จะได้เวลาอ่านนิยายแล้ววว พอได้ของครบ ก็จะกลับมาอ่าน หลังจากอ่านเล่ม1ไปช่วงแรกๆ แต่พอเจอด้อมปสด (บางกลุ่ม) เลยไม่ได้อ่านอีกเลย กลายเป้นไม่ชอบ ไม่ไฮป์เลยอ่ะ 555555555
Last posted
Total of 1000 posts
จะได้เวลาอ่านนิยายแล้ววว พอได้ของครบ ก็จะกลับมาอ่าน หลังจากอ่านเล่ม1ไปช่วงแรกๆ แต่พอเจอด้อมปสด (บางกลุ่ม) เลยไม่ได้อ่านอีกเลย กลายเป้นไม่ชอบ ไม่ไฮป์เลยอ่ะ 555555555
กูสมน้ำหน้าพวกปากดีเล่นใหญ่ตามด่าขนมแล้วมาตามหาboxทีหลัง 55555
ปกไม่เหมือนเดิมเหรอ เห็นเสียงแตกแถมถ่ายออกมาไม่เหมือนกัน ต้องรอเห็นด้วยตัวเองสินะ
กุสั่งบ็อกซ์ไปละ เก็บครบทุกเล่มด้วย ในฐานะคนตามดราม่ามานาน ขนมมันพลาดอย่างเดียวคือจัดการระยะเวลาแปล/ปล่อยไม่ดีนี่แหละ แรกๆ กุก็ด่าเรื่องนี้เหมือนกัน เป็นบริษัทควรจะบริหารทรัพยากรบุคคลให้ดีอะ รู้ว่ามีนักแปลน้อย งานเยอะ ก็ต้องหาทางออกที่ดีว่าทิ้งช่วงยาวจนคนด่า (และกุไม่คิดว่ามันจงใจเลี้ยงกระแสหรอกนะ55555)
แต่ถ้าคนในบ.ขนมมาอ่าน อยากบอกว่าตอนออกมาชี้แจงปกอะพลาดมากสัสๆ เหมือนมีโม่งบอกนั่นแหละว่าคนจ้องจะด่าอยู่แล้วยังออกมาเดินให้เขาด่าอีก เงียบๆ ไปก็จบแล้วเพราะมึงไม่ได้ทำผิดอะไรที่ต้องมาชี้แจง ถ้ายังทำได้อยู่มึงเปลี่ยนกุนซือบ.ด่วนๆ เลยเว้ย
มีสุ่มแถมการ์ดตลคด้วย บกรเมิงใส่ใจเรื่องนี้มากเกินไปละอีดอก ยุบยับๆ
แถมเปลี่ยนกลิตเตอร์เป็นสีรุ้งอีก ตามที่อีพวกปสดด่าเลย นิยายรักทำไมปกทะมึนๆ ใส่สีรุ้งเล่มพิเศษแม่ง 555
ภาพโปสเตอร์นี่ฉากไหนอ่ะ นึกไม่ออก
เห็นม่าเรื่องโปสขอบยับ ถึงขั้นรวมตัวจะฟ้อง สคบ. แล้วกุหลาบที่พับโปสมาสองทบสามทบอ่ะ
เขาเริ่มส่งกันแล้วเหรอวะมึง ฮือออ กูสั่งกับนายอินทร์ แล้วจะได้เมื่อไหร่
ทำไมวงการวายสมัยนี้มันดูปสดขึ้นจังวะ มันมาถึงจุดๆนี้ได้ยังไง กูอ่านแต่ละม่าแล้วปวดประสาท ถึงขั้นจะฟ้องกันแล้วหรอ กูยังอึนกับม่าเรื่องปกไม่หายเลยนะ
กุได้แร้ว คหสตกูว่าแปลสนุกขึ้นแต่เว้นวรรคถี่มากก ละทำไมเปลี่ยนกระดาษทำปก แบบเก่ากุเอาเล็บขูดสนุกดี อันนี้ฟีลลิ่งไม่ได้ ถูนิ้วละมีเสียงเอี๊ยดๆ 555
เรื่องโปสยับกูเข้าข้างคนซื้อนะ โปสอย่างกริบเสือกมุมยับเพราะปิดฝา ทำงานสะเพร่าจริงๆ แต่ฟ้องสคบ.นี่ก็งืมมม เอาที่สบายใจ
โรงพิมพ์แพ็ค สนพ.มีหน้าที่แค่ห่อบับเอาลงกล่องอะ กูว่าเจอยับเยอะขนาดนี้ สนพ.ก็ต้องส่งเรื่องให้โรงพิมพ์อีกที ไอ้ตัวฝาปิดทำยับมานักต่อนักแล้ว ก็หวังว่าล็อตต่อๆ ไปที่กำลังทยอยส่งจะดีขึ้นอะนะ ไม่งั้นตามเคลมกันปวดหัวตายเลย เจออย่างนี้ยังไงก็ให้เคลมอะมันเป็นมาจากต้นทางเลย
>>759 เออ ลืมคิดเลย เป็นได้อะ แต่กูชอบความใส่ใจของกระบอกที่มีติดชื่อเรื่อง 5555 แต่เจออย่างนี้ยังไงก็โรงพิมพ์รับเต็มๆ
มีไม่น้อยเจ้านะที่โรงพิมพ์ พิมพ์ ห่อ แพ็ค พวกของแถมอัดซีลในเล่ม สนพ.มีบ้างที่ qc มุมไม่ย่นไม่บุบอะ แต่ส่วนมากเจ้าใหญ่ทั้งหลาย คือโรงพิมพ์จัดการเองล้วนๆ ก็ต้องดูการจัดการของแต่ละเจ้าว่าพอเกิดปัญหาเขาแก้ปัญหาให้ไหม ถ้าไม่ ก็สมควรด่า จะรวมตัวกันฟ้องก็ทำไป แต่ถ้าเป็นเคสเล็ก หยุมหยิมแล้วสนพ.ให้เคลมมันก็จบอะ ยิ่งกรณีนี้ไปไล่บี้กับโรงพิมพ์ได้อีก ชิลๆ อยู่แล้ว กูมองว่าเดี๋ยวนี้ลูกค้าเอะอะๆ จะเอาแต่ได้ คือกูรู้สึกงี้จริง ไม่ใช่แค่กับเรื่องปรมจอะ แทบทุกเรื่องเลย ขนมนี่โดนหนักสุด ก่อนหน้าหนมก็ พด ที่ประหนึ่งไปเหยียบตีนใครเข้า
กว่าจะแกะกล่องออกจากแผ่นกันกระแทกมาได้ กูเหนื่อย เปิดกล่องมาเจอหนังสือปกเป็นประกายรุ้งฟรุ้งฟริ้ง กูถึงกับหลุดอุทาน เชี่ยไรเนี่ย ด้วยความตกใจ กูแค่ตกใจเฉยๆ ไม่นึกว่าปกประกายมุกดีๆเล่มพิเศษดันแหกโค้งมาประกายรุ้งเป็นสติ๊กเกอร์สมัยประถมเลยมึง แต่กูชอบถุงซิปนะ เออ รวมๆของแถมไว้นั่นแหละดี แถมอะไรมานักไม่มีที่จะเก็บ
ตามทวิตนกฟ้า สงสัยอย่าง.....ด้อมนี้มันไม่รู้เรื่องเล่มพิเศษไต้หวันเออ เห็นออกมาด่ารัวๆเรื่องเล่มพิเศษ กุว่าส่วนนี้ขนมมันทำดีอยู่นะที่ซื้อมาครบ แต่หลังจากนี้คงหมดเวรหมดกรรมแล้วมั้ง
ปอลอ. เป็นดราม่าปสดที่บันเทิงมาก แต่ละอย่างที่เอามาม่านิ กุแทบลุกขึ้นปรบมือ จากนี้คงตามไปจองเวรกุหลาบต่อ
ปอลอ2. กุยังเศร้าใจที่ชาวนกฟ้ายังคงคอนเซ็ปท์พวกมากลากไป ถูกผิดอยู่ที่ความเชื่อ กับพวกมากจริงๆ แอดใหญ่ก็ยังตีไข่ใส่จริงม่าแบบไม่กลั่นกรองเหมือนเดิม จากนี้แท็กปรมจคงเงียบลงเยอะ ในหลายๆความหมาย
บ่นอยู่ได้ว่าราคาแพง ควรรู้ว่ามันแพงตั้งแต่ที่ว่าเป็นตอนพิเศษให้นักอ่านไต้หวันได้แล้ว การที่ขนมซื้อมาได้เพราะยอมจ่ายค่าlcแบบสุดๆไง จนนข.ยอมขายไง ตอนรู้ว่ามีเล่มพิเศษต่อก็ไปอ้อนวอนขอให้สนพเอามา พูดเองว่าแพงแค่ไหนก็จะซื้อขอแค่เนื้อหาครบ พอราคาจริงออกจิกเปียกันเต็ม
แล้วอย่างนี้นะเรื่องนี้มันจะเป็นฐานวัดระดับให้เรื่องอื่นที่มีตอนพิเศษเฉพาะหรือตอนพิเศษเฉพาะประเทศอีกนะอีกว่า นิยายดังขนาดนี้ คนยังไม่ยอมซื้อเพราะราคาแพงเลย มันจะทำให้สนพอื่นไม่กว่าซื้อเพิ่มอีก
ดูท่าส่วนใหญ่จะไม่ชอบโฮโลแกรมกันสินะ ในโม่งก็ไปทิศทางเดียวกัน แต่ Box ดูจะกระแสตอบรับดี
เล่มพิเศษมีกี่หน้าอะ
โฮโลแกรมทำอะไรก็ไม่ค่อยสวยว่ะ ความเห็นส่วนตัวเลย มันทำให้ภาพอาร์ตไม่คมชัด กูไม่ชอบเอามากๆ ปกติชอบสะสมพวกการ์ด/โฟโต้การ์ด ร้านไหนเคลือบโฮโลแกรมคือปัดตก ยิ่งวิ้งๆ กลิตเตอร์หลายแหล่ก็ไม่เอาจ้า ไม่สวย สะท้อนแสงวิบๆ วับๆ ไม่เหมาะกับการมาทำอาร์ต เสียดายรูปสวยๆ
ส่วน box สวยมาก มากแบบก.ไก่ล้านตัว สวยกว่าหนมโปรโมท 5555 ถ้าเอาของจริงมาพรีวิวอาจจะได้ยอดเพิ่ม คนหากันให้ขวัก แต่กูอาจจะเลวหน่อยเพราะเหม็นด้อม ไม่อยากซื้อแต่แรกมางอแงทำไม กูคิดอย่างนี้ อย่าเอาเรื่องราคามาดีเฟ้น ถ้าแฟนเรื่องนี้จริงๆ ตามจริงๆ ลองเทียบแค่กับเวอร์เล่มพิเศษของไต้หวันก็ได้ ของไทยถูกกว่ามากๆๆ ต้นทางมาแพงอยู่แล้ว ขายของเอากำไร ไม่ได้ทำการกุศล อยากได้บรรยากาศแบบตอนเล่มแรกออก 5555 พูดคุยกันรู้เรื่องกว่าตอนนี้ที่เฮโลด่าๆ พูดบอกอะไรไม่ฟัง สักแต่เฮโลตามๆ กัน
เรื่องโปสเข้าใจนะว่ายับมันช้ำใจ ใครๆ ก็อยากได้กริบ แต่ถึงกับจะฟ้อง มันหน้ามืดไปหรือเปล่า คิดถึงตอนสอบสวนมูลฟ้อง โปสเตอร์ยับ จะเอาเรื่อง ของเราก็ยับแหละกระบอกแบบนี้ไม่ปิดฝาน่าจะดีกว่า แต่จริงๆ นิยายไม่ต้องแถมโปสเตอร์ก็ได้ใหญ่ไปหาที่เก็บยาก คือไม่ได้แปะฝาบ้านแน่ๆ อยู่ในกระบอกแบบนั้นยันลูกกูบวชแน่นอน
ขอนอกเรื่อง ปรมจ หน่อยนะทุกคนนน
คือสวรรค์ประทานพร จะออกเล่มเมื่อไหร่อ่ะ ;___; ค่ายที่ได้ไปนี่โอเคไหม
>>769 ค่ายเดียวกับตัวร้ายอะมึง คนแปลก็ลวดเหมือนเดิม แต่ที่น่ากลัวคือหลังจบกระแสดราม่าลวดมันเล่นทับศัพท์แบบไม่สนห่าไม่สนเหวอะไรทั้งนั้น ตามค่านิยมทับศัพท์ดีของอิด้อมปสดนั่นแหละ คำที่ควรแปลเจ้แกทับศัพท์หมด อยากให้อิด้อมนั้นอ่านแมวล้นวังจริงๆจะได้รู้ทับศัพท์แบบไม่จำเป็นมันชวนปวดประสาทกว่าแปลไทยเยอะ
ดันนน
ดันนนน
กูว่ารวมๆฟีดแบคค่อนข้างดีนะ มีบอกไม่ชอบโฮโลแกรมบ้างแต่แค่เป็นแนวแสดงความคิดเห็น
พวกปสดก็คือปสดล่ะ แต่รอบนี้ดูท่าจะปั่นไม่ค่อยขึ้นแบบที่ผ่านมา
รึรอหัวเปิดแล้วค่อยออกมาไหลกันเยอะอะ รึอาจจะไม่ได้ซื้ออยู่แล้ว555
แต่ก็ว่าได้ไม่เต็มปากคือมีคนด่าแบบประหลาดและก็ซื้ออยู่จริง ดูทรงเป็นกลุ่มซื้อไปเก็บไม่เน้นอ่านเนื้อหาเน้นกาวเอาเอง
เพิ่มมาเริ่มอ่านปรมจเพราะเห็นออกจบ กูก็ว่าแปลปกตินิ สำนวนกำลังภายในอาจไม่ดีเลิศแต่ก็อยู่ในมาตรฐานปกติ แต่ก่อนอ่ารกูดูซีรีย์เป็น5-6ครั้ง ขนาดกูสายนิยายยอมรับเลยว่าติดตากับภาพในซีรีย์อยู่ กูว่าคนที่ปสดน่าจะมีอาการไม่ได้ดั่งใจเพราะยังติดซีรีย์มากกว่าพอนิยายตัวดำเนินเรื่อง การบรรยายพรรณาเยอะไม่เหมือนซีรีย์ ประมาณว่าอ่านนิยายไม่ได้เลยหาเรื่องโทษนั้นโทษนี้ทั้งที่ตัวเองอ่านนิยายไม่ได้มากกว่า
>>780 ดูไม่จบเหมือนกัน 😅 ไม่ใช่ซร เขาไม่ดีนะ แต่นี่เป็นพวกเขินอ่ะถ้าดูคนแสดงจริงๆ
ส่วนตัวที่อ่านหนังสือจบมาหลายรอบ(ไม่นับวนอ่านเล่ม5) เราอ่านปรกตินะ คำผิดมี การแปลก็เฉยๆ กลับชอบการแปลกระบี่หลานจ้านด้วยซ้ำ เร้นธุลี พอเริ่มมีดราม่าปสดตอนนั้นก็ได้แต่งงๆ เออรึเราเป็นส่วนน้อยกันวะที่ไม่มีปัญหา
ว่าไปนี่ก็จะ 900 แล้วละ เดะใกล้ๆเต็ม ให้อีหัวหน้าด้อมเขาช่วยเปิดมู้ใหม่ ไหลไวมาก สนุกดี ขอบคุณนะคะ อิอิ
ดันนน
มึงสรุปเคสแขนงอกคือไงวะ เล่มห้า กูเห็นคนเอามาถ่ายลงในเฟสกรุ๊ปปรมาจารย์ เขาแปลผิดหรอหรือสำนวนมันมางี้
กูยังกลอกตากับคอมเม้นแปลชื่อกระบี่ เกลียดความทับๆมาเหอะคนอื่นรู้หมดแล้วว่าแปลว่าไร อ้าวสาดดดด แล้วคนที่ไม่รู้อะทำไงให้เขาไปตามแปลเองงี้หรอ คนอ่านส่วนพื้นฐานศัพท์ในภาษาจีนไม่เท่ากันไหม คนแปลแปลเยอะอะถูกแล้วอย่าลืมสิกลุ่มคนอ่านไม่ได้มีแค่กลุ่มมึงกลุ่มเดียวนะที่อ่าน
>>778 คิดว่าอีกส่วนนึงเพราะ(บาง)คนคาดหวังว่าสำนวนจะมาแนวรักลึกซึ้งชวนฟินกันด้วยแหละ แล้วกว่าหนังสือจะออกก็มีคนไปเอาฉากวั่งเซียนมาแปล+แต่งเติมสำนวนเอาตามใจชอบ ก็หวีดกันไปจนลืมว่าเรื่องนี้คือตรีมพีเรียดกำลังภายใน(แม้จะไม่เน้นการฝึก)สำนวนกำลังภายใน ต่อให้มองว่าเป็นนิยายรักแต่ต้นฉบับก็มาตรีมนี้
คนเลยช็อคพอเจอของจริงเป็น
"เจ้าดีเป็นพิเศษ" หรือ Aกล่าว Bกล่าว Cกล่าว
มีคนเอาต้นฉบับมาลงให้ดูก็ทำใจยอมรับไม่ค่อยได้เลยพาลสนพ&คนแปลแทน ไม่ยอมแยกแยะ ไม่กล้าเอ่ยถึงแม่โม่ตรงๆ
ทั้งนี้จุดที่ขนมนางผิดจริงๆก็มี คือ คำผิดนั่นแหละ
>>764 กูว่าความหมายแพงเท่าไรก็ยอมจ่าย คือ ต้องออกมาหวานๆให้ตรงกับที่คาดหวังไว้ ว่าไปด้อมนี้เงินสะพัดอยู่นะ จากที่เคยเห็นม่าทั้งหลายผ่านตา
>>790 ส่วนซีรี่ย์กูว่าฟีลคล้ายๆบุพเพฯอะ มันมีจุดดีจุดเสีย
จุดดีอีกอย่างนี่ว่าคนแคสเค้ามองขาด เคมีหลายคู่หลายคนในเรื่องเข้ากันได้ดี พระนายคือไม่ต้องพูดไรมาก พี่ไห่เคมีดีทั้งกับจูและเฉิง
หยกคู่ บ้านบัว ออร่าความพี่น้องคือทะลุมาก แม้แต่บทเวินฉิงยังแคสมาได้คนเคมีเข้ากับจ้าน&เฉิงเลย มีเสี่ยวซิงเฉินผิดจากที่จินตนาการไปหน่อย คิดไม่ถึงว่าจะดูสวยขนาดนี้ แต่ไม่ใช่ว่าไม่ดีคือกูอาจจะติดภาพม่านฮวาอะ ม่านฮวาดูไปทางหล่อ แต่จี้หยางก็คือเคมีกะอีกสองคนแรงเหมือนกัน
>>790 มึงต้องเจอแบบเหมือนกลุ่มปสดแยกแนวนิยายไม่ออกอะ พูดอยู่ได้ว่าปรมจคือนิยายรัก Boys' Loveคือนิยายรักทั้งหมด ทั้งที่ความเป็นจริงBoys' Loveมันคือความว่าเป็นนิยายรักแนวชรักช แต่เวลาแยกแนวเขาแยกกันที่เส้นเรื่อง ว่าเส้นเรื่องดำเนินไปทางไหน เช่น พีเรียด กำลังภายใน ดิสโทเปีย ปัจจุบัน อนาคต กลายว่ากลุ่มนั้นถือว่าปรมจคือนิยายรักกูกุมหัวเวลาอ่านทุกครั้ง
>>792 มึงพูดซะกูคิดถึงม่า “ปรมาจารย์มีอะไรมากกว่าความรักวั่งเซียนเลย”เป็นม่าที่สะท้อนความประสาดแดกของด้อมพอๆกะอิปกคู่เลย ม่าจนบกร.ต้องออกมาชี้แจ้งอะคิดดู บางทีกูก็งงนะว่าอิด้อมนี้แม่งอ่านภาษาไทยไม่แตกฉานถึงขนาดแค่ตีความประโยคง่ายๆไม่ออกเลยหรอ ถ้าแม่งตีความกันไม่ออกจริงๆระบบการศึกษาไทยคงถอยหลังลงคลองที่ปล่อยพวกนี้จบออกมาได้
>>792 เพราะงั้นนิยายวายเลยเป็นแบบนิยายชายหญิงไม่ได้ซักที จะออกมากี่แนว นักเขียนเค้นสมองให้ตาย ไอเดียบรรเจิดหรูเริ่ดขนาดไหน คนก็ติดภาพมองว่าวายรวมๆกันไปหมด ดั่งที่มิตรสหายโม่งท่านนี้ได้กล่าวไว้ >>322
นอกจากนิยายวาย = นิยายรักแล้วคือบางกลุ่มในด้อมสุดโต่งมาก แทบเป็นความเชื่ออะ ถ้าตามม่าตลอดคือเค้าอินที่พี่วั่งรอเว่ยอิงมาก การที่ขนมว่าแบบนั้นมันเลยไม่เข้าหู ขัดศรัทธา เลยมีประโยคแนวๆ"ดูถูกความรัก" ละคือปรามไม่ได้ ไม่ใช่ว่าในด้อมไม่มีคนสติดีๆแต่คนที่พูดปรามคือโดนเมินไปแล้ว คนที่พูดออกแนวแรงแต่จริงก็โดนรุม+ความชอบไหลตามกระแสของชาวนกฟ้าอีก เลยบรึ้มมม
แต่ก็แอบย้อนแย้ง คือเวลาอวยคืออวยเนื้อหา ยิ่งซีรี่ย์ยิ่งอวยเนื้อหาดีกว่าวายทั่วไปที่เน้นสกินชิฟ เน้นหื่น คนเค้าเลยหมันไส้กันไง กรรมจริงๆ
>>794 55555555555 นึกถึงตอนซีรีส์ยังออนแอร์อยู่ ติ่งซีรีส์แม่งอวยกันว่าปรมจ.ดีเพราะเป็นโบรแมนซ์ ไม่เซอร์วิสวายออกนอกหน้า ไม่มีโมเมนต์ยัดเยียดแบบวายไทย แค่หย่อนๆมาแล้วให้ไปมโนกันเอง สาววายชอบแบบนี้มากกว่า แล้วเป็นไงล่ะ พอหนังสือไม่มีปกคู่เท่านั้นแหละ แม่งเป็นบ้ากันทั้งด้อม ผีเปรตแท้ 5555555555
ปสดแค่ไหน คิดดูตอนนี้แม่งยังไม่เลิกจิ้นนักแสดงกันอีก ป๋อจ้าน แต่ละคนแม่งอย่างกาวเหอะ
มันคนละเรื่องเดียวกันรึป่าว คือ จิ้น/ชิป มันก็มโนอยู่แล้วนี่ เกาหลีก็มี หนังที่จบไปแล้วก็มี คู่นสดซีรี่ย์คนอื่นเค้าก็ยังชงกัน ส่วนปสดก็ปสด กาวก็กาว
>>787 ตอนเล่ม1ออก ซีรีย์ยังไม่ออก ขนมก็แปลแบบไม่ทับศัพท์มาก่อนแล้ว ชื่ออาวุธ ชื่อสถานที่ก็ไม่มีปัญหาอะไร พอซีรีย์ออกเท่านั้นลูกชังติเรื่องแปลชื่อมาหมด ตัวเองติดชื่อทับศัพท์จากซีรีย์พอมาอ่านนิยายโวยวาย จำไม่ได้ อันนั้นมันเป็นปัญหาของพวกมึงเองแล้ว ถ้าขนมมาเปลี่ยนเป็นแบบทับศัพท์ในเล่ม2 ทั้งที่เล่ม1แปลแบบไม่ทับ กูนี้จะด่าเลย
>>770 แค่คิดว่าเทียนกวานทับศัพท์แหลกลาน กูอ้วกแน่ เฮ้อ รอโม่งสปอยจนกูเริ่มลืมบางอย่างแล้วรอหนังสือเลยดีมั้ย จะกลับไปขุดมู้อ่านก็กลัวค้างอีกT^T
>>791 กุอยากเห็นคนแสดงเวินฉิงเล่นคู่กับเซียวจ้านซักเรื่อง
เออ ตรยขมีข่าวจะทำซีรี่ส์บ้างมั้ยดูเงียบๆเทียนกวานยังไม่รู้แคสที่แน่นอนซักที กุลุ้นฮวาเฉิงมากกว่า ผัวจนกุนึกไม่ออกว่าใครเหมาะ
ปกอาเหยาจะเอาปกอื่นมาห่อทับไม่เกรงใจฉางหยาง แต่ปกนี้กลิตเตอร์บังนิดกรีดร้องว่าขนมทำลายความงามงานฉางหยาง กุขำ
กูงงว่าทำไมยังมีคนคาดหวังให้ สนพ อื่นซื้อลิข ไปทำต่อ ตลกชิบ555 มึงคิดว่าจะมีสนพ ซื้อไปทำต่อจริงๆเหรอ มีความเป็นไปได้ไหม
ปกกลิตเตอร์แม่งทุเรศจริงๆอ่ะ ไม่รู้คิดไงถึงใช้ปกงี้ แต่บ้อกดีนะ
กูไม่เคยเห็นด้อมไหนปสดแดกและหน้ามึนมากกว่าอิด้อมนรกนี่เลย ใครคอมเม้นอธิบายเสือกบอกเขาเข้าข้างบกร. ด่าคนแปลเรื่องไม่ทับศัพท์ พาลเรื่องอื่นเพราะไม่ได้ปกคู่ ที่สำคัญอวยทุกสำนักพิมพ์ที่ไม่ใช่ขนมทำทีเหมือนไม่รู้ว่าสนพที่อวยมีวีรเวรอะไรบ้าง
>>811 ใส่ประชดลูกค้าป่าวมึง เห็นแฟนคลับบอกไม่ชอบๆๆ ปกป่าช้า ไม่มีปกคู่ ปกหม่นไป สีโทนมืด แถมแฟนคลับชอบพูดเหมือนเนื้อหาในเรื่องใสๆ+ชอบปกเกา บกร.เลยจัดเลยชมพูทั้งหน้า ปกคู่ ใส่กลิตเตอร์สเหมือนกลัวฟุ้งฟริ้งไม่พอ กูว่าอิเล่มพิเศษเหมือนบกร.มันเอาความไม่พอใจที่ค่อนไปทางปสด.ของอิด้อมนี้มาทุ่มใส่ว่ะ ทั้งเปลี่ยนนักแปล ทำปกคู่แบบฟุ้งฟริ้งเวอร์วัง สีไม่หม่น ปกไม่มืด และแน่นอนผู้รับกรรมหนักสุดคือลูกค้าที่ยืนงงในดงด้อมปสด.
>>813 ถ้าใส่ประชดลูกค้าจริงก็เดินเกมผิดอ่ะ ทีนี้นอกจากพวกปสดที่ด่าเป็นปกติอยู่แล้ว คนปกติก็จะออกมาบ่นด้วยเพราะแม่งน่าเกลียด อีห่า แต่กูคิดในแง่ดีอาจจะไม่ได้ทำประชด ตั้งใจทำเอาใจลูกค้าแต่ฝ่ายศิลป์ดันรสนิยมไม่ดี ซึ่งก็เป็นไปได้เมื่อดูจากปกผู้ช่วยเหรียญทอง ถถถถถถ
>>820 ปกผู้ช่วยคือทำกูลังเลหนักมากจริง 555 แต่เดาว่ามันอาจจะดูทันสมัยในยุคนั้นก็ได้มั้ง?
แบบขุนศึกคู่บัลลังก์ภาค 1 อะ 4 เล่ม ปกไม่น่าซื้อเลยสักเล่ม (ซึ่งกูก็เดาว่ามันคงดูดีในยุคนั้น???) จนพิมพ์ซ้ำถึงต้องจ้างวาดใหม่
ปอลอ กูได้ปรมจ. เล่มพิเศษมาแล้ว ขุ่นพระ ตกใจกับกลิตเตอร์มาก วิ้งวั้งไม่สวยเลยยยยย ดูโลว์เทสจนกูเจ็บนม
กล้าบอกเลยว่ากูคือกองอวยขนมเค้ก เพราะกูเคยติดต่อแอดมินด้วยปัญหาปญอ.ของกูเอง แล้วทางนั้นทรีตลูกค้าโง่ๆอย่างกูดีมาก
แต่ปกงวดนี้กูอวยไม่ไหวจริงๆ จาร้องไห้แล้วเนี่ย
อย่างน้อยเป็นกลิตเตอร์แบบที่เหมือนแผ่นๆเกล็ดปลาสายรุ้งเรียงๆกันหรือแบบข้าวหลามตัดที่ชอบทำลงอะคิริกกันก็ยังดีนะมึง นี่มาแบบเป็นจุดๆ ไม่ได้อยากเรื่องมากแต่กูเพลีย
ตอนพวกเงาแค้นด่าเรื่องปกว่ามืดอย่างนั้น ไม่มีรูปคู่อย่างนี้ กูนี่แอบด่าในใจว่าพวกมึงซื้อนิยายมาอ่านหรือซื้อมาดูปก บ่นเรื่องปกอยู่ได้
แต่ปกเล่มพิเศษทำเอาคำด่ากูเข้าตัวมาก กูอยากโหยหวนแล้วบ่นดังๆ ไปถึงฝ่ายออกแบบของบกร. นี่ถ้าพิมพ์ซ้ำแล้วไม่มีวิ้งๆ กูจะซื้อเก็บอีกเล่มนึงเลย
ดิ้นตามสายฉอดก็งี้ อยากได้ฝดไฝ่ๆ จัดรุ้งให้เลย เป็นไงล่ะเมิงสดใสพอไหม
ไอ่ปกกลิตเตอร์กูมันเริ่มลอกตรงมุมนิดๆด้วยว่ะ ลอกแบบชั้นพลาสติกกลิตเตอร์กับส่วนกระดาษเริ่มแหกจากกัน กูชักกลัวว่าในอนาคตมันจะแหกออกมาทั้งปกแล้วเนี่ย
แจกความฝลดใฝล แย้งตากูมาก
กูรู้สึกว่าขนมดิ้นตามติ่งด้อมปสดมากไปว่ะ เห็นได้ชัดๆเลยจากเล่มพิเศษที่แม่งเปลี่ยนทุกอย่างตามที่ติ่ง สุดท้ายโดนด่าหนักกว่าเก่า555 อย่างที่โม่งด้านบนบอกแหละเอาใจให้ตายคนไม่ใช่ยังไงมันก็ไม่ใช่ ขนาดคนตามอวยต้อนนี้ยังเอือมความแสบตาของปกรุ้งเลย แต่ก็นะขนมมันคงกลัวอิด้อมนี้มั้งตัวเองเป็นสนพเล็กๆพึ่งตั้งได้ไม่นาน(เมื่อเทียบกับสนพอื่น)เงินทุนก็ไม่หนา แถมอิด้อมนี้คนเยอะ ดัดเสือกเสียงดังด้วยเลยต้องเอาใจหน่อย แม้ความจริงอิพวกด่าๆมันจะซื้อไม่กี่คนก็ตาม ไม่ซื้อสะสมก็เฮโลอ่านเถื่อนกัน กุรู้สึกว่าปก1-5 มันโอเคเลยนะถึงเล่ม 5 มันจะโดดแต่ยังพอกลืนๆได้อยู่พอมารวมในบล็อกเดียวกัน แต่แหกสุดคืออิปกพิเศษอะขนมแม่งยิ่งกว่าคำว่าพลาด กุเห็นแล้วอยากกู่ร้องว่ามึงทำเหี้ยอะไรลงปายยยยยยอิขนมมมมม
ปล.ต่อจากข้างบน กุอยากรู้ว่าใครมันจุดประกายค่านิยมทับศัพท์แย่ว่ะ กุอยากบีบคอเขย่าถามว่า “มึงไม่เคยอ่านนิยายแปลจีนหรอ สัส” ทำกุต้องกุมขมับทุกครั้งเวลากุอ่านนิยายจีน ที่ตลกกว่าคือเชิงอรรถรสไม่ได้ใช้กับคำทับศัพท์จีน สำนวนจีน แต่เสือกใช้กับสำนวนไทย คำไวพจน์ กุจะบ้าตาย ตรรกะการแปลมันวิบัติเกินไปละ
คนอ่านมันมีหลายระดับว่ะ คำไทยที่เราคิดว่าทุกคนรู้จักกันบางคนไม่รู้จักก็มี แล้วแม่งเสือกเห็นแล้วรีบเอาไปฉอดแทนที่จะหาความรู้ก่อน สนพคงเจอบ่อยจนหลอนจนต้องใส่คำแปล ไม่ต้องไปไหนไกล ขนาดในโม่งยังเคยมีเคยมาฟาดๆสนพเลยว่าพิมพ์ผิดๆๆๆ สรุปแม่งเป็นคำที่ถูกแล้วแต่ไม่รู้จักเอง ใส่ไว้เป็นไม้กันหมาแหละ
กูว่าขนมรสนิยมไม่ได้แย่ แต่แค่เหมือนรู้จักเลล่าคนเดียว ลำพังเลล่าก็เกร่อชห เจอผู้ช่วยไปกูตึ้บเลย เป็นบุญของด้อมปรมจที่อาร์ตฉางหยางด้อมนี้ปัง ไม่งั้นกูว่าไม่พ้นเลล่าหรือปกเดิม กูสงสัยจริงๆอะไรดลใจให้เลือกกลิตเตอร์โฮโลแกรมสไตล์ท้ายรถสิบล้อ ใช้ปกธรรมดาเคลือบด้านก็ได้ เกือบดีละ ติดแต่ปก
วันนี้กูเพิ่งได้ ปรมจ เล่มพิเศษ ปกกลิตเตอร์มากจริงๆ ภาพหน้าปกสวยมากนะ แต่พอมีกลิตเตอร์แล้วทำให้ดรอปเลยอะ กูมองหน้าปกแล้วปวดตาเลยอะ
กูว่าปกเล่มพิเศษงานฉางหยางดูเผาชิบหาย เพื่อนกูแย้งว่ามันเป็นสไตล์แต่กูเข้าไม่ถึง ปกของเรื่องอื่นบางเรื่องของคนวาดคนนี้ กูก็ว่ามืดมนเหมือนกัน ไม่เห็นจะสวยอย่างที่อวยๆ กันเลย แต่สนพทำแบบไหนมากูก็ซื้ออยู่แหละ เพราะปกติกูไม่ค่อยดูปกอยู่แล้ว กลิตเตอร์นี่ถ้าไม่เอามาส่องแสงก็เฉยๆ แต่ถ้ามึงส่องกับไฟรับรองตาบอดแน่ 555
เผายังไง กุยังไม่เห็นของจริงน่ะ
งานฉางหยางสไตล์งานเขาจะปาดทิ้งแบบหยาบๆ ให้เห็นเหมือนเป็นฝีแปรง
ปก1-5+ตอนพิเศษ สำหรับกูปกเล่ม5สวยสุด
กูว่าลายเส้น อ.ฉางหยาง เหมือนคุโรมาตี้/เมะเก่าๆที่เพิ่มความวิริศมาหรา สวยดีแต่บางมุมก็ดูเก่าไป
กูถามเรื่องปรมาจารย์หน่อย ฉบับนิยายนะ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
1.เว่ยอิงสรุปร่างแรกตายยังไงอะ อ่านดูคือหลานจ้านพานางหนีมาที่เนินป่าช้า แล้วกลับไปรับโทษที่ตระกูล แล้วอยู่ก็มีข่าวว่านางตาย
2.ตราพยัคฆ์ทมิฬสร้างมาจากดาบตรงถ้ำเต่าใช่ปะ เสียดายไปค่อยมีบทบาทช่วงหลังๆเลย
3.เวินหนิงตรงเส้นทางฉงฉีสรุปนางเวียการควบคุมฆ่าซาลาเปาใช่ปะ
กูอ่าน ปรมจ เล่มพิเศษแล้วรู้สึกว่าอ่านลื่นกว่าเล่ม 1-5 ว่ะ
มีใครสั่งกับร้านนอกแล้วยังไม่ได้บ้าง Y__Y วันนี้เห็นเล่มพิเศษขายที่ร้านหนังสือ งึดแปป ยังไม่ได้อ่านเล้ยยยย
>>845 ส่วนตัวไม่รู้สึกต่างอ่า แต่เห็นคนอื่นมีทั้งบอกว่าลื่นกว่าและไม่ลื่นกว่าเดิม55
แต่ค่อยยังชั่วหน่อยจำถูก ตอนไปอวิ๋นเมิ่งจริงด้วย
>>841 นี่สต.มองว่าปกสวยทุกเล่ม แต่กูชอบปกเล่มนี้สุดนะ แบบว่าเด็กน้อยในสถานที่เลวร้ายอะ ชอบองค์ประกอบอธิบายไม่เก่ง แต่พอเมิงพูดงี้ เออ เห็นภาพแบบเรียนจิง(◍˃̶ᗜ˂̶◍)
ปกคู่กูให้ของเวอร์อื่นแล้วกันไม่ถูกโฉลกกะโฮโลแกรมอีกเสียง ;(
หมายถึงตอนเวินหนิงเจอจินจื่อเซวียน จินจื่อซวินกับเว่ยอิงป่าว ที่จื่อเซวียนตายอะ สรุปซาลาเปาคือใคร555 ชักงงแล้วรึเป็นกูเองอ่านไม่แตก555
เออ ฆ่าหมาป่าดูสันติสุดแล้วจิงในบรรดาเรื่องที่ยังไม่ฉาย(ณ เวลานี้)โม่งในมู้ก่อนพูดถูกต้องติ่งนสด.(not all)เอาความกัดแซะจิกเปียของด้อมเกามาใช้จิง(หรือเพราะสาววายส่วนใหญ่มาจากติ่งเกาวะ)
ตอนแรกกูเห็นแววฝั่งฮัสกี้มา ใครจะไปคิดว่าเรื่องล่าสุดนี่จะออกแววก่อน ก่อนฉายดูสงบอยู่ บรรยากาศนกฟ้าแม่งอย่างกะอยู่ในด้อมเกานิดๆเลย ประหนึ่งช่วงบบ.เคพัพเบียดอันดับกัน แต่ยังเบากว่าไม่รู้ในอนาคตจะมีไรพีคๆไหม จะเรื่องไหนถ้าซีรี่ย์มาคงหนีไม่พ้นความปสด.ซะละมั้ง คงต้องทำใจปลงเนิ่นๆกูสงสัยดูกันไปดีๆไม่ได้เหรอวะ เฮ้ออออออ
อ่า รัชศกฯพ้นไปแล้ว
พูดถึงนสด.เห็นในทวิตภพว่าคนไปแคสสวรรค์ฯเยอะเลยว่ะ อาจจะได้คนที่คาดไม่ถึงเลยก็ได้นะ ขอเหมาะกับบท เคมีเข้ากัน การแสดงเริ่ดๆ
พูดไปก็คิดถึงโม่งสปอย T T หนังสือก็เหมือนจะอีกไม่นานแต่เหมือนนาน ไกลแค่ไหนคือใกล้~~~
พูดถึงม่านฮวาหน่อยพี่ซีน่าสงสารจังใจเมียเจ่บไปหมดแล้ว เป็นตัวละครที่อยากให้มูฟออนมีครอบครัวแต่อีกใจก็ไม่อยากให้มี สรุปพี่ควรเป็นผัวกู5555น้องจะเยียวยาหัวใจพี่เองนะเคอะ
บทนำสวรรค์ประทานพร มาแล้ว เล่ม1น่าจะมางานหนังสือเดือนเมษาจริง
มาว่ะ ยังลังเลว่าจะเก็บไปเรื่อยๆ หรือรอซื้อทีเดียว ไม่ชอบอ่านค้างๆคาๆ
แค่คำโปรยเทียนกวานก็เห็นแววคำทับศัพท์บานเบอะแล้ว ใช้ไท่จื่อแล้วมาวงเล็บคำแปลเอา เดี๋ยวกูรอออกจบค่อยอ่าน แปดเล่มนี่จำไม่ไหวจริงๆ
กูชอบนะทับแบบนี้อ่านไม่ขัดตาดี แต่รอเก็บกว่าจะครบ นี่คงขาดใจตาย
ถ้าไม่นับทับศัพท์กูว่าสำนวนดีอยู่วะ
กูเห็นด้วยว่าสำนวนดีนะ แต่กูยืนยันนอนยันคำเดิม กูเกลียดคำทับศัพท์!!! ลวดคงคอนเซ็ปท์แปลได้ไม่แปลเหมือนเดิม กูแอบค่าหวังกับเกอเกอเป็นท่านพี่ แต่ก็นั้นแหละตามสภาพของคติใหม่ “ทับศัพท์เยอะ=แปลดี” ดูทรงแล้วคงไม่มีอภิปรายทายเล่มด้วย😩😥ฉายากับตำแหน่งเทพกูยังขอให้แปลนะกลัวสับสน ...แต่ก็นั้นแหละ
ถวายบังคมไท่จื่อ ขอทรงพระเจริญหวงจื่อ เป็นพระมหากรุณายิ่งหวงตี้ ขอทรงพระเกษมสำราญหวงโฮ่ว บองชูกุ้ยเฟย ขอบพระทัยหวงช่าง
//กู พลิกหาเชิงอรรถที่ต้นเล่ม
คิดสภาพมาแบบ>>871 กูคงขว้างหนังสือทิ้งอะ กูชักเริ่มคิดละว่าถ้าติ่งปสดอวยทับศัพท์ยังทำหน้าได้เสมอต้นเสมอปลายขนาดนี้ต่อไปคงเจอ เจิ้น เหล่าจือ ซือจุน ไท่จื่อ เปิ่นกง อัยเจีย หวายเฟย เวยฉิน อ้ายชิน เฉี้ย นู๋ไฉ เหล่าฝุ นู๋ปี้ เปิ่นกูเหนียง อี๋เหนียง เหลาสิ่ว เปิ่น เหนียงเหนี่ยง ไท่โฮ่ง หวงซ่าน ปี้เซี่ย เหล่าจ้าง ต้าเหริน หวางเย่ ฟู่หวง เหม่ยเหม่ย เกอเกอ เจี่ยเจีย ในนิยาย ไม่ต้องปงต้องแปลมันแล้วซื้อเล่มจีนอ่านเลยเหอะ
คิดสภาพนักอ่านที่เข้ามาใหม่คงแบบ เชี่ยไรเนี้ย!!!😂
ป.ล. กันอิติ่งปสดนี่ไว้แค่ที่สายวายจีนได้ไหม กูกลัวจะไประรานสายอื่น กูยังอยากอ่านหนังสือแปลแบบดีๆไม่ปวดประสาทอยู่😁
นึกสมัยตอนกูอ่านตัวร้ายฯ แล้วกูอ่านในใจ แม่งยังออกเสียงซือจุนในหัวผิด อ่านในใจเป็นซือสุน ซือสุน อิสัด อ่านในใจยังยาก กูต้องแบ่งสมองไปจำเชิงอรรถอีก
ตย เทียนกวานในดดมีลงรูปประกอบ ในรูปมีแปะโลโก้ไป่ตู้ ส่วนในรอรไม่มีรูปประกอบ
เมิงว่านั่นรูป อฟช หรือรูปแฟนอาร์ตดอยมา กูงงตรงที่ในดดมี แต่รอรไม่มี
กูปลงตั้งแต่รู้ว่าลวด.แปลแล้ว อยากรู้เหมือนกันว่าออกมาแล้วคนอวยกับคนเกลียดทับศัพท์รุงรังจะย้ายข้างกันไหม
เอาจริงกูว่าสำนวนไม่ได้ดีขนาดนั้น ยังมีติดปัจจุบันนิดหน่อย ดูขัดๆ ไม่ค่อยเข้ากัน ต้องเกลาอีกอ่ะ แต่ก็ไม่ได้แปลแย่หรืออะไร แต่พวกคำคล้องนี่ดีจริง กูตราตรึงกายอยู่โลกันต์ ใจอยู่ธารท้อมาก แปลได้สวย ยกนิ้วให้ ส่วนเรื่องทับศัพท์ส่วนตัวไม่ชอบ รัชทายาทก็รัชทายาทไปเลยดิ แต่มันก็เป็นเรื่องของความชอบส่วนบุคคลว่ะ จะด่าก็ด่าไม่ได้ แถมช่วงนี้กระแสทับศัพท์มาแรง สนพ อาจจะสั่งทับได้ทับเลยก็ได้ กันโดนด่า สายแปลหมดอย่างกูก็จะเฉาๆ หน่อย ตามเทรนด์เขาไม่ทัน
กูบอกตรงๆมึงจะทับศัพท์เยอะเรี่ยราดก็ได้ แต่มึงช่วยใส่เชิงอรรถรสทุกคำ กูจะได้เข้าใจว่ามันแปลว่าอะไร ไม่ใช่มึงมาทับศัพท์โง่ๆดื้อๆแล้วให้กูนั่งจิ้มจุ่มเดาเอาเองว่ามันแปลว่าอะไร ถ้าเป็นแบบนี้กูไม่เคืองแต่กูโกธรจะทำเอาใจคติยุคนี้หรือจะทับเอาไว้เป็นไม้กันหมาก็แล้วแต่ แต่มึงควรใส่เชิงอรรถรสทุกคำที่มึงทับ มึงอย่าคิดว่านักอ่านทุกคนเขาจะเข้าใจคำทับศัพท์ของมึง ช่วยมีความรับผิดชอบในความมักง่ายต่อการแปลนิยายทับศัพท์ของมึงด้วยค่ะ ถ้าจะมักง่ายแล้วใส่เชิงอรรถรสมาด้วยอย่าน้อยก็รับผิดชอบในอาชีพหน่อย ถ้ากูซื้อนิยายแปลมาแล้วกูยังต้องเสิร์จหาความหมายแปลเองอีกกูจะซื้อนิยายแปลมาอ่านทำไม!?
สำหรับกูขอทับศัพท์แค่ตำแหน่งว่ะ เหมือนอ่านนิยายฝรั่งแล้วท่านลอร์ด ท่านเคาทน์ ท่านมาร์ควิส ถ้าเป็น ท่านโหว ซื่อจื่อ ไท่จื่อ หวงโฮ่ว กูพอได้ คิดเหมือนโม่งข้างบนว่าเป็นตำแหน่งราชการ แต่อาเหนียง อาเตีย เกอเกอ จิ้วจิ่ว เม่ยเม่ย ซื่อฟุ นี่ขอร้องแปลเถอะ
กราบบูชาพระรัตนตรัย (พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์)
กราบครั้งที่ 1 กราบพระพุทธ
กราบครั้งที่ 2 กราบพระธรรม
กราบครั้งที่ 3 กราบพระสงฆ์
คำบูชาพระรัตนตรัย (พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์)
คำบูชาพระรัตนตรัย (พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์)
คำกล่าวสักการะนอบน้อมบูชาแด่พระรัตนตรัย (พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์) ผู้ไกลจากกิเลส ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง
อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง อะภิปูชะยามิ
อิมินา สักกาเรนะ ธัมมัง อะภิปูชะยามิ
อิมินา สักกาเรนะ สังฆัง อะภิปูชะยามิ
บทสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัย (พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์)
บทสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัย (พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์)
บทสวดมนต์แบบสั้น นั้นอาจทำให้หลายๆ คนที่ต้องการสวดมนต์ แต่ไม่ค่อยมีเวลาหรือไม่สามารถนั่งสวดมนต์นานๆ ได้นั้น สามารถสวดมนต์ได้อย่างสบายใจ ถึงแม้จะเป็นบทสวดมนต์แบบสั้นๆ แต่ก็มีครบทุกบทที่จำเป็นในการภาวนา เจริญจิต และแผ่บุญส่วนกุศลนี้ไปถึงสรรพสัตว์น้อยใหญ่ทั้งหลายได้อย่างครบถ้วน
เริ่มต้นบทสวดมนต์ กราบพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ (3 ครั้ง) แล้วจึงเริ่มต้นกล่าวบทสวดตามปกติ
คำบูชาพระ
อิมินา สักกาเรนะ ตัง พุทธัง อะภิปูชะยามิ
อิมินา สักกาเรนะ ตัง ธัมมัง อะภิปูชะยามิ
อิมินา สักกาเรนะ ตัง สังฆัง อะภิปูชะยามิ
บทสวดมนต์ บูชาพระรัตนตรัย
อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ ฯ (กราบ)
สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ธัมมัง นะมัสสามิ ฯ (กราบ)
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ ฯ (กราบ)
บทสวดมนต์ แผ่เมตตาแก่ตนเอง
กราบพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
อะหัง สุขิโต โหมิ ขอให้ข้าพเจ้ามีความสุข
นิททุกโข โหมิ ปราศจากความทุกข์
อะเวโร โหมิ ปราศจากเวร
อัพยาปัชโฌ โหมิ ปราศจากอุปสรรคอันตรายทั้งปวง
อะนีโฆ โหมิ ปราศจากความทุกข์การทุกข์ใจ
สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ มีความสุขกายสุขใจรักษาตนให้พ้นจากทุกภัยทั้งสิ้นเถิด
บทสวดมนต์ แผ่เมตตาให้สรรพสัตว์
สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิดแก่เจ็บตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น
อะเวรา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย
อัพะยาปัชฌา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย
อะนีฆา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กาย ทุกข์ใจเลย
สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ จงมีความสุขกาย สุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด
บทสวดมนต์ บทแผ่ส่วนกุศล
อิทัง เม มาตาปิตูนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ มาตาปิตะโร
คำแปล: ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่บิดามารดาของข้าพเจ้า ขอให้บิดามารดาของข้าพเจ้ามีความสุข
อิทัง เม ญาตีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย
คำแปล: ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอให้ญาติทั้งหลายของรข้าพเจ้ามีความสุข
อิทัง เม คุรูปัชฌายาจริยานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ คุรูปัชฌายาจริยา
คำแปล: ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้า ขอให้ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้ามีความสุข
อิทัง สัพพะเทวะตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เทวา
คำแปล: ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เทวดาทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เทวดาทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข
อิทัง สัพพะเปตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เปตา
คำแปล: ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เปรตทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เปรตทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข
อิทัง สัพพะเวรีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เวรี
คำแปล: ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข
อิทัง สัพพะสัตตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ สัตตา
คำแปล: ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ขอให้สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงมีความสุขทั่วหน้ากันเทอญ.
เมนูอาหารสำหรับวันนี้ ลองขนมหวานแบบง่ายๆ เมนูถั่วเขียว ขอเสนอ เต้าส่วน ภาษาอังกฤษ เรียก Mung Bean Pudding เคล็ดลับความอร่อยของเมนูนี้ คือ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาติ เนื้อถั่วเขียวต้องเนียนสุกพอดี ยังมีความเป็นเม็ดถั่วเขียวอยู่ น้ำแป้งเหนียวกำลังพอดี และ ความหวานตัดกับน้ำกะทิ อย่างลงตัว
สูตรเต้าส่วน ขนนหวานจากถั่วเขียว แบบง่ายๆ ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูขนมไทย
ส่วนผสมสำหรับทำเต้าส่วน
ถั่วเขียวกระเทราะเปลือกผ่าซีก 1 กิโลกรัม
น้ำเปล่า 3 ลิตร
ใบเตย 3 ใบ
น้ำตาลทรายแดง 1 กิโลกรัม
เกลือป่น 1 ช้อนชา สำหรับน้ำเต้าส่วน
แป้งมันสำปะหลัง 2 ช้อนโต๊ะ
แป้งเท้ายายม่อม 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง สำหรับใช้ผสมแป้ง
หัวกะทิ 1 ลิตร
เกลือป่น 1 ช้อนชา สำหรับน้ำราดกะทิ
วิธีทำเต้าส่วน
เริ่มจากการเตรียมถั่วเขียวก่อน โดยนำไปแช่น้ำและคัดเอาถั่วที่ลอยน้ำออกให้หมด ล้างให้สะอาด แช่ถั่วเขียวในน้ำเปล่า 2 ชั่วโมง จากนั้นนำมานึ่งในหม้อนึ่งด้วยความร้อนปานกลาง ใช้เวลานึ่ง 30 นาที ลองชิมว่าถั่วเขียวสุกจากนั้นให้นำถั่วเขียวมาพักให้เย็นก่อน หากถั่วเขียวยังไม่สุกให้นึ่งจนกว่าจะสุก
เตรียมหม้อต้ม โดยต้มน้ำให้เดือด จากนั้นเอาใบเตยลงไปต้มด้วยไฟอ่อนๆ ให้น้ำมีกลิ่นหอมใบเตย เติมน้ำตาลทราย และ เกลือ ลงไป เคี้ยวให้ได้ที่ลองชิมให้ได้รสน้ำเชื่อมที่กลมกล่ม
เตรียมแป้ง โดยน้ำ 1 ถ้วยตวง ผสม แป้งท้าวยายม่อม และ แป้งมันสัมปะหลัง ผสมแป้งให้ละลาย และพักเอาไว้ก่อน
สำหรับหม้อน้ำเชื่อมเอาใบเตยออก จากนั้นเร่งไฟให้เดือด กวนน้ำเชื่อมเร็วๆ ค่อยๆหยอดน้ำผสมแป้งลงไปทีละนิดกวนจนน้ำเชื่อมเหนียวได้ที่ จากนั้นปิดไฟ ใส่ถั่วเขียวนึ่งลงไป กวนให้ถั่วเขียวนึ่งทั่วน้ำเชื่อม พักให้เต้าส่วนเย็น
เตรียมน้ำกะทิ โดยต้มหัวกะทิด้วยไฟอ่อนๆ และ ใส่เกลือป่นลงไป เคี้ยวให้กะทิพออุ่น อย่าให้กะทิแตกมัน จากนั้นก็พักน้ำกะทิเอาไว้ก่อน
ตักเต้าส่วนใส่ชาม และ ราดด้วยน้ำกะทิ พร้อมรับประทานได้
เคล็ดลับการทำเต้าส่วน
ถั่วเขียว เลือกใช้ถั่วเขียวกระเทาะเปลือก และ ผ่าซีก สามารถเลือกซื้อถั่วเขียวฝ่าซีกกระเทาะเปลือกแบบสำเร็จรูปได้
การเตรียมถั่วเขียว ให้คัดเอาถั่วเขียวที่เสียออกก่อน โดยการแช่น้ำ หากถั่วเขียวลอยน้ำแสดงว่าใช้ไม่ได้ ให้คัดออก จากนั้นล้างให้สะอาด ล้างเบาๆหลายๆน้ำจนถั่วเขียวไม่มีี
การนึ่งถั่วเขียวให้สุกก่อน ทำให้เราได้ถั่วเขียวที่สุกพอดี หากใช้การต้มถั่วเขียวให้สุก บางครั้งไม่สามารถควบคุมคุณภาพถั่วเขียวให้สุกทุกเม็ดได้ การนึ่งถั่วเขียวให้แช่น้ำแค่ 2 ชั่วโมงพอ อย่าให้นานกว่านั้นถั่วจะเละ และ การนึ่งให้นึ่งด้วยไฟปานกลาง 30 นาที จะได้ถั่วเขียวที่สุกพอดี ก่อนนำไปผสมน้ำเชื่อมแป้ง ให้ลองชิมถั่วเขียวก่อนว่าสุกหรือไม่ หากยังไม่สุกให้นึ่งต่อจนกว่าถั่วเขียวจะสุกพอดี
น้ำเชื่อมให้ใส่ใบเตยลงไป จะไดกลิ่นหอมของใบเตย โดยให้ทุบใบเตยให้ช้ำสักหน่อยก่อนนำไปต้ม โดยต้มด้วยไฟอ่อนๆ ให้ความหอมของใบเตยค่อยๆออกมา
การผสมน้ำแป้ง ให้กวนน้ำให้เร็วๆ และ น้ำเดือด ค่อยๆหยอดน้ำแป้งลงไป จะได้น้ำเชื่อมที่เหนียวพอดี แป้งไม่จับตัวเป็นก้อน
กะทิให้ใช้ หัวกะทิคั้นสดๆจากเนื้อมะพร้าวทึนทึก น้ำกะทิคั้นสด ให้ความหอมของกะทิอย่างลงตัว
เต้าส่วน ขนมไทย ถั่วเขียวนึ่งสุก น้ำเหนียวพอดีตัดกับกะทิอย่างลงตัว วิธีทำเต้าส่วน ง่ายๆสามารถทำกินเองได้ ขนมหวานจากถั่วเขียว มีถั่วเขียวทำอะไรกินได้บ้าง เคล็ดลับความอร่อยของเต้าส่วนอยู่ตรงไหน
ถ้าเราอ่านทั้งปรมจและตัวร้ายไม่ค่อยคลิกเราจะอ่านเทียนกวานคลิกมั้ยเพื่อนโม่ง เห็นหลายคนดูชอบกันแต่ไม่มั่นใจตัวเองกลัวว่าซื้อเล่ม1มาแล้วจะไม่อยากอ่านต่อเหมือนทั้งสองงาน
สูตรน้ำพริกสุโขทัย ส่วนผสมและขั้นตอนเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูน้ำพริก
ส่วนผสมสำหรับทำน้ำพริกสุโขทัย
พริกป่น 1 ถ้วยตวง
กระเทียม 1 ช้อนโต้ะ นำมาโขรกละเอียด
น้ำพริกเผา 2 ช้อนโต้ะ
น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต้ะ
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต้ะ
เกลือป่น 1 ช้อนชา
หมูสับ 1 ขีด
หมูสาม 1 ขีด หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง
ผักสดสำหรับทานกับน้ำพริก เช่น แตงกวา มะเขือเปราะ ถั่วฝักยาว ถั่วพลู เป็นต้น
วิธีทำน้ำพริกสุโขทัย
ตั้งกระทะให้ร้อน จากนนั้น ใส่ หมูสามชั้น ลงไปผัด โดยผัดให้หมูสามชั้นคายน้ำมันหมูออกมา ผัดจนหมูสามชั้นกรอบสุก ขั้นตอนนี้ อาจจะใส่น้ำมันเล็กน้อยช่วยให้หมูสุกเร็วขึ้น
เมื่อหมูสามชั้นได้ที่ ให้ใส่หมูสับ และ กระเทียม ลงไปผัดให้หมูสับสุกและหอมกระเทียม
จากนั้นจึงปรุงรสด้วย น้ำพริกเผา พริกไทย น้ำเปล่า น้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปี๊ยก และ เกลือ ผัดให้ส่วนผสมเข้ากัน
เสริฟน้ำพริกใส่ถ้วยน้ำพริก ทานคู่กับข้าวหุงสุก และ ผักสดตามใจชอบ
เคล็ดลับการทำน้ำพริกสุโขทัย
เคล็ดลับสำคัญของเมนูนี้ คือ วัตถุดิบที่สดใหม่ และ การปรุงรสชาติ ให้ หวานอมเปรี้ยว มีรสชาติของเนื้อหมู
เนื้อหมูให้เลือกหมูสดๆ หมูสับให้ใช้หมูสันใน นำมาหั่น และ สับเอง ไม่แนะนำให้ใช้หมูสับสำเร็จ เพราะ เขาใช้เศษหมูและ มันหมูผสม ไม่ได้เนื้อหมูส่วนที่มีคุณภาพมาทำอาหาร
หมูสามชั้น ให้เลือก ส่วนที่มีเนื้อ 3 ส่วน มันหมู 7 ส่วน ให้มีชั้นของเนื้อและไขมันที่พอดี ไม่มีไขมันมากเกินไป จะได้หมูสามชั้นที่อร่อยพอดี
กระเทียม เลือกใช้กระเทียมไทย นำมาทำอาหาร หากนำไปเผาก่อน จะทำให้กระเทียมส่งรสหวานเพิ่ม และ ความหอมของกระเทียมเผา ทำให้อาหารมีกลิ่นและรสชาติที่ดีขึ้นไปอีก
มะขามเปียก เลือกใช้มะขามที่ให้รสเปรี้ยว สามารถชิมรสชาติของน้ำมะขามก่อนนำามปรุงอาหารได้ หากความเปรึ้ยวไม่พอ ก็ใส่น้ำมะนาวช่วย
ความหวานในอาหารไทย ควรเลือกใช้ความหวานจากน้ำตาลปี๊บ เพราะ รสชาติ ความหอม ความเนียนของเนื้อน้ำตาล ให้ความเป็นธรรมชาติ
น้ำพริกสุโขทัย สูตรอาหารไทย น้ำพริกพื้นบ้าน วิธีทำน้ำพริกสุโขทัย ง่ายๆทำกินเองที่บ้านได้ อาหารภาคกลาง เมนูหมู น้ำพริกรสไม่เผ็ด หมูสับทำอะไรกินดี หมูสามชั้นทำอะไรกินได้บ้าง
ยอดพระกัณฑ์พระไตรปิฎก ( คำแปลอยู่ด้านล่าง )
ยอดพระกัณฑ์ฉบับนี้ ได้มาจากต้นฉบับเดิมที่จารไว้บนใบลานเป็นอักษรขอม
ซึ่ง เปิดกรุครั้งแรกที่เมืองสวรรคโลก มีบันทึกเอาไว้ว่าผู้ใดสวดมนต์เป็นประจำทุกเช้าเย็น
จะป้องกันภัยอันตรายต่างๆได้รอบด้าน ภาวนาพระคาถาอื่นสัก ๑๐๐ปีก็ไม่เท่ากับ
อานิสงส์ของการสวดยอดพระกัณฑ์พระไตรปิฎกนี้เพียงครั้งเดียว
ผู้ใดที่สวดครบ ๗ วัน หรือครบอายุปัจจุบันของตัวเอง จะมีโชคลาภ ทำมาค้าขายรุ่งเรือง
ปราศจากภัยพิบัติทั้งปวง
ก่อนสวดยอดพระกัณฑ์พระไตรปิฏก พึงคุกเข่าพนมมือตั้งใจบูชาพระรัตนตรัย
นมัสการพระรัตนตรัย นมัสการพระพุทธเจ้า นมัสการพระพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ
ขอให้ตั้งจิตมั่นในบทสวดมนต์จะมีเทพยดาอารักษ์ทั้งหลายร่วมอนุโมทนาสาธุการ
อย่าได้ทำเล่นจะเกิดโทษแก่ตัว
คำบูชาพระรัตนตรัย
โย โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ อิเมหิ สักกาเรหิ ตัง ภะคะวันตัง อะภิปูชะยามิ
โย โส สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม อิเมหิ สักกาเรหิ ตัง ภะคะวันตัง อะภิปูชะยามิ
โย โส สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อิเมหิ สักกาเรหิ ตัง ภะคะวันตัง อะภิปูชะยามิ
นมัสการพระพุทธเจ้า
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ
๑. พุทธคุณ
อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะ สัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู
อนุตตะโร ปุริสะธัมมะสาระถิ สัตถาเทวมนุสสานัง พุทโธภะคะวาติ
๒. ธรรมคุณ
สวากขาโต ภะคะวะตาธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตังเวทิตัพโพ วิญญูหิติ
๓. สังฆคุณ
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ยะทิทังจัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะปุริสะปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเนยโย อัญชะลีกะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ
ยอดพระกัณฑ์พระไตรปิฎกมีดังนี้
๑.
อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง วัจจะโส ภะคะวา
อิติปิ โส ภะคะวา สัมมาสัมพุทโธ วัจจะโส ภะคะวา
อิติปิ โส ภะคะวา วิชชาจะระณะสัมปันโน วัจจะโส ภะคะวา
อิติปิ โส ภะคะวา สุคะโต วัจจะโส ภะคะวา
อิติปิ โส ภะคะวา โลกะวิทู วัจจะโส ภะคะวา
๒.
อะระหัง ตัง สะระณัง คัจฉามิ
อะระหัง ตัง สิระสา นะมามิ
สัมมาสัมพุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
สัมมาสัมพุทธัง สิระสา นะมามิ
วิชชาจะระณะสัมปันนัง สิระสา นะมามิ
สุคะตัง สะระณัง คัจฉามิ
สุคะตัง สิระสา นะมามิ
โลกะวิทัง สะระณัง คัจฉามิ
โลกะวิทัง สิระสา นะมามิ
๓.
อิติปิ โส ภะคะวา อะนุตตะโร วัจจะโส ภะคะวา
อิติปิ โส ภะคะวา ปุริสะธัมมะสาระถิ วัจจะโส ภะคะวา
อิติปิ โส ภะคะวา สัตถา เทวะมะนุสสานัง วัจจะโส ภะคะวา
อิติปิ โส ภะคะวา พุทโธ วัจจะโส ภะคะวา
๔.
อะนุตตะรัง สะระณัง คัจฉามิ
อะนุตตะรัง สิระสา นะมามิ
ปุริสะทัมมะสาระถิ สะระณัง คัจฉามิ
ปุริสะทัมมะสาระถิ สิระสา นะมามิ
สัตถา เทวะมะนุสสานัง สะระณัง คัจฉามิ
สัตถา เทวะมะนุสสานัง สิระสา นะมามิ
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
พุทธัง สิระสา นะมามิ
๕.
อิติปิ โส ภะคะวา รูปะขันโธ อะนิจจะลักขะณะปาระมี จะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา
อิติปิ โส ภะคะวา เวทะนาขันโธ อะนิจจะลักขะณะปาระมี จะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา
อิติปิ โส ภะคะวา สัญญาขันโธ อะนิจจะลักขะณะปาระมี จะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา
อิติปิ โส ภะคะวา สังขาระขันโธ อะนิจจะลักขะณะปาระมี จะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา
อิติปิ โส ภะคะวา วิญญาณะขันโธ อะนิจจะลักขะณะปาระมี จะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา
๖.
อิติปิ โส ภะคะวา ปะถะวีจักกะวาฬะ จาตุมะหาราชิกา ตาวะติงสา
ธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา เตโชจักกะวาฬะ จาตุมะหาราชิกา ตาวะติงสา
ธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา วาโยจักกะวาฬะ จาตุมะหาราชิกา ตาวะติงสา
ธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา อาโปจักกะวาฬะ จาตุมะหาราชิกา ตาวะติงสา
ธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา อากาสะจักกะวาฬะ จาตุมะหาราชิกา ตาวะติงสา
ธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
๗.
อิติปิ โส ภะคะวา ยามาธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา ตุสิตาธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา นิมมานะระติธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา กามาวะจะระธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน
๘.
อิติปิ โส ภะคะวา รูปาวะจะระธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา ปะฐะมะฌานะธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา ทุติยะฌานะธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา ตะติยะฌานะธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา จะตุตถะฌานะธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา ปัญจะมาฌานะธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน
๙.
อิติปิ โส ภะคะวา อากาสานัญจายะตะนะเนวะสัญญานา
สัญญายะตะนะอะรูปาวะจะระธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา วิญญาณัญจายะตะนะ เนวะสัญญานา
สัญญายะตะนะอะรูปาวะ จะระธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา อากิญจัญญายะตะนะ เนวะสัญญานา
สัญญายะตะนะ อะรูปาวะ จะระธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
๑๐.
อิติปิ โส ภะคะวา โสตาปะฏิมัคคะธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา สะกิทาคาปะฏิมัคคะ ธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา อะนาคาปะฏิมัคคะ ธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัตตะปะฏิมัคคะ ธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
๑๑.
อิติปิ โส ภะคะวา โสตาอะระหัตตะ ปะฏิผะละธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา สะกิทาคาอะระหัตตะ ปะฏิผะละธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน
อิติปิ โส ภะคะวา อะนาคาอะระหัตตะ ปะฏิผะละธาตุ สัมมาทิยานะ สัมปันโน
๑๒.
กุสะลา ธัมมา
อิติปิ โส ภะคะวา
อะ อา ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ชมภูทีปัญจะอิสสะโร
กุสะลา ธัมมา
นะโม พุทธายะ
นะโม ธัมมายะ
นะโม สังฆายะ
ปัญจะ พุทธา นะมามิหัง
อา ปา มะ จุ ปะ
ที มะ สัง อัง ขุ
สัง วิ ธา ปุ กะ ยะ ปะ
อุ ปะ สะ ชะ สุ เห ปา สา ยะ
โส โส สะ สะ อะ อะ อะ อะ นิ
เต ชะ สุ เน มะ ภู จะ นา วิ เว
อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ ภุ พะ
อิ สวา สุ สุ สวา อิ
กุสะลา ธัมมา
จิตติวิอัตถิ
๑๓.
อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง
อะ อา ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
สา โพธิ ปัญจะ อิสาะโร ธัมมา
๑๔.
กุสะลา ธัมมา
นันทะวิวังโก
อิติ สัมมาพุทโธ
สุ คะ ลา โน ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
จาตุมะหาราชิกา อิสสะโร
กุสะลา ธัมมา
อิติ วิชชาจะระณะสัมปันโน
อุ อุ ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตาวะติงสา อิสสะโร
กุสะลา ธัมมา
นันทะ ปัญจะ สุคะโต โลกะวิทู
มะหาเอโอ ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ยามา อิสสะโร
กุสะลา ธัมมา
พรหมมาสัททะ
ปัญจะ สัตตะ
สัตตาปาระมี
อะนุตตะโร
ยะมะกะขะ
ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
๑๕.
ตุสิตา อิสสะโร
กุสะลา ธัมมา
ปุ ยะ ปะ กะ
ปุริสะทัมมะสาระถิ
ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
๑๖.
นิมมานะระติ อิสสะโร
กุสะลา ธัมมา
เหตุโปวะ
สัตถา เทวะมะนุสสานัง
ตะถา ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
๑๗.
ปะระนิมมิตะ อิสสะโร
กุสะลา ธัมมา
สังขาระขันโธ
ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา
รูปะขันโธ พุทธะปะผะ
ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
๑๘.
พรหมมา อิสสะโร
กุสะลา ธัมมา
นัจจิปัจจะยา วินะปัญจะ ภะคะวะตา ยาวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
นะโม พุทธัสสะ
นะโม ธัมมัสสะ
นะโม สังฆัสสะ
พุทธิลา โลกะลา กะระกะนา
เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหนตุ
หุลู หุลู หุลู สะวาหายะ ฯ
๑๙.
นะโม พุทธัสสะ นะโม ธัมมัสสะ นะโม สังฆัสสะ
วิตติ วิตติ วิตติ มิตติ มิตติ จิตติ จิตติ
อัตติ อัตติ มะยะสุ สุวัตถิ โหนตุ
หุลู หุลู หุลู สะวาหายะ
๒๐.
อินทะสาวัง มะหาอินทะสาวัง
พรหมะสาวัง มะหาพรหมะสาวัง
จักกะวัตติสาวัง มะหาจักกะวัตติสาวัง
เทวาสาวัง มะหาเทวาสาวัง
อิสิสาวัง มะหาอิสิสาวัง
มุนีสาวัง มะหามุนีสาวัง
สัปปุริสาวัง มะหาสัปปุริสาวัง
พุทธะสาวัง ปัจเจกะพุทธะสาวัง
อะระหัตตะสาวัง สัพพะสิทธิวิชชาธะรานังสาวัง สัพพะโลกา
อิริยานังสาวัง เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ
๒๑.
สาวัง คุณัง วะชะพะลัง เตชัง วิริยัง สิทธิกัมมัง นิพพานัง
โมกขัง คุยหะกัง
ถานัง สีลัง ปัญญานิกขัง ปุญญัง ภาคะยัง ตัปปัง สุขัง
สิริรูปัง จะตุวีสะติเสนัง
เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหนตุ
หุลู หุลู หุลู สะวาหายะ
๒๒.
นะโม พุทธัสสะ นะโม ธัมมัสสะ นะโม สังฆัสสะ
ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา รูปะขันโธ เวทะนาขันโธ
สัญญาขันโธ สังขาระขันโธ วิญญาณะขันโธ
นะโม อิติปิโส ภะคะวา
๒๓.
นะโม พุทธัสสะ
ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา รูปะขันโธ เวทะนาขันโธ
สัญญาขันโธ สังขาระขันโธ วิญญาณะขันโธ
นะโม สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม
๒๔.
นะโม ธัมมัสสะ
ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา รูปะขันโธ เวทะนาขันโธ
สัญญาขันโธ สังขาระขันโธ วิญญาณะขันโธ
นะโม สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม
๒๕.
นะโม ธัมมัสสะ
ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา รูปะขันโธ เวทะนาขันโธ
สัญญาขันโธ สังขาระขันโธ วิญญาณะขันโธ
นะโม สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
๒๖.
นะโม สังฆัสสะ
ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา รูปะขันโธ เวทะนาขันโธ สัญญาขันโธ
สังขาระขันโธ วิญญาณะขันโธ
นะโม สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ วาหะปะริตตัง
๒๗.
นะโม พุทธายะ
มะอะอุ
ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา
ยาวะ ตัสสะ หาโย
นะโม อุอะมะ
ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา
อุ อะมะ อาวันทา
นะโม พุทธายะ
นะ อะ กะ ติ นิ สะ ระ นะ
อา ระ ปะ ขุ ธัง มะ อะ อุ
ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา
พระคาถายอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก (แปล)
๑. พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้ไกลจากกิเลส
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้ตรัสรู้เองโดยชอบ
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยความรู้และความประพฤติ
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้เสด็จไปดีแล้ว
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้รู้แจ้งโลก
๒. ข้าพเจ้าขอถึงพระองค์ผู้เป็นพระอรหันต์ว่า เป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระองค์ผู้เป็นพระอรหันต์ ด้วยเศียรเกล้า
ข้าพเจ้าขอถึงพระองค์ผู้ทรงตรัสรู้เองโดยชอบว่า เป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระองค์ผู้ทรงตรัสรู้เอง ด้วยเศียรเกล้า
ข้าพเจ้าขอถึงพระองค์ผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้และความประพฤติ ว่าเป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระองค์ผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้และความประพฤติ ด้วยเศียรเกล้า
ข้าพเจ้าขอถึงพระองค์ผู้เสด็จไปดีแล้ว ว่าเป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระองค์ผู้เสด็จไปดีแล้ว ด้วยเศียรเกล้า
ข้าพเจ้าขอถึงพระองค์ผู้รู้แจ้งโลก ว่าเป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระองค์ผู้รู้แจ้งโลก ด้วยเศียรเกล้า
๓. พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นอนุตตะโร คือ ยอดเยี่ยม
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นนายสารถีผู้ฝึกบุรุษ
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้ตื่นจากกิเลส
๔. ข้าพเจ้าขอถึงพระองค์ผู้ยอดเยี่ยม ว่าเป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระองค์ผู้ยอดเยี่ยม ด้วยเศียรเกล้า
ข้าพเจ้าขอถึงพระองค์ผู้เป็นนายสารถีผู้ฝึกบุรุษ ว่าเป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระองค์ผู้เป็นนายสารถีผู้ฝึกบุรุษ
ด้วยเศียรเกล้า
ข้าพเจ้าขอถึงพระองค์ผู้เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ว่าเป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระองค์ผู้เป็น
ศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ด้วยเศียรเกล้า
ข้าพเจ้าขอถึงพระองค์ผู้ตื่นจากกิเลส ว่าเป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระองค์ผู้ตื่นจากกิเลส ด้วยเศียรเกล้า
๕. พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น รูปขันธ์ เป็นอนิจจลักษณะ แต่พระบารมีถึงพร้อมแล้ว
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เวทนาขันธ์ เป็นอนิจจลักษณะ แต่พระบารมีถึงพร้อมแล้ว
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น สัญญาขันธ์ เป็นอนิจจลักษณะ แต่พระบารมีถึงพร้อมแล้ว
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น สังขารขันธ์ เป็นอนิจจลักษณะ แต่พระบารมีถึงพร้อมแล้ว
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น วิญญาณขันธ์ เป็นอนิจจลักษณะ แต่พระบารมีถึงพร้อมแล้ว
๖. พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ ดินจักรวาล เทวโลกชั้นจาตุมหาราชิกาและชั้นดาวดึงส์
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ ไฟจักรวาล เทวโลกชั้นจาตุมหาราชิกาและชั้นดาวดึงส์
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ ลมจักรวาล เทวโลกชั้นจาตุมหาราชิกาและชั้นดาวดึงส์
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ น้ำจักรวาล เทวโลกชั้นจาตุมหาราชิกาและชั้นดาวดึงส์
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ อากาศจักรวาล เทวโลกชั้นจาตุมหาราชิกาและชั้นดาวดึงส์
๗. พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ สวรรค์ชั้นยามา
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ สวรรค์ชั้นดุสิต
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ สวรรค์ชั้นนิมมานรดี
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ อันเป็นไปในกามาวจรภูมิ
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ อันเป็นไปในรูปาวจรภูมิ
๘. พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ ปฐมญาน
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ ทุติยญาน
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ ตติยญาน
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ จตุตถญาน
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ ปัญจมญาน
๙. พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ อันเป็นไปในอรูปาวจรภูมิ คือ อากาสานัญจายตนะและเนวสัญญานาสัญญายตนะ
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ อันเป็นไปในอรูปาวจรภูมิ คือ วิญญาณัญจายตนะและเนวสัญญานาสัญญายตนะ
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ อันเป็นไปในอรูปาวจรภูมิ คือ อากิญจัญญายตนะและเนวสัญญานาสัญญายตนะ
๑๐. พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ พระโสดาปัตติมรรค
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ พระสกิทาคามิมรรค
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ พระอนาคามิมรรค
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ พระอรหัตตมรรค
๑๑. พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ พระโสดาปัตติผล และ พระอรหัตตผล
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ พระสกิทาคามิผล และ พระอรหัตตผล
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุ คือ พระอนาคามิผล และ พระอรหัตตผล
๑๒. ธรรมะฝ่ายกุศล พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้า ว่าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต พระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้เป็นอิสสระแห่งชมภูทวีป
ธรรมะฝ่ายกุศล ขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้า ขอนอบน้อมแด่พระธรรมเจ้า ขอนอบน้อมแด่พระสังฆเจ้า
ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้าห้าพระองค์ ด้วยหัวใจพระวินัยปิฎก ด้วยหัวใจพระสุตตันตปิฎก ด้วยหัวใจพระอภิธรรมปิฎก
ด้วยมนต์คาถา ด้วยหัวใจมรรคสี่ ผลสี่ และ นิพพานหนึ่ง ด้วยหัวใจพระเจ้าสิบชาติทรงแสดงการบำเพ็ญบารมีสิบ
ด้วยหัวใจพระพุทธคุณเก้า ด้วยหัวใจพระไตรรัตนคุณ ธรรมะฝ่ายกุศล มีนัยอันวิจิตรพิสดาร
๑๓. พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้ไกลจากกิเลส ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้า ว่าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต
๑๔. ธรรมะฝ่ายกุศล ของผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้ตรัสรู้เองโดยชอบ ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้า ว่าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต เป็นอิสสระถึงเทวโลกชั้นจาตุมหาราชิกา
ธรรมะฝ่ายกุศล พระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้และความประพฤติ ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้า ว่าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต เป็นอิสสระถึงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
ธรรมะฝ่ายกุศล พระพุทธเจ้าเป็นผู้เสด็จไปดีแล้ว เป็นผู้รู้แจ้งโลก ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้า ว่าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต เป็นอิสสระถึงสวรรค์ชั้นยามา
ธรรมะฝ่ายกุศล ด้วยความศรัทธาต่อพระพรหม ด้วยพระบารมีอันยอดเยี่ยมของพระโพธิสัตว์ทั้งห้า ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้า ว่าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต
๑๕. ธรรมะฝ่ายกุศล พระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้เป็นนายสารถีผู้ฝึกบุรุษ ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้า ว่าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต เป็นอิสสระถึงสวรรค์ชั้นดุสิต
๑๖. ธรรมะฝ่ายกุศล พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์ผู้เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้า ว่าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต เป็นอิสสระถึงสวรรค์ชั้นนิมมานรดี
๑๗. ธรรมฝ่ายกุศล พระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้รู้แจ้ง สังขารขันธ์ รูปขันธ์ เป็นของไม่เที่ยง เป็นความทุกข์ มิใช่เป็นตัวตนของเราจริง ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้า ว่าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต เป็นอิสสระถึงสวรรค์ชั้นปรนิมมิตตวสวัสดี
๑๘. ธรรมะฝ่ายกุศล ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้า ว่าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต เป็นอิสสระถึงสวรรค์ชั้นพรหมโลก ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้า ขอนอบน้อมแด่พระธรรมเจ้า ขอนอบน้อมแด่พระสังฆเจ้า ด้วยคำสัตย์ปฏิญาณนี้ ขอความสุขสวัสดี จงมีแก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้าว่าเป็นที่พึ่งตราบเข้าสู่พระนิพพาน
๑๙. ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้า ขอนอบน้อมแด่พระธรรมเจ้า ขอนอบน้อมแด่พระสังฆเจ้า ด้วยการสวดมนต์พระคาถานี้ ขอความสุขสวัสดีจงมีแก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด
๒๐. ด้วยการสวดพระคาถามหาทิพมนต์นี้ และด้วยการกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณนี้ ขอความสุขสวัสดีจงมีแก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด
๒๑. ด้วยการสวดพระคาถามหาทิพมนต์นี้ และด้วยการกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณนี้ ขอความสุขสวัสดีจงมีแก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด
๒๒. ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้า ผู้เข้าถึงรูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์ เป็นทุกข์ ไม่เที่ยง มิใช่ตัวตนของเราจริง ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น
๒๓. ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้า ผู้เข้าถึงรูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์ เป็นทุกข์ ไม่เที่ยง มิใช่ตัวตนของเราจริง ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระธรรม ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว
๒๔. ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่พระธรรมเจ้า รูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์ เป็นทุกข์ ไม่เที่ยง มิใช่ตัวตนของเราจริง ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว
๒๕. ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่พระธรรมเจ้า รูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์ เป็นทุกข์ ไม่เที่ยง มิใช่ตัวตนของเราจริง ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระสงฆ์ สาวกของพระพุทธเจ้า ผู้ปฏิบัติดีแล้ว
๒๖. ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่พระสังฆเจ้า รูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์ เป็นทุกข์ ไม่เที่ยง มิใช่ตัวตนของเราจริง ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระสงฆ์ สาวกของพระพุทธเจ้า ผู้ปฏิบัติดีแล้ว
๒๗. ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้า ด้วยคำสอนของ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มิใช่ตัวตนของเราจริง ข้าพเจ้าขอกราบไหว้พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้า ด้วยพระธรรมคำสั่งสอน ความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มิใช่ตัวตนของเราจริง
>>890 กู>>889 นะ จริงๆกูสายแปลหมด ทับแค่ชื่อตำแหน่งสนมก็พอ ถ้าชื่อตำแหน่งข้าราชการทับหมดกูคงปวดหัว คิดสภาพทับศัพท์ขันทีแต่ละตำแหน่ง เจ้ากรมต่างๆ เจ้ากรมการคลัง เจ้ากรมพิธี เจ้ากรมกลาโหม เจ้ากรมบลาๆ
อย่างไท่จื่อกูก็โครตขัดใจว่าทำไมไม่แปลเป็นองค์รัชทายาทเลยในเมื่อแปลจีนเรื่องอื่นก็แปลกันหมด แทบไม่มีเลยด้วยซ้ำที่จะทับศัพท์เป็นไท่จื่อ แต่เนื่องด้วยงานแม่โม่ถูกติ่งปสด.แดกชอบสู่รู้ ไซโคคนด้อมวายจีนจนเกิดคติใหม่อย่าง ทับศัพท์เยอะ=แปลดี จนปัจจุบันนี้นักแปลแม่งทับศัพท์หมด เพราะกลัวอิผู้รู้(ปลอมๆ)ผู้จับผิดทั้งหลายจะสาระแนไปสอดปาก เสนอหน้าแว็ดๆใส่เขาเวลาเจอศัพท์ไทยที่ตัวเองไม่คุ้น บางทีสำหรับด้อมวายจีนของไทยแล้วการทวิตด่าคำศัพท์ที่ตัวเองไม่รู้ มันคงง่ายกว่าเปิดดูความหมายเอง ภาษาประเทศพ่อประเทศแม่ตัวเองแท้ๆดันไม่ใส่ใจจะเปิดหา ทั้งที่มันหาง่ายกว่าอิทับศัพท์ทั้งหลายอีก ต้องรอมีคนไปป้อนบอกถึงปากเลยรึไง ถึงจะตรัสรู้ด้วยตัวเองได้
ปอลอ ปัจจุบันนี้นอกจากโคต้าอ่านน้อย 8 บรรทัดแล้ว เพิ่มโคต้าภาษาแม่ไม่แตกฉาน ภาษาพ่อไม่เข้าใจด้วยเลยก็ดีนะ จะได้รับรู้ว่าศักยภาพด้านiqและeqของคนในประเทศมันพัฒนาถอยหลังพอๆกับเศรษฐกิจ
แอบสงสัยนิดนึงพวกมังงะเจอปัญหาแนวนี้บ้างไหม ตั้งแต่กินทามะจบกูก็ไม่ได้อ่านการ์ตูนมานานแล้ว
>>911 จะด่าทำไม คนเรามีรสนิยมต่างๆกัน แค่เคารพคนอื่นก็อยู่ด้วยกันได้ ถ้านักแปลเลือกจะแปลหมดก็ไม่เป็นไรถูกต้องตามหลักการแปล ถ้าเลือกจะแปลบางคำคงไว้บางคำที่พบบ่อยๆเพื่อให้ได้บรรยากาศจีนก็ได้อยู่ แต่ที่กูไม่ได้เลยยยยยคือคงไว้ไม่แปลขนาดหนูปี้ หนูไฉ อ้ายเจีย คำสรรพนามมีคำไทยเข้าใจง่ายกว่าแท้ๆ จะเหลือคำจีนประหลาดไว้ทำไม กับพวกที่เอาจีนกลางผสมแต้จิ๋วนี่แหละ อันนี้ไม่ใช่รสนิยมละ อันนี้งานห่วย
>>911 กูว่ากำลังภายในต่างๆของจีนก็เบียวไม่ต่างกัน มันแค่เบียวคนละแบบ 5555555 เรื่องแปลกับทับศัพท์นี่ปัญหาโลกแตกจริงว่ะ กูเห็นประเด็นนี้วนเวียนอยู่ในโม่งเป็นร้อยรอบแล้วมั้ง ทั้งมู้นี้มู้ชั้นหนังสือ มันลางเนื้อชอบลางยาแหละ แต่เทรนด์ตอนนี้ทับศัพท์มันมาแรง สายชอบแปลหมดก็ทำใจกันไป
กูอ่านเทียนกวานมาล่ะ ทับศัพท์เยอะชห.แค่สองบทก็ปาไปไม่รู้กี่คำต่อกี่คำแล้ว ตกลงลวดมันจะทับชื่อตำแหน่งจริงดิ กูเห็นไม่แปลเลย ไท่จื่อ ตี้จวิน เจินจวิน งี้ กูอยากเม้นแย้งว่าทับศัพท์เยอะไป แต่กลัวซอมบี้รุมทึ้ง ด้อมแม่งยิ่งไม่ธรรมดา(ปสด.ไม่ธรรมดา)อยู่
มีใครไม่ตามเทียนกวานมั่งมั้ย กูขี้เกียจอะ 18เล่มใช่ปะวะ ยาวเกินสำหรับกูว่ะ (กลอรี่กูซื้อมายังดองอยู่เลย) ชั่งใจอยู่ ถ้าอ่านคนเดียวไม่มีเพื่อนหวีดกูจะเบื่อก่อน แต่ถ้าจะหาเพื่อนหวีดกูกลัวความปสด. แล้วก็อยากรู้ว่าจะมีความสุขแค่คู่หลักคนอื่นชิบหายหมดอีกมั้ย
Ok ตอนนี้กูเป็นหน่วยกล้าตายไปเม้นเรื่องทับศัพท์ในตย.เทียนกวานและ อย่าลืมจัดงานศพจุดธูป 3 ดอกให้กูด้วย ถ้ากูโดนฝูงซอมบี้รุมทึ้งตาย
ตี้จวิน หยางจวิน ต่อไปจะจวินอะไรอีกว่ะ พอเหอะ
อิเวร มีคนอยากให้เปลี่ยนองค์ชาย เป็นเตี่ยเซียน มึงพอเหอะ แค่นี้ก็ทับศัพท์เยอะจะตายห่าแล้ว
>>913 เออ แอบเบียวอยู่
แต่สมมติถ้าปรมจทับส่วนตัวกูก็ไม่ติดนะ เพราะอย่างชื่ออาวุธ/ฉายาเรื่องนี้ไม่ค่อยจำยากแต่อรรถรสตรงชื่อกระบี่เว่ยอิงอาจจะหายไป กลับมาที่เทียนกวานเห็นลางทับขนาดนี้กูรอซื้อตอนออกครบทีเดียวเลยดีกว่า(คหสต) อ่านรวดเดียวต่อเนื่องไปเลยจะได้ไม่ต้องมาแบบออกเล่มมาทีก็นั่งนึกโหลดศัพท์ในหัวที แถมพักนี้ม่าแหกมาบ่อย....
ถ้ากูเป็นเซนส์กูจะทำของแถมสำหรับคนซื้อบ็อกซ์เทียนกวานเป็นดัชนีคำศัพท์เล่มเล็กๆพร้อมหน้าปกอันสวยงาม คิดแล้วก็อยากให้ทำจริงว่ะ กูขี้เกียจมานั่งจดศัพท์เอง 555555
Body in abyss, heart in paradise จะแปลเป็นไทย ยังไงหว่า คนแปล Eng ก็เข้าใจหาคำ
ตอนนี้กุเหมือนโดนตบหน้า ที่กูดันชอบแปลเถื่อนในเด็กดีมากกว่า แปลสวยยันโคตรชื่อ ตั้งแต่ชื่อเรื่องยันฉายา อศิรสุราลัย พิรุธโลหิตพรำ่บุปผา ธารากาฬล่มเรือ ประทีปเขียนท่องราตรี มหาภัยพิบัติอาภรณ์ขาว แล้วกูก็ชอบที่โม่งสปอยแปลด้วยพูดแล้วก็ปรบมือ มึงแปลสวยมากโม่งสปอย ธาราทมิฬล่มเรือ เศวตไร้หน้า หทัยสังหาร
พอแบบถูกลิขสิทธิ์เล่นแปลงี้กูไปไม่เป็นเลย ทับศัพท์บานจนกุอึดอัด กุไม่ได้คาดหวังให้คำมันสวยเหมือนที่แปลในเด็กดี หรือโม่งสปอยนะเพราะกูรู้ว่าสำนักพิมพ์มันคงกลัวดราม่าลิขสิทธิ์ แต่มึงเล่นตัดปัญหาด้วยการทับศัพท์หมดแบบไม่สนห่าเหอะไร กูก็ลำบาคใจกูคงรอซื้อตอนออกครบ 8 เล่มอะ ขก.ขุดคำศัพท์ในสมองมาใช้ทุกครั้งที่อ่าน
เหมือนไฮป์กันได้ไม่สุดทั้งสองเรื่องเลย แต่ทางนี้ดูกระแสเป็นบวกกว่าโดยเฉพาะบนบก ทางนั้นดูกังวลเรื่องแปล
กูเพิ่งอ่านปรมจเล่มพิเศษมา ใน4ตอนกูชอบตอนตะขอเหล็กที่สุด เห็นเว่ยอิงคุยกับจินหลิงได้กูเลยมีความหวังว่าสักวันพี่น้องบ้านบัวจะต่อกันติด ถึงจะกอดคอเล่นหัวกันแบบตอนวัยรุ่นไม่ได้แล้วก็ตาม ;(
ตอนอ่านก็แอบมโนในใจว่าเจียงเฉิงต้องตามแอบดูหลานอยู่แหละน่า ต้องเห็นพี่ชายกับหลาน ฮรือออ...เปียกปอน ToT
กูเคยเห็นโม่งในนี้เถียงกันเรื่องแปล เกอเกอ ว่าแปลยังไงให้ได้อรรถรสมากสุด กูว่าแปลเป็น “ท่านพี่” ก็ไม่เลวนะ กูชอบไทด์บาปพรากผู้แก่พอดี555 ได้ 2 พยางค์เหมือนกันด้วย กูว่าทับเป็นเกอเกอของกูให้อารมณ์เดี่ยวกับซือจุนว่ะ ความหมายที่ต้องการจะสื่อจริงๆเป็นไทด์บาปศิษย์อาจารย์ปลิวหายไปกับสายลม(ที่คนคิดว่าคำว่าซือจุนมันน่ารักก็เพราะทับศัพท์นี่แหละ ถ้าแปลอาจสัมผัสได้ถึงความบาปแทนความน่ารักก็ได้) เหมือนฉายาเพื่อนสนิทสมัยผมทรงเห็ดตั้งให้กันมากกว่าศิษย์อาจารย์หรือวัวอ่อนแดกหญ้าแก่
https://m.facebook.คอม/817226795098954/posts/2002996876521934/
ลวด.มาชี้แจงเรื่องทับศัพท์ สรุปทับหมดจริงว่ะ ชื่อสถานที่ อาวุธ เทศกาล สรรพนาม ตำแหน่ง ฯลฯ
อิหยังมาบอกนักอ่านส่วนใหญ่เห็นผ่านตาจากเรื่องอื่นมาแล้ว จำไม่ยาก มโนเอาดีเข้าตัวดีนะ exclude นักอ่านที่ไม่ค่อย/ไม่เคยอ่านแนวจีนพีเรียดซะงั้น
แล้วใช้เกอเกอมันได้อรรถรสความออดอ้อนกว่า พี่ชาย ท่านพี่ ยังไงก่อน
>>938 อ่านแล้วกูก็พอเข้าใจเหตุผลเขานะ ถึงจะเห็นด้วยกะมึงว่าแบบนี้ออกจะ exclude กลุ่มคนไม่ค่อยอ่านแนวนี้มากเกินไปหน่อยก็เถอะ
ที่สำคัญ กูว่ากูคงเป็นคนส่วนน้อยแหละ แต่พอดีกูเรียนภาษาญี่ปุ่นมา เวลากูเจอคำแบบ เตี้ยนเซี่ย ปี้เซี่ย อะไรพวกนี้กูต้องนึกก่อนว่าในภาษาญี่ปุ่นมันคืออะไร (ญี่ปุ่นมันก็เอาคำพวกนี้มาจากจีน เขียนเหมือนตัวจีน แต่อ่านคนละเสียง) แล้วค่อยแปลในหัวเป็นภาษาไทยอีกทีนึง เวลาเจอเรื่องไหนทับศัพท์พวกนี้กูจะอ่านแบบติดๆขัดๆ เหมือนขับรถแล้วเจอจระเข้ไปตลอดทาง เซ็งว่ะ
ขี้เกียจหาคำสวยๆ ก็บอกจ้า ลวด ชื่อจีนปกติเขาตั้งจะมีความหมาย บางอย่างแปลสวยๆ นี่บาดใจสุดเลยนะ แต่พอทับศัพท์ก็เป็นชื่อไร้ค่าไร้ความหมายไปละ กุไม่หาความหมายจากภาษาจีนแล้ว1
อืม... กูควรรู้สึกยังไงดี ถ้าจะมองว่าใส่ใจการแปลทับศัพท์แล้วให้ความรู้สึกออดอ้อนมากกว่ามันก็คงจะเฉพาะกับพวกที่ชอบอ่านแบบทับศัพท์แหละ แต่ถ้าจะมองเป็นข้ออ้างในความขี้เกียจกับเป็นไม้กันหมาก็คงจะไม่ผิดเหมือนกัน กูว่าลวด.มันแปลคำไทยได้สวยมากๆเลยนะ แต่เกลียดที่ทับศัพท์เยอะขนาดนี้ แต่ก็ยังว่าคงทับเอาใจติ่งด้อมนั้นแหละ ตั้งแต่เคสปรมจก็มีแต่นักแปลทับศัพท์ทั้งนั้น คงไม่มีใครอยากหนีเข้าป่าตามนักแปลปรมจไปหรอมั้ง
ส่วนถ้าจะแปลแบบเอาใจนักอ่านสายทับศัพท์ขนาดนั้น ก็แล้วแต่เลยละกัน ต่อจากนี้นิยายแปลคงมาแนวๆนี้หมดไม่สนนักอ่านใหม่ ไม่แปลคำไทยแล้วทับศัพท์หมด อีกหน่อยนิยายแปลไทยคงไม่ต่างอะไรกับนิยายต้นฉบับแค่เปลี่ยนจากอักษรจีนเป็นไทย ซึ่งถ้าจะมาแบบนี้กูที่เป็นนักอ่านใหม่เข้าวงการนี้เพราะชอบนิยายจีนแปลล้วนๆคงต้องพิจารณาแล้วว่ากูจะซื้อไหม เจอแบบนี้ส่วนตัวกูก็ไม่โอว่ะพิมพ์เหมือน exclude นักอ่านใหม่ขนาดนี้
>>944 ถึงคุยแล้วจริงแม่โม่ขัดได้กี่มากน้อยละ เขาคงปล่อยเลยตามเลยแหละ แค่สนพบอกคนอ่านชอบอ่านทับศัพท์มากกว่าแม่โม่จะขัดอะไรได้ แม่แกไม่รู้นิว่าคนไทยชอบอ่านแบบไหน เกิดบอกให้แปลหมด แล้วคนไทยปสดแดกตามด่าแม่โม่ล่ะจะทำไง วีรเวรคนไทยที่ต่างชาติได้สัมผัสถึงความปสดก็ไม่ใช่น้อยๆนะ แม่แกคนไม่อยากยุ่งเรื่องการแปลของแต่ละปท.หรอถ้าไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่อง อารมณ์แบบแปลจะแบบไหนก็แล้วแต่มึงเลยแล้วกัน แค่แปลแล้วเนื้อเรื่องไม่เปลี่ยนก็พอ
>>945 เออกูว่าเรื่องเกอเกอฟังไม่ค่อยขึ้น เพราะคนอ่านส่วนใหญ่ที่ไม่รู้ภาษาจีนก็ไม่เก็ทอยู่ดีว่าเกอเกอมันต่างจากคำว่าพี่คำอื่นยังไง คนที่จะเข้าใจคำนี้มันต้องเป็นคนที่คุ้นเคยกับภาษาจีนอะ อย่างภาษาญี่ปุ่นมันก็มี นี่ซัง นี่จัง นี่ซามะ โอนี่อุเอะ อานิกิ คำพวกนี้เซนส์เล็กๆน้อยๆมันไม่เหมือนกันสักคำ กูเห็นเขาก็แปลกันหมดนะ เป็นท่านพี่ คุณพี่อะไรก็ว่าไป อย่างเกอเกอถ้าอยากให้ดูสนิทก็แปลว่า พี่ข้า ไรงี้ไปก็ได้
กูขอก็อปนิยามการแปลที่กูพิมพ์ไว้ในโม่ง
“งานแปลคือการแปลจากภาษาหนึ่งเป็นอีกภาษาหนึ่ง โดยแปลความหมายของภาษาต้นทางมาเป็นภาษาปลายทางให้คนทั้งสองฝั่งเข้าใจความหมายตรงกันมากที่สุด แต่ในความเป็นจริงมันไม่มีทางที่จะแปลออกมามีความหมายเหมือนกัน100% (นอกจากเมิงจะไปอ่านภาษาต้นฉบับ) เพราะบริบทต่างๆที่ต่างล้วนทำให้นิยามของคำๆหนึ่งต่างกันออกไปด้วย อย่างอีกรณีซือจุน(ที่แม่งเถียงกันไม่จบไม่สิ้น) สรรพนามที่เรียกไม่ได้ให้ความเคารพจริงจังเท่าอาจารย์ แต่ไม่ได้สนิทกันเท่าที่ควรเรียกครู คนบางกลุ่มจึงเชียร์ให้ทับศัพท์ แต่กลับกันพอทับศัพท์กลายเป็นว่าพอรวมเข้ากับรูปประโยคอื่นๆนิยามของคำๆนี้ดูดรอปลงไปกว่าเก่า กลายเป็นชื่อเล่นน่ารักๆไปเลยเมื่อเทียบกับนิยามที่คนภาษาต้นทางได้รับ”
^
^
งานแปลที่ “ดีที่สุด” มันไม่มีอยู่หรอ แต่มีงานแปลที่ “ดี” มันมีอยู่จริง สำหรับกูมันคือการสื่อความหมายจากภาษาหนึ่งสู่อีกภาษาหนึ่งให้ผู้รับสารเข้าใจได้มากที่สุดในวงกว้าง ไม่ใช่แค่เฉพาะ ‘กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง’ หรือ ‘ประสบการณ์ในการอ่านมากอ่านน้อย’
เค้าเปรียบเทียบซยงกับเกอเกอ จากที่กูอ่านแปลจีนมา (ไม่มีฟามรู้ด้านจีนใดๆ) มันดูออกเลยนะว่าอันไหนใช้ซยงหรือเกอ/เกอเกอ พี่ชาย(ซยง)บทสนทนามันจะยกยอกันไปมา แล้วเรียกตัวเองน้องชายประกอบด้วย บางทีกูเห็น A เรียก B พี่ชาย B ก็เรียก A พี่ชาย 55555 ส่วนพี่ชายแบบเกอเกอ นี่ก็บทสนทนาสัพเพเหระ พี่ชาย-ข้า อะไรแบบนี้อยู่แล้วปะวะ เกอเกอนี่กูรับไม่ได้
อันนี้กูอาจจะเยอะไปเอง เวลาเห็นตี้ๆแล้วดูน่ารักว่ะ ภาษาไทยตี้มันไม่มีความหมาย มีแต่แพทตี้ คิตตี้ ทตตี้ ปาร์ตี้ หาตี้กินหมูกะทะไรงี้ แบบเวลาเจอเทียนตี้ก็ไม่ได้นึกถึงศาลเจ้านะ นึกถึงคนชื่อเทียนแล้วเติมตี้ให้ดูชิค
กูสงสัยว่ะ อยากถามคนที่ชอบทับศัพท์หน่อย (ในโม่งมีทีมทับศัพท์มั้ยวะ 555555) มึงโอเคกับการทับศัพท์เยอะแยะแบบนี้กับนิยายทุกชาติทุกภาษาเลยปะ หรือโอเคกับนิยายจีนเพราะคุ้นเคยแล้ว สมมติวันนึงมึงไปอ่านเกาหลีโบราณ แล้วเจอคำทับศัพท์ตำแหน่งที่ไม่คุ้นเคยมาก่อนเช่นเพฮา ชอนฮา แดจอน แดวัง แดกุน เซจา กงจู เยอะแยะไปหมด (ทั้งหมดนี้คือตำแหน่งในวังหมดเลย) มึงจะยังชอบทับศัพท์อยู่รึเปล่า คือกูว่านิยายแปลจีนมันแปลกมากเลยที่คนโอเคกับทับศัพท์กันเยอะมาก (ส่วนนึงกูว่าคงเพราะคุ้นเคยมาจากซีรีส์กับอนิเมจีนด้วย) นิยายแปลอื่นๆเขาไม่ทำแบบนี้กันเท่าไหร่ กูว่ามันเป็นปรากฏการณ์ที่น่าสนใจดี
เดี๋ยวนะ กุจะอ่านนิยายเล่มหนึ่งเข้าใจกุต้องเห็นผ่านตาจากนิยายเล่มอื่นมาด้วย ว้าวในว้าว ถ้ากุเป็นนักอ่านใหม่พึ่งอ่านแปลจีนครั้งแรกจะทำไง กุต้องไปนั่งงมนั่งจำนั่งค้นเองเงี้ยหรอ เจริญเถอะ แค่อ่านนิยายทำไมกุต้องมานั่งจำเหี้ยอะไรไม่รู้ให้ปวดประสาดเล่นด้วย แล้วอะไรน๊ะ!? แปลไทยกลายเป็นคำเยิ่นเย้อไปแล้วหรออ... คำว่า รัชทายาทเนี่ยนะ?!555555กุขำหนักมากกกก พวกที่สนับสนุนนิอ่านแปลจีนครั้งแรกหรอจ๊ะ ถึงคิดว่ารัชทายาทมันเป็นคำเยิ่นเย้อ พูดงี้เท่ากับด่านักแปลหลายคนเลยนะ ตรรกะใหม่วะคำว่ารัชทายาทแม่งเยิ่นเย้อ กุถามมีกี่เรื่องที่ทับศัพท์รัชทายาทว่าไท่จื่อ ถ้าไม่มีเทียนกวานคนแทบไม่รู้จักคำนี้เลยด้วยซ้ำถ้าไม่ได้เรียนจีนมา องค์ชายอัปลักษณ์ ไม่ทับ รัชทายาทของฟน.ไม่ทับ ฤาบุรุษไม่ทับ ขุนศึกทรราช+คู่บัลลังก์ก็ไม่ทับ ตั้งแต่อ่านมากุเห็นแค่จันทร์พรายเองที่ทับ(ซึ่งเป็นเรื่องที่เฉพาะแนวมากๆ)
กูอยากรู้ทับศัพท์อย่างนี้ พวกอวยทับศัพท์จากปรมจ.ทั้งหลายจะอ่านรู้เรื่องไหม รอดูเลย
กูสนับสนุนให้พวกอวยแปลจีนทับศัพท์ไปอ่านต้นฉบับ ไม่ต้องอ่านแปลไทยจ่ะ มันไม่ได้อรรถรสความจีน
กูว่าแนะนำพวกอวยทับศัพท์ไปอ่านชุดสามชาติสามภพดีกว่า แนวสวรรค์เทพเซียนเหมือนกัน
>>952 เออ ละบอกใช้คำว่าองค์ชายไท่จื่อแปลก มันจะไม่แปลกเลยถ้านางใช้องค์ชายรัชทายาทมาตั้งแต่ต้น แล้วไม่ควรมาอ้างว่ามีสถานที่ชื่อไท่จื่อเลยเลือกใช้ทับศัพท์จะได้สัมพันธ์กันหรอก เพราะจะมีหรือไม่มีนางก็จะใช้ไท่จื่ออยู่ดี อร่อยล้นวังนางก็ใช้ไท่จื่อ ทำเป็นหาเหตุผลซัพพอร์ทความทับศัพท์รุงรังของตัวเอง
ใช่ไท่จื่อไม่ผิดหรอก แต่องค์ชายไท่จื่อกูเพิ่งเคยเจอ นางใช้คำนี้เหรอวะ 5555 ไท่จื่อมันก็ต้องเป็นองค์ชายอยู่แล้วป่ะ จะ องค์ชายองค์ชายรัชทายาท ทำไม
>>952 อ่านแล้วขำ 555555 ถ้าพวกนิยายแปลอิ้งใช้ตรรกะเดียวกับนางลวด.บ้างคงตลกมากอะ อย่างรัชทายาทภาษาอังกฤษ = crown prince งี้เขาก็ต้องทับศัพท์เป็นคราวน์ปริ๊นซ์ เหมือนที่ลวด.ทับเป็นไท่จื่อเพื่อไม่ให้เยิ่นเย้อมั้ยวะ (แล้วรัชทายาทมันเยิ่นเย้อยังไงก่อน ไม่ใช่ศัพท์วิลิศมาหราอะไรเลย) ฮือ ขำ 5555555
ยิ่งอ่านที่ลวด.ชี้แจงยิ่งรู้ว่าเค้าคลังศัพท์น้อย แบบกุอยากแปลตรงไหนก็แปล นึกคำไทยไม่ออกก็ทับแม่งให้หมดจะได้ไม่ต้องมาคิดทีหลังตอนสะดุดคำที่ไม่รู้อีก มันต่างจากป้าหลินที่เค้าแปลคำสวยๆได้แต่เฟติชทับศัพท์แล้วเลือกที่จะไม่แปลเอง ความมักง่ายกับรสนิยมมีเส้นบางๆกั้นอยู่
สรุปสั้นๆ ลวดมันมักง่ายแต่หาเหตุผลมาซัพพอร์ตตัวเองให้ดูดีแล้วอ้างสถานที่ อ้างคำเยิ่นเย้อ อ้างแปลแล้วแปลกๆ อ้างแม่งทุกอย่างแล้วใช้ติ่งปสดที่ชอบทับศัพท์มาอวยให้ตัวเองดูดี แต่เหตุผลหลักก็เห็นๆกันอยู่ว่ามึงแค่ขี้เกียจแปล แปลได้ไม่แปล
กูไปอ่านมาละ เหมือนจะดูดีนะ แต่กูว่าแถหลายอันอ่ะ ไทจื่อเนี่ยพูดมาได้ว่าหลายคนคุ้นเคย เออ กูก็คุ้นเคยจริง แต่หลายคน อย่างนักอ่านขาจร (เช่นเพื่อนกูที่มันอ่านบางเรื่อง) แม่งมาเจอเกอเกอ เจอไทจื่อ เจอเปี่ยวเกอแม่งไม่ทำหน้าอึนกันเลยไง เรื่องการเรียบเรียงเขาทำดีนะ กูอ่านตัวร้ายแล้วขำบ่อยมาก แต่เหมือนคลังศัพท์เขาน้อยจริงว่ะ
กูเงิบที่แม่งจะทับศัพท์เกอเกอเปี่ยวเกอ แล้วอ้างว่าทับศัพท์จะทำให้ได้อารมณ์กว่าสุดละ คิดหน่อยมั้ยว่าถ้าคนไม่รู้ภาษาจีนมาอ่านจะรู้สึกถึงอรรถรสจากคำนี้มากกว่าตรงไหน ไอ้ห่ากูขำ 555555 มึงก็แปลพี่มาเหอะ กูคิดภาพตอนเจอคำว่าเปี่ยวเกอในเรื่อง นอกจากจะไม่ได้อรรถรสใดๆแล้วน่าจะงงตาแตก
ถ้าใช้ตรรกะอย่างที่เขาอธิบายมา อย่างนี้ไม่ต้องใช้สรรพนามเรียกแทนตัวเองเป็นภาษาจีนหมดเหรอ จะได้เห็นความแตกต่างของระดับคนพูด ความสนิทกันอะไรต่างๆของตัวละคร เฮ้อ แปลได้ก็ควรแปลเหอะ
เกอเกอ คือแปลเหอะ ท่านพี่ พี่ชาย มันดูไม่ออดอ้อนตรงไหน? กูว่าแม่งออดอ้อนกว่าเกอเกอเยอะครอบคลุมกว่าด้วย กูอยากบอกอิพวกนักแปลทั้งหลายว่าคำแทนตัวชื่อเรียกอะแปลๆไปเหอะ แล้วกูก็อยากบอกอิติ่งทับศัพท์ด้วยว่าแปลคำแทนมันไม่แย่ กุอยากให้อิติ่งเจอทับ เหล่าจือ วะ รู้ความหมายแล้วคงเงิบ ดูสิถ้ามีคนบอกว่าเหล่าจือทับแล้วจังดูน่ารักมุ้งมิ้งกุคงกรามค้าง
จากที่เค้าออกมาแถธิบาย กุรู้สึกว่าเค้าก็แค่แปลอย่างที่ใจอยาก ไม่ได้แคร์ผู้อ่านฝั่งใดเลยทั้งพวกชอบทับศัพท์กับไม่ชอบทับศัพท์
อย่างไท่จื่อ กุฟินแบบนี้ก็จะเรียกไท่จื่อ
พอไท่จื่อเตี้ยนเซี่ย อ้าวยาวไปชอบสั้นๆ อ่ะกุตัด
โดยเฉพาะจุดที่บอกว่าคุยกับแม่โม่มาแล้วเรื่องคำว่าเตี้ยนเซี่ยของตลค อื่นๆ ที่ไม่ใช่คนพวกราชวงศ์ นางบอกว่าแปลได้เพื่อไม่ให้ซ้ำกัน? จุดนี้ดันโคตรขัดกับข้างบนที่แถว่าจะเก็บคำว่าไท่จื่อเอาไว้
อย่างคำว่าเกอเกอ ถ้าคุยกับแม่โม่จริงมึงไม่ถามเค้าหรอว่าอยากให้รู้สึกตะมุตะมิ อ้อนๆ ท่านพี่ พี่ชาย หรือเปล่า. คนที่ไม่เคยเรียนจีน หรือเพิ่งมาอ่านครั้งแรกจะรู้ความต่างของ ซยง เกอเกอ และเปี่ยวเกอมั้ย
สมมติถ้าแปลให้ฟาฟาเรียกพี่ชาย เนื้อเรื่องมันก็บิ้วอารมณ์มาอยู่แล้วป่ะ กุว่าคนอ่านก็ฟินนะ เด็กหน้าตาหล่อโคตรเทพ มาอ้อนเรียกพี่ชายอ่ะ
ส่วนนังผีเขียว เรียกไท่จื่อเปี่ยวเกอ. ถ้าแปลว่าท่านพี่รัชทายาท มันก็ไม่ผิดป่ะ มึงใส่เชิงอรรถได้หนิว่า จริงๆ แล้วคำจีนคืออะไร. แล้วในเนื้อหามันมีส่วนที่พูดอยู่แล้ว ว่านังผีเขียวเป็นญาติผู้น้องอ่ะ
เห้อออออ กุไปคอมเมนต์มาแล้ว เค้าก็ออกมาแถธิบายแบบนี้ เหนื่อยใจจริง
เดี๋ยวนะ กุเพิ่งไปอ่านแถธิบายมาอีกรอบ
นางบอกจะแปล ซยง แต่ไม่แปลเกอเกอ
จุดนี้อิหยังวะมาก. จะเรียกหมิงซยง ว่าพี่หมิงเพื่อให้ดูนับถือ? ห่างเหิน? แต่เรียกเกอเกอ เพื่อให้ดูใกล้ชิด??????????? กุงงงงงงงงงงง
ที่สำคัญมึงจะไม่ได้ feeling คนรอบข้างบอก อุ๊ย! ใส่ใจนักอ่านจัง นักแปลเก่งแปลดีใส่ใจนักอ่าน นักแปลออกมาอธิบายค่า นักแปลแปลเก่งรู้จักใช้คำ อย่างงี้ถ้าคนๆนี้ไม่ใช่ลวด คิดสภาพคนแปลปรมจออกมาอธิบายแบบนี้สิ กุว่าบอมลงโดนด่าตั้งแต่โคตรเหง้าศักราชชัว
กุจำเนื้อเรื่องเป๊ะๆ ไม่ได้อ่านนานแล้ว แต่งงว่าที่บอกว่าต้องใช้ไท่จื่อ เพราะมีบางสถานที่ใช่ชื่อไทจื่อประกอบเลยต้องเก็บเอาไว้. กุงงว่าถ้ามันอักษรตัวเดียวกันเป๊ะๆ ทำไมจะแปลไม่ได้วะ
วังรัชทายาท ตำหนักรัชทายาท ศาลเจ้า/ศาลบูชารัชทายาท ยอดเขา(มีป่าววะ)รัชทายาท
แล้วมันไม่เข้ากับองค์รัชทายาทยังไง? ทำไมต้องดึงดันใช้ไท่จื่อ?
แถยืดยาว สรุปได้ว่าลวด.ฝีมือไม่ถึงเอง+มักง่าย นักแปลคนอื่นเขาไม่เห็นมีปัญหาว่าต้องทับศัพท์เพื่อรักษาอรรถรสเลย คำไหนแปลได้เขาแปล คำที่แปลไม่ได้จริง ๆ ค่อยทับศัพท์ ดูอย่างคนแปลรัชศก 7 เล่มใช้ทับศัพท์ยกเซ็ตมีแค่ตำแหน่งสนม ระดับการสอบ อันดับบัณฑิต
คนแปลทะลุมิติ arc บำเพ็ญเซียนก็ทับแค่ตรงที่ไม่มีคำไทย
อ่านแล้วไม่ติดขัด ไม่เสียอรรถรส ไม่ต้องคอยนั่งจำคำทับศัพท์ใหม่ ๆ ที่ผุดขึ้นมาทุกเล่ม แค่ชื่อตัวละครจีนแม่งก็เยอะชิหายแล้วปะ
ซบ.มีบก.ไหมวะ คุยกับบก.น่าจะง่ายกว่า
ลวด.นี่เคยแปลเรื่องไหนของสนพ.อื่นอีกบ้างอะ กูรู้จักแค่ 3 เรื่องของซบ.เนี่ยแหละ หรือเค้าเป็นทีมงานเบื้องหลังของซบ.โดยตรงเลยไรงี้ กูไม่ได้ตามโซเชียลเค้า
เสิร์ชคำว่าทับศัพท์ในทวิต เจอคนบ่นว่า "คนที่อยากให้แปลไทยคือเห็นแก่ตัวชิบหาย แปลทับศัพท์มีวงเล็บแปลไทยให้มีเชิงอรรถให้ แต่แปลไทยคนอ่านทับศัพท์ไม่มีเชี่ยอะไรเลย" แล้วกูงง อ่านหนังสือหรืออ่านแบบเรียนมันถึงจะอยากรู้ศัพท์จีนขนาดนั้น เค้าแปลให้มึงอ่านภาษาไทยนี่บุญแค่ไหนแล้ว เสือกอยากได้แบบมักง่ายทับศัพท์
>>980 อ้าวถ้าทวิตงี้สายทับศัพท์ไม่เห็นแก่ตัวกว่าหรอ กะจะเอาแต่ให้ตัวเองได้อรรถรสไม่สนคนที่พึ่งเข้าวงการนี้มาใหม่ๆคลังศัพท์จีนในสมองคนเราไม่เท่ากัน เขาต้องทับศัพท์เยอะๆเอาใจกลุ่มมึงกลุ่มเดียวเลยรึไง บางคนเขาไม่ได้ตามอ่านทุกเรื่องหรือมีเวลาเหลือเฟือเอาสมองไปจำศัพท์จีนเหมือนมึงนะ แล้วอีกอย่างถ้าสมองจะกลั่นกรองแล้วคิดออกมาได้แค่นี้ละก็เอาพื้นที่ว่างๆในสมองนอกจากจำศัพท์จีนแล้ว คิดวิเคราะห์แยกแยะหน่อยนะว่าทำไมเขาถึงของให้แปลเยอะๆ ชื่อมันก็บอกอยู่นะว่านิยาย “แปล” จีน ถ้ากลัวเสียอรรถรสขนาดนั้นก็ไปซื้อเล่มต้นฉบับอ่านเลยเถอะ ยังไงแปลออกมามันไม่มีทางได้อรรถรสของต้นฉบับออกมา 100%อยู่แล้ว ทวิตความคิดซั่วๆแบบนี้ออกมาได้ยังไง เฮงซวย!!!
>>951 <<< กูรอคนมาตอบมึงอยู่ ปกติจะมีคนชอบทับศัพท์เข้ามาแทรกๆ บ้างนะ แต่อันนี้สงสัยด่ากันแรงเกินจนเค้าไม่กล้าสวนกระแส เหมือนที่เราไม่กล้าสวนกระแสกองอวยลวด.บนบก ถถถถ ตย.คห.คนชอบทับศัพท์ย้อนดูได้ที่ >>545
ทุกครั้งที่เถียงกันเรื่องนี้จะจบที่คำว่า 'ต่างคนต่างรสนิยม' แต่กูว่าบางทีก็ควรแยกว่าอันไหนรสนิยม อันไหนมักง่าย/คลังศัพท์น้อยด้วย
ลืม กูว่าไม่แปลกนะที่นางจะพยายามเข้าหาแม่งโม่ นางอยู่ในจุดที่มีโอกาสอ่ะ นิยายแม่ 3 เรื่อง นางแปลไป 2 ถ้าตีสนิทได้เป็นกูกูก็ทำ เผื่อได้แปลเรื่องที่ 4
กูว่านางใช้ป้าหลินโมเดล รายนั้นก็สนิทกับนักเขียน มีไรก็ถามนักเขียนหมด อาจจะดูไม่มืออาชีพ แต่นขอาจจะชอบก็ได้ ดูป้าสนิทกับคนเขียนป่าท้อจะตาย ไหนจะคนเขียนราชาแห่งราชันที่นางไปคุยจนรู้เบื้องลึกเบื้องหลังจนจะขอดีลตรงอีก
>>988 เห็นที่จีนมีข่าวนางทำผิดกฎหมายติดคุกอะไรซักอย่าง ที่ลือจนติดเทรนด์เวยป๋อช่วงนึงอะ แล้วนางเคยแพลนว่าเรื่องที่4จะเขียนปัจจุบัน แต่ผ่านมาก็ยังไม่เห็นเลย กูเลยงงว่าตกลงออกมาแล้วเหรอวะ คือโม่เซียงเงียบถึงเงียบมาก ไม่งั้นข่าวลือไม่เกิด ที่ว่าจะรีไรท์ก็ไม่รีตามกำหนดเดิม ไม่แปลกใจกันหน่อยจหรอวะ หะๆ
กลุ่มชอบแปลยัง 'แปลได้แปล แปลไม่ได้ค่อยทับ' แต่กลุ่มทับศัพท์คือต้องทับให้หมดทุกสิ่งอย่าง ละกุหงิดตรงกลุ่มนี้คือสายอ่านเถื่อนที่จะอคติจับผิดทุกทางทันทีเมื่อเรื่องที่ตามติดแอลซี
วันหลังพิมพ์คำอ่านแล้วกำกับคำแปลไทยไว้ก็ได้ เหมือนที่ฮิรางานะข้างบน/ด้านข้างคันจิอะ ทับศัพท์ให้หนำ หว่ออ้ายหนี่ (ข้ารักเจ้า) ฟีลจีนสุด
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.