรียนรู้ศัพท์จีนไป เดี๋ยวก็ชิน
>>276 สวัสดีร่างแยก
>>277 ภาษาญี่ปุ่นมีคำแทนตัวเยอะกว่าที่กูยกตัวอย่างอีกนะ มันไม่ได้มีแค่โอเระ โบคุ แต่มันมีสรรพนามที่แทนด้วยคำไทยยากอีกตั้งเยอะ เอาง่ายๆ แต่วาตาชิ วาตาคุชิ อาตาชิ แค่นี้มันก็ให้อารมณ์ไม่เหมือนกันแล้ว แต่กูไม่เห็นนักแปลคนไหนใช้ทับศัพท์เลย ดีไม่ดีขืนใช้ทับศัพท์ขึ้นมาคงโดนนักอ่านรุมด่าด้วยซ้ำ กูว่าการบอกว่าเจิ้นหาคำแปลไทยไม่ได้เลยทับศัพท์มันก็ไม่ถูกซะทีเดียวอ่ะ
>>277 วาตาชิ อาตาชิ ภาษาญี่ปุ่นละเอียดอ่อนมากนะ อย่างโบคุที่แปลว่าผมเพราะมันเป็นสรรพนามที่ผู้ชายพูดผู้หญิงไม่ใช่ แต่ความจริงมันไม่ได้ใช้สุภาพเป็นพิเศษแบบที่ไทยใช้ผมเลย หรืออย่าง อันตะ กับ โอมาเอะอีก ยังไม่นับบรรดานี่ซัง นี่จัง โอนี่จัง โอนี่ซามะ โอนิอุเอะ ฯลฯ
คือมันคือนิยายแปลไทย ไม่ใช่นิยายสอนภาษาจีนที่อะไรๆก็ทับศัพท์เดี๋ยวก็ใส่เชิงอรรถอธิบายเอาแล้วกัน
กุไม่มีปัญหากับการทับศัพท์พวกหน่วยวัด หรือตำแหน่งเฉพาะนะ แต่สรรพนามบุรุษที่หนึ่งเนี่ย คือจะเป็นตัวข้า ตัวเรา สำหรับกูมันแทน"เจิ้น" หรือพวก "เปิ่นกง เปิ่นหวาง" ได้ ให้ความรู้สึกเดียวกัน และอ่านเข้าใจว่าเป็นการเรียกตัวเอง ไม่เห็นความจำเป็นต้องทับศัพท์ประมาณนั้น
เจิ้น คพไทยที่แทนกันได้คือ เรา ไง ถูกต้องทั้งบริบทการใช้งานและความหมาย ไม่ได้หาแทนยากเลย เพียงแต่คำว่า เรา ใช้งานได้กว้างกว่า เจิ้น เท่านั้นเอง ถ้าจะหาคำที่ต้องความหมายและขอบเขตการใช้งานเท่ากันเป๊ะๆทั้งในต้นฉบับและภาษาที่ใช้แปล คาดว่าคงต้องทับศัพท์กันมากกว่า 75% = อ่านต้นฉบับไปเลยดีกว่านั่นเอง
มันก็มีทั้งคนชอบ คนไม่ชอบว่ะเรื่องนี้ ทับศัพท์หรือไม่ทับ ลางเนื้อชอบลางยา มึงบ่นว่าไม่ชอบ แต่มันก็มีคนชอบ
เลือกนักแปล เลือกเรื่องเอา
กูว่าชฉ.ตามโม่งป่ะวะ สเตตัสง่าสุดดูเหมือนเจออะไรหรือมีใครกระซิบไป
>>285 ใช่ มีทั้งประเด็นก็อป/อวยตัวเองเว่อร์วัง/เรื่องขายฟิคที่เหมือนโฆษณาเกินจริง แล้วก็มีเรียกเก็บเงินเพิ่ม เยอะอะ แต่ก็ดังอยู่ดี อารมณ์แบบคนแต่งลตด 5555555 โดนดราม่าแค่ไหนก็ยังหากินได้ คุณจนี่เค้าจะชอบแต่งแนวเรทๆ 18+ เน้นฉากอย่างว่า ส่วนคนแต่งลตดสำหรับกูคือเพ้อๆ หน่อย ขายฝันเก่ง
ใครๆก็เล่นโม่งมึง ไม่ต้องห่วง สนพ.เอย นักเขียนเอย
>>287 โลกนี้มันก็ประหลาดดีเนอะ กูไม่ได้ตามงานเค้าหรอกนะ ไม่รู้จักด้วย แต่อ่านๆ ดูแล้ว แถมเท่าที่เห็นๆ มามีอย่างนี้เยอะด้วย ถ้าวายแต่ง วายไทยต้องแนวเพ้อๆ ฝันฟุ้ง ติดเรท+++... เรื่องส่วนตัวนักเขียน หรือบางทีอาจจะไม่ส่วนตัวเช่นลอกเอยอะไรเอยฉาวโฉ่มีชื่อเสียมากกว่าชื่อเสียง แต่สุดท้ายก็ดังหากินได้เป็นกอบเป็นกำในวงการอยู่ดี กูอ่านแล้วหดหู่แปลกๆ
>>289 กูก็ไม่ได้ตามเค้าเพราะไม่อ่านงานเค้า แต่รู้จักเพราะฟิคเค้าขึ้นอันดับบ่อย เปิดหน้าเด็กดีหมวดแฟนฟิคไปก็เจอ ตอนดราม่าเรื่องก็ดังมากจนมีคนที่กูฟอลรีมาให้เห็น แล้วน้องที่กูรู้จักเป็นแฟนฟิคนาง พอเจอเรื่องตอนพิเศษในเล่มที่เหมือนหลอกลวงแล้วให้คนอ่านโอนเงินเพิ่มทีหลังเพราะนางเพิ่มเนื้อหาคู่อื่นลงไปหรืออะไรของนางไม่รู้มั้งน้องกูเลยเลิกอ่านงานนางอีก เหมือนตอนพิเศษที่ว่าไม่ได้พิเศษอะไร มีแค่ไม่กี่หน้า แล้วก็พยายามบิ้วให้คนอ่านซื้อด้วยว่าแบบคุ้มมาก พิเศษมาก อันนี้กูเดานะ ว่าน่าจะเชียร์ให้ซื้อแนวๆ นี้ มันก็แอบทุเรศตรงให้คนอ่านโอนเงินเพิ่มนี่แหละ ทั้งๆ ที่ตกลงกันตอนแรกแล้วว่าราคาเท่านี้ แล้วไอ้เนื้อหาที่ยัดเพิ่มก็ไม่ใช่สิ่งที่คนอ่านอยากได้
>>281 +1
มึงพูดถูก ไม่มีทางที่การแปลจะเก็บได้ครบร้อยเปอร์เซนต์เพราะมันเป็นการสื่อสารแบบข้ามวัฒนธรรม ไม่มีวัฒนธรรมไหนในโลกที่จะเท่ากันเป๊ะๆ คนแปลต้องมีการตัดสินใจแก้ปัญหาที่เหมาะสมและแสดงกึ๋นของคนแปล ถ้าเอะอะจะบอกว่าเพราะหาคำที่เท่ากันพอดีไม่ได้ เลยใช้คำจากต้นฉบับไว้ทั้งดุ้นก็เป็นการแก้ปัญหาที่กำปั้นทุบดินมาก เอาจริงๆ เรื่องการข้ามวัฒนธรรมในการแปลจีนเป็นไทยนี่ยังนับว่าง่ายกว่าอีกหลายภาษา เพราะคนไทยเราชินกับวรรณกรรมจีน หนังจีน ซีรี่ส์จีนกันมานานมากๆ แล้ว
เห็นด้วยว่า คำว่า เจิ้น ก็แปลว่า เรา ได้แบบสวยๆ ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องคงคำว่า เจิ้น ไว้
กูงงว่านขฉาวโฉ่ขนาดนี้สนพก็ยังไม่สนสี่สนแปดใดๆ เลยเหรอวะ เห้ออออ
นข ฝากขายตามร้านหนังใหญ่ ๆ ได้ป่าววะ
>>292 ก็มันขายได้อะ นข.อววหลายคนก็เคยมีเรื่องดราม่าปะ เค้าคงคิดว่าคนอ่านส่วนใหญ่ไม่ได้มาสนใจเรื่องพวกนี้อยู่ละ
>>294 ได้มึง ใครๆ ก็ติดต่อฝากขายได้หมดแต่มันหลายขั้นตอนและยุ่งยากมาก ไม่คุ้มอะถ้ามึงมีเรื่องเดียวละจะไปฝาก แต่ถ้ามึงมั่นใจว่าถ้าไปฝากวางแล้วขายได้เยอะเป็นกอบเป็นกำก็ลองติดต่อดู ลองดูพวกสัญญาอะไรพวกนี้ แต่ถ้าไม่มั่นใจกูแนะนำว่าขายออนไลน์เองจะเวิคกว่าว่ะ
ไม่มีความเห็นเรื่องแปลนะ ไม่ได้อ่านตัวอย่างแต่ตามปกติแล้วแม้ว่าคนอื่นๆจะบ่นว่าแปลห่วยแปลแย่แค่ไหนส่วนตัวอ่านได้หมดเป็นคนอะไรแบบนี้ก็ไม่รู้5555
ส่วนคำว่าเจิ้นก็เฉยๆนะ เหมือนเคยอ่านเจอที่ไหนซักที่อ่ะ ว่าเจิ้นคือคำที่ฮ่องเต้ใช้ได้คนเดียว มันเลยเป็นคำแทนตัวของฮ่องเต้แน่นอน แล้เหมือนจะเคยอ่านแปลจีนที่ใช้เจิ้นนี่แหละ ก็คิดว่ามันน่ารักดีนะ
>>294 ถ้าเป็นพวกที่มีสาขาอย่างนายอินทร์ ติดต่อเข้าไปที่บ.เลย แต่ถ้าเป็นร้านหนังสือใหญ่ๆก็เดินเข้าไปขอคุยกับเจ้าของร้านเองได้เลย เค้าอาจจะรับได้ไม่เยอะก็ต้องกระจายไปหลายร้านหน่อย หรือถ้าเค้ามีสาขาเราก็ต้องเข้าไปส่งให้เค้าเองทุกร้าน
>>296 ได้ยินมาแบบนั้นเหมือนกันว่า เจิ้นคือคำแทนตัวเฉพาะของฮ่องเต้
สำหรับกูถ้าเป็นนิยายเรื่องทั่วๆไป จะใช้คำแทนตัวว่า เจิ้น หรือ เปิ่นกง เปิ่นหวาง หรือจะแปลไทยก็ได้ตามสบาย แต่ถ้าเป็นเรื่องที่มีการปะทะคารมกันแล้วตัวละครแทนตัวว่าเปิ่นหวางก็รู้สึกว่าเป็นได้ทั้งทำแทนตัว และยกตนข่มท่านไปพร้อมๆกัน ให้ความรู้สึกกวนตีนดี
Ky หนังสือ b6 จำนวนหน้า 150+ ภาพสี 4 ราคาพรีฯ 310 ไม่รวมส่ง เพื่อนโม่งว่ามันแพงไปมั้ยว่ะ กูไม่มีความรู้เรื่องนี้แต่ปกติกูเห็นตีประมาณหน้าละบาท แล้วทำไมเรื่องนี้แพง
>>299 กูคิดว่าแพง แต่ว่าไงดี ถ้าเขาคิดว่ามันขายได้เขาก็ขายมั้ง คงบวกค่าวาดภาพสีเข้าไปด้วยแหละ ดูอย่างหนังสือทำมือแนว normal ของนขที่กูตามสิ แค่ A5 120 หน้า ก็ปาเข้าไป 190 บาทแล้ว กูคิดว่าน่าจะชาร์จค่าภาพประกอบทุกตอนเข้าไป ไม่งั้น A5ไม่ควรเกินหน้าละบาทอ่ะเพราะเขาเป็นนขใหญ่ฐานแฟนคลับเยอะ อีกเล่มของคนเขียนคนเดียวกัน น่าจะ B6 272 หน้า 270 บาท คือตอนได้เล่มแล้วเห็นว่าเป็น B6 ไม่ใช่ A5 กูสตั๊นไปนิดนึงว่าทำไมคิดราคาแพงจังวะ
ค่าพิมพ์หนังสือเดี๋ยวนี้ก็แพงนะมึง โรงพิมพ์ขึ้นราคาเหมือนกัน ไม่ได้ราคาเท่าเดิมทุกปี
>>299 คิดอีกแง่ว่ามึงชอบผลงานเค้าไหมละ ถ้าชอบก็ซื้อ ถ้าไม่ได้ชอบมากมายอะไรแล้วคิดว่าแพงไปก็ไม่ต้องซื้อ บางทีมันก็ตอบยากเรื่องมูลค่าว่ะ เรทโรงพิมพ์ขนาดบีหกกับเอห้าหลายๆ ที่ใช้เรทเดียวกันนะ เพราะขนาดมันต่างกันไม่มาก แต่ก็ต้องดูด้วยอะว่าพิมพ์ที่ไหนเพราะบางโรงก็เป็นเรทตามจำนวนสั่งพิมพ์เช่นฟาสที่ยิ่งพิมพ์เยอะยิ่งถูกลง
กูเห็นเรื่องคำทับศัพท์สรรพนามในนิยายจีน และพอฟังภาษานี้รู้เรื่องอยู่บ้าง ในฐานะที่กูไม่ค่อยได้อ่านนิยายจีนโบราณมากมาย อ่านบ้างไม่เยอะ ไม่เคยเจอการทับศัพท์สรรพนาม กูก็รู้สึกขัดๆ กับการทับศัพท์สรรพนามอะนะ โดยเฉพาะถ้าเป็นที่มีเทพมาเอี่ยว เวลาเทพชั้นผู้น้อยจะพูดกับเง็กเซียนหรือเจ้าแม่ ทับศัพท์คือเสี่ยวเสิน หากแปลตรงๆ ก็(ข้า)เทพผู้น้อย ซึ่งปกติหากเป็นคำไทยก็คงใช้ กระหม่อม หม่อมฉัน อยากรู้ว่ามีนิยายเทพมารเรื่องไหนแปลทับศัพท์ว่า เสี่ยวเสิน บ้างมั้ยวะ นี่ยังไม่นับสรรพนามบรรดานายๆ บ่าวๆ ทั้งมนุษย์และเทพใช้เรียกตัวเองแตกต่างกันไปตามตำแหน่งหน้าที่ กูว่าถ้าคิดจะทับศัพท์สรรพนามก็ต้องเอาให้ครบทั้งนายบ่าว ไม่ใช่นายเจิ้นแต่บ่าวยังกระหม่อม มันดูแปลกๆ หรือเปล่า อันนี้กูแค่อยากออกความเห็น เข้าใจว่าไม่มีผิดถูกแล้วแต่รสนิยมคนเลือกเสพนั่นแหละนะ
พูดถึงเรื่องโรงพิมพ์ ไม่ต้องรอผ่านปี บางทีเสนอราคาเดือนนี้กับเดือนหน้าก็ได้มาต่างกันแล้ว มีแต่เพิ่ม ทางเลือกที่ดีที่สุดของคนซื้อคือตรองให้ดีว่าไหวมั้ย ชอบพอที่จะลงทุนเปย์มั้ย แต่กูก็ไม่ปฏิเสธว่าหนังสือบางเจ้าก็ขูดเลือดกะฟันกำไรเกินไป แบบไม่สนระยะยาว ซึ่งนั่นทำให้กูเลือกเทได้อย่างรวดเร็ว
กูอ่าน จ ก็รู้สึกแปลกๆเหมือนกัน มันดูเรื่องไม่ไหลลื่น มันไม่สุดว่ะ
ส่วนในสสตวนี่ เจ๊เม่นคนนั้นเค้าไม่มีพื้นที่หน้าเฟซเค้าเหรอวะ ทำไมชอบมาโพสอะไรไม่รู้ในกลุ่ม
กูอยากจิร้องไห้ ของมดนะ กูโอนไปไม่เกิน 30นาที แรกเเท้ๆ จนตอนนี้ยังไม่ขึ้นจัดส่งของกูเลย กูโคตรเเค้นใจกับการจัดการขนส่งแบบนี้จริงๆ
*พิมพ์ผิดส่งของวันเเรก
ยืนยันยอดของมด.ใช้เวลานะเพื่อนโม่ง ของเราซื้อตั้งแต่เปิดจอง5 นาทีแรกจ่ายผ่านบัตร(มันแจ้งโอนอัตโนมัติ) แต่ซื้อหลายชุด ออเดอร์นั้นไม่ขยับเลย แต่ออเดอร์ชุดเดียววันก่อนปิดมาถึงตั้งแต่2วันก่อน เรานอนอ่านจบแล้วออเดอร์หลายชุดยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงขึ้นรอจัดส่ง ใจร่มๆ เดียวก็มามั้ง orz
กูว่ามดควรไปคุยกับทีมงานทุกคนถึงทุกขั้นตอนให้รู้เรื่องอะสัด แจ้งลคในเพจอย่าง ทำจริงอย่าง
ของเราหนักกว่าว่ะเพื่อนโม่ง ของมาถึงบ้านจนแกะเช็กของแล้วห่อปกเตรียมอ่าน ค่ำๆ เพิ่งได้อีเมลว่าของส่งออกมาแล้ววันนี้พร้อมเลขแทร็คกรอกตาใส่อีเมล์ตรูจับหนังสือจนจะอ่านอยู่แล้วค่า อิบ้า
กูว่าตั้งแต่เค้าเปลี่ยนมาใช้ของ smm แม่งแย่มาก พังพินาศสุดๆ ตอนยังเป็น befriend แม่งไม่เคยมีเลย ปัญหาแบบเนี่ย กูงี้โคตรเซ็ง
เรื่องทับศัพท์สรรพนามกูนึกขึ้นมาได้เรื่องนึง คำว่า 小生 ในพ่อบ้านดำที่สัปเหร่อเรียกตัวเอง แปลไทยใช้ว่าโชเซ ซึ่งกูว่าคงเป็นการแปลผิดมากกว่าทับศัพท์ แต่มันเป็นสรรพนามที่ไม่ใช่ทั่วไปเหมือนเจิ้นนั่นแหละ พอใช้ทับศัพท์แบบนี้แล้วมันประหลาดมากๆ คนอ่านก็เข้าใจผิดคิดว่าเป็นชื่อตัวละครกันเยอะ พอมีคนออกมาอธิบายว่าแปลผิดก็รุมด่ากันหมด แล้วมันต่างกับการทับศัพท์คำว่าเจิ้นยังไงวะ
กูยังคิดว่าเจิ้นคือชื่อเลย กูเพิ่งเริ่มอ่านแปลจีนน่ะ อย่าด่าแรง
เจิ้นใช้แล้วแปลกยังไงวะ เถียงกันไม่เลิก คำที่ยกมาบอกว่าเยิ่นเย้อ กูอ่านแล้วก็โอเค ไอ้คำที่พวกมึงลองแปลเองนั่นแหละ แข็งโป้ก แล้วถ้าต้องแปลหมด ทำไมไม่แปลฮ่องเต้ว่าจักรพรรดิเลยล่ะ ทำไมถึงต้องใช้ฮ่องเต้ ทั้งๆที่มันก็ทับศัพท์เหมือนกัน
>>323 กูเฉยๆ กับประเด็นเรื่องจะใช้เจิ้นเป็นเราในภาษาไทยหรือทับเจิ้นไปเลยไรงี้นะ เพราะที่ผ่านมาเวลากูอ่านนิยายแปลจีนก็เจอทั้งคนแปลที่ใช้ทับไปเลย ทั้งคนแปลไทยอีกที แต่เห็นมึงยกตัวอย่างคำว่าฮ่องเต้มา กูคิดว่าคำนี้มันเป็นประเภทเดียวกับพวก คอมพิวเตอร์ / อินเทอร์เน็ต อะไรแบบนี้ว่ะ คนทั่วไปใช้ คนทั่วไปรู้ว่าฮ่องเต้หมายถึงจักรพรรดิประเทศจีน ส่วนเจิ้นนี่มันลงลึกกว่า คนทั่วไปถ้าไม่ได้อ่านนิยายหรือพอมีเกร็ดความรู้เทือกๆ นี้ก็ไม่น่าจะรู้ไหม
แล้วโชเซแปลว่าอะไรวะ กูเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าไม่ใช่ชื่อ
แค่คำว่าเจิ้นมึงยังด่าขนาดนี้ ลองไปอ่านเรื่องที่หลินโม่วแปลมั้ย 55555555
กูว่าเอาให้มันพอดีๆ เหอะ 55555 แปลทับศัพท์หมดออกมาเป็นเรื่องว่าด้วยอาชีพก็ไม่ไหวนะ ตลกเกินอะเรื่องนั้น จากพีเรียดจีนแม่งกลายเป็นละครพื้นบ้านช่องเจ็ดตอนเช้า หรือจะจัดเต็มแบบคุณหลินโม่วคนที่ไม่ชินหรือไม่ได้อ่านแนวนี้บ่อยๆ ก็อาจปวดหัว
เพื่อนโม่งที่ยังไม่ชินคำทับศัพท์สรรพนามลองไปอ่านเรื่องจิ่นเสวี่ยนหวางในเด็กดีดู เผื่ออยากฝึกสกิล แต่เป็นนอมอลนะ
พวกมึงเข้าใจไหมว่า กุซื้อนิยายแปลมาอ่านเพราะกุอ่านจีนไม่ออก และไม่รู้ความหมายของคำนั้นๆ
คือกุแปลไม่ออก คนแปลควรจะแปลออกมาให้กุเข้าใจในภาษาที่แปลออกมา ไม่ใช่ให้กุแปลไทยเป็นไทยอีกรอบ ไม่งั้นมันจะเรียกแปลไหม ของหลินโม่กุบอกเลยมันได้อารมณ์จริง แต่สามารถทำให้คนอ่านเข้าใจที่แปลไหม แล้วเชิงอรรถถ้าจะใส่มาขนาดนั้น ถือว่าล้มเหลวในการแปลมาก
สำหรับกูมาตรฐานอ่านฟรีกับเสียตังอ่านคือต่างกันเยอะ ถ้าจ่ายเงินกูขออ่านเข้าใจไหลลื่น ไม่ต้องมานั่งเสิร์ชหาคำศัพท์ แค่จำชื่อก็เปลืองพลังงานสมองพอแล้ว ไม่เอาล้นจนลิเก ถ้าบทบรรยายจะเวิ่นเว้อหน่อยไม่ว่ากัน แต่ถ้าเป็นบทสนทนาขอให้ไม่ประดิษฐ์จนน่ารำคาญขาดความเป็นธรรมชาติ
KY ช่วงนี้มันฮิตนิยายวันสิ้นโลกเหรอวะ เห็นเป็นกระแสมาก มีคนแต่งตามโอตาคุสิ้นโลก แล้วคนมาอวยๆเยอะมากอะ
>>344 มันเป็นหนึ่งในสายหลักของแนวกลับมาเกิดใหม่ที่กำลังบูมแต่ในไทยคนยังเขียนไม่เยอะอะนะ
อันนี้กูขอบ่นหน่อย กูไม่รู้ว่าใครเริ่มสายนี้ก่อนแต่เรื่องที่แรกที่กูอ่านคือ the region ของอวี้หว่อ สมัยนี้คนดูไม่ค่อยซีเรียสเรื่องเซ็ตติ้งกันเท่าไร พอมีแนวน่าสนใจคนก็จะเฮไปเขียนตามแบบเอาเซตติ้งมาทั้งดุ้นเลย(โดยเฉพาะจีน อย่างญี่ปุ่นที่ฮิตแนวต่างโลก ต่อให้ทีธรรมเนียมมโดนทรัคซังส่งไปต่างโลกแต่พล็อตหลักการดำเนินเรื่องส่วนมากไม่เหมือนกันเลย)
ถ้าเป็นสมัยก่อนแค่พล็อตเหมือนกันนิดหน่อยก็นับว่าดราม่าลอกกันแล้ว แต่เดี๋ยวนี้คิดพล็อคแปลกๆเซตติ้งแปลกๆออกมาได้นี่เตรียมใจไว้ได้เลยว่ามีคนเขียนตามแน่ๆ เหมือนแนวระบบ แนวไปเกิดใหม่เป็นตัวร้ายในเกม/ในนิยาย เมื่อก่อนต่อให้เป็นนิยายโรงเรียนเวทมนต์นอกจากพล็อตหลัก การดำเนินเรื่องที่ต้องต่างกันแล้วเซตติ้งย่อยๆส่วนมากก็ไม่เหมือนกันด้วยอย่างวิธีการเข้าโรงเรียน รูปแบบสังคม เวทที่ใช้อะไรพวกนี้
แต่สมัยนี้แนวเดียวกันนี่แทบจะไทม์ไลน์เดียวกันเลยมึง
อย่างแนวสิ้นโลก ตัวเอกจะเคยอยู่ใช้ชีวิตในโลกที่ล่มสลาย >> ตาย >> กลับมาเกิดย้อนไปก่อนวันสิ้นโลก>> เพราะมีประสบการณ์จึงมีการเตรียมพร้อมทั้งเสบียงที่อยู่อาศัย>> หลังวันสิ้นโลกคนจะแบ่งเป็นสามกลุ่มคือ กลายเป็นปีศาจ มีพลังวิเศษ เป็นคนธรรมดา >> คนจากโลกเดิมมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปจากการย้อนกลับมาของตัวเอก เอาว่าเหมือนขนาดนี้สมัยสักสิบปีก่อนดราม่าขึ้นโรงขึ้นศาลกันไปนานแล้ว แต่สมัยนี้อะไรแปลกๆหน่อยก็หยิบจับมาเขียนตามกันทันทีเลย บางทีกูก็อยากอ่านอะไรที่แปลกใหม่บ้างต่อให้ใช้เซตติ้งเดียวกันมึงก็ไม่ต้องเหมือนกันกระทั่งไทม์ไลน์ก็ได้มั้ง
ถ้ามีคนทักเรื่องการแปล ในฐานะนักแปลมืออาชีพควรจะเก็บมาคิดนะ ถ้าเชื่อแต่แฟนคลับ แปลดีแล้วจ้า ธรรมชาติแล้วจ้า จนไม่สนใจเสียงเล็กๆที่มีคนทักก็คงเหมือนหลายๆคนที่พังเพราะแฟนคลับ อยากจะให้นักแปลที่ชอบเก่งก็ต้องช่วยกันให้เค้าปรับปรุงการแปลจนเก่ง ให้หาสำนวนที่เป็นธรรมชาติของตัวเองให้เจอ เมื่อมาแปลหนังสือออกขายแล้ว คนอ่านเค้าก็ต้องคาดหวังการแปลในระดับนึงล่ะ
กูว่าเรื่องแปลทับศัพท์ ไม่มีแบบไหนดีหรือแย่อ่ะ บางคนชอบอ่านแบบทับศัพท์มากๆ บูชาเจ๊หลินโม่วว่าแปลเริ่ดหรูอลังการ ได้อรรถรสฝุดๆ ส่วนบางคนอยากอ่านแบบแปลเป็นไทยให้หมด ไม่ให้มีคำจีนเลย มันแล้วแต่คนชอบ
นึกว่าเถียงเรื่องเจิ้นกันจบแล้ว พวกเพื่อนโม่งตลกอะ
แปลทัพศัพท์นึกถึงหลิ่นโหมสแปล ตอนวัยสะรุ่นอ่านแล้วตกใจมากจีนเยอะไปไหน
>>347 บางอย่างกูเห็นด้วยนะ แต่กูเองไม่ซีเรื่องแปลทับศัพท์ไม่ทับศัพท์กูอ่านได้หมด ได้อรรถรสคนละแบบ แต่กูบอกได้แค่ว่านักแปลมืออาชีพหลายๆคนจนถึงระดับครูนี่ก็แปลทับศัพท์กันเยอะนะ กูว่าอยู่ที่จริตความชอบกับกลุ่มลูกค้ามากกว่า ถ้าคนส่วนใหญ่โอเคบางทีมึงอาจจะต้องพิจารณาว่ามันเป็นแค่ความไม่ชอบของมึงหรือเปล่า
แต่ที่กูขำคือบางคนที่ไม่โอเคกับ เจิ้น แต่เสือกโอเคกับ เกอ นี่คืออะไรวะ ย้อนแย้งไปนะมึง
b2s+meb+raw = col
>>358 น่าจะไม่มีในนี้นะ ของกู กูพูดถึงเพื่อนในเฟสกูคนนึงเห็นพวกมึงบ่นเรื่องเจิ้นแล้วกูนึกถึงนางขึ้นมา กูเพิ่งเห็นบ่นเรื่องเจิ้นไปวันก่อน นางชอบแสดงออกว่าแรงๆว่าไม่ชอบนิยายจีน(ทั้งแปลและเสินเจิ้น)ที่ใช้คำทับศัพท์ พวกเจิ้น เปิ่นกง เปิ่นหวาง แต่ฟิคนิยายที่นางหวีดใส่กูนี่มาเต็มทั้งเกอ อปป้า เซมไป เซนเซย์ ซามะ กูก็ได้แต่มองอ่อนแบบจ่ะ เอามึงสบายใจ ขนาดฟิคที่นางเขียนยังเกอกันเต็มปากเต็มคำ ย้อนแย้งจังนะมึง
เดี๋ยวนี้ กล่องไปรด้านนอกบุบเข้าไปไม่ถึงนิ้ว เราต้องประสาทเสียกันขนาดนี้เลยหรอวะ
ดูยังไงมันก็ไม่น่าจะถึงตัวของด้านใน เอามาโพสซะอย่างกับว่ากล่องโดนรถสิบล้อทับมา
เรื่องเจิ้นนี่ใครเป็นพระเอก
ตอนนี้กระแสกำลังมาอวดกล่อง/บ็อก/หนังสือ บุบ ไม่งั้นอายเพื่อน
สัยอะ เดี๋ยวนี้ ดด ไม่แบนฉากncแล้วเหรอวะ เห็นบางเรื่องลงแบบป้าบๆ ไม่เห็นโดนแบน หลายเรื่องด้วยนะ
>>368 แบน แต่มันมีหลายปัจจัยที่จะทำให้โดนหรือไม่โดน ถ้าเรื่องไม่ค่อยมีคนอ่าน ไม่ได้ติดอันดับก็แทบจะปลอดภัย 100% หรือไม่ก็ไม่มีคนกดแจ้งแบน เรื่องที่มึงเจอคนอ่านเยอะปะล่ะ ส่วนใหญ่ที่โดนแบนเพราะ 1.โดนกดแจ้ง 2.คนอ่านเยอะ+ติดอันดับ พี่เว็บจะเข้ามาสุ่มตรวจเรื่องพวกนี้เพราะกูเคยโดนมาแล้วขนาดไม่ได้ลง NC แต่ลงช่องทางไปหาบล็อกที่ลง NC อ่าน แล้วก็คำที่เค้าไม่ให้ใช้ แบบ เสียวซ่าน ห่าไรพวกนี้อะ ได้แค่ จูบ หอม กอด มากกว่านี้อาจเสี่ยงโดนตัวแดงได้
พวกมึง กูเคยเขียนฟิคแล้วเลิกเขียนเพราะไม่มีใครอ่านอ่ะ พอกูเลิกเขียนก็มีคน dm มาหายิกๆ ว่าอยากอ่าน จนกูกลับมาเขียน สรุป เขียนอีกก็ไม่มีใครเม้นให้กูรู้เลยจ้าาาาว่ามีคนอ่าน หมดกำลังใจแล้วอิเชี่ย กูโคตรเฟล กูอยากรู้ว่านข.ดังๆ ต้องสตรองแค่ไหนเวลาชวนนอ.คุยถึงนิยายแล้ว นอ.บางคนอยู่ๆ เม้น ยังไม่ได้อ่านเลย กูว่าไม่ต้องพูดตรงขนาดนี้ก็ได้ กูสงสาร นข. ชิบ
>>372 กูเข้าใจมึงมาก ละทุกวันนี้กูก็จัดให้คนอ่านประเภทนี้ (คืออ่านแต่ไม่เมนต์ พอไม่อัปเสือก dm มายกยอว่าเรื่องสนุก ติดตาม อย่าท้อ ให้กลับมาต่อ) เป็นพวกผีไป แต่ก็ใช่ว่าคนเขียนที่ได้เมนต์เยอะๆ จะไม่มีคนอ่านผีๆ ถ้ามึงแต่งแล้วเหนื่อย ผลลัพธ์ออกมาแบบนี้ก็พอเหอะว่ะ นอกจากมึงอยากสู้จริงๆ ก็ลองสู้ดู เวลากูเสพงานใครกูเลยพยายามเมนต์ให้เค้ายาวๆ เท่าที่ทำได้เพราะกูเข้าใจหัวอกคนแต่งเลยว่ามันไม่ง่าย เมนต์ง่อยๆ 1เมนต์บางทีก็อาจเป็นกำลังใจสำคัญของคนแต่งก็ได้ ละเท่าที่กูเคยเจอ คนอ่านที่เป็นประเภทเงาๆ เวลากูหายถึงเห็นค่า มักจะเมนต์หรือสกรีมอย่างบ้าคลั่งให้พวกคนแต่งดังๆ หรือคนแต่งเซเลปที่ยอดฟอลเยอะๆ บางทีกูก็รู้สึกว่าแม่งไม่ยุติธรรม อ่านงานคนอื่นเมนตืได้ แต่อ่านงานกูเมนต์ไม่ได้ พอกูหายก็มาบอกชอบงั้นชอบงี้
>>372 ก่อนจะดังกูก็เขียนไปเรื่อยอ่ะมึง กูคิดเรื่องแล้ว วางพล็อทแล้ว กูชอบเขียนก็เขียนไปอ่ะ เรื่องสอง เรื่องสาม คนเม้นท์ไม่เม้นท์ก็ไม่ได้สนใจ55555555555555 เขียนไปเรื่อยๆ สักวันถ้ามึงเจ๋งคนจะเห็นเอง อาการท้อมันก็มีทุกคน นักเขียนดังเคยผ่านมากว่าจะดัง อยู่ที่ว่าใครล้ม ใครเลิก ใครพยายามต่อ
>>376 ในเล้าปะวะ สตก เนี่ย กูเคยลงในเล้าละเจอคอมเมนต์เป็น สตก บอกตรงๆ ตอนนั้นกูเงิบมาก กูไม่เคยเจอคอมเมนตืแบบนี้มาก่อน คือเมนต์สั้นสุดที่กูเคยเจอคือ ชอบ / ขอบคุณ งี้ในเด็กดี เจอสตก.ตัวเดียวในเล้าเข้าไปนี่กูเหมือนสำเร็จวิชาอีกขั้นสัดๆ แบบ เออ อิเหี้ย กูแต่งเป็นวันๆ แต่กูได้สตก.มาหนึ่งตัว จาร้องงงห้ายยย 55555555555555555
>>377 คำว่าสักวันมึงเจ๋งคนจะเห็นบางทีก็ใช้ไม่ได้กับทุกคนอะ กูรู้จักเพื่อนที่เขียนนิยายดีๆ แต่ทำไงก็ไม่เป็นที่รู้จักสักที ของแบบนี้ฝีมืออย่างเดียวไม่ได้อะ บางทีแต่งดีแค่ไหน ถ้าไม่ถูกจริตแม่งก็ตาย ละความดังของขนก็ไม่ได้การันตีคุณภาพงานปะวะว่าดีจริง บางคนดังเพราะฝีมือจริงๆ แต่บางคนก็ไม่ใช่
>>385 ถ้าเขียนให้โง่แล้วภาษาสวย เอ็นซีดีกูก็อาจจะลองนะ กูเป็นประเภทรับคาแรคเตอร์นายเอกโง่งมได้พอสมควรถ้าภาษา/การบรรยายแม่งถึง แต่ต้องถึงไง ซึ่งจากที่ฟังเพื่อนระบายกะพวกมึงคุยกันกูว่าไม่น่าถึง 5555555555 ละความโง่ก็น่าจะโง่คนละแบบกับที่กูรับได้ อย่างนายเอกคนเลี้ยงม้าก็ถือว่าเป็นคนโง่งมสำหรับกู แต่แม่ง กูโคตรชอบ ส่วน นปค นี่น่าจะโง่แบบปัญญาอ่อน กูขอบาย 55555
เพื่อนโม่งนข.ทั้งหลาย เราขอโทษที่อ่านแล้วไม่เม้นแต่เรากดใจให้ตลอดและไม่เคยเขียนไปอวยหลังไมค์เวลาหายไม่มาลงตอนต่อ หรือ donate เหรียญให้เงียบๆ โดยไม่เม้นอะไรทั้งสิ้น เราเคยเห็นนักเขียนหลายคนแค็ปเม้นนักอ่านไปแปะหน้าเพจทั้งดีและไม่ดีซึ่งส่วนใหญ่จะไม่ดี เราเลยไม่เม้นอะไรทั้งนั้น เพราะไม่รุ้คำที่ใช้จะไปจี้จุดนักเขียนให้ไม่พอใจมั้ย มีบ้างที่เคยอีเมลไปหานข.ให้กำลังใจเวลาเห็นเหมือนเค้าจะท้อแต่ไม่เคยเร่งขอตอนต่อ จะดองจะไม่มาอัพต่อก็สิทธิ์ของเค้าเราเข้าใจตรงนี้ อ่านเพื่อนโม่งนข.บอกเป็นพวกผีแล้วยิ้มแห้ง
นปค ยืดมาก แรกๆ ดีนะแต่พอกลางเรื่องเราเทไปเพราะมันยืดแบบดิ่งเหว ฟ้าจากrough and tender เราว่าไม่เหมือนมูนนี่ มูนนี่ไม่ใสแบบที่เขียนแรกๆ เหมือนเด็กแอ๊บแบ๊ว
>>370 ลงช่องทางเขาห้ามว่ะในกฎมีเขียนชัด ถ้าอยากให้คนอ่านอ่านต้องใบ้ให้คนอ่านไปถอดรหัสเอง รู้สึกถ้าให้คนอ่านลงเมลล์ให้คนเขียนส่งให้ทางเว็บก็ผ่อนผัน
พูดถึงเรื่องเมนท์ไม่เมนท์ ล่าสุดกูพึ่งอ่านนิยายจบแล้วหลังไมค์ไปหาคนเขียน คนเขียนขอบคุณบอกชอบที่กูเมนท์ยาวงี้ เขินไปสามบ้านแปดบ้านรู้สึกอิ่มใจมาก แต่กูเขินคนเขียนมากไปจนไม่ได้คุยเรื่องในนิยายต่อ รู้สึกอยากบอกรักคนเขียนมากกว่านี้แต่ไม่ไหวจริงๆว่ะ
ส่วนตัวกูว่าถึงเมนท์เป็นสตกจะรู้สึกเงิบเบาๆ แต่ดีกว่าไม่เมนท์เลยนะ อย่างน้อยก็สามารถมโนได้ว่ามีคนอ่าน
งั้นกูขอถามพวกคุณมึงหน่อย ว่า nc แบบไหนที่พวกมึงชอบอ่านกัน ต้องเขียนแบบไหน มึงยกตัวอย่างชือเรื่อง หรือชื่อย่อ นข มา เดี๋ยวกูจะลองไปไล่อ่านดู สำหรับตัวกูเองกูชอบ อ่าน nc ของนข ยสขค กับเรื่อง เหมายัน อันนั้นโคตรถูกจริตกู
>>372 กูเคยอยู่ในสถานการณ์เดียวกับมึง สุดท้ายกูปิดเรื่องและไม่เขียนต่ออีกเลย พอปิดถึงมีคนทักมาถามทางหลังไมค์และเม้นหน้านิยาย ถ้ากูไม่ปิดก็ไม่มีใครเม้นเหมือนเดิม
พูดถึงแล้วกูบ่นเรื่องเม้นได้มั้ย กูไม่ชอบเรียงร้อง บังคับให้ใครเม้นนะแต่ทุกตอนยอดเม้นลดลงเรื่อยๆ จนกูเริ่มไม่มีแรงใจอยากจะเขียนนิยายหรืออัพต่ออีกแล้ว กลายเป็นรู้สึกเหนื่อยแทน กูคิดหลายครั้งเลยว่านิยายตัวเองไม่สนุกรึเปล่า ยอดอ่านถึงเป็นพันแต่เม้นกันแค่ยี่สิบกว่าคน
ตอนนี้กูท้อแท้มากไม่รู้ว่าจะไปพูดกับใครได้
กูเห็นใจทุกคนนะ ไม่เป็นไรนะ ไม่เม้นก็ไม่เป็นไร
Ky คนที่รีวิวนิยายในกลุ่มสปอยล์ที่ชื่อย่อคือ Ssn pmp รูปโปรการ์ตูนผู้หญิงๆนี่ไว้ใจได้มั้ยอ่ะ เขาไม่ได้เป็นม้าหรือเซเลปใช่มั้ย กูสงสัยหน่อยๆแต่อ่านแฮชแท็กละตลกดี
Ky กูอ่านโพสล่าสุดในกลุ่มสปอย เรื่อง ลูกค้าให้แม่ค้าส่งไป 2ที่แล้วไม่ให้ค่าส่ง กูโคตรตะหงิดใจเลย กูว่าคนซื้อเอาไปขายต่อแล้วไม่คิดจะเสียค่าส่งแน่
กูเคยอ่านของนข.คนหนึ่งเว้ย เขาเขียนดีนะเกือบทุกเรื่องเลย แต่เรื่องมันจะออกหม่นๆ มีเรื่องล่าสุดนี่ล่ะที่ฮาดี คนเม้นท์น้อยมาก กูเลยเม้นทุกตอนเลย
กูเข้าใจนข.ที่ให้แปะเมลล์ขอ NC นะเว้ยมึง คือเรื่องที่กูอ่านคนเขียนที่กูตามเขาก็ให้แปะเมลล์ตั้งแต่สมัยคนอ่านน้อยๆ พอคนอ่านเยอะให้ทยอยส่งก็ไม่ไหวป่ะวะ เลยมีการลงบล็อค นักอ่านบางคนขี้เกียจหา เลยวอแวจะเอาแต่เมลล์เว้ยทั้งๆ ที่พิมในอากู๋ก็เจออ่ะ
>>397 NC ที่กูอ่านไม่รอดก็พวกส่งเสียงอร๊าง อ๊า ทั้งเรื่องอ่ะแบบไม่บรรยายอะไรเลยนอกจากส่งเสียงและใส่ๆ แถมคำบรรยายยังหยาบคายด้วย
ถ้าเป็นเล่มที่กูชอบมีพันธนาการแห่งสายน้ำ กับ carts visa อ่ะ เขาบรรยายดีนะไม่ต้องส่งเสียงอร๊างอ๊าอะไร ภาษาที่ใช้เขียน NC สวยเลยล่ะ
ส่วนในเว็บกูชอบเรื่อง Hot room คือแค่อ่านก็รู้สึกจินตนาการภาพตามได้และรู้ว่ามันเซ็กซี่มาก กับเรื่อง oxytocin NC ละมุนและอบอุ่นดีที่สำคัญตรรกะค่อนข้างสมเหตุสมผล
>>410 กูเข้าใจมึงนะ กูเคยอัพทิ้งไว้แล้วไปนอนกะว่าตื่นมาได้อ่านเม้นสวยๆ ปรากฏว่ายอดวิวพันห้าเม้นสิบเอ็ดเม้น กูหมดแรงเลยจริงๆ มันเกินไปอะสำหรับกูกับการที่กดเข้ามาอ่านเป็นพันแต่เม้นแค่สิบกว่าเม้น แต่ดีที่ช่วงดึกๆ เหมือนคนเม้นขาประจำกูทยอยกันมาอ่านมั้ง น่าจะพึ่งว่าง เม้นเลยค่อยๆ ไต่ขึ้นมาแต่ก็ยังถือว่าน้อยกว่าตอนก่อนหน้าอยู่ดี ถ้าวิวมันลดแล้วเม้นน้อยลงกูคงจะไม่เซ็งมากอะเพราะคนอ่านน้อยลง แต่นี่ไม่ใช่ไง คนอ่านแม้งเท่าๆ เดิม แต่ไม่มีเม้น คืออิหยัง 5555
กูปลงกะพวกคอมเม้นต์แล้ว เขียนมาเกือบสิบปีแรกๆ ก็อยู่ได้ด้วยเม้นต์ หลังๆ เขียนเพราะอยากเขียน เขียนเพราะกูอยากอ่านแบบนี้แต่ไม่มีคนเขียน มีคนหลงมาเม้นต์ให้ก็ชื่นใจ ไม่มีกูก็เขียน เพราะกูอยากเขียนจริงๆ ถถถถถถถถ
กูนี่....ไม่เหลืออะไรเลย 5555
กูขอมาโม่งด้วยคน ตอนแรกเปิดมาคนเม้นกันเยอะมาก แต่พอตอนหลังคนเม้นเริ่มน้อยลงๆ...จนหมดอารมณ์แต่ง พอกูหายไปนานๆ ก็เริ่มมีมาเม้นทวง แต่พอกูอัพคนคนนั้นก็หายไป ตอนทวงโผล่มาพออัพไม่มี...เม้นก็ยิ่งลดลงทุกตอนๆ
กูโคตรงงสนุกก็แต่งสนุกหรือไม่สนุกวะ คือถ้าเปิดมาเม้นน้อยแต่แรกแล้วเฉลี่ยกันทุกตอนยังพอไหว แต่เปิดเรื่องมาดีแล้วหลังๆ ยิ่งลดนี่โคตรเจ็บปวด
แต่สุดท้ายช่างแม่ง เมื่อก่อนตอนอัพนั่งรีรอดูเม้น ตอนนี้อัพทิ้งไว้เป็นวันๆ ค่อยมาดูทีเดียว ไม่สนใจ มุ่งมั่นหาลูก(ตัวเอกในนิยาย)เยียวยาใจแทน
ถามหน่อยนะคับ อยากลองส่งต้นฉบับนิยาย มึงว่าสำนักพิมพ์ไหนน่าส่งไปบ้าง ขอเหตุผลด้วย
>>416 อันนี้น่าเจ็บปวดอะถ้าเปิดมาอย่างพีคแล้วหลังๆ แผ่วลง กูก็ไม่รู้หรอกว่าเรื่องมึงเป็นยังไง แต่ถ้ามันยังสนุกแล้วเป็นแบบนี้ก็ชวนงงอะว่าทำไมไม่เม้น หรือมันดรอปลงแต่ไม่มีใครบอกหรือเปล่าวะ อันนี้คิดอีกแง่นะว่าความสนุกของคนอ่านอาจลดลง หรือมึงหายไปนาน บางทีการทีหายหน้าหายตาไปนานก็มีผลนะเว้ย
>>417 นิยายมึงแนวไหนล่ะ
ขอ KY เดี๋ยวนี้ห้องสป.แม่งอาการหนักขึ้นทุกวัน ปกติถ่ายรูปลงตำหนิระดับไข่เหามาหาพวกบ่น เดี๋ยวนี้ยังไม่ทันแกะห่อแกะซองก็โพสแล้วว่ากล่องบุบมั่ง ซองฉีกมั่ง คือมึงยังไม่ได้แกะดูขอข้างในเลยนะ คนพวกนี้ต้องการอะไรจากสังคมวะ กูอยากรู้
กูนึกว่า เจิ้น คือชื่อเล่น......... พึ่งรู้ว่ามันคือคำแทนตัวว่า 'เรา' ไรงี้ของฮ่อง จากในทู้นี่
นึกว่าเรียกชื่อเล่นตัวเองในการพูด ยังว่าอยู่ทำไมแบ๊วจังวะ.......
>>397 แล้วแต่อารมอ่ะ ถ้าอ่านเอามันส แบบน้องยีนสก็อ่านได้นะ เรื่องเสียวแนวเฝ้าบ้านกะพี่เขยก็ได้ แต่อ่านแล้วรู้สึกกลายเป็นคนเถื่อนขึ้นมาเลย55
กุว่าคนแต่ง เรื่อง ยากนักรักนี้ เขียน nc ดีนะ แต่ตอน hello sunshine เฉยๆ
อีกคนก็คนเขียน คิงสคลับ แต่ไม่ชอบตอนเค้าเขียนคิงสคลับเท่าไร เพราะไม่ชอบเรื่อง แล้วก็นิสัยตัวละครด้วยละมั๊ง ถ้ากุไม่จิตใตหงุดเงี้ยวมาก กูจะไม่ค่อยชอบคำว่ารูเท่าไร แบบอ่านๆได้ แต่อย่าใช้บ่อย มันดูหยาบชิบหาย555 ยิ่งถ้าอยู่ในบทสนทนาของตัวละครด้วยนะ แต่ตัวละครเรื่องนี้มันก็เน้นเปิดเผยเรื่องอย่างว่านั้นละ กุชอบตอนเค้าเขียนเรื่อง Knight hour มากกว่า แต่ตัวละครมันคนละแบบกันอ่ะ
คนเขียนเรื่องเธอคือลมหายใจก็เขียน nc เก่งนะ เอนซีหวานๆ
กูเคยแต่งนิยายลงเน็ตเมื่อนานมาแล้วนะ ส่วนตัวกูถ้ามีคนเม้นท์กูก็จะดีใจอ่ะ แต่ถ้าไม่เม้นท์มีแค่ยอดวิวขึ้นกูก็แฮปปี้แล้ว กูว่าอันดับแรกมึงต้องตั้งสติก่อนนะว่ามึงแต่งนิยายเพราะอะไร
แต่งเพราะอยากแต่งเอง
แต่งเพราะอยากรวมเล่ม
แต่งเพราะอยากดังมีคนสนใจ
ถ้าสมมติว่าเป็นเพราะเหตุผลแรกมึงก็เขียนของมึงต่อไปเวลาว่าง เขียนจบก็ลงเขียนไม่จบก็ปล่อยไปก็แค่นั้นอย่าไปสนใจเรื่องเม้นท์ แต่ถ้ามึงแต่งเพราะเหตุผลอื่นก็แล้วแต่มึงแล้ว ส่วนที่บอกไม่มีคนเม้นท์แล้วมึงท้อ จะทิ้งนิยายไปเลยก็แล้วแต่มึงว่ะ ท้อหนักก็พักไปก่อนไว้มีไฟค่อยมาแต่งต่อก็ได้
อีกเรื่องสำหรับกูนะ ไม่เกี่ยวกับมึงหรอกแต่กูอยากบอก กูไม่ชอบนข.ที่บังคับเม้นท์มากๆ สมัยฟิค jr จะมีนข.คนนึงที่บังคับให้เม้นท์สุดท้ายกูเลิกตามเลยทั้งๆทีเคยชอบนิยายเค้าหลายเรื่อง คือถ้าเขียนว่าขอเม้นท์เพื่อเป็นกำลังใจกูยังอยากเม้นท์ให้แต่มาบังคับนี่กูไม่โอว่ะ
>>431 ฮือ กด+ เวลาเจอนิยายที่นข.เขียนตีแสกหน้าว่าไม่ทำตัวเป็นนักอ่านเงา อ่านแล้วเม้นต์ด้วยมันรู้สึกว่างั้นขอโทษเราไม่อ่านแล้วกัน และเห็นด้วยที่ต้องคิดก่อนว่าแต่งนิยายเพราะอะไร นึกว่าจะไม่มีคนคิดแบบนี้แล้ว หลังๆเจอแต่บังคับเม้นต์ ประมาณเม้นต์เยอะๆ ตอนต่อก็มาไว ได้แต่สงสัยอยู่คนเดียว
คงอยู่ทุ่งลาเวนเดอร์ทุกวัน ปลิงในวงการเยอะกว่าเห็บเหา เขียนลงนิยายไปเรื่อยๆถึงแม้จะเห็นแค่ยอดวิว กูขำ โง่ฉิบหายเลย
>>433 จับมือกูอ่านก็ขำ ดอกไม้ปลิวกระเด็นติดหน้ากู เขียนวัน ๆ ไม่มีใครเม้นต์ก็ภูมิใจ โธ่ เขียนอ่านเองดีกว่าที่เขียนลงเว็บเพราะอยากให้คนเห็น อยากให้คนอ่านแล้วแสดงความคิดเห็น สำหรับกูนขอุตส่าห์เขียนให้อ่านตอนหนึ่ง ๆ ใช้เวลาเป็นวัน บางคนเป็นอาทิตย์แต่นักอ่านไม่มีเวลาคอมเม้นต์สักนาที พอขอคอมเม้นต์เสือกอ้างว่าถูกบังคับ
กูเป็นคนเขียนที่อยากเขียนแต่ก็โลภอยากได้คอมเม้นจากคนอ่านที่เข้ามากดอ่านอะ กูคงทำใจให้โลกสวยว่าแค่มีคนเห็นก็ดีใจแล้วไม่ได้จริงๆ
ส่วนเรื่องเม้น โดยส่วนตัวกูไม่เคยบังคับคนอ่านนะ แต่กูมักจะเจอพวกที่ชอบโผล่มาตอนกูแจกของ มีฉาก NC หาลิ้งบล็อกไม่เจอ มาเม้นบอกให้กูมาต่อทั้งๆ ที่ไม่เคยเม้นมาก่อน แล้วถามจริงเหอะ ถ้าเสพงานใครแล้วชอบมึงจะไม่คิดอยากเม้นให้กำลังใจเค้าหน่อยเหรอวะ เป็นคนแต่งนี่ได้อะไรบ้าง มาอัพช้าก็บ่น แต่งยาวไม่สะใจก็บ่น หายหัวไปก็บ่น ท้อก็หาว่าหวังมากไป กูบ่นก็หาว่ากูเล่นตัว สุดท้ายก็บอกว่าสู้ๆ ละกันนะ จะรออ่าน ติดตามอ่านมาตลอดนะคะ แต่เราเม้นไม่ค่อยเก่ง แต่อยากบอกว่าเราชอบงานของคุณมากจริงๆ 55555555555555555 ทำไมกูหงุดหงิดก็ไม่รู้ตอนอ่านความเห็นมึงเรื่องเห็นแค่วิวก็ดีใจแล้ว
เมนตเหมือนกำลังใจที่เค้าจะให้ก็ได้ไม่ให้ให้ก็ไดดริมึง นิยายเน็ทก็เงี้ย คนแต่งดองก็เรื่องคนของแต่ง คนแต่งเปิดนิยายให้อ่านแค่ครึ่งนึง เปิดขายเหรียญก็เรื่องคนแต่ง คนอ่านแล้วไม่เม้นก็เรื่องคนอ่าน นักเขียนบังคับเม้นคือข้อตกลงในการอ่านนิยายเรื่องนั้นจะอยากอ่านต่อก็เมนตไป ใครจะเลิกอ่านก็เลิกไป
กุไม่เข้าใจว่าอ่านไม่เม้นมันปลิงตรงไหน
>>438 กูเป็นนักอ่าน อ่านความเห็นแบบนี้ยังหงุดหงิดเหมือนนขต้องยอมทน แต่งแบบโลกสวยไม่หวังอะไร พูดตรง ๆ ถ้านขไม่อยากได้คอมเม้นต์แค่อยากแต่ง ไม่มาแต่งลงเว็บให้คนอ่านหรอก แต่งลงเว็บเพื่ออยากเห็นกระแสตอบรับ ถ้าแค่อยากแต่งแค่แต่งก็ฟิน จะเอาลงเว็บทำไม กูโมโหแทนนขดี ๆ หลายคน ตอนหนึ่งมีคนอ่าน 200-300 คน ยอดวิวก็ขึ้น ทั้งหมด 43 ตอน มีแต่กูคอมเม้นต์ให้นขคนเดียว 42 ตอน มึงคิดดูว่ากูเว้นตอนสุดท้าย รอดูว่าถ้ากูไม่เม้นต์จะมีนักอ่านคนอื่นโผล่มาช่วยเม้นต์ไหม ผ่านมาหนึ่งปี ยอดเม้นต์ยังเท่าเดิม 42 เม้นต์ทำให้กูจุกแทนนขเลยที่เขาเขียนบอกตอนจบว่าขอบคุณที่ให้กำลังใจมาตลอดถึงตอนจบ คนอ่าน 200-300 มีกูคอมเม้นต์คนเดียว
ถ้าอ่านแล้วไม่เม้น = ปลิง โอเค กูไม่อ่านก็ได้ เม้นสติ๊กเกอร์ก็ไม่ดี เม้นว่าสนึกว่าชอบสั้นๆก็ไม่ชอบ ต้องเขียนเรียงความให้ทุกตอนเลยมั้ย
ก็ถ้านข.อย่างพวกมึงจะมองเป็นนอ.ปลิง นอ.เงาเห็บเหาอะไร กูก็ไม่สนหรอก เห็นมึงมาบ่นในนี้กูก็เลยเขียนความเห็นกูไปไง ส่วนตัวกูคอมเม้นท์เฉพาะนิยายที่กูชอบหรืออ่านแล้วมีจุดสงสัยไม่ได้คอมเม้นท์ดะทุกเรื่องที่อ่านอยู่แล้ว
สุดท้ายไม่ว่าใครจะคิดยังไง จะบ่นอะไร มันก็เป็นนิยายที่มึงแต่ง มึงมีสิทธิ์เลือกจะเขียนต่อหรือจะไม่มาเขียนต่อ จะบังคับเม้นท์เยอะค่อยมาต่อ จะปิดตอนเก็บเงินหรือจะตีพิมพ์เป็นหนังสือก็เป็นสิทธิ์ของมึงอยู่ดี ส่วนสำหรับคนอ่านมันก็เป็นสิทธิ์ของเค้าที่จะอุดหนุนเวลารวมเล่มหรือไม่อ่านต่อ จะคอมเม้นท์หรือไม่คอมเม้นท์ ก็แค่นั้น
ถ้าอ่านแล้วไม่ชอบ ไม่ใช่สไตล์ ไม่ถูกใจ ก็เลยไม่เม้น อันนี้ก็เรื่องของมึงอะ ถือว่ามึงไม่ได้ชอบงานเรื่องนั้นๆ
แต่ถ้ามึงอ่านแล้วชอบ ติดตามแม่งทุกตอน แล้วไม่คิดจะเม้นเลยสักนิดเดียว อันนี้ก็ลองคิดเอาเองละกันนะ
>>441 เล่าแล้วกูยังจะร้องไห้ สงสารนขมาก นิยายเขาภาษาดี เนื้อเรื่องดี ส่งไปสนพก็ผ่าน แต่สุดท้ายไม่ได้ตีพิมพ์ เพราะอะไรรู้ไหมมึง บก.เดี๋ยวนี้ต้องดูยอดวิว+ยอดเม้นต์ในนิยายว่ามีนักอ่านสนใจเยอะไหม นิยายของเขาผ่านแต่สนพ.เลื่อนไม่ตีพิมพ์สักทีจนกูต้องไปถามเขาว่าเมื่อไรจะพิมพ์กูรอซื้อ นขก็บอกแค่สนพ.ส่งอีเมลมาขอยกเลิกแล้ว กูพูดไม่ออก หลังจากนั้นเขาก็เงียบไม่เขียนอีกเลย ถ้านักอ่านคนอื่นคงด่าเขาว่าเป็นนขอ่อนแอได้แค่ยอดวิวก็ควรภูมิใจแล้ว จะบังคับให้เม้นต์ทำไม กูว่าบางทีถ้านักอ่านอ่านแล้วช่วยคอมเม้นต์สักประโยคมันไม่ใช่เรื่องยากเลย
>>448 กูจุกแทนนักเขียนมึงเลย กูก็ไม่เข้าใจคนอ่านเดี๋ยวนี้ว่าเป็นอะไร เอาเฉพาะกรณีที่อ่านแล้วชอบ อ่านแล้วติดตามแต่ไม่คิดจะเม้นนะ เม้นให้คนแต่งนิดหน่อยนี่แม่งจะเป็นไรวะ ไม่มีอะไรเสียหายเลยสักนิดถ้าจะเม้นให้กับงานที่ตัวเองอ่านแล้วชอบ เผลอๆ มึงจะยิ่งมีแต่ได้เพราะคนเขียนเค้าได้รับกำลังใจ พอได้รับกำลังใจ ใครๆ ก็อยากที่จะรีบเข็นงานตอนต่อไปมาให้คนอ่านไวๆ ทั้งนั้น
>>447 กูเห็นด้วย อ่านไม่ชอบก็ปิดไปเลย แต่ถ้ามึงอ่านมาตลอดจนถึงตอนสุดท้ายแต่มึงบอกว่าไม่ดีพอที่จะคอมเม้นต์ กูว่าเหี้ยเกิน พูดแล้วอารมณ์ขึ้น 43 ตอน มีกูคอมเม้นต์คนเดียว 42 ตอน เพื่อนนักอ่านที่อ่านรวมกันมา 200-300 คน อ่านจนจบแต่ไม่เม้นต์คืออะไรวะ ฝืนใจอ่านจนจบ ?
หลงมาอ่านกูอึ้งๆ หน่อยที่ เขียนโดยไม่หวังเม้นนี่โลกสวยเหรอ เหมือนโดนเหน็บไปด้วยเลย 555+ ไหนๆ ขอแชร์บ้างละกัน คือนี่ก็เขียนแบบไม่หวังคอมเม้นเท่าไรว่ะ ได้ก็ดี รู้สึกขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะ แต่ไม่ได้กูก็เขียนอยู่ดี ถึงจะบอกถ้าไม่หวังเม้นเอามาโพสทำไม ก็อยากโพสเก็บลงบลอคอะไรให้เป็นระเบียบ หรือไหนๆ ละก็แปะทิ้งไว้ละกันง่ะ ซึ่งกูเข้าใจคนที่อยากได้เม้นนะ แต่เออคนเฉยๆ เรื่องคอมเม้น แค่เขียนเสร็จแล้วโพสพอใจละก็มีง่ะ
ระหว่างนขโนเนมกับนขมีชื่อ เขียนตีมเรื่องคล้ายกัน
สนพอยากเอาใครไปตีพิมพ์ขายมากกว่า คิดไม่ยาก
กลืนลงท้องแล้วย่อยใหม่เป็นขี้ทองคำ
ซื่อตาใส เขียนให้คนอ่านแบบไม่หวังอะไรเลย
แต่มึงก็ให้กำลังนักเขียนไปเถอะ มีแต่เรื่องดีๆ ไม่เห็นมีไรเสียหาย แค่ความขี้เกียจของมึง 3 วินาที อาจจะทำให้ใครบางคนดีใจไปตลอดทั้งวัน ไม่ใช่ว่านข.ทุกคนจะมีจิตใจแข็งแกร่งไม่สนห่าเหวอะไรทั้งนั้นแบบกู555555
เรา >>432 เฮ้ย! เรากลายเป็นนักอ่านปลิงไปตั้งแต่เมื่อไหร่วะ 555 เราไม่เม้นต์แต่ถ้าติดเหรียญเรากดซื้อหมดนะสำหรับนิยายที่กำลังอ่านอยู่และจะเม้นตืเมื่ออ่านจนจบ ยาวด้วย เหมือนอ่านจบก็เม้นต์รวดเดียว ถ้าปิดตอนเวลาพิมพ์แล้วก็ไปซื้อเล่ม ไม่เคยบ่นไม่เคยเม้นต์ทวงนิยาย หาเอ็นซีไม่เจอช่างมัน ไม่เคยติดต่อนักเขียนไปรบกวนเรื่แงพวกนี้ถ้าไม่เคยเม้นต์อะไรมากก่อน คงคล้ายๆ เหมือนคนไม่เคยคุยกันวันนึงไม่เห็นหน้า สงสัยแต่ก็ปล่อยผ่าน เจอหน้าอีกทีก็ไม่ไปถามเค้าว่าเธอเมื่อวันก่อนไปไหน ไปทำอะไร พอรุ้แล้วก็กลับไปไม่ทักทายเหมือนเดิม เราคงผิดเองขอโทษที่รบกวนไปอ่านนิยายแล้วไม่เม้นต์นะ รู้แบบนี้เวลาเจอเรื่องไหนขอเม้นต์เยอะๆ เราจะได้ไม่ไปอ่านให้รกตารกยอดวิวนักเขียนเหล่านั้นให้เค้าโกรธนักอ่านที่อ่านเงียบๆ จ่ายเหรียญและเปย์เล่มเงียบๆ แบบเราหรอก
>>455 จะบอกว่าให้ตังแล้วยังเรื่องมากดิ
กูว่านขได้ตังมักไม่สนคอมเม้นให้กำลังใจ
เขาหมายถึงพวกอ่านเงียบ อ่านฟรี ตามอ่านทุกตอนแต่ไม่เม้นสักคำมากกว่า เพราะมันของฟรีเสือกเขียนให้อ่านเองเรียกร้องห่าอะไรอีก เรื่องมาก
นขแม่งพ่อพระสัสๆ อ่านให้พวกสักแต่อ่าน อยู่ได้ พอมีคนอ่านอยู่เงียบๆ ก็ฟินได้
แต่กูกลับคิดว่านิยายเรื่องไหนคนไม่คอมเม้นหีแตกอะไรเลยมีแต่ยอดวิวแสดงว่านิยายเรื่องนี้มันแค่พออ่านได้แต่มันขายไม่ได้ กูไม่พิมพ์ขายให้ขาดทุนแน่นอน
>>448 เฮ้ย ทำไมน่าสงสารจังวะ ถ้าส่งผ่านแล้วแสดงว่างานเค้ามีคุณภาพระดับนึงเลยนะ แต่ดันถูกยกเลิกเพราะไม่มีคนเม้นต์เนี่ยนะ โคตรเฟลแทนเลยอะ
กูเคยเห็นเงื่อนไข สนพ. เวลาส่งต้นฉบับ ถ้ามีงานลงเว็บให้ลิงก์มาด้วย แต่ดันกำกับต่อท้ายว่าไม่มีผลต่อการพิจารณา กูยังเคยสงสัยไม่มีผลแล้วให้ลิงก์ไปทำไมวะ ที่ไหนได้แม่งมันก็มีผลอยู่ดี
แต่จะว่าไปกูก็สงสัยกับคนอ่านสมัยนี้เหมือนกันว่ะ บางเรื่องพล็อตหลวมโพรก เขียนคำผิดตรึม เนื้อหาเหมือนเอาสะใจเข้าว่าดูไม่มีอนาคตแม่งคนเม้นต์เพียบ จะ"ตาม" หรือ "ต่อ" อะไรสั้นๆ ก็ยังอุตส่าห์เม้นต์กัน แต่งานที่ดีๆ ที่ดูมีอนาคตกลับเงียบตั้งแต่ยันจบทั้งที่วิวก็ไม่ได้ขี้เหร่แสดงว่าอ่านกันแต่ไม่เม้นต์ ไม่ต้องแปลกใจว่านักเขียนที่เขียนดีๆ หลายคนจะท้อถอยไป เพราะไม่ใช่ทุกคนที่อยู่ได้โดยไม่ต้องการกำลังใจ สามารถอยู่กับสภาพเหมือนสื่อสารออกไปก็ไม่มีการตอบรับแบบนั้นได้
อันที่จริงเม้นต์นิดเม้นต์หน่อยให้รู้ว่ามีตัวตนมันก็ไม่เสียเวลามากมายอะไรนะ ถ้าอ่านแล้วชอบงานเค้าน่ะ
ky หน่อยนะทุกคน ในนี้มีใครรองาน box เรื่อง heaven's rain อยู่มั่งป่ะ เมื่อวานแอดมาอัปเดตแล้วจ้ะ ยังไม่เสร็จอีกตามเคย กูโคตรงง งานผิดพลาดซ้ำซาก ตรวจมากี่รอบแล้วป่านนี้ยังไม่ได้พิมพ์ ดูจากคำอธิบายเมื่อวาน กูว่าต้นเดือน กค ยังไม่รู้จะได้หนังสือรึเปล่า กูเบื่อเหลือเกินกับค่ายนี้ ถ้ายังทำเรื่องต่อไปกูคงต้องขอบายละ แต่ทางที่ดีกูว่าเลิกทำต่อเถอะ เฮ้อออ ถ้าปลายเดือนยังเงียบๆ ไม่มีแววเสร็จกูจะไปขอตังคืน ไม่รอแม่มละ
กูก็เป็นนข.คนหนึ่งนะเริ่มตั้งแต่นิยายไม่มีคนอ่าน ทั้งๆ ที่นอน.หลายคนมีแต่คำชมให้ พอช่วงกูว่างกูเลยอัพนิยายทุกวัน...กูไม่รู้ว่ามันเกี่ยวไหมนะ การที่มึงอัพทุกวันจะทำให้คนเข้ามาดู และยอดวิวมันขึ้นท็อป มีคนอ่านมากขึ้น กูไม่เคยเรียกร้องคอมเม้นท์ กูเขียนเพราะกูอยากเขียน แต่ยิ่งมีคนอ่านมากมึงก็จะเจอปัญหาตามมาด้วย คนอ่านบางคนบอกว่าฉากเอาคืนแค่นี้ไม่สะใจเลย ต้องแรงๆ สิฆ่าได้ฆ่าเลย บางทีก็จะเอาโน่นเอานี่ และบางทีก็เป็นโทรลคุงมาป่วนมาด่า คือไอดีใน ดด. มันก็ดูคร่าวๆ ได้นะเลขไอดีต่างกันแค่สามตัวหลัง กูก็ท้อเป็นนะพวกมึง เฮ้ออ
ส่วนตัวกูเองถ้าอ่านนิยายเรื่องไหนแล้วชอบ ติดตาม ก็คอมเม้นนะ แต่ไม่ได้เขียนยาวอะไร ส่วนนิยายตัวเองนี่เฉยๆ ว่ะ กูถือว่าตัวเองแค่อยากเขียน ไม่ได้จริงจังถึงขั้นว่าต้องได้ตีพิมพ์ ไม่มีคนคอมเม้นก็ไม่เป็นไร มีคนกดไลค์ให้ก็โอเคแล้ว เขียนจบทำเล่มเองแล้วเอามาแจกฟรี เพราะกูมีเงินเหลือและกูอยากทำ (แต่ถ้ามีคอมเม้นก็ดีใจนะ)
ky กลุ่มสปอยนี่นับวันยิ่งตลก ทะเลาะกับแม่ค้าก็เอามาฟ้อง กล่องไปรฯ บุบยังไม่ทันเปิดดูข้างในก็เอามาฟ้อง หนังสือมีรอยยับเท่าจิ๋มมดก็เอามาฟ้อง กูเข้าไปในกลุ่มทีไรไม่ค่อยมีเรื่องจรรโลงใจเลย
>>463 กูเป็นแม่ค้ากูก็ยกเลิก ขนาดยังไม่ได้ของยังเรื่องมากขนาดนี้ ได้ของไปแล้วไม่พอใจไม่โวยวายตายหรอว่ะ คืนเงินตัดปัญหาจบ แล้วคนนี้เป็นคนเดียวกับที่ให้ส่งแยกสองที่อยู่ด้วยนะ คงคิดว่าจะมีครเข้าข้างมั้ง สรุปกระแสตีกลับจ้า ถถถถ อยากได้กริบๆมึงไปซื้อหน้าร้านเหอะ จะได้ไม่เป็นภาระของคนขาย
เออ ถ้ากูเป็นแม่ค้ากูก็ยกเลิกว่ะ เรื่องมากชิบหาย กูล่ะดีใจที่กระแสตีกลับ เสียดายแม่งปิดเม้นท์ไปก่อนไม่งั้นจะไปช่วยถล่มด้วย ที่แม่ค้าเค้าห่อให้มันก็โออยู่นะ
ว่าแต่ s..... t..... นี่ชื่อคุ้นมากเลยอ่ะ เหมือนเคยมีใครเตือนให้ระวังอะไรเค้าป่าว ใช่ที่มีร่างแยกเยอะๆมั้ย
ปิดเม้นไปแล้วหรอว่ะ กูเข้าไปอ่านไม่ได้ล่ะเนี่ย
กุว่าถ้าไม่มีเม้นแย้ง กระแสมันจะไปอีกทางทันทีเลย
ลบไปแล้ว
กูจดชื่ออีนี่ลงลิสต์ไว้ละ ถ้าขายของเจอแม่งกูจะไม่ขาย เรื่องเยอะจริงๆ หนังสือจะซื้อไปอ่านหรือซื้อไปทำอะไร ทีหลังเวลาจะซื้อมึงก็ส่งบั๊บตัวเองไปให้แม่ค้าด้วยเลยนะ อยากให้เขาห่อหนา100ชั้นขนาดไหนก็ส่งไปโล้ดดดดดดด อีบ้าเอ้ย
กูเริ่มสงสัยแหละ ใครเป็นคนเริ่มเรื่องบับหนาๆว่ะ จะเอาแบบไม่ให้เห็นข้างในเป็นหมอนโตๆ
กูเจอละๆ เคยมีคนบอกร่างอวตารนางไว้
https://fanboi.ch/801/4731/531/
>>471 เห็นในแชทที่แคปมา นางจะเอากล่องอย่างเดียว หนังสือน่าจะขายแยกไปแล้ว ราคาเกิน 1000 แน่ๆ เพราะราคาปกสำหรับชุดหนังสือก็เกิน 1000 แล้ว
สรุป นางหวังจะได้บ็อกซ์ฟรีจ้า จากการไปกดดันให้แม่ค้าส่งแยกบ็อกซ์ให้นาง แถมอาจจะได้ส่วนต่างกำไรจากการขายหนังสือเกินราคา 1000 มาอีก
นางมีเฟส 3 เฟส ในกลุ่มเดียวกัน แต่ละเฟสมีพฤติกรรมที่แตกต่างกันจ้าาาาา นี่อยู่วงนอก ยังสังเกตุการกระทำของนางได้เลย
ต่อไปนี้ถ้ากูลงขายนะ กูจะมาร์ค เลย ห่อบับ 3ชั้น มากกว่านั้น คิดตัง ชั้นละ10บาท ส่งที่อยู่เดียวกับผู้ซื้อ ไม่ส่งแยก รูปทุกรูปกูต้องทำลายนำให้หมด
น่ากลัวมาก
ห้องสปอยที่พวกมึงคุยกันคือห้องไหนอะ ช่วยบอกบุญกูหน่อย
คนนี้ใช่ที่มีประเด็นเรื่องลำนำป่ะ นางจะเอาแต่ของพรีเมียม หนังสือส่งให้ลูกค้าคนอื่น แต่คนขายกับลูกค้าจับโป๊ะได้ คนเดียวกันป่าววะ
มีใครเอาชื่อไปอัพเดทลงลิงค์หัวกระทู้ยังวะ ใครอัพได้อัพหน่อยยยยย เวลาขายของกูจะได้มาหาดูแถวนี้ได้ว่าควรขายไม่ขายให้ใคร กราบบบบบบบ
คนอย่างนางน่าจะออกจากวงการวายได้แล้วนะ สังคมรังเกียจทำตัวแย่ไม่รู้จักสำนึก ยังคิดว่าตัวเองทำถูกแล้วจะมีคนเข้าข้างอีก
มันต้องมีคนแหกนาง เอาเฟสอวตารมาลงอีก เอาให้ไม่มีที่ยืนในวงการเลย
ทำยังไงกับพวกเเม่ค้ามารับจองหนังสือตัดหน้าที่เเม่งนข. เขายังไม่ลงรายละเอียดดีวะ ( กูรอซื้อกับ นข โดยตรงอยู่) กูเห็นเเล้วเเบบ เเถมไฟนอลราคาก็ยังไม่มี เสือกรวมราคาค่าส่งเสร็จสรรพเลยนะ เเทนที่นข. จะได้เต็มๆ ต้องมาเสียผลประโยชน์กับพวกเเม่งหากินทำนาบนหลังคนงี้เหรอ
>>491 รู้ได้ไงว่านักเขียนไม่ได้ผลประโยชน์ ก็น้ำพึ่งเรือละวะ ถ้านักเขียนไม่ให้รายละเอียดเอง ไม่ให้เปอร์เซ็นต์ส่วนลด แม่ค้าจะไปเปิดขายได้ยังไง ขายก่อนหรือหลังนั่นแล้วแต่มารยาท ยังไงก็ได้ประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่ายอยู่ดีแหละ
มึงไม่รู้เหรอที่รีวิวอวยๆกันตามกลุ่มส่วนใหญ่ก็พวกแม่ค้านั่นแหละ ยิ่งสร้างกระแสให้คนสนใจอยากซื้อเยอะเท่าไหร่ ก็ได้ค่านายหน้าขายกินเปอร์เซ็นต์ส่วนลดได้มากเท่านั้น นักเขียนมีแต่ได้กับได้จ้า ส่วนลดที่ให้แม่ค้าก็แค่เจียดกำไร ไม่ได้เข้าเนื้ออยู่แล้ว ไม่งั้นจะให้ทำไมล่ะ
มึงไม่ต้องไปห่วงนักเขียนหรอก ห่วงนักอ่านที่เป็นทาสกลการตลอดดีกว่า เห็นแม่ค้าอวยเฟ่อก็ซื้อตามกันใหญ่
ถ้าพูดถึงนิยาย ขป เรื่องใหม่ ไม่มีราคาส่งแม่ค้านะ เท่าราคาปก
แต่การที่ร้าน ตกข มาเปิดจองก่อนและคิดค่าส่ง 60 นั้นนนนน ถือว่าเกินไปมั้ย? ราคาส่งจาก ขป ก็ไม่น่าจะถึง 60
>>495 กูไม่รู้ว่าเรื่องอะไร แต่ถ้าแม่ค้าจะเก็บค่าส่งแพงกว่า (หรือเปล่ายังไม่รู้) ก็ขึ้นอยู่กับความพอใจของคนจ่ายนะ ถ้าคนจ่ายสบายใจว่าแม่ค้าจะห่อแน่นหนากว่านักเขียน (เพราะส่วนใหญ่จะเป็นงั้น) คนอื่นจะเดือดร้อนทำไม
ที่บอกว่าไม่ลดราคาให้แม่ค้า กูว่าลดน้อยเลยขายเท่าราคาปกมากกว่าปะ แล้วอาจมีออปชั่นอื่นดึงดูดแทน เช่นให้ผ่อน
ถึงยังไงนั่นก็คือยอดที่เพิ่มขึ้นสำหรับนักเขียนทั้งขึ้นทั้งล่องจ้า วิน-วิน
>>499 กูเลยคิดว่าคนจอง หน้ามืดตามัวจองเพราะแม่ค้าคนกลางว่ะ เป็นคนละกลุ่มกับลูกค้าของคนเขียน ดังนั้นน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า เพราะถ้าคนเขียนขาดทุนจริงคงปฏิเสธแต่แรก คนซื้อยินดีจ่ายแพงก็ปล่อยคนซื้อไป อารมณ์เดียวกับพวกอัพแรร์ คนขายยินดีขายคนซื้อยินดีซื้อ จะไปคิดแทนทำไม
มีคนเอาแคปโพสต์ของคนนั้นที่ลบไปมาแปะแล้ววะ สันดานเอาเปรียบไม่หาย พวกลูกค้าที่ชอบแคปแชทไม่หมดมาแปะหาพวกน่ากลัวจริงๆ
เข้าไปอ่านโพสนั้นแล้วกูหลอนเลย หลายครต้องการห่อหนาๆเป็นแหนม ยิ่งหนายิ่งดี กูจะจำไอดีพวกนี้ไว้ ถ้าจะขายกูจะไม่ขายให้พวกแม่ง ไม่ก็ตอนขายกูจะลงเงื่อนไขไปเลยเพิ่มบับชั้นละ10บาท เรื่องเยอะชิบหาย กูเป็นลูกค้าได้หนังสือมีตำหนินิดหน่อยกูก็โอเคแล้วนะ สมัยก่อนกูสั่งฟิคทำมือแทบไม่ห่อเลยซักคนไม่เห็นจะมีปัญหา หนังสือเอาไว้อ่าน ยิ่งมือสองถูกกว่าปกแต่ต้องการสภาพสะสม มึงไปซื้อมือหนึ่งนะคะ /กุมศีรษะ
>>504 เพิ่มนิดนึง กูว่าแม่ค้าก็โอเคนะ ชัดเจนดี รับไม่ได้ก็คืนเงินไป จะได้ไม่มีปัญหา
และสำหรับกูนะ แม่ค้าแยกส่งสองที่ให้ฟรีไม่คิดตัง แค่นั้นกูก็เกรงใจมากล่ะ กูไม่มานั่งจี้เรื่องบับเบิ้ลหรอกมึง อย่างมากก็บอกพอเป็นพิธีว่าขอหนานิดนึงแบบนี้ หนังสือก็ราคาถูก เอาแต่ได้ว่ะ
เสริม ไอ้ค่านิยมห่อแหนมเริ่มมาจากใครวะ เหมือนอุปทานหมู่พอๆกับรอยจิ๋มหมดบนหนังสือ ยิ่งอยู่ในกลุ่มแพร่อย่างกะลัทธิ
มันเหมือนลัทธิจริงๆหวะ
เคยได้นิยายมา500 4เล่มหนาๆ แม่ค้าแถมนิยายมาให้อีก2เล่ม ไม่กล้าเรื่องมากเรื่องห่อเลย แม้หนังสือจะหนัก ห่อมาไงก็ได้แล้วอ่ะราคานั้น
ถามแม่ค้าไปอีกว่าเอาเงินเพิ่มมั้ย ค่าส่งน่าจะสูง
แม่ค้าบอกไม่เอารวมไปหมดแล้ว กราบบบงง
อยากได้สภาพกริ๊บๆคมๆ ไปเลือกซื้อที่ร้านเองเหอะ
สำหรับกูมือสองคือ ซื้ออ่านชิวๆอ่ะ ไม่ซีเรียสสภาพ ขอแค่แม่ค้าชัดเจนก็พอละ
กูไม่กล้าลงขายในห้องขายแล้ววะ แต่ละคนน่ากลัวทั้งนั้น ไม่รู้จะไปลงขายไหนหละ ไปตรงไหนก็เจอแต่พวกห่อแหนม คลั่งกริบ ยิ่งความอดทนต่ำๆอยู่
อิคนที่ออกมาตั้งโพลเรื่องแม่ค้าเรื่องเยอะนั่น กูก็เห็นนางเรื่องเยอะเหมือนกัน เห็นได้ของจากที่ไหนมาก็โพสตำหนินั่นนี่ ล่าสุดก็เห็นอยู่ว่าโพสเรื่องกล่องไปรษณีย์บุบทั้งที่ยังไม่ได้แกะของดูข้างใน ทำไมไม่แกะออกมาดูก่อนวะ ถ้าบุบก็ค่อยมาโพสยังไม่สาย คลั่งกริบแม้กระทั่งกล่องไปรษณีย์ บ้าบับหนาๆอีก เอาไปห่อตัวมึงเหรอพวกผี น่ารำคาญ
>>508 จริงอ๋อวะ กูก้อยู่กลุ่มนั้น เคยได้นิยายแรร์ชญในราคาถูก แม่ค้าส่งของมาไม่ห่อไม่ไรกูก็ซี กลุ่มแม่งก็บอกอยู่ว่าส่งต่อ คนขายลงว่ามือสอง มาหลอนจริงจังก็กลุ่มวายนี่แหละ กูไม่เคยกล้าขายอะไรในห้องวาย ขายแล้วเครียดกะตังไม่กี่บาทกูแจกฟรีดีกว่า เคยขายนิยายชญไม่เห็นมีลูกค้าคนไหนย้ำขอห่อแหนมซักคน พวกเรื่องเยอะมึงไปเลือกจากโรงพิมพ์เลยเถอะ
เมื่อหนังสือไม่ได้มีไว้อ่านอีกต่อไป...กูว่ามันเป็นลัทธิที่น่ากลัวมาก ถ้าขืนเป็นงี้ต่อไปใครๆ เค้าคงเอือมระอาวงการนี้ ได้เงินดีแต่ปัญหาไม่สิ้นสุด งานเคลมต้องมา งานห่อต้องโวย ขายแล้วไม่จบ โน่นนั่นนี่เรื่องเยอะไม่สิ้นสุด กูเขียนนิยายวายเล่นๆ เคยคิดอยากลองทำมือขายแต่เห็นสภาพแล้วสตั้นเลย กลัวความเยอะสิ่ง คาดว่าเสียสุขภาพจิตกับลัทธินี้คงไม่คุ้มที่จะแลก
เรื่องบับเบิ้ลนี่กูว่าไม่ต้องขนาดห่อเป็นหมอนก็ได้ถ้ามันไม่ใช่จั่วปังที่ควรจะหนาหน่อย ห่อแค่สองสามชั้นก็น่าจะพอแล้วอะ เอาให้แม่งไม่เสียหายก็พอไม่ต้องขนาดห่อจนไม่เห็นไส้ใน กูเคยขายทำมือละเจอคนอ่านที่ซื้อง้างมาแต่ไกลเลยว่ากูจะห่อดีหรือเปล่า แต่กูก็ไม่ได้ห่อหนาเป็นหมอนหรอก ห่อแค่ 3ชั้นก็พอแล้วอะ กูว่ามันก็ปลอดถัยแล้วถ้าแม่งไม่ได้ไปตกแล้วโดนรถสิบล้อเหยียบก็ไม่น่าจะมีอะไรเสียหาย
เออ ยิ่งกว่านั้นกูเห็นในเม้นต์ไหนสักเมนต์ในกลุ่ม สป นั่นน่ะ พูดทำนองว่าซื้อแฝดอ่านหนึ่งเก็บหนึ่ง หนังสือที่ซื้อไปไม่กล้าแตะกลัวเปื้อนกลัวยับ สรุปดองไม่ได้อ่าน เหอ คุณค่าของหนังสือเดี๋ยวนี้ไม่ใช่ที่เนื้อหาแล้วสินะ เห็นแล้วโคตรสิ้นหวัง เป็นกันถึงขนาดนี้แล้ว
วัฒนธรรมแฝดมีต้นกำเนิดมาจากกิจกรรมอวยของลูกหาบ หสม. ในห้องปล่อยของ
>>524 มันมีแบบรักมาก รักจนไม่กล้าเปิดเพราะกลัวจะมีรอยยับรอยพับ เห็นแค่นิดเดียวก็จะขาดใจ กูนี่มึนเลย ก็ว่าตัวกูก็รักการอ่านอยู่นะ อ่านมาตั้งแต่หนังสือการ์ตูนผีเล่มละบาท แต่ก็ไม่เข้าใจความรักอันลึกซึ้งของลัทธินี้ ปกติเรื่องไหนกูชอบ อ่านเสร็จก็เก็บเข้าชั้น จากนั้นก็หยิบอ่านซ้ำๆ จนมันเยิน เรื่องไหนไม่ชอบ อ่านครั้งเดียวก็ดอง เมื่อก่อนก็หิ้วไปขายร้านมือสอง ปัจจุบันก็ปล่อยขายในโซเชียลรวมส่งต่ำกว่าปกตลอด ไม่เคยถึงขั้นใส่ถุงซงถุงซิปหรือ ถนอมปานเพชรร้อยล้านขนาดนี้ หรือแบบนี้คือกูไม่รักหนังสือวะเนี่ย
พวกนี้ถ้าสั่งซื้อหนังสือจากต่างประเทศคงช็อกตาย กูได้มาแบบไม่ห่อบั๊บ ถุงพลาสติกบางยิ่งกว่าใบไม้ ไม่พอสรรพากรแม่งกรีดถุงดูของ กรีดปกของกูไปด้วย
กูคนนึงที่รักหนังสือมากกก แต่กูก็ไม่เคยทำหนังสือยับหรือเยินนะ แล้วก็ไม่เคยแฝดด้วย คือกูคิดว่าคนที่รักหนังสือปกติเค้าก็จะอ่านแบบถนอมอยู่แล้วป่ะวะ ไม่จำเป็นต้องแฝดให้เปลืองเงิน ความคิดกูนะ แฝดเพราะรักหรือแฝดไว้เกร็งกำไร
เพื่อนกูก็เป็นนะ ไม่ได้แฝดไปขายด้วย มันเป็นมานานแล้ว
แนวว่าชอบเนี้ยบ หนังสือห้ามมีตำหนิเลย สมัยก่อนจะอ่านต้องห่อปกก่อน อ่านหนีบๆกลัวสันแหก/ยับ แต่ก็ชอบแบ่งปัน ชอบล่อเพื่อนมาติดบ่วงเลยให้เค้ายืมอ่านไปทั่ว(แต่ก็กำชับแล้วกำชับอีกว่าถนอมๆๆๆๆด้วยนะ) พอทำงานมีเงินก็เก็บแฝด เล่มนึงขึ้นหิ้งเล่มนึงไว้อ่านเอง/เผยแพร่
นอกจากเล้าเป็ด มึงลงนิยายที่ไหนกันบ้าง
พวกมึง ชอบปกนิยายวายงานใครมั่งวะ กุขอข้อมูลหน่อย เผื่อกูจะพิมพ์วายทำมือ
>>537 มึงต้องดูว่าตัวเองชอบแนวไหน เดี๋ยวนี้คนไทยวาดสวยๆ เยอะ ถามกูตอนนี้กูชอบคนวาดปกเมียงู
.
.
.
กูอยู่วงการนี้มา 10+ ปี เรื่องเก็บแฝดมีมานานแล้ว แต่ไม่ได้เก็บกันเป็นผีบ้าแบบนี้ สมัยก่อนเค้าจะแฝดกันก็ต่อเมื่อชอบเนื้อเรื่องมาก อ่านแล้วชอบค่อยไปแฝด 1.ไว้บูชา(ขึ้นหิ้งนั่นแหละ) 2.ไว้อ่านเอง 3.ไว้เผยแพร่ ไม่ใช่แบบสมัยนี้ที่กลัวยับกลัวเปื้อน บางทีซื้อแฝดมาก็ดองทั้งคู่ กูเห็นแล้วบิปาก
ภาษีขาเข้าเป็นเรื่องของศุลการกรเว้ย มึงจะด่าสรรพากรกันทำไมวะ
กูอ่านวายมาประมาณ 6-7 ปี ก่อนหน้านี้ที่อ่านชญกูก็แฝดนะ ทำไมอะ ซื้อมาเก็บเองแล้วกระทบใครเหรอ
กูนี่สายตรงข้ามกับแฝดเลย คือถ้าบังเอิญมีหนังสือซื้อซ้ำมา ต้องรีบขายไปเล่มนึง ทนไม่ได้ที่มีเรื่องเดียวซ้ำกัน 555 นี่ไม่เคยเข้าใจคนต้องแฝดเลย ยิ่งมากกว่า 2 อีกนี่คือเอาไปทำไรอะ เปลืองทั้งเงิน เปลืองทั้งที่เก็บ เอาเงินไปซื้อเรื่องใหม่ เว้นที่ไว้เก็บเรื่องใหม่ดีกว่า หนังสือมันเป็นของที่เอาไว้อ่าน ถ้าอ่านระวังๆหน่อยมันก็แทบไม่มีรอยอะไรอยู่แล้ว หรือมีก็แค่นิดๆหน่อยๆตามสภาพการใช้งาน กูก็รักหนังสือประมาณนึง ไม่อยากให้มีรอยยับ พับ ขีดเขียน บวมน้ำ แม็ก ฯลฯ อะไร แต่ไม่ถึงขั้นแตะต้องไม่ได้ เก็บไว้บูชาขนาดนั้น เวลาเก็บขึ้นชั้นก็วางปกติไม่ได้ใส่ถุง ใส่ซิปล็อคอะไร พอเจอคนต้องเก็บแฝดเลยงงมาก
ช่วงนี้กูพึ่งเข้ากลุ่มหลังไม่ได้เข้ามานาน พวกมึงคิดไงกับคนคนเดิมแนะนำนิยายเรื่องเดิมสองวันติด คือรักใครชอบใครจะอวยก็ไม่ว่าแต่นี่สองวันติดเลยใจความก็ไม่มีอะไรแปลกใหม่จากที่เคยโพสท์ มีแต่บอกว่าดีมากๆ ดีมากๆ บอกจะซื้อแฝดด้วยทั้งที่ในหน้านิยายยังไม่มีประกาศว่าจะทำหนังสือขายเลย
>>541 มึงเก็บแฝดก็เก็บไปเถอะ เงินมึง แต่ที่กูเดือดร้อนคือพวกแฝดที่คลั่งกริบเสร็จแล้วก็ฟาดงวงฟาดงาแบบไร้เหตุผลกับการห่อ ร่องรอยตำหนิเล็กๆ น้อยๆ หรือเรื่องมากเวลาห่อแต่เวลาจ่ายดันอยากจ่ายน้อย เพราะมันทำกูผวาเวลาปล่อยขายว่าจะเจอพวกประเภทนี้มั้ย และถ้าเจอแล้วกูปฏิเสธไม่ขายให้ด้วยเหตุผลเพราะทนความมากเรื่องไม่ได้กูจะโดนเอามาประจานในกลุ่มหรือเปล่า ชีวิตกูอยู่ดีๆ ก็ต้องอยู่กับความระแวงซะงั้น ไม่ขายในกลุ่มก็ไม่รู้จะขายที่ไหน ครั้นจะไม่ขายแต่บางทีก็อยากหมุนเงินมาซื้อเรื่องอื่น ถ้ากูมีเงินเยอะ กูคงไม่เดือดร้อนเพราะอิพวกนี้หรอก ที่สำคัญกูเคยเจอมาแล้ว ทำกูปวดหัวมาก ดีที่พูดอ้อมๆ ทำให้นางบอกผ่านได้ แล้วตอนนี้มันเริ่มขยายความคลั่งกันเป็นลัทธิจนกูงงว่ามันซื้อหนังสืออ่านหรือบูชา
กูว่าห้องวายแม่งก็เป็นแหล่งรวมของคนบ้าอยู่แล้วนี่หว่า บ้าเก็บแฝด บ้าซื้อมาดอง บ้าอวดแรร์ บ้าของถูกแต่ต้องดีห้ามมีตำหนิ (พ่อง) บ้าซื้อตามกระแส บ้าอยากเป็นเซเลป ซึ่งกูเองก็จัดอยู่ในกลุ่มบ้าซื้อมาดองเหมือนกัน กูเลยเฉยๆ กับพวกบ้าอะ แต่ถ้าคนไหนดูบ้ามากจนน่ารำคาญ กูจะบล็อกไปเลย นี่ก็บล็อกไปจะสิบคนละ หุๆๆ สบายตาขึ้นเยอะ
กูจำได้ ตอนนั้นไลฟ์ดรามา คฉน. แถมไปแนะนำวิธีแย่ๆผ่านไลฟ์อีก ขนาดกูเป็นแค่คนอ่านกูยังรู้สึกแย่กะที่ไลฟ์มาเลย หลังๆกูไม่ดูเลย มีครั้งนึงมีคนไปเม้น ไลฟ์เพื่อ? กูนี่ขำเลย
จริงๆกูก็อยากเอาหนังสือบางเล่มที่กูไม่มีเวลาอ่าน หรือ อ่านจบแล้ว มาขายในกลุ่มบ้างนะ แต่บอกตรงเลย กูสยองอิพวกบ้ากริบ ขอสภาพกริบ สะสม ราคาต่ำกว่าปก แล้วก็กลัวมันมาซื้อแล้ววุ่นวาย เลยไม่ขายแม่งแระ เก็บไว้ดูเล่นเองก็ได้
ยิ่งช่วงนี้อิพวกนี้ยิ่งมีเยอะขยายพันธุ์ยิ่งกว่าอุปทานหมู่ บางรายแม่งอาการหนักมาก ขอสภาพกริบ สะสม ราคาต่ำกว่าปก จองนาน และผ่อนได้ 5555555555 //เชี่ย
เห็นที่คนแปลลักพาลงโพสต์ละกูอยากบวกรัวๆ จำได้คนในกลุ่มก็ตามคนนี่เยอะจะหน้าสั่นกันปะวะถถถถ
บอก้วยว่าใส่กล่องอะไร ไดคัทไปร ไดคัทธรรมดา ฝาปิด ซอง
ปกเจิ้นไม่สวยเลย โฮ
กูว่าปกแบบพื้นหลังแต่ไม่เอาจิบิใส่ดีกว่า จิบิทำที่คั่นแทนไรงี้
กูว่าปกเจิ้นก็น่ารักดีนะ ถึงจะดูไม่ลงทุนจริงๆก็เถอะ แต่กูชอบตัวจิบิ
ดูแบบทั่วไปมันก็โอเค กูว่ามันน่ารัก แต่พอมันเป็นปกนิยายวายกูเห็นปกแล้วไร้ซึ่งจุดดึงดูดมาก มันไม่ให้อารมณ์อยากอ่านเลย ในกรณีที่ถ้ากูไม่รู้จักเรื่องนี้มาก่อนกูคงกวาดตาผ่านไปอย่างรวดเร็วและไม่คิดว่ามันเป็นนิยายวายด้วยซ้ำ ปกนิยายแนวนี้มันต้องแบบสวยๆ มีอะไรดึงดูดวางบนชั้นให้มันโดดเด่นออกมาอะ มันถึงจะเรียกสายตาและเงินในกระเป๋ากุได้ง่ายหน่อย เออ แต่ยังไงกูก็คงซื้อนั่นแหละนะ
หรือว่านี่จะเป็นปกแจ็คเก็ตป่าววะ กูว่ามันไม่น่าจะอย่างนี้น้า แบบดูมักง่ายไปหน่อยหรือป่าว
มึง ใครสายนิยายฝรั่งบ้างวะ คือกูไม่รู้จะไปหวีดที่ไหน ในหิ้งก็ไม่ค่อยมีคุย นานๆมาที
เดี๋ยวนี้กูแทบไม่ได้อ่านนิยายไทย นิยายแปลเลย (แปลจีนมีบ้าง เฉพาะเรื่องโดนๆ)
กูมีแหล่งอ่านรีวิว เรื่องย่อ สปอยนิยายฝรั่ง เป็นภาษาอังกฤษคืออ่านได้ แต่เวลาจะหวีด กูคงหวีดได้แต่ภาษาไทย ซึ่งกูก็ไม่รู้จะไปหวีดที่หนายยย
รูปจิบิควรเป็นได้อย่างมากแค่ปกเล่มเล็ก ปกนิยายควรจะดูจริงจังหน่อย จะได้ไม่นึกว่าเป็นหนังสือการ์ตูนสำหรับเด็ก
ชั้นหนังสือโม่งมีโม่งสายฝรั่งอยู่เยอะนะ เมิงเปิดเลยหาเพื่อนคุย
สนพ.ดูไม่ลงทุนตั้งแต่ปกmore than heat sunแล้ว คือไม่ใช่ผิดเพราะเป็นจิบิแต่การออกแบบไม่สวยเลยดูเอาอะไรมาใส่ๆประหยัดต้นทุน รูปฉากหลังกับรูปจิบิก็ไม่เข้า ฟอนต์ก็ไม่สวย แถมออกสองเล่มแต่หน้าปกเหมือนกันต่างกันแค่เปลี่ยนสี
วิวาห์ปกทำมาดีแล้วแท้ มาตกม้าตายที่เจิ้นอีก (มันก็น่ารักแต่แบบนะเปลี่ยนแค่สี จะขำก็ขำไม่ออก) เราลุ้นโรสจนไม่รู้จะลุ้นยังไง งานขึ้นๆ ลงๆ จนทำตัวไม่ถูกไปหมดแล้ว
เอาจริงๆเราว่ามันก็ตลกดีนะเว้ย ปกแม่งต่างแค่สีชุดกับสันปก เอาฮาใช่มั้ยหรือเพราะรีบออกวางขายให้ทันงานวันเกิดนอ.จะได้ร่วมโปรลด ยอดจะได้พุ่งๆ
กูก็กะจะซื้อวันเกิดนอ.นี่แหละ ซื้อถึง1500 ได้ลด25%
และกูก็ไม่ค่อยเข้าใจคนที่ยังไปพรีกับแม่ค้าเช่นเดิม แต่ก็คงอยากให้ห่อหนาๆมั้ง
นึกว่าเราคิดอยู่คนเดียวง่าปกเจิ้นมันไม่สวยเลยว้า แต่ก็ไม่กล้าฝ่าวงเข้าไปบอก55 แล้วสองปกแม่งรูปเดียวกันด้วยนะโคตร..ประหยัด ไม่อยากเทียบกับต้นฉบับเพราะเขาขายตอนบนเว็บปกไม่ต้องลงทุนเยอะเหมือนพิมพ์ขาย
อยากเห็นปก ลองเสิร์จ 朕还是如此威风凛凛
อ้าวไม่ใช่เจิ้นเคยตีพิมพ์ที่จีนมาก่อนแล้วหรอวะ เห็นคนแปลเคยบอกว่าของจีนมี 1 เล่ม ตอนสมัยที่โรสยังไม่ประกาศว่าเป็น 2 เล่มจบอ่ะ
รูปปกให้กูเดานะ คงไม่คิดว่าจะหนาจนต้องแบ่งเป็น 2 เล่มอ่ะ เลยเอารุปมาเปลี่ยนสีเอา แต่สำหรับกูภาพปกก็ไม่ได้แย่อะไรนะ แค่แหม่งๆตรงเปลี่ยนสีเสื้อกับสันปกนี่แหล่ะ แบบเล่นง่ายไปมั้ย
คือจะเหมือนกันขนาดนี้ไม่ต้องแอ๊บเปลี่ยนสีก็ด้ายย
พูดเรื่องนอ.ครบ1500ลด50%แล้วกูรันทดใจตัวเอง คนอื่นหาคนร่วมหารเพื่อให้ได้โปร ส่วนกูแม่งแค่ไล่ลิสท์คร่าวๆก็กลัวจะเกินสามพันแล้ว
กูว่าปกเจิ้นน่ารักดี โคตรถูกใจเลย แต่พอมาอ่านในนี้ถึงรู้ว่าคนส่วนใหญ่ไม่ชอบ คนเรานี่ต่างจิตต่างใจจริงๆ ว่ะ
เสียดายมดน่าจะวางตามร้านวันที่ 14เหมือนกัน ดันวาง 15
ง่า ทำไมทำแบบนี้กับเจิ้นล่ะเนี่ย แค่เปลี่ยนสีชุดเอง นึกว่าเล่นเกมจับผิดภาพ
ky ใครเคยอ่านงานคนเขียนที่ชื่อ บทร บ้างอะ สังกัด นบ อะ อยากรู้ว่าเรื่องไหนของเค้าน่าสอยบ้าง แล้วก็ภาษาชั้นครูพลอตอลังการจริงป่าววะ
คห.กูนะ กูว่าปกเจิ้นไม่ลงทุนเลย แล้วจิบิมันก็ไม่เข้ากับภาพฉากหลังอ่ะ ฉากหลังสวยนะแต่ภาพรวมคือ มันไม่ใช่ ...
คือไงอ่ะ อมร.เค้าคุ้นชินกับปกนอร์มอลเหรอ เลยไม่สนใจว่านิยายวายปกมันควรสวยกว่านี้ ดึงดูดกว่านี้ ไหนๆจะมาแบ่งเค้กตลาดนี้แล้วก็ควรทำให้มันดี ถูกใจคอวายหน่อย
อยากให้ไปดูไพรด์บายแก้วกานต์จัง ทำการบ้านมาดี ปกสวย หนังสือไม่แพงอีก
นโนบายไม่ลงทุนของ หสม. ออกชุดหลายเล่มแล้วเล่นแบบมักง่ายแค่เข้าโฟโตชอปเปลี่ยนสีมันระบาดแล้วเหรอวะ กูโคตรเกลียดเลย
กูก็รู้สึกว่าปกร.ธรรมดามากทุกเรื่อง แต่เอาตรงๆ ส่วนใหญ่ก็ซื้อกันใช่มั้ยล่ะ ถ้าคนยังซื้อ ร.ก็คงไม่ปรับหรอก เขาจะหาเรื่องเพิ่มต้นทุนทำไมวะ
ปกวิวาห์ก็ไม่ได้ลงทุนมากนะ สังเกตุดีๆปกเล่ม 1-2 คือรุปเดียวกันแต่เอามาทำสองปก รูปเน้นตัวละครรายละเอียดไม่เยอะแบบนี้ไม่แพง จากปสก.ที่เคยจ้างนักวาดมาบ้างนะ แต่คนวาดวิวาห์ลายเส้นโอเคเลยรอด ส่วนปกเจิ้นนี่...เอาจริงๆนะ เห็นผ่านๆนึกว่านิทานเด็กเล็กแบบเน้นรูปภาพน่ะ
ทำไมฝั่งวายต้องมีปัญหาตลอดวะ เยอะตลอด ฝั่งนอมอลปกเป็นฉาก เป็นกรสฟฟิกธรรมดา ก็ไม่มีคนมาด่า คือบางทีพวกมึงควรพิจารณาตัวเองว่าเยอะไปมั้ย กูรำคาญมาก อ่านนิยายหรือเอาปกไปต้มกินวะ
>>606 อมร.ทำมานานกว่าหสม.อีกมึง ปกติของสนพ.นี่เลยว่ะ ดูอย่างเกมออฟโธรนดิ ภาคนึงมีสามเล่มก็เปลี่ยนมันสามสี สยามเองก็ทำมานานมากแล้ว นิยายกำลังภายใน 26 เล่มปกเดียวกันหมดเปลี่ยนสี 26 สีเอง กูทำงานร้านหนังสือกูว่าปกเจิ้นนี่ปกติมาก ลายเส้นก็ไม่ต่างกับปก ดกด.อ่ะ สวยกว่าด้วยในบางแง่ บ้านเราเพิ่งมาเน้นเรื่องปกกันได้แค่สามสี่ปีเอง ปก อมร.เองแต่เดิมก็เน้นงานอาร์ตตัดแปะอะไรพวกนี้ด้วย งานวาดเพิ่งมาเริ่มลงตอนปีกว่ามานี่ กูว่าเจิ้นมันทำปกแบบนั้นเพราะเป็นแนวคอมมาดี้ว่ะ พอบอกว่ามันเป็นแนวตลกแล้วปกแบบนั้นกูว่ามันก็เข้านะ ถ้าไม่มองว่าปกนิยายวายต้องสวยต้องอลังเวอร์วัง ก็ปกนิยายปกติอ่ะ กูว่าทำอาร์ตออกมาสวยดีด้วยซ้ำ
Ky คั่นดราม่าปกแปบน้า
พวกมึง กูสั่งนิยายลทบ. 10 วันแล้วยังไม่ได้ของเลย แล้วกูเลยขอให้คนขายช่วยตาม เขาตอบกลับมาว่าลูกค้าหรือคนรับของต้องไปตามเอาเอง ทางแม่ค้าก็ส่งของจริง ไม่ได้โกง ไม่ใช่หน้าที่ต้องมาคอยตามให้อีก ไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยแล้ว ใช่เหรอวะ กูเคยเจอเคสแบบนี้ครั้งนึงเขาตามของให้ตลอดจนในที่สุดก็ได้รับ เพิ่งมารู้ว่าคนรับต้องเป็นคนตามเอง นึกว่าคนส่งต้องจัดการ กูรู้สึกน้อยใจนิดๆ ฮรึก T__T
>>617 พูดถึงปลายทางเหรอ หึ บอกได้สองคำคือส้นตีนมากและเหี้ยมาก ขอไม่บอกจังหวัด เดี๋ยวแหก55555
ในเมื่อแม่ค้าไม่ตามให้กูจึงโทรไปหาที่ศูนย์ฯ มึงรู้มั้ยคะว่าเกิดอะไรขึ้น กูโทรไป ขึ้นว่ารับ(ขึ้นเวลาด้วยนะว่าโทรกี่วิแล้ว) แต่กบายเป็นเสียงซ้อนว่า ขออภัยค่ะ หมายเลขที่ท่านเรียกบลาๆ แล้วก็วางสายให้เอง ใช้หูขวาฟังข้างเดียวยังรู้ว่าเป็นเสียงอัดอ่ะ พอโทรอีกรอบกลายเป็นเสียงผู้หญิงบอกไปรษณีย์...ค่ะ พอกูกำลังจะพูดก็ตัดสายอีก เพื่อนกูที่นั่งฟังด้วยก็ขึ้น ส่งอีเมล์ไปถามแทรคก็ไม่ตอบ แม่ค้าก็ไม่ช่วยไรแล้ว งอนมาก ปีนี้ปีชงกูแน่ๆ
>>610 ไม่ได้เยอะแต่มันคือรสนิยมของกลุ่มตลาด นิยายวรรณเช่นหอดอกบัวฯ ขายคนทุกเพศทุกวัยแนวสืบสวนปกจะรูปซ้ำแต่รีสีเอาเพราะกลุ่มลูกค้าเขาเน้นเนื้อเรื่อง นิยายรักแปลจีนโบราณทำไมต้องใส่ลายภาพสีน้ำหรือเส้นจีนๆ สวยๆหรือ ทำกราฟฟิกตัดแปะไม่ได้หรือเพราะกลุ่มลูกค้าชอบอะไรจีนๆ รูปภาพสบายตาที่สื่อถึงเนื้อเรื่อง ไลท์โนวเวลทำไมไม่ทำกราฟฟิกทำไมต้องวาดการ์ตูน ก็วัฒนธรรมการซื้อของกลุ่มลูกค้าไง
สวยไม่สวยแล้วแต่รสนิยม แต่ 2 ปกแค่เปลี่ยนสีนี่ไม่ลงทุน มันคือข้อเท็จจริง
>>618 ไปรฯ สาขาที่นำจ่ายอยู่ไกลจากบ้านมึงไหม ถ้าไม่ไกลมากแล้วมึงสะดวกที่จะไปได้มึงก็ไปตามถึงที่เลย ไม่งั้นมึงก็ต้องโทรไปเรื่อยๆ อะ ปกติที่กูโทร call center ไม่เคยเจอปัญหาอะไรนอกจากคู่สายให้บริการเต็ม ส่วนเรื่องแม่ค้า ปกติเค้าควรจะตามให้ แต่ให้แม่ค้าตามหรือมึงตามก็มีค่าเท่ากันอะ เพราะแม่ค้าก็ตามด้วยการโทรจี้ไปรฯ อย่างมึงนี่แหละ
กูว่าบางทีเรื่องปกสวยนี่ใกล้ค่านิยมความกริบเข้าไปทุกทีแล้วว่ะ จริงอยู่ที่รสนิยมความชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ไม่มีใครเอารสนิยมของตัวเองตัดสินคนอื่นได้ มึงสามารถบ่นได้ถ้ามึงรู้สึกไม่ถูกใจไม่พอใจ แต่บางทีกูก็อยากให้พวกมึงตระหนักกันก่อนว่าคุณค่าดั้งเดิมของหนังสืออยู่ที่ไหน ถ้ามันสามารถทำหน้าที่ของมันได้ไม่ขาดตกบกพร่อง ส่วนเสริมต่างๆก็เป็นแค่เครื่องปรุงที่ช่วยชูรส แต่ก็ไม่ควรให้มันทำลายคุณค่าดั่งเดิมของหนังสือลงนะ
ถ้าวันหน้ามึงต้องเหยียบย่างเข้ามาในวงการหนังสือเก่า กูยอกเลยว่า รูปหน้าปก ความเรียบกริบ ความสดใหม่ แทบจะไม่อยู่ในสายตามึงเลย เพราะแค่จะหามาครอบครอง จะหามาให้ได้สัมผัสได้อ่านก็ยากเต็มกลืนเลยว่ะ หนังสือบางเรื่องที่กูมีตอนนี้ทั้งปกขาด สันโดนไฟไหม้ แต่แค่ได้มาอยู่ในมือได้อ่านเนื้อหาในนั้นกูก็แทบน้ำตาไหลแล้ว วันนี้ถ้ามึงอยากเก็บและยังเก็บมันได้ก็หาเก็บไว้เถอะ เพราะวันหน้ามึงอาจจะไม่ต้องการเหตุผลใดๆแล้วนอกจากขอแค่ให้ได้อ่านมันก็พอ
เรื่องปกสำหรับกูยังไงก็ได้อะ กูสนใจที่เนื้อหาข้างในมากกว่าปก ปกสวยแต่เนื้อหาข้างในไม่โดนก็เท่านั้น แต่ถ้าปกสวยด้วยเนื้อหาข้างในดีด้วยเหมือนปกก็เป็นผลพลอยได้
>>622 งั้นทำไมถึงมีการเปลี่ยนปกหนังสือหลายเอดิชั่นให้คนซื้อสะสมกันถ้าคนทั่วไปไม่สนใจปก ต่างประเทศมีการประกวดปกนิยายให้รางวัลกันเป็นล่ำเป็นสันด้วยซ้ำ นี่คือไม่สนใจปกเลย?
อย่าอาศัยคำพูดสวยหรูแต่มองแค่ในมุมตัวเอง อย่าเหมารวม อย่าพูดแทนคนอื่น อย่าแก้ต่างแทน สนพ. การมองคุณค่าของแต่ละคนย่อมต่างกัน ในเมื่อจะจ่ายเงินซื้อย่อมมีสิทธิ์ออกความเห็น ไม่ได้ไปด่าพ่อล่อแม่คนทำปกหรือ สนพ. ซะหน่อย แค่นี้ว่าเยอะ กูงงใจ
มาอีกละ คุณค่าอยู่ที่เนื้อหา ปกไม่โอไม่มีสิทธิ์บ่นนะจ๊ะ อ้อ ห้ามชอบความกริบด้วย
นี่กูใช้เงินกูซื้อหรือใช้เงินใครซื้อกันน้า
+1 ให้ >>622 ปกสวยถือว่าเป็นของแถม แต่เนื้อในสำคัญที่สุด ไม่เคยเท สนพ. ไหนเพราะปกเลย ถ้าจะเทก็เพราะเนื้อเรื่อง หรือไม่ก็ราคามันเกินเอื้อม
นิยายบางเรื่องปกสวยโคตร แต่พออ่านเนื้อเรื่องนี่แทบโยนทิ้ง ถ้ามึงจะแต่งแค่นี้ มึงไม่ต้องใช้ปกเลล่า ปกฉงกงก็ได้นะมึง เพราะกูรู้สึกว่าโดนหลอก เสียดายตังค์ชิบ
กูก็ว่ามันไม่สวย คือก็กูคิดว่ามันไม่สวยอะ คิดว่ามันดูไม่คุ้มค่าเหมือนเรื่องอื่นที่ปกสวยๆ ใส่ใจรายละเอียด แต่ถึงกูบ่นกูก็ซื้ออะนะ เพราะกูอยากอ่านข้างใน เรื่องปกมันเหมือนเป็นผลพลอยได้ มันทำให้รู้สึกถึงความใส่ใจ มันเป็นความรู้สึกทางใจ ถ้าทำดีก็ดีกว่าทำลวกๆ มาอยู่แล้วใช่ปะ ซึ่งเห็นได้ชัดว่า สนพ. ทำผลงานออกมาลวกๆ จริงๆ ไม่ได้ใส่ร้ายป้ายสี แล้วกูก็บ่นของกูเฉยๆ ไม่ได้ไปด่า สนพ. ไป บังคับ สนพ. ให้เปลี่ยนตามที่กูชอบ กูแค่บ่นว่าที่มีอยู่มันไม่สวย เอ๊า บ่นก็ไม่ได้อ่อ
ส่วนเรื่องรักความกริบ ถ้ารักความกริบแล้วไม่ไปสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นก็ใช้เงินที่มีกันตามสบายเถอะ ไม่มีใครว่าใครได้หรอก ที่เค้าบ่นเรื่องกริบคือพวกที่รักความกริบแต่เสือกไปเรื่องมากกับแม่ค้าเกินเหตุ บางทีก็เอาประเด็นมาปนกันเกินไป๊
อ้อ อีกอย่างนะ พอดีไม่ใช่วงการของเก่าหนังสือเก่าน่ะ นิยายวายออกใหม่ๆที่ชอบมีเยอะแยะ มีสิทธิ์เลือกของสภาพดีๆ(ที่หลายๆครั้งยังไม่ได้แม้แต่จะเข้าโรงพิมพ์) อีกอย่างไม่ได้นิยมความยิ่งเก่ายิ่งขลังว่ะ
กูว่า >>622 ก็ไม่ได้ออกความเห็นรุนแรงอะไรนะ ต่างฝ่ายต่างก็แสดงความเห็นในสิ่งที่ตัวเองรู้สึก เค้าก็ไม่ได้ตำหนิคนที่บ่นหรือไม่โอเคกับปกไม่สวยนี่
กูเห็นด้วยว่าปกเป็นส่วนหนึ่งที่ส่งเสริมหนังสือ สิ่งสำคัญสุดคือเนื้อหา แต่ปกมันก็เป็นด่านแรกที่คนเห็นเหมือนหน้าตาอะ เห็นแค่หน้ายังไม่รู้ว่านิสัยเป็นยังไง ยกเว้นผ่านการคุยหรือรู้จักกันมาสักพัก (อันนี้ก็คงเหมือนมึงได้ลองอ่านตัวอย่างทดลองอ่านก่อนตัดสินใจ) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้ากูอ่านแล้วชอบปกเหี้ยแค่ไหนกูก็ซื้อ
ใจร่มๆ เพื่อนโม่ง เอาเป็นว่าใครชอบก็ซื้อ ไม่ชอบแต่ก็ซื้อก็ดี ชอบแต่ไม่ซื้อก็ได้ ไม่ชอบก็ไม่ซื้อก็ไม่มีใครว่า แล้วแต่สะดวกกันเถอะ เพื่อนโม่งบนๆ อาจจะแค่บ่นๆ ก็ได้ เรามีสิทธิ์แสดงความเห็นกันยิ่งเรื่องความชอบไม่ชอบเถียงกันยาวก็ไม่จบหรอก สำหรับเราตอนแรกไม่ได้ดูด้วยว่าต่างแค่สีชุดกับสันปก เพราะมัวแต่มองรวมๆ ไม่ได้คิดว่าสวยไม่สวยเพราะยังไงก็ซื้อ เราสายแปลอุดหนุนทุกสนพ. แม้แต่นบ.ที่เราเบื่อๆ เราก็ยังอุดหนุน เจอปกโป๊ๆ เราก็บ่นแล้วหากระดาษมาห่อทับไป ปกเรียบๆ ก็ชอบ เป็นพวกซื้อไม่สนปกนั่นแหละ
เอ้า พวกมึงนี่ กูบอกสักคำมั้ยว่าห้ามบ่น มึงอยากบ่นมึงก็บ่นกันไปสิ ชอบความกริบก็ชอบกันไปสิ กูแค่แสดงความคิดเห็นของกูเฉยๆว่าเอ้อถ้ามึงอยากเก็บจริงๆก็อย่าให้แค่เรื่องปกมาเป็นตัวตัดสินเลย ถ้าเนื้อหามันดีมึงอยากได้ก็เก็บไป ส่วนเรื่องจะซื้อไม่ซื้อก็สิทธิส่วนบุคคลของมึงสิ อยู่ที่การตัดสินใจของมึงแล้ว ใครจะไปบังคับมึงได้ ใครจะไปตัดสินมึงได้
ส่วนหนังสือเก่ากูไม่สนความขลังไม่ขลังแต่กูแค่อยากอ่านเนื้อหาข้างไหน มึงหนังสือบางเรื่องตีพิมพ์จำกัด กูไม่สนหรอกว่าเก่าไม่เก่า แต่กูหาอ่านไม่ได้ ณ จุดนั้นต่อให้แม่งบวมน้ำ ปกขาด สันไฟไหม้มาแต่เสือกเป็นเล่มเดียวที่กูหาได้กูก็ยินดีแล้ว
งั้นถามหน่อยว่าการบอกว่าคุณค่าหนังสืออยู่ที่เนื้อใน ส่วนอื่นเป็นส่วนเสริม แต่พอคนบ่นเรื่อง"ส่วนเสริม"ทีไร ต้องมีคนออกมาพูดตลอดว่านี่ซื้อเพราะเนื้อหาหรือซื้อเพราะปกเพราะความกริบ แปลว่าคนคนนั้นก็บ่นความชอบคนอื่นเหมือนกันมั้ย ละเรื่องหนังสือเก่าขาดๆพังๆก็ยอมซื้อเพราะอยากอ่านเนื้อหาข้างใน เพราะมันไม่มีอันที่ไม่พังให้ซื้อไง ไม่งั้นพวกร้านขายหนังสือเก่าจะพยายามหาอันที่มันสมบูรณ์มาขายทำไม เพราะคนอยากซื้อมากกว่าอันที่มันพังๆในราคาเท่ากันไง กูรู้สึกว่าความเยอะในวงการนิยายวายมันก็มีในวงการอื่น แต่คนชอบยัดเยียดให้ชาววายเรื่องมากกว่าคนอื่นกันจัง นี่เรียกอคติป้ะ
คนจะออกความเห็นก็ปล่อยไปสิ ใครคิดว่าปกไม่สำคัญก็แล้วแต่เถอะ ไม่จำเป็นต้องใช้คำพูดเหมือนเตือนสติสั่งสอน ความนัยมันส่อว่าต้องการจะสื่ออะไร
ถ้าคุณค่าของข้างในก็เพียงพอจะดึงดูดให้ผู้บริโภคซื้อก็ยกเลิกเรียนสาขาออกแบบแพ็กเกจจิ้งไปเถอะ ถึงของจะดีจริงแต่แพ็กเกจจิ้งห่วย คนก็ไม่สนใจจะพิสูจน์หรอกว่าของดีพอคุ้มค่าเงินหรือเปล่า
>>615 ปกติกูตามเองตลอดนะถ้าแม่ค้าส่งแล้วแจ้งเลขแล้ว เพราะแม่ค้าก็ไม่ได้รู้อะไรมากกว่าเราเลยเพราะปัญหาอยูที่ไปรว่ะ คือคนรับจะโทรตามหรือคนขายโทรตามก็ไม่ต่าง คนรับโทรตามเผลอๆมีประโยชนกว่าด้วยเพราะรู้โดยตรงเลย มีปัญหาก็รู้กันตรงๆ ไม่งั้นคนส่งเป็นคนกลางคอยบอกต่อสองข้าง เรื่องก็ช้า ได้คำตอบไม่ทันใจ ไม่ครบถ้วน ไม่นับสื่อสารผิดพลาดจนข้อมูลผิดอีก
เรื่องปกกูว่ากูมีสิทธิ์บ่นว่ะ อารมณ์ซื้อเค้กก็มีทั้งคนที่โอเคกับเค้กก้อนหนึ่ง ฉันกินเพื่อของอร่อยแล้วก็ง่ำไปไม่สนรูปลักษณ์ และคนที่ต้องการอาหารตาด้วย ต้องตกแต่งสวยๆดูเรียบหรูไฮโซ แม้สุดท้ายจะกินเหมือนกันก็เถอะ การที่บ่นปกในนี้ก็เหมือนบ่นกับเพื่อนว่ะว่าเค้กร้านนั้นตกแต่งไม่สวยเลย อยากให้ตกแต่งดีกว่านี้ ร้านเค้กอื่นยังตกแต่งสวยกว่า ซึ่งเขาบ่นในฐานะลูกค้า แต่ก็ไม่ได้คุกคามคนขายถึงขั้นไปตะโกนในร้าน บ่นใส่พนักงาน(=บ่นลงเพจ/ร้านหนังสือ) แค่บอกความเห็นของตัวเองในฐานะผู้บริโภค
>>639 กูว่าประเด็นคือความชอบความกริบเป็นความชอยที่ทำให้คนอื่นเช่นผู้ขายไม่ว่าจะ สนพ คนขายมือสอง เดือดร้อนว่ะ แบบมาจู้จี้ เยอะเกินเหตุ และกูว่าโคตรผิดวัตถุประสงค์ หนังสือมีไว้อ่านนะ ถ้าเปิดอ่านให้ตายไงก็ไม่กริบ ซื้อดองก็เรื่องแต่ละคนนะ แต่พอโวยวายเรื่องมากใส่คนอื่นมันดูแย่อ่ะ
คนในนี้คือคนส่วนน้อยป่ะ เห็นบ่นกันทุกเรื่อง แต่เค้าก็ขายดีทุกเรื่อง
KY เพื่อนโม่ง วทด. เค้ามีปัญหาอะไรเหรอ ปห.ส่วนตัวมั้ย คือ ทำไม boxset heaven เค้ามันนานนนนนนนนนนนนจังเลยอ่ะ จากโพสต์ล่าสุดของแอดมินนี่ก็กำลังแก้เล่ม 2 อยู่นะ อีก 10วันโน่นกว่าจะเข้าโรงพิมพ์ แล้วกว่าจะได้
ค่ายนี้เปิดตัวมาดีเลยนะ เรื่องดี พรีเมี่ยมครบครัน บริการดี แต่ไปๆมาทำไมเป็นแบบนี้
>>640 เออ +1 นั่นแหละ กูถึงบอกแต่แรกว่าปกมันไม่ดึงดูด อีกนัยนึงก็คือเป็นห่วงยอดเค้าด้วย ทั้งที่กูไม่จำเป็นต้องไปห่วงอะไร คนที่ตามแต่แรก รู้เนื้อเรื่องตัวอย่างแล้วยังไงก็ซื้อ แต่คนทั่วไปล่ะ ถ้ารูปแบบผลิตภัณฑ์ออกแบบมาไม่ดี ไม่ดึงดูด คนจะให้ความสนใจมั้ย กูถึงบอกว่าถ้ากูมองผ่านๆ ไปแบบไม่เคยอ่านกูคงไม่คิดหยิบ เมื่อไม่คิดหยิบก็คงไม่มีใครสามารถเห็นคุณค่าของเนื้อเรื่องได้หรอกจริงมั้ย ถ้าปกไม่สำคัญแล้วจะมีคนหลงหยิบปกสวยๆ มาก่อนโดยที่ไม่รู้เนื้อหาแล้วมาเสียใจทีหลังเหรอ
แล้วก็ที่บอกว่าไม่ได้ห้ามให้บ่น แต่มาประหนึ่งเทศนาสั่งสอนถึงคุณค่าของหนังสือที่โดยทั่วไปใครๆ ก็รู้อยู่แล้ว เหมือนแบบคนที่บ่นแลเรื่องเยอะ มันก็ต้องมีแก้ต่างกันบ้างล่ะวะ แต่ก็นะ คุณค่าของสิ่งของยังไงมันก็มองต่างกัน ในเมื่อการบ่นเรื่องปกไม่ไปสร้างปัญหาใหญ่ให้ สนพ. ไม่ได้ไปกดดันให้เค้าเปลี่ยนปกมันก็จบอะนะ
ส่วนเรื่องพวกชอบกริบคลั่งกริบ ถ้ามึงชอบกริบคลั่งกริบ มึงไปหาไปเลือกมือหนึ่งเอาให้กริบเท่าไหร่ก็เอา แต่ขออย่าง เวลาเลือกช่วยดูด้วยว่าขวางทางคนอื่นมั้ย มีใครต่อคิวหรือเปล่า จะให้แม่ค้าห่อเยอะ มึงถามต้นทุนเค้าด้วย ไม่ใช่ยัดเยียดแต่จะให้ห่อแต่เสือกไม่อยากจ่ายตังค์เพิ่ม เวลาซื้อมือ 2 มึงก็ต้องเข้าใจสภาพด้วยว่าจะให้กริบ 100% มันเป็นไปไม่ได้ กูเจอกระทั่งถามวัดขนาดการเข้าปกที่มันเหลื่อมๆ กันแค่นิดหน่อยมาจากโรงพิมพ์ แถมถามมาตอนเกือบเที่ยงคืน ถ้าจะขนาดนี้ มันเป็นการบ้าความกริบ ชอบความกริบที่สร้างความเดือดร้อนให้กู เพราะฉะนั้นกูถึงบ่นและอาจจะด่าถ้าใครมาทำงี้กะกูอีก แต่ถ้ามึงรักความกริบแบบไม่กระทบคนอื่น เอาแต่พอควร พอประมาณอันนี้ไม่มีทางที่ใครจะว่าพวกมึงได้อยู่แล้ว
>>642 กูหมายถึงชอบกริบแต่พอดีๆ ไม่ได้เดือดร้อนตัวเองกับคนอื่นว่ะ ไม่ได้บอกว่าเพราะกูชอบกริบ หนังสือที่กูซื้อถ้ามีรอยเท้ามดกูต้องเคลมได้ ไปยืนเลือกขวางทางคนอื่นได้ ถ้ามันบุบมันเปื้อนโดยที่เป็นเพราะการห่อแบบขอไปที(ไม่มีบับ/บับชั้นเดียว) หรือส่งมาให้ทั้งๆที่รู้ว่ามันมีตำหนิแต่ไม่บอกก่อน กูก็สมควรบ่นได้ดิ
ที่บ่นๆเรื่องกริบในนี้กูก็เข้าใจนะว่าหลายคนลงขายมือสองละเจอแบบที่บนๆบอกว่าต้องกริบ100% ลดราคา ส่งฟรี บับสิบชั้น หรือเห็นบ็อกซ์เป็นรอยขนแมวต้องได้เคลม แต่อย่าเหมารวมได้ป้ะว่าถ้าการชอบหนังสือที่ไม่พัง(หรือซื้อแฝด)เป็นเรื่องที่แย่/ไม่ดี
กูขอบ่นต่ออีกนิด
ซื้อแฝดแล้วไม่ได้เอาไปปาใส่ใคร ไม่ได้เอาไปหลอกขายโก่งราคานี่มันผิดเหรอ เห็นประเด็นซื้อแฝดในนี้นี่ทำอย่างกับเป็นtaboo เหมือนถ้ามึงรักหนังสืออย่างแท้จริงมึงต้องรักเนื้อหามัน อย่าหลงไปกับสภาพภายนอก มีแค่เล่ม/ชุดเดียวก็พอแล้ว
>>639 ก็แล้วความหมายที่กูพูดกูห้ามพวกมึงบ่นหรือเปล่าล่ะ ในเมื่อมึงเข้าใจความเรื่องเยอะของสาววายมึงก็ต้องมองความจริงด้วยมั้ยว่า บางอย่างมันเป็นความเยอะที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ความชอบส่วนตัวของแต่ละคนตราบใดที่ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนก็ไม่มีใครมายุ่งกับความชอบของมึงหรอก แล้วตัวมึงเองล่ะอคติว่ากูกำลังด่ามึงอยู่หรือเปล่า กำลังยัดเยียดว่ากูไปยุ่งกับความชอบของมึงหรือเปล่า
ส่วนเรื่องหนังสือเก่ากูไม่อยากพูดกับมึงแล้วพูดเรื่องนึงโยงไปเรื่องนึง พูดในความหมายที่ว่าหนังสือบางเรื่องถ้ามึงอยากได้จริงๆมึงแทบไม่สนอะไรทั้งนั้น นี่โยงไปความขลังมั้งล่ะ เทียบราคามั้งล่ะ อะไรของมึ้ง
พวกมึงจะบ่นอะไรก็บ่นกันไปสิ กูห้ามเรอะ กูก็พูดเรื่องจริงปะว่าหนังสือมันเอาไว้อ่าน ถ้ามึงอยากได้ก็เก็บ ไม่พอใจจะบ่นก็เรื่องของมึง แต่ถ้ามึงคิดจะไม่อุดหนุนเพราะปกไม่สวย กูก็พูดในแง่ที่ว่าถ้างานมันดีมึงอยากได้มากจะปกสวยไม่สวย กริบไม่กริบก็เก็บไปเถอะ บางเรื่องมาหาทีหลังน่ะมันยาก ส่วนใครใคร่ซื้อไม่ซื้อก็เรื่องของมึง เงินมึงไม่ใช่เงินกู กูไม่ได้ไปเดือดร้อนอะไรด้วย
กูคิดว่าปกมีผลกับการขาย เพราะกูเคยเจอคนที่บอกว่าอยากซื้อเพราะปก เนื้อในคืออะไรไม่สนใจ (บอกตามตรงในฐานะคนขายก็จุกนิดนึงนะ...) แต่หลังจากนั้นก็รู้ว่าปกมันช่วยดึงดูดคนมาสนใจหนังสือได้จริงๆ ในแง่คนขายถ้าทำสวยๆ ได้ก็อยากทำ... แต่ก็อยากให้สนเนื้อในบ้าง กูเศร้า แต่ตัวกูเองก็เคยหยิบจับหนังสือขึ้นมาดูเพียงเพราะปกสวย เคยอยากอ่านนิยายเพราะปกสวยเหมือนกัน ก็เข้าใจคนซื้อนะ
ส่วนในฐานะคนซื้อ ถ้าปกไม่ค่อยตรงกับความชอบแต่มันมีปกเดียว และกูจะอ่าน เนื้อในไม่ห่วย กูก็คงซื้อแหละ ไม่ได้เครียดกับปกขนาดนั้น แต่ถ้ามีหลายอีดิชั่น แน่นอนว่ากูเลือกอีดิชั่นที่สวยกว่า เว้นแต่พวกวรรณกรรมที่พิมพ์มาแล้วหลายอีดิชั่น มีทั้งแบบเต็มแบบย่อ แบบที่เรียบเรียงห่วย แปลดีแปลห่วย ก็ต้องสนเนื้อในก่อนค่อยเลือกปก
>>648 ทำไมต้องทำตัวสั่งสอนคนอื่นล่ะ
เพราะกูคิดแบบ >>640 ไง
"แต่ก็ไม่ควรให้มันทำลายคุณค่าดั่งเดิมของหนังสือลงนะ" นี่มึงพูดถึงเฉพาะเรื่องราวในนั้น ไม่ได้พูดถึงองค์ประกอบทั้งหมดของหนังสือสักหน่อย ถ้ามึงพูดงี้นิยายในเน็ตก็เรียกว่าหนังสือได้ดิ
ส่วนเรื่องวงการหนังสือเก่าอะ มึงลองอ่านที่มึงพิมพ์ก่อนนะว่ามันอยู่ในสภาพที่ไม่มีทางเลือกป้ะ จะพังจะเน่าก็ยอมซื้อ
มันเป็นความชอบส่วนบุคคล มีทั้งคนไม่สนปกเนื้อหาคือสำคัญ มีทั้งคนที่ชอบปกสวยๆก่อนดูเนื้อหา ใครใคร่ชอบแบบไหนก็ซื้อตามจริตตัว เถียงกันไปก็ไม่ได้อะไรหรอก ต่างคนต่างมีเหตุผลเป็นของตัวเอง
งืมๆๆ จบซะทีนะประเด็นนี้ ไปประเด็นอื่นเรื่องอื่นเถอะซิส
มึงจะบ่นเรื่องปกก็เรื่องของมึง แต่กูชอบปกนี้ กูจะอวยยยยยย
เรืองซื้อแฝดกูเฉยๆ นะ แต่เรื่องกริบนี่งั้นพูดสั้นๆ แค่เข้าไม่ถึงการสะสมโดยไม่คิดจะเปิดอ่านหนังสืออยากได้กริบๆ ว่ะ คือถ้าปกมันงอ มันยับน่ะเข้าใจ แต่หลายคนบอกตรงๆ ว่าโรคจิตเรอะ 555+
ชอบความเนี้ยบความกริบก็ไม่แปลกอะไร แต่ที่แปลกและกูเบื่อมาก คือบางคนที่ชอบความกริบชิบหาย ไม่เลือกซื้อมือหนึ่งที่ร้านเองวะ กลับมาตามหามือสองกริบๆ แพ็คแน่นๆ
>>651 คุณค่าดั้งเดิมของหนังสือคือการเอาไว้'อ่าน' ส่วนเสริมนอกจากนั้น รูปปก รูปเล่ม ความสวยงาม ความเรียบกริบ ความสะอาด ความสมบูรณ์ของหนังสือคือตัวชูรสให้หนังสือมีค่ายิ่งขึ้น แต่ถึงไม่มีของเหล่านี้หนังสือก็ยังคงเป็นหนังสือ ตราบใดที่มึงอยากได้หนังสือเล่มนั้นจริงๆ กูก็แค่อยากให้มองคุณค่าดั้งเดิมของมันว่ามันเอาไว้'อ่าน' การจะตัดสินใจซื้อไม่ซื้อเป็นเรื่องของมึง จะบ่นไม่บ่นชอบไม่ชอบเป็นสิทธิ์ของมึง กูไม่ได้ห้าม แต่การบอกว่าจะไม่อุดหนุนเพราะปกไม่สวย ไม่ซื้อเพราะมันไม่กริบ ทั้งที่มึงรู้ว่าเนื้อหามันดีมึงอยากได้มาเก็บไว้ กูพูดถึงในแง่นี้ว่าอย่าให้ส่วนเสริมมาทำลายคุณค่าเดิมของหนังสือที่แต่เดิมมันเอาไว้อ่าน อยากเก็บก็เก็บไปเลยก็ได้เพราะกูก็เห็นมาเยอะแล้วคนที่ไม่เก็บๆจนมาถึงจุดที่มันหาไม่ได้แล้วน่ะ การหาหนังสือให้ได้ตามที่มึงต้องการในวันที่มันเหลือน้อยหรือไม่มีในตลาดปกติแล้วมันไม่สนุกหรอก เรื่องที่มึงจะแฝดสองแฝดสามมันก็ความสบายใจส่วนบุคคลของใครของมันเลย บางเล่มกูก็แฝด บางเรื่องกูก็เก็บทุกปกทุกแบบที่ออกมาเหมือนกัน แต่ถ้ากูอยากได้จะปกไม่สวย ทำมือเย็บมุงหลังคากูก็ซื้อส่วนเรื่องหนังสือเก่ากูย้ำเหมือนเดิมว่ากูพูดในแง่ที่ว่า ถ้ามึงอยู่ในจุดที่อยากได้มันมาครอบครองและไม่มีทางเลือก หาไม่ได้แล้วจริงๆน่ะ ไม่มีใครมานั่งสนหรอกว่ามันอยู่ในสภาพไหน
ส่วนเรื่องสั่งสอนไม่สั่งสอนเจตนากูคือแค่พูดในอีกแง่ว่ะ กูก็แค่พูดในมุมของกูนะ ถ้ามึงไม่ได้คิดว่าสิ่งที่มึงทำเป็นเรื่องผิดหรือถูก ความเห็นกูก็แค่ความเห็นนึงเท่านั้น ไม่ได้จะสั่งสอนใคร ถ้ามึงรู้สึกไม่เห็นด้วยก็เอาเหตุผลมาคุยกันไม่ใช่มานั่งแซะว่ากูห้ามพวกมึงบ่น ทั้งที่กูไม่ได้พูด
กู....กูขอโทษ กูเป็นคนเริ่มประเด็นปกเอง แล้วกูก็หายไปเลย เพิ่งกลับมาเห็นว่ามันกลายเป็นประเด็นลุกลาม T_T กูแค่อยากบ่นเฉยๆว่าปกมันไม่สวยเท่าไหร่ แต่กูชอบเนื้อในมากกูก็ซื้อ //แต่ถ้าปกมันสวยกูก็จะอยากเก็บมากขึ้นเฉยๆอะ แง ขนาดกลอรี่ปกไม่สวยกูยังเก็บเลย เข้าใจคนที่บอกว่ามันสวย/อ่านหนังสือเพราะเนื้อในไรงี้นะ กูขอโทษ จบประเด็นนี้เถอะ orz
พวกมึง กูสงสัยว่ะ เวลาสนพ.ไปทาบทามนข. ขอนิยายมารวมเล่ม นข.อัพลงเว็บจบหมดแล้ว สนพ.เอามาแล้วสั่งรื้อพล็อตได้ด้วยเหรอวะ
ตลกที่พูดเองเออเองว่ามีปัญหาเรื่องปกแต่สาววายไทย กูขอยกตัวอย่างให้ไปดูนะ ว่างๆไปหาอ่านว่านักอ่านฝรั่งทั้งบ่นทั้งด่าปก Hidden Legacy Series นอร์มอลแนว Urban Fantasy กันขนาดไหน ที่โม่งบ่นในนี้อะจิ๊บจ๊อยมาก ถึงขนาดไปออกแบบปกใหม่กันมาโพสต์ด้วยซ้ำ
กูตลกที่แม่งมีคนบ่นในกรุ๊ปว่าติดเทปในการห่อเยอะเกิน ละบ่นใช้บับแบบรียูสไม่ได้เป็นขยะพลาสติค สรุปนี่คือกะเอาบับไปใช้ต่อรัวๆเลยใช่มะถถถ ดีจ้า ทำอะไรไม่ต้องออกเอง หลอกให้คนแม่งห่อมาให้เยอะๆส่วนตัวเองก็ใช้ฟรีไปชิลๆ
>>667 กูก็เอามาใช้นะ พวกบับหนาๆอ่ะถ้าสภาพดีๆก็ใช้ต่อได้ ส่วนพวกแบบหน้าเดียวบางๆก็เอาไว้ใช้รองๆยัดๆให้เต็มกล่องเอาแปลกตรงไหนวะ แต่ไม่เคยบอกให้ห่อหนา ใครห่อมาเท่าไหร่ก็เท่านั้นไปรบ้านกูดีเลิศ ถึงจะบุบนิดหน่อยกูก็โอเค เชื่อว่าต่อให้ส่งแบบไม่ห่อมาก็น่าจะสภาพดี /กราบพี่ไปร/
ไม่ใช่ทุกคนที่จะเรียกร้องเอากริบๆหนาๆนะมึง
>>668 มี นข ที่ผ่านการพิจารณาของค่ายสีส้มออกมาแจ้งจะรีไรต์เยอะ แบบเยอะมาก ตัดนั่นลดนู้น เพิ่มนี่นั่น น่าจะเพราะทาง สนพ ทักท้วงมาแหละมึง คือเยอะมากจนกูแบบ กูอ่านที่เค้าเขียนแล้วกูชอบนะ เค้าจะต้องเปลี่ยนอะไรเยอะแยะเพื่อคนอื่นไปทำไม ให้มันสนุกขึ้น ขายดีมากขึ้น แต่มันมาจากตัว นข อยากจะเขียนเองรึเปล่าวะ
หรือกูคิดมากไป สนุกมากขึ้นก็ดีอยู่แล้ว
กูเห็นนิยายผ่านพิจารณาสำนักพิมพ์แต่มันเป็นแฟนฟิคว่ะ ชื่อตัวละครแปลงมาจากชื่อตัวศลป แบบนี้ก็ได้เหรอวะ ขนาดแทกชื่อเรื่องยังเป็นแทกคู่ชิปเลย กูงง แฟนฟิคจริงๆแล้วมันเข้าข่ายละเมิดแต่ต้นสังกัดกับศลปเขาแค่ไม่เอาเรื่องว่ะ จะมาขายออฟฟิเชียลแบบนี้มันได้เหรอวะ
กูเคยเห็น นข.คนนึงบ่นนิดๆนะเรื่องที่ นิยายเขาผ่านการพิจารณาของ สนพ.แล้ว จากนั้นสนพ.ให้รีไรท์เยอะมากเลย นข.ก็บ่นว่า สรุปว่านี่คือเรื่องเขาผ่านจริงเหรอ ทำไมให้รีไรท์เยอะจังไรงี้
กูขอ ky หน่อย ใครรู้มาตอบที คือหลังๆกูเห็นมีนิยายแปลจีนลงดด.เยอะมาก พวกนี้ขออนุญาติคนเขียนมาเผยแพร่หรือยังวะ ถ้ายังนี่ถือว่าผิดลิขสิทธิ์มั๊ยเพราะแปลให้อ่านฟรี กูไม่รู้จริงๆ อย่าด่ากูนะ ช่วงนี้โม่งเถียงกันน่ากลัวมาก กูกลัว
สรุป นขที่โดนให้รีไรท์เยอะๆ คือใครหรอ
Ky ตั้งแต่กูสิงอยู่ห้องนี้ กูชักจะเก่งตัวย่อขึ้นทุกวัน จากตอนแรกไม่ค่อยรู้ อยู่ๆไปแม่งรู้เฉย 555
คำย่ออตด.กูเห็นบ่อย แต่เห็นทีไรชอบนึกไม่ออกจนมีเพื่อนโม่งใบ้ถึงรู้
ไม่รู้ว่ารีไรท์เยอะขนาดไหนนะแต่สนพ.ก็มีบก. กูว่าถ้าบก.มีฝีมือพอคงแนะนำนักเขียนเยอะจนเอาไปปรับปรุงแก้ไขให้มันดีขึ้นได้อ่ะ เป็นการพัฒนาฝีมือคนเขียนไปในตัวด้วย เลยมีอาชีพบก.ขึ้นมา กูว่าถ้าทำดีมันก็ดีเหมือนเป็นการปั้นนักเขียนไปในตัวไม่ใช่แค่เอางานมาตรวจคำผิดแล้วทำรูปเล่มให้เฉยๆ
แต่นั่นแหละ ถ้าบก.ไม่ดีก็เละ
พูดถึงเรื่องรื้อใหม่จนไม่เหลือพล็อตเดิมกูนึกถึงเรื่องtwinsของนบ. คือตอนนั้นกูกะอ่านตัวอย่างเผื่อซื้อ ปรากฏ อ่านไปไม่กี่ตอนมีตลคหนึ่งตาย ตอนแรกกูเฉยๆจนเห็นtalkนักเขียนบอกว่าคนอ่านเวอร์ก่อนรีไรท์คงตกใจมากใช่มั้ย เพราะคนที่ตายเป็นพระเอกของเวอร์ก่อนรีไรท์ กูอึ้งมาก แล้วกูก็เทเรื่องนั้นไปเลยทั้งที่ปกติชอบแนวแฟนตาซี แบบ แค่รีไรท์ถึงขั้นเปลี่ยนพระเอกเลยเหรอ ความรู้สึกพระนายที่เขียนจนจบรอบหนึ่งแล้วมันไม่มีค่าอะไรเลยเหรอ ทั้งนี้กูไม่เคยอ่านเวอร์ก่อนรีไรท์แต่กูเห็นแล้วรับไม่ได้เอง
>>694 กูเคยรีไรท์จนเปลี่ยนพระเอกเอง ตอนนั้นยังไม่ได้ส่งสนพเลยนะ ความรสตัวละครมันไม่เกี่ยวหรอก คนเขียนคือพระเจ้า กำหนดยังไงก็ได้ ถ้าเจออะไรที่เหมาะกับเรื่องมากกว่าก็ควรไปทางนั้น สำหรับตัวกูคิดว่าคนอ่านส่วนใหญ่เขาน่าจะหวังความสนุกความสมจริงอะไรมากกว่ารึเปล่า
จากประสบการณ์ที่กูเจอมา บกมีหน้าที่ไกด์เฉย ๆ ไม่ได้รีไรท์เอง ถ้าเขาพบว่าพลอตหลุดแบบมองข้ามไม่ได้เขาก็จะบอกว่ามันหลุดยังไง แนะนำให้แก้ ส่วนคนเขียนจะแก้ยังไงก็แล้วแต่ ปรึกษาเขาก็ได้ แต่เขาไม่ได้มานั่งจับมือกูเขียนอ่ะ
โหยยย เพื่อนโม่ง เถียงกันโหดจัง กูตามอ่านไม่ทันเลย ขอไม่อ่านนะ เหมือนมาดีเบตกันเลยวะ
เดือนนี้ยาวถึงเดือนหน้าแม่งโคตรเป็นหายนะของกระเป๋าเงินกูเลย สนพ พร้อมใจกันออกหนังสือรัวๆ กูไม่กล้าคิดยอดรวมที่ซื้อแล้ว ขนาดกูไม่ได้อ่านทุกแนวนะเนี่ย อยากจิครายยย
>>692 ถ้าเป็นเรื่องที่นขลงให้อ่านแบยจ่ายเงินเป็นตอนแบบที่มึงบอก กูว่าจะแปลลงเน็ตก็คงต้อง lc เป็นเรื่องเป็นราว แต่คนแปลก็คนทั่วๆไปจะเอาทุนจากไหนวะ ไม่ได้ทำเพื่อผลกำไรเหมือนพวกสนพนะมึง กูรู้แหละว่าคิดแบบนี้ไม่ถูกต้องทั้งหมด แต่ทุกอย่างมันต้องมีอะหลุ่มอะหล่วยมั่ง อีกอย่างที่หลายๆเรื่องมีการขอ lc ภาษาไทยจนตีพิมพ์ออกมาก็เพราะคนเอามาแปลลงเน็ตจนมีกระแสป่ะ
>>701 กูว่าคนแปลไปขอนข.เค้าดีๆว่าจะมาแปลเป็นภาษาไทยเพื่อแบ่งกันอ่านฟรี ไม่ได้หากำไร นข.ก็ไม่น่าจะปฏิเสธกันนะ ประเด็นคือได้ไปขอเค้ากันบ้างรึเปล่าเท่านั้นเอง
แต่กูก็พอเข้าใจ บางคนคืออ่านจีนเองไม่เป็น จะแปลจาก eng ทีนี้พอขอทาง eng เค้าก็น่าใจตกลงแทนนข.ไม่ได้ ส่วนจะให้ติดต่อทางนข.เองนั้นก็เขียนไม่เป็นอีก
>>701 เรื่องอลุ้มอล่วยอ่ะถ้าคนให้โอเคไม่เดือดร้อนก็ไม่มีใครว่าหรอก ดังนั้นมันถึงต้องมีการขอและได้รับการอนุญาตจากคนเขียน เพราะถ้าเขาไม่เดือนร้อนจริงเขาก็ให้แปลแหละ แต่ถ้าไม่ให้ก็คือไม่ให้ต่อให้มีเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ เขาไม่สะดวกใจจะให้
อารมณ์มีคนเปิดร้านขายขนมปังแล้วตอนปิดร้านของเหลือขายพรุ่งนี้ไม่ได้
คนอื่นก็มาขอขนมปังบอกยังไงก็ไม่มีประโยชน์กับคนขายแล้วขอกินได้ไหม เจ้าของให้คือให้ ไม่ให้คือไม่ให้ ไม่ใช่แอบไปหยิบขนมปังเหลือมาตามใจ อ้างว่าไม่มีเงิน จะเอาไปแจกคนอื่น ถ้ามีคนได้กินเยอะๆแล้วชอบ อาจมีคนติดต่อขอไปทำเฟรนไชส์ก็ได้
เมื่อไหร่ตรรกะแบบเหลือบไรมันจะหมดไปจากวงการสร้างสรรค์ศิลปะวะ กูเจอแล้วท้อแทนเจ้าของผลงานชิบหาย แหม ขโมยมาแปลจนดังได้มี lc ภาษาไทยนี่เป็นบุญคุณมากเลยเนอะ อนาถใจว่ะ แล้วไม่ต้องมาแซะกูว่าปากว่าตาขยิบหรือสองมาตรฐานนะ นิยายแปลตามเน็ตพวกนี้กูไม่อ่าน วายกูอ่านเล่มหรืออีบุ๊คที่ lc มาอย่างถูกต้อง ส่วนนิยายแปลเน็ตกูอ่านนิยายผู้ชายในฟชล. วินโดว์โปรแกรมคอมต่างๆกูใช้ของแท้หมด กูถือว่ากูจ่ายเงินสนับสนุนคนสร้างผลงาน
KY กูถามนิดนึงสิ คือถ้ากูกดให้กำลังใจนักเขียนใน ดด. นี่นข. เค้ารู้มั้ยวะว่ามีใครกดบ้างหรือรู้แค่จำนวนคนกด
กับถ้ากูกดให้กำลังใจซ้ำๆในตอนเดียวกันมันจะเป็นอะไรมั้ยวะ เพราะกูกดแล้วพอเปิดกลับอ่านอีกอีกทีมันเหมือนกับว่ากูยังไม่ได้กดอ่ะ งง
>>718 กูไปส่องทวิตเค้าเพิ่ม เค้าก็ทวีตบอกเหมือนต้องยกแก้ใหม่ทั้งเรื่อง คือถ้าจะแก้เยอะขนาดนี้ สนพ.จะให้ผ่านเพื่อออ เหมือนดีใจได้ไม่สุดอะ ได้พิมพ์แต่เหมือนลบละแก้ใหม่หมด เหลือแต่ความมุ้งมิ้งของเรื่องไว้ ละตัวคนเขียนก็ทวีตบอกว่าพลอตเค้าอ่อน กูไม่รู้จะรู้สึกไงดีเลย ยิ่งถ้าสนพ.เป็นฝ่ายมาติดต่อก่อนเองนี่จะพีคมาก ทำไมสนพ.ไม่ไปออกใบสั่งกะนขในสังกัดให้ทำตามใบสั่งเลยละวะว่าต้องการแบบไหน ยังไง = =
อันนี้นอกเรื่องแต่ก็ยังถือว่าอยู่ในเรื่องล่ะมั้ง 55555555 นิยายกูก็เคยมีสนพ.มาติดต่อนะ แต่เป็นสนพ.เล็กๆ เค้าให้เกียรติงานกูมาก คุยก่อนอย่างแรกเลยคือ เค้าจะพยายามไม่แตะต้องกับผลงานกู ยกเว้นคำผิด หรือส่วนที่ควรรีไรท์ให้มันไหลลื่น อันนี้คือสิ่งที่เค้าแจ้งกูมาตั้งแต่ข้อความแรกที่ติดต่อมาเลย เหมือนเป็นด่านแรกที่ทำให้กูรู้สึก เออ ประทับใจอยู่นะที่เค้าพยายามจะเคารพผลงานของกู
>>721 ถ้าให้พูดความจริงก็จะแรงไป เขาผ่านเพราะจำนวนแฟนเฟบและคอมเม้นต์ แก้ขนาดนี้เขาไม่ได้ผ่านเพราะเรื่องมันดีแล้ว บก.ยอมให้แก้ขนาดนี้เพื่อจะตีพิมพ์เพราะชื่อเสียงนขล้วนๆ เรื่องดี บก.แทบจะไม่แก้เลย เขาจะแค่เกลาสำนวนให้ไหลลื่น กูเคยอยู่กองบก.มาก่อนถึงจะลาออกมาแล้ว แก้ระดับคือหาความสมเหตุสมผลไม่เจอ พล็อตเรื่องอ่อนมาก
>>724 มันอ่านง่ายไงมึง เด็กชอบพล็อตแบบนี้คือไม่ต้องคิด อ่านผ่านๆ ยังเข้าใจ เน้นแค่ความฟิน แต่พอมึงโตขึ้นหรือมึงทำงานกองบก มึงจะอ่านแล้วปล่อยผ่านไม่แก้ไม่ได้ เพราะเนื้อเรื่องมีแต่จุดบอด คนที่ซื้อหนังสือจัดเป็นกลุ่มที่มีกำลังทรัพย์ส่วนใหญ่จะเป็นวัยผู้ใหญ่ระดับหนึ่ง คนกลุ่มนี้ได้อ่านรับรองด่าเละเพราะก็เห็นว่าเรื่องมันอ่อนมากจริงๆ
>>724 กูว่านี่เป็นสิ่งที่อววจะทำพลาดแบบสถาพร เลือกนิยายจากยอดเฟบยอดคอมเมนต์ ไม่มองดูความลึกของเนื้อเรื่อง หลายเรื่องที่นักอ่านติดนขจริงๆ มักจะไม่มีคอมเม้นต์หรือยอดเฟบมาก เพราะนักอ่านรอซื้อเลย กูเทียบเรื่องหนึ่งที่เพิ่งปิดพรีไปยอดเฟบเกือบสองหมื่นยอดจองไม่ถึงสองร้อย แต่อีกคนนขยอดเฟบบ้านๆ มากๆ ไม่ถึงพันแต่ยอดคนพรียังไม่ปิดเหยียบสามร้อยแล้ว
>>726 กูเห็นด้วยเรื่องตัดสินแค่จากยอดเฟ้บไม่ได้อะ ยอดไม่ได้ตัวการันตีว่าจะขายได้เยอะ คุณภาพงานก็สำคัญ ถ้าอววเลือกเรื่องที่เนื้องานดี แต่ยอดเม้นยอดเฟ้บไม่ได้อลังการงานสร้างหลักหมื่นแล้วตัวสนพ.เอาไปโปรโหมดกูว่ายังจะน่าสนใจกว่าอีก คนซื้อถ้าได้ลองอ่านมันตัดสินใจได้อยู่ละว่าจะยอมเสียเงินซื้อหรือเลือกอ่านเล่นๆ แก้เบื่อพอ
อ่าว เลือกจากยอดเฟบกับเม้นหรอวะ วันก่อนเพิ่งเห็นนข.มาบ่นว่ายอดเฟบเยอะแต่ขายไม่ได้อยู่เลย แต่ถ้าอวว.ทำก็คงขายได้ละมั้ง
>>727 สมัยก่อนเน้นอ่านเรื่องย่อ ถ้าน่าสนใจก็หยิบต้นฉบับมาอ่าน ตัวต้นฉบับมึงควรทำให้น่าสนใจตั้งแต่แรกพบคืออ่าน15 นาทีแรกควรจะโดนสักจุด อย่าไปพีคปลายเรื่องอย่างเดียว เพราะว่านักอ่านที่ซื้อตามร้านก็ทดลองอ่านแค่ไม่กี่บท
หลักๆ 1.พล็อต 2. ภาษา พล็อตต้องรวมถึงควาทสมเหตุสมผลที่มาพร้อมกับความสนุก แต่ก่อนไม่มีเอายอดเฟบกับคอมเม้นต์มาเป็นตัวตัดสิน แต่ปัจจุบันกูพูดได้คำเดียว
ฐานแฟนนักอ่านคือเกณฑ์แรกที่ถูกเลือก มีแฟนเฟบมากคอมเมนต์เยอะ โอกาสที่บกจะหยิบของมึงมาให้ผ่านพิจารณาเกือบ80% กลับกันเรื่องมึงดีมาก ยอดเฟบหลักร้อย คอมเมนต์หลักสิบ บกหยิยมาชมมึงแต่ไม่ใช่ว่าสนพ.จะตีพิมพ์
>>730 ความจริงของยุค แค่ดังก็เป็นใบเบิกทางชั้นดีแล้ว
>>731 ถ้ายังเลือกแต่เรื่องแบบนี้ กูว่าคนอ่านที่วัยโตหน่อยก็คงค่อยๆ ลดความสนใจในงานอววน้อยลงอะ ขนาดนขที่ดังๆ ยังผลิตแต่งานแบบเดิมๆ ออกมาเรื่อยๆ วัยที่ชอบก็คงเป็นวัยเด็กๆ หน่อย ทำไมรู้สึกว่าเค้าจะยึดแบบเดียวกับไลน์เลิฟซีรีส์เลยวะ ที่แม่งจะขายได้เฉพาะเด็กม.ต้นไรงี้
นิยายของนข.คนไหนที่กูซื้อเลยแบบไม่อ่านนี่กูไม่เฟบนะ ออกคือจ่าย ส่วนที่เฟบคือกะเอาไว้อ่านฆ่าเวลาอ่ะจะได้หาง่ายๆ
>>735 กูว่าเค้าอาจจะพลาดในเรื่องคุณภาพ แต่ยอดขายคงไม่พลาดหรอก เพราะเค้าก็คงกะว่าจะจับตลาดแบบเลิฟซีรีส์อะ คำว่าพลาดนี่คงไม่ได้สือถึงเรื่องยอดทั้งหมด แต่หมายถึงภาพจำ ภาพลักษณ์เวลาที่จะนึกถึงอววอะ เค้าคงจะวางตำแหน่งแบรนด์ไว้จุดนี้ แต่สำหรับคนอ่านวัยทำงานอย่างกูจะรู้สึกว่างานอววเป็นงานกลุ่มเดียวกับเลิฟซีรีส์ คือขายให้กับเด็ก เน้นความฟิน ขายฝัน ลูกกวาดๆ นานๆ ทีถึงจะมีอะไรน่าสนใจ แต่มักจะไปกองที่ด้านแปลจีนหมด
>>737 อันนี้จริงเพราะยอดขายของนขที่ยอดเฟบหลักหมื่นน้อยกว่านขยอดเฟบหลักร้อย ตอนกูทำงานเลยทำสำรวจและค้นพบว่านักอ่านวายติดนข หลายคนจะไม่เข้าไปอ่านงานของนขที่ติดเพราะกลัวลงแดง แต่จะรอซื้อเลยแบบออกมาเถอะ กูรอซื้อ ไม่ต้องอ่านกูก็มั่นใจว่าสนุก ฐานเฟบนิยายหรือคอมเม้นต์นขกลุ่มนี้จึงไม่เวอร์อลัง แต่คอมเม้นต์แต่ละอันจะคุณภาพมาก ยาวๆ พูดถึงแต่เนื้อเรื่อง
>>744 กูว่าวายมันเป็นแนวใหม่ในตลาด คนก็สนใจมากขึ้น มันไม่ได้มาแนวแมสแบบเลิฟซีรีส์หมดไง ถ้าไม่นับแนวมหาลัยแล้ว กูว่าวายมันหลากหลายกว่านอมอลมากนะ นอมอลมันมีแต่ตบตีแย่งชิงผู้ชาย เนื้อเรื่องละคร แนวผี กฏแห่งกรรม แต่วายมันมีแนวแปลกๆ เอเลี่ยน สัตว์ ฯลฯ มันก็ทำให้นักอ่านรุ่นใหม่สนใจมากกว่า อย่างกูจะให้ไปอ่านนิยายสมัยเก่า วันๆพูดถึงการปราบวิญญาณพยาบาทด้วยการเอาพระมาไล่ แล้ววิญญาณเกิดคิดได้ อันนี้กูก็เบื่อมากกก
ที่ดูเหมือนเป็นแนวใหม่คงเพราะพึ่งได้กลับมาเปิดตัวในที่สว่างอีกครั้งล่ะมั้ง คัมแบคหลังจากโดนเก็บกวาดไปหลายปี แต่เรื่องสนพ.นี่ก็คงต้องแล้วแต่ เค้าทำธุรกิจยังไงก็คงเลือกแต่สิ่งที่มันน่าจะขายได้ง่ายกว่า แต่ลึกๆ กูก็อยากให้มีสนพ.แบบฝูเกิดขึ้นนะ เอาให้ตัวสนพ.แมสกว่า ออกงานบ่อยกว่า เพราะฝูนี่เนิ่นนานละเกินกว่าจะออกแต่ละเรื่อง กูไม่รู้สำหรับคนอื่นนี่มองฝูยังไง แต่งานฝูสำหรับกูเหมือนมันมีมาตรฐานอยู่ ต่อให้เรื่องที่กูรู้สึกว่าเอื่อยๆ เรื่อยๆ ไม่ค่อยสนุกก็ยังรับได้กว่าหลายๆ เรื่องที่วางขายอยู่บนชั้นหนังสืออะ
https://t.co/Dxp9fUd2lX กูไม่เคยเห็นนขคนไหนวัลลาบีเท่ามัน
พวกมึงสนิทกับนักเขียนกันบ้างมะ แบบคุยเป็นเพื่อนกันเลย
จะไล่กูไปไหนอีก กูหาเพื่อนด่ามันไง กูรำคาญมันทำเป็นแจกของ รวยมาจากไหน กูหมั่นไส้มันตั้งแต่มันบริจาคเงินแล้ว ทำเป็นเอาค่าตอนที่ได้ไปบริจาคเวบ ทำเป็นไม่เอาเงินขายนิยาย กูไม่เชื่อว่ามันเอาเงินทุกบาทไปบริจาค กูเกลียดมันโคตรสร้างภาพ
อ้าว ถถถ รอตั้งนานไม่มา ทำไมพวกมึงไหลไวจังวะกูเลยปล่อยไก่เลย 5555
ใครแนะนำ สนพ แบบ ฝู ให้กูได้บ้าง
>>753 ก็มีเพื่อนนข. แรกๆก็คุยผ่านเพจ หรือคุยในกลุ่มของเขา ib คุยกัน เคยเจอกันแต่ถ้าถามว่า "ดี" แบบที่คิดไหม กูไม่เคยคิดว่าเขา "ดี" ยังไง คุยๆไปมันก็รู้นิสัยเองอ่ะ ไม่เคยคิดว่าเค้าต้องยังงั้นยังงี้ คิดว่าเขาคือเพื่อนคนนึงก็เหมือนมึงเจอเพื่อนอ่ะ
ถ้าไม่ตั้งความหวังมึงจะไม่ผิดหวังเชื่อกู อย่าคิดว่านข.ไม่ใช่คนธรรมดาสิ มนุษย์ธรรมดาๆนี่ล่ะดีและเหี้ยปะปนกันไป
กูสงสัยมานานแล้วว่าทีมงานฝูเค้าทำงานอย่างอื่นไปด้วยรึเปล่า เห็นออกหนังสือช้ามาก ขนาดงานรีพริ้นยังช้า กูยังพอได้ซื้อนะเพราะเพิ่งอ่านวายได้สามสี่ปี เค้าออกอะไรมากูตามเก็บทุกรายการ แต่พี่ที่กูสนิทแกเป็นสาววายรุ่นเก่าที่ไม่เก็บแฝด แกบอกรอฝูออกงานใหม่แต่ละทีเหงือกแทบแห้ง ลุ้นแล้วลุ้นอีกกว่าจะได้อ่าน
.
เห็นด้วยกับที่ข้างบนบอก งานค่ายนี้สำหรับกูคือหนุกมั่งไม่หนุกมั่งปนๆกัน แต่กูเก็บหมดเพราะชอบวิธีทำงานงานละเอียดตั้งแต่หน้าปกยันเนื้อใน คงเพราะทีมงานน้อยผลิตน้อยมั้งเลยควบคุมคุณภาพได้
>>766 แต่บางเรื่องของฝูกูก็อ่านไม่รอดนะ อย่างคนเลี้ยงม้ากับชุดเทวาล่าสุด คนเลี้ยงม้าไม่ใช่เเนวกูเลยไม่รอดส่วนชุดเทวากูอ่านแล้วรู้สึกงงๆอ่ะ งงว่าสิ่งตัวละครทำ-พูดต้องการจะสื่ออะไรกันเเน่ และเอาจริงบางทีกูก็งงกับที่คุณเฟื่องเเปลด้วย ส่วนตัวกูไม่ต้องการภาษาสวยมากแค่เข้ากับสถานะการณ์ เช่น จีนโบราณก็ใช้ให้เข้ากับจีนโบราณ และที่สำคัญสุดคือกูอ่านเข้าใจก็พอ
เรื่องค่ายไหนที่เหมือนฝ.นี่ ก็ขอออกความเห็นนะว่าถ้าสนพ.อื่นออกงานใหม่ปีละเล่ม ที่เหลือเป็นงานเก่า เอามารีแล้วรีอีก เปลี่ยนปกเอา แบบนี้ก็น่าจะมีค่ายที่ทำแล้วดีเหมือนกันอะนะ เพราะไม่ได้ทำอะไรใหม่ๆเลย จำนวนงานที่ออกก็น้อยแบบทำให้จัดการง่าย คุมคุณภาพได้ ยิ่งเอาของเก่ามาพิมพ์ใหม่ มันก็แก้ใหม่ได้ ถ้าไปดูเวอร์ชั่นแรกที่พิมพ์มันก็มีพิมพ์ผิดแปลผิดอยู่แล้วไง ที่ออกๆมาสองสามปีนี้มีแต่งานเก่า งานใหม่น้อยมากปีละเรื่อง ถ้าให้ฝ.มาจับงานแปลออกถี่ๆ งานไทยออกถี่ๆเหมือนค่ายอื่นก็ไม่คิดว่าจะออกมาดีทั้งหมดหรอกว่ะ
ส่วนเรื่องคนทำฝ.นี่ กูว่าออกน้อยขนาดนี้ต้องมีงานประจำอยู่แล้วปะวะ สนพ.ที่ไหนมาออกนิยายปีละเรื่องสองเรื่องแล้วอยู่ได้มั่งวะ 55555 ที่แน่ๆฝ.ก็ทำร้านดว.นะ รายได้ตรงนั้นอาจจะเป็นรายได้หลัก ไม่ใช่งานสนพ.ก็ได้
เค้ามีงานประจำอยู่แล้ว ส่วน ดว คือร้าน that's y ไง งานฝูสำหรับกูก็ไม่ได้รอดหมดหรอก แต่เฉลี่ยแล้วมันออกมาได้มาตราฐานดีสุด ฝูสำหรับกูเลยเป็นนัมเบอร์วันน่ะ ส่วนเรื่องการแปล กูว่าเขาแปลดีมาก ถูกจริตกูมากๆ ก็เลยคือดีมากสำหรับกู แต่ก็แอบเซ็งตรงเวลารอเรื่องใหม่นี่แหละ บางทีแทบจะไม่มีงานใหม่ด้วยซ้ำ มีแต่งานรีปริ้นท์ แต่เขาก็ไม่ได้ตะบี้ตะบันรีมันทุกเรื่องทุกปีอะ เว้นไปสองสามปีรี ซึ่งกูก็รับได้อยู่นะ แต่อยากให้เค้าเอางานใหม่ๆ มาออกมากกว่า แต่ตัวคุณเฟื่องแกเคยบอกว่าต้องทำงานประจำ ทุกๆ อย่างมันเลยช้า ดังนั้นอะไรหลายๆ อย่างของฝูมันถึงคุมง่าย
ส่วนที่บอกว่าอ่านแล้วไม่เข้าใจ อันนี้กูก็ไม่สามารถเข้าใจได้เพราะกูอ่านแล้วเข้าใจ (แต่จะถูกตามที่คนแต่งเค้าต้องการไหมนี่อีกเรื่องนะ 5555555) คืองานบางเรื่องที่เค้าเอามาแปล มันมีเชิงสัญลักษณ์แฝงไว้ในตัวงาน ดังนั้นบางทีอ่านแล้วมึงอาจต้องตีความอีกที ก็เลยอาจจะงงๆ อย่างเรื่องคนเลี้ยงม้ากูชอบมากกก มันจี๊ดดีอะ น้ำเน่าจริงอะไรจริง ส่วนชุดเทวากูยังเหลืออีกเล่มที่ยังไม่ได้แกะอ่าน แต่กูก็โอเคนะ ไม่ได้เป็นชุดที่ชอบที่สุด แต่ก็ไม่ได้แย่จนรู้สึกเฟลอะไร
>>770 อ่านเม้นมึงแล้วเห็นภาพเลย เค้าคงทำงานประจำกันจริงๆ ถึงออกงานช้ามาก ขนาดรวมรีปริ้นด้วยยังออกปีละ 3-4 เรื่อง เทียบกับฮูกที่ออกงานโครมๆแต่คุณภาพไม่ดีมากแล้วกูอยากจับมาปั่นรวมกันแล้วหารครึ่ง เพื่อนกุเคยคุยกับแอดมิน พุดประมาณคนทำแก่ๆกันแล้ว ออกงานถี่ไม่ไหว ก็คงทำงานหลักกันจริงๆแหละ เลยมีเอเนอจี้มาทำหนังสือน้อยลง
ฝูนี่อายุอานามคนทำก็น่าจะเยอะระดับนึงแล้ว กูตามเขามาตั้งแต่สมัยม.ปลาย ช่วงโกงอายุสมัครบอร์ดเลยมึง 5555 ตอนนั้นเขาก็น่าจะวัยยี่สิบกลางๆกันแล้ว จนตอนนี้กูจะขึ้นเลขสามแล้ว เขาก็น่าจะมีอายุกันระดับนึงแล้วว่ะ คงไม่ไฟแรงเหมือนสมัยทำใหม่ๆยิ่งตอนนี้ สนพ.วายเกลื่อนตลาดไปหมด ไม่ได้แรร์เหมือนสมัยนั้นแล้วด้วย จะว่าไปฝูนี่เรื่องที่ไพเรทเขาทำให้ถูกลขส.บ้างหรือยัง ช่วงหลังมานี่กูไม่ได้ตามเลย กลับไปดูช่วงแค่จะรีปริ้นเท่านั้น แต่งานรูปเล่มกับงานแปลฝูกูก็ยังยกให้เป็นงานดีอันดับต้นๆเหมือนกัน ต่อให้ฝูทำงานออกมาน้อยงานเลยคุมง่าย แต่กูก็ยังหวังให้ค่ายวายมาตรฐานได้แบบฝูหรือดีกว่าว่ะ คือถ้าทำได้แบบนั้นถึงมูลค่าหนังสือจะมากขึ้นกูก็ยอมจ่ายนะ
>>778 เห็นว่าเรื่องที่รีขายใหม่คือไปขอลิขสิทธิ์มา แล้วก็จ่ายค่าลิขสิทธิ์ย้อนหลังด้วยนะ เป็นค่ายที่กูชื่นชมมากเรื่องที่ขึ้นมาบนดินอย่างถูกต้องเนี่ย นอกจากงานคุณภาพแล้วยังทำงานดีอีก อยากให้ค่ายไพเรทอื่นๆทำตามได้บ้างเลย แต่ก็คงยากเพราะน่าจะติดเรื่องเงินทุนในการขอลิขสิทธิ์กันแหละมั้ง
ไม่โดนโม่งแบนแล้วว่ะ 555
Ky พวกมึงจำเพจที่ชื่อ BL Dayo ได้ป่ะ ที่รอบก่อนออกมาแหกอีผีที่เอาเรื่อง จูดาห์ ของ อ.hana มาแปล
กูเห็นนางเล่นใหญ่มาก บอกอาจารย์ไม่พอใจ บลาๆ
แต่เมื่อวานกูเห็นนางประกาศ แปลงานของ อ. Hana จ้า
กูว่าย้อนแย้งฉิบหาย แบบนี้ยังมีหน้าไปสั่งสอนคนอื่นอีก
ตัวเองก็ไม่ต่างกัน
Ky พวกมึงใครสั่งโปรนายอินบ้าง กูอยากรู้จังเลยว่าเขาส่งของวันไหน
ไปสอยเจิ้นมาแล้ว ของมาพอดีตอนเที่ยงที่สาขาโลตัสศรีนครินทร์ พนักงานบอกได้มาสิบชุด
ได้ปราชญ์ชุดสุดท้ายมาด้วย ส่วน ววฮซ ยังมีเต็มร้านเลย
ถ้าใครไปซื้อที่ร้านแล้วยังไม่มาหรือหมดแล้ว สั่งจองไว้ได้ก่อนนะ จ่ายมัดจำ แล้วพอหนังสือเข้า เขาจะโทรแจ้งมึงเลย เผื่อกรณีหนังสือลงแล้วแต่สินค้าหมดไปไม่ทัน
ค่ายรักแรกนี่นอกจากอันคัทแล้วมีอะไรต่างจากค่ายอื่นไหมอะ เห็นราคาเลยสงสัยเพราะไม่เคยซื้อเลย เห็นแพงกว่าค่ายอื่นราวร้อยกว่าบาท
>>797 คาดว่าตามชื่อ อันคัท ไม่ตัดฉาก ส่วนที่แพงกว่าค่ายอื่น (หมายถึงที่มี lc ใช่มั้ย?) เพราะคงเป็นกลุ่มเล็กๆ ทุนน้อย ทุนหมุนเวียนน้อย จำนวนเรื่องที่เอามาพิมพ์และจำนวนพิมพ์ต่อเล่มน้อย ต้นทุนเลยสูง กูรออุดหนุนค่ายนี้อยู่ ยังไม่เจอที่ถูกจริตซะที แต่นับถือเค้า lc ยุ่นใช่จะขอกันได้ง่ายๆ นี่เค้าเป็นกลุ่มเล็กยังอุตส่าห์ไปขอมา ไม่ทำอันคัตไพเรทแบบเจ้าอื่น นับถือน้ำใจจริงๆ
>>798 กูก็นับถือที่เขาlcมา ไม่เหมือนพวกไพเรทที่ขโมยมาแปลกขาย ขายแพงเข้ากระป๋าตัวเอง กูไม่ชอบสุดคือ วทด ก่อนหน้าเป็นนักอ่านเวลานขทำพลาดชอบมาโพสต์ต่อว่ามีปัญหาอะไรให้มาบอกไม่ใช่หายไปเงียบๆ พอถึงคราวตัวเองหายเงียบเป็นชาติ แล้วมาแก้ตัวว่าไม่มีอะไรจะอัพเดทที่เงียบไป กลืนน้ำลายตัวเองหมดทุกเรื่อง//เบ้ปากใส่แรงๆ
>>799 วทด กูก็ไม่ชอบเจ้าของเหมือนที่มึงบอก อายุไม่ใช่น้อยๆ พูดอะไรกลืนน้ำลายตัวเองหมด ตั้งแต่เป็นตัวตั้งตัวตีบ่นนขที่เปิดพรีส่งเกินเวลา ชอบมาแสดงความคิดเห็นทำนองไม่พร้อมอย่าเปิด มีปัญหาอะไรให้แจ้งนักอ่าน ตอนแรกกูนึกว่าดี โอ๊ย ที่ไหนได้สร้างชื่อจะได้มาทำเอง แล้วก็หายเงียบเหมือนกัน ไม่แจ้งจนนักอ่านต้องไปถาม
เพื่อนโม่ง ถ้าพวกมึงมี the wrong way แล้วอยากปล่อย มีคนตั้งรับอยู่ในกลุ่ม ขอลด 30% จากปก พวกมึงอย่าลืมไปปล่อยให้นางล่ะ 555555555 #กูกอดของตัวเองแน่น #ลด30เปอร์จากปก #ว้าวววมาก
บางทีกูก็สงสัยว่านิยายมือสองในกลุ่มมันมือสองหรือมือหนึ่งรับมาขายต่อ ราคาถูกกว่ามือหนึ่งยี่สิบสามสิบบาท กูรอนายอินทร์ลดยังถูกกว่าเลย #มือสองไม่จำเป็นต้องแพง
ความเห็นกูนะ มือสองไม่จำเป็นต้องแพงก็ใช่แต่คนตั้งรับบางทีก็ขอให้ตั้งราคารับสมเหตุสมผลอ่ะ แต่ทั้งนี้มันก็แล้วแต่อีก บางคนเค้าอยากเอาทุนคืน ถูกๆเค้าก็ขาย
วทด คือสนพ.ไหนหรอ
KY กูอยากแซะอป.ขึ้นมาตะหงิด แหม ช่วงนี้อัพถี่เชียวนะ
>>805 กูไม่เห็นว่าโพสต์นั้นเขาขอสภาพแบบไหน ถ้าขอกริบเนี้ยบกูว่าก็มากไปจะเอากริบก็ไปซื้อมือหนึ่งสิ
แต่เรื่องมือสองนี่นิยายแนวอื่นสืบสวนแฟนตาซีรักจีนแปลฝรั่งปกติขาย40-50%กันอยู่แล้ว บางเว็บเผลอๆถูกกว่านี้ กูเลยแบบ แค่30%ถึงกับต้องว้าวเลยเหรอวะ ไปเจอราคามือสองนิยายแนวอื่นไม่ช็อคตายเลยเหรอ
กูเห็นคนบ่นนข.เรื่องห่อบางอีกละ ไอ้เรื่องบางมันก็บางหรอก แต่กูไม่เข้าใจคอมเม้นท์ว่า ทำไมเป็นนข.ถึงไม่รักงานตัวเอง กลัวเปลืองเหรอ ไม่รักงานแล้วใครจะรัก อ่าว... พูดกันเรื่องเงินดิวะ ค่าส่ง 60 บาท หนังสือ 2 เล่ม หนักเท่าไหร่ ค่าส่งเท่าไหร่ กล่อง ซองทำไรได้บ้าง จะด่าก็ด่ากันตรงนี้ ดูมีสาระหน่อย
ไม่ใช่ด่านข.งก นข.หน้าเงิน นข.ต้องรักงาน ต้องๆๆๆ ...ต้องทำทุกอย่างยกเว้นหาเงินแดกข้าว
รมนมันยังไง กูเห็นโพสต์ล่าสุดที่เขียนไปถามสถาพร เขียนถามไปได้ยังไงว่าขออนุญาตให้แปลลงเว็บเถื่อนได้ไหม คนทั่วไปไม่ควรถามคำถามนี้เพราะต้องมีจิตสำนึกให้เกียรตินขและสนพที่ซื้อลิขสิทธิ์ ไม่ชอบใจที่สนพยังไม่มีแพลนต่อ แต่ไม่ได้หมายความว่ามึงมีสิทธิ์ละเมิดลขคนอื่น ความคิดแม่งป่วยของจริง
ที่เพื่อนโม่งด้านว้าวเราขอเดาว่าเพราะเรื่อง ww ราคามันไม่ต่ำไงเพื่อนโม่ง ขายได้ราคาดี ราคาต่ำสุดมือสองที่เห็นคือ 1000 มีตำหนิกับมือหนึ่ง 1000 ที่เรามองแล้วอิจฉาคนได้ไปมาก แล้วพอมีคนตั้งรับต่ำกว่าปก30% หาคนขายให้ยาก ดูราคาปกรอบปณ.ตอนนี้ก็พอบ้อก 1500 ที่คั่นพลาสติกขายแยกอีกร้อยกว่าๆ รวมแล้วเกือบพันเจ็ด คนที่ซื้องานฟิคกับทันรอบปณ.งานฟิคคุ้มสุดแล้ว พวกเก็งกำไรก็วัดจากปกราคาเต็มนี่แหละ ช่วยหากำไรกันก็ตอนนี้แหละ
มีการจะขอมาทำกันเอง 555555 มีปัญญาจ่ายค่าไลเซ่นมั้ยล่ะ
ต้องเข้าไปเผือกเพจไหนเหรอเพื่อนโม่ง เข้าเพจสถาพรหาไม่เจอ
ไปอ่านมาละ ท่าทางอวดเหมือนเป็นวีรกรรมผู้กล้าด้วยนะเนี่ย ต้องไร้สามัญสำนึกเบอร์ไหนวะ กูเป็นแอดมินคงอึ้งแดก
ถ้ารู้ว่าทำละเจ๊ง ใครมันจะกลัาทำต่อฟระ เฮ้อ อย่านึกว่ามี lc แล้วจะเทจะแพไม่ได้นะ เกิดเป็นคนอ่านต้องทำใจ ตั้งแต่เข้าวงการวายมา แม่มมีหนังสือที่ไม่ได้อ่านเล่มจบตั้งกี่เรื่องละ กูไม่อยากนับ
เออ กูก็ไม่ค่อยชอบ รมน เหมือนกัน ชอบปากดีด่าเขาไปทั่ว กูบล็อกนางตั้งกะตอนที่มีคนเข้าไปบอกนางดีๆ ในกระทู้บ่นร้านหนังสือ แล้วนางไปแขวะเขา แสดงสันดานแบบนี้กูขอดีลิทไปจากชีวิตดีกว่า ถ่อยเกิ๊นน
กูก็บล็อกไปแล้ว บล็อคเพราะเคสเด็กนั่ฃอ่านในร้านซีเอ็ดน่ะแหละ
สันดานเดียวกันกับคนนึงที่ดิสเพลย์สีชมพูเป็นรูปหมา ที่ขอถ่ายเล่มพิเศษของนข.ที่มีแต่รอบพรีมาแจกในกรุ๊ป อยากเป็นคนดีแบบโง่ๆ พอมีใครทักก็บอก ขอถามนักเขียนก่อนนะคะ
ทำไมเรื่องง่ายๆแค่นี้ก็คิดกันไม่ได้วะ
มึง ทำไมสถาพรไม่ทำสืบสยองแล้วอ่ะ ไมเทกูงี้
กูพึ่งเคยได้ยินชื่อเรื่องสืบสยองครั้งแรก อห กูว่ากูก็ตามหนังสือพอสมควรนะ ทำไมกูไม่รู้ นี่กูไม่อยู่ไหนมา T___T เข้าไปดูละยิ่งเสียดายเหมือนจะเป็นแนวที่กูอาจชอบ มันอารมณ์แบบเทียนซือปะวะ แต่เปลี่ยนจากไล่ลาผีเป็นหาฆาตกรแทน
พิมพ์นิยายครั้งแรกมึงพิมพ์เผื่อกันกี่เล่มวะ ควรจะพิมพ์เยอะ ๆ หรือพิมพ์เท่าจำนวนคนสั่งดี กูกลัวขายไม่หมด
>>840 ขึ้นอยู่กับว่างานมึงมีแนวโน้มที่จะมีคนมาตามหาทีหลังเยอะไหม อย่างกูทำเรื่องแรกครั้งแรกประเมินต่ำไป กูเลยสั่งเกินมาแค่ 2ชุด (โรงพิมพ์ที่ใช้รับพิมพ์จำนวนแบบหาร4) แต่พอกูประกาศว่ามีสตอคก็มีคนมาซื้อทันทีเลยภายใน 1ชม. หลังจากนั้นก็มีคนมาถามเรื่อยๆ สรุปคือถ้าตอนแรกกูสั่งมาเกินสัก 16-20 ชุดก็ขายได้หมด เพราะฉะนั้นมึงลองประเมินคร่าวๆ แต่กูเป็นพวกกลัวขายไม่หมดเลยไม่ค่อยอยากสั่งมาเกินเยอะเพราะมันจะลำบากตอนขายให้ออกนี่แหละ
พวกมึงกูปรึกษาหน่อย
มีนิยายที่กูตามอยู่ คนเขียนเคยออกตัวตั้งแต่แรกว่าไม่ถนัด nc แต่เห็นคอมเม้นท์ยุกันหลายคน สรุปนข.ก็แต่ง nc ออกมา แต่ส่วนตัวที่กูอ่านกูไม่ชอบเลยอ่ะ ตอนอ่านแล้วสะดุดไปแทบทุกย่อหน้าเลย ทั้งการเลือกใช้คำ การบรรยาย (คือจากกูชอบนิยายเรื่องนี้กลายเป็นว่าอยากให้นข.ตัด nc ทิ้งแล้วแพนเข้าโคมไฟไปเลยจะยังคงความสนุกได้ดีกว่า) ทีนี้กูอยากบอกนข.แต่คอมเม้นท์ก็มีแต่ชม แบบหื่นมาก ฟินมาก ถ้ากูไปโพสกูจะโดนลูกหาบรุมมั้ยวะ (คือคนตามเยอะมาก) แต่กูว่ามันอ่านสะดุดจริงๆนะ
>>850 มึงจะไปบอกนขว่าไงอะ คือในความคิดกูนะ เค้าออกตัวว่าไม่ถนัด แต่เพราะมีแรงยุเลยคงพยายามจะแต่งออกมาให้คนอ่านได้อ่าน แน่นอนว่ามันคงไม่ดีมากแน่ๆ หรอกเพราะมันไม่ใช่ทางเค้า ถ้ามึงจะบอกจริงๆ ก็บอกแบบซอฟๆ หรือไม่บอกเลยจะดีกว่าเพราะเค้าก็ตั้งใจเขียนออกมา ปล.มึงเป็นคนอ่านประจำเค้าไหม แบบเม้นประจำอะ อันนี้ส่วนตัวกูนะ ถ้าคนอ่านที่เม้นให้กูประจำมาสะกิดบอกกูจะรู้สึกดีที่ได้รู้ข้อบกพร่อง แต่ถ้าเป็นนักอ่านที่ไม่เคยเม้นหรือปรากฏตัวขึ้นมาก่อนมาวิจารณ์กูจะหัวร้อน มึงก็ลองเอาอันนี้พิจารณาร่วมด้วยแล้วกัน กูบอกในฐานะที่เป็ฯทั้งคนเสพและคนแต่ง
กูขอเพิ่ม มึงจะลองเปลี่ยนเป็นให้กำลังใจเค้าแทนให้พัฒนาต่อไปกูว่าก็โอเคอยู่นะ ไม่ต้องบอกว่ามันไม่ดี มันสะดุดหรอก เค้าจะเฟลอะ เพระามึงบอกเรื่องเค้าแต่งดีแต่มันติดที่ฉากนี้เท่านั้นใช่มะ บอกว่าครั้งแรกก็ไม่ได้แย่เดี๋ยวก็พัฒนาได้เองงี้ก็น่าจะพอรู้ตัวแหละว่ายังต้องปรับปรุงอีก
>>849 ถึงไม่พูดหรือไม่สื่อออกมาตรงๆ แต่สำหรับกูความสัมพันธ์ของสองคนนี้มันเกินกว่ามิตรภาพหรือพี่น้องไปไกลมากจนกู่ไม่กลับอะ จางเหยียนโต๋ผู้ลึกลับ เชือดคนได้แบบนิ่มๆ โดยไม่รู้สึกอะไร แอบปากร้ายแบบนิ่งๆ โดดเดี่ยวไม่มีคนสำคัญในชีวิต ฉากหน้าเหมือนเป็นคนมีอัธยาศัยแต่จริงๆ แล้วค่อนข้างเย็นชาไม่สนว่าใครจะเป็นจะตาย แต่กับน้องกวนหู่แล้วต่อให้แอบจิกกัดก็รู้สึกได้เลยว่ามาจากความรักเอ็นดูและห่วงใย จากตอนแรกที่เหมือนจะเข้าใกล้ชิดแบบมีจุดประสงค์แต่ไปๆ มาๆ ก็หลงน้องเข้าเต็มๆ ชอบไซโคบีบบังคับให้กวนหู่เรียกพี่ พอถูกเรียกก็จะดีใจ ไม่สนสิ่งอื่นใดนอกจากชีวิตน้อง ตอนจบภาคนี่แบบ...มันจะจบอย่างนี้ไม่ด๊ายยย กลับมาเขียนต่อเดี๋ยวเน้... และแล้วก็มีภาค 2 ต่อ แต่ไม่มีแปลไทย กูรออย่างมีความหวัง ไม่สปอล์ยตอนจบภาค 1 นะเดี๋ยวไม่สนุก กูจะต้องหาแนวร่วมลงแดงกับกูให้ได้
>>855 ขนาดกูยังไม่ได้อ่านกูก็เริ่มสัมผัสได้ละว่ากูต้องลงแดงแบบตอนเทียนซือแน่นอน อีเหี้ยยยยยยยยย แงงงง ตอนสถาพรขายที่แม่งโปรโหมดเรื่องนี้ดีป่าววะ คือกูไม่รู้เรื่องจริงๆ ว่ามีเรื่องนี้ด้วย เวลาไปนายอินก็ไม่เจอ ในเมพก็ไม่มี กูเส้า อย่างน้อยเทียนซือก่อนจบภาคเค้าก็ชัดเจนว่าแบบ เออ เป็นคนรัก แง้
ลืมๆ กูเคยคอมเม้นท์ประปรายบางตอนของนิยายอ่ะ
>>856 กูว่า สถพ โปรโมทงานแปลกๆ บางเรื่องโหมโปรโมทถี่มาก บางเรื่องเหมือนลูกเมียน้อย เพจแฟนตาซีอะไรนั่น เวลาแปะโปรโมทก็ไม่เคยเห็นใช้ระบบสนับสนุนให้เป็นประโยชน์ เรื่องไหนที่ดังก็ดังไป อย่างพวกนักเขียนตัวเป้งๆ น่ะ พวกที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักก็ปล่อยให้จมเป็นลูกเมียน้อยไป สืบสยองก็คล้ายๆ ลูกเมียน้อยนี่แหละ อย่าแปลกใจถ้ามึงจะไม่รู้จัก กูขอให้มึงสนุกกับการอ่านและมาลงหลุมคนรอกับกูต่อไป
>>859 กูน้อยใจแทนบรรดาลูกเมียน้อยที่ค่ายไม่ค่อยสนใจเลย กูเสียดายอะถ้ามันสนุกแล้วจะไม่ทำต่อเพราะโปรโหมดไม่ดียอดขายเลยน้อย ละวายแนวนี้กูเจอไม่บ่อย ตอนนี้ที่กูตามแนวๆ นี้มีเทียนซือ คืนนี้มีผี (ซึ่งเรื่องนี้แม่งสนพ.ก็คงเทเหมือนกัน) รัชศก ละก็สืบสยองที่กูรอเวลาลงแดงเป็นเพื่อนมึง มึงมีไรเรื่องไหนแนะนำกูอีกมะ
>>860 มึงคอเดียวกัน กูไม่มีอะไรจะแนะนำแล้วว่ะ ที่ชอบมากๆ อีกเรื่องก็โดนลอยแพเหมือนกัน แถมตอนนี้น่าจะแรร์หายากแล้วเพราะ สนพ. เก็บกลับก่อนปิดกิจการถาวร เรื่อง "คู่ป่วนสืบคดีพิศวง" น่ะ ทางไต้หวันออกภาค 2 มีแฟนอาร์ต มีอะไรออกมายั่วเยอะมาก แต่ไทยคงไม่มีหวังแล้ว...ร้องไห้หนักมาก ทำไมต้องมาชอบอะไรแนวนี้ด้วยวะ คือมันไม่วายแบบโต้งๆ แต่ความสัมพันธ์ของตัวละครล้ำความวายเข้ามาครึ่งค่อน และเกี่ยวกับผีๆ สืบคดีอะไรงี้ ไม่มีฉากจูบจับ กลิ้งบนเตียง หรือบอกรักแต่กูดันฟินกว่าบางเรื่องที่มีฉากอะไรพวกนั้นอีก เพราะความรักความห่วงใยมันแสดงออกมาจากการกระทำ กูอ่านแล้วอบอุ่นหัวใจ มีที่เล็งและยังนอนในกองดองคือพยัคฆ์จำแลงกับเจ้าชายทะเลทราย กูรอให้มันออกจนจบก่อน แต่ก็ยังไม่มีแววจะออกเล่มต่อ ปวดใจ
>>861 เอาจริงๆ กูอ่านได้หมดนะถ้ามันสนุก จะมีโมเม้นคู่พระเอกนายเอกเยอะน้อยกูไม่เกี่ยง แต่อ่านไรแนวนี้มันจะได้ฟีลหวีดแบบ อหๆๆๆ งี้อะ ลุ้นดี 5555555 ยิ่งถ้าคนแต่งแต่งเก่ง ผูกปมเรื่องดีกูจะยิ่งติดมากก เพราะมันสนุกเพราะเนื้อเรื่อง ไม่จำเป็นต้องขายแค่ฉากฟิน แล้วกูก็ไปหาคู่ป่วนสืบคดีพิศวงตามที่มึงว่ามา แม่ง แรร์จริง หาไม่ได้แล้ว กูอยากอ่านอะ แต่กูก็ไม่อยากหาเหมือนกันกลัวจะลงแดงตายห่า แม่งเอ้ยย
>>862 อ่านฟิคแก้ขัดไปมึง มีคนเขียนเยอะอยู่ เรื่องคู่ป่วนอะ กูเคยได้มา ซื้อมาอ่านตอนที่ไม่รู้จักถนอมหนังสือและปลวกกิน ร้องไห้หนักมาก นี่ก็พยายามหาอยู่ มันนานมากนะเรื่องนี้ พล็อตแบบกว้างๆ ก็คล้ายๆ สืบสยองนี่แหละ มีความเป็นพี่น้องมาเกี่ยวข้อง อีกคนจะเหมือนแสงสว่างอีกคนเป็นเหมือนเงามืด เงามืดที่ไม่ค่อยสนใจใคร ไม่สนใจสิ่งใดในโลกกลับยึดติดกับอีกคนที่เป็นแสงสว่างเพียงหนึ่งเดียวไรงี้ แต่คู่ป่วนสำนวนจะอ่านสบายๆ มีความฮาแฝงเร้น ผีและคู่จิ้นเยอะมากกกกก
มึง กูรำคาญนักอ่านกลุ่มหนึ่งมาก ไม่เคยเม้นต์แต่เวลาหาncไม่เจอจะมาถามในเพจจิกๆ แล้วโวยวาย ถ้าติดตามคอมเม้นต์ให้ตลอดหาไม่เจอกูยังอยากแปะให้ แต่ไม่เคยโผล่มาเลยจะมาถามเฉพาะเวลาnc กูก็บอกให้ลองหาดู นักอ่านก็มาด่ากูสอนกูว่าควรแปะncให้เป็นระเบียบจะได้หาง่าย กูโมโหอยากลบทิ้งไม่ให้อ่านเลย
>>864 ตอนนี้เรื่องน่าจะอยู่แค่ในเน็ตหรือป่าว อีกอย่างกูว่าฉากพวกนี้นขไม่จำเป็นต้องแยกเป็นเล่มเล็กก็ได้อะ ถ้าไม่ชอบเปิดข้ามน่าจะง่ายกว่า อีกอย่างแยกเล่มมาถ้ามันบางมากจะไสกาวก็ไม่ได้ เย็บแม็กบางคนก็มีปัญหาอีก
กูรู้สึกว่าทำไมนขต้องทำทุกอย่างให้ถูกใจคนอ่านทุกคนวะ
>>865 กูเข้าใจ ถ้าเป็นคนอ่านที่เม้นให้ประจำกูจะยินดีมากก แต่ส่วนใหญ่พวกที่ทักมาหามักเป็นพวกไม่เคยเม้นอะ แต่กูก็เลือกที่จะใจเย็นแล้วตอบไปดีๆ ทั้งที่จริงๆ เก้วกาดชิบหายก็เหอะ ละบางคนแม่งก็เหมือนไม่คิดหาอะ รอให้คนแต่งประเคนให้หมด แต่ทำไงได้ ถ้ามึงพูดไม่ดีใส่เค้าไป มึงก็กลายเป็นอีตัวร้ายอะ
>>869 มึงไม่ต้องตอบอะถ้างั้น แต่ถ้าไม่อยากเสียเค้าไปก็ตอบดีๆ ให้จบๆ ไป นขเอางานลงเน็ตลงแพลตฟอร์มได้คงไม่ง่อยขนาดไม่รู้ว่าต้องทำยังไงให้คนอ่านหาฉาก nc ง่าย แต่นขทุกคนก็ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นไหม กูก็รำคาญคนอ่านแบบนี้เหมือนกัน ไม่เคยเม้น ไม่เคยอะไรสักอย่างแต่พอมีเรื่องพวกนี้ละมาทักมาจิกรัวๆ ทั้งๆ ที่กูก็บอกไว้แล้วว่ามันหาอ่านได้ยังไง ต้องไปที่ไหน บอกวิธีการเส้นทางไปหา nc แต่ก็นั่นแหละ หาไม่เจอ - -*
ขนาดกูเป็นนักอ่านยังหงุดหงิดแทนเลย อิพวกที่มาเม้นเย้วๆว่าหาไม่เจอ คือเลื่อนไปอ่านเม้นล่างๆก็มีคนแปะให้ป่ะ อีกอย่างกูว่านข.หลายเรื่องก็บอกวิธีหา nc ที่ cut ไปชัดเจนนะ เค้าลงทวิตหรือเพจให้อยู่แล้วมึงกดๆไปเดี๋ยวก็เจอเอง ง่ายกว่านั้นคือพิมพ์ชื่อเรื่องหรือชื่อตอน ต่อด้วย nc ในอากู๋ก็เจอละ
>>874 กูอ่านละยี้เลยว่ะ เคยเจอคนอ่านของนขที่กูชอบคนหนึ่งเหมือนกันที่คล้ายๆ งี้ แต่ที่เจอเพราะเข้าไปในแท็กสกรีมเรื่องเค้าพอดี ละนางทวีตแบบอุตส่าห์ดีเอ็มไปบอกนขให้เปิดการอ่าน ให้ลงฉาก กูพูดไม่ออกเลยอห ใช้คำว่าอุตส่าห์ โถ 55555555555 ละที่เค้าปิดการอ่านไปเพราะเม้นมันน้อยนิดมากกกกกกเมื่อเทียบกับยอดวิว นขก็คงนอยด์อะเลยปิดการอ่านไป แต่อินี่เหมือนเป็นเงาอ่านมานานก็ไม่พอใจ อยากจะอ่านเลยดีเอ็มไปขอให้เค้าอย่าปิด กูอึ้งไปเรยย ตอนเค้าอัพปกติแม่งไม่คิดเม้น แต่พอตัวเองเสียผลประโยชน์ปุ้บรีบโผล่หน้ามาแจมเชียว
>>862 คู่ป่วนตามร้านมือสองบางที่มีครบชุดนะ ไม่งั้นมึงต้องไปแสวงบุญเอาที่งานสัปดาห์ มันคือของดีมึง แนวสืบสวนผีแบบนี้หาค่อนข้างหายากคนไทยไม่นิยมเขียน กูชอบความหลอนแบบแหยะๆของฝั่งจีนนะ มีอยู่เล่มนึงกูอ่านตอนช่วงตีสามถึงตีสี่ ไม่กล้าลงไปห้องน้ำยันเช้าอ่ะ เรื่องนี้แปลค่อนข้างดี อ่านแล้วเห็นภาพง่าย เป็นนิยายที่กูจดจ่อทุกตัวอักษรเพื่อสร้างภาพในหัวจริงๆ (เป็นคนละแนวกับฝั่งพูนิก้านะ ฝั่งนั้นกูว่าเขาเน้นแฟนตาซีไสยศาสตร์มากกว่าสืบสวน) แต่ดันมาตอนออนไลน์บูมกระแสเลยไม่มี ถ้าชอบสืบสวนแนวนี้กูแนะนำยาคุโมะกับคาชิวากิด้วย
พวกมึงใจเย็น เห็นใจกูด้วย คือกูไปตามล่าหาคู่ป่วนมือสองแต่แม่งหมดทั้งนั้น มีไม่ครบชุดอะ มีคนขาย 1-4 ข้ามไป6 กับ 1-3 กูจะลงแดงไหม มันจบแบบไหนวะแต่ละเล่ม เหมือนไขได้เป็นตอนๆ แบบเทียนซือป่ะ หรือถ้าใครรู้แหล่งปล่อยช่วยบอกบุนกูที
นขโซ่ เขาอัปแทร็คกิ้งที่ไหนวะ กูหาไม่เจอ หอกูไม่รับของให้ กูเลยต้องไปเอาที่ปณ ไม่รู้ว่าของถึงไหนแล้ว
กู 882 เอง กูหาไม่ดีเอง ขอโทษๆ
เห็นพูดแนวผีจิ้นวายกัน มีใครเคยอ่านคนรวมวิญญาณของพูนิก้ามั้ย กูว่าเรื่องนี้ก็จิ้นวายเหมือนกัน
คู่ป่วนคือที่สุดของการจิ้นวาย เมื่องานสือที่ผ่านมาพยายามมองหาให้เพื่อนโม่งเหมือนกัน เพราะจำได้ว่ามีคนตามหากะว่าถ้าเจอจะมาบอกพิกัด แต่งานที่ผ่านมาไม่เห็นเลย ขนาดไปคุ้ยๆ บูธที่เอาหนังสือเดธสต็อกมาเลหลังขายยังไม่เจอเลย แต่เจอสืบสยอง
เอ้อ กูถามหน่อยมีใครรู้มั้ง หู้เสวียนที่เขียนคู่ป่วนสืบคดีพิศวงกับหู้เสวียนที่เขียนแอตแลนติส(ตำนานจอมเวทพิทักษ์โลกของสยาม)นี่คนเดียวกันปะ
>>894 ได้เลยเพื่อนโม่ง งานที่ป่านมาเราก็พยายามดูๆ ให้ บูธมันเปลี่ยนชื่อทุกครั้งที่มีงานเลยอย่างปี 2016 เห็นขายครบ 8 เล่มของใหม่ลด 40% จากราคาปกที่บูธของสนพ.ที่เอาเรื่อง call me by your name มาแปล (แม้จะแปลได้วายป่างมากๆ ก็เถอะ) เห็นมีหลายชุดด้วยแต่ไม่ได้เยอะ ถามๆ ดูบอกว่าเค้าก็หามาได้เท่าที่เห็น เน้นเรื่องที่คนตามหากันเยอะๆ แล้วหลังจากนั้นก็ไม่เห็นที่บูธนี้อีก ย้ายไปบูธอื่น เราถึงไม่เคยจำชื่อบูธได้เลย
Ky มีใครอ่านตย. ทซ เรื่องล่าสุดยัง ปราบมารอะ อ่านละเป็นไงบ้างวะมาแลกเปลี่ยนกับกูที กูลังเลมากว่าจะสอยไม่สอย
Ky โพสสืบสยองของคนนั้นอะ กูจำตัวย่อไม่ได้ นางแคปมาให้ดูเว้ยว่ามีคนไปถามอลล แล้วเค้าบอกว่ามีสนพจะซื้อภาค 2 มาแปลต่อว่ะ ถ้าจริงกูจะกรี๊ดมาก
>>896 กูอ่านแล้วก็อยากสอยนะ แต่เล่มแรกนี่มันมิราที่แปลปราชญ์ คนนี้แปลดีอยู่แล้ว เป็นบก.เล่มของดาวแท้ด้วย สรุปคือที่ปล่อยตย.งานแปลมาคืองานแปลของคนแปลที่แปลดีอะ ส่วนเล่ม2/3 สำนวนจะยังไง เกิดแปลเล่ม2ป่วงงี้ กูก็ไม่ไหวนะ กูยังเข็ดไม่หายกับแปลสลับไปมาจากเดอะดาวแท้ทรูอยู่เลย
อ้าว ชิหาย กูขอโทษลืมจุดสปอย กราบรอบทิศ
>>913 ในเฟสที่เวลาคนมาถามดาวแท้สนุกไหม แล้วทีคนอวยว่าไม่ซื้อจะเสียดาย กูอ่านแล้วถอนหายใจทุกที กูเข้าใจว่าต้องมีคนชอบแต่อีกทางหนึ่งกูคิดว่าคนที่อวยเหมือนไม่สนุกก็ต้องอวยให้สุด เพื่อนกูอ่านวายห้าคน อ่านดาวแท้ทุกคนบอกไม่สนุกทุกคนมันกลางเล่มสองไปถึงเล่มสี่สลบหลายรอบ
งั้นดาวแท้นี่ไว้กูว่างจริงๆ ค่อยลองอ่านแล้วกัน ยังภาวนาว่ากูอาจจะชอบหรือไม่รู้สึกเสียดายตังค์อยู่ เพราะหนึ่งคำมั่นที่หลายคนในนี้ชอบกูก็เฉยๆ ค่อนไปทางอ่านเรื่อยๆ เนือยๆ ด้วย ววฮซ กูก็เหม็นความรัก อ่านๆ หยุดๆ เปิดข้ามรัวๆ
>>917 5555 นั่นไงมึงเหมือนดาวแท้สนุกแค่เล่มแรก เล่มแรกกูอ่านดาวแท้อวยสุดตัวเลยนะเว้ย แต่ก็หวั่นๆ ตอนจบ พอมีคนบอกไปอ่านเวอร์อิงมาอวยว่าตอนจบดีมากๆ สนุกสุดๆ กูก็รอซื้ออย่างเดียว มาคิดตอนนี้คนที่อวยว่าดีมากๆ ไปอ่านตอนจบมา อยากถามมึงอ่านเรื่องเดียวกับกูรึเปล่า 555555
ดาวแท้ อ่านไปแค่1/3ของเล่มสอง แล้วก็ไม่ได้อ่านอีกเลย เสียดายตังค์
กูว่านิยายแปลหลายๆเรื่องที่เอามาตอนนี้คือมีคนแปลในดด.อะ บางเรื่องมันเหมาะที่จะอ่านวันละตอนมากกว่าอะ อย่างดาวแท้ตอนอ่านแปลในดด.ดูก็ว่าไม่แย่นะก็สนุกดี พอมาอ่านแบบหนังสือเต็มแล้วง่วงมาก เฉื่อย เสียดายเงงินสุด
>>921 ตอนแรกเราตัดความแย่ๆ ที่สนพ.ทำไว้กีบคนสั่งจองหนังสือนะ เพราะไม่อยากอ่านหนังสือแบบมีอคติมันจะทำให้เราตัดสินหนังสือแบบลำเอียง แต่พอมาอ่านจริงเห็นด้วยส่าสนุกสุดที่เล่มแรกหลังจากนั้นยานอนหลับดีๆ นี่เอง ปจบ.เราอ่านคาไว้ที่เกือบจบเล่ม 2 แล้วดองลืมไม่ชวนเราหยิบมาอ่านเลย
มึงตะกี้กูไปอ่านนิยายเรื่องหนึ่งได้ตีพิมพ์แต่นขไม่ดัง ตอนนี้สนพเอามาโละเหลือเล่มละ 40 เม้นนักอ่านทำกูฮา
นักอ่าน = เราไม่สะดวกซื้อ ใครก็ได้ช่วยถ่ายเนื้อหาหรือส่งต้นฉบับมาให้อ่านที แปะอีเมล
นข= ใครจะส่งต้นฉบับให้ อยากอ่านซื้อที่แฟนเพจค่า
นักอ่านก็เกินไป อ่านฟรีจนชิน นขหัวร้อนเลย 5555
กูรู้สึกว่ากูไม่มีดวงกับการเสียเงินซื้อนิยายเลยช่วงนี้ ตั้งแต่ดาวแท้ที่พึ่งสอยมาเมื่อเดือนก่อนละยังไม่ได้แกะ ววฮซที่พอกล้อมแกล้มอ่านไปได้ หนึ่งคำมั่นที่อ่านๆ หยุดๆ ล่าสุดห้องหิ้งมีคนมารีวิวเจิ้นแล้วว่าแย่กว่าววฮซ กูนี่ร้องเหี้ยเลย แม่งเอ้ย ตอนนี้นิยายในเล้ายังดูจะปลอบประโลมกูได้ดีกว่านิยายเล่มจากสนพ.อีก อหหห
>>939 เรื่องที่กูซื้อตามมีแรงอวยก็ดาวแท้นี่แหละ กับเจิ้นซื้อเพราะโปรนายอินทร์ ส่วนคำมั่นนี่เพราะกูเห็นว่าตยมันน่าสนใจ ประกอบกับมดหลังๆ งานดีขึ้นกูเลยซื้อแบบไม่ลังเล อารมณ์แบบเริ่มไว้ใจว่างานที่เลือกมันดีขึ้น ส่วนววฮซกูชอบเล่มแรกมากๆ เว้ย แต่พอเล่ม2กับ3เท่านั้นแหละ กูเอียนความรัก
ตอนนี้นิยายจีน lc กันกระหน่ำมากจ้ะ แถมหลายเรื่องเป็นนิยายเน็ต มาอ่านเป็นเล่มแล้วน่าเบื่อแบบที่บนๆ บอก ผิดทางนี่กูงงว่าทำไมในกรุ๊ปกรี๊ดกันเยอะขนาดนี้ แถมที่กรี๊ดคือความขี้เยและความรวยชิบหายของพระเอก
>>940 งั้นมึงก็ต้องทำใจรึเปล่า เพราะเห็นหลายคนชอบพูดว่านิยายแต่งต้องลงจนจบไม่ซื้อก่อนเพราะไม่รู้ว่าจะชอบจนจบไหม แต่พอนิยายแปลอ่านแค่ 2-3 บทก็ได้ เพราะเป็นนิยายที่เอามาแปลน่าจะดีระดับหนึ่งซึ่งความจริงไม่ใช่ นิยายแปลที่เอามาแปลเดี๋ยวนี้ก็คือนิยายลงเว็บเหมือนในเด็กดีนั่นแหละ บางเรื่องไม่มีตีพิมพ์ในจีนด้วย มีแต่นักแปลไทยไปหามาแล้วเอามาแปลลงเด็กดี คนก็กรี๊ดๆ ไปซื้อมาพิมพ์ขายซึ่งหลายเรื่องความสนุกแค่อ่านเป็นตอนๆ ฟินไปวันๆ พอทำเป็นเล่มทั้งเอียน น่าเบื่อ เลียน ncเยอะเพื่อเอาใจเรียกนักอ่านจีนที่ซื้ออ่านฉากฟินกับฉากnc เป็นตอนๆ
>>947 ถ้ามึงไม่อยากผิดหวังมากให้ลองเสิร์ชเรื่องนั้นดูว่าทางจีนมีตีพิมพ์เป็นเล่มไหม ถ้าไม่มีก็ให้ตั้งไว้ว่าอาจเป็นนิยายขายฉาก+ฟินไปวัน ๆ ที่นักแปลชอบเอามาแปลเรียกสนพ นิยายพวกนี้แรก ๆ สนุกหมดแหละ เพราะมันฟิน+ขายฉาก แต่พอมึงอ่านนาน ๆ ไปมึงจะเลียน+เบื่อ เพราะทางจีนลงเว็บขายเป็นตอน ๆ เขาก็ยัดความสนุกแบบเป็นตอน ๆ
ดาวเเท้นี่ตัวอย่างสนุกนะ เเต่ตอนนั้นกูไม่ได้ซื้อเพราะถังเเตกพอดี จะมาตามซื้อก็มีเรื่องใหม่ออกมาเรื่อยๆ แอบแปลกใจอยู่เพราะเห็นตามเฟสคนอวยเยอะเเต่ในโม่งกลับบอกไม่โอ เล่มหลังๆ มันเป็นยังไงบ้าง ไม่สนุกเท่าช่วงเเรกเหรอวะ
เควายหน่อยสิ เพจรีวิวที่กูตามอยู่เหมือนรับสปอนเซอร์สนพว่ะ ถึงเป็นเรื่องที่กูชอบกูก็รู้สึกเฟลแปลกๆ เฟลทั้งกับเขาและกับสนพ ใครเป็นมั๊ย หรือกูคิดมากไปเอง จะได้เปลี่ยนมุมมอง
กูไม่เคยเดาคำย่ออะไรในโม่งได้เลยนอกจากเป็นคำที่เจอบ่อยๆ อย่างชื่อสนพ. ชื่อคนแต่งบางคน ชื่อนิยายบางเรื่องที่กำลังถูกพูดถึงบ่อยๆ บางทีเพื่อนโม่งบางคน (เช่นกู) อยากรู้ แต่ไม่มีคลังความรู้เรื่องพวกนี้ในหัวหรือไม่เคยรู้จักมาก่อนอะ กูอยากจะขอความเห็นใจในความขี้เสือกแต่ไม่รู้ห่าอะะไรสักอย่างช่วยบอกชื่อมันมาเต็มๆ หรือใบ้แบบให้เดาได้กว่านี้จะได้ไหม กูเจอคนใบ้แบบภาษาอังกฤษที่แปลเป็นไทย หรือไทยเป็นอิ้งยังดำน้ำไปเสือกต่อถูก เจออักษรย่อยาวๆ ทีไรนี่กูท้อเลย
อีกนิด วัลลาบี เอ้ย อรลไรเนี่ยนางดูมีความสำคัญขึ้นมาได้เพราะไม่มีคนอื่นว่างมานั่งกรี๊ดกร๊าดนิยายในเฟสเท่านางเเล้วยังนิสัยสำคัญตัวเองมากเว่อร์เท่านาง ตามต่อแบบปล่อยเบลอไปไม่ก็เลิกตาม มีสองทางให้มึงเลือก
อวว.จ้างหรอ? กูเห็นเค้าแจกรัชศกแต่คล้ายๆจะเห็นอวว.แจก ไม่แน่ใจแต่เห็นผ่านๆ ว่าเพจอวว.แจกรัชศก1เล่ม(ในใจกูคือแจกน้อยจังวะ)แต่ไม่ได้สนใจเลื่อนผ่านๆแล้วเห็นเพจเค้าอัพแต่อัพแบบไม่ได้แชร์อ่ะ เหมือนให้คนเล่นแชร์เพจเค้าแทนแต่รูปเป็นของอวว.ทั้งยวง กลับไปดูเพจอวว.ก็ไม่เจอโพสแจกเลยไม่ค่อยแน่ใจ
อันนี้กูว่าก็ตลกไปอ่ะ55555
เอ้ะ กูไปมโนต่อมาหรือจะเป็นแผนการกระจายความทั่วถึงของเพจหน้าม้าวะ แบบว่าให้แชร์เพจรีวิวม้าเยอะๆคนกดไลค์ไว้ต่อไปนางอวยเรื่องไหนของสนพ.กระแสจะได้ปังปังปัง /รับยาที่ช่องสองแปป/
ตอนเห็นเพจอวว เเชร์ที่นางหวีด เอ๊ย รีวิวรัชศกมา กูกลอกตามองบนไปรอบนึง 555 อย่าทำให้ความตั้งใจของกูที่จะเปย์เรื่องนี้ต้องสั่นคลอนสิ ทีมงานอวว อินี่มันน่าเชื่อถือตรงไหน??? ตรงความเป็นเซเลบ!!??
>>954 ... ตอนแรก นึกว่ากูรุ เพราะดูสนิทกับทุกสนพ.และทุกนักเขียน มีเหตุให้รู้จักกันผ่านเฟซบุ๊ก แล้วหลังจากนางมาเมนท์ที่หน้าเพจไม่นานเท่าไหร่ จู่ๆ อินบ๊อกมาถามเลยว่า ขอส่วนลดหนังสือได้เปล่า แล้วจะรีวิวให้ ปฏิเสธไป .. ไม่ต้องบอกนะว่า เค้ารีวิวนิยายกูยังไงบ้าง ... อึ้งไปนิดหน่อย อ้อ ที่แท้ก็แบบนี้สินะ ถึงได้มีแฝดเยอะนัก ... เฟลนิดหน่อย แต่เป็นธรรมดาของโลกมัั้ง
>>967 ทำไมแม่งน่ากลัวจังวะ แล้วยังมีคนให้ค่าเพจแบบนี้อีก โอ้โห จริงๆ อยากรู้แนว หรือสำนวนเสียเวลาอ่านตัวอย่างเอาเองบ้างก็ได้ หรือไม่ก็เทียบรีวิวจากหลายๆ ที่ พอไปให้ค่านางมาก นางก็ใช้จุดนี้หากิน แถมบางทียังใช้ทำร้ายคนอื่นทางอ้อมได้อีกด้วย คนอ่านนิยายบางทีก็ต้องใช้สมองตรองเยอะๆ ให้สมกับเป็นนักอ่านบ้างก็ดี เดี๋ยวนี้ส่วนใหญ่เห็นตามกันเป็นกระแส ใครอวยเรื่องไหนแม่งก็อวยตามไม่ดูอะไรเลย โดยเฉพาะพวกเซลงเซเลปอะไรเนี่ย นี่ขนาด สนพ. ก็เอากับเค้าด้วย ต่อไปนางมิเหิมเกริมกว่านี้เหรอวะ คงคิดว่าตัวเองแน่ ใครๆ ก็คงอยากให้รีวิวไรงี้
กูยังไม่รู้เลยว่าอรลคือใคร อาราเล่หรือวะ
>>968 นิยายกุ มันก็คงมีส่วนแย่เหมือนกันมั้ง ช่างเหอะ เค้าคงลืมกูไปแล้วล่ะ มันนานแล้ว แต่พี่คนที่กูรู้จักสนิทกับนางมาก ไปกินข้าวด้วยกันไรเงี้ย มาเล่าแบบอวยนาง เออ กูก็แบบยิ้มๆ เออๆ ออๆ ไป กูก็เงียบไว้นะ เพราะยังไง กูก็ไม่ยุ่งเกี่ยวไม่คบกับนางแล้วน่ะ ต่างคนต่างอยู่ เรื่องอ่านรีวิวนี่ ก็คงแล้วแต่คน อ่านแล้วมีสติคิดตรองก็ดีไป แต่ถ้าไม่ ก็นะ ที่ไหนก็มีทั้งนั้นว่ะ ... กูพูดเวิ่นไรวะเนี่ย 5555
>>969 ใช่มึง
ช่วงหลังเห็นนางมารีวิวนิยายแปล แบบพวกที่ยังไม่ออก บอกว่าไปดำน้ำมา พอกูเห็นงี้แบบ อีเหี้ย สนพ เพื่อนมึงนี่หว่า ทั้ง บด ทั้ง นฬกท เหอะๆ
ส่วนเรื่องนางรับเงินมารีวิว กูว่าไม่แปลกนะ สนพ ไม่น่าอะไรมาก อย่าง อวว อย่างกุหลาบ กูว่าเค้าไม่คิดอะไรหรอก แค่ให้หนังสือไปฟรี 1 เล่ม แม่งค่าตัวถูกชิบหาย ส่วน มด กูเคยเห็น บก เค้า ทด เดินกับเซเลป มฝ และเพื่อน ในงานหนังสือที่ผ่านมา กูว่าเค้าคงสนิทกันแหล่ะ เหอะๆ
อรลบ้านรวยก็จริงแต่ใครบ้างจะไม่ชอบของถูก เราว่าแต่ก่อนอาจจะแฝดเองจริง หลังๆอาจจะได้จะได้มาเองฟรีบ้าง ได้ส่วนลดบ้างเก้าลอเก้า ส่วนมฝ (เป็นเซเลปตั้งแต่เมื่อไหร่วะ)กลุ่มเค้ารู้จักกับบก.มดอยู่แล้วนี่ ก็บก.ก็ตัวแม่ในกลุ่มก่อนมาเป็นบก.มดนี่นาหรือเราจำผิดตรงไหน การพยายามเข้าไปเป็นที่รู้จักแบบวงในมันน่าตื่นเต้นขนาดนั้นเลยเหรอวะ บางทีก็ไม่เข้าใจ
เพจสนพก็ต้องแชร์รีวิวอวยสิวะ จะมาแชร์รีวิวด่าทำไมให้เข้าตัว แต่บางทีกูอ่านก็ตลก บางอันเขียนอวยบรรทัดเดียวมึงก็แชร์มา บางทีรีวิวใช้คะค่ะยังผิด มึงยังจะเชื่อรีวิวหนังสืออีก (ทซมั้งที่ชอบแชร์เพจนั้น อ่านแล้วกลอกตา)
กูเฉยๆกับพวกรับรีวิวจากสปอนเซอร์นะ ไม่แอนตี้ คงเพราะชินกับบิวตี้บล็อกเกอร์กับพวกเพจท่องเที่ยวรีวิวที่พักแล้ว ยิ่งบิวตี้นี่มีคนไหนไม่รับสปอนเซอร์บ้าง ไม่มีหรอก แต่มีข้อแม้นะว่าถ้ารับมามึงต้องบอกว่านี่เป็น SR มึงได้ของฟรีจากเขามา ไม่ใช่ได้ฟรีแล้วมามั่วนิ่มว่าตัวเองซื้อ มันเป็นธุรกิจอะมึง สินค้าได้โปรโมท พวกรีวิวก็ได้เงิน กูจะมองรีวิวพวกนี้ภาพรวม ถ้าเป็นโรงแรมก็ดูสภาพ ลักษณะ ข้อได้เปรียบ พวกรีวิวดีๆเขาจะมีอะไรให้เรามากกว่าถ่ายรูปสวยๆโชว์ คนอ่านรีวิวก็ต้องรู้ว่านี่คือsr มึงต้องใช้วิจารณญาณเอาเอง
กูเคยเม้นต์ในโม่งมานานละว่าเซเลบเพจนี้ต้องรับจ้างอวยมีนอกมีในกับ สนพ. แน่ๆ แต่โม่งหลายคนยังเถียงแทนว่าแค่หวีดโดยสุจริตเพราะชอบ ถถถ ทีนี้จะว่าไงล่ะ ประกาศเองชัดๆว่า สนพ. เป็นสปอนเซอร์เลอ ลองไปค้นย้อนดูนะมีเรื่องไหนของ สนพ. นี้ที่ไม่อวยบ้าง สนพ. ไหนที่ไม่ค่อยแปะไม่หวีดไม่อวยนั่นแหละมั้ง ที่ไม่ให้ผลประโยชน์นาง
ทำไมตอนนี้มีแต่คนเข้ามาหาผลประโยชน์
>>972 โห ถ้าได้เเค่หนังหนังสือนี่ค่าตัวเเม่งโคตรถูกจริงแหละว่ะ ขนาดพวกบล็อคเกอร์ยังได้เงินบ้าง เรื่องทึ่นางดูเหมือนสนิทกับหลายคนคงไม่แปลกอ่ะกูว่า พยายามตีสนิทกับเขาไปทั่ว อยากมีตัวตนจน....สั่น เเต่ที่หลังไมค์ไปขอส่วนลดนักเขียน พอไม่ให้ก็ทำตัวเหรี้ยๆ กับเขานี่กูเกลียดชิบหาย อยากซื้อนิยายเขาถูกๆ มาเก็งกำไรทีหลังอ่ะดิ่ นิสัยดีเนอะ เศษเล็บ เอ๊ย เซเลบของสนพ.วายทั้งหลาย
เรื่องอวว.อยากขายรัชศกม๊ากมากจนเเชร์ความเห็นอิพวกที่ขนาดคะ ค่ะ ยังไม่มีปัญญาสะกดให้ถูก กับสปอยล์ของเศษเล็บอรล.มาที่เพจตัวเองนี่มันทำให้งานมึงดูดร็อปลงไปเลยว่ะ อย่างน้อยก็ในสายตากูที่ลังเลอยู่ว่าจะซื้อไม่ซื้อ จากตอนแรกทำให้กูสนใจกลายเป็นทำให้กูมองบนไปหลายรอบ ตอนวันเกิดนายอินทร์กูก็ไปจัดเรื่องอื่นมาเเทน พวกข้อมูลประกอบการตัดสินใจให้ลูกค้าเนี่ย มึงหาได้ดีสุดเเค่นี้เหรอวะ? วงวารรรร
สายนิยายตะวันตก รีวิวที่บล็อกเกอร์ได้รับหนังสือฟรีจาก นข หรือ สนพ เรื่องปรกติมาก พวกนี้ได้อ่านก่อนวันวางขายด้วย แต่จะต้องเขียนชัดเจนตั้งแต่บรรทัดแรกเลยว่า รีวิวนี้ได้รับนิยายฟรีมา แต่จะรีวิวตามจริง ใส่ดอกจันเยอะๆเด่นๆ แล้วก็เห็นว่ามีทั้งชมทั้งด่าไม่อวย ถือว่าเป็นการตลาดอย่างหนึ่ง คนอ่านอยากได้แนวคร่าวๆ ก็เหมือนพันทิป ให้ใส่ SR กับ CR พูดง่ายๆ รับมาไม่ผิด แต่ต้องบอกด้วยว่ารับ อย่าแหล อวยไม่ลืมหูลืมตา ท้ายสุดให้คนอ่านพิจารณาเอง ว่าจะเชื่อขนาดไหน
ไม่เคยให้ราคากับนางคนนี้อยู่แล้ว ทำตัวเป็นเซเลปนักรีวิว แต่แต่มาหวีดๆแบบนี้อย่าเรียกรีวิวเลย เพจเสียดายที่โม่งด่าในความปากจัดยังมีชั้นเชิงในการเขียนรีวิวมากกว่าอีก แถมก็เลือกนิยายมารีวิวทั่วๆไป ไม่ได้เอาแต่ที่มีกระแส ไม่เหมือนนางวัลลาบีคนนี้ เกาะกระแสเก่งเป็นที่หนึ่ง สองสามปีก่อนวายเพิ่งเริ่มบูมบนดิน สาววายหน้าใหม่ตามหาของเก่ากัน นางอวดคอลเล็คชั่นของตัวเองรัวๆในกรุ้ปตั่งต่าง กูเห็นแล้วมองบนทุกที รำคาญสำนวนตีซี้ของนางด้วย ชอบคุยเหมือนทุกคนสนิทกับนาง หลังๆกูมองผ่านโพสของนางไปเยอะ มาอ่านที่ >>967 เล่าแล้วอึ้งชิบหาย ต้องหน้าด้านเบอร์ไหนวะถึงจะมาขอส่วนลดกันโต้งๆแบบนี้ (กูว่ามึงอาจโม่งแตกนะถ้านางมาเห็น)
กูอนาถใจกับอวว. รัชศกกระแสดีต่อเนื่องมาจากปราชญ์ สองเรื่องนี้เป็นนิยายที่ช่วยสร้างภาพลักษณ์แพงๆให้สนพเลยนะ ทำไมต้องลดค่าตัวเองด้วยการมายุ่งกับพวกวัลลาบีเกรดนี้วะ กูเข้าเพจนางตามที่เพื่อนโม่งชี้เป้า มีแต่โพสอวยอวว. กูเห็นแล้วเสื่อมศรัทธา
การรีวิวที่เป็นธุรกิจมันมีอันนี้ใครก็รู้ เพราะมันมีความโปร่งใส จะอวยก็ไม่น่าเกลียด จะติก็จุดที่บกพร่องจริงๆ มันมีหลักการของมัน แต่อันนี้ ใช้ความสนิท ใช้...กูควรจะเรียกว่าอะไรวะ อิทธิพล(ที่คิดว่าตัวเองมี ซึ่งบางทีก็มีพวกหน้ามืดตามัวมากๆ หลงเข้าไปเยอะ) การที่ สนพ. ให้ค่ากับเพจที่ไร้ความน่าเชื่อถือ แถมมีนอกมีในแบบนี้ กูว่าต่อไปวงการแม่งพัง คนยอมนางก็แล้วไป ถ้าไม่ยอมนางมิใช้ประโยชน์จากการที่สนพ. ให้ค่าสร้างความน่าเชื่อถือให้ตัวเอง แล้วไปสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นเค้าเหรอวะ ในเมื่อปลายนิ้วนางมันทำให้คนเชื่อได้ จะบอกว่าสนุกคนก็เชื่อ บอกไม่สนุกคนก็เชื่อ เดี๋ยวนี้คนมักง่ายยิ่งเยอะขึ้น ขี้เกียจอ่านและตาม เรื่องไหนว่าสนุกก็ซื้อ พอว่าไม่สนุกก็ส่ายหัวใส่ไม่ลองดูเลย กูนี่บางทีก็อยากหยุดไว้อาลัยให้...
พวกมึงระวังนะเว้ยถ้าสมมติเค้าให้มาแจกเฉยๆแล้วไม่ได้รับตังหรืออะไร สนพขอไอดีฟ้องได้นะ
กูไม่ว่านางนะ เพจเยอะมากที่ทำแบบนี้โดยเป็นนักแปลของที่นั้นจริงๆแล้วเนียนกว่า พวกมึงก็จับไม่ได้อีก แล้วมันแค่แจกฟรีครั้งแรก คือตอบยากมากกกกกว่ารับเงินไหม แล้วพูดชื่อ อวว กับนิยายชัดขนาดนี้ กลัวโดนฟ้อง อววนี่แหละฟ้อง
เหมือนได้กลิ่น อรล มาเอง
ก็ไม่รู้นะ ถ้าบริษัทไหนจะติดสินบนใครจะกล้าทำเอกสารไว้หักภาษีเหรอ
>>967 กูคาใจเรื่องนี้มากกว่า กูสนิทกับ นข เยอะมากกกกกกกกกนะ 55555555 เขาอยู่มาหลายปีเรื่องหมั่นๆกูได้ยินมาแต่ไม่เคยมีสนพไหนหรือคนสนิทกูคนไหนมาพูดเรื่องนี้สักคนว่ะ เพราะถ้าทำจริงคงใหญ่โตนานแล้ว กูวววขอฟันธงว่ามึงมโนไว้ก่อนแล้วกัน เพราะเคยมีคนปล่อยข่าวในนี้ว่าเขาเม้าคนนั้นที่ร้านอาหาร ก็ด่าลามทุ่ง แต่ไปๆมาๆมีคนไปเช็ค เค้าไม่ได้อยู่ไทยว่ะ แล้วข่าวก็เงียบหายไป
ขอแฉเรื่องส่วนลดที กูรอสะใจ5555555
เฮ้อ ทุกวงการแม่งมีแต่อะไรแบบนี้ทั้งนั้น กูไม่ชอบใจ แต่ไม่มีใครทำอะไรได้ แล้วต้องคอยกลัวและระแวงคนพวกนี้อีกด้วย
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.