ถ้าต้องการร้านที่รับห่อ-ส่ง-รับเรื่องเคลมหนังสือ มีเจ้าไหนแนะนำมั้ยวะ ?
กูไม่ไหวแล้วกับการห่อบับฯ จ่าหน้าซอง ผนึกกล่องไปรษณีย์ ฯลฯ บ้านกูมีเด็กด้วย และกูโดนโทษว่าฝุ่นจากของพวกนี้เป็นตัวก่อภูมิแพ้
ยอดพรีฯ กูไม่เยอะ แค่หลักร้อย
Last posted
Total of 929 posts
ถ้าต้องการร้านที่รับห่อ-ส่ง-รับเรื่องเคลมหนังสือ มีเจ้าไหนแนะนำมั้ยวะ ?
กูไม่ไหวแล้วกับการห่อบับฯ จ่าหน้าซอง ผนึกกล่องไปรษณีย์ ฯลฯ บ้านกูมีเด็กด้วย และกูโดนโทษว่าฝุ่นจากของพวกนี้เป็นตัวก่อภูมิแพ้
ยอดพรีฯ กูไม่เยอะ แค่หลักร้อย
Ky พวกมึง คือกูอะอยู่ม.6 กูอยากรีบปิดเรื่องมากแต่ว่าคณะที่อยากเข้าแม่งโหดหิน แล้วเวลาเหลือน้อย กูต้องทุ่มกับอ่านหนังสือ ถ้าจะพักยาวๆไปสองสามเดือนนักอ่านจะยังอยู่ปะวะ ;-; หรือกูควรหาอะไรไปลงเล็กๆน้อยๆอะ แง
เพื่อนโม่ง กูอยากรู้ว่าปรกติของนักเขียนหน้าใหม่แล้ว แบบเพิ่งลงนิยายเรื่องแรก แล้วไม่ได้โปรโมทในทวิต ยอดคนอ่านประมาณเท่าไหร่กันวะ
>>476 ขึ้นอยู่กับแนวที่มึงแต่งด้วย ถ้าเป็นแนวกาม ตลกเบาสมอง หรือแนวแมสยอดวิวจะขึ้นเร็ว แต่กูแต่งแนวที่เน้นเนื้อเรือง ลงมา 5 ตอน ยอดวิวแค่ห้าพัน คนตามสามร้อย นามปากกาไม่ใหม่ด้วย ออกกับสำนักพิมพ์พิมพ์มาแล้ว 5-6 เรื่อง แต่กูไม่กังวลนะ กูขอแนะนำให้มึงลงนิยายให้สม่ำเสมอ เดี๋ยวคนอ่านจะเพิ่มขึ้นเอง
เหี้ย ทำไมพวกมึงคนอ่านเยอะจังวะของกุลงไปสามสิบกว่าตอนแล้วคนอ่านยังแค่พันเดียวเอง
>>478 กูเขียนแบบตอนแรกเบาสมองแล้วค่อยๆ เพิ่มความจริงจังในเรื่องขึ้นอ่ะ คือกูไม่ได้เป็นมือใหม่หัดเขียน แต่กูเขียนมานานแล้ว แค่กลับมาเขียนอีกรอบเฉยๆ เรื่องแรกตอนนี้ 30 ตอน เก้าหมื่นวิว ผู้ติดตามสามพัน เรื่องที่ 2 กูก็พีคขึ้น 40 ตอน ได้ สามแสนวิว ผู้ติดตามหกพัน เรื่องที่ 3 กูพีคสุดคือ ลง 10 ตอน สามแสนวิว ผู้ติดตามหมื่นนึง
ปัจจัยที่ทำให้คนอ่านตามมันเยอะมากๆ แบบชื่อเรื่อง คำโปรย การลงถี่ในช่วงแรกๆ การติดท็อปใหม่มาแรง นิยายกู 3 เรื่องติดอย่างน้อยท็อป 20 หมวดใหม่มาแรงทั้งหมด แต่เนื้อเรื่องก็สำคัญ เพราะมันคือสิ่งที่ทำให้คนอ่านอยู่กับมึงต่อ กูก็ไม่ได้ดังระบบล้านวิว แต่ก็อยู่ในเกณฑ์เรื่อยๆ สะสมฐานแฟนเรื่อยๆ สักวันก็อยากล้านแตกเหมือนกัน
>>483 ได้เป็นรายได้เสริมชิลๆ ไว้ใช้ฟุ่มเฟือยเฉยๆ คือเรื่องหลักที่เขียนกูไม่ได้ติดตอนขาย ไม่ได้ขาย ebook เองด้วย นิยาย 2 ใน 3 มีสนพ.มาติดต่อเรียบร้อย พิมพ์ปีนี้ทั้งคู่ รายได้ยังไม่ชัวร์ว่าจะมากขนาดไหน หลายคนบอกกูว่าขายเองเงินดีกว่า แต่กูรู้สึกว่ายังฐานแฟนไม่แน่นพอจะทำเงินแสนจากจำนวนคนติดตามแค่นี้เลยเลือกจะออกกับสนพ.สักพักก่อน กูมองสถานะตัวเองว่ายังกลางๆ ไม่ได้ดังมาก ไม่ได้พีคจัด เงินที่กูได้นอกจากโดเนทก็มาจากนิยาย PWP ที่เขียนขายเล่นๆ เป็นเรื่องสั้น ติดเหรียญอยู่ 7 ตอน มีคนตามอยู่พันคน ตอนนี้ยอดรวมแปดหมื่นวิว แต่ทำเงินให้กูแบบเดือนละ 2-3 พันมาครึ่งปีแล้ว
ตอนนี้คือกูไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินเลยไม่ได้ซีเรียสว่าต้องหาเงินจากนิยายเยอะๆ ส่วนตัวใช้เงินเปลืองเดือนละหลายหมื่น ติดชีวิตไฮโซ ลูกคุณหนู (ถุ้ย) คิดว่าต้องขยันกว่านี้ถึงจะทำเป็นอาชีพหลักได้ แต่ถ้ามึงยังเรียนอยู่ กูก็จะแนะนำให้ไปทำสตาร์บัคส์นะ รายได้สม่ำเสมอกว่า สวัสดิการดีด้วย ยกเว้นว่านิยายมึงจะติดลมบนดังเปรี้ยงปร้างมีคนกดซื้อตอนละ 5-6 พันครั้งไรงั้น
หายไป6วัน นักอ่านบอกรอนาน...กูละท้อ สปีดกูต่ำมากสัปดาห์ละตอน หรือแต่งไว่ก้อนค่อยลงทีเดียว หรือยังไง
ตรงเรื่องจริงหนูชอบคนอายุ45+,50+,60+และ70ขึ้นไป ใจเท่านั้น ต้องเลี้ยงดูเราได้ ต้องเป็นคนเชื้อสายจีนหรือญี่ปุ่น สิงค์โปร์
กูนับถือคนเขียนที่ไม่มีคอมเม้นเลยแต่เขียนจนจบว่ะ อีเหี้ย กูลงไปแปดตอนสงบเงียบจนกูจะปลีกวิเวกแล้ว ควรไปต่อหรือพอแค่นี้วะ
>>491 กูชอบคำว่า เขียนจบดีกว่าไม่เขียนของมึงมากเพื่อนโม่ง ขอบคุณที่ทำให้กูคิดได้ กูจะพยายามต่อไป
>>492 กูเป็นท้อนั่นแหละ ไม่ถึงกับไม่มีฐานคนอ่านแต่กูคือแหวกแนวจากเดิม เหมือนอยู่เอเชียดันไปโผล่ใช้ชีวิตในยุโรป ปรับตัวไม่ได้ ปกติกูเขียนสายให้ศีลให้พรติดเหรียญหาค่าขนมไปวันๆ พอมาเขียนนิยายจริงจังมันกริบเลยเป็นท้อ ขอบคุณเพื่อนโม่ง
คนที่ตามเขาตามเรื่องที่มีแนวโน้มว่าจะลงจบ,ลงถี่,ลงประจำ มากกว่าน่ะ แมสไม่แมสแล้วแต่แนว ความน่าสนใจ พลังอวย
>>496 ช่าย เห็นหลายคนที่มาตามหานิยายก็จั่วหัวไว้เลยว่าขอแบบจบแล้วเท่านั้น คงไม่อยากลุ้น กลัวนข.เทกลางทาง ไม่ก็รอนานกว่าจะมาต่อทีนึง บางทีฟีลอ่านก็หมดก่อนแล้ว
อย่างกูเองไม่ถึงกับต้องจบแล้วก็ได้ แต่อยากให้มีจำนวนตอนเยอะหน่อย (สัก 15+) แล้วก็จะดูวันอัพด้วยว่าทิ้งช่วงนานมั้ย อัพล่าสุดวันไหน
มู้นี้นักเขียนเยอะกูที่เป็นคนเขียนและคนอ่านอยากจะบอกว่าฝากนิยายของตัวเองแน่นอนว่าต้องฝากได้ โปรโมทตัวเองได้ แต่ถ้าเป็นเหมือนเรื่อง ราชามังกรฯ จ้านเกอคนนี้ของผมฯ ไม้เรียวฯ และอีกหลายเรื่องๆ ในกลุ่มนิยาย ที่ฝากดะมันทุกโพสต์ที่เขาถามหานิยายนี่ก็ไม่ได้นะ มันน่ารำคาญจนไม่มีความอยากอ่าน ถามหาแนวฟีลกู้ด แนวดราม่า แนวพระเอกเก่ง นายเอกซู ก็ฝากมันหมด ฝากมันทุกโพสต์ที่มีคนถามหา พอมีคนโพสต์ถามหานิยายก็ต้องมีเรื่องที่ว่าไปแปะฝาก ไม่ดูแนวไม่สนอะไรก็จะฝาก เห็นจนต้องซ่อนโพสต์
>>498 กูเป็นคนอ่าน แต่กูตกใจมากที่ตอนเห็นโพสต์ที่มีคนซาวด์เสียงเรื่องการแชร์/โฆษณา/รีวิวนิยายแบบเนี้ยนเนียน
อันนี้อ่ะ
https://www.facebook.คอม/groups/ybooks4share/permalink/3298429486935552
คือกูจะเข้าไปบอกว่าเลิกเถอะ กูขี้เกียจกดซ่อนโพสต์ซ่อนคอมเมนต์พวกมึง แต่ปรากฎว่ามีแต่นักเขียนมาบอกว่าควรเปิดให้โฆษณา ฝากนิยายได้จนชนะเสียงโหวตไปเลยมั้ง
กูก็เพิ่งรู้ว่ามีนักเขียนอยู่ในเพจเยอะกว่าคนอ่านอีกมั้ง มิน่าหลังๆ กูหารีวิวนิยายแทบไม่เจอ
แล้วหลังจากนั้นก็เหมือนเข้าใจกันเองว่าเพจนี้โพสต์ขายนิยายได้และ ขอแค่อย่าแฝงตัวเป็นคนอ่านมารีวิว
เลยมีแต่โพสต์นิยาย ฝากนิยายกันถี่ ๆ ดีตรงที่ฝากชัดเจนจนกูกดบล็อกง่ายดี หน้าฟีดกูโล่งขึ้นเยอะ
กูเปิดประเด็นไว้ห้องเม้าท์ แต่ไม่มีใครคุยกับกูเลย คือกูเกิดข้อสงสัยอะไรหลายๆ อย่างเลยไปเสือกมา
ต้นตอมาจากกลุ่มรีวิว กูเห็นเรื่องนึงที่เริ่มไปขายตามโพสต์ที่มีคนตามหาแนวนั้นแนวนี้ เริ่มขายแบบโมเดลราชามังกรกับจ้านเกอ แต่กูสนใจที่เจ้าของเรื่องบอกว่านิยายกำลังจะได้เป็นซีรีส์ กูเลยลองหาข้อมูลว่าแม่งซีรีส์อะไรวะ ทำไมไม่เคยได้ยินชื่อ นิยายเขาก็ไม่ได้ดังเป็นกระแสด้วย เป็นนิยายแนวนักเลงลูกกวาด ชื่อนิยายซ้ำกันกับเรื่องที่ดังๆ อีกเรื่องนึง
เขาบอกว่าขายลิขสิทธิ์ให้ค่ายนึงชื่อย่อ FFP ซึ่งเป็นค่ายใหม่ กูเลยลองไปหาข้อมูลดู พบว่าว้าวมาก ค่ายนี้เหมือนจะซื้อลิขสิทธิ์นิยายทีเดียว 5 เรื่องตั้งแต่ปีก่อน มีการจะร่วมทุนกับลาวทำซีรีส์ต่างๆ กูคุ้ยไปเจอข้อมูลเจ้าของเฮ้าส์ที่ชื่อ F เดียวกับชื่อค่าย ยิ่งคุ้ยก็ยิ่งน่าสนใจ เพราะจากในเฟซพ่อหนุ่ม F อายุแค่ 20 ยังเป็นนักศึกษาอยู่เลย เรียนอยู่ทางภาคใต้ของไทย และพ่อจะแชร์สารพัดอย่างเป็นสาธารณะทั้งหมด ทำให้การเสือกง่ายขึ้นมาก
ไอ้ F ผกก. ผู้จัด คนเขียนบท นักเขียนนิยาย และ ฯลฯ คือเคลมเก่งมากๆ แต่ถ้าสังเกตหน่อยจะรู้ว่าไม่เนียนสัสๆ เริ่มจากเคลมว่าคัตโตะ ลิปตายกเพลงให้มาประกอบซีรีส์ (❌ เพราะต้องไปคุยกับค่ายเพลงเพื่อขอแลคตาซิกนะ) และเคลมว่าตัวเองเป็น “วงใน” มีส่วนร่วมกับซีรีส์วายหลายเรื่องในขั้นตอนการถ่ายทำ เช่น พี่ชาย my bromance, นับสิบจะจูบ, หวานใจนายกระป๋อง, ธารไทป์, ออกซิเจน, แอบมองแอบจองรัก ซึ่งมึงไม่รู้เลยเรอะว่ามันคนละค่ายกัน เขาไม่ได้ข้ามค่ายกันขนาดนั้นเว้ย แล้วตำแหน่งมึงจะสารพัดนึกอะไรขนาดนั้น ถึงขั้นไปช่วยเขาแคสต์เนี่ย
คนเราจะโม้ก็โม้ไปเถอะ ถ้าทำแล้วสบายใจ แต่ถ้ามีเรื่องเงินเรื่องงานเรื่องเด็กเข้ามาเมื่อไร กูรู้สึกว่าเข้าข่ายมิจฉาชีพละ ขายฝันนักเขียนแน่นอน แล้วคือนักเขียนบางคนอย่างเจ้าที่เอานิยายไปขายในกลุ่มวายจิตอ่อนเชื่อจริงจังเหมือนคนไม่มีภูมิต้านทานไปได้ หรือเพราะกูสายนิเทศเลยรู้สึกทะแม่งๆ กับการทำงานของมันวะ ใครเป็นนักเขียนก็คิดดีๆ ถ้ามีอะไรแบบนี้ติดต่อมา ใช้สติ ปรึกษาเพื่อน ปรึกษาคนเยอะๆ การจะทำซีรีส์เรื่องนึง ถ้านิยายมึงไม่ดัง ไม่พอมีชื่ออยู่แล้วในยุคนี้ มันแทบเป็นไปไม่ได้เลย คิดให้ดีๆ อย่าไปหลงภาพสวยๆ ที่ใครเขามาหลอก
>>500 บรรดานักอยากเขียนทั้งหลายทำตัวเป็น loser มาดิ้นกันใหญ่ กลัวไม่ได้โพสต์อวยนิยายตัวเอง คือชื่อกลุ่มมันก็บอกอยู่แล้วว่ารีวิวนิยาย ก็ควรจะมีคนอ่านมารีวิวปะวะ ถ้านักเขียนมาโพสต์ถึงผลงานตัวเองเค้าไม่เรียกรีวิว เรียกโฆษณา/โปรโมต/แนะนำจ้า ผิดวัตถุประสงค์ของกลุ่มนะ
>>504 หลอกไปเป็นนายทุนเปล่าวะ แบบช่วงก่อนนู้นนนมันเคยมีคนหลอกให้ไปเป็นนายทุนทำหนัง เอาคนหล่อๆ/สวยๆที่อยากเป็นดารามา ให้เล่นหนัง แล้วบอกเงินทุนไม่พอ ให้ช่วยออกเงิน จะปั้นให้ดัง สุดท้ายก็ทำละครกากๆมาเรื่องๆนึงซึ่งสุดท้ายก็ไม่ได้ฉายโรงหรอกทำไว้ดองเฉยๆ เอาไว้ฟอกเงิน+หลอกเงินคนอยากดัง)
(ฟอกเงินในที่นี้คือรับเงินทุนจากนายทุนมาเป็นค่าลงทุนทำหนัง สุดท้ายก็เอาเงินไปเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆหมุนออกไปตามแหล่งที่อยากส่งเงินไป สุดท้ายหนังไม่ได้เข้าโรง=ไม่มีรายรับ ขาดทุนย่อยยับ เงินหมด ปิดเคส ย้ายไปทำหนังเรื่องอื่นต่อ)
กูอยาก ky ถามนิดนึง เคยจ้างคอมมิชแล้วนักวาดเงียบแล้วไม่ค่อยสื่อสารกับมึงมั้ยวะ แบบไม่อัพเดทว่าถึงคิวแล้ว ไม่ถามแลกเปลี่ยนไอเดีย กูส่งบรีฟไปแล้วก็เงียบไปเลย แต่พอทักถามก็บอกว่ายังทำอยู่ๆอะไรงี้ คือมันยังไม่เลยเวลาที่นัดกัน แต่กูใจไม่ค่อยดี กลัวเขาไปดุ่มๆทำแล้วออกมาแย่แล้วต้องเท
>>508 กูไม่ใช่นักเขียนเลยไม่เคยดีลกับนักวาด แต่มึงลองใช้ศาสตร์ทวงงานทั่วๆไปดูมั้ย เช่น
- แย็บๆ ไปว่าบรีฟเคลียร์มั้ย มีจุดไหนยากไป ไม่สะดวกจะวาดให้หรือเปล่า (จะได้รู้ว่าอ่านบรีฟยัง)
- พอจะส่งดราฟให้ได้เมื่อไหร่ อยากเอาไปอวดนักอ่านแง้ว (คือกูนี่แหละอยากเห็น)
- ถ้าช่วงโควิดมีผลให้ส่งงานได้ช้าลงก็บอกได้น้า เรายังพอเขยิบตารางได้ (ซะที่ไหนเล่า)
- ถ้ายอดขายดี อาจจะจ้างวาดจิบิเพิ่ม ตอนนี้คิวงานแน่นไหม ?
ฟังจากคำตอบพวกนี้มึงก็น่าจะเดาได้ว่านักวาดอยู่โพรเซสไปถึงไหนแล้ว
(แต่กูขอเผือกกลับถามมึงหน่อยว่าถ้างานออกมาแย่มึงจะเทเลยเหรอวะ ไม่เสียดายแย่เรอะ)
>>509 วิธีมึงดีเลย คือกูเคยดีลกับนักวาดหลายครั้งแล้ว แต่ไม่เคยเจอแบบแดกบรีฟแล้วหาย เลยเงิบแดกไปแป๊บนึง เพราะปกติมันต้องมีฟีดแบ็กกลับมาว่าเรากำลังจะเริ่มละนะ หรือถามว่าเอ้อ ตรงนี้คิดว่ายังไง หรือติดคิวก่อนหน้าถึงวันที่ บลาๆๆ อะไรว่าไป อันนี้โนรีแอคชั่นจนกูงง แต่เดี๋ยวลองเอาวิธีถามไปปรับๆ ดู ขอบคุณมากๆเลย
ที่บอกว่าถ้าไม่โอจะเทคือกูคาดไว้ล่วงหน้า งานที่ไม่สือ่สารกันนักเขียนมีโอกาสจะบ้งจะพังแน่นอน กูเลยทำใจไว้ล่วงหน้า5555 แต่ถ้าเขาตีบรีฟได้ตรงใจกูแล้วทุกฝ่ายโอเคก็ถือว่าโชคดีไป กูแค่แพนิกน่ะ
>>510 กูคอมมิชมาสิบคน เจอแบบที่มึงว่ามากกว่าครึ่ง ซึ่งบางคนวาดปกให้สนพด้วย กูก็ตามไปคอมมิชเพราะคิดว่าความรับผิดชอบคงดี แต่เปล่าเลยมึงได้บรีฟแล้วหายเงียบ ต้องตามเองจี้เอง แล้วทำมาก็เหมือนเผา เพราะถ้าจี้วันนี้มักจะได้ตอนประมาณตีสี่ ส่งงานแบบลวกมาก บางคนได้บรีฟแล้วไม่ยอมคอนเฟิร์มวันหายไปเลยก็มี
>>511 เชี่ย กูว่าละว่ามันต้องมีคนแบบนี้เยอะ5555ที่น่าแค้นคือพวกนี้อัพโซเชียลอัพเรื่องในด้อมตัวเองเป็นปกติ แต่งานเงียบหาย ทีนี้กูอยากรู้เพิ่มเลยว่าได้มาแบบเผามึงทำไง หรือพอได้บรีฟแล้วหาย เขาไปแล้วไปลับหรือกลับมาอีกแบบเลยกำหนดมึง?
>>512 อันนี้กูคิดนะ คิดเอาเองซึ่งอาจไม่ถูก แต่คนคอมมิชบางทีไม่ใช่ นข ชื่อดัง ไม่ใช่งานประเภทที่นักวาดคนนั้นอินหรือจะหวีดให้ งานมันก็ทำไปแบบแกนๆ แล้วสำหรับกูคือคนบางคนยังไม่พร้อมที่จะรับงานแบบนี้ ไม่มีความรับผิดชอบในวิชาชีพพอ ซึ่งกูกำลังรู้สึกแบบนั้น
ขอถามเรทราคาโปสการ์ดกับการ์ดใสหน่อย อันไหนแพงกว่ากันอะ
พวกมึง กูขอถามหน่อย คือกูเป็นผู้ชาย แล้วอยากรู้ว่าผู้หญิงนี่อ่านงาน pwp ด้วยความรู้สึกแบบไหนกันวะ
แต่ก่อนกูอ่านงานพวกนี้จากบอร์ดเกย์มันก็เป็นงานเกรดแค่ 'เรื่องเสียว' ที่คนอ่านแล้วสนองความใคร่เฉยๆ
>>514 ของกูกลับชอบเส้นรัฟมากกว่าว่ะ มันไม่ได้แย่นะ รัฟของบางคนแบบไม่ชอบตัดเส้นคมมากอ่ะ กูบรีฟแม่งเป็นหน้าเลยว่ะ ละเอียดกระทั่งสีตา ภาพประมาณไหน อารมณ์ตัวละครแบบไหน นิยายเป็นธีมไหน มีเรฟให้ไหม เสื้อผ้าชอบแบบไหน ใส่รูปหมดจนกลัวเขาด่าเอา แต่พอส่งไปนักวาดเสือกชอบมากเพราะไม่ต้องถามเยอะอีก งานเขาง่ายขึ้น ก็ภาพเร็วขึ้นว่ะ
>>518 มันแล้วแต่ว่ะ ทุกอย่างขึ้นกับจำนวนพิมพ์อ่ะ ถ้ามึงเอาการ์ดใส มีสองแบบคือ พื้นขาวกับพื้นใส ถ้าเป็นพื้นขาวมีตั้งแต่ 9-12 บาท/ใบ ไอ้พื้นใสมันราคาถูกกว่าพื้นขาวราว 3 บาท อาจจะราว 5-6 บาท (อันนี้แล้วแต่คุณภาพแต่ละร้านนะมึง) ไอ้พื้นขาว ภาพชัดราคาแพงกว่าเสือกลอกขูดขีดง่ายกว่า ไอ้พื้นใสดี แต่ถ้าภาพมึงมีสีขาวมันจะกลายเป็นโปร่งแสงเลยเว้ย จะชัดก็ตอนที่มึงวางกับพื้นกระดาษขาว ๆ แต่ถ้าเป็นโปสการ์ดก็ราว 5-6 บาทแล้วแต่เนื้อกระดาษและจำนวนพิมพ์ว่ะ ลองค้นดูในเนตละกัน
คนอ่านเดี๋ยวนี้เขารู้จักกันแต่เมะเด็กลูกหมา เมะแด๊ดดี้ เมะเลวผัวชั่วอย่างนี้เหรอวะ กูเขียนพระเอกเป็นเมะแมวหยิ่งๆ นายเอกเป็นหมาชิวาว่าโง่ๆ คนอ่านก็ยังพยายามยัดว่าพระเอกกูเป็นหมาใหญ่คลั่งรัก นายเอกเป็นแมวเหมียวตัวน้อยๆ กูลองถามเพื่อน ถามคนรอบข้างที่อ่าน เพื่อนกูก็บอกว่ามันเมะแมวอยู่นะ แมวนิสัยเสียหยิ่งๆ ที่บางทีก็มาอ้อนมึง บางทีก็งับมึงแบบไม่มีเหตุผลอ่ะ คือกูสับสนมากว่ากูไม่สามารถสื่อออกมาให้คนอ่านเข้าใจได้เหรอวะว่ามันไม่ใช่เมะหมาแบบที่เขาคุ้นชิน คือหลายคนอ่านมาตั้งยาว ก็ยังเมะหมาๆๆ ทั้งที่ในเรื่องพระเอกคือแทบไม่มีการแสดงออกแบบเมะหมาเลยด้วยซ้ำ
>>529 สเตอริโอไทป์ของพอ. ที่คนอ่านจำได้และชอบมันก็วนๆ ประมาณไม่กี่คำนี้
ช่วงนึงกูเบื่อคำว่าสามีแห่งชาติ สายเปย์ หลงเมีย เบื่อจะอ้วกที่มีแต่คนถามแต่แนวนี้ กูสายอ่านไม่ใช่สายเขียนแต่งงใจที่ทำไมนักเขียนขยันผลิตคาร์แบบนี้จัง (กูไม่ได้จะกดรสนิยมใคร แค่เอียนค. จำเจ) ไม่แปลกใจที่นักรีวิวหลายเจ้าจะทำอินเด็กซ์เฉพาะให้พวกมึงไปขุดอ่านกันเลย
ถ้ามึงจะฉีกแนวสร้างค. หลากหลายขึ้นมามั่งสิดี
>>530 คนอ่านนิยาย ส่วนใหญ่กูว่าเขาอยากหาอะไรฮีลใจ แบบสามีแห่งชาติ พระเอกสายเปย์ เวลาอ่านตอนน้วยๆ เปย์ๆ งุ้งงิ้งมุ้งมิ้งคือใจฟู ฮีลใจ เอาอีก อย่างของกูตอนพระเอกมันน้วยนายเอกยอดวิว ยอดเม้นต์ ยอดเปย์พุ่ง เขาชอบเพราะมันนุ้บนิบ แบบชีวิตจริงแม่งเครียดอยู่แล้ว เจออะไรแบบนี้เข้าไปมันฟิน มันมีความสุขอะ คนเลยนิยมเขียนแนวสายสุขนิยม คาร์ซ้ำๆ เพราะมันขายได้ คนอ่านมีแน่นอนไม่ต้องเหนื่อยดัน
>>530 >>531 กูพยายามตามใส่ความคิดตามที่มึงบอกมาตั้งแต่ช่วงต้นๆ เรื่องละ ส่วนหนึ่งเขาก็มองว่าเป็นแมวตามที่กู inception ไว้ แต่มันก็ยังมีคนที่ยืนยันจนเรียกได้ว่ายัดเยียดความหมาให้อยู่ได้ แบบบอกว่าพระเอกเป็นหมาใหญ่ที่ทำตัวเป็นแมว(???) กูก็งงไปสิพี่น้องว่าหมาใหญ่ที่ทำตัวเป็นแมวคือยังไงวะ ก็ในเมื่อมันทำตัวเป็นแมวอยู่แล้ว มันจะยังเป็นหมาใหญ่อีกเรอะ ปล่อยมันเป็นแมวไปไม่ได้หรือยังไงวะ แล้วคนพวกนี้ส่วนใหญ่ดันเป็นพวกที่ช่วยแชร์นิยายให้กูด้วย ใจนึงกูขอบคุณเขามากๆ แต่เวลาเขาขายด้วยคำว่า "พระเอกเป็นเมะลูกหมาตัวหญ่าย" แล้วมีใครมาอ่านมันจะไม่ตรงกับสรรพคุณน่ะสิ
กูเข้าใจแหละว่าความหลากหลายของเมะมันลดลงเพราะความต้องการของตลาดตามที่ >>532 พูด แต่กูก็ยังอยากเขียนเมะแมวของกูง่ะ มันแค่รู้สึกตะขิดตะขวงใจว่าคุณพี่ไม่รู้จักผู้ชายประเภทแมวกันแล้วเหรอค้าาา ทำไมต้องไปยัดเยียดให้เมะเด็กกว่าเป็นรูกหมาทุกคนด้วย สุดท้ายก็ได้แต่บ่นแล้วก้มหน้าเขียนต่อไปง่ะ
>>533 ออ ถ้าในแง่คอนเซปโปรโมทกุเข้าใจแฮะ แต่ในแง่มุมมองนักอ่านนี่มันบังคับไม่ได้ว่ะ ความแมวความหมาแต่ละคนไม่เท่ากัน ลำพังแค่ออร่าเคะเมะยังตีกันตายไม่ลงตัวเลย ยังไม่รวมสารพัดฟีลเตอร์ที่เป็นสกิลเฉพาะสาววายอีก(สกิลมโน) เป็นไปได้ว่าคนอ่านมึงชอบทางนั้นถ้ามีอะไรเข้าเค้านิดนึงเค้าก็เบี่ยงไปมองทางนั้นได้หมดแหละ อย่างน้อยเค้าก็ชอบงานมึงนะ หรือลองจั๋วหัวเองเลยไหม เมะไทป์แมวxอะไรก็ว่าไป คนอ่านจะได้รู้ว่ามึงอยากเขียนไทป์นี่นะ แต่อกมาคนอ่านเห็นเป็นอะไรก็ว่ากันไป
สมมติว่าวันหนึ่งมีโรส ดีพ ฟาไฉ มาจีบไปตีพิมพ์ พวกมึงจะไปตีพิมพ์กับที่ไหนกันวะ ขอเหตุผลประกอบหน่อย
โรสเถอะ ฟาไฉสเกลเล็ก คนเหม็นก็เยอะ ดีปก็พอกัน แต่ไม่ใช่ลูกรักทำเงินไม่ได้ตามเป้า ใดๆ เขาก็เท
ขอโทษที กูมาทีหลัง ฟฉ เคยมีคดีอะไรวะ ?
กูไม่ใช่นักเขียน แต่เคยซื้องานของสนพ.นี้ก็ทรีทลูกค้าไม่แย่นะ หรือกูพลาดอะไรวะ
ฟฉกูรู้สึกเหมือนช่วงปีที่แล้วติดอะไรสักอย่างป่ะ เห็นมันลงปกรักเหลนมาเป็นปีแล้ว เพิ่งได้ขายปีนี้แถมขายกันสนพใหม่ที่แตกแยกมา เมิงลองคุยเรื่องช่วงเวลาออกดีๆ
ฟฉแรกๆมันมาจากแก๊งใหญ่ๆในสสตว เป็นพวกคลั่งกริบ ด่าไปทั่ว ไม่มีใครทำถูกใจ เหี้ยหมด จนตอนหลังมาทำเองถึงได้รู้ว่ามันยากยังไง เลยสงบปากสงบคำ
กูเป็นนักเขียนแบบอิสระ ไม่ได้ผูกขาดพิมพ์กับที่ไหนเป็นพิเศษ ฟฉ เคยจีบกูหนักมาก แบบเวลาส่งมาหารัวๆ ถี่ๆ ว่าชอบพล็อตเรื่องสั้นที่กูเขียนพอร์นขาย จะเขียนเรื่องยาวไหม เขาจะจีบ ประมาณ 2-3 รอบ ปรากฏถึงเวลาจริงๆ กูเปิดเรื่องยาวฟฉที่กระเหี้ยนกระหือรือมาโดยตลอดดันกริบ มีแต่ที่อื่นมาจีบตั้งแต่ลงได้ 10 ตอนจนกูผ่านพิจารณาแล้ว เดี๋ยวสักพักมาจีบจะงอแงอีกไหมว่ามาไม่ทัน หรือเวลากูเปิดเรื่องใหม่กูควรส่งไปบอกเขาวะ งงในสถานะตัวเอง พูดจริงจังเลย
โห เพิ่งรู้จากฝั่งน.ข.ว่าเคยเจอแบบนี้
ทำไมสันดานแย่จังวะ จีบดะอย่างกับพวกเพลย์บอย
ว่าแต่สสตว. คืออะไรอ่ะ?
มันก็เป็นวิธีทำตัวให้เป็นที่รู้จักอ่ะ แรกๆมาก็เป็นสนพโนเนมไม่มีใครรู้จัก ก็ไปแนะนำตัวให้นขรู้จักเยอะๆ เวลาเขาเปิดเรื่องใหม่อยากได้สนพดูแลจะได้เป็นตัวเลือกในใจ ตรงนี้กูว่ามันก็ไม่ผิดไร ผิดที่มันไปงอแงเนี่ย 555
อห กุเป็นนักอ่านไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย เพิ่งเห็นเรื่องที่กุชอบจะออกกับฟฉพอดี (บอกมาสามเดือนแล้ว) งี้จะเปนไรป้ะเนี่ย คือรอนานกุหมดความอยากซื้ออะ
Ky ขอปรึกษาหน่อย เราเป็นนักเขียนนะ โนเนม แต่อยากหารายได้จากการติดเหรียญ แนวใหนขายดีเหรอ ตอนแรกไปถามห้องนักเขียนเขาแนะนำให้มาถามห้องนี้ดูน่ะ
พอดีบ้านเราไม่ค่อยมีเงิน เลยอยากหาเงินช่วยแบ่งเบาภาระครอบครัวน่ะ เลยว่าจะแต่ง p ไม่ก็ pwp แนววาย แฟนตาซี
>>557 เกินแล้วๆ 5555 ไม่ผิดกฎหมายแน่นอน
ถามอีกนิดว่าจำเป็นมั้ยที่ต้องเขียนให้นายเอกบอบบางถึงขายดี พอดีกูไม่ชอบเขียนแนวนายเอกนุ่มนิ่มเท่าไหร่อ่ะ อยากเขียนแนวเมะโหดกับนายเอกเถื่อนอ่ะ เรื่องไม่แฮปปี้ใจฟูมาก ไม่ได้เยทั้งตอน คนจะซื้อมั้ย พอดีกูเป็นคนที่อ่านพวกเอาแต่เยแล้วกูง่วงและฝ่ออ่ะ แต่กูอยากหาเงินจริงๆช่วงนี้
>>558 pwp นอ. ร่างบางร่างหนากูอ่านหมดนะ (จิงๆ กูชอบเก็บอีบุ๊คมากกว่า แต่มึงขายรายตอนด้วยก็ดีแหละ) กูไม่ชอบแค่ฉากเสียวที่มีแต่เสียงตอกเสาเข็มอ่ะ
แต่แต่แต่ ถ้ามึงมีเนื้อเรื่องด้วยต้องวางโพซิชั่นตัวเองดีๆ ว่าจะขายกลุ่มไหน ถ้าปังก็ขายได้หลายกลุ่มเลย ดูเรื่อง hentai game bad end เป็นตัวอย่างที่ดีได้
>>559 กูคิดว่าเรื่องของกูเป็นแนวฮาร์ดคอนะ แบบขิงก็ราข่าก็แรงอ่ะ นายเอกไม่ยอมคนแต่สู้พระเอกไม่ได้ ประมาณนี้มันจะมีกลุ่มที่ชอบแบบนี้เยอะมั้ย กูโนเนมกลัวกริบน่ะ แล้วเรื่องกูเป็นคนชอบเน้นบรรยายไม่ชอบเสียงซาวด์เหมือนกัน มันตลกอ่า ไม่รู้ทำไมกูอ่านแล้วขำอ่ะ5555 แต่กูเห็นแบบที่กูไม่ชอบขายดีกูเลยมาลองถามดูน่ะ
แต่ถ้ามันมีกลุ่มคนที่ชอบแนวนี้กูจะได้เขียนแบบสบายใจหน่อย
ky ไม่รู้มู้นี้มั้ยแต่เพิ่งเห็นปกเรื่องนึงขอฟฉ อลังฉิบหาย ค่าปกพร้อมบ๊อกซืแม่งเท่าไรวะเนี่ย ปกระดับนี้ถ้าทำเล่มเองต้องขายเป็นพันเล่มมั้ยถึงจะคุ้มทุน อห กุอึ้ง ไม่นึกว่าสนพไทยจะลงทุนกับปกขนาดนี้อะ
ป.ล. ไม่ได้มาดิสเครดิตอะไรนะ แต่กุอยู่สายวาดมาก่อน เห็นอาร์ตแล้วประเมินราคาได้คร่าวๆ อะเลยอึ้งมาก เพราะอาร์ตมันดีจัดจริง (ส่วนเนื้อเรื่องยังไม่ได้อ่าน) ปัดผ่านๆ นึกว่านิยายเทศ ดันของไทยซะงั้น โคตรเงิบ
อนึ่งคือ ใครรู้ราคาปกมาบอกกุได้ เห็นแล้วอยากเก็บเป็นเป้าหมายจ้างตอนรวยเลยว่ะ
ตอนนาบูออกปกเอนเฝอรัวๆ ไม่ชมบ้างวะ
ไม่เคยเห็นจริงๆ อย่างที่ว่ากุอึ้งว่าถ้าทำมืออะต้องขายได้ระดับนึงเลยถึงจะคุ้มทุน นักเขียนหน้าใหม่ที่จ้างวาดปกราคาห้าพันก็เห็นคิดหนักกันละ กุไม่ตามนิยายไทยมานาน และคงเพราะส่วนตัวกุไม่ค่อยชอบเส้นฉงกงมั้งเลยไม่ได้คิดว่ามันอลังอะไร (ขออภัยคนที่ชอบ)
สรุปตามที่กุบอกในเม้นแรก >>570 ถ้าไม่ทำกับสนพจะมีสักกี่คนจ้างแบบนี้ อย่าแซะกุเลย กุเพิ่งมาเห็นไม่ได้มีเจตนาเลือกที่รักมักที่ชังอะไร มู้นี้ก็ไม่ค่อยเห็นพวกมึงเอาปกมาลงให้ชมสักที อันนี้เป็นปกวายกุเลยไม่ได้เอาไปพูดในลิธ รู้ว่ากุไม่เก๋าเท่าพวกมึงหรอก แต่กุใจบางมาก เบาได้ก็เบาเถอะมู้มันจะได้ครึกครื้นมีคนเข้ามาบ่อยๆ
แต๊งโม่งที่เข้ามาให้ข้อมูล เดะกุไปตามส่องงานนักวาดด้วย งานแบบนี้ต่อให้เป็น personal use แต่ถ้าเป็นเรทอิ๊งก็ไม่เบาอะ55555
>>570 อาจจะไม่ได้ต้นทุนสูงเท่าที่คิดก็ได้มึง ถ้าปกหมื่นกลาง รวมลิขสิทธิ์ต้นฉบับ+จิปาถะอื่นๆไม่ถึงแสนหรอก เขาขายได้สัก 100-200 ก็กำไรแล้ว ประกอบกับเป็นพรี ตามที่กูเคยได้ยินเสียงเล่าอ้าง ฟฉ ไม่น่าพิมพ์ถึงพัน งานของ นข คนนี้เหมือนจะดัง แต่จริงๆก็รู้จักแค่ในวงแคบๆ ไม่อย่างนั้นเขาไปออกกับกุหลาบ ออกกับด.ที่เปนมหาชนแล้ว ถ้าไม่จับพลัดจับผลูดังจากองค์ชาย incest แย่งเรือล่มเรือ เขาไปทางแฟนตาซีมากกว่า งานแนวนี้ผู้อ่านน้อยกว่าแนวปกติเยอะ และเท่าที่เห็นก็คงผูกปิ่นโตกับฟฉยาวๆ (ขอโทษคนอื่นด้วย กูเป็นหนึ่งในคนที่ยี้เจ้านี้ เลยไม่ได้ซื้องาน นข ไปด้วย)
คุณเฝอวาดปกนิยายมาคั้งแต่สมันแฟนตาซีของถาพังแล้วนะ ลายเส้นก็พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ เพจเขาเวลาประมูลภาพทีก็เป็นหมื่นอยู่แล้ว
>>582 งานคนเขียนองค์ชายสามมันดังเฉพาะกลุ่มจริงๆ นั่นล่ะ คนไม่อ่านฮาเร็ม ไม่อ่านincrest ก็ไม่แตะเลย แต่เรื่องแฟนตาซีของเขาล่าสุดสนุกนะ ปกสวยด้วย ฟฉ.ที่กูชอบเลยคือห่อดี แต่เพราะไม่ค่อยถูกกับสนพ เลยไม่ได้ซื้ออะไร ตามนข มากกว่า
ใหม่มาแรงของ RAW นับยังไงว่าใหม่วะ ? ต้องเป็นเรื่องที่ลงในเดือนนั้นแล้วติดอันดับเรื่องฮิตในเดือนนั้นเลยหรือเปล่า ?
>>583 จริงๆมองอะไรก็ต้องมองยาวๆแหละ กูอาจจะติดภาพสมัยเยกันบนปกอย่างมึงว่า55555 จากที่เม้ากันบนๆ กูก็เป็นคนนึงที่ไม่ชอบสไตล์วอแว นข จีบดะไปทั่ว แต่ว่าถ้านานๆไปไม่มีอะไรก็ไว้ดูเป็นเรื่องๆ มึงก็เม้าๆได้ กูไม่ได้คิดจะเหยียดความชอบใครและคิดว่าหลายคนในโม่งก็เก็ตเรื่องนี้
>>584 กูคงไม่ใช่แนวแฟนตาซีเอง55 แต่กับ incest นี่กูไม่ไหวจริงๆ รู้สึกแหยง ใจนึงกูก็ไม่อยากเหยียดความชอบคนอื่น แต่อีกใจกูก็อดเควสชั่นไม่ได้ว่ะว่าการเขียนงานแบบนั้นให้แมสมันดีเหรอ น่าภาคภูมิใจตรงไหน อะไรแบบนี้ว่ะ คนพูดกันเยอะแยะจนกูเอียนมากแล้วว่าแยกแยะได้ๆ แต่ในฐานะคนเป็นนข/สนพ การหยิบงานแบบนั้นขึ้นมาบนดินแล้ว warning เท่าแถวมดเดิน ยังไงกูก็รู้สึกไม่โอเค(แต่กูก็อาจเป็นส่วนน้อยไง พอเข้าใจ) กูเลยพลอยเหม็นงานอื่นของเขาไปด้วยทั้งที่อาจไม่มีอะไรไม่ดีอะ55
เด๋วนี้ถ้างานเราไม่ดังสนพ.จะให้ผ่านมั้ยวะ กุอยากลองส่งไปดูแต่คนตามนิยายกูก็ไม่ได้เยอะว่ะ
>>584 องค์ชายสามดังเฉพาะกลุ่มเหรอวะ ตอนจบลงเห็นติดเทรนทวิตเลย(ไม่แน่ใจว่าอันดับหนึ่งมั้ยแต่ท็อปๆจนกูยังไปอึ่งในกลุ่มไลน์โม่ง) นอกจากแฟนฟิคเกากับวายที่เคยทำซีรีส์ ไม่เคยเห็นนิยายล้วนๆไม่มีปัจจัยอื่นเสริมดันจนขึ้นเทรนได้ ขนาดวายแปลยังมีแค่ปรมาจารย์ลัทธิมารที่คนพูดถึงจนขึ้นเทรนได้(ซึ่งเป็นหลังซีรีส์ฉายด้วย)
จริงๆกูว่าคนที่รับนิยาย incest harem rape ไม่ได้มีน้อยกว่าพวกที่รับได้ด้วยซ้ำ จากเรตติ้งโดยรวม โดบเฉพาะเรื่องไหนพระเอกข่มขืนนายเอกยอดคนอ่านสูงปรี๊ด
>>591 ถ้าไม่ติดช่วง sjw อาละวาด กูก็เชื่อว่าสาย incest rape คนชอบมากกว่าไม่ชอบนะ
ยกเว้นสาย harem ที่กูมองว่าเขียน (ให้ถูกใจมหาชน) ยาก
บางอ่านมองว่า harem คือมะรุมมะตุ้มมีคนรุมจีบ แต่คนเสียบนอ. มีได้คนเดียว แต่คนอ่านบางกลุ่มก็ฟินกับสาย harem ที่นอ. โดนเสียบอย่างเท่าเทียมตามโควต้า 555
>>592
กูมองว่ากลุ่มสปอยในเฟสเป็นกลุ่มเฉพาะของคนอ่านวายที่ต้องการหาคนแชร์ข่าวจริงจัง ขณะในทวิตจะเป็นคนอ่านทั่วไปที่ไม่เข้าด้อมวายเฉพาะ นึกภาพเพื่อนร่วมงานอ่านซื้อนิยายจีนมาเยอะแต่ก็มีน้อยคนจะเข้ากลุ่มนิยายจีนอ่ะมึง และเรื่องที่หลุดมาติดเทรนได้คือดังขนาดพวกไม่ค่อยพูดถึงนิยายเฉพาะยังดังจนขึ้นได้
เอาง่ายๆกูว่ากลุ่มสปอยก็เฉพาะทางประมาณนึง สังเกตแบบคนชอบเรียกร้องอย่างอ่านแมนชนแมน เมะชนเมะเยอะ แต่ความจริงตลาดใหญ่ชอบแนวเคะสาว ดูจากนิยายที่ขายเล่มกับติดท็อปในเว็บต่างๆ ซึ่งกูมองว่ากลุ่มที่หวีดลงทวิตคืออย่างหลังและตลาดใหญ่กว่า
ยกตัวอย่างได้มั้ย กูเห็นไม่พวกแฟนฟิคก็พวกนิยายหลังมีข่าวทำซีรีส์อย่างเดือนเกี้ยวเดือน นิทานพันดาว นิยายล้วนๆพึางเคยเห็นเรื่องนี้เรื่องแรก
กูยกตัวอย่างงานเขียนคุณมะเหมี่ยวแล้วกัน รายนี้เคยติดเทรนด์ไทยอันดับหนึ่งเรื่อง ขฟขผ. งานทุกเรื่องติดเทรนด์เกือบหมด เช่น ลดตด จจจ นมตราหมีฯ อีกคนก็คือคุณโฮลี่ฯ คนเขียน อทดต เดือนหนาวฯ นิยายติดเทรนด์บ่อยมาก ยอดสูงสุดคือรีกันไปครึ่งหมื่น นี่ก็ติดเทรนด์ไทย
นิยายที่ไม่ใช่ฟิคติดเทรนด์เยอะอยู่นะ ดังแบบถูกพูดถึงในวงกว้างด้วย สองคนที่กูยกมาคือออกกับสนพ จะเรื่องไหนจะกี่เล่มก็คือขายดีตลอด ดังนั้นองค์ชายสามกูไม่แปลกใจเท่าไหร่ เพราะมันมีเมะหลายคน มีเมนใครเมนมัน ตอนติดเทรนด์มีทั้งคนชมคนว่า
เรื่ององค์ชายสามนี่งงว่าทำไมแมสในทวิตเบอร์นั้น แบบเรื่องอื่นอินเซสโดนแหกจนปิดแอคกันไปเลยก็มีอะ
กูสงสัยว่าจีนโบราณเนี่ยพี่น้องแต่งงานกันเป็นปกติมั้ย กูไม่ค่อยรู้เรื่องจีนเท่าไหร่ นิยายจีนก็ไม่อ่าน แต่ราชวงศ์ประเทศอื่นๆเค้านิยมคบหากันแค่ในเครือญาติอยู่แล้วปะ ไม่ต้องไปดูประเทศอื่นเลยก็ได้ เอาแค่ประเทศเราก็มีตั้งเยอะแยะที่พี่น้องแต่งกันเอง งั้นถ้ามันเป็นแนวโบราณแล้วเขียนอินเซสต์เนี่ย ถือว่าผิดอยู่ดีเหรอ ในเมื่อประวัติศาสตร์มันเป็นแบบนั้นอะ
>>602 กูลองไปหาข้อมูลแบบผ่านๆ ตามปวศ.จีนเหมือนจะไม่ฮิตพี่น้องแต่งกันเอง แต่ก็มีบ้างที่แต่งกับพี่น้องต่างแม่ เช่น จักรพรรดิฮั่นฮุ่ย, จักรพรรดิฮั่นอู่, พระเจ้าซุนฮิว ส่วนประเทศอื่นๆมีพี่น้องแต่งกันเองประปราย ถ้าระดับพ่อแม่เดียวกันเลยก็อียิปต์โบราณชัดสุด นอกนั้นจะเป็นพี่น้องต่างแม่หรือลูกพี่ลูกน้องซะเยอะ พีคหน่อยก็อิหร่-านโบราณ (จักรวรรดิพาร์เธีย) ควีนรวมหัวกับลูกชายฆ่าผัวแล้วเอาลูกเป็นผัวแทน (ไม่แน่ใจนะว่ามีหลักฐานทางปวศแน่ชัดมั้ย ออกแนวเขาเล่าว่า)
Incest ในแง่ช-ช มันไม่หนักเท่า แง่ช-ญมั้ย ในกรณีริยายแบบนี้ ??
>>607 ถ้าคิดในแง่ประวัติศาสตร์ กูว่าอินเซสชายหญิงมันมีเหตุผลที่เข้าใจได้มากกว่าว่ะ หมายถึงกรณีราชวงศ์ไรงี้นะ คือพวกเลือดน้ำเงินจะแต่งงานกันเองในเครือญาติเพื่อรักษาความบริสุทธิ์ของสายเลือด แต่ถ้าเป็นพี่น้องชายชายได้กันเองนี่มันชัดเจนว่า for pleasure ล้วนๆเพราะไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อผลิตลูกอยู่แล้ว แต่ถ้ามองในแง่นิยาย กูกลับโอเคที่จะอ่านอินเซสชายชายมากกว่า ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน 5555555
พูดยากนะ บางคนก็เคร่งจนเครียด พาลทำให้คนอื่นเครียดเป็นประสาทไปด้วย กูก็รู้นะว่าในความจริงแบบนั้นมันผิด แต่กูก็อ่านนิยายแบบนั้นอยู่ดี ......
incest มันผิดศีลธรรม ไม่ได้ผิดกฎหมาย เสกลเดียวกับแนวศิษย์อาจารย์ที่หวีดกันโครมๆ ใครจะชอบก็ชอบไปเหอะ ไม่ต้องมานั่งสำนึกผิดกูชิปเหี้ยจุงเบย อย่างน้อยก็เบากว่าพวกชอบยันเดเระ ที่ผิดทั้งกฎหมายทำร้ายบุคคลและกักขังหน่วงเหนี่ยว
ซึ่งศีลธรรมใครกำหนดอีกนั่นแหละ ถ้าพูดถึงอินเซสในชีวิตจริงกูก็เห็นด้วยว่าไม่ควร เพราะมันมีพาวเวอร์ไดนาโม แต่ถ้าในนิยายก็ 💁💁 แยกแยะนิยายจากเรื่องจริงกันหน่อยจ้า
>>612 กูอยากแย้งนิดนึง incest กูคิดว่าไม่เท่ากะศิษย์อาจารย์นะ ศิษย์อาจารย์ไม่ได้มีความสัมพันธ์ร่วมสายเลือด ที่ก่อนหน้านี้บนดินแบนกันก็เพราะมันนำไปสู่ค่านิยมในชีวิตจริงด้วยว่า incest โอเค
ส่วนอันนี้กูพูดรวมๆ คือคนที่ชอบก็ต้องเถียงกลับแหละว่ามันคือนิยาย กูคงเป็นกลุ่มหัวโบราณเองที่รู้สึกไม่โอเคทั้งในนิยายและชีวิตจริง กูเคยวางแผนว่าพี่น้องบุญธรรม(ช-ญ)น่าจะคู่กันตอนโตเลย แต่พอลงมือเขียนจริงๆ ทั้งคสพทั้งความรู้สึกและศีลธรรมมันไม่ได้อะ มันเลยเป็น taboo แต่กูก็เข้าใจฝั่งที่บอกให้แยกๆ ดังนั้นกูเลยอยู่ฟากอย่าทำให้มันเป็นงานตีพิมพ์เอิกเกริก งานบนดินอะไรงี้เลย กูคนนึงละที่ฟินไม่ลง
>>612 เรื่องยันเดเระก็พูดยาก กูว่ามันเป็นเรื่องที่คนแยกแยะได้ง่ายอะว่าไปทำกับคนในชีวิตจริงไม่ได้ เหมือนพวกหนังฆาตกรรม แต่อินเซสเนี่ย ตอนแรกกูก็ว่าคนน่าจะแยกแยะได้แหละ แต่ประชากรคุณภาพประเทศเราแม่งทำให้กูช็อคตลอดเลยว่ะ คอนเท้นเย้ดพี่เย้ดน้องแล้วปลื้มว่าเป็นรักต้องห้ามในติ้กต็อกงี้เพียบ เหมือนแม่งไม่รู้ว่ามันผิดอะ กูเลยคิดว่าอินเซสมันควรเก็บลงใต้ดินจริง ๆ เด็กที่แยกแยะอะไรไม่ได้มันมีเยอะกว่าที่คิด
>>615 ในชีวิตจริงยันเดเระแยกแยะยากกว่ามากมึง พ่อแม่เพื่อนกูเป็นแบบนี้เต็ม นอกจากหึงโหด ใช้ความรุนแรงยังมีเรื่องmanipulated ใช้ข้ออ้างว่ารักมาผูกไว้ให้ไปไหนไม่รอด เพื่อนพยายามพูดว่าความสัมพันธ์แบบนี้ไม่ใช่แล้ว ก็กลายเป็นหมา ลูกอยากให้เลิกแม่ก็หาข้ออ้างสารพัด
ในขณะ incest มันปลูกฝังในคนในสังคมส่วนใหญ่แล้วว่ามันไม่โอ แค่ฟังก็มีปฏิกิริยาขยะแขยงอัตโนมัติแล้ว ที่มีดาราคนนึงเล่นคอนเทนต์เดทกับน้องชายคนส่วนใหญ่ก็ไม่เห็นด้วยจนต้องลบคลิปออก ดังนั้นถ้าอ้างว่ายันเดเระแยกได้ง่ายกว่าอินเซสกูไม่เห็นด้วย มันเนียนไปกับชีวิตจริงกว่า และคนแยกแยะยากกว่า
>>617 ความหมายของยันเดเระ มันไม่ได้หมายถึงอย่างนี้เหรอ
'ยันเดเระ เกิดจากคำว่า ยันเดอิรุ (病んでいる) คือ มีอาการป่วย รวมกับคำว่า เดเระเดเระ จึงหมายถึงตัวละครที่ตกหลุมรักแล้วจะมีความผิดปกติ โดยมากมักจะมาในทางที่น่ากลัว และพร้อมจะใช้ความรุนแรงหรืออาวุธเพื่อทำให้ความปรารถนาของตนเป็นจริง '
ยันเดเระเป็นประเภทหนึ่งของ toxic relationship อยู่แล้ว มันไม่เคย healthy
ขอพื้นที่ระบายหน่อย
กูเขียนนิยายมาได้ครึ่งเรื่อง มีคนชอบถามถึงเนื้อเรื่องตัวละครหนึ่ง กูเลยประกาศว่าจะเขียนนะ แต่คงเป็นตอนพิเศษ มีคนอ่านมาถามว่าตอนพิเศษจะอ่านได้ที่ไหน ลงเล่ม ติดเหรียญหรือลงให้อ่านฟรี พอกูตอบว่าน่าจะมีเล่มออกกับสนพ. เสือกมาบอกให้กูติดเหรียญก็พอ เพราะไม่มีเงินซื้อ อะไรของมึงวะ เห็นแก่ตัวเกินไปไหมกับการมาบอกนักเขียนแบบนี้ ใช้อะไรในสมองคิด อยากจะด่าชิบหาย อีควัย
กูชอบยันเดเระ ชอบความสัมพันธ์แบบบิดเบี้ยว ชอบความท็อกสิกต่างๆ กูไม่ได้คาดหวังให้พระนายหรือพระนางเป็นคนดี 100% เพราะมันน่าเบื่อสำหรับกูอะ ถ้านักเขียนไทยจะไม่กล้าเขียนแนวนี้กันเพราะกลัวนักฉอดก็น่าเสียดาย
>>624 ที่กูเจอ นักฉอดส่วนใหญ่ชอบแนวยันเดเระ555555555 สำหรับกูคนเราควรใช้สมองคิดวิเคราะห์แยกแยะบ้าง ให้นักเขียนบอกเองทุกอย่างเจอในชีวิตจริงแยกแยะไม่ได้เพราะไม่มีwarningกันพอดี กูแค่หมั่นพวกฉอดทุกอย่างแต่ยกเว้นให้แนวตัวเองเก่ง
อีกอย่างโลกงานเขียนอุตส่าเติบโตจากแนวแบนๆแบ่งแยกขาวดำเป็นเทาๆอย่าลากให้กลับเป็นเหมือนเดือนเพราะกลัวคนแยกแยะไม่ได้เลย กุชอบกินทามะคร่ะ เรื่องที่พระเอกทำเรื่องค้างค่าเช่าบ้านเป็นเรื่องตลก5555
>>624 กูก็ชอบแนวๆผิดศีลธรรม กูชอบงานเขียนแนวดาร์กๆ มันตื่นเต้นน่าสนใจดี เอาจริงๆคือกูแค่ชอบอ่านแนวดาร์กๆ แต่ไม่ได้แปลว่ากูอยากทำเรื่องแบบนั้นในชีวิตจริงสักหน่อย ใจคอจะไม่เหลือพื้นที่ให้จินตนาการอะไรหน่อยเหรอวะ แล้วคนที่ทริกเกอร์กับอะไรแบบนี้ทำไมไม่ดูคำเตือน พออ่านแล้วรับไม่ได้มาฉอดคนเขียนให้รู้สึกผิดอีก ทั้งที่แค่ไม่เข้ามาอ่านก็จบแล้วป่าววะ (หมายถึงงานที่เขาเตือนแล้วเรื่องเนื้อหา)
บางคนฉอดแบบหยาบคายด่าคนเขียนเหมือนไม่ใช่คนนี่กูก็อยากถามจริงๆนะ ว่าที่กำลังทำอยู่มันไม่ toxic ตรงไหน
บางเรื่องแม่งโคตรเรื่องเล็กยังหยิบมาเป็นประเด็นจนน่ารำคาญ ชีวิตจริงเคยรำคาญตัวเองบ้างมั้ยวะถามจริง โลกนี้มันไม่ได้มีแต่ผิดกับถูก แปะป้ายเหี้ยให้คนนั้นคนนี้อยู่ได้ กูว่าคนที่คลั่งศีลธรรมจนไม่มองความเป็นมนุษย์เลยแม่งก็เหี้ยเหมือนกันนะ เหมือนมีแต่ความคิดแบบมันถูกอยู่คนเดียวใครแย้งคือเหี้ย ใครเหี้ยสมควรไปตายอะไรแบบนี้โคตรเกลียดเลย
อยากระบายว่ะ คอมเมนท์เดี๋ยวนี้เจอพวกนี้เยอะ อึดอัดว่ะ
กูเขียนแนวพี่ชายข้างบ้านกับหนุ่มน้อย พอดีถึงจุดหนึ่งอายุมันจะห่างกันเยอะ พี่ 26 น้อง 17 ไรงี้ พี่จะจริงจังก็ไม่ได้ต้องรอน้องโตก่อน มีฉากแบบนอนกอดไรงี้ ไม่มีเกินเลยกว่านั้น แต่โดนฉอดว่าเปโด กูเส้า
>>628 บางทีกูว่าเป็นนักเขียนต้องยอมโดนด่า หน้าด้านเข้าไว้ว่ะ มันจะมีอยู่กี่เรื่องกี่แนวที่เขียนเรื่องราวโดยไม่ผิดกับศีลธรรมสัมคมบ้าง ปล่อยมันฉอดไป เขียนในแบบที่มึงอยากเขียนไปเหอะ แต่ระวังเนื้อหาไม่ให้มันผิดกฎหมายก็พอ ไม่รู้ดิ บางทีเจอคนที่ฉอดใส่ได้ก็ฉอดไม่หยุด พอเจอพวกหน้ามึนก็ทำอะไรไม่ได้ได้แต่บ่นอุบอิบไป เป็นกูกูจะใส่เตือนเรื่องเนื้อหาไปเลย กูจะเขียนแบบนี้ใครเข้ามาอ่านก็รู้ไว้ว่ามันเป็นแนวนี้ ถ้าเคร่งศีลธรรมก็อย่าเสล่อเข้ามาอ่าน
>>629 กูแอบเห็นด้วย (แต่กูอ่านเฉยๆนะ ไม่ใช่นข.)
ยกตัวอย่างกูเองเนี่ย ชอบแนวพิศาลตบจูบอีเย็นน้ำเน่าทาสรักในเรือนเบี้ยฉิบหาย และกูเชื่อว่าคนชอบอย่างกูเยอะนะ ไม่งั้นมันจะแมสเหรอ
แต่นิยายที่กูตามๆอยู่ บางทีก็จะมีคนมาเมนต์ดิสเครดิตนิยาย/กดดันนข. แบบที่กูได้แต่ภาวนาว่านข.จะไม่ถอดใจเพราะเสียงฉอดไม่กี่เสียง แต่ก๋้นะ เสียงฉอดมักดังกว่าเสียงชม ไม่รู้ทำไม
>>630 เพราะคนเขียนส่วนมากไม่มั่นใจว่าตัวเองเขียนดีอยู่แล้ว เวลามีคนชมมันคิดไปในแง่ว่าชมตามมารยาทหรือชมเพราะชอบก็ได้ ยิ่งถ้าไม่มีฐานแฟนเวลามีคนมาด่าก็จะคิดกันว่ามันเป็นเหตุผลแบบนี้ที่ทำให้งานไม่แมสด้วยก็ได้ พาลไปคิดว่าตัวเองไม่เก่งหรือเป็นคนไม่ดี(บางคนคิดมากนะ) หรือหมดกำลังใจเขียนไปเลยก็มี กูเลยอยากให้คนเขียนงานฮึบไว้จริงๆ เขียนงานต่อไปเหอะ คิดซะว่าไม่ได้ขอข้าวคนด่ากิน(เพราะมันไม่ซื้องานมึงอยู่แล้ว) ตักตวงแต่คำติที่มีประโยชน์เอา ถ้ามีคนบอกว่าหลอกตัวเองอยู่กับหาบที่มีแต่คำอวย สำหรับกูถ้ามันทำให้งานมึงงอกและทำมาหากินได้ก็น้อมรับไปเลย ช่างหัวฉอดมัน จะพัฒนาไม่พัฒนามันวัดกันที่ผลงาน ไม่ใช่เขียนตามใจนักฉอด ไม่อย่างนั้นก็ไม่จำเป็นต้องฝึกเขียนกันหรอกนิยายอ่ะ
>>629 กูพยายามด้านเหมือนกัน กูก็คือเหม่อไปพักนึงแบบ นักอ่านที่คุยด้วยกันบ่อย บอกว่าไม่คิดว่าจะมีนิยายแนวนี้ในเรื่องของกู แต่คือแบบไง กูก็อยากลองเขียนหลายๆ อยากชาเลนจ์บ้างนั่นนี่ กลายเป็นแบบกูเหมือนทำอะไรผิด แล้วคือได้รับคำพูดแบบ ผิดหวังในตัวกู แล้วตัวกูต้องจัดการความรู้สึกยังไง กูพักงานเขียนไปยาวๆ สองเดือนแล้วมึง ไม่มีอารมณ์อยากแต่ง เหนื่อย ไปหมด
>>632 กูเข้าใจมึง ส่วนตัวกูใช้วิธีไปอ่านงานดังๆ ดูดราม่าเขาด้วย ก็จะเห็นเพียบเลยมึง ต่อให้งานดีแค่ไหนก็โดนด่า อย่างบางเรื่องกูชอบมากโดนวิจารณ์จุดอ่อนจนเหมือนเรื่องไม่ดีก็มี กูเลยเริ่มคิดว่าถ้าเราวัดงานเราจากฟีดแบคอย่างเดียวเป๋แน่ เพราะความเห็นมันจะมีทั้งคนชอบไม่ชอบตลอด แล้วคนอ่านเขาอาจจะคิดว่าเราเป็นแบบนั้นแบบนี้แต่มันก็เป็นแค่สิ่งที่เขาตัดสินเราจากด้านที่เขารู้จักเท่านั้น ไม่ใช่ตัวตนเราจริงๆ ตอนแรกกูก็เศร้า แต่ตอนนี้กูช่างมัน ก็ดีแล้วจะได้ไม่เสียเวลามาตามถ้าความคิดไปกันไม่ได้ เพราะเดี๋ยวมันก็จะมีคนใหม่ๆมาตามเราจากแนวงานเอง แต่บางอันมันแหวกจากแนวเดิมเกินกูก็เปิดนามปากกาใหม่นะ จะได้ไม่ปนกัน
เป็นกำลังใจให้มึงนะ คิดถึงคนที่สนุกกับงานของมึงเอาไว้ กูเชื่อว่ามีเยอะกว่าคนที่ฉอดมึง เขียนให้จบมึงเชื่อกู
กูจะรอดูแปลจีน เรือ่งอิหมาโง่นี่เลย ว่าจะมีใครฉอดบ้างเพราะโครตtrigger ทุกเรือง
Ky พวกมึง ถ้ารีปริ้น เปลี่ยนปก กูควรเว้นระยะห่างกี่ปีวะ แล้วกูเอาเนื้อหาใส่เพิ่มได้มั้ย กูนั่งคิดๆ แล้วกลัวคนอ่านที่ซื้อไปแล้วจะด่าว่ะ
มึง ลงนิยายทุกวันแล้วจะไต่อันดับได้ป่าววะ
กูถามใครสักคนที่ สนพ จีบไปทำเล่มละเปิดพรีหน่อย กูเพิ่งเคยครั้งแรก ปกติยอดพรีมันจะเยอะไหมวะ ถึง 5-6 ร้อยไหม
เรื่องกูไม่ได้มีคนเล่นแท็กหวีดอะไรมาก ไม่ได้ล้านวิวหลายหมื่นเม้นเหมือนเรื่องที่ออกๆกัน อย่างล่าสุดกุเห็นปกจิ้งจอกนั่นวิว+เม้นคนละโลกกับกุมาก แอบกังวล มีใครพอรู้ไหมว่าพรีแบบนี้เก็บยอดได้สักเท่าไหร่ พวก สนพ พิมพ์กันเป็นพันไหม
กูแอบถามเขามาเห็นว่าได้สักสามร้อยแล้ว แต่ก็ยังไม่หมดระยะพรีไง ละถึงจะมากจะน้อยกุก็ไมไ่ด้แบกรับอะไร แต่อยากรู้555
ปกจิ้งจอกคือเรื่องไรอะ
ถ้ากูอยากเขียนขาย แล้วออกอีบุ๊กในเมพเลยงี้ มันจะขายได้มั้ยวะ ไม่มีฐานคนอ่าน ไม่มีเหี้ยไรเลย
>>646 ฐานแฟนสำคัญมากใช่มั้ย นักอ่านขาจรคงน้อยงั้นสิ มันจะมีมั้ยวะที่ขายไม่ได้เลยสักเล่ม เครียดว่ะ
จน เครียด เขียนนิยาย ถ้าขายไม่ได้นี่เครียดหนักกว่าเดิมนะ 55555
ถ้าเอาไปลงต้องลงจนจบมั้ย ให้ไปตามตอนพิเศษในอีบุ๊ก หรือว่าลงแค่ตัวอย่างเป็นน้ำจิ้มพอ
แล้วระหว่างวายกับชายหญิงอะไรขายดีกว่ากัน ใจกูชอบวาย แต่ตอนนี้เงินสำคัญ 5555 ใครเขียนทั้งสองแนวบอกบุญกูที
>>647 เห็นว่ากันว่าชญ.ขายง่ายกว่าเพราะตลาดมันใหญ่กว่า แต่ถ้ามึงชอบวายมึงก็ทำวายแล้วทำชญ.ควบด้วยก็ได้ ฐานแฟนในเวปส่วนมากก็คืออ่านฟรีอ่ะมึง ถ้ามึงจะขายแบบแน่นอนกูว่าลงอย่าจบแล้วให้ตามต่อในเล่มหรือลงแบบติดเหรียญไรงี้ไป บอกไปเลยว่ามีอีบุ๊คนะ เหรียญจะติดเท่านี้ อีบุ๊คคุ้มกว่า กูเชียร์ให้มึงลองนะ อีบุ๊คมันไม่ต้องลงทุนก่อน(ยกเว้นปก/จัดหน้าถ้าไม่ทำเอง)ถ้าขายไม่ได้มึงก็ไม่เสียอะไรอ่ะ เน้นราคาเบาๆ คนจะซื้อง่าย
เวลากูเปิดหน้าเมพมันจะมีบอกว่ามีอะไรมาใหม่มีอะไรจัดโปรบางทีกูก็ไปไถๆ ดูโหลดตย.มาอ่าน ได้นิยายที่ไม่ติดตามงานเขามาแบบงงๆ ก็มีว่ะ
>>648 กูอยากจะเชื่อ model ลงนิยายอย่าลงจนจบ อย่างที่โม่งหลายคนในนี้บอกมากเลย
แต่ไปส่อง top20 ปี 2020 ของเม็บ หมวดวายก็มีแต่พวกที่ลงจนจบเป็นส่วนใหญ่ (บางรายนักเขียนคนเดียวกวาดไปหลายตำแหน่ง ลงจนจบทุกเรื่องก็ยังได้ริบบิ้น best seller)
อย่างมหาลัยครึ่งมนุษย์ คุณติฯ ตั้งครรภ์มังกร midnight forture ที่ยอดพันอัพก็เปิดให้อ่านจนจบ
นิยายเรื่องแรกของกูลงไปได้ครึ่งทางแล้ว ยอดเฟบยอดเมนต์ยังแผ่วอยู่เลย ยิ่งเห็น success model บนๆนี้แล้วกูก็ชักไขว้เขวว่าจริง ๆ แล้วควรสร้างฐานจากการปล่อยอ่านฟรีจนจบดีมั้ยวะ
กูกำลังหลงทางมาก ช่วยให้คำแนะนำกูที
>>649 กูไม่ได้เป็น นข เบสต์เซลเลอร์ล้านวิว ไม่กล้าให้คำแนะนำชัดๆ แต่ยอดในแอคกูรวมกันก็เกินล้านนะ ตามความเห็นกูคือขึ้นอยู่กับว่าคนอ่านมึงเป็นแนวไหน ท็อป 20 ของเมพคือพวกสายฟรีจนจบใช่ แต่ฐานของเขาเป็นเด็กหรือวัยที่พร้อมจะหวีดลงโซเชียลอะ และถ้าเขียนมีกิมมิกหน่อย น้ำเน่ายุงชุมตามหรือจับสไตล์แมสๆ มันก็หาเงินแบบนั้นได้ไม่ยาก แต่ตามที่โม่งในนี้วิเคราะห์กัน ถ้ากลวงเกินไปก็ไม่ได้ เพราะคนจะไม่ซื้อเล่มมึง ถือว่าอ่านแค่ในเว็บฟรีพอแล้ว และมึงก็เจ็บตัวเอง กลายเป็นโมเดลอย่าลงฟรีจนจบแบบที่มึงถามมา
ถ้ามึงไม่ซีเรียสไม่ติดขัดอะไร ลงฟรีจนจบเพื่อให้มีคนมาหวีดก็ได้ หรือบางคนก็คือสร้างฐานจากด้อมฟิคสักอย่างแล้วค่อยเขียนออริ (แต่อย่าแปลงเป็นออริแบบหักลำ เพราะคนจะเก็บมาด่ามึงในวันที่ดังแล้ว) หรือถ้าอยากหาเงินแบบปจบทันด่วนจริงๆ เท่าที่เห็นส่องๆมา pwp ก็ยังขายได้ อันนั้นติดเหรียญไปเลย คนเปย์ไปนั่งอ่านเงียบๆแน่
แต่ส่วนตัวกูไม่ใช่ทางนั้น นักอ่านส่วนใหญ่ของกูไม่หวีดตามโซเชียล ฐานทวิตน้อย ห่างไกลจากสายแมสสามแสนโยชน์555 แต่กูสาย สนพ เลยชิลๆกับเรื่องคนอ่านว่ะ เขาไม่หวีดในโซเชียลในอะไร แต่เล่มออกก็ไปซื้อกัน
ท็อปเท็นนั่นก็บอกอะไรหลายอย่างนะมึง วายไทยที่ขายดีก็มีแต่พวกอ่านฟรี ไอ้ที่เอะอะปิดตอนใครจะกล้าซื้อ ยอดมันก็บอกอยู่
อย่าเอาไปเทียบกับแนวชายหญิงหรือสายโรแมนส์ที่ลงไม่จบคนก็ตามไปซื้อกัน แนววายมันต้องอาศัยบอกปากต่อปาก ในเพจสปอยมึงเห็นถามหาอะไรก็แนะนำแต่ที่เปิดอ่านฟรี พวกนี้แหละที่ช่วยโฆษณา
พวกที่เปิดอ่านฟรีวิวเป็นล้านแต่ยอดพรีน้อยนิดก็มีนะ จำไม่ได้ว่าใคร ที่พวกห้องเม้ามอยเคยเอามานินทา
พวกนี้กูว่าขึ้นอยู่กับนิยายกับแฟนคลับเมิงด้วยว่าอยู่ในพวกไหน สายเปย์เหนียวแน่นแบบของข้าวปั้น หรืออ่านฟรี แต่พวกอ่านฟรีมันก็ช่วยบอกต่อให้แหละ
อยากมีแฟนคลับสายเปย์บ้างว่ะ แต่ขอยืนยันว่าคนยอมจ่ายบางเรื่องจริง ๆ อะ พวกสายเปย์เงียบ ๆ อะเยอะมากกก แต่ไม่ค่อยคอมเมนต์กันนะ
ทำไงให้เขียนได้ทุกอาทิตย์วะ
กูรู้สึกเหมือนกูเป็นไบโพลาร์เวลาเขียนนิยาย คือมีช่วง mania ที่แบบเขียนได้วันละเป็นสิบๆ หน้า กับช่วง depress ที่ 3 เดือน ไม่เขียนเหี้ยอะไรเลย นั่งหน้าเวิร์ด 3 ชม. ได้สามคำไรงี้ แล้วก็เครียดจัด รู้สึกปสด.ว่าตัวเองเขียนออกมาห่วย ใช้ไม่ได้ แย่มากๆ ถึงขั้นส่งให้บก.ทีละหน้าเพื่อให้เขาช่วยเช็ค แต่พอมาอ่านอีกครั้งก็มาตรฐานเดียวกันหมดทั้งช่วง mania และช่วง depress ฝีมือไม่ได้มีดีขึ้นหรือห่วยลงเลย แค่ productivity ตกเฉยๆ
กูเข็นได้วันละหน้าสองหน้าก็ขอบคุณตัวเองแล้วว่ะ กูเคยเจอนักเขียนคนนึงเขียนในเด็กดีเกินห้าหมื่นตัวอักษร พอไปดูในรี้ดขึ้น 70 กว่าหน้าในรี้ด คาราวะเขาเลย ทำไมจะขยันได้แบบนี้บ้างวะ
เขียนมาหลายปีไม่ปังสักที อยากลองปัง ๆ บ้างอะ
>>657 ของกูกูรู้สึกว่าต้องเขียนทุกวัน ถ้าหยุดเขียนรู้สึกเหมือนมันจะเขียนได้น้อยลงหรือเขียนไม่ออกเลย พอเขียนทุกวันนี่เขียนเพิ่มขึ้นได้เรื่อยๆ ตอนแรก 5 หน้า ก็เพิ่มมาจนตอนนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 16-17 หน้า/ วัน แต่ไม่ใช่ว่าเขียนดีได้เลยแต่แรกนะ แค่ความยาวเฉยๆ เพราะกูจะกลับมาเรียบเรียงใหม่ทีหลัง ช่วงแรกคิดไรออกเขียนไปก่อนมันไม่เครียดกูก็เขียนได้เรื่อยๆ แต่ช่วงเรียบเรียงใหม่กูจะเครียดหน่อยแต่มีที่เขียนไว้เยอะแล้วเหลือมาเกลาเขียนเพิ่มอะไรแบบนี้ มันก็จะได้ 1 ตอนยาวๆ แต่ตอนนี้กูหยุดเขียนเพราะติดงานอื่นกลับมาเขียนใหม่ก็ได้แค่ วันละ 8 หน้า น้อยลงกว่าเดิม แต่คิดว่าถ้าเขียนทุกวันๆ คงกลับไปเขียนได้เยอะเหมือนแต่เก่า
มีนข.วายคนไหนที่ไม่ได้ทำงานประจำแล้วเขียนนิยายเต็มตัวมั่ง
ทำไมพวกนักเขียนที่ชอบก็อปภาพคนอื่นมาใช้มีเรื่องพีคๆตลอดเลยวะ ตั้งแต่เทรซภาพ บอกว่าวาดเอง อ้างว่าได้รับอนุญาตแล้วแต่อนุญาตจากคนก็อปมาอีกที พอโดนแหกเงียบกริบ ล่าสุดเรื่องนึงบอกว่าขอโทษที่ใช้ปกตัวเอง ไม่ได้มึงงงงง คนเห็นตั้งเยอะตั้งแยะก่อนมึงเปลี่ยนภาพมาใช้ของตัวเองว่ามึงก็อปภาพนักวาดจีนมาใช้ พวกมึงว่านักเขียนที่เอางานคนอื่นมาใช้ต้องเป็นคนแบบไหนวะ เวลากูจะสั่งคอมมิชชั่นนักวาดต่างประเทศแล้วงานเขาเคยโดนคนไทยก็อปไปกูไม่กล้าบอกเลยว่าเป็นคนไทย นักวาดต่างชาติบางคนตั้งหัวไบโอภาษาไทยเลยกูอายแทน
ถามหน่อยตอนพิเศษในเล่มควรมีกี่ตอน
กูใส่ไป 5
จำนวนหน้าควรเท่าไหร่วะ ถึงจะคุ้ม
ระหว่าง ด กับ อวว พวกมึงอยากตีพิมพ์กับสนพ.ไหนมากกว่าวะ กูอยากลองส่งนิยายให้สองที่นี้พิจารณา
>>671 ถ้าถามว่าสอง สนพ นี้ เลือกส่งอันไหน กูแนะนำให้ส่งสองที่เลย (ถ้าเค้ารับ) กูเคยส่งสองที่นี้ ก่อนหน้านั้นยังไม่มี ด กูก็ส่ง อวว ก่อน พอมี ด ก็ลองส่ง ด ด้วย
ทั้งสองที่มีที่เหมือนกันคือถ้าเรื่องมึงดัง มันจะผ่านง่าย กูเคยส่งเรื่องที่คนไม่ได้อ่านเยอะ ไม่ผ่านนะ (รอผลนานมาก อวว เกินครึ่งปี ส่วน ด ต้องตามเอง) อวว มีวิจารณ์นิยายให้มึงด้วย แต่อ่านแล้วก็แทบทรุด อาจเป็นเพราะนิยายกูไม่ตรงจริตเค้าก็เป็นได้ ส่วน ด ไม่ได้รับคำวิจารณ์รอจนเลิกรอไปเอง แต่เดี๋ยวจะหาว่าใส่ร้าย อวว เรื่องที่กูส่งให้เค้า กูตีพิมพ์กับ สนพ อื่นนะ อันนี้ต้องบอกว่ามันขึ้นอยู่กับ บก ด้วย
ขออภัยที่ตอบยาวและไม่ได้ตอบตรงคำถามแบบตรงประเด็นนะ
>>675 ค่อยๆ หาจุดแทรกไป กูชอบมีจุดที่ไม่ลงรายละเอียดในบทหลักอะ แล้วก็มาแทรก แบบช่วงที่พระนายเจอกันครั้งแรก มีใครเค้ามาจีบพระนาย หรือพาร์ทหลังจากคบกันไปสักพักแล้ว ไรงี้ แต่เอาจริงคือ 3 ตอนกำลังดีนะ แต่กูชินกับห้าตอน แต่เรืองใหม่ที่กำลังจะเขียนตอนพิเศษ คงปรับเหลือ 3 เหมือนกัน ปกติแล้วนิยายกูเล่มเดียวจบเหมือนกัน จะตกประมาณ 450 หน้า ทุกเรื่องเลย
ขอคำปรึกษาหน่อยจ้า เราแต่งตอนพิเศษไว้7-8ตอนเลยอะ ตอนนึงประมาณ2-3000คำ เท่าๆ1ตอนปกติ เนื้อหาก็จะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆที่สอดแทรกไว้ในตอนปกติไม่ก็มุมคนอื่นประมาณนั้น กะจะเล่มเดียวจบเหมือนกัน เยอะไปมั้ยอะ (ไม่รู้ทำไมเวลาแต่งตอนพิเศษหัวแล่นกว่าตอนปกติเยอะเลย5555)
อยากลองส่งมั่งนะ แต่นิยายกูไม่ใช่แนว อวว เลยอ่ะ ทุกวันนี้แต่งนิยายไม่ได้ตามตลาดเลย แต่งตามที่อยากเขียนอ่ะ ถึงจะไม่แมสก็เหอะ ให้ไปเขียนแนวตลาดก็ไม่ไหว ใจไม่รักจริงก็เข็นไม่ได้ ใครบอกพล็อตแมสๆเขียนง่าย นี่ไม่จริงนะ แต่ละแนว มันมีความยากของมันอยู่
>>677 ตอนพิเศษไม่ได้มีกำหนดแน่นอนหรอก มึงอยากใส่เท่าไหร่ จัดเลย เอาเท่าที่มึงแบบอยากทำนั่นแหละ ไม่ต้องกังวล กูในฐานะที่เป็นคนอ่านบ้างก็ชอบนะ แต่น้อยก็ไม่ได้ว่าอะไร ตามใจคนเขียน
>>680 ของกูคือเค้าก็วิจารณ์มายาวอยู่แต่จับใจความแล้วคือไม่ผ่านเพราะอะไรกันแน่ ตรงนี้กูอ่านหลายรอบก็จับจุดไม่ถูก เค้าบอกว่าพล็อตโอเค น่าสนใจ แต่ไปจบด้วยมีบางประโยคที่แข็ง ๆ ไปหน่อย ในส่วนนี้อะ กูอาจจะคิดไปเองว่ามันคือสิ่งที่บก.จะมาช่วยเสริมนักเขียนไม่ใช่เหรอ แต่ถ้าสาเหตุที่ไม่ผ่านเพราะประโยคแข็งกูก็โอเคแหละ
เล่าเพิ่ม กูเคยส่ง สนพ แห่งหนึ่ง เค้าก็วิจารณ์นะ แต่บอกเพิ่มเลยว่าถ้ากูแก้ในส่วนนี้แล้วส่งมาใหม่ เค้าจะพิจารณาใหม่ พอกูแก้แล้วส่งไปเค้าก็รับนะและตีพิมพ์ไป
ส่วนอีก สนพ นึง เค้าชอบพล็อต และหลังจากเซ็นสัญญา บก.ก็คือแบบเรียกคุยเลย เค้าให้คำแนะนำดีมาก อยากให้ปรับนั่นนี่ กูได้จากเค้าเยอะเลย รู้สึกเป็นโอกาสที่ดีมากที่ได้ปรับปรุงและพัฒนาตนเอง
>>682 กูไม่ได้เขียนนิยายแนวแมสๆ อย่งเช่นแนวมหาลัยเหมือนกัน มันยากจริง ๆ กูคือเขียนได้นะ แต่ไม่อินและรู้สึกไม่สนุก เครียดด้วย
กูเขียนนิยายกะเอาฮา ว่าจะเขียนสั้นๆ แล้วทำอีบุกขาย กูไม่มีพล็อต ไม่ได้วางเนื้อเรื่องอะไรไว้เลย ปรากฎเขียนๆ ไปได้ 10 กว่าตอนเกิดแมสขึ้นมา มีสนพ.ส่งหลังไมค์มาหา กูเลยบอกไปตามตรงว่าไม่มีพล็อต ไม่มีเรื่องย่อ ไม่มีอะไรเลย ไม่รู้จะจบเมื่อไรด้วยเพราะช่วงที่ยุ่งกูอัพนิยายไม่ได้ เขาก็บ้าจี้เอาไปเข้าตารางพิจารณา แล้วก็ส่งมาบอกกูว่านิยายผ่านพิจารณาแล้วนะ กูงงไปหมดว่ายังไงวะเนี่ย จะเขียนถึง 100 หน้าไหมยังไม่รู้เลย บก.บอกให้ดูเรื่องย่อสิ กูบอกไม่มี้ ก็บอกตั้งแต่แรกแล้วว่าไม่มีพล็อต ไม่มีเรื่องย่อ เขาเลยบอกว่าเขียนไปก่อนไม่ต้องกดดันตัวเอง ถ้าจบแล้วมันสั้นก็ค่อยอัดตอนพิเศษไป ไม่ต้องซีเรียสเรื่องจำนวนหน้า แต่คือกูนี่ซีดไปหมดแล้วจ้า
>>684 555555555555 มันก็ดีนะ ส้มหล่นแบบงงๆ ยินดีด้วย แต่มึงระวังหน่อย ฟังดูไม่เป็นมืออาชีพเท่าไหร่ สักแต่คว้าเพราะแมส แบบนี้ถ้าออกมาไม่ดีคนโดนด่าคือมึงจ้า ไม่ใช่ สนพ ที่คว้ามาปั่น แต่ถ้ามึงไม่ซีเรียสก็เอาเถอะ ลองคุยๆ เรื่องสัญญา ค่าโน่นนี่ ถือว่าเอาตังมากินหนม
ใครเคยมีคนต่างชาติมาขอเอานิยายไปแปลลงเว็บมั้ยวะ
เช้านี้กูเจอคนเวียดนามส่งเมล์มาถาม เล่าว่าเรียนภาษาไทยอยู่ ชอบนิยายวาย อยากขอเอาไปแปลในกลุ่มไม่ใช่พาณิชย์
กูไม่อะไรเท่าไรเพราะเป็นเรื่องที่ลงไว้นานมาก ลงไม่จบด้วย ทิ้งคาไว้งั้นข้ามปี
แต่อยากถามเพื่อความชัวร์ ถ้าให้เค้าเอาไปแปล แบบเท่าที่ลงไว้ครึ่งเรื่อง มันมีค.เสี่ยงไรมั้ยวะ?
มึงทำไมนักเขียนพอดังแล้วชอบเปอดเผยตัวตนหรือชีวิตส่วนตัวกันวะ
ky เวลาสนพ.มาจีบแล้วซื้อลิขสิทธิ์ ใครเป็นคนเลือกนักวาดที่จะมาวาดปกอะ สนพ.จัดการเองเสร็จสรรพแล้วนักเขียนแค่บรีฟ หรือสนพ.ให้นักเขียนเลือกนักวาดที่ชอบได้เลย??
(ตอนแรกว่าจะถามในลิธแต่กุคิดว่าสายวายคนอ่านน้อยกว่าชายหญิง งบมันเลยอาจจะแคบกว่า แล้วกุก็ชอบวายมากกว่าด้วย เลยขอมาถามในนี้แหละ T^T)
>>703 กูเดา(เอาเอง)ว่าความเปิดเผยมากน้อยในสายตาแต่ละคนคงไม่เท่ากันมั้ง คนเราพอดังแล้วจะรักษาฐานคนติดตามไว้ก็ต้องมีคอนเทนต์ออกมาเรื่อยๆให้คนยังจำได้
นักเขียนอาจคิดว่าเปิดชีวิตตัวเองเท่านี้กำลังดี คนอ่านคนติดตามอาจมองว่าเปิดมากไปน้อยไป มองไม่เท่ากัน กูว่าไม่มีใครผิดใครถูก
กูนึกถึงนักเขียนอีกคนที่่กูตามอยู่ เชื่อว่าพูดชื่อพวกมึงรู้จักแน่นอน เค้ามีเพจแชร์งานเขียนและเล่าชีวิตที่อยู่กับลูกกับผัว บางโพสต์(บางโพสต์เท่านั่นจริงๆ) ที่กูเห็นแล้วห่วงว่าเค้าเปิดข้อมูลส่วนตัวมากไปป่าววะ ไม่กลัวพวกจิตป่วยตามสตอล์กเหรอ? แต่โดยรวมกูยังชอบอ่านชีวิตกับงานเขียนเค้าอยู่ ก็เลยตามยาว
คนอ่านน้อยลงกันมั้ยเพื่อนโม่ง หรือเพราะมันเป็นวันทำงาน
เป็น กูไม่ได้จะอวดนะอาจน้อยกว่าพวกมึงด้วยซ้ำ ปกติจะยอดวิว3kขึ้นต่อวันแรกที่ลง หลังจากต้นเดือนที่ผ่านมาลดลงมากเลยวะมึง ลงตอนใหม่ไปเมื่อวานยัง1kกว่าๆ กูสังเกตว่าลงตอนเช้าก็มีผลเหมือนกันหรือที่จริงอาจเป็นเพราะกูเองก็ได้5555 ไม่รู้เหมือนกันแต่ก็ลงต่อไปถ้ายังมีคนอ่านอยู่
>>718 กูคิดว่าใหม่มาแรงเขาคิดจากความถี่ของนักอ่านเพิ่มเข้าชั้นตั้งแต่วันที่เปิดเรื่องใหม่มั้ง เพราะตอนแรกคอมเม้นต์กูก็น้อย ยอดหัวใจก็ไม่ได้เยอะ ช่วงแรกที่ลงพยายามอัพบ่อยๆ2-3วันอะ หลังๆ5-7วันอัพครั้ง ยอดลดอยู่ กูว่าสมัยนี้นิยายมันอัพเยอะ พออัพช้าคนก็ไม่ค่อยรอ ไม่ก็แบบรออัพจนจบแล้วค่อยอ่านดีกว่า กุก็เป็นหนึ่งในนั้น5555 ถ้านิยายเรื่องไหนใช้เวลาตอนที่10-20 นานกูก็ไม่อ่านแล้วดองไว้
นิยายกูยอดวิวโอเค ยอดซื้อพอไปได้ แต่คอมเมนต์น้อยจนงง หรือต้องเขียน talk คุยกับคนอ่านหรอถึงจะเพิ่มยอดได้
>>721 ช่วงทอล์กก็คงช่วยได้มั้ง เวลากูอ่านจบตอน บางทีกูก็ไม่รู้จะเมนต์อะไร ถ้านักเขียนทิ้งคำถามไว้ก็จะมีตอบ ๆ บ้าง
หรือบางทีก็เห็นนักเขียนทิ้งท้ายเลยว่าช่วยเมนต์อวยเค้าหน่อยได้มั้ย ขอแบบอวยแรง ๆ เลยเพราะเค้ากำลังดาวน์มาก ต้องการกำลังใจจากคนอ่าน
เออกูเห็นแล้วก็รู้สึกว่าถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรงก็เมนต์ไป
ระหว่างเขียนแนวพระเอกมีแฟนอยู่แล้วตั้งแต่เริ่มแล้วค่อยมารู้สึกดีๆกับนายเอก กับพระเอกมีโมเม้นกับนายเอกไปพักนึงแล้วหักมุมทีหลังว่าพระเอกมีแฟนอยู่แล้ว อันไหนจะโดนสาปมากกว่ากันอะ อยากเขียนแนวพระเอกมีแฟนอยู่แล้วแต่กลัวโดนเท 5555555
พอ.มีแฟนอยู่แล้ว ถ้าเขียนดี ๆ มันก็ขายได้นะ อย่างกลเกมกานต์อะ แฟนพอ.นิสัยไม่ดีอยู่แล้ว และนอ. แค่อยากได้น้ำเชื้อพอ.
สุดท้ายพอ. ก็เลือกนางเอง (ส่วนแฟนเก่าก็ออกแนวตัวร้ายแพ้ภัยตัวเอง)
>>728 ก็มีอีกเรื่อง ภรรยาโดยพฤตินัย พระเอกมีคู่หมั้น แล้วนายไปแย่งมา แฟนไม่ได้เลว แต่นั่นมันมีปมอะ กูยังเห็นบางคนด่านายเอก แต่ส่วนใหญ่ชอบนายเอกเยอะกว่าอยู่ดี ถ้าเขียนดี ดึงคนอ่านได้ มันก็ได้แหละ แต่ยังมีคนสาปส่ง ยกเว้นจะทำให้แฟนพระเอกเหี้ยจัดๆ แบบสมควรละที่โดนทิ้งตามขนบละครไทยที่นิยมๆ แบบแพ้ภัยตัวเอง คนจะไม่ด่ามาก
เรา 723 เองนะ กราบรอบวงกับคำแนะนำของทุกคน จริงๆอยากแต่งให้เรื่องมันเทาๆ แต่คงให้ตัวร้ายแพ้ภัยตัวเองอย่างที่ทุกคนแนะนำแหละจะได้ไม่โดนสาปมากนัก ขอบคุณหลายๆเด้อ
ถ้าไม่แต่งจีนเสินเจิ้นนี่ดังยากใช่มั้ยวะ
>>733 ไม่เกี่ยว ดังไม่ดังมึงควบคุมปัจจัยภายในได้แค่นิดเดียว ที่เหลือคือบุนกำปัจจัยภายนอกทั้งนั้น กูเขียนนิยายอินดี้เรื่องแรก 40 ตอนจบ ไม่ดังเปรี้ยงแต่ยอดวิว 3 แสน มาเขียนแนวอิหยังวะ แค่ 3 ตอนจบวิว 8 หมื่น จีนโบราณ 30 ตอนวิวแสนนึง ปจบ.เขียนฟีลกู้ดแต่ก็ยังอิหยังวะอยู่ 20 ตอน วิว 6 แสนกว่า ซึ่งกูสะสมคนอ่านมาจากแนวอินดี้นี่แหละ การเขียนจีนโบราณไม่ได้การันตีว่าจะดังวะ
พวกมืงช่วยกูหานิยายแปลกเรื่องหนื่งหน่อย เผื่อรู้เพราะแต่ง หรือคนเขียนอาจอยู่ในนี้ เป็นนิยายที่กูอ่านนานแล้วในเด็กดีมั้ง นายเอกเป็นลูกเมียหลวง ละตัวละครในเรื่องเพื่อนพระเอกกับพระเอกเป็นลูกเมียน้อย( แต่คนละครอบครัวนะ 5555) นายเอกย้ายโรงเรียนแล้วพอไปเข้าโรงเรียน พระเอกกับเพื่อนมันรู้ว่านายเอกเป็นลูกเมียหลวง(ของครอบครัวอื่น) เลยพากันรุมเกลียด รวมทั้งอาจารย์ด้วย ชื่อเสียงนายเอกป่นปี้ ทุกคนดูถูกเหยียดหยามที่นายเอกเป็นลูกเมียหลวงมาก555555555เพราะเมียหลวงชอบไปด่าเมียน้อย เมียหลวงเลยนิสัยไม่ดี ว่าซั่น
ที่แปลกคือทุกคนในเรื่องเกลียดนายเอกมากที่เป็นลูกเมียหลวง แม้แต่คนใช้ในบ้านยังสะบัดหน้าหนีใส่นายเอก นายเอกก็ทนโดนโขกด่าสารพัดจนพิสูจน์ความเป็นคนดี………ไม่ได้ชั่วเพราะเป็นลูกเมียหลวง
เป็นนิยายที่อ่านดนชิบหายแต่ตราตรึง กูอยากรู้ความคิดอิคนแต่งมาก นักเขียนที่นำเสนอเข้าข้างโตเองแบบนี้กูชอบ55555แต่นานละ สมัยนั้นกูยี้จนปิด แต่ตอนนี้ดันอยากกลับไปอ่าน55555
ดันนนนนน
มีนักอ่านหลังไมค์มาบอกไม่อ่านนิยายของกูแล้วเพราะเวิ่นเว้อ ประดิดประดอยคำไปเรื่อย วนลูบ กูจะต้องรับมือยังไงวะ TT
ถึงขั้นนต้องหลังไมค์มาบอก กูว่ามีความประสาทแดกพอตัว มันจะเลิกอ่านไปเฉย ๆ ก็ได้ หรือจะคอมเมนต์ไว้ตรง ๆ ก็ได้ (เออ มันคงคิดถึงมึงตรงจุดนี้มั้ง)
แต่ถ้าถึงกับใช้คำว่าเวิ่นเว้อ ประดิดประดอยคำไปเรื่อย วนลูบ กูว่าแม่งโรคจิต อยากให้คนพลีส ชีวิตนี้ไม่มีใคร คิดว่าคนเขียนหรือสายผลิตต้องเลียขามัน ไม่ต้องไปตอบมันหรอก ประสาท
กูลงนิยายในรอร.มีคนกดเข้าชั้นหมื่นหก แต่ในเด็กดีมีสามร้อย วิวหกแสนกับวิวสามพัน หรือกูควรเลิกลงในเด็กดีให้มันเกิดการเปรียบเทียบวะ มีใครลองสองเว็บแล้วแตกต่างกันขนาดนี้บ้างไหม
ก็ไม่ได้หยาบเลยนี่หว่า แค่เสียมารยาทตรงที่บอกจะไม่อ่านแล้ว ตรงนี้ ไม่น่าบอก แต่ที่เหลือเขาติหนิ ไม่ได้แรงอะไรด้วย ใจบางเกิ้น นักเขียนบางคนแม่งแตะต้องไม่ได้เลย รอเม้นโอ๋อย่างเดียว
มีแต่พวก losers บ่นนิยายไม่แมส -_- หัดเรียนรู้ข้อเสียของตัวเองมั่ง อย่าเอาแต่ปลอบพวกเดียวกัน บาย~~
กูเอง 737 คือกูไม่ได้อยากให้นักอ่านคนอื่นมาโอ๋นะ แต่กูหยุดคิดไม่ได้ว่าประดิดประดอยคำยังไง
>>751 กูเข้าใจมึง นักอ่านพวกนี้สักแต่ว่าติ แต่ไม่ก่อ จะใช้คำว่าติเพื่อก่อต้องแนะนำได้ว่าต้องปรับปรุงตรงไหน อย่างไร ไม่ใช่มาติ บอกเวิ่นเว้อ มีแต่น้ำ ประดิดประดอยแล้วก็ไป แล้วบอกติเพื่อก่อมันเป็นแค่ข้ออ้าง ถ้ามาแบบนี้กูไม่รับฟัง เรื่องของมึงค่ะ กูจะเขียนแบบนี้ถ้าคนชอบยังมี แต่ถ้ามาบอกว่าปรับตรงนี้แบบนี้ดีไหมคะ ตรงนี้มันน่าจะแบบนี้ดีกว่าอะไรแบบนี้กูรับฟังถ้าไม่ใช่ว่ามันทำลายเอกลักษณ์ในงานกู กูก็แก้ไขให้มันดี งานเขียนมันไม่ได้เขียนแล้วดีในชิ้นแรกแต่มันจะค่อยๆ ปรับไปเรื่อยๆ มึงก็อย่าไปให้ค่ามากนักเลยถ้ามาแบบนี้ ปสด.ชห.
>>751 อาจหมายถึงใช้ภาษาฟุ่มเฟือย บรรยายเยอะแต่เนื้อหาจริงๆมีนิดเดียวป่าว การบรรยายมันต้องรู้จักพอดีเยอะไปน้อยไปก็ไม่ดี ถ้ามีนักอ่านน้อยอยากพัฒนาก็พยายามฝึกใช้ภาษาให้กระชับขึ้น คำขยายความที่ไม่จำเป็นก็ตัดออกบ้าง ลองอ่านทวนว่าภาษาที่ใช้มันดูเป็นคนปกติไหม ถ้าภาษาดูนิยายเกินก็มาคิดว่ามึงต้องการให้นิยายงี้แหละหรืออยากให้ดูเป็นคนในชีวิตจริงมากกว่านี้ปรับๆเอา แต่ถ้ามึงมีนักอ่านเยอะก็ไม่ต้องสนใจ เพราะนิยายที่ประสบความสำเร็จไม่จำเป็นต้องภาษาเป๊ะ ถูกใจและเข้าถึงคนอ่านได้ก็พอ การเปลี่ยนสำนวนอาจทำให้เสียนักอ่านได้ กูเคยตามงานนักเขียนที่ใช้ศัพท์สูงๆฟุ่มเฟือยถึงจุดนึงเขาพยายามปรับใหักระชับขึ้น กูเลิกตามเพราะไม่ชอบสำนวนใหม่555
ขออนุญาตถามอะไรงง ๆ นิดหนึ่งนะ ขออภัยที่อาจจะยาวหน่อย ขอแจงเป็นข้อ ๆ กันตัวเองเขียนแล้วงงด้วย
(1) เรามีนามปากกาขายนิยายรักวัยรุ่นชญ.กับวายใส ๆ ใน RAW เชื่อมบัญชีกับ Meb
(2) ปีนี้หรือปีหน้าฟ้าใหม่ ว่าจะข้ามไปเขียนแนวชญ.กับวายหื่นๆ ฉากรักหนักๆ บ้าง เรื่องเงินก็เรื่องหนึ่ง แต่ที่จริงคือหื่นเองแหละ อายุเยอะแล้ว อยากลองบ้าง
(3) ว่าจะตั้งนามปากกาใหม่ไปเลย สมมติของเก่าที่ใช้อยู่คือ ABC ของใหม่จะตั้งว่า XYZ
(4) ปัญหาคือไม่อยากตั้งบัญชีใหม่ใน Meb เพราะเข้าใจว่าใช้อีเมลเดียวกันสมัครหลายบัญชีใหม่ใน Meb ไม่ได้ (ใช่มั้ยนะ)***
(5) เจอวิธีแก้ปัญหาเบื้องต้น คือใน Meb มีให้ระบุนามปากกาและชื่อสำนักพิมพ์ ปัจจุบันใช้ชื่อเดียวกันไปเลยว่า ABC ดังนั้นเวลาขายอีบุ๊กก็คิดว่าจะแยกนามปากกาไปเป็น XYZ โดยยังให้ผูกบัญชีเดิมของ ABC ได้
(6) ปัญหาอีกแล้ว คือใน RAW มันให้แยกนามปากกาได้ แต่เวลากดตรงโพรไฟล์นักเขียน มันก็จะโชว์นามปากกาทั้งหมดของไอดีนี้ (ซึ่งโชว์รวมทั้งนามปากกาแนวใสกับแนวหื่นไว้ในหน้าเดียวกัน) ซึ่งถ้าทำได้ก็ไม่อยากให้โชว์รวมเลยอา
(7) วิธีแก้ปัญหาที่คิดไว้คือตั้งอีกบัญชีใน RAW แยกไปก็ได้ว้า แต่ข้อสงสัยที่ตามมาคือแล้วเวลามันลิงก์กับ Meb มันจะเลือกถูกมั้ยว่า นามปากกานี้ใน RAW จะผูกกับนามปากกานี้ใน Meb***
(8) แล้วในเด็กดีแยกนามปากกาโดยใช้บัญชีเดียวกันได้มั้ยอ่า***
ใครช่วยให้คำแนะนำโดยเฉพาะตรงข้อ 6 - 8 จะขอบคุณมากเลย (ข้อที่มี *** เอาไว้คือเอาไปถามเว็บแอดมินก็คงได้คำตอบแหละ แต่อยากถามเผื่อที่นี่ทำความเข้าใจเอาไว้ก่อน)
ขอบคุณทุกคนล่วงหน้าค่า
ขอตอบเฉพาะด้านล่างนะ ด้านบนมึงไม่ได้ถาม555
เรื่องแยกนามปากกาถาวรแบบไม่มีหลักฐานเกี่ยวข้องให้ตามดู ใน raw ทำไม่ได้ แต่มึงสมัคร meb+raw สองบัญชีแล้วผูกเข้า บช ธนาคารเดียวกันได้ ข้อมูลตรงนี้เป็นความลับของมึงคนเดียวอยู่แล้ว ไหนๆ ก็ไม่อยากให้สองนามปากกาผูกกันไม่ใช่เหรอ
ส่วนข้อ 8 เด็กดีใส่นามปากกาแยกได้ ทีนี้กูยังไม่เคยลองว่ามันจะลิ้งค์เข้าไอดีเดียวกันหรือขึ้นตรงแนะนำเรื่องคนเขียนเดียวกันไหม แต่ยังไงเดี๋ยวดดก็จะปิดระบบไอดีแล้วนิ ไม่ต้องซีก็ได้ และอีกข้อ ถ้ามึงมุ่งไปเขียนหื่น อย่าไปลง ดด มันผิดกฎ
"สมัคร meb+raw สองบัญชีแล้วผูกเข้า บช ธนาคารเดียวกันได้" <--- ข้อมูลนี้มีประโยชน์มาก แบบว่า ณ จุดนี้ยังไม่ทันนึกถึงเรื่องผูกบช.แบงค์เลย ขอบคุณมากค่ะ
แล้วก็เรื่องไม่ควรลงบทหื่นในเด็กดีด้วย อันนี้ลืมสนิทจริง ๆ รั่วหลายจุดเลยโอย
ขอบคุณอีกครั้งที่ช่วยแนะนำค่ะซิส
Ky วิธีติดเหรียญเพื่ออ่านล่วงหน้า กับปล่อยให้อ่านฟรีก่อนแล้วค่อยติดเหรียญ แบบไหนนักอ่านเปย์เยอะกว่ากัน
เพื่อนโม่งความสม่ำเสมอและช่วงเวลาในการลงมีผลต่อนิยายมากมั้ยวะ อย่างเช่น เรื่องหนึ่งทิ้งช่วงไปนาน แต่สนุก กับอีกเรื่องลงทุกวัน แต่เนื้อเรื่องพออ่านได้ ของคุณครับ
>>760 ส่วนตัวค.สม่ำเสมอหรือช่วงเวลาไม่มีผลนะ ถ้าสนุกจริง รอนานก็รอได้ ไม่มีถอดออกจากชั้นหรอก แต่ก็จะมีกลอกตาถ้าอัพแบบ 25% 50% 75% แล้วเพิ่มขึ้นมาทีละน้อยนิดเหมือนอึแพะ เจอบ่อยคงกดเฟบทิ้ง นึกได้ค่อยกลับไปอ่าน
ถ้าไม่ค่อยสนุกหรือพออ่านได้ อัพสม่ำเสมอก็คงไถดูผ่านๆไปสักระยะ ถ้ายังไม่มีอะไรดึงดูดก็ไม่อ่านต่ออยู่ดี เจอกันอีกทีคงเป็นตอนออกเล่มแล้วมีคนมาเล่าให้ฟัง ค่อยว่าอีกทีจะซื้อมั้ย
อันนี้พูดในฐานะคนอ่านแบบไม่เดือดร้อนถ้าขาดนิยาย ไม่รีบอ่านเพราะอย่างอื่นที่ดองไว้ก็มากอยู่ เพราะงั้นค. สม่ำเสมอเลยแทบไม่มีผลอ่ะ
>>761 เพิ่มอีกนิด ที่ออกตัวว่าไม่เดือดร้อนเพราะจะสื่อว่าไม่ใช่คนที่ขยันและขวนขวายหานิยายอ่าน พอดีอีกมู้นึกเพิ่งพูดถึงการอ่านนิยายตปท. โดยไปดำน้ำเอง ส่วนตัวไม่เคยทำเพราะโง่อิงก์
แต่เท่าที่ดูนักอ่านที่ชอบความไวความสม่ำเสมอก็มีกลุ่มใหญ่อยู่ ไว้ลองฟังคห. จากนักอ่านหลายๆประเภทดูนะ
ถ้าพูดตามหลักจิตวิทยาจริงๆ ในความสม่ำเสมอมึงต้องสร้างความไม่สม่ำเสมอขึ้นมาด้วย คือถ้ามึงกำหนดไว้ว่าจะลงนิยายสัปดาห์ละ 3 ตอน บางสัปดาห์มึงอาจจะลงมากขึ้น 1 ตอนขึ้นมาเพื่อเป็นโบนัส หรือจู่ๆ ก็สลับวันอัพขึ้นมาเฉยๆ หรือช่วงไคลแม็กซ์ของเรื่องจู่ๆ ก็เว้นระยะลงตอนใหม่นานขึ้นกว่าเดิมบ้าง อย่าอัพแบบเป็นแพทเทิร์นตลอดเวลา ถ้าทำแบบนี้มันจะเพิ่มแรงจูงใจในการอ่าน เป็นจิตวิทยาเล็กๆ ที่สร้างแรงให้คนที่ตามอยู่รู้สึกว่าต้องกดเข้ามาอ่าน มีความคาดหวังการมาถึงของตอนต่อไป ไม่ดองนิยายมึงไว้เฉยๆ
ใครเปิดพรีฯ ช่วงปลายปีก่อนถึงต้นปีนี้มั่ง?
ช่วยแชร์ให้ฟังหน่อยว่ายอดยังคงที่หรือแผ่วไปมากมั้ย???
คือกูเขียนมาหลายปี สะสมฐานคนอ่านได้ระดับหนึ่ง เปิดพรีอย่างน้อยๆยอดมีแตะ 200 +/- นิดหน่อย
แต่เรื่องที่ปิดจองไปเมื่อปลายเดือนก่อนยอดหดเหลือ 50 กว่าเล่ม ใจหายเลยมึง สติแตกไปพักนึง จนกูต้องไปเผือกยอดจองของนักเขียนดังๆ แล้วเพิ่งไปเห็นของคนนึงดังมาก ยอดของเค้ากูจำได้ว่าแตะหลักพันทุกเล่ม (เพราะกูก็ซื้อ) แต่เล่มที่เพิ่งปิดพรีไป ยอดเพิ่งจะ 300+ เองมั้ง
กูเห็นแล้วยิ่งฟรีกเอาท์ นี่คนเลิกอ่านวายไทยแล้วเหรอวะ? หรือว่าหันไปซื้ออีบุ๊คกันหมด (เล่มล่าสุดกูยังไม่ปล่อยขายในเม็บเลยไม่แน่ใจ)
ใครเจอปรากฏการณ์แบบเดียวกับกูช่วยมาบอกกูทีว่ายอดกูไม่ได้หดคนเดียวใช่มั้ย แล้วพวกมึงมีคิดจะเปลี่ยนไปเขียนแนวอื่นป่าว T^T
ทุกคน ไม่รู้มาถามถูกห้องไหม
อยากถามคนแต่งนิยายลง ReadAWrite หน่อยค่ะ แบบว่าค่าโดเนทที่ให้นักเขียนนี่คิดยังไงเหรอ แบบขนม50เหรียญก็จะได้ 50 บาทงี้รึป่าว
ปล เราไม่ใช่คนแต่งนิยายน้าแต่เป็นนักอ่านแล้วชอบผลงาน อยากสนับสนุนเฉยๆค่า
PWP นี่เขียนยังไงง่ะ แบบกุว่ากุจะเขียน PWP เขียนไปเขียนมา ดันมีพล็อตเฉ้ย แล้วเป็นทุกครั้งเลย ขอคำปรึกษาาา กราบค่า
เออ กูงงตัวย่ออยู่เนี่ยว่าตัวกลางมัน with plot หรือ without plot
ถ้าจะขายอีบุ๊กกับลงติดเหรียญควบด้วย ตอนพิเศษควรมีแค่อีบุ๊กหรือลงติดเหรียญไปให้เหมือนกันเลย ข้อดีข้อเสียของแต่ละแบบคือยังไง อันไหนได้มากกว่ากันเหรอ เพิ่งทำเรื่องแรก โปรดชี้ทางสว่างที กราบ
>>781 กูชอบซื้อรายตอนมากกว่าเพราะราคาถูกกว่าebookด้วย อีกอย่างก็สะดวกเข้ารอรมากกว่าmeb ส่วนตัวชอบแบบกดซื้อรายตอนลุ้นแบบเรียลไทม์ 55555555 แต่ถ้ามึงติดเหรียญรอรถูกกว่าebookสัก2-3เท่าแล้วให้คนเน้นไปซื้อebookแทนก็ได้มั้ง นขบางคนก็ทำอยู่ ติดตอนละ2บาทรวมกันในรอรไม่ถึงร้อยเหมือนขายเล่นๆ แต่ขายebookแบบมีตอนพิเศษสองร้อยอัพงี้
รอร มันดูรีวิวก่อนซื้อคอยด์ได้ปะว่ายาวกี่หน้า กูเคยซื้อตั้ง 5 coin แม่งเลื่อนทีเดียวจบตอนละ
มันเลวร้ายมากมึง ไม่เคยเห็นเรื่องไหนเหี้ยเท่านี้มาก่อน กูกดรีพอร์ทไปละไม่รู้จะไม่ใครติดกับอีกไหม
เปรียบเทียบให้ฟัง... อารมณ์ประมาณว่า ตอนที่ 1 นายเอกเดินไปเข้าห้องน้ำ จบ
ซื้ออีก 5 coin อ่านตอนที่ 2 นายเอกปิดประตูห้องน้ำ นั่งชักโครก จบ ถ้ากูซื้อจนนายเอกขี้เสร็จตังในระบบกูหมดพอดี
>>785 อ้าว ไม่ได้ดูจำนวนคำก่อนซื้อหรอ ของมันวางขายอยู่ตรงหน้า ผู้บริโภคมีสิทธิเลือกที่จะจ่ายด้วยตนเองนะ ไม่ใช่จ่ายไปแล้วมาโวยวายแม่ค้าทีหลังทั้งที่มีรายละเอียดครบ แม่ค้าเขาก็ไม่ได้มีบีบคอมึงให้ซื้อสักหน่อย กูก็เจอเรื่องแบบนี้บ่อยนะ ก็ถือว่ากูเป็นคนตัดสินใจกดจ่ายเงินด้วยนิ้วตัวเอง ตัดสนใจเอง จ่ายเอง จะมาโวยวายด่าโทษใครวะ
>>790 กูไม่รู้ไงว่าดูตรงไหน เพิ่งรู้ตอน >>786 บอก กูไม่ได้กดดูหน้าหลักด้วยแหละ
ก่อนซื้อกูก็พยายามแล้ว กดปุ่มมั่วไปหมดเผื่อมีปุ่ม information บอกความยาวหน้าก็ไม่มี
เลยพยายามหาคอมเม้นอ่านแทนก็เสือกไม่มีอีก (มารู้ทีหลังว่า นข.ไล่ลบ เม้นแฉหมด)
เรื่องอื่นกูซื้อไปแล้วเนื้อเรื่องไม่ได้เรื่องกูก็ไม่เคยเสียดายนะ มันก็ไม่กี่บาทหรอก แต่เรื่องนี้เหมือนโดน18มงกุฎหลอกจริงๆ
จะว่าไปกูไม่ได้คาดหวัง กูซื้อเพราะความอยากรู้ด้วยแหละ
แต่เสือกเหี้ยกว่าที่กูคิดไว้เยอะมาก ชนิดที่ว่า รอร สมควรแบนออกจากระบบไปเลย
กูเคยเห็นไรต์คนนึงเน้นเปิดเรื่องเยอะๆ แต่ละเรื่องมีแค่3-4ตอน แต่ติด5คอยหมดทุกตอน เปิดมาเนื้อหาไม่มีเลย พอคนพลาดซื้อไปตอนนึงเขาก็ไม่ซื้อต่อกันแล้ว ไรต์คนนั้นเลยเน้นเปิดเรื่องใหม่ๆให้คนกลับมาติดกับเยอะๆ พอมีคนเม้นแฉก็ตามลบ กูว่ามันหากินง่ายไปหน่อย อย่างน้อยก็ได้ 5 คอยจากคนไม่รู้ละ กูเลยอยากให้ช่วยกรองคนประเภทนี้หน่อยนิดนึง
>>796 กูพอเข้าใจที่มึงหัวเสีย เหมือนกูเคยซื้ื้อเลย์ห่อ 5 บาท เปิดมามีแต่อากาศ บนซองก็เขียนแหละว่าปริมาณกี่กรัม แต่กูในวัยเยาว์ไม่คิดว่าจะน้อยจั๋งซี่
แต่กูว่ามึงอย่าเสียเวลาไปแจ้งเลย รอร.ไม่มัวแบนให้มึงหรอก มันอยู่ที่ค. พอใจผู้บริโภคซึ่งไม่เหมือนกัน มึงว่าน้อยก็อาจมีคนพอใจกับแค่ฉากนอ. ขับถ่ายก็ได้ สมัยหนึ่งยังมีพวกขาย App ของแอนดรอยด์ราคาสูงเวอร์ หลักหมื่นหลักแสน ซึ่งเป็นแค่ภาพพักหน้าจอกากๆ ถามว่าทำไมยังมีคนซื้อ ก็เพราะเค้าซื้อไว้อวดรวย และ App โง่ๆแบบนั้นก็มีคนซื้อจริงๆ
ทั้งนี้ทั้งนั้นกูชอบที่มึงช่วยเป็นกระบอกเสียงในการคัดนิยายติดเหรียญนะ แค่ไม่อยากให้มึงเสียเวลาเปล่าแล้วจะยิ่งเฟล
Ky เวลาแต่งฉากเศร้าแล้วร้องไห้ตามตัวละครตลอดเลยว่ะ ถ้าเป็นแบบนี้บ่อยๆจะมีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้าไหมวะ
>>785 เรื่องย่อแบบไหนทำให้มึงกล้าซื้อวะ ปกติกูจะเปย์อย่างน้อยต้องมีตัวอย่างให้รู้แนวทางก่อนสักตอนสองตอน
เข้าใจว่าเสียความรู้สึกนะ แต่ปุ่มรีพอร์ตมันมีไว้สำหรับรายงานคนทำผิดกฎอ่ะ ทีหลังมึงเกลียดใครส่วนตัวก็อย่ารีพอร์ตเลย เป็นภาระของพนักงานดูแลที่ต้องมาคัดทิ้งอีก หรือถ้าพนักงานเบลออาจลบนิยายทิ้งทั้งที่เขาไม่ได้ทำผิดกฎอะไรเลย
>>799 ทำให้กูนึกถึงสตก.อวดรวยในไลน์ แพงไม่พอลายน้อยด้วย เอาไว้ข่มเพื่อน5555
อย่างนี้ถ้ากูพิมไม่เป็นภาษา แบบ หยหงมด่หยฟบวดสดส จนครบ 500 คำ กูก็ติดคอย5บาทได้ใช่มะ
KY กูพอเข้าใจเรื่องปกนิยายควรเป็นรูปคอมมิชเองหรือรูปฟรีไลเซนซ์
แล้วพวกรูปไอคอน avatar ของนักเขียนนี่ซีเรียสกันมั้ยวะ อย่างถ้ากูเอารูปไฮคิว (ออฟฟิตเชียล ไม่ใช่แฟนอาร์ต) หรือรูปดาราตลกๆมาแทนตัว กูจะโดนประเด็นไรป่าว
งืม กุไม่ค่อยชอบเลยอะ เรื่องบางเรื่องถึงจะไม่มีกฎห้ามไว้แต่ก็ไม่ได้แปลว่าควรทำไม่ใช่เหรอวะ แล้วการรีพอร์ตเราก็ทำเพราะเราเป็นผู้บริโภค เสียเงินเสียประโยชน์ให้คนใช้ช่องโหว่ของกฎแล้ว เงินเดือนคนดูแลระบบจะมาจากไหนถ้าไม่มีคนซื้ออะ?
แม่ง อ่านแล้วเศร้าว่ะ พวกมึงส่วนใหญ่โอเคกับอะไรแบบนี้จริงๆ เหรอ? การมีเคสใหม่ๆ มาแจ้งมันก็ทำให้องค์กรได้เอาไปพัฒนาปรับปรุงด้วยรึเปล่า แทนที่จะคิดว่าถ้ามีนักเขียนทำพฤติกรรมไม่ดีชื่อเสียงขององค์กรก็เสื่อมไปด้วย กลับกลัวว่าจะลำบากงานดูแลเว็บทั้งที่เขาก็จ้างให้มาดูแลเว็บ?
คือเห็นใจคนทำงานมันก็เป็นเรื่องดีอะ แต่แบ่งมาเห็นใจลูกค้ามั่งนะเพราะเขาก็มีการมีงานเหมือนกัน
>>814 มึงรีพอร์ตได้ ใจเย็นๆ สิ่งที่มึงทำคือการชี้ให้เห็นช่องโหว่รูว่างของระบบ มึงสามารถรีพอร์ตปัญหาได้ แล้วทางเว็บจะจัดการยังไงกับอะไรแบบนี้ก็ค่อยว่ากันอีกที แต่ส่วนตัวกูเคยให้รอร.ออกหน้าตอนมีคนคล้ายๆ ลอกนิยายกู เขาก็ดีลให้ด้วยดี แต่สิ่งมึงที่มึงต้องทำความเข้าใจคือผู้คนล้วนแต่ร้อยพ่อพันแม่ เรื่องบางเรื่องมันนานาจิตตัง บางคนเห็นเป็นปัญหา บางคนไม่เห็น เพราะเรารับรู้และให้ความสำคัญสิ่งต่างๆ รอบตัวไม่เหมือนกัน มึงมีสิทธิ์ในฐานะผู้บริโภคที่จะเรียกร้องสิทธิทักท้วงเพื่อสิทธิของตัวเอง เพื่อทุกบาททุกสตางค์ของตัวเอง ทำเลย กูสนับสนุนและส่งเสริม
>>815 มันยากตรงที่ว่ามึงดูเนื้อหาในตอนที่โดนติดคอยไม่ได้ ไรต์เตอร์ลักไก่ยังไงก็ได้ พิมมั่วให้คำเยอะๆยังทำได้ พอมีคนด่าก็ลบเม้นได้ แม่งยากกว่าการดูเลย์ 5 บาทที่อย่างน้อยมึงซื้อไปมีน้อยก็จริงแต่ก็ได้แดกนะ กูออกไอเดียว่าอย่างน้อยมีระบบให้คะแนนก็ดีนะ แบบที่นักเขียนลบทิ้งไม่ได้ อย่างน้อยก็ช่วยให้คนตัดสินใจก่อนซื้อได้
>>812 >>813 ขอบคุณอีกทีที่แชร์คห.
แถมอีกนิดได้มั้ย ถ้าจะไปคอมมิชรูปจิบิอ่ะ แล้วกูให้เค้าวาดออกมาเป็นนักเขียนคิวท์ๆ วิ้งๆ ทั้งที่ตัวกูก็อ้วนและไม่ขาวอะนะ กูว่า(ถ้าอาจจะ) จ้างทั้งทีก็อยากใช้เป็นรูปแทนตัวเองในดด. รอร. ไปยาวๆเลย เวลาพวกมึงเจอนักเขียนใช้รูปแทนตัวคิวท์ทะลุตัวจริง มันจะดูเหมือนเด็กเพ้อฝันไปมั้ยวะ(กูวัยทำงานแล้ว)
ขอโทษที่ยืมพื้นที่มาถามเรื่องไม่ค่อยมีสาระ
>>807 ในเมื่อมึงเห็นพฤติกรรมของนักเรียนคนนี้และจ่ายเงินอ่านไปแล้ว กูว่ามึงแคปหน้าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื้อหาที่มึงได้รับ แคปไปหลายๆเรื่องก็ได้นะว่าเขาเรียนนิยายตัวอักษรน้อยมาก ถึงจะระบุตัวอักษรไว้แล้วแต่ไรต์ก็ทำตัวลักไก่กฏเว็บ แคปไปแปะใน google doc ก็ได้ เขียนให้ละเอียด ชี้ลูกศนให้แอกมินเห็นเลยว่านักเขียนคนนี้ไม่ดีอย่างไร
>>808 กูว่าการเขียนนิยายตัวอักษรน้อย แต่มีการบริบทมูฟเมนต์ตัวละคร กับการรัวแป้นพิมพ์มันเป็นกรณีแยกกันนะ อันนี้สมควรรีพอร์ทเพราะ RAW เป็นเว็บอ่านนิยาย สิ่งที่ไม่ใช่นิยายไม่ควรมีอยู่ (อย่าประชดประชันกันเลย เป็นมารยาทที่ไม่ดีหรอก)
ส่วนเรื่องให้เรทคะแนน
กูว่ายากนะ เพราะถ้าเกิดการหมั่นไส้กันหรืออยากแกล้ง(คนร้อยพ่อพันแม่)กดเรทต่ำๆ ก็เหมือนทำลายชีวิตนักเขียนคนนึงไปเลยนะ
เปรียบเทียบเหมือนมึงไปซุปเปอร์มาเก็ต เจอแชมพูขวดนึงมีแค่ 100ml แต่ขายราคา 2,000 บาท(แปะราคาปริมาณครบ) เปิดดมกลิ่นก็ไม่ได้ มึงจะถือขวดแชมพูเดินไปบอกพนักงานขายไหมว่าให้เอาออกจากชั้นวางของไปซะ ไม่คุ้มเงินเลย ดมก่อนก็ไม่ได่ ปริมาณก็น้อย
กุไม่ชอบคำว่าร้อยพ่อพันแม่ในกรณีนี้เท่าไรเลยว่ะ งี้ถ้าเอามีดแทงคนก็บอกว่าร้อยพ่อพันแม่ก็มีคนที่คิดว่าแทงคนคือแค่หยอกกันอยู่ อีกฝ่ายคิดว่าน่าจะหลบได้หรือต่อให้โดนก็ไม่ถึงตาย งี้มันไม่ได้ป่าว?
ร้อยพ่อพันแม่มันน่าจะใช้ในกรณีที่มีความเห็นเป็นปัจเจกกับเรื่องส่วนบุคคลอะ แต่อันนี้มันคือกฎของพื้นที่สาธารณะที่มีการแลกเปลี่ยนธุรกิจกัน มีคนได้และเสียประโยชน์ชัดเจน ไม่ใช่ความความเห็นส่วนตัวที่ต้องเข้าใจว่าคนมันต่างกันเพื่อแสดงความเข้าใจ ต่อให้อยากอนุโลมนักเขียนแบบนั้นก็อย่าใช้คำนี้เลยเหอะ
แล้วถ้าอยากชนะเพื่อไม่ให้มีนักเขียนขยะมาหากินแบบขยะๆ ใครเสียประโยชน์อะ? ก็มีแต่คนโกงเท่านั้นแหละที่เสีย
ป.ล. ตอบอะไรก็ได้แต่อย่ามาจ้าๆ นะ เพราะมึงจะดูโง่ลงกว่าเดิมมากอะถ้าเดินแบบนั้น กุพิมพ์อะไรมีเหตุผลเป็นตรรกะทุกอย่าง ต่อให้มึงเชื่อว่ากุแค่อยากชนะจริงๆ มันก็ยังเป็นความอยากชนะที่ไม่เข้าข้างคนชั่วอะ อ้อ แล้วไม่ต้องมาเล่นบทโง่ซ้ำว่ากุด่าใครชั่วนะ ไม่ได้เรียนวิเคราะห์บทความฉบับ ป.3 กันอยู่
>>821 ใช่ กูคิดว่าให้เฉพาะตอนติดคอยไง ถ้ามันจะยอมซื้อเพื่อแกล้งก็ยอมใจมันละ ที่กูเห็นด้วยว่าให้ช่วยกันกรองนิยายเพราะมันคือเงินสนับสนุนของพวกมึง กูเคยเห็นพวกหากินง่ายๆมาแล้วเหมือนกัน มันก็ได้แค่5บาทแหละ ตอนต่อไปคนก็หนีหมดแล้ว แต่ก็ไม่อยากให้สนับสนุนคนแบบนี้ไงมันจะได้ใจไปหน่อย
>>828 ใช่ และถ้าเกิดว่ามึงถูกแกล้งซื้อเพื่อรุมรีวิวต่ำ แจ้งผู้ดูแลเลยแบบนั้นอะ โม่งบนๆ ยังเล่าแล้วว่าผู้ดูแลเขาเคลียร์ให้เรื่องลอกนิยาย ยิ่งถ้าเป็นการกลั่นแกล้งชัดเจนยิ่งต้องลงมาดูแลด่วนๆ เพราะเว็บนี่แหละจะเสียหายหนัก จัดการด้วยกฎหมายไปเลยเพราะเว็บก็ถือว่าเป็นโจกท์ สืบสาวต้นสายปลายเหตุให้ครบ ขนาดร้านอาหารถูกทัวร์ลงรุมรีวิวต่ำเขายังฟ้องได้เลย บ้านเมืองมีขื่อมีแปนะโว้ย
>>824 คุณภาพดีสมราคามั้ย ตราบใดที่ไม่หลอกผู้บริโภคก็ไม่ผิดนะมึง ร้านกาแฟหลายเจ้าแพงแต่รสชาติจาง โดนัทบางเจ้าหวานเจี๊ยบ มันก็ยังขายได้ มีคนซื้อเพราะเรื่องความพอใจกับสินค้ามันแล้วแต่คน การจะพยายามบอกว่าอย่างนี้เหี้ย นักเขียนขยะ สมควรโดนรีพอร์ตให้เว็บเอาออกกูว่าโลกหมุนรอบตัวเองเกินไปว่ะ ในเมื่อในเว็บก็เขียนรายละเอียดจำนวนหน้าเรียบร้อย คุณภาพก็เรื่องแล้วแต่คนมอง กูเห็นคนซื้อระบบวีรชนมาอ่านเอาเนื้อเรื่องเจอฉากเยรัวๆยังไม่เห็นมีใครไปเย้วๆด่าสนพ.เลยว่าตัวอย่างให้อ่านไม่ตรงของจริง555
แต่มีระบบให้เรตติ้งแบบ meb ก็ดี
กูคิดว่าขยะจริง เพราะมันคือพวกหัวหมอใช้ช่องว่างกฎมาขายจริงแต่ก็ไม่ถึงขั้นต้องโดนรีพอร์ต เพราะอย่างที่มึงบอกว่าอาจจะมีคนชอบความว่างเปล่าก็ได้นะ ที่เขารีพอร์ตเพราะมันไม่มีคะแนนให้รีวิวไง
อยากรีพอร์ตก็ทำไปเถอะ มันก็มีคนที่รู้สึกว่าตัวเองโดนหลอกทั้งๆที่อ่านสลากก่อนซื้ออยู่แหละ ไม่งั้นเขาจะมีคนฟ้องสคบเรื่อยๆทำไม ถ้าคิดว่าโดนหลอกก็จัดไป
มีวิธีกาารทำให้ไฟที่มอดดับในการเขียนนิยายกลับมาลุกโชนไหมวะ ช่วงกูคึกกูอัปวันเว้นวัน หลังจากนั้นกูก็หยุดทิ้งร้างมาจะครึ่งปีละ เห็นเม้นทวงก็อยากอัปนะ แต่ใจกุมอดไหม้ไปแล้ว
>>835 เงาแค้นอะไรขนาดนั้นวะ คนอื่นบอกอยากรีพอร์ต อยากรายงาน อยากคุยกับแอดมินรอร.ก็ทำไป การที่มางอแงร้องเย้วๆ อยู่ในโม่งสามวันแม่งไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย โม่งก็บอกได้เท่านี้ แต่ไม่สามารถไปจัดการให้มึงได้ คนที่จะจัดการให้มึงได้คือตัวแพลตฟอร์มสำหรับการลงนิยาย มึงเองก็ต้องจำด้วย ว่าจะซื้ออะไรต้องดูดีๆ จำนวนคำ จำนวนหน้าเขามีบอกให้มึงพิจารณา ไม่ใช่กดซื้ออะไรไม่ดูหีดูแตดเลย พวกกูก็ปลอบและแสดงความคิดเห็นได้แค่นี้แหละ ถ้ามึงอยากให้มันเกิดมูฟเม้นท์รณรงค์อะไรจริงจัง กูแนะนำว่าลองไปบ่นในพวกกลุ่มรีวิวกลุ่มนิยายดู คนเป็นหมื่น แล้วนี่มันกระทู้นักเขียนด้วย นักเขียนที่มีสำนึกรู้ผิดชอบชั่วดีเขาก็ไม่หากินอะไรโง่ๆ อย่างนั้นหรอก มันได้แค่ระยะสั้น จะหากินระยะยาวเขาต้องแคร์ชื่อตัวเองเว้ย
>>836 ลองเขียนสต็อกไว้ไหม คือไม่ต้องอัป สต็อกไว้ก่อน แต่กูเข้าใจมึงนะ กูเองก็เป็นเหมือนกัน บางทีเหนื่อยก็ไม่อยากเขียนขึ้นมาเฉยๆ เอางี้ มึงลองดูก่อนว่าสาเหตุมันมาจากอะไร ตัน เหนื่อย โดนคนอ่านด่า หรือยังไง จะได้แก้ปัญหาถูก บางทีการเริ่มกลับไปอ่านตั้งแต่ตอนแรกใหม่ การนั่งไล่อ่านคอมเม้นท์คนอ่านก็ช่วยให้ไฟกลับมานะ
>>839 พยายามช่วยคิดวิธีแก้ไขนะ
1) นับจำนวนคำ ถ้าคำต่ำกว่า 500(สมมติ) ไม่สามารถติดเหรียญได้ แล้วถ้าเป็นบทกลอนก็กดเข้าหมวดกลอนจะไม่ติดคอนดิชั่นนี้
2) เนื้อหาห่วยแตก ตัวละครเดินไปขี้แต่เสือกเขียนเกิด 500 คำ เนื้อเรื่องไม่คืบหน้า ตรงนี้เราจะบอกคุณค่าของนิยายอย่างไรว่ามันดีหรือห่วย มีค่าหรือควรรีพอร์ต
3) ระบบแจ้งอัตโนมัติแล้วว่ามีกี่คำ แต่นักอ่านโวยว่าจำนวนคำไม่คุ้มเงินที่จ่ายไป ทั้งๆที่ระบบมันก็ขึ้นให้เห็นก่อนจ่าย เราจะบอกคนกลุ่มนี่อย่างไร
>>840 ถ้ามารีพอทเพราะเขียนไม่ดี กูก็ไม่โอเคเหมือนกัน อย่างนี้ก็จะมีนักเขียนไม่กี่คนที่ขายเอากำไรได้ ทำไมต้องจำกัดว่ามึงต้องได้คะแนนท้อปๆเท่านั้นถึงจะขายได้ บางคนอาจพอใจงานของคนคะแนนต่ำก็ได้แต่อย่างน้อยก็ไม่ได้ลอกข้อสอบใครนะ ไม่ผิดกฎด้วย กูเห็นด้วยว่าไม่สมควรรีพอท
ดันนน
>>840 กูเคยอ่ารนิยายที่บรรยายกางเกงในลูกไม้ที่โผล่เพราะลมพัดไปสิบหน้า ซึ่งไม่มีสาระเหี้ยไรเลย แต่กูชอบ5555 นิยายญี่ปุ่นเนื้อเรื่องไม่คืบหน้าพระเอกประสาทแดกบ่นไปเรื่อยทั้งเล่มก็มีเยอะ แต่คนที่ชอบมันก็มี ไม่เอาความคิดว่าต้องเขียนกี่คำถึงติดเหรียญได้ด้วย นิยายมันก็เป็นศิลปะอย่างนึงอ่ะ เหมือนวาดภาพ ต่อให้มันจะลายเส้นง่ายๆวาดสามนาทีเสร็จแต่ก็ไม่มีเหตุผลจะบังคับห้ามเขาขาย สรุปคนซื้อก็ควรดูจำนวนหน้ากับราคาให้ดีก่อนว่าสมควรซื้อไหมไม่ใช่ซื้อเองแล้วโวยวายไปทั่ว
นิยายกูโดนสนพ.เลื่อนแล้วเลื่อนอีก เลื่อนจนงง สงสารคนอ่านที่ต้องรอ ตอนนี้กระแสหมดไม่พีคแล้วด้วย กูเลยไม่รู้ว่าควรจะต้องเดือดร้อนไหม หรือเทแม่ง ปล่อยสนพ.ไปจัดการโปรโมทเอง
>>853 คือถ้าสนพ.มันเหี้ยก็แสดงหลักฐานมา แต่คนดราม่าดันเอาความรู้สึกมาเล่น ทั้งที่ปกติสนพ.มันก็ช้าทุกที่ถ้ามึงไม่ใช่ลูกรักเขา หรืองานกำลังฮอตจนต้องรีบออกรีบขาย เรื่องเหี้ยก็ด่าส่วนที่เหี้ย แต่นี่ปนมั่วไปหมดจนกูแบบ อะไรของพวกมันวะ หลายคนมาม่าเหมือนหิวแสง ต้องฉอดตามกระแส บางคนไม่มีอะไรกับเขาด่าจนโดนฟ้องไง
>>854 เห็นมึงปั่นโทรลยิกๆ กูต้องตอบไหม เอาเป็นว่าของกูมันคือคิวถัดไปตั้งแต่กลางปีที่แล้ว แต่มีปัญหาซ้ำซ้อนเรื่องการจัดการของสนพ. คือกูไม่ได้ด่าว่าสนพ.เหี้ยไหม กูแค่เบลอตามแล้ว คำถามกูคือควรปล่อยๆ ให้เขาจัดการโปรโมทไปดีไหม เพราะก่อนหน้าเวลามีอัพเดทอะไรกูจะเขียนตอนพิเศษเล็กๆ น้อยๆ เพื่อดึงคนอ่านกลับมาก่อนประกาศข่าว ทีนี้กูเริ่มเหนื่อย เพราะโรคเลื่อนมันทำให้ตอนพิเศษที่จะลงให้อ่านได้ไม่เหลือแล้วไง
ดันนน
ขุดแป๊บบบ
>>855 เออ มึงควรคุยกับเขาตรงๆ แบบถามว่าพอมีกำหนดมั้ย เสนอช่วยวางแผนหรืออะไรงี้ก็ได้ ว่าเรามีแผนจะลงตอนพิเศษยังงี้ๆ เพื่อดึงยอดคนอ่านก่อนขาย สนพ คิดยังไง แบบแย้บๆ ดูว่าเขามีใจกะงานมึงากน้อยแคไ่หน แล้วประเมินว่าเขามีปัญหาหรือเปล่า จะรอดไม่รอด
กูเดาบริบทไม่ถูกอะเพราะข้อมูลน้อย ไม่รู้แนวไหน ไม่รู้ สนพ ใหญ่หรือเล็ก แต่ส่่วนใหญ่ที่เลื่อนถ้าไม่ใช่เพราะเงินหมุนไม่ทันก็อาจไปดันเล่มที่น่าจะปังก่อน ขอโทษทีถ้ากูเดามั่วแล้วมึงรู้สึกแย่ แต่ถ้าเขาไม่ได้ออกงานใครเลยรวมถึงมึงและทำให้มึงเลื่อน มึงลองดูท่าทีหรือความเคลื่อนไหวดีๆ เขาอาจพยุงไม่ไหว
ช่วงนี้คิดว่ากระแสจีนโบราณ แบบเสิ่นเจิ้น ยังมีอยู่ไหม
ดันนนนนน
>>862 ถ้ามึงไม่อยากหัก ไม่เดือดร้อนอะไร พอไว้ใจกันได้ก็คงต้องปล่อยว่ะ เว้นแต่มึงจะไม่ไหวจริงๆก็ขอถอนไป เพราะตรงนี้ไม่ได้ผิดที่มึง มึงเสียโอกาส เขารู้สึกผิดได้ แต่เขาต้องรับผิดชอบด้วย มึงอาจพูดกับเขาตรงๆ ไปว่าไม่โอเค สำหรับกูยิ่งไม่สนิทกันยิ่งพูดง่าย แต่ถ้ามึงไม่อยากเปลี่ยนประกาศไปมา/บอกนักอ่านไปแล้วว่าพิมพ์ที่ไหน ก็ต้องช่างแม่งละ
เหนื่อยกับการเขียน pwp แต่มันได้เงินดีจริงๆ ไม่เขียนก็ไม่มีรายได้เสริมอะ เฮ้อ
ky พวกมึงระวังหน่อยนะเวลาสั่งปก ดูดีๆ ระวังปกเทรซ คนไม่ใช่นักวาดอาจดูยากหน่อย แนะนำสั่งในกลุ่มคอมมิชชั่นมากกว่าในแท็กทวิตกูเจอคนเทรซจากรูปคนอื่นเยอะมากที่ติดแท็กรับงานวาดปก ถ้าวาดเบี้ยวมีสวยบางจุดอาจใช่ เส้นจะตันๆ
แล้วเดี๋ยวนี้พวกนักอยากเขียนที่โดนหาเรื่องก็อปภาพคนอื่นมาใช้เป็นปกก็เปลี่ยนไปเทรซภาพคนอื่นมาเป็นปกตัวเองมีเยอะแยะ วาดโคตรเบี้ยว กูดูออก โดนประจานมาเยอะ อย่าทำห้าวให้มาก
ตามหามู้นี้กว่านะเจอ ใครมันทำอะไรวะ
>>868 KY มีช่วงหนึ่งกูเจอคำว่า "นักอยากเขียน" ในเพจสปอยเพจนิยายวายบ่อยมาก ไม่ใช่อะไร ไอ้คำนี้เหมือนเรียกแบบถ่อมตัว แต่บางคนแปะนิยายตัวเองรัว ๆ โฆษณาป้ายยาโจ่งแจ้งก็มี เนียนไม่เนียนก็มี นักอยากเขียนขอฝากนิยายอัพตอนใหม่ นักอยากเขียนขอแนะนำนิยาย บลาๆๆ พอมีคนเตือนก็เฟียสใส่อ้างว่าเพจของมึงคนเดียวหรอ
พักหลังกูเลยแหยงๆ พวกขึ้นต้นว่าแทนตัวว่านักอยากเขียนไปเลย
>>874 กูว่าเพราะฝนม่วงมันด้อมใหญ่ถึงใหญ่มาก เท่าที่กูสังเกตดูพวกนักเขียนหน้าใหม่หรือนักอยากเขียนใช้ภาพก็อป มีคนทักยังยอมแก้บ้าง (มีอิดออดหรือเถียงกลับบ้าง) แต่นักเขียนดังๆ หรือกระทั่งพวกที่เคยออกเล่มกับค่ายใหญ่ ลองเปิดเรื่องใหม่ใช้ภาพขโมยแล้วมีคนไปทักสิ ลูกหาบพร้อมกางปีกปกป้องอย่างกับผ้าอนามัย คนทักโดนยำตีนเละตุ้มเป้ะ
ดูกรณีมนกกบ. เป็นตัวอย่างก็ได้ มังกรฟอกขาวแม่งฟ้องสันดานกับจิตสำนึกชัดขนาดนั้น ลูกหาบสนที่ไหน
ฝนม่วงมีโดนเรื่องรูปภาพอยู่นะเมื่อไม่กี่วันก่อนห้องชั้นหนังสือ เมิงไปลองไถย้อนดู
ที่ที่นี่ไม่เอามาด่าเพราะไม่ค่อยมีคนอ่านหรือติดตามฝนม่วงมากกว่า ถ้ามีคนตามเยอะๆก็โดนด่าเถอะ
นับรวมพวกนข.ที่ชอบเอาภาพจาก pinterest หรือที่อื่นที่ไม่ใช่แหล่งไฟล์ฟรีแบบแปะในทวีตให้เข้ากับเนื้อหาหรือโฆษณาภาพด้วยไหม เห็นทีไรก็ทะแม่งๆ ว่าไปขุดมาให้สาวกกรี๊ดหลายคน แต่ภาพนั่นเขาอนุญาตให้มาใช้ขายนิยายตัวเองแบบอ้อมๆ ไหม
นักเขียนโม่งเป็นคนดี 555555555 กูไม่เชื่อ
ลูซเซอร์ในที่นี้หมายถึงทัศนคติและความคิดรึเปล่า กูเล่นโม่งเหมือนกัน กูไม่ยกยอตัวเองว่าเป็นคนดีหรอกนะ อีผี555555
กูวิวเกือบล้านยังเล่นโม่งเลยมึงเอ๊ย เล่นมาตั้งแต่สมัยมู้สาวคอสน่าเอามู้แรก วนเวียนห้องนั้นห้องนี้มาหลายปี ชีวิตจริงก็ไม่ใช่ลูสเซอร์ การงานดี จบม.ดัง มีความรู้ทฤษฎีบลาๆ วิเคราะห์ห่าเหวอะไรได้เป็นฉากๆ แต่ความเสือกมันห้ามกันไม่ได้ แล้วในโม่งก็มีเรื่องให้เสือกตอบสนองความต้องการพอดีเป๊ะ คนเรามันมีทั้งมุมดีมุมเหี้ย แต่กูยอมรับตลอดนะว่าเป็นคนเหี้ยที่เล่นโม่ง 55555555555555
เพื่อนโม่งจะรับมือกับความผิดหวังยังไงเวลาอัพแล้วคนอ่านน้อย ยอดซื้อนิยายลดลง อัพแล้วคนอ่านน้อยลงเรื่อยๆ
>>888 เพิ่งมีโม่งๆบนๆถกๆกันเรื่องนี้ มึงไปไล่ๆดูแถวๆ >>768
ส่วนตัวกูซื้อเท่าเดิม อ่านเท่าเดิมนะ แต่วายตัวเลือกเยอะขึ้นจนตามซื้อตามอ่านตามเก็บไม่ทัน วายจีนล้นตลาด วายเกาหลีก็เริ่มไหลบ่าเข้ามา แค่อ่านเรื่องย่อก็ไม่ทันแล้วโว้ย
กูเลยแวะมาบอกว่ามึงอย่าผิดหวัง อย่าดาวน์เพราะเรื่องยอด (กรณีที่มึงไม่ได้เขียนยึดเป็นรายได้หลักนะ)
ตัวเลขน้อยไม่ได้แปลว่าคุณค่าตัวมึงหรือนิยายของมึงลดน้อยลง บางทีคนอ่านอย่างกูแค่ยังหานิยายของมึงไม่เจอ เพราะพอเข้าวัยทำงานแล้วเวลาในชีวิตหายไปครึ่งหนึ่งเลยว่ะ
>>888 ของกูคือทำใจไว้แต่ต้นว่าอย่าคาดหวังว่าต้องดังหรือคนอ่านเยอะ หรือคิดว่าทุกงานต้องปังตลอด ถ้าเรื่องไหนมันออกมาไม่โอเคกุจะเขียนทิ้งๆ ให้จบพอ แล้วเริ่มเรื่องไหม่ที่กูคิดว่าสนุกกว่าแทน เศร้าไปงานก็ไม่เดิน อีกอย่างอย่าไปเปรียบเทียบกับงานที่มันขายดีในตอนนี้ด้วย ทับถมตัวเองเปล่าๆ กูคิดแค่ว่ากูพยายามเต็มที่แล้วได้แค่นี้ก็คือได้แค่นี้ งานหน้าเอาไหม่ พอกูคิดแบบนี้กูก็ไม่ค่อยเครียดนะ ไม่รู้ช่วยได้ป่าว
>>888 ของกูอัพแล้วคนอ่านหลัก 10% ของที่เฟบอ่ะ กูว่ากูควรจะลงให้เยอะขึ้น เดี๋ยวเขาก็มาอ่านกันเอง อย่างน้อยกูอ่านแล้วกูสนุกของกูเท่านี้ก็ดีแล้วว่ะ
การคาดหวังแม่งเป็นยาพิษนะ กูเคยแบบแม่งคลิ๊กดูแม่งแทบจะทุกสองสามนาที มี Alert แดง ๆ ทีก็กรี๊ดที 555 กว่าจะรู้ตัวแม่งหมดเวลาชีวิตเยอะมาก
กอดนะเว้ย อย่านอยตัวเองว่ะ
ถ้ามันไม่เวิร์คกูก็เทเลย ง่ายดี
>>888 กูยังไม่ได้เปิดขายเลยบอกเรื่องยอดซื้อไม่ได้ แต่ถ้าบอกแบบนี้มึงอาจใจชื้นขึ้นนะ กูเขียนมาหลายเรื่องแล้ว กูเลยสังเกตเห็นว่าธรรมชาตินักอ่านกูจะเป็นแบบเก็บไว้อ่านรวดเดียวท้ายๆแบบไม่อยากค้าง เหมือนเขาไม่กลัวไม่คิดมากว่ากูจะแห้งเหี่ยวที่ไม่มีเม้นท์(ซึ่งบางทีก็เป็นนะ555555) สามเดือนแรกยอดเม้นท์แม่งจะคลานอยู่ไม่กี่ร้อย วิวรวมแต่ละตอนไม่มีทางถึงพัน กูได้แต่ทำใจ แต่หลังผ่านสักครึ่งเรื่อง/อัพไป 3 เดือนอัพ ยอดก็จะค่อยๆมาหรือค่อยๆมีรีวิว กูไม่รู้ใครเป็นแบบกูบ้าง แต่กูทำได้อย่างเดียวคือทำใจอย่างที่บอกเลย ดีลกับตัวเองว่าให้เขาไปซื้อเล่มกูก็พอ ยอดไม่เลว กูได้สตาร์ทพัน(ออกกับ สนพ) ก็เลยทำใจกับอะไรพวกนี้ได้
มีคนยังลงในเล้าอยู่มั้ย เพิ่งเข้าไปเจอคนรออยู่เลยว่ะ
ขอถามหน่อย จำนวนเล่มพิมพ์กับสนพ เท่าไหร่เรียกว่าเยอะ เท่าไหร่เรียกปกติ
ขอถามหน่อยเพื่อนโม่ง คือกูแต่งเรื่องนึงอยู่ พระเอกนายเอกเป็นพี่น้องไม่แท้ เป็นลูกติดพ่อแม่แล้วพ่อแม่มาแต่งงานกันอ่ะ ตอนแรกกูก็คิดว่าไม่ผิดเพราะคนล่ะสายเลือด แต่กูไปอ่านที่เขาฉอดกันคสพแบบนี้เรียกว่า pseudo incest แต่ทั้งพระเอกนายเอกของกูไม่ได้มองกันเป็นฟีลพี่น้องนะ พระเอกเกลียดด้วยซ้ำแถมใช้คนละนามสกุล เพิ่งจะมาชอบกันตอนโต
กูเลยอยากรู้ว่าแต่งแบบนี้มันผิดมั้ย เพราะของกูเป็นแฟนฟิคด้อมดัง แล้วช่วงนี้นักฉอดเยอะมาก
ขอถามเพื่อนโม่ง พอทราบไหมว่าปกติเวลาสนพมาจีบเขาเสนอค่าลิขสิทธิ์เท่าไหร่ อยากรู้เรทประมาณคร่าวๆ พอดีโดนสนพทักมา
>>906 ค่าลิขสิทธิ์มึงต้องถามยอดพิมพ์ขั้นต่ำและรายละเอียดเปอร์เซ็นต์ ฟิกซ์เรตเมืองไทยคือ 10 เปอร์เซ็นต์จากยอดขายคูณจำนวนพิมพ์ จุดผกผันที่มึงควรพิจารณาคือ 1. สนพ มีเรตขั้นบันไดให้มึงมั้ย(เช่นถ้าพิมพ์เกินพัน สองพัน จะอัพเรตเป็น 12 15 ว่าไป) 2.จำนวนพิมพ์ต่อเล่มที่ว่า มีระบุขั้นต่ำมั้ย สมมติเขาบอกสตาร์ท 500 มึงก็คำนวณคร่าวๆ ได้เลยว่าหนาแค่ไหน อะไรยังไง แต่ถ้าเขาไม่บอก พิมพ์ตามจำนวนพรี มึงก็เตรียมหวาดเสียวล่วงหน้า เว้นแต่ถ้า สนพ ที่มาทักมึงเป็นเจ้าใหญ่ พวกใช้สายส่งสตาร์ทต่ำที่สุดก็สัก 700-1000 แบบนั้นค่าลิขสิทธิ์ก็พอมีเนื้อมีหนังบ้าง
เพื่อนโม่งแต่งนิยายวันละกี่ชั่วโมงวะ พวกมึงแต่งรวดเดียวเลยมั้ย รึทะยอยแต่งวันละหน้าสองหน้า กูจออาการเขียนไม่ออกเลยคิดว่าเพราะห่างจากการเขียนไปนานอะ แต่งทุกวันมันจะช่วยบ้างมั้ย
>>908 แต่งทุกวันช่วยได้มาก ฝึกจนเป็นวินัยได้ดีที่สุด แต่ส่วนตัวกูทำไม่ได้เลย เมื่อก่อนพยายามเขียนให้ได้ทุกวันหลังเลิกงาน ตอนนี้คือเหนื่อยจากงาน หมดแรงเขียน งานก็ไม่มีคนอ่าน บั่นทอนกันไป ถถถ (ดราม่าเฉย) แต่ยอมรับว่าช่วงที่เขียนให้ได้ทุกวันงานมันไหลลื่นพอควร ไม่ต้องย้อนไปอ่านเนื้อเรื่องหรือลืมเรื่องราวและเหตุการณ์ รวมถึงปมต่างๆ ที่วางไว้
อหหหหหหห ขอบคุณทุกคนมาก เดี๋ยวเอาไปใช้บ้าง
กูพยายามเขียนให้ได้ทุกวันอะ(ไม่ได้อัพทุกวันนะ) เพราะเป็นเรื่องสั้นบางทีก็นีกพล็อตไม่ออก การนั่งจ่อมพิมพ์ไปเรื่อยๆก็ช่วยให้ไอเดียมาบ้าง
ช่วงนี้งานประจำกูยุ่งมาก เขียนไม่ได้เลยว่ะ อารมณ์ไม่มาอีก เฮ้อ
พวกมึงแต่งตอนนึงเสร็จแล้วอัพเลย หรือว่าแต่งให้จบทั้งเรื่องก่อนแล้วค่อยลงวะ แล้วแบบไหนดีกว่าในความคิดมึง
เวลาประกาศรวมเล่มนี่ปกต้องเสร็จเลยมั้ย หรือหลังระยะหนึ่งค่อยโชว์ปก
กูว่าประกาศทำเล่มสปอยปกบางส่วนดีกว่า ส่วนปกเต็มค่อยมาลงตอนเปิดพรี
เห็นในนี้มีคนบอกไม่ให้ลงจบจะได้ยอดมากกว่า ยอดจองเป็นยังไงบ้างวะ ขอเซอเวย์หน่อย
Ky ธวลเปลี่ยนนโยบายแล้วว่ะ ส่วนแบ่งนข70:30เท่ารอรเลยเยดเข้ แต่ยังมีระบบกุญแจเหมือนเดิม