ไหนๆก็ไหนๆ แล้ว รีวิวนางนวลไม่หวนคืนหน่อย
อ่านไปช่วงแรกนี่ฟีล ผีเน่าโลงผุคนเลี้ยงม้าลอยมาเลยว่ะ โรคจิตทั้งพระนาย(จิตในแง่จิตเวชจริงๆเลยนะ) ซาดิสกะมาโซมาเจอกัน แต่อ่านไปนานๆมันจะเบาลง มีครส.ต่อกันแบบมีที่มาที่ไปหน่อย ไม่ขนาดคนเลี้ยงม้าที่อยู่ๆก็พลิกกลับแบบฟีลหักกลางกะทันหัน ใครชอบโทนเรื่องหม่นๆ รับความโรคจิตแบบเลือดสาดได้ มาทางนี้ได้เลย ไปลองตย.กันได้ สำหรับกุโยนขึ้นชั้นได้เพราะอีมด.ไม่มีอีบุค
ชอบที่วางคาร์ตลค.ให้มีมุมที่ไปสุดทั้งสองทาง อย่างตัวแม่นายเอก บทซึ้งคือซึ้งเลยนะ รักลูกมากๆอ่านแล้วน้ำตาจะไหล แต่พอพลิกอีกด้านกลายเป็นแม่งเลวใจดำได้อย่างไม่น่าเชื่อเหมือนกัน
เป็นเรื่องที่เล่าผ่านมุมมองบุคคลที่ 1 ได้สนุกดี นายเอกจิกกัดตัวเองเก่ง แสบพอตัว รู้หมดคิดได้แต่ก็ยังทำ ปมค่อยๆคลี่คลายผ่านเหตุการณ์ปัจจุบัน+แฟลชแบคทีละจุดๆ พามึงไปเข้าใจความหิมะขั้วโลกของพระเอกทีละหน่อย
(สปอยแบบไม่สปอย:>ซึ่งจริงๆมันไม่ได้เย็นชาขนาดนั้นนะ มีความโรมานซ์แทรกพอควรเลย เอาจริงๆพระเอกมันลงให้นายเอกมาตลอดตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่จากมุมมองนายเอกและความจิตที่ฉาบทับมันทำให้มองไม่เห็นในตอนนั้น บางครั้งการเข้าใจก็เหมือนหมอกพรางตาที่ต้องรอให้ปัจจัยถึงพร้อมถึงจะเห็นได้ชัด ดังนั้นพระเอกก็เริ่ดๆเชิดๆจิตๆไปจนจบฮ่ะ)
จุดน่าสนใจอีกอย่างคือด้วยความอาชีพพระเอกเป็นทนายเลยมีการใส่ความขัดแย้งและความไม่เป็นธรรมของกฎหมายและระบบยุติธรรม เมื่อเทียบกับความรู้สึกของผู้เสียหายเข้าไปด้วย เช่นปมพ่อนายเอกโดนรถทับตายแต่สุดท้ายได้เงินชดเชยแค่สองแสนหยวน จนแม่นายเอกต้องลำบากลำบนเลี้ยงลูกด้วยตัวคนเดียวเหมือนพ่อตายฟรี หรือมุมมองจนท.ในระบบที่ไปซ้ำเติมผู้เสียหายมากกว่าจะช่วย ก็ถือว่าเป็นนิยายที่มีอะไรมากกว่าแค่เลิฟไลน์เรื่องนึงนะ