Fanboi Channel

[ นักเขียนสายวาย ] 1 https://fanboi.ch/801/6586/recent/
[ นักเขียนสายวาย ] 2 สารพัดปัญหาคาใจ+ ศาลาคนเศร้า https://fanboi.ch/801/6706/
[ นักเขียนสายวาย ] 3 สารพัดปัญหาคาใจ+ศาลาคนเศร้า https://fanboi.ch/801/6857/
[ นักเขียนสายวาย ] 4 สารพัดปัญหาคาใจ+ศาลาคนเศร้า https://fanboi.ch/801/7030/recent/
[ นักเขียนสายวาย ] 5 สารพัดปัญหาคาใจ+ศาลาคนเศร้า https://fanboi.ch/801/7984/
[ นักเขียนสายวาย ] 6 สารพัดปัญหาคาใจ+ศาลาคนเศร้า https://fanboi.ch/801/8227/1-999/
[ นักเขียนสายวาย ] 7 สารพัดปัญหาคาใจ+ศาลาคนเศร้า https://fanboi.ch/801/8547/
[ นักเขียนสายวาย ] 8 สารพัดปัญหาคาใจ+ศาลาคนเศร้า https://fanboi.ch/801/10263/
[ นักเขียนสายวาย ] 9 สารพัดปัญหาคาใจ+ศาลาคนเศร้า https://fanboi.ch/801/11100
[ นักเขียนสายวาย ] 10 สารพัดปัญหาคาใจ+ศาลาคนเศร้า https://fanboi.ch/801/11682/1-1000/

สำหรับคนเศร้าๆ

มึงไม่รู้กูคิดไปเองรึเปล่า แต่กูว่าเดี๋ยวนี้นิยายวายไม่ได้ลงจนจบหรือติดเหรียญมันไม่ดราม่าแรงๆ แบบเมื่อก่อนที่มันชอบแบนนักเขียนกัน กูรู้สึกดีจังงง

>>3 แต่ก่อน นข น้อย เดี๋ยวนี้มีเยอะแยะ จะมานั่งแบนเป็น 10 คนก็ลำบากอยู่นะ

>>4 ใครเป็นคนเริ่มแบนวะ

กูเห็นนิยายเสียวชายหญิง มีจำนวน2-3หน้าราคา3เหรียญ คนก็ซื้อกันเป็นปกติ ไม่บ่นไม่ว่าไม่คอมเมนต์ ถ้าเป็นนิยายวายนะโดนด่าเสียบประจาน ก็แอบคิดว่าทำไมสาววายแม่งเรื่องมากจังวะ หรือแม่งจน

กูสิงอยู่สองห้อง ห้องวายกับห้องลิท
สังเกตว่านักเขียนสองกลุ่มมีความเห็นแย้งกันเองมาก
ห้องลิทบอกแนววายขายได้ขายดี ตั้งราคาสูงได้
ห้องวายบอกแนวชญ. ขายง่าย ตั้งแพงไม่มีใครบ่น
กูไม่เคยเขียนแต่อ่านทั้งสองแนว ถ้าราคามันไม่ได้โดดเวอร์เกินหน้าละบาทกูก็ไม่บ่นหรอก (ส่วนตัวกูว่าถ้ามองราคาเฉลี่ยแบบทั้งตลาดนะ แนววายอ่ะแพงกว่า)​ กูแค่สงสัยว่าคห.นักเขียนสองกลุ่มนี้คือยังไงแน่ 555

>>7 วายที่ตั้งราคาสูงได้ต้องเป็นวายแปลปะ พวกวายแต่งมักจะโดนด่า คนเรื่องมากกับคนชาติเดียวกันเองที่พูดภาษาเดียวกันรู้เรื่อง วายแปลนี่คือยกขึ้นหิ้งจุดธูปบูชา

>>8 เออ วายแปลแพงกว่าจิงแหละเมื่อเทียบกับชญ.จีนแปล (เพราะสเกลตลาดด้วยมั้ง)

มีใครเคยพิมพ์กับ fictionprint บ้าง มันต้องหา 4 หรือ 8 ลงตัวหรอ?

>>10 ใช่ ไม่รู้ทำไม

>>10 หน้าจะเป็นหน้าลงยกของเขาอ่ะมึงกระดาษมันจะไม่เหลือเป็นคู่พอดี เคยทำกับที่นึงต้องหาร16ได้ แต่อีกที่นึงคือไม่จำเป็นเพราะพิมพ์ดิจิตอล กูเลยงงว่ามันก็ดิจิตอลหมดหรือเปล่าวะ ไม่ได้ยอดเยอะขนาดทำโรงพิมพ์ใหญ่ๆ ได้อ่ะ

ขอถามในห้องนี้นะ โม่งๆนักเขียนฟอลนักอ่านตัวเองกลับไหม โดยเฉพาะคนที่มาคุยกับเราบ่อยๆอ่ะ

>>13 ไม่อ่ะ

>>13 กูคนอ่านเลิ่กลั่กเลยถ้านักเขียน​จะมาฟอล
ชีวิตกูไม่น่าโสภาให้นักเขียนมาเห็นเนยนะ

>>13 กูฟอล 5555 แรกๆนะ ฟอลไปพันกว่าคน ก็คิดว่าเออ หรือว่าไม่ฟอลดีวะ หลังๆก็เลยไม่ได้ฟอล
>> 10 ใช่ ยอดฟิคชั่นปริ้นหาร 4

>>15 กูคนอ่านเหมือนกัน เอาแอคหลุมไปฟอล นขฟอลกลับด้วย เลิ่กลั่กชิบหาย 5555

ระบบกดหัวใจในรี้ดมีไว้ทำไมวะ กดเยอะแล้วจะได้ขึ้นชาร์ตหรอ

>>18 น่าจะเหมือนแทนคอมเม้นป่ะ เหมือนว่าจะเข้าชาร์ตมันนับรวมยอดวิว คอมเม้น หัวใจอ่ะ

>>19 โอ้ ขอบคุณมากเพิ่ลโม่ง

KYแปป มึง กูไม่รู้ว่าพูดในมู้นี้ได้ไหม แต่ว่ากูแต่งนิยายเรื่องนึงเป็นคู่ชิป ตอนแรกกูชอบคู่นี้มากแล้วมันมีเหตุการณ์ที่ทำให้กูnotp กูควรแต่งต่อดีไหมวะถ้ายังมีคนรอนิยายกูอยู่อ่ะ พล็อตกูวางจนจบแล้วแต่มันไม่เอนจอยกับงานเขียนเหมือนเมื่อก่อน ทำไงดีวะ

>>21 ถ้าเป็นแฟนฟิคไม่ติดเหรียญมันคือสิทธิ์ของคนเขียนนะ ถ้าไม่สนุกไม่มีความสุขก็หยุด แต่ว่าถ้ายังไงไปเล่าพล็อตจนจบ(ถ้าคิดไว้แล้ว)ให้คนรอก็ดีนะ ถ้าขาย/ติดเหรียญเมื่อไหร่ควรเข็นให้จบเป็นความรับผิดชอบ

>>22 ถ้าเป็นแฟนฟิคเวลาเขียนขายต้องเสียค่าลิขสิทธิ์ไรป่าว ประมาณว่าหยิบการ์ตูนติดลิขสิทธิ์มาเขียนแฟนฟิคงี้

>>23 ปกติแฟนฟิคด้วยตัวมันเองก็คือ ผิดลิขสิทธิ์อยู่แล้วนะ แต่เจ้าของเขาหลับตาข้างนึงเพราะส่วนมากคนที่รักขนาดเขียนแฟนฟิคได้ก็คือแฟนๆนั่นแหละ แล้วงานพวกนี้ถือเป็นการช่วยโปรโมตด้วย แต่ถ้าล้ำเส้นมากเกินเช่นเอาไปหารายได้หนักๆก็มีเตือนไกัน อย่าง/รก็ขึ้นกับเจ้าของลิขสิทธิ์อยู่ดี อย่างโม่เซียงไม่อนุญาตให้ขายของจากผลงานนาง ห้ามแหกคู่หลัก ฝั่งตะวันตกแอน ไรซ์ก็ห้ามเขียนฟิค ไทยก็ปู่พนมเทียนก็ห้าม ก็ควรเคารพความต้องการของเจ้าของผลงานด้วย แต่อย่างฝั่งญี่ปุ่นคือจัดงานโดจินกันใหญ่โต ถึงขั้นมีการจัดอันดับว่าแต่ละปีทีโดจินจากเรื่องอะไรมาออกบู้ตมากสุดเป็นการวัดความนิยมด้วย

>>24 ต่อๆ ดังนั้นยกตัวอย่างของแอนไรซ์ละกัน Interview with the vampire คือวัตถุดิบน่าจิ้นมาก ช่วงที่ก่อนนักเขียนจะห้ามก็มีงานออกมาเยอะอยู่(สมัยดึกดำบรรพ์)แต่พอห้าม ในเว็ปอย่าง ff.net ก็ไม่มีแล้ว หรือของโม่เซียงจะไม่มีทางได้เห็นสินค้าเว่ยอิงขายแบหรากลางงานคอมมิคต่างๆเพราะเขาห้าม อาจจะได้เห็นแต่ทำใช้เอง ทำแลกกัน หรือหารกันตามต้นทุน+ค่าส่ง (นักแสดงไม่เกี่ยว จะเห็นว่าป๋อ จ้าน ทำสินค้า โด ฟิค ขายกันเยอะมาก) ดังนั้นมันขึ้นอยู่กับว่าเจ้าของลิขสิทธิ์มีนโยบายเกี่ยวกับโดจิน แฟนฟิคหรือสินค้าแฟนเมดอย่างไร

ky เพื่อนโม่ง พวกมึงเคยสังเกตไหมว่าในรอร.ยอดขึ้นติดชาร์ตใหม่มาแรงจะอยู่ประมาณกี่วัน กูลองลงเรื่องใหม่ ขึ้นติดชาร์ตได้ประมาณ 2 อาทิตย์แล้วก็หาย เพื่อนโม่งเคยสังเกตไหม????

ปล.แล้วยอดติดชาร์ตของเรื่องฮิตนี่ติดเท่าไรวะ กูเห็นบางเรื่องติดเป็นเดือน

>>26 กูก้อยู่ได้ 2 อาทิตย์เหมือนกัน ยอดติดชาร์ตมันคิดใหม่ทุกอาทิตย์ปะ จันทร์ถึงอาทิตย?

Ky มีวิธีฮีลใจเวลาคนอ่านด่าลูกเราแรงๆ มั้ย เจ้บ ฮือๆ

>>26 หายไปอยู่ในยอดฮิตหรือหายไปเลย? ส่วนใหญ่(เรื่องที่กูจำปกได้)จะอยู่ใหม่มาแรงมากสุดแค่5วันนะ ถ้าใหม่มาแรงของกูอยู่2-3วันก็หายไปอยู่ที่ฮิตประมาณหน้าหนึ่งหน้าสอง แต่ก็สังเกตว่าเรื่องไหนอยู่ใหม่มาแรงนานๆพอไปฮิตก็จะอยู่ประมาณหน้า4-5 ส่วนยอดฮิตติดเรื่อยๆนะถ้าคนอ่านมากพอหลักพันเกือบหมื่นขึ้นก็ไม่ตกฮิตหรอก

นิยายใหม่จะมีอายุที่จะสามารถอยู่ในในใหม่มาแรง 2 สัปดาห์นับตั้งแต่วันที่เปิดเรื่อง ถ้า 2 สัปดาห์นี้วิวสูงเท่าไรก็จะได้ขึ้นสูงมากเท่านั้น แต่ถ้าวิวกลางๆ ก็ยังมีสิทธิ์ได้ขึ้นสักท็อป 20 อยู่เวลารื้อแรงก์

เรื่องฮิตอยู่ที่ยอดวิวสะสม ไม่มั่นใจว่ากี่วัน น่าจะ 1 สัปดาห์ เรื่องฮิตรื้อลำดับทุกวัน ส่วนท็อปชาร์ตเป็นยอดรายสัปดาห์

ขอบ่นหน่อยได้มั้ย พอดีเป็นนักเขียนมานาน สิงอยู่ในห้องนี้เรื่อยๆ เลยได้อ่านคนแนะนำว่าอยากติดชาร์ตหรือติดอันดับนิยายยอดวิวเยอะๆ ก็ต้องอัพทุกวัน อัพบ่อยๆ ถ้าเราไม่อัพทุกวันคนอ่านก็จะหาย แต่กูก็ไม่อยากอัพทุกวันอยากอัพตามอารมณ์ แต่ก็อยากให้มีคนอ่านรอ ไม่ว่านานแค่ไหนก็รอได้ ไม่กดดันกูอะ แต่พอหายไปอาทิตย์สองอาทิตย์ก็เหมือนโดนเทไปเลย จะจัดการกับความรู้สึกเฮงซวยงี๊ไงดีวะ แม่งรู้สึกแย่เปนช่วงๆ ชิบหายค่ะ

>>30 จัดการที่ตัวมึง นี่กูไม่ได้กวนตีนนะ แต่ลองกลับไปใช้ชีวิตในโลกความจริงอะ ยอดคนอ่าน ยอดเม้นอะไรมันช่วยเรื่องความรู้สึกได้ แต่มันไม่ใช่ชีวิตจริงสำหรับกู เวลากูนอยด์ว่าเงียบ คนอ่านน้อย กูจะทำงานหาเงินเพิ่ม แล้วก็รู้สึกว่าถึงวันนึงกูเลิกเขียนก็ไม่เป็นไร เพราะชีวิตกูดีมาก ซึ่งความจริงกูก็อยากเขียนต่อไปเรื่อยๆ แต่กูอยากมีตัวเลือกให้ไม่เคว้งในวันที่กูรู้สึกว่าไม่มีใครรอกูแล้ว
ไม่รู้ช่วยมึงได้มั้ย5555 เป็นกำลังใจค่ะมึง

>>30 มึงอัพตอนนึงยาวมั้ยอ่ะ กูมีช่วงที่อัพเดือนละครั้งเหมือนกันนะ แต่ครั้งนึงที่อัพก็เกือบ 10k คำเลย คนอ่านก็ยังมีพอตัว คนหน้าเดิมๆยังเม้นให้อยู่ ถึงจะไม่ได้เยอะจนติดท็อปได้ก็เถอะ 555555 กูว่ามันได้อย่างเสียอย่าง ถ้ามึงอยากให้ดังพลุแตกอาจจะต้องเขียนให้จบก่อนละอัพทุกวัน แต่ถ้าอยากรักษาฐานเดิมไว้ กูว่าอัพน้อยแต่อัพครั้งละยาวๆก็ดี คนจะได้รู้สึกว่าคุ้มค่าการรอ

เวลาคนอ่านลดลง กูจะพยายามคิดว่า ผัวอยู่กับเราตลอดเวลามันยังมีวันหมดรักเลย เอาไรมากกับนักอ่านที่เห็นผ่านๆกันในเน็ต 5555555 แต่ก็เข้าใจความเจ็บของคนเขียนนะ บางทีเวลานักอ่านที่เคยบอกว่ารักเรามากแต่เขาหายไปเลยแม่งเหมือนโดนบอกเลิก มึงไม่ได้อยู่คนเดียวหรอก มามะ มากอดกูเป็นวงกลม

>>32 อ่านแล้วแม่งโครตจริง ผัวแม่งยังหมดรักได้ เออ มึงพูดถูกว่ะ กูตอนนี้ก็เป็นแบบพยายามวนเข้ามาดูยอดวิวยอดเฟบตลอด รู้นะว่าแม่ง toxic ทำให้เครียด แต่แม่งก็หลุดจาก loop นี้ไม่ได้ว่ะ กูเพิ่งเขียนไม่นานเลยแบบ...เหี้ยเจอคนอ่านหน้าใหม่สักคน โครตดีใจ ถ้ากูเขียนไปสักพักอาจจะด้านชากับยอดวิวยอดเฟบก็ได้ วันนั้นกูอาจจะไม่เฟล ไม่ sense กับอะไรแบบนี้ นี่ก็พยายามลงมันทุกวัน เขียนสดทุกวัน

>>30 วิธีแก้ปัญหาเลยคือต้องแต่งให้จบแล้วค่อยอัพทีเดียว มึงไม่ต้องอัพทุกวันก็ได้แต่ต้องมาสม่ำเสมอ อาทิตย์ละสองตอนก็โอเคถ้านิยายมึงคนอ่านเยอะแล้ว แต่ถ้าเป็นช่วงแรกมึงต้องอัพทุกวันอย่าหายไปนาน กูใช้วิธีนี้แหละยอดพุ่ง คนอ่านเยอะขึ้น เพราะนักอ่านหน้าใหม่มักจะกดเข้ามา

ส่วนในฐานะนักอ่าน ถ้านิยายนักเขียนหายไปนานๆ ไม่มาอัพกูไม่ตามอ่านต่อนะ กูรู้สึกว่าอารมณ์มันไม่ต่อเนื่อง ขี้เกียจอ่านแล้ว ไปตามเรื่องอื่นดีกว่า มีอีกหลายเรื่องใหม่ๆ ที่มาทุกวัน ซึ่งกูนิสัยไม่ดีนั่นแหละ กูให้กำลังใจมึงนะเข้าใจว่ายอดกับคอมเม้นต์มันเป็นแรงผลักดัน

>>30 กูอัพวันเว้นวันคนยังเมนต์ 3-4 คนเลยมึง แรกๆมันก็ทำใจยากจริงๆนั่นแหละ เวลาผ่านจะก็เจ็บจนเคยชิน

โม่งแพคนิยายส่งไปรกันยังไงอ่ะ เราต้อง
-ดามมุมปกมันช่วยได้จริงมั้ย
-เราต้องดามกับตัวหนังสือก่อนแล้วห่อบับเบิ้ล หรือห่อบับเบิ้ลแล้วค่อยดามปก
-ห่อบับเบิ้ลแล้วใส่ซองหรือใส่กล่อง
แง ถามเยอะหน่อยขอโทดน้า เราเพิ่งเคยส่งครั้งแรกแล้วคนบอกให้ดามมุม แต่ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยว่าดามมุมมันเป็นยังไง ;_;

>>36 ดามมุมช่วยได้แต่ถ้าบับมึงหนาอยู่แล้วก็ไม่จำเป็น กูใช้บับเบิลด้านเรียบสองด้านมันจะหนาและเหนียวกว่าแบบด้านเรียบหน้าเดียว(เรียบหนึ่งด้านปุ่มหนึ่งด้าน อันนี้เหี่ยว)ใช้ความยาวประมาณ2.5เมตร/เล่ม มึงจะตัดแบ่งเป็นสองแผ่นแล้วห่อสองชั้นหรือจะแผ่นเดียวก็ได้ตามสะดวกหรือจะยาวกว่านี้ก็ได้
ดามมุมคือการหาวัสดุอะไรก็ตามหรือจะพวกกระดาษลัง หรือบับเบิลหรือพวกโฟมอ่ะ มาเก็บมุมกันหนังสือบุบ เพราะจุดที่เสี่ยงสุดคือมุม ถ้าจะไม่ดามกูแนะนำว่ามึงห่อแล้วใช้นิ้วกดดูว่าถึงหนังสือมั้ย ถ้ากดแรงๆ แล้วไม่เจอมุมหนังสือก็รอดแล้ว
จะใส่กล่องหรือซองก็อยู่ที่ความหนาของหนังสือ 200-250หน้าใส่ซองยังพอไหวแต่ถ้า300+หน้ากูแนะนำใส่กล่อง จริงๆ ใส่ซองได้แต่มึงจะโดนด่า5555

>>36 >>37 กูคนขาย ไม่ใช่คนเขียนนะ มาแชร์ด้วยคนว่าเล่มหนาใส่ซองก็ส่งรอดนะ แต่กูดามด้วยฟิวเจอร์บอร์ดหรือกระดาษลัง ดามแบบประกบเป็นแซนวิชแล้วพันเทปรอบ ส่งรอดทุกครั้ง
แต่นี่คือกูขายหนังสือมือสอง และระบุเงื่อนไขเลยว่าซื้อเล่มเดียวจะใส่ซอง สองเล่มอัพถึงจะหากล่องให้

KY กูกำลังจะเริ่มเขียนนิยายขาย ตลาดพระเอกเหี้ยคนซื้อเยอะจริงใช่มั้ย หรือเฉพาะแนวชญ กูอยากรู้ขอบเขตพระเอกเหี้ยที่ขายออก แล้วสเปคพระเอกนอกจากเหี้ยแล้วมีแบบไหนที่ขายออกอีกบ้าง แนะนำกูหน่อย เศรษฐกิจไม่ดี กูอยากหารายได้ซักทาง

>>39 ขึ้นหงส์ลงหมาอ่ะได้เมิง เหี้ยแล้วกลับใจ เหี้ยกับคนอื่นยกเว้นนายเอก นอกนั้นก็พระเอกสายเปย์ พระเอกหมาขี้อ้อน พระเอกเด็กกว่า

>>37 กรี๊ดขอบคุณมาก หน้าตามันจะประมาณนี้ใช่ป่ะ https://www.picz.in.th/image/DO2bNN แล้วเราติดเทปตรงที่ดามมุมกับตัวหนังสือได้เลยเหรอ? (หรือปกติเวลาหนังสือมาส่งโรงพิมพ์จะมีพลาสติกห่อให้อยู่แล้วอ่อ)
>>38 ถ้าประกบเป็นแซนวิชฟิวเจอร์บอร์ดต้องพอดีขนาดนส.ใช่มั้ยอ่ะ หรือว่าต้องให้มันใหญ่กว่านั้นนิดนึงกันกระแทก?

>>41 กู 38 นะ ช่าย กูลืมบอกว่าหนังสือห่อบับเบิ้ลก่อนไม่ต้องหนามาก แล้วฟิวเจอร์​บอร์ด​ที่ประกบต้องล้นขอบหนังสือ กูส่งมาเยอะได้ผลตอบรับดี (คือส่วนใหญ่บอกว่าแม้จะไม่ได้ใส่กล่อง แต่ก็เสริมความแข็ง​แรงมาดี ไรงี้)

>>41 ประมาณนั้นแหละแต่ทางที่ดีให้ใหญ่ลงคลุมปกหน้าหลังด้วย ส่วนเรื่องซีลมึงต้องถามโรงพิมพ์ที่จะพิมพ์อ่ะว่าเขารับซีลไหม บางที่ซีลฟรี บางที่เสียเงิน หรือถ้ามึงไม่ซีลก็ซื้อซองแก้วมาใส่เองได้ แต่อย่าแปะเทปลงบนปกตรงๆ มึงโดนเคลมยับแน่ ซีลมาเลยก็สะดวกดีแต่ถ้ามันแพงก็เอามาใส่ซองแก้วเองถูกกว่า หรือบางที่อาจจะไม่ซีลแต่ใส่ซองให้ก็ลองถามๆ ดู
ถ้ามึงจะใช้ฟิวเจอร์บอร์ดดามมึงใส่กล่องเหอะ ค่าซอง+ฟิวเจอร์บอร์ดนี่ก็จะแพงกว่าค่ากล่องแล้วมั้ง แต่ถ้าหนังสือบางมาก แบบต่ำกว่า50หน้า ดามให้เกินขนาดหนังสือ ประกบหน้าหลัง ดามด้วยกระดาษลูกฟูกก็ได้แต่สลับด้านลอนกัน(แนวตั้ง-แนวขวาง)มันจะแข็งแรงกว่าแนวเดียวกัน แต่ถ้าจะใส่กล่องคือหาอะไรยัดไม่ให้กล่องมีช่องว่างอ่ะ กระดาษอะไรก็ได้ หรือบับม้วนๆ ใส่เข้าไป เพราะถ้าไม่เขย่าโอกาสเสียหายจะลดลง
เชื่อกูการโดนเคลมเพราะมุมบุบไม่ใช่เรื่องสนุกบางคนไม่ซีเรียสก็โชคดี คนที่ซีเรียสจนปสด.ก็มีมาก55555

>>39 กูเพิ่งเห็นห้องลิทเถียงกันเรื่องระดับความเฮียที่คนอ่านรับได้
กูก็นึกไม่ออกว่าพอ.เฮียแบบไหนที่กูรับไว้มั่งวะ 555 เรป ทำร้ายร่างกาย (ตบหน้า ฯลฯ)​ นอกกายนอกใจ หลอกใช้ ไรพวกนี้กูก็ไม่ไหวแล้ว ต่อให้ทำไปเพราะเข้าใจผิดก็เหอะ

แต่พอ.เด็กกว่านี่กูชอบมากกกกก ถถถถ

>>43 เอ้อจริงด้วย กูเพิ่งนึกได้ว่าเราต้องสั่งหนังสือมาเผื่อเคลม ;_; ปกติมึงสั่งเกินมาเยอะมั้ยอ่ะ

>>45 คิดง่ายๆ ก็ซัก 10% ของยอดพรีอ่ะ ปกติถ้าหน้าหายพิมพ์สลับ หรืออ่านไม่ได้แบบหมึกเลอะทั้งหน้าไรงี้ โรงพิมพ์จะรับเคลม แต่ถ้าตำหนิจากสภาพภายนอกอ่ะ เขาไม่รับ เคสที่เคลมได้คือมีปัญหากับการอ่านเท่านั้น ตรงจุดนี้มึงไม่ต้องกังวล แต่ควรถามโรงพิมพ์ให้ชัดเจนก่อน แต่ถ้าจะสั่งเผื่อคัดเลือกเล่มสวยๆ ไรงี้กับทำสต๊อกก็ลองหาจุดคุ้มของยอดพิมพ์ดูก่อน อย่างเช่นได้ยอดพรี 89 เล่ม ค่าพิมพ์ต่อเล่มคือ xx แต่ถ้าพิมพ์100เล่มจะถูกกว่า ก็อาจจะตัดยอดที่100 แต่ถ้าพรี 60 เล่ม อย่างมากกูก็เผื่อแค่5-10เล่มถ้าไม่คิดจะขายสต๊อกไปนานๆ อ่ะนะ บอกตามตรงสต๊อกมันออกยากถ้าไม่ใช่ว่ามีกระแสขึ้นมาน่ะ

>>45 กูใช้กระดาษลูกฟูกหนังสือรอบนึงแล้วค่อยพันบับหนา ๆ (พันราว ๆ 6-7 ทบ เอาเป็นว่าพันชนิดที่ส่องจากข้างนอกมองไม่เห็นสีปกหนังสืออ่ะมึง) แล้วอัดตามมุมเข้าไปอีกชนิดที่พออยู่ในกล่องแล้วเขย่าแล้วไม่มีเสียงอ่ะ ส่วนยอดเคลมก็ตามนั้นคือ 10%

มึง...กูแต่งนิยายไม่ออก กูอ่านข่าวทวิตแล้วกูเครียด สติหายหมดเลยมึง ไอ้ชิบหาย

ky ขอคำปรึกษาหน่อยนะเพื่อนโม่ง คือกุเป็นนักเขียนหน้าใหม่ ไม่มีปสก.ตีพิมพ์กับสนพ.ใดๆ ทั้งสิ้น แล้วทีนี้มีสนพ.นึงติดต่อมาอะ เขาบอกอยากขอเรื่องย่อเพื่อส่งเข้าพิจารณาในกองบก.

ทีนี้ เรื่องย่อที่เขาขอนี่คือยังไงวะ คล้ายๆ บทสรุปนิยายมั้ย ที่สรุปสั้นๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ? คือนิยายกุมันออกแนวพล็อตสงครามซับซ้อนหน่อยๆ อะ ปมเยอะ กุก็ต้องเฉลยปมในเรื่องย่อนี้ด้วยมั้ยวะ

แง ไม่มีคนรอบตัวให้ถามจริงๆ กุไม่มีประสบการณ์เรื่องนี้เลย T_______T

>>48 ปิดมือถือแล้วไปนอน

>>49 ใช่ เรื่องย่อคือสปอยนิยายตั้งแต่ต้นจนจบว่าใครทำอะไร มีปมตรงไหน เฉลยยังไง

>>51 ขอบคุณมากเพื่อนโม่ง คือถ้ากุเลือกเฉลยเฉพาะปมใหญ่ที่มีผลต่อเนื้อเรื่องก็ได้ใช่มั้ยวะ? ปมใหญ่ที่นำไปสู่จุดจบของเรื่องราวทั้งหมดอะ

พวกปมเล็กปมน้อยที่ไม่ค่อยมีผลอะไรก็ไม่ต้องใส่ลงในเรื่องย่อก็ได้ใช่มั้ยง่ะ
แล้วก็ อีกนิด กุไปรีเสิร์ชมู้เก่า ๆ มา เห็นบอกว่าเรื่องย่อควรอยู่ในระหว่าง 1-3 หน้าเอสี่ใช่มั้ย ขอโทษที่ถามเยอะนะฮือ

>>52 ถ้าเป็นปมเล็กปมน้อยไม่ต้องใส่ก็ได้ แต่กูก็ไม่รู้ว่าเล็กน้อยของมึงมันประมาณไหนง่ะ ถ้าเป็นพวก development ตัวละคร อย่างตอนเด็กพระเอกมีปมกับที่บ้าน แล้วผ่านเหตุการณ์มาเรื่อยๆเจอตัวละครอื่นๆ เลยนิสัยโตขึ้นแล้วแก้ปมในในได้ในที่สุด อย่างนี้ไม่ต้องใส่ก็ได้เพราะไม่มี Major event อะไรในเรื่อง แต่ถ้ามันมีเหตุตู้มอะไรซักอย่าง เช่นสติแตกหนีออกจากบ้าน ก็อาจจะต้องใส่
ส่วนความยาวก็ตามนั้นเลย เรื่องย่อปกติกูเขียนแค่ 1-2 หน้า (เรื่องกูยาวประมาณ 300 หน้า) แต่ถ้าเรื่องมึงสเกลใหญ่กว่านั้นก็อาจจะเพิ่มได้อีก ปกติเขาจะทำให้สั้นไว้ให้สะดุดตาบก.จากต้นฉบับเป็นร้อยๆ แต่ถ้าเขาติดต่อมึงมาเองแสดงว่าเขาสนใจจะอ่านของมึงอยู่แล้ว กูว่าถึงจะยาวหน่อยก็คงไม่เป็นไร แต่ MAX สุดๆๆๆ คืออย่าเกิน 4-5 หน้าแล้วกัน

>>52 เรื่องไปหาเรื่องย่อหนังอ่ะ มันประมาณนั้น

เล่าพล็อตใหญ่ๆ ใครทำอะไร จึดจบยังไง

Ky โม่ง นิยายวายนี่รวมเล่มกับอีบุ๊คอันไหนขายดีกว่ากัน

>>55 แล้วแต่แนวเรื่องมั้งมึง เรื่องเสียว pwp กูเก็บอีบุ๊ค นอกนั้นเก็บเล่มล้วน

>>53 >>54 กราบแนบตัก thx มากๆๆๆ ขอให้ไม่ปวดหลังนะ

กูกะแต่งแนวผ่อนคลายตัวเองpwp ชิวๆแต่สุดท้ายแต่งไปแต่งมาวางพล็อตไปมาแม่งดันซับซ้อนกว่าอีกเรื่องที่กูแต่งอีก ทำอะไรไม่เคยได้ดั่งใจ ถถถ

>>58 +1 กูก็เป็น กะแต่ง pwp เอามัน แต่กูไม่รู้จะเริ่มยังไง เลยด้นสดไปเรื่อย ๆ แต่งไปชักคิดไม่ออก เกือบออกอ่าว กูเลยใส่พล็อต กลายเป็นนิยายเสียวมีพล็อตจริงจังเฉ้ย

เพิ่งเปิดพรีนิยายในรี้ด เรื่องนี้ติดฟิลเตอร์ 18+ ไว้ คือมันใส nc มีบ่อยไม่แรง (อยู่ห้อง lovely)
นักอ่านคนหนึ่งจองเข้ามา เค้าให้ชื่อผู้รับขึ้นต้นว่าด.ญ. เลยว่ะ ควรทำไงดีวะ ควรขอแคนเซิลมั้ย?

เท่าที่สังเกตดูชื่อนี้เคยมาเมนต์ในนิยายเรื่องนี้ประปรายในรี้ด แปลว่าเค้าพิสูจน์​ด้วยบัตรปชช.ผ่านแล้ว นอนคิดไม่ตกมาคืนหนึ่งว่าควรก้าวก่ายถามอายุเค้าป่าว??? นิยายเล่มไม่ถึง 300.- โอนคืนไม่เสียดายหรอกแต่กลัวคนอ่านโกรธอ่า

อีกนิด เขาจองรอบ 7day มาด้วย หรือกูจะแคนเซิลออเดอร์แล้วส่งเฉพาะของแถมพรีเมียมไปแทนการขอโทษเค้าดีวะ แต่ภาพโปสการ์ด​กูส่อเรทนิดๆด้วย​ ปวดหัวเลย

>>60 >>61 คหสต. ทักส่วนตัวไปถามเขาก่อนก็ได้ แล้วก็บอกเหตุผลมึงไปตรงๆอ่ะว่าทำไมถึงถาม

>>62 ถ้าบอกเหตุผลว่า นิยายเราติดเรท เลยไม่อยากขายให้นักอ่านที่อายุยังไม่ถึง 18 น่ะค่ะ
แบบนี้ดูซีเรียสหรือกีดกันไปมั้ยวะ โทนดูเหมือนเจ๊ฉอดไปป่าว

>>63 เหมือน

>>64 ฮือ มีวิธีพูดแนะนำมั้ย T_T

>>65 นิยสยมีการจำกัดอายุผู้ซื้อไวค่ะ ต้องขอโทษไรว่าไป

>>66 เออ อันนี้โอเคดีว่ะ thx ค่ะเพื่อน

กูอยากถาม นข ในฐานะนักอ่าน
คือกูอยากซื้องานทำมือ นข คนนึงมาก เขาว่ามีแพลนจะเปิดพรีเร็วๆนี้ ละกูอ่านบนเว็บแล้วเขาใช้คำนึงผิดความหมายทุกจุดเลย กูอ่านทีหัวทิ่มที กูอยากบอกเขาเพราะถ้ามันไฟนอลออกไปแบบนั้นกูก็คงไม่ซื้อแน่ๆ แต่กลัวโดนด่าสาระแนว่ะ พวกมึงที่เป็น นข จะรีแอคยังไง แล้วกูควรพูดยังไงดีวะ

ถ้าบอก-รอลุ้นว่านขจะแก้มั้ย ต้องเสี่ยงซื้อนิยายมาดู
ถ้าไม่บอก-ไม่ต้องรอลุ้นว่านขจะแก้รึเปล่าเพราะนขไม่รู้ว่าผิด ไม่ต้องซื้อ ประหยัดตัง

การทำเป็นebookแม่งลดการละเมิดลิขสิทธิ์ลงอย่างไม่น่าเชื่อ ไอ้ที่ละเมิดมาส่วนใหญ่เป็นนิยายสแกน

มึง แก้ปัญหาเขียนได้แย่กว่าเดิมยังไงวะ กูรู้สึกตัวเองถ่ายทอดสิ่งที่อยากเขียนออกมาได้ไม่ดีเท่าเมื่อก่อน ใช้คำซ้ำเยอะมาก บางฉากที่อยากจะเขียนก็นึกไม่ออกว่าควรเขียนยังไง เหมือนมันแบล๊งเรื่องคำไปเลย
รู้สึกแย่ว่ะ ยิ่งไปอ่านงานเก่าๆตัวเองแล้วก็ยิ่งเฟล

>>68 บอกแบบถอดล็อกอินหรือหลังไมค์ ถ้าบอกแล้วเขาแก้ ถือว่าเป็นบุญ แต่ไม่ มึงก็ประหยัด

>>68 ใช้คำไหนผิดหละ ไม่แน่ เขาอาจถูกแล้วแต่มึงเข้าใจผิดมาตลอดก็ได้

>>72 ถ้านิรนามไปเขาจะเชื่อไหมวะ จริงๆกูเคยแบบเมนชั่นคุยกับ นข แต่จะเอาแอคไปทักกูก็แปลกๆ กลัวเขาด่าสาระแนอย่างที่ว่าเลยมาถามความเห็นในโม่ง5555 กูเลยระบุว่าอยากถามพวกนข ว่าเวลาคนมาทักมึงแบบนี้มึงรีแอคกันยังไง ดูทรงแล้วเขาวางตัวเป็นกูรูอยู่อะ
>>73 เป็นไวยากรณ์อะมึง ถ้าบอกไปกูกลัวโม่งแตก แต่ใช้ผิดทุกจุด เรื่องนี้กูมั่นใจว่ากูถูก
เรื่องของเรื่องคือกูอยากซื้องานที่ดีแต่ไม่กล้าเสือก นข สมัยนี้ทักนิดทักหน่อยไม่ได้ หรือบางคนกลัวตอบดีลับหลังไปด่าไปดราม่าอะ กูเลยสองจิตสองใจอยู่เนี่ย

เวลาเจอนักเขียนในรอรตามก๊อปปี้งานพวกมึงจะทำไงวะ มันมีอีนักเขียนชญตัวนึงตามลอกชาวบ้านอยุ่ นิยายใครแรงอีดอกนี่จะตามลอกแล้วเอาไปดัดแปลง มันลอกนิยายกูไปสามเรื่องแล้วเย็บแม่ กูคิดแทบตายถูกอีดอกนี่เอาไปดัดแปลง ทั้งก๊อปพล๊อตกูก๊อปคาร์กู อีสัสเจ็บใจว่ะ กูแม่งนักเขียนนูกู จะทำไงกับนักเขียนเห็บหมาบั่บนี้ดีวะ

>>75 กูเคยเห็นในเพจมีคนมาแนะนำแนวทางเวลาสงสัยว่านิยายโดนลอก กูจำได้ว่าเซฟเก็บไว้แต่หาไม่เจอ
มึงลองโยนคีย์เวิร์ดลงในอากู๋ดูก่อนก็ได้ (ตัวอย่าง: คู่มือลิขสิทธิ์สำหรับนักเขียน)

>>74 กูว่าถ้าพูดดีๆ นักเขียนก็น่าจะไม่มีปัญหานะ เวลาคนบอกกูดีๆว่ากูเขียนผิดกูก็โอเค ถ้าไม่แน่ใจว่านักเขียนอีโก้มั้ย ลองชมแล้วถามเชิงถามๆ ก็ได้ว่า ชอบเรื่องมากนะคะแต่คำนี้ๆน่าจะใช้แบบนี้รึเปล่า แต่ส่วนมากบอกกูตรงๆว่าคำแบบนี้ใช้แบบนี้นะคะ ไม่ใช่แบบนี้ๆ กูก็ขอบคุณแล้ว ขอแค่อย่ามาแบบ เคยเรียนมามั้ยคร๊า อะไรแบบนี้ก็พอ

มึงกูมีปัญหาว่ะ คือกูลงนิยายแล้วนักอ่านอินมาก แล้วกูรู้ว่านิยายกูมันไม่ได้ดีอะไรขนาดนั้น ปมต่างๆ คือไม่มีอะไรมาก แต่นักอ่านของกูเดาไปแบบสุดๆ กูเลยกลัว มันบอกไม่ถูกแต่ไม่กล้าไปอ่านคอมเม้น ถ้ากูอัพต่อไป กูรู้สึกเหมือนเดี๋ยวกูต้องโดนด่าแน่เลยอะไรแบบนี้อ่ะ

>>71 กูใช้วิธีหยุดเขียนไปสักพักก่อน แล้วไปหานิยายเรื่องที่ชอบอ่าน เรื่องที่ขึ้นหิ้งอะ ดูเทคนิคการใช้ภาษาของเขาอะไรแบบนี้ แต่ต้องระวังไม่ไปลอกภาษาเขามานะ ไม่ก็ไปหาหนังสืออ่านอีกเยอะๆ สะสมไปเรื่อยๆ ขยายคลังคำของตัวเองอะ

>>78 กูก็เคยเป็น นักอ่านเคยเดาปมแบบอลังการมาก แต่จริงๆ มันไม่ได้ลึกขนาดนั้น55555555555555 เป็นความรู้สึกว่ากลัวเฉลยปมไปแล้วจะทำให้นักอ่านผิดหวัง ไม่รู้จะแก้ยังไงดีเหมือนกันว่ะ ขอมานั่งกอดเข่าเป็นเพื่อนมึงด้วยก็แล้วกัน

ขอ ky เพราะช่วงนี้ส่วนใหญ่สอบกันหรือเปล่าวะ
คือยอดอ่านนิยายกูลดฮวบแบบเห็นได้ชัดเลยอะ o<---<

พวกนักวาดเกาหลีนี่วาดปกแพงมากป่ะว่ะ ถึงหลักแสนป่ะ

>>78 >>79 กุเคยอ่านนิยายที่คนอ่านคิดพลอตซับซ้อนมากๆในคอมเม้น แต่พลอตจริงของนักเขียนไม่ได้ซับซ้อนขนาดนั้น เค้าใช้วิธีบอกในคอมเม้น แบบติดตลกหน่อยๆ ประมาณว่าได้อ่านคอมเม้นแล้วค่ะ เค้าคิดไม่ถึงเลยว่าจะคิดเป็นพลอตซับซ้อนแบบนั้นได้ แต่พลอตจริงไม่ได้ซับซ้อนขนาดนั้นนะคะ ไม่ต้องคิดมากน้าาาา อะไรประมาณนี้ พวกมึงลองดูอ่ะ แต่ไม่ต้องไปรีพลายเม้นนะ

เราจะรวมเล่มแล้วอยากจ้างวาดปกสวยๆ แบบนี้จะช่วยกระตุ้นยอดขายบ้างมั้ย เพิ่มจาก 30 เล่มเป็น 50 เล่มอย่างนี้อะ

>>81 แพงกว่า leila กุเคยถาม ราว ๆ เกือบ 2 หมื่นก็มี

>>84 leila อะถูกมึง55 ไม่ต้องแปลกใจทำไมคนจ้างเยอะ 2หมื่นขึ้นคือปกติ

>>85 ในบรรดานักวาดจีนถือว่าไม่แพงจริงนั่นล่ะ เคยดีลมาทำอย่างอื่นไม่ใช่ปกบวกรวมทุกอย่างแล้วไม่ถึงหมื่นด้วย งานเร็วคุยอังกฤษได้ด้วย แต่ปกเลล่าทำไมหลังๆ เริ่มเหมือนงานเผาวะ อย่างปกล่าสุดของบีทู ดรอปลงเยอะเลย เดี๋ยวนี้ดีลคนอื่น กูเองก็สนใจทางเกาหลีเหมือนกัน

>>86 ปกที่ออกกับลวด. เล่มล่าสุดกูเห็นแล้วดูไม่ออกเลยว่าเป็นงานเลล่า
จะว่างานเผาก็ไม่เชิงคือมันไม่มีเอกลักษณ์อะไรในงานอจ. แบบที่กูจำได้เลยว่ะ
กูตามเพจอยู่ หลัง ๆ เหมือนอจ.แกเน้นไปเปิดคอร์สสอนวาดแบ็กกราวด์ใช่มั้ยวะ
คืออยากบอกอจ. (หรือนักเขียนที่จะบรีฟงานให้อจ.) ว่าเน้นแบ็กกราวด์ให้น้อยหน่อยก็ได้นะ บางรูปเห็นฉากหลังจัดเต็ม แต่ตัวละครเหมือนรีบวาดจัง -_-;

ป.ล. เชียร์ปกเกาหลี อยากเห็นอีกเยอะๆ ที่ข้างบนบอกว่าเรท 20,000 อัพนี่เรียกแพงป่าวอะ ?

>>87 เออ เพิ่งนึกได้ว่าอย่าบอกป๊านะม้าก็ของลวด. นี่หว่า ปกสวยจนกูยอมแฝดเรื่องนี้เลย 555
เมื่อกี้กูโทษคนบรีฟ แต่อืม สงสัยจะไม่ใช่ที่วิธีบรีฟ อยู่ที่สไตล์แหละมั้ง

>>88 กูเห็นเสือกินกวางที่จะออกก็คนวาดเดียวกับอย่าบอกป๊าฯ คนนี้โอเคเลยนะ วาดพีะเอกหมีได้หนุบหนับๆดี

>>89 คนป. ใช่มั้ย คนนี้กูก็ชอบ
ตอนเห็นปกเล่มแรกของเทพบุตรแห่งชาติฯ กูยังคิดว่างานคนจีน
งานคนนี้กูชอบเป็นส่วนใหญ่เลย สวยมาก ฉากหลังไม่หนัก (แม้หลัง ๆ คาร์พอ. จะดูซ้ำ ๆ ไปบ้างก็ตาม 555)

>>90 ใช่ งานคนนี้โอเคอยู่นะ กูเห็นเขาวาดพระเอกหนุบหนับแล้วรู้สึกอย่างเสียดายปกก่อนๆมาก ทำไมไม่บรีฟพระเอกหนุบหนับกันเยอะๆ

นักวาดไทยนี่มากฝีมือหลายคน หลายคนวาดได้หนุบหนับน่ารัก บางคนก็วาดได้เหมือนลายเส้นนักวาดจีนหรือนักวาดเกาหลี ถนัดกันไปแต่ละแนวๆ ราคาก็ไม่น้อยเหมือนกัน แต่กูว่าคุ้มกับงาน
>>87 20,000 ถึงมึง งานดีงามอยู่นะ ปกเกาหลีที่กูเห็นในไทยดังๆ อยู่ก็พันธะรักของอรุณ มีฟิคที่ดังอยู่เป็นอาร์ทเวิร์กเกาหลีสวยมาก แต่กูจำชื่อไม่ได้แล้ว

>>92 ปกนิยายเกาหลีสวยเยอะมาก ถูกจริตกูยิ่งนัก
แต่ไม่รู้ไม มันฮวาสายเกาที่เอามาแปลทั้งบนดินทั้งเถื่อนถึงมีแต่แนวหื่นๆ เรทเอ็กซ์จัดๆ วะ 555 จนกูติดภาพจำผิดๆ ว่านิยายวายญป. = มันฮวาวายเกาหลี = เน้นเย 😅😅😅

มังฮวาส่วนใหญ่คนวาดปกกับข้างในจะคนละคนนะแ่ต่ก็มีบางเรื่องที่วาดทั้งเรื่อง
ยกตัวอย่างคนหนึ่ง ครึ่งตัวไม่มีฉาก- $170 ไม่คิดบวกเชิงพาณิชย์ แต่บวก50%ถ้าไม่ให้นักวาดโพสลง(ในใจกูคิดว่าได้หรอวะ555)
กูเห็นนักวาดเกาหลีหลายคนเขียนราคาคอมมิชชั่น +5000 นี่คือสกุลเงินไรวะ

เวลาจะทำปกกันมึงดูแนวโน้มยังไงวะว่าจะมีคนสั่งกี่เล่มแล้วไม่ขาดทุนอะ

>>95 ประเมินจากยอดวิว ยอดเฟบก็พอรู้อะ ถ้ายอดเฟบหลักพัน ส่วนใหญ่ยอดจองหลักสิบ ยอดเฟบหมื่นต้น ๆ ยอดจองหลักร้อยต้นๆ

>>95 วิธีดูแนวโน้มมีเพิ่งถกกันไปลองย้อนขึ้นไปดู
วิธีไม่ให้ขาดทุน ถ้ามียอดสั่งคร่าว ๆ กับราคาปกแล้ว จับคูณกันออกมาเป็นรายได้ หักต้นทุนการพิมพ์การส่ง เหลือคือกำไรของมึง
ก็แค่ขึ้นอยู่กับว่ามึงแล้วว่าจะตัดแบ่งกำไรออกมาเป็นค่าปกเท่าไร

>>96 ยอดเฟบเรา 500 เอง

ยอดเฟบคือยอดกดเข้าชั้น หรือยอดหัวใจวะ กูสับสน

>>99 กดเข้าชั้น (ในความหมายกู)

>>100 ตัดศูนย์สองตัวเลยเหรอวะ โหดสัส กูเศร้า 😂

>>101 คนจองน้อยมากจริงๆ สำหรับวายไทย ความจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

>>102 ช่วงล็อกดาวน์ปีก่อน ยอดคนอ่านกูพุ่งเฉยเลยกับนิยายที่นานๆทีกูถึงอัพ แต่ช่วงนั้นเสือกไม่ว่างเข็นให้จบเพราะไม่ได้ wfh เพิ่งมานั่งปั่นจบแล้วกำลังทยอยลง
เห็นพวกมึงพูกเรื่องปกกันก็อยากทำเล่มมั่ง แต่ประเมินยอดแล้วแม่งเข้าเนื้อ งั้นกูอยู่เฉยๆ ดีกว่า 😗

กูแนะนำให้ทำอีบุ๊กกับติดเหรียญ ในส่วนของตอนพิเศษ หรือ nc ไรก็ว่าไป

งั้นขอถามเพิ่มนิดนึง
สัดส่วนยอดขายอีบุ๊คกับเล่มต่างกันเยอะมั้ยวะ
กูจะไปอีบุ๊ค​ล้วนก็เสียดายยอดจองเล่ม (ซึ่งไม่รู้เลยว่าเป็นสัดส่วนเท่าไร)​ เลยชั่งใจอยู่
แบบกูคิดไว้ว่าถ้าทำแต่อีบุ๊คคงไม่เน้นปกเพื่อลดต้นทุน กูเลยอยากรู้ว่ากูควรอิกนอร์ลูกค้าซืีอเล่มไปเลยมั้ย

Ky ขอถามในฐานะนักอ่านนะ ถ้ามีนักอ่านวาดแฟนอาร์ตนิยายให้ ปกตินักเขียนจะโอเคกันมั้ยอะ หรือมันจะดูยัดเยียดอิมเมจให้ตัวละครเกินไปรึเปล่า

>>106 เราโอเคนะ ที่ไม่โอเคคงจะเป็นคนที่มางอแงด่าตลค.บังคับให้เราเขียนในแบบที่ตัวเองชอบมากกว่า ถ้าเป็นแฟนอาร์ตเข้าใจว่ามันก็คือแฟนอาร์ต แล้วแต่เลย สำหรับเรานะ แต่คนอื่นๆอาจจะคิดต่างออกไป ถ้าจะให้ดีก็ถามเจ้าของผลงานเขาก่อนว่าเขาโอเคมั้ยน่าจะดีกว่า

>>106 กูก็อยากวาด เคยถามนักเขียนก่อนวาด เขาก็บอกโอเคกันแหละดีใจด้วยซ้ำ แต่กูไม่มั่นใจแบบกลัววาดไม่ตรงอิมเมจนักเขียนอะ ถึงนักเขียนจะบอกไม่เป็นไร แต่กูก็ไม่มั่นใจ55

>>105 สำหรับกูยอดอีบุ๊กสูงกว่าเล่ม แต่ถ้าเรื่องไหนไม่เป็นกระแส ไม่ว่าเวย์ไหนก็คือกริบทั้งนั้น
>>106 กูไม่ติดนะ โอเคอยู่ แต่ว่า อันนี้ยังไม่เคยเจอนะ ถ้าวาดออกมาแล้วมันไม่ตรงกับที่บรรยายจะเป็นยังไง จะ awkward หรือเปล่าไรงี้

>>109 แล้วเวลามีคนถามหาเล่ม มึงแอบไขว้เขวอยากทำเล่มมั้ยวะ
ขอโทษนะที่ถามเซ้าซี้ (; _ ; ) กูแบบจะลองทำทั้งทีก็เสียดายยอดฝั่งเล่ม แต่ติดแค่เรื่องปก (ซึ่งถ้าทำอีบุ๊กอย่างเดียวก็จะไม่มีต้นทุนตรงนี้เลย) กับกลัวเจอนักอ่านคลั่งกริบ

>>110 มีไขว้เขว ส่วนใหญ่ก็ทำเล่มไปด้วยนะ เพราะปกติกูจะทำอีบุ๊ก เรื่องปกไรงี้กูก็จ้างวาดอะ จะกราฟฟิคหรือวาดเองไรก็ว่าไป ดูราคาที่พอรับได้เพราะรู้อยู่แล้วยอดมันไม่ได้เยอะ เอาที่จ่ายได้จ่ายไหวและถูกใจ ทำทีนึงก็อยากทำให้ดีๆ อะ แล้วเวลากูทำอีบุ๊ก กูก็จ้างพิสูจน์อักษรอยู่แล้วกับจัดเล่มหน้าอยู่แล้ว คือมันสามารถทำเล่มได้เลย เพราะงั้นสำหรับกูคือไม่ได้เพิ่มหรือลดต้นทุนอะไร

เวลายอดวิวขึ้นสูงโดยไร้สาเหตุรู้สึกลุกลี้ลุกลนกันบ้างมะ กูกลัวมีคนแชร์นิยายไปด่าตามโซเชียลชะมัด ทั้งๆที่ก็ไม่ได้ทำอะไรผิดนะ 555

>>112 สังคมมันทำให้เป็นแบบนี้แล้วสินะ 55555 ของกูไม่อะ อยากรู้มากกว่าว่าทำไมถึงขึ้น เค้าแนะนำงานกูเหรอ แล้วตอนแนะนำแนะนำว่าไง ปกติกูไม่โปรโมทงานตัวเอง ด้อมก็ไม่ค่อยแมส

นข คนไหนช่วงนี้เปิดพรีแล้ววยอดตก คนไม่พรี มึงไม่ต้องโทษงานมึงนะ ต้องไปโทษอินข.2ตัว ตัวนึงเปิดพรี เลื่อนส่งจนเป็นข้าวผัด อีกตัว ทิ้งนิยายพรีไปทุ่มให้ซร. เพราะดังกว่าลูกหาบเยอะกว่า เข้าสนพ.เข้าไปเหอะช่วงนี้

>>114 มึงหมายถึง 2 ตัวไหนวะ กูไม่รู้จัก
พฤติกรรมเบี้ยวของนข.ที่กูไม่รู้จักไม่ได้มีผลกับการซื้อของกู
ปีนี้กูซื้อน้อยลงเพราะเบื่อว่ะ มีแต่งานวายตามกระแส นิยายเจ้าดังที่กูเคยหวีดพีคๆ กูยังเบื่อ เหมือนเขียนตามสูตรสำเร็จ เล่มโคตรหนาแม่งเนื้อหาเหมือนรีบเขียนรีบขาย คำผิดคำบรรยายซ้ำๆเหมือนก็อปแปะ ไม่ก็เอะอะเล่นซีนแฟลชแบ็กแแบบยกมาทั้งไดอะล็อกให้เปลืองหน้ากระดาษเล่น เจอแบบนี้สองสามเรื่องติดกูบายดีกว่า เห็นยอดคนซื้อลดไปเยอะ น่าจะเบื่อแบบกูไม่ก็เปลี่ยนไปกดอีบุ๊คแทน

แล้ว 2 นข. จอมผลัดคือใครวะ ขอลายแทงให้กูเผือกด้วยดิ

ที่กูอ่านเม้นท์คือส่วนใหญ่โดนตกจากซร.เลยมาซื้อหนังสือ ไม่ได้ยึดตัวนักเขียนนะด่ากันเยอะ ยังหาทำss2อีก

กูขอ ky นิดนึง มีใครลงขายอีบุ๊คกับ ฟชล ไหมวะ ยอดมีบ้างไหม กูเป็นจีนพีเรียด แต่ลังเลๆไม่รู้ว่าลงขายที่นี่ด้วยดีไหมเพราะเว็บนี้เครือธวญ เปอร์เซ็นต์หักเยอะแล้วสำหรับกูไม่ค่อยมีคนเข้าถึงอะ ไม่งั้นกูจะได้ลงเมพอย่างเดียว

>>115 คนนึงทำซร แต่หนังสือไม่มีส่ง คนนึง ออกเล่มหลักกะสนพ รถไฟฟ้า แล้วทำเล่มสเปเอง คนรวมตัวจะแจ้งความ ถึงได้โผล่หัวออกมา

>>116 ตอนแรกนิยายลงมาก่อนเว้ย เปิดพรีได้พักนึงบอกเรื่องนี้ได้ทำซร จากนั้นก็ตามที่แม่งไลฟ์สดนั้นแหละ

>>114 ใช่นข ที่มีประเด็นในกลุ่มคนรักนิยาย ครเขียนตุลคีย์ กับนขที่ได้ทำซีรีย์เรื่องคินพอร์ช ป่าววะ

>>117 ถ้าไม่มีคนซื้อเยอะกูแนะนำลงแต่เมพ ส่วนตัวกูลงสองเว็บ รายได้ต่างกันอย่างฟ้ากับเหว ของเมพดีกว่ามากๆ เรื่องหน้ากะจะลงเม็บอย่างเดียว นอกจากกระแสดีคนอ่านเยอะกูค่อนลงฟิคชั่นล็อก เพราะมันหักเกินเบอร์มากๆ เป็นไปได้ไม่อยากลง

>>115 ขอตัวย่อนข.ที่มึงว่า "นิยายเจ้าดังที่กูเคยหวีดพีคๆ กูยังเบื่อ เหมือนเขียนตามสูตรสำเร็จ"

กูขอแทรกนะ สมมุติว่านิยายกูมี 25 ตอน แล้วกูไม่ลงอีก 5 ตอนที่เหลือเพราะจะรวมเล่มจะน่าเกลียดมั้ยวะ

>>121 ขอบใจมึง งั้นกูผ่าน ฟชล เลย ไม่คุ้มแน่

>>123 อยู่ที่ใจ กูไม่ได้กวนนะ แต่ถ้าเอาแบบคุ้มคนอ่านก็คือมึงเปิดอ่านทุกตอน แต่ถ้ามึงอยากกระตุ้นยอดขายรวมเล่มก็อาจจะต้องยอมรับว่าน่าจะมีคนไม่พอใจ เอาจริงมันไม่ได้น่าเกลียดหรอก แต่คนอ่านติดนิสัยอ่านฟรีจนจบน่ะ

>>123 ถ้าบอกไว้แต่แรกก็ไม่น่าเกลียด แต่ถ้ามาบอกทีหลังมันก็ไม่เชิงว่าน่าเกลียด แต่เป็นไปได้ว่าคนอ่านบางส่วนอาจรู้สึกไม่ดีน่ะ

>>125 >>126 ขอบคุณมาก คือรู้สึกไม่ดียังไงอันนี้อยากรู้

>>113 มันมีอยู่ช่วงหนึ่งที่บนไทม์ไลน์ทวิตเตอร์เอาคำในฉาก NC มาล้อกันสนุกปากอะ ทำเป็นมีมบ้าง ประชดประชันบ้าง ทำตลกบ้าง กูเลยแพนิคแล้วกลัวมากว่าจะถูกล้อเลียน

>>127 วายไทยส่วนมากนักอ่านจะคิดว่านักเขียนต้องลงจนจบให้อ่าน ถ้าไม่ได้แจ้งก่อนจะมีมาม่าว่าทำไมไม่ยอมบอกอะไรแบบนี้ นักอ่านบางคนชอบอ่านฟรีแต่ไม่ได้อยากซื้ออ่ะ ถ้าจะลงจบไม่จบก็ควรบอกไว้ตั้งแต่ต้น กันไว้ก่อนดีกว่า เพราะนักอ่านบางคนนักเขียนลงไม่จบก็จะไม่หลงไปอ่านอะไรแบบนี้ แต่เดี๋ยวนี้ดีขึ้นเยอะแล้วนะ เมื่อก่อนลงไม่จบไม่ได้เลย นักเขียนจะกลายเป็นสนามอารมณ์ของคนที่อยากอ่านแต่ไม่อยากซื้อ

>>127 วายไทย นิยายที่คนไทยควรได้อ่านฟรีจนจบ ´༎ຶ ͜ʖ ༎ຶ `

>>115 ก็คนเขียนคินพอช กับ คนแต่ง ตุลย์คีย์ คนหลังนี่อ้างว่าเนื้อหาหายไป 3 บท มารู้ตอนจะแพคหนังสือ เลยต้องสั่งแก้ไขหมด กูไม่ค่อยเชื่อไงไม่รู้ว่ะ

>>96 ของกุควรดีใจแล้วใช่ไหม ที่ยอดวิวหลักพัน คนจองหลักร้อย T T เอาจริง ๆ กุว่ามันอยู่ที่คนจะเปย์มันก็เปย์

>>110 ของกูทำแม่งสองอย่าง ออกเล่มก่อน แล้วออกอีบุ๊คตามว่ะ อีบุ๊คถือเป็นกำไร เพราะส่วนเล่มกูไม่ได้กำไรเท่าไหร่ ส่วนนักอ่านคลั่งกริบนี่จริงอยู่ สายนี้จ้องทำใจ ยังไงก็เจอว่ะ

>>132 กูสังเกตว่าบางเรื่องถ้าเขียนโอเคตรงกลุ่มสายเปย์ ถึงไม่ดังเวลาขายจริงมันขายได้มากกว่าที่คิดอยู่นะ เพราะของกูยอดวิวก็ไม่ได้เยอะ แต่ก็ขายได้โอเคอยู่

มีโรงพิมพ์ไหนที่ถูกแล้วคุณภาพพอรับได้มั้ย ตอนนี้กูมีปัญหาเรื่องราคาจริงๆเพราะที่บ้านเพิ่งถูกโกงมา เครียดสัสๆเครียดจนอยากตายแต่ก็ต้องพิมพ์นิยายต่อเพราะรับเงินมาแล้ว มีที่ไหนเรตพิมพ์ดิจิตอลถูกกว่า fictionprint มั้ย ช่วยด้วย

>>132 ปังมากอะ แต่งแนวไหนวะ

>>135 ลองถามกู้ดเฮดดู กูพิมกับเจ้านี้ ต่อรองราคาได้นะ

>>135 กูผ่านมาเห็น ไม่มีปสก.ด้านพิมพ์จะแนะนำ แต่อยากบอกว่านับถือสปิริตมึงที่เจอปัญหาเรื่องบ้านเรื่องเงินแต่ก็ไม่เอามาเป็นข้ออ้างเบี้ยวเงินพรีออเดอร์คนอ่านแบบนักเขียนที่กูเคยเจอ
ขอให้มึงผ่านปัญหาไปได้โดยเร็วนะเพื่อนโม่ง

>>135 กูให้กำลังใจมึงนะ ดีใจแทนนักอ่านของมึงด้วย กูแนะนำกู้ดเฮดอีกเสียง ลองไปสอบถามดู ตอบเร็วให้คำแนะนำดีด้วย

ถามหน่อย มีใครเคยทำพวกพวงกุญแจ สติ้กเกอร์ แจกบ้างมั้ย ราคามันประมาณเท่าไหร่หรอ หรือของแจกนักอ่านที่ราคาไม่สูงแนะนำบ้างมั้ย กูคิดไม่ออกเลยว่าจะแจกอะไรดี

>>140 ถ้าขอได้ กูไม่เอาพวงกุญแจ​ได้มะ T_T
ปกติกูไม่เน้นของพรีเมียม ถ้าเลี่ยงไม่ได้จิงๆ ขอเป็นอะไรแบนๆที่เสียบเก็บกับหนังสือได้ ที่คั่นโปสการ์ดสติกเกอร์การ์ดใสจิบิยังพอไหวมั้ง

>>140 โปสการ์ดไม่ก็ที่คั่นน่าจะถูกสุดนะ

>>140 ไม่เคยทำอะ สำหรับทำมือ ถ้าคิดว่ายอดไม่เยอะจริงๆ ไม่คุ้มอะ อย่าลืมคิดต้นทุนกำไรด้วยนะ หรือถ้ามึงไม่สนตรงนี้ก็แล้วแต่เลย แต่กูเคยทำการ์ดใส ตีกลมๆ ใบละห้าบาท

>>140 การ์ดใสไม่แพง คนคลั่งด้วย กูคนนึงที่ชอบเก็บการ์ดใส ถถถถถ

>>144 น่าสนใจอะทำการ์ดใส แล้วคนจะอยากได้อะไรอีกมั้ยวะ ที่คั่น การ์ดใส นึกของแถมไม่ออกแร้วคร่ะ

>>145 โปสการ์ดไง ที่คั่นโปสการ์ดนี่เหมือนดูโอ้ต้องมาแพ็คคู่

>>145 ที่คั่น กูเข้าใจว่ามันต้องได้ฟรีอยู่แล้วนะเวลามึงสั่งพิมพ์
(ถ้ากูเข้าใจไม่ผิดนะ คือเพื่อนกูทำสนพ. แล้วมันเคยบอกว่าเวลาทำปกอ่ะ มันมีขอบกระดาษที่เหลือและสามารถเอามาวางเลย์เอาท์ทำที่คั่นได้)

>>147 เราเคยทำที่คั่น แต่นาน ๆ ไปมันงอ มันมีวิธีแก้มั้ย หรือว่าทำให้มันแข็งๆ กว่าเดิมอะ ต้องเคลือบไรป่าว
ถามอีกเรื่องเวลาจะประกาศรวมเล่ม เพื่อนโม่งทำตอนพิเศษจนครบเลยมั้ยค่อยประกาศ

>>148 ฮือ ขอโทษทีมึง กูอยู่ฝั่งบริโภคเลยไม่รู้พวกนี้เลย เดี๋ยวรอโม่งสายผลิตนะ น่าจะมีมาแชร์ปสก.

>>148 ถ้ากระดาษบางมันจะงอ ให้เพิ่มแกรมกระดาษ แต่ถ้าตามข้างบนบอกว่าแถมจากกระดาษเหลือทำปกมึงต้องสั่งทำปกด้วยแกรมกระดาษที่หนาขึ้น

>>145 คหสต. นอกจากการ์ดใสกูก็ชอบพวกกระดาษๆ สอดในเล่มเหมือนกัน ขอคุณภาพดีหน่อย เพราะขึ้นชื่อว่าพรีเมี่ยมทำของใช้ไปคนก็ไม่ใช้อยู่ดี ยิ่งพวกพวงกุญแจหรือสแตนดี้แบบติดเรทนะ คือแค่หน้าปกเรทกูยังต้องปิดปกถ้าอ่านในที่สาธารณะเลย เอากู้ดส์ติดเรทมากูจะกล้าใช้กล้าโชว์มั้ยล่ะ แต่ให้กูแนะไปก็มีแต่ของยอดนิยมเช่น จิบิ แก๊ก โปสการ์ดที่ไม่ใช่ลายปก
พวกแสตนดี้กระดาษกุก็ไม่ค่อยชอบ โปสเตอร์ใบใหญ่ๆนี่ถ้าเลือกได้กูขอโปสการ์ดพิมพ์ดีๆคมวิ้งใบหนาหน่อยยังดีกว่า
หรือไปเน้นอะไรที่สัมพันธ์กับเนื้อเรื่องโปสการ์ดกระดาษโมเมนต์ในใจพระนายอะไรงี้จะได้มั้ยวะ

KY เพื่อนโม่งเคยมีปัญหานี้มั้ยคะ คือเราหัดเขียน NC แล้วอยากเปิดรับบริจาคด้วย แต่เราไม่อยากให้ข้อมูลบัตรประชาชน ชื่อนามสกุลจริง กับทางเว็บ ถ้าให้โอนเข้าบัญชีหรือทรู เวลาโอนเงินก็ขึ้นชื่อนามสกุลของเราอีก ไม่รู้จะเปิดรับบริจาคทางไหนดี ฮือออ

บทสวดขอขมาและอธิษฐานจิต

สัพพัง อะปะระธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทะวารัตตะเย นะ กะตัง
สัพพัง อะปะระธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต

หากเข้าเจ้า จงใจหรือประมาทพลาดพลั้งล่วงเกิน บิดา-มารดา ครูบาอาจารย์ พระพุทธ พระธรรม พระอรหันต์ทุกพระองค์ พระอริยสงฆ์เจ้า ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย รวมถึงผู้มีพระคุณ และท่านเจ้ากรรมนายเวร จะด้วย กาย วาจา ใจ ก็ดีขอได้โปรดอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้าด้วย

หากข้าพเจ้ามีเจ้าของในตัวติดตามมาขออนุณาตมีคู่ มีครอบครัวได้เหมือนคนปกติทั่วไป ขอถอนคำอธิษฐาน คำสาบาน ที่จะติดตามคู่ในอดีต ขอให้ต่างฝ่ายต่างเป็นอิสระต่อกัน ข้าพเจ้าจะประพฤติตนในทางที่ถูก ที่ชอบ ที่ควร ขอบุญบารมีในอดีตกาลที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน จงส่งผลให้ข้าพเจ้าและครอบครัวตลอดจนบริวารที่เกี่ยวข้องจงเจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ สติปัญญา ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ อุปสรรคใดๆ โรคภัยใดๆ ขอให้มลายสิ้น ขอให้ข้าพเจ้ามีความสว่างทั้งทางโลก และทางธรรม ตั้งแต่บัดนี้ตราบเข้าสู่พระนิพพาน เทอญ

หากมีผู้ใดเคยสร้างเวรสร้างกรรมกับข้าพเจ้า ไม่ว่าจะชาติใดภพใดก็ตาม ข้าพเจ้ายินดีอโหสิกรรมให้ ขอถอนความพยาบาท ความอาฆาต และคำสาปแช่งในทุกชาติ ทุกภพ ขอให้ข้าพเจ้าพ้นจากคำสาปแช่งของปวงชน ของเจ้ากรรมนายเวร ขอให้พ้นนรกภูมิ พบแสงสว่างทั้งทางโลก และทางธรรม เทอญ

บทสวดมนต์ พระคาถา และคาถาอาคม
กด Like , Share ให้ด้วยนะครับ
บทสวดมงคลจักรวาลใหญ่

สิริธิติมะติเตโชชะยะสิทธิ มะหิทธิมะหาคุณาปะริมิตะปุญญาธิการัสสะ
สัพพันตะรายะนิวาระณะสะมัตถัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ทวัตติงสะมะหาปุริสะลักขะณานุภาเวนะ

อะสีตยานุพยัญชะนานุภาเวนะ อัฏฐุตตะระสะตะมังคะลานุภาเวนะ ฉัพพัณณะรังสิยานุภาเวนะ

เกตุมาลานุภาเวนะ ทะสะปาระมิตานุภาเวนะ ทะสะอุปะปาระมิตานุภาเวนะ ทะสะปะระมัตถะปาระมิตา

นุภาะเวนะ สีละสะมาธิปัญญานุภาเวนะ พุทธานุภาเวนะ ธัมมานุภาเวนะ สังฆานุภาเวนะ เตชานุภาเวนะ

อิทธานุภาเวนะ พะลานุภาเวนะ เญยยะธัมมานุภาเวนะ จะตุราสีติสะหัสสะ ธัมมักขันธานุภาเวนะ

นะวะโลกุตตะระธัมมานุภาเวนะ อัฏฐังคิกะมัคคานุภาเวนะ อัฏฐะสะมาปัตติยานุภาเวนะ

ฉะฬะภิญญานุภาเวนะ จะตุสัจจะญาณานุภาเวนะ ทะสะพะละญาณานุภาเวนะ

สัพพัญญุตะญาณานุภาเวนะ เมตตากะรุณามุทิตาอุเปกขานุภาเวนะ สัพพะปะริตตานุภาเวนะ

ระตะนัตตะยะสะระณานุภาเวนะ ตุยหัง สัพพะโรคะโสกุปัททะวะทุกขะโทมะนัสสุปายาสา วินัสสันตุ

สัพพะอันตะรายาปิ วินัสสันตุ สัพพะสังกัปปา ตุยหัง สะมิชฌันตุ

ทีฆายุตา ตุยหัง โหตุ สะตะวัสสะชีเวนะ สะมังคิโก โหตุ สัพพะทา ฯ

อากาสะปัพพะตะวะนะภูมิคังคามะหาสะมุททา อารักขะกา เทวะตา สะทา ตุมเห อะนุรักขันตุ ฯ

ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา
สัพพะพุทธานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต
ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา
สัพพะธัมมานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต
ภะวะตุ สัพพะ มังคะลัง รักขันตุ สัพพะ เทวะตา
สัพพะสังฆานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต ฯ
นักขัตตะยักขะภูตานัง ปาปัคคะหะนิวาระณา
ปะริตตัสสานุภาเวนะ หันตวา เตสัง อุปัททะเว
นักขัตตะยักขะภูตานัง ปาปัคคะหะนิวาระณา
ปะริตตัสสานุภาเวนะ หันตวา เตสัง อุปัททะเว
นักขัตตะยักขะภูตานัง ปาปัคคะหะนิวาระณา
ปะริตตัสสานุภาเวนะ หันตวา เตสัง อุปัททะเว ฯ

บทสวดขอขมาและอธิษฐานจิต

สัพพัง อะปะระธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทะวารัตตะเย นะ กะตัง
สัพพัง อะปะระธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต

หากเข้าเจ้า จงใจหรือประมาทพลาดพลั้งล่วงเกิน บิดา-มารดา ครูบาอาจารย์ พระพุทธ พระธรรม พระอรหันต์ทุกพระองค์ พระอริยสงฆ์เจ้า ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย รวมถึงผู้มีพระคุณ และท่านเจ้ากรรมนายเวร จะด้วย กาย วาจา ใจ ก็ดีขอได้โปรดอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้าด้วย

หากข้าพเจ้ามีเจ้าของในตัวติดตามมาขออนุณาตมีคู่ มีครอบครัวได้เหมือนคนปกติทั่วไป ขอถอนคำอธิษฐาน คำสาบาน ที่จะติดตามคู่ในอดีต ขอให้ต่างฝ่ายต่างเป็นอิสระต่อกัน ข้าพเจ้าจะประพฤติตนในทางที่ถูก ที่ชอบ ที่ควร ขอบุญบารมีในอดีตกาลที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน จงส่งผลให้ข้าพเจ้าและครอบครัวตลอดจนบริวารที่เกี่ยวข้องจงเจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ สติปัญญา ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ อุปสรรคใดๆ โรคภัยใดๆ ขอให้มลายสิ้น ขอให้ข้าพเจ้ามีความสว่างทั้งทางโลก และทางธรรม ตั้งแต่บัดนี้ตราบเข้าสู่พระนิพพาน เทอญ

หากมีผู้ใดเคยสร้างเวรสร้างกรรมกับข้าพเจ้า ไม่ว่าจะชาติใดภพใดก็ตาม ข้าพเจ้ายินดีอโหสิกรรมให้ ขอถอนความพยาบาท ความอาฆาต และคำสาปแช่งในทุกชาติ ทุกภพ ขอให้ข้าพเจ้าพ้นจากคำสาปแช่งของปวงชน ของเจ้ากรรมนายเวร ขอให้พ้นนรกภูมิ พบแสงสว่างทั้งทางโลก และทางธรรม เทอญ

บทสวดมนต์ พระคาถา และคาถาอาคม
กด Like , Share ให้ด้วยนะครับ
บทสวดมงคลจักรวาลใหญ่

สิริธิติมะติเตโชชะยะสิทธิ มะหิทธิมะหาคุณาปะริมิตะปุญญาธิการัสสะ
สัพพันตะรายะนิวาระณะสะมัตถัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ทวัตติงสะมะหาปุริสะลักขะณานุภาเวนะ

อะสีตยานุพยัญชะนานุภาเวนะ อัฏฐุตตะระสะตะมังคะลานุภาเวนะ ฉัพพัณณะรังสิยานุภาเวนะ

เกตุมาลานุภาเวนะ ทะสะปาระมิตานุภาเวนะ ทะสะอุปะปาระมิตานุภาเวนะ ทะสะปะระมัตถะปาระมิตา

นุภาะเวนะ สีละสะมาธิปัญญานุภาเวนะ พุทธานุภาเวนะ ธัมมานุภาเวนะ สังฆานุภาเวนะ เตชานุภาเวนะ

อิทธานุภาเวนะ พะลานุภาเวนะ เญยยะธัมมานุภาเวนะ จะตุราสีติสะหัสสะ ธัมมักขันธานุภาเวนะ

นะวะโลกุตตะระธัมมานุภาเวนะ อัฏฐังคิกะมัคคานุภาเวนะ อัฏฐะสะมาปัตติยานุภาเวนะ

ฉะฬะภิญญานุภาเวนะ จะตุสัจจะญาณานุภาเวนะ ทะสะพะละญาณานุภาเวนะ

สัพพัญญุตะญาณานุภาเวนะ เมตตากะรุณามุทิตาอุเปกขานุภาเวนะ สัพพะปะริตตานุภาเวนะ

ระตะนัตตะยะสะระณานุภาเวนะ ตุยหัง สัพพะโรคะโสกุปัททะวะทุกขะโทมะนัสสุปายาสา วินัสสันตุ

สัพพะอันตะรายาปิ วินัสสันตุ สัพพะสังกัปปา ตุยหัง สะมิชฌันตุ

ทีฆายุตา ตุยหัง โหตุ สะตะวัสสะชีเวนะ สะมังคิโก โหตุ สัพพะทา ฯ

อากาสะปัพพะตะวะนะภูมิคังคามะหาสะมุททา อารักขะกา เทวะตา สะทา ตุมเห อะนุรักขันตุ ฯ

ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา
สัพพะพุทธานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต
ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา
สัพพะธัมมานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต
ภะวะตุ สัพพะ มังคะลัง รักขันตุ สัพพะ เทวะตา
สัพพะสังฆานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต ฯ
นักขัตตะยักขะภูตานัง ปาปัคคะหะนิวาระณา
ปะริตตัสสานุภาเวนะ หันตวา เตสัง อุปัททะเว
นักขัตตะยักขะภูตานัง ปาปัคคะหะนิวาระณา
ปะริตตัสสานุภาเวนะ หันตวา เตสัง อุปัททะเว
นักขัตตะยักขะภูตานัง ปาปัคคะหะนิวาระณา
ปะริตตัสสานุภาเวนะ หันตวา เตสัง อุปัททะเว ฯ

บทสวดขอขมาและอธิษฐานจิต

สัพพัง อะปะระธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทะวารัตตะเย นะ กะตัง
สัพพัง อะปะระธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต

หากเข้าเจ้า จงใจหรือประมาทพลาดพลั้งล่วงเกิน บิดา-มารดา ครูบาอาจารย์ พระพุทธ พระธรรม พระอรหันต์ทุกพระองค์ พระอริยสงฆ์เจ้า ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย รวมถึงผู้มีพระคุณ และท่านเจ้ากรรมนายเวร จะด้วย กาย วาจา ใจ ก็ดีขอได้โปรดอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้าด้วย

หากข้าพเจ้ามีเจ้าของในตัวติดตามมาขออนุณาตมีคู่ มีครอบครัวได้เหมือนคนปกติทั่วไป ขอถอนคำอธิษฐาน คำสาบาน ที่จะติดตามคู่ในอดีต ขอให้ต่างฝ่ายต่างเป็นอิสระต่อกัน ข้าพเจ้าจะประพฤติตนในทางที่ถูก ที่ชอบ ที่ควร ขอบุญบารมีในอดีตกาลที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน จงส่งผลให้ข้าพเจ้าและครอบครัวตลอดจนบริวารที่เกี่ยวข้องจงเจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ สติปัญญา ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ อุปสรรคใดๆ โรคภัยใดๆ ขอให้มลายสิ้น ขอให้ข้าพเจ้ามีความสว่างทั้งทางโลก และทางธรรม ตั้งแต่บัดนี้ตราบเข้าสู่พระนิพพาน เทอญ

หากมีผู้ใดเคยสร้างเวรสร้างกรรมกับข้าพเจ้า ไม่ว่าจะชาติใดภพใดก็ตาม ข้าพเจ้ายินดีอโหสิกรรมให้ ขอถอนความพยาบาท ความอาฆาต และคำสาปแช่งในทุกชาติ ทุกภพ ขอให้ข้าพเจ้าพ้นจากคำสาปแช่งของปวงชน ของเจ้ากรรมนายเวร ขอให้พ้นนรกภูมิ พบแสงสว่างทั้งทางโลก และทางธรรม เทอญ

บทสวดมนต์ พระคาถา และคาถาอาคม
กด Like , Share ให้ด้วยนะครับ
บทสวดมงคลจักรวาลใหญ่

สิริธิติมะติเตโชชะยะสิทธิ มะหิทธิมะหาคุณาปะริมิตะปุญญาธิการัสสะ
สัพพันตะรายะนิวาระณะสะมัตถัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ทวัตติงสะมะหาปุริสะลักขะณานุภาเวนะ

อะสีตยานุพยัญชะนานุภาเวนะ อัฏฐุตตะระสะตะมังคะลานุภาเวนะ ฉัพพัณณะรังสิยานุภาเวนะ

เกตุมาลานุภาเวนะ ทะสะปาระมิตานุภาเวนะ ทะสะอุปะปาระมิตานุภาเวนะ ทะสะปะระมัตถะปาระมิตา

นุภาะเวนะ สีละสะมาธิปัญญานุภาเวนะ พุทธานุภาเวนะ ธัมมานุภาเวนะ สังฆานุภาเวนะ เตชานุภาเวนะ

อิทธานุภาเวนะ พะลานุภาเวนะ เญยยะธัมมานุภาเวนะ จะตุราสีติสะหัสสะ ธัมมักขันธานุภาเวนะ

นะวะโลกุตตะระธัมมานุภาเวนะ อัฏฐังคิกะมัคคานุภาเวนะ อัฏฐะสะมาปัตติยานุภาเวนะ

ฉะฬะภิญญานุภาเวนะ จะตุสัจจะญาณานุภาเวนะ ทะสะพะละญาณานุภาเวนะ

สัพพัญญุตะญาณานุภาเวนะ เมตตากะรุณามุทิตาอุเปกขานุภาเวนะ สัพพะปะริตตานุภาเวนะ

ระตะนัตตะยะสะระณานุภาเวนะ ตุยหัง สัพพะโรคะโสกุปัททะวะทุกขะโทมะนัสสุปายาสา วินัสสันตุ

สัพพะอันตะรายาปิ วินัสสันตุ สัพพะสังกัปปา ตุยหัง สะมิชฌันตุ

ทีฆายุตา ตุยหัง โหตุ สะตะวัสสะชีเวนะ สะมังคิโก โหตุ สัพพะทา ฯ

อากาสะปัพพะตะวะนะภูมิคังคามะหาสะมุททา อารักขะกา เทวะตา สะทา ตุมเห อะนุรักขันตุ ฯ

ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา
สัพพะพุทธานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต
ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา
สัพพะธัมมานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต
ภะวะตุ สัพพะ มังคะลัง รักขันตุ สัพพะ เทวะตา
สัพพะสังฆานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต ฯ
นักขัตตะยักขะภูตานัง ปาปัคคะหะนิวาระณา
ปะริตตัสสานุภาเวนะ หันตวา เตสัง อุปัททะเว
นักขัตตะยักขะภูตานัง ปาปัคคะหะนิวาระณา
ปะริตตัสสานุภาเวนะ หันตวา เตสัง อุปัททะเว
นักขัตตะยักขะภูตานัง ปาปัคคะหะนิวาระณา
ปะริตตัสสานุภาเวนะ หันตวา เตสัง อุปัททะเว ฯ

บทสวดขอขมาและอธิษฐานจิต

สัพพัง อะปะระธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทะวารัตตะเย นะ กะตัง
สัพพัง อะปะระธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต

หากเข้าเจ้า จงใจหรือประมาทพลาดพลั้งล่วงเกิน บิดา-มารดา ครูบาอาจารย์ พระพุทธ พระธรรม พระอรหันต์ทุกพระองค์ พระอริยสงฆ์เจ้า ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย รวมถึงผู้มีพระคุณ และท่านเจ้ากรรมนายเวร จะด้วย กาย วาจา ใจ ก็ดีขอได้โปรดอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้าด้วย

หากข้าพเจ้ามีเจ้าของในตัวติดตามมาขออนุณาตมีคู่ มีครอบครัวได้เหมือนคนปกติทั่วไป ขอถอนคำอธิษฐาน คำสาบาน ที่จะติดตามคู่ในอดีต ขอให้ต่างฝ่ายต่างเป็นอิสระต่อกัน ข้าพเจ้าจะประพฤติตนในทางที่ถูก ที่ชอบ ที่ควร ขอบุญบารมีในอดีตกาลที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน จงส่งผลให้ข้าพเจ้าและครอบครัวตลอดจนบริวารที่เกี่ยวข้องจงเจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ สติปัญญา ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ อุปสรรคใดๆ โรคภัยใดๆ ขอให้มลายสิ้น ขอให้ข้าพเจ้ามีความสว่างทั้งทางโลก และทางธรรม ตั้งแต่บัดนี้ตราบเข้าสู่พระนิพพาน เทอญ

หากมีผู้ใดเคยสร้างเวรสร้างกรรมกับข้าพเจ้า ไม่ว่าจะชาติใดภพใดก็ตาม ข้าพเจ้ายินดีอโหสิกรรมให้ ขอถอนความพยาบาท ความอาฆาต และคำสาปแช่งในทุกชาติ ทุกภพ ขอให้ข้าพเจ้าพ้นจากคำสาปแช่งของปวงชน ของเจ้ากรรมนายเวร ขอให้พ้นนรกภูมิ พบแสงสว่างทั้งทางโลก และทางธรรม เทอญ

บทสวดมนต์ พระคาถา และคาถาอาคม
กด Like , Share ให้ด้วยนะครับ
บทสวดมงคลจักรวาลใหญ่

สิริธิติมะติเตโชชะยะสิทธิ มะหิทธิมะหาคุณาปะริมิตะปุญญาธิการัสสะ
สัพพันตะรายะนิวาระณะสะมัตถัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ทวัตติงสะมะหาปุริสะลักขะณานุภาเวนะ

อะสีตยานุพยัญชะนานุภาเวนะ อัฏฐุตตะระสะตะมังคะลานุภาเวนะ ฉัพพัณณะรังสิยานุภาเวนะ

เกตุมาลานุภาเวนะ ทะสะปาระมิตานุภาเวนะ ทะสะอุปะปาระมิตานุภาเวนะ ทะสะปะระมัตถะปาระมิตา

นุภาะเวนะ สีละสะมาธิปัญญานุภาเวนะ พุทธานุภาเวนะ ธัมมานุภาเวนะ สังฆานุภาเวนะ เตชานุภาเวนะ

อิทธานุภาเวนะ พะลานุภาเวนะ เญยยะธัมมานุภาเวนะ จะตุราสีติสะหัสสะ ธัมมักขันธานุภาเวนะ

นะวะโลกุตตะระธัมมานุภาเวนะ อัฏฐังคิกะมัคคานุภาเวนะ อัฏฐะสะมาปัตติยานุภาเวนะ

ฉะฬะภิญญานุภาเวนะ จะตุสัจจะญาณานุภาเวนะ ทะสะพะละญาณานุภาเวนะ

สัพพัญญุตะญาณานุภาเวนะ เมตตากะรุณามุทิตาอุเปกขานุภาเวนะ สัพพะปะริตตานุภาเวนะ

ระตะนัตตะยะสะระณานุภาเวนะ ตุยหัง สัพพะโรคะโสกุปัททะวะทุกขะโทมะนัสสุปายาสา วินัสสันตุ

สัพพะอันตะรายาปิ วินัสสันตุ สัพพะสังกัปปา ตุยหัง สะมิชฌันตุ

ทีฆายุตา ตุยหัง โหตุ สะตะวัสสะชีเวนะ สะมังคิโก โหตุ สัพพะทา ฯ

อากาสะปัพพะตะวะนะภูมิคังคามะหาสะมุททา อารักขะกา เทวะตา สะทา ตุมเห อะนุรักขันตุ ฯ

ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา
สัพพะพุทธานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต
ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา
สัพพะธัมมานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต
ภะวะตุ สัพพะ มังคะลัง รักขันตุ สัพพะ เทวะตา
สัพพะสังฆานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต ฯ
นักขัตตะยักขะภูตานัง ปาปัคคะหะนิวาระณา
ปะริตตัสสานุภาเวนะ หันตวา เตสัง อุปัททะเว
นักขัตตะยักขะภูตานัง ปาปัคคะหะนิวาระณา
ปะริตตัสสานุภาเวนะ หันตวา เตสัง อุปัททะเว
นักขัตตะยักขะภูตานัง ปาปัคคะหะนิวาระณา
ปะริตตัสสานุภาเวนะ หันตวา เตสัง อุปัททะเว ฯ

บทสวดขอขมาและอธิษฐานจิต

สัพพัง อะปะระธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทะวารัตตะเย นะ กะตัง
สัพพัง อะปะระธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต

หากเข้าเจ้า จงใจหรือประมาทพลาดพลั้งล่วงเกิน บิดา-มารดา ครูบาอาจารย์ พระพุทธ พระธรรม พระอรหันต์ทุกพระองค์ พระอริยสงฆ์เจ้า ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย รวมถึงผู้มีพระคุณ และท่านเจ้ากรรมนายเวร จะด้วย กาย วาจา ใจ ก็ดีขอได้โปรดอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้าด้วย

หากข้าพเจ้ามีเจ้าของในตัวติดตามมาขออนุณาตมีคู่ มีครอบครัวได้เหมือนคนปกติทั่วไป ขอถอนคำอธิษฐาน คำสาบาน ที่จะติดตามคู่ในอดีต ขอให้ต่างฝ่ายต่างเป็นอิสระต่อกัน ข้าพเจ้าจะประพฤติตนในทางที่ถูก ที่ชอบ ที่ควร ขอบุญบารมีในอดีตกาลที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน จงส่งผลให้ข้าพเจ้าและครอบครัวตลอดจนบริวารที่เกี่ยวข้องจงเจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ สติปัญญา ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ อุปสรรคใดๆ โรคภัยใดๆ ขอให้มลายสิ้น ขอให้ข้าพเจ้ามีความสว่างทั้งทางโลก และทางธรรม ตั้งแต่บัดนี้ตราบเข้าสู่พระนิพพาน เทอญ

หากมีผู้ใดเคยสร้างเวรสร้างกรรมกับข้าพเจ้า ไม่ว่าจะชาติใดภพใดก็ตาม ข้าพเจ้ายินดีอโหสิกรรมให้ ขอถอนความพยาบาท ความอาฆาต และคำสาปแช่งในทุกชาติ ทุกภพ ขอให้ข้าพเจ้าพ้นจากคำสาปแช่งของปวงชน ของเจ้ากรรมนายเวร ขอให้พ้นนรกภูมิ พบแสงสว่างทั้งทางโลก และทางธรรม เทอญ

บทสวดมนต์ พระคาถา และคาถาอาคม
กด Like , Share ให้ด้วยนะครับ
บทสวดมงคลจักรวาลใหญ่

สิริธิติมะติเตโชชะยะสิทธิ มะหิทธิมะหาคุณาปะริมิตะปุญญาธิการัสสะ
สัพพันตะรายะนิวาระณะสะมัตถัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ทวัตติงสะมะหาปุริสะลักขะณานุภาเวนะ

อะสีตยานุพยัญชะนานุภาเวนะ อัฏฐุตตะระสะตะมังคะลานุภาเวนะ ฉัพพัณณะรังสิยานุภาเวนะ

เกตุมาลานุภาเวนะ ทะสะปาระมิตานุภาเวนะ ทะสะอุปะปาระมิตานุภาเวนะ ทะสะปะระมัตถะปาระมิตา

นุภาะเวนะ สีละสะมาธิปัญญานุภาเวนะ พุทธานุภาเวนะ ธัมมานุภาเวนะ สังฆานุภาเวนะ เตชานุภาเวนะ

อิทธานุภาเวนะ พะลานุภาเวนะ เญยยะธัมมานุภาเวนะ จะตุราสีติสะหัสสะ ธัมมักขันธานุภาเวนะ

นะวะโลกุตตะระธัมมานุภาเวนะ อัฏฐังคิกะมัคคานุภาเวนะ อัฏฐะสะมาปัตติยานุภาเวนะ

ฉะฬะภิญญานุภาเวนะ จะตุสัจจะญาณานุภาเวนะ ทะสะพะละญาณานุภาเวนะ

สัพพัญญุตะญาณานุภาเวนะ เมตตากะรุณามุทิตาอุเปกขานุภาเวนะ สัพพะปะริตตานุภาเวนะ

ระตะนัตตะยะสะระณานุภาเวนะ ตุยหัง สัพพะโรคะโสกุปัททะวะทุกขะโทมะนัสสุปายาสา วินัสสันตุ

สัพพะอันตะรายาปิ วินัสสันตุ สัพพะสังกัปปา ตุยหัง สะมิชฌันตุ

ทีฆายุตา ตุยหัง โหตุ สะตะวัสสะชีเวนะ สะมังคิโก โหตุ สัพพะทา ฯ

อากาสะปัพพะตะวะนะภูมิคังคามะหาสะมุททา อารักขะกา เทวะตา สะทา ตุมเห อะนุรักขันตุ ฯ

ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา
สัพพะพุทธานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต
ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา
สัพพะธัมมานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต
ภะวะตุ สัพพะ มังคะลัง รักขันตุ สัพพะ เทวะตา
สัพพะสังฆานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต ฯ
นักขัตตะยักขะภูตานัง ปาปัคคะหะนิวาระณา
ปะริตตัสสานุภาเวนะ หันตวา เตสัง อุปัททะเว
นักขัตตะยักขะภูตานัง ปาปัคคะหะนิวาระณา
ปะริตตัสสานุภาเวนะ หันตวา เตสัง อุปัททะเว
นักขัตตะยักขะภูตานัง ปาปัคคะหะนิวาระณา
ปะริตตัสสานุภาเวนะ หันตวา เตสัง อุปัททะเว ฯ

บทสวดขอขมาและอธิษฐานจิต

สัพพัง อะปะระธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทะวารัตตะเย นะ กะตัง
สัพพัง อะปะระธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต

หากเข้าเจ้า จงใจหรือประมาทพลาดพลั้งล่วงเกิน บิดา-มารดา ครูบาอาจารย์ พระพุทธ พระธรรม พระอรหันต์ทุกพระองค์ พระอริยสงฆ์เจ้า ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย รวมถึงผู้มีพระคุณ และท่านเจ้ากรรมนายเวร จะด้วย กาย วาจา ใจ ก็ดีขอได้โปรดอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้าด้วย

หากข้าพเจ้ามีเจ้าของในตัวติดตามมาขออนุณาตมีคู่ มีครอบครัวได้เหมือนคนปกติทั่วไป ขอถอนคำอธิษฐาน คำสาบาน ที่จะติดตามคู่ในอดีต ขอให้ต่างฝ่ายต่างเป็นอิสระต่อกัน ข้าพเจ้าจะประพฤติตนในทางที่ถูก ที่ชอบ ที่ควร ขอบุญบารมีในอดีตกาลที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน จงส่งผลให้ข้าพเจ้าและครอบครัวตลอดจนบริวารที่เกี่ยวข้องจงเจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ สติปัญญา ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ อุปสรรคใดๆ โรคภัยใดๆ ขอให้มลายสิ้น ขอให้ข้าพเจ้ามีความสว่างทั้งทางโลก และทางธรรม ตั้งแต่บัดนี้ตราบเข้าสู่พระนิพพาน เทอญ

หากมีผู้ใดเคยสร้างเวรสร้างกรรมกับข้าพเจ้า ไม่ว่าจะชาติใดภพใดก็ตาม ข้าพเจ้ายินดีอโหสิกรรมให้ ขอถอนความพยาบาท ความอาฆาต และคำสาปแช่งในทุกชาติ ทุกภพ ขอให้ข้าพเจ้าพ้นจากคำสาปแช่งของปวงชน ของเจ้ากรรมนายเวร ขอให้พ้นนรกภูมิ พบแสงสว่างทั้งทางโลก และทางธรรม เทอญ

บทสวดมนต์ พระคาถา และคาถาอาคม
กด Like , Share ให้ด้วยนะครับ
บทสวดมงคลจักรวาลใหญ่

สิริธิติมะติเตโชชะยะสิทธิ มะหิทธิมะหาคุณาปะริมิตะปุญญาธิการัสสะ
สัพพันตะรายะนิวาระณะสะมัตถัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ทวัตติงสะมะหาปุริสะลักขะณานุภาเวนะ

อะสีตยานุพยัญชะนานุภาเวนะ อัฏฐุตตะระสะตะมังคะลานุภาเวนะ ฉัพพัณณะรังสิยานุภาเวนะ

เกตุมาลานุภาเวนะ ทะสะปาระมิตานุภาเวนะ ทะสะอุปะปาระมิตานุภาเวนะ ทะสะปะระมัตถะปาระมิตา

นุภาะเวนะ สีละสะมาธิปัญญานุภาเวนะ พุทธานุภาเวนะ ธัมมานุภาเวนะ สังฆานุภาเวนะ เตชานุภาเวนะ

อิทธานุภาเวนะ พะลานุภาเวนะ เญยยะธัมมานุภาเวนะ จะตุราสีติสะหัสสะ ธัมมักขันธานุภาเวนะ

นะวะโลกุตตะระธัมมานุภาเวนะ อัฏฐังคิกะมัคคานุภาเวนะ อัฏฐะสะมาปัตติยานุภาเวนะ

ฉะฬะภิญญานุภาเวนะ จะตุสัจจะญาณานุภาเวนะ ทะสะพะละญาณานุภาเวนะ

สัพพัญญุตะญาณานุภาเวนะ เมตตากะรุณามุทิตาอุเปกขานุภาเวนะ สัพพะปะริตตานุภาเวนะ

ระตะนัตตะยะสะระณานุภาเวนะ ตุยหัง สัพพะโรคะโสกุปัททะวะทุกขะโทมะนัสสุปายาสา วินัสสันตุ

สัพพะอันตะรายาปิ วินัสสันตุ สัพพะสังกัปปา ตุยหัง สะมิชฌันตุ

ทีฆายุตา ตุยหัง โหตุ สะตะวัสสะชีเวนะ สะมังคิโก โหตุ สัพพะทา ฯ

อากาสะปัพพะตะวะนะภูมิคังคามะหาสะมุททา อารักขะกา เทวะตา สะทา ตุมเห อะนุรักขันตุ ฯ

ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา
สัพพะพุทธานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต
ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา
สัพพะธัมมานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต
ภะวะตุ สัพพะ มังคะลัง รักขันตุ สัพพะ เทวะตา
สัพพะสังฆานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต ฯ
นักขัตตะยักขะภูตานัง ปาปัคคะหะนิวาระณา
ปะริตตัสสานุภาเวนะ หันตวา เตสัง อุปัททะเว
นักขัตตะยักขะภูตานัง ปาปัคคะหะนิวาระณา
ปะริตตัสสานุภาเวนะ หันตวา เตสัง อุปัททะเว
นักขัตตะยักขะภูตานัง ปาปัคคะหะนิวาระณา
ปะริตตัสสานุภาเวนะ หันตวา เตสัง อุปัททะเว ฯ

บทสวดขอขมาและอธิษฐานจิต

สัพพัง อะปะระธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทะวารัตตะเย นะ กะตัง
สัพพัง อะปะระธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต

หากเข้าเจ้า จงใจหรือประมาทพลาดพลั้งล่วงเกิน บิดา-มารดา ครูบาอาจารย์ พระพุทธ พระธรรม พระอรหันต์ทุกพระองค์ พระอริยสงฆ์เจ้า ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย รวมถึงผู้มีพระคุณ และท่านเจ้ากรรมนายเวร จะด้วย กาย วาจา ใจ ก็ดีขอได้โปรดอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้าด้วย

หากข้าพเจ้ามีเจ้าของในตัวติดตามมาขออนุณาตมีคู่ มีครอบครัวได้เหมือนคนปกติทั่วไป ขอถอนคำอธิษฐาน คำสาบาน ที่จะติดตามคู่ในอดีต ขอให้ต่างฝ่ายต่างเป็นอิสระต่อกัน ข้าพเจ้าจะประพฤติตนในทางที่ถูก ที่ชอบ ที่ควร ขอบุญบารมีในอดีตกาลที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน จงส่งผลให้ข้าพเจ้าและครอบครัวตลอดจนบริวารที่เกี่ยวข้องจงเจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ สติปัญญา ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ อุปสรรคใดๆ โรคภัยใดๆ ขอให้มลายสิ้น ขอให้ข้าพเจ้ามีความสว่างทั้งทางโลก และทางธรรม ตั้งแต่บัดนี้ตราบเข้าสู่พระนิพพาน เทอญ

หากมีผู้ใดเคยสร้างเวรสร้างกรรมกับข้าพเจ้า ไม่ว่าจะชาติใดภพใดก็ตาม ข้าพเจ้ายินดีอโหสิกรรมให้ ขอถอนความพยาบาท ความอาฆาต และคำสาปแช่งในทุกชาติ ทุกภพ ขอให้ข้าพเจ้าพ้นจากคำสาปแช่งของปวงชน ของเจ้ากรรมนายเวร ขอให้พ้นนรกภูมิ พบแสงสว่างทั้งทางโลก และทางธรรม เทอญ

บทสวดมนต์ พระคาถา และคาถาอาคม
กด Like , Share ให้ด้วยนะครับ
บทสวดมงคลจักรวาลใหญ่

สิริธิติมะติเตโชชะยะสิทธิ มะหิทธิมะหาคุณาปะริมิตะปุญญาธิการัสสะ
สัพพันตะรายะนิวาระณะสะมัตถัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ทวัตติงสะมะหาปุริสะลักขะณานุภาเวนะ

อะสีตยานุพยัญชะนานุภาเวนะ อัฏฐุตตะระสะตะมังคะลานุภาเวนะ ฉัพพัณณะรังสิยานุภาเวนะ

เกตุมาลานุภาเวนะ ทะสะปาระมิตานุภาเวนะ ทะสะอุปะปาระมิตานุภาเวนะ ทะสะปะระมัตถะปาระมิตา

นุภาะเวนะ สีละสะมาธิปัญญานุภาเวนะ พุทธานุภาเวนะ ธัมมานุภาเวนะ สังฆานุภาเวนะ เตชานุภาเวนะ

อิทธานุภาเวนะ พะลานุภาเวนะ เญยยะธัมมานุภาเวนะ จะตุราสีติสะหัสสะ ธัมมักขันธานุภาเวนะ

นะวะโลกุตตะระธัมมานุภาเวนะ อัฏฐังคิกะมัคคานุภาเวนะ อัฏฐะสะมาปัตติยานุภาเวนะ

ฉะฬะภิญญานุภาเวนะ จะตุสัจจะญาณานุภาเวนะ ทะสะพะละญาณานุภาเวนะ

สัพพัญญุตะญาณานุภาเวนะ เมตตากะรุณามุทิตาอุเปกขานุภาเวนะ สัพพะปะริตตานุภาเวนะ

ระตะนัตตะยะสะระณานุภาเวนะ ตุยหัง สัพพะโรคะโสกุปัททะวะทุกขะโทมะนัสสุปายาสา วินัสสันตุ

สัพพะอันตะรายาปิ วินัสสันตุ สัพพะสังกัปปา ตุยหัง สะมิชฌันตุ

ทีฆายุตา ตุยหัง โหตุ สะตะวัสสะชีเวนะ สะมังคิโก โหตุ สัพพะทา ฯ

อากาสะปัพพะตะวะนะภูมิคังคามะหาสะมุททา อารักขะกา เทวะตา สะทา ตุมเห อะนุรักขันตุ ฯ

ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา
สัพพะพุทธานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต
ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา
สัพพะธัมมานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต
ภะวะตุ สัพพะ มังคะลัง รักขันตุ สัพพะ เทวะตา
สัพพะสังฆานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต ฯ
นักขัตตะยักขะภูตานัง ปาปัคคะหะนิวาระณา
ปะริตตัสสานุภาเวนะ หันตวา เตสัง อุปัททะเว
นักขัตตะยักขะภูตานัง ปาปัคคะหะนิวาระณา
ปะริตตัสสานุภาเวนะ หันตวา เตสัง อุปัททะเว
นักขัตตะยักขะภูตานัง ปาปัคคะหะนิวาระณา
ปะริตตัสสานุภาเวนะ หันตวา เตสัง อุปัททะเว ฯ

บทสวดกรวดน้ำ (อิมินา)

(บทนำ) หันทะ มะยัง อุททิสะนาธิฏฐานะ คาถาโย ภะณามะ เส ฯ

อิมินา ปุญญะกัมเมนะ อุปัชฌายา คุณุตตะรา
อาจะริยูปะการา จะ มาตาปิตา จะ ญาตะกา
สุริโย จันทิมา ราชา คุณะวันตา นะราปิ จะ
พ์รัห์มะมารา จะ อินทา จะตุ- โลกะปาลา จะ เทวะตา
ยะโม มิตตา มะนุสสา จะ มัชฌัตตา เวริกาปิ จะ
สัพเพ สัตตา สุขี โหนตุ ปุญญานิ ปะกะตานิ เม
สุขัญจะ ติวิธัง เทนตุ ขิปปัง ปาเปถะ โว มะตัง

อิมินา ปุญญะกัมเมนะ อิมินา อุททิเสนะ จะ
ขิปปาหัง สุละเภ เจวะ ตัณหุปาทานะเฉทะนัง
เย สันตาเน หินา ธัมมา ยาวะ นิพพานะโต มะมัง
นัสสันตุ สัพพะทาเยวะ ยัตถะ ชาโต ภะเว ภะเว
อุชุจิตตัง สะติปัญญา สัลเลโข วิริยัมหินา
มารา ละภันตุ โนกาสัง กาตุญจะ วิริเยสุ เม
พุทธาทิปะวะโร นาโถ ธัมโม นาโถ วะรุตตะโม
นาโถ ปัจเจกะพุทโธ จะ สังโฆ นาโถตตะโร มะมัง
เตโสตตะมานุภาเวนะ มาโรกาสัง ละภันตุ มา ฯ

ความหมายบทกรวดน้ำ (อิมินา)

ในวรรคที่1 เป็นการสวดไปให้แก่บุพการีชน คนมีอุปการะทั้งหลาย เช่น อุปัชฌาย์ อาจารย์ พ่อแม่ เป็นต้น รวมถึงพระอาทิตย์ พระจันทร์ พระราชา พระพรหม พระอินทร์ ท้าวจตุโลกบาล เทวดาทั้งหลาย พระยม ญาติสนิท มิตรสหาย และสรรพสัตว์ทั้งหลาย เป็นต้น ให้ได้รับส่วนบุญกุศลโดยทั่วกัน ดังความที่ท่านได้ประพันธ์เอาไว้ว่า

ด้วยบุญนี้ อุทิศนี้ อุปัชฌาย์ ผู้เลิศคุณ
แลอาจารย์ ผู้เกื้อหนุน ทั้งพ่อแม่ แลปวงญาติ
สูรย์จันทร์ แลราชา ผู้ทรงคุณ หรือสูงชาติ
พรหม มาร และอินทราช ทั้งทวยเทพ และโลกบาล
ยมราช มนุษย์มิตร ผู้เป็นกลาง ผู้จองผลาญ
ขอให้ เป็นสุขศานติ์ ทุกทั่วหน้า อย่าทุกข์ทน
บุญผอง ที่ข้าทำ จงช่วยอำ นวยศุภผล
ให้สุข สามอย่างล้น ให้ลุถึง นิพพานพลันฯ

ในวรรคที่ 2 เป็นการสวดไปให้แก่ตนเอง ในฐานะที่เป็นผู้ประกอบกุศล ให้บรรลุทันทีซึ่งการตัดตัณหาอุปทาน ธรรมอันชั่วในสันดาน ขอจงพินาศไปหมดตราบเท่าถึงนิพพานสิ้นกาลทุกเมื่อ แม้หากยังไม่บรรลุคุณวิเศษใดๆ ก็ขอให้เป็นผู้มีจิตซื่อตรงดำรงสติปัญญาไว ชาญฉลาด ให้มีความเพียรแก่กล้า สามารถขัดเกลากิเลสให้สูญหายไปได้ ดังความที่ท่านประพันธ์ต่อจากวรรคที่ 1 ว่า

ด้วยบุญนี้ ที่เราทำ แลอุทิศ ให้ปวงสัตว์
เราพลันได้ ซึ่งการตัด ตัวตัณหา อุปาทาน
สิ่งชั่ว ในดวงใจ กว่าเราจะ ถึงนิพพาน
มลายสิ้น จากสันดาน ทุกๆภพ ที่เราเกิด
มีจิตตรง และสติ ทั้งปัญญา อันประเสริฐ
พร้อมทั้ง ความเพียรเลิศ เป็นเครื่องขูด กิเลสหาย
โอกาส อย่าพึงมี แก่หมู่มาร สิ้นทั้งหลาย
เป็นช่อง ประทุษร้าย ทำลายล้าง ความเพียรจม
พระพุทธผู้ บวรนาถ พระธรรมที่ พึ่งอุดม
พระปัจเจกกะพุทธสม ทบพระสงฆ์ ที่พึ่งผยอง
ด้วยอานุภาพนั้น ขอหมู่มาร อย่างได้ช่อง
ด้วยเดชบุญ ทั้งสิบป้อง อย่าเปิดโอกาสแก่มารเทอญฯ

ก่อนอื่นให้จุดธูป 1 ดอก แล้วอธิษฐานดังนี้ ข้าพเจ้า (ชื่อ...) ขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลที่ทำวันนี้ แก่ท่านทั้งหลายจงมารับเอาเถิด จากนั้นก็เอาธูปปักลงไปที่ดิน แล้วรินน้ำลงไปที่โคนธูป พร้อมท่องคาถากรวดน้ำตามไปด้วย ท่องไปจนกว่าจะจบในระหว่างที่ท่องคาถากรวดน้ำ ๆ หมดก่อนไม่เป็นไร ให้ท่องคาถากรวดน้ำไปจนกว่าจะจบบท (ท่องนะโม 3 จบ แล้วท่องคาถากรวดน้ำดังนี้)

บทสวดกรวดน้ำ (อิมินา)

(บทนำ) หันทะ มะยัง อุททิสะนาธิฏฐานะ คาถาโย ภะณามะ เส ฯ

อิมินา ปุญญะกัมเมนะ อุปัชฌายา คุณุตตะรา
อาจะริยูปะการา จะ มาตาปิตา จะ ญาตะกา
สุริโย จันทิมา ราชา คุณะวันตา นะราปิ จะ
พ์รัห์มะมารา จะ อินทา จะตุ- โลกะปาลา จะ เทวะตา
ยะโม มิตตา มะนุสสา จะ มัชฌัตตา เวริกาปิ จะ
สัพเพ สัตตา สุขี โหนตุ ปุญญานิ ปะกะตานิ เม
สุขัญจะ ติวิธัง เทนตุ ขิปปัง ปาเปถะ โว มะตัง

อิมินา ปุญญะกัมเมนะ อิมินา อุททิเสนะ จะ
ขิปปาหัง สุละเภ เจวะ ตัณหุปาทานะเฉทะนัง
เย สันตาเน หินา ธัมมา ยาวะ นิพพานะโต มะมัง
นัสสันตุ สัพพะทาเยวะ ยัตถะ ชาโต ภะเว ภะเว
อุชุจิตตัง สะติปัญญา สัลเลโข วิริยัมหินา
มารา ละภันตุ โนกาสัง กาตุญจะ วิริเยสุ เม
พุทธาทิปะวะโร นาโถ ธัมโม นาโถ วะรุตตะโม
นาโถ ปัจเจกะพุทโธ จะ สังโฆ นาโถตตะโร มะมัง
เตโสตตะมานุภาเวนะ มาโรกาสัง ละภันตุ มา ฯ

ความหมายบทกรวดน้ำ (อิมินา)

ในวรรคที่1 เป็นการสวดไปให้แก่บุพการีชน คนมีอุปการะทั้งหลาย เช่น อุปัชฌาย์ อาจารย์ พ่อแม่ เป็นต้น รวมถึงพระอาทิตย์ พระจันทร์ พระราชา พระพรหม พระอินทร์ ท้าวจตุโลกบาล เทวดาทั้งหลาย พระยม ญาติสนิท มิตรสหาย และสรรพสัตว์ทั้งหลาย เป็นต้น ให้ได้รับส่วนบุญกุศลโดยทั่วกัน ดังความที่ท่านได้ประพันธ์เอาไว้ว่า

ด้วยบุญนี้ อุทิศนี้ อุปัชฌาย์ ผู้เลิศคุณ
แลอาจารย์ ผู้เกื้อหนุน ทั้งพ่อแม่ แลปวงญาติ
สูรย์จันทร์ แลราชา ผู้ทรงคุณ หรือสูงชาติ
พรหม มาร และอินทราช ทั้งทวยเทพ และโลกบาล
ยมราช มนุษย์มิตร ผู้เป็นกลาง ผู้จองผลาญ
ขอให้ เป็นสุขศานติ์ ทุกทั่วหน้า อย่าทุกข์ทน
บุญผอง ที่ข้าทำ จงช่วยอำ นวยศุภผล
ให้สุข สามอย่างล้น ให้ลุถึง นิพพานพลันฯ

ในวรรคที่ 2 เป็นการสวดไปให้แก่ตนเอง ในฐานะที่เป็นผู้ประกอบกุศล ให้บรรลุทันทีซึ่งการตัดตัณหาอุปทาน ธรรมอันชั่วในสันดาน ขอจงพินาศไปหมดตราบเท่าถึงนิพพานสิ้นกาลทุกเมื่อ แม้หากยังไม่บรรลุคุณวิเศษใดๆ ก็ขอให้เป็นผู้มีจิตซื่อตรงดำรงสติปัญญาไว ชาญฉลาด ให้มีความเพียรแก่กล้า สามารถขัดเกลากิเลสให้สูญหายไปได้ ดังความที่ท่านประพันธ์ต่อจากวรรคที่ 1 ว่า

ด้วยบุญนี้ ที่เราทำ แลอุทิศ ให้ปวงสัตว์
เราพลันได้ ซึ่งการตัด ตัวตัณหา อุปาทาน
สิ่งชั่ว ในดวงใจ กว่าเราจะ ถึงนิพพาน
มลายสิ้น จากสันดาน ทุกๆภพ ที่เราเกิด
มีจิตตรง และสติ ทั้งปัญญา อันประเสริฐ
พร้อมทั้ง ความเพียรเลิศ เป็นเครื่องขูด กิเลสหาย
โอกาส อย่าพึงมี แก่หมู่มาร สิ้นทั้งหลาย
เป็นช่อง ประทุษร้าย ทำลายล้าง ความเพียรจม
พระพุทธผู้ บวรนาถ พระธรรมที่ พึ่งอุดม
พระปัจเจกกะพุทธสม ทบพระสงฆ์ ที่พึ่งผยอง
ด้วยอานุภาพนั้น ขอหมู่มาร อย่างได้ช่อง
ด้วยเดชบุญ ทั้งสิบป้อง อย่าเปิดโอกาสแก่มารเทอญฯ

ก่อนอื่นให้จุดธูป 1 ดอก แล้วอธิษฐานดังนี้ ข้าพเจ้า (ชื่อ...) ขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลที่ทำวันนี้ แก่ท่านทั้งหลายจงมารับเอาเถิด จากนั้นก็เอาธูปปักลงไปที่ดิน แล้วรินน้ำลงไปที่โคนธูป พร้อมท่องคาถากรวดน้ำตามไปด้วย ท่องไปจนกว่าจะจบในระหว่างที่ท่องคาถากรวดน้ำ ๆ หมดก่อนไม่เป็นไร ให้ท่องคาถากรวดน้ำไปจนกว่าจะจบบท (ท่องนะโม 3 จบ แล้วท่องคาถากรวดน้ำดังนี้)

บทสวดกรวดน้ำ (อิมินา)

(บทนำ) หันทะ มะยัง อุททิสะนาธิฏฐานะ คาถาโย ภะณามะ เส ฯ

อิมินา ปุญญะกัมเมนะ อุปัชฌายา คุณุตตะรา
อาจะริยูปะการา จะ มาตาปิตา จะ ญาตะกา
สุริโย จันทิมา ราชา คุณะวันตา นะราปิ จะ
พ์รัห์มะมารา จะ อินทา จะตุ- โลกะปาลา จะ เทวะตา
ยะโม มิตตา มะนุสสา จะ มัชฌัตตา เวริกาปิ จะ
สัพเพ สัตตา สุขี โหนตุ ปุญญานิ ปะกะตานิ เม
สุขัญจะ ติวิธัง เทนตุ ขิปปัง ปาเปถะ โว มะตัง

อิมินา ปุญญะกัมเมนะ อิมินา อุททิเสนะ จะ
ขิปปาหัง สุละเภ เจวะ ตัณหุปาทานะเฉทะนัง
เย สันตาเน หินา ธัมมา ยาวะ นิพพานะโต มะมัง
นัสสันตุ สัพพะทาเยวะ ยัตถะ ชาโต ภะเว ภะเว
อุชุจิตตัง สะติปัญญา สัลเลโข วิริยัมหินา
มารา ละภันตุ โนกาสัง กาตุญจะ วิริเยสุ เม
พุทธาทิปะวะโร นาโถ ธัมโม นาโถ วะรุตตะโม
นาโถ ปัจเจกะพุทโธ จะ สังโฆ นาโถตตะโร มะมัง
เตโสตตะมานุภาเวนะ มาโรกาสัง ละภันตุ มา ฯ

ความหมายบทกรวดน้ำ (อิมินา)

ในวรรคที่1 เป็นการสวดไปให้แก่บุพการีชน คนมีอุปการะทั้งหลาย เช่น อุปัชฌาย์ อาจารย์ พ่อแม่ เป็นต้น รวมถึงพระอาทิตย์ พระจันทร์ พระราชา พระพรหม พระอินทร์ ท้าวจตุโลกบาล เทวดาทั้งหลาย พระยม ญาติสนิท มิตรสหาย และสรรพสัตว์ทั้งหลาย เป็นต้น ให้ได้รับส่วนบุญกุศลโดยทั่วกัน ดังความที่ท่านได้ประพันธ์เอาไว้ว่า

ด้วยบุญนี้ อุทิศนี้ อุปัชฌาย์ ผู้เลิศคุณ
แลอาจารย์ ผู้เกื้อหนุน ทั้งพ่อแม่ แลปวงญาติ
สูรย์จันทร์ แลราชา ผู้ทรงคุณ หรือสูงชาติ
พรหม มาร และอินทราช ทั้งทวยเทพ และโลกบาล
ยมราช มนุษย์มิตร ผู้เป็นกลาง ผู้จองผลาญ
ขอให้ เป็นสุขศานติ์ ทุกทั่วหน้า อย่าทุกข์ทน
บุญผอง ที่ข้าทำ จงช่วยอำ นวยศุภผล
ให้สุข สามอย่างล้น ให้ลุถึง นิพพานพลันฯ

ในวรรคที่ 2 เป็นการสวดไปให้แก่ตนเอง ในฐานะที่เป็นผู้ประกอบกุศล ให้บรรลุทันทีซึ่งการตัดตัณหาอุปทาน ธรรมอันชั่วในสันดาน ขอจงพินาศไปหมดตราบเท่าถึงนิพพานสิ้นกาลทุกเมื่อ แม้หากยังไม่บรรลุคุณวิเศษใดๆ ก็ขอให้เป็นผู้มีจิตซื่อตรงดำรงสติปัญญาไว ชาญฉลาด ให้มีความเพียรแก่กล้า สามารถขัดเกลากิเลสให้สูญหายไปได้ ดังความที่ท่านประพันธ์ต่อจากวรรคที่ 1 ว่า

ด้วยบุญนี้ ที่เราทำ แลอุทิศ ให้ปวงสัตว์
เราพลันได้ ซึ่งการตัด ตัวตัณหา อุปาทาน
สิ่งชั่ว ในดวงใจ กว่าเราจะ ถึงนิพพาน
มลายสิ้น จากสันดาน ทุกๆภพ ที่เราเกิด
มีจิตตรง และสติ ทั้งปัญญา อันประเสริฐ
พร้อมทั้ง ความเพียรเลิศ เป็นเครื่องขูด กิเลสหาย
โอกาส อย่าพึงมี แก่หมู่มาร สิ้นทั้งหลาย
เป็นช่อง ประทุษร้าย ทำลายล้าง ความเพียรจม
พระพุทธผู้ บวรนาถ พระธรรมที่ พึ่งอุดม
พระปัจเจกกะพุทธสม ทบพระสงฆ์ ที่พึ่งผยอง
ด้วยอานุภาพนั้น ขอหมู่มาร อย่างได้ช่อง
ด้วยเดชบุญ ทั้งสิบป้อง อย่าเปิดโอกาสแก่มารเทอญฯ

ก่อนอื่นให้จุดธูป 1 ดอก แล้วอธิษฐานดังนี้ ข้าพเจ้า (ชื่อ...) ขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลที่ทำวันนี้ แก่ท่านทั้งหลายจงมารับเอาเถิด จากนั้นก็เอาธูปปักลงไปที่ดิน แล้วรินน้ำลงไปที่โคนธูป พร้อมท่องคาถากรวดน้ำตามไปด้วย ท่องไปจนกว่าจะจบในระหว่างที่ท่องคาถากรวดน้ำ ๆ หมดก่อนไม่เป็นไร ให้ท่องคาถากรวดน้ำไปจนกว่าจะจบบท (ท่องนะโม 3 จบ แล้วท่องคาถากรวดน้ำดังนี้)

บทสวดกรวดน้ำ (อิมินา)

(บทนำ) หันทะ มะยัง อุททิสะนาธิฏฐานะ คาถาโย ภะณามะ เส ฯ

อิมินา ปุญญะกัมเมนะ อุปัชฌายา คุณุตตะรา
อาจะริยูปะการา จะ มาตาปิตา จะ ญาตะกา
สุริโย จันทิมา ราชา คุณะวันตา นะราปิ จะ
พ์รัห์มะมารา จะ อินทา จะตุ- โลกะปาลา จะ เทวะตา
ยะโม มิตตา มะนุสสา จะ มัชฌัตตา เวริกาปิ จะ
สัพเพ สัตตา สุขี โหนตุ ปุญญานิ ปะกะตานิ เม
สุขัญจะ ติวิธัง เทนตุ ขิปปัง ปาเปถะ โว มะตัง

อิมินา ปุญญะกัมเมนะ อิมินา อุททิเสนะ จะ
ขิปปาหัง สุละเภ เจวะ ตัณหุปาทานะเฉทะนัง
เย สันตาเน หินา ธัมมา ยาวะ นิพพานะโต มะมัง
นัสสันตุ สัพพะทาเยวะ ยัตถะ ชาโต ภะเว ภะเว
อุชุจิตตัง สะติปัญญา สัลเลโข วิริยัมหินา
มารา ละภันตุ โนกาสัง กาตุญจะ วิริเยสุ เม
พุทธาทิปะวะโร นาโถ ธัมโม นาโถ วะรุตตะโม
นาโถ ปัจเจกะพุทโธ จะ สังโฆ นาโถตตะโร มะมัง
เตโสตตะมานุภาเวนะ มาโรกาสัง ละภันตุ มา ฯ

ความหมายบทกรวดน้ำ (อิมินา)

ในวรรคที่1 เป็นการสวดไปให้แก่บุพการีชน คนมีอุปการะทั้งหลาย เช่น อุปัชฌาย์ อาจารย์ พ่อแม่ เป็นต้น รวมถึงพระอาทิตย์ พระจันทร์ พระราชา พระพรหม พระอินทร์ ท้าวจตุโลกบาล เทวดาทั้งหลาย พระยม ญาติสนิท มิตรสหาย และสรรพสัตว์ทั้งหลาย เป็นต้น ให้ได้รับส่วนบุญกุศลโดยทั่วกัน ดังความที่ท่านได้ประพันธ์เอาไว้ว่า

ด้วยบุญนี้ อุทิศนี้ อุปัชฌาย์ ผู้เลิศคุณ
แลอาจารย์ ผู้เกื้อหนุน ทั้งพ่อแม่ แลปวงญาติ
สูรย์จันทร์ แลราชา ผู้ทรงคุณ หรือสูงชาติ
พรหม มาร และอินทราช ทั้งทวยเทพ และโลกบาล
ยมราช มนุษย์มิตร ผู้เป็นกลาง ผู้จองผลาญ
ขอให้ เป็นสุขศานติ์ ทุกทั่วหน้า อย่าทุกข์ทน
บุญผอง ที่ข้าทำ จงช่วยอำ นวยศุภผล
ให้สุข สามอย่างล้น ให้ลุถึง นิพพานพลันฯ

ในวรรคที่ 2 เป็นการสวดไปให้แก่ตนเอง ในฐานะที่เป็นผู้ประกอบกุศล ให้บรรลุทันทีซึ่งการตัดตัณหาอุปทาน ธรรมอันชั่วในสันดาน ขอจงพินาศไปหมดตราบเท่าถึงนิพพานสิ้นกาลทุกเมื่อ แม้หากยังไม่บรรลุคุณวิเศษใดๆ ก็ขอให้เป็นผู้มีจิตซื่อตรงดำรงสติปัญญาไว ชาญฉลาด ให้มีความเพียรแก่กล้า สามารถขัดเกลากิเลสให้สูญหายไปได้ ดังความที่ท่านประพันธ์ต่อจากวรรคที่ 1 ว่า

ด้วยบุญนี้ ที่เราทำ แลอุทิศ ให้ปวงสัตว์
เราพลันได้ ซึ่งการตัด ตัวตัณหา อุปาทาน
สิ่งชั่ว ในดวงใจ กว่าเราจะ ถึงนิพพาน
มลายสิ้น จากสันดาน ทุกๆภพ ที่เราเกิด
มีจิตตรง และสติ ทั้งปัญญา อันประเสริฐ
พร้อมทั้ง ความเพียรเลิศ เป็นเครื่องขูด กิเลสหาย
โอกาส อย่าพึงมี แก่หมู่มาร สิ้นทั้งหลาย
เป็นช่อง ประทุษร้าย ทำลายล้าง ความเพียรจม
พระพุทธผู้ บวรนาถ พระธรรมที่ พึ่งอุดม
พระปัจเจกกะพุทธสม ทบพระสงฆ์ ที่พึ่งผยอง
ด้วยอานุภาพนั้น ขอหมู่มาร อย่างได้ช่อง
ด้วยเดชบุญ ทั้งสิบป้อง อย่าเปิดโอกาสแก่มารเทอญฯ

ก่อนอื่นให้จุดธูป 1 ดอก แล้วอธิษฐานดังนี้ ข้าพเจ้า (ชื่อ...) ขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลที่ทำวันนี้ แก่ท่านทั้งหลายจงมารับเอาเถิด จากนั้นก็เอาธูปปักลงไปที่ดิน แล้วรินน้ำลงไปที่โคนธูป พร้อมท่องคาถากรวดน้ำตามไปด้วย ท่องไปจนกว่าจะจบในระหว่างที่ท่องคาถากรวดน้ำ ๆ หมดก่อนไม่เป็นไร ให้ท่องคาถากรวดน้ำไปจนกว่าจะจบบท (ท่องนะโม 3 จบ แล้วท่องคาถากรวดน้ำดังนี้)

บทสวดกรวดน้ำ (อิมินา)

(บทนำ) หันทะ มะยัง อุททิสะนาธิฏฐานะ คาถาโย ภะณามะ เส ฯ

อิมินา ปุญญะกัมเมนะ อุปัชฌายา คุณุตตะรา
อาจะริยูปะการา จะ มาตาปิตา จะ ญาตะกา
สุริโย จันทิมา ราชา คุณะวันตา นะราปิ จะ
พ์รัห์มะมารา จะ อินทา จะตุ- โลกะปาลา จะ เทวะตา
ยะโม มิตตา มะนุสสา จะ มัชฌัตตา เวริกาปิ จะ
สัพเพ สัตตา สุขี โหนตุ ปุญญานิ ปะกะตานิ เม
สุขัญจะ ติวิธัง เทนตุ ขิปปัง ปาเปถะ โว มะตัง

อิมินา ปุญญะกัมเมนะ อิมินา อุททิเสนะ จะ
ขิปปาหัง สุละเภ เจวะ ตัณหุปาทานะเฉทะนัง
เย สันตาเน หินา ธัมมา ยาวะ นิพพานะโต มะมัง
นัสสันตุ สัพพะทาเยวะ ยัตถะ ชาโต ภะเว ภะเว
อุชุจิตตัง สะติปัญญา สัลเลโข วิริยัมหินา
มารา ละภันตุ โนกาสัง กาตุญจะ วิริเยสุ เม
พุทธาทิปะวะโร นาโถ ธัมโม นาโถ วะรุตตะโม
นาโถ ปัจเจกะพุทโธ จะ สังโฆ นาโถตตะโร มะมัง
เตโสตตะมานุภาเวนะ มาโรกาสัง ละภันตุ มา ฯ

ความหมายบทกรวดน้ำ (อิมินา)

ในวรรคที่1 เป็นการสวดไปให้แก่บุพการีชน คนมีอุปการะทั้งหลาย เช่น อุปัชฌาย์ อาจารย์ พ่อแม่ เป็นต้น รวมถึงพระอาทิตย์ พระจันทร์ พระราชา พระพรหม พระอินทร์ ท้าวจตุโลกบาล เทวดาทั้งหลาย พระยม ญาติสนิท มิตรสหาย และสรรพสัตว์ทั้งหลาย เป็นต้น ให้ได้รับส่วนบุญกุศลโดยทั่วกัน ดังความที่ท่านได้ประพันธ์เอาไว้ว่า

ด้วยบุญนี้ อุทิศนี้ อุปัชฌาย์ ผู้เลิศคุณ
แลอาจารย์ ผู้เกื้อหนุน ทั้งพ่อแม่ แลปวงญาติ
สูรย์จันทร์ แลราชา ผู้ทรงคุณ หรือสูงชาติ
พรหม มาร และอินทราช ทั้งทวยเทพ และโลกบาล
ยมราช มนุษย์มิตร ผู้เป็นกลาง ผู้จองผลาญ
ขอให้ เป็นสุขศานติ์ ทุกทั่วหน้า อย่าทุกข์ทน
บุญผอง ที่ข้าทำ จงช่วยอำ นวยศุภผล
ให้สุข สามอย่างล้น ให้ลุถึง นิพพานพลันฯ

ในวรรคที่ 2 เป็นการสวดไปให้แก่ตนเอง ในฐานะที่เป็นผู้ประกอบกุศล ให้บรรลุทันทีซึ่งการตัดตัณหาอุปทาน ธรรมอันชั่วในสันดาน ขอจงพินาศไปหมดตราบเท่าถึงนิพพานสิ้นกาลทุกเมื่อ แม้หากยังไม่บรรลุคุณวิเศษใดๆ ก็ขอให้เป็นผู้มีจิตซื่อตรงดำรงสติปัญญาไว ชาญฉลาด ให้มีความเพียรแก่กล้า สามารถขัดเกลากิเลสให้สูญหายไปได้ ดังความที่ท่านประพันธ์ต่อจากวรรคที่ 1 ว่า

ด้วยบุญนี้ ที่เราทำ แลอุทิศ ให้ปวงสัตว์
เราพลันได้ ซึ่งการตัด ตัวตัณหา อุปาทาน
สิ่งชั่ว ในดวงใจ กว่าเราจะ ถึงนิพพาน
มลายสิ้น จากสันดาน ทุกๆภพ ที่เราเกิด
มีจิตตรง และสติ ทั้งปัญญา อันประเสริฐ
พร้อมทั้ง ความเพียรเลิศ เป็นเครื่องขูด กิเลสหาย
โอกาส อย่าพึงมี แก่หมู่มาร สิ้นทั้งหลาย
เป็นช่อง ประทุษร้าย ทำลายล้าง ความเพียรจม
พระพุทธผู้ บวรนาถ พระธรรมที่ พึ่งอุดม
พระปัจเจกกะพุทธสม ทบพระสงฆ์ ที่พึ่งผยอง
ด้วยอานุภาพนั้น ขอหมู่มาร อย่างได้ช่อง
ด้วยเดชบุญ ทั้งสิบป้อง อย่าเปิดโอกาสแก่มารเทอญฯ

ก่อนอื่นให้จุดธูป 1 ดอก แล้วอธิษฐานดังนี้ ข้าพเจ้า (ชื่อ...) ขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลที่ทำวันนี้ แก่ท่านทั้งหลายจงมารับเอาเถิด จากนั้นก็เอาธูปปักลงไปที่ดิน แล้วรินน้ำลงไปที่โคนธูป พร้อมท่องคาถากรวดน้ำตามไปด้วย ท่องไปจนกว่าจะจบในระหว่างที่ท่องคาถากรวดน้ำ ๆ หมดก่อนไม่เป็นไร ให้ท่องคาถากรวดน้ำไปจนกว่าจะจบบท (ท่องนะโม 3 จบ แล้วท่องคาถากรวดน้ำดังนี้)

บทสวดกรวดน้ำ (อิมินา)

(บทนำ) หันทะ มะยัง อุททิสะนาธิฏฐานะ คาถาโย ภะณามะ เส ฯ

อิมินา ปุญญะกัมเมนะ อุปัชฌายา คุณุตตะรา
อาจะริยูปะการา จะ มาตาปิตา จะ ญาตะกา
สุริโย จันทิมา ราชา คุณะวันตา นะราปิ จะ
พ์รัห์มะมารา จะ อินทา จะตุ- โลกะปาลา จะ เทวะตา
ยะโม มิตตา มะนุสสา จะ มัชฌัตตา เวริกาปิ จะ
สัพเพ สัตตา สุขี โหนตุ ปุญญานิ ปะกะตานิ เม
สุขัญจะ ติวิธัง เทนตุ ขิปปัง ปาเปถะ โว มะตัง

อิมินา ปุญญะกัมเมนะ อิมินา อุททิเสนะ จะ
ขิปปาหัง สุละเภ เจวะ ตัณหุปาทานะเฉทะนัง
เย สันตาเน หินา ธัมมา ยาวะ นิพพานะโต มะมัง
นัสสันตุ สัพพะทาเยวะ ยัตถะ ชาโต ภะเว ภะเว
อุชุจิตตัง สะติปัญญา สัลเลโข วิริยัมหินา
มารา ละภันตุ โนกาสัง กาตุญจะ วิริเยสุ เม
พุทธาทิปะวะโร นาโถ ธัมโม นาโถ วะรุตตะโม
นาโถ ปัจเจกะพุทโธ จะ สังโฆ นาโถตตะโร มะมัง
เตโสตตะมานุภาเวนะ มาโรกาสัง ละภันตุ มา ฯ

ความหมายบทกรวดน้ำ (อิมินา)

ในวรรคที่1 เป็นการสวดไปให้แก่บุพการีชน คนมีอุปการะทั้งหลาย เช่น อุปัชฌาย์ อาจารย์ พ่อแม่ เป็นต้น รวมถึงพระอาทิตย์ พระจันทร์ พระราชา พระพรหม พระอินทร์ ท้าวจตุโลกบาล เทวดาทั้งหลาย พระยม ญาติสนิท มิตรสหาย และสรรพสัตว์ทั้งหลาย เป็นต้น ให้ได้รับส่วนบุญกุศลโดยทั่วกัน ดังความที่ท่านได้ประพันธ์เอาไว้ว่า

ด้วยบุญนี้ อุทิศนี้ อุปัชฌาย์ ผู้เลิศคุณ
แลอาจารย์ ผู้เกื้อหนุน ทั้งพ่อแม่ แลปวงญาติ
สูรย์จันทร์ แลราชา ผู้ทรงคุณ หรือสูงชาติ
พรหม มาร และอินทราช ทั้งทวยเทพ และโลกบาล
ยมราช มนุษย์มิตร ผู้เป็นกลาง ผู้จองผลาญ
ขอให้ เป็นสุขศานติ์ ทุกทั่วหน้า อย่าทุกข์ทน
บุญผอง ที่ข้าทำ จงช่วยอำ นวยศุภผล
ให้สุข สามอย่างล้น ให้ลุถึง นิพพานพลันฯ

ในวรรคที่ 2 เป็นการสวดไปให้แก่ตนเอง ในฐานะที่เป็นผู้ประกอบกุศล ให้บรรลุทันทีซึ่งการตัดตัณหาอุปทาน ธรรมอันชั่วในสันดาน ขอจงพินาศไปหมดตราบเท่าถึงนิพพานสิ้นกาลทุกเมื่อ แม้หากยังไม่บรรลุคุณวิเศษใดๆ ก็ขอให้เป็นผู้มีจิตซื่อตรงดำรงสติปัญญาไว ชาญฉลาด ให้มีความเพียรแก่กล้า สามารถขัดเกลากิเลสให้สูญหายไปได้ ดังความที่ท่านประพันธ์ต่อจากวรรคที่ 1 ว่า

ด้วยบุญนี้ ที่เราทำ แลอุทิศ ให้ปวงสัตว์
เราพลันได้ ซึ่งการตัด ตัวตัณหา อุปาทาน
สิ่งชั่ว ในดวงใจ กว่าเราจะ ถึงนิพพาน
มลายสิ้น จากสันดาน ทุกๆภพ ที่เราเกิด
มีจิตตรง และสติ ทั้งปัญญา อันประเสริฐ
พร้อมทั้ง ความเพียรเลิศ เป็นเครื่องขูด กิเลสหาย
โอกาส อย่าพึงมี แก่หมู่มาร สิ้นทั้งหลาย
เป็นช่อง ประทุษร้าย ทำลายล้าง ความเพียรจม
พระพุทธผู้ บวรนาถ พระธรรมที่ พึ่งอุดม
พระปัจเจกกะพุทธสม ทบพระสงฆ์ ที่พึ่งผยอง
ด้วยอานุภาพนั้น ขอหมู่มาร อย่างได้ช่อง
ด้วยเดชบุญ ทั้งสิบป้อง อย่าเปิดโอกาสแก่มารเทอญฯ

ก่อนอื่นให้จุดธูป 1 ดอก แล้วอธิษฐานดังนี้ ข้าพเจ้า (ชื่อ...) ขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลที่ทำวันนี้ แก่ท่านทั้งหลายจงมารับเอาเถิด จากนั้นก็เอาธูปปักลงไปที่ดิน แล้วรินน้ำลงไปที่โคนธูป พร้อมท่องคาถากรวดน้ำตามไปด้วย ท่องไปจนกว่าจะจบในระหว่างที่ท่องคาถากรวดน้ำ ๆ หมดก่อนไม่เป็นไร ให้ท่องคาถากรวดน้ำไปจนกว่าจะจบบท (ท่องนะโม 3 จบ แล้วท่องคาถากรวดน้ำดังนี้)

บทสวดธัมมะจักร

ภุมมานัง เทวานัง สัททัง สุตวา
จาตุมมะหาราชิกา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง จาตุมมะหาราชิกานัง เทวานัง สัททัง สุตวา ตาวะติงสา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ตาวะติงสานัง เทวานัง สัททัง สุตวา
ยามา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ยามานัง เทวานัง
ตุสิตา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ตุสิตานัง เทวานัง สัททัง สุตวา นิมมานะระตี เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง นิมมานะระตีนัง เทวานัง สัททัง สุตวา ปะระนิมมิตะวะสะวัตตี เทวา สัททะ มะนุสสาเวสุง ปะระนิมมิตะวะสะวัตตีนัง เทวานัง สัททัง สุตวา พรหมะกายิกา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง พรหมะกายิกานัง เทวานัง สัททัง สุตวา พรหมะปาริสัชชา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง พรหมะปาริสัชชานัง เทวานัง สัททัง สุตวา พรหมะปุโรหิตา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง พรหมะปุโร หิตานัง เทวานัง สัททัง สุตวา มะหาพรหมา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง มะหาพรหมานัง เทวานัง สัททัง สุตวา ปะริตตาภา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ปะริตตาภานัง เทวานัง สัททัง สุตวา อัปปะมาณาภา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง อัปปะมาณาภานัง เทวานัง สัททัง สุตวา อาภัสสะระ เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง อาภัสสะรานัง เทวานัง สัททัง สุตวา ปะริตตะสุภา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ปะริตตะสุภานัง เทวานัง สัททัง สุตวา อัปปะมาณะสุภา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง อัปปะมาณะสุภานัง เทวานัง สัททัง สุตวา สุภะกิณหะกา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง สุภะกิณหะกานัง เทวานัง สัททัง สุตวา อสัญญะสัตตา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง อสัญญะสัตตานัง เทวานัง สัททัง สุตวา เวหัปผะลา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง เวหัปผะลานัง เทวานัง สัททัง สุตวา อะวิหา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง อะวิหานัง เทวานัง สัททัง สุตวา อะตัปปา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง อะตัปปานัง เทวานัง สัททัง สุตวา สุทัสสา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง สุทัสสานัง เทวานัง สัททัง สุตวา สุทัสสี เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง สุทัสสีนัง เทวานัง สัททัง สุตวา อะกะนิฏฐะกา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง เอตัมภะคะวะตา พาราณะสิยัง อิสิปะตะเน มิคะทาเย อะนุตตะรัง ธัมมะจักกัง ปะวัตติตัง อัปปะฏิวัตติยัง สะมะเณนะ วา พราหมะเณนะ วา เทเวนะ วา มาเรนะ วา พรหมุนา วา เกนะจิ วา โลกัสสะมินติ . อัปปะฏิวัตติยัง สะมะเณนะ วา พราหมะเณนะ วา เทเวนะ วา มาเรนะ วา พรหมุนา วา เกนะจิ วา โลกัสสะมินติ

ธัมมะจักรนี้ถ้าท่านใดได้สวดจะทำให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง ไม่ว่าจะเป็นกิจการงาน แขนงไหนที่ทำอยู่จะมีความเจริญก้าวหน้า เพราะว่าธัมมะจักรเป็นพระธรรมเทศนากัณฑ์แรกที่พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงโปรดนักบวชปัญจวคีย์ และยังเป็นวงล้อที่หมุนเป็นครั้งแรกของพระพุทธศาสนา จึงนับว่าเป็นการลำบากที่ผู้คนทั้งหลายจะได้สวด และยังจะเป็นการเปลื้องทุกข์ภัยต่างๆ นานาได้อีกด้วย สิ่งร้ายจะกลายเป็นดีและยังทำให้มีอายุยืน มีความสุขกาย สุขใจ ปราศจากทุกข์โศกโรคภัย

บทสวดธัมมะจักร

ภุมมานัง เทวานัง สัททัง สุตวา
จาตุมมะหาราชิกา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง จาตุมมะหาราชิกานัง เทวานัง สัททัง สุตวา ตาวะติงสา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ตาวะติงสานัง เทวานัง สัททัง สุตวา
ยามา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ยามานัง เทวานัง
ตุสิตา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ตุสิตานัง เทวานัง สัททัง สุตวา นิมมานะระตี เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง นิมมานะระตีนัง เทวานัง สัททัง สุตวา ปะระนิมมิตะวะสะวัตตี เทวา สัททะ มะนุสสาเวสุง ปะระนิมมิตะวะสะวัตตีนัง เทวานัง สัททัง สุตวา พรหมะกายิกา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง พรหมะกายิกานัง เทวานัง สัททัง สุตวา พรหมะปาริสัชชา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง พรหมะปาริสัชชานัง เทวานัง สัททัง สุตวา พรหมะปุโรหิตา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง พรหมะปุโร หิตานัง เทวานัง สัททัง สุตวา มะหาพรหมา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง มะหาพรหมานัง เทวานัง สัททัง สุตวา ปะริตตาภา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ปะริตตาภานัง เทวานัง สัททัง สุตวา อัปปะมาณาภา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง อัปปะมาณาภานัง เทวานัง สัททัง สุตวา อาภัสสะระ เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง อาภัสสะรานัง เทวานัง สัททัง สุตวา ปะริตตะสุภา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ปะริตตะสุภานัง เทวานัง สัททัง สุตวา อัปปะมาณะสุภา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง อัปปะมาณะสุภานัง เทวานัง สัททัง สุตวา สุภะกิณหะกา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง สุภะกิณหะกานัง เทวานัง สัททัง สุตวา อสัญญะสัตตา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง อสัญญะสัตตานัง เทวานัง สัททัง สุตวา เวหัปผะลา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง เวหัปผะลานัง เทวานัง สัททัง สุตวา อะวิหา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง อะวิหานัง เทวานัง สัททัง สุตวา อะตัปปา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง อะตัปปานัง เทวานัง สัททัง สุตวา สุทัสสา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง สุทัสสานัง เทวานัง สัททัง สุตวา สุทัสสี เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง สุทัสสีนัง เทวานัง สัททัง สุตวา อะกะนิฏฐะกา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง เอตัมภะคะวะตา พาราณะสิยัง อิสิปะตะเน มิคะทาเย อะนุตตะรัง ธัมมะจักกัง ปะวัตติตัง อัปปะฏิวัตติยัง สะมะเณนะ วา พราหมะเณนะ วา เทเวนะ วา มาเรนะ วา พรหมุนา วา เกนะจิ วา โลกัสสะมินติ . อัปปะฏิวัตติยัง สะมะเณนะ วา พราหมะเณนะ วา เทเวนะ วา มาเรนะ วา พรหมุนา วา เกนะจิ วา โลกัสสะมินติ

ธัมมะจักรนี้ถ้าท่านใดได้สวดจะทำให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง ไม่ว่าจะเป็นกิจการงาน แขนงไหนที่ทำอยู่จะมีความเจริญก้าวหน้า เพราะว่าธัมมะจักรเป็นพระธรรมเทศนากัณฑ์แรกที่พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงโปรดนักบวชปัญจวคีย์ และยังเป็นวงล้อที่หมุนเป็นครั้งแรกของพระพุทธศาสนา จึงนับว่าเป็นการลำบากที่ผู้คนทั้งหลายจะได้สวด และยังจะเป็นการเปลื้องทุกข์ภัยต่างๆ นานาได้อีกด้วย สิ่งร้ายจะกลายเป็นดีและยังทำให้มีอายุยืน มีความสุขกาย สุขใจ ปราศจากทุกข์โศกโรคภัย

บทสวดธัมมะจักร

ภุมมานัง เทวานัง สัททัง สุตวา
จาตุมมะหาราชิกา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง จาตุมมะหาราชิกานัง เทวานัง สัททัง สุตวา ตาวะติงสา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ตาวะติงสานัง เทวานัง สัททัง สุตวา
ยามา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ยามานัง เทวานัง
ตุสิตา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ตุสิตานัง เทวานัง สัททัง สุตวา นิมมานะระตี เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง นิมมานะระตีนัง เทวานัง สัททัง สุตวา ปะระนิมมิตะวะสะวัตตี เทวา สัททะ มะนุสสาเวสุง ปะระนิมมิตะวะสะวัตตีนัง เทวานัง สัททัง สุตวา พรหมะกายิกา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง พรหมะกายิกานัง เทวานัง สัททัง สุตวา พรหมะปาริสัชชา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง พรหมะปาริสัชชานัง เทวานัง สัททัง สุตวา พรหมะปุโรหิตา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง พรหมะปุโร หิตานัง เทวานัง สัททัง สุตวา มะหาพรหมา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง มะหาพรหมานัง เทวานัง สัททัง สุตวา ปะริตตาภา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ปะริตตาภานัง เทวานัง สัททัง สุตวา อัปปะมาณาภา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง อัปปะมาณาภานัง เทวานัง สัททัง สุตวา อาภัสสะระ เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง อาภัสสะรานัง เทวานัง สัททัง สุตวา ปะริตตะสุภา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ปะริตตะสุภานัง เทวานัง สัททัง สุตวา อัปปะมาณะสุภา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง อัปปะมาณะสุภานัง เทวานัง สัททัง สุตวา สุภะกิณหะกา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง สุภะกิณหะกานัง เทวานัง สัททัง สุตวา อสัญญะสัตตา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง อสัญญะสัตตานัง เทวานัง สัททัง สุตวา เวหัปผะลา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง เวหัปผะลานัง เทวานัง สัททัง สุตวา อะวิหา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง อะวิหานัง เทวานัง สัททัง สุตวา อะตัปปา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง อะตัปปานัง เทวานัง สัททัง สุตวา สุทัสสา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง สุทัสสานัง เทวานัง สัททัง สุตวา สุทัสสี เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง สุทัสสีนัง เทวานัง สัททัง สุตวา อะกะนิฏฐะกา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง เอตัมภะคะวะตา พาราณะสิยัง อิสิปะตะเน มิคะทาเย อะนุตตะรัง ธัมมะจักกัง ปะวัตติตัง อัปปะฏิวัตติยัง สะมะเณนะ วา พราหมะเณนะ วา เทเวนะ วา มาเรนะ วา พรหมุนา วา เกนะจิ วา โลกัสสะมินติ . อัปปะฏิวัตติยัง สะมะเณนะ วา พราหมะเณนะ วา เทเวนะ วา มาเรนะ วา พรหมุนา วา เกนะจิ วา โลกัสสะมินติ

ธัมมะจักรนี้ถ้าท่านใดได้สวดจะทำให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง ไม่ว่าจะเป็นกิจการงาน แขนงไหนที่ทำอยู่จะมีความเจริญก้าวหน้า เพราะว่าธัมมะจักรเป็นพระธรรมเทศนากัณฑ์แรกที่พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงโปรดนักบวชปัญจวคีย์ และยังเป็นวงล้อที่หมุนเป็นครั้งแรกของพระพุทธศาสนา จึงนับว่าเป็นการลำบากที่ผู้คนทั้งหลายจะได้สวด และยังจะเป็นการเปลื้องทุกข์ภัยต่างๆ นานาได้อีกด้วย สิ่งร้ายจะกลายเป็นดีและยังทำให้มีอายุยืน มีความสุขกาย สุขใจ ปราศจากทุกข์โศกโรคภัย

บทสวดธัมมะจักร

ภุมมานัง เทวานัง สัททัง สุตวา
จาตุมมะหาราชิกา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง จาตุมมะหาราชิกานัง เทวานัง สัททัง สุตวา ตาวะติงสา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ตาวะติงสานัง เทวานัง สัททัง สุตวา
ยามา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ยามานัง เทวานัง
ตุสิตา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ตุสิตานัง เทวานัง สัททัง สุตวา นิมมานะระตี เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง นิมมานะระตีนัง เทวานัง สัททัง สุตวา ปะระนิมมิตะวะสะวัตตี เทวา สัททะ มะนุสสาเวสุง ปะระนิมมิตะวะสะวัตตีนัง เทวานัง สัททัง สุตวา พรหมะกายิกา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง พรหมะกายิกานัง เทวานัง สัททัง สุตวา พรหมะปาริสัชชา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง พรหมะปาริสัชชานัง เทวานัง สัททัง สุตวา พรหมะปุโรหิตา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง พรหมะปุโร หิตานัง เทวานัง สัททัง สุตวา มะหาพรหมา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง มะหาพรหมานัง เทวานัง สัททัง สุตวา ปะริตตาภา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ปะริตตาภานัง เทวานัง สัททัง สุตวา อัปปะมาณาภา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง อัปปะมาณาภานัง เทวานัง สัททัง สุตวา อาภัสสะระ เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง อาภัสสะรานัง เทวานัง สัททัง สุตวา ปะริตตะสุภา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ปะริตตะสุภานัง เทวานัง สัททัง สุตวา อัปปะมาณะสุภา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง อัปปะมาณะสุภานัง เทวานัง สัททัง สุตวา สุภะกิณหะกา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง สุภะกิณหะกานัง เทวานัง สัททัง สุตวา อสัญญะสัตตา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง อสัญญะสัตตานัง เทวานัง สัททัง สุตวา เวหัปผะลา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง เวหัปผะลานัง เทวานัง สัททัง สุตวา อะวิหา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง อะวิหานัง เทวานัง สัททัง สุตวา อะตัปปา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง อะตัปปานัง เทวานัง สัททัง สุตวา สุทัสสา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง สุทัสสานัง เทวานัง สัททัง สุตวา สุทัสสี เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง สุทัสสีนัง เทวานัง สัททัง สุตวา อะกะนิฏฐะกา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง เอตัมภะคะวะตา พาราณะสิยัง อิสิปะตะเน มิคะทาเย อะนุตตะรัง ธัมมะจักกัง ปะวัตติตัง อัปปะฏิวัตติยัง สะมะเณนะ วา พราหมะเณนะ วา เทเวนะ วา มาเรนะ วา พรหมุนา วา เกนะจิ วา โลกัสสะมินติ . อัปปะฏิวัตติยัง สะมะเณนะ วา พราหมะเณนะ วา เทเวนะ วา มาเรนะ วา พรหมุนา วา เกนะจิ วา โลกัสสะมินติ

ธัมมะจักรนี้ถ้าท่านใดได้สวดจะทำให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง ไม่ว่าจะเป็นกิจการงาน แขนงไหนที่ทำอยู่จะมีความเจริญก้าวหน้า เพราะว่าธัมมะจักรเป็นพระธรรมเทศนากัณฑ์แรกที่พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงโปรดนักบวชปัญจวคีย์ และยังเป็นวงล้อที่หมุนเป็นครั้งแรกของพระพุทธศาสนา จึงนับว่าเป็นการลำบากที่ผู้คนทั้งหลายจะได้สวด และยังจะเป็นการเปลื้องทุกข์ภัยต่างๆ นานาได้อีกด้วย สิ่งร้ายจะกลายเป็นดีและยังทำให้มีอายุยืน มีความสุขกาย สุขใจ ปราศจากทุกข์โศกโรคภัย

ว่าแล้วมันต้องมา กูเตรียมหลุมหลบภัยให้แล้วนะ มาๆ
"ห้องปรึกษาสารพัดปัญหาของนักเขียน". Visit the link below to join the OpenChat.
https://line.me/ti/g2/MMI-aoU_3e9tb5UU3M3rNg?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

บทสวดนมัสการบูชาพระรัตนตรัย

อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา
พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ (กราบ)

สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม
ธัมมัง นะมัสสามิ (กราบ)

สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
สังฆัง นะมามิ (กราบ)

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

เป็นการรำลึกถึงพระพุทธคุณเบื้องต้นก่อนสวดมนต์ บูชาพระ หรือทำพิธีการต่าง ๆ

บทสวดบูชาไตรสรณคมน์

พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
(ต่อไปพระผู้นำกล่าวรับว่า)
อิมานิ ปัญจะ สิกขาปะทานิ
สีเลนะ สุคะติง ยันติ สีเลนะ โภคะสัมปะทา
สีเลนะ นิพพุติง ยันติ ตัสมา สีลัง วิโสธะเย

พุทธะบูชา มหาเตชะวันโต
ธัมมะบูชา มหาปัญโญ
สังฆะบูชา มหาโภคะวาโห
ติโลกะนาถัง อภิปูชะยามิ

พุทธัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ
วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร
ปูริสะทัมมสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ (กราบ)
ธัมมัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก
ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูฮีติ (กราบ)
สังฆัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา
เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเนยโย อัญชะลีกะระณีโย
อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ (กราบ)

บทสวดบูชาไตรสรณคมน์

พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
(ต่อไปพระผู้นำกล่าวรับว่า)
อิมานิ ปัญจะ สิกขาปะทานิ
สีเลนะ สุคะติง ยันติ สีเลนะ โภคะสัมปะทา
สีเลนะ นิพพุติง ยันติ ตัสมา สีลัง วิโสธะเย

พุทธะบูชา มหาเตชะวันโต
ธัมมะบูชา มหาปัญโญ
สังฆะบูชา มหาโภคะวาโห
ติโลกะนาถัง อภิปูชะยามิ

พุทธัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ
วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร
ปูริสะทัมมสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ (กราบ)
ธัมมัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก
ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูฮีติ (กราบ)
สังฆัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา
เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเนยโย อัญชะลีกะระณีโย
อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ (กราบ)
บทสวดบูชาไตรสรณคมน์

พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
(ต่อไปพระผู้นำกล่าวรับว่า)
อิมานิ ปัญจะ สิกขาปะทานิ
สีเลนะ สุคะติง ยันติ สีเลนะ โภคะสัมปะทา
สีเลนะ นิพพุติง ยันติ ตัสมา สีลัง วิโสธะเย

พุทธะบูชา มหาเตชะวันโต
ธัมมะบูชา มหาปัญโญ
สังฆะบูชา มหาโภคะวาโห
ติโลกะนาถัง อภิปูชะยามิ

พุทธัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ
วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร
ปูริสะทัมมสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ (กราบ)
ธัมมัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก
ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูฮีติ (กราบ)
สังฆัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา
เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเนยโย อัญชะลีกะระณีโย
อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ (กราบ)

บทสวดบูชาไตรสรณคมน์

พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
(ต่อไปพระผู้นำกล่าวรับว่า)
อิมานิ ปัญจะ สิกขาปะทานิ
สีเลนะ สุคะติง ยันติ สีเลนะ โภคะสัมปะทา
สีเลนะ นิพพุติง ยันติ ตัสมา สีลัง วิโสธะเย

พุทธะบูชา มหาเตชะวันโต
ธัมมะบูชา มหาปัญโญ
สังฆะบูชา มหาโภคะวาโห
ติโลกะนาถัง อภิปูชะยามิ

พุทธัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ
วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร
ปูริสะทัมมสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ (กราบ)
ธัมมัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก
ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูฮีติ (กราบ)
สังฆัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา
เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเนยโย อัญชะลีกะระณีโย
อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ (กราบ)
บทสวดบูชาไตรสรณคมน์

พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
(ต่อไปพระผู้นำกล่าวรับว่า)
อิมานิ ปัญจะ สิกขาปะทานิ
สีเลนะ สุคะติง ยันติ สีเลนะ โภคะสัมปะทา
สีเลนะ นิพพุติง ยันติ ตัสมา สีลัง วิโสธะเย

พุทธะบูชา มหาเตชะวันโต
ธัมมะบูชา มหาปัญโญ
สังฆะบูชา มหาโภคะวาโห
ติโลกะนาถัง อภิปูชะยามิ

พุทธัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ
วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร
ปูริสะทัมมสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ (กราบ)
ธัมมัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก
ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูฮีติ (กราบ)
สังฆัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา
เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเนยโย อัญชะลีกะระณีโย
อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ (กราบ)

บทสวดบูชาไตรสรณคมน์

พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
(ต่อไปพระผู้นำกล่าวรับว่า)
อิมานิ ปัญจะ สิกขาปะทานิ
สีเลนะ สุคะติง ยันติ สีเลนะ โภคะสัมปะทา
สีเลนะ นิพพุติง ยันติ ตัสมา สีลัง วิโสธะเย

พุทธะบูชา มหาเตชะวันโต
ธัมมะบูชา มหาปัญโญ
สังฆะบูชา มหาโภคะวาโห
ติโลกะนาถัง อภิปูชะยามิ

พุทธัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ
วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร
ปูริสะทัมมสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ (กราบ)
ธัมมัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก
ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูฮีติ (กราบ)
สังฆัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา
เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเนยโย อัญชะลีกะระณีโย
อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ (กราบ)
บทสวดบูชาไตรสรณคมน์

พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
(ต่อไปพระผู้นำกล่าวรับว่า)
อิมานิ ปัญจะ สิกขาปะทานิ
สีเลนะ สุคะติง ยันติ สีเลนะ โภคะสัมปะทา
สีเลนะ นิพพุติง ยันติ ตัสมา สีลัง วิโสธะเย

พุทธะบูชา มหาเตชะวันโต
ธัมมะบูชา มหาปัญโญ
สังฆะบูชา มหาโภคะวาโห
ติโลกะนาถัง อภิปูชะยามิ

พุทธัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ
วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร
ปูริสะทัมมสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ (กราบ)
ธัมมัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก
ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูฮีติ (กราบ)
สังฆัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา
เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเนยโย อัญชะลีกะระณีโย
อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ (กราบ)

บทสวดบูชาไตรสรณคมน์

พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
(ต่อไปพระผู้นำกล่าวรับว่า)
อิมานิ ปัญจะ สิกขาปะทานิ
สีเลนะ สุคะติง ยันติ สีเลนะ โภคะสัมปะทา
สีเลนะ นิพพุติง ยันติ ตัสมา สีลัง วิโสธะเย

พุทธะบูชา มหาเตชะวันโต
ธัมมะบูชา มหาปัญโญ
สังฆะบูชา มหาโภคะวาโห
ติโลกะนาถัง อภิปูชะยามิ

พุทธัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ
วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร
ปูริสะทัมมสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ (กราบ)
ธัมมัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก
ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูฮีติ (กราบ)
สังฆัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา
เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเนยโย อัญชะลีกะระณีโย
อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ (กราบ)
บทสวดบูชาไตรสรณคมน์

พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
(ต่อไปพระผู้นำกล่าวรับว่า)
อิมานิ ปัญจะ สิกขาปะทานิ
สีเลนะ สุคะติง ยันติ สีเลนะ โภคะสัมปะทา
สีเลนะ นิพพุติง ยันติ ตัสมา สีลัง วิโสธะเย

พุทธะบูชา มหาเตชะวันโต
ธัมมะบูชา มหาปัญโญ
สังฆะบูชา มหาโภคะวาโห
ติโลกะนาถัง อภิปูชะยามิ

พุทธัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ
วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร
ปูริสะทัมมสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ (กราบ)
ธัมมัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก
ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูฮีติ (กราบ)
สังฆัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา
เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเนยโย อัญชะลีกะระณีโย
อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ (กราบ)

บทสวดบูชาไตรสรณคมน์

พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
(ต่อไปพระผู้นำกล่าวรับว่า)
อิมานิ ปัญจะ สิกขาปะทานิ
สีเลนะ สุคะติง ยันติ สีเลนะ โภคะสัมปะทา
สีเลนะ นิพพุติง ยันติ ตัสมา สีลัง วิโสธะเย

พุทธะบูชา มหาเตชะวันโต
ธัมมะบูชา มหาปัญโญ
สังฆะบูชา มหาโภคะวาโห
ติโลกะนาถัง อภิปูชะยามิ

พุทธัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ
วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร
ปูริสะทัมมสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ (กราบ)
ธัมมัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก
ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูฮีติ (กราบ)
สังฆัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา
เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเนยโย อัญชะลีกะระณีโย
อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ (กราบ)
บทสวดบูชาไตรสรณคมน์

พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
(ต่อไปพระผู้นำกล่าวรับว่า)
อิมานิ ปัญจะ สิกขาปะทานิ
สีเลนะ สุคะติง ยันติ สีเลนะ โภคะสัมปะทา
สีเลนะ นิพพุติง ยันติ ตัสมา สีลัง วิโสธะเย

พุทธะบูชา มหาเตชะวันโต
ธัมมะบูชา มหาปัญโญ
สังฆะบูชา มหาโภคะวาโห
ติโลกะนาถัง อภิปูชะยามิ

พุทธัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ
วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร
ปูริสะทัมมสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ (กราบ)
ธัมมัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก
ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูฮีติ (กราบ)
สังฆัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา
เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเนยโย อัญชะลีกะระณีโย
อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ (กราบ)

บทสวดบูชาไตรสรณคมน์

พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
(ต่อไปพระผู้นำกล่าวรับว่า)
อิมานิ ปัญจะ สิกขาปะทานิ
สีเลนะ สุคะติง ยันติ สีเลนะ โภคะสัมปะทา
สีเลนะ นิพพุติง ยันติ ตัสมา สีลัง วิโสธะเย

พุทธะบูชา มหาเตชะวันโต
ธัมมะบูชา มหาปัญโญ
สังฆะบูชา มหาโภคะวาโห
ติโลกะนาถัง อภิปูชะยามิ

พุทธัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ
วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร
ปูริสะทัมมสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ (กราบ)
ธัมมัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก
ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูฮีติ (กราบ)
สังฆัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา
เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเนยโย อัญชะลีกะระณีโย
อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ (กราบ)
บทสวดบูชาไตรสรณคมน์

พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
(ต่อไปพระผู้นำกล่าวรับว่า)
อิมานิ ปัญจะ สิกขาปะทานิ
สีเลนะ สุคะติง ยันติ สีเลนะ โภคะสัมปะทา
สีเลนะ นิพพุติง ยันติ ตัสมา สีลัง วิโสธะเย

พุทธะบูชา มหาเตชะวันโต
ธัมมะบูชา มหาปัญโญ
สังฆะบูชา มหาโภคะวาโห
ติโลกะนาถัง อภิปูชะยามิ

พุทธัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ
วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร
ปูริสะทัมมสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ (กราบ)
ธัมมัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก
ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูฮีติ (กราบ)
สังฆัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา
เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเนยโย อัญชะลีกะระณีโย
อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ (กราบ)

ว่าแล้วมันต้องมา กูเตรียมหลุมหลบภัยให้แล้วนะ มาๆ
"ห้องปรึกษาสารพัดปัญหาของนักเขียน". Visit the link below to join the OpenChat.
https://line.me/ti/g2/MMI-aoU_3e9tb5UU3M3rNg?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

ว่าแล้วมันต้องมา กูเตรียมหลุมหลบภัยให้แล้วนะ มาๆ
"ห้องปรึกษาสารพัดปัญหาของนักเขียน". Visit the link below to join the OpenChat.
https://line.me/ti/g2/MMI-aoU_3e9tb5UU3M3rNg?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

ว่าแล้วมันต้องมา กูเตรียมหลุมหลบภัยให้แล้วนะ มาๆ
"ห้องปรึกษาสารพัดปัญหาของนักเขียน". Visit the link below to join the OpenChat.
https://line.me/ti/g2/MMI-aoU_3e9tb5UU3M3rNg?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

ว่าแล้วมันต้องมา กูเตรียมหลุมหลบภัยให้แล้วนะ มาๆ
"ห้องปรึกษาสารพัดปัญหาของนักเขียน". Visit the link below to join the OpenChat.
https://line.me/ti/g2/MMI-aoU_3e9tb5UU3M3rNg?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

ว่าแล้วมันต้องมา กูเตรียมหลุมหลบภัยให้แล้วนะ มาๆ
"ห้องปรึกษาสารพัดปัญหาของนักเขียน". Visit the link below to join the OpenChat.
https://line.me/ti/g2/MMI-aoU_3e9tb5UU3M3rNg?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

ทำไมจู่ๆ โทรลมาลงมู้นี้ได้วะนั่น

นิสัยแบบนี้ไง กุถึงรู้ว่าทำไมพวกมึงไม่เจริญ เพราะเอาบทสวดที่ดีมาใช้ด้วยจิตอกุศล ทำอะไรไว้ด้วยจิตอกุศลระวังจะเข้าตัวพวกมึงเองนะ บทสวดมนต์ที่ดีเขาไว้ใช้กล่อมเกลาจิตใจ ไม่ได้ใช้เอาไว้แซะคนอื่น ถ้าตั้งทางเดินผิด ก็มุ่งไปทางผิดแล้ว กุไม่ได้แช่งนะ แต่ไม่นานพวกมึงจะสงสัยเองว่าทำไมนิยายมึงยอดลดลงทุกวัน ๆ

ถ้าว่างขนาดเอาพวกนี้มาลง มึงไม่มีเวลาไปพัฒนางานเขียนตัวเองหรอก ต่อให้อีกกี่ชาติก็ไม่ตามนักเขียนที่เก่งไม่ทัน ได้แต่เดินตามหลังเป็นนักเขียนเบอร์รองบ่อนไปแบบนี้แหละ

อาราธนาศีลห้า

มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ทุติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ตะติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

(ถ้าคนเดียวขึ้นต้นว่า "อะหัง ภันเต วิสุง วิสุง" และลงท้ายว่า "ยาจามิ")

ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอศีลห้า พร้อมทั้งพระรัตนตรัย เพื่อรักษาเป็นข้อๆ แม้ครั้งที่ 2 แม้ครั้งที่ 3

สมาทานศีลห้า

ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการฆ่าสัตว์ และเบียดเบียนสัตว์

อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการลักทรัพย์

กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการประพฤติผิดในกาม

มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการพูดเท็จ พูดยุยงให้เขาแตกกัน พูดคำหยาบ และพูดเพ้อเจ้อ

สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการดื่มสุรา และของมึนเมาต่างๆ

อาราธนาธรรม

พรหมา จะ โลกาธิปะติ สะหัมปะติ กัตอัญชะลี อันธิวะรัง อะยาจะถะ สันธีตะ สัตตาป ปะรักชักขะ ชาติกา เทเสตุ ธัมมัง อะนุกัมปิมัง ปะชัง

ท้าวสหัมบดีแห่งโลก ได้ประคองอัญชลีทูลวิงวอนพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐว่า สัตว์ผู้มีธุลีในดวงตาน้อย มีอยู่ในโลกนี้ ขอพระคุณเจ้าโปรดแสดงธรรม อนุเคราะห์ด้วยเถิด

อาราธนาพระปริตร

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะทุกขะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะภะยะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะโรคะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

ขอท่านทั้งหลาย จงสวดพระปริตรอันเป็นมงคลเพื่อป้องกันความวิบัติ เพื่อความสำเร็จแห่งสมบัติทั้งปวง เพื่อให้ทุกข์ทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้ภัยทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้โรคทั้งหมดพินาศไป
อาราธนาศีลห้า

มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ทุติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ตะติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

(ถ้าคนเดียวขึ้นต้นว่า "อะหัง ภันเต วิสุง วิสุง" และลงท้ายว่า "ยาจามิ")

ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอศีลห้า พร้อมทั้งพระรัตนตรัย เพื่อรักษาเป็นข้อๆ แม้ครั้งที่ 2 แม้ครั้งที่ 3

สมาทานศีลห้า

ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการฆ่าสัตว์ และเบียดเบียนสัตว์

อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการลักทรัพย์

กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการประพฤติผิดในกาม

มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการพูดเท็จ พูดยุยงให้เขาแตกกัน พูดคำหยาบ และพูดเพ้อเจ้อ

สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการดื่มสุรา และของมึนเมาต่างๆ

อาราธนาธรรม

พรหมา จะ โลกาธิปะติ สะหัมปะติ กัตอัญชะลี อันธิวะรัง อะยาจะถะ สันธีตะ สัตตาป ปะรักชักขะ ชาติกา เทเสตุ ธัมมัง อะนุกัมปิมัง ปะชัง

ท้าวสหัมบดีแห่งโลก ได้ประคองอัญชลีทูลวิงวอนพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐว่า สัตว์ผู้มีธุลีในดวงตาน้อย มีอยู่ในโลกนี้ ขอพระคุณเจ้าโปรดแสดงธรรม อนุเคราะห์ด้วยเถิด

อาราธนาพระปริตร

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะทุกขะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะภะยะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะโรคะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

ขอท่านทั้งหลาย จงสวดพระปริตรอันเป็นมงคลเพื่อป้องกันความวิบัติ เพื่อความสำเร็จแห่งสมบัติทั้งปวง เพื่อให้ทุกข์ทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้ภัยทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้โรคทั้งหมดพินาศไป

อาราธนาศีลห้า

มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ทุติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ตะติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

(ถ้าคนเดียวขึ้นต้นว่า "อะหัง ภันเต วิสุง วิสุง" และลงท้ายว่า "ยาจามิ")

ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอศีลห้า พร้อมทั้งพระรัตนตรัย เพื่อรักษาเป็นข้อๆ แม้ครั้งที่ 2 แม้ครั้งที่ 3

สมาทานศีลห้า

ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการฆ่าสัตว์ และเบียดเบียนสัตว์

อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการลักทรัพย์

กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการประพฤติผิดในกาม

มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการพูดเท็จ พูดยุยงให้เขาแตกกัน พูดคำหยาบ และพูดเพ้อเจ้อ

สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการดื่มสุรา และของมึนเมาต่างๆ

อาราธนาธรรม

พรหมา จะ โลกาธิปะติ สะหัมปะติ กัตอัญชะลี อันธิวะรัง อะยาจะถะ สันธีตะ สัตตาป ปะรักชักขะ ชาติกา เทเสตุ ธัมมัง อะนุกัมปิมัง ปะชัง

ท้าวสหัมบดีแห่งโลก ได้ประคองอัญชลีทูลวิงวอนพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐว่า สัตว์ผู้มีธุลีในดวงตาน้อย มีอยู่ในโลกนี้ ขอพระคุณเจ้าโปรดแสดงธรรม อนุเคราะห์ด้วยเถิด

อาราธนาพระปริตร

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะทุกขะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะภะยะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะโรคะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

ขอท่านทั้งหลาย จงสวดพระปริตรอันเป็นมงคลเพื่อป้องกันความวิบัติ เพื่อความสำเร็จแห่งสมบัติทั้งปวง เพื่อให้ทุกข์ทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้ภัยทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้โรคทั้งหมดพินาศไป

อาราธนาศีลห้า

มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ทุติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ตะติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

(ถ้าคนเดียวขึ้นต้นว่า "อะหัง ภันเต วิสุง วิสุง" และลงท้ายว่า "ยาจามิ")

ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอศีลห้า พร้อมทั้งพระรัตนตรัย เพื่อรักษาเป็นข้อๆ แม้ครั้งที่ 2 แม้ครั้งที่ 3

สมาทานศีลห้า

ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการฆ่าสัตว์ และเบียดเบียนสัตว์

อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการลักทรัพย์

กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการประพฤติผิดในกาม

มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการพูดเท็จ พูดยุยงให้เขาแตกกัน พูดคำหยาบ และพูดเพ้อเจ้อ

สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการดื่มสุรา และของมึนเมาต่างๆ

อาราธนาธรรม

พรหมา จะ โลกาธิปะติ สะหัมปะติ กัตอัญชะลี อันธิวะรัง อะยาจะถะ สันธีตะ สัตตาป ปะรักชักขะ ชาติกา เทเสตุ ธัมมัง อะนุกัมปิมัง ปะชัง

ท้าวสหัมบดีแห่งโลก ได้ประคองอัญชลีทูลวิงวอนพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐว่า สัตว์ผู้มีธุลีในดวงตาน้อย มีอยู่ในโลกนี้ ขอพระคุณเจ้าโปรดแสดงธรรม อนุเคราะห์ด้วยเถิด

อาราธนาพระปริตร

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะทุกขะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะภะยะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะโรคะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

ขอท่านทั้งหลาย จงสวดพระปริตรอันเป็นมงคลเพื่อป้องกันความวิบัติ เพื่อความสำเร็จแห่งสมบัติทั้งปวง เพื่อให้ทุกข์ทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้ภัยทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้โรคทั้งหมดพินาศไป

อาราธนาศีลห้า

มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ทุติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ตะติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

(ถ้าคนเดียวขึ้นต้นว่า "อะหัง ภันเต วิสุง วิสุง" และลงท้ายว่า "ยาจามิ")

ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอศีลห้า พร้อมทั้งพระรัตนตรัย เพื่อรักษาเป็นข้อๆ แม้ครั้งที่ 2 แม้ครั้งที่ 3

สมาทานศีลห้า

ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการฆ่าสัตว์ และเบียดเบียนสัตว์

อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการลักทรัพย์

กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการประพฤติผิดในกาม

มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการพูดเท็จ พูดยุยงให้เขาแตกกัน พูดคำหยาบ และพูดเพ้อเจ้อ

สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการดื่มสุรา และของมึนเมาต่างๆ

อาราธนาธรรม

พรหมา จะ โลกาธิปะติ สะหัมปะติ กัตอัญชะลี อันธิวะรัง อะยาจะถะ สันธีตะ สัตตาป ปะรักชักขะ ชาติกา เทเสตุ ธัมมัง อะนุกัมปิมัง ปะชัง

ท้าวสหัมบดีแห่งโลก ได้ประคองอัญชลีทูลวิงวอนพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐว่า สัตว์ผู้มีธุลีในดวงตาน้อย มีอยู่ในโลกนี้ ขอพระคุณเจ้าโปรดแสดงธรรม อนุเคราะห์ด้วยเถิด

อาราธนาพระปริตร

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะทุกขะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะภะยะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะโรคะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

ขอท่านทั้งหลาย จงสวดพระปริตรอันเป็นมงคลเพื่อป้องกันความวิบัติ เพื่อความสำเร็จแห่งสมบัติทั้งปวง เพื่อให้ทุกข์ทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้ภัยทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้โรคทั้งหมดพินาศไป

อาราธนาศีลห้า

มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ทุติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ตะติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

(ถ้าคนเดียวขึ้นต้นว่า "อะหัง ภันเต วิสุง วิสุง" และลงท้ายว่า "ยาจามิ")

ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอศีลห้า พร้อมทั้งพระรัตนตรัย เพื่อรักษาเป็นข้อๆ แม้ครั้งที่ 2 แม้ครั้งที่ 3

สมาทานศีลห้า

ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการฆ่าสัตว์ และเบียดเบียนสัตว์

อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการลักทรัพย์

กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการประพฤติผิดในกาม

มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการพูดเท็จ พูดยุยงให้เขาแตกกัน พูดคำหยาบ และพูดเพ้อเจ้อ

สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการดื่มสุรา และของมึนเมาต่างๆ

อาราธนาธรรม

พรหมา จะ โลกาธิปะติ สะหัมปะติ กัตอัญชะลี อันธิวะรัง อะยาจะถะ สันธีตะ สัตตาป ปะรักชักขะ ชาติกา เทเสตุ ธัมมัง อะนุกัมปิมัง ปะชัง

ท้าวสหัมบดีแห่งโลก ได้ประคองอัญชลีทูลวิงวอนพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐว่า สัตว์ผู้มีธุลีในดวงตาน้อย มีอยู่ในโลกนี้ ขอพระคุณเจ้าโปรดแสดงธรรม อนุเคราะห์ด้วยเถิด

อาราธนาพระปริตร

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะทุกขะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะภะยะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะโรคะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

ขอท่านทั้งหลาย จงสวดพระปริตรอันเป็นมงคลเพื่อป้องกันความวิบัติ เพื่อความสำเร็จแห่งสมบัติทั้งปวง เพื่อให้ทุกข์ทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้ภัยทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้โรคทั้งหมดพินาศไป

อาราธนาศีลห้า

มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ทุติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ตะติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

(ถ้าคนเดียวขึ้นต้นว่า "อะหัง ภันเต วิสุง วิสุง" และลงท้ายว่า "ยาจามิ")

ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอศีลห้า พร้อมทั้งพระรัตนตรัย เพื่อรักษาเป็นข้อๆ แม้ครั้งที่ 2 แม้ครั้งที่ 3

สมาทานศีลห้า

ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการฆ่าสัตว์ และเบียดเบียนสัตว์

อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการลักทรัพย์

กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการประพฤติผิดในกาม

มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการพูดเท็จ พูดยุยงให้เขาแตกกัน พูดคำหยาบ และพูดเพ้อเจ้อ

สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการดื่มสุรา และของมึนเมาต่างๆ

อาราธนาธรรม

พรหมา จะ โลกาธิปะติ สะหัมปะติ กัตอัญชะลี อันธิวะรัง อะยาจะถะ สันธีตะ สัตตาป ปะรักชักขะ ชาติกา เทเสตุ ธัมมัง อะนุกัมปิมัง ปะชัง

ท้าวสหัมบดีแห่งโลก ได้ประคองอัญชลีทูลวิงวอนพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐว่า สัตว์ผู้มีธุลีในดวงตาน้อย มีอยู่ในโลกนี้ ขอพระคุณเจ้าโปรดแสดงธรรม อนุเคราะห์ด้วยเถิด

อาราธนาพระปริตร

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะทุกขะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะภะยะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะโรคะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

ขอท่านทั้งหลาย จงสวดพระปริตรอันเป็นมงคลเพื่อป้องกันความวิบัติ เพื่อความสำเร็จแห่งสมบัติทั้งปวง เพื่อให้ทุกข์ทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้ภัยทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้โรคทั้งหมดพินาศไป

อาราธนาศีลห้า

มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ทุติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ตะติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

(ถ้าคนเดียวขึ้นต้นว่า "อะหัง ภันเต วิสุง วิสุง" และลงท้ายว่า "ยาจามิ")

ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอศีลห้า พร้อมทั้งพระรัตนตรัย เพื่อรักษาเป็นข้อๆ แม้ครั้งที่ 2 แม้ครั้งที่ 3

สมาทานศีลห้า

ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการฆ่าสัตว์ และเบียดเบียนสัตว์

อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการลักทรัพย์

กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการประพฤติผิดในกาม

มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการพูดเท็จ พูดยุยงให้เขาแตกกัน พูดคำหยาบ และพูดเพ้อเจ้อ

สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการดื่มสุรา และของมึนเมาต่างๆ

อาราธนาธรรม

พรหมา จะ โลกาธิปะติ สะหัมปะติ กัตอัญชะลี อันธิวะรัง อะยาจะถะ สันธีตะ สัตตาป ปะรักชักขะ ชาติกา เทเสตุ ธัมมัง อะนุกัมปิมัง ปะชัง

ท้าวสหัมบดีแห่งโลก ได้ประคองอัญชลีทูลวิงวอนพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐว่า สัตว์ผู้มีธุลีในดวงตาน้อย มีอยู่ในโลกนี้ ขอพระคุณเจ้าโปรดแสดงธรรม อนุเคราะห์ด้วยเถิด

อาราธนาพระปริตร

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะทุกขะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะภะยะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะโรคะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

ขอท่านทั้งหลาย จงสวดพระปริตรอันเป็นมงคลเพื่อป้องกันความวิบัติ เพื่อความสำเร็จแห่งสมบัติทั้งปวง เพื่อให้ทุกข์ทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้ภัยทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้มึงทั้งหมดพินาศไป

อาราธนาศีลห้า

มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ทุติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ตะติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

(ถ้าคนเดียวขึ้นต้นว่า "อะหัง ภันเต วิสุง วิสุง" และลงท้ายว่า "ยาจามิ")

ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอศีลห้า พร้อมทั้งพระรัตนตรัย เพื่อรักษาเป็นข้อๆ แม้ครั้งที่ 2 แม้ครั้งที่ 3

สมาทานศีลห้า

ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการฆ่าสัตว์ และเบียดเบียนสัตว์

อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการลักทรัพย์

กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการประพฤติผิดในกาม

มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการพูดเท็จ พูดยุยงให้เขาแตกกัน พูดคำหยาบ และพูดเพ้อเจ้อ

สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการดื่มสุรา และของมึนเมาต่างๆ

อาราธนาธรรม

พรหมา จะ โลกาธิปะติ สะหัมปะติ กัตอัญชะลี อันธิวะรัง อะยาจะถะ สันธีตะ สัตตาป ปะรักชักขะ ชาติกา เทเสตุ ธัมมัง อะนุกัมปิมัง ปะชัง

ท้าวสหัมบดีแห่งโลก ได้ประคองอัญชลีทูลวิงวอนพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐว่า สัตว์ผู้มีธุลีในดวงตาน้อย มีอยู่ในโลกนี้ ขอพระคุณเจ้าโปรดแสดงธรรม อนุเคราะห์ด้วยเถิด

อาราธนาพระปริตร

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะทุกขะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะภะยะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะโรคะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

ขอท่านทั้งหลาย จงสวดพระปริตรอันเป็นมงคลเพื่อป้องกันความวิบัติ เพื่อความสำเร็จแห่งสมบัติทั้งปวง เพื่อให้ทุกข์ทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้ภัยทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้โรคทั้งหมดพินาศไป

อาราธนาศีลห้า

มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ทุติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ตะติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

(ถ้าคนเดียวขึ้นต้นว่า "อะหัง ภันเต วิสุง วิสุง" และลงท้ายว่า "ยาจามิ")

ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอศีลห้า พร้อมทั้งพระรัตนตรัย เพื่อรักษาเป็นข้อๆ แม้ครั้งที่ 2 แม้ครั้งที่ 3

สมาทานศีลห้า

ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการฆ่าสัตว์ และเบียดเบียนสัตว์

อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการลักทรัพย์

กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการประพฤติผิดในกาม

มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการพูดเท็จ พูดยุยงให้เขาแตกกัน พูดคำหยาบ และพูดเพ้อเจ้อ

สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการดื่มสุรา และของมึนเมาต่างๆ

อาราธนาธรรม

พรหมา จะ โลกาธิปะติ สะหัมปะติ กัตอัญชะลี อันธิวะรัง อะยาจะถะ สันธีตะ สัตตาป ปะรักชักขะ ชาติกา เทเสตุ ธัมมัง อะนุกัมปิมัง ปะชัง

ท้าวสหัมบดีแห่งโลก ได้ประคองอัญชลีทูลวิงวอนพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐว่า สัตว์ผู้มีธุลีในดวงตาน้อย มีอยู่ในโลกนี้ ขอพระคุณเจ้าโปรดแสดงธรรม อนุเคราะห์ด้วยเถิด

อาราธนาพระปริตร

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะทุกขะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะภะยะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะโรคะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

ขอท่านทั้งหลาย จงสวดพระปริตรอันเป็นมงคลเพื่อป้องกันความวิบัติ เพื่อความสำเร็จแห่งสมบัติทั้งปวง เพื่อให้ทุกข์ทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้ภัยทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้โรคทั้งหมดพินาศไป

อาราธนาศีลห้า

มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ทุติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ตะติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

(ถ้าคนเดียวขึ้นต้นว่า "อะหัง ภันเต วิสุง วิสุง" และลงท้ายว่า "ยาจามิ")

ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอศีลห้า พร้อมทั้งพระรัตนตรัย เพื่อรักษาเป็นข้อๆ แม้ครั้งที่ 2 แม้ครั้งที่ 3

สมาทานศีลห้า

ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการฆ่าสัตว์ และเบียดเบียนสัตว์

อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการลักทรัพย์

กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการประพฤติผิดในกาม

มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการพูดเท็จ พูดยุยงให้เขาแตกกัน พูดคำหยาบ และพูดเพ้อเจ้อ

สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการดื่มสุรา และของมึนเมาต่างๆ

อาราธนาธรรม

พรหมา จะ โลกาธิปะติ สะหัมปะติ กัตอัญชะลี อันธิวะรัง อะยาจะถะ สันธีตะ สัตตาป ปะรักชักขะ ชาติกา เทเสตุ ธัมมัง อะนุกัมปิมัง ปะชัง

ท้าวสหัมบดีแห่งโลก ได้ประคองอัญชลีทูลวิงวอนพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐว่า สัตว์ผู้มีธุลีในดวงตาน้อย มีอยู่ในโลกนี้ ขอพระคุณเจ้าโปรดแสดงธรรม อนุเคราะห์ด้วยเถิด

อาราธนาพระปริตร

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะทุกขะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะภะยะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะโรคะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

ขอท่านทั้งหลาย จงสวดพระปริตรอันเป็นมงคลเพื่อป้องกันความวิบัติ เพื่อความสำเร็จแห่งสมบัติทั้งปวง เพื่อให้ทุกข์ทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้ภัยทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้โรคทั้งหมดพินาศไป

อาราธนาศีลห้า

มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ทุติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ตะติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

(ถ้าคนเดียวขึ้นต้นว่า "อะหัง ภันเต วิสุง วิสุง" และลงท้ายว่า "ยาจามิ")

ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอศีลห้า พร้อมทั้งพระรัตนตรัย เพื่อรักษาเป็นข้อๆ แม้ครั้งที่ 2 แม้ครั้งที่ 3

สมาทานศีลห้า

ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการฆ่าสัตว์ และเบียดเบียนสัตว์

อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการลักทรัพย์

กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการประพฤติผิดในกาม

มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการพูดเท็จ พูดยุยงให้เขาแตกกัน พูดคำหยาบ และพูดเพ้อเจ้อ

สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการดื่มสุรา และของมึนเมาต่างๆ

อาราธนาธรรม

พรหมา จะ โลกาธิปะติ สะหัมปะติ กัตอัญชะลี อันธิวะรัง อะยาจะถะ สันธีตะ สัตตาป ปะรักชักขะ ชาติกา เทเสตุ ธัมมัง อะนุกัมปิมัง ปะชัง

ท้าวสหัมบดีแห่งโลก ได้ประคองอัญชลีทูลวิงวอนพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐว่า สัตว์ผู้มีธุลีในดวงตาน้อย มีอยู่ในโลกนี้ ขอพระคุณเจ้าโปรดแสดงธรรม อนุเคราะห์ด้วยเถิด

อาราธนาพระปริตร

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะทุกขะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะภะยะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะโรคะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

ขอท่านทั้งหลาย จงสวดพระปริตรอันเป็นมงคลเพื่อป้องกันความวิบัติ เพื่อความสำเร็จแห่งสมบัติทั้งปวง เพื่อให้ทุกข์ทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้ภัยทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้พวกมึงทั้งหมดพินาศไป

อาราธนาศีลห้า

มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ทุติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ตะติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

(ถ้าคนเดียวขึ้นต้นว่า "อะหัง ภันเต วิสุง วิสุง" และลงท้ายว่า "ยาจามิ")

ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอศีลห้า พร้อมทั้งพระรัตนตรัย เพื่อรักษาเป็นข้อๆ แม้ครั้งที่ 2 แม้ครั้งที่ 3

สมาทานศีลห้า

ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการฆ่าสัตว์ และเบียดเบียนสัตว์

อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการลักทรัพย์

กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการประพฤติผิดในกาม

มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการพูดเท็จ พูดยุยงให้เขาแตกกัน พูดคำหยาบ และพูดเพ้อเจ้อ

สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการดื่มสุรา และของมึนเมาต่างๆ

อาราธนาธรรม

พรหมา จะ โลกาธิปะติ สะหัมปะติ กัตอัญชะลี อันธิวะรัง อะยาจะถะ สันธีตะ สัตตาป ปะรักชักขะ ชาติกา เทเสตุ ธัมมัง อะนุกัมปิมัง ปะชัง

ท้าวสหัมบดีแห่งโลก ได้ประคองอัญชลีทูลวิงวอนพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐว่า สัตว์ผู้มีธุลีในดวงตาน้อย มีอยู่ในโลกนี้ ขอพระคุณเจ้าโปรดแสดงธรรม อนุเคราะห์ด้วยเถิด

อาราธนาพระปริตร

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะทุกขะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะภะยะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะโรคะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

ขอท่านทั้งหลาย จงสวดพระปริตรอันเป็นมงคลเพื่อป้องกันความวิบัติ เพื่อความสำเร็จแห่งสมบัติทั้งปวง เพื่อให้ทุกข์ทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้ภัยทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้โรคทั้งหมดพินาศไป

อาราธนาศีลห้า

มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ทุติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ตะติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

(ถ้าคนเดียวขึ้นต้นว่า "อะหัง ภันเต วิสุง วิสุง" และลงท้ายว่า "ยาจามิ")

ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอศีลห้า พร้อมทั้งพระรัตนตรัย เพื่อรักษาเป็นข้อๆ แม้ครั้งที่ 2 แม้ครั้งที่ 3

สมาทานศีลห้า

ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการฆ่าสัตว์ และเบียดเบียนสัตว์

อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการลักทรัพย์

กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการประพฤติผิดในกาม

มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการพูดเท็จ พูดยุยงให้เขาแตกกัน พูดคำหยาบ และพูดเพ้อเจ้อ

สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการดื่มสุรา และของมึนเมาต่างๆ

อาราธนาธรรม

พรหมา จะ โลกาธิปะติ สะหัมปะติ กัตอัญชะลี อันธิวะรัง อะยาจะถะ สันธีตะ สัตตาป ปะรักชักขะ ชาติกา เทเสตุ ธัมมัง อะนุกัมปิมัง ปะชัง

ท้าวสหัมบดีแห่งโลก ได้ประคองอัญชลีทูลวิงวอนพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐว่า สัตว์ผู้มีธุลีในดวงตาน้อย มีอยู่ในโลกนี้ ขอพระคุณเจ้าโปรดแสดงธรรม อนุเคราะห์ด้วยเถิด

อาราธนาพระปริตร

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะทุกขะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะภะยะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะโรคะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

ขอท่านทั้งหลาย จงสวดพระปริตรอันเป็นมงคลเพื่อป้องกันความวิบัติ เพื่อความสำเร็จแห่งสมบัติทั้งปวง เพื่อให้ทุกข์ทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้ภัยทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้พวกมึงทั้งหมดพินาศไป

อาราธนาศีลห้า

มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ทุติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ตะติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

(ถ้าคนเดียวขึ้นต้นว่า "อะหัง ภันเต วิสุง วิสุง" และลงท้ายว่า "ยาจามิ")

ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอศีลห้า พร้อมทั้งพระรัตนตรัย เพื่อรักษาเป็นข้อๆ แม้ครั้งที่ 2 แม้ครั้งที่ 3

สมาทานศีลห้า

ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการฆ่าสัตว์ และเบียดเบียนสัตว์

อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการลักทรัพย์

กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการประพฤติผิดในกาม

มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการพูดเท็จ พูดยุยงให้เขาแตกกัน พูดคำหยาบ และพูดเพ้อเจ้อ

สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการดื่มสุรา และของมึนเมาต่างๆ

อาราธนาธรรม

พรหมา จะ โลกาธิปะติ สะหัมปะติ กัตอัญชะลี อันธิวะรัง อะยาจะถะ สันธีตะ สัตตาป ปะรักชักขะ ชาติกา เทเสตุ ธัมมัง อะนุกัมปิมัง ปะชัง

ท้าวสหัมบดีแห่งโลก ได้ประคองอัญชลีทูลวิงวอนพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐว่า สัตว์ผู้มีธุลีในดวงตาน้อย มีอยู่ในโลกนี้ ขอพระคุณเจ้าโปรดแสดงธรรม อนุเคราะห์ด้วยเถิด

อาราธนาพระปริตร

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะทุกขะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะภะยะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะโรคะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

ขอท่านทั้งหลาย จงสวดพระปริตรอันเป็นมงคลเพื่อป้องกันความวิบัติ เพื่อความสำเร็จแห่งสมบัติทั้งปวง เพื่อให้ทุกข์ทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้ภัยทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้โรคทั้งหมดพินาศไป

อาราธนาศีลห้า

มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ทุติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ตะติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

(ถ้าคนเดียวขึ้นต้นว่า "อะหัง ภันเต วิสุง วิสุง" และลงท้ายว่า "ยาจามิ")

ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอศีลห้า พร้อมทั้งพระรัตนตรัย เพื่อรักษาเป็นข้อๆ แม้ครั้งที่ 2 แม้ครั้งที่ 3

สมาทานศีลห้า

ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการฆ่าสัตว์ และเบียดเบียนสัตว์

อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการลักทรัพย์

กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการประพฤติผิดในกาม

มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการพูดเท็จ พูดยุยงให้เขาแตกกัน พูดคำหยาบ และพูดเพ้อเจ้อ

สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการดื่มสุรา และของมึนเมาต่างๆ

อาราธนาธรรม

พรหมา จะ โลกาธิปะติ สะหัมปะติ กัตอัญชะลี อันธิวะรัง อะยาจะถะ สันธีตะ สัตตาป ปะรักชักขะ ชาติกา เทเสตุ ธัมมัง อะนุกัมปิมัง ปะชัง

ท้าวสหัมบดีแห่งโลก ได้ประคองอัญชลีทูลวิงวอนพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐว่า สัตว์ผู้มีธุลีในดวงตาน้อย มีอยู่ในโลกนี้ ขอพระคุณเจ้าโปรดแสดงธรรม อนุเคราะห์ด้วยเถิด

อาราธนาพระปริตร

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะทุกขะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะภะยะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะโรคะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

ขอท่านทั้งหลาย จงสวดพระปริตรอันเป็นมงคลเพื่อป้องกันความวิบัติ เพื่อความสำเร็จแห่งสมบัติทั้งปวง เพื่อให้ทุกข์ทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้ภัยทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้พวกมึงทั้งหมดพินาศไป

อาราธนาศีลห้า

มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ทุติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ตะติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

(ถ้าคนเดียวขึ้นต้นว่า "อะหัง ภันเต วิสุง วิสุง" และลงท้ายว่า "ยาจามิ")

ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอศีลห้า พร้อมทั้งพระรัตนตรัย เพื่อรักษาเป็นข้อๆ แม้ครั้งที่ 2 แม้ครั้งที่ 3

สมาทานศีลห้า

ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการฆ่าสัตว์ และเบียดเบียนสัตว์

อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการลักทรัพย์

กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการประพฤติผิดในกาม

มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการพูดเท็จ พูดยุยงให้เขาแตกกัน พูดคำหยาบ และพูดเพ้อเจ้อ

สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการดื่มสุรา และของมึนเมาต่างๆ

อาราธนาธรรม

พรหมา จะ โลกาธิปะติ สะหัมปะติ กัตอัญชะลี อันธิวะรัง อะยาจะถะ สันธีตะ สัตตาป ปะรักชักขะ ชาติกา เทเสตุ ธัมมัง อะนุกัมปิมัง ปะชัง

ท้าวสหัมบดีแห่งโลก ได้ประคองอัญชลีทูลวิงวอนพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐว่า สัตว์ผู้มีธุลีในดวงตาน้อย มีอยู่ในโลกนี้ ขอพระคุณเจ้าโปรดแสดงธรรม อนุเคราะห์ด้วยเถิด

อาราธนาพระปริตร

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะทุกขะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะภะยะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะโรคะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

ขอท่านทั้งหลาย จงสวดพระปริตรอันเป็นมงคลเพื่อป้องกันความวิบัติ เพื่อความสำเร็จแห่งสมบัติทั้งปวง เพื่อให้ทุกข์ทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้ภัยทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้โรคทั้งหมดพินาศไป

อาราธนาศีลห้า

มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ทุติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ตะติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

(ถ้าคนเดียวขึ้นต้นว่า "อะหัง ภันเต วิสุง วิสุง" และลงท้ายว่า "ยาจามิ")

ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอศีลห้า พร้อมทั้งพระรัตนตรัย เพื่อรักษาเป็นข้อๆ แม้ครั้งที่ 2 แม้ครั้งที่ 3

สมาทานศีลห้า

ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการฆ่าสัตว์ และเบียดเบียนสัตว์

อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการลักทรัพย์

กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการประพฤติผิดในกาม

มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการพูดเท็จ พูดยุยงให้เขาแตกกัน พูดคำหยาบ และพูดเพ้อเจ้อ

สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการดื่มสุรา และของมึนเมาต่างๆ

อาราธนาธรรม

พรหมา จะ โลกาธิปะติ สะหัมปะติ กัตอัญชะลี อันธิวะรัง อะยาจะถะ สันธีตะ สัตตาป ปะรักชักขะ ชาติกา เทเสตุ ธัมมัง อะนุกัมปิมัง ปะชัง

ท้าวสหัมบดีแห่งโลก ได้ประคองอัญชลีทูลวิงวอนพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐว่า สัตว์ผู้มีธุลีในดวงตาน้อย มีอยู่ในโลกนี้ ขอพระคุณเจ้าโปรดแสดงธรรม อนุเคราะห์ด้วยเถิด

อาราธนาพระปริตร

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะทุกขะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะภะยะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะโรคะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

ขอท่านทั้งหลาย จงสวดพระปริตรอันเป็นมงคลเพื่อป้องกันความวิบัติ เพื่อความสำเร็จแห่งสมบัติทั้งปวง เพื่อให้ทุกข์ทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้ภัยทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้พวกมึงทั้งหมดพินาศไป

อาราธนาศีลห้า

มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ทุติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ตะติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

(ถ้าคนเดียวขึ้นต้นว่า "อะหัง ภันเต วิสุง วิสุง" และลงท้ายว่า "ยาจามิ")

ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอศีลห้า พร้อมทั้งพระรัตนตรัย เพื่อรักษาเป็นข้อๆ แม้ครั้งที่ 2 แม้ครั้งที่ 3

สมาทานศีลห้า

ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการฆ่าสัตว์ และเบียดเบียนสัตว์

อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการลักทรัพย์

กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการประพฤติผิดในกาม

มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการพูดเท็จ พูดยุยงให้เขาแตกกัน พูดคำหยาบ และพูดเพ้อเจ้อ

สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการดื่มสุรา และของมึนเมาต่างๆ

อาราธนาธรรม

พรหมา จะ โลกาธิปะติ สะหัมปะติ กัตอัญชะลี อันธิวะรัง อะยาจะถะ สันธีตะ สัตตาป ปะรักชักขะ ชาติกา เทเสตุ ธัมมัง อะนุกัมปิมัง ปะชัง

ท้าวสหัมบดีแห่งโลก ได้ประคองอัญชลีทูลวิงวอนพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐว่า สัตว์ผู้มีธุลีในดวงตาน้อย มีอยู่ในโลกนี้ ขอพระคุณเจ้าโปรดแสดงธรรม อนุเคราะห์ด้วยเถิด

อาราธนาพระปริตร

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะทุกขะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะภะยะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะโรคะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

ขอท่านทั้งหลาย จงสวดพระปริตรอันเป็นมงคลเพื่อป้องกันความวิบัติ เพื่อความสำเร็จแห่งสมบัติทั้งปวง เพื่อให้ทุกข์ทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้ภัยทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้โรคทั้งหมดพินาศไป

อาราธนาศีลห้า

มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ทุติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ตะติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

(ถ้าคนเดียวขึ้นต้นว่า "อะหัง ภันเต วิสุง วิสุง" และลงท้ายว่า "ยาจามิ")

ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอศีลห้า พร้อมทั้งพระรัตนตรัย เพื่อรักษาเป็นข้อๆ แม้ครั้งที่ 2 แม้ครั้งที่ 3

สมาทานศีลห้า

ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการฆ่าสัตว์ และเบียดเบียนสัตว์

อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการลักทรัพย์

กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการประพฤติผิดในกาม

มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการพูดเท็จ พูดยุยงให้เขาแตกกัน พูดคำหยาบ และพูดเพ้อเจ้อ

สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการดื่มสุรา และของมึนเมาต่างๆ

อาราธนาธรรม

พรหมา จะ โลกาธิปะติ สะหัมปะติ กัตอัญชะลี อันธิวะรัง อะยาจะถะ สันธีตะ สัตตาป ปะรักชักขะ ชาติกา เทเสตุ ธัมมัง อะนุกัมปิมัง ปะชัง

ท้าวสหัมบดีแห่งโลก ได้ประคองอัญชลีทูลวิงวอนพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐว่า สัตว์ผู้มีธุลีในดวงตาน้อย มีอยู่ในโลกนี้ ขอพระคุณเจ้าโปรดแสดงธรรม อนุเคราะห์ด้วยเถิด

อาราธนาพระปริตร

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะทุกขะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะภะยะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะโรคะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

ขอท่านทั้งหลาย จงสวดพระปริตรอันเป็นมงคลเพื่อป้องกันความวิบัติ เพื่อความสำเร็จแห่งสมบัติทั้งปวง เพื่อให้ทุกข์ทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้ภัยทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้พวกมึงทั้งหมดพินาศไป

อาราธนาศีลห้า

มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ทุติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ตะติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

(ถ้าคนเดียวขึ้นต้นว่า "อะหัง ภันเต วิสุง วิสุง" และลงท้ายว่า "ยาจามิ")

ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอศีลห้า พร้อมทั้งพระรัตนตรัย เพื่อรักษาเป็นข้อๆ แม้ครั้งที่ 2 แม้ครั้งที่ 3

สมาทานศีลห้า

ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการฆ่าสัตว์ และเบียดเบียนสัตว์

อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการลักทรัพย์

กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการประพฤติผิดในกาม

มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการพูดเท็จ พูดยุยงให้เขาแตกกัน พูดคำหยาบ และพูดเพ้อเจ้อ

สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการดื่มสุรา และของมึนเมาต่างๆ

อาราธนาธรรม

พรหมา จะ โลกาธิปะติ สะหัมปะติ กัตอัญชะลี อันธิวะรัง อะยาจะถะ สันธีตะ สัตตาป ปะรักชักขะ ชาติกา เทเสตุ ธัมมัง อะนุกัมปิมัง ปะชัง

ท้าวสหัมบดีแห่งโลก ได้ประคองอัญชลีทูลวิงวอนพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐว่า สัตว์ผู้มีธุลีในดวงตาน้อย มีอยู่ในโลกนี้ ขอพระคุณเจ้าโปรดแสดงธรรม อนุเคราะห์ด้วยเถิด

อาราธนาพระปริตร

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะทุกขะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะภะยะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะโรคะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

ขอท่านทั้งหลาย จงสวดพระปริตรอันเป็นมงคลเพื่อป้องกันความวิบัติ เพื่อความสำเร็จแห่งสมบัติทั้งปวง เพื่อให้ทุกข์ทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้ภัยทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้โรคทั้งหมดพินาศไป

อาราธนาศีลห้า

มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ทุติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ตะติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

(ถ้าคนเดียวขึ้นต้นว่า "อะหัง ภันเต วิสุง วิสุง" และลงท้ายว่า "ยาจามิ")

ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอศีลห้า พร้อมทั้งพระรัตนตรัย เพื่อรักษาเป็นข้อๆ แม้ครั้งที่ 2 แม้ครั้งที่ 3

สมาทานศีลห้า

ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการฆ่าสัตว์ และเบียดเบียนสัตว์

อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการลักทรัพย์

กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการประพฤติผิดในกาม

มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการพูดเท็จ พูดยุยงให้เขาแตกกัน พูดคำหยาบ และพูดเพ้อเจ้อ

สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการดื่มสุรา และของมึนเมาต่างๆ

อาราธนาธรรม

พรหมา จะ โลกาธิปะติ สะหัมปะติ กัตอัญชะลี อันธิวะรัง อะยาจะถะ สันธีตะ สัตตาป ปะรักชักขะ ชาติกา เทเสตุ ธัมมัง อะนุกัมปิมัง ปะชัง

ท้าวสหัมบดีแห่งโลก ได้ประคองอัญชลีทูลวิงวอนพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐว่า สัตว์ผู้มีธุลีในดวงตาน้อย มีอยู่ในโลกนี้ ขอพระคุณเจ้าโปรดแสดงธรรม อนุเคราะห์ด้วยเถิด

อาราธนาพระปริตร

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะทุกขะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะภะยะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะโรคะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

ขอท่านทั้งหลาย จงสวดพระปริตรอันเป็นมงคลเพื่อป้องกันความวิบัติ เพื่อความสำเร็จแห่งสมบัติทั้งปวง เพื่อให้ทุกข์ทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้ภัยทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้พวกมึงทั้งหมดพินาศไป

อาราธนาศีลห้า

มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ทุติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ตะติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

(ถ้าคนเดียวขึ้นต้นว่า "อะหัง ภันเต วิสุง วิสุง" และลงท้ายว่า "ยาจามิ")

ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอศีลห้า พร้อมทั้งพระรัตนตรัย เพื่อรักษาเป็นข้อๆ แม้ครั้งที่ 2 แม้ครั้งที่ 3

สมาทานศีลห้า

ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการฆ่าสัตว์ และเบียดเบียนสัตว์

อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการลักทรัพย์

กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการประพฤติผิดในกาม

มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการพูดเท็จ พูดยุยงให้เขาแตกกัน พูดคำหยาบ และพูดเพ้อเจ้อ

สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการดื่มสุรา และของมึนเมาต่างๆ

อาราธนาธรรม

พรหมา จะ โลกาธิปะติ สะหัมปะติ กัตอัญชะลี อันธิวะรัง อะยาจะถะ สันธีตะ สัตตาป ปะรักชักขะ ชาติกา เทเสตุ ธัมมัง อะนุกัมปิมัง ปะชัง

ท้าวสหัมบดีแห่งโลก ได้ประคองอัญชลีทูลวิงวอนพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐว่า สัตว์ผู้มีธุลีในดวงตาน้อย มีอยู่ในโลกนี้ ขอพระคุณเจ้าโปรดแสดงธรรม อนุเคราะห์ด้วยเถิด

อาราธนาพระปริตร

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะทุกขะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะภะยะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะโรคะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

ขอท่านทั้งหลาย จงสวดพระปริตรอันเป็นมงคลเพื่อป้องกันความวิบัติ เพื่อความสำเร็จแห่งสมบัติทั้งปวง เพื่อให้ทุกข์ทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้ภัยทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้โรคทั้งหมดพินาศไป

อาราธนาศีลห้า

มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ทุติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

ตะติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ, ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ

(ถ้าคนเดียวขึ้นต้นว่า "อะหัง ภันเต วิสุง วิสุง" และลงท้ายว่า "ยาจามิ")

ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอศีลห้า พร้อมทั้งพระรัตนตรัย เพื่อรักษาเป็นข้อๆ แม้ครั้งที่ 2 แม้ครั้งที่ 3

สมาทานศีลห้า

ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการฆ่าสัตว์ และเบียดเบียนสัตว์

อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการลักทรัพย์

กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการประพฤติผิดในกาม

มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการพูดเท็จ พูดยุยงให้เขาแตกกัน พูดคำหยาบ และพูดเพ้อเจ้อ

สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการดื่มสุรา และของมึนเมาต่างๆ

อาราธนาธรรม

พรหมา จะ โลกาธิปะติ สะหัมปะติ กัตอัญชะลี อันธิวะรัง อะยาจะถะ สันธีตะ สัตตาป ปะรักชักขะ ชาติกา เทเสตุ ธัมมัง อะนุกัมปิมัง ปะชัง

ท้าวสหัมบดีแห่งโลก ได้ประคองอัญชลีทูลวิงวอนพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐว่า สัตว์ผู้มีธุลีในดวงตาน้อย มีอยู่ในโลกนี้ ขอพระคุณเจ้าโปรดแสดงธรรม อนุเคราะห์ด้วยเถิด

อาราธนาพระปริตร

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะทุกขะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะภะยะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะโรคะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

ขอท่านทั้งหลาย จงสวดพระปริตรอันเป็นมงคลเพื่อป้องกันความวิบัติ เพื่อความสำเร็จแห่งสมบัติทั้งปวง เพื่อให้ทุกข์ทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้ภัยทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้พวกมึงทั้งหมดพินาศไป

ฝากนะเผื่อใครรำคาญแก๊งค์พวกเหี้ยนี่ "ห้องปรึกษาสารพัดปัญหาของนักเขียน". Visit the link below to join the OpenChat.
https://line.me/ti/g2/MMI-aoU_3e9tb5UU3M3rNg?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

ฝากนะเผื่อใครรำคาญแก๊งค์พวกเหี้ยนี่ "ห้องปรึกษาสารพัดปัญหาของนักเขียน". Visit the link below to join the OpenChat.
https://line.me/ti/g2/MMI-aoU_3e9tb5UU3M3rNg?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

สูตรอาหาร เมนูอาหาร สำหรับวันนี้ ขอแนะเสนอ อาหารง่ายๆ เมนูข้าวอบ คือ ข้าวอบกุนเชียง เคล็ดลับความอร่อยของ ข้าวอบกุนเชียง คือ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตียมอาหาร และ การปรุงรสชาติ อาหารทานง่าย รสอร่อย กินได้ทุกเพศ ทุกวัย

สูตรข้าวอบกุนเชียง ส่วนผสมและขั้นตอนการทำอาหารเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรัก การทำอาหาร เมนูกุนเชียง

ส่วนประกอบสำหรับทำข้าวอบกุนเชียง

ข้าวสาร หุงสุก 1 ถ้วยตวง
กุนเชียง 1 ท่อน นำมาหั่นเป็นชิ้นขนาดพอดีคำ
เนื้อหมู 1 จาน นำมาหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ
กุ้ง 4-5 ตัว นำมาแกะเปลือกและผ่าหลัง
กระเทียม 4-5 กลีบ
ขิง 2-3 ชิ้น โดยนำมาซอยเป็นแว่น
เห็ดหอม 2-3 ดอก นำมาหั่นเป็นชิ้นขนาดพอคำ
ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต้ะ
ซอสถั่วเหลือง 2 ช้อนโต้ะ
ต้นหอม 1 ต้น นำมาซอย
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต้ะ สำหรับผัด
วิธีทำข้าวอบกุนเชียง

เริ่มจากการเตรียมข้าวก่อน นำข้าวมาหุงสุก จากนั้นนำมาผึ่งลม หรือ แช่ตู้เย็นก่อน 1 คือ ให้ข้าวแห้งไม่อมความชื้น
เริิ่มทำโดย ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน จากนั้นใส่ กระเทียม เห็ดหอม และ ขิง ลงไปผัดให้หอม
ปรุงรสด้วย ซอสน้ำมันหอย ซอสถั่วเหลือง
ใส่ กุนเชียง เนื้อหมู และ กุ้ง ลงไปผัด โดยผัดให้พอสุก จากนั้นให้นำข้าวหุงสุก ที่เตรียมไว้ ลงไปผัด เมื่อผัดได้ที่ให้นำส่วนผสมทั้งหมดในกระทะ ลงไปอบในหม้อที่เตรียมเอาไว้
อบข้าวสักพัก ก็สามารถเสริฟได้ โดยดรยหน้า ด้วยต้นหมอ ทานคู่กับ พริกน้ำปลา
เคล็ดลับความอร่อยของข้าวอบกุนเชียง

สำหรับ ข้าวสาร ให้เลือกใช้ ข้าวหอมมะลิเก่า เวลานำไปหุงจะได้ข้าวเป็นเม็ดสวย น่ารับประทาน
เทคนิคการเตรียมข้าว สำหรับ เมนูข้าวอบกุนเชียง คือ ให้หุงข้าวให้สุกก่อน จากนั้นนำไปแช่เย็น ให้ข้าวคลายความชื้นก่อน เวลานำมาผัด จะได้ข้าวที่นุ่มอร่อย ไม่เละ
ข้อควรระวังในการเตรียมข้าว ห้ามน้ำข้าวที่พึ่งหุงสุกใหม่ๆมาผัด เนื่องจากข้าวร้อน และ มีความชื้นสูง เวลานำมาทำอาหาร จะเละ ไม่น่ารับประทาน
กุนเชียง สำหรับ เมนูนี้ สามารถนำมาอบให้สุกก่อนได้ หรือ จะผัดต้อนทำอาหารเลยด็ได้
น้ำมัน ที่ใช้ในการนำมาทำอาหาร ให้เลือกใช้น้ำมันใหม่ เท่านั้น ห้ามเอาน้ำมันเก่ามาทำอาหาร น้ำมันที่ผ่านการทำอาหารมาแล้ว มีกลิ่นของอาหาร ที่ทำให้เสียรสชาติของอาหาร
เห็ดหอม ให้เลือกใช้ เห็ดหอมแห้ง นำมาแช่น้ำให้อ่อน และ ล้างให้สะอาด ก่อน นำมาทำอาหาร
ข้าวอบกุนเชียง สูตรอาหาร แสนอร่อยๆ เมนูกุนเชียง วิธีทำข้าวอบกุนเชียง ง่ายๆ สามารถทำกินเองที่บ้างได้ เมนูข้าวอบ กุนเชียงทำอะไรกินดี มีกุนเชียงทำอะไรกินได้บ้าง อาหารจานเดียว เมนูข้าว แสนอร่อย

อาหาร ยอดนิยม สำหรับวันนี้ นำเสนอ อาหารพื้นบ้าน อาหารใต้ เอาใจคนรักสุขภพา คือ ข้าวยำกะปิหวาน สำหรับข้าวยำนั้น น้ำยำส่วนมากจะเป็นน้ำบูดู แต่ในบางคนที่ไม่นิยมน้ำบูดู ให้ลองปรับมาใช้กะปิดูได้ เคล็ดลับการทำข้าวยำกะปิหวาน คือ วัตถุดิบคุณภาพ สดๆ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาติของน้ำยำ

สูตรข้าวยำกะปิหวาน ส่วนผสมและขั้นตอนการทำอาหารเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูสุขภาพ

ส่วนผสมสำหรับทำข้าวยำ

ข้าวกล้องหุงสุก 1 จาน
งาดำคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
กุ้งแห้งป่นละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
พริกป่น 2 ช้อนโต๊ะ
มะนาว 1 ลูก หั่นเป็นชื้นเล็กๆ
มะพร้าวขูดคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
ตะไคร้ซอยบางๆ 2 ช้อนโต๊ะ
ถั่วงอก หนึ่งหยิบมือ
ใบมะกรูด2 ช้อนโต๊ะ ซอยเล็กๆ
ใบบัวบก 2 ช้อนโต๊ะ ซอยเล็กๆ
ใบชะพลู 2 ช้อนโต๊ะ ซอยเล็กๆ
เนื้อส้มโอ 2 ช้อนโต๊ะ
มะม่วง 2 ช้อนโต๊ะ ซอยเป็นเส้นๆ
ถั่วฝัก 2 ช้อนโต๊ะ ซอยเล็กๆ
น้ำเปล่า 3 ถ้วยตวง
กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมบดละเอียด 1 ช้อนโต้ะ
หอมแดง 2 หัว ทุบพอบุบ
ตะไคร้ 1 ต้น หั่นหยาบๆ
ข่าแก่ 2 ต้น
มะกรูด 1 ลูก นำมาผ่าครึ่งเอาเม็ดออก
เนื้อปลาอินทรีเค็มทอด 1 ตัว
กะปิ 2 ช้อนโต้ะ
น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต้ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต้ะ
น้ำมะกรูด 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำข้าวยำ

เริ่มจากการทำกะปิหวานก่อน โดยตั้งหม้อต้มน้ำเปล่าให้เดือด จากนั้นใส่ กระเทียม หอมแดง ตะไคร้ ข่า และ ลูกมะกรูด ต้มในนำเดือด แต่เริ่มจากไฟอ่อนๆ ให้น้ำหอมสมุนไพรก่อน
จากนั้นจึงใส่ ปลาอินทรีย์ทอดเค็มลงไป เคี่ยวสักพัก ประมาณ 15 นาที จากนั้นให้กรองเอาแต่น้ำ
นำน้ำที่ได้จากการกรอง มาปรุงรสด้วย กะปิ น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย และ น้ำมะกรูด เคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ จนน้ำเริ่มเหนียว ก็ให้ปิดไฟและพักให้เย็นก่อน เพียงเท่านี้ก็พร้อมสำหรับกะปิหวาน สำหรับข้าวยำ
เริ่มจัดจาน โดย ให้ข้าวหุงสุกอยู่ตรงกลาง และ จัดเครื่องเคียงในจานเดียวกัน ประกอบด้วย กุ้งแห้งป่น พริกป่น งาดำคั่ว มะนาว มะพร้าวขูดคั่ว ตะไคร้ ถั่วงอก ใบมะกรูด ใบบัวบก ใบชะพลู เนื้อส้มโอ มะม่วง และ ถั่วฝัก
เคล็ดลับการทำข้าวยำ

การปรุงรสชาติของกะปิหวาน ต้องใช้ไฟอ่อนๆเคี้ยวสมุนไพรก่อน ให้ความร้อนเบาๆให้สมุนไพรคายน้ำมันหอมระเหยก่อน จะได้น้ำกะปิหวาน ที่หอมสมุนไพร และ มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
ผักที่นำมาทำเครื่องเคียง ต้องเลือกใช้ผักสดๆ จึงจะอร่อยที่สุด
กุ้งแห้ง ให้นำไปล้างน้ำให้สะอาดก่อน เพื่อไม่ให้มีสิ่งสกปรกเจือปน เมื่อล้างแล้วให้นำไปอบให้แห้งอีกครั้ง จึงนำมาทำอาหาร จึงได้กุ้งแห้งที่ดีต่อสุขภาพ
นำกะปิหวาน ต้องกรองด้วยผ้าขาวบางให้สะอาด อย่าให้มีสิ่งสกปรกเจือปน ก่อนนำมารับประทาน
งาดำคั่ว ต้องคั่วแบบสดๆ จึงจะได้งาที่หอมอร่อย หากน้ำงาคั่วค้างคืนมาทำจะทำให้ไม่หอม
ข้าวยำ ข้าวยำกะปิหวาน คือ อาหารพื้นบ้าน อาหารของภาคใต้ คุณค่าทางโภชนาการสูง วิธีทำข้าวยำ ง่ายๆสามารถทำกินเองที่บ้านได้ เคล็ดลับการทำข้าวยำ คือ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสน้ำยำ

อาหารไทย สูตรอาหาร เมนูอาหารยอดนิยม สำหรับวันนี้ ขอนำเสนอ ต้มยำ คือ ต้มยำขาหมู สำหรับเมนูนี้มีเคล็ดลับความอร่อย อยู่ที่ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาติ ต้มยำขาหมูอร่อยๆ ต้องได้ขาหมูนุ่มๆ และ น้ำต้มยำสูตรเข้มข้น

สูตรขาหมูต้มยำ ส่วนผสมและขั้นตอนการทำอาหารเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูแกง

ส่วนผสมสำหรับทำต้มยำขาหมู

ขาหมู และ ตีนหมู 1 กิโลกรัม หั่นเป็นชิ้นขนาดพิดคำ
ตะไคร้ 1 ต้น หั่นเป็นท่อนๆ
พริกขี้หนูสวน 10 เม็ด โขรกพอหยาบๆ
เห็ดฟาง 5-6 ดอกหั่นชิ้นๆ
ใบมะกรูด 5 ใบฉีกเอาเส้นกลางออก
หอมแดง 2 หัว บุบให้พอแตก
ข่า 1 หัว ซอยเป็นชิ้น
น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต้ะ
น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
ผักชีฝรั่ง 1 ต้น ซอยเล็กๆ
น้ำเปล่า 1 หม้อ ประมาณ 3 ลิตร
วิธีทำต้มยำขาหมู

เริ่มจากการล้างขาหมูให้สะอาด เอาไฟเผาขนให้หมด จากนั้นนำไปต้มให้ขาหมูนุ่ม ต้มใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เมื่อได้เนื้อขาหมูนุ่มได้ที่แล้ว ให้พักเอาไว้ก่อน
เริ่มทำต้มยำ โดย ต้มน้ำให้เดือด จากนั้นใส่ ข่า ตะไคร้ พริกขี้หนูสวน หอมแดง และ ใบมะกรูด ลงไปต้ม ต้มด้วยไฟอ่อนๆ ให้น้ำค่อยๆเดือด และ มีกลิ่นกอม
ใส่ เห็ดฟาง ลงไปต้ม และ ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำมะขามเปี๊ยก
ใส่ขาหมูต้มลงไปในน้ำแกง ปิดไฟ ใส่ผักชีฝรั่งซอย และ เติมน้ำมะนาว ให้ได้รสของต้มยำ
เคล็ดลับการทำต้มยำขาหมู

การเลืิอกขาหมู ให้ใช้ขาหมูที่สดใหม่ และล้างให้สะอาด เผาขนออกให้หมด ต้องไม่ให้เหลือขนหมู เพราะ ขนหมูแข็ง เวลากินแล้วไม่น่ารับประทาน
น้ำซุปสำหรับต้มนำ ใช้น้ำเปล่าได้ แต่หากให้อร่อยที่สุด ต้องใช้น้ำซุปกระดูกหมู
ขาหมูมีมันมาก หากต้มขาหมูในน้ำแกงเลย จะทำให้มันหมูออกมา และ ทำให้ต้มยำขาหมูมัน และ ค้นน้ำมันหมูมากเกินไป เทคนิคการทำอาหารเมนูขาหมูให้ไม่มันเกินไป คือ ค้มขาหมูแยกต่างหาก ให้สุกและนุ่มน่ารับประทาน ก่อนที่จะนำมาใส่ในแกงต้มยำ
ต้มยำ นั้นเทคนิคอยู่ที่การใช้ไฟ ในช่วยแรกใส่ ข่า ตะไคร้ ใบมะกรุดลงไปต้ม ให้ใช้ไฟอ่อนๆ เพื่อให้ความหอมของ สมุนไพร ออกมาเต็มที่ หากใช้ไฟแรงเลย น้ำซุปจะไม่หอมกลิ่นข่า ตะไคร้ และใบมะกรูด
พริกสด เราใช้พริกขี้หนูสวนและพริกชี้ฟ้า ผสมกัน เพื่อให้สีสันและรสชาติของพริกออกมาเต็มที่
ต้มยำขาหมู คือ อาหารไทย เมนูแกง วิธีทำต้มยำขาหมู ง่ายๆสามารถทำกินเองที่บ้านได้ เมนูต้มยำ ต้มยำใส่ขาหมู สูตรต้มยำขาหมู ส่วนผสมและขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยาก เหมาะสำหรับคนชอบทำอาหาร ขาหมูต้มยำ

อาหาร สูตรอาหารยอดนิยม สำหรับวันนี้ ขอนำเสนอ เมนูผัดเปรี้ยวหวาน เมนูปลา คือ ผัดเปรี้ยวหวานปลา ภาษาอังกฤษ เรียก Sweet and Sour fried with fish อาหารที่รสชาติหวานอมเปรี้ยว สามารถกินได้ ทุกเพศ ทุกวัย ทุกชาติ ทุกศาสนา เคล็ดลับการทำผัดเปรี้ยวหวานปลา คือ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาติ

สูตรผัดเปรี้ยวหวานปลา ส่วนผสมและขั้นตอนการทำอาหารเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูปลาผัด

ส่วนผสมสำหรับทำ ผัดเปรี้ยวหวานปลา

ปลานิล 1 ตัว แล่เนื้อปลาและหั่นเป็นชิ้นขนาดพอดีคำ
แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต้ะ
มะเขือเทศ 1 ลูก หั่นเป็นชิ้นขนาดพอดีคำ
พริกหวาน 1 ลูก หั่นเป็นชิ้น
พริกหยวกสีต่างๆ นำมาหั่นเป็นชั้นขนาดพอดีคำ
หอมหัวใหญ่ ครื่งลูก หั้นเป็นชิ้นใหญ่ๆ
กระเทียม 2 กลีบ บดให้ละเอียด
ต้นหอม 1 ต้น หั่นหยาบๆ
แครอท หั่นเป็นลูกเต๋า 2 ช้อนโต้ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
ซอสมะเขือเทศ 1 ช้อนโต๊ะ
ซอสพริก 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำปล่า 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืชสำหรับผัดและทอด
วิธีทำผัดเปรี้ยวหวานปลา

เรื่มจากการล้างปลาให้สะอาด จากนั้นแล่เนื้อปลาเป็นชิ้นๆ คลุกแป้งข้าวโพด
ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน นำเนื้อปลาลงไปทอด ให้สุกกรอบ เหลือง น่ารับประทาน จากนั้นนำไปพักเอาไว้ก่อน ให้เย็นก่อน
เริ่มซอสเปรี้ยวหวาน โดยตั้งกระทะน้ำมัน นำกระเทียมลงไปผัดให้หอม จากนั้นปรุงรส ด้วย น้ำปลา น้ำตาลทราย ซอสพริก ซอสมะเขือเทศ และ น้ำเปล่า ผัดให้ส่วนผสมเข้ากัน
จากนั้นใส่ผักต่างๆ ที่เตรียมไว้ลงไปผัด ประกอบด้วย พริกหวาน พริกหยวก แครอท มะเขือเทศ และ หอมหัวใหญ่
ใส่แป้งข้าวโพดผสมน้ำ 2 ช้อนโตะลงไปผัด ให้น้ำซอสเหนียว
ใส่เนื้อปลาทอดลงไปผัด คลุกเคล้าให้เข้ากับซอส ใส่ต้นหอมลงไปผัด ปิดไฟ
เสริฟ ผัดเปรี้ยวหวาน ทานคู่กับ ข้าวสวยร้อนๆ
เคล็ดลับการทำปลาผัดเปรี้ยวหวาน

การเลือกปลา ให้เลือกปลาที่สดๆใหม่ โดยเทคนิคการเลือกปลา คือ เลือกปลาที่เหงือกแดงสด ตาปลาใส และ ลักษณะของตัวปลาสมบูรณ์
การเตรียมปลา ให้ล้างปลาให้สะอาด ไม่ให้มีเมือกและเลือดติดมากับปลา เพราะ จะทำให้ปลาคาว โดยเทคนิคการล้างปลา ให้เกลือล้างปลา หรือ ใช้ แป้งมันถูที่ตัวปลา และ ล้างออก
การผัดเนื้อปลา เนื่องจากเนื้อปลาหากสุกจะเละ และ แตกง่าย ทำให้ไม่น่ารับประทาน ให้ใช้เทคนิคการนำปลาลงไปทอดให้กรอบที่ผิวนอกก่อน จะทำให้เนื้อปลาไม่เละ
เนื้อปลาทอดให้กรอบนอกนุ่มใน นั้น เวลานำมาผัดกับซอสเปรี้ยวหวาน ให้ใ่สปลาในขั้นตอนสุดท้าย หรือ ไม่ต้องใส่เนื้อปลาลงไปผัดก็ได้ ให้ราดน้ำผัดเปรี้ยวหวานลงบนปลาทอดเลย
น้ำมันที่ใช้ในการทอดปลา ให้ใช้น้ำมันใหม่ อย่าใช้น้ำมันเก่ามาทอดซ้ำ จะทำให้อาหารมีกลิ่น ไม่น่ารับประทาน
ผัดเปรี้ยวหวานปลา คือ อาหารผัดจากปลา เมนูปลา วิธีทำผัดเปรี้ยวหวานปลา ง่ายๆสามารถทำกินเองที่บ้านได้ สูตรผัดเปรี้ยวหวานปลา ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูผัด

สูตรน้ำพริกอ่อง ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูหมู

ส่วนผสมสำหรับทำน้ำพริกอ่อง

หมูสับ 3 ขีด
มะเขือเทศ 5-6 ลูก
หอมแดง 2 หัว หั่นเป็นชิ้นๆ
พริกแห้ง 5-6 เม็ด หั่นเป็นชิ้นๆ
ตะไคร้ 1 ต้น ซอยให้ละเอียด
กะปิ 1 ช้อนโต้ะ
เต้าเจี้ยว 1 ช้อนชา
กระเทียม 5-6 กลีบ สับให้ละเอียด
เกลือป่น 1 ช้อนชา
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
ผักสด สำหรับเป็นผักเคียงกับน้ำพริก เช่น แตงกวา มะเขือ ผัดกาดหอม เป็นต้น
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต้ะ
น้ำเปล่า 5 ช้อนโต้ะ
วิธีทำน้ำพริกอ่อง

เริ่มจากการโขรกเครื่องพริกแกงอ่องก่อน โดยใส่ หอมหัวแดง กะปิ กระเทียม เต้าเจี้ยว พริกแห้ง ตะไคร้ โครกส่วนผสมทั้งหมดละเอียด จากนั้นเติมน้ำลงไป และ พักเอาไว้ก่อน
จากนั้นตั้งกระทะน้ำมัน รอให้ไฟร้อน ใส่ พริกแกงอ่อง ลงไปผัดให้สุก เมื่อพริกแกงสุกจะมีกลิ่นหอม จากนั้นจึงใส่หมูสับลงไปผัด ผัดให้หมูสับสุก
จึงใส่มะเขือเทศลงไปผัด ปรุงรสด้วย น้ำตาลปี๊บ เกลือป่น และใส่ น้ำเปล่านิดหน่อย ผัดให้ส่วนผสมสุก ปิดไฟ
เสริฟใส่น้ำพริกใส่ถ้วยน้ำพริก พร้อมด้วยผักสดๆ
น้ำพริกอ่อง ภาษาอังกฤษ เรียก Northern thai meat and tomato spicy dip เป็น น้ำพริก รสชาติอร่อย แบบฉบับของชาวเหนือ รสหวานของหมู รสเปรี้ยวของมะเขือเทศ ทำให้น้ำพริก เมนูน้ำพริกอ่อง ไม่น่าเบื่อ

สูตรผัดสะตอปลา ส่วนผสมและขั้นตอนการทำอาหารเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูสะตอ

ส่วนผสมสำหรับทำปลาผัดสะตอ

เนื้อปลาช่อน 10-15 ชิ้น หั่นให้เป็นชิ้นขนาดพอดีคำ
สะตอ 10-15 เม็ด นำมาผ่าครึ่ง
หอมแดงหัวแดง 1 หัว นำมาซอย
กระเทียม 2-3 กลีบ นำมาซอย
พริกขี้หนูสวน 5-6 เม็ด นำมาซอย
กะปิ 1 ช้อนชา
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
ใบมะกรูดซอย 3 ใบ
น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช สำหรับผัด 2 ช้อนโต้ะ
วิธีทำปลาผัดสะตอ

เริ่มจากการล้างปลาให้สะอาดก่อน และนำมา ลวกในน้ำเดือด ให้สุก และ นำมาพักเอาไว้ก่อน
ทำพริกแกง โดยเตรียมครก ใส่ พริกขี้หนูสวน หอมหัวแดง กระเทียม และ กะปิ นำมาโขรกให้ละเอียด
เริ่มผัด โดย ตั้งกระทะใส่น้ำมัน รอให้ร้อน จากนั้น ใส่พริกแกงลงไปผัด ผัดให้หอม
จากนั้น ใส่ สะตอและใบมะกรูดลงไปผัด ปรุงรสด้วย น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา เติมน้ำลงไปนิดหน่อย ผัดให้ส่วนผสมเข้ากัน และ ชิมรสชาติให้ได้รสชาติที่ต้องการ
จากนั้น ใส่ปลาลงไป และ ผัดเบาๆ ปิดไฟ และ เสริฟใส่จานพร้อมรับประทาน
เคล็ดลับการทำผัดสะตอ

สะตอ ให้เลือดสะตอสดๆ และ นำมาล้างให้สะอาด ก่อนนำมารับประทาน
กะปิ ใช้ กะปิระยอง จะมีรสชาติเค็ม อร่อย
การเลือกปลา ให้เลือกใช้ปลาสดๆ โดย เทคนิคการเลือกปลา ให้ดูที่ตาปลา ต้องใส เหงือกแดง และ เนื้อแน่น เด้งตึง สภาพปลาภายนอกสมบุรณ์ และ เมื่อได้ปลา มาแล้วให้ล้างให้สะอาด อย่าให้เหลือเมือกและเลือดติดกับตัวปลา จะทำให้ปลาไมคาว
การทำอาหารประเภทเนื้อปลา เนื้อปลา มีลักษณะสุกง่าย และ เละง่าย พร้อมกับมีความคาว เทคนิคการทำ คือ ให้นำปลามาล้างให้สะอาด จากนั้น ทำให้เนื้อปลาสุกก่อน โดยต้มน้ำใส่ตะไคร้ ข่า และ นำเนื้อปลาลงไปลวกให้สุก จะทำให้ความคาวไม่ติดกับอาหาร และ เมื่อได้เนื้อปลาสุก ให้นำไปคลุกกับอาหาร เบาๆ เพื่อไม่ให้เนื้อปลาแตก เละ
ผัดสะตอปลา คือ อาหารไทย อาหารพื้นบ้าน ของภาคใต้ เมนูปลา วิธีทำผัดสะตอปลา ง่ายๆ สามารทำกินเองที่บ้านได้ เมนูผัด กับข้าวจากสะตอ มีสะตอทำอะไรกินดี กับข้าวจากปลา เคล็ดลับการทำอาหาร เมนูปลา คือ เทคนิคการเตรียมอาหาร

สูตรน้ำพริกโจร ส่วนผสมและขั้นตอนการทำอาหารเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูน้ำพริก

ส่วนผสมสำหรับทำน้ำพริกหยำ

กุ้งสดๆ 5-10 ตัว ให้แกะเปลือก ตัดหัว ตัดหาง และ ผ่าเส้นที่หลังออก
กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูบด 2 ช้อนโต้ะ
ต้นหอมซอย 1 ต้น
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1 ช้อนชา
ผักสด สำหรับทานเป็นผักเคียงใช้ทานคู่กับน้ำพริก เช่น แตงกวา มะเขือเปาะ เป็นต้น
วิธีทำน้ำพริกหยำ

เริ่มจาก เมื่อเราแกะกุ้งพร้อมแล้ว ล้างให้สะอาด และ นำกุ้งลงไปลวกในน้ำเดือดๆ จากนั้นนำเนื้อกุ้งลวกไปสับให้พอหยาบๆ
นำกะปิมาห่อด้วยในตอง และ นำไปย่างให้สุก
เตรียมทำน้ำพริก โดยเตรียมครก ใส่ พริก กะปิ น้ำมะนาว เกลือป่น และ น้ำตาลปี๊บ มาโขรกให้ส่วนผสมละลายเข้ากัน
จากนั้น นำเนื้อกุ้งลวก ใส่ลงไปผสม ตามด้วย ต้นหอม คลุกเคล้าให้กุ้งเข้ากับส่วนผสม
เสริฟน้ำพริกใส่ถ้วยน้ำพริก พร้อมด้วยผักเคียงตามใจชอบ
เคล็ดลับการทำน้ำพริกโจร

สำหรับการเลือกกุ้ง ต้องเลือกกุ้งที่สดๆ โดยเทคนิคการเลือกกุ้ง เอากุ้งขนาดกลาง ตัวกุ้งสมบูรณ์ หัวไม่หลุด เปลือกกุ้งติดกับเนื้อกุ้ง เนื้อกุ้งแน่น ไม่นุ่ม ที่สำคัญไม่มีกลิ่นเน่า
การเลือกซื้อกะปิ ให้เลือกใช้กะปิคลองโคลน เป็นกะปิชั้นดี กลิ่นหอม การเตรียมกะปิสำหรับทำน้ำพริก ให้นำกะปิไปห่อใบตองและนำไปย่างให้กะปิสุก ให้กลิ่นหอม การทำเช่นนี้เพื่อให้กะปิสุก และ ให้กลิ่นหอม เวลานำมาทำน้ำพริกจะทำให้ไม่บูดง่าย
การเลือกใช้พริก สำหรับนำมาทำน้ำพริก ให้ใช้พริกขี้หนูสวน ความเผ็ดของพริกขี้หนูสวนจะให้รสชาติของอาหารได้ดี
น้ำตาลสำหรับทำน้ำพริก ให้เลือกใช้น้ำตาลปี๊บ ความหวาน หอม จะเหมาะสำหรับนำมาทำอาหารไทย
เทคนิคการลวกเนื้อกุ้ง เนื่องจากเนื้อกุ้งสุกง่าย และ หากเนื้อกุ้งสุกเกินไป จะแข็ง และหยาบกระด้าง ไม่อร่อย จึงควรลวกกุ้งไม่ให้สุกเกินไป ลวกพอสะดุ้งน้ำเดือดพอ
อาหารคลีน สำหรับคยรักสุขภาพ กินไม่อ้วน อาหารสำหรับการลดน้ำหนัก วิธีทำ สูตรอาหาร เมนูน้ำพริก น้ำพริกทำอย่างไร น้ำพริก แบบไทยๆ อาหารง่ายๆ อาหารไทย กับข้าวจากกุ้ง อาหารสุขภาพ เมนูน้ำพริกจากกุ้ง

น้ำพริกหยำ หรือ น้ำพริกโจร คือ อาหารปักษ์ใต้ เมนูน้ำพริก อาหารพื้นบ้าน วิธีทำน้ำพริกโจร ง่ายๆ สามารถทำกินเองที่บ้านได้ น้ำพริกจากกุ้ง กุ้งทำอะไรกินได้บ้าง สูตรน้ำพริกหยำ สูตรน้ำพริกโจร ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูน้ำพริก

สูตรน้ำพริิกผัดทูน่า ส่วนผสมและขั้นตอนการทำอาหารเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูน้ำพริก

เมนูปลาทูน่า เป็น เมนูอาหาร สำหรับคนกินคลีน อาหารที่ ไม่มีไขมัน มาก ในขณะที่ให้โปรตีน และ โอเมก้า3 ที่มี สารต้านอนุมมูลอิสระ มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เราจึงคิด สูตรน้ำพริก เมนูปลาทูน่า สำหรับสาวๆ คนรักการกินคลีน

ส่วนผสมสำหรับทำน้ำพริกผัดทูน่า

เนื้อปลาทูน่ากระป๋อง 2 กระป๋อง
พริกแห้งเม็ดใหญ่ 5-10 เม็ด
กระเทียม 4-5 กลีบ
หัวหอมแดง 2 หัว
ถั่วลิสงคั่ว 2 ช้อนโต้ะ โขรกแบบหยาบๆ
น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต้ะ
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต้ะ
เกลือป่น 1 ช้อนชา
ผักสดๆ สำหรับทานเป็นผักเคียงกับน้ำพริก เช่น แตงกวา มะเขือเปาะ เป็นต้น
วิธีทำน้ำพริกคั่วทูน่า

เริ่มจากการนำพริกแห้งมาหั่น และ เอาเมล็ดออก จากนั้นนำไปแช่น้ำให้นุ่ม
เตรียมกระทะน้ำมัน ให้ร้อนจากนั้นนำหอมแดงลงไปเจียว ให้เหลืองกรอบ
จากนั้นเจียวกระเทียมให้เหลืองกรอบเช่นกัน
เตรียมครก นำพริกแห้งไปโขรกให้ละเอียด จากนั้น ปรุงรสด้วย น้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก และ เกลือป่น
จากนั้น ตั้งกระทะให้ร้อน นำส่วนผสมในครกลงไปผัด ตามด้วยเนื้อปลาทูน่า ผัดแบบคั่ว ให้เนื้อปลาเข้ากับส่วนผสม และ ให้แห้ง ผัดประมาณ 45 นาที ด้วยไปกลางๆ เมื่อน้ำพริกในกระทะเริ่มแห้ง ให้ใส่ กระเทียมเจียว หอมเจียว และ ถั่วลิงสงคั่ว คลุกเคล้าให้ส่วนผสมเข้ากัน
เสริฟน้ำพริกใส่ถ้วยน้ำพริก พร้อมด้วยผักเคียง สดๆ
เคล็ดลับการทำน้ำพริกผัดทูน่า

การเลือกเนื้อปลาทูน่า ให้เลือกเนื้อปลาทูน่าในน้ำมัน ซึ่งจะมีเนื้อปลาที่รสชาติจืด เวลานำมาผัดหรือคั่วจะกรอบง่าย และรสชาติเหมาะสำหรับปรุงรสน้ำพริก
การเลือกใช้น้ำตาล สำหรับน้ำตาลที่เหมาะสมสำหรับนำมาทำเป็นน้ำตาลปี๊บ ความหวานและความหอมของน้ำตาล เหมาะสำหรับนำมาทำน้ำพริก
การเลือกถั่วลิสงคั่ว ต้องเลือกใช้ถั่วลิสงคั่วแบบสดๆ วันต่อวัน แนะนำว่าให้นำถั่วลิงสงมาคั่วเอง จะได้ความหอมของถั่วทำให้รสชาติของอาหารออกมาอย่างเต็มที่
การเจียวหอมแดง เทคนิคการทำให้หอมเจียวกรอบ คือ ให้ทอดสองครั้ง การทอดครั้งแรกแค่พอสุก ส่วนการทอดครั้งที่สองไม่ต้องทอดนาน จะให้ความกรอบ
การคั่วพริกแห้ง เพื่อให้ พริกแห้งให้ความหอม อย่างเต็มที่
น้ำพริกผัดทูน่า คือ อาหารไทย เมนูน้ำพริก เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า น้ำพริกคั่วทูน่า วิธีทำน้ำพริกคั่วทูน่า ง่ายๆ สามารถทำกินเองที่บ้านได้ เมนูปลาทูน่า ปลาทะเลคุณค่าทางอาหารสูง ปลาทูทำอะไรกินได้บ้าง ปลาทูทำอะไรกินดี เมนูปลา น้ำพริกจากปลาทู เมนูน้ำพริก อาหารสุขภาพ ลดความอ้วน

สูตรน้ำพริิกผัดทูน่า ส่วนผสมและขั้นตอนการทำอาหารเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูน้ำพริก

เมนูปลาทูน่า เป็น เมนูอาหาร สำหรับคนกินคลีน อาหารที่ ไม่มีไขมัน มาก ในขณะที่ให้โปรตีน และ โอเมก้า3 ที่มี สารต้านอนุมมูลอิสระ มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เราจึงคิด สูตรน้ำพริก เมนูปลาทูน่า สำหรับสาวๆ คนรักการกินคลีน

ส่วนผสมสำหรับทำน้ำพริกผัดทูน่า

เนื้อปลาทูน่ากระป๋อง 2 กระป๋อง
พริกแห้งเม็ดใหญ่ 5-10 เม็ด
กระเทียม 4-5 กลีบ
หัวหอมแดง 2 หัว
ถั่วลิสงคั่ว 2 ช้อนโต้ะ โขรกแบบหยาบๆ
น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต้ะ
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต้ะ
เกลือป่น 1 ช้อนชา
ผักสดๆ สำหรับทานเป็นผักเคียงกับน้ำพริก เช่น แตงกวา มะเขือเปาะ เป็นต้น
วิธีทำน้ำพริกคั่วทูน่า

เริ่มจากการนำพริกแห้งมาหั่น และ เอาเมล็ดออก จากนั้นนำไปแช่น้ำให้นุ่ม
เตรียมกระทะน้ำมัน ให้ร้อนจากนั้นนำหอมแดงลงไปเจียว ให้เหลืองกรอบ
จากนั้นเจียวกระเทียมให้เหลืองกรอบเช่นกัน
เตรียมครก นำพริกแห้งไปโขรกให้ละเอียด จากนั้น ปรุงรสด้วย น้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก และ เกลือป่น
จากนั้น ตั้งกระทะให้ร้อน นำส่วนผสมในครกลงไปผัด ตามด้วยเนื้อปลาทูน่า ผัดแบบคั่ว ให้เนื้อปลาเข้ากับส่วนผสม และ ให้แห้ง ผัดประมาณ 45 นาที ด้วยไปกลางๆ เมื่อน้ำพริกในกระทะเริ่มแห้ง ให้ใส่ กระเทียมเจียว หอมเจียว และ ถั่วลิงสงคั่ว คลุกเคล้าให้ส่วนผสมเข้ากัน
เสริฟน้ำพริกใส่ถ้วยน้ำพริก พร้อมด้วยผักเคียง สดๆ
เคล็ดลับการทำน้ำพริกผัดทูน่า

การเลือกเนื้อปลาทูน่า ให้เลือกเนื้อปลาทูน่าในน้ำมัน ซึ่งจะมีเนื้อปลาที่รสชาติจืด เวลานำมาผัดหรือคั่วจะกรอบง่าย และรสชาติเหมาะสำหรับปรุงรสน้ำพริก
การเลือกใช้น้ำตาล สำหรับน้ำตาลที่เหมาะสมสำหรับนำมาทำเป็นน้ำตาลปี๊บ ความหวานและความหอมของน้ำตาล เหมาะสำหรับนำมาทำน้ำพริก
การเลือกถั่วลิสงคั่ว ต้องเลือกใช้ถั่วลิสงคั่วแบบสดๆ วันต่อวัน แนะนำว่าให้นำถั่วลิงสงมาคั่วเอง จะได้ความหอมของถั่วทำให้รสชาติของอาหารออกมาอย่างเต็มที่
การเจียวหอมแดง เทคนิคการทำให้หอมเจียวกรอบ คือ ให้ทอดสองครั้ง การทอดครั้งแรกแค่พอสุก ส่วนการทอดครั้งที่สองไม่ต้องทอดนาน จะให้ความกรอบ
การคั่วพริกแห้ง เพื่อให้ พริกแห้งให้ความหอม อย่างเต็มที่
น้ำพริกผัดทูน่า คือ อาหารไทย เมนูน้ำพริก เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า น้ำพริกคั่วทูน่า วิธีทำน้ำพริกคั่วทูน่า ง่ายๆ สามารถทำกินเองที่บ้านได้ เมนูปลาทูน่า ปลาทะเลคุณค่าทางอาหารสูง ปลาทูทำอะไรกินได้บ้าง ปลาทูทำอะไรกินดี เมนูปลา น้ำพริกจากปลาทู เมนูน้ำพริก อาหารสุขภาพ ลดความอ้วน

สูตรน้ำพริิกผัดทูน่า ส่วนผสมและขั้นตอนการทำอาหารเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูน้ำพริก

เมนูปลาทูน่า เป็น เมนูอาหาร สำหรับคนกินคลีน อาหารที่ ไม่มีไขมัน มาก ในขณะที่ให้โปรตีน และ โอเมก้า3 ที่มี สารต้านอนุมมูลอิสระ มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เราจึงคิด สูตรน้ำพริก เมนูปลาทูน่า สำหรับสาวๆ คนรักการกินคลีน

ส่วนผสมสำหรับทำน้ำพริกผัดทูน่า

เนื้อปลาทูน่ากระป๋อง 2 กระป๋อง
พริกแห้งเม็ดใหญ่ 5-10 เม็ด
กระเทียม 4-5 กลีบ
หัวหอมแดง 2 หัว
ถั่วลิสงคั่ว 2 ช้อนโต้ะ โขรกแบบหยาบๆ
น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต้ะ
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต้ะ
เกลือป่น 1 ช้อนชา
ผักสดๆ สำหรับทานเป็นผักเคียงกับน้ำพริก เช่น แตงกวา มะเขือเปาะ เป็นต้น
วิธีทำน้ำพริกคั่วทูน่า

เริ่มจากการนำพริกแห้งมาหั่น และ เอาเมล็ดออก จากนั้นนำไปแช่น้ำให้นุ่ม
เตรียมกระทะน้ำมัน ให้ร้อนจากนั้นนำหอมแดงลงไปเจียว ให้เหลืองกรอบ
จากนั้นเจียวกระเทียมให้เหลืองกรอบเช่นกัน
เตรียมครก นำพริกแห้งไปโขรกให้ละเอียด จากนั้น ปรุงรสด้วย น้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก และ เกลือป่น
จากนั้น ตั้งกระทะให้ร้อน นำส่วนผสมในครกลงไปผัด ตามด้วยเนื้อปลาทูน่า ผัดแบบคั่ว ให้เนื้อปลาเข้ากับส่วนผสม และ ให้แห้ง ผัดประมาณ 45 นาที ด้วยไปกลางๆ เมื่อน้ำพริกในกระทะเริ่มแห้ง ให้ใส่ กระเทียมเจียว หอมเจียว และ ถั่วลิงสงคั่ว คลุกเคล้าให้ส่วนผสมเข้ากัน
เสริฟน้ำพริกใส่ถ้วยน้ำพริก พร้อมด้วยผักเคียง สดๆ
เคล็ดลับการทำน้ำพริกผัดทูน่า

การเลือกเนื้อปลาทูน่า ให้เลือกเนื้อปลาทูน่าในน้ำมัน ซึ่งจะมีเนื้อปลาที่รสชาติจืด เวลานำมาผัดหรือคั่วจะกรอบง่าย และรสชาติเหมาะสำหรับปรุงรสน้ำพริก
การเลือกใช้น้ำตาล สำหรับน้ำตาลที่เหมาะสมสำหรับนำมาทำเป็นน้ำตาลปี๊บ ความหวานและความหอมของน้ำตาล เหมาะสำหรับนำมาทำน้ำพริก
การเลือกถั่วลิสงคั่ว ต้องเลือกใช้ถั่วลิสงคั่วแบบสดๆ วันต่อวัน แนะนำว่าให้นำถั่วลิงสงมาคั่วเอง จะได้ความหอมของถั่วทำให้รสชาติของอาหารออกมาอย่างเต็มที่
การเจียวหอมแดง เทคนิคการทำให้หอมเจียวกรอบ คือ ให้ทอดสองครั้ง การทอดครั้งแรกแค่พอสุก ส่วนการทอดครั้งที่สองไม่ต้องทอดนาน จะให้ความกรอบ
การคั่วพริกแห้ง เพื่อให้ พริกแห้งให้ความหอม อย่างเต็มที่
น้ำพริกผัดทูน่า คือ อาหารไทย เมนูน้ำพริก เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า น้ำพริกคั่วทูน่า วิธีทำน้ำพริกคั่วทูน่า ง่ายๆ สามารถทำกินเองที่บ้านได้ เมนูปลาทูน่า ปลาทะเลคุณค่าทางอาหารสูง ปลาทูทำอะไรกินได้บ้าง ปลาทูทำอะไรกินดี เมนูปลา น้ำพริกจากปลาทู เมนูน้ำพริก อาหารสุขภาพ ลดความอ้วน

สูตรอาหารยอดนิยม สำหรับวันนี้ นำเสนอ อาหารไทยโบราณ เมนูทอด ชื่อ หมูโสร่ง ภาษาอังกฤษ เรียก Fried pork ball with noodle ลักษณะเหมือนลูกชิ้นทอด ใช้หมูหมักปั้นเป็นลูกกลมๆ ห่อและพันด้วยเส้นบะหมี่ให้รอบๆ และ ทอด ให้เส้นกรอบ เนื้อหมูจับตัวเป็นก้อนนุ่ม จิ้มด้วยน้ำจิ้มไก่ หรือ น้ำจิ้มอาจาดแสนอร่อย เคล็ดลับความอร่อยของหมูโสร่ง คือ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร การปรุงรสชาติ และ เทคนิคการทอด

สูตรหมูโสร่ง ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูหมู

ส่วนผสมสำหรับทำหมูโสร่ง

หมูบะช่อ 2 ขีด
หมูสับ 1 ขีด
มันหมูบด 1 ขีด
ไข่ไก่ 1 ฟอง
เส้นบะหมี่ 2 ก้อน
รากผักชี 2 ราก
กระเทียม 4 กลีบ
พริกไทยเม็ด 1 ช้อนโต้ะ
ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต้ะ
น้ำจิ้มอาจาด
แตงกวา 1 ลูกหั่นเป็นชิ้นขนาดพอดีคำ
พริกหนุ่มซอย 3 เม็ด
หอมแดงซอย 1 ลูก
ถั่วลิงสงคั่ว 2 ช้อนโต้ะ
น้ำจิ้มไก่
น้ำมันพืชสำหรับทอด
วิธีทำหมูโสร่ง

เตรียมครก นำ รากผักชี กระเทียม และ พริกไทย โขรกให้ละเอียด
เริ่มหมักหมู โดย นำ หมูบะช่อ หมูสับ และ มันหมูบด ผสมให้เข้ากัน จากนั้นปรุงรสด้วย ซอสปรุงรส รากผักชี กระเทียม และ พริกไทย ผสมให้ส่วนผสมเข้ากัน
ตอกไข่ไก่ลงในเนื้อหมู 1 ฟองนวดผสมให้ส่วนผสมเข้ากัน นำไปหมักในตู้เย็น ให้เนื้อหมูเซ็ตตัวประมาณ 2 ชั่วโมง
จากนั้นนำเนื้อหมูมาปั้นเป็นก้อนกลมๆ และใช้เส้นบะหมี่มาพันให้รอบๆ ให้เป็นก้อน ทำจนหมดหรือตามที่ต้องการ
ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน ลดไฟลงให้ได้ขนาดไฟอ่อน จากนั้นนำหมูโสร่งลงไปทอด ใช้ไปอ่อน ทอดปเรื่อยๆจนหมูสุกและบะหมี่กรอบพอดี
นำขึ้นมาพักให้สะเด็ดน้ำมัน จักใส่จาน ทานกับน้ำจิ้มอาจาด แตงกวา พริก และถั่วลิสงค์ หรือ น้ำจิ้มไก่
เคล็ดลับการทำหมูโสร่ง

ไข่ไก่ จะเป็นส่วนผสมที่ช่วยให้เนื้อหมูจับตัวเป็นก้อน เวลานำมาทอดไม่แตกตัว
น้ำมัน ต้องเลืิอกใช้น้ำมันใหม่ ใช้น้ำมันร้อน ไฟอ่อน ค่อยๆทอด ให้หมูและเส้นบะหมี่สุกพร้อมกัน ได้เนื้อหมูนุ่มเส้นบะหมี่กรอบอร่อย
เนื้อหมูต้องผสมกัน ระหว่างหมูสับและมันหมู เพื่มความเนียนของเนื้อหมูด้วยการใช้หมูบะช่อด้วย จะได้เนื้อหมูที่นุ่มเด่งอร่อย
เนื้อหมู ต้องเลือกใช้หมูสดๆ จะได้อาหารรสชาติที่อร่อยที่สุด
เพื่อป้องกันปัญหาการทอดหมูไม่สุก สามารถนำหมูมาปั้นเป็นก้อนและนึ่งให้สุกก่อน จึงนำมาพันเส้นบะหมี่ก็จะได้เส้นบะหมี่ที่กรอบง่ายกว่า การที่ทอดหมูดิบๆ
การทอดเพื่อไม่ให้หมูโสร่งอมน้ำมัน ต้องทอดขณะที่น้ำมันร้อน หากทอดขณะที่น้ำมันยังไม่ร้อนจะทำให้หมูอมน้ำมันไม่น่ารับประทาน
หมูโสร่ง จัดเป็นอาหารไทยโบราณ รสชาติอร่อย วิธีทำหมูโสร่ง ง่ายๆ สามารถทำกินเองที่บ้านได้ เป็นทั้งอาหารว่างและอาหารหลักได้ เคล็ดลับการทำหมูโสร่งง่ายๆ ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่ายเหมาะสำหรับ คนรักการทำอาหาร เมนูหมู

สูตรอาหารยอดนิยม สำหรับวันนี้ นำเสนอ อาหารไทยโบราณ เมนูทอด ชื่อ หมูโสร่ง ภาษาอังกฤษ เรียก Fried pork ball with noodle ลักษณะเหมือนลูกชิ้นทอด ใช้หมูหมักปั้นเป็นลูกกลมๆ ห่อและพันด้วยเส้นบะหมี่ให้รอบๆ และ ทอด ให้เส้นกรอบ เนื้อหมูจับตัวเป็นก้อนนุ่ม จิ้มด้วยน้ำจิ้มไก่ หรือ น้ำจิ้มอาจาดแสนอร่อย เคล็ดลับความอร่อยของหมูโสร่ง คือ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร การปรุงรสชาติ และ เทคนิคการทอด

สูตรหมูโสร่ง ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูหมู

ส่วนผสมสำหรับทำหมูโสร่ง

หมูบะช่อ 2 ขีด
หมูสับ 1 ขีด
มันหมูบด 1 ขีด
ไข่ไก่ 1 ฟอง
เส้นบะหมี่ 2 ก้อน
รากผักชี 2 ราก
กระเทียม 4 กลีบ
พริกไทยเม็ด 1 ช้อนโต้ะ
ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต้ะ
น้ำจิ้มอาจาด
แตงกวา 1 ลูกหั่นเป็นชิ้นขนาดพอดีคำ
พริกหนุ่มซอย 3 เม็ด
หอมแดงซอย 1 ลูก
ถั่วลิงสงคั่ว 2 ช้อนโต้ะ
น้ำจิ้มไก่
น้ำมันพืชสำหรับทอด
วิธีทำหมูโสร่ง

เตรียมครก นำ รากผักชี กระเทียม และ พริกไทย โขรกให้ละเอียด
เริ่มหมักหมู โดย นำ หมูบะช่อ หมูสับ และ มันหมูบด ผสมให้เข้ากัน จากนั้นปรุงรสด้วย ซอสปรุงรส รากผักชี กระเทียม และ พริกไทย ผสมให้ส่วนผสมเข้ากัน
ตอกไข่ไก่ลงในเนื้อหมู 1 ฟองนวดผสมให้ส่วนผสมเข้ากัน นำไปหมักในตู้เย็น ให้เนื้อหมูเซ็ตตัวประมาณ 2 ชั่วโมง
จากนั้นนำเนื้อหมูมาปั้นเป็นก้อนกลมๆ และใช้เส้นบะหมี่มาพันให้รอบๆ ให้เป็นก้อน ทำจนหมดหรือตามที่ต้องการ
ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน ลดไฟลงให้ได้ขนาดไฟอ่อน จากนั้นนำหมูโสร่งลงไปทอด ใช้ไปอ่อน ทอดปเรื่อยๆจนหมูสุกและบะหมี่กรอบพอดี
นำขึ้นมาพักให้สะเด็ดน้ำมัน จักใส่จาน ทานกับน้ำจิ้มอาจาด แตงกวา พริก และถั่วลิสงค์ หรือ น้ำจิ้มไก่
เคล็ดลับการทำหมูโสร่ง

ไข่ไก่ จะเป็นส่วนผสมที่ช่วยให้เนื้อหมูจับตัวเป็นก้อน เวลานำมาทอดไม่แตกตัว
น้ำมัน ต้องเลืิอกใช้น้ำมันใหม่ ใช้น้ำมันร้อน ไฟอ่อน ค่อยๆทอด ให้หมูและเส้นบะหมี่สุกพร้อมกัน ได้เนื้อหมูนุ่มเส้นบะหมี่กรอบอร่อย
เนื้อหมูต้องผสมกัน ระหว่างหมูสับและมันหมู เพื่มความเนียนของเนื้อหมูด้วยการใช้หมูบะช่อด้วย จะได้เนื้อหมูที่นุ่มเด่งอร่อย
เนื้อหมู ต้องเลือกใช้หมูสดๆ จะได้อาหารรสชาติที่อร่อยที่สุด
เพื่อป้องกันปัญหาการทอดหมูไม่สุก สามารถนำหมูมาปั้นเป็นก้อนและนึ่งให้สุกก่อน จึงนำมาพันเส้นบะหมี่ก็จะได้เส้นบะหมี่ที่กรอบง่ายกว่า การที่ทอดหมูดิบๆ
การทอดเพื่อไม่ให้หมูโสร่งอมน้ำมัน ต้องทอดขณะที่น้ำมันร้อน หากทอดขณะที่น้ำมันยังไม่ร้อนจะทำให้หมูอมน้ำมันไม่น่ารับประทาน
หมูโสร่ง จัดเป็นอาหารไทยโบราณ รสชาติอร่อย วิธีทำหมูโสร่ง ง่ายๆ สามารถทำกินเองที่บ้านได้ เป็นทั้งอาหารว่างและอาหารหลักได้ เคล็ดลับการทำหมูโสร่งง่ายๆ ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่ายเหมาะสำหรับ คนรักการทำอาหาร เมนูหมู

อาหารไทย สำหรับวันนี้ นำเสนอ เมนูอาหาร แบบง่ายๆ เป็น ขนมไทย ขนมหวานจากกะทิ คือ ขนมครก เคล็ดลับความอร่อยของขนมครก ต้องมาจากวัตถุดิบคุณภาพ การผสมแป้ง และ การผสมกะทิ รวมถึงเทคนิคการทำขนม ต้องได้แป้งที่สุกกรอบบอดี และ น้ำกะทิที่อร่อย เพิ่มความอร่อยมากขึ้น ใน อาหาร ด้วย ท๊อปปิ้ง อย่างต้นหอม ข้าวโพด หรือ เผือก

สูตรขนมครก ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูกะทิ

ส่วนผสมสำหรับทำแป้งขนมครก

แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง
น้ำกะทิ 1 ถ้วยตวง
น้ำสะอาด 1 ถ้วยตวง
น้ำปูนใส 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
เกลือป่น 1 ช้อนชา
ส่วนผสมสำหรับทำน้ำกะทิขนมครก

หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง
น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1 ช้อนชา
แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนชา
เม็ดข้าวโพด , ใบต้นหอม , ฟักทอง ( สำหรับโรยหน้าขนมครก )
น้ำมันพืช
วิธีทำขนมครก

เริ่มผสมแป้ง โดยเตรียมภาชนะสำหรับผสมแป้ง ใส่น้ำปูนใสและกะทิลงไป ตามด้วยน้ำตาลปี๊บ เกลือป่น น้ำสะอาด และ แป้งข้าวเจ้า ผสมให้ส่วนผสมทั้งหมดละลายเป็นเนื้อเดียวกัน ทิ้งไว้ 30 นาทีให้แป้งดูดน้ำให้อิ่มตัวเต็มที่
เริ่มผสมกะทิ โดยเตรียมภาชนะ ผสมหัวกะทิ น้ำตาลปี๊บ เกลือป่น และ แป้งข้าวเจ้า ผสมให้ส่วนผสมละลายเป็นเนื้อเดียวกัน ทิ้งเอาไว้ 30 นาที
เตรียมกระทะหลุมสำหรับทอดขนมครกให้ใช้ผ้าชุบน้ำมัน เช็ดหลุมกระทะ เพื่อเวลาเทกะทิลงไปกะทิจะไม่ติดกระทะ สามารถแกะขนมออกง่ายขึ้น
เมื่อกระทะหลุมเริ่มร้อน ให้เทน้ำแป้งลงไปก่อน ให้แป้งเต็มขอบหลุม เพื่อให้แป้งกรอบเป็นทรงขนมครก จากนั้นปิดฝาให้แป้งขนมเซ็ตตัวก่อน ใช้เวลาประมาณ 15 นาที
เมื่อแป้งเซ็ตตัวได้ที่ประมาณ 50% แล้ว ให้เติมน้ำกะทิลงไปให้เต็มหลุม และปิดฝาอบต่อให้ขนมครกเต็มหลุมและเป็นชิ้น
เมื่อกะทิเริ่มเซ็ตตัว ให้ใส่ท๊อปปิ้งลงไปได้ ตามใจชอบ เมื่อท๊อปปิ้งสุกเต็มที่ ก็แกะขนมครก และ วางประกบกันให้สวยงาม
เคล็ดลับการทำขนมครก

กะทิสำหรับทำขนม ให้ใช้กะทิคั้นสด ความสดของกะทิจะให้ความหอมอร่อยแบบธรรมชาติ
แป้งข้าวเจ้า จะช่วยให้ขนมสามารถจับตัวเป็นชิ้นได้ แต่ต้องใส่แป้งไม่มากเกินไปจึงจะให้ความนุ่มของขนม
ไฟที่ใช้ในการทอดขนมครก ให้เลือกใช้ไฟอ่อนๆ และ ต้องได้ความร้อนที่ทั่วและเท่ากันทั้งกระทะหลุม
ท๊อปปิ้ง สามารถเลือกใช้ตามใจชอบ เพื่อให้เครื่องสุกอรอ่ย สามารถทำให้ท๊อปปิ้งสุกก่อนก็สามารถทำได้
ในการผสมแป้งและกะทิ ต้องกรองด้วยผ้าขาวบาง เพื่อให้ขนมสะอาดไม่มีเศษสกปรกติดมาด้วย
การผสมแป้ง สามารถใส่สีผสมอาหารแบธรรมชาติ เช่น น้ำใบเตย หรือ น้ำอัญชัน เพื่อเพิ่มสีสันให้ขนมครกได้
น้ำปูนใส เป็นส่วนผสมที่ทำให้แป้งกรอบเวลานำไปทอด หากไม่ใส่น้ำปูนใสแป้งจะนุ่มไม่อร่อย ต้องให้กรอบนอกนุ่มใน หวานกะทิ จึงได้ขนมที่อร่อย
น้ำตาลที่ใช้ในการผสมขนม ให้เลือกใช้น้ำตาลปี๊บ ความหวานของน้ำตาลปี๊บ เหมาะสำหรับทำขนมไทยที่สุด
ขนมครก ขนมไทย เมนูกะทิ วิธีทำขนมครก ง่ายๆสามารถทำกินเองที่บ้านได้ เป็นขนมทอดบนกระทะหลุม เคล็ดลับความอร่อยของขนมไทย ชนิดนี้ค คือ แป้งและกะทิ ที่แป้งต้องเหนียวนุ่น ส่วนกะทิได้รสชาติที่กลมกล่อม พอดีไม่หวานเกินไป

อาหารไทย สำหรับวันนี้ นำเสนอ เมนูอาหาร แบบง่ายๆ เป็น ขนมไทย ขนมหวานจากกะทิ คือ ขนมครก เคล็ดลับความอร่อยของขนมครก ต้องมาจากวัตถุดิบคุณภาพ การผสมแป้ง และ การผสมกะทิ รวมถึงเทคนิคการทำขนม ต้องได้แป้งที่สุกกรอบบอดี และ น้ำกะทิที่อร่อย เพิ่มความอร่อยมากขึ้น ใน อาหาร ด้วย ท๊อปปิ้ง อย่างต้นหอม ข้าวโพด หรือ เผือก

สูตรขนมครก ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูกะทิ

ส่วนผสมสำหรับทำแป้งขนมครก

แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง
น้ำกะทิ 1 ถ้วยตวง
น้ำสะอาด 1 ถ้วยตวง
น้ำปูนใส 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
เกลือป่น 1 ช้อนชา
ส่วนผสมสำหรับทำน้ำกะทิขนมครก

หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง
น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1 ช้อนชา
แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนชา
เม็ดข้าวโพด , ใบต้นหอม , ฟักทอง ( สำหรับโรยหน้าขนมครก )
น้ำมันพืช
วิธีทำขนมครก

เริ่มผสมแป้ง โดยเตรียมภาชนะสำหรับผสมแป้ง ใส่น้ำปูนใสและกะทิลงไป ตามด้วยน้ำตาลปี๊บ เกลือป่น น้ำสะอาด และ แป้งข้าวเจ้า ผสมให้ส่วนผสมทั้งหมดละลายเป็นเนื้อเดียวกัน ทิ้งไว้ 30 นาทีให้แป้งดูดน้ำให้อิ่มตัวเต็มที่
เริ่มผสมกะทิ โดยเตรียมภาชนะ ผสมหัวกะทิ น้ำตาลปี๊บ เกลือป่น และ แป้งข้าวเจ้า ผสมให้ส่วนผสมละลายเป็นเนื้อเดียวกัน ทิ้งเอาไว้ 30 นาที
เตรียมกระทะหลุมสำหรับทอดขนมครกให้ใช้ผ้าชุบน้ำมัน เช็ดหลุมกระทะ เพื่อเวลาเทกะทิลงไปกะทิจะไม่ติดกระทะ สามารถแกะขนมออกง่ายขึ้น
เมื่อกระทะหลุมเริ่มร้อน ให้เทน้ำแป้งลงไปก่อน ให้แป้งเต็มขอบหลุม เพื่อให้แป้งกรอบเป็นทรงขนมครก จากนั้นปิดฝาให้แป้งขนมเซ็ตตัวก่อน ใช้เวลาประมาณ 15 นาที
เมื่อแป้งเซ็ตตัวได้ที่ประมาณ 50% แล้ว ให้เติมน้ำกะทิลงไปให้เต็มหลุม และปิดฝาอบต่อให้ขนมครกเต็มหลุมและเป็นชิ้น
เมื่อกะทิเริ่มเซ็ตตัว ให้ใส่ท๊อปปิ้งลงไปได้ ตามใจชอบ เมื่อท๊อปปิ้งสุกเต็มที่ ก็แกะขนมครก และ วางประกบกันให้สวยงาม
เคล็ดลับการทำขนมครก

กะทิสำหรับทำขนม ให้ใช้กะทิคั้นสด ความสดของกะทิจะให้ความหอมอร่อยแบบธรรมชาติ
แป้งข้าวเจ้า จะช่วยให้ขนมสามารถจับตัวเป็นชิ้นได้ แต่ต้องใส่แป้งไม่มากเกินไปจึงจะให้ความนุ่มของขนม
ไฟที่ใช้ในการทอดขนมครก ให้เลือกใช้ไฟอ่อนๆ และ ต้องได้ความร้อนที่ทั่วและเท่ากันทั้งกระทะหลุม
ท๊อปปิ้ง สามารถเลือกใช้ตามใจชอบ เพื่อให้เครื่องสุกอรอ่ย สามารถทำให้ท๊อปปิ้งสุกก่อนก็สามารถทำได้
ในการผสมแป้งและกะทิ ต้องกรองด้วยผ้าขาวบาง เพื่อให้ขนมสะอาดไม่มีเศษสกปรกติดมาด้วย
การผสมแป้ง สามารถใส่สีผสมอาหารแบธรรมชาติ เช่น น้ำใบเตย หรือ น้ำอัญชัน เพื่อเพิ่มสีสันให้ขนมครกได้
น้ำปูนใส เป็นส่วนผสมที่ทำให้แป้งกรอบเวลานำไปทอด หากไม่ใส่น้ำปูนใสแป้งจะนุ่มไม่อร่อย ต้องให้กรอบนอกนุ่มใน หวานกะทิ จึงได้ขนมที่อร่อย
น้ำตาลที่ใช้ในการผสมขนม ให้เลือกใช้น้ำตาลปี๊บ ความหวานของน้ำตาลปี๊บ เหมาะสำหรับทำขนมไทยที่สุด
ขนมครก ขนมไทย เมนูกะทิ วิธีทำขนมครก ง่ายๆสามารถทำกินเองที่บ้านได้ เป็นขนมทอดบนกระทะหลุม เคล็ดลับความอร่อยของขนมไทย ชนิดนี้ค คือ แป้งและกะทิ ที่แป้งต้องเหนียวนุ่น ส่วนกะทิได้รสชาติที่กลมกล่อม พอดีไม่หวานเกินไป

อาหารไทย สำหรับวันนี้ นำเสนอ เมนูอาหาร แบบง่ายๆ เป็น ขนมไทย ขนมหวานจากกะทิ คือ ขนมครก เคล็ดลับความอร่อยของขนมครก ต้องมาจากวัตถุดิบคุณภาพ การผสมแป้ง และ การผสมกะทิ รวมถึงเทคนิคการทำขนม ต้องได้แป้งที่สุกกรอบบอดี และ น้ำกะทิที่อร่อย เพิ่มความอร่อยมากขึ้น ใน อาหาร ด้วย ท๊อปปิ้ง อย่างต้นหอม ข้าวโพด หรือ เผือก

สูตรขนมครก ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูกะทิ

ส่วนผสมสำหรับทำแป้งขนมครก

แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง
น้ำกะทิ 1 ถ้วยตวง
น้ำสะอาด 1 ถ้วยตวง
น้ำปูนใส 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
เกลือป่น 1 ช้อนชา
ส่วนผสมสำหรับทำน้ำกะทิขนมครก

หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง
น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1 ช้อนชา
แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนชา
เม็ดข้าวโพด , ใบต้นหอม , ฟักทอง ( สำหรับโรยหน้าขนมครก )
น้ำมันพืช
วิธีทำขนมครก

เริ่มผสมแป้ง โดยเตรียมภาชนะสำหรับผสมแป้ง ใส่น้ำปูนใสและกะทิลงไป ตามด้วยน้ำตาลปี๊บ เกลือป่น น้ำสะอาด และ แป้งข้าวเจ้า ผสมให้ส่วนผสมทั้งหมดละลายเป็นเนื้อเดียวกัน ทิ้งไว้ 30 นาทีให้แป้งดูดน้ำให้อิ่มตัวเต็มที่
เริ่มผสมกะทิ โดยเตรียมภาชนะ ผสมหัวกะทิ น้ำตาลปี๊บ เกลือป่น และ แป้งข้าวเจ้า ผสมให้ส่วนผสมละลายเป็นเนื้อเดียวกัน ทิ้งเอาไว้ 30 นาที
เตรียมกระทะหลุมสำหรับทอดขนมครกให้ใช้ผ้าชุบน้ำมัน เช็ดหลุมกระทะ เพื่อเวลาเทกะทิลงไปกะทิจะไม่ติดกระทะ สามารถแกะขนมออกง่ายขึ้น
เมื่อกระทะหลุมเริ่มร้อน ให้เทน้ำแป้งลงไปก่อน ให้แป้งเต็มขอบหลุม เพื่อให้แป้งกรอบเป็นทรงขนมครก จากนั้นปิดฝาให้แป้งขนมเซ็ตตัวก่อน ใช้เวลาประมาณ 15 นาที
เมื่อแป้งเซ็ตตัวได้ที่ประมาณ 50% แล้ว ให้เติมน้ำกะทิลงไปให้เต็มหลุม และปิดฝาอบต่อให้ขนมครกเต็มหลุมและเป็นชิ้น
เมื่อกะทิเริ่มเซ็ตตัว ให้ใส่ท๊อปปิ้งลงไปได้ ตามใจชอบ เมื่อท๊อปปิ้งสุกเต็มที่ ก็แกะขนมครก และ วางประกบกันให้สวยงาม
เคล็ดลับการทำขนมครก

กะทิสำหรับทำขนม ให้ใช้กะทิคั้นสด ความสดของกะทิจะให้ความหอมอร่อยแบบธรรมชาติ
แป้งข้าวเจ้า จะช่วยให้ขนมสามารถจับตัวเป็นชิ้นได้ แต่ต้องใส่แป้งไม่มากเกินไปจึงจะให้ความนุ่มของขนม
ไฟที่ใช้ในการทอดขนมครก ให้เลือกใช้ไฟอ่อนๆ และ ต้องได้ความร้อนที่ทั่วและเท่ากันทั้งกระทะหลุม
ท๊อปปิ้ง สามารถเลือกใช้ตามใจชอบ เพื่อให้เครื่องสุกอรอ่ย สามารถทำให้ท๊อปปิ้งสุกก่อนก็สามารถทำได้
ในการผสมแป้งและกะทิ ต้องกรองด้วยผ้าขาวบาง เพื่อให้ขนมสะอาดไม่มีเศษสกปรกติดมาด้วย
การผสมแป้ง สามารถใส่สีผสมอาหารแบธรรมชาติ เช่น น้ำใบเตย หรือ น้ำอัญชัน เพื่อเพิ่มสีสันให้ขนมครกได้
น้ำปูนใส เป็นส่วนผสมที่ทำให้แป้งกรอบเวลานำไปทอด หากไม่ใส่น้ำปูนใสแป้งจะนุ่มไม่อร่อย ต้องให้กรอบนอกนุ่มใน หวานกะทิ จึงได้ขนมที่อร่อย
น้ำตาลที่ใช้ในการผสมขนม ให้เลือกใช้น้ำตาลปี๊บ ความหวานของน้ำตาลปี๊บ เหมาะสำหรับทำขนมไทยที่สุด
ขนมครก ขนมไทย เมนูกะทิ วิธีทำขนมครก ง่ายๆสามารถทำกินเองที่บ้านได้ เป็นขนมทอดบนกระทะหลุม เคล็ดลับความอร่อยของขนมไทย ชนิดนี้ค คือ แป้งและกะทิ ที่แป้งต้องเหนียวนุ่น ส่วนกะทิได้รสชาติที่กลมกล่อม พอดีไม่หวานเกินไป

อาหารไทย สำหรับวันนี้ นำเสนอ เมนูอาหาร แบบง่ายๆ เป็น ขนมไทย ขนมหวานจากกะทิ คือ ขนมครก เคล็ดลับความอร่อยของขนมครก ต้องมาจากวัตถุดิบคุณภาพ การผสมแป้ง และ การผสมกะทิ รวมถึงเทคนิคการทำขนม ต้องได้แป้งที่สุกกรอบบอดี และ น้ำกะทิที่อร่อย เพิ่มความอร่อยมากขึ้น ใน อาหาร ด้วย ท๊อปปิ้ง อย่างต้นหอม ข้าวโพด หรือ เผือก

สูตรขนมครก ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูกะทิ

ส่วนผสมสำหรับทำแป้งขนมครก

แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง
น้ำกะทิ 1 ถ้วยตวง
น้ำสะอาด 1 ถ้วยตวง
น้ำปูนใส 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
เกลือป่น 1 ช้อนชา
ส่วนผสมสำหรับทำน้ำกะทิขนมครก

หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง
น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1 ช้อนชา
แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนชา
เม็ดข้าวโพด , ใบต้นหอม , ฟักทอง ( สำหรับโรยหน้าขนมครก )
น้ำมันพืช
วิธีทำขนมครก

เริ่มผสมแป้ง โดยเตรียมภาชนะสำหรับผสมแป้ง ใส่น้ำปูนใสและกะทิลงไป ตามด้วยน้ำตาลปี๊บ เกลือป่น น้ำสะอาด และ แป้งข้าวเจ้า ผสมให้ส่วนผสมทั้งหมดละลายเป็นเนื้อเดียวกัน ทิ้งไว้ 30 นาทีให้แป้งดูดน้ำให้อิ่มตัวเต็มที่
เริ่มผสมกะทิ โดยเตรียมภาชนะ ผสมหัวกะทิ น้ำตาลปี๊บ เกลือป่น และ แป้งข้าวเจ้า ผสมให้ส่วนผสมละลายเป็นเนื้อเดียวกัน ทิ้งเอาไว้ 30 นาที
เตรียมกระทะหลุมสำหรับทอดขนมครกให้ใช้ผ้าชุบน้ำมัน เช็ดหลุมกระทะ เพื่อเวลาเทกะทิลงไปกะทิจะไม่ติดกระทะ สามารถแกะขนมออกง่ายขึ้น
เมื่อกระทะหลุมเริ่มร้อน ให้เทน้ำแป้งลงไปก่อน ให้แป้งเต็มขอบหลุม เพื่อให้แป้งกรอบเป็นทรงขนมครก จากนั้นปิดฝาให้แป้งขนมเซ็ตตัวก่อน ใช้เวลาประมาณ 15 นาที
เมื่อแป้งเซ็ตตัวได้ที่ประมาณ 50% แล้ว ให้เติมน้ำกะทิลงไปให้เต็มหลุม และปิดฝาอบต่อให้ขนมครกเต็มหลุมและเป็นชิ้น
เมื่อกะทิเริ่มเซ็ตตัว ให้ใส่ท๊อปปิ้งลงไปได้ ตามใจชอบ เมื่อท๊อปปิ้งสุกเต็มที่ ก็แกะขนมครก และ วางประกบกันให้สวยงาม
เคล็ดลับการทำขนมครก

กะทิสำหรับทำขนม ให้ใช้กะทิคั้นสด ความสดของกะทิจะให้ความหอมอร่อยแบบธรรมชาติ
แป้งข้าวเจ้า จะช่วยให้ขนมสามารถจับตัวเป็นชิ้นได้ แต่ต้องใส่แป้งไม่มากเกินไปจึงจะให้ความนุ่มของขนม
ไฟที่ใช้ในการทอดขนมครก ให้เลือกใช้ไฟอ่อนๆ และ ต้องได้ความร้อนที่ทั่วและเท่ากันทั้งกระทะหลุม
ท๊อปปิ้ง สามารถเลือกใช้ตามใจชอบ เพื่อให้เครื่องสุกอรอ่ย สามารถทำให้ท๊อปปิ้งสุกก่อนก็สามารถทำได้
ในการผสมแป้งและกะทิ ต้องกรองด้วยผ้าขาวบาง เพื่อให้ขนมสะอาดไม่มีเศษสกปรกติดมาด้วย
การผสมแป้ง สามารถใส่สีผสมอาหารแบธรรมชาติ เช่น น้ำใบเตย หรือ น้ำอัญชัน เพื่อเพิ่มสีสันให้ขนมครกได้
น้ำปูนใส เป็นส่วนผสมที่ทำให้แป้งกรอบเวลานำไปทอด หากไม่ใส่น้ำปูนใสแป้งจะนุ่มไม่อร่อย ต้องให้กรอบนอกนุ่มใน หวานกะทิ จึงได้ขนมที่อร่อย
น้ำตาลที่ใช้ในการผสมขนม ให้เลือกใช้น้ำตาลปี๊บ ความหวานของน้ำตาลปี๊บ เหมาะสำหรับทำขนมไทยที่สุด
ขนมครก ขนมไทย เมนูกะทิ วิธีทำขนมครก ง่ายๆสามารถทำกินเองที่บ้านได้ เป็นขนมทอดบนกระทะหลุม เคล็ดลับความอร่อยของขนมไทย ชนิดนี้ค คือ แป้งและกะทิ ที่แป้งต้องเหนียวนุ่น ส่วนกะทิได้รสชาติที่กลมกล่อม พอดีไม่หวานเกินไป

สูตรเส้นบุกผัดกิมจิ อาหารผัด เมนูเส้น อาหารคลีน ส่วนผสมและขั้นตอนการทำ เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรัก การทำอาหาร อาหารคลีน

ส่วนผสมสำหรับทำเส้นบุกผัดกิมจิ

กิมจิ 1 ถ้วย
เส้นบุก 1 ถ้วย
ไข่ไก่ 1 ฟอง
ลูกชิ้นปลา ผ่าครึ่ง 5 ลูก
ซอสถั่วเหลือง 2 ช้อนโต้ะ
น้ำตาล 2 ช้อนชา
พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
น้ำมัน สำหรับผัด 1 ช้อนชา
วิธีทำเส้นบุผัดกิมจิ

ลวกเส้นบุก ให้สุก จากนั้นนำมาพักไว้ก่อน
ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน ใส่ไข่ลงไปผัด จากนั้นใส่เส้นบุกลงไป ปรุงรสด้วย ซอสถั่วเหลือง น้ำตาล พริกไทย
จากนั้นใส่ ลูกชิ้นปลา และ กิมจิ ลงไปผัด ให้ส่วนผสมเข้ากัน เส้นบุผัดกิมจิ กับข้าวง่ายๆ เมนูเส้นบุก
เคล็ดลับการทำเส้นบุกผัดกิมจิ

เส้นบุก ให้แช่น้ำก่อน ให้เส้นอมน้ำ เวลานำไปลวกจะทำให้เส้นนุ่มอร่อยมากขึ้น
เส้นบุก เมื่อลวกเสร็จแล้ว ให้นำไปแช่ในน้ำแข็ง ให้เส้นมันหดตัว จะได้เส้นบุกที่ เหนียวนุ่ม อร่อย
น้ำมันที่ใช้ในการผัด ให้ใช้น้ำมันที่ใหม่ ไม่ให้นำน้ำมันเก่ามาใช้ผัด เนื่องจากน้ำมันเก่า มีกลิ่นของอาหาร ทำให้เสียรสชาติ ของ ผัดเส้นบุก
ลูกชิ้นปลา ที่ใช้ในการนำมาผัด ใน เมนูผัดเส้นบุก นั้น ให้นำไปลวกก่อนนำมา ผัด เนื่องจาก บางครั้ง ลูกชิ้นปลาจะมี เมือกไขมัน ติดมาด้วย มีกลิ่น ทีีทำให้ รสชาติของ ผัดเส้นบุกกิมจิ เปลี่ยน
วิธีทำเส้นบุกผัดกิมจิ เส้นบุกผัดกิมจิ อาหารเกาหลี เมนูเส้น นำเส้นบุกมาผัดกับกิมจิ อาหาร สำหรับลดน้ำหนัก อาหารสุขภาพ ไม่ทำให้อ้วน สามารถกินได้ดี บุก เป็น สมุนไพรชนิดหนึ่ง ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด เหมาะกับ คนเป็นโรคเบาหวาน

บุก เป็น สมุนไพร ชนิดหนึ่ง ซึ่ง หัวของบุก จะเป็นแป้ง ซึ่ง นักวิทยาศาสตร์ศึกษาและพบว่า หัวบุก มีสารที่ ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ได้ดี บุก จึงจักเป็น อาหารสุขภาพ ที่เหมาะกับ คนลดความอ้วน และ ผู้เป็นโรคเบาหวาน เส้นบุกผัดกิมจิ สูตรเส้นบุกผัดกิมจิ เป็น อาหาร เมนูประยุกต์ แบบง่ายๆ สำหรับ คนรักสุขภาพ และ ชอบกินกิมจิ เมนูบุกลดความอ้วน เส้นบุกผัดกิมจิ เมนูสไตล์เกาหลี ให้ความรู้สึกไม่น่าเบื่อกับรสชาติที่ดูจัดจ้าน แถมยังให้ อาหารพลังงานต่ำ สูตรอาหารสำหรับ คนชอบทำอาหาร ทำอาหารกิน ในครอบครัว

สูตรเส้นบุกผัดกิมจิ อาหารผัด เมนูเส้น อาหารคลีน ส่วนผสมและขั้นตอนการทำ เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรัก การทำอาหาร อาหารคลีน

ส่วนผสมสำหรับทำเส้นบุกผัดกิมจิ

กิมจิ 1 ถ้วย
เส้นบุก 1 ถ้วย
ไข่ไก่ 1 ฟอง
ลูกชิ้นปลา ผ่าครึ่ง 5 ลูก
ซอสถั่วเหลือง 2 ช้อนโต้ะ
น้ำตาล 2 ช้อนชา
พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
น้ำมัน สำหรับผัด 1 ช้อนชา
วิธีทำเส้นบุผัดกิมจิ

ลวกเส้นบุก ให้สุก จากนั้นนำมาพักไว้ก่อน
ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน ใส่ไข่ลงไปผัด จากนั้นใส่เส้นบุกลงไป ปรุงรสด้วย ซอสถั่วเหลือง น้ำตาล พริกไทย
จากนั้นใส่ ลูกชิ้นปลา และ กิมจิ ลงไปผัด ให้ส่วนผสมเข้ากัน เส้นบุผัดกิมจิ กับข้าวง่ายๆ เมนูเส้นบุก
เคล็ดลับการทำเส้นบุกผัดกิมจิ

เส้นบุก ให้แช่น้ำก่อน ให้เส้นอมน้ำ เวลานำไปลวกจะทำให้เส้นนุ่มอร่อยมากขึ้น
เส้นบุก เมื่อลวกเสร็จแล้ว ให้นำไปแช่ในน้ำแข็ง ให้เส้นมันหดตัว จะได้เส้นบุกที่ เหนียวนุ่ม อร่อย
น้ำมันที่ใช้ในการผัด ให้ใช้น้ำมันที่ใหม่ ไม่ให้นำน้ำมันเก่ามาใช้ผัด เนื่องจากน้ำมันเก่า มีกลิ่นของอาหาร ทำให้เสียรสชาติ ของ ผัดเส้นบุก
ลูกชิ้นปลา ที่ใช้ในการนำมาผัด ใน เมนูผัดเส้นบุก นั้น ให้นำไปลวกก่อนนำมา ผัด เนื่องจาก บางครั้ง ลูกชิ้นปลาจะมี เมือกไขมัน ติดมาด้วย มีกลิ่น ทีีทำให้ รสชาติของ ผัดเส้นบุกกิมจิ เปลี่ยน
วิธีทำเส้นบุกผัดกิมจิ เส้นบุกผัดกิมจิ อาหารเกาหลี เมนูเส้น นำเส้นบุกมาผัดกับกิมจิ อาหาร สำหรับลดน้ำหนัก อาหารสุขภาพ ไม่ทำให้อ้วน สามารถกินได้ดี บุก เป็น สมุนไพรชนิดหนึ่ง ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด เหมาะกับ คนเป็นโรคเบาหวาน

บุก เป็น สมุนไพร ชนิดหนึ่ง ซึ่ง หัวของบุก จะเป็นแป้ง ซึ่ง นักวิทยาศาสตร์ศึกษาและพบว่า หัวบุก มีสารที่ ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ได้ดี บุก จึงจักเป็น อาหารสุขภาพ ที่เหมาะกับ คนลดความอ้วน และ ผู้เป็นโรคเบาหวาน เส้นบุกผัดกิมจิ สูตรเส้นบุกผัดกิมจิ เป็น อาหาร เมนูประยุกต์ แบบง่ายๆ สำหรับ คนรักสุขภาพ และ ชอบกินกิมจิ เมนูบุกลดความอ้วน เส้นบุกผัดกิมจิ เมนูสไตล์เกาหลี ให้ความรู้สึกไม่น่าเบื่อกับรสชาติที่ดูจัดจ้าน แถมยังให้ อาหารพลังงานต่ำ สูตรอาหารสำหรับ คนชอบทำอาหาร ทำอาหารกิน ในครอบครัว
สูตรเส้นบุกผัดกิมจิ อาหารผัด เมนูเส้น อาหารคลีน ส่วนผสมและขั้นตอนการทำ เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรัก การทำอาหาร อาหารคลีน

ส่วนผสมสำหรับทำเส้นบุกผัดกิมจิ

กิมจิ 1 ถ้วย
เส้นบุก 1 ถ้วย
ไข่ไก่ 1 ฟอง
ลูกชิ้นปลา ผ่าครึ่ง 5 ลูก
ซอสถั่วเหลือง 2 ช้อนโต้ะ
น้ำตาล 2 ช้อนชา
พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
น้ำมัน สำหรับผัด 1 ช้อนชา
วิธีทำเส้นบุผัดกิมจิ

ลวกเส้นบุก ให้สุก จากนั้นนำมาพักไว้ก่อน
ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน ใส่ไข่ลงไปผัด จากนั้นใส่เส้นบุกลงไป ปรุงรสด้วย ซอสถั่วเหลือง น้ำตาล พริกไทย
จากนั้นใส่ ลูกชิ้นปลา และ กิมจิ ลงไปผัด ให้ส่วนผสมเข้ากัน เส้นบุผัดกิมจิ กับข้าวง่ายๆ เมนูเส้นบุก
เคล็ดลับการทำเส้นบุกผัดกิมจิ

เส้นบุก ให้แช่น้ำก่อน ให้เส้นอมน้ำ เวลานำไปลวกจะทำให้เส้นนุ่มอร่อยมากขึ้น
เส้นบุก เมื่อลวกเสร็จแล้ว ให้นำไปแช่ในน้ำแข็ง ให้เส้นมันหดตัว จะได้เส้นบุกที่ เหนียวนุ่ม อร่อย
น้ำมันที่ใช้ในการผัด ให้ใช้น้ำมันที่ใหม่ ไม่ให้นำน้ำมันเก่ามาใช้ผัด เนื่องจากน้ำมันเก่า มีกลิ่นของอาหาร ทำให้เสียรสชาติ ของ ผัดเส้นบุก
ลูกชิ้นปลา ที่ใช้ในการนำมาผัด ใน เมนูผัดเส้นบุก นั้น ให้นำไปลวกก่อนนำมา ผัด เนื่องจาก บางครั้ง ลูกชิ้นปลาจะมี เมือกไขมัน ติดมาด้วย มีกลิ่น ทีีทำให้ รสชาติของ ผัดเส้นบุกกิมจิ เปลี่ยน
วิธีทำเส้นบุกผัดกิมจิ เส้นบุกผัดกิมจิ อาหารเกาหลี เมนูเส้น นำเส้นบุกมาผัดกับกิมจิ อาหาร สำหรับลดน้ำหนัก อาหารสุขภาพ ไม่ทำให้อ้วน สามารถกินได้ดี บุก เป็น สมุนไพรชนิดหนึ่ง ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด เหมาะกับ คนเป็นโรคเบาหวาน

บุก เป็น สมุนไพร ชนิดหนึ่ง ซึ่ง หัวของบุก จะเป็นแป้ง ซึ่ง นักวิทยาศาสตร์ศึกษาและพบว่า หัวบุก มีสารที่ ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ได้ดี บุก จึงจักเป็น อาหารสุขภาพ ที่เหมาะกับ คนลดความอ้วน และ ผู้เป็นโรคเบาหวาน เส้นบุกผัดกิมจิ สูตรเส้นบุกผัดกิมจิ เป็น อาหาร เมนูประยุกต์ แบบง่ายๆ สำหรับ คนรักสุขภาพ และ ชอบกินกิมจิ เมนูบุกลดความอ้วน เส้นบุกผัดกิมจิ เมนูสไตล์เกาหลี ให้ความรู้สึกไม่น่าเบื่อกับรสชาติที่ดูจัดจ้าน แถมยังให้ อาหารพลังงานต่ำ สูตรอาหารสำหรับ คนชอบทำอาหาร ทำอาหารกิน ในครอบครัว

สูตรเส้นบุกผัดกิมจิ อาหารผัด เมนูเส้น อาหารคลีน ส่วนผสมและขั้นตอนการทำ เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรัก การทำอาหาร อาหารคลีน

ส่วนผสมสำหรับทำเส้นบุกผัดกิมจิ

กิมจิ 1 ถ้วย
เส้นบุก 1 ถ้วย
ไข่ไก่ 1 ฟอง
ลูกชิ้นปลา ผ่าครึ่ง 5 ลูก
ซอสถั่วเหลือง 2 ช้อนโต้ะ
น้ำตาล 2 ช้อนชา
พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
น้ำมัน สำหรับผัด 1 ช้อนชา
วิธีทำเส้นบุผัดกิมจิ

ลวกเส้นบุก ให้สุก จากนั้นนำมาพักไว้ก่อน
ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน ใส่ไข่ลงไปผัด จากนั้นใส่เส้นบุกลงไป ปรุงรสด้วย ซอสถั่วเหลือง น้ำตาล พริกไทย
จากนั้นใส่ ลูกชิ้นปลา และ กิมจิ ลงไปผัด ให้ส่วนผสมเข้ากัน เส้นบุผัดกิมจิ กับข้าวง่ายๆ เมนูเส้นบุก
เคล็ดลับการทำเส้นบุกผัดกิมจิ

เส้นบุก ให้แช่น้ำก่อน ให้เส้นอมน้ำ เวลานำไปลวกจะทำให้เส้นนุ่มอร่อยมากขึ้น
เส้นบุก เมื่อลวกเสร็จแล้ว ให้นำไปแช่ในน้ำแข็ง ให้เส้นมันหดตัว จะได้เส้นบุกที่ เหนียวนุ่ม อร่อย
น้ำมันที่ใช้ในการผัด ให้ใช้น้ำมันที่ใหม่ ไม่ให้นำน้ำมันเก่ามาใช้ผัด เนื่องจากน้ำมันเก่า มีกลิ่นของอาหาร ทำให้เสียรสชาติ ของ ผัดเส้นบุก
ลูกชิ้นปลา ที่ใช้ในการนำมาผัด ใน เมนูผัดเส้นบุก นั้น ให้นำไปลวกก่อนนำมา ผัด เนื่องจาก บางครั้ง ลูกชิ้นปลาจะมี เมือกไขมัน ติดมาด้วย มีกลิ่น ทีีทำให้ รสชาติของ ผัดเส้นบุกกิมจิ เปลี่ยน
วิธีทำเส้นบุกผัดกิมจิ เส้นบุกผัดกิมจิ อาหารเกาหลี เมนูเส้น นำเส้นบุกมาผัดกับกิมจิ อาหาร สำหรับลดน้ำหนัก อาหารสุขภาพ ไม่ทำให้อ้วน สามารถกินได้ดี บุก เป็น สมุนไพรชนิดหนึ่ง ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด เหมาะกับ คนเป็นโรคเบาหวาน

บุก เป็น สมุนไพร ชนิดหนึ่ง ซึ่ง หัวของบุก จะเป็นแป้ง ซึ่ง นักวิทยาศาสตร์ศึกษาและพบว่า หัวบุก มีสารที่ ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ได้ดี บุก จึงจักเป็น อาหารสุขภาพ ที่เหมาะกับ คนลดความอ้วน และ ผู้เป็นโรคเบาหวาน เส้นบุกผัดกิมจิ สูตรเส้นบุกผัดกิมจิ เป็น อาหาร เมนูประยุกต์ แบบง่ายๆ สำหรับ คนรักสุขภาพ และ ชอบกินกิมจิ เมนูบุกลดความอ้วน เส้นบุกผัดกิมจิ เมนูสไตล์เกาหลี ให้ความรู้สึกไม่น่าเบื่อกับรสชาติที่ดูจัดจ้าน แถมยังให้ อาหารพลังงานต่ำ สูตรอาหารสำหรับ คนชอบทำอาหาร ทำอาหารกิน ในครอบครัว

สูตรเส้นบุกผัดกิมจิ อาหารผัด เมนูเส้น อาหารคลีน ส่วนผสมและขั้นตอนการทำ เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรัก การทำอาหาร อาหารคลีน

ส่วนผสมสำหรับทำเส้นบุกผัดกิมจิ

กิมจิ 1 ถ้วย
เส้นบุก 1 ถ้วย
ไข่ไก่ 1 ฟอง
ลูกชิ้นปลา ผ่าครึ่ง 5 ลูก
ซอสถั่วเหลือง 2 ช้อนโต้ะ
น้ำตาล 2 ช้อนชา
พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
น้ำมัน สำหรับผัด 1 ช้อนชา
วิธีทำเส้นบุผัดกิมจิ

ลวกเส้นบุก ให้สุก จากนั้นนำมาพักไว้ก่อน
ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน ใส่ไข่ลงไปผัด จากนั้นใส่เส้นบุกลงไป ปรุงรสด้วย ซอสถั่วเหลือง น้ำตาล พริกไทย
จากนั้นใส่ ลูกชิ้นปลา และ กิมจิ ลงไปผัด ให้ส่วนผสมเข้ากัน เส้นบุผัดกิมจิ กับข้าวง่ายๆ เมนูเส้นบุก
เคล็ดลับการทำเส้นบุกผัดกิมจิ

เส้นบุก ให้แช่น้ำก่อน ให้เส้นอมน้ำ เวลานำไปลวกจะทำให้เส้นนุ่มอร่อยมากขึ้น
เส้นบุก เมื่อลวกเสร็จแล้ว ให้นำไปแช่ในน้ำแข็ง ให้เส้นมันหดตัว จะได้เส้นบุกที่ เหนียวนุ่ม อร่อย
น้ำมันที่ใช้ในการผัด ให้ใช้น้ำมันที่ใหม่ ไม่ให้นำน้ำมันเก่ามาใช้ผัด เนื่องจากน้ำมันเก่า มีกลิ่นของอาหาร ทำให้เสียรสชาติ ของ ผัดเส้นบุก
ลูกชิ้นปลา ที่ใช้ในการนำมาผัด ใน เมนูผัดเส้นบุก นั้น ให้นำไปลวกก่อนนำมา ผัด เนื่องจาก บางครั้ง ลูกชิ้นปลาจะมี เมือกไขมัน ติดมาด้วย มีกลิ่น ทีีทำให้ รสชาติของ ผัดเส้นบุกกิมจิ เปลี่ยน
วิธีทำเส้นบุกผัดกิมจิ เส้นบุกผัดกิมจิ อาหารเกาหลี เมนูเส้น นำเส้นบุกมาผัดกับกิมจิ อาหาร สำหรับลดน้ำหนัก อาหารสุขภาพ ไม่ทำให้อ้วน สามารถกินได้ดี บุก เป็น สมุนไพรชนิดหนึ่ง ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด เหมาะกับ คนเป็นโรคเบาหวาน

บุก เป็น สมุนไพร ชนิดหนึ่ง ซึ่ง หัวของบุก จะเป็นแป้ง ซึ่ง นักวิทยาศาสตร์ศึกษาและพบว่า หัวบุก มีสารที่ ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ได้ดี บุก จึงจักเป็น อาหารสุขภาพ ที่เหมาะกับ คนลดความอ้วน และ ผู้เป็นโรคเบาหวาน เส้นบุกผัดกิมจิ สูตรเส้นบุกผัดกิมจิ เป็น อาหาร เมนูประยุกต์ แบบง่ายๆ สำหรับ คนรักสุขภาพ และ ชอบกินกิมจิ เมนูบุกลดความอ้วน เส้นบุกผัดกิมจิ เมนูสไตล์เกาหลี ให้ความรู้สึกไม่น่าเบื่อกับรสชาติที่ดูจัดจ้าน แถมยังให้ อาหารพลังงานต่ำ สูตรอาหารสำหรับ คนชอบทำอาหาร ทำอาหารกิน ในครอบครัว

สูตรเส้นบุกผัดกิมจิ อาหารผัด เมนูเส้น อาหารคลีน ส่วนผสมและขั้นตอนการทำ เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรัก การทำอาหาร อาหารคลีน

ส่วนผสมสำหรับทำเส้นบุกผัดกิมจิ

กิมจิ 1 ถ้วย
เส้นบุก 1 ถ้วย
ไข่ไก่ 1 ฟอง
ลูกชิ้นปลา ผ่าครึ่ง 5 ลูก
ซอสถั่วเหลือง 2 ช้อนโต้ะ
น้ำตาล 2 ช้อนชา
พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
น้ำมัน สำหรับผัด 1 ช้อนชา
วิธีทำเส้นบุผัดกิมจิ

ลวกเส้นบุก ให้สุก จากนั้นนำมาพักไว้ก่อน
ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน ใส่ไข่ลงไปผัด จากนั้นใส่เส้นบุกลงไป ปรุงรสด้วย ซอสถั่วเหลือง น้ำตาล พริกไทย
จากนั้นใส่ ลูกชิ้นปลา และ กิมจิ ลงไปผัด ให้ส่วนผสมเข้ากัน เส้นบุผัดกิมจิ กับข้าวง่ายๆ เมนูเส้นบุก
เคล็ดลับการทำเส้นบุกผัดกิมจิ

เส้นบุก ให้แช่น้ำก่อน ให้เส้นอมน้ำ เวลานำไปลวกจะทำให้เส้นนุ่มอร่อยมากขึ้น
เส้นบุก เมื่อลวกเสร็จแล้ว ให้นำไปแช่ในน้ำแข็ง ให้เส้นมันหดตัว จะได้เส้นบุกที่ เหนียวนุ่ม อร่อย
น้ำมันที่ใช้ในการผัด ให้ใช้น้ำมันที่ใหม่ ไม่ให้นำน้ำมันเก่ามาใช้ผัด เนื่องจากน้ำมันเก่า มีกลิ่นของอาหาร ทำให้เสียรสชาติ ของ ผัดเส้นบุก
ลูกชิ้นปลา ที่ใช้ในการนำมาผัด ใน เมนูผัดเส้นบุก นั้น ให้นำไปลวกก่อนนำมา ผัด เนื่องจาก บางครั้ง ลูกชิ้นปลาจะมี เมือกไขมัน ติดมาด้วย มีกลิ่น ทีีทำให้ รสชาติของ ผัดเส้นบุกกิมจิ เปลี่ยน
วิธีทำเส้นบุกผัดกิมจิ เส้นบุกผัดกิมจิ อาหารเกาหลี เมนูเส้น นำเส้นบุกมาผัดกับกิมจิ อาหาร สำหรับลดน้ำหนัก อาหารสุขภาพ ไม่ทำให้อ้วน สามารถกินได้ดี บุก เป็น สมุนไพรชนิดหนึ่ง ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด เหมาะกับ คนเป็นโรคเบาหวาน

บุก เป็น สมุนไพร ชนิดหนึ่ง ซึ่ง หัวของบุก จะเป็นแป้ง ซึ่ง นักวิทยาศาสตร์ศึกษาและพบว่า หัวบุก มีสารที่ ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ได้ดี บุก จึงจักเป็น อาหารสุขภาพ ที่เหมาะกับ คนลดความอ้วน และ ผู้เป็นโรคเบาหวาน เส้นบุกผัดกิมจิ สูตรเส้นบุกผัดกิมจิ เป็น อาหาร เมนูประยุกต์ แบบง่ายๆ สำหรับ คนรักสุขภาพ และ ชอบกินกิมจิ เมนูบุกลดความอ้วน เส้นบุกผัดกิมจิ เมนูสไตล์เกาหลี ให้ความรู้สึกไม่น่าเบื่อกับรสชาติที่ดูจัดจ้าน แถมยังให้ อาหารพลังงานต่ำ สูตรอาหารสำหรับ คนชอบทำอาหาร ทำอาหารกิน ในครอบครัว

สูตรเส้นบุกผัดกิมจิ อาหารผัด เมนูเส้น อาหารคลีน ส่วนผสมและขั้นตอนการทำ เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรัก การทำอาหาร อาหารคลีน

ส่วนผสมสำหรับทำเส้นบุกผัดกิมจิ

กิมจิ 1 ถ้วย
เส้นบุก 1 ถ้วย
ไข่ไก่ 1 ฟอง
ลูกชิ้นปลา ผ่าครึ่ง 5 ลูก
ซอสถั่วเหลือง 2 ช้อนโต้ะ
น้ำตาล 2 ช้อนชา
พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
น้ำมัน สำหรับผัด 1 ช้อนชา
วิธีทำเส้นบุผัดกิมจิ

ลวกเส้นบุก ให้สุก จากนั้นนำมาพักไว้ก่อน
ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน ใส่ไข่ลงไปผัด จากนั้นใส่เส้นบุกลงไป ปรุงรสด้วย ซอสถั่วเหลือง น้ำตาล พริกไทย
จากนั้นใส่ ลูกชิ้นปลา และ กิมจิ ลงไปผัด ให้ส่วนผสมเข้ากัน เส้นบุผัดกิมจิ กับข้าวง่ายๆ เมนูเส้นบุก
เคล็ดลับการทำเส้นบุกผัดกิมจิ

เส้นบุก ให้แช่น้ำก่อน ให้เส้นอมน้ำ เวลานำไปลวกจะทำให้เส้นนุ่มอร่อยมากขึ้น
เส้นบุก เมื่อลวกเสร็จแล้ว ให้นำไปแช่ในน้ำแข็ง ให้เส้นมันหดตัว จะได้เส้นบุกที่ เหนียวนุ่ม อร่อย
น้ำมันที่ใช้ในการผัด ให้ใช้น้ำมันที่ใหม่ ไม่ให้นำน้ำมันเก่ามาใช้ผัด เนื่องจากน้ำมันเก่า มีกลิ่นของอาหาร ทำให้เสียรสชาติ ของ ผัดเส้นบุก
ลูกชิ้นปลา ที่ใช้ในการนำมาผัด ใน เมนูผัดเส้นบุก นั้น ให้นำไปลวกก่อนนำมา ผัด เนื่องจาก บางครั้ง ลูกชิ้นปลาจะมี เมือกไขมัน ติดมาด้วย มีกลิ่น ทีีทำให้ รสชาติของ ผัดเส้นบุกกิมจิ เปลี่ยน
วิธีทำเส้นบุกผัดกิมจิ เส้นบุกผัดกิมจิ อาหารเกาหลี เมนูเส้น นำเส้นบุกมาผัดกับกิมจิ อาหาร สำหรับลดน้ำหนัก อาหารสุขภาพ ไม่ทำให้อ้วน สามารถกินได้ดี บุก เป็น สมุนไพรชนิดหนึ่ง ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด เหมาะกับ คนเป็นโรคเบาหวาน

บุก เป็น สมุนไพร ชนิดหนึ่ง ซึ่ง หัวของบุก จะเป็นแป้ง ซึ่ง นักวิทยาศาสตร์ศึกษาและพบว่า หัวบุก มีสารที่ ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ได้ดี บุก จึงจักเป็น อาหารสุขภาพ ที่เหมาะกับ คนลดความอ้วน และ ผู้เป็นโรคเบาหวาน เส้นบุกผัดกิมจิ สูตรเส้นบุกผัดกิมจิ เป็น อาหาร เมนูประยุกต์ แบบง่ายๆ สำหรับ คนรักสุขภาพ และ ชอบกินกิมจิ เมนูบุกลดความอ้วน เส้นบุกผัดกิมจิ เมนูสไตล์เกาหลี ให้ความรู้สึกไม่น่าเบื่อกับรสชาติที่ดูจัดจ้าน แถมยังให้ อาหารพลังงานต่ำ สูตรอาหารสำหรับ คนชอบทำอาหาร ทำอาหารกิน ในครอบครัว

ถ้าว่างมีเวลามาโทรล ไปหาช่วยนข.ที่รักมึงหาไฟล์นิยายเถื่อนบ้างก็ดีนะ เห็นหลายเรื่องละ ทั้งเสียเงินซื้อและโหลดฟรี แต่จะเข้าได้รึเปล่านั้นอีกเรื่องนึง

ฝากนะถ้าพวกมึงรำคาญแก๊งค์เหี้ยนี่ มาจอยได้
"ห้องปรึกษาสารพัดปัญหาของนักเขียน". Visit the link below to join the OpenChat.
https://line.me/ti/g2/MMI-aoU_3e9tb5UU3M3rNg?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

เมษายนแล้วนะพวกมึงงงง งานเขียนเป็นไงกันบ้าง กูให้กำลังพวกมึงนะ

>>222 คนอ่านเริ่มเยอะขึ้นแต่คนไม่ค่อยเม้นเลย กูต้องปรับเนื้อเรื่องให้ดีกว่านี้สินะ

>>223 มองหาจุดผิดพลาดของตัวเองเป็นสิ่งที่ดี แต่นักอ่านเงาก็เยอะด้วยมึง อย่าเครียดมากนะ

>>224 นักอ่านเงาเยอะจริงมึง ส่วนใหญ่จาก100คนเม้นประมาณไม่ถึง10 กูตีไว้แบบนี้เวลาลงเวลาเห็นยอดได้แต่ทำใจ

>>225 คอมเม้นแล้วนักเขียนมองข้ามโดนเมินก็ไม่อยากคอมเม้นว่ะ

>>226 มึงคอมเม้นเพื่ออะไรอะ? ต้องให้นักเขียนมาคอยตอบทุกคอมเม้นกูก็ว่าไม่ใช่นะ กูว่านักเขียนเขาก็รับรู้แหละ บางคนก็เขียนท้ายว่าเราอ่านคอมเม้นตลอดแต่ไม่ได้ตอบ ยกเว้นมึงคอมเม้นถามบางอย่างแล้วเขาไม่ตอบก็สมควรนอยด์แหละ

>>227 ก็เจ๊ากันไง บางเรื่องนักเขียนมาตอบแล้วเสียความรู้สึกไปเลย สู้อ่านเงียบๆจะได้ไม่ต้องรับรู้ทัศนคติของคนเขียนดีกว่า

กุตอบในฐาน นข นะ ปกติกุไม่ตอบเม้นเลยเว้นแต่บางอันที่สุดจริงๆแบบขำจี้ใจ หรือเขาพิมพ์มาให้เห็นชัดๆอะว่าถามกุ

สูตรอาหาร สำหรับวันนี้ เราขอนำเสนอ ไก่ทอดบอนชอน เป็น อาหารยอดนิยม ที่เริ่มมีการนำมาขายในประเทศไทน เมนูไก่ทอด สูตรบอนชอน สูตรไก่ทอด การหมักไก่ทอด แบบเกาหลี แนะนำส่วนผสมและวิธีทำ โดยละเอียด ไก่ทอดบอนชอน เมนูไก่ทอดบอนชอน ไก่ทอดยอดนิยม จากเกาหลี ไก่จะหอมเครื่องเทศ รสอร่อย ราดด้วยซอสสูตรพิเศษ ทำให้ ไก่ทอดบอนชอนเป็นที่นิยม ทั่วไป

สูตรไก่ทอดบอนชอน เป็น อาหารทอด เมนูยอดนิยม ส่วนผสมและขั้นตอนการทำ เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรัก การทำอาหาร เมนูไก่ทอด

ส่วนผสมสำหรับทำ ไก่ทอดบอนชอน

ปีกไก่ 5 – 8 ชิ้น
แป้ง สำหรับทอด 3 ช้อนโต้ะ
เกลือ 1 ช้อนชา
พริกไทย 1 ช้อนชา
หอมใหญ่ซอย 2 ช้อนโต้ะ
กระเทียมบด 1 ช้อนชา
ขิงบด 1 ช้อนชา
ซีอิ้วชาว 2 ช้อนโต้ะ
มิริน 2 ช้อนโต้ะ
น้ำตาล 3 ช้อนโต้ะ
งาคั่ว
วิธีทำไก่ทอดบอนชอน

หมักไก่ โดยเครื่องหมักไก่ ประกอบด้วย เกลือ และ พริกไทย จากนั้นโรยแป้งให้ทั่ว
ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน นำ ไก่ ลงไป ทอด ให้เหลืองสุก จากนั้นนำไปพักไว้ก่อน
การเตรียมซอส สำหรับ ไก่บอนชอน ให้นำ น้ำตาล ลงไปคั่วให้เหลือง จากนั้นใส่ มิริน และ ซีอิ้วขาว ลงไป ตามด้วย หอมใหญ่ ขิง และ งาคั่ว ให้ส่วนผสมเข้ากัน
ราดซอส ลงบน ไก่ทอด ไว้แล้ว เป็นอันเสร็จ
เคล็ดลับ การทำไก่ทอดบอนชอน

เนื้อไก่ เราจะใช้เนื้อไก่ที่สด ใหม่ ขนาดไม่ใหญ่ หรือ แก่เกินไป จะใช้ ไก่ส่วน ปีก โดย ใช้ที่ปีกบน และน่องปีก
การเลือกซื้อไก่ สามารถสังเกตุได้ที่ ลักษณะโดยรวมของเนื้อไก่ สีของไก่ ความแน่นตึงของเนื้อไก่ และ กลิ่นของไก่ไท่มีความเหม็นเน่า
น้ำมัน ที่ใช้ใน การทอด ให้ใช้น้ำมันใหม่ อย่าใช้น้ำมันเก่ามาทอด จะทำให้เสียรสชาติ
ไก่ทอดเกาหลี เมนูไก่ ที่คนทั่วไปรู้จัก ในชื่อ เมนูไก่ทอดบอนชอน เป็นอาหารอร่อยๆ ไก่ทอดคลุกซอส ซึ่งเป็น สูตรพิเศษ รสจัด สามารถทำกินเองได้ โดยไม่ต้องง้อ ร้านอาหารชื่อดัง วิธีทำไก่ทอดเกาหลี สูตรนี้เราขอแนะนำรับรอง ความอร่อย สูตรอาหารง่ายๆ สำหรับวันว่านๆ สูตรต้นตำรับ แบบเกาหลี อาหารเกาหลีแท้ๆ สำหรับ คนชอบกินไก่ทอด

ไก่ทอดบอนชอน อาหารเกาหลี เมนูไก่ทอด แบบเกาหลี คงไม่มีใครไม่รู้จัก วิธีทำไก่ทอดบอนชอน ง่ายๆทำกินเองที่บ้านได้ นำไก่ไปทอด ในแป้งหมักสูตรพิเศษ ราดซอสแสนอร่อย อาหารเกาหลี เมนูไก่
สูตรอาหาร สำหรับวันนี้ เราขอนำเสนอ ไก่ทอดบอนชอน เป็น อาหารยอดนิยม ที่เริ่มมีการนำมาขายในประเทศไทน เมนูไก่ทอด สูตรบอนชอน สูตรไก่ทอด การหมักไก่ทอด แบบเกาหลี แนะนำส่วนผสมและวิธีทำ โดยละเอียด ไก่ทอดบอนชอน เมนูไก่ทอดบอนชอน ไก่ทอดยอดนิยม จากเกาหลี ไก่จะหอมเครื่องเทศ รสอร่อย ราดด้วยซอสสูตรพิเศษ ทำให้ ไก่ทอดบอนชอนเป็นที่นิยม ทั่วไป

สูตรไก่ทอดบอนชอน เป็น อาหารทอด เมนูยอดนิยม ส่วนผสมและขั้นตอนการทำ เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรัก การทำอาหาร เมนูไก่ทอด

ส่วนผสมสำหรับทำ ไก่ทอดบอนชอน

ปีกไก่ 5 – 8 ชิ้น
แป้ง สำหรับทอด 3 ช้อนโต้ะ
เกลือ 1 ช้อนชา
พริกไทย 1 ช้อนชา
หอมใหญ่ซอย 2 ช้อนโต้ะ
กระเทียมบด 1 ช้อนชา
ขิงบด 1 ช้อนชา
ซีอิ้วชาว 2 ช้อนโต้ะ
มิริน 2 ช้อนโต้ะ
น้ำตาล 3 ช้อนโต้ะ
งาคั่ว
วิธีทำไก่ทอดบอนชอน

หมักไก่ โดยเครื่องหมักไก่ ประกอบด้วย เกลือ และ พริกไทย จากนั้นโรยแป้งให้ทั่ว
ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน นำ ไก่ ลงไป ทอด ให้เหลืองสุก จากนั้นนำไปพักไว้ก่อน
การเตรียมซอส สำหรับ ไก่บอนชอน ให้นำ น้ำตาล ลงไปคั่วให้เหลือง จากนั้นใส่ มิริน และ ซีอิ้วขาว ลงไป ตามด้วย หอมใหญ่ ขิง และ งาคั่ว ให้ส่วนผสมเข้ากัน
ราดซอส ลงบน ไก่ทอด ไว้แล้ว เป็นอันเสร็จ
เคล็ดลับ การทำไก่ทอดบอนชอน

เนื้อไก่ เราจะใช้เนื้อไก่ที่สด ใหม่ ขนาดไม่ใหญ่ หรือ แก่เกินไป จะใช้ ไก่ส่วน ปีก โดย ใช้ที่ปีกบน และน่องปีก
การเลือกซื้อไก่ สามารถสังเกตุได้ที่ ลักษณะโดยรวมของเนื้อไก่ สีของไก่ ความแน่นตึงของเนื้อไก่ และ กลิ่นของไก่ไท่มีความเหม็นเน่า
น้ำมัน ที่ใช้ใน การทอด ให้ใช้น้ำมันใหม่ อย่าใช้น้ำมันเก่ามาทอด จะทำให้เสียรสชาติ
ไก่ทอดเกาหลี เมนูไก่ ที่คนทั่วไปรู้จัก ในชื่อ เมนูไก่ทอดบอนชอน เป็นอาหารอร่อยๆ ไก่ทอดคลุกซอส ซึ่งเป็น สูตรพิเศษ รสจัด สามารถทำกินเองได้ โดยไม่ต้องง้อ ร้านอาหารชื่อดัง วิธีทำไก่ทอดเกาหลี สูตรนี้เราขอแนะนำรับรอง ความอร่อย สูตรอาหารง่ายๆ สำหรับวันว่านๆ สูตรต้นตำรับ แบบเกาหลี อาหารเกาหลีแท้ๆ สำหรับ คนชอบกินไก่ทอด

ไก่ทอดบอนชอน อาหารเกาหลี เมนูไก่ทอด แบบเกาหลี คงไม่มีใครไม่รู้จัก วิธีทำไก่ทอดบอนชอน ง่ายๆทำกินเองที่บ้านได้ นำไก่ไปทอด ในแป้งหมักสูตรพิเศษ ราดซอสแสนอร่อย อาหารเกาหลี เมนูไก่

สูตรอาหาร สำหรับวันนี้ เราขอนำเสนอ ไก่ทอดบอนชอน เป็น อาหารยอดนิยม ที่เริ่มมีการนำมาขายในประเทศไทน เมนูไก่ทอด สูตรบอนชอน สูตรไก่ทอด การหมักไก่ทอด แบบเกาหลี แนะนำส่วนผสมและวิธีทำ โดยละเอียด ไก่ทอดบอนชอน เมนูไก่ทอดบอนชอน ไก่ทอดยอดนิยม จากเกาหลี ไก่จะหอมเครื่องเทศ รสอร่อย ราดด้วยซอสสูตรพิเศษ ทำให้ ไก่ทอดบอนชอนเป็นที่นิยม ทั่วไป

สูตรไก่ทอดบอนชอน เป็น อาหารทอด เมนูยอดนิยม ส่วนผสมและขั้นตอนการทำ เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรัก การทำอาหาร เมนูไก่ทอด

ส่วนผสมสำหรับทำ ไก่ทอดบอนชอน

ปีกไก่ 5 – 8 ชิ้น
แป้ง สำหรับทอด 3 ช้อนโต้ะ
เกลือ 1 ช้อนชา
พริกไทย 1 ช้อนชา
หอมใหญ่ซอย 2 ช้อนโต้ะ
กระเทียมบด 1 ช้อนชา
ขิงบด 1 ช้อนชา
ซีอิ้วชาว 2 ช้อนโต้ะ
มิริน 2 ช้อนโต้ะ
น้ำตาล 3 ช้อนโต้ะ
งาคั่ว
วิธีทำไก่ทอดบอนชอน

หมักไก่ โดยเครื่องหมักไก่ ประกอบด้วย เกลือ และ พริกไทย จากนั้นโรยแป้งให้ทั่ว
ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน นำ ไก่ ลงไป ทอด ให้เหลืองสุก จากนั้นนำไปพักไว้ก่อน
การเตรียมซอส สำหรับ ไก่บอนชอน ให้นำ น้ำตาล ลงไปคั่วให้เหลือง จากนั้นใส่ มิริน และ ซีอิ้วขาว ลงไป ตามด้วย หอมใหญ่ ขิง และ งาคั่ว ให้ส่วนผสมเข้ากัน
ราดซอส ลงบน ไก่ทอด ไว้แล้ว เป็นอันเสร็จ
เคล็ดลับ การทำไก่ทอดบอนชอน

เนื้อไก่ เราจะใช้เนื้อไก่ที่สด ใหม่ ขนาดไม่ใหญ่ หรือ แก่เกินไป จะใช้ ไก่ส่วน ปีก โดย ใช้ที่ปีกบน และน่องปีก
การเลือกซื้อไก่ สามารถสังเกตุได้ที่ ลักษณะโดยรวมของเนื้อไก่ สีของไก่ ความแน่นตึงของเนื้อไก่ และ กลิ่นของไก่ไท่มีความเหม็นเน่า
น้ำมัน ที่ใช้ใน การทอด ให้ใช้น้ำมันใหม่ อย่าใช้น้ำมันเก่ามาทอด จะทำให้เสียรสชาติ
ไก่ทอดเกาหลี เมนูไก่ ที่คนทั่วไปรู้จัก ในชื่อ เมนูไก่ทอดบอนชอน เป็นอาหารอร่อยๆ ไก่ทอดคลุกซอส ซึ่งเป็น สูตรพิเศษ รสจัด สามารถทำกินเองได้ โดยไม่ต้องง้อ ร้านอาหารชื่อดัง วิธีทำไก่ทอดเกาหลี สูตรนี้เราขอแนะนำรับรอง ความอร่อย สูตรอาหารง่ายๆ สำหรับวันว่านๆ สูตรต้นตำรับ แบบเกาหลี อาหารเกาหลีแท้ๆ สำหรับ คนชอบกินไก่ทอด

ไก่ทอดบอนชอน อาหารเกาหลี เมนูไก่ทอด แบบเกาหลี คงไม่มีใครไม่รู้จัก วิธีทำไก่ทอดบอนชอน ง่ายๆทำกินเองที่บ้านได้ นำไก่ไปทอด ในแป้งหมักสูตรพิเศษ ราดซอสแสนอร่อย อาหารเกาหลี เมนูไก่
สูตรอาหาร สำหรับวันนี้ เราขอนำเสนอ ไก่ทอดบอนชอน เป็น อาหารยอดนิยม ที่เริ่มมีการนำมาขายในประเทศไทน เมนูไก่ทอด สูตรบอนชอน สูตรไก่ทอด การหมักไก่ทอด แบบเกาหลี แนะนำส่วนผสมและวิธีทำ โดยละเอียด ไก่ทอดบอนชอน เมนูไก่ทอดบอนชอน ไก่ทอดยอดนิยม จากเกาหลี ไก่จะหอมเครื่องเทศ รสอร่อย ราดด้วยซอสสูตรพิเศษ ทำให้ ไก่ทอดบอนชอนเป็นที่นิยม ทั่วไป

สูตรไก่ทอดบอนชอน เป็น อาหารทอด เมนูยอดนิยม ส่วนผสมและขั้นตอนการทำ เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรัก การทำอาหาร เมนูไก่ทอด

ส่วนผสมสำหรับทำ ไก่ทอดบอนชอน

ปีกไก่ 5 – 8 ชิ้น
แป้ง สำหรับทอด 3 ช้อนโต้ะ
เกลือ 1 ช้อนชา
พริกไทย 1 ช้อนชา
หอมใหญ่ซอย 2 ช้อนโต้ะ
กระเทียมบด 1 ช้อนชา
ขิงบด 1 ช้อนชา
ซีอิ้วชาว 2 ช้อนโต้ะ
มิริน 2 ช้อนโต้ะ
น้ำตาล 3 ช้อนโต้ะ
งาคั่ว
วิธีทำไก่ทอดบอนชอน

หมักไก่ โดยเครื่องหมักไก่ ประกอบด้วย เกลือ และ พริกไทย จากนั้นโรยแป้งให้ทั่ว
ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน นำ ไก่ ลงไป ทอด ให้เหลืองสุก จากนั้นนำไปพักไว้ก่อน
การเตรียมซอส สำหรับ ไก่บอนชอน ให้นำ น้ำตาล ลงไปคั่วให้เหลือง จากนั้นใส่ มิริน และ ซีอิ้วขาว ลงไป ตามด้วย หอมใหญ่ ขิง และ งาคั่ว ให้ส่วนผสมเข้ากัน
ราดซอส ลงบน ไก่ทอด ไว้แล้ว เป็นอันเสร็จ
เคล็ดลับ การทำไก่ทอดบอนชอน

เนื้อไก่ เราจะใช้เนื้อไก่ที่สด ใหม่ ขนาดไม่ใหญ่ หรือ แก่เกินไป จะใช้ ไก่ส่วน ปีก โดย ใช้ที่ปีกบน และน่องปีก
การเลือกซื้อไก่ สามารถสังเกตุได้ที่ ลักษณะโดยรวมของเนื้อไก่ สีของไก่ ความแน่นตึงของเนื้อไก่ และ กลิ่นของไก่ไท่มีความเหม็นเน่า
น้ำมัน ที่ใช้ใน การทอด ให้ใช้น้ำมันใหม่ อย่าใช้น้ำมันเก่ามาทอด จะทำให้เสียรสชาติ
ไก่ทอดเกาหลี เมนูไก่ ที่คนทั่วไปรู้จัก ในชื่อ เมนูไก่ทอดบอนชอน เป็นอาหารอร่อยๆ ไก่ทอดคลุกซอส ซึ่งเป็น สูตรพิเศษ รสจัด สามารถทำกินเองได้ โดยไม่ต้องง้อ ร้านอาหารชื่อดัง วิธีทำไก่ทอดเกาหลี สูตรนี้เราขอแนะนำรับรอง ความอร่อย สูตรอาหารง่ายๆ สำหรับวันว่านๆ สูตรต้นตำรับ แบบเกาหลี อาหารเกาหลีแท้ๆ สำหรับ คนชอบกินไก่ทอด

ไก่ทอดบอนชอน อาหารเกาหลี เมนูไก่ทอด แบบเกาหลี คงไม่มีใครไม่รู้จัก วิธีทำไก่ทอดบอนชอน ง่ายๆทำกินเองที่บ้านได้ นำไก่ไปทอด ในแป้งหมักสูตรพิเศษ ราดซอสแสนอร่อย อาหารเกาหลี เมนูไก่

สูตรอาหาร สำหรับวันนี้ เราขอนำเสนอ ไก่ทอดบอนชอน เป็น อาหารยอดนิยม ที่เริ่มมีการนำมาขายในประเทศไทน เมนูไก่ทอด สูตรบอนชอน สูตรไก่ทอด การหมักไก่ทอด แบบเกาหลี แนะนำส่วนผสมและวิธีทำ โดยละเอียด ไก่ทอดบอนชอน เมนูไก่ทอดบอนชอน ไก่ทอดยอดนิยม จากเกาหลี ไก่จะหอมเครื่องเทศ รสอร่อย ราดด้วยซอสสูตรพิเศษ ทำให้ ไก่ทอดบอนชอนเป็นที่นิยม ทั่วไป

สูตรไก่ทอดบอนชอน เป็น อาหารทอด เมนูยอดนิยม ส่วนผสมและขั้นตอนการทำ เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรัก การทำอาหาร เมนูไก่ทอด

ส่วนผสมสำหรับทำ ไก่ทอดบอนชอน

ปีกไก่ 5 – 8 ชิ้น
แป้ง สำหรับทอด 3 ช้อนโต้ะ
เกลือ 1 ช้อนชา
พริกไทย 1 ช้อนชา
หอมใหญ่ซอย 2 ช้อนโต้ะ
กระเทียมบด 1 ช้อนชา
ขิงบด 1 ช้อนชา
ซีอิ้วชาว 2 ช้อนโต้ะ
มิริน 2 ช้อนโต้ะ
น้ำตาล 3 ช้อนโต้ะ
งาคั่ว
วิธีทำไก่ทอดบอนชอน

หมักไก่ โดยเครื่องหมักไก่ ประกอบด้วย เกลือ และ พริกไทย จากนั้นโรยแป้งให้ทั่ว
ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน นำ ไก่ ลงไป ทอด ให้เหลืองสุก จากนั้นนำไปพักไว้ก่อน
การเตรียมซอส สำหรับ ไก่บอนชอน ให้นำ น้ำตาล ลงไปคั่วให้เหลือง จากนั้นใส่ มิริน และ ซีอิ้วขาว ลงไป ตามด้วย หอมใหญ่ ขิง และ งาคั่ว ให้ส่วนผสมเข้ากัน
ราดซอส ลงบน ไก่ทอด ไว้แล้ว เป็นอันเสร็จ
เคล็ดลับ การทำไก่ทอดบอนชอน

เนื้อไก่ เราจะใช้เนื้อไก่ที่สด ใหม่ ขนาดไม่ใหญ่ หรือ แก่เกินไป จะใช้ ไก่ส่วน ปีก โดย ใช้ที่ปีกบน และน่องปีก
การเลือกซื้อไก่ สามารถสังเกตุได้ที่ ลักษณะโดยรวมของเนื้อไก่ สีของไก่ ความแน่นตึงของเนื้อไก่ และ กลิ่นของไก่ไท่มีความเหม็นเน่า
น้ำมัน ที่ใช้ใน การทอด ให้ใช้น้ำมันใหม่ อย่าใช้น้ำมันเก่ามาทอด จะทำให้เสียรสชาติ
ไก่ทอดเกาหลี เมนูไก่ ที่คนทั่วไปรู้จัก ในชื่อ เมนูไก่ทอดบอนชอน เป็นอาหารอร่อยๆ ไก่ทอดคลุกซอส ซึ่งเป็น สูตรพิเศษ รสจัด สามารถทำกินเองได้ โดยไม่ต้องง้อ ร้านอาหารชื่อดัง วิธีทำไก่ทอดเกาหลี สูตรนี้เราขอแนะนำรับรอง ความอร่อย สูตรอาหารง่ายๆ สำหรับวันว่านๆ สูตรต้นตำรับ แบบเกาหลี อาหารเกาหลีแท้ๆ สำหรับ คนชอบกินไก่ทอด

ไก่ทอดบอนชอน อาหารเกาหลี เมนูไก่ทอด แบบเกาหลี คงไม่มีใครไม่รู้จัก วิธีทำไก่ทอดบอนชอน ง่ายๆทำกินเองที่บ้านได้ นำไก่ไปทอด ในแป้งหมักสูตรพิเศษ ราดซอสแสนอร่อย อาหารเกาหลี เมนูไก่
สูตรอาหาร สำหรับวันนี้ เราขอนำเสนอ ไก่ทอดบอนชอน เป็น อาหารยอดนิยม ที่เริ่มมีการนำมาขายในประเทศไทน เมนูไก่ทอด สูตรบอนชอน สูตรไก่ทอด การหมักไก่ทอด แบบเกาหลี แนะนำส่วนผสมและวิธีทำ โดยละเอียด ไก่ทอดบอนชอน เมนูไก่ทอดบอนชอน ไก่ทอดยอดนิยม จากเกาหลี ไก่จะหอมเครื่องเทศ รสอร่อย ราดด้วยซอสสูตรพิเศษ ทำให้ ไก่ทอดบอนชอนเป็นที่นิยม ทั่วไป

สูตรไก่ทอดบอนชอน เป็น อาหารทอด เมนูยอดนิยม ส่วนผสมและขั้นตอนการทำ เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรัก การทำอาหาร เมนูไก่ทอด

ส่วนผสมสำหรับทำ ไก่ทอดบอนชอน

ปีกไก่ 5 – 8 ชิ้น
แป้ง สำหรับทอด 3 ช้อนโต้ะ
เกลือ 1 ช้อนชา
พริกไทย 1 ช้อนชา
หอมใหญ่ซอย 2 ช้อนโต้ะ
กระเทียมบด 1 ช้อนชา
ขิงบด 1 ช้อนชา
ซีอิ้วชาว 2 ช้อนโต้ะ
มิริน 2 ช้อนโต้ะ
น้ำตาล 3 ช้อนโต้ะ
งาคั่ว
วิธีทำไก่ทอดบอนชอน

หมักไก่ โดยเครื่องหมักไก่ ประกอบด้วย เกลือ และ พริกไทย จากนั้นโรยแป้งให้ทั่ว
ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน นำ ไก่ ลงไป ทอด ให้เหลืองสุก จากนั้นนำไปพักไว้ก่อน
การเตรียมซอส สำหรับ ไก่บอนชอน ให้นำ น้ำตาล ลงไปคั่วให้เหลือง จากนั้นใส่ มิริน และ ซีอิ้วขาว ลงไป ตามด้วย หอมใหญ่ ขิง และ งาคั่ว ให้ส่วนผสมเข้ากัน
ราดซอส ลงบน ไก่ทอด ไว้แล้ว เป็นอันเสร็จ
เคล็ดลับ การทำไก่ทอดบอนชอน

เนื้อไก่ เราจะใช้เนื้อไก่ที่สด ใหม่ ขนาดไม่ใหญ่ หรือ แก่เกินไป จะใช้ ไก่ส่วน ปีก โดย ใช้ที่ปีกบน และน่องปีก
การเลือกซื้อไก่ สามารถสังเกตุได้ที่ ลักษณะโดยรวมของเนื้อไก่ สีของไก่ ความแน่นตึงของเนื้อไก่ และ กลิ่นของไก่ไท่มีความเหม็นเน่า
น้ำมัน ที่ใช้ใน การทอด ให้ใช้น้ำมันใหม่ อย่าใช้น้ำมันเก่ามาทอด จะทำให้เสียรสชาติ
ไก่ทอดเกาหลี เมนูไก่ ที่คนทั่วไปรู้จัก ในชื่อ เมนูไก่ทอดบอนชอน เป็นอาหารอร่อยๆ ไก่ทอดคลุกซอส ซึ่งเป็น สูตรพิเศษ รสจัด สามารถทำกินเองได้ โดยไม่ต้องง้อ ร้านอาหารชื่อดัง วิธีทำไก่ทอดเกาหลี สูตรนี้เราขอแนะนำรับรอง ความอร่อย สูตรอาหารง่ายๆ สำหรับวันว่านๆ สูตรต้นตำรับ แบบเกาหลี อาหารเกาหลีแท้ๆ สำหรับ คนชอบกินไก่ทอด

ไก่ทอดบอนชอน อาหารเกาหลี เมนูไก่ทอด แบบเกาหลี คงไม่มีใครไม่รู้จัก วิธีทำไก่ทอดบอนชอน ง่ายๆทำกินเองที่บ้านได้ นำไก่ไปทอด ในแป้งหมักสูตรพิเศษ ราดซอสแสนอร่อย อาหารเกาหลี เมนูไก่

สูตรอาหาร สำหรับวันนี้ เราขอนำเสนอ ไก่ทอดบอนชอน เป็น อาหารยอดนิยม ที่เริ่มมีการนำมาขายในประเทศไทน เมนูไก่ทอด สูตรบอนชอน สูตรไก่ทอด การหมักไก่ทอด แบบเกาหลี แนะนำส่วนผสมและวิธีทำ โดยละเอียด ไก่ทอดบอนชอน เมนูไก่ทอดบอนชอน ไก่ทอดยอดนิยม จากเกาหลี ไก่จะหอมเครื่องเทศ รสอร่อย ราดด้วยซอสสูตรพิเศษ ทำให้ ไก่ทอดบอนชอนเป็นที่นิยม ทั่วไป

สูตรไก่ทอดบอนชอน เป็น อาหารทอด เมนูยอดนิยม ส่วนผสมและขั้นตอนการทำ เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรัก การทำอาหาร เมนูไก่ทอด

ส่วนผสมสำหรับทำ ไก่ทอดบอนชอน

ปีกไก่ 5 – 8 ชิ้น
แป้ง สำหรับทอด 3 ช้อนโต้ะ
เกลือ 1 ช้อนชา
พริกไทย 1 ช้อนชา
หอมใหญ่ซอย 2 ช้อนโต้ะ
กระเทียมบด 1 ช้อนชา
ขิงบด 1 ช้อนชา
ซีอิ้วชาว 2 ช้อนโต้ะ
มิริน 2 ช้อนโต้ะ
น้ำตาล 3 ช้อนโต้ะ
งาคั่ว
วิธีทำไก่ทอดบอนชอน

หมักไก่ โดยเครื่องหมักไก่ ประกอบด้วย เกลือ และ พริกไทย จากนั้นโรยแป้งให้ทั่ว
ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน นำ ไก่ ลงไป ทอด ให้เหลืองสุก จากนั้นนำไปพักไว้ก่อน
การเตรียมซอส สำหรับ ไก่บอนชอน ให้นำ น้ำตาล ลงไปคั่วให้เหลือง จากนั้นใส่ มิริน และ ซีอิ้วขาว ลงไป ตามด้วย หอมใหญ่ ขิง และ งาคั่ว ให้ส่วนผสมเข้ากัน
ราดซอส ลงบน ไก่ทอด ไว้แล้ว เป็นอันเสร็จ
เคล็ดลับ การทำไก่ทอดบอนชอน

เนื้อไก่ เราจะใช้เนื้อไก่ที่สด ใหม่ ขนาดไม่ใหญ่ หรือ แก่เกินไป จะใช้ ไก่ส่วน ปีก โดย ใช้ที่ปีกบน และน่องปีก
การเลือกซื้อไก่ สามารถสังเกตุได้ที่ ลักษณะโดยรวมของเนื้อไก่ สีของไก่ ความแน่นตึงของเนื้อไก่ และ กลิ่นของไก่ไท่มีความเหม็นเน่า
น้ำมัน ที่ใช้ใน การทอด ให้ใช้น้ำมันใหม่ อย่าใช้น้ำมันเก่ามาทอด จะทำให้เสียรสชาติ
ไก่ทอดเกาหลี เมนูไก่ ที่คนทั่วไปรู้จัก ในชื่อ เมนูไก่ทอดบอนชอน เป็นอาหารอร่อยๆ ไก่ทอดคลุกซอส ซึ่งเป็น สูตรพิเศษ รสจัด สามารถทำกินเองได้ โดยไม่ต้องง้อ ร้านอาหารชื่อดัง วิธีทำไก่ทอดเกาหลี สูตรนี้เราขอแนะนำรับรอง ความอร่อย สูตรอาหารง่ายๆ สำหรับวันว่านๆ สูตรต้นตำรับ แบบเกาหลี อาหารเกาหลีแท้ๆ สำหรับ คนชอบกินไก่ทอด

ไก่ทอดบอนชอน อาหารเกาหลี เมนูไก่ทอด แบบเกาหลี คงไม่มีใครไม่รู้จัก วิธีทำไก่ทอดบอนชอน ง่ายๆทำกินเองที่บ้านได้ นำไก่ไปทอด ในแป้งหมักสูตรพิเศษ ราดซอสแสนอร่อย อาหารเกาหลี เมนูไก่
สูตรอาหาร สำหรับวันนี้ เราขอนำเสนอ ไก่ทอดบอนชอน เป็น อาหารยอดนิยม ที่เริ่มมีการนำมาขายในประเทศไทน เมนูไก่ทอด สูตรบอนชอน สูตรไก่ทอด การหมักไก่ทอด แบบเกาหลี แนะนำส่วนผสมและวิธีทำ โดยละเอียด ไก่ทอดบอนชอน เมนูไก่ทอดบอนชอน ไก่ทอดยอดนิยม จากเกาหลี ไก่จะหอมเครื่องเทศ รสอร่อย ราดด้วยซอสสูตรพิเศษ ทำให้ ไก่ทอดบอนชอนเป็นที่นิยม ทั่วไป

สูตรไก่ทอดบอนชอน เป็น อาหารทอด เมนูยอดนิยม ส่วนผสมและขั้นตอนการทำ เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรัก การทำอาหาร เมนูไก่ทอด

ส่วนผสมสำหรับทำ ไก่ทอดบอนชอน

ปีกไก่ 5 – 8 ชิ้น
แป้ง สำหรับทอด 3 ช้อนโต้ะ
เกลือ 1 ช้อนชา
พริกไทย 1 ช้อนชา
หอมใหญ่ซอย 2 ช้อนโต้ะ
กระเทียมบด 1 ช้อนชา
ขิงบด 1 ช้อนชา
ซีอิ้วชาว 2 ช้อนโต้ะ
มิริน 2 ช้อนโต้ะ
น้ำตาล 3 ช้อนโต้ะ
งาคั่ว
วิธีทำไก่ทอดบอนชอน

หมักไก่ โดยเครื่องหมักไก่ ประกอบด้วย เกลือ และ พริกไทย จากนั้นโรยแป้งให้ทั่ว
ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน นำ ไก่ ลงไป ทอด ให้เหลืองสุก จากนั้นนำไปพักไว้ก่อน
การเตรียมซอส สำหรับ ไก่บอนชอน ให้นำ น้ำตาล ลงไปคั่วให้เหลือง จากนั้นใส่ มิริน และ ซีอิ้วขาว ลงไป ตามด้วย หอมใหญ่ ขิง และ งาคั่ว ให้ส่วนผสมเข้ากัน
ราดซอส ลงบน ไก่ทอด ไว้แล้ว เป็นอันเสร็จ
เคล็ดลับ การทำไก่ทอดบอนชอน

เนื้อไก่ เราจะใช้เนื้อไก่ที่สด ใหม่ ขนาดไม่ใหญ่ หรือ แก่เกินไป จะใช้ ไก่ส่วน ปีก โดย ใช้ที่ปีกบน และน่องปีก
การเลือกซื้อไก่ สามารถสังเกตุได้ที่ ลักษณะโดยรวมของเนื้อไก่ สีของไก่ ความแน่นตึงของเนื้อไก่ และ กลิ่นของไก่ไท่มีความเหม็นเน่า
น้ำมัน ที่ใช้ใน การทอด ให้ใช้น้ำมันใหม่ อย่าใช้น้ำมันเก่ามาทอด จะทำให้เสียรสชาติ
ไก่ทอดเกาหลี เมนูไก่ ที่คนทั่วไปรู้จัก ในชื่อ เมนูไก่ทอดบอนชอน เป็นอาหารอร่อยๆ ไก่ทอดคลุกซอส ซึ่งเป็น สูตรพิเศษ รสจัด สามารถทำกินเองได้ โดยไม่ต้องง้อ ร้านอาหารชื่อดัง วิธีทำไก่ทอดเกาหลี สูตรนี้เราขอแนะนำรับรอง ความอร่อย สูตรอาหารง่ายๆ สำหรับวันว่านๆ สูตรต้นตำรับ แบบเกาหลี อาหารเกาหลีแท้ๆ สำหรับ คนชอบกินไก่ทอด

ไก่ทอดบอนชอน อาหารเกาหลี เมนูไก่ทอด แบบเกาหลี คงไม่มีใครไม่รู้จัก วิธีทำไก่ทอดบอนชอน ง่ายๆทำกินเองที่บ้านได้ นำไก่ไปทอด ในแป้งหมักสูตรพิเศษ ราดซอสแสนอร่อย อาหารเกาหลี เมนูไก่

สูตรอาหารแนะนำ สำหรับวันนี้ เราของเสนอ ข้าวผัด ที่ผสมกับ กิมจิ อาหารยอดนิยมของเกาหลี คือ ข้าวผัดกิมจิ ภาษาอังกฤษ เรียก Fried Rice with Kim-chi เคล็ดลับความอร่อยของข้าวผัดกิมจิ คือ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาตื

ข้าวผัดกิมจิ เมนูข้าวผัด ที่สร้างความหลากหลาย เมื่อเรานำ กิมจิมาผัดกับข้าว แทนที่จะกิน ข้าวผัด ธรรมดาๆ อาหารทำง่าย ๆและ อร่อย ได้ที่บ้านด้วย เมนูกิมจิ เมนูข้าวผัดสไตล์เกาหลี ที่เสิร์ฟในกระทะร้อน

ส่วนผสมสำหรับทำข้าวผัดกิมจิ

หมูหั่นชิ้น 1 ถ้วย
กระเทียม บด 1 ช้อนชา
กิมจิ 1 ถ้วย
ไข่ไก่ 1 ฟอง
โคชูจัง 1 ช้อนโต้ะ
ซอสน้ำมันหอย 1 ช้อนโต้ะ
น้ำมันงา 1 ช้อนชา
ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต้ะ
น้ำตาล 1 ช้อนชา
ข้าวสวย 1 จาน
วิธีทำข้าวผัดกิมจิ

ตั้งกระทะน้ำมันนำ กระเทียม ลงไปผัด ตามด้วย เนื้อหมู เมื่อ ผัดเนื้อหมูสุก แล้วนำ ไข่ไก ลงไปผัดต่อ
จากนั้นนำ กิมจิ ลงไปผัดต่อ คลุกเคล้าให้เข้ากัน
จากน้ันนำข้าวลงไปผัด ปรุงรสด้วย ซอสน้ำมันหอย น้ำมันงา น้ำตาล ซอสปรุงรส และ โคชูจัง ผัดให้เข้ากัน
เสริฟใส่จาน ข้าวผัดกิมจิ อาหาร เมนูง่ายๆ
เคล็ดลับการทำข้าวผัดกิมจิ

ข้าว ที่ใช้ใน การผัด ใช้ ข้าวหอมมะลิ เก่า เนื่องจาก ข้าวหอมมะลิเก่า เม็ดจะแข็ง เวลาหุงแล้ว ข้าว จะเป็น เม็ดสวย
ข้าว ที่ใช้ใน การผัด ต้องทำให้แห้งก่อน ไม่แนะนำให้ใช้ข้าวหุงสุกใหม่ๆ เนื่องจากข้าวมีความชื้นสูง เวลานำไปผัดข้าวจะเละ และไม่น่ารับประทาน
ให้นำ ข้าว ผึ่งให้แห้ง และเย็น หรือ นำข้าวหุงสุกไปแช่เย็นเลย ให้ข้าวแข็ง สัก หนึ่งคืน ก่อน นำมาผัด
การผัดข้าวผัด นั้น ไม่ต้องบี้ข้าว แค่คลุกไปคลุกมาก็พอ เนื่องจากข้าว เมื่อเวลาโดนความร้อน ข้าวจะแตกตัวออกมาเอง และ ข้าว จะนุ่มพอดี สำหรับเมนูนี้ กิมจิ มีน้ำมาก ไม่ต้องใส่น้ำเพิ่ม
สำหรับ ข้าวผัดกิมจิ สามารถเสริฟ ร่วมกับผักเคียง แบบไทยๆ ได้ เช่น แตงกวา หรือ ต้นหอม
สูตรข้าวผัดกิมจิ เป็น อาหาร ง่ายๆ เมนูข้าวผัด ส่วนผสมและขั้นตอนการทำ เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรัก การทำอาหาร เมนูผัด วิธีทำข้าวผัดกิมจิ ข้าวผัดสไตล์เกาหลี อาหารเกาหลี สูตรวิธีการทำอาหาร เมนูข้าวผัดกิมจิ สูตรอาหาร นี้น่าลองทำมาก
สูตรอาหารแนะนำ สำหรับวันนี้ เราของเสนอ ข้าวผัด ที่ผสมกับ กิมจิ อาหารยอดนิยมของเกาหลี คือ ข้าวผัดกิมจิ ภาษาอังกฤษ เรียก Fried Rice with Kim-chi เคล็ดลับความอร่อยของข้าวผัดกิมจิ คือ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาตื

ข้าวผัดกิมจิ เมนูข้าวผัด ที่สร้างความหลากหลาย เมื่อเรานำ กิมจิมาผัดกับข้าว แทนที่จะกิน ข้าวผัด ธรรมดาๆ อาหารทำง่าย ๆและ อร่อย ได้ที่บ้านด้วย เมนูกิมจิ เมนูข้าวผัดสไตล์เกาหลี ที่เสิร์ฟในกระทะร้อน

ส่วนผสมสำหรับทำข้าวผัดกิมจิ

หมูหั่นชิ้น 1 ถ้วย
กระเทียม บด 1 ช้อนชา
กิมจิ 1 ถ้วย
ไข่ไก่ 1 ฟอง
โคชูจัง 1 ช้อนโต้ะ
ซอสน้ำมันหอย 1 ช้อนโต้ะ
น้ำมันงา 1 ช้อนชา
ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต้ะ
น้ำตาล 1 ช้อนชา
ข้าวสวย 1 จาน
วิธีทำข้าวผัดกิมจิ

ตั้งกระทะน้ำมันนำ กระเทียม ลงไปผัด ตามด้วย เนื้อหมู เมื่อ ผัดเนื้อหมูสุก แล้วนำ ไข่ไก ลงไปผัดต่อ
จากนั้นนำ กิมจิ ลงไปผัดต่อ คลุกเคล้าให้เข้ากัน
จากน้ันนำข้าวลงไปผัด ปรุงรสด้วย ซอสน้ำมันหอย น้ำมันงา น้ำตาล ซอสปรุงรส และ โคชูจัง ผัดให้เข้ากัน
เสริฟใส่จาน ข้าวผัดกิมจิ อาหาร เมนูง่ายๆ
เคล็ดลับการทำข้าวผัดกิมจิ

ข้าว ที่ใช้ใน การผัด ใช้ ข้าวหอมมะลิ เก่า เนื่องจาก ข้าวหอมมะลิเก่า เม็ดจะแข็ง เวลาหุงแล้ว ข้าว จะเป็น เม็ดสวย
ข้าว ที่ใช้ใน การผัด ต้องทำให้แห้งก่อน ไม่แนะนำให้ใช้ข้าวหุงสุกใหม่ๆ เนื่องจากข้าวมีความชื้นสูง เวลานำไปผัดข้าวจะเละ และไม่น่ารับประทาน
ให้นำ ข้าว ผึ่งให้แห้ง และเย็น หรือ นำข้าวหุงสุกไปแช่เย็นเลย ให้ข้าวแข็ง สัก หนึ่งคืน ก่อน นำมาผัด
การผัดข้าวผัด นั้น ไม่ต้องบี้ข้าว แค่คลุกไปคลุกมาก็พอ เนื่องจากข้าว เมื่อเวลาโดนความร้อน ข้าวจะแตกตัวออกมาเอง และ ข้าว จะนุ่มพอดี สำหรับเมนูนี้ กิมจิ มีน้ำมาก ไม่ต้องใส่น้ำเพิ่ม
สำหรับ ข้าวผัดกิมจิ สามารถเสริฟ ร่วมกับผักเคียง แบบไทยๆ ได้ เช่น แตงกวา หรือ ต้นหอม
สูตรข้าวผัดกิมจิ เป็น อาหาร ง่ายๆ เมนูข้าวผัด ส่วนผสมและขั้นตอนการทำ เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรัก การทำอาหาร เมนูผัด วิธีทำข้าวผัดกิมจิ ข้าวผัดสไตล์เกาหลี อาหารเกาหลี สูตรวิธีการทำอาหาร เมนูข้าวผัดกิมจิ สูตรอาหาร นี้น่าลองทำมาก

สูตรอาหารแนะนำ สำหรับวันนี้ เราของเสนอ ข้าวผัด ที่ผสมกับ กิมจิ อาหารยอดนิยมของเกาหลี คือ ข้าวผัดกิมจิ ภาษาอังกฤษ เรียก Fried Rice with Kim-chi เคล็ดลับความอร่อยของข้าวผัดกิมจิ คือ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาตื

ข้าวผัดกิมจิ เมนูข้าวผัด ที่สร้างความหลากหลาย เมื่อเรานำ กิมจิมาผัดกับข้าว แทนที่จะกิน ข้าวผัด ธรรมดาๆ อาหารทำง่าย ๆและ อร่อย ได้ที่บ้านด้วย เมนูกิมจิ เมนูข้าวผัดสไตล์เกาหลี ที่เสิร์ฟในกระทะร้อน

ส่วนผสมสำหรับทำข้าวผัดกิมจิ

หมูหั่นชิ้น 1 ถ้วย
กระเทียม บด 1 ช้อนชา
กิมจิ 1 ถ้วย
ไข่ไก่ 1 ฟอง
โคชูจัง 1 ช้อนโต้ะ
ซอสน้ำมันหอย 1 ช้อนโต้ะ
น้ำมันงา 1 ช้อนชา
ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต้ะ
น้ำตาล 1 ช้อนชา
ข้าวสวย 1 จาน
วิธีทำข้าวผัดกิมจิ

ตั้งกระทะน้ำมันนำ กระเทียม ลงไปผัด ตามด้วย เนื้อหมู เมื่อ ผัดเนื้อหมูสุก แล้วนำ ไข่ไก ลงไปผัดต่อ
จากนั้นนำ กิมจิ ลงไปผัดต่อ คลุกเคล้าให้เข้ากัน
จากน้ันนำข้าวลงไปผัด ปรุงรสด้วย ซอสน้ำมันหอย น้ำมันงา น้ำตาล ซอสปรุงรส และ โคชูจัง ผัดให้เข้ากัน
เสริฟใส่จาน ข้าวผัดกิมจิ อาหาร เมนูง่ายๆ
เคล็ดลับการทำข้าวผัดกิมจิ

ข้าว ที่ใช้ใน การผัด ใช้ ข้าวหอมมะลิ เก่า เนื่องจาก ข้าวหอมมะลิเก่า เม็ดจะแข็ง เวลาหุงแล้ว ข้าว จะเป็น เม็ดสวย
ข้าว ที่ใช้ใน การผัด ต้องทำให้แห้งก่อน ไม่แนะนำให้ใช้ข้าวหุงสุกใหม่ๆ เนื่องจากข้าวมีความชื้นสูง เวลานำไปผัดข้าวจะเละ และไม่น่ารับประทาน
ให้นำ ข้าว ผึ่งให้แห้ง และเย็น หรือ นำข้าวหุงสุกไปแช่เย็นเลย ให้ข้าวแข็ง สัก หนึ่งคืน ก่อน นำมาผัด
การผัดข้าวผัด นั้น ไม่ต้องบี้ข้าว แค่คลุกไปคลุกมาก็พอ เนื่องจากข้าว เมื่อเวลาโดนความร้อน ข้าวจะแตกตัวออกมาเอง และ ข้าว จะนุ่มพอดี สำหรับเมนูนี้ กิมจิ มีน้ำมาก ไม่ต้องใส่น้ำเพิ่ม
สำหรับ ข้าวผัดกิมจิ สามารถเสริฟ ร่วมกับผักเคียง แบบไทยๆ ได้ เช่น แตงกวา หรือ ต้นหอม
สูตรข้าวผัดกิมจิ เป็น อาหาร ง่ายๆ เมนูข้าวผัด ส่วนผสมและขั้นตอนการทำ เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรัก การทำอาหาร เมนูผัด วิธีทำข้าวผัดกิมจิ ข้าวผัดสไตล์เกาหลี อาหารเกาหลี สูตรวิธีการทำอาหาร เมนูข้าวผัดกิมจิ สูตรอาหาร นี้น่าลองทำมาก
สูตรอาหารแนะนำ สำหรับวันนี้ เราของเสนอ ข้าวผัด ที่ผสมกับ กิมจิ อาหารยอดนิยมของเกาหลี คือ ข้าวผัดกิมจิ ภาษาอังกฤษ เรียก Fried Rice with Kim-chi เคล็ดลับความอร่อยของข้าวผัดกิมจิ คือ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาตื

ข้าวผัดกิมจิ เมนูข้าวผัด ที่สร้างความหลากหลาย เมื่อเรานำ กิมจิมาผัดกับข้าว แทนที่จะกิน ข้าวผัด ธรรมดาๆ อาหารทำง่าย ๆและ อร่อย ได้ที่บ้านด้วย เมนูกิมจิ เมนูข้าวผัดสไตล์เกาหลี ที่เสิร์ฟในกระทะร้อน

ส่วนผสมสำหรับทำข้าวผัดกิมจิ

หมูหั่นชิ้น 1 ถ้วย
กระเทียม บด 1 ช้อนชา
กิมจิ 1 ถ้วย
ไข่ไก่ 1 ฟอง
โคชูจัง 1 ช้อนโต้ะ
ซอสน้ำมันหอย 1 ช้อนโต้ะ
น้ำมันงา 1 ช้อนชา
ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต้ะ
น้ำตาล 1 ช้อนชา
ข้าวสวย 1 จาน
วิธีทำข้าวผัดกิมจิ

ตั้งกระทะน้ำมันนำ กระเทียม ลงไปผัด ตามด้วย เนื้อหมู เมื่อ ผัดเนื้อหมูสุก แล้วนำ ไข่ไก ลงไปผัดต่อ
จากนั้นนำ กิมจิ ลงไปผัดต่อ คลุกเคล้าให้เข้ากัน
จากน้ันนำข้าวลงไปผัด ปรุงรสด้วย ซอสน้ำมันหอย น้ำมันงา น้ำตาล ซอสปรุงรส และ โคชูจัง ผัดให้เข้ากัน
เสริฟใส่จาน ข้าวผัดกิมจิ อาหาร เมนูง่ายๆ
เคล็ดลับการทำข้าวผัดกิมจิ

ข้าว ที่ใช้ใน การผัด ใช้ ข้าวหอมมะลิ เก่า เนื่องจาก ข้าวหอมมะลิเก่า เม็ดจะแข็ง เวลาหุงแล้ว ข้าว จะเป็น เม็ดสวย
ข้าว ที่ใช้ใน การผัด ต้องทำให้แห้งก่อน ไม่แนะนำให้ใช้ข้าวหุงสุกใหม่ๆ เนื่องจากข้าวมีความชื้นสูง เวลานำไปผัดข้าวจะเละ และไม่น่ารับประทาน
ให้นำ ข้าว ผึ่งให้แห้ง และเย็น หรือ นำข้าวหุงสุกไปแช่เย็นเลย ให้ข้าวแข็ง สัก หนึ่งคืน ก่อน นำมาผัด
การผัดข้าวผัด นั้น ไม่ต้องบี้ข้าว แค่คลุกไปคลุกมาก็พอ เนื่องจากข้าว เมื่อเวลาโดนความร้อน ข้าวจะแตกตัวออกมาเอง และ ข้าว จะนุ่มพอดี สำหรับเมนูนี้ กิมจิ มีน้ำมาก ไม่ต้องใส่น้ำเพิ่ม
สำหรับ ข้าวผัดกิมจิ สามารถเสริฟ ร่วมกับผักเคียง แบบไทยๆ ได้ เช่น แตงกวา หรือ ต้นหอม
สูตรข้าวผัดกิมจิ เป็น อาหาร ง่ายๆ เมนูข้าวผัด ส่วนผสมและขั้นตอนการทำ เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรัก การทำอาหาร เมนูผัด วิธีทำข้าวผัดกิมจิ ข้าวผัดสไตล์เกาหลี อาหารเกาหลี สูตรวิธีการทำอาหาร เมนูข้าวผัดกิมจิ สูตรอาหาร นี้น่าลองทำมาก

สูตรอาหารแนะนำ สำหรับวันนี้ เราของเสนอ ข้าวผัด ที่ผสมกับ กิมจิ อาหารยอดนิยมของเกาหลี คือ ข้าวผัดกิมจิ ภาษาอังกฤษ เรียก Fried Rice with Kim-chi เคล็ดลับความอร่อยของข้าวผัดกิมจิ คือ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาตื

ข้าวผัดกิมจิ เมนูข้าวผัด ที่สร้างความหลากหลาย เมื่อเรานำ กิมจิมาผัดกับข้าว แทนที่จะกิน ข้าวผัด ธรรมดาๆ อาหารทำง่าย ๆและ อร่อย ได้ที่บ้านด้วย เมนูกิมจิ เมนูข้าวผัดสไตล์เกาหลี ที่เสิร์ฟในกระทะร้อน

ส่วนผสมสำหรับทำข้าวผัดกิมจิ

หมูหั่นชิ้น 1 ถ้วย
กระเทียม บด 1 ช้อนชา
กิมจิ 1 ถ้วย
ไข่ไก่ 1 ฟอง
โคชูจัง 1 ช้อนโต้ะ
ซอสน้ำมันหอย 1 ช้อนโต้ะ
น้ำมันงา 1 ช้อนชา
ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต้ะ
น้ำตาล 1 ช้อนชา
ข้าวสวย 1 จาน
วิธีทำข้าวผัดกิมจิ

ตั้งกระทะน้ำมันนำ กระเทียม ลงไปผัด ตามด้วย เนื้อหมู เมื่อ ผัดเนื้อหมูสุก แล้วนำ ไข่ไก ลงไปผัดต่อ
จากนั้นนำ กิมจิ ลงไปผัดต่อ คลุกเคล้าให้เข้ากัน
จากน้ันนำข้าวลงไปผัด ปรุงรสด้วย ซอสน้ำมันหอย น้ำมันงา น้ำตาล ซอสปรุงรส และ โคชูจัง ผัดให้เข้ากัน
เสริฟใส่จาน ข้าวผัดกิมจิ อาหาร เมนูง่ายๆ
เคล็ดลับการทำข้าวผัดกิมจิ

ข้าว ที่ใช้ใน การผัด ใช้ ข้าวหอมมะลิ เก่า เนื่องจาก ข้าวหอมมะลิเก่า เม็ดจะแข็ง เวลาหุงแล้ว ข้าว จะเป็น เม็ดสวย
ข้าว ที่ใช้ใน การผัด ต้องทำให้แห้งก่อน ไม่แนะนำให้ใช้ข้าวหุงสุกใหม่ๆ เนื่องจากข้าวมีความชื้นสูง เวลานำไปผัดข้าวจะเละ และไม่น่ารับประทาน
ให้นำ ข้าว ผึ่งให้แห้ง และเย็น หรือ นำข้าวหุงสุกไปแช่เย็นเลย ให้ข้าวแข็ง สัก หนึ่งคืน ก่อน นำมาผัด
การผัดข้าวผัด นั้น ไม่ต้องบี้ข้าว แค่คลุกไปคลุกมาก็พอ เนื่องจากข้าว เมื่อเวลาโดนความร้อน ข้าวจะแตกตัวออกมาเอง และ ข้าว จะนุ่มพอดี สำหรับเมนูนี้ กิมจิ มีน้ำมาก ไม่ต้องใส่น้ำเพิ่ม
สำหรับ ข้าวผัดกิมจิ สามารถเสริฟ ร่วมกับผักเคียง แบบไทยๆ ได้ เช่น แตงกวา หรือ ต้นหอม
สูตรข้าวผัดกิมจิ เป็น อาหาร ง่ายๆ เมนูข้าวผัด ส่วนผสมและขั้นตอนการทำ เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรัก การทำอาหาร เมนูผัด วิธีทำข้าวผัดกิมจิ ข้าวผัดสไตล์เกาหลี อาหารเกาหลี สูตรวิธีการทำอาหาร เมนูข้าวผัดกิมจิ สูตรอาหาร นี้น่าลองทำมาก
สูตรอาหารแนะนำ สำหรับวันนี้ เราของเสนอ ข้าวผัด ที่ผสมกับ กิมจิ อาหารยอดนิยมของเกาหลี คือ ข้าวผัดกิมจิ ภาษาอังกฤษ เรียก Fried Rice with Kim-chi เคล็ดลับความอร่อยของข้าวผัดกิมจิ คือ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาตื

ข้าวผัดกิมจิ เมนูข้าวผัด ที่สร้างความหลากหลาย เมื่อเรานำ กิมจิมาผัดกับข้าว แทนที่จะกิน ข้าวผัด ธรรมดาๆ อาหารทำง่าย ๆและ อร่อย ได้ที่บ้านด้วย เมนูกิมจิ เมนูข้าวผัดสไตล์เกาหลี ที่เสิร์ฟในกระทะร้อน

ส่วนผสมสำหรับทำข้าวผัดกิมจิ

หมูหั่นชิ้น 1 ถ้วย
กระเทียม บด 1 ช้อนชา
กิมจิ 1 ถ้วย
ไข่ไก่ 1 ฟอง
โคชูจัง 1 ช้อนโต้ะ
ซอสน้ำมันหอย 1 ช้อนโต้ะ
น้ำมันงา 1 ช้อนชา
ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต้ะ
น้ำตาล 1 ช้อนชา
ข้าวสวย 1 จาน
วิธีทำข้าวผัดกิมจิ

ตั้งกระทะน้ำมันนำ กระเทียม ลงไปผัด ตามด้วย เนื้อหมู เมื่อ ผัดเนื้อหมูสุก แล้วนำ ไข่ไก ลงไปผัดต่อ
จากนั้นนำ กิมจิ ลงไปผัดต่อ คลุกเคล้าให้เข้ากัน
จากน้ันนำข้าวลงไปผัด ปรุงรสด้วย ซอสน้ำมันหอย น้ำมันงา น้ำตาล ซอสปรุงรส และ โคชูจัง ผัดให้เข้ากัน
เสริฟใส่จาน ข้าวผัดกิมจิ อาหาร เมนูง่ายๆ
เคล็ดลับการทำข้าวผัดกิมจิ

ข้าว ที่ใช้ใน การผัด ใช้ ข้าวหอมมะลิ เก่า เนื่องจาก ข้าวหอมมะลิเก่า เม็ดจะแข็ง เวลาหุงแล้ว ข้าว จะเป็น เม็ดสวย
ข้าว ที่ใช้ใน การผัด ต้องทำให้แห้งก่อน ไม่แนะนำให้ใช้ข้าวหุงสุกใหม่ๆ เนื่องจากข้าวมีความชื้นสูง เวลานำไปผัดข้าวจะเละ และไม่น่ารับประทาน
ให้นำ ข้าว ผึ่งให้แห้ง และเย็น หรือ นำข้าวหุงสุกไปแช่เย็นเลย ให้ข้าวแข็ง สัก หนึ่งคืน ก่อน นำมาผัด
การผัดข้าวผัด นั้น ไม่ต้องบี้ข้าว แค่คลุกไปคลุกมาก็พอ เนื่องจากข้าว เมื่อเวลาโดนความร้อน ข้าวจะแตกตัวออกมาเอง และ ข้าว จะนุ่มพอดี สำหรับเมนูนี้ กิมจิ มีน้ำมาก ไม่ต้องใส่น้ำเพิ่ม
สำหรับ ข้าวผัดกิมจิ สามารถเสริฟ ร่วมกับผักเคียง แบบไทยๆ ได้ เช่น แตงกวา หรือ ต้นหอม
สูตรข้าวผัดกิมจิ เป็น อาหาร ง่ายๆ เมนูข้าวผัด ส่วนผสมและขั้นตอนการทำ เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรัก การทำอาหาร เมนูผัด วิธีทำข้าวผัดกิมจิ ข้าวผัดสไตล์เกาหลี อาหารเกาหลี สูตรวิธีการทำอาหาร เมนูข้าวผัดกิมจิ สูตรอาหาร นี้น่าลองทำมาก

Blugogi หรือ บาร์บีคิว แบบเกาหลี อาหาร แบบฉบับ เนื้อย่างเกาหลี อาหารจากนั้นวัว นำมาหมัก และ ย่าง กินกับ น้ำจิ้มเกาหลี เมนูย่าง เมนูเนื้อวัว อาหารเกาหลีมีอะไรบ้าง เนื้อย่างเกาหลีหมักอย่างไร สูตรพลุโกกิ อาหารง่ายๆ เมนูเนื้อ สำหรับงานสังสรรค์ เนื้อย่างแบบเกาหลี แสนอร่อย

ส่วนผสมสำหรับทำพลุโกกิ

เนื้อวัว หั่นเป็นชิ้นบางๆ 1 ถ้วย
หอมหัวใหญ่ ซอยเป็นเส้น 1 ลูก
ต้นหอม ซอยหยาบๆ 1 ต้น
ขิง บด 2 ช้อนโต้ะ
กระเทียม บด 2 ช้อนโต้ะ
น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนโต้ะ
ซอสถั่วเหลือง 2 ช้อนโต้ะ
พริกไทยดำ บด 1 ช้อนโต้ะ
แครอท หอมใหญ่ ถั่วลันเตา สำหรับย่างกินกับเนื้อย่าง
วิธีทำพลุโกกิ

การหมักเนื้อวัว ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง โดยใส่ส่วนผสม ประกอบด้วย เนื้อวัว หอมใหญ่ ต้นหอม ขิง กระเทียม น้ำตาล ซอสถั่วเหลือง และ พริกไทยดำ หมักไว้ตามเวลาที่กำหนด
ตั้ง เตาย่าง อย่่าให้ไฟร้อนเกินไปใช้ ไฟปานกลาง นำเนื้อที่หมัก และ ผักสด ไปย่าง ให้สุกตามใจชอบของผู้ย่าง
เสริฟ พลุโกกิ ทานกับ น้ำจิ้มเกาหลี Ssamjang Blugogi
เคล็ดลับการทำพลุโกกิ

เนื้อวัว เลือก เนื้อวัว ที่สด สะอาด โดย การเลือกซื้อเนื้อวัว สามารถทำได้โดย ให้ เลือกเนื้อวัว สีสดๆ เนื้อแน่น มีความเด้งตึง ไม่มีสีคล้ำ ไม่มีกลิ่นเหม็น
เนื้อวัว เทคนิคในการทำให้เนื้อนุ่ม ให้ หั่นเนื้อตามขวางกับลายเนื้อ จะทำให้ เนื้อวัวไม่เหนียวเป็นเส้น
การย่างเนื้อ เคล็ดลับในการย่าง อยู่ที่การใช้ไฟ และ การควบคุมอุณหภูมิของไฟ ให้พอดี ไม่อ่อน หรือ แรงเกินไป ไฟอ่อน เนื้อจะสุกยาก ไฟรแรงไป เนื้อจะไม่สุกถึงข้างใน และไหม้ก่อน
กระเทียม สำหรับ ใช้ใน การหมักเนื้อวัว ใช้กระเทียมเม็ดใหญ่ เป็น กระเทียมจีน เนื่องจาก กลิ่นของกระเทียม ไม่แรงเกินไป เหมาะสำหรับหมักเนื้อวัว
พริกไทย ในการหมัก ใช้ พริกไทยดำ เนื่องจากพริกไทยดำ เหมาะสำหรับนำมาหมักเนื้อวัว กลิ่นของพริกไทยแรง รสเผ็ดของพริกไทย ช่วยตัดความมันได้ดี เรียกว่า เนื้อวัวจะหอม และ มัน
สูตรอาหารเกาหลี เนื้อวัวทำอะไรกินได้บ้าง อาหารเมนูเนื้อ มีเนื้อวัวทำอะไรกินดี แนะนำ สูตรพลุโกกิ

Blugogi หรือ บาร์บีคิว แบบเกาหลี อาหาร แบบฉบับ เนื้อย่างเกาหลี อาหารจากนั้นวัว นำมาหมัก และ ย่าง กินกับ น้ำจิ้มเกาหลี เมนูย่าง เมนูเนื้อวัว อาหารเกาหลีมีอะไรบ้าง เนื้อย่างเกาหลีหมักอย่างไร สูตรพลุโกกิ อาหารง่ายๆ เมนูเนื้อ สำหรับงานสังสรรค์ เนื้อย่างแบบเกาหลี แสนอร่อย

ส่วนผสมสำหรับทำพลุโกกิ

เนื้อวัว หั่นเป็นชิ้นบางๆ 1 ถ้วย
หอมหัวใหญ่ ซอยเป็นเส้น 1 ลูก
ต้นหอม ซอยหยาบๆ 1 ต้น
ขิง บด 2 ช้อนโต้ะ
กระเทียม บด 2 ช้อนโต้ะ
น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนโต้ะ
ซอสถั่วเหลือง 2 ช้อนโต้ะ
พริกไทยดำ บด 1 ช้อนโต้ะ
แครอท หอมใหญ่ ถั่วลันเตา สำหรับย่างกินกับเนื้อย่าง
วิธีทำพลุโกกิ

การหมักเนื้อวัว ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง โดยใส่ส่วนผสม ประกอบด้วย เนื้อวัว หอมใหญ่ ต้นหอม ขิง กระเทียม น้ำตาล ซอสถั่วเหลือง และ พริกไทยดำ หมักไว้ตามเวลาที่กำหนด
ตั้ง เตาย่าง อย่่าให้ไฟร้อนเกินไปใช้ ไฟปานกลาง นำเนื้อที่หมัก และ ผักสด ไปย่าง ให้สุกตามใจชอบของผู้ย่าง
เสริฟ พลุโกกิ ทานกับ น้ำจิ้มเกาหลี Ssamjang Blugogi
เคล็ดลับการทำพลุโกกิ

เนื้อวัว เลือก เนื้อวัว ที่สด สะอาด โดย การเลือกซื้อเนื้อวัว สามารถทำได้โดย ให้ เลือกเนื้อวัว สีสดๆ เนื้อแน่น มีความเด้งตึง ไม่มีสีคล้ำ ไม่มีกลิ่นเหม็น
เนื้อวัว เทคนิคในการทำให้เนื้อนุ่ม ให้ หั่นเนื้อตามขวางกับลายเนื้อ จะทำให้ เนื้อวัวไม่เหนียวเป็นเส้น
การย่างเนื้อ เคล็ดลับในการย่าง อยู่ที่การใช้ไฟ และ การควบคุมอุณหภูมิของไฟ ให้พอดี ไม่อ่อน หรือ แรงเกินไป ไฟอ่อน เนื้อจะสุกยาก ไฟรแรงไป เนื้อจะไม่สุกถึงข้างใน และไหม้ก่อน
กระเทียม สำหรับ ใช้ใน การหมักเนื้อวัว ใช้กระเทียมเม็ดใหญ่ เป็น กระเทียมจีน เนื่องจาก กลิ่นของกระเทียม ไม่แรงเกินไป เหมาะสำหรับหมักเนื้อวัว
พริกไทย ในการหมัก ใช้ พริกไทยดำ เนื่องจากพริกไทยดำ เหมาะสำหรับนำมาหมักเนื้อวัว กลิ่นของพริกไทยแรง รสเผ็ดของพริกไทย ช่วยตัดความมันได้ดี เรียกว่า เนื้อวัวจะหอม และ มัน
สูตรอาหารเกาหลี เนื้อวัวทำอะไรกินได้บ้าง อาหารเมนูเนื้อ มีเนื้อวัวทำอะไรกินดี แนะนำ สูตรพลุโกกิ

Blugogi หรือ บาร์บีคิว แบบเกาหลี อาหาร แบบฉบับ เนื้อย่างเกาหลี อาหารจากนั้นวัว นำมาหมัก และ ย่าง กินกับ น้ำจิ้มเกาหลี เมนูย่าง เมนูเนื้อวัว อาหารเกาหลีมีอะไรบ้าง เนื้อย่างเกาหลีหมักอย่างไร สูตรพลุโกกิ อาหารง่ายๆ เมนูเนื้อ สำหรับงานสังสรรค์ เนื้อย่างแบบเกาหลี แสนอร่อย

ส่วนผสมสำหรับทำพลุโกกิ

เนื้อวัว หั่นเป็นชิ้นบางๆ 1 ถ้วย
หอมหัวใหญ่ ซอยเป็นเส้น 1 ลูก
ต้นหอม ซอยหยาบๆ 1 ต้น
ขิง บด 2 ช้อนโต้ะ
กระเทียม บด 2 ช้อนโต้ะ
น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนโต้ะ
ซอสถั่วเหลือง 2 ช้อนโต้ะ
พริกไทยดำ บด 1 ช้อนโต้ะ
แครอท หอมใหญ่ ถั่วลันเตา สำหรับย่างกินกับเนื้อย่าง
วิธีทำพลุโกกิ

การหมักเนื้อวัว ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง โดยใส่ส่วนผสม ประกอบด้วย เนื้อวัว หอมใหญ่ ต้นหอม ขิง กระเทียม น้ำตาล ซอสถั่วเหลือง และ พริกไทยดำ หมักไว้ตามเวลาที่กำหนด
ตั้ง เตาย่าง อย่่าให้ไฟร้อนเกินไปใช้ ไฟปานกลาง นำเนื้อที่หมัก และ ผักสด ไปย่าง ให้สุกตามใจชอบของผู้ย่าง
เสริฟ พลุโกกิ ทานกับ น้ำจิ้มเกาหลี Ssamjang Blugogi
เคล็ดลับการทำพลุโกกิ

เนื้อวัว เลือก เนื้อวัว ที่สด สะอาด โดย การเลือกซื้อเนื้อวัว สามารถทำได้โดย ให้ เลือกเนื้อวัว สีสดๆ เนื้อแน่น มีความเด้งตึง ไม่มีสีคล้ำ ไม่มีกลิ่นเหม็น
เนื้อวัว เทคนิคในการทำให้เนื้อนุ่ม ให้ หั่นเนื้อตามขวางกับลายเนื้อ จะทำให้ เนื้อวัวไม่เหนียวเป็นเส้น
การย่างเนื้อ เคล็ดลับในการย่าง อยู่ที่การใช้ไฟ และ การควบคุมอุณหภูมิของไฟ ให้พอดี ไม่อ่อน หรือ แรงเกินไป ไฟอ่อน เนื้อจะสุกยาก ไฟรแรงไป เนื้อจะไม่สุกถึงข้างใน และไหม้ก่อน
กระเทียม สำหรับ ใช้ใน การหมักเนื้อวัว ใช้กระเทียมเม็ดใหญ่ เป็น กระเทียมจีน เนื่องจาก กลิ่นของกระเทียม ไม่แรงเกินไป เหมาะสำหรับหมักเนื้อวัว
พริกไทย ในการหมัก ใช้ พริกไทยดำ เนื่องจากพริกไทยดำ เหมาะสำหรับนำมาหมักเนื้อวัว กลิ่นของพริกไทยแรง รสเผ็ดของพริกไทย ช่วยตัดความมันได้ดี เรียกว่า เนื้อวัวจะหอม และ มัน
สูตรอาหารเกาหลี เนื้อวัวทำอะไรกินได้บ้าง อาหารเมนูเนื้อ มีเนื้อวัวทำอะไรกินดี แนะนำ สูตรพลุโกกิ

Blugogi หรือ บาร์บีคิว แบบเกาหลี อาหาร แบบฉบับ เนื้อย่างเกาหลี อาหารจากนั้นวัว นำมาหมัก และ ย่าง กินกับ น้ำจิ้มเกาหลี เมนูย่าง เมนูเนื้อวัว อาหารเกาหลีมีอะไรบ้าง เนื้อย่างเกาหลีหมักอย่างไร สูตรพลุโกกิ อาหารง่ายๆ เมนูเนื้อ สำหรับงานสังสรรค์ เนื้อย่างแบบเกาหลี แสนอร่อย

ส่วนผสมสำหรับทำพลุโกกิ

เนื้อวัว หั่นเป็นชิ้นบางๆ 1 ถ้วย
หอมหัวใหญ่ ซอยเป็นเส้น 1 ลูก
ต้นหอม ซอยหยาบๆ 1 ต้น
ขิง บด 2 ช้อนโต้ะ
กระเทียม บด 2 ช้อนโต้ะ
น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนโต้ะ
ซอสถั่วเหลือง 2 ช้อนโต้ะ
พริกไทยดำ บด 1 ช้อนโต้ะ
แครอท หอมใหญ่ ถั่วลันเตา สำหรับย่างกินกับเนื้อย่าง
วิธีทำพลุโกกิ

การหมักเนื้อวัว ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง โดยใส่ส่วนผสม ประกอบด้วย เนื้อวัว หอมใหญ่ ต้นหอม ขิง กระเทียม น้ำตาล ซอสถั่วเหลือง และ พริกไทยดำ หมักไว้ตามเวลาที่กำหนด
ตั้ง เตาย่าง อย่่าให้ไฟร้อนเกินไปใช้ ไฟปานกลาง นำเนื้อที่หมัก และ ผักสด ไปย่าง ให้สุกตามใจชอบของผู้ย่าง
เสริฟ พลุโกกิ ทานกับ น้ำจิ้มเกาหลี Ssamjang Blugogi
เคล็ดลับการทำพลุโกกิ

เนื้อวัว เลือก เนื้อวัว ที่สด สะอาด โดย การเลือกซื้อเนื้อวัว สามารถทำได้โดย ให้ เลือกเนื้อวัว สีสดๆ เนื้อแน่น มีความเด้งตึง ไม่มีสีคล้ำ ไม่มีกลิ่นเหม็น
เนื้อวัว เทคนิคในการทำให้เนื้อนุ่ม ให้ หั่นเนื้อตามขวางกับลายเนื้อ จะทำให้ เนื้อวัวไม่เหนียวเป็นเส้น
การย่างเนื้อ เคล็ดลับในการย่าง อยู่ที่การใช้ไฟ และ การควบคุมอุณหภูมิของไฟ ให้พอดี ไม่อ่อน หรือ แรงเกินไป ไฟอ่อน เนื้อจะสุกยาก ไฟรแรงไป เนื้อจะไม่สุกถึงข้างใน และไหม้ก่อน
กระเทียม สำหรับ ใช้ใน การหมักเนื้อวัว ใช้กระเทียมเม็ดใหญ่ เป็น กระเทียมจีน เนื่องจาก กลิ่นของกระเทียม ไม่แรงเกินไป เหมาะสำหรับหมักเนื้อวัว
พริกไทย ในการหมัก ใช้ พริกไทยดำ เนื่องจากพริกไทยดำ เหมาะสำหรับนำมาหมักเนื้อวัว กลิ่นของพริกไทยแรง รสเผ็ดของพริกไทย ช่วยตัดความมันได้ดี เรียกว่า เนื้อวัวจะหอม และ มัน
สูตรอาหารเกาหลี เนื้อวัวทำอะไรกินได้บ้าง อาหารเมนูเนื้อ มีเนื้อวัวทำอะไรกินดี แนะนำ สูตรพลุโกกิ

Blugogi หรือ บาร์บีคิว แบบเกาหลี อาหาร แบบฉบับ เนื้อย่างเกาหลี อาหารจากนั้นวัว นำมาหมัก และ ย่าง กินกับ น้ำจิ้มเกาหลี เมนูย่าง เมนูเนื้อวัว อาหารเกาหลีมีอะไรบ้าง เนื้อย่างเกาหลีหมักอย่างไร สูตรพลุโกกิ อาหารง่ายๆ เมนูเนื้อ สำหรับงานสังสรรค์ เนื้อย่างแบบเกาหลี แสนอร่อย

ส่วนผสมสำหรับทำพลุโกกิ

เนื้อวัว หั่นเป็นชิ้นบางๆ 1 ถ้วย
หอมหัวใหญ่ ซอยเป็นเส้น 1 ลูก
ต้นหอม ซอยหยาบๆ 1 ต้น
ขิง บด 2 ช้อนโต้ะ
กระเทียม บด 2 ช้อนโต้ะ
น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนโต้ะ
ซอสถั่วเหลือง 2 ช้อนโต้ะ
พริกไทยดำ บด 1 ช้อนโต้ะ
แครอท หอมใหญ่ ถั่วลันเตา สำหรับย่างกินกับเนื้อย่าง
วิธีทำพลุโกกิ

การหมักเนื้อวัว ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง โดยใส่ส่วนผสม ประกอบด้วย เนื้อวัว หอมใหญ่ ต้นหอม ขิง กระเทียม น้ำตาล ซอสถั่วเหลือง และ พริกไทยดำ หมักไว้ตามเวลาที่กำหนด
ตั้ง เตาย่าง อย่่าให้ไฟร้อนเกินไปใช้ ไฟปานกลาง นำเนื้อที่หมัก และ ผักสด ไปย่าง ให้สุกตามใจชอบของผู้ย่าง
เสริฟ พลุโกกิ ทานกับ น้ำจิ้มเกาหลี Ssamjang Blugogi
เคล็ดลับการทำพลุโกกิ

เนื้อวัว เลือก เนื้อวัว ที่สด สะอาด โดย การเลือกซื้อเนื้อวัว สามารถทำได้โดย ให้ เลือกเนื้อวัว สีสดๆ เนื้อแน่น มีความเด้งตึง ไม่มีสีคล้ำ ไม่มีกลิ่นเหม็น
เนื้อวัว เทคนิคในการทำให้เนื้อนุ่ม ให้ หั่นเนื้อตามขวางกับลายเนื้อ จะทำให้ เนื้อวัวไม่เหนียวเป็นเส้น
การย่างเนื้อ เคล็ดลับในการย่าง อยู่ที่การใช้ไฟ และ การควบคุมอุณหภูมิของไฟ ให้พอดี ไม่อ่อน หรือ แรงเกินไป ไฟอ่อน เนื้อจะสุกยาก ไฟรแรงไป เนื้อจะไม่สุกถึงข้างใน และไหม้ก่อน
กระเทียม สำหรับ ใช้ใน การหมักเนื้อวัว ใช้กระเทียมเม็ดใหญ่ เป็น กระเทียมจีน เนื่องจาก กลิ่นของกระเทียม ไม่แรงเกินไป เหมาะสำหรับหมักเนื้อวัว
พริกไทย ในการหมัก ใช้ พริกไทยดำ เนื่องจากพริกไทยดำ เหมาะสำหรับนำมาหมักเนื้อวัว กลิ่นของพริกไทยแรง รสเผ็ดของพริกไทย ช่วยตัดความมันได้ดี เรียกว่า เนื้อวัวจะหอม และ มัน
สูตรอาหารเกาหลี เนื้อวัวทำอะไรกินได้บ้าง อาหารเมนูเนื้อ มีเนื้อวัวทำอะไรกินดี แนะนำ สูตรพลุโกกิ

Blugogi หรือ บาร์บีคิว แบบเกาหลี อาหาร แบบฉบับ เนื้อย่างเกาหลี อาหารจากนั้นวัว นำมาหมัก และ ย่าง กินกับ น้ำจิ้มเกาหลี เมนูย่าง เมนูเนื้อวัว อาหารเกาหลีมีอะไรบ้าง เนื้อย่างเกาหลีหมักอย่างไร สูตรพลุโกกิ อาหารง่ายๆ เมนูเนื้อ สำหรับงานสังสรรค์ เนื้อย่างแบบเกาหลี แสนอร่อย

ส่วนผสมสำหรับทำพลุโกกิ

เนื้อวัว หั่นเป็นชิ้นบางๆ 1 ถ้วย
หอมหัวใหญ่ ซอยเป็นเส้น 1 ลูก
ต้นหอม ซอยหยาบๆ 1 ต้น
ขิง บด 2 ช้อนโต้ะ
กระเทียม บด 2 ช้อนโต้ะ
น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนโต้ะ
ซอสถั่วเหลือง 2 ช้อนโต้ะ
พริกไทยดำ บด 1 ช้อนโต้ะ
แครอท หอมใหญ่ ถั่วลันเตา สำหรับย่างกินกับเนื้อย่าง
วิธีทำพลุโกกิ

การหมักเนื้อวัว ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง โดยใส่ส่วนผสม ประกอบด้วย เนื้อวัว หอมใหญ่ ต้นหอม ขิง กระเทียม น้ำตาล ซอสถั่วเหลือง และ พริกไทยดำ หมักไว้ตามเวลาที่กำหนด
ตั้ง เตาย่าง อย่่าให้ไฟร้อนเกินไปใช้ ไฟปานกลาง นำเนื้อที่หมัก และ ผักสด ไปย่าง ให้สุกตามใจชอบของผู้ย่าง
เสริฟ พลุโกกิ ทานกับ น้ำจิ้มเกาหลี Ssamjang Blugogi
เคล็ดลับการทำพลุโกกิ

เนื้อวัว เลือก เนื้อวัว ที่สด สะอาด โดย การเลือกซื้อเนื้อวัว สามารถทำได้โดย ให้ เลือกเนื้อวัว สีสดๆ เนื้อแน่น มีความเด้งตึง ไม่มีสีคล้ำ ไม่มีกลิ่นเหม็น
เนื้อวัว เทคนิคในการทำให้เนื้อนุ่ม ให้ หั่นเนื้อตามขวางกับลายเนื้อ จะทำให้ เนื้อวัวไม่เหนียวเป็นเส้น
การย่างเนื้อ เคล็ดลับในการย่าง อยู่ที่การใช้ไฟ และ การควบคุมอุณหภูมิของไฟ ให้พอดี ไม่อ่อน หรือ แรงเกินไป ไฟอ่อน เนื้อจะสุกยาก ไฟรแรงไป เนื้อจะไม่สุกถึงข้างใน และไหม้ก่อน
กระเทียม สำหรับ ใช้ใน การหมักเนื้อวัว ใช้กระเทียมเม็ดใหญ่ เป็น กระเทียมจีน เนื่องจาก กลิ่นของกระเทียม ไม่แรงเกินไป เหมาะสำหรับหมักเนื้อวัว
พริกไทย ในการหมัก ใช้ พริกไทยดำ เนื่องจากพริกไทยดำ เหมาะสำหรับนำมาหมักเนื้อวัว กลิ่นของพริกไทยแรง รสเผ็ดของพริกไทย ช่วยตัดความมันได้ดี เรียกว่า เนื้อวัวจะหอม และ มัน
สูตรอาหารเกาหลี เนื้อวัวทำอะไรกินได้บ้าง อาหารเมนูเนื้อ มีเนื้อวัวทำอะไรกินดี แนะนำ สูตรพลุโกกิ

สูตรอาหาร เมนูอาหาร แนะนำสำหรับวันนี้ ขอนำเสนอ ซี่โครงหมูทอดสามรส จัดว่าเป็น เมนูกับแกล้ม ทานง่าย รสชาติหวานสมชื่อ ขั้นตอนการทำซี่โครงหมูสามรส เคล็ดลับความอร่อย อยู่ที่วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการหมักหมู และ การปรุงรสชาติ

สูตรซี่โครงหมูทอดสามรส ส่วนผสมและขั้นตอนการทำอาหารเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนชอบอาหาร เมนูซี่โครงหมู

ส่วนผสมสำหรับทำซี่โครงหมูทอดสามรส

ซี่โครงหมู เลือกขนาดกว้างประมาณ 2 นิ้ว 1 แถว
เกลือป่น 1 ช้อนชา สำหรับหมักหมู
พริกไทยป่น 1 ช้อนชา สำหรับหมักหมู
แป้งสาลี 2 ช้อนโต้ะ สำหรับหมักหมู
ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต้ะ สำหรับหมักหมู
กระเทียมบด 3 ช้อนโต้ะ
น้ำสับปะรด 3 ช้อนโต้ะ
น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต้ะ
น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต้ะ
ซอสถั่วเหลือง 2 ช้อนโต้ะ
สับปะรดหั่นชิ้น 5 ช้อนโต้ะ
พริกหั่นเป็นฝอย 2 ช้อนโต้ะ
ผักสด เช่น แครอท บ๊อคโลรี่ กะหล่ำปลี เป็นต้น
น้ำมันพืช 2 ถ้วย
วิธีทำซี่โครงหมูทอดสามรส

เริ่มจากการหมักซี่โครงหมูก่อน หั่นซี่โครงหมูเป็นท่อนๆ ขนาดพอดีคำ หมักด้วย เกลือป่น พริกไทยป่น ซอสปรุงรส และ แป้งสาลี นวดให้ส่วนผสมเข้ากับกระดูกซี่โครงหมู และ หมักทิ้งไว้ในตู้เย็นประมาณ 30 นาที
ตั้งกระทะน้ำมัน ให้ร้อนจากนั้นใส่กระเทียมบดลงไปผัด ให้กระเทียมหอม เหลือง จากนั้นใส่ซี่โครงหมูลงไปผัด ผัดให้ซี่โครงหมูสุก
จากนั้นปรุงรสด้วย น้ำสับปะรด น้ำตาลปี๊บ น้ำส้มสายชู และ ซีอิ๊วขาว ผัดให้ส่วนผสมละลายเป็นเนื้อเดยวกัน ผัดไปเรื่อยๆจนซอสเริ่มแห้งก็ปิดไฟ เสริฟใส่จาน และแต่งหน้าจานให้สวยงามด้วย ผักสด สับปะรด และ พริกหั่นฝอย
เคล็ดลับการทำซี่โครงหมูทอดสามรส

ซี่โครงหมู ให้เลือกใช้ส่วนซี่โครงกระดูกหมูอ่อน ให้เลือกซื้อกระดูกซี่โครงที่สด ใหม่ จะได้เนื้อหมูที่อร่อย
การหมักหมูให้หมักให้นานประมาณสัก 3 ชั่วโมง ให้เนื้อหมูเข้าเนื้อ
ก่อนผัดกระดูกซี่โครง ให้ใส่กระเทียมลงไปผัดก่อน ความหอมของกระเทียมจะออกมากับน้ำมันทำให้ซี่โครงหมูมีความหอมของกระเทียม
สับประรด ให้เลือกใช้สับปะรดศรีราชา จะได้รสชาติหวานอมเปรี้ยว
น้ำตาล ให้เลือกใช้น้ำตาลปี๊บ ความหวานของน้ำตาลปี๊บจะให้รสชาติที่กลมกล่อม
ซี่โครงหมูสามรส คือ อาหารไทย เมนูซี่โครงหมู วิธีทำซี่โครงหมูทอดสามรส ง่ายๆ สามารถทำกินเองที่บ้านได้ เคล็ดลับความอร่อย คือ การหมักซี่โครงหมู กับข้าวจากซี่โครงหมู ซี่โครงหมูทำอะไรกินได้บ้าง

สูตรอาหาร เมนูอาหาร แนะนำสำหรับวันนี้ ขอนำเสนอ ซี่โครงหมูทอดสามรส จัดว่าเป็น เมนูกับแกล้ม ทานง่าย รสชาติหวานสมชื่อ ขั้นตอนการทำซี่โครงหมูสามรส เคล็ดลับความอร่อย อยู่ที่วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการหมักหมู และ การปรุงรสชาติ

สูตรซี่โครงหมูทอดสามรส ส่วนผสมและขั้นตอนการทำอาหารเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนชอบอาหาร เมนูซี่โครงหมู

ส่วนผสมสำหรับทำซี่โครงหมูทอดสามรส

ซี่โครงหมู เลือกขนาดกว้างประมาณ 2 นิ้ว 1 แถว
เกลือป่น 1 ช้อนชา สำหรับหมักหมู
พริกไทยป่น 1 ช้อนชา สำหรับหมักหมู
แป้งสาลี 2 ช้อนโต้ะ สำหรับหมักหมู
ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต้ะ สำหรับหมักหมู
กระเทียมบด 3 ช้อนโต้ะ
น้ำสับปะรด 3 ช้อนโต้ะ
น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต้ะ
น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต้ะ
ซอสถั่วเหลือง 2 ช้อนโต้ะ
สับปะรดหั่นชิ้น 5 ช้อนโต้ะ
พริกหั่นเป็นฝอย 2 ช้อนโต้ะ
ผักสด เช่น แครอท บ๊อคโลรี่ กะหล่ำปลี เป็นต้น
น้ำมันพืช 2 ถ้วย
วิธีทำซี่โครงหมูทอดสามรส

เริ่มจากการหมักซี่โครงหมูก่อน หั่นซี่โครงหมูเป็นท่อนๆ ขนาดพอดีคำ หมักด้วย เกลือป่น พริกไทยป่น ซอสปรุงรส และ แป้งสาลี นวดให้ส่วนผสมเข้ากับกระดูกซี่โครงหมู และ หมักทิ้งไว้ในตู้เย็นประมาณ 30 นาที
ตั้งกระทะน้ำมัน ให้ร้อนจากนั้นใส่กระเทียมบดลงไปผัด ให้กระเทียมหอม เหลือง จากนั้นใส่ซี่โครงหมูลงไปผัด ผัดให้ซี่โครงหมูสุก
จากนั้นปรุงรสด้วย น้ำสับปะรด น้ำตาลปี๊บ น้ำส้มสายชู และ ซีอิ๊วขาว ผัดให้ส่วนผสมละลายเป็นเนื้อเดยวกัน ผัดไปเรื่อยๆจนซอสเริ่มแห้งก็ปิดไฟ เสริฟใส่จาน และแต่งหน้าจานให้สวยงามด้วย ผักสด สับปะรด และ พริกหั่นฝอย
เคล็ดลับการทำซี่โครงหมูทอดสามรส

ซี่โครงหมู ให้เลือกใช้ส่วนซี่โครงกระดูกหมูอ่อน ให้เลือกซื้อกระดูกซี่โครงที่สด ใหม่ จะได้เนื้อหมูที่อร่อย
การหมักหมูให้หมักให้นานประมาณสัก 3 ชั่วโมง ให้เนื้อหมูเข้าเนื้อ
ก่อนผัดกระดูกซี่โครง ให้ใส่กระเทียมลงไปผัดก่อน ความหอมของกระเทียมจะออกมากับน้ำมันทำให้ซี่โครงหมูมีความหอมของกระเทียม
สับประรด ให้เลือกใช้สับปะรดศรีราชา จะได้รสชาติหวานอมเปรี้ยว
น้ำตาล ให้เลือกใช้น้ำตาลปี๊บ ความหวานของน้ำตาลปี๊บจะให้รสชาติที่กลมกล่อม
ซี่โครงหมูสามรส คือ อาหารไทย เมนูซี่โครงหมู วิธีทำซี่โครงหมูทอดสามรส ง่ายๆ สามารถทำกินเองที่บ้านได้ เคล็ดลับความอร่อย คือ การหมักซี่โครงหมู กับข้าวจากซี่โครงหมู ซี่โครงหมูทำอะไรกินได้บ้าง

สูตรอาหาร เมนูอาหาร แนะนำสำหรับวันนี้ ขอนำเสนอ ซี่โครงหมูทอดสามรส จัดว่าเป็น เมนูกับแกล้ม ทานง่าย รสชาติหวานสมชื่อ ขั้นตอนการทำซี่โครงหมูสามรส เคล็ดลับความอร่อย อยู่ที่วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการหมักหมู และ การปรุงรสชาติ

สูตรซี่โครงหมูทอดสามรส ส่วนผสมและขั้นตอนการทำอาหารเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนชอบอาหาร เมนูซี่โครงหมู

ส่วนผสมสำหรับทำซี่โครงหมูทอดสามรส

ซี่โครงหมู เลือกขนาดกว้างประมาณ 2 นิ้ว 1 แถว
เกลือป่น 1 ช้อนชา สำหรับหมักหมู
พริกไทยป่น 1 ช้อนชา สำหรับหมักหมู
แป้งสาลี 2 ช้อนโต้ะ สำหรับหมักหมู
ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต้ะ สำหรับหมักหมู
กระเทียมบด 3 ช้อนโต้ะ
น้ำสับปะรด 3 ช้อนโต้ะ
น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต้ะ
น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต้ะ
ซอสถั่วเหลือง 2 ช้อนโต้ะ
สับปะรดหั่นชิ้น 5 ช้อนโต้ะ
พริกหั่นเป็นฝอย 2 ช้อนโต้ะ
ผักสด เช่น แครอท บ๊อคโลรี่ กะหล่ำปลี เป็นต้น
น้ำมันพืช 2 ถ้วย
วิธีทำซี่โครงหมูทอดสามรส

เริ่มจากการหมักซี่โครงหมูก่อน หั่นซี่โครงหมูเป็นท่อนๆ ขนาดพอดีคำ หมักด้วย เกลือป่น พริกไทยป่น ซอสปรุงรส และ แป้งสาลี นวดให้ส่วนผสมเข้ากับกระดูกซี่โครงหมู และ หมักทิ้งไว้ในตู้เย็นประมาณ 30 นาที
ตั้งกระทะน้ำมัน ให้ร้อนจากนั้นใส่กระเทียมบดลงไปผัด ให้กระเทียมหอม เหลือง จากนั้นใส่ซี่โครงหมูลงไปผัด ผัดให้ซี่โครงหมูสุก
จากนั้นปรุงรสด้วย น้ำสับปะรด น้ำตาลปี๊บ น้ำส้มสายชู และ ซีอิ๊วขาว ผัดให้ส่วนผสมละลายเป็นเนื้อเดยวกัน ผัดไปเรื่อยๆจนซอสเริ่มแห้งก็ปิดไฟ เสริฟใส่จาน และแต่งหน้าจานให้สวยงามด้วย ผักสด สับปะรด และ พริกหั่นฝอย
เคล็ดลับการทำซี่โครงหมูทอดสามรส

ซี่โครงหมู ให้เลือกใช้ส่วนซี่โครงกระดูกหมูอ่อน ให้เลือกซื้อกระดูกซี่โครงที่สด ใหม่ จะได้เนื้อหมูที่อร่อย
การหมักหมูให้หมักให้นานประมาณสัก 3 ชั่วโมง ให้เนื้อหมูเข้าเนื้อ
ก่อนผัดกระดูกซี่โครง ให้ใส่กระเทียมลงไปผัดก่อน ความหอมของกระเทียมจะออกมากับน้ำมันทำให้ซี่โครงหมูมีความหอมของกระเทียม
สับประรด ให้เลือกใช้สับปะรดศรีราชา จะได้รสชาติหวานอมเปรี้ยว
น้ำตาล ให้เลือกใช้น้ำตาลปี๊บ ความหวานของน้ำตาลปี๊บจะให้รสชาติที่กลมกล่อม
ซี่โครงหมูสามรส คือ อาหารไทย เมนูซี่โครงหมู วิธีทำซี่โครงหมูทอดสามรส ง่ายๆ สามารถทำกินเองที่บ้านได้ เคล็ดลับความอร่อย คือ การหมักซี่โครงหมู กับข้าวจากซี่โครงหมู ซี่โครงหมูทำอะไรกินได้บ้าง

สูตรอาหาร เมนูอาหาร แนะนำสำหรับวันนี้ ขอนำเสนอ ซี่โครงหมูทอดสามรส จัดว่าเป็น เมนูกับแกล้ม ทานง่าย รสชาติหวานสมชื่อ ขั้นตอนการทำซี่โครงหมูสามรส เคล็ดลับความอร่อย อยู่ที่วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการหมักหมู และ การปรุงรสชาติ

สูตรซี่โครงหมูทอดสามรส ส่วนผสมและขั้นตอนการทำอาหารเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนชอบอาหาร เมนูซี่โครงหมู

ส่วนผสมสำหรับทำซี่โครงหมูทอดสามรส

ซี่โครงหมู เลือกขนาดกว้างประมาณ 2 นิ้ว 1 แถว
เกลือป่น 1 ช้อนชา สำหรับหมักหมู
พริกไทยป่น 1 ช้อนชา สำหรับหมักหมู
แป้งสาลี 2 ช้อนโต้ะ สำหรับหมักหมู
ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต้ะ สำหรับหมักหมู
กระเทียมบด 3 ช้อนโต้ะ
น้ำสับปะรด 3 ช้อนโต้ะ
น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต้ะ
น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต้ะ
ซอสถั่วเหลือง 2 ช้อนโต้ะ
สับปะรดหั่นชิ้น 5 ช้อนโต้ะ
พริกหั่นเป็นฝอย 2 ช้อนโต้ะ
ผักสด เช่น แครอท บ๊อคโลรี่ กะหล่ำปลี เป็นต้น
น้ำมันพืช 2 ถ้วย
วิธีทำซี่โครงหมูทอดสามรส

เริ่มจากการหมักซี่โครงหมูก่อน หั่นซี่โครงหมูเป็นท่อนๆ ขนาดพอดีคำ หมักด้วย เกลือป่น พริกไทยป่น ซอสปรุงรส และ แป้งสาลี นวดให้ส่วนผสมเข้ากับกระดูกซี่โครงหมู และ หมักทิ้งไว้ในตู้เย็นประมาณ 30 นาที
ตั้งกระทะน้ำมัน ให้ร้อนจากนั้นใส่กระเทียมบดลงไปผัด ให้กระเทียมหอม เหลือง จากนั้นใส่ซี่โครงหมูลงไปผัด ผัดให้ซี่โครงหมูสุก
จากนั้นปรุงรสด้วย น้ำสับปะรด น้ำตาลปี๊บ น้ำส้มสายชู และ ซีอิ๊วขาว ผัดให้ส่วนผสมละลายเป็นเนื้อเดยวกัน ผัดไปเรื่อยๆจนซอสเริ่มแห้งก็ปิดไฟ เสริฟใส่จาน และแต่งหน้าจานให้สวยงามด้วย ผักสด สับปะรด และ พริกหั่นฝอย
เคล็ดลับการทำซี่โครงหมูทอดสามรส

ซี่โครงหมู ให้เลือกใช้ส่วนซี่โครงกระดูกหมูอ่อน ให้เลือกซื้อกระดูกซี่โครงที่สด ใหม่ จะได้เนื้อหมูที่อร่อย
การหมักหมูให้หมักให้นานประมาณสัก 3 ชั่วโมง ให้เนื้อหมูเข้าเนื้อ
ก่อนผัดกระดูกซี่โครง ให้ใส่กระเทียมลงไปผัดก่อน ความหอมของกระเทียมจะออกมากับน้ำมันทำให้ซี่โครงหมูมีความหอมของกระเทียม
สับประรด ให้เลือกใช้สับปะรดศรีราชา จะได้รสชาติหวานอมเปรี้ยว
น้ำตาล ให้เลือกใช้น้ำตาลปี๊บ ความหวานของน้ำตาลปี๊บจะให้รสชาติที่กลมกล่อม
ซี่โครงหมูสามรส คือ อาหารไทย เมนูซี่โครงหมู วิธีทำซี่โครงหมูทอดสามรส ง่ายๆ สามารถทำกินเองที่บ้านได้ เคล็ดลับความอร่อย คือ การหมักซี่โครงหมู กับข้าวจากซี่โครงหมู ซี่โครงหมูทำอะไรกินได้บ้าง

สูตรอาหาร เมนูอาหาร แนะนำสำหรับวันนี้ ขอนำเสนอ ซี่โครงหมูทอดสามรส จัดว่าเป็น เมนูกับแกล้ม ทานง่าย รสชาติหวานสมชื่อ ขั้นตอนการทำซี่โครงหมูสามรส เคล็ดลับความอร่อย อยู่ที่วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการหมักหมู และ การปรุงรสชาติ

สูตรซี่โครงหมูทอดสามรส ส่วนผสมและขั้นตอนการทำอาหารเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนชอบอาหาร เมนูซี่โครงหมู

ส่วนผสมสำหรับทำซี่โครงหมูทอดสามรส

ซี่โครงหมู เลือกขนาดกว้างประมาณ 2 นิ้ว 1 แถว
เกลือป่น 1 ช้อนชา สำหรับหมักหมู
พริกไทยป่น 1 ช้อนชา สำหรับหมักหมู
แป้งสาลี 2 ช้อนโต้ะ สำหรับหมักหมู
ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต้ะ สำหรับหมักหมู
กระเทียมบด 3 ช้อนโต้ะ
น้ำสับปะรด 3 ช้อนโต้ะ
น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต้ะ
น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต้ะ
ซอสถั่วเหลือง 2 ช้อนโต้ะ
สับปะรดหั่นชิ้น 5 ช้อนโต้ะ
พริกหั่นเป็นฝอย 2 ช้อนโต้ะ
ผักสด เช่น แครอท บ๊อคโลรี่ กะหล่ำปลี เป็นต้น
น้ำมันพืช 2 ถ้วย
วิธีทำซี่โครงหมูทอดสามรส

เริ่มจากการหมักซี่โครงหมูก่อน หั่นซี่โครงหมูเป็นท่อนๆ ขนาดพอดีคำ หมักด้วย เกลือป่น พริกไทยป่น ซอสปรุงรส และ แป้งสาลี นวดให้ส่วนผสมเข้ากับกระดูกซี่โครงหมู และ หมักทิ้งไว้ในตู้เย็นประมาณ 30 นาที
ตั้งกระทะน้ำมัน ให้ร้อนจากนั้นใส่กระเทียมบดลงไปผัด ให้กระเทียมหอม เหลือง จากนั้นใส่ซี่โครงหมูลงไปผัด ผัดให้ซี่โครงหมูสุก
จากนั้นปรุงรสด้วย น้ำสับปะรด น้ำตาลปี๊บ น้ำส้มสายชู และ ซีอิ๊วขาว ผัดให้ส่วนผสมละลายเป็นเนื้อเดยวกัน ผัดไปเรื่อยๆจนซอสเริ่มแห้งก็ปิดไฟ เสริฟใส่จาน และแต่งหน้าจานให้สวยงามด้วย ผักสด สับปะรด และ พริกหั่นฝอย
เคล็ดลับการทำซี่โครงหมูทอดสามรส

ซี่โครงหมู ให้เลือกใช้ส่วนซี่โครงกระดูกหมูอ่อน ให้เลือกซื้อกระดูกซี่โครงที่สด ใหม่ จะได้เนื้อหมูที่อร่อย
การหมักหมูให้หมักให้นานประมาณสัก 3 ชั่วโมง ให้เนื้อหมูเข้าเนื้อ
ก่อนผัดกระดูกซี่โครง ให้ใส่กระเทียมลงไปผัดก่อน ความหอมของกระเทียมจะออกมากับน้ำมันทำให้ซี่โครงหมูมีความหอมของกระเทียม
สับประรด ให้เลือกใช้สับปะรดศรีราชา จะได้รสชาติหวานอมเปรี้ยว
น้ำตาล ให้เลือกใช้น้ำตาลปี๊บ ความหวานของน้ำตาลปี๊บจะให้รสชาติที่กลมกล่อม
ซี่โครงหมูสามรส คือ อาหารไทย เมนูซี่โครงหมู วิธีทำซี่โครงหมูทอดสามรส ง่ายๆ สามารถทำกินเองที่บ้านได้ เคล็ดลับความอร่อย คือ การหมักซี่โครงหมู กับข้าวจากซี่โครงหมู ซี่โครงหมูทำอะไรกินได้บ้าง

สูตรอาหาร เมนูอาหาร แนะนำสำหรับวันนี้ ขอนำเสนอ ซี่โครงหมูทอดสามรส จัดว่าเป็น เมนูกับแกล้ม ทานง่าย รสชาติหวานสมชื่อ ขั้นตอนการทำซี่โครงหมูสามรส เคล็ดลับความอร่อย อยู่ที่วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการหมักหมู และ การปรุงรสชาติ

สูตรซี่โครงหมูทอดสามรส ส่วนผสมและขั้นตอนการทำอาหารเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนชอบอาหาร เมนูซี่โครงหมู

ส่วนผสมสำหรับทำซี่โครงหมูทอดสามรส

ซี่โครงหมู เลือกขนาดกว้างประมาณ 2 นิ้ว 1 แถว
เกลือป่น 1 ช้อนชา สำหรับหมักหมู
พริกไทยป่น 1 ช้อนชา สำหรับหมักหมู
แป้งสาลี 2 ช้อนโต้ะ สำหรับหมักหมู
ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต้ะ สำหรับหมักหมู
กระเทียมบด 3 ช้อนโต้ะ
น้ำสับปะรด 3 ช้อนโต้ะ
น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต้ะ
น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต้ะ
ซอสถั่วเหลือง 2 ช้อนโต้ะ
สับปะรดหั่นชิ้น 5 ช้อนโต้ะ
พริกหั่นเป็นฝอย 2 ช้อนโต้ะ
ผักสด เช่น แครอท บ๊อคโลรี่ กะหล่ำปลี เป็นต้น
น้ำมันพืช 2 ถ้วย
วิธีทำซี่โครงหมูทอดสามรส

เริ่มจากการหมักซี่โครงหมูก่อน หั่นซี่โครงหมูเป็นท่อนๆ ขนาดพอดีคำ หมักด้วย เกลือป่น พริกไทยป่น ซอสปรุงรส และ แป้งสาลี นวดให้ส่วนผสมเข้ากับกระดูกซี่โครงหมู และ หมักทิ้งไว้ในตู้เย็นประมาณ 30 นาที
ตั้งกระทะน้ำมัน ให้ร้อนจากนั้นใส่กระเทียมบดลงไปผัด ให้กระเทียมหอม เหลือง จากนั้นใส่ซี่โครงหมูลงไปผัด ผัดให้ซี่โครงหมูสุก
จากนั้นปรุงรสด้วย น้ำสับปะรด น้ำตาลปี๊บ น้ำส้มสายชู และ ซีอิ๊วขาว ผัดให้ส่วนผสมละลายเป็นเนื้อเดยวกัน ผัดไปเรื่อยๆจนซอสเริ่มแห้งก็ปิดไฟ เสริฟใส่จาน และแต่งหน้าจานให้สวยงามด้วย ผักสด สับปะรด และ พริกหั่นฝอย
เคล็ดลับการทำซี่โครงหมูทอดสามรส

ซี่โครงหมู ให้เลือกใช้ส่วนซี่โครงกระดูกหมูอ่อน ให้เลือกซื้อกระดูกซี่โครงที่สด ใหม่ จะได้เนื้อหมูที่อร่อย
การหมักหมูให้หมักให้นานประมาณสัก 3 ชั่วโมง ให้เนื้อหมูเข้าเนื้อ
ก่อนผัดกระดูกซี่โครง ให้ใส่กระเทียมลงไปผัดก่อน ความหอมของกระเทียมจะออกมากับน้ำมันทำให้ซี่โครงหมูมีความหอมของกระเทียม
สับประรด ให้เลือกใช้สับปะรดศรีราชา จะได้รสชาติหวานอมเปรี้ยว
น้ำตาล ให้เลือกใช้น้ำตาลปี๊บ ความหวานของน้ำตาลปี๊บจะให้รสชาติที่กลมกล่อม
ซี่โครงหมูสามรส คือ อาหารไทย เมนูซี่โครงหมู วิธีทำซี่โครงหมูทอดสามรส ง่ายๆ สามารถทำกินเองที่บ้านได้ เคล็ดลับความอร่อย คือ การหมักซี่โครงหมู กับข้าวจากซี่โครงหมู ซี่โครงหมูทำอะไรกินได้บ้าง

สูตรอาหาร เมนูอาหาร แนะนำสำหรับวันนี้ ขอนำเสนอ ซี่โครงหมูทอดสามรส จัดว่าเป็น เมนูกับแกล้ม ทานง่าย รสชาติหวานสมชื่อ ขั้นตอนการทำซี่โครงหมูสามรส เคล็ดลับความอร่อย อยู่ที่วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการหมักหมู และ การปรุงรสชาติ

สูตรซี่โครงหมูทอดสามรส ส่วนผสมและขั้นตอนการทำอาหารเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนชอบอาหาร เมนูซี่โครงหมู

ส่วนผสมสำหรับทำซี่โครงหมูทอดสามรส

ซี่โครงหมู เลือกขนาดกว้างประมาณ 2 นิ้ว 1 แถว
เกลือป่น 1 ช้อนชา สำหรับหมักหมู
พริกไทยป่น 1 ช้อนชา สำหรับหมักหมู
แป้งสาลี 2 ช้อนโต้ะ สำหรับหมักหมู
ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต้ะ สำหรับหมักหมู
กระเทียมบด 3 ช้อนโต้ะ
น้ำสับปะรด 3 ช้อนโต้ะ
น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต้ะ
น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต้ะ
ซอสถั่วเหลือง 2 ช้อนโต้ะ
สับปะรดหั่นชิ้น 5 ช้อนโต้ะ
พริกหั่นเป็นฝอย 2 ช้อนโต้ะ
ผักสด เช่น แครอท บ๊อคโลรี่ กะหล่ำปลี เป็นต้น
น้ำมันพืช 2 ถ้วย
วิธีทำซี่โครงหมูทอดสามรส

เริ่มจากการหมักซี่โครงหมูก่อน หั่นซี่โครงหมูเป็นท่อนๆ ขนาดพอดีคำ หมักด้วย เกลือป่น พริกไทยป่น ซอสปรุงรส และ แป้งสาลี นวดให้ส่วนผสมเข้ากับกระดูกซี่โครงหมู และ หมักทิ้งไว้ในตู้เย็นประมาณ 30 นาที
ตั้งกระทะน้ำมัน ให้ร้อนจากนั้นใส่กระเทียมบดลงไปผัด ให้กระเทียมหอม เหลือง จากนั้นใส่ซี่โครงหมูลงไปผัด ผัดให้ซี่โครงหมูสุก
จากนั้นปรุงรสด้วย น้ำสับปะรด น้ำตาลปี๊บ น้ำส้มสายชู และ ซีอิ๊วขาว ผัดให้ส่วนผสมละลายเป็นเนื้อเดยวกัน ผัดไปเรื่อยๆจนซอสเริ่มแห้งก็ปิดไฟ เสริฟใส่จาน และแต่งหน้าจานให้สวยงามด้วย ผักสด สับปะรด และ พริกหั่นฝอย
เคล็ดลับการทำซี่โครงหมูทอดสามรส

ซี่โครงหมู ให้เลือกใช้ส่วนซี่โครงกระดูกหมูอ่อน ให้เลือกซื้อกระดูกซี่โครงที่สด ใหม่ จะได้เนื้อหมูที่อร่อย
การหมักหมูให้หมักให้นานประมาณสัก 3 ชั่วโมง ให้เนื้อหมูเข้าเนื้อ
ก่อนผัดกระดูกซี่โครง ให้ใส่กระเทียมลงไปผัดก่อน ความหอมของกระเทียมจะออกมากับน้ำมันทำให้ซี่โครงหมูมีความหอมของกระเทียม
สับประรด ให้เลือกใช้สับปะรดศรีราชา จะได้รสชาติหวานอมเปรี้ยว
น้ำตาล ให้เลือกใช้น้ำตาลปี๊บ ความหวานของน้ำตาลปี๊บจะให้รสชาติที่กลมกล่อม
ซี่โครงหมูสามรส คือ อาหารไทย เมนูซี่โครงหมู วิธีทำซี่โครงหมูทอดสามรส ง่ายๆ สามารถทำกินเองที่บ้านได้ เคล็ดลับความอร่อย คือ การหมักซี่โครงหมู กับข้าวจากซี่โครงหมู ซี่โครงหมูทำอะไรกินได้บ้าง

สูตรอาหาร เมนูอาหาร แนะนำสำหรับวันนี้ ขอนำเสนอ ซี่โครงหมูทอดสามรส จัดว่าเป็น เมนูกับแกล้ม ทานง่าย รสชาติหวานสมชื่อ ขั้นตอนการทำซี่โครงหมูสามรส เคล็ดลับความอร่อย อยู่ที่วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการหมักหมู และ การปรุงรสชาติ

สูตรซี่โครงหมูทอดสามรส ส่วนผสมและขั้นตอนการทำอาหารเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนชอบอาหาร เมนูซี่โครงหมู

ส่วนผสมสำหรับทำซี่โครงหมูทอดสามรส

ซี่โครงหมู เลือกขนาดกว้างประมาณ 2 นิ้ว 1 แถว
เกลือป่น 1 ช้อนชา สำหรับหมักหมู
พริกไทยป่น 1 ช้อนชา สำหรับหมักหมู
แป้งสาลี 2 ช้อนโต้ะ สำหรับหมักหมู
ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต้ะ สำหรับหมักหมู
กระเทียมบด 3 ช้อนโต้ะ
น้ำสับปะรด 3 ช้อนโต้ะ
น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต้ะ
น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต้ะ
ซอสถั่วเหลือง 2 ช้อนโต้ะ
สับปะรดหั่นชิ้น 5 ช้อนโต้ะ
พริกหั่นเป็นฝอย 2 ช้อนโต้ะ
ผักสด เช่น แครอท บ๊อคโลรี่ กะหล่ำปลี เป็นต้น
น้ำมันพืช 2 ถ้วย
วิธีทำซี่โครงหมูทอดสามรส

เริ่มจากการหมักซี่โครงหมูก่อน หั่นซี่โครงหมูเป็นท่อนๆ ขนาดพอดีคำ หมักด้วย เกลือป่น พริกไทยป่น ซอสปรุงรส และ แป้งสาลี นวดให้ส่วนผสมเข้ากับกระดูกซี่โครงหมู และ หมักทิ้งไว้ในตู้เย็นประมาณ 30 นาที
ตั้งกระทะน้ำมัน ให้ร้อนจากนั้นใส่กระเทียมบดลงไปผัด ให้กระเทียมหอม เหลือง จากนั้นใส่ซี่โครงหมูลงไปผัด ผัดให้ซี่โครงหมูสุก
จากนั้นปรุงรสด้วย น้ำสับปะรด น้ำตาลปี๊บ น้ำส้มสายชู และ ซีอิ๊วขาว ผัดให้ส่วนผสมละลายเป็นเนื้อเดยวกัน ผัดไปเรื่อยๆจนซอสเริ่มแห้งก็ปิดไฟ เสริฟใส่จาน และแต่งหน้าจานให้สวยงามด้วย ผักสด สับปะรด และ พริกหั่นฝอย
เคล็ดลับการทำซี่โครงหมูทอดสามรส

ซี่โครงหมู ให้เลือกใช้ส่วนซี่โครงกระดูกหมูอ่อน ให้เลือกซื้อกระดูกซี่โครงที่สด ใหม่ จะได้เนื้อหมูที่อร่อย
การหมักหมูให้หมักให้นานประมาณสัก 3 ชั่วโมง ให้เนื้อหมูเข้าเนื้อ
ก่อนผัดกระดูกซี่โครง ให้ใส่กระเทียมลงไปผัดก่อน ความหอมของกระเทียมจะออกมากับน้ำมันทำให้ซี่โครงหมูมีความหอมของกระเทียม
สับประรด ให้เลือกใช้สับปะรดศรีราชา จะได้รสชาติหวานอมเปรี้ยว
น้ำตาล ให้เลือกใช้น้ำตาลปี๊บ ความหวานของน้ำตาลปี๊บจะให้รสชาติที่กลมกล่อม
ซี่โครงหมูสามรส คือ อาหารไทย เมนูซี่โครงหมู วิธีทำซี่โครงหมูทอดสามรส ง่ายๆ สามารถทำกินเองที่บ้านได้ เคล็ดลับความอร่อย คือ การหมักซี่โครงหมู กับข้าวจากซี่โครงหมู ซี่โครงหมูทำอะไรกินได้บ้าง

สูตรอาหารเวียดนาม เมนูผักยอดนิยม สำหรับวันนนี้ คือ เมี่ยงสดเวียดนาม หรือ ปอเปี๊ยะสด เป็น อาหารคลีน มีส่วนผสมของผักนานาชนิด ทานกับน้ำจิ้มรสอร่อย เหมาะสำหรับคนกลัวอ้วน เคล็ดลับความอร่อยของอาหารเมนูนี้อยู่ที่วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาติ

เมี่ยงสด ส่วนผสมและขั้นตอนการทำอาหารเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับ คนชอบกินผัก

ส่วนผสมสำหรับทำปอเปี้ยะสด

แผ่นเมี่ยง 4-5 แผ่น
หมูสับ 1 ถ้วยตัง
หนังหมู 1 ชิ้น
แครอทหั่นฝอย 1 ถ้วยต้วง
ผักกาดหอม 5-10 ใย
กุ้ง 10 ตัว
วิธีทำปอเปี้ยะสด

เตรียมผัก โดยการล้างผักให้สะอาดก่อน นำไปแช่น้ำและแช่น้ำเย็นให้ผักมัความกรอบ
ล้างกุ้งให้สะอาด ผ่าเส้นที่หลังออก แกะเปลือก แกะหัว จากนั้นนำไปลวกในน้ำร้อน ให้พอสุก
นำเนื้อหมูสับไปลวกให้สุก จากนั้นนำไปพักเอาไว้ก่อน
ต้มหนังหมูให้สุก จากนั้นนำมาหั่นเป็นเส้นๆ ขนาดพอดีคำ
เมื่อเครื่องเคียงพร้อม นำเอาผ้าชุบน้ำบอดให้มาดๆ ถูที่ใบเมี่ยงให้พออ่อนๆ จากนั้น วาง ผักกาดหอม แครอท หนังหมู หมูสับ และ กุ้ง เรียงเป็นแนวแท่ง
ม้วนแป้งเมี่ยงให้เป็นแท่ง ทำให้ครบตามจำนวนที่ต้องการ
จัดใส่จาน และ หั่นเป็นชิ้นให้พอดีคำ
เตรียมทำน้ำจิ้ม โดย ตั้งกระทะ คั่วน้ำตาลทรายขนาด 1 ถ้วยตวง ให้เป็นสีน้ำตาล จากนั้นใส่น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวงลงไป ปรุงรสด้วย น้ำปลา 1 ถ้วยตวง น้ำส้มสายชู 3 ช้อนโต้ะ เคี้ยวให้น้ำจิ้มมีความเหนียว จากนั้นปล่อยให้เย็น โรยด้วยพริกสดและถั่วลิสงคั่ว
เสริฟ ปอเเปี๊ยะสด ทานคุ่กับน้ำจิ้มรสเด็ด
เคล็ดลับการทำปอเปี๊ยะญวน

แป้งเมียง จะเป็นแผ่นแข็ง ต้องใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆเช็ด ไม่ต้องเช็ดให้ชุ่มเกินไป เพราะจะทำให้แป้งอ่อนเกินไป เวลาห่อจะแตกไม่สวย ไม่น่ารับประทาน
การใส่ผักที่ใส่เป็นไส้ ไม่ควรใส่มากเกินไป เนื่องจากเวลาม้วนจะแตก
ผักต้องล้างให้สะอาด และ นำไปแช่น้ำเย็นให้ผักมีความกรอบและสดชื่น
กุ้ง ต้องล้างให้สะอาด เลือกกุ้งสดๆ โดยการลวกกุ้ง เป็นเคล็ดลับ ต้องลวกด้วยน้ำร้อนจัด และ ลวกในเวลาที่เหมาะสม อยากลวกนานเกินไป เพราะเนื้่อกุ้งจะแข็ง ไม่น่ากิน
หนังหมู ให้ลวกให้สุก และ ขูดขนที่หนังหมูออกให้หมด อย่านำหนังที่มีขนอยู่มาทำอาหารกิน
น้ำที่ใช้ลวก หมู กุ้ง และ หนังหมู ไม่ให้ใช้น้ำเดียวกัน ลวกเสร็จให้ทิ้งและเติมน้ำใหม่ จะทำให้ไม่คาว และ เสียกลิ่นของอาหาร
ประโยชน์ปอเปี๊ยะสด

ในปอเปี๊ยะมีผักมาก ช่วยเรื่องการขับถ่ายได้ดี ไม่มีของเสียสะสมในร่างกาย
ในปอเปี๊ยะมีไขมันต่ำ เหมาะสำหรับ คนลดความอ้วน หรือ ควบคุมอาหาร
ผักต่างๆ ในอาหาร ช่วยเรื่องวิตามิน ช่วยซ่อมแซ่มส่วนที่สึกหรอ ทำให้ผิวพรรณสดใส
ปอเปี๊ยะสด อาหารเวียดนาม เมนูคลีน วิธีทำปอเปี๊ยะสด ไม่ยาก ทำกินเองได้ นำแผ่นเมี่ยง ห่อด้วยส่วนผสมต่างๆ เช่น ผักสลัด แครอท หนังหมู กุ้งลวก ทานคู่กับน้ำจิ้มรสเด็ด อาหารเวียดนามยอดนิยม

สูตรอาหารเวียดนาม เมนูผักยอดนิยม สำหรับวันนนี้ คือ เมี่ยงสดเวียดนาม หรือ ปอเปี๊ยะสด เป็น อาหารคลีน มีส่วนผสมของผักนานาชนิด ทานกับน้ำจิ้มรสอร่อย เหมาะสำหรับคนกลัวอ้วน เคล็ดลับความอร่อยของอาหารเมนูนี้อยู่ที่วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาติ

เมี่ยงสด ส่วนผสมและขั้นตอนการทำอาหารเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับ คนชอบกินผัก

ส่วนผสมสำหรับทำปอเปี้ยะสด

แผ่นเมี่ยง 4-5 แผ่น
หมูสับ 1 ถ้วยตัง
หนังหมู 1 ชิ้น
แครอทหั่นฝอย 1 ถ้วยต้วง
ผักกาดหอม 5-10 ใย
กุ้ง 10 ตัว
วิธีทำปอเปี้ยะสด

เตรียมผัก โดยการล้างผักให้สะอาดก่อน นำไปแช่น้ำและแช่น้ำเย็นให้ผักมัความกรอบ
ล้างกุ้งให้สะอาด ผ่าเส้นที่หลังออก แกะเปลือก แกะหัว จากนั้นนำไปลวกในน้ำร้อน ให้พอสุก
นำเนื้อหมูสับไปลวกให้สุก จากนั้นนำไปพักเอาไว้ก่อน
ต้มหนังหมูให้สุก จากนั้นนำมาหั่นเป็นเส้นๆ ขนาดพอดีคำ
เมื่อเครื่องเคียงพร้อม นำเอาผ้าชุบน้ำบอดให้มาดๆ ถูที่ใบเมี่ยงให้พออ่อนๆ จากนั้น วาง ผักกาดหอม แครอท หนังหมู หมูสับ และ กุ้ง เรียงเป็นแนวแท่ง
ม้วนแป้งเมี่ยงให้เป็นแท่ง ทำให้ครบตามจำนวนที่ต้องการ
จัดใส่จาน และ หั่นเป็นชิ้นให้พอดีคำ
เตรียมทำน้ำจิ้ม โดย ตั้งกระทะ คั่วน้ำตาลทรายขนาด 1 ถ้วยตวง ให้เป็นสีน้ำตาล จากนั้นใส่น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวงลงไป ปรุงรสด้วย น้ำปลา 1 ถ้วยตวง น้ำส้มสายชู 3 ช้อนโต้ะ เคี้ยวให้น้ำจิ้มมีความเหนียว จากนั้นปล่อยให้เย็น โรยด้วยพริกสดและถั่วลิสงคั่ว
เสริฟ ปอเเปี๊ยะสด ทานคุ่กับน้ำจิ้มรสเด็ด
เคล็ดลับการทำปอเปี๊ยะญวน

แป้งเมียง จะเป็นแผ่นแข็ง ต้องใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆเช็ด ไม่ต้องเช็ดให้ชุ่มเกินไป เพราะจะทำให้แป้งอ่อนเกินไป เวลาห่อจะแตกไม่สวย ไม่น่ารับประทาน
การใส่ผักที่ใส่เป็นไส้ ไม่ควรใส่มากเกินไป เนื่องจากเวลาม้วนจะแตก
ผักต้องล้างให้สะอาด และ นำไปแช่น้ำเย็นให้ผักมีความกรอบและสดชื่น
กุ้ง ต้องล้างให้สะอาด เลือกกุ้งสดๆ โดยการลวกกุ้ง เป็นเคล็ดลับ ต้องลวกด้วยน้ำร้อนจัด และ ลวกในเวลาที่เหมาะสม อยากลวกนานเกินไป เพราะเนื้่อกุ้งจะแข็ง ไม่น่ากิน
หนังหมู ให้ลวกให้สุก และ ขูดขนที่หนังหมูออกให้หมด อย่านำหนังที่มีขนอยู่มาทำอาหารกิน
น้ำที่ใช้ลวก หมู กุ้ง และ หนังหมู ไม่ให้ใช้น้ำเดียวกัน ลวกเสร็จให้ทิ้งและเติมน้ำใหม่ จะทำให้ไม่คาว และ เสียกลิ่นของอาหาร
ประโยชน์ปอเปี๊ยะสด

ในปอเปี๊ยะมีผักมาก ช่วยเรื่องการขับถ่ายได้ดี ไม่มีของเสียสะสมในร่างกาย
ในปอเปี๊ยะมีไขมันต่ำ เหมาะสำหรับ คนลดความอ้วน หรือ ควบคุมอาหาร
ผักต่างๆ ในอาหาร ช่วยเรื่องวิตามิน ช่วยซ่อมแซ่มส่วนที่สึกหรอ ทำให้ผิวพรรณสดใส
ปอเปี๊ยะสด อาหารเวียดนาม เมนูคลีน วิธีทำปอเปี๊ยะสด ไม่ยาก ทำกินเองได้ นำแผ่นเมี่ยง ห่อด้วยส่วนผสมต่างๆ เช่น ผักสลัด แครอท หนังหมู กุ้งลวก ทานคู่กับน้ำจิ้มรสเด็ด อาหารเวียดนามยอดนิยม

สูตรอาหารเวียดนาม เมนูผักยอดนิยม สำหรับวันนนี้ คือ เมี่ยงสดเวียดนาม หรือ ปอเปี๊ยะสด เป็น อาหารคลีน มีส่วนผสมของผักนานาชนิด ทานกับน้ำจิ้มรสอร่อย เหมาะสำหรับคนกลัวอ้วน เคล็ดลับความอร่อยของอาหารเมนูนี้อยู่ที่วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาติ

เมี่ยงสด ส่วนผสมและขั้นตอนการทำอาหารเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับ คนชอบกินผัก

ส่วนผสมสำหรับทำปอเปี้ยะสด

แผ่นเมี่ยง 4-5 แผ่น
หมูสับ 1 ถ้วยตัง
หนังหมู 1 ชิ้น
แครอทหั่นฝอย 1 ถ้วยต้วง
ผักกาดหอม 5-10 ใย
กุ้ง 10 ตัว
วิธีทำปอเปี้ยะสด

เตรียมผัก โดยการล้างผักให้สะอาดก่อน นำไปแช่น้ำและแช่น้ำเย็นให้ผักมัความกรอบ
ล้างกุ้งให้สะอาด ผ่าเส้นที่หลังออก แกะเปลือก แกะหัว จากนั้นนำไปลวกในน้ำร้อน ให้พอสุก
นำเนื้อหมูสับไปลวกให้สุก จากนั้นนำไปพักเอาไว้ก่อน
ต้มหนังหมูให้สุก จากนั้นนำมาหั่นเป็นเส้นๆ ขนาดพอดีคำ
เมื่อเครื่องเคียงพร้อม นำเอาผ้าชุบน้ำบอดให้มาดๆ ถูที่ใบเมี่ยงให้พออ่อนๆ จากนั้น วาง ผักกาดหอม แครอท หนังหมู หมูสับ และ กุ้ง เรียงเป็นแนวแท่ง
ม้วนแป้งเมี่ยงให้เป็นแท่ง ทำให้ครบตามจำนวนที่ต้องการ
จัดใส่จาน และ หั่นเป็นชิ้นให้พอดีคำ
เตรียมทำน้ำจิ้ม โดย ตั้งกระทะ คั่วน้ำตาลทรายขนาด 1 ถ้วยตวง ให้เป็นสีน้ำตาล จากนั้นใส่น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวงลงไป ปรุงรสด้วย น้ำปลา 1 ถ้วยตวง น้ำส้มสายชู 3 ช้อนโต้ะ เคี้ยวให้น้ำจิ้มมีความเหนียว จากนั้นปล่อยให้เย็น โรยด้วยพริกสดและถั่วลิสงคั่ว
เสริฟ ปอเเปี๊ยะสด ทานคุ่กับน้ำจิ้มรสเด็ด
เคล็ดลับการทำปอเปี๊ยะญวน

แป้งเมียง จะเป็นแผ่นแข็ง ต้องใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆเช็ด ไม่ต้องเช็ดให้ชุ่มเกินไป เพราะจะทำให้แป้งอ่อนเกินไป เวลาห่อจะแตกไม่สวย ไม่น่ารับประทาน
การใส่ผักที่ใส่เป็นไส้ ไม่ควรใส่มากเกินไป เนื่องจากเวลาม้วนจะแตก
ผักต้องล้างให้สะอาด และ นำไปแช่น้ำเย็นให้ผักมีความกรอบและสดชื่น
กุ้ง ต้องล้างให้สะอาด เลือกกุ้งสดๆ โดยการลวกกุ้ง เป็นเคล็ดลับ ต้องลวกด้วยน้ำร้อนจัด และ ลวกในเวลาที่เหมาะสม อยากลวกนานเกินไป เพราะเนื้่อกุ้งจะแข็ง ไม่น่ากิน
หนังหมู ให้ลวกให้สุก และ ขูดขนที่หนังหมูออกให้หมด อย่านำหนังที่มีขนอยู่มาทำอาหารกิน
น้ำที่ใช้ลวก หมู กุ้ง และ หนังหมู ไม่ให้ใช้น้ำเดียวกัน ลวกเสร็จให้ทิ้งและเติมน้ำใหม่ จะทำให้ไม่คาว และ เสียกลิ่นของอาหาร
ประโยชน์ปอเปี๊ยะสด

ในปอเปี๊ยะมีผักมาก ช่วยเรื่องการขับถ่ายได้ดี ไม่มีของเสียสะสมในร่างกาย
ในปอเปี๊ยะมีไขมันต่ำ เหมาะสำหรับ คนลดความอ้วน หรือ ควบคุมอาหาร
ผักต่างๆ ในอาหาร ช่วยเรื่องวิตามิน ช่วยซ่อมแซ่มส่วนที่สึกหรอ ทำให้ผิวพรรณสดใส
ปอเปี๊ยะสด อาหารเวียดนาม เมนูคลีน วิธีทำปอเปี๊ยะสด ไม่ยาก ทำกินเองได้ นำแผ่นเมี่ยง ห่อด้วยส่วนผสมต่างๆ เช่น ผักสลัด แครอท หนังหมู กุ้งลวก ทานคู่กับน้ำจิ้มรสเด็ด อาหารเวียดนามยอดนิยม

สูตรอาหารเวียดนาม เมนูผักยอดนิยม สำหรับวันนนี้ คือ เมี่ยงสดเวียดนาม หรือ ปอเปี๊ยะสด เป็น อาหารคลีน มีส่วนผสมของผักนานาชนิด ทานกับน้ำจิ้มรสอร่อย เหมาะสำหรับคนกลัวอ้วน เคล็ดลับความอร่อยของอาหารเมนูนี้อยู่ที่วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาติ

เมี่ยงสด ส่วนผสมและขั้นตอนการทำอาหารเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับ คนชอบกินผัก

ส่วนผสมสำหรับทำปอเปี้ยะสด

แผ่นเมี่ยง 4-5 แผ่น
หมูสับ 1 ถ้วยตัง
หนังหมู 1 ชิ้น
แครอทหั่นฝอย 1 ถ้วยต้วง
ผักกาดหอม 5-10 ใย
กุ้ง 10 ตัว
วิธีทำปอเปี้ยะสด

เตรียมผัก โดยการล้างผักให้สะอาดก่อน นำไปแช่น้ำและแช่น้ำเย็นให้ผักมัความกรอบ
ล้างกุ้งให้สะอาด ผ่าเส้นที่หลังออก แกะเปลือก แกะหัว จากนั้นนำไปลวกในน้ำร้อน ให้พอสุก
นำเนื้อหมูสับไปลวกให้สุก จากนั้นนำไปพักเอาไว้ก่อน
ต้มหนังหมูให้สุก จากนั้นนำมาหั่นเป็นเส้นๆ ขนาดพอดีคำ
เมื่อเครื่องเคียงพร้อม นำเอาผ้าชุบน้ำบอดให้มาดๆ ถูที่ใบเมี่ยงให้พออ่อนๆ จากนั้น วาง ผักกาดหอม แครอท หนังหมู หมูสับ และ กุ้ง เรียงเป็นแนวแท่ง
ม้วนแป้งเมี่ยงให้เป็นแท่ง ทำให้ครบตามจำนวนที่ต้องการ
จัดใส่จาน และ หั่นเป็นชิ้นให้พอดีคำ
เตรียมทำน้ำจิ้ม โดย ตั้งกระทะ คั่วน้ำตาลทรายขนาด 1 ถ้วยตวง ให้เป็นสีน้ำตาล จากนั้นใส่น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวงลงไป ปรุงรสด้วย น้ำปลา 1 ถ้วยตวง น้ำส้มสายชู 3 ช้อนโต้ะ เคี้ยวให้น้ำจิ้มมีความเหนียว จากนั้นปล่อยให้เย็น โรยด้วยพริกสดและถั่วลิสงคั่ว
เสริฟ ปอเเปี๊ยะสด ทานคุ่กับน้ำจิ้มรสเด็ด
เคล็ดลับการทำปอเปี๊ยะญวน

แป้งเมียง จะเป็นแผ่นแข็ง ต้องใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆเช็ด ไม่ต้องเช็ดให้ชุ่มเกินไป เพราะจะทำให้แป้งอ่อนเกินไป เวลาห่อจะแตกไม่สวย ไม่น่ารับประทาน
การใส่ผักที่ใส่เป็นไส้ ไม่ควรใส่มากเกินไป เนื่องจากเวลาม้วนจะแตก
ผักต้องล้างให้สะอาด และ นำไปแช่น้ำเย็นให้ผักมีความกรอบและสดชื่น
กุ้ง ต้องล้างให้สะอาด เลือกกุ้งสดๆ โดยการลวกกุ้ง เป็นเคล็ดลับ ต้องลวกด้วยน้ำร้อนจัด และ ลวกในเวลาที่เหมาะสม อยากลวกนานเกินไป เพราะเนื้่อกุ้งจะแข็ง ไม่น่ากิน
หนังหมู ให้ลวกให้สุก และ ขูดขนที่หนังหมูออกให้หมด อย่านำหนังที่มีขนอยู่มาทำอาหารกิน
น้ำที่ใช้ลวก หมู กุ้ง และ หนังหมู ไม่ให้ใช้น้ำเดียวกัน ลวกเสร็จให้ทิ้งและเติมน้ำใหม่ จะทำให้ไม่คาว และ เสียกลิ่นของอาหาร
ประโยชน์ปอเปี๊ยะสด

ในปอเปี๊ยะมีผักมาก ช่วยเรื่องการขับถ่ายได้ดี ไม่มีของเสียสะสมในร่างกาย
ในปอเปี๊ยะมีไขมันต่ำ เหมาะสำหรับ คนลดความอ้วน หรือ ควบคุมอาหาร
ผักต่างๆ ในอาหาร ช่วยเรื่องวิตามิน ช่วยซ่อมแซ่มส่วนที่สึกหรอ ทำให้ผิวพรรณสดใส
ปอเปี๊ยะสด อาหารเวียดนาม เมนูคลีน วิธีทำปอเปี๊ยะสด ไม่ยาก ทำกินเองได้ นำแผ่นเมี่ยง ห่อด้วยส่วนผสมต่างๆ เช่น ผักสลัด แครอท หนังหมู กุ้งลวก ทานคู่กับน้ำจิ้มรสเด็ด อาหารเวียดนามยอดนิยม

อาหารยอดนิยม สำหรับวันนี้ ขอนำเสนอ อาหารเวียดนาม เมนูเมี่ยงทอด ไส้เนื้อปลากราย คือ เมี่ยงทอดปลากราย เคล็ดลับความอร่อยของอาหารเมนูนี้ คือ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาติ นำปลากรายมาทำไส้เมี่ยงทอด กับน้ำจิ้มรสเด็ด

สูตรอาหารทอด เมนูยอดนิยม เมนูหนึ่งที่อยากจะแนะนำ เป็น อาหารที่หาทายาก เมนูปลากราย เมนูทอด น้ำเนื้อปลากรายมาหมักกับเครื่องปรุงต่างๆ ปรุงรสให้อร่อย นำมาห่อกับใบเมี่ยง และนำไปทอด เกิดเป็น เมี่ยงทอดปลากรายสุดแสนอร่อย

ส่วนผสมสำหรับทำเมี่ยงทอดปลากราย

ใบเมี่ยง 2 แผ่น
เนื้อปลากราย 1 ถ้วย
รากผักชี กระเทียม และ พริกไทย บด 2 ช้อนโต้ะ
เห็ดหูหนูซอย 1 ถ้วย
วุ้นเส้นแช่น้ำและหั่นพอคำ 1/2 ถ้วย
ซอสถั่วเหลืง 2 ช้อนโต้ะ
ผักสด สำหรับทานกับ ทอดมันปลาเมี่ยงทอด เช่น ผักกาดหอม ผักชีฝรั่ง ผักแพรว
น้ำจิ้มปอเปี้ยะทอด วิธีทำน้ำจิ้มเมี่ยงทอด
วิธีทำเมี่ยงทอดปลากราย

นำ เนื้อปลากราย มาผสมกับ รากผักชี กระเทียม พริกไทย เห็ดหูหนู วุ้นเส้น ซอสถั่วเหลือง ผสมให้ส่วนผสมเข้ากัน จากนั้นปั้นเนื้อปลาเป็นแผ่นบางๆ สี่เหลี่ยม พอคำ ลักษณะเหมือนเต้าหู้แผ่น
จากนั้นนำ เนื้อปลาหมัก ไปนึ่ง ให้สุก
เอาน้ำทา แผ่นเมี่ยง ให้นิ้ม จากนั้นนำ แผ่นเมี่ยง ไปห่อเนื้อปลาที่นึ่งไว้แล้ว ห่อ 2 ชั้น
ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน จากนั้นผ่อนไฟให้ปานกลาง นำเมี่ยงที่ห่อไว้ลงไปทอด ทอดให้เหลืองกรอบ จากนั้นก็นำมาพักให้สะเด็ดน้ำมัน
เสริฟ เมี่ยงปลากรายทอด ทานคู่กับ น้ำจิ้มเมี่ยงทอด และ ผักสด
เคล็ดลับการทำเมี่ยงทอดปลากราย

เนื้อปลากราย สำหรับนำมาทำเมี่ยงทอดปลากราย ให้ใช้ เนื้อปลากรายสดๆ บดละเอียด
น้ำมันสำหรับนำมาทอด ให้ใช้น้ำมันใหม่ ห้ามใช้น้ำมันเก่า เนื่องจากน้ำมันเก่าทำให้ อาหารมีกลิ่น เสียรสชาติความอร่อย
การห่อแผ่นเมี่ยง นั้น ให้ใช้ ผ้าชุบน้ำหมาดๆ ทาที่ใบเมี่ยง แล้วเมี่ยงจะเริ่มอ่อน สามารถพับได้ เคล็ดลับ คือ อย่าถูกให้เปียกเกินไป เนื่องจากจะทำให้ แผ่นเมี่ยงอมน้ำเกินไป แป้งจะขาด เวลาทอดจะแตก ไม่น่ารับประทาน
เทคนิคการทอดแป้งเมี่ยง นั้น ให้ทอด 2 ครั้ง เพื่อให้กรอบ โดย ให้ใช้ไปอ่อนๆ น้ำมันร้อน เมื่อแป้งเมี่ยงเริ่มสุด ให้นำออกมาพักให้เย็นก่อน แล้ว จึงนำกลับไปทอดใหม่ จะทำให้แป้งกรอบ
น้ำจิ้มสำหรับทานคู่กับเมี่ยงทอดปลากราย นั้น ใช้น้ำจิ้มปอเปี๊ยะทอด สูตรเดียวกัน หวานๆ ถั่วกรอบๆ หอมอร่อย
เมียงทอดปลากราย อาหารเวียดนาม เมนูทอด ไส้ปลากราย ห่อด้วย แผ่นเมี่ยง นำมาทอด ทานกับน้ำจิ้มอร่อยๆ สูตรเมี่ยงทอดปลากราย อาหารเวียดนาม เมนูเมี่ยงทอด อาหารทอด เมนูปลา เมนูทอด น้ำจิ้มปอเปี๊ยะ ผักสด เมี่ยงทอดแบบเวียดนาม

เมี่ยงทอดปลากราย อาหารเวียดนาม อร่อยๆ วิธีทำเมี่ยงทอดปลากราย ง่ายๆสามารถทำกินเเองได้ เมนูเมี่ยงทอด อาหารทอด เมนูปลา เมนูทอด น้ำจิ้มปอเปี๊ยะ ผักสด เมี่ยงทอด เวียดนาม กับน้ำจิ้มรสเด็ด

อาหารยอดนิยม สำหรับวันนี้ ขอนำเสนอ อาหารเวียดนาม เมนูเมี่ยงทอด ไส้เนื้อปลากราย คือ เมี่ยงทอดปลากราย เคล็ดลับความอร่อยของอาหารเมนูนี้ คือ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาติ นำปลากรายมาทำไส้เมี่ยงทอด กับน้ำจิ้มรสเด็ด

สูตรอาหารทอด เมนูยอดนิยม เมนูหนึ่งที่อยากจะแนะนำ เป็น อาหารที่หาทายาก เมนูปลากราย เมนูทอด น้ำเนื้อปลากรายมาหมักกับเครื่องปรุงต่างๆ ปรุงรสให้อร่อย นำมาห่อกับใบเมี่ยง และนำไปทอด เกิดเป็น เมี่ยงทอดปลากรายสุดแสนอร่อย

ส่วนผสมสำหรับทำเมี่ยงทอดปลากราย

ใบเมี่ยง 2 แผ่น
เนื้อปลากราย 1 ถ้วย
รากผักชี กระเทียม และ พริกไทย บด 2 ช้อนโต้ะ
เห็ดหูหนูซอย 1 ถ้วย
วุ้นเส้นแช่น้ำและหั่นพอคำ 1/2 ถ้วย
ซอสถั่วเหลืง 2 ช้อนโต้ะ
ผักสด สำหรับทานกับ ทอดมันปลาเมี่ยงทอด เช่น ผักกาดหอม ผักชีฝรั่ง ผักแพรว
น้ำจิ้มปอเปี้ยะทอด วิธีทำน้ำจิ้มเมี่ยงทอด
วิธีทำเมี่ยงทอดปลากราย

นำ เนื้อปลากราย มาผสมกับ รากผักชี กระเทียม พริกไทย เห็ดหูหนู วุ้นเส้น ซอสถั่วเหลือง ผสมให้ส่วนผสมเข้ากัน จากนั้นปั้นเนื้อปลาเป็นแผ่นบางๆ สี่เหลี่ยม พอคำ ลักษณะเหมือนเต้าหู้แผ่น
จากนั้นนำ เนื้อปลาหมัก ไปนึ่ง ให้สุก
เอาน้ำทา แผ่นเมี่ยง ให้นิ้ม จากนั้นนำ แผ่นเมี่ยง ไปห่อเนื้อปลาที่นึ่งไว้แล้ว ห่อ 2 ชั้น
ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน จากนั้นผ่อนไฟให้ปานกลาง นำเมี่ยงที่ห่อไว้ลงไปทอด ทอดให้เหลืองกรอบ จากนั้นก็นำมาพักให้สะเด็ดน้ำมัน
เสริฟ เมี่ยงปลากรายทอด ทานคู่กับ น้ำจิ้มเมี่ยงทอด และ ผักสด
เคล็ดลับการทำเมี่ยงทอดปลากราย

เนื้อปลากราย สำหรับนำมาทำเมี่ยงทอดปลากราย ให้ใช้ เนื้อปลากรายสดๆ บดละเอียด
น้ำมันสำหรับนำมาทอด ให้ใช้น้ำมันใหม่ ห้ามใช้น้ำมันเก่า เนื่องจากน้ำมันเก่าทำให้ อาหารมีกลิ่น เสียรสชาติความอร่อย
การห่อแผ่นเมี่ยง นั้น ให้ใช้ ผ้าชุบน้ำหมาดๆ ทาที่ใบเมี่ยง แล้วเมี่ยงจะเริ่มอ่อน สามารถพับได้ เคล็ดลับ คือ อย่าถูกให้เปียกเกินไป เนื่องจากจะทำให้ แผ่นเมี่ยงอมน้ำเกินไป แป้งจะขาด เวลาทอดจะแตก ไม่น่ารับประทาน
เทคนิคการทอดแป้งเมี่ยง นั้น ให้ทอด 2 ครั้ง เพื่อให้กรอบ โดย ให้ใช้ไปอ่อนๆ น้ำมันร้อน เมื่อแป้งเมี่ยงเริ่มสุด ให้นำออกมาพักให้เย็นก่อน แล้ว จึงนำกลับไปทอดใหม่ จะทำให้แป้งกรอบ
น้ำจิ้มสำหรับทานคู่กับเมี่ยงทอดปลากราย นั้น ใช้น้ำจิ้มปอเปี๊ยะทอด สูตรเดียวกัน หวานๆ ถั่วกรอบๆ หอมอร่อย
เมียงทอดปลากราย อาหารเวียดนาม เมนูทอด ไส้ปลากราย ห่อด้วย แผ่นเมี่ยง นำมาทอด ทานกับน้ำจิ้มอร่อยๆ สูตรเมี่ยงทอดปลากราย อาหารเวียดนาม เมนูเมี่ยงทอด อาหารทอด เมนูปลา เมนูทอด น้ำจิ้มปอเปี๊ยะ ผักสด เมี่ยงทอดแบบเวียดนาม

เมี่ยงทอดปลากราย อาหารเวียดนาม อร่อยๆ วิธีทำเมี่ยงทอดปลากราย ง่ายๆสามารถทำกินเเองได้ เมนูเมี่ยงทอด อาหารทอด เมนูปลา เมนูทอด น้ำจิ้มปอเปี๊ยะ ผักสด เมี่ยงทอด เวียดนาม กับน้ำจิ้มรสเด็ด

อาหารยอดนิยม สำหรับวันนี้ ขอนำเสนอ อาหารเวียดนาม เมนูเมี่ยงทอด ไส้เนื้อปลากราย คือ เมี่ยงทอดปลากราย เคล็ดลับความอร่อยของอาหารเมนูนี้ คือ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาติ นำปลากรายมาทำไส้เมี่ยงทอด กับน้ำจิ้มรสเด็ด

สูตรอาหารทอด เมนูยอดนิยม เมนูหนึ่งที่อยากจะแนะนำ เป็น อาหารที่หาทายาก เมนูปลากราย เมนูทอด น้ำเนื้อปลากรายมาหมักกับเครื่องปรุงต่างๆ ปรุงรสให้อร่อย นำมาห่อกับใบเมี่ยง และนำไปทอด เกิดเป็น เมี่ยงทอดปลากรายสุดแสนอร่อย

ส่วนผสมสำหรับทำเมี่ยงทอดปลากราย

ใบเมี่ยง 2 แผ่น
เนื้อปลากราย 1 ถ้วย
รากผักชี กระเทียม และ พริกไทย บด 2 ช้อนโต้ะ
เห็ดหูหนูซอย 1 ถ้วย
วุ้นเส้นแช่น้ำและหั่นพอคำ 1/2 ถ้วย
ซอสถั่วเหลืง 2 ช้อนโต้ะ
ผักสด สำหรับทานกับ ทอดมันปลาเมี่ยงทอด เช่น ผักกาดหอม ผักชีฝรั่ง ผักแพรว
น้ำจิ้มปอเปี้ยะทอด วิธีทำน้ำจิ้มเมี่ยงทอด
วิธีทำเมี่ยงทอดปลากราย

นำ เนื้อปลากราย มาผสมกับ รากผักชี กระเทียม พริกไทย เห็ดหูหนู วุ้นเส้น ซอสถั่วเหลือง ผสมให้ส่วนผสมเข้ากัน จากนั้นปั้นเนื้อปลาเป็นแผ่นบางๆ สี่เหลี่ยม พอคำ ลักษณะเหมือนเต้าหู้แผ่น
จากนั้นนำ เนื้อปลาหมัก ไปนึ่ง ให้สุก
เอาน้ำทา แผ่นเมี่ยง ให้นิ้ม จากนั้นนำ แผ่นเมี่ยง ไปห่อเนื้อปลาที่นึ่งไว้แล้ว ห่อ 2 ชั้น
ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน จากนั้นผ่อนไฟให้ปานกลาง นำเมี่ยงที่ห่อไว้ลงไปทอด ทอดให้เหลืองกรอบ จากนั้นก็นำมาพักให้สะเด็ดน้ำมัน
เสริฟ เมี่ยงปลากรายทอด ทานคู่กับ น้ำจิ้มเมี่ยงทอด และ ผักสด
เคล็ดลับการทำเมี่ยงทอดปลากราย

เนื้อปลากราย สำหรับนำมาทำเมี่ยงทอดปลากราย ให้ใช้ เนื้อปลากรายสดๆ บดละเอียด
น้ำมันสำหรับนำมาทอด ให้ใช้น้ำมันใหม่ ห้ามใช้น้ำมันเก่า เนื่องจากน้ำมันเก่าทำให้ อาหารมีกลิ่น เสียรสชาติความอร่อย
การห่อแผ่นเมี่ยง นั้น ให้ใช้ ผ้าชุบน้ำหมาดๆ ทาที่ใบเมี่ยง แล้วเมี่ยงจะเริ่มอ่อน สามารถพับได้ เคล็ดลับ คือ อย่าถูกให้เปียกเกินไป เนื่องจากจะทำให้ แผ่นเมี่ยงอมน้ำเกินไป แป้งจะขาด เวลาทอดจะแตก ไม่น่ารับประทาน
เทคนิคการทอดแป้งเมี่ยง นั้น ให้ทอด 2 ครั้ง เพื่อให้กรอบ โดย ให้ใช้ไปอ่อนๆ น้ำมันร้อน เมื่อแป้งเมี่ยงเริ่มสุด ให้นำออกมาพักให้เย็นก่อน แล้ว จึงนำกลับไปทอดใหม่ จะทำให้แป้งกรอบ
น้ำจิ้มสำหรับทานคู่กับเมี่ยงทอดปลากราย นั้น ใช้น้ำจิ้มปอเปี๊ยะทอด สูตรเดียวกัน หวานๆ ถั่วกรอบๆ หอมอร่อย
เมียงทอดปลากราย อาหารเวียดนาม เมนูทอด ไส้ปลากราย ห่อด้วย แผ่นเมี่ยง นำมาทอด ทานกับน้ำจิ้มอร่อยๆ สูตรเมี่ยงทอดปลากราย อาหารเวียดนาม เมนูเมี่ยงทอด อาหารทอด เมนูปลา เมนูทอด น้ำจิ้มปอเปี๊ยะ ผักสด เมี่ยงทอดแบบเวียดนาม

เมี่ยงทอดปลากราย อาหารเวียดนาม อร่อยๆ วิธีทำเมี่ยงทอดปลากราย ง่ายๆสามารถทำกินเเองได้ เมนูเมี่ยงทอด อาหารทอด เมนูปลา เมนูทอด น้ำจิ้มปอเปี๊ยะ ผักสด เมี่ยงทอด เวียดนาม กับน้ำจิ้มรสเด็ด

ใครรำคาญอีโทรลของแก๊งค์เหี้ยนั่น ก็ตามมาจ้า

ห้องเม้าท์ "สมาพันธ์สาวฟุนักเมาท์".
https://line.me/ti/g2/ZfcBtJOaY6GMZiSMoVVJFw?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

ห้องหมาหมู่ "💩 ด้อมสำหรับสับนิยายของแก๊งค์หมาหมู่ 💩".
https://line.me/ti/g2/duu4Faw5nKszTgOoakaqLw?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

ห้องนักเขียน "ห้องปรึกษาสารพัดปัญหาของนักเขียน". OpenChat.
https://line.me/ti/g2/MMI-aoU_3e9tb5UU3M3rNg?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

ใครรำคาญอีโทรลของแก๊งค์เหี้ยนั่น ก็ตามมาจ้า

ห้องเม้าท์ "สมาพันธ์สาวฟุนักเมาท์".
https://line.me/ti/g2/ZfcBtJOaY6GMZiSMoVVJFw?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

ห้องหมาหมู่ "💩 ด้อมสำหรับสับนิยายของแก๊งค์หมาหมู่ 💩".
https://line.me/ti/g2/duu4Faw5nKszTgOoakaqLw?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

ห้องนักเขียน "ห้องปรึกษาสารพัดปัญหาของนักเขียน".
https://line.me/ti/g2/MMI-aoU_3e9tb5UU3M3rNg?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

ใครรำคาญอีโทรลของแก๊งค์เหี้ยนั่น ก็ตามมาจ้า

ห้องเม้าท์ "สมาพันธ์สาวฟุนักเมาท์".
https://line.me/ti/g2/ZfcBtJOaY6GMZiSMoVVJFw?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

ห้องหมาหมู่ "💩 ด้อมสำหรับสับนิยายของแก๊งค์หมาหมู่ 💩".
https://line.me/ti/g2/duu4Faw5nKszTgOoakaqLw?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

ห้องนักเขียน "ห้องปรึกษาสารพัดปัญหาของนักเขียน".
https://line.me/ti/g2/MMI-aoU_3e9tb5UU3M3rNg?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

ใครรำคาญอีโทรลของแก๊งค์เหี้ยนั่น ก็ตามมาจ้า

ห้องเม้าท์ "สมาพันธ์สาวฟุนักเมาท์".
https://line.me/ti/g2/ZfcBtJOaY6GMZiSMoVVJFw?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

ห้องหมาหมู่ "💩 ด้อมสำหรับสับนิยายของแก๊งค์หมาหมู่ 💩".
https://line.me/ti/g2/duu4Faw5nKszTgOoakaqLw?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

ห้องนักเขียน "ห้องปรึกษาสารพัดปัญหาของนักเขียน".
https://line.me/ti/g2/MMI-aoU_3e9tb5UU3M3rNg?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

ใครรำคาญอีโทรลของแก๊งค์เหี้ยนั่น ก็ตามมาจ้า

ห้องเม้าท์ "สมาพันธ์สาวฟุนักเมาท์".
https://line.me/ti/g2/ZfcBtJOaY6GMZiSMoVVJFw?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

ห้องหมาหมู่ "💩 ด้อมสำหรับสับนิยายของแก๊งค์หมาหมู่ 💩".
https://line.me/ti/g2/duu4Faw5nKszTgOoakaqLw?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

ห้องนักเขียน "ห้องปรึกษาสารพัดปัญหาของนักเขียน".
https://line.me/ti/g2/MMI-aoU_3e9tb5UU3M3rNg?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

รำคาญโว้ยยย แต่อยากถามในนี้ กูเจอปัญหาคือกูไม่กล้าลงนิยทยว่ะ กลัวผิดหวัง รู้สีกยังเขียนไม่ดี แต่เนื้อเรื่องเป็นแบบที่วางไว้แล้วนะ

คนโหลดไปหมื่นสามแล้วไม่เอาออกหรอเมิง เวปมาสเตอร์เขาเอาออกให้นะกูเคยเห็นคนทักไปขอ
หรือชอบแมสๆ คนอ่านเยอะดี

>>257 555555

นักเขียนขยะอย่างอี Jaylerqz ควรล่มจมไปพร้อมกับงานขยะๆของมันที่ก็อปนิยายคนอื่นหลายคนมายำ ไม่มีปัญญาจะคิดไอเดียเองืเก่งแต่ขโมยความคิดชาวบ้านเค้ามาต่อยอด อีขยะเอ้ยยยย ขอให้มึงฉิบหายไปพร้อมกันฝูงหมาขี้ขลาดของมึง

นักเขียนขยะอย่างอี Jaylerqz ควรล่มจมไปพร้อมกับงานขยะๆของมันที่ก็อปนิยายคนอื่นหลายคนมายำ ไม่มีปัญญาจะคิดไอเดียเองืเก่งแต่ขโมยความคิดชาวบ้านเค้ามาต่อยอด อีขยะเอ้ยยยย ขอให้มึงฉิบหายไปพร้อมกันฝูงหมาขี้ขลาดของมึง

นักเขียนขยะอย่างอี Jaylerqz ควรล่มจมไปพร้อมกับงานขยะๆของมันที่ก็อปนิยายคนอื่นหลายคนมายำ ไม่มีปัญญาจะคิดไอเดียเองืเก่งแต่ขโมยความคิดชาวบ้านเค้ามาต่อยอด อีขยะเอ้ยยยย ขอให้มึงฉิบหายไปพร้อมกันฝูงหมาขี้ขลาดของมึง

นักเขียนขยะอย่างอี Jaylerqz ควรล่มจมไปพร้อมกับงานขยะๆของมันที่ก็อปนิยายคนอื่นหลายคนมายำ ไม่มีปัญญาจะคิดไอเดียเองืเก่งแต่ขโมยความคิดชาวบ้านเค้ามาต่อยอด อีขยะเอ้ยยยย ขอให้มึงฉิบหายไปพร้อมกันฝูงหมาขี้ขลาดของมึง

นักเขียนขยะอย่างอี Jaylerqz ควรล่มจมไปพร้อมกับงานขยะๆของมันที่ก็อปนิยายคนอื่นหลายคนมายำ ไม่มีปัญญาจะคิดไอเดียเองืเก่งแต่ขโมยความคิดชาวบ้านเค้ามาต่อยอด อีขยะเอ้ยยยย ขอให้มึงฉิบหายไปพร้อมกันฝูงหมาขี้ขลาดของมึง

นักเขียนขยะอย่างอี Jaylerqz ควรล่มจมไปพร้อมกับงานขยะๆของมันที่ก็อปนิยายคนอื่นหลายคนมายำ ไม่มีปัญญาจะคิดไอเดียเองืเก่งแต่ขโมยความคิดชาวบ้านเค้ามาต่อยอด อีขยะเอ้ยยยย ขอให้มึงฉิบหายไปพร้อมกันฝูงหมาขี้ขลาดของมึง

นักเขียนขยะอย่างอี Jaylerqz ควรล่มจมไปพร้อมกับงานขยะๆของมันที่ก็อปนิยายคนอื่นหลายคนมายำ ไม่มีปัญญาจะคิดไอเดียเองืเก่งแต่ขโมยความคิดชาวบ้านเค้ามาต่อยอด อีขยะเอ้ยยยย ขอให้มึงฉิบหายไปพร้อมกันฝูงหมาขี้ขลาดของมึง
นักเขียนขยะอย่างอี Jaylerqz ควรล่มจมไปพร้อมกับงานขยะๆของมันที่ก็อปนิยายคนอื่นหลายคนมายำ ไม่มีปัญญาจะคิดไอเดียเองืเก่งแต่ขโมยความคิดชาวบ้านเค้ามาต่อยอด อีขยะเอ้ยยยย ขอให้มึงฉิบหายไปพร้อมกันฝูงหมาขี้ขลาดของมึง

นักเขียนขยะอย่างอี Jaylerqz ควรล่มจมไปพร้อมกับงานขยะๆของมันที่ก็อปนิยายคนอื่นหลายคนมายำ ไม่มีปัญญาจะคิดไอเดียเองืเก่งแต่ขโมยความคิดชาวบ้านเค้ามาต่อยอด อีขยะเอ้ยยยย ขอให้มึงฉิบหายไปพร้อมกันฝูงหมาขี้ขลาดของมึง

นักเขียนขยะอย่างอี Jaylerqz ควรล่มจมไปพร้อมกับงานขยะๆของมันที่ก็อปนิยายคนอื่นหลายคนมายำ ไม่มีปัญญาจะคิดไอเดียเองืเก่งแต่ขโมยความคิดชาวบ้านเค้ามาต่อยอด อีขยะเอ้ยยยย ขอให้มึงฉิบหายไปพร้อมกันฝูงหมาขี้ขลาดของมึง

>>256 กูจะบอกยังไงดี ถ้ามึงไม่คิดอะไรมาก (แต่ก็ดูว่ามึงจะคิดมากนะ5555) ก็ลงไปแบบที่มึงวางแผนไว้ แล้วดูฟีดแบ็ก แป้กหรือปัง หรือมีอะไรที่ต้องปรับ แล้วเรียนรู้ไปอะ เพราะถ้ามึงไม่ลงก็คือไม่รู้อะไรอยู่ดี

>>262 กูก็ว่างั้น ถ้าคาดหวังมากแล้วแป้กยิ่งเครียดขึ้นไปอีก ลงๆไปเหอะ

>>259 สมหน้า

Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้

Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้

Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้

Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้

Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้

Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้

Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้

Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้
Jaylerqz เป็นนักเขียนขี้ก็อป เป็นลูกสาวของพวกขยะโม่ง พวกโม่งขยะมันชอบสนับสนุนนักเขียนขี้ก็อป ขอให้พวกขี้ก็อปล่มจมและตายห่าเร็วๆ จะได้ไม่เป็นภาระของนักเขียนคนอื่น แล้วจะทำบุญกรวดน้ำให้

ข้างบนนี่แก็งค์หมาหมู่จ้างมาเหรอ สมเพช

>>273 อะไรทำให้คิดว่าโทรลพวกนี้คือนข.เหรอ ทำเหมือนกลุ่มนั้นไม่มีฟค.ไม่มีลูกหาบงั้นแหละ
ในทวิตกูก็เห็นฟค.j คิดว่าคนด่าคือนข.อีกฝั่ง โยงเก่งมาก กูว่านข.สองฝั่งอะแม่งไม่อะไรกันแล้วนะ แต่โม่งแม่งปั่นให้เหมือนตีกันเอง บันเทิงมาก ฟค.ก็พากันดิ้นแทนนข.ของตัวเอง

>>274 กูหมายถึงพวกที่คิดว่าเป็นนขมาเองนะ ในทวิตในเฟสเยอะมาก

>>275 โม่งมันมีแต่พวกโง่ไง55555555555

>>275 ในทวิตในเฟสเขาก็ไม่โง่มั้ยเมิง 555555

>>277 โม่งโง่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

>>274 โม่งมันโง่ๆๆๆๆๆๆๆๆ

ถ้ากูติดป้ายแค่ read at your own risk ได้มั้ยอะ ไม่อยากสปอย อยากให้คนอ่านอุทานไอเหี้ย

>>280 ธรรมดา read at your risk เขาใช่กรณีไหนบ้างวะ กูไม่คุ้นเลย เคยเห็นแต่ tag warn
มึงจบหักมุมมากเลยเหรอ ถถถถ

>>281 ไม่หักมุม แต่ไม่อยากสปอยเนื้อหา แบบชีวิตจริงคนก็ไม่ได้รู้ว่าชีวิตจะเจออะไรบ้าง กูก็อยากให้คนอ่านไม่รู้ว่าจะต้องเจอกับอะไร บอกแค่แนวพอ

>>282 ติดไปเถอะมึง คนที่ไม่ชอบ tw ก็เยอะ การติดแท็กไม่ใช่กฎ สิทธิตรงนี้อยู่ที่ผู้เขียน

ใส่คำเตือนว่า คำเตือนต่อไหนี้อาจมีสปอยเนื้อหาก็ได้ ถ้ามันไม่มากไรก็ไม่จำเป็นต้องใส่หรอก ส่วนใหญ่ก็กันดราม่า ทำให้ดูเป็นคนมีความรับผิดชอบต่อสังคมแค่นั้นแหละ

กู >>283 หมายถึงให้มึงติด ur own risk นะไม่ใช่ tw

นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ

นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ

นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ

นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ

นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ

นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ

นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ

นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ

นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ
นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ

นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ

นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ

นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ

นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ

นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ

นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ
นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ
นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ
นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ
นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ
นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ

นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ
นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ
นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ

นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ
นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ
นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ
นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ
นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ
นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ

นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ
นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ
นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ
นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ
นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ
นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ
นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ
นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ
นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ

นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ
นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ
นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ
นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ
นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ
นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ
นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ
นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ
นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ

นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ
นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ
นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ
นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ
นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ
นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ
นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ
นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ
นักเขียนอย่างพวกมึงมีความคิดเป็นของตัวเองน่ะดีแล้ว อย่าให้มีสันดานเหี้ยๆเที่ยวไปขโมยไอเดีย ก็อปนิยายชาวบ้านแบบอี จล. พอเรื่องแดงก็รับบทนางโดนรังแก ที่มันไปทำคนอื่นก่อนเห็นรู้สึกแย่ อ้อ ก็คนมันเหี้ยอ่ะเนอะ

เย่ กลับมาแล้วช่วงวันหยุด เลาคิดถุงนายนะ

เวลาตลค.ลากเสียงยาว พวกมึงเลือกใช้แบบไหนอะ ตย.คนร้องโหยหวน
"ไม่!!!!!"
"ม่ายยยยยย!!"

กูว่าอีนี่มันจงใจหาตีนให้อวพแหละ 5555
แทนที่คนจะลืมๆก็เอามาพูดซ้ำเรื่อยๆ

>>297 ม่ายยยยย

>>297 ไม่!!!!

>>297 สำหรับกุถ้าโหยหวนก็ม่ายยยอ่ะ ถ้าไม่!!! แลดูเป็นการปฏิเสธอย่างหนักแน่นเฉยๆ

>>298 นางเป็นนักเขียนขี้ก็อปเหมือนกันใช่ป่ะ ด่าคนอื่นก้อปแต่มันเองก็ก็อป 55555555555

ขอตัดดราม่าหน่อยจ้า อยากรู้ว่าเวลาลงนิยายที่เป็นเรื่องเซ็ตเดียวกัน แนวๆ ภาคแยกอะ พวกมึงจะลงแยกเป็นเรื่องใหม่เลย หรือว่าจะลงในเรื่องเดิมต่ออะ

>>303 แนะนำให้แยก เพราะลงในเรื่องเดิมจะยาวเกินไป แล้วค่อยบอกคนอ่านว่ามีอะไรบ้าง

>>303 ลงแยกกัน เพราะคนอ่านที่ชอบคู่ที่ 1 อาจจะไม่ได้ชอบคู่ที่ 2, 3, 4 เสมอไป ถ้าลงต่อมันเหมือนบังคับให้เค้าต้องอ่านไม่งั้นถือว่าไม่คอมพลีท

>>304 คือของเราเรื่องมันไม่ค่อยยาวอะ ประมาณ 20 ตอนเองอันแรก อีกอันน่าจะประมาณ 30 ตอน

>>305 ขอบใจนะ ไม่เคยคิดถึงกรณีแบบนี้เหมือนกัน คิดว่าคงต้องลงแยกแล้ว

>>305 กูเห็นด้วยกับการลงแยกเลย กูไม่ชอบเรื่องที่มีคู่อื่นแทรก ยิ่งเรื่องที่กูเสียตังเพื่อที่จะอ่านคู่นี้ด้วยนะ กูดันต้องมาอ่านอีกคู่นึงซะงั้น

พระสังคิณี แปล

กุสะลา ธัมมา
- พระธรรมที่เป็นกุศลให้ผลเป็นสุข มีกามาวะจะระกุศลเป็นต้น

อะกุสะลา ธัมมา
-ธรรมที่เป็นอกุศลให้ผลเป็นทุข์ มีโลภมูลจิตแปดเป็นต้น

อัพ๎ยากะตา ธัมมา
-ธรรมที่เป็นอัพยากฤตเป็นจิตกลางๆ มีอยู่ มีผัสสะเจตนาเป็นต้น

กะตะเม ธัมมา กุสะลา ยัส๎ะมิง สะมะเย
-ในสมัยใด ธรรมที่เป็นกุศลให้ผลเป็นสุข ย่อมบังเกิดขึ้นอย่างไรบ้าง

กามาวะจะรัง กุสะลัง จิตตัง
-จิตที่เป็นกุศลให้ผลเป็นสุข ย่อมนำสัตว์ให้ไปเกิดในกามภพทั้งเจ็ด คือ มนุษย์ ๑ สวรรค์ ๖

อุปปันนัง โหติ
-ย่อมบังเกิดมีแก่ปุถุชนผู้เป็นสามัญชน

โสมะนัสสะสะหะคะตัง
-เป็นไปพร้อมกับจิตด้วย ที่เป็นโสมนัสความสุขใจ

ญาณะสัมปะยุตตัง
-ประกอบพร้อมด้วยญาณเครื่องรู้คือปัญญา

รูปารัมมะนัง วา
-มีจิตยินดีในรูป มีรูปพระพุทธเจ้าเป็นต้น เป็นอารมณ์บ้าง

สัททารัมมะนัง วา
-มีจิตยินดีในเสียง มีเสียงท่านแสดงพระสัทธรรมเป็นต้น เป็นอารมณ์บ้าง

คันธารัมมะนัง วา
-มีจิตยินดีในกลิ่นหอม แล้วคิดถึงการกุศล มีพระพุทธบูชาเป็นต้น เป็นอารมณ์บ้าง

ระสารัมมะนัง วา
-มีจิตยินดีในรสเครื่องบริโภค แล้วยินดีใคร่บริจาคเป็นทานเป็นต้น เป็นอารมณ์บ้าง

โผฏฐัพพารัมมะนัง วา
-มีจิตยินดีในของอันถูกต้อง แล้วก็คิดให้ทานเป็นต้น เป็นอารมณ์บ้าง

ธัมมารัมมะนัง วา
-มีจิตยินดีในที่จะเจริญพระสัทธรรมกรรมฐาน
มีพุทธานุสสติเป็นต้น เป็นอารมณ์บ้าง

ยัง ยัง วา ปะนารัพภะ
-อีกอย่างหนึ่งความปรารภแห่งจิต ก็เกิดขึ้นในอารมณ์ใดๆ

ตัส๎ะมิง สะมะเย ผัสโส โหติ
-ความกระทบผัสสะแห่งจิต จิตที่เป็นกุศลก็ย่อมบังเกิดขึ้น ในสมัยนั้น

อะวิกเขโป โหติ
-อันว่าเอกัคคตาเจตสิกอันแน่แน่วในสันดาน ก็ย่อมบังเกิดขึ้น

เย วา ปะนะ ตัส๎ะมิง สะมะเย
-อีกอย่างหนึ่ง ธรรมทั้งหลายเหล่าใด ก็ย่อมบังเกิดขึ้นในกาลสมัยนั้น

อัญเญปิ อัตถิ ปะฏิจจะสะมุปปันนา
-ธรรมทั้งหลายอาศัยซึ่งจิตทั้ง
หลายอื่นมีอยู่ แล้วอาศัยกันและกัน ก็บังเกิดมีขึ้นพร้อม

อะรูปิโน ธัมมา
-เป็นแต่นามธรรมทั้งหลายไม่มีรูป

อิเม ธัมมา กุสะลา ฯ
-ธรรมทั้งหลายเหล่านี้ ชื่อว่าเป็นกุศลให้ผลเป็นสุข แก่สัตว์ทั้งหลายแล ฯ

พระสังคิณี แปล

กุสะลา ธัมมา
- พระธรรมที่เป็นกุศลให้ผลเป็นสุข มีกามาวะจะระกุศลเป็นต้น

อะกุสะลา ธัมมา
-ธรรมที่เป็นอกุศลให้ผลเป็นทุข์ มีโลภมูลจิตแปดเป็นต้น

อัพ๎ยากะตา ธัมมา
-ธรรมที่เป็นอัพยากฤตเป็นจิตกลางๆ มีอยู่ มีผัสสะเจตนาเป็นต้น

กะตะเม ธัมมา กุสะลา ยัส๎ะมิง สะมะเย
-ในสมัยใด ธรรมที่เป็นกุศลให้ผลเป็นสุข ย่อมบังเกิดขึ้นอย่างไรบ้าง

กามาวะจะรัง กุสะลัง จิตตัง
-จิตที่เป็นกุศลให้ผลเป็นสุข ย่อมนำสัตว์ให้ไปเกิดในกามภพทั้งเจ็ด คือ มนุษย์ ๑ สวรรค์ ๖

อุปปันนัง โหติ
-ย่อมบังเกิดมีแก่ปุถุชนผู้เป็นสามัญชน

โสมะนัสสะสะหะคะตัง
-เป็นไปพร้อมกับจิตด้วย ที่เป็นโสมนัสความสุขใจ

ญาณะสัมปะยุตตัง
-ประกอบพร้อมด้วยญาณเครื่องรู้คือปัญญา

รูปารัมมะนัง วา
-มีจิตยินดีในรูป มีรูปพระพุทธเจ้าเป็นต้น เป็นอารมณ์บ้าง

สัททารัมมะนัง วา
-มีจิตยินดีในเสียง มีเสียงท่านแสดงพระสัทธรรมเป็นต้น เป็นอารมณ์บ้าง

คันธารัมมะนัง วา
-มีจิตยินดีในกลิ่นหอม แล้วคิดถึงการกุศล มีพระพุทธบูชาเป็นต้น เป็นอารมณ์บ้าง

ระสารัมมะนัง วา
-มีจิตยินดีในรสเครื่องบริโภค แล้วยินดีใคร่บริจาคเป็นทานเป็นต้น เป็นอารมณ์บ้าง

โผฏฐัพพารัมมะนัง วา
-มีจิตยินดีในของอันถูกต้อง แล้วก็คิดให้ทานเป็นต้น เป็นอารมณ์บ้าง

ธัมมารัมมะนัง วา
-มีจิตยินดีในที่จะเจริญพระสัทธรรมกรรมฐาน
มีพุทธานุสสติเป็นต้น เป็นอารมณ์บ้าง

ยัง ยัง วา ปะนารัพภะ
-อีกอย่างหนึ่งความปรารภแห่งจิต ก็เกิดขึ้นในอารมณ์ใดๆ

ตัส๎ะมิง สะมะเย ผัสโส โหติ
-ความกระทบผัสสะแห่งจิต จิตที่เป็นกุศลก็ย่อมบังเกิดขึ้น ในสมัยนั้น

อะวิกเขโป โหติ
-อันว่าเอกัคคตาเจตสิกอันแน่แน่วในสันดาน ก็ย่อมบังเกิดขึ้น

เย วา ปะนะ ตัส๎ะมิง สะมะเย
-อีกอย่างหนึ่ง ธรรมทั้งหลายเหล่าใด ก็ย่อมบังเกิดขึ้นในกาลสมัยนั้น

อัญเญปิ อัตถิ ปะฏิจจะสะมุปปันนา
-ธรรมทั้งหลายอาศัยซึ่งจิตทั้ง
หลายอื่นมีอยู่ แล้วอาศัยกันและกัน ก็บังเกิดมีขึ้นพร้อม

อะรูปิโน ธัมมา
-เป็นแต่นามธรรมทั้งหลายไม่มีรูป

อิเม ธัมมา กุสะลา ฯ
-ธรรมทั้งหลายเหล่านี้ ชื่อว่าเป็นกุศลให้ผลเป็นสุข แก่สัตว์ทั้งหลายแล ฯ

พระสังคิณี แปล

กุสะลา ธัมมา
- พระธรรมที่เป็นกุศลให้ผลเป็นสุข มีกามาวะจะระกุศลเป็นต้น

อะกุสะลา ธัมมา
-ธรรมที่เป็นอกุศลให้ผลเป็นทุข์ มีโลภมูลจิตแปดเป็นต้น

อัพ๎ยากะตา ธัมมา
-ธรรมที่เป็นอัพยากฤตเป็นจิตกลางๆ มีอยู่ มีผัสสะเจตนาเป็นต้น

กะตะเม ธัมมา กุสะลา ยัส๎ะมิง สะมะเย
-ในสมัยใด ธรรมที่เป็นกุศลให้ผลเป็นสุข ย่อมบังเกิดขึ้นอย่างไรบ้าง

กามาวะจะรัง กุสะลัง จิตตัง
-จิตที่เป็นกุศลให้ผลเป็นสุข ย่อมนำสัตว์ให้ไปเกิดในกามภพทั้งเจ็ด คือ มนุษย์ ๑ สวรรค์ ๖

อุปปันนัง โหติ
-ย่อมบังเกิดมีแก่ปุถุชนผู้เป็นสามัญชน

โสมะนัสสะสะหะคะตัง
-เป็นไปพร้อมกับจิตด้วย ที่เป็นโสมนัสความสุขใจ

ญาณะสัมปะยุตตัง
-ประกอบพร้อมด้วยญาณเครื่องรู้คือปัญญา

รูปารัมมะนัง วา
-มีจิตยินดีในรูป มีรูปพระพุทธเจ้าเป็นต้น เป็นอารมณ์บ้าง

สัททารัมมะนัง วา
-มีจิตยินดีในเสียง มีเสียงท่านแสดงพระสัทธรรมเป็นต้น เป็นอารมณ์บ้าง

คันธารัมมะนัง วา
-มีจิตยินดีในกลิ่นหอม แล้วคิดถึงการกุศล มีพระพุทธบูชาเป็นต้น เป็นอารมณ์บ้าง

ระสารัมมะนัง วา
-มีจิตยินดีในรสเครื่องบริโภค แล้วยินดีใคร่บริจาคเป็นทานเป็นต้น เป็นอารมณ์บ้าง

โผฏฐัพพารัมมะนัง วา
-มีจิตยินดีในของอันถูกต้อง แล้วก็คิดให้ทานเป็นต้น เป็นอารมณ์บ้าง

ธัมมารัมมะนัง วา
-มีจิตยินดีในที่จะเจริญพระสัทธรรมกรรมฐาน
มีพุทธานุสสติเป็นต้น เป็นอารมณ์บ้าง

ยัง ยัง วา ปะนารัพภะ
-อีกอย่างหนึ่งความปรารภแห่งจิต ก็เกิดขึ้นในอารมณ์ใดๆ

ตัส๎ะมิง สะมะเย ผัสโส โหติ
-ความกระทบผัสสะแห่งจิต จิตที่เป็นกุศลก็ย่อมบังเกิดขึ้น ในสมัยนั้น

อะวิกเขโป โหติ
-อันว่าเอกัคคตาเจตสิกอันแน่แน่วในสันดาน ก็ย่อมบังเกิดขึ้น

เย วา ปะนะ ตัส๎ะมิง สะมะเย
-อีกอย่างหนึ่ง ธรรมทั้งหลายเหล่าใด ก็ย่อมบังเกิดขึ้นในกาลสมัยนั้น

อัญเญปิ อัตถิ ปะฏิจจะสะมุปปันนา
-ธรรมทั้งหลายอาศัยซึ่งจิตทั้ง
หลายอื่นมีอยู่ แล้วอาศัยกันและกัน ก็บังเกิดมีขึ้นพร้อม

อะรูปิโน ธัมมา
-เป็นแต่นามธรรมทั้งหลายไม่มีรูป

อิเม ธัมมา กุสะลา ฯ
-ธรรมทั้งหลายเหล่านี้ ชื่อว่าเป็นกุศลให้ผลเป็นสุข แก่สัตว์ทั้งหลายแล ฯ

พระสังคิณี แปล

กุสะลา ธัมมา
- พระธรรมที่เป็นกุศลให้ผลเป็นสุข มีกามาวะจะระกุศลเป็นต้น

อะกุสะลา ธัมมา
-ธรรมที่เป็นอกุศลให้ผลเป็นทุข์ มีโลภมูลจิตแปดเป็นต้น

อัพ๎ยากะตา ธัมมา
-ธรรมที่เป็นอัพยากฤตเป็นจิตกลางๆ มีอยู่ มีผัสสะเจตนาเป็นต้น

กะตะเม ธัมมา กุสะลา ยัส๎ะมิง สะมะเย
-ในสมัยใด ธรรมที่เป็นกุศลให้ผลเป็นสุข ย่อมบังเกิดขึ้นอย่างไรบ้าง

กามาวะจะรัง กุสะลัง จิตตัง
-จิตที่เป็นกุศลให้ผลเป็นสุข ย่อมนำสัตว์ให้ไปเกิดในกามภพทั้งเจ็ด คือ มนุษย์ ๑ สวรรค์ ๖

อุปปันนัง โหติ
-ย่อมบังเกิดมีแก่ปุถุชนผู้เป็นสามัญชน

โสมะนัสสะสะหะคะตัง
-เป็นไปพร้อมกับจิตด้วย ที่เป็นโสมนัสความสุขใจ

ญาณะสัมปะยุตตัง
-ประกอบพร้อมด้วยญาณเครื่องรู้คือปัญญา

รูปารัมมะนัง วา
-มีจิตยินดีในรูป มีรูปพระพุทธเจ้าเป็นต้น เป็นอารมณ์บ้าง

สัททารัมมะนัง วา
-มีจิตยินดีในเสียง มีเสียงท่านแสดงพระสัทธรรมเป็นต้น เป็นอารมณ์บ้าง

คันธารัมมะนัง วา
-มีจิตยินดีในกลิ่นหอม แล้วคิดถึงการกุศล มีพระพุทธบูชาเป็นต้น เป็นอารมณ์บ้าง

ระสารัมมะนัง วา
-มีจิตยินดีในรสเครื่องบริโภค แล้วยินดีใคร่บริจาคเป็นทานเป็นต้น เป็นอารมณ์บ้าง

โผฏฐัพพารัมมะนัง วา
-มีจิตยินดีในของอันถูกต้อง แล้วก็คิดให้ทานเป็นต้น เป็นอารมณ์บ้าง

ธัมมารัมมะนัง วา
-มีจิตยินดีในที่จะเจริญพระสัทธรรมกรรมฐาน
มีพุทธานุสสติเป็นต้น เป็นอารมณ์บ้าง

ยัง ยัง วา ปะนารัพภะ
-อีกอย่างหนึ่งความปรารภแห่งจิต ก็เกิดขึ้นในอารมณ์ใดๆ

ตัส๎ะมิง สะมะเย ผัสโส โหติ
-ความกระทบผัสสะแห่งจิต จิตที่เป็นกุศลก็ย่อมบังเกิดขึ้น ในสมัยนั้น

อะวิกเขโป โหติ
-อันว่าเอกัคคตาเจตสิกอันแน่แน่วในสันดาน ก็ย่อมบังเกิดขึ้น

เย วา ปะนะ ตัส๎ะมิง สะมะเย
-อีกอย่างหนึ่ง ธรรมทั้งหลายเหล่าใด ก็ย่อมบังเกิดขึ้นในกาลสมัยนั้น

อัญเญปิ อัตถิ ปะฏิจจะสะมุปปันนา
-ธรรมทั้งหลายอาศัยซึ่งจิตทั้ง
หลายอื่นมีอยู่ แล้วอาศัยกันและกัน ก็บังเกิดมีขึ้นพร้อม

อะรูปิโน ธัมมา
-เป็นแต่นามธรรมทั้งหลายไม่มีรูป

อิเม ธัมมา กุสะลา ฯ
-ธรรมทั้งหลายเหล่านี้ ชื่อว่าเป็นกุศลให้ผลเป็นสุข แก่สัตว์ทั้งหลายแล ฯ

พระธาตุกถา แปล

สังคะโห
-พระพุทธองค์สงเคราะห์ ซึ่งจิตเจตสิกรูปเข้าในขันธ์เป็นหมวด ๑

อะสังคะโห
-พระพุทธองค์ไม่สงเคราะห์ ซึ่งรูปธรรมทั้งหลายเข้าในขันธ์เป็นหมวด ๑

สังคะหิเตนะ อะสังคะหิตัง
-พระพุทธองค์ไม่สงเคราะห์ ซึ่งจิตเจตสิกรูป ด้วยธรรมอันสงเคราะห์แล้ว

อะสังคะหิเตนะ สังคะหิตัง
-พระพุทธองค์สงเคราะห์ซึ่งจิตเจตสิกรูป ด้วยธรรมอันมิได้สงเคราะห์

สังคะหิเตนะ สังคะหิตัง
-พระพุทธองค์สงเคราะห์ ซึ่งจิตเจตสิกรูป ด้วยธรรมอันสงเคราะห์แล้ว

อะสังคะหิเตนะ อะสังคะหิตัง
-พระพุทธองค์ไม่สงเคราะห์ ซึ่งจิตเจตสิกรูป ด้วยธรรมอันไม่ได้สงเคราะห์

สัมปะโยโค
-เจตสิกธรรมทั้งหลาย อันประกอบพร้อมด้วยกับจิต ๕๕

วิปปะโยโค
-เจตสิกธรรมทั้งหลาย อันประกอบแตกต่างกันกับจิต

สัมปะยุตเตนะ วิปปะยุตตัง
-ประกอบเจตสิกอันต่างกัน ด้วยเจตสิกอันประกอบพร้อมกัน เป็นหมวดเดียวกัน

วิปปะยุตเตนะ สัมปะยุตตัง
-ประกอบเจตสิกอันบังเกิดพร้อมกัน ด้วยเจตสิกอันต่างกัน เป็นหมวดเดียวกัน

อะสังคะหิตัง
-พระพุทธองค์ ไม่สงเคราะห์ซึ่งธรรมอันไม่ควรสงเคราะห์ ให้ระคนกัน

พระธาตุกถา แปล

สังคะโห
-พระพุทธองค์สงเคราะห์ ซึ่งจิตเจตสิกรูปเข้าในขันธ์เป็นหมวด ๑

อะสังคะโห
-พระพุทธองค์ไม่สงเคราะห์ ซึ่งรูปธรรมทั้งหลายเข้าในขันธ์เป็นหมวด ๑

สังคะหิเตนะ อะสังคะหิตัง
-พระพุทธองค์ไม่สงเคราะห์ ซึ่งจิตเจตสิกรูป ด้วยธรรมอันสงเคราะห์แล้ว

อะสังคะหิเตนะ สังคะหิตัง
-พระพุทธองค์สงเคราะห์ซึ่งจิตเจตสิกรูป ด้วยธรรมอันมิได้สงเคราะห์

สังคะหิเตนะ สังคะหิตัง
-พระพุทธองค์สงเคราะห์ ซึ่งจิตเจตสิกรูป ด้วยธรรมอันสงเคราะห์แล้ว

อะสังคะหิเตนะ อะสังคะหิตัง
-พระพุทธองค์ไม่สงเคราะห์ ซึ่งจิตเจตสิกรูป ด้วยธรรมอันไม่ได้สงเคราะห์

สัมปะโยโค
-เจตสิกธรรมทั้งหลาย อันประกอบพร้อมด้วยกับจิต ๕๕

วิปปะโยโค
-เจตสิกธรรมทั้งหลาย อันประกอบแตกต่างกันกับจิต

สัมปะยุตเตนะ วิปปะยุตตัง
-ประกอบเจตสิกอันต่างกัน ด้วยเจตสิกอันประกอบพร้อมกัน เป็นหมวดเดียวกัน

วิปปะยุตเตนะ สัมปะยุตตัง
-ประกอบเจตสิกอันบังเกิดพร้อมกัน ด้วยเจตสิกอันต่างกัน เป็นหมวดเดียวกัน

อะสังคะหิตัง
-พระพุทธองค์ ไม่สงเคราะห์ซึ่งธรรมอันไม่ควรสงเคราะห์ ให้ระคนกัน

พระธาตุกถา แปล

สังคะโห
-พระพุทธองค์สงเคราะห์ ซึ่งจิตเจตสิกรูปเข้าในขันธ์เป็นหมวด ๑

อะสังคะโห
-พระพุทธองค์ไม่สงเคราะห์ ซึ่งรูปธรรมทั้งหลายเข้าในขันธ์เป็นหมวด ๑

สังคะหิเตนะ อะสังคะหิตัง
-พระพุทธองค์ไม่สงเคราะห์ ซึ่งจิตเจตสิกรูป ด้วยธรรมอันสงเคราะห์แล้ว

อะสังคะหิเตนะ สังคะหิตัง
-พระพุทธองค์สงเคราะห์ซึ่งจิตเจตสิกรูป ด้วยธรรมอันมิได้สงเคราะห์

สังคะหิเตนะ สังคะหิตัง
-พระพุทธองค์สงเคราะห์ ซึ่งจิตเจตสิกรูป ด้วยธรรมอันสงเคราะห์แล้ว

อะสังคะหิเตนะ อะสังคะหิตัง
-พระพุทธองค์ไม่สงเคราะห์ ซึ่งจิตเจตสิกรูป ด้วยธรรมอันไม่ได้สงเคราะห์

สัมปะโยโค
-เจตสิกธรรมทั้งหลาย อันประกอบพร้อมด้วยกับจิต ๕๕

วิปปะโยโค
-เจตสิกธรรมทั้งหลาย อันประกอบแตกต่างกันกับจิต

สัมปะยุตเตนะ วิปปะยุตตัง
-ประกอบเจตสิกอันต่างกัน ด้วยเจตสิกอันประกอบพร้อมกัน เป็นหมวดเดียวกัน

วิปปะยุตเตนะ สัมปะยุตตัง
-ประกอบเจตสิกอันบังเกิดพร้อมกัน ด้วยเจตสิกอันต่างกัน เป็นหมวดเดียวกัน

อะสังคะหิตัง
-พระพุทธองค์ ไม่สงเคราะห์ซึ่งธรรมอันไม่ควรสงเคราะห์ ให้ระคนกัน

พระธาตุกถา แปล

สังคะโห
-พระพุทธองค์สงเคราะห์ ซึ่งจิตเจตสิกรูปเข้าในขันธ์เป็นหมวด ๑

อะสังคะโห
-พระพุทธองค์ไม่สงเคราะห์ ซึ่งรูปธรรมทั้งหลายเข้าในขันธ์เป็นหมวด ๑

สังคะหิเตนะ อะสังคะหิตัง
-พระพุทธองค์ไม่สงเคราะห์ ซึ่งจิตเจตสิกรูป ด้วยธรรมอันสงเคราะห์แล้ว

อะสังคะหิเตนะ สังคะหิตัง
-พระพุทธองค์สงเคราะห์ซึ่งจิตเจตสิกรูป ด้วยธรรมอันมิได้สงเคราะห์

สังคะหิเตนะ สังคะหิตัง
-พระพุทธองค์สงเคราะห์ ซึ่งจิตเจตสิกรูป ด้วยธรรมอันสงเคราะห์แล้ว

อะสังคะหิเตนะ อะสังคะหิตัง
-พระพุทธองค์ไม่สงเคราะห์ ซึ่งจิตเจตสิกรูป ด้วยธรรมอันไม่ได้สงเคราะห์

สัมปะโยโค
-เจตสิกธรรมทั้งหลาย อันประกอบพร้อมด้วยกับจิต ๕๕

วิปปะโยโค
-เจตสิกธรรมทั้งหลาย อันประกอบแตกต่างกันกับจิต

สัมปะยุตเตนะ วิปปะยุตตัง
-ประกอบเจตสิกอันต่างกัน ด้วยเจตสิกอันประกอบพร้อมกัน เป็นหมวดเดียวกัน

วิปปะยุตเตนะ สัมปะยุตตัง
-ประกอบเจตสิกอันบังเกิดพร้อมกัน ด้วยเจตสิกอันต่างกัน เป็นหมวดเดียวกัน

อะสังคะหิตัง
-พระพุทธองค์ ไม่สงเคราะห์ซึ่งธรรมอันไม่ควรสงเคราะห์ ให้ระคนกัน

พระธาตุกถา แปล

สังคะโห
-พระพุทธองค์สงเคราะห์ ซึ่งจิตเจตสิกรูปเข้าในขันธ์เป็นหมวด ๑

อะสังคะโห
-พระพุทธองค์ไม่สงเคราะห์ ซึ่งรูปธรรมทั้งหลายเข้าในขันธ์เป็นหมวด ๑

สังคะหิเตนะ อะสังคะหิตัง
-พระพุทธองค์ไม่สงเคราะห์ ซึ่งจิตเจตสิกรูป ด้วยธรรมอันสงเคราะห์แล้ว

อะสังคะหิเตนะ สังคะหิตัง
-พระพุทธองค์สงเคราะห์ซึ่งจิตเจตสิกรูป ด้วยธรรมอันมิได้สงเคราะห์

สังคะหิเตนะ สังคะหิตัง
-พระพุทธองค์สงเคราะห์ ซึ่งจิตเจตสิกรูป ด้วยธรรมอันสงเคราะห์แล้ว

อะสังคะหิเตนะ อะสังคะหิตัง
-พระพุทธองค์ไม่สงเคราะห์ ซึ่งจิตเจตสิกรูป ด้วยธรรมอันไม่ได้สงเคราะห์

สัมปะโยโค
-เจตสิกธรรมทั้งหลาย อันประกอบพร้อมด้วยกับจิต ๕๕

วิปปะโยโค
-เจตสิกธรรมทั้งหลาย อันประกอบแตกต่างกันกับจิต

สัมปะยุตเตนะ วิปปะยุตตัง
-ประกอบเจตสิกอันต่างกัน ด้วยเจตสิกอันประกอบพร้อมกัน เป็นหมวดเดียวกัน

วิปปะยุตเตนะ สัมปะยุตตัง
-ประกอบเจตสิกอันบังเกิดพร้อมกัน ด้วยเจตสิกอันต่างกัน เป็นหมวดเดียวกัน

อะสังคะหิตัง
-พระพุทธองค์ ไม่สงเคราะห์ซึ่งธรรมอันไม่ควรสงเคราะห์ ให้ระคนกัน

พระธาตุกถา แปล

สังคะโห
-พระพุทธองค์สงเคราะห์ ซึ่งจิตเจตสิกรูปเข้าในขันธ์เป็นหมวด ๑

อะสังคะโห
-พระพุทธองค์ไม่สงเคราะห์ ซึ่งรูปธรรมทั้งหลายเข้าในขันธ์เป็นหมวด ๑

สังคะหิเตนะ อะสังคะหิตัง
-พระพุทธองค์ไม่สงเคราะห์ ซึ่งจิตเจตสิกรูป ด้วยธรรมอันสงเคราะห์แล้ว

อะสังคะหิเตนะ สังคะหิตัง
-พระพุทธองค์สงเคราะห์ซึ่งจิตเจตสิกรูป ด้วยธรรมอันมิได้สงเคราะห์

สังคะหิเตนะ สังคะหิตัง
-พระพุทธองค์สงเคราะห์ ซึ่งจิตเจตสิกรูป ด้วยธรรมอันสงเคราะห์แล้ว

อะสังคะหิเตนะ อะสังคะหิตัง
-พระพุทธองค์ไม่สงเคราะห์ ซึ่งจิตเจตสิกรูป ด้วยธรรมอันไม่ได้สงเคราะห์

สัมปะโยโค
-เจตสิกธรรมทั้งหลาย อันประกอบพร้อมด้วยกับจิต ๕๕

วิปปะโยโค
-เจตสิกธรรมทั้งหลาย อันประกอบแตกต่างกันกับจิต

สัมปะยุตเตนะ วิปปะยุตตัง
-ประกอบเจตสิกอันต่างกัน ด้วยเจตสิกอันประกอบพร้อมกัน เป็นหมวดเดียวกัน

วิปปะยุตเตนะ สัมปะยุตตัง
-ประกอบเจตสิกอันบังเกิดพร้อมกัน ด้วยเจตสิกอันต่างกัน เป็นหมวดเดียวกัน

อะสังคะหิตัง
-พระพุทธองค์ ไม่สงเคราะห์ซึ่งธรรมอันไม่ควรสงเคราะห์ ให้ระคนกัน

พระธาตุกถา แปล

สังคะโห
-พระพุทธองค์สงเคราะห์ ซึ่งจิตเจตสิกรูปเข้าในขันธ์เป็นหมวด ๑

อะสังคะโห
-พระพุทธองค์ไม่สงเคราะห์ ซึ่งรูปธรรมทั้งหลายเข้าในขันธ์เป็นหมวด ๑

สังคะหิเตนะ อะสังคะหิตัง
-พระพุทธองค์ไม่สงเคราะห์ ซึ่งจิตเจตสิกรูป ด้วยธรรมอันสงเคราะห์แล้ว

อะสังคะหิเตนะ สังคะหิตัง
-พระพุทธองค์สงเคราะห์ซึ่งจิตเจตสิกรูป ด้วยธรรมอันมิได้สงเคราะห์

สังคะหิเตนะ สังคะหิตัง
-พระพุทธองค์สงเคราะห์ ซึ่งจิตเจตสิกรูป ด้วยธรรมอันสงเคราะห์แล้ว

อะสังคะหิเตนะ อะสังคะหิตัง
-พระพุทธองค์ไม่สงเคราะห์ ซึ่งจิตเจตสิกรูป ด้วยธรรมอันไม่ได้สงเคราะห์

สัมปะโยโค
-เจตสิกธรรมทั้งหลาย อันประกอบพร้อมด้วยกับจิต ๕๕

วิปปะโยโค
-เจตสิกธรรมทั้งหลาย อันประกอบแตกต่างกันกับจิต

สัมปะยุตเตนะ วิปปะยุตตัง
-ประกอบเจตสิกอันต่างกัน ด้วยเจตสิกอันประกอบพร้อมกัน เป็นหมวดเดียวกัน

วิปปะยุตเตนะ สัมปะยุตตัง
-ประกอบเจตสิกอันบังเกิดพร้อมกัน ด้วยเจตสิกอันต่างกัน เป็นหมวดเดียวกัน

อะสังคะหิตัง
-พระพุทธองค์ ไม่สงเคราะห์ซึ่งธรรมอันไม่ควรสงเคราะห์ ให้ระคนกัน

พระธาตุกถา แปล

สังคะโห
-พระพุทธองค์สงเคราะห์ ซึ่งจิตเจตสิกรูปเข้าในขันธ์เป็นหมวด ๑

อะสังคะโห
-พระพุทธองค์ไม่สงเคราะห์ ซึ่งรูปธรรมทั้งหลายเข้าในขันธ์เป็นหมวด ๑

สังคะหิเตนะ อะสังคะหิตัง
-พระพุทธองค์ไม่สงเคราะห์ ซึ่งจิตเจตสิกรูป ด้วยธรรมอันสงเคราะห์แล้ว

อะสังคะหิเตนะ สังคะหิตัง
-พระพุทธองค์สงเคราะห์ซึ่งจิตเจตสิกรูป ด้วยธรรมอันมิได้สงเคราะห์

สังคะหิเตนะ สังคะหิตัง
-พระพุทธองค์สงเคราะห์ ซึ่งจิตเจตสิกรูป ด้วยธรรมอันสงเคราะห์แล้ว

อะสังคะหิเตนะ อะสังคะหิตัง
-พระพุทธองค์ไม่สงเคราะห์ ซึ่งจิตเจตสิกรูป ด้วยธรรมอันไม่ได้สงเคราะห์

สัมปะโยโค
-เจตสิกธรรมทั้งหลาย อันประกอบพร้อมด้วยกับจิต ๕๕

วิปปะโยโค
-เจตสิกธรรมทั้งหลาย อันประกอบแตกต่างกันกับจิต

สัมปะยุตเตนะ วิปปะยุตตัง
-ประกอบเจตสิกอันต่างกัน ด้วยเจตสิกอันประกอบพร้อมกัน เป็นหมวดเดียวกัน

วิปปะยุตเตนะ สัมปะยุตตัง
-ประกอบเจตสิกอันบังเกิดพร้อมกัน ด้วยเจตสิกอันต่างกัน เป็นหมวดเดียวกัน

อะสังคะหิตัง
-พระพุทธองค์ ไม่สงเคราะห์ซึ่งธรรมอันไม่ควรสงเคราะห์ ให้ระคนกัน

พระธาตุกถา แปล

สังคะโห
-พระพุทธองค์สงเคราะห์ ซึ่งจิตเจตสิกรูปเข้าในขันธ์เป็นหมวด ๑

อะสังคะโห
-พระพุทธองค์ไม่สงเคราะห์ ซึ่งรูปธรรมทั้งหลายเข้าในขันธ์เป็นหมวด ๑

สังคะหิเตนะ อะสังคะหิตัง
-พระพุทธองค์ไม่สงเคราะห์ ซึ่งจิตเจตสิกรูป ด้วยธรรมอันสงเคราะห์แล้ว

อะสังคะหิเตนะ สังคะหิตัง
-พระพุทธองค์สงเคราะห์ซึ่งจิตเจตสิกรูป ด้วยธรรมอันมิได้สงเคราะห์

สังคะหิเตนะ สังคะหิตัง
-พระพุทธองค์สงเคราะห์ ซึ่งจิตเจตสิกรูป ด้วยธรรมอันสงเคราะห์แล้ว

อะสังคะหิเตนะ อะสังคะหิตัง
-พระพุทธองค์ไม่สงเคราะห์ ซึ่งจิตเจตสิกรูป ด้วยธรรมอันไม่ได้สงเคราะห์

สัมปะโยโค
-เจตสิกธรรมทั้งหลาย อันประกอบพร้อมด้วยกับจิต ๕๕

วิปปะโยโค
-เจตสิกธรรมทั้งหลาย อันประกอบแตกต่างกันกับจิต

สัมปะยุตเตนะ วิปปะยุตตัง
-ประกอบเจตสิกอันต่างกัน ด้วยเจตสิกอันประกอบพร้อมกัน เป็นหมวดเดียวกัน

วิปปะยุตเตนะ สัมปะยุตตัง
-ประกอบเจตสิกอันบังเกิดพร้อมกัน ด้วยเจตสิกอันต่างกัน เป็นหมวดเดียวกัน

อะสังคะหิตัง
-พระพุทธองค์ ไม่สงเคราะห์ซึ่งธรรมอันไม่ควรสงเคราะห์ ให้ระคนกัน

พระธาตุกถา แปล

สังคะโห
-พระพุทธองค์สงเคราะห์ ซึ่งจิตเจตสิกรูปเข้าในขันธ์เป็นหมวด ๑

อะสังคะโห
-พระพุทธองค์ไม่สงเคราะห์ ซึ่งรูปธรรมทั้งหลายเข้าในขันธ์เป็นหมวด ๑

สังคะหิเตนะ อะสังคะหิตัง
-พระพุทธองค์ไม่สงเคราะห์ ซึ่งจิตเจตสิกรูป ด้วยธรรมอันสงเคราะห์แล้ว

อะสังคะหิเตนะ สังคะหิตัง
-พระพุทธองค์สงเคราะห์ซึ่งจิตเจตสิกรูป ด้วยธรรมอันมิได้สงเคราะห์

สังคะหิเตนะ สังคะหิตัง
-พระพุทธองค์สงเคราะห์ ซึ่งจิตเจตสิกรูป ด้วยธรรมอันสงเคราะห์แล้ว

อะสังคะหิเตนะ อะสังคะหิตัง
-พระพุทธองค์ไม่สงเคราะห์ ซึ่งจิตเจตสิกรูป ด้วยธรรมอันไม่ได้สงเคราะห์

สัมปะโยโค
-เจตสิกธรรมทั้งหลาย อันประกอบพร้อมด้วยกับจิต ๕๕

วิปปะโยโค
-เจตสิกธรรมทั้งหลาย อันประกอบแตกต่างกันกับจิต

สัมปะยุตเตนะ วิปปะยุตตัง
-ประกอบเจตสิกอันต่างกัน ด้วยเจตสิกอันประกอบพร้อมกัน เป็นหมวดเดียวกัน

วิปปะยุตเตนะ สัมปะยุตตัง
-ประกอบเจตสิกอันบังเกิดพร้อมกัน ด้วยเจตสิกอันต่างกัน เป็นหมวดเดียวกัน

อะสังคะหิตัง
-พระพุทธองค์ ไม่สงเคราะห์ซึ่งธรรมอันไม่ควรสงเคราะห์ ให้ระคนกัน

ตั้งแต่เข้าเดือนเมษามา ยอดview ยอดเปย์นิยายกูหดมากเลยว่ะ คิดว่าโควิดส่งผลมาก แอบท้อเบาๆ

>>317 โควิด เสดกิจ กระทบหมด กูยังตัดลิสต์หนังสือหมดเลย ทะลายกองดองก่อน

>>317 เดือนเม. ย.กูงานยุ่งสัสๆๆๆ จำนวนวันทำงานน้อยอีก คนเป็นแบบกูคงเยอะ ใจเย็นนะมึง เดี๋ยว​กูก็กลับไปอ่าน

มึงกูขอร้องเวลาจ้างวาดปก ถ้านักวาดวาดซิกแพคไม่รอดมึงก็ให้เสื้อปิดหรืออะไรบังก็ได้ กูอยากล้างตา หน้าผมผ่าน หุ่นผ่าน แต่ซิกแพค555 ไม่ไหว

>>320 มึงหมายถึงเรื่องไหนวะ อยากเผือกเลย
ปล. มึงว่าไม่ผ่าน แต่นักเขียนอาจจะชอบแบบนั้นก็ได้ม้าง

ขอกูดันหน่อยนะ หายากแท้

ยอดนิยายโคตรเงียบ /ตัวกูที่กดซื้อนิยายคนอื่นรัวๆ เฮ้อ

>>323 เทียบกับเดือนที่แล้วเงียบจริง

เงียบมากๆ หยุดยาวเอย โควิดเอย คงเครียดมากกว่าจะอ่านอะ

เงียบจนใจหาย นึกว่าWFHคนจะอยู่บ้านอ่านนิยายกันเยอะ จากยอดเปย์วันละ100 เหลือ 30~ แง

กูเป็นคนอ่านนะ แปลกใจมากกว่าที่นักเขียนที่กูตามอยู่หายไปเยอะมาก หายแบบเงียบหายจนกูใจคอไม่ดีเลยเนี่ย
นี่หมายถึงเฉพาะรายที่แมสระดับกลางไปจนถึงนักเขียนหน้าใหม่ที่กูเพิ่งเจอเมื่อโควิดปีก่อนนะ พวกรายใหญ่แมส ๆ เห็นยังอัพกันปกติ
แต่จำนวนนักเขียนโดยรวมคือกูว่าลดลงนะ ?

กูก็ว่านักเขียนหายเยอะ น่าจะไปหาทำงานอื่นที่ได้เงินมั้ง

แปลกแฮะ กูนึกว่าช่วงโควิดนักเขียนจะเยอะขึ้นเพราะคนต้องทำงานอยู่บ้านหรือไม่ก็อยากหารายได้เสริมจากงานเขียนเยอะกว่าปกติซะอีก ผิดคาดนะเนี่ย

>>329 ปีก่อนเยอะขึ้น ช่วงปิดโควิดคือมีนักเขียนเกิดใหม่เยอะมาก อุดมสมบูรณ์มากสำหรับกู
แต่ปีนี้หน้าใหม่ไม่ค่อยเพิ่ม เท่าที่กูเห็นนะ แล้วบางรายเดิมที่กูตามอยู่ก็หายอีก

เดี๋ยวนี้จะเขียนอะไรก็กลัวโดนฉอดว่ะ

>>331 เออจริง ติดwarningจนแทบสปอยล์ทั้งเรื่องละ

>>332 เดี๋ยวนี้นิยายเปิดเรื่องใหม่ เห็นหน้าแรกคือเป็น tw ไปครึ่งหน้า 555
สายนิยายรักวัยรุ่น สายโรแมนซ์ไม่เห็นติดมั่งวะ มีครบทุกแบบ อาหลานได้กัน อาจารย์ลูกศิษย์ พ่อเลี้ยงลูกเลี้ยง เรฟ กลูมมิ่ง ฯลฯ

>>332 +1 กูก็เดาเนื้อเรื่องได้เลย

เป็นนักเขียนนี่ทำไมมันยากจังวะ ไหนจะต้องรับผิดชอบต่อสังคมเยอะๆ ติด tw ให้มากที่สุด แต่งอะไรก็ไม่ได้เพราะกลัวมีคนมาอ่าน พอแต่งไปแล้วคนอ่านไม่พอใจก็ด่าอย่างกับนักเขียนไปฆ่าใครตาย รองรับอารมณ์สุดๆ ติดเหรียญคนก็ด่าหน้าเงิน// ทั้งหมดที่กล่าวมาไม่ใช่ว่ากูต่อต้านนะ ก็พยายามทำแหละ แต่สุดท้ายมันเหนื่อยไปหน่อยว่ะ คนอ่านก็น้อย เปิดแท็กนิยายก็มีกูคนเดียวที่ติดแท็ก เฉาไปไหนวะ ร้องไห้ฟ้องแม่แล้วเนี่ย ฮ่าๆ

>>331 +1 กูจะเขียนนิยายแนวเสียดสีสังคมสักเรื่องยังคิดหนักมาก แม่งจะไปสะเทือนใครเข้าปะวะ ติดคำเตือนสักครึ่งหน้าก็อย่างที่ >>332 มันว่า สปอยเกือบหมดเสียอรรถรสสัส หรือกูจะเอาใส่แค่ตอนที่มีฉากดิ่งๆดีวะ สปอยแค่บางตอนเอา แต่เดี๋ยวแม่งก็คนอ่านบ่นอีกว่าไม่เตือนแรกหลงมาอ่านงั้นงี้ ฮือ ก็กูไใ่อยากขึ้นหน้าแรกให้เป็นสปอย พอซุกไว้แค่รายตอนพวกมึงก็เมินอีก
สุดท้ายก็ทำได้แค่หั่นฉากทิ้งจนแทบจืดละสัส ดขียนยังไม่จบแต่รู้สึกอยากลบเรื่อง

>>335 เหี้ยเอ้ยมึงคือเพื่อนร่วมชะตากรรมกู อยากเขียนให้สุดก็เสี่ยงดราม่า ติดเงินก็หาว่าหน้าเงิน แท็กก็ไม่ค่อยมีคนช่วยใช้
//กอด ๆ นะมึง กูมีความสุขที่ได้แต่งนิยายอยู่นะ ถึงจะเหนื่อยก็เหอะแต่ใจมันเกเรมูฟออนไม่ๆด้อะ

กูติด tw แค่ตามสมควร ไม่อธิบายอะไรเพิ่ม รำคาญ ใครทริคเกอร์แล้วสะเหล่อมาอ่านคือมึงโง่เอง โวยวายกูบล็อก อยู่บนโลกให้มันง่ายๆบ้าง อส

https://youtu.be/4jZE6y-uGJQ

กูลองสังเกตดู ช่วงนี้แม้แต่ดังเขียนดัง ๆ พอเปิดนิยายเรื่องใหม่ก็ยอดไม่หวือหวาเหมือนแต่ก่อน พวกมึงเป็นกันไหม แต่กูเป็นนะ ทั้ง ๆ ที่อัพถี่ด้วย แล้วก็มีคนติดตามพอสมควรอะ คิดว่าคนน่าจะเครียดกันจนไม่อ่านนิยายแล้ว ส่วนกูก็แกลบแดกเพราะซื้อของเพลิน

>>340 ปริมาณอ่านของกูยังปกตินะ ไม่ได้ลดลงทั้งเล่มทั้งในเว็บ แต่เออ กูสังเกตเหมือนมึงว่านักเขียนดังๆ(เฉพาะที่กุตามอยู่) ยอดเรื่องใหม่ดูแผ่วไปตามกัน ใดๆ เดาว่ามันบังเอิญที่เรื่องใหม่ที่ออกมามันก็แนวซ้ำๆตามสุตรสำเร็จที่เค้าเคยเขียนอ้ะ กูตามอ่านทุกตอนแต่ค่อนข้างเบื่อ ถ้าเค้าเปิดพรีฯอย่างมากกูคงซื้อมาเก็งกำไรเฉยๆไม่แกะอ่าน
กลับกัน กูว่าตั้งแต่ต้นปีมานี้วายไทยออกกับสนพ. เยอะขึ้นมากเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยเฉพาะลวด. กับด.

>>341 ลวดกับ ด ค่อนข้างเหมานขเลยอะมึง ไม่แปลกที่งานออกเยอะ

>>342 ปีก่อนกูว่าลวด.แผ่วงานไทยจนคิดว่าจะจับแต่งานแปลแล้วเนี่ย ปีนี้ดันออกรัวเป็นขี้ไหล กูตกใจ

ปลาจะละเม็ดทอดราดซอส อาหารไทย แสนอร่อยๆ เมนูปลาทอด

ปลาจะละเม็ดทอดราดซอส อาหารไทย เมนูปลาจะละเม็ด วิธีทำปลาจะละเม็ดทอดราดซอส สามารถทำกินเองได้ น้ำซอสหวานๆ เคล็ดลับการทอดปลา และ การทำน้ำราดทำอย่างไร

ปลาจะละเม็ดราดซอส อาหารไทย เมนูปลา

สูตรอาหารยอดนิยม สำหรับวันนี้ ขอนำเสนอ เมนูปลา ราดซอส คือ ปลาจะละเม็ดราดซอส เคล็ดลับความอร่อยของเมนูนี้ อยู่ที่ การคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพ การเตรีบมอาหาร การปรุงซอส ให้หวานอมเปรี้ยว กลมกล่อม

เมนูทอดปลาจะละเม็ดปรุงรส อาหารทอด เมนูปลาจะละเม็ด ส่วนผสมและขั้นตอนการทำ เข้าใจง่ายเหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูปลา

ส่วนผสมสำหรับทำปลาจะละเม็ดทอดราดซอส

ปลาจะละเม็ด 1 ตัว
หอมแดงเจียว 2 ช้อนโต้ะ
น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
พริกแห้งทอด หั่นเป็นฝอย 1 ช้อนโต้ะ
ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต้ะ
น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
ซอสมะเขือเทศ 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 2 ถ้วยตวง
วิธีทำปลาจะละเม็ดปรุงรส

ตั้งกระทะน้ำมัน จากนั้นทอดปลาให้เหลืองสุก จากนั้นนำไปพักใส่จานไว้ก่อน
เตรียมน้ำซอสโดย ตั้งกระทะน้ำมันร้อนปานกลาง ประมาณ 1 ช้อนโต้ะ จากนั้นนำ ซอสหอยนางรม น้ำตาล ซอสมะเขือเทศ และ พริกแห้ง หั่นลงไปผัดให้ส่วนผสมเข้ากัน
นำ น้ำซอสราด ลงตัว ปลาทอด ที่เตรียมไว้แล้ว โรยหน้าด้วย หอมแดงเจียว ทานร่วมกับ ข้าวหอมมะลิ
เคล็ดลับการทำปลาจะละเม็ดทอดปรุงรส

ปลาจะละเม็ด ใหเลือกปลาที่สดๆ เทคนิคการเลือกปลา ให้ดูที่ตาปลาต้องใส สภาพปลาสมบูรณ์ เนื้อแน่นตึง ไม่มีกลิ่นเหม็นเน่า
การล้างปลา เป็นเคล็ดลับของการทำปลาให้ไม่คาว ซึ่งการล้างปลา ให้ใช้แป้งมันถูที่ตัวปลา แป้งมันจะจับเมือกปลา และ สิ่งสกปรก ล้างออกง่าย จากนั้น ใช้เกลือขัดอีดครั้งหนึ่ง
การทอดปลาให้กรอบนอกนุ่มใน เคล็ดลับอยู่ที่ การนำปลาไปคลุกแป้งก่อน พักไว้ให้น้ำที่ตัวปลาจับกับแป้งสักพักหนึ่ง ให้แป้งอิ่มตัว ทอดในน้ำมันที่ร้อน ไฟปานกลาง น้ำมันต้องร้อนจะทำให้ปลาไม่อมน้ำมัน และ เทคนิคหนึ่ง คือ การทอดสองครั้ง ทอดครั้งแรกให้เหลือง ครั้งที่สอง จะทำให้กรอบ
การทำซอสสำหรับราดปลา ให้ใส่ส่วนผสมต่างๆ ตามสูตร เคี้ยวให้ส่วนผสมละลายเข้ากัน ต้องเติมเกลือ เนื่องจากเกลือจะทำให้เกิดความกลมกล่อม
หอมเจียว จะเพิ่มความหอมให้กับอาหารเมนูนี้ เทคนิคการทอดหอมเจียว นั้น ให้ทอด สองรอบ รอบแรกให้สุกเหลือง และทอดครั้งที่สองจะทำให้กรอบ
ความหวานของซอส ให้เลือกใช้ น้ำตาลปี๊บ เนื่องจากน้ำตาลปีีบจะมีความหวานที่พอดีสำหรับทำซอสประเภทนี้
สูตรอาหารเมนูนี้ เป็น เมนูปลาทะเล เนื้อปลาจะละเม็ด หวาน นุ่ม อร่อย น่ารับประทาน เราจึงอยากขอนำเสนอ สูตรอาหาร เมนูปลาทอด วิธีทำปลาจะละเม็ดปรุงรส สูตรอาหาร เมนูปลา เมนูปลาจะละเม็ด ปลาจะละเม็ดทำอะไรกินได้บ้าง อาหารจากปลา เมนูอาหาร กับข้าวจากปลา ปลาทอด สูตรอาหาร เมนูปลา อาหาร เมนูทอดเมนูปลาจะละเม็ด ปลาจะละเม็ดทำอะไรกินได้บ้าง กับข้าวจากปลา สูตรปลาจะละเม็ดปรุงรส อาหาร

ปลาจะละเม็ดทอดราดซอส อาหารไทย เมนูปลาจะละเม็ด วิธีทำปลาจะละเม็ดทอดราดซอส สามารถทำกินเองได้ เมนูทอด รานน้ำซอสหวานๆ เคล็ดลับการทอดปลา และ การทำน้ำราดทำอย่างไร เมนูปลา กับข้าวจากปลา

ปลาจะละเม็ดทอดราดซอส อาหารไทย แสนอร่อยๆ เมนูปลาทอด

ปลาจะละเม็ดทอดราดซอส อาหารไทย เมนูปลาจะละเม็ด วิธีทำปลาจะละเม็ดทอดราดซอส สามารถทำกินเองได้ น้ำซอสหวานๆ เคล็ดลับการทอดปลา และ การทำน้ำราดทำอย่างไร

ปลาจะละเม็ดราดซอส อาหารไทย เมนูปลา

สูตรอาหารยอดนิยม สำหรับวันนี้ ขอนำเสนอ เมนูปลา ราดซอส คือ ปลาจะละเม็ดราดซอส เคล็ดลับความอร่อยของเมนูนี้ อยู่ที่ การคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพ การเตรีบมอาหาร การปรุงซอส ให้หวานอมเปรี้ยว กลมกล่อม

เมนูทอดปลาจะละเม็ดปรุงรส อาหารทอด เมนูปลาจะละเม็ด ส่วนผสมและขั้นตอนการทำ เข้าใจง่ายเหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูปลา

ส่วนผสมสำหรับทำปลาจะละเม็ดทอดราดซอส

ปลาจะละเม็ด 1 ตัว
หอมแดงเจียว 2 ช้อนโต้ะ
น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
พริกแห้งทอด หั่นเป็นฝอย 1 ช้อนโต้ะ
ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต้ะ
น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
ซอสมะเขือเทศ 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 2 ถ้วยตวง
วิธีทำปลาจะละเม็ดปรุงรส

ตั้งกระทะน้ำมัน จากนั้นทอดปลาให้เหลืองสุก จากนั้นนำไปพักใส่จานไว้ก่อน
เตรียมน้ำซอสโดย ตั้งกระทะน้ำมันร้อนปานกลาง ประมาณ 1 ช้อนโต้ะ จากนั้นนำ ซอสหอยนางรม น้ำตาล ซอสมะเขือเทศ และ พริกแห้ง หั่นลงไปผัดให้ส่วนผสมเข้ากัน
นำ น้ำซอสราด ลงตัว ปลาทอด ที่เตรียมไว้แล้ว โรยหน้าด้วย หอมแดงเจียว ทานร่วมกับ ข้าวหอมมะลิ
เคล็ดลับการทำปลาจะละเม็ดทอดปรุงรส

ปลาจะละเม็ด ใหเลือกปลาที่สดๆ เทคนิคการเลือกปลา ให้ดูที่ตาปลาต้องใส สภาพปลาสมบูรณ์ เนื้อแน่นตึง ไม่มีกลิ่นเหม็นเน่า
การล้างปลา เป็นเคล็ดลับของการทำปลาให้ไม่คาว ซึ่งการล้างปลา ให้ใช้แป้งมันถูที่ตัวปลา แป้งมันจะจับเมือกปลา และ สิ่งสกปรก ล้างออกง่าย จากนั้น ใช้เกลือขัดอีดครั้งหนึ่ง
การทอดปลาให้กรอบนอกนุ่มใน เคล็ดลับอยู่ที่ การนำปลาไปคลุกแป้งก่อน พักไว้ให้น้ำที่ตัวปลาจับกับแป้งสักพักหนึ่ง ให้แป้งอิ่มตัว ทอดในน้ำมันที่ร้อน ไฟปานกลาง น้ำมันต้องร้อนจะทำให้ปลาไม่อมน้ำมัน และ เทคนิคหนึ่ง คือ การทอดสองครั้ง ทอดครั้งแรกให้เหลือง ครั้งที่สอง จะทำให้กรอบ
การทำซอสสำหรับราดปลา ให้ใส่ส่วนผสมต่างๆ ตามสูตร เคี้ยวให้ส่วนผสมละลายเข้ากัน ต้องเติมเกลือ เนื่องจากเกลือจะทำให้เกิดความกลมกล่อม
หอมเจียว จะเพิ่มความหอมให้กับอาหารเมนูนี้ เทคนิคการทอดหอมเจียว นั้น ให้ทอด สองรอบ รอบแรกให้สุกเหลือง และทอดครั้งที่สองจะทำให้กรอบ
ความหวานของซอส ให้เลือกใช้ น้ำตาลปี๊บ เนื่องจากน้ำตาลปีีบจะมีความหวานที่พอดีสำหรับทำซอสประเภทนี้
สูตรอาหารเมนูนี้ เป็น เมนูปลาทะเล เนื้อปลาจะละเม็ด หวาน นุ่ม อร่อย น่ารับประทาน เราจึงอยากขอนำเสนอ สูตรอาหาร เมนูปลาทอด วิธีทำปลาจะละเม็ดปรุงรส สูตรอาหาร เมนูปลา เมนูปลาจะละเม็ด ปลาจะละเม็ดทำอะไรกินได้บ้าง อาหารจากปลา เมนูอาหาร กับข้าวจากปลา ปลาทอด สูตรอาหาร เมนูปลา อาหาร เมนูทอดเมนูปลาจะละเม็ด ปลาจะละเม็ดทำอะไรกินได้บ้าง กับข้าวจากปลา สูตรปลาจะละเม็ดปรุงรส อาหาร

ปลาจะละเม็ดทอดราดซอส อาหารไทย เมนูปลาจะละเม็ด วิธีทำปลาจะละเม็ดทอดราดซอส สามารถทำกินเองได้ เมนูทอด รานน้ำซอสหวานๆ เคล็ดลับการทอดปลา และ การทำน้ำราดทำอย่างไร เมนูปลา กับข้าวจากปลา

ปลาจะละเม็ดทอดราดซอส อาหารไทย แสนอร่อยๆ เมนูปลาทอด

ปลาจะละเม็ดทอดราดซอส อาหารไทย เมนูปลาจะละเม็ด วิธีทำปลาจะละเม็ดทอดราดซอส สามารถทำกินเองได้ น้ำซอสหวานๆ เคล็ดลับการทอดปลา และ การทำน้ำราดทำอย่างไร

ปลาจะละเม็ดราดซอส อาหารไทย เมนูปลา

สูตรอาหารยอดนิยม สำหรับวันนี้ ขอนำเสนอ เมนูปลา ราดซอส คือ ปลาจะละเม็ดราดซอส เคล็ดลับความอร่อยของเมนูนี้ อยู่ที่ การคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพ การเตรีบมอาหาร การปรุงซอส ให้หวานอมเปรี้ยว กลมกล่อม

เมนูทอดปลาจะละเม็ดปรุงรส อาหารทอด เมนูปลาจะละเม็ด ส่วนผสมและขั้นตอนการทำ เข้าใจง่ายเหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูปลา

ส่วนผสมสำหรับทำปลาจะละเม็ดทอดราดซอส

ปลาจะละเม็ด 1 ตัว
หอมแดงเจียว 2 ช้อนโต้ะ
น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
พริกแห้งทอด หั่นเป็นฝอย 1 ช้อนโต้ะ
ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต้ะ
น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
ซอสมะเขือเทศ 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 2 ถ้วยตวง
วิธีทำปลาจะละเม็ดปรุงรส

ตั้งกระทะน้ำมัน จากนั้นทอดปลาให้เหลืองสุก จากนั้นนำไปพักใส่จานไว้ก่อน
เตรียมน้ำซอสโดย ตั้งกระทะน้ำมันร้อนปานกลาง ประมาณ 1 ช้อนโต้ะ จากนั้นนำ ซอสหอยนางรม น้ำตาล ซอสมะเขือเทศ และ พริกแห้ง หั่นลงไปผัดให้ส่วนผสมเข้ากัน
นำ น้ำซอสราด ลงตัว ปลาทอด ที่เตรียมไว้แล้ว โรยหน้าด้วย หอมแดงเจียว ทานร่วมกับ ข้าวหอมมะลิ
เคล็ดลับการทำปลาจะละเม็ดทอดปรุงรส

ปลาจะละเม็ด ใหเลือกปลาที่สดๆ เทคนิคการเลือกปลา ให้ดูที่ตาปลาต้องใส สภาพปลาสมบูรณ์ เนื้อแน่นตึง ไม่มีกลิ่นเหม็นเน่า
การล้างปลา เป็นเคล็ดลับของการทำปลาให้ไม่คาว ซึ่งการล้างปลา ให้ใช้แป้งมันถูที่ตัวปลา แป้งมันจะจับเมือกปลา และ สิ่งสกปรก ล้างออกง่าย จากนั้น ใช้เกลือขัดอีดครั้งหนึ่ง
การทอดปลาให้กรอบนอกนุ่มใน เคล็ดลับอยู่ที่ การนำปลาไปคลุกแป้งก่อน พักไว้ให้น้ำที่ตัวปลาจับกับแป้งสักพักหนึ่ง ให้แป้งอิ่มตัว ทอดในน้ำมันที่ร้อน ไฟปานกลาง น้ำมันต้องร้อนจะทำให้ปลาไม่อมน้ำมัน และ เทคนิคหนึ่ง คือ การทอดสองครั้ง ทอดครั้งแรกให้เหลือง ครั้งที่สอง จะทำให้กรอบ
การทำซอสสำหรับราดปลา ให้ใส่ส่วนผสมต่างๆ ตามสูตร เคี้ยวให้ส่วนผสมละลายเข้ากัน ต้องเติมเกลือ เนื่องจากเกลือจะทำให้เกิดความกลมกล่อม
หอมเจียว จะเพิ่มความหอมให้กับอาหารเมนูนี้ เทคนิคการทอดหอมเจียว นั้น ให้ทอด สองรอบ รอบแรกให้สุกเหลือง และทอดครั้งที่สองจะทำให้กรอบ
ความหวานของซอส ให้เลือกใช้ น้ำตาลปี๊บ เนื่องจากน้ำตาลปีีบจะมีความหวานที่พอดีสำหรับทำซอสประเภทนี้
สูตรอาหารเมนูนี้ เป็น เมนูปลาทะเล เนื้อปลาจะละเม็ด หวาน นุ่ม อร่อย น่ารับประทาน เราจึงอยากขอนำเสนอ สูตรอาหาร เมนูปลาทอด วิธีทำปลาจะละเม็ดปรุงรส สูตรอาหาร เมนูปลา เมนูปลาจะละเม็ด ปลาจะละเม็ดทำอะไรกินได้บ้าง อาหารจากปลา เมนูอาหาร กับข้าวจากปลา ปลาทอด สูตรอาหาร เมนูปลา อาหาร เมนูทอดเมนูปลาจะละเม็ด ปลาจะละเม็ดทำอะไรกินได้บ้าง กับข้าวจากปลา สูตรปลาจะละเม็ดปรุงรส อาหาร

ปลาจะละเม็ดทอดราดซอส อาหารไทย เมนูปลาจะละเม็ด วิธีทำปลาจะละเม็ดทอดราดซอส สามารถทำกินเองได้ เมนูทอด รานน้ำซอสหวานๆ เคล็ดลับการทอดปลา และ การทำน้ำราดทำอย่างไร เมนูปลา กับข้าวจากปลา

ดันขึ้นไปก่อน

มู้เก่าหนุกดีนะ
ยกที่ 78 >>>/801/11716/ **(วาระนักเขียนฉลามและแก๊งค์หมาหมู่ของเค้า)
ยกที่ 79 >>>/801/11726/ **(วาระนักเขียนฉลามและแก๊งค์หมาหมู่ของเค้า ภาคสอง)**

มีใครเป็นแบบกูบ้างวะ กลัวชิบหายเลยจะเขียนอะไร กลัวโดนแคปไปดราม่าลงทวิตแล้วกูคงไม่กล้าเขียนอะไรไปอีกเลยทั้งชีวิต พอแม่งมีอะไรมาเอดูเขตบ่อย กูก็เข้าใจมากขึ้น มันก็ดีที่ได้ระวังอะไรเพิ่มแต่แม่งกลายเป็นเขียนอะไรไม่ออกเลยว่ะ เป็นหนึ่งในสาเหตุที่นักเขียนหายกันไปเยอะช่วงนี้ป่ะว่ะ กูแม่งโคตรอิจฉางานจีนงานญี่ปุ่นเลยที่มีจุดบ้งแต่คนไม่ด่า โทรลอย่าป่วนมู้นี้เลยกูอยากปรึกษาอยากระบายจริงๆ

>>349 อีพวกนี้มันโรคจิต ว่างงานจน ปสดทั้งนั้น อย่าไปให้ค่า

บทสวดนมัสการบูชาพระรัตนตรัย

อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา
พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ (กราบ)

สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม
ธัมมัง นะมัสสามิ (กราบ)

สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
สังฆัง นะมามิ (กราบ)

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

เป็นการรำลึกถึงพระพุทธคุณเบื้องต้นก่อนสวดมนต์ บูชาพระ หรือทำพิธีการต่าง ๆ

บทสวดนมัสการบูชาพระรัตนตรัย

อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา
พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ (กราบ)

สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม
ธัมมัง นะมัสสามิ (กราบ)

สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
สังฆัง นะมามิ (กราบ)

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

เป็นการรำลึกถึงพระพุทธคุณเบื้องต้นก่อนสวดมนต์ บูชาพระ หรือทำพิธีการต่าง ๆ

บทสวดนมัสการบูชาพระรัตนตรัย

อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา
พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ (กราบ)

สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม
ธัมมัง นะมัสสามิ (กราบ)

สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
สังฆัง นะมามิ (กราบ)

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

เป็นการรำลึกถึงพระพุทธคุณเบื้องต้นก่อนสวดมนต์ บูชาพระ หรือทำพิธีการต่าง ๆ

ต้มส้มปลาหมึก อาหารไทย เมนูแกง เมนูปลาหมึก ง่ายๆ พร้อมวิธีทำ

ต้มส้มปลาหมึก ต้มยำแบบปักษ์ใต้ วิธีทำต้มส้มปลาหมึก ง่ายๆทำกินเองได้ เคล็ดลับการทำต้มส้มปลาหมึก คือ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการปรุงรสชาติ กินแล้วไม่อ้วน



สูตรอาหาร เมนูอาหาร อร่อยๆสำหรับวันนี้ นำเสนอ อาหารพื้นบ้าน เมนูสุขภาพ คือ ต้มส้ม เป็นต้มยำแบบพื้นบ้าน กับเมนู ต้มส้มปลาหมึก เคล็ดลับการทำต้มส้มปลาหมึก คือ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาติ

อาหารทะเล แบบง่ายๆ รสชาติแซ่บถึงใจ สูตรต้มส้มปลาหมึก ส่วนผสมและขั้นตอนการทำอาหารเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูแกง

ส่วนผสมสำหรับทำต้มส้มปลาหมึก

ปลาหมึกกล้วย 4 ตัว หั่นเป็นชิ้นขนาดพอดีคำ

ข่า 1 หัว หั่นเป็นแผ่นหนาๆ

ตะไคร้ 1 ต้น

หอมหัวแดง 5 หัวบุบพอแตก

ใบมะกรูด 6 ใบ

พริกขี้หนูสวน 10 เม็ดบุบพอแตก

ใบมะขามอ่อน 1 กำมือ

น้ำปลา 2 ช้อนโต้ะ

น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต้ะ

น้ำเปล่า 2 ถ้วย

ต้นหอมซอบหยาบๆ 1 ต้น

ผักชีฝรั่ง 1 ต้น ซอยหยาบๆ

วิธีทำต้มส้มปลาหมึก

เริ่มจากเตรียมเครื่องสำหรับทำต้มส้มให้พร้อมก่อน โดยเฉพาะ ปลาหมึก ต้องล้างให้สะอาด เพื่อไม่ให้คาว

เริ่มทำโดย ตั้งหม้อต้มน้ำเปล่าให้เดือด จากนั้นเมื่อน้ำเดือด ให้ลดไปเป็นไฟอ่อนๆ ใส่ ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และ หอมแดงลงไปต้ม ค่อยๆต้มด้วยไฟอ่อนให้หอม

จากนนั้นใส่ใบมะขามอ่อนลงไป และ ปรุงรสด้วย น้ำปลา พริกขี้หนูสวน และ น้ำตาลทราย เมื่อได้รสชาติกลมกล่อม

ให้ใส่ปลาหมึกลงไปต้ม ไม่ต้องต้มนาน เดี๋ยวปลาหมึกแห้งและแข็ง เมื่อปลาหมึกได้ที่ จึงปิดไฟ และ ใส่ต้นหอมและผักชีฝรั่ง

เคล็ดลับการทำต้มส้มปลาหมึก

ปลาหมึกต้องเลือกใช้ปลาหมึกสดๆ ขนาดพอดี ไม่ใหญ่ หรือ เล็กเกินไป เทคนิคการเลือกปลาหมึกสดๆ คือ เลือกปลาหมึกที่เนื้อขาว ลักษณะของเนื้อแน่น เด้งตึง น้ำแช่ปลาหมึกใส ลักษณะของปลาหมึกสมบรูณ์ ไม่มีกลิ่นเน่า หรือ สีผิดปรกติ

การเตรียมปลาหมึก ให้ล้างปลาหมึกให้สะอาด ล้างหลายๆน้ำ เอากระดอง และ หมึกออก หากไม่เอาออก น้ำแกงจะเป็นสีดำ ไม่น่ารับประทาน

การปรุงอาหารด้วยปลาหมึก เนื่องจากเนื้อปลาหมึกหากสุกเกินไป จะทำให้เนื้อแข็งกระด้าง และ ไม่หวาน การทำอาหารที่มีปลาหมึก ต้องให้ปลาหมึกสุกพอดี โดยสำหรับเมนูนี้ ให้ใส่ปลาหมึกขั้นตอนสุดท้าย เพื่อที่เราจะสามารถกะประมาณความสุขของเนื้อปลาหมึกได้อย่างพอดี

เสน่ห์ของต้มส้มปลาหมึก ต้องได้ความหวานของน้ำแกงจากปลาหมึกด้วย ดังนั้นจึงไม่ควรลวกน้ำปลาหมึกทิ้ง ให้ใส่ปลาหมึกลงในแกง ให้คลายความหวานของเนื้อปลาหมึกเองเลย

ใบมะกรูด แกนใบจะให้รสขม ดังนั้นให้ฉีกใบเอาแกนใบออกก่อนนำมาต้มแกง

การต้มสมุนไพรขั้นตอนแรกสำคัญ ต้องใช้น้ำเดือด และ ไฟอ่อน ให้สมุนไพร ค่อยๆคลายความหอม จากน้ำมันหอมระเหยของตัวสมุนไพร อย่าง ข่า ตะไตร้ และ ใบมะกรูด หากเราใช้ไฟแรงเลย น้ำมันหอมระเหยจะระเหยจนทำให้น้ำแกงไม่มีรสหอมจากสมุนไพรเลย เสียรสชาติของอาหาร

รสเปรี้ยวของเมนูนี้ จะได้ความเปรี้ยวจากใบมะขามอ่อน หากความเปรี้ยวไม่พอ ให้เลือกเพิ่มความเปรี้ยวจากน้ำมะขามเปียก

ต้มส้มปลาหมึก คือ อาหารไทย เมนูต้มยำแบบปักษ์ใต้ วิธีทำต้มส้มปลาหมึก ง่ายๆ สามารถทำกินเองที่บ้านได้ เคล็ดลับการทำต้มส้มปลาหมึก คือ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการปรุงรสชาติ อาหารใต้ เมนูต้มส้ม อาหารอร่อยๆ เมนูปลาหมึก กินแล้วไม่อ้วน

ต้มส้มปลาหมึก อาหารไทย เมนูแกง เมนูปลาหมึก ง่ายๆ พร้อมวิธีทำ

ต้มส้มปลาหมึก ต้มยำแบบปักษ์ใต้ วิธีทำต้มส้มปลาหมึก ง่ายๆทำกินเองได้ เคล็ดลับการทำต้มส้มปลาหมึก คือ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการปรุงรสชาติ กินแล้วไม่อ้วน



สูตรอาหาร เมนูอาหาร อร่อยๆสำหรับวันนี้ นำเสนอ อาหารพื้นบ้าน เมนูสุขภาพ คือ ต้มส้ม เป็นต้มยำแบบพื้นบ้าน กับเมนู ต้มส้มปลาหมึก เคล็ดลับการทำต้มส้มปลาหมึก คือ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาติ

อาหารทะเล แบบง่ายๆ รสชาติแซ่บถึงใจ สูตรต้มส้มปลาหมึก ส่วนผสมและขั้นตอนการทำอาหารเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูแกง

ส่วนผสมสำหรับทำต้มส้มปลาหมึก

ปลาหมึกกล้วย 4 ตัว หั่นเป็นชิ้นขนาดพอดีคำ

ข่า 1 หัว หั่นเป็นแผ่นหนาๆ

ตะไคร้ 1 ต้น

หอมหัวแดง 5 หัวบุบพอแตก

ใบมะกรูด 6 ใบ

พริกขี้หนูสวน 10 เม็ดบุบพอแตก

ใบมะขามอ่อน 1 กำมือ

น้ำปลา 2 ช้อนโต้ะ

น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต้ะ

น้ำเปล่า 2 ถ้วย

ต้นหอมซอบหยาบๆ 1 ต้น

ผักชีฝรั่ง 1 ต้น ซอยหยาบๆ

วิธีทำต้มส้มปลาหมึก

เริ่มจากเตรียมเครื่องสำหรับทำต้มส้มให้พร้อมก่อน โดยเฉพาะ ปลาหมึก ต้องล้างให้สะอาด เพื่อไม่ให้คาว

เริ่มทำโดย ตั้งหม้อต้มน้ำเปล่าให้เดือด จากนั้นเมื่อน้ำเดือด ให้ลดไปเป็นไฟอ่อนๆ ใส่ ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และ หอมแดงลงไปต้ม ค่อยๆต้มด้วยไฟอ่อนให้หอม

จากนนั้นใส่ใบมะขามอ่อนลงไป และ ปรุงรสด้วย น้ำปลา พริกขี้หนูสวน และ น้ำตาลทราย เมื่อได้รสชาติกลมกล่อม

ให้ใส่ปลาหมึกลงไปต้ม ไม่ต้องต้มนาน เดี๋ยวปลาหมึกแห้งและแข็ง เมื่อปลาหมึกได้ที่ จึงปิดไฟ และ ใส่ต้นหอมและผักชีฝรั่ง

เคล็ดลับการทำต้มส้มปลาหมึก

ปลาหมึกต้องเลือกใช้ปลาหมึกสดๆ ขนาดพอดี ไม่ใหญ่ หรือ เล็กเกินไป เทคนิคการเลือกปลาหมึกสดๆ คือ เลือกปลาหมึกที่เนื้อขาว ลักษณะของเนื้อแน่น เด้งตึง น้ำแช่ปลาหมึกใส ลักษณะของปลาหมึกสมบรูณ์ ไม่มีกลิ่นเน่า หรือ สีผิดปรกติ

การเตรียมปลาหมึก ให้ล้างปลาหมึกให้สะอาด ล้างหลายๆน้ำ เอากระดอง และ หมึกออก หากไม่เอาออก น้ำแกงจะเป็นสีดำ ไม่น่ารับประทาน

การปรุงอาหารด้วยปลาหมึก เนื่องจากเนื้อปลาหมึกหากสุกเกินไป จะทำให้เนื้อแข็งกระด้าง และ ไม่หวาน การทำอาหารที่มีปลาหมึก ต้องให้ปลาหมึกสุกพอดี โดยสำหรับเมนูนี้ ให้ใส่ปลาหมึกขั้นตอนสุดท้าย เพื่อที่เราจะสามารถกะประมาณความสุขของเนื้อปลาหมึกได้อย่างพอดี

เสน่ห์ของต้มส้มปลาหมึก ต้องได้ความหวานของน้ำแกงจากปลาหมึกด้วย ดังนั้นจึงไม่ควรลวกน้ำปลาหมึกทิ้ง ให้ใส่ปลาหมึกลงในแกง ให้คลายความหวานของเนื้อปลาหมึกเองเลย

ใบมะกรูด แกนใบจะให้รสขม ดังนั้นให้ฉีกใบเอาแกนใบออกก่อนนำมาต้มแกง

การต้มสมุนไพรขั้นตอนแรกสำคัญ ต้องใช้น้ำเดือด และ ไฟอ่อน ให้สมุนไพร ค่อยๆคลายความหอม จากน้ำมันหอมระเหยของตัวสมุนไพร อย่าง ข่า ตะไตร้ และ ใบมะกรูด หากเราใช้ไฟแรงเลย น้ำมันหอมระเหยจะระเหยจนทำให้น้ำแกงไม่มีรสหอมจากสมุนไพรเลย เสียรสชาติของอาหาร

รสเปรี้ยวของเมนูนี้ จะได้ความเปรี้ยวจากใบมะขามอ่อน หากความเปรี้ยวไม่พอ ให้เลือกเพิ่มความเปรี้ยวจากน้ำมะขามเปียก

ต้มส้มปลาหมึก คือ อาหารไทย เมนูต้มยำแบบปักษ์ใต้ วิธีทำต้มส้มปลาหมึก ง่ายๆ สามารถทำกินเองที่บ้านได้ เคล็ดลับการทำต้มส้มปลาหมึก คือ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการปรุงรสชาติ อาหารใต้ เมนูต้มส้ม อาหารอร่อยๆ เมนูปลาหมึก กินแล้วไม่อ้วน

ทำกินเองไปแล้ว

บัญชีหนังหมาที่รวมสาเหตุว่าทำไมมันถึงฟลัดเวลามีคนพูดถึง
https://docs.google.com/document/d/1o6HQnF3W4HYL41qlsg2iKLCZ7RidC-Vs-Qh1NfCv2do/edit?usp=drivesdk

ยกที่ 78 >>>/801/11716/ **(วาระนักเขียนฉลามและแก๊งค์หมาหมู่ของเค้า)
ยกที่ 79 >>>/801/11726/ **(วาระนักเขียนฉลามและแก๊งค์หมาหมู่ของเค้า ภาคสอง)**

ถ้าใครรำคาญเชิญกลุ่มโอเพ่นแชท :
"สมาพันธ์สาวฟุนักเมาท์". (ห้องเม้าท์นิยาย/นักเขียน/นักวาด)
http://bitly.ws/d3de

"fanboi.ch#801". (ห้องพูดคุยเรื่องทุกอย่างบนโลก)
http://bitly.ws/d3dn

"ห้องปรึกษาสารพัดปัญหาของนักเขียน".
http://bitly.ws/d3dy

ดันขึ้นมาหน่อย

เคยกลับไปอ่านนิยายตัวเองแล้วลืมว่าเป็นนิยายที่ตัวเองเขียนเองบ้างมะ 😂

>>357 ไม่เคยลืม มีแต่เขียนไรวะ เบียวชห

>>358 ถถถถถ นึกถึงตัวเองตอนกลับไปอ่านบล็อกเก่าตัวเอง โอ๊ย อยากลืมไปว่าตัวเองเป็นคนเขียน

https://twitter.com/nyago0212nyago/status/1389833782023258116?s=19
ทำไมยุ่นถึงเกลียดสาวฟุกันอะ

>>360 อย่าใช้กูเกิ้ลทรานแล้วจับประเด็นมั่วๆ มันไม่ได้เกี่ยวกับเกลียดฟุเลย

>>361 งั้นแปลให้ทีสิ

>>362 ไม่

>>360 เหมือนมันอ้างอิงประเด็นก่อนหน้ามา ไม่รู้เรื่องอะไร พวก bl สายออริกับ bl สายโด ฝั่งนึงบอกชั้นโอเคสายออริไม่โอเคสายโด อีกฝั่งบอกโอเคสายออริไม่โอเคสายโด

อยากรู้จริงๆต้องไถอ่านโควทกับเม้นอ่ะ ไม่รู้ต้นเรื่องมันพูดไร

มันเริ่มจากมีสาววายคนนึงทวีตว่า อยากให้รู้ความจริงกันไว้ว่าไม่ใช่สาววายทุกคนจะชอบวายนะ สาววายที่ไม่ชอบวายก็มี มันเลยเป็นประเด็นว่าแล้วมึงจะเรียกตัวเองว่าสาววายทำไม ต้นทางยอดรีเป็นหมื่นเลย แต่ทัวร์ลงหนักเลยลบไปแล้ว

>>365 เออมิน่าเห็นคนนึงมันอธิบายอยู่ว่าสมัยก่อนที่ญปมันเรียก วายออริว่า bl วายโดว่าyaoi
ต้นเรื่องที่ลบไปน่าจะบอกว่าสาวฟุบางคนก็ชอบแต่โด ไม่ชอบวายออริ เพราะยังเข้าใจว่าญปยังแยกใช้ bl กับ yaoi อยู่

>>366 ใช่ ต้นทางที่โดนทัวร์ลงใช้คำว่า bl แล้วเรียกตัวเองว่าฟุ นางเข้าใจว่า bl=วายออริ เลยโดนด่าว่าเป็นอีป้าหัวโบราณ ยุคนี้มันไม่มีใครใช้คำว่ายาโอยแล้ว คำว่ายาโอยมันตายไปนานแล้ว จะออริหรือโดก็เรียก bl หมด

>>367 กูสงสัยมานานแล้วว่าทำไมไทยเรียก วาย แต่ญี่ปุ่นเรียก bl อ๋อ มันเป็นศัพท์เก่า 555

ทอปิคนี้มันไม่ผิดมู้เหรอวะ 5555555
คนไทยเรียกวายรวมๆเพราะหมายความถึง Yaoi กับ Yuri มั้ง สมัยเว็บสแกนบูมมากๆฝรั่งมันแบ่งหมวดโดยใช้คำนี้ ทุกวันนี้ก็น่าจะยังใช้อยู่แหละ คนต่างชาติเลยชินกับคำว่า Yaoi จนนึกไปว่าญี่ปุ่นใช้คำนี้กันเป็นปกติ แต่จริงๆญี่ปุ่นเลิกใช้ไปเป็นสิบปีละ

แวะมาบ่นนิดหน่อย เดือนนี้ยอดซื้อนิยายน้อยมากขนาดลดราคาลงแล้ว จาก 3000 คำจะติดประมาณ 4 บาท ตอนนี้ 2500 ติด 1 บาทแล้วอะ

>>370 แต่ยอดซื้อก็ยังน้อยลงเรื่อยๆ จนท้อใจว่ากูเขียนไม่ดีรึเปล่าวะ

>>370 ของกูก็น้อยลง แต่เห็นได้ชัดว่าเริ่มตั้งแต่โควิดรอบนี้เป็นต้นมา ถึงเริ่มน้อย กูว่าเพราะคนเซฟเงินด้วยแหละ มีอ่านฟรีก็อ่าน ติดเหรียญก็พักก่อน รอบนี้กระทบเยอะ ไม่น่าเกี่ยวกับการแต่งนะ ยกเว้นว่าเมิงจะเป็นนข.ดังที่มีแฟนคลับตามคอยซัพมาเนิ่นนาน

>>372 กูเขียนหารายได้สองปีเอง แต่โควิดรอบนี้ฮวบจริง คิดในแง่ดีว่าไม่ใช่ฝีมือตก เฮ้อ เซ็ง

>>370 เข้ามายกมือด้วยคน ยอดซื้อกูหายไป 50% เลยอะ ใจหายมากเลยนะ มันระแวงแบบกุทำไรผิดปะว้า 555

>>370 กูไม่รู้สีกว่ามันหดนะ
เพราะปกติน้อยอยู่แล้ว (ยอดเปย์ 5 คนต่อตอน สม่ำเสมอ)
กูควรดีใจสินะที่โควิดทำอะไรกูไม่ได้ ´༎ຶ ͜ʖ ༎ຶ `

แม่งโคตรเศร้า แต่คงได้แต่ทำใจล่ะนะ

ถามหน่อยว่าพวกมึงรับงานชญในนิยายวายได้ขนาดไหน คู่หลักกูเป็นชช แต่มีคู่รองเป็นชญ แล้วก็ญญ บทไม่เยอะเท่าคู่หลัก ก็กระจายเฉลี่ยๆกันไปตามประสาตัวรองน่ะ แต่พออ่านเมนท์เวลาที่คู่ชญหรือญญมีบททีไรคือใจเสียพอสมควร บอกอยากให้ได้กับผช.มากกว่า หรือไม่เอาชะนีไรงี้ กูเสียใจที่สาวๆของกูโดนด่า ;w;

>>377 คนอ่านสมัยนี้แทบไม่สนใจคู่รองนะ ไม่เหมือนสมัยก่อนที่อ่านได้หลากหลายกว่านี้เยอะ

>>377 ไม่เคยเจองาน ชญ ญญ ในวายอะ เคยเจอแต่ชช ญญ ในงาน ชญ ก็ดีนะ ขึ้นอยู่กับว่ามันทำให้คนอึดอัดด้วยมั้ย เพราะคนส่วนใหญ่ที่อ่านวายก็ไม่ได้อยากเห็นผญมีบทบาทเยอะอะมึง…

>>377 อ่านได้นะ ไม่มีปัญหาอะไร แต่อย่างบนๆ บอกส่วนใหญ่ไม่ชอบกัน

>>377 อ่านได้ แต่ไม่ควรเด่น เพราะเบื่อจักรวาลเกย์ ทั้งที่ไม่ใช่แฟนตาซี คู่พระนาย มีอาคมทำให้คนรอบข้างเปลี่ยนเป็นเกย์จนหมด

ขึ้นกับว่ามึงนำเสนอยังไงด้วย นิยายกูมีชญจีบกัน แต่คนอ่านก็เชียร์นะ บอกว่าน่ารักดี เป็นสีสัน ตัวละครญที่โดนด่ามักเป็นพวกทุกตัวงี่เง่าอะ